มาร ๕ อย่างประกอบด้วย กิเลสมาร ความชั่วที่อยู่ในใจของเราเอง ขันธมาร สภาพร่างกายของเราเอง เทวปุตมาร เทวดาที่มาทดสอบกำลังใจของเรา อภิสังขารมาร บุญ-บาปที่มาขวางเรา มัจจุมาร ความตายที่มาขวางเรา
กิเลสมาร ความชั่วในใจของเรา รู้อยู่แล้ว รัก โลภ โกรธ หลง ที่มันเกิดขึ้น
ขันธมาร คือสภาพร่างกายคอยกลั่นแกล้ง คอยขัดขวางเราอยู่ เวลาที่เราไม่คิดจะทำดี ร่างกายแข็งแรงทำโน่นทำนี่ได้สารพัด บางคนกินเหล้าเมาหัวทิ่มนอนตากน้ำค้างทั้งคืนไม่เป็นไร แต่พอหันเข้ามาถือศีลปฏิบัติธรรมป่วยแทบตาย กลายเป็นบางคนเข้าใจผิดไปเลยว่าเข้าวัดแล้วทำให้เป็นยังงี้ ก็เลยพาลไม่เข้าไปเลย
เทวปุตมาร เทวดาที่มาลองใจเรา ถ้าหากว่าเราทำข้อสอบนั้นผ่านได้ ไม่รัก โลภ โกรธ หลง ไปตามการณ์ที่ยั่วยุทดสอบของท่าน เราก็จะไม่แพ้ในตรงจุดนั้นอีก แต่ถ้าหากเราพลาด ไม่สามารถก้าวผ่านไปได้ ท่านก็เลยกลายเป็นมารคือ ผู้ขวาง ผู้ฆ่าของเรา แต่จริง ๆ เจตนาของท่านก็คือต้องการทดสอบให้เราผ่าน
อภิสังขารมาร บุญ-บาป บาปเรารู้ว่าขวางความดีอย่างไร แล้วบุญขวางได้ยังไง ก็อย่างเช่นว่า อรูปฌาน เป็นเนวสัญญานาสัญญายตนะ อรูปพรหม อายุตั้ง ๘๔,๐๐๐ มหากัป คุณไม่ต้องทำมาหากินอะไรหรอก ติดแหง็กอยู่แค่นั้น พอกินบุญหมดแล้วลงยาว ถ้าหากว่าไม่มีเศษบุญเหลือ ดีไม่ดีลงนรกไปเลย มันขวางได้ขนาดนี้
ตัวสุดท้ายคือ มัจจุมาร บางคนกำลังใจเข้มแข็งแรงมาก เขารู้ว่าถ้าหากว่าปล่อยให้เราทำความดี เราพ้นมือเขาแน่ เขาตัดให้ตายไปเลย อาศัยช่วงจังหวะอุปฆาตกรรมที่เข้ามาถึง ทำให้เราจะต้องสิ้นชีวิตลง เสียเวลาไปเกิดใหม่อีกรอบหนึ่ง ใช้วิธีเหยียบเบรกไว้ก่อน สกัดดาวรุ่ง
มารทั้งหมดไม่ใช่แค่ความรู้สึกเฉยๆ มันมีตัวมีตนของมันจริงๆ สามารถพบเห็นได้ ถ้ามีทิพจักขุญาณจริง แต่ว่ามันแปลกตรงที่ว่าเขาแฝงมาอย่างแนบเนียนที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวของเรา เขาสามารถแฝงเพื่อใช้งานได้หมด อันนี้ฟังไว้เฉยๆ ไม่ต้องกลัว บอกแล้วว่าเขาเป็นครูที่ดี
เพราะฉะนั้นครูที่ดีการสอนต้องละเอียดมาก เคยพูดเต็มปากเต็มคำว่า มาร กับความดี หน้าตาเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่ว่าก้าวสุดท้าย ความดีชักเราไปสุคติ ไปสวรรค์ ไปพรหม ไปนิพพาน แต่มารพาเราลงนรกบ้าง เป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานบ้าง จ่อมจมต่อไป
เพราะฉะนั้นสรุปว่า เขาทำหน้าที่ของเขา ให้เขาทำไป หน้าที่ของเรา เราก็ทำของเราไป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่มีใครเป็นศัตรูกับใคร ครูมีความสามารถสูง ขยันออกข้อสอบ เด็กอย่าไปกลัวเลย ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำ
บางทีเรานั่งมองหน้ากันอย่างนี้ เขาดลใจให้อีกคนหนึ่งคิด พูด ทำ ในสิ่งที่ขัดหูขัดตาเรา กลายเป็นโกรธกัน ทั้งๆ ที่อยู่ครอบครัวเดียวกัน คนที่รักแสนรัก เขาทำได้ทุกอย่าง โยมที่วัดท่าซุง โยมเอี่ยม ชื่อจริงๆ เอี่ยมศรี อ่อนคำ โยมก็ไปช่วยหลวงพ่อดูแลวัดท่าซุง ตั้งแต่สมัยที่หลวงพ่อเพิ่งไปอยู่ใหม่ๆ จนบัดนี้โยมได้ทิพจักขุญาณดีมาก เขาบอกว่าหลวงพี่เจ้าขา หนูดูแล้ว หนูกลัวมากเลย ถามว่าทำไม บอกว่ามารมันวางบ่วงดักเราละเอียดลึกซึ้งเหลือเกิน หนูเห็นมันเป็นตัวเป็นตนมา ถึงเวลามันก็เอาอันนี้บ่วงรัก บ่วงโลภ บ่วงโกรธ บ่วงหลง มันวางดักเต็มไปหมดเลย เราต้องคอยหลบคอยหลีกแทบแย่ กว่าจะผ่านมันไปได้ ถามว่าหลวงพี่เป็นอย่างนี้หรือเปล่า ? บอกว่าอาตมาเจอ หนักกว่าโยมหน่อยหนึ่ง มันเล่นยกพหลพลโยธามาจะบี้เราตาย คือมันรู้ว่าสันดานอย่างเรา ยังไงก็มุมานะไปแน่ ก็เลยใช้วิธีข่มขู่จะให้กลัว แต่บังเอิญเราไม่กลัวซะอีก
สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
.
มาร ๕ อย่าง ล้วนแต่เป็นครูที่ดีของเรา
ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 13 กรกฎาคม 2009.