มีข่าวมหากุศลจากวัดป่าบ้านตาด (องค์หลวงตามหาบัว) มาแจ้งให้ทราบ

ในห้อง 'ธรรมทาน - วิทยาทาน' ตั้งกระทู้โดย Ramtongthai, 20 มิถุนายน 2013.

  1. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ธรรมที่เกิดขึ้นภายในใจนั่นแหละ จะเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทองขึ้นมาทันที เพราะร่างกายของคนนี้ไม่มีค่า มันมีค่าอยู่ที่หัวใจที่มีธรรม..

    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท..

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  2. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    หลวงปู่หล้ากล่าวถึงความงดงามขององค์หลวงปู่มั่น ไว้ตอนหนึ่ง สาธุ

    "กระดาษที่มีหนังสือชาติใด ๆ ก็ตามองค์ท่านไม่เหยียบ ไม่เอาลงในกระโถน ไม่เอาเช็ดทวารหนักทวารเบา องค์ท่านเคยอธิบายบ่อย ๆ ว่า หนังสือชาติใดก็ตาม สามารถจารึกคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทั้งนั้น จึงควรเคารพยำเกรง"

    จากหนังสือ อัตตโนประวัติ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    วัดภูจ้อก้อ จังหวัดมุกดาหาร

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  3. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    การพิจารณาทางวงกรรมฐานท่านพิจารณา ท่านมีหลักมีเกณฑ์ มีแถวมีแนวไป ไม่ใช่อยู่ๆ ข้าเป็นอรหันต์นะ มันอย่างไรกัน เราก็เคยมีพระที่ชอบโอ้อวดตัวเอง อยากให้เขาเคารพนับถือว่าตนเป็นพระผู้วิเศษศักดิ์สิทธิ์ ว่าตนเป็นอรหัตอรหันต์เวลาเทศน์ออกมานี้ฟังเสียงเทศน์มันฟังไม่ได้ นี่หรือสำนวนพระอรหันต์เทศน์อย่างนี้เหรอ เทศน์ไม่มีหลักมีเกณฑ์ ไม่มีเหตุมีผล สุดท้ายมันก็ลบกันทันที เทศน์ไม่มีภูมิ นั่น แม้แต่สมาธิก็ไม่มีภูมิจะเอาอรหัตอรหันต์มาจากไหน จะเชื่อได้ลงคอเหรอ มันลบกันทันที ความรู้ที่เหนือกันลบกันได้กับความรู้ที่จอมปลอม เป็นอย่างนั้นนะ

    งานบำเพ็ญเพื่อรื้อวัฏฏะ
    พระธรรมเทศน์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
    เทศน์อบรมฆราวาส
    ณ กุฏิหลวงตา สวนแสงธรรม กทม.
    เมื่อค่ำวันที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  4. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "ให้หมั่นสวดคาถาท่านพ่อลี อะระหัง พุทโธ อิติปิโส ภะคะวา นะมามิหัง เอาสัก ๓ รอบหรือ ๕ รอบ ถ้าเวลาไม่พอเอารอบเดียวเป็นนิจศีลนะ แล้วจึงนั่งสมาธิ ๕ นาทีหรือกว่านั้น แล้วแต่เวลาเสร็จแล้วแผ่บุญกุศลจึงค่อยนอนนะ ความเป็นมงคลกลับมาหาเราหมดความดีนี้กลับมาหาเราหมด ไปที่ไหนมีแต่ความสุข"

    หลวงปู่ฟัก สนฺติธมฺโม

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  5. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    คำสอนที่มีคุณค่ายิ่งจากหลวงพ่อ หลวงพ่อเมตตาสอนว่า........
    การบริหารงานใหญ่น้อยทั้งหลายแหล่ ควรฟังคำสอนของสมเด็จพระวขิรญาณวงค์สมเด็จพระสังฆราขเจ้าวัดบวรนิเวสน์วิหาร กรุงเทพฯ ที่พระองค์ท่านสอนหลวงพ่อครั้งที่หลวงพ่อเป็นสามเณรเดินธุดงค์ไปกับท่านที่จังหวัดจันทบุรี มีดังต่อไปนี้:
    ฝนตกลงมาจากฟ้าสู่ท่ามกลางมหาสมุทรไม่มีอะไรและก็ไม่มีใครว่าอะไร ส่วนฝนตกลงมาสู่บริเวณบ้านเมืองมีผู้คนจำนวนมาก ฝนก็จะถูกกล่าวหาว่าดีบ้าง และไม่ดีบ้าง เช่นคนกำลังจะเดินทาง คนกำลังตากผ้า คนกำลังทำธุระกิจ ฯลฯ ก็จะไม่ชอบนอกจากไม่ชอบแล้วก็ยังด่าฝนอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกันคนที่กำลังทำนาปลูกข้าวอยู่หรือเจ้าหน้าที่ต้องการน้ำฝน เช่นการทำเขื่อนกักน้ำ ฯลฯ ก็ชอบใจแซ่ซ้อง สรรเสิญ แท้จริงก็ฝนอันเดียวกันนั่นเอง แล้วสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ก็บอกสามเณรวิริยังค์ว่าจะเล่านิทานประกอบเนื้อเรื่อง เณร...จะฟังใหม? เณรตอบทันทีว่า กระผมตั้งใจฟังจริงๆครับกระผม... สมเด็จพระสังฆราชเจ้าก็ทรงเล่าต่อไปว่า...
    ในกาลครั้งหนี่งมีบุรุษพ่อค้าสองพ่อลูกได้ปรึกษากันว่าจะไปซื้อลา..มาสักตัวหนึ่ง แหละแล้วพ่อลูกก็เดินทางไกลไปหาซื้อ ลา.. เมื่อได้ ลา.. มาสมใจแล้ว พ่อก็จูงลา ลูกก็เดินตามหลังไล่ลา.. มาถึงบ้านแห่งหนึ่งชาวบ้านเห็นเขาก็นินทาว่า.. ดูสิ..สองพ่อลูกนี่มันโง่ชะมัด ซื้อลามาทั้งทีไม่ขี่.. สองพ่อลูกเชื่อคำนินทาจึงให้พ่อขี่ลา..ลูกเดินไล่ลา.. มาถึงอีกหมู่บ้านหนึ่งชาวบ้านก็นินทาว่า..ดูสิ..พ่อไมรักลูกปล่อยลูกเดิน ตัวเองขี่ลาซะสบาย.. พ่อลูกเชื่อเขาอีก.. พ่อลงให้ลูกขี่ลา..มาถึงอีกบ้านหนึ่งชาวบ้านก็นินทาว่า..ไอ้ลูกอะกตัญญูไม่รู้จักบุญคุณพ่อปล่อยให้พ่อเดินตัวขึ้นลาซะสบาย...พ่อลูกเชื่อชาวบ้านอีก...คราวนี้ทั้งพ่อลูกก็เลยขึ้นขี่ลาทั้งสองคนเลย.. มาถึงอีกบ้านหนึ่ง ชาวบ้นก็นินทาว่า ไอ้สองพ่อลูกมันใจจืดใจดำ ลาตัวนิดเดียวมันขึ้นมาได้ตั้งสองคน... ดังนั้นพ่อลูกไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี พ่อลูกเลยจับขาลาทั้งสี่ขามัดติดกัน และแล้วสองพ่อลูกก็หามลาเดินทางมาพอจะข้ามสะพานลามองเห็นน้ำลาตกใจดิ้นสุดแรงเชือกขาดลาตกน้ำตาย สมด็จพระส้งฆราชเจ้าบอกเณรว่าเรื่องจบแล้ว ถ้าเณรมีสติและปัญญาก็พิจารณาเอาเองก็แล้วกัน
    พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่ออนุญาติให้ส่งต่อไปให้ลูกศิษย์ของหลวงพ่อได้อ่านกันหลายๆคน) โพสโดย...ส.ธัมมวโร

    ที่มา https://www.facebook.com/VRYMeditationCenter?fref=ts
     
  6. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ครั้งหนึ่ง หลวงปู่มั่น ภูริทัตเถร เคยให้โอวาทที่ลึกซึ้งแก่หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ว่า "ติดดี แก้ยากกว่าติดชั่ว"

    คำพูดนี้ อาจดูจะฝืนความรู้สึกของหลายๆ คน แต่หากมีประสบการณ์มากเข้า ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงคนเข้าวัดฝึกหัดอบรมตน เราก็จะได้เห็นตัวอย่างที่ช่วยยืนยันคำพูดของหลวงปู่มั่น ว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ

    โอวาทของหลวงปู่มั่นข้างต้น จึงมีค่าอย่างเหลือล้น เพื่อใช้เป็นสิ่งเตือนจิตเตือนใจตัวเองไม่ให้หลงติดความดีที่ตัวเองบำเพ็ญ ไม่หลงว่าตัวเราดีแล้ว เก่งแล้ว บรรดาหมู่คณะ ไม่มีใครเคร่งเท่าเรา ไม่มีใครก้าวหน้าในการปฏิบัติเท่าเรา ฯลฯ

    พอความ "หลงดี" หรือ "ติดดี" เกิดมากขึ้น ก็จะพาให้ลืมเป้าหมายการปฏิบัติว่าแท้จริงแล้ว เราทำไปก็เพื่อให้หมด "ตัวเรา" แล้วยังจะมี "เรา" ที่เก่งกว่า ดีกว่า อีกหรือ แล้วเจ้าตัวติดดีนี้ก็จะทำให้เราเป็นชาล้นถ้วย ใครๆเตือนก็ไม่ฟัง สำคัญว่าฉันเข้าวัดมาก่อน ฉันใกล้ชิดครูบาอาจารย์มากกว่า ฉันนั่งสมาธิเดินจงกรมมากกว่า ฉันรู้ข้อธรรมะมากกว่า ฯลฯ

    เป็นเรื่องจริงว่าในระยะต้นของการปฏิบัติ เราอาจจะปวารณาตัวขอให้หมู่คณะแนะนำตักเตือนได้ แต่พอถึงเวลาที่กิเลสขึ้นขี่หัวแล้ว มันทำไม่ได้หรอก ใจมันไม่เปิดรับแล้ว... โอ๊ย แกเป็นใคร เพิ่งจะเข้าวัด จะมีปัญญาอะไรมาเตือนฉัน สอนฉัน ฉันรู้มากกว่าแกตั้งเยอะ ฉันเข้าวัดมากี่ปี แล้วแกเพิ่งจะข้าวัดมากี่ปีเอง ฉันอยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์มาตั้งนาน ฉันนี่ศิษย์ก้นกุฎิตัวจริงเลยนะ ฯลฯ

    แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นคนติดดีก็คือ ให้ยึดหลักที่พระพุทธองค์และหลวงปู่มั่นที่ว่า "จงคอยเตือนตนด้วยตนเอง" อยู่เสมอ ๆ ว่าเราปฏิบัติเพื่อละโลภ โกรธ หลง การจะให้ใคร ๆ มายกย่องว่าเราเก่งเราดี อย่าให้มีในจิตใจ หากมันผุดขึ้นมา ก็ให้ละมันเสียด้วยการรู้เท่าทัน การมีการเป็นไม่ใช่เป้าหมาย มุ่งละกิเลสโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวมานะที่ชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น จับผิดคนอื่น ออกจากจิตใจ บอกตัวเองว่าฉันจะ ปฏิบัติอย่างคนโง่ ไม่สำคัญตนว่าดีแล้ว รู้แล้ว ตามที่หลวงปู่มั่นแนะนำเช่นนี้แล้ว

    จึงจะพอมีทางให้ปฏิบัติไปได้ตลอดรอดฝั่ง ผ่านพ้นภาวะติดดี เพราะ ถ้าติดดีขึ้นมาแล้ว มันแก้ยากกว่าติดชั่วเสียอีก

    ที่มา https://www.facebook.com/kammatan.chula
     
  7. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ที่ให้ภาวนาพุทโธนั้น เพราะพุทโธ เป็นกิริยาของใจ ซึ่งเมื่อจิตภาวนาพุทโธแล้ว มันสงบวูบลงไป นิ่ง สว่าง รู้ตื่น เบิกบาน พอหลังจากนั้นคำว่า พุทโธ มันก็หายไป แล้วทำไมมันจึงหายไป เพราะจิตมันถึงพุทโธแล้วจิตกลายเป็นพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นคุณธรรมที่ทำจิตให้เป็นพุทธะเกิดขึ้นในจิตของท่านผู้ภาวนา

    หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล..

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  8. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    “..ตาดีก็ไม่รอด ตาบอดก็ไม่หาย ความแก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา เกิดมาต้องจาก พลัดพรากกันไป สิ้นลมหายใจต้องไปตามกาล ความตายจัดการต้องไปตามเรื่อง ไม่มีใครเถียง ไม่มีใครค้าน เขาจัดการเลย..”

    โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่สาย เขมธัมโม

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  9. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    " อย่าไปสนใจคิดถึงกาลสถานที่หรือบุคคลใด ๆ
    ว่าเป็นภัยและเป็นคุณให้เสียเวลาและล่าช้าไปเปล่า
    โดยไม่เกิดประโยชน์อะไรยิ่งกว่า การคิดเรื่องกิเลสกับธรรม ซึ่งมีอยู่ที่ใจ
    จะผิดพระประสงค์ความมุ่งหมายของศาสดาผู้ประทานธรรมสอนโลก "

    โอวาท หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ที่มา https://www.facebook.com/kammatan.chula
     
  10. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นปุ๋ยหล่อเลี้ยงของกิเลสวัฏฏ์ เพื่อความยืดยาวถาวรของมัน การรู้เท่าและปล่อยวางโลกธรรมมี ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นต้น เป็นทางของวิวัฏ (นิพพาน) ใจเมื่อมีธรรมเป็นเครื่องดื่มย่อมปล่อยอาหารอันเป็นพิษที่เคยสำคัญว่าเป็นคุณออกโดยลำดับ เมื่อรสแห่งธรรมเข้าบรรจุเต็มหัวใจแล้ว ใจย่อมปล่อยโลกามิสโดยสิ้นเชิงไม่มีเหลือ

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    จากหนังสือ คำถาม คำตอบปัญหาธรรม

    ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ
     
  11. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    มนุษย์เกิดมาจากตรงนี้.....
    พระโพธิ์สัตว์ก็เกิดมาจากตรงนี้....
    พระพุทธเจ้าก็เกิดมาจากตรงนี้.....
    ไม่มีสูง ไม่มีต่ำ ไม่มีเรา ไม่มีเขา
    ไม่มีหญิง ไม่มีชาย มีแต่รูป เวทนา
    สัญญา สังขาร และวิญญาณ ไว้เพื่อพิจารณา "

    หลวงพ่อผินะ ปิยธโร วัดสนมลาว จ.สระบุรี

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  12. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "ธรรมวินัยนั้นอันเก่าอยู่ ผู้ปฏิบัติเลือนลางต่างหาก"

    จากหนังสือ อัตตโนประวัติ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    วัดภูจ้อก้อ จังหวัดมุกดาหาร

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  13. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "ผู้ที่มีจิตใจผ่องใส สะอาด ไม่มีโทษจะมีหน้าตาผ่องใส ไม่เศร้าหมอง ไม่ขุ่น ไม่มัว เป็นที่น่าคบค้าสมาคมด้วย บุคลิกลักษณะนั้นบ่งบอกถึงความสุขของใจ"

    - หลวงปู่ท่อน ญาณธโร -

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  14. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    ในคืนนี้ ขอให้ทุกท่านนอนหลับอย่างสบายกายสบายใจ ฝันดีด้วยเทอญ 24/9/2556
     
  15. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "ทุกอย่างรวมอยู่ที่ความประพฤติ คือฤกษ์ดี ฤกษ์ร้าย โชคดี โชคร้าย เรื่องเคราะห์กรรม บาป บุญ อะไรทั้งหมดนี้ ล้วนออกไปจากความประพฤติของมนุษย์ทั้งสิ้น"

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล..

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  16. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    " ถ้าเราเอาใจใส่เขาพูดนินทาเรา
    ก็เท่ากับเราเอายาพิษมาใส่ใจเรา
    ถ้าเราเอาใจใส่เขาพูดสรรเสริญเรา
    ก็เท่ากับเราเอายาดีมาชโลมใจเรา
    ทั้งยาพิษหรือยาดีที่เขาให้เรา
    ขอให้เราใช้สติพิจารณาให้ดี ๆ "


    หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
    เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร
    เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

    ที่มา https://www.facebook.com/kammatan.chula
     
  17. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    "ถ้าต้องการความเจริญก้าวหน้า อย่าอิจฉาคนอื่น"

    หลวงปู่ขาว อนาลโย..

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  18. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    บางคนคิดว่า นั่งแทบล้มแทบตาย
    สมาธิไม่เกิด ... ที่จริงเกิดแล้ว
    ตั้งแต่เราว่า "พุทโธ" นั่นแหละ

    เหมือนกันกับ คนขับรถ เมื่อเอามือ
    จับพวงมาลัย เมื่อนั้น เขาก็เป็นสมาธิทันที
    ... เมื่อขับตรงทางไปตลอด ก็เรียกว่า "มีสมาธิ"
    ขาดสมาธิเมื่อไร ไม่รู้หนทาง ไม่รู้อะไร
    ก็ชนกันแหลก อย่างนี้ ฯลฯ

    สมาธิเหล่านี้ิ เมื่อรวมตัวแล้ว มันก็กลับกลาย
    เป็น "พลังจิต" ... เป็นนิสัย ปัจจัยต่อไปอีก
    คือ ติดตามเราไปตลอด จนกระทั่ง
    "พลังจิตแก่กล้า" ขึ้นมา และบำเพ็ญวิปัสสนา
    เราก็สามารถบรรลุธรรมได้


    (พระธรรมคำสอน...หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร)

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  19. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    คนที่จะพ้นจากทุกข์ได้ พ้นจากโลกนี้ได้
    พ้นจากกรรมได้ ก็เพราะใจอันเดียว
    จงยึดใจถือใจเป็นสำคัญ จะมาเกิดก็เพราะใจ
    เกิดแล้วจะมาสร้างกิเลสขึ้นก็เพราะใจ
    เป็นทุกข์ก็เพราะใจ ..

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี..

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     
  20. Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    “ผู้ใดเชื่อธรรมผู้นั้นจะเจริญสมหวัง ผู้ใดเชื่อกิเลสตัณหาผู้นั้นจะนับวันล่มจมไปเรื่อยๆ จนจมมิดในที่สุด ไม่มีใครและอะไรช่วยได้ ทั้งนี้เพราะพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ไม่เคยโกหกโลก ก็พระเมตตากรุณาต่อสัตว์โลกเต็มพระทัย จะเอาอะไรมาโกหกหลอกลวงสัตว์โลกเล่า นอกจากกิเลสซึ่งไม่เคยสงสารปรานีใครเท่านั้น มันจึงสนุกหลอกสัตว์โลกให้ล่มจมเรื่อยมา ไม่เคยนำความจริงมาสอนโลกเลย”

    โอวาทธรรมโดย
    หลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี

    ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น
     

แชร์หน้านี้