ครับผม รับรู้รับทราบครับ.จริงครับ.
มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 24 กันยายน 2018.
หน้า 119 ของ 187
-
ครับผม
อีกไม่นาน ก็คงจะได้พบกับท่านพระยาธรรมกันครับ. -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
...วันนี้ตื่นตี3ครึ่งเทวดาก็ช่างปลุกเร็วจริงน้อ ตื่นมานั่งดูพระจันท์คนเดียวเหมือนคนบ้ายังไงไม่รู้..ทุกคนคงหลับสบายเลยนะตอนนี้ ถ้าไม่ลุกออกจากที่นอนก็กลัวครูบาอาจารย์มาเตือน มาแต่ละครั้งอันตรายมาก มาแรงมาเต็ม ท่านทั้งหลายถ้าตื่นเช้าก็ลองฝึกรู้ลมหายใจดู หากหลับคาภาวนาตื่นมาจะไม่เพลียและจะชินไปเอง
......สวัสดีตอนตี4..... -
สวัสดีตอนดี 4 ครับ
จะว่าไปผมก็ภาวนาก่อนนอนทุกวันครับ นอนภาวนานี่แหละครับ แต่ไม่แน่ใจว่าหลับคาหรือเปล่า -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
_ก่อนพวกเราได้พบปะกัน_
***11/11/61***
...ในวันที่8-9เดือนพฤศจิกา เราก็ศึกษาและปฏิบัติสมาธิปกติ และได้เข้าไปฟัง "คิริมานนทสูตร" ในพระสูตรนี้เรารู้สึกว่าฟังแล้วมีความเข้าใจธรรมคำสั่งสอนตถาคตมากขึ้น คือเข้าใจละเอียดแจ่มแจ้งในธรรมขึ้น และในคืนวันที่9ได้มีเรื่องเกี่ยวกับธรรมะผ่านเข้ามาทางเฟซบุค เกี่ยวกับเรื่อง ร.4 นิมนต์ขรัวโตไปรับบิณบาตรและร.4ได้ตรัสว่า.."เขาให้แล้วก็ไปสิ" นี้แหละเป็นเหตุให้พวกเราได้มาเจอกัน อันนี้คือผู้มีธรรมจิตจะรับรู้เองว่าหมายถึงอะไร พอมาถึงเช้าวันที่11ทำให้จิตเรากระวนกระวายไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนมีใครอีกคนสั่งให้เราเข้ามาทักทายกับพวกท่าน พอนานเข้าก็รู้สึกเหนื่อยและตัวร้อนขึ้น เราจึงได้ขอตัวว่าต้องพักจิตแล้ว แต่วันที่คุยกับพวกท่านวันแรกนั้นมีสติครบ เพียงแต่จิตใจลึกๆสั่งให้คุยกับพวกท่าน หากไม่ได้รับอนุญาตจาก ร.4 เราคงไม่ได้มาเจอพวกท่าน...จิตคนเรานี้มีอำนาจมาก มีคุณมากและมีโทษมากให้ทุกท่านพึงระวังด้วย
....หากใครเคยเห็นจิตในตอนที่รู้สึกตัวตื่นนอนใหม่จะรู้เองว่าจิตเหมือน "อสรพิษ" มากเพียงใด มันรวดเร็วและร้ายกาจมาก เมื่อมันออกจากฐานที่ตั้งแล้วมันเหนือการควบคุมของเรา ออกจากฐานที่ตั้งจิตหมายความว่า มันได้เปลี่ยนเป็นความคิดแล้ว
...จิตจะออกจากฐานที่ตั้งคือที่ท้องจุดสิ้นสุดของลมหายใจนี้แหละ แล้ววิ่งขึ้นไปจับเอาสัญญา เราทั้งหลายเรียกว่าสมองนี่แหละ เมื่อจับเอาสัญญาแล้วก็จะออกไปสู่อดีตบ้าง อนาคตบ้าง สุขในอดีตบ้าง ทุกข์ในอดีตบ้าง สุขในอนาคตบ้าง ทุกข์ในอนาคตบ้าง นี้แหละท่านทั้งหลายจึงเป็นเหตุให้บางคนคิดมาก บางคนคิดไม่หยุด...สรุปคือการหลงสัญญาว่าเป็นปัญญา
....ท่านเหล่านี้อดีตน่าจะฝึกฌาน มามาก น่าจะติดอยู่ขั้นเนวสัญญานาสัญญายตนะก็เป็นได้ เราไม่แน่ใจ ต้องได้คุยเป็นการส่วนตัวถึงจะแนะนำได้...เอาพอเป็นกษัยแค่นี้ก่อน เราจะพาพวกท่านทำหน้าที่ของตนเองได้สมบูรณ์แน่นอน
.....สวัสดี..... -
หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี
*** คน ****
เกิดเป็นคน ต้องพึ่งผลการกระทำ
ถ้าจะก้าวข้ามกรรม
ก็ต้องพึ่งสัจจะการกระทำ
ทำความดีให้เกิดขึ้นจริงในชีวิต
วันละข้อ ทุกวัน
- " หนุมาน ผู้นำสาร " -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
...หลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เด็กจนโตมาป่านนี้ เรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆเรากลับไม่เข้าใจแต่เรื่องที่คนอื่นไม่เข้าใจทำไมมันง่ายสำหรับเรา...ใครแปลสารได้ช่วยเราหน่อย ใครช่วยขยายความเพิ่มเติมให้หน่อย ..ดีต้องดีแค่ไหน? ..ดีพอให้ข้ามกรรมต้องให้ทำอย่างไร? แล้วที่เราทำอยู่นี้ท่านทั้งหลายมีความเห็นว่าอย่างไร? ...ดีแล้วหรือยัง?
....งงตัวเอง...โง่ทางโลก...ฉลาดทางธรรม...
...เราไม่ต้องการมากเราต้องการแค่ให้พ่อแม่ไม่ต้องกังวลใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ท่านเป็นห่วงเห็นว่าเรากลายเป็นคนตกงาน ถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล...แล้วต้องให้ทำอย่างไร..ท่านทั้งหลาย....
...ท่านหนุมาน ผู้นำสาร โผล่มาทีเราเป็นกังวลทุกที ไม่รู้เป็นอะไร มีปริศนามาให้อยู่เรื่อย ไอ้เรายิ่งโง่ทางนี้อยู่แล้ว ยิ่งมึนเข้าไปอีก -
Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว
เกลียดตนเองที่จิตใจไม่แข็งพอที่จะควบคุมตนเอง ขาดสติที่จะยั้งรู้ถึงผลที่จะตามมา จักวาลและโลกนี้ก็เต็มไปด้วย ฝุ่น หนี้ไปที่ไหนก็ยอมหนี้ไม่พ้น ไม่ว่าตนเองจะคิดว่าตนนั้น สูงส่ง มีค่า ดีงาม และเลิศเลอเพียงใด ก็ยอมหนี้ไม่พ้นฝุ่นที่มีอยู่ในแต่ละวัน แม้ว่าตนนั้นจะคอยดูและหมั่นทำความสะอาดมันอยู่ทุกวันก็ตาม คอยไม่ให้ฝุ่นนั้นมาจับและเกาะมันอยู่ในแต่ละวันเพียงใด มันก็ยอมหนี้ไม่พ้นฝุ่นที่มีในแต่ละวันอยู่ดี
-
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
_เดินต่อไป_
...มันจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้ก็ให้มันเป็นไป เราทำอยู่นี้ไม่มีโทษต่อผู้ใดก็เป็นพอ ประโยชน์กับทุกท่านแต่โทษตกอยู่ที่เราก็ไม่เป็นไร
...วิชชาธรรมกายจะเป็นวิชชาที่เปลี่ยนลมหายใจ คือเป็นวิชชาที่ช่วยให้เพ่งกายได้ง่ายขึ้น ในวันที่16/11/61นั้นเราลองทำดูแล้ว ให้ทุกคนลองตามลมหายใจให้เข้าไปถึงลำคอแล้วขยายหลอดลมออกให้กว้าง ถ้าเป็นสมาธิแล้วสติเรา จะจับที่ลิ้นแล้วจะรู้สึกว่าลิ้นเราไม่มี มีเพียงน้ำกับลมที่หมุนอยู่ในช่องปาก ลมที่หมุนนี้ก็พัดเอาน้ำไปกระทบเหงือกและฟัน คล้ายน้ำทะเลพัดกระทบฝั่งยังไงยังงั้น
...เรื่องอนาคตเราไม่สนใจแล้ว เอาปัจจุบันนี้แหละ ช่วยแนะนำพวกท่านให้เป็นก่อน เราจะทำเท่านี้แหละส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน...ถึงเดินช้าแต่ถ้าเดินไม่หยุดมันต้องถึงเส้นชัย เราเชื่ออย่างนั้น และเราจะทำอย่างนั้น
...เมื่อเราได้รับหน้าที่ให้มาช่วยแนะนำพวกท่านเราก็จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากนี้พักไว้ก่อน...เอ๊า!!!เดินต่อไป -
ท้องฟ้าแถวอมตะนครชลบุรีเมือวานครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
Cheewin... อิ่มแล้ว...ไปต่อไม่ไหวแล้ว
วัตถุ และ พลังงาน / ร่างกาย และ จิตวิญญาณ สองสิ่งนี้ทำงานสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน วัตถุที่ชำรุด และ ทรุดโทรม แตกหัก ยังมีทางซ่อมให้กลับมาทำงานใหม่และใช้งานได้อย่างเคย ร่างกายก็เช่นกัน หากรู้วิธี และ รู้การทำงานของส่วนผสมของร่างกายทั้งหมดว่าระบบทั้งหมดนั้นทำงานกันอย่างไร ก็หน้าจะมีวิธีที่จะต่ออายุของร่างกายให้ไปต่อได้... อย่างอายุที่จะเข้าหลัก 3 อย่างที่ท่าน ดาราแฟร์ได้กล่าวเอาไว้ ก็หน้าจะเป็นจริงได้ จิตวิญญาณ มีบทบาทและหน้าที่ที่สำคัญ เป็นเหมือนเสาหลัก แต่เพียงยังไม่ค้นพบวิธีการทำงานของร่างกายและจิตวิญญาณที่ทำงานและสัมพันธ์กันแบบลึกซึ่งถึงกันและกันยังไงเท่านั้นเอง เรามีของเดิมอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะใช้จิตวิญญาณนั้น สร้างมันและซ่อมแซมมันขึ้นมาใหม่ยังไงเท่านั้นเอง:confused::D:):)
-
ถึงผมจะชอบฟังธรรมหลวงพ่อท่าน
แต่
ตอนนี้ผมเอาแต่อาณา + ดูความคิดเป็นครั้งคราว ไม่ตลอด เล่น ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็พอ
ตัวเองทำได้แค่ไหนก็ทำแค่นั้นไปก่อน เซียนในสิ่งที่ตัวเองทำได้แล้วค่อยทำอย่างอื่น -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
_เรื่องทำความดี_
...ได้คำตอบแล้วเรื่องที่ท่านหนุมาน ผู้นำสารว่า "ทำความดีวันละข้อ" คือหากเราทำความดีด้วยใจบริสุทธิ์ไร้มารยา ทำด้วยความปรารถนาดีต่อผู้อื่นจริงๆไม่เสแสร้งแล้วละก็ เราจะได้รับผลตอบแทนอย่างแรกคือสุขใจ อันนี้ทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง อย่างที่สองจิตเป็นกุศล ตัวกุศลนี้แหละจะทำให้เรารู้และระลึกได้ถึงความผิดของตนที่เคยได้กระทำมา หากเรายอมรับและปล่อยวางได้ แล้วสำนึกผิดด้วยความจริงใจ ขออโหสิกรรมไปทุกอย่างจะดีขึ้นเป็นลำดับ สิ่งที่ปิดกั้นปัญญา สิ่งที่เป็นอุปสรรคในงานต่างๆก็จะหมดไปเรื่อยๆ...จนที่สุดปัญญาก็จะเห็นแจ้งทั้งทางธรรมและทางโลกเอง..โดยไม่สงสัย
...ท่านใดอยากเข้าถึงธรรมได้เร็วก็รีบทำความดีมากๆ แต่ต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ ด้วยความปรารถนาดีต่อผู้อื่นจริงๆ
...ไม่ได้ให้ทุกท่านเชื่อแต่เราท้าให้ลอง ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลาย..ปัญญาทางโลกถ้ามีมากมักเพิ่มตัวมานะและมิจฉาทิฐฐิ... -
ตื่นนอน ช่างเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันจริงๆ ในอดีตที่ผ่านมา จากตี 3 มาเป็น ตี 3 ครึ่ง - จากตี 3 ครึ่ง มาเป็น ตี 4 - ทุกวันนี้ ทรงตัว ตี 4 ครึ่ง ครับผม.เคยเป็นคนบ้ามาก่อน
ตื่นลืมตา ในองค์ภาวนานั่นแหละ ก่อนนอนหลับ ก็ท่ององค์ภาวนา จนตัดหลับในองค์ภาวนา นั่นแหละ ที่เรียกว่า "นอนในฌาน" นอนในฌาน ตื่นในฌาน ทำให้จิต ปลอดโปร่ง สุขจิต ร่างกายไม่ง่วง ไม่เพลีย ไม่ป่วยกายง่าย.
หากนอนตายในช่วง นอนในฌาน ก็มีสุขคติเป็นที่ไปครับ.
นี่ยังเป็นเพียงเบื้องต้น เป็นความดีของเปลือกในพระพุทธศาสนา.ต้องเรียนต้องฝึกจิตต่อไปอีก.
ณ.เวลานี้ ท่าน ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ คงปฎิบัติฝึกจิตกับ ครูบาอาจารย์ที่แท้จริง แบบ มันส์ในอารมณ์ ได้ความรู้จริง ในเนื้อแท้ แก่นแท้ ของพระธรรมในพระพุทธศาสนาแน่นอนทีเดียว.
เรียนจบแล้ว มาช่วยกัน เผยแพร่พระธรรม ที่เป็นเนื้อแท้ แก่นแท้ ให้พระพุทธศาสนาอยู่ได้อย่างยั่งยืนด้วยกันครับผม.
เนื้อแท้ แก่นแท้ ของพระธรรม ในพระพุทธศาสนาที่แท้จริง คือส่วนที่ขาดหายไป "จิตของคน-สัตว์ ที่เป็นธรรมชาติที่แท้จริงนั้น เอื้อต่อ มีผลต่อ ธรรมชาติและธรรมธาตุ ได้อย่างไร และทำให้ธรรมชาติและธรรมธาตุเป็นสมดุลย์"..
เรียนและฝึกจิตกับ ครูบาอาจารย์ที่แท้จริง สนุกได้ปัญญาครับ อีกหน่อยก็ได้ วิมุติปัญญาครับผม.
โมทนาสาธุในบุญกุศลที่เกิดจากการปฎิบัติของท่านทุกประการ สาธุ.สาธุ.สาธุ.ครับ. -
จริงครับ ดาราแฟร์ ก็เป็นเหมือนกันกับท่านครับผม.
ก่อนที่จะเข้ามาทักทาย โลดแล่นในเวปนี้ กระทู้นี้ หรือกระทู้ใดๆ ดาราแฟร์มิได้รู้สึกกระวนกระวายในจิต แต่รู้ด้วยจิตตนเอง ที่พระสั่งครับผม.
หากพระไม่ได้สั่งงานไว้ให้ทำ ท่านทั้งหลายก็คงมิได้พบเจอกับ ดาราแฟร์ เช่นเดียวกันครับผม.
ดาราแฟร์ จึงมาพร้อม ด้วย "กัลยาณมิตร กัลยาณจิต กัลยาณธรรม" ครบถ้วน ด้วยในจิตมิได้เป็น อสรพิษ แต่อย่างใด กับผู้ใด จริงครับท่าน จิตคนเรา น่ากลัวที่สุดครับ อสรพิษ ที่ว่าร้ายและน่ากลัวนั้น จิตคนเราน่ากลัวมากกว่า จนเกินคำบรรยาย และไม่สามารถอธิบายได้ก็มีครับผม.
โมทนาสาธุในธรรมะปฎิบัติของท่านทุกประการครับผม. -
จิตของคนเรา ไวกว่า แสงและเสียงจริงๆ.มีอำนาจ มีกำลังมากที่สุด จิตที่เป็น "กัลยาณมิตร ที่มีให้กัน ยังไม่พอ ไม่มีกำลังมากพอครับ"..
-
การปฎิบัติธรรม ฝึกจิตตน คือ การเปลี่ยน สัญญา ให้เป็น ปัญญา ใน วิมุติปัญญาญาณครับผม.
- วิปัสนาญาน 9 ได้ วิมุติปัญญาญาน 9
- วิปัสนาญาน 16 ได้ วิมุติปัญญาญาน 16 ด้วย กายทิพย์ของคนเรา มี 8 คู่ 16 องค์ จบกิจทางธรรมในพระพุทธศาสนาครับผม.
-
แสดงว่า จิตของท่านเริ่มก้าวเข้าสู่เขต ของการอยู่เหนือกฎของธรรมชาติและกฎของกรรม มาตั้งแต่วัยเด็กครับ
ของเก่าที่เป็นของดีที่เคยทำได้มาครบ ท่านจึงเข้าใจในจุดนี้ครับ
ดีต้องดีแค่ไหนนั้น ดีจนวิมุติ ดีจนเป็น วิสุทธิ.จึงสามารถก้าวข้ามกรรม ทั้งกรรมดีกรรมชั่ว อยู่เหนือเหตุเหนือผล เหนือการกระทำทั้งปวง
ต้องทำอย่างไรนั้น ไม่รู้ว่าจะสอนให้ทำอย่างไร อธิบายไม่ถูก ครูบาอาจารย์ท่านมาสอนให้ทำเองครับ.
เมื่อทำได้ทรงตัว จิตนำทำเอง และสำเร็จที่ใจครับผม.ท่านเดินทางมาใกล้ครึ่งทางของความดีครับ เขียนตามที่ท่านแง้มเปิดมา เป็นกษัย ที่แน่ๆ ท่านยังมีความดีที่ซ่อนไว้อีกมากครับผม.
ความดีที่ท่านได้ทำมาแล้วนั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์พิพากษาในความดีของท่านได้ครับ นอกจากตัวท่านเองตัดสินหรือพิพากษาตัวท่านเอง ว่าดีหรือยังครับผม.เดี๋ยวเก่งหรือเก่งเกิน ครูบาอาจารย์ครับผม.
ตกงาน คนบ้า คนเพี้ยน คนสติแตกหลุดโลก คนนอกพระไตรปิฏก คนนอกศาสนา ดาราแฟร์ ก็เป็นมาครบแล้วครับ.
แต่ตัวเรานั้น เรารู้ครับ ว่าเราทำอะไรอยู่.... -
ฝุ่นนอกกาย หรือฝุ่นรอบกาย เช็ดถูเท่าไหร่ ก็ไม่เคยหมดไป เช็ดถูฝุ่นแล้ววันนี้ นาทีนี้ ฝุ่นก็มาอีก เช็ดฝุ่นรอบกาย ไม่เคยเสร็จ ไม่เคยจบครับผม.
แต่ฝุ่นในใจ นี่มีวันที่จะเช็ดฝุ่นออกให้จบและเสร็จสิ้นได้ครับผม.
หน้า 119 ของ 187