สวัสดีค่ะ
ที่เราเลือกมาโพสต์เว็บไซต์นี้เพราะเห็นว่าเป็นเว็บไซต์ทางพุทธศาสนาและธรรมะ ที่มีผู้รู้ผู้หยั่งรู้ที่สามารถเข้าใจปัญหาของเราได้ดีที่สุด และสามารถชี้แนะวิธีแก้ไขปัญหาของเราได้ดีที่สุด ขอความเมตตาด้วยนะคะ
กระทู้ยาวหน่อยนะคะ ขอโทษด้วยนะคะที่เรื่องยาวแต่จำเป็นต้องเล่าสาเหตุของปัญหาทั้งหมดค่ะ
หลายปีมานี้เรามีแต่ความเศร้า หดหู่ น้อยใจ เสียใจ หงุดหงิดง่าย โมโหร้าย คิดร้าย คิดลบ นอนไม่หลับ วิตกกังวลมาก เครียดมาก คิดมาก ปวดหัวมาก
เราเป็นทุกข์มากค่ะ เรามืดมนมาก จิตของเรามีโทสะมาก รู้สึกเกลียดชังผู้คนรอบตัวทุกคน เกลียดชังพ่อแม่พี่น้องและญาติและทุกคนที่ใกล้ชิด มีความคิดลบมาก จิตคิดแต่เรื่องไม่ดี คิดร้ายมากๆ บางครั้งคิดลบลู่พระรัตนตรัยด้วย ทั้งหมดเราไม่ได้ตั้งใจจะคิดแบบนั้น แต่แวบแรกที่รับรู้ ความคิดมันจะแวบเข้ามาเองโดยไม่ได้ตั้งใจ รู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวเอง ไม่ใช่ตัวเอง เหมือนโดนผีสิง หรือมารในใจ หรือมีอะไรสักอย่างที่ไม่ดีในตัวเราในจิตเรา แต่ก่อนเราไม่เคยเป็นคนใจร้ายคิดร้ายแบบนี้ เดี๋ยวนี้ความคิดเราต่ำมาก เช่นบางทีเห็นข่าวคนจมน้ำตายหรืออุบัติเหตุ พอเห็นข่าวปุ๊บจิตมันเอ่ยเองว่า"สมน้ำหน้า" พอนึกขึ้นได้ ก็ตกใจมาก คำว่าสมน้ำหน้ามันมาได้ยังไง ทั้งที่โดยปกติแล้วเราสะเทือนใจกับเรื่องพวกนี้มาก ปกติเราจะเศร้าและนึกสงสารเสียด้วยซ้ำ ไม่อยากให้มนุษย์คนใดในโลกใบนี้เสียชีวิตแบบนี้เลย และที่หนักคือเราคิดร้ายคิดลบกับพ่อแม่ โทษว่าเขาทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง จำได้แต่เรื่องที่พ่อแม่ทำไม่ดีกับเรา แต่พ่อแม่เลี้ยงเรามาทั้งชีวิตกลับไม่นึกถึงบุญคุณ หรือไม่อยากนึก นึกไม่ออก บางครั้งคิดฆ่าทำลายเสียด้วยซ้ำ เกลียดแม่เพราะแม่เป็นคนปากไม่ดี ด่าเราหยาบคายตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ และไม่เคยรับฟังเราเลย เกลียดพ่อที่พ่อแอบมีชู้ทั้งที่พ่อชอบฟังธรรมะชอบเข้าวัดทำบุญแต่พ่อดันแอบไปมีชู้เราคิดไม่ถึงเลยว่าพ่อจะกล้ามีชู้ พ่อแม่ทะเลาะกันบ่อย ครอบครัวเรามีปัญหา เพราะแม่เป็นคนชอบด่าหยาบคาย ด่าผัวด่าลูกด่าทุกคนในบ้าน ส่วนพ่อเหมือนจะเป็นคนดีแต่ไม่ค่อยช่วยแม่ทำงานง่ายๆคือขี้เกียจ และโดนแม่ด่าประจำอาจจะเป็นเหตุทำให้คบชู้ และพ่อเอาเรื่องเราไปเล่าให้ชู้ฟังหมด พ่อไม่เคยฟังเหตุผลเรา พ่อซ้ำเติมเราเวลามีปัญหา อยากให้เราตามใจเขาอย่างเดียว เราเลยอคติกับพ่อแม่มาก โดยเฉพาะพ่อเราอคติและเกลียดพ่อมาก มองพ่อเป็นศัตรูไปเลย ไม่อยากเห็นหน้าพ่อ ไม่อยากอยู่ใกล้พ่อ รังเกียจพ่อแบบรุนแรงมาก เพราะพ่อไม่พอใจที่เรามีลูกกับผู้ชายคนที่พ่อไม่ชอบ และพ่อเอาเรื่องเราไปบอกชู้ของเขาว่าเราเป็นเมียน้อยแย่งผัวเขามา ชู้พ่อก็เอาไปพูดต่อ เราถึงเกลียดพ่อมากที่พ่อไม่ปกป้องเรา ถึงไม่ปกป้องก็ไม่ควรเอาเรื่องเราไปบอกคนอื่น พ่อหลงชู้ ชู้บังคับให้หย่ากับแม่เรา พ่ออยากแบ่งสมบัติไป และพ่อไม่ยอมรับว่าพ่อมีชู้ เราเสียใจผิดหวังที่พ่อเป็นแบบนี้มากๆ เลยกลายเป็นปรปักษ์กับพ่อไปเลย รวมไปถึงเพื่อนและคนใกล้ชิด เราอคติกับทุกคน เพื่อนบอกว่าเราอาจะเป็นโรคประสาทและผัวเราคือเจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิตอยู่ เราถึงได้เป็นทุกข์ขนาดนี้ เราจำได้แต่เรื่องที่ทุกคนทำไม่ดีกับเรา เรื่องดีๆที่เขาทำไม่จำ แปลกมาก จนทำให้เรารู้สึกเกลียดทุกคน อคติกับทุกคนไปเลยค่ะ
จนบางครั้งคิดอยากฆ่าตัวตายไปเลย คิดผูกคอตายอยู่บ่อยๆเพราะไม่เห็นทางออก ถ้าไปทำงานห่างลูกก็ห่วงลูก อยู่บ้านก็เกลียดคนในบ้านเกลียดสภาพแวดล้อมในบ้าน เกลียดทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด อยู่บ้านจิตเราดำดิ่งถึงที่สุด เรากลัวว่าถ้าเรายังเป็นแบบนี้อยู่ เรากลัวว่าจะตายไปเป็นเปรตค่ะ รู้สึกได้เลยว่าเป็นเปรตแน่ๆ จิตใจเราคิดลบคิดร้ายต่อคนอื่นมากๆ มันทำให้เราเสียสุขภาพจิตมาก รู้สึกเสียสติ รู้สึกเหมือนจะบ้า แล้วเราก็หงุดหงิดง่ายมาก โมโหร้าย อารมณ์เสียตลอดเวลา ทำลายข้าวของในบ้าน อาละวาดคลุ่มคลั่ง กรีดร้องเหมือนคนบ้า เถียงกับพ่อแม่ เถียงทุกคน ไม่ยอมใครทั้งนั้น และบวกกับมีอาการซึมเศร้า บางทีคำพูดเล็กๆน้อยๆเราเอาไปคิดมาก ร้องให้คนเดียวเกือบทุกคืน เรารู้ตลอดว่ที่เราเป็นอยู่คิดอยู่มันไม่ดี แต่เหมือนมันไม่ยอมไปจากเรา มันฝังเข้าไป เราหมดหนทางที่จะแก้ปัญหานี้แล้วค่ะ ไม่มีใครช่วยได้เลย ฟังธรรมก็แล้วจะเบาลงคิดได้สักระยะ แล้วก็กลับมาเป็นอีกแล้ว เหมือนสามวันดีสี่วันไข้ หลายคนบอกผัวทำของใส่รึป่าว เราก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่เป็นไปได้เพราะเคยมีร่างทรงบอกว่าผัวทำของใส่เราเพราะเขามาง้อเราให้กลับไปอยู่ด้วยแล้วเราไม่ยอมกลับไป เลยไปทำของให้เราอยู่ไม่ได้ ทำของเรียกเรากลับไปอยู่กับเขาทำนองนั้น และก่อนหน้านี้เคยไปดูดวงด้วยกัน ตอนนั้นนั่งดูดวงพร้อมกัน หมอดูมองผัวเราด้วยสายตาที่ไม่ชอบหน้าผัวเราอะค่ะ มองแบบไม่ชอบอะค่ะเห็นได้ชัดเจนเลย และพูดว่า"ผู้ชายคนนี้มีของ" ของอะไรเขาก็ไม่บอก แล้วหมอดูเขาก็พูดเรื่องอื่นไปเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นที่จะแย่ขนาดนี้คือเราผิดศีลข้อ3ค่ะ ตอนแรกเราชอบผู้ชายคนนี้และคบกันโดยที่เขายังไม่เลิกขาดกับเมียเก่า แต่เขาห่างกันแล้วนะคะตอนนั้นแค่ยังไม่ขาดเพราะความผูกพัน เรารู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายเจ้าชู้ ก็ยังอยากได้ในตอนนั้น จนเราหยุดความสัมพันธ์ไปให้เขาจบกับเมียให้ขาดก่อนค่อยคบกัน แล้วเขาก็เลิกกับเมียขาด แล้วมาคบเราอีกทีหลังแต่ครั้งนี้อยู่กินกับเราตามแบบผัวเมีย จนท้อง จนมามีลูกกับเขา แต่พอเราท้องใกล้คลอดก็จับได้ว่าเขาแอบไปจดทะเบียนสมรสกับเมียที่อ้างว่าเลิกกันแล้ว ซึ่งเราเคยคุยกับเมียเขานะคะว่าเลิกกันหรือยัง ได้หย่ากันไหม ก่อนที่จะอยู่กินกันอะค่ะ เมียเขาก็บอกเองว่าเลิกกันแล้ว หย่ากันนานแล้ว ถ้าเขาไม่เลิกคงมาตามผัวเขาแล้ว เราก็เลยไม่ได้คิดอะไร แต่พอเราท้องเขาดันไปแอบจดทะเบียนสมรสกัน อ้างว่ากลัวเราได้สมบัติ เพราะสมบัติเป็นชื่อผู้ชายหมด รอโอนสมบัติหมดถึงจะหย่ากัน หรือถ้าจะให้หย่าเลยเรากับผู้ชายต้องเซ็นสัญญากับสำเนาบัตรประชาชนว่าจะไม่เอาสมบัติ ถึงจะยอมหย่า พอเรามารู้ว่าเขาแอบไปจดกันเราเคียดแค้นอาฆาตพยาบาทมาก เราอยากจะฆ่าทั้งผัวและเมียเขาและลูกของเขา เพราะผู้หญิงเองบอกเลิกกันแล้วและผู้ชายมาอยู่กินกับเราเป็นปีแล้ว ถ้าเขาไม่เลิกกัน ก็ไม่น่ายอมให้ผัวตัวเองมาอยู่กับเราออกหน้าออกตาแบบนี้ ส่วนผู้หญิงเองก็มีผัวใหม่แล้วเหมือนกันแต่ไม่เปิดตัว เขาคิดอะไรอยู่คะ แกล้งเราหรือป่าว แบบนี้เขาบาปไหม เขาผิดไหม พอท้องเราก็แต่งงานกับผู้ชายนะคะ โดยตอนแต่งงานยังไม่รู้ว่าผัวแอบไปจดทะเบียนสมรสกับคนอื่นแล้ว เราแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส เข้าทางพวกเขาเลย เราไม่ได้อยากจดอยู่แล้วด้วย แต่เมียที่อ้างว่าเลิกแล้วอยากจด แล้วมาจดทะเบียนสมรสกันตอนเราท้องแล้ว ก่อนจะแต่งงาน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำไมไม่จดทะเบียนสมรสกัน ถ้าตัวเองเป็นเมียหลวง ควรจดกันตั้งแต่แรกไม่ใช่แอบมาจดลับหลังแบบนี้ แต่เราก็คิดเขาคงแค้นเราเอาคืนเรา คงคิดตอนแรกนั้นเราแย่งเขามา ตอนนี้เขาคงมาแย่งเราไป เหมือนกัน แต่ยังไม่พอผู้หญิงคนนั้นกลัวเรามากนะคะ เขารู้ว่าเราไม่พอใจเขามากและฆ่าเขาได้แน่ เท่าที่คุยกับผู้หญิง เราถามเหตุผลว่าทำไมแอบไปจด เขาก็บอกว่าจดเพื่อสมบัติเท่านั้น โอนหมดมื้อไหร่จะหย่าทันที ยังบอกอีกว่าผัวรักเรามาก อย่าเลิกกับผัวเลยให้อยู่กันเหมือนเดิมเถอะ เขากับผัวเลิกกันแล้วจริงๆสถานะเป็นแค่พี่น้องที่ดีต่อกันเท่านั้น แค่จดทะเบียนสมรสเพื่อกันสมบัติไว้ไม่ให้เราได้แค่นั้น ต่อให้เขาพูดยังไงเราก็แค้นค่ะ แค้นแต่ทำอะไรไม่ได้ เกลียดผัวและผู้หญิงคนนั้นมาก แล้วเหตุผลที่ผัวเรายอมจดคือตัวเองอยากได้สมบัติ อยากได้ส่วนแบ่งที่เคยสร้างกับเมียเก่า แต่ทางเมียเก่าไม่ให้ ก็สมควรแล้วค่ะ ผัวเราเห็นแก่ตัวสุดๆ ไม่ได้คิดเลยว่าเรากับลูกจะเสียใจแค่ไหน จนเราเป็นโรคซึมเศร้าร้องไห้เสียใจทุกข์ทรมานใจกับเรื่องนี้มากๆ คิดแค้นกับพวกเขา จนตอนนี้ลามไปถึงแค้นคนรอบตัวไปแล้ว แล้วตอนท้องเราไม่ได้อยากท้องกับผู้ชายคนนี้นะคะ ผู้ชายคนนี้ที่เป็นพ่อของลูก กล่อมเราไม่ให้กินยาคุม ถ้ามีลูกก็ช่วยกันเลี้ยง ซึ่งตอนนั้นเราไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีก็เลยปล่อย แล้วสุดท้ายท้อง พอรู้ว่าท้องเราแทบจะเป็นลมเพราะไม่ได้คิดมีลูกกับเขา ตอนที่ท้องเราตั้งใจเลิกกับเขาแล้วด้วยซ้ำ ขนของแยกย้ายกันแล้ว แล้วมารู้ว่าท้องก็ต้องกลับไปอยู่ด้วยกันอีก เรากับผู้ชายคนนี้เหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมกัน เราและเขารักและหลงใหลกันมาก จนแยกจากกันไม่ออก หนีไปไหนเขาก็ตาม เหมือนใจข้างในผูกกันไว้ ทั้งที่ทรมาน ก็ยังดันทุรังคบกันจนมีลูก เราพึ่งมาได้สติว่าไม่ควรไปยุ่งกับเขาเลยตอนที่ท้องแล้ว พึ่งมาคิดได้ตอนที่สายไปว่าเขาเลวเราก็เลวตาม เราไม่มีสติยับยั้งใจเลย และผู้ชายคนนี้ใครเห็นก็ว่าทำของใส่เรา เพราะเราหน้าตาไม่ได้ขี้เหร่ ผิวขาว เหมือนสาวหมวยๆทั่วไป มีการศึกษา ฐานะไม่ยากจน แต่เขาแก่ดำคล้ำหัวล้านหน้าตาดุดันเหมือนคนติดยา แต่เรารักเขามาก ทุกคนบอกไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด ทุกคนรอบตัวเราอึ้งมากว่าเราคบไปได้ยังไงทั้งที่แฟนเก่าก็รุ่นเดียวกันหน้าตาดีหน้าที่การงานดี เรากลับไปลงเอยกับคนแบบนั้นได้ยังไง เราเป็นทุกข์และคิดเรื่องผัวแอบไปจดทะเบียนสมรสกับเมียเก่าซ้ำๆ จนทรมานมากจนอยากฆ่าตัวตาย เสียสติไปเลย แค่นึกถึงผู้ชายคนนี้ก็เหมือนโดนไฟเผาใจแล้ว เหมือนตกนรกทั้งเป็น แค่นึกถึงเมียเก่าเขาซึ้งตอนนี้เป็นเมียหลวง ก็แค้นจนทนไม่ไหวเป็นทุกข์ทรมานทางใจมากๆ
เราไม่อยากเป็นแบบนี้ค่ะ เราสำนึกผิดแล้วกับบาปที่ตัวเองเคยทำ ตอนนี้ส่งผลที่เราเต็มๆ ลูกของเราไม่มีพ่อ เพราะเราทนอยู่กับผู้ชายที่จดทะเบียนสมรสกับคนอื่นไม่ได้ ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอย่างลำบากค่ะ เพราะเมียหลวงเมียน้อยก็ไม่อยากอยู่ด้วย เราเองสถานะเป็นเมียน้อยเพราะทะเบียนสมรสที่เขาจดกัน ผู้ชายมาตามง้อกลับไปอยู่กับเขาตลอด แต่เราเคยลองให้โอกาสเขาแล้ว ลองกลับไปอยู่กันแล้ว เราทำใจไม่ได้เลยค่ะ มีแต่ด่าทะเลาะกันตลอด ส่วนเมียหลวงลอยตัวเลย เขาดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร และไม่ได้รู้สึกผิดเลยที่ทำให้เราอยู่กับผู้ชายไม่ได้ ผู้ชายและผู้หญิงคนนี้เคยทำแท้งลูกที่เขามีด้วยกันหลายคน เรามารู้ทีหลังก็เสียใจมากที่เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวขนาดนั้น ลูกเราเกิดแบบไม่ทันได้ตั้งตัวและเราขาดสติไปตอนนั้น เราก็ยังฆ่าลูกตัวเองไม่ลง แม้ใครจะตราหน้าว่าเราตกต่ำได้ตัวแก่ได้ผัวเลวก็ตาม เราก็ทำแท้งลูกไม่ลงจริงๆ แต่กรรมของเราหนักมาก
เราสำนึกแล้วนะคะและจะไม่ทำอีก อยากเริ่มต้นใหม่ค่ะ ตอนนี้อยากมีความสุขกับลูกกับครอบครัวพ่อแม่เราก็พอ เราอยากหายจากความคิดเปรตๆนี้ ไม่อยากเกลียดใครไม่อยากแค้นใครอีกเลย เพราะทรมานมาก เราไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่เราแย่มากๆ ชีวิตถึงจุดต่ำสุดแล้วค่ะ ถ้าท่านอ่านถึงตรงนี้แล้ว ได้โปรดเมตตาชี้ทางสว่างให้ด้วยเถอะนะคะ ช่วยเราให้พ้นจากนรกในใจนี้ด้วยเถอะค่ะ กลัวจะตายไปตอนนี้เป็นเปรตแน่ๆ เพราะจิตสกปรก ต่ำช้ามาก ไม่งั้นก็อาจจะเป็นสัตว์นรกหรืออะไรที่ไม่ดีมากๆทำนองนั้นไปเลย ทุกวันนี้เราเกลียดตัวเอง และบางทีก็เกลียดลูก ทุบตีลูก อยากให้ลูกตายไปซะ เพราะเกลียดพ่อเขา ตอนท้องภาวนาให้ลูกแท้งไปเองด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่แท้ง ลูกออกมาสมบูรณ์แข็งแรงปกติ เราเหมือนทั้งรักทั้งเกลียดลูกเลยค่ะ แต่ไม่ใช่ความผิดลูกที่เกิดมา แต่สงสารลูกมากที่มีพ่อเลวแบบนั้น สงสารลูกที่มีแม่ใจร้ายแบบนี้ ยอมรับความจริงไม่ได้ว่ามีลูกกับผู้ชายคนนี้ ตั้งแต่คบเขาทุกข์มากตั้งแต่แรกและยิ่งทุกข์เข้าไปอีกพอมีลูก ไม่รู้กรรมใดปิดหูปิดตาเราให้เลวทรามได้แบบนั้น มันแยกจากกันไม่ได้เลยค่ะกับผู้ชายคนนั้น เหมือนใจที่ผูกกันไว้ เหมือนร่างที่ผูกกันไว้ ผู้ชายเองก็บอกเราแบบนั้นว่าเขาเลิกกับเราไม่ได้จริงๆตั้งแต่แรกที่เจอเราเขาก็ชอบเราเลยและอยากได้มาเป็นเมียตั้งแต่แรกเห็น และเขาเองก็พยายามเลิกกับเรา เราเองก็พยายามเลิกกับเขา แต่ห่างกันก็เป็นทุกข์ อยู่ด้วยกันก็เป็นทุกข์ เราไม่รู้ว่าอะไรดึงเรากับเขาไว้ ผูกกันไว้รุนแรงขนาดนี้ เหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดกัน เรากับเขาต่างรักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ มันเป็นเพราะอะไรคะ แต่ตอนนี้เราอยากหลุดพ้นจากเขาแล้ว เราได้สำนึกในบาปแล้ว และสาบานแล้วว่าจะไม่ทำผิดศีลแบบนี้อีก เราแค่อยากมีความสุขเหมือนคนทั่วไป อยากยิ้มได้ อยากใช้ชีวิตตามปกติที่เคยเป็น อยากกลับมาเป็นคนเดิมที่ร่าเริงสดใส มีความมั่นใจ อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยากสร้างกรรมใหม่ที่ดี อยากไปทำงานหาเงินเลี้ยงลูกได้ตามปกติ อยากมีสุขภาพจิตดี ตอนนี้เรารู้สึกว่าเสียสติฟุ้งซ่านมากคิดร้ายคิดต่ำมาก มีโทสะต่อทุกคนมาก เราทรมานที่สุดเลยค่ะ เมตตาเราด้วยเถอะนะคะ บอกวิธีที่ทำให้เราหายเป็นแบบนี้เถอะค่ะ อยากรู้ว่าทางเมียเก่าหรือผัวเราทำของใส่เรารึป่าว หรือเป็นกรรมเก่าของเรา หรือเป็นเพราะเราเอง เมตตาเราด้วยนะคะเราผิดไปแล้วค่ะ อย่าด่าหรือตำหนิเราซ้ำเติมเลย แค่นี้ก็บอบช้ำที่สุดแล้วค่ะ บอกวิธีแก้ไขเถอะนะคะ เราไม่อยากเป็นเปรต ไม่อยากเป็นผีที่อาฆาตแค้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงที่จะแก้ไข้ตัวเองได้ เมตตาบอกชี้แนะเถอะ ช่วยดึงออกจากนรกนี่ทีนะคะ
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
มีโทสะมาก เป็นทุกข์มาก เป็นโรคซึมเศร้าจนคิดสั้น เพราะผิดศีลข้อ3 แก้ไขอย่างไรคะ
ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Tangmoko, 24 สิงหาคม 2023.
-
พลังที่จรมาร่วมปรุงแต่งจิต โดยที่เราไม่ได้เจตนา
แต่ก็โผล่แทรกมาในจิตเพื่อที่จะปรามาส บลาๆๆ
สิ่งเหล่าที่เป็นเครื่องทดสอบ สติปัญญา
ภายในจิต หากว่าที่เกิดการคิดไม่ดีผุดขึ้นมาต่างๆ
เหล่านั้นไม่ใช่เรา แล้วเกิดการขัดแย้งภายใน
แสดงว่าเรานั้นก็กำลังมีการยึดถืออยู่
ถือว่าเราดีกว่านั้นเป็นการติดดี
ต้องคิดต้องพูดแบบนั้นสิภายในจิตถึงจะเป็นเรา
ธรรมชาติของสติปัญญาทางธรรมเมื่อจะปล่อย
การจะไม่ให้ชั่วที่ผุดขึ้นมานั้นเป็นปัญหา
ก็ต้องปล่อยวางดีด้วย ทีนี้พอมีชั้วผุดมาก็มีสติตามรู้
มีดีผุดมาก็มีสติตามรู้ ก็จะเริ่มเป็นกลางขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ไปนั่งแย้งโต้วาที ต้องแบบนี้สิถึงจะดี
เมื่อการปรุงเกทัพข้างดีข้างชั่วมันน้อยลง
ไม่มีแบ่งข้างทางภายในมันก็สงบขึ้นเป็นกลางขึ้น
ต้องการจะมีความสุข
การจะไปถึงเป้าหมายสุขต้องมีอินทรีย์ 5
ศรัทธานี้เป็นตัวนำเลยเพราะสุขอย่างยิ่ง
ก็คือ พระนิพพาน สุขลองลงมาพรหม
สุขลองลงมาสวรรค์และตามด้วยมนุษย์
แล้วปกติก็คงไม่มีใครมาถึงก็นิพพานเลย
ก็คงต้องอาศัยความเชื่อก่อนว่าพระนิพพาน
นี้เป็นเรื่องจริงและสามารถไปถึงได้จริง
แล้วศรัทธานำมันละงับทุกข์ไง?
ศรัทธานี้เป็นเครื่องระงับลังเล สงสัย เอาไว้ก่อนได้
แม้จะไม่เด็ดขาดแบบถอนรากถอนโคน
อุปมา เหมือนจะให้คน 2 คน
เดินผ่านทุ่งหญ้าที่รกทางยาว ซึ่งเป็นแหล่งชุกชุมด้วยสัตว์มีพิษและสัตว์ร้าย บลาๆๆ 2 คนนี้กลัวงูทั้งคู่เลย
แตกต่างแค่คนหนึ่งมีไอเทมได้รับมาจากพระที่ตนเอง
นั้นศรัทธาแบบสนิทใจบอกว่าได้ไอเทมชิ้นนี้ไว้
จะไม่มีอสรพิษหน้าไหนทำอันตรายได้ ส่วนอีกคน
ไม่มีอะไรเลย คนที่2 เมื่อเดินไปได้ยินเสียงอะไรที่มองไม่เห็น ย่อมเกิด ลังเล สงสัย ว่านั้นเสียงอะไร
งูรึเปล่า เมื่อเกิดลังเลสงสัย ย่อมเกิด วิตก กังวล
นำมาขบคิดในทางแง่ร้าย จนจิตใจระส่ำระส่าย
ในขณะที่อีกคน มีศรัทธาไอเทมที่ได้รับมาจากพระ
เมื่อมีศรัทธา ความลังเลสงสัยว่าจะเกิดภัยย่อมระงับลงได้ เมื่อไม่ลังเลสงสัย ความวิตกกังวล บลาๆๆ
ก็ย่อมจะไม่เกิด จิตใจก็มั่นคง เหมาแก่การ วิริยะ
ไปให้ถึงอีกฝั่ง
ในทำนองเดียวกัน เมื่อไม่มั่นใจเรื่องโดนของ
หากมีศรัทธาว่าสวดมนต์ของเข้าไม่ได้
แม้บทสั้นๆก็เอาอยู่
หากสวดต์จนจิตพอเป็นสมาธิ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
หรือบทอื่นที่ยาวกว่านี้ก็ได้
หรือมีไอเทมบลาๆๆ จากพระที่เราเคารพ
ว่าของเข้าไม่ได้เพราะมีศรัทธาในพระที่ปลุกเสก
เราก็สามารถระงับ นิวรณ์ 5
ในส่วน ลังเลสงสัย และ วิตก กังวล
ลงไปได้ด้วย ศรัทธา วิริยะ -
สิ่งใดที่เกิดขึ้นกับเราทั้งดีและไม่ดี ล้วนมีเหตุปัจจัยมาให้ผลในปัจจุบัน ทำได้เพียงมีสติตั้งรับและเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้น เท่าที่อ่านดูเหมือนว่าคุณเองก็พอจะมีสติรู้ตัวและพยายามหาทางแก้ไขจิตใจจากความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิต
ถ้าจิตคิดปรามาสพระรัตนตรัย ให้ขอขมาพระรัตนตรัยค่ะ คิดเมื่อไรให้รู้เท่าทันแล้วขอขมากรรม ทำบ่อยๆ เดี๋ยวจะค่อยๆดีขึ้นค่ะ เราก็เคยเป็นค่ะ
กรรมคิดไม่ดีกับพ่อแม่ให้กราบเท้าขอขมาท่านค่ะ ทำได้ทุกๆปีจะค่อยๆดีขึ้น หาโอกาสช่วงปีใหม่ รึช่วงวันเกิด ช่วงสงกรานต์ ก็ได้ค่ะ ส่วนพวกท่านจะทำดีหรือไม่ดีอะไรนั้นก็เป็นเรื่องของท่านค่ะ อย่างไรก็ดีท่านให้เลือดเนื้อกายาเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่นั้นบุญคุณเหลือประมาณนั่นคือความดีที่ท่านเป็นผู้มีอุปการคุณต่อเรา พิจารณาความดีที่ท่านมีต่อเรา ตอนนี้โฟกัสที่ตัวเราเพื่อแก้ไขตัวเราเองเพื่อยกระดับจิตใจของเราค่ะ
ปัญหาที่เผชิญกับคู่เวรคู่กรรมน่าจะมีผลต่อจิตใจของคุณมาก มันค่อนข้างยากที่จะหนีจากคู่เวรคู่กรรม ยิ่งเจอกันตอนที่คู่กรณีมีคู่อยู่แล้วยิ่งต้องห้ามใจ บางครั้งเราจะรู้สึกเหมือนโดนทำของใส่ ซึ่งอาจทำของใส่จริงๆหรืออาจเป็นเพราะบ่วงกรรมที่ทำร่วมกันมาแต่ปางก่อนเป็นบ่วงร้อยรัดให้ต้องอยู่ด้วยกันชดใช้กรรมจนกว่าจะหมดวาระกรรมต่อกัน ถึงเขาจะทำไม่ดีกับเรา แต่เรายังรักและตัดไม่ขาดสักที ซึ่งจะเห็นได้จากคู่รักทั่วๆไปหลายๆคู่ก็เป็นแบบนี้ค่ะ ถึงจะนอกใจกัน ทำร้ายร่างกาย หรือ ด่าทอกันก็ยังอยู่ด้วยกันเพราะยังต้องชดใช้กรรมให้กันจนกว่าจะหมดวาระกันไป ถ้าอยากหลุดจากคู่เวรคู่กรรมให้ยกระดับจิตใจของตัวเราด้วยการทำความดี ตั้งใจรักษาศีล ปฏิบัติธรรม สวดมนต์เจริญภาวนา เจริญวิปัสสนา ฟังธรรม อุทิศกุศล แผ่เมตตา กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร ค่อยๆทำไปค่ะ ถ้ามีโอกาสขอขมากรรมกันได้ก็บอกขอขมากรรมขออโหสิกรรมต่อกันค่ะ ถึงจะไม่หลุดจากภาวะนี้อย่างฉับพลันแต่จิตใจของคุณจะดีขึ้น ปล่อยวางมากขึ้น จิตใจจะเข้มแข็งมากขึ้น รู้เท่าทันมากขึ้น ความทุกข์ทางใจจะค่อยๆลดลง เมื่อคนเรามีความต่างกันทางศีลธรรมมากๆ เหมือนอยู่กันคนละคลื่นความถี่ เดี๋ยวเราก็หลุดพ้นจากกันได้เอง
ในช่วงที่เผชิญปัญหารุมเร้า หรือผ่านมาหมาดๆ มันยากค่ะ คุณจะรู้สึกเจ็บปวด ทุกข์ระทม มีภาวะซึมเศร้า ร้องไห้ทุกวันหรือร้องไห้บ่อยๆ มองโลกในแง่ร้าย หรืออะไรก็ตามมันเกิดขึ้นได้ แต่เราต้องทำใจยอมรับความจริงที่มันเกิดขึ้น แล้วค่อยๆแก้ไข ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี แม้จะรู้สึกทุกข์ทรมานใจ แต่มันจะค่อยๆดีขึ้นค่ะ อย่าคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะมันไม่จบจริงๆแต่เป็นการคิดเอาเองว่ามันจบเพื่อหนีปัญหาค่ะ โลกหลังความตายจากการฆ่าตัวตายนั้นน่ากลัวมากเป็นการซ้ำเติมตัวเอง
ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นปัญหาชีวิตนะคะ:) -
วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
อยากจะแนะนำให้คุณ Tangmoko ฟัง clip ธรรมะข้างล่างนี้ดู ยังไงก็ลองฟังให้จบดูครับ แล้วจะรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
ธรรมะ : ชีวิตเป็นอย่างนี้ ตอนที่ 1 อ่านโดย น้องแมลงปอ
ธรรมะ : ชีวิตเป็นอย่างนี้ ตอนที่ 2 อ่านโดย น้องแมลงปอ
-
กลับไปกตัญญูกับพ่อให้ได้ก่อนที่จะทำสิ่งอื่น
ติดปัญหาที่ตรงนี้แหละ
ไปขอขมาพ่อ
เอาน้ำล้างเท้าพ่อ เอาพวงมาลัยไปขอขมาพ่อ
แล้วเอาน้ำล้างเท้าพ่อมาล้างหน้าและกินเข้าไปด้วย
ของไม่ดี จะหลุดออกมา ทางอาเจียน
ร่างกายจะอาเจียน ขับออกมาเองโดยอัตโนมัติ
จากนั้น รอดูว่า เหตุการณ์ พลิกผันหรือไม่
แล้วมาเล่าให้ฟังด้วยนะ
หากดีขึ้น ตามที่เราได้บอกวิธีแก้กรรมให้ ก็เอาเงินไปบริจาคให้ผู้ป่วยจิตเวชยากไร้ที่ไม่มีญาติ นะ
เอาตามนี้