มีใครเคยกิน"เม็ดยาจินดามณี"ของวัดกลางบางแก้ว เหมือนพ่อของผมบ้าง

ตามตำรากล่าวว่า “ยาจินดามณี” เป็นยาที่ทรงคุณวิเศษในทางบำบัดรักษาโรคร้ายนานาชนิดตลอดจนโรคอันเกิดจาก “เคราะห์กรรม” บันดาลให้เคลื่อนคลายหายและทุเลาเบาบางลงไป แม้กระทั่งยามจะสิ้นลมก็ยังมีโอกาสสั่งเสียบอกเล่าได้ ด้วยคุณวิเศษดังกล่าวนี้เอง เมื่อผู้ใดมีอยู่ หรือได้กินก็จัดว่าเป็นผู้มีวาสนาเพราะเป็นของทำยากหายากจึงเรียกกันว่า “ ยาวาสนา ” ซึ่งเป็นคำยกย่องเรียกกันภายหลังตามกิตติคุณอันวิเศษของ “ยาจินดามณี”

เรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างพ่อของผมซ้อมกีฬาอยู่ เกิดเส้นพลิกทำให้เป็นอัมพฤกษ์จนเดินไม่ได้ ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่หลายเดือน ในระหว่างรักษาตัวนั้น พ่อได้ระลึกถึงเรื่องกรรมต่างๆที่ทำมา ก็คิดว่าเคราะห์กรรมนี้เกิดจากการร่วมฆ่ากบ ดูรายละเอียดเรื่องกรรมได้ในเรื่อง กรรมที่ร่วมฆ่ากบ http://palungjit.org/threads/ไม่น่า...กบเพียงตัวเดียว-สามารถตามทันในชาตินี้.356701/

พ่อจึงนำเม็ดยาจินดามณีมาอธิษฐานขอให้หาย หากหายก็จะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร จากนั้นก็กินไป 3 เม็ด หลังจากกินไปแล้วอาการก็ดีขึ้นและค่อยๆหายกลับมาเดินได้ตามปกติ หลังจากเดินได้เป็นปกติแล้ว พ่อผมก็ไปบวชพระที่วัดอโศการามตามที่ได้กล่าวสัจจะอธิษฐานไว้

 

ผม/ภรรยา/พี่ชาย และเพื่อนผม ก็กินครับ

ผมกับภรรยา กินแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น แต่คิดว่าเป็นมงคล

พี่ชาย กินแล้ว ถ่ายเป็นเลือดสดๆ ไปหาหมอแผ่นปัจจุบัญ
หมอตรวจแล้วบอกว่า ไม่มีอะไรผิดปกติ ส่องกล้องดูก็ปกติ
ครูบาอาจารย์บอกว่า เป็นของที่โดนทำมา ยาไล่ออกไป

เพื่อน เพื่อนผมคนนี้เป็นมะเร็งตับ น้องชายเค้ามีของหลวงปู่บุญ
นำมาฝนให้กิน แต่สงสัยถึงคราวและสิ้นเคราะห์กรรมแล้ว ก็เลยเป็นไปตามกรรม

 

เคยกินแต่ไม่ใช่เป็นเม็ดครับ เป็นพระบิกินเลย อร่อยดี ไม่ได้เป็นอะไรนะครับ เค้าว่าดี เลยลองกินดู :)

 

ผมเคยให้แฟนกินตอนที่มีปัญาเรื่องสุขภาพครับ กินแล้วค่อนข้างถ่ายท้องครับ ไม่ใช้ท้องเสียนะ....... แต่ผมเองยังไม่เคยกินว่าจะลองดูครับ

 

ไม่เคยกินแต่เคยกินของหลวงพ่อเขาโบสถ์ที่เรียนมาจากสายวัดกลางบางแก้ว
ดีมากๆๆ ที่สำคัญอร่อย แถมยังถอนพิษยาเบื่อได้สุดยอดตั้งแต่ผมลองมาทุกสาย ขนาดที่ว่าสุนัขผมโดนยาเบื่อผสมอาหารจนอุจจาระแตก ตัวสั่น หมัดเตรียมอพยพ ผมละลายน้ำให้กินแค่ ๓เม็ด อีกชั่วโมงลุกเดินสบาย สุนัขผมดดนมา๓ ครั้งแล้วรอดทุกครั้ง ส่วนตัวอื่นๆๆที่อยู่ในระแวกเดียวกัน ตายเกลี้ยง

 

ยาเม็ดวาสนาจินดามณีของวัดกลางบางปล้วนี่ล่าสุดท่านทำออกมาปีไหนครับ

 

ของวัดกลางบางแก้ว หวานปนขม(มากกก)ครับ กินแบบอมในปากให้ละลายไปทีละนิด

 

เคยกินแต่แบบผง เหมือนกินยาหอมครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ เห็นเขาว่าดีก็กินครับ ยังเหลืออยู่ 2 กระปุก ว่าจะเก็บไว้เป็นมวลสารดีกว่า:cool:

 

สมัยพ่อผมรับมาจากหลวงปู่เพิ่มตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ครับ สมัยหลวงปู่เจือก็มีทำนะครับ แต่เห็นเขาว่ามีปลอมเยอะ ต้องรับกับมือท่านดีที่สุด ตอนนี้หลวงปู่เจือท่านละสังขารไปแล้ว รู้สึกจะมีผู้สืบทอดอยู่แต่ผมจำไม่ได้ว่าท่านชื่ออะไร

 

สำหรับยาจินดามณีปลอมเคยไปเดินท่าพระจันทร์และสอบถามมาว่า กินได้เช่นเดียวกับของแท้ครับ ข้อมูลเชิงลึกขอไม่กล่าวถึง แต่ดูจากสายตาแล้ว ดูไม่ออก. .... เ

 

แอบมาชมประสบกราณ์ของทุกๆท่าน อิ อิ

 

ของปลอมก็คงกินได้เช่นเดียวกับของแท้ครับ แต่คงไม่มีคุณวิเศษอะไร เพราะองค์ประกอบของตัวยาบางอย่างเป็นความลับ เปิดเผยเฉพาะผู้ได้รับการสืบทอดเท่านั้น และคงไม่มีพุทธคุณอย่างสมบูรณ์เท่าของแท้

เม็ดยาจินดามณีประกอบด้วยสมุนไพรต่างๆที่กำกับดวยคาถาอาคม และขั้นตอนการทำทุกอย่างจะมีคาถากำกับตลอด ตั้งแต่การบดยาต้องบดด้วยหินบดที่ลงอักขระ ในระหว่างบดก็ต้องว่าคาถากำกับ

การทำเม็ดยาก็จะทำกันภายในโบสถ์โดยผู้มีศีล จัดพิธีบวงสรวงตามตำรา ในระหว่างปั้นต้องว่าคาถากำกับ ปีหนึ่งจะทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น คือ วันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

หลังจากปั้นเป็นเม็ดแล้ว หลวงปู่ท่านต้องเอามาเสกอีกหลายครั้ง กว่าจะได้เม็ดยาจินดามณีที่สมบูรณ์ตามตำรา

ส่วนที่บอกว่าดูไม่ออกว่าของปลอมหรือของแท้ พ่อผมบอกว่าดูบ่อยๆก็จะสามารถแยกออกได้ ยิ่งถ้าเป็นเม็ดยาที่สร้างสมัยหลวงปู่บุญจะดูง่ายกว่า(แต่หายาก) เม็ดยาจะมีความแห้ง แกร่ง และไม่มีกลิ่นของยาหลงเหลืออยู่แล้ว

 

ให้พ่อผมกินครับมีอยู่เม็ดเดียว ได้มาจากเพื่อน พ่อผมเป็นเส้นเลือดตีบในสมอง(เคยแตกมาแล้ว) โรคกล้ามเนื้อหัวใจ และเป็นถุงลมโปงพองครับ(พ่อสูบบุหรี่จัดมาก) ให้ท่านทานตอนที่ป่วยเข้าโรงพยาบาล หลังจากที่ทานครับหมอบอกไม่มีแนวโน้มของอาการที่จะรุนแรงขึ้นให้กลับบ้านได้ หลังจากนั้นท่านหายเกือบเป็นปรกติขับรถได้จากที่ขับไม่ได้เลย ประมาณ2ปี หลังจากนั้นท่านก็เสียไปด้วยโรคหัวใจกำเริบครับ แต่ผมเชื่อว่าถ้าพ่อผมไม่ได้ทานเม็ดยาจินดามณีไป ท่านอาจจะจากผมตั้งแต่ สองปีที่แล้วก็ได้เพราะท่านป่วยหนักเอาการอยู่ครับ

 

ค่าใช้จ่ายในการซื้อตัวยาชนิดต่างๆมาทำยาจินดามณี เป็นหมื่นเป็นแสนบาทใช่ไหมครับ ยาจินดามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ท่านก็ทำยาจินดามณี ท่านเรียนมาจากพระน้องชายหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว แต่คนรุ่นหลังไม่ทราบ

 

ราคาสมุนไพรคงไม่สูงหรอกครับ พอมาทำเป็นเม็ดยาแล้วราคาก็ไม่ได้สูงมาก แต่เนื่องจากมีคนแสวงหามาก จึงทำให้มีราคาสูง

สำหรับหลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา ท่านก็มีชื่อเสียงนะครับ สาหรับคนที่สนใจเรื่องยาจินดามณีส่วนมากจะรู้จักครับ

 

การกินยานี้ให้ได้ผล 100%นั้น ผมได้ทราบจากลูกศิษย์หลวงปู่บุญว่า
ต้องกินตอนที่ดวงจันทร์เต็มดวงลอยอยู่บนหัวพอดีครับ ด้วยความสัตย์จริงครับ
เพราะถ้าใครกินนอกเหนือจากนี้ ผลของยาก็จะลดลงครับ

 

เคยได้มา 3 เม็ดเป็นของหลวงปู่เพิ่ม เมื่อ 5 ปีก่อนพี่ที่บริษัท เป็นมะเร็งโพรงจมูก ต้องทำคีโม เลยให้แกกิน แต่แกก็รักษาหลายทางทั้งสุมนไพร จนปัจจุบันนี้แกก็ยังไม่ตาย หายกลับมากินเหล้าได้ยังเก่า ผมก็เคยกินช่วงดวงตกๆ ก็คิดว่าดีขึ้นนะครับ

 

งั้นคงตำราเดียวกับที่บ้านผมครับ
ที่บ้านเวลากินยาจินดามณีก็จะกำหนดว่าให้ผมกินวันไหน ช่วงที่กินนั้นเวลากี่โมงถึงกี่โมง
ที่สังเกตุจะเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงเป็นส่วนใหญ่ โดยต้องกินขณะอยู่กลางแจ้ง (อาบแสงจันทร์) แต่บางครั้งก็ทานช่วงดวงเปลี่ยน วันเกิด ปีใหม่(ไทย) แต่กินกลางคืนและต้องอยู่นอกชายคาทุกครั้ง ...

 

บางตัวยาที่ผสมไปแพงจริงครับ อย่าง กฤษณา อำพันทอง สองอย่างนี้ถ้าเอาเกรดดีๆ รวมกันก็ตกราคาหลักแสน โดยเฉพาะอำพันทองหายากและแพงมาก นอกนั้นบางตำหรับจะใส่ผงจินดามณี ซึ่งเป็นผงวิเศษที่ลบบนกระดาน ซึ่งผงนี้ก็ประเมินค่ามิได้เช่นกัน

 

เคยมีคนทดสอบว่าเป็นเม็ดยาของแท้ใช้ฆ้อนทุบยังไม่แตกเลยครับ คิดว่าคงไม่ละะลายในปากง่ายๆ