อยากให้ท่านสอนแบบนี้แหละ เราจะได้ศึกษาอย่างถูกต้อง
มี สติรู้พร้อม อยู่กับความคิด ในขณะปัจจุบันนั้น นี่คือ จิต เดิน วิปัสนา
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปราบเทวดา, 5 ธันวาคม 2019.
หน้า 15 ของ 24
-
-
ทีนี้ ฝาก ลวกเพ่ "ดีจิกหมอน" ฟังธรรม ให้เป็น นิดนึง
เวลา เจอธรรมละเอียด อธิบายละเอียด สภาวะ ละเอียด
จากแหล่งไหนก็แล้วแต่
อย่าไปใส่ใจ ตรง ความเข้าใจ หรือ การจะนำไป สมาทาน
ใส่ใจไปเบื้องหน้า จะฟังธรรมผิดที่ ผิดกาล เทศะ
เวลา ได้รับธรรมละเอียด ปราณีต น่าฟัง อะไรจากไหน
ให้สังเกตุ เรื่อง "ปัจจัยในการบันเทา"
หรือ กำหนดรู้ ฉันทะ ที่เกิด ที่ ดับ เท่านั้น -
-
อย่าไปสนใจเลย พวกส้มหล่น
ถ้าอยากรู้จริงๆ ของจริงไปถามพระ
ส่วนตัวไม่เชื่อว่าคนในนี้ทำถึงขั้นอภิญญาได้
แค่ทำฌานก็ลากเลือดแล้ว เขาไม่เอาเวลามาโพสด่า นับวันกันหรอก
นะ
อะไรที่มันย่นภพชาติได้นั่นละควรเจริญ
อะไรที่ไม่เป็นไปเพื่อสิ้นภพสิ้นชาติ
ละได้ก็ละ เลิกได้ก็เลิก
มัวแต่ไปสาระวนกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
จะไม่จบไม่สิ้น -
อย่างเช่นคำว่า "ข้อ" ขึ้นต้นของคำ
เราก็พิจารณาหาความหมายของคำว่า "ข้อ" มีอะไรบ้าง พอไปพิจารณาตามที่เป็นพืชก็พิจารณาต่อไปเป็นสืบต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ที่สุดก็เห็นเหตุ เห็นถึงการดับเหตุหมายถึง เห็นจากรากถึงปลาย เห็นจากปลายถึงราก -
ลืมไป
ลวกเพ่ ดีจิกหมอน พอได้รับ คำว่า ปฏิสังขารา
หรือ สังขารุเบกขา
อันนี้ ลวกเพ่ ห้ามไปอ่าน อรรถกถา นะ
โดยเฉพาะ วิสุกะทิมัด นี่ ห้ามเลย
หากไป อ่าน จะ ติดตาย จะยิ่งภาวนาไม่ไปไหน
ให้อ่าน ที่เป็น พุทธวจน หรือ พระสารีบุตร
รจนา จะมี ประโยชน์กว่า ไม่เป็น ภัย ต่อการ
ภาวนา -
ถ้าจะ เข้าใจ บาลี ไวยกรณ์ บักโงบะ อาจจะ
ต้องดู ซีรีย์เกาหลี ...เรื่องอะไร จำไม่ได้ แต่
เป็น เรื่อง กษัตย์เกาหลี ประดิษฐ์อักษรตน
เองขึ้นใช้ .....
แล้วเป็น บาลี ตรงไหน
ตรง บทว่าด้วยการ ผ่าศพ เพื่อดูว่า อักขระ เสียงนี้
มาจาก การประกอบของ ดิน น้ำ ลม ไฟ อย่างไร
ตรงไหน แล้ว เขียนเป็น อักษระภาพ แทน เพื่อ
ให้เห็น วิธีการ ออกเสียงที่ถูกต้อง เป็นสากล
ทั้งโลก
ของไทยก็มี เห็น พึ่งทำสกูปออกข่าว ของเรา
เป็น ร.4 แต่ทำไม่ทันหรือยังไง ไม่ได้ ติดตามต่อ
แต่ในเชิง ประวัติศาสตร์ ท่านชายสิทธัตธะ ก็พอเพียง -
หมดยุคของความมั่วแล้ว ไม่มีหรอกส้มหล่งส้มหล่นอะไรทั้งนั้น มีแต่ความมั่วซั่ว พูดไม่รู้เรื่อง ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่เป็นไปตามธรรม ไม่เจริญในธรรมที่ควรทำให้มาก มันแค่นี้เลยวะ เหลือไว้แต่กากเดน ที่ไม่นำพา ไม่ได้กระทบใครนะ เพราะก็ไม่สนใจพูดพร้อยๆไป แบบไร้ซึ่งทุกสิ่ง อภิญญาก็ไม่มี เพราะไม่หวังอะไร ปัจจุบันเป็นเช่นไรก็ อนาคตก็อย่างนั้น กากเดนก็แปลว่ากากเดน เก่งกันเหลือเกินแต่ว่าเนอะรู้สึกขัดแย้งกับสภาพธรรมตามจริง คนเก่งเยอะคนดีเยอะทำไมมันดูเลอะเทอะจัง อันนี้ก็ว่าอย่างคนไม่รู้เพราะดูดูแล้วว่ามันแปลก วิ่งเข้าวัดตอนแก่ตอนจะเผา อีตอนเด็กตอนหนุ่มมีแรงทำดันทำแต่เรื่องเลวๆ จะอ้อนวอนอะไร แต่ว่านะสิ่งเลวในตนมองไม่เห็น จะเห็นสิ่งดีในผู้อื่นยากยิ่งนัก เพราะความละเอียดอ่อนนั้นใกล้เคียงกันมากต่างกันแค่เลวของเรากับดีของเขา เท่านั้นเอง ผู้มีฤทธิ์มีอภิญญาจิต ควรรู้ไว้
-
การปฏิบัติ ป่ะล่ะ
ได้ทุกเพศ ทุกวัย ขึ้น อยู่กับโอกาศ มากน้อยแค่ไหน
เมื่อเห็น สมณะ
เห็นเทวทูต 4 -
ใครจะคุยอะไรกันมันก็เรื่องของเขา
ถ้าไม่มีใครคุยด้วย ก็เอาเวลาไปสวดมนต์จะดีกว่า
อย่ามัวเรียกร้องความสนใจอยู่เลย
ที่นี่ไม่ใช่สภา
นะ ในฐานะที่เคยคุยกัน
เท่านี้ล่ะ -
เตรียม ปาก สั่น
ดูตัวตัณหา ดูคำว่าสัตว์โลก.. -
เขาให้ดู จิตมันดับ
พอจิตดับ ปั๊ป มันจะเคลื่อนเข้าไป ฉวยกาย
พอ ฉวยกายปั๊ป เวทนากาย จะบีบคั้นจิต
ให้เข้า ประครองจิตติดกับกาย
พอ จิตเข้าไป อยู่ในคูหา
ในถ้ำกลวงๆ
ถูกขัง หมดอิสระ
มันจะถูกหลอก ด้วย เวทนากาย
ท่วมทับ ไพบูลย์
ความเปนสัตว์เกิด
อุปาธิเกิด
อุปาทานเกิด
ตัวสั่น ขึ้นมา
พอตัวสั่นขึ้นมา
อัตาวาทุปาทาน จะกุมจิต
พอถึงตรงนี่ จะสั่นไม่หยุด
โหลยโถ้ย
เวทนาจิต จึงเริ่มสบช่อง
รั้งไว้ คราวนี้ ทิฏฐิแบบ
สัตว์ จะเริ่ม พากระซิบ
สร้าง วจี วาจา
ถ้า ไม่มี อินทรรียสังวร
ก้จะเริ่ม เพ้อเจ้อ ไปกับ
โลก อุ้ยแม่ตะนิ้ง อุ้ย
หนาวสักที อุ้ยหนาว
จุงเบย อุ้ยๆ อุ๊ย....คลำ
สังเกตเลย ยิ่งฉวยจิต
จะเริ่มเกิดการเกร็งของ
กล้ามเนื้อ พอเกร็งมากๆ
เข้า ก้ ขาดใจได้
ยิ่งฉวยกาย ยิ่งใกล้ ขาดใจ
เพราะ ความไม่รู้ อริยสัจจ
ว่า จิตเปนตัว ........
เลยสลัดคืนจิต หาอุบายนำจิต
ออกไม่เปน
ยิ่งรัก จิก ยิ่ง ก ไก่ กุ๊กๆ(กัมมุนาฯ) -
รึ ชอบ แนว มหาภูตรูป
ตรงนี้วัดได้เหมือนกันว่า บักโงบะ
เปน เดียรถึย หรือ หมั่นสดับพุทธ
ศาสนา
ถ้า เปน พุทธศาสนา ต้อง ปฏิสังเวที
รู้เฉพาะ หน้าสั่น ปากสั่น เอ้ย! ม่ายฉ่าย
ถ้าเปนพุทธ การจะชือว่า รู้รูป ถูก
ต้องแบบพุทธ คือ "เหนว่าไม่เที่ยง"
น้ำเย็นกระทบ รู้เตโชธาตุ ไม่เที่ยง
ความเย็น(ธาตุไฟ)ไหล จากเบื้อง
สูงสู่เบื้องล่าง รู้ธาตุด้วยความไม่
เที่ยงได้ปั๊ป โครมๆ
ถ้าเหน ธาตุด้วยความไม่เที่ยงไม่
เปน เดียรถึย จะเริ่มถามหา พา
กดข่มจิต ส่วนใหญ่เอาจิตไปไว้
นอกๆ ถ้ากำกระถางตก ก้ตัวสั่น
แต่ รู้ลงเปนธาตุ จะยาก หากจะ
เอามาภาวนา เพราะพอเหนลง
ว่าไม่เที่ยง มันจะเลยไป ไม่หือ
ไม่อือ....
ถ้าไหลไป หืออือ จะเหนว่า มีบางอย่าง
สบช่องกระซิบหลอก ไปเปน ลุ๊ มหา
หงิงๆ
เอาเท่านี้ก่อง...
เผื่อ บักโงบะ นึกอยากจะไปพันทิพ
ขึ้นมา มหูเขาจะหาม โบราณท่านว่า
อย่าเอา คานเข้าไปสอบ ผั๊วะ!!!
มโน เศรษฐา อิมพอสซี้ ห่ม..... -
-
-
"คนข้ามผิดท่า(เรือ)น้ำ" ได้เหมือนกัลยณ์
หาก บักโงบะ ข้ามท่าน้ำผิดท่า ก็จะเห็น
เป็นเรื่อง "ปรุงยา" เลี้ยงชีพแบบเดรัจฉาน
ข้ามถูกท่า จะเป็นเรื่อง กำจัดกิเลส ตัณหา
อุปาธิ อุปาทาน ขณะจิบเดียว นั้นๆ ก็ครอบ
สามโรคธาตุแว้ว ไม่มีมาเรียก "คุณหนูๆ"
ถ้า จะกลับมา "เป็นพยานให้แก่ธรรม" หรือ
หัด กตัญญูเป็นเข้ามานิด เวลาไปเห็นหวี
แล้วอยากประครองรักษาหวีคนอื่น ให้กำหนด
รู้ว่า หยิบเวทนาผิด ... เขาให้ หยิบเวทนาใน
ไม่ใช่ ไปหญิบเวทนานอก
พอหยิบถูก 4S Sesion อย่างไร นิ่งอย่างเดียว
มีแต่ความ อบอุ่นไม่ว่า โลกจะเอาเวทนาใน
กาลก่อนๆมาให้อย่างไร ( เพราะ ทำไว้เอง
ทั้งสิ้น ไม่มีเรื่อง ซอ วอ ยอ เกิด มา ซอ วอ ยอ
ต้องมาเจอ สภาพ อุดตุ อาหาร ยา สิ่งนุ่งห่ม
อย่างนี้ๆ ) พอเข้าใจ ตรงนี้ จะเห็นเลย ไม่มี
หลอกใครจะไป รักษาหวีข้างนอก แต่ละคน
มี ก.ไก่ กุ๊กๆ(กัมมุนาฯ) ค้ำคอ ลากไปเกิด -
ระวางน๊า ไป คว้าเวทนานอก จะ ออกรักษาสัต
ติด สัต ขึ้นมา ละ โอยยยย แข้งขาเข่าอ่อน
เสกโลโซ ห้ามไม่ฟัง
....
....
เกิดทัน "คงเมืองงัว" ดาบคว้าฝื้น เป่า
คงเมืองงัว จะเป็น ตำนาน เวทนานอก เที่ยว
เป็นนักตีดาบ สีฟ้า แจกจ่าย แล้ว เลห์ออกรักษา
พอออกรักษา มากๆ แข้งขาอ่อน หัวใจปวกเปียก
คนมี มโนยุกยิก นั่งข้างๆ ยังไม่รู้เลย ว่าไปซะแล้ว
พอถึงจุดหมาย เอ้ยทำไม ไม่คว้าฝื้น ลงจากรถ
ออกรักษา เปรี้ยง!!! ( ไม่รู้ คณะ หัวโต อะเป่า
แต่ เหตุเกิด แถวเมืองเหนือ นั่นแหละ เสี้ยว
เสียว ตอน บักโงบะ ถูกเขาพาไป ตัวสำรอง )
พอสะกิดเท่านั้นแหละ แข็งทื่อ ตายฮ่านไปนานแล้ว -
-
-
อย่างเช่น..
โอม สุ จิ ปุ ริ
หมายถึง เจริญปัญญายิ่งยิ่งขึ้นไป
แบบนี้ถูกต้องมั๊ยท่าน..
หน้า 15 ของ 24