มือกระบี่ที่ทิ้งกระบี่

โป้วอั้งเสาะ
...ปกติ ชายที่มีบุคลิกเงียบขรึม..มักจะมีจิตใจที่อ่อนไหวได้ง่าย

โป้วอั้งเสาะ ก็เช่นเดียวกัน

ชุ่ยล้ง เป็นสตรีคนแรก ที่มันได้สัมผัส เป็นสตรีคนแรกที่มันรัก

แม้ ชุ่ยล้ง จะมาพบมันด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม มันก็ยังรัก

แม้ชุ่ยล้ง จะเป็นนางคณิกา มันก็ยังรัก.....

...ปกติชายที่ที่มีจิตใจอ่อนไหว.. มักจะถูกหลอกลวงได้โดยง่าย

โป้วอั้งเสาะ ก็เช่นเดียวกัน

แม้มัน จะออกมาผาดโผนในยุทธภพ ถึงสองครั้งสองครา

ก็เป็นสองครั้งสองครา ที่มันโดนหลอกลวง

แม้แต่ตัวมันเอง ก็ยังหลอกลวงตัวเอง ยามที่มันดื่มสุรา

คนเราเพียงสามารถหลอกลวงตัวเองได้ ก็ลืมความทุกข์ได้

สุราทำให้เราหลอกตัวเองได้ ดังนั้น สุรา ย่อมทำให้เราคลายทุกข์ได้

แม้ตอนตื่นขึ้นมา มันต้องอยู่บนโลกของความเป็นจริง

โลกของความเป็นจริงที่ขมขื่น แต่มันก็สามารถดื่มสุราได้อีก

"สุราไม่อาจคลี่คลายความคับแค้นของผู้ใดได้

แต่สามารถดลบันดาลให้ท่านหลอกตัวเองได้"

 

ลู่เสี่ยวเจีย
.
จอมยุทธอีกหนึ่งท่าน คือ จอมยุทธลู่ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะชื่อ ลู่เสี่ยวเจีย

มันจะปรากฏกายพร้อมกับเม็ดถั่ว... เพราะมันชอบกินถั่ว... เม็ดถั่วที่มันกิน ก็เหมือนอาวุธลับชนิดหนึ่ง.. เป็นถั่วบิน... แต่ถั่วบินนี้ มิเคยทำร้ายใคร เพราะเมื่อมันซัดไป เม็ดถั่วนั้น มักจะโดนจับได้เสมอ... ความจริง เม็ดถั่วที่มันซัดไป เป็นเพียงสัญลักษณ์บอกว่ามันมาแล้ว เท่านั้น...

ลู่เสี่ยวเจีย เป็นลูกศิษย์ของจิ้นบ้อเมี่ย ฝึกเพลงกระบี่จากจิ้นบ้อเมี่ย.... ดังนั้น เพลงกระบี่ของลู่เสี่ยวเจีย จึงรวดเร็วไม่แพ้อาจารย์

ลู่เสี่ยวเจีย มีอาชีพโบราณอันดับสอง

อาชีพโบราณ อันดับหนึ่ง คือ นางคณิกา เป็นอาชีพแห่งสตรี

อาชีพโบราณอันดับสอง คือ นักฆ่า เป็นอาชีพแห่งบุรุษ

ลู่เสี่ยวเจีย มีอาชีพเป็นนักฆ่า รับจ้างฆ่าคน ไม่ว่าคนคนนั้น จะบริสุทธ์หรือไม่ก็ตาม หากมีผู้จ้างให้ฆ่า มันก็ฆ่า... มันฆ่าคนมานักต่อนัก

ลู่เสี่ยวเจีย เคยเผชิญกับอาฮุย (ซึ่งแก่คราวลุง) ครั้งหนึ่ง โดยไม่รู้ว่านั่นคืออาฮุย สหายเก่าของจิ้นบ้อเมี่ยอาจารย์ตน ...เพราะอาฮุย เมื่อวรยุทธ์สูงขึ้น ไม่พกกระบี่ กระบี่อยู่ที่ใจ เมื่อใจปรารถนา อะไรๆ ก็ใช้แทนกระบี่ได้... สุดท้าย ถูกอาฮุย หักปลายกระบี่ออกหนึ่งในสี่ส่วน แล้วอาฮุยก็พูดว่า “กระบี่น้องชาย ยาวเกินไป” ... แล้วจากไป

ในนิยายชุดนี้ ก็จะมี ฤทธิ์มีดสั้น ดาบจอมภพ จอมดาบหิมะแดง และเหยี่ยวเดือนเก้า

 

ชุดเล็กเซี่ยวหงส์
.

เล็กเซี่ยวหงส์

นิยายชุดหงส์ผงาดฟ้า มีหลายตอน ข้าพเจ้าเองก็จำได้ไม่หมด... ที่จำได้ เช่น เล็กเซี่ยวหงส์ จอมโจรปักดอกไม้ สองนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ หมู่ตึกภูตพราย กระบี่พิโรธ บ่อนพนันเบ็ดเงิน เกาะมหาภัย ...

แนวของนิยายชุดนี้ เป็นแนวนักสืบ โดยเล็กเซี่ยวหงส์ ทำหน้าที่เป็นนักสืบ คลี่คลายคดีต่างๆ ตอนแต่ละตอน จะจบลงเมื่อปมคดีถูกคลี่คลาย คนร้ายถูกจับได้หรือถูกเปิดโปง

เล็กเซี่ยวหงส์ จอมยุทธ์ผู้มีคิ้วสี่คิ้ว

สองคิ้วบนดวงตา อันเป็นคิ้วจริงๆ กับหนวดสองแฉก โกนเกลาให้มีรูปร่างคล้ายคิ้ว

เล็กเซี่ยวหงส์ ฉายา ดัชนีสัมพันธ์จิตใจ

นิ้วอันแข็งแกร่ง สามารถคีบจับสิ่งของต่างๆ ได้แม่นยำ คีบจับได้แม้กระบี่อันรวดเร็ว กระทั่งอาวุธลับอันรวดเร็ว

เล็กเซี่ยวหงส์ เคยฝึกเพลงดาบ และเพลงกระบี่มาก่อน กำลังภายในก็ฝึกจนแข็งแกร่ง วิชาตัวเบาก็ล้ำเลิศ... เล็กเซี่ยวหงส์ จึงเป็นจอมยุทธ์ที่ดูเหมือนไม่เคยแพ้ใคร แม้ไม่พกอาวุธอันใด ก็ไม่เคยแพ้ใคร

เล็กเซี่ยวหงส์ เป็นคนร่าเริง สดใส กะล่อน ขี้เล่น ละเอียด ช่างสังเกต ชอบร่ำสุรา รักมิตรสหาย

สหายของเล็กเซี่ยวหงส์ มีมากมาย... ข้าพเจ้าเองก็จำไม่ได้... เพราะไม่ใช่เล็กเซี่ยวหงส์.... ที่จำได้ ก็เพียง ไซมึ้งชวยเซาะ เท่านั้น

 

ไซมึ้งชวยเซาะ
.
ไซมึ้งชวยเซาะ บุรุษในอาภรณ์ขาวทั้งชุด ผู้เยี่ยมยุทธ์ด้านเพลงกระบี่ เป็นผู้มีเพลงกระบี่รวดเร็วอันดับหนึ่งในยุคนั้น เพลงกระบี่ไซมึ้งชวยเซาะ ไม่เคยแพ้ใคร มันยืนหยัดในยุทธภพได้ ด้วยเพลงกระบี่อันรวดเร็วนี้

ไซมึ้งชวยเซาะ มีบุคลิกเคร่งขรึม เงียบขรึม จริงจัง เด็ดเดี่ยว

มือกระบี่ที่รวดเร็วดังมัน ไหนเลยมีใจให้หญิงใด เพราะมันมอบใจมันทั้งหมดให้กระบี่และเพลงกระบี่หมดสิ้น... กระบี่อยู่ที่ใจ ใจอยู่ที่กระบี่ ใจและกระบี่เป็นอันหนึ่งเดียวกัน รวมกับกำลังภายในที่กล้าแข็ง จึงให้กำเนิดพลังกระบี่อันกล้าแข็งไร้ผู้ต่อต้าน

กระบี่ เมื่อออกจากฝัก ต้องได้ดื่มโลหิต (ไซมึ้งชวยเซาะ)

คน พบสหาย ต้องได้ดื่มสุรา (เล็กเซี่ยวหงส์)

เมื่อมัน มอบใจกายให้แก่กระบี่และเพลงกระบี่หมดสิ้น ไหนเลยเหลือใจให้แก่อิสตรี ไหนเลยมีที่ว่างแห่งใจให้อิสตรีย่างกรายได้... กับสตรี ใจมันประหนึ่งหินผา ...มัน จึงไม่มีความรักให้แก่ใคร

ทว่า... เรื่องราวต่างๆ ล้วนไม่คงมั่น ...

อยู่ๆ ยุทธภพ ก็ล่ำลือว่า ไซมึ้งชวยเซาะ มีภรรยาแล้ว.... จอมกระบี่อันดับหนึ่ง มีภรรยาแล้ว...

ความรักของไซมึ้งชวยเซาะ เป็นความรักอันเกิดดังอุบัติเหตุ

 

ไซมึ้งชวยเซาะ
.
ปกติแล้ว ชวยเซาะ.. เป็นสุภาพบุรุษอย่างยิ่ง กับสตรี มันไม่เคยข่มเหงรังแก หากมันรู้ว่า คู่ต่อสู้มันคือสตรี มันจักไม่ลงมืออย่างอำมหิต

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่มันบังเอิญลงมือกับสตรี เป็นสตรีที่แต่งกายดังบุรุษ ใช้ผ้าปิดหน้า... สตรีนางนั้น กับสตรีนางอื่นๆ พร้อมทั้งอาจารย์ ได้บุกมาหมายลอบสังหารชวยเซาะ และชวยเซาะ ได้ใช้กระบี่ทำร้ายนางจนบาดเจ็บ ผ้าปิดหน้าปลิวร่วงหลุด..เผยโฉมแห่งโฉมสะคราญ... ชวยเซาะเห็นดังนั้น... ชายผู้มีใจชาเย็นแข็งดังหินผาชุบหิมะ ถึงกับสะดุดกับเหตุการณ์ชั่วขณะ... ถึงกับถาโถมเข้าไปช้อนร่างอันบอบบางของนาง......เคราะห์ดีที่เล็กเซี่ยวหงส์มาช่วยไว้ทัน กันตัวผู้เป็นอาจารย์ออกไป... สุดท้าย สืบเรื่องราวจนกระจ่าง จนโกวเนี้ยน้อยทั้งหลาย ทราบกระจ่างว่าถูกอาจารย์หลอกใช้.....

โกวเนี้ยน้อยนางนั้น จึงไม่อาฆาตแค้นชวยเซาะอีก

ชวยเซาะ เป็นผู้ทำร้ายนางบาดเจ็บ จึงนำนางกลับไปรักษา ... จนกลายเป็นความรัก... ความรักครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของชวยเซาะ...

เพราะนาง... ชวยเซาะถึงกับยอมทิ้งกระบี่ ยอมทิ้งเพลงกระบี่ กระบี่รวดเร็วอันดับหนึ่งแห่งยุค

คนผู้หนึ่ง เมื่อถึงจุดสูงสุดแล้ว… พบว่า ไม่มีอันใดน่าบันเทิงใจ... พบว่า ยิ่งสูง ยิ่งเหงา ยิ่งเก่ง ยิ่งอันตราย ยิ่ง โดดเด่น ยิ่งมีแต่คนปองร้าย.... นั่นกลับไม่ใช่ความสุขยิ่งแล้ว

เมื่อมันพบรัก.. มันจึงต้องการสร้างครอบครัวน้อยๆ อันอบอุ่น... ตั้งแต่นั้น มันจึงปลีกตัวจากยุทธภพ ประพฤติตนเป็นชาวบ้านธรรมดา ทำมาหากินเลี้ยงภรรยา

 

ไซมึ้งชวยเซาะ
.
ไซมึ้งชวยเซาะ ปรากฏตัวอีกครั้ง เมื่อมีคนบีบเค้นบังคับ ให้มันจับกระบี่อีก... มันยินยอมจับกระบี่อีกเพื่อสู้กับเจ้านครเมฆขาว มือกระบี่รวดเร็วอันดับสุดยอด (ตอน สองผู้ยิ่งใหญ่)....

มันไม่ได้จับกระบี่มาเนิ่นนาน .... เพลงกระบี่ มันไม่ลืมก็จริง แต่ความรวดเร็วอาจไม่เหมือนเดิม.... ยิ่งบัดนี้ มันมิได้มีใจให้กระบี่อย่างเดียว มันมีใจให้โฉมสะคราญด้วย โฉมสะคราญที่ต้องพึ่งพามัน โฉมสะคราญที่มันต้องคอยดูแลปกป้องคุ้มครอง

คนผู้หนึ่ง... เมื่อมีห่วงอยู่ในใจ จิตใจย่อมมิอาจเด็ดเดี่ยวได้.... ยิ่งมีคนที่รอคอย ยิ่งไม่กล้าตาย เมื่อไม่กล้าตาย ใจย่อมไม่เด็ดเดี่ยว.... จอมกระบี่ที่รวดเร็ว แม่นยำ ต้องการความเด็ดเดี่ยวแห่งใจ ต้องการใจที่สงบนิ่ง จึงจะแสดงพลังอำนาจแห่งเพลงกระบี่ได้เต็มที่

ทว่า... ชวยเซาะ บัดนี้ มิใช่คนเดิม.... กระบี่ ก็ไม่อำมหิต แล้ว.... การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่แน่ว่า มันอาจตายภายใต้คมกระบี่ของเจ้านครเมฆขาว

สุดท้าย.... ชวยเซาะก็ชนะ ชนะเพราะจิตใจตั้งมั่นในคุณธรรม ต่อสู้เพื่อผดุงคุณธรรม ทำให้กระบี่สุดท้ายที่แทงออกไป ตรงหัวใจของเจ้านครเมฆขาวพอดี... กระบี่สุดท้ายของเจ้านครเมฆขาวที่แทงออกมา เบี่ยงจากหัวใจชวยเซาะไปเพียงสองหุน....

ชวยเซาะชนะ... แต่มันก็บาดเจ็บไม่น้อย....

 

ไซมึ้งชวยเซาะ
.
เมื่อการต่อสู้ครั้งนี้จบลง... ชวยเซาะ ต้องการอยู่อย่างสงบกับภรรยา ตั้งใจจัดงานอำลายุทธภพ ล้างมือในอ่างทองคำ... แต่สุดท้าย ก็ล้างมือไม่สำเร็จ... เพราะเล็กเซี่ยวหงส์ ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น จึงแสร้งมาก่อกวน ยั่วโมโห โดยทำเป็นเหมือนตีท้ายครัวชวยเซาะ จนชวยเซาะโมโหจริงๆ ประกาศจะต้องฆ่าเล็กเซี่ยวหงส์ให้ได้...

การไล่ล่าเล็กเซี่ยวหงส์ของชวยเซาะ ได้เริ่มขึ้น... แต่นั่น ไม่ใช่การต่อสู้กันของทั้งคู่ เล็กเซี่ยวหงส์ ใช้วิชาตัวเบาอันล้ำเลิศ หนีอย่างเดียว... หนีไปเรื่อยๆ จนไม่มีที่จะให้ยืน... จนต้องหนีเข้าไปอาศัยที่เร้นลับแห่งหนึ่ง (...หมู่ตึกภูตพราย...ความจริงเป็นแผน เพื่อสืบคดีของเล็กเซี่ยวหงส์) แต่ทว่า เมื่อคดีคลี่คลาย ทั้งคู่ก็กลับมาเป็นสหายกันเหมือนเดิม

ไซมึ้งชวยเซาะ... มันต้องการอยู่อย่างสงบสุขจริงๆ ... แต่สุดท้าย ก็อยู่อย่างสงบสุขไม่ได้ เมื่อมีคนคนหนึ่ง มาทำให้ภรรยาสุดที่รักตาย... เป็นเหตุให้มัน ต้องตามล้างแค้น... นี่คือ กระบี่พิโรธ... เป็นกระบี่ที่รวดเร็ว ดุดัน อำมหิต พิชิตคู่ต่อสู้...

เมื่อมันพิชิตคู่ต่อสู้ได้แล้ว... มันไม่เหลืออันใดให้รักอีก หญิงคนรัก ได้เสียชีวิตพร้อมทั้งบุตรในครรภ์ ... มัน อยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย... สุดท้าย ชีวิตมัน เหลือเพียงกระบี่กับเพลงกระบี่... เป็นกระบี่รวดเร็วอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน...

ไซมึ้งชวยเซาะ โลดแล่นในยุทธภพ ปราบอธรรม ผดุงคุณธรรม คู่กับเล็กเซี่ยวหงส์.... หลายๆ ครั้งที่เล็กเซี่ยวหงส์ตึงมือ ชวยเซาะมักจะปรากฏกายขึ้น... เมื่อมันมา เล็กเซี่ยวหงส์ย่อมเบาใจอย่างยิ่ง...เพราะเล็กเซี่ยวหงส์รู้ดีว่า ไม่มีใครเอาชนะกระบี่ของไซมึ้งชวยเซาะได้

ไซมึ้งชวยเซาะ... จอมกระบี่อันดับหนึ่งแห่งยุทธภพ

 

ใช้อาวุธย่อมพบข้อจำกัดของอาวุธ..........
ใช้ใจเป็นอาวุธจึงหลุดพ้นข้อจำกัด...........

เท่าที่อ่านมาเห็นมีแต่เทวะในเรื่องฟงหวิ๋นภาคนิยายนะครับ ที่ฝึกใช้ตาเป็นอาวุธแผ่พลังไร้สภาพครอบคลุมกำจัดคู่ต่อสู้ โดยมิต้องออกกระบวนท่า
และก็ดาบฟ้าไร้เนตร"กุ๊ยโฉว" ที่ฝึกถึงขั้น "ดาบใจ " ใช้ใจเปล่งพลังดาบออกมาได้อย่างฉุดด..ยอดด....

ยอดยุทธส่วนใหญ่ก็ใช้มือเท้า ดาบกระบี่ สิ่งต่างๆเพื่อส่งผ่านพลังออกมาอะนะ

แต่ขอมีแจม กระบวนท่าฮิเทนมิทซูรูกิ ของฮิมูระบัตโตไซนิดนึงนะครับ ชอบมากเลยกับกระบวนท่านาคาอสุนีทะยานฟ้า....จากเรื่องซามูไรพเนจรนะครับ
ผมเองก็ศึกษาและฝึกฝนเน้นให้จิตสงบเป็นหลักอะนะครับไว้ใช้ทำงานทำการโดยฝึกเป็นพลังดาบไร้สภาพอะครับคือเรารู้สึกอยู่คนเดียวไง ว่ามีดาบติดอยู่ที่ปลายมือรวบรวมสร้างเป็นพลังดาบไว้ทุกวัน ดีกว่าไปทำเรื่องไร้สาระอื่นๆ จิตใจก็สงบดีด้วย ไม่เบียดเบียนใคร สวดมนต์ไหว้พระ มีความสุข...แต่บ้าพลังก็เรื่องส่วนตัวเนอะ.......

 

จอมยุทธ์อินทรี เอี้ยก้วย(น้ำว๊า)

ท่าน Seria ที่ ท่านพี่โลจิ เอ่ยถึง คงจะเป็น ท่านพี่หลานหลิง แล้ว ข้าพเจ้าลองอ่านผลงานของคุณหลานหลินแล้ว ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของข้าพเจ้ามิคลาย เฮ้อ............

 

ตอบคุณตกยุค...ท่านกล่าวถูกแล้วขอรับ ถ้าสามารถสร้างดาบด้วยพลังจิตล่ะก็ผมว่างานนี้ไม่มีใครสู้ดาบพลังจิตแน่นอนครับ อิอิอิ มาจากเรื่องคนเก่งฟ้าประทานครับอิอิอิ ถ้าใครเคยดูและเคยอ่านเรื่องคนเก่งฟ้าประทานล่ะก็ จะรู้ว่ามันคือวิชาฝึกพลังจิตดีๆนี่เอง ดาบพลังจิต กระสุนพลังจิต ตาทิพย์ พลังควบคุมธรรมชาติ ลองหามาอ่านดูครับ
-------------------------------
สำหรับทั่น ดีแทค เอ๊ย...คอนแทคเอี้ยก้วย...ตอนนี้คุณ ซีเรียเค้าเปลี่ยนชื่อแล้วรึขอรับ ผมชื่นชมเค้ามากและมั่ยเจอเค้ามานานแล้วครับ เค้าคือสหายทางเน็ตที่จิตใจอ่อนโยนครับ ผมอยากให้เพื่อนๆชาวพลังจิตช่วยให้กำลังใจและสนับสนุนผลงานนักเขียนคนไทยของเราครับผ้ม

 

สำหรับจอมยุทธหญิงปานโสม...ซึ่งตอนนี้กำลังฝึกวิชาสุดยอดอยู่บนเขาง้อไบ้...ตอนนี้พลังยุทธก้าวหน้าไปมาก...คิดว่าทั่นจะออกมาท่องยุทธภพอีกครั้ง...พ่อมดโลจิขอคารวะด้วยโออิชิสองจอก และขอติดตามเป็นบ่าวรับใช้ทั่นจอมยุทธหญิงละกัน อิอิอิ...

 

เรียนคุณพ่อมดโลจิครับ อิทธิฤทธิ์ด้านไฟหากไม่มีสติปัฏฐานสี่คอยดูแลแล้วโอกาสที่ไฟจะลุกไหม้เผาตัวเองมีสูงมากๆจริงๆครับ ยิ่งเป็นไฟโลกันต์ยิ่งควบคุมยากครับ คืออยู่ดีๆร่างกายตัวเองก็เกิดการลุกไหม้ขึ้นได้เองจนเสียชีวิตครับพึงระวังพึงระวัง ขอให้เร่งฝึกสติปัฏฐานสี่กันก่อนดีที่สุดครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับถูกผิดช่วยชี้แนะด้วยครับ

 

วิชาอด ฝึกให้สำเร็จยากมากครับ
1.วิชาอดอาหาร(กบจำศีล) สามารถดูดซับปราณอากาศ(ทางช่องจักระ) แปรสภาพ(แยกธาตุ ตั้งธาตุ ปรุงธาตุ และรวมธาตุ)เป็นธาตุทั้งสี่เพื่อเลี้ยง สังขารขันธ์ หรือได้ ธรรมปิติ แยกขันธ์5 ได้
2.วิชาอดกลั้น หากมีคนต่อว่า ด่าทอ ต้องระงับใจมิให้โกรธ ว่ายากแล้ว แต่หากมีคนมาชม ต้องอดกลั้นใจไม่ให้ยิ้ม ยินดี ยากมากๆครับ
3.วิชาอดทน สุดยอดยากเลยครับ การเรียน กว่าจะรู้ เข้าใจและ ปฏิบัติได้ ต้องฝ่าฟัน ต่ออุปสรรค มากมายเหมือนการเดินสู่พระนิพพานนั่นแหละ ต้องลอง ผิดลองถูก ต้องล้มเหลวมาไม่รู้กี่ภพชาติ กว่าบารมีจะเพียงพอ หากสำเร็จวิชานี้ต้องถึงเป้าหมายในที่สุด
ดีใจนะที่มีคนสำเร็จเป็นแนวทางให้เราได้ก้าวตามไปได้ สักวันเราคงเป็นเช่นนั้นบ้าง
ท้อได้แต่อย่าถอย เพราะต้องแข่งกับเวลาครับ

 

กระบี่อยู่ที่ใจ...หุหุ..โมโมทาโร่ แห่ง โรงเรียนลูกผู้ชาย...ฟังแมงฝันขาดครึ่ง..

 

โมโมทาโร่เพลงดาบวิญญาณพยัคอันลือลั่น สหายกับโดโกเพลงดาบวิญญาณมังกร อิอิอิ

 

ผมเอาใจช่วยเต็มที่ครับคุณพ่อมดโมจิ

เคล็ดวิชาอันหนึ่งที่ผมได้รู้จากอาจารย์ผม(ฆาราวาส)ท่านหนึ่ง คือการลดความร้อนแรงของพลังแห่งไฟไม่ใช่การใช้พลังแห่งน้ำ พลังแห่งน้ำเป็นเพียงการบรรเทาเปลวไฟได้เพียงแป๊บเดียวคือไม่กี่นาทีแล้วพลังแห่งไฟก็จะกับมาเหมือนเดิม การลดความรุนแรงของพลังแห่งไฟที่แท้จริง ต้องใช้พลังแห่งดินเป็นตัวลดครับ ถ้ายังไงคุณพ่อมดลองใช้กสินดินทดลองดูก็ได้ครับแล้วนำผลการทดลองมาเล่าให้กันฟังบ้างนะครับ แต่ถ้าเป็นพลังไฟโลกันต์ยิ่งต้องใช้พลังต้นธาตุต้นธรรมแห่งดินซึ่งต้องผ่านสติปัฏฐานสี่ก่อน ขอให้คุณพ่อมดโลจิสำเร็จสมดังตั้งใจนะครับ

 

ยังมีวิชากระบี่ที่อยู่เหนือกระบี่ใจอยู่ครับ ที่คนทั่วโลกเข้าใจกันคือขั้นกระบี่อยู่ที่ใจคือขั้นสุดยอดแล้ว แต่ผมสามารถทำลายวิชากระบี่ใจได้สำเร็จครับ คือวิชาใจไร้กระบี่...วิชานี้คือสุดยอดวิชาที่สุดยอดครับ ต่อให้จอมยุทธที่ฝึกกระบี่อยู่ที่ใจสำเร็จเจอวิชานี้รับรอง กระบี่อยู่ที่ใจก็จะสลายในพริบตาครับ มิต้องรบก็สยบหัวใจคู่ต่อสู้ใด้
--------------
คำสนทนาถึงวิชาของพ่อมดโลจิกับโจร 5 บาท
พ่อมดโลจิ : โจร 5 บาท กระบี่ของท่านอยู่ที่ใด
โจร 5 บาท : กระบี่ของข้าอยู่ที่ใจข้า
พ่อมดโลจิลดสายตาลงหนึ่งคืบ พลางคิดมันถึงขั้นกระบี่อยู่ที่ใจ
โจร 5 บาท : แล้วกระบี่ของท่านอยู่ที่ใด ใยข้ามิเห็นกระบี่ของท่าน
พ่อมดโลจิ : กระบี่ของข้ามิดั้ยอยู่ในมือข้าและมิดั้ยอยู่ในใจข้า ในใจของข้าไร้ซึ่งกระบี่
โจร 5 บาทลดสายตาลงสองคืบ พลางคิดว่า มันทำลายเพลงกระบี่ใจของข้าจนหมดสิ้นทุกกระบวนท่า

 

จากหนังจีนกำลังภายในจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร "การฝึกวิชาฝ่ายดำก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องกลายเป็นคนดำไปด้วยก็จริง แต่ยังมีบางสิ่งที่เรามองไม่เห็นแหละคาดไม่ถึงอีกมาก ถ้าเราเผลอสติแม้เพียงเสี้ยววินาทีจิตเราอาจจะเป็นดำได้ในชั่วขณะเพียงเสี้ยววินาทีนั้นแล้วจิตดำก็คุมจิตส่วนที่ขาวได้ทั้งหมด ท่านจะต้องเป็น..." น่าคิดนะครับท่านพ่อมดโมจิ เอ๊ย โลจิ

ขอเอาใจช่วยครับ

 

....ผู้หนึ่ง.....ไม่เคยจับกระบี่...

แต่ชีวิตเขาคือกระบี่

ใช้ศีลกาย วาจา ใจ เป็นโกร่งกระบี่

ใช้ศรัทธาในรัตนตรัยและสัจธรรมเป็นด้ามจับ

ใช้ฌาณเป็นตัวกระบี่ ใช้ปัญญาเป็นคม


ใช้วิมุตติญาณทัศนะ ที่เห็นทางสายกลาง เป็นเพลงกระบี่

ร่ายร่ำชีวิตไป ไม่หักหาญ ไม่ต้าน ไม่ตาม

เป็นธรรมชาติ

ใครๆจึงทำลายเพลงกระบี่นี้ไม่ได้...



.....กระบี่นี้ แปรรูปมาจากธรรมจักรแห่งบรมศาสดา....

 

ฟงอวิ๋น ขี่พายุสะท้านฟ้า 2 ผู้แตกต่าง กับประสานเป็นหนึ่งเดียวในใต้หล้า
คนหนึ่ง ใช้ดาบ อาบหิมะ
คนหนึ่งใช้กระบี่ เลิศภพ
แม้นิสัยจะต่างกัน แต่กลับประสานเป็นหนึ่งเดียวได้