รบกวนถามผู้รู้ค่ะ ทำไมเวลาหลับตาก่อนนอนมักจะเห็นแสงสีขาว กลมๆ กลางหว่างคิ้ว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย lillie, 13 มิถุนายน 2014.

  1. lillie

    lillie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +323
    ทำไมเวลาหลับตาก่อนนอนมักจะเห็นแสงสีขาว กลมๆ กลางหว่างคิ้วค่ะ บางวันก็จะมีสีดำอยู่ตรงกลาง ใช้ผ้าปิดหน้า หมอนปิดตาก็แล้ว ก็ยังเห็นอยู่ดีค่ะ บางวันก็สว่างมากคล้ายๆในห้องเปิดไฟ แต่ก็ไม่ได้เป็นทุกวันนะค่ะ อาการแบบนี้คืออะไร รบกวนผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ
     
  2. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    มันคือนิมิตครับ ไม่ใช่สัมผัสทางตา ไม่ได้เกิดที่หว่างคิ้ว แต่มันคือนิมิตในจิต ที่ปรากฏแต่เราคิดว่าเราเห็นด้วยตา แม้ในตอนที่เปลือกตาปิดสนิท บางคนเห็นอย่าง อีกคนเห็นอย่าง แตกต่างกันไป นิมิตนั้นเรียกว่าอุปจารนิมิตก็ไม่ผิด จะเกิดขึ้นเมื่อเรามีสมาธิ เช่น กำลังนั่งสมาธิ หรือ กำลังจะหลับก็จะเกิดสมาธิได้เหมือนกัน สภาวะสมาธิคือสภาวะจิตเบาสบายคล้ายหลับแต่ไม่ใช่ ตื่นก็ไม่เชิง สมาธิเกิดได้ตอนที่นั่งสมาธิ เป็นสภาวะจากจิตปรกติถอยเข้าไปผวัง และเกิดอีกรูปแบบคือ ตอนที่กำลังจะตื่น หากยังครองสติระลึกรู้ตัวแล้ว สามารถทำสมาธิได้ทั้งยามตื่นและยามหลับ นิมิตดังกล่าวที่ปรากฏบางตำราว่า คือนิมิตจากอานาปานสติ ซึ่งเราทุกตนถูกปลูกฝังให้ฝึกกันแต่เด็กๆ ( พุธ เข้า ออก โธ ) แต่ก็ไม่ได้จะปรากฏนิมิตอย่างนี้ทุกคน หมายเฉพาะกลุ่มท่ี่จิตนิ่งเป็นสมาธิซึ่งน้อยมาก บางคนเป็นแสงจ้าสัดส่ายไปมา บางคนเป็นหมอกควันหมุนวน บางคนก็เห็นเป็นถ้ำเป็นโพรง ใครควบคุมนิมิตได้ ให้ย่อให้ขยายหรือให่เปลี่ยนรูปร่างได่ ถือว่าระดับฌานระดับสมธิเหนือกว่าคนทั่วๆแล้ว ในร้อยคน จะมีคนเห็นนิมิตปรากฏประมาณสักกี่คน และการบังคับนิมิตได้ ที่เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต ก๋ยิ่งหาคนที่ทำได้ยากกว่านั้น
     
  3. lillie

    lillie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +323
    ขอบพระคุณมากๆค่ะ
     
  4. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    การเพ่งฌานจะปฏิบัติการเพ่งที่จุดมโนทวารกลึ่งกลางระหว่างตา ตรงดั้งจมูกหัก ต่ำกว่าจุดที่คุณเห็นในนิมิตร
    ในความเห็นของผมที่ปรากฏนิมิตรตรงจุดนี้ ก็น่าจะให้คุณค้นหาว่าจุดตรงนี้มีความสำคัญอย่างไร แน่นอนครับที่เห็นเป็นนิมิตร แต่นิมิตรมาเกิดตรงนี้จึงมีคำถามว่าจุดตรงนี้หรือใกล้เคียงกันนี้มีความสำคัญมากน้อยเพียงใด
    ผมในช่วงหนึ่งแห่งการปฏิบัติ ผมถามตัวเองว่า "คำว่าเรา" นั้นอยู่ตรงไหนของร่างกาย ผมค่อยๆระลึกดูไปแต่ละจุด แต่ละส่วนของร่างกาย ก็ปรากฏว่าทุกส่วนนั้นเป็นเราอยู่ด้วยกันทั้งนั้น แต่จะชัดที่สุดก็เป็นตรงศีรษะนี้ละเป็นเรามากที่สุด ชัดมากก็ตรงลูกตานี้ละ ผมเห็นอย่างนั้น
    ต่อมาจึงได้พบอาจารย์สายหลวงปู่สาวกโลกอุดรสอนการเพ่งฌาน โดยให้เพ่งที่จุดมโนทวารอยู่กลึ่งกลางระหว่างลูกนัยตาทั้งสองข้าง แม้นว่าผมยังไม่ปฏิบัติ ผมก็ความคล้อยตามทันทีว่าน่าจะใช่เพราะผมก็เคยปฏิบัติและเห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว
    คุณก็นำไปประยุกต์ใช้ก็แล้วกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2014
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ยังไงลองอ่านที่จะแนะนำดูก่อนนะครับ..มันก็เป็นนิมิตรนั่นหละครับ..แต่ว่าต้องดูก่อน
    ว่าเป็นนิมิตรแบบไหนครับ..ให้ลองพิจารณาดูนะครับ.
    ๑...ถ้าเป็นนิมิตรในกรณีที่เราเคยได้ทิยพจักขุฯ มาก่อน
    ระดับกิริยาที่เห็นตอนนี้พอบอกได้ว่าจริตโน้มไปทางอภิญญาจิตภายใน
    ก่อนเป็นเบื้องต้นและนิมิตรกลมๆ ที่เราเห็นจะต้องมีความ
    ใสอยูในอยู่เอง ไม่ออกสีขุ่นๆ.มีขอบชัดเจน มีขนาดเท่าหัวเข็มหมุด หรือไม่ก็เท่าหัวไม้ขีด
    สามารถปรากฏได้ทุกตำแหน่ง.ไม่ว่าซ้าย กลาง ขวา และ บน หรือ ล่าง แต่จะปรากฏไม่นาน
    มักมาแบบแว๊ปๆ พอเรามองก็จะหายไปทันทีเป็นส่วนมาก มักมีสีขาวไม่ขุ่น หรือ มีสีน้ำเงิน
    เขียว ส้ม แดง ม่วง สีที่เห็นได้แล้วแต่จริตเดิมในอดีตของตน รายละเอียดค่อยว่ากันอีกที..

    ๒.เป็นลักษณะคล้ายวงกลม แต่ว่ามันไม่มีขอบชัดเจน คือพอมองรู้ว่าเป็นวงกลม สีตอน
    ที่พอมองเห็นเป็นรูปร่าง เป็นสีขาวธรรมดา ไม่ใส ไม่สว่าง
    การที่คุณมองได้เห็นถึง
    ตรงกลางกลมๆเล็กๆแสดงว่าเป็นคนละเอียดพอสมควร
    และเคยเข้าถึงสมาธิในระดับกำลังสูงถึงขั้นอรูปฌานมาก่อนในอดีตชาติ
    แต่ก็มีบ้างที่บางครั้งเป็นสีอื่นๆแต่ก็ไม่รูป
    ร่างชัดเจนที่แน่นอน เช่น ฟ้าแก่ หรือ ม่วงบ้าง
    ลอยไปมาไม่นิ่ง แต่ถ้าเห็นเป็นสีขาวๆ
    คล้ายๆหรือเกือบๆกลมๆก็มักจะนิ่ง อยู่ในตำแหน่งที่เริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่ครั้งแรก.
    ..นานๆไปบางครั้งมันก็สว่างขึ้นมาได้แบบเราไม่ทันรู้ตัว
    และสว่างเหมือนเปิดไฟนีออน แต่มีเอกลักษณะตรงที่มัน
    จะสว่างรอบๆตัวเราได้ และเป็นแสงสว่างที่ส่องจากบนลงมาล่าง.
    .แต่แสงพวกนี้ไม่มีความเย็น..และเรามักจะมองไม่เห็น
    จุดกำเนิดของแสง นึกภาพเรารู้ว่าเป็นแสงจาก
    ไฟฉายแต่เรามองไม่เห็นตัวไฟฉาย. แต่พอคาดคะเนได้ว่ามัน
    มาจากทางด้านขวาของศรีษะทางด้านบนมุมสูง..ประมาณนี้ครับ..

    ถ้าเป็นข้อ ๑ แสดงว่าจิตมีจริตไปทางทิพยจักขุฯ สามารถฝึกกรรมฐานกองอื่นๆได้ง่าย
    ถ้าเป็นข้อ ๒ แสดงว่ามีครูบาร์ทางภพภูมิ ที่จะมาสอนสมาธิให้และก้าวเข้าสู่กำลังสมาธิระดับสูงต่อไปได้
    ให้พิจารณาดูดีๆว่า เข้าข่ายข้อไหน..จะได้แนะนำได้ตรงทาง
    ปล. ขอบคุณครับ..
     
  6. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    ลองหลับตา ทีละข้าง
    คือถ้าเกิดจากจอประสาทตาหรือความดันในลูกตา
    มันจะไม่เป็นพร้อมกันสองข้าง
    ลองหลับตาสลับกัน
    แต่ถ้า มันไม่ใช่ที่ตามันสว่างที่อื่นไม่ใช่ตาแน่ๆ
    ก็ไม่ใช่ตาหละครับ

    ผมประสาทแด๊กกะเรื่องพวกนี้ ไม่ขออธิบาย

    ถ้าหลับตาที่ละข้าง มันสว่างที่อื่น เพราะถ้าเป็นที่จอประสาทตาหรือความดันในลูกกะตา
    จะสว่างข้างใดข้างหนึ่ง
    มันไม่น่าจะเป็นสองข้างพร้อมกัน

    ถ้าเป้เนสองข้างพร้อมกัน หลับตาทีละข้างหรือเอามือปิดตาที่ละข้าง
    อย่างน้อยตำแหน่งของ รอยสว่างต้องไม่ตรงกัน
    ถ้ารอยของความสว่างขอบตรงกัน ไม่ว่าจะหลับตากี่ข้าง
    ตรงกันก็ เป็นที่อื่นๆ
     
  7. lillie

    lillie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +323
    น่าจะประมาณข้อ2 ค่ะ เห็นเป็นกลมๆสีขาว บางทีก็เป็นสีส้ม ลอยไปลอยมาส่วนมากจะมาทางฝั่งซ้าย แต่ถ้าเป็นสีขาวจะสว่างอยู่ที่เดิม กลางหว่างคิ้ว สักพักจะสว่างจ้าใสเหมือนเรามองเห็นภาพทุกอย่างภายในห้องว่าอะไรอยู่ตรงไหน คนในบ้านนอนท่าไหน ถ้าอาการแบบนี้เกิดขึ้นจะทำให้รู้สึกเวียนหัว บางครั้งรู้สึกชาไปทั้งตัว ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันค่ะ ไม่รู้จะแก้ยังไงเหมือนกัน
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ไม่ได้ถามว่าจะแก้ยังไง..หรือเพียงแค่อยากรู้อาการเฉยๆครับ..
    แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับเกิดกับใครก็ย่อมสงสัยเป็นเรื่องธรรมดา
    ..งั้นต่อไปนี้ถือว่าเล่าๆให้ฟังแล้วกันครับ..
    ปกติคนที่ไม่ได้เคยฝึกสมาธิอย่างจริงจังมาก่อนแล้วสามารถ
    เกิดกิริยาอย่างนี้..ถือว่าเป็นบุคคลที่มีของเก่าทางด้านทิพยจักขุ
    มาใรระดับการเห็นภาพ..ด้วยตาเปล่าแบบที่ลอยอยู่หน้าตัวได้
    สามารถเห็นเป็นเรื่องราวได้คล้ายๆภาพสไลด์.เหมือนๆลืมตา
    หนังกลางอากาศครับ...

    อาการเวียนหัวตัวชา เป็นเรื่องปกติครับ..เนื่องจากการเห็นในระดับนี้
    ถ้าปกติทั่วไปเรามาฝึกจะต้องเข้าถึงสมาธิระดับสูงก่อน.ส่วนผลจะเกิด
    อย่างที่เล่าให้ฟังในเวลาปกตินั้น..ระดับกำลังใช้งานปกติมันจะเข้าสู่ระดับ
    เทียบกับฌาน ๑ ครับ.คือเห็นอย่างที่เป็นได้ แต่อีกนัยยะหนึ่งก็ยังคง
    คิดๆได้เป็นปกติ..แต่ว่าก็ไม่หลุดจากอาการตรงนั้น..ถ้าคนฝึกตามขั้น
    อย่างนี้จะไม่มีอาการเวียนหัว ตัวชาครับ แต่ว่าก็ฝึกไม่ใช่ว่าจะง่าย..

    แต่กรณีที่เราเกิดทำได้เลย..เนื่องจากว่ากำลังสมาธิสะสมของเรายัง
    ไม่เพียงพอ..การไต่ระดับฌานของจิตและผ่านสภาวะร่างกายไม่เคยชิน
    และไม่ได้เป็นไปตามระบบ ทำให้สภาวะร่างกายกายและสภาวะการไต่
    ระดับฌานมันพรวดพราด ทางมองเป็นคลื่นก็คือ มันกระโดดข้ามช่วงคลื่น
    แทนที่มันจะค่อยๆลดลงมา..จึงส่งผลกระทบกับร่างกายอย่างที่เป็นอยู่
    นี้ได้ครับ..
    .
    วิธีแก้ก็คือ ฝึกสมาธิแบบลืมตาหรือหลับตาก็ได้ แต่ว่าใช้
    การมองภาพแล้วจำไว้เป็นหลัก..เพราะอารมย์การเข้าถึงการมองภาพ
    การไต่ระดับจะเป็นแบบเดียวกับอาการที่เป็นอยู่นี้..พอฝึกไปได้ซัก
    พักหนึ่ง.ร่างกายและจิตก็จะเกิดความเคยชิน อาการที่เป็นอยู่นี้ก็จะ
    หายไปได้เองพอเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้นอีกก็จะไม่ส่งผลอะไรครับ..

    ปล.ประมาณนี้ครับ..
     
  9. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ระบบการทำงานของร่างกายมนุษย์ แปลกประหลาดมากๆ สิ่งที่คุณเป็นอยู่หรือประสบอยู่ ไม่ใช่นิมิต ไม่ใช่ขาดสติ แต่เป็นการสร้างภาพหลอน จากความคิด ความต้องการของตัวคุณเอง โดยที่คุณไม่รู้ตัวว่าได้คิด ว่ามีความต้องการ อย่างนั้น หรืออาจจะเกิดจากอาการผิดปกติของ ระบบประสาทตา อันนี้ต้องไปพบจักษุแพทย์ขอรับ

    แก้ไขได้ แต่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จะว่าแก้ไขได้ง่าย ก็ง่ายนะขอรับ เพียงแค่ควบคุมจิตให้หนักแน่น ก็มองไม่เห็นแล้ว แต่อธิบายไม่ได้ว่า ควบคุมจิตอย่างไร เอาเป็นว่า ต้องมีสมาธิ ก็จะสามารถควบคุมจิตไม่ให้มองเห็นภาพหลอนนั้นอีก ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2014
  10. PANG69

    PANG69 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +63

    มั่วอีกแล้ว
    คุยกับคนอื่นรู้เรื่องหรือเปล่านี้
    เค้าคุยเรื่องอะไรกัน



    ทำอะไรดูสถานะการณ์หน่อย ดูตาม้าตาเรือเสียบ้าง รู้จักกาละเทศะเสียบ้าง

    พระไตรปิฎกเป็นของดีของสูง แต่ถ้าคนที่สติไม่ค่อยสมบูรณ์นำไปใช้ผิดกาละเทศะ ก็ไม่สมควรนะ

    ธรรมก็ยังเป็นของดีเสมอ ไม่มีใครคิดลบหลู่หรอกหรือปรามาสธรรม
    แต่คนที่สติไม่สมบูรณ์นั้นก็ก่อกรรมก่อเวรกับตนและคนอื่น
    ด้วยความโง่ของตนเอง

    แม้เอาพระไตรปิฎกทุกอักขระมาโหลดลงสมองเหมือนคอมพิวเตอร์ได้
    คนๆคนนั้นก็โง่อยู่ เพราะ ไม่รู้จักใช้สามัญสำนึกในการพิจารณาความเหมาะสม
    ในการเผยแผ่ธรรม



     
  11. tOR™

    tOR™ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +328
    สันนิษฐานว่า อุปจารสมาธิ ตั้งใจทำสมาธิดีๆ ปรกติมันจะปรากฏแล้วก็หาย แต่ว่ามันจะไม่หายไป ลูกตาหายไปเหมือนไม่มีลูกตา แสงสว่างราวดวงอาทิตย์มีความสุขมาก สวยมาก กรณีถ้าตั้งใจทำสมาธินะ อันนี้ประสบการณ์จริง

    ถึงเจ้าของกระทู้: ระมัดระวังข้อความฟุ้งซ่านและเพ้อเจ้อ จับโน้นผสมนี้ เขียนเรียงความไปเหมือนทำ Lap วิจัยเงินทุนนับหมื่ีนล้าน ไม่ต้องไปสนใจหรือไปต่อความ ถือว่าผ่านไป คนที่เป็นอย่างคุณจะสับสนเปล่า ๆ ครับ
     
  12. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    (1).ผมเป็นทั้งหมดทุกอาการที่คุณ nopphakan กล่าวมา เป็นมา 2-3 ปีแล้วครับ ผมไม่รู้ก็เลยไม่สนใจคิดว่าเป็นเดชของสมาธิเลยไม่พยายามยึดติด พอยิ่งวางอาการยิ่งเกิดบ่อย ผมเลยทำตัวไม่สนใจมัน กลับเป็นว่าทั้งหลับตาลืมตามันก็ยิ่งเห็น(ผมจะเห็นจุดสว่างทั้ง 2 กรณี) แต่ตอนนี้แม้ลืมตามันก็จะสว่างว๊าบขึ้นมาเองขนาดเท่าปลายเข็มสว่างว๊าบเหมือนแสงดาวระยิบนะครับ แต่ถ้านั่งสมาธิก็จะสว่างนานหน่อย วงกลมสีขาวๆขนาดเท่าหัวเข็มหมุด หากเห็นอีกมีวิธีปฏิบัติต่ออย่างไรครับ

    (2). แสงที่แสดงว่าครูบาอาจารย์ทางภพภูมิเกิดขึ้นหลายครั้งครับ แต่ผมไม่ทราบเลยไม่สนใจ หากเกิดขึ้นอีกต้องปฏิบัติอย่างไรครับ
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ข้อที่ ๒ นี้ค่อนข้างสำคัญครับ..ก็คือการยกระดับพัฒนากำลังสมาธิของตัวเอง
    ให้สูงยิ่งขึ้นให้ไปถึงในระดับอรูปฌานให้ได้ครับ..สังเกตุไหมครับว่า
    แม้เราจะถึงระดับที่แสงสว่างรอบตัวเราได้แล้วแต่ระดับสมาธิเราจะยัง
    ไม่ไหนและไม่ก้าวหน้าขึ้น.เพราะถ้ามาถึงตรงนี้ มันจะมีเรื่องต่างๆในอดีต
    ผุดขึ้นมาแทรกและเป็นเหตุให้เราต้องออกจากอารมย์ตรงนี้..
    วิธีแก้คือ ในชีวิตประจำวันควรทำงานที่ได้รับผิดชอบให้เรียบร้อยอย่า
    ให้มีคั่งค้าง..และควรหันมาน้อมพิจารณาอริยสัจ ๔ หรือสังโยชน์ ๑๐
    และการตัดร่างกายเรื่องความยึดหมั่นถือมั่นตนให้เคลืย ถ้าจะให้ดี
    พิจารณาความตายเป็นอารมย์ร่วมด้วยครับ..พอถึงแสงสว่างรอบตัวอีก
    ก็จะเป็นเหมือนการวิปัสสนาด้วยการน้อมเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นจะทำ
    ให้ยกระดับฌานของเราขึ้นไปได้ครับ..มันถึงจะยกระดับได้ของมันเอง
    ถ้าเรามาทางภาวนาปกติก็ไปให้ถึงอรูปฌาน ๔ ครับคือถึงเนวสัญญา
    คิดอะไรไม่ออกหรือไม่เคยอ่านตำราให้สังเกตุแสง
    คือตอนแรกของการไต่ระดับอรูปฌานนั้น
    แสงมันจะค่อยๆสว่างน้อยลงโดยที่อารมย์ยังคงรักษาได้เหมือนเดิม.
    และพอเริ่มไต่ระดับอรูปฌานแสงจะค่อยๆกลับมาสว่างมากกว่าเดิมอีกครั้ง
    ถ้าสว่างได้เท่าเดิมแสดงว่าถึง อรูปฌาน ๓ คือ
    อากิญฯและจะสว่างโล่งมากกว่าปกติคือถึงเนวสัญญาและ
    ตอนนี้จิตของเรามันจะเท่าประมาณเข็ม
    ซึ่งต้องอาศัยความเพียรพอสมควรครับ
    ถ้าทำถึงได้ก็โมทนา
    ส่วนถ้าจะขึ้นด้วยสายวิชาเดินธาตุก็จะอาศัยการตั้งธาตุก่อน
    แล้วใช้การหมุนธาตุที่ตั้งต้นให้ได้ก่อน.ส่วนหลักการสังเกตุ
    และวิธีการในการสังเกตุจะคล้ายคลึงกันครับ..เอาไว้เล่าให้ฟัง
    ในโอกาสต่อไปครับ.
    .

    ปล.ประมาณนี้ก่อนนะครับ
     
  14. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908

    ตัวแดงๆ ผมคิดว่าบางส่วนใช่ที่ผมพบอยู่ ผมเคยพบแสงสว่างเหมือนไฟนีออนแค่ครั้งเดียว ต่อมาก็จะเป็นในรูปของแสงที่มาจากเหนือศรีษะยิงเฉียงผ่านมุมบนตาขวาลงมาและรู้สึกถึงความสว่างของแสงรอบตัวบ้าง แต่ไม่ขนาดเท่าแสงไฟนีออนเหมือนก่อน มันสว่างลางๆนะครับ และก็มีเรื่องอดีตผุดๆ ขึ้นมาหล่ะครับ ผมมาถึงตรงนี้ติดตรงนี้อยู่ ก็พิจารณาสังโยชน์ตามที่คุณ nopphakan แนะนำแต่ยังไม่ก้าวหน้าครับ เพราะเพิ่งเริ่มทำ อิอิ นั้นก็หมายความว่า


    1. มีครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์กำลังมาช่วยผลักเตะผมอยู่ใช่ไหมครับ
    2. ผมไต่อยู่ระหว่าง อุปจารฯ และ ฌาน1(หยาบ) เกิดแสงสว่างลางๆ แล้วเรื่องอดีตมันก็ผุดมาเรื่อยๆๆ // ต่อไปการพัฒนาจิตต้องพิจารณาสังโยชน์ต่อจนจิตเข้าไปที่ฌาน4 เกิดแสงสว่างมาก ใช่ไหมครับ
    3. เมื่อผมพิจารณาสังโยชน์อยู่ แต่กายกับจิตยังไม่แยกขาดออกจากกันหมด แต่เริ่มเกิดเวทนาปวดแข้งปวดขามาก (คือผมจะทั้งปวดขา+เกิดปิติผสม) คือช่วงนี้สมาธิจะขึ้นๆลงๆ นั่งประมาณ 1 ชั่วโมง ปวดแข้งขามากต้องออกจากสมาธิ ทำให้ผมพิจารณาสังโยชน์ได้ไม่กี่รอบ ผมจะต้องแก้ไขยังไงครับ
    4. ช่วงดึกวันนี้ผมนั่งสมาธิก็เห็นวงกลมขาวๆลางๆขอบไม่ชัดมีจุดดำเท่ารูเข็มตรงกลาง (หลายครั้งตอนลืมตาก็เป็นเห็นจุดดำเท่ารูเข็มเกิดขึ้นมาแต่เป็นวงกลมขาวหรือไม่ไม่แน่ใจครับเพราะเป็นตอนลืมตากลางวัน) นั้นหมายถึงในอดีตชาติผมเคยได้อรูปฌานมาก่อนหรือครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2014
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ขอเสริมเพิ่มเติม..กิริยาที่เราเห็นข้อ ๔ นี้สำคัญมากนะครับ..พอจิตเราไต่ระดับ
    ฌานที่ ๑ ขึ้นไปแบบไม่รู้ตัวถึงฌาน ๔ แล้วนั้นจะเหลือแต่ดวงจิตเท่านั้นและ
    ก็จะแยกกับกายเด็ดขาดชั่วคราวแล้ว..เราจะเห็นรูดำๆตรงนี้ได้.
    ไม่ว่าจะฝึกแบบลืมตาก็จะทราบได้ครับ..แต่ไม่ควรกำหนดให้
    จิตให้พุ่งออกไปเข้าตรงรู้นี้นะครับ.
    จะอันตรายมากนอกจากขอบารมีครูบาร์อาจารย์ร่วมด้วย
    หรือนั่งฝึกอยู่กับครูบาร์อาจารย์ที่เป็นฆารวาสและอยู่ในสถานที่ๆ
    ที่มีกำลังครูบาร์คอยส่งเสริม..ซึ่งยังไม่ใช่สำหรับกรณีคุณครับ
    แต่ก็จะแนะนำว่าห้ามทำครับเพราะเคยเห็นตัวอย่างมาแล้วหลายราย.
    .
    กรณีคุณควรใช้กำลังสติทางธรรมควบคุมจิตไว้แล้วดึงรูพวกนี้
    เข้ามาหาจิตแทนจะเป็นการฝึกที่ไม่หนีภายใต้กายตนเอง
    .และจะมีความปลอดภัย.จากนั้นการจะไต่ระดับ
    อรูปฌานไปถึงขั้นไหนให้สังเกตุจากแสงที่จะค่อยๆสว่างขึ้นครับ.
    ส่วนอรูปฌานขั้นสุดท้ายเป็นยังไงส่วนตัวไม่สามารถแนะนำ
    ได้ครับเพราะยังเข้าไม่ถึง..บอกได้ประมาณนี้ครับ.
    .ส่วนหลักสังเกตุเรื่องแสงนี้ใช้สังเกตุใน
    กรณีที่ฝึกแบบลืมตาได้ด้วยครับ..หลักๆจิตจะทำงานเมื่อเห็นแสง
    หรือเมื่อเห็นเส้นสายครับ..กรณีเป็นกรณีใช้แสงเป็นตัวนำครับ..

    ปล.ประมาณนี้ครับ.ลองๆอ่านดูคิดว่าน่าจะพอจับหลักการได้นะครับ..
     
  16. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    อิอิ คือผมจะบอกว่าเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งครับ แต่ไม่ใช่ตอนมีสติ(ช่วงหลับสลึมสลือ) มันเกิดวงกลมขาวรูดำแล้วเผลอไปเพ่งมัน มันเลยสว่างจ้าเหมือนดาวประกายพรึกแล้วเล็กเท่าปลายเข็มแล้วมันก็ดูดกระซวกไอ้ตัวที่อยู่ข้างในออกมาทางรูเข็มนั้นหล่ะครับ(รู้สึกมันจะออกมาทางหน้าผากนะครับ) ตอนนี้ก็ยังจำความรู้สึกนั้นได้ยังกลัวอยู่เลยครับ หากเกิดขึ้นอีกจะทำอย่างไรครับ
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    มาถึงตรงนี้มีให้เลือก ๒ ทางครับ
    ๑.คือต่อยอดตรงหน้าฝาก
    ข้อดีคือใช้กำลังจิตบังคับง่ายกว่า แต่มุมในการมองเห็น
    สภาพแวดล้อมจะไม่กว้างมากครับ คือยังคล้ายวงกลม
    ทิศทางการเห็น บน ล่าง ซ้าย และขวา จะยังมีขอบจำกัด
    ๒.ย้ายมาต่ำแหน่งหน้าอกครับ ข้อดีคือ มุมในการเห็นกว้าง
    และขยายได้ทุกทิศ และตรงนี้เมตตาต้องผ่านถึงจะทำได้ด้วยครับ
    แต่ว่าการบังคับจิตจะยากกว่าตรงหน้าฝากครับ.

    ทำ ๒ ได้ การขยายวงรอบการหมุนตรงหน้าฝากจะกว้างและ
    ขยายออกไปด้านนอกได้เป็นปกติครับจะไม่หน่วงๆติดอยู่แค่ที่ผิวหนัง
    จะวิธีไหนก็ได้ครับขอให้อยู่ที่ฐานกาย แต่ส่วนตัวตอนนี้เลือกใช้ทั้ง๒ วิธีครับ
    เลือกวิธีที่ ๒ เพราะจะได้ตรวจสอบเมตตาไปในตัวและฝึกยกระดับฌานครับ
    วิธีที่๑ ใช้เพื่อฝึกปั่นนิมิตรหรือกรณีฝึกวิชาเดินธาตุแบบลืมตาครับ
    ทั้งสองวิธีได้รับการถ่ายทอดตรงมาจากพระอาจารย์สายในดงในทางภพภูมิ
    และได้รับถ่ายทอดทางอ้อมจากสายผู้เป็นใหญ่แห่งเมืองบาดาล ขออนุญาต
    ไม่เปิดเผยชื่อท่านผู้เป็นครูบาร์อาจารย์ อ่านๆที่ผมเคยเขียนบทความมา
    คาดว่าพอจะคาดคะเนได้ แต่ส่วนตัวไม่ชอบกล่าวอ้างอิง
    เกรงว่าหากผมเลวอาจทำให้ท่านเสื่อมเสีย เพราะฉนั้น
    ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดขอผมรับไว้เอง

    ปล.หวังว่าจะพอจะเข้าใจที่ไม่สามารถแนะนำครูบาร์ที่สอนให้คุณ ธรรมมนุษย์
    ได้นะครับเพราะอยู่เหนือวิสัยที่ผมจะทำได้
    แต่เราคุยกันถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในทางปฎิบัติได้
    ขอบคุณครับ
     
  18. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    รับทราบครับ อิอิ วันหนึ่งผมอาจจะพบครูบาอาจารย์ทางภพภูมิของผมจริงๆ เหมือนคุณ nopphakan ผมหวังลึกๆให้เป็นท่านองค์นั้น อิอิ แต่ตอนนี้ต้องเอา basic ให้แน่นก่อน ไม่งั่นฝันสลายแน่นอน ขอบคุณครับ
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    คริ คริ ผมคิดว่าคุณธรรมมนุษย์กับผม
    น่าจะเป็นศิษย์
    ท่านพระอาจารย์องค์เดียวกัน
    อย่างคาดไม่ถึงนั่นหละครับ
    .
    .;)
     
  20. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    อ้าว!! แอบรู้อีก อิอิ รอให้ผมติดต่อท่านได้ก่อนจะฟ้องท่านอาจารย์ว่าโดนศิษย์พี่แกล้ง :boo: ผมคิดอยู่แล้วว่าคุณ nopphakan จะต้องกลับมายืนยันให้ผมมั่นใจว่าเป็นท่านจริง สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...