รวมภาพพระบรมธาตุและพระอรหันตธาตุต่างๆเพื่อการศึกษา

อันนี้ประสปการณ์โดยตรงของผมครับ
........................

ผมตอบไปว่า......(จำไม่ได้แล้ว....แฮ่)

ผมตอบไปว่า......เอามีดหมอวัดโขงขาวมาแลกสิคร้าบบ(ว่าไปงั้น..ถ้าแน่จริง5)

ผมตอบไปว่า......( โต้งไหนหรอไม่รุ้จัก

ผมตอบว่า.....พระท่านหนึ่งทีเชียงใหม่

ผมตอบไปว่า...... ไปขอถ่ายท่านมาไว้เป้นวิทยาทาน อัฐิครูบาหรอความลับของประเทศชาติ (มั้งประมาณนี้)

ผมตอบไปว่า....ไม่ได้ไม่ให้(ฉานหวงงงงงงงง) อีกหน่อยจะคงได้ถวายวัดไปตามระเบียบ


เขาตอบมา........................เอ่...ผมลบไปละ (แป่ววว)




.............................มีแค่นี่อะคร้าบ นึกแล้วยังขนลุกอยู่เลย ดีไม่โดนไถ..........................

 

เรื่องนี้ เจอกับตัวครับ พอดี ได้รับโทรศัพท์คืนวันที่ 31 ธค. 2551 เกือบๆเที่ยงคืน เลยสอบถามไปยัง พระที่ท่านโดนไปครับ

ได้ความว่า ให้คุณพ่อพาไปหาที่วัดครับ แล้ว ก็ บอกว่า จะมาขออัฐิ บอกเจ้าอาวาสว่า รู้จักับครูบาท่านนั้น หมอท่านนี้ แล้วก็ไปยัง โต๊ะหมู่พระธาตุในกุฏิของพระที่ท่านดูแลอยู่

ซึ่งไม่มีความสำรวมเดินไปเดินมา เอาเท้าไปโดนพระสิวลี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แล้วก็ ขอดูในผอบ มีชิ้นอัฐิ แล้วก็ขอ (พระที่ท่านดูแล บอกกับผมว่า เป็นชิ้นส่วนที่ท่านคัดแยกเอาไว้บูชา ซึงท่านก็พูดไม่ออก เลยบอกว่าให้ไปขอกับเจ้าอาวาสเอง)
ท่านเจ้าอาวาส ก็เมตตาเห็นว่าเป็นเด็ก เลยให้ไป แต่ พฤติกรรมแบบนี้ อ้างว่าเป็นเด็ก มีศรัทธาในตัวพ่อแม่ครูบาอาจารย์ มาขอแบบ "ปล้น" ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่ามันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

และไปรบกวนพระท่านไม่ต้องอันภาวนา ขอเบอร์โทร.แล้วก็โทรคุยเป็นครึ่งชั่วโมง เป็นชั่วโมง

และได้ข่าวจากอีกหลายวัดว่าไปตระเวนทางภาคเหนืออีกหลายวัดเลยครับ

และจะขอความเห็นต่อท่านที่มาอ่านกระทู้รวมถึงเจ้าของกระทู้ ผมขออนุญาตลบ รูปพระธาตุ อัฐิธาตุ ของ ครูบาอาจารย์ที่ผมลง

ในการลงรูปพระธาตุ อัฐิธาตุ ของ ครูบาอาจารย์นั้นเป็นการเผยแผ่คุณธรรมความดีของท่านเหล่านั้น ไม่ได้มีเจตนาในการโอ้อวดว่า มีพระธาตุมากมาย

แล้วเหมือนเป็นดาบสองคมทำให้มีคนไปตระเวนตามวัดต่างๆที่ผมลงรูปพระธาตุ หรือ อัฐิครูบาอาจารย์ ไปทำพฤติกรรมเช่นที่ว่านี้ ไปรบกวน และก่อความไม่สงบต่อพระ เณร

เป็นการทำลายชื่อเสียงมาสู่ผู้ที่บูชาพระธาตุ ทำให้คนอื่นหรือพ่อแม่ครูอาจารย์จะมองว่า มาวัดเพื่อมาขอพระธาตุ อัฐิธาตุ อย่างเดียวกระนั้นหรือ

ฝากเอาไว้คิดนะครับ

 

" ความรู้จัก ประมาณในสิ่งต่างๆ ที่เราคิดอยู่ ทำอยู่ ทั้งหยาบและละเอียด ชื่อว่าเป็นธรรมอย่างยิ่ง "

"ความไม่ประมาณตน ไม่รู้จักตน ย่อมนำมาซึ่งความทุกข์ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น "

" จงสำรวม กาย วาจา ใจ ให้รู้จักคำว่าประมาณในสิ่งที่ตนมี จะเป็นบุญกุศลต่อใจของเราเองและผู้ที่อยู่รอบข้างด้วย "

 

" ถ้าบ่ฮู้จักปอ ก็ตุ๊กเต๊าต๋าย "
( ถ้าไม่รู้จักพอ ก็เป็นทุกข์จนวันตาย )


คำสอนจากครูบาอาจารย์โพ้มมมมมมมม

 

สงสัย คงมีอีกหลายๆๆท่านที่โดนแบบนี้

เค้าก็เคยจะมาไถ จีวรกะเกศา หลสงพ่ออุตตมะ แต่ผมปฏิเสธไปว่าไม่มีเกศา

มีแต่จีวรของท่าน เลยเงียบๆๆไป

 

โดยส่วนตัวแล้วผม ผมไม่รู้จักกับเขา แต่เหตุที่ต้องเอาเรื่องนี้มาโพส ก็เพื่อให้เขารู้ตัว หยุดคิดถึงตัวเองสักหน่อย เพราะเรายังห่างไกลอะไรหลายๆอย่าง เราไม่ควรสำคัญตัวเองมากไปนัก


..........................................



พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 246

๕. ตมสูตร

ว่าด้วยบุคคลในโลก ๔ จำพวก

[๘๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้มีปรากฏอยู่ในโลก

บุคคล ๔ จำพวกคือใคร คือ

ตโม ตมปรายโน บุคคลมืดมาแล้ว มีมืดไปภายหน้า

ตโม โชติปรายโน บุคคลมืดมาแล้ว มีสว่างไปภายหน้า

บุคคลมืดมาแล้ว มีสว่างไปภายหน้า

โชติ ตมปรายโน บุคคลสว่างมาแล้ว มีมืดไปภายหน้า

โชติ โชติปรายโน บุคคลสว่างมาแล้ว มีสว่างไปภายหน้า

........................................

โปรดให้ลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ
พระอานนท์เถระ ได้ทูลถามพระบรมศาสดาว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระฉันนะถือตัวว่า เป็นข้าเก่า ติดตามพระองค์คราวเสด็จสู่มหาภิเนกษกรม เป็นผู้ว่ายาก ไม่รับโอวาทใคร ๆ แม้จะกรุณาเตือน เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว จักเป็นผู้ว่ายากยิ่งขึ้น ด้วยหาผู้ยำเกรงมิได้ ข้าพระองค์จะพึงปฏิบัติแก่ท่านอย่างไร ในกาลเมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว"
"อานนท์ เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว สงฆ์พึงลงพรหมทัณฑ์แก่ฉันนะเถิด"
"พรหมทัณฑ์ เป็นไฉนเล่า พระเจ้าข้า"
"อานนท์ การลงพรหมทัณฑ์ นั้น คือ ภิกษุทั้งหลาย ไม่พึงว่ากล่าว ไม่พึงโอวาท ไม่พึงสั่งสอนเลย ไม่พึงเจรจาคำใด ๆ ด้วยทั้งสิ้น เว้นแต่คำอันเป็นกิจธุระโดยเฉพาะ อานนท์ เมื่อฉันนะถูกสงฆ์พรหมทัณฑ์แล้ว จักสำนึกในความผิด และสำเหนียกในธรรมวินัย เป็นผู้ว่าง่าย ยอมรับโอวาท ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมแล"

 

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๒ ขอประเดิมรูปคนแรกของปีนี้นะค่ะ อิอิ
(ครูบาพรรณ พรหมเสโน) วัดพระบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

 

พระครูประสิทธิธรรมญาณ (แบน กนฺตสาโร) วัดมโนธรรมาราม(นางโน). ต.ม่วงชุม อ. ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

 

ความสำนึก

ตอนนี้ท่านผู้นั้น ได้นำพระธาตุชิ้นนั้นมาคืนวัดแล้ว ด้วยความไม่สบายใจ และได้มาขอโทษขอขมาต่อทางวัดแล้ว ทางวัดจึงขอให้ท่านมีความสำรวมระวังให้มาในโอกาสต่อไป

 

ขอความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในการอบรมผู้ที่ยอมรับนับถือกันเป็นพี่เป็นน้อง

เมื่อผมได้รับทราบข้อมูลมาจากเพื่อนที่ปราถนาดีว่าน้องได้ไปขออัฐิธาตุที่วัดในเชียงใหม่ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะยิ่งของพระท่านโดยไม่ทราบว่าอัฐิธาตุที่ขอมานั้นจะเป็นเหตุให้เกิดบทความต่างๆที่สะเทือนใจน้อง ซึ่งในขณะนั้นผมก็ได้โทรไปบอกและเตือนให้ทราบว่าการกระทำใดๆก็ตามทั้งที่เจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี ย่อมมีผลต่อเราถ้าขาดสติ และขาดการพิจรณาในเรื่องนั้นๆ ผมบอกน้องว่าถ้าเป็นพี่การที่เราไปขอความเมตตา กรุณา จากใครก็ตามเราเป็บผู้ขอ เราไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง ว่าต้องการอะไร มากน้อยเท่าไร ต้องขึ้นอยู่ที่เขาจะเมตตาเราอย่างไร ก็ สุดแล้วแต่เขา เมื่อผมรู้ว่าน้องได้ไปขอกับท่านเจ้าอาวาสก็จริงแต่ก็ต้องให้ความเคารพพระที่ท่านดูแลอัฐิธาตุด้วยเพราะเมื่อเราได้มาโดยที่ท่านเองก็ไม่สามารถบอกว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญกับท่านด้วยวิสัยความเป็นพระ ท่านจึงให้ไปขอกับท่านเจ้าอาวาสซึ่งก็ได้รับอนุญาติ ทำให้น้องเขาคิดว่าการได้มานั้นเขาไม่ได้ทำผิดตรงไหน แต่ผมได้ให้น้องเขาคิดดูให้ดีและให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่าถ้าทำตามพี่บอกน้องจะไปที่ไหนก็จะไม่เกิดปัญหา ผมเลยถามว่าจะทำอย่างไร น้องตอบว่าผมจะทำตามที่พี่บอกเพราะที่ผ่านมาผมไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรเหมาะสมที่สุด ผมก็ทำตามอย่างที่คนอื่นที่ผมรู้จักเขาทำกัน แต่น้องเขาว่าจะนำไปถวายคืน แล้วขอเมตตาพระท่านมอบชิ้นอัฐิให้ใหม่ น้องบอกผมว่าจะเชื่อฟังและพยายามปรับปรุง แก้ไข มารยาท นิสัย คำพูด กาละ เทศะ ผมบอกว่าดีกับน้องเองแต่ต้องใช้เวลาผมเป็นกำลังใจ และให้คำปรึกษา เรื่องการขออัฐิธาตุในครั้งนี้ทางชมรมฯไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงเรียนมาเพื่อทราบ(ปราโมช ประสพสุขโชคมณี)mochiii999@hotmail.com(๐๘๖-๓๓๗-๔๒๕๕)

 

เวลาคนเขาสำนึกผิดนี่.....................ให้คนอื่นเป็นคนมาขอโทษขออภัยแทน หรือครับ
ธรรมเนียมของประเทศไหน คนเราสำนึกผิดจริงๆเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก ให้คนอื่น

มาแก้ข่าวให้ (ไม่น่าจะเรียกว่าขอ)

ต้องขออภัย ที่พรหมวิหาร4 ในตัวผมมีระดับดีกรีกว่าคนปกติ(ในเวลานี้) แม้ตัวผมก็ไม่ใช่ว่าประเสริฐเป็นก้อนเงินก้อนทองแล้วมองเห็นคนอื่นเป็นก้อนดินก้อนหินไปเสียหมด ผมก็ขี้งกอยู่มากเหมือนกัน แต่ขี้งกแบบมีบรรยะบรรยัง ไม่ได้ขี้งกแบบผิดคนที่ไม่เคยมีสายเบรคไว้เป็นอะไหล่ในใจเลย

ส่วนเรื่องนี้ ที่มาทีไปยังไง ต้องให้คุณบี ออกมาแถลงการครับ

ขออภัยที่ผมไม่มีนโยบายประณีประนอมในเวลานี้ ทำที่อื่นไม่ว่า แต่มาทำที่วัดผมเคารพนับถือตั้งแต่สมัยเรียน ปี1แล้ว ทนไม่ได้

ท่านผู้อ่านละครับ คิดเหมือนผมไม๊ ???????????

 

กราบขออภัยท่านผู้ใหญ่ที่ออกมาช่วยประณีประนอมนะครับ ขอโมทนาในอภัยทานทุกท่านครับ

 

น้อยบอยครับใจเย็นๆครับ

น้องกรครับ เมื่อเราผิดพลาดทุกคนพร้อมให้อภัยน้องกร เพียงแต่น้องกรควรออกมาเขียนรับผิดชอบและขออภัยครับสิ่งเหล่านี้เป็นหนทางเบื้องแรกของการพัฒนาจิตใจของเราให้สูงขึ้น กับสิ่งที่เราทำลงไป ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่เรากระทำผิดพลาด แต่เราควรยอมรับผิด ทุกคนก็จะกลับมาให้อภัย ไม่ควรปล่อยให้เรื่องราวเงียบหายไปโดยไม่ชี้แจงนะครับ

ขอให้น้องกร กล้าหาญพอที่จะกระทำในสิ่งที่ดีเหล่านี้นะครับ ทุกคนรอดูน้องกรอยู่ พี่จะเป็นกำลังใจให้

การที่เรารู้ว่าเราผิด และยอมรับผิด คือคุณธรรม ที่จะทำให้จิตใจของเรา ก้าวสู่ความสำเร็จนะครับ

อดุลย์ เมธีกุล

 

ชื่อกรหรือครับ ???

 

โห ขนาดนั้นเลยหรอครับไม่ถึงขนาดต้องแถลงการณ์ หรอกครับ เรียกว่า พูดเรื่องจริงดีกว่าครับ