รักษาโรคด้วยตนเอง โดยใช้พลังแสง(โพสต์แรกนะคะ)
ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ติงติง, 6 ธันวาคม 2012.
หน้า 16 ของ 35
-
ภาพจากโพสต์ที่ ๓๐๕ เป็นต้นมามีประโยชน์มากนะคะ
-
เพิ่งเข้ามาเจอกระทู้นี้ค่ะ น่าสนใจ แต่ด้วยความอ่านหนังสือไม่แตกของเรา ขอถามนิดนึงค่ะ ขั้นตอนรับพลังงานนั้น เปิดคลิปยูทูปแล้ว แบมือทั้งสองข้าง แล้วให้นั่งใกล้ๆจอ ตาจะต้องจ้องมองไปในคลิปที่จุดแสงนั้นหรือไม่คะ หรือว่าแค่แบมือ แล้วนั่งใกล้ๆ หน้าคอมพ์และเปิดคลิปไว้เท่านั้น งงค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จะหาว่าโง่ ก็ถามโง่ๆละคะ ไม่ถามก็ไม่รู้
-
ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมกระทู้นะคะ
คุณpiralrat ถ่อมตัวมากเหลือเกินค่ะ
ติงเองต่างหากที่อธิบายไม่ชัดเจน
กราบขออภัยด้วยนะคะ
คุณpiralratเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ
ขณะรับพลัง จะลืมตา หรือหลับตาก็ได้ค่ะ
แล้วแต่ชอบและความสะดวกที่จะทำนะคะ
หลายท่านก็หลับตา เพราะจิตจะได้นิ่ง เป็นสมาธิ
หลายท่านก็ลืมตาค่ะ
ได้ทั้งสองอย่าง
หากคุณpiralratสงสัยอะไร ก็ถามมาได้ตลอดนะคะ
และหากรับพลังแล้ว
เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไร
ก็เรียนเชิญมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์นะคะ -
อาหารที่กินคู่กัน ...อันตราย!!!
1. หัวไชเท้ากับเห็ดหูหนู ทั้งดำและขาว - ห้ามรับประทารด้วยกัน จะเป็นโรคผิวหนัง
2. เต้าหู้กับน้ำผึ้ง - ห้ามรับประทานด้วยกันจะทำให้หูหนวก
3. มันฝรั่งกับกล้วยทุกชนิด - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้หน้าเป็นฝ้า
4. หัวไชเท้ากับผลไม้ทุกชนิด - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เกิดคอพอก
5. กล้วยกับเผือก - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้ท้องอืด
6. มันเทศกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร
7. กล้วย+มะละกอ+แตงโม - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เป็นโรคไตกับโรคเบาหวาน
8. มันฝรั่งกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เป็นนิ่วในท่อปัสสาวะ
9. น้ำเต้าหู้กับนมสด - ห้ามใส่ไข่ เพราะจะทำให้ท้องผูกและเส้นเลือดตีบ
10. ผักป๋วยเล้งกับเต้าหู้ - ห้ามรับประทาน กับเต้าหู้ จะทำให้เป็นนิ่วที่ไขสันหลัง
11. น้ำผึ้ง - ห้ามชงด้วยน้ำที่ร้อนจะทำให้เสียวิตามิน
12. ส้มกับมะนาว - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้กระเพาะทะลุ
13. ปลาทุกชนิด - ห้ามต้มกับผักกาดดอง จะทำให้เป็นโรคมะเร็ง
14. ขิงดอง - ห้ามเข้าตู้เย็น กินแล้วจะเป็นโรค มะเร็ง
15. น้ำเต้าหู้ - ห้ามใส่น้ำตาลแดง จะทำให้เสียวิตามิน
16. น้ำข้าว - ห้ามใส่กับนม จะทำให้เสียวิตามิน
17. บวบ ซือกวย ไชเท้า - ห้ามรับประทานวันเดียวกัน จะทำให้เป็นเบาหวาน ทำให้เชื้ออสุจิอ่อนไม่แข็งแรง
18. มังคุดกับน้ำตาล - กินรวมกันจะทำให้เสียชีวิต
19. ถั่วลิสงกับฟักทอง - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้ทำร้ายร่างกายและลำไส้อักเสบ
20. เหล้าขาวกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เป็นพิษ
21. เหล้าขาวกับเบียร์ - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
22. กินทุเรียนกับน้ำอัดลม - ให้พิษร้ายมากกว่าพิษงูเห่า!
มีนักท่องเที่ยวชาวจีนวัยเพียง28ปีรายหนึ่ง ตอนมาเที่ยวเมืองไทยได้รับประทานทุเรียนไปจำนวนมากหลังจากนั้นก็ดื่มน้ำอัดลม สารคาเฟอินในน้ำอัดลมก่อให้เกิดความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หัวใจวายอย่างเฉียบพลัน
ประเทศไทยได้ออกกฎอย่างชัดเจนไว้ว่า ภายใน 8 ชั่วโมงหลังจากการรับประทานทุเรียนเป็นจำนวนมาก ห้ามดื่มน้ำอัดลมเป็นอันขาด!!
ทุเรียนก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะสูงเลยทีเดียว -
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=q4usJJitsdo]035 - YouTube[/ame]
-
โพสต์ที่ ๓๑๕ แค่ไปอ่านมานะคะ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่ค่ะ
-
ขอวางไว้ที่โพสต์นี้ เพื่อความสะดวกในการฝึกทางโทรศัพท์นะคะ -
วันนี้เข้ามาขอรับพลังค่ะ ขอบคุณมากค่ะ __/I\__
-
ใกล้หน้าหนาวแล้ว อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเรื่องโรคก็เข้ามาถามหาได้ง่ายขึ้น โรคปอดบวมเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบมากในหน้าหนาวนี้ ปัญหาอาจเกิดจากอาการแทรกซ้อนของหวัด แก้ป้องกันเบื้องต้นโดยการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนแออัด พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย และไม่อยู่ใกล้ผู้ป่วย -
มันฝรั่งทอดชนิดแผ่น มันฝรังแผ่นทอดกรอบต่างๆ อุดมไปด้วยไขมันและแคลอรี่ ที่สำคัญเค็มมาก ทั้งหมดนี้แทคทีมกันทำร้ายสุขภาพ ทางที่ดีควรกินให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเท่ากับจะได้หนีจากปริมาณไขมันและแคลลอรี่ในปริมาณที่ร่างกายเกินต้องการ และไปลงท้ายด้วยการสะสมในน้ำหนักจนพุ่งกระฉูด ซึ่งจะนำไปสู่โรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอีกสารพัดมันฝรั่งทอดชนิดแผ่น มันฝรังแผ่นทอดกรอบต่างๆ อุดมไปด้วยไขมันและแคลอรี่ ที่สำคัญเค็มมาก ทั้งหมดนี้แทคทีมกันทำร้ายสุขภาพ ทางที่ดีควรกินให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเท่ากับจะได้หนีจากปริมาณไขมันและแคลลอรี่ในปริมาณที่ร่างกายเกินต้องการ และไปลงท้ายด้วยการสะสมในน้ำหนักจนพุ่งกระฉูด ซึ่งจะนำไปสู่โรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอีกสารพัด -
พ่อแม่ช่วยการเรียนรู้เรื่องอารมณ์ของเด็ก
อแม่ควรทำอย่างไร เมื่อลูกในวัย 2-3 ปี มีอารมณ์ขึ้นลงเร็ว โกรธโดยไม่มีสาเหตุ วันนี้เรามีวิธีการง่ายๆ ด้วยการใช้สติเพื่อทำให้ลูกสงบ แล้วจึงพูดคุยเบี่ยงเบนความสนใจของลูก
เด็กวัย 2-3 ขวบมักมีอารมณ์ขึ้นลงเร็ว บางครั้งอาจโกรธ โดยไม่รู้สาเหตุ อย่างไรก็ตามอาการโกรธของเด็ก เป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่าเด็กสามารถแสดงอารมณ์ของตนให้ผู้อื่น รับรู้ได้
จึงเป็นโอกาสที่พ่อแม่จะช่วยพัฒนาให้ลูกรับรู้อารมณ์ของตนเอง และรู้จักการควบคุมอารมณ์ตนเองอย่างถูกวิธี เริ่มต้นพ่อแม่อาจให้ลูกได้อยู่กับอารมณ์ของตนเอง เมื่อลูกสงบจึงค่อยพูดกับลูกด้วยเหตุผล เพราะหากพ่อแม่เข้าไปพูดคุยซักไซ้ว่าทำไมลูกเป็นอะไรโกรธใครมา อารมณ์ของลูกจะยิ่งเพิ่มขึ้น ควรให้เวลากับลูก หรืออาจสะท้อนความรู้สึกของลูก เช่นหนูคงโกรธมากที่ไม่ได้ของเล่น เพื่อให้ลูกรับรู้อารมณ์ของตนเอง
สิ่งสำคัญคือ พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างในการรับรู้และจัดการกับอารมณ์ให้กับลูก ใช้สติในการคอยให้ลูกสงบ แล้วจึงพูดคุยหรือเบี่ยงเบนความสนใจของลูก -
สาระน่ารู้...น้ำหอม-การบูร-พิมเสน
ควรใช้ในรถมั๊ย ??
ถ้าชอบความหอม-สดชื่นก็ติดตั้งได้ แต่ควรมั่นทำความสอาดตู้แอร์ทุก 2-30,000 กม. และเปลี่ยนกรองแอร์อย่างสม่ำเสมอ
การบูร-พิมเสน หากทิ้งแตกแดดไว้นานๆ เคมีอาจกลายสภาพเป็นสารที่สูดดมแล้ววิงเวียนศรีษะ หากชอบกลิ่นการบูร ควรมั่นเปลี่ยนบ่อยๆ
หากไม่เคยล้างตู้แอร์ ไอระเหยของน้ำหอมจะวนอยู่ในตู้แอร์ นานๆจะจับตัวเป็นคราบเหนียว และเป็นแหล่งเพาะบ่มเชื้อโรค อีกทั้งทำให้แอร์ตัน Com Air ทำงานหนัก และเสียเร็วก่อนกำหนด
-ทางแก้กลิ่นภายในรถ
1.หากใช้รถเกิน 30,000 กิโล ควรล้างตู้แอร์ และเปลี่ยนกรองแอร์
2.หาถ่านใส่ถังอบไว้ในรถซัก 1 อาทิตย์ และ/หรือ เปิดประตูตากแดด
3.หลีกเลี่ยงทานอาหาร-สูบบุหรี่ หากจำเป็นควรเปิดกระจกระบาย
หน้า 16 ของ 35