รัฐบาลเตือนผู้ปล่อยข้อมูลเท็จน้ำท่วมอาจผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

Image copyright AFP/Getty Images
คำบรรยายภาพ สภาพน้ำท่วมหนักช่วงเช้าที่ผ่านมาในกรุงเทพมหานคร

หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังเสี่ยงที่จะเผชิญกับน้ำท่วมขัง เพราะคาดว่าฝนยังคงจะตกต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลออกโรงเตือนประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือเกี่ยวกับการปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพลเข้ากรุงเทพมหานคร ระบุเป็นข้อมูลเก่าปี 2554

“เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยจากการตรวจสอบพบว่า เป็นข้อมูลที่มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ toptenthailand ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 54 จึงไม่ควรแชร์ส่งต่อกันจนเกิดความตื่นตระหนก ส่วนผู้ที่จงใจเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายได้” พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

• น้ำรอระบาย: ปัญหาไม่คลี่คลายถ้าผังเมืองยังมีปัญหา
• บ้านคนไทย 4 หลังเสียหายเรียบ หลังไฟป่าแคลิฟอร์เนียลุกลามต่อเนื่อง

คำอธิบายดังกล่าวของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีขึ้นหลายจากมีการแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่าจะมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพลลงแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านคลองแสนแสบ เพื่อลงสู่แม่น้ำบางปะกง และจะทำให้น้ำท่วมกรุงเทพมหานคร

ด้านกรมชลประทานยืนยันว่าได้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ปิดการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มาตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เขื่อนภูมิพลยังสามารถรับน้ำได้อีกร้อยละ 30 ของความจุ จึงไม่ใช่เหตุผลที่จะปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในช่วงนี้

Image copyright AFP/Getty Images
คำบรรยายภาพ น้ำท่วมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาส่งผลกระทบทุกย่าน รวมทั้งย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ ด้วย

ส่วนน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่จะควบคุมปริมาณน้ำ และผันน้ำเข้าสู่พื้นที่เก็บน้ำทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำช่วง จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ. อ่างทอง และจ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มขึ้นไม่เกิน 5 ซม.เท่านั้น

ทั้งนี้ ทางการยังได้เรียกร้องให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ หรือจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หรือตื่นตระหนกกับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง

ปริมาณฝนตกมากที่สุดในรอบ 10 ปี

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า น้ำท่วมขังเกิดขึ้นทั้งหมด 55 จุดในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผลมาจากมีฝนตกหนักถึงหนักมากปกคลุมทั่วกรุงเทพมหานคร ตลอดทั้งคืน ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 13 ต.ค. ต่อเนื่องจนถึงเวลา 06.00 น. ของเช้าวันนี้ (14 ต.ค.)

ทั้งนี้ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัดสำนักงานเขตพระนคร 214.5 มม. ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับวิกฤต ตามมาด้วยสถานีสูบน้ำภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ อยู่ที่ 214 มิลลิเมตร สถานีสูบน้ำคลองมอญ เขตบางกอกน้อย 208 มม. สำนักงานเขตยานนาวา 195 มม. คลองสนามชัย เขตจอมทอง 178 มิลลิเมตร และบึงมักกะสัน เขตราชเทวี 177.5 มม. ตามลำดับ

Image copyright AFP/Getty Images
คำบรรยายภาพ การเดินทางของคนในกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างยากลำบากเช้านี้

หนังสือพิมพ์หลายฉบับ เช่น ไทยรัฐ คมชัดลึก ระบุตรงกันว่า ปริมาณฝนที่สะสมมาในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ที่จุดวัดสำนักงานเขตพระนครถือว่ามากที่สุดในรอบกว่า 10 ปี

นอกจากบุคคลทั่วไปแล้วที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีก็เป็นหนึ่งในเหยื่อน้ำท่วมดังกล่าว โดยเขาได้โพสต์ข้อความผ่านบัญชีในแอปพลิเคชันไลน์ว่า “วันนี้เป็นครั้งแรกที่น้ำท่วมเข้ามาถึงในบ้าน ไม่ได้เก็บของขึ้นที่สูงไว้ด้วย รถเสียไปเรียบร้อยแล้วครับ”

เตือนยังมีฝนตกต่อเนื่อง

ข้อมูลจากสำนักการระบายน้ำได้พยากรณ์อากาศ 24 ชม. ข้างหน้าว่า ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง เว้นแต่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมลฑลคาดว่าจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่

สำหรับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน”ขนุน” (Khanun) ซึ่งยังปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางหรือด้านตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 15-17 ต.ค.

Image copyright กรมอุตุนิยมวิทยา

กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ไม่มีผลโดยตรงต่อประเทศไทย เพราะพายุนี้จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วเมื่อเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมประเทศเวียดนามและลาวตอนบน แต่อาจจะทำให้มีฝนตกต่อเนื่องในบางพื้นที่

ขอบคุณที่มา
http://www.bbc.com/thai/thailand-41620515