รู้ทันโลก วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และรู้ทันการหลอกลวง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Willam, 9 มิถุนายน 2011.

  1. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    คลิปยิงจรวดทำลายอุกาบาตชนโลก
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=w6JS8FtqX04"]YouTube - ‪ยิงจรวด ทำลาย อุกาบาตชนโลก‬‏[/ame]


    ข่าวสารใหม่ผมค่อยอัพเดทครับ
    การอัพเดทข่าวสารต่างๆ กระผมมิได้มีเจตนาในการที่ต้องให้ใครถูกหลอกลวงในทางที่ผิดๆ หรือ ทับถม ใครๆ เพียงการแนะนำข่าวสารให้รู้ทันกลโกงต่างๆ นาๆ มิให้ตกเป็นเครื่องมือของเหล่ามิจฉาชีพ ควรใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารในการรับชม สื่อต่างๆ ที่กระผมได้นำมาเสนอกับทุกท่าน<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2011
  2. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    เผยโฉม 10 กลโกงทางอินเทอร์เน็ต (Internet Fraud)

    เรื่องที่ 2 ถ้าซ้ำต้องขออภัยด้วยครับทุกท่าน
    อารัมภบท
    อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่ทำให้คนทั่วโลกสามารถติดต่อถึงกันได้แบบปฏิสัมพันธ์ กล่าวคือ ผู้รับและผู้ส่งข้อมูลสามารถสื่อสารและ
    โต้ตอบข้อความกันได้ทันที ในรูปแบบมัลติมีเดีย อีกทั้งยังลดข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาและสถานที่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและ
    การทำธุรกิจ ผู้ซื้อและผู้ขายได้รับความสะดวกในการซื้อขายและการโฆษณาสินค้าหรือบริการ อินเทอร์เน็ตทำให้การประกอบ
    ธุรกิจผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือ “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมในปัจจุบันมากขึ้น
    อย่างไรก็ดี การใช้อินเทอร์เน็ตอาจจะถูกนำไปใช้ในแง่ลบเพื่อหลอกลวงบุคคล เช่นเดียวกันกับการซื้อขายตามปกติ เนื่อง
    ด้วยผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการทำธุรกรรม อาจไม่ทราบตัวบุคคลของผู้ที่ติดต่อว่าเป็นบุคคลใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน
    ข้อมูล สถิติ
    จากการศึกษาข้อมูล สถิติเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตเมื่อกลางปี พ.ศ. 2544 (อ้างอิงจาก Nua Internet Survey, สิงหาคม 2544)
    มีการประมาณการว่าจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกสูงถึง 513 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 8.46 ของประชากรทั่วโลก สำหรับ
    ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีจำนวนกว่า 144 ล้านคน สำหรับข้อมูลจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม
    ถึงมีนาคม 2544 สำรวจโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่ามี
    จำนวน 3.5 ล้านคน (http://ntl.nectec.or.th/internet)
    นอกจากนี้ รายงานสำรวจเรื่อง “การหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต” เมื่อปี พ.ศ. 2543 ของหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาที่ชื่อว่า
    “National Fraud Information Center” ซึ่งมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าและบริการทาง
    อินเทอร์เน็ต พบว่าในช่วงครึ่งหลังของปีเดียวกัน มีการร้องเรียนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 20,014 เรื่อง และเมื่อรวมมูลค่าความ
    เสียหายตลอดทั้งปีคิดเป็นเงิน 3,387,530 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือความเสียหายเฉลี่ยต่อบุคคลคิดเป็นจำนวนเงิน 427 ดอลลาร์
    สหรัฐฯ เรื่องที่ได้รับการ้องเรียนมากที่สุด 5 ลำดับแรกคือ การประมูลสินค้าทางอินเทอร์เน็ต (Internet Auctions) (78%),
    การซื้อสินค้าทั่วไป (10%), การให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Access Services) (3%), การประกอบธุรกิจที่บ้าน (Work-At-
    Home) (3%) และการให้สินเชื่อล่วงหน้า (Advance Fee Loans) (2%) ตามลำดับ และจากการสำรวจในปี 2544 ที่ผ่านมา
    พบว่าผู้บริโภคได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 4,371,724 ดอลลาร์สหรัฐฯ
    การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงมีหลายวิธีการ ตั้งแต่วิธีการดั้งเดิมที่อาจพบโดยทั่วไปไปจนถึงวิธีการที่
    สลับซับซ้อน ผู้หลอกลวงใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่
    สาธารณชน แม้ว่าผู้บริโภคจะมีความรู้ทางเทคโนโลยี แต่ก็อาจไม่รู้เท่าทันหรือไม่ทราบถึงวิธีการหลอกลวงดังกล่าว จึง
    อาจได้รับความเสียหายได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจถึงรูปแบบของการหลอกลวงที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือและเสนอ
    แนะวิธีป้องกันจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคทำให้สามารถป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้
    กับทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ดียิ่งขึ้นด้วย
    รูปแบบของการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต
    รูปแบบของการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต มีลักษณะและวิธีการป้องกันโดยสรุป ดังนี้
    1. การประมูลสินค้าทางอินเทอร์เน็ตโดยหลอกลวง (Internet Auction Fraud)
    การโฆษณาขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตด้วยวิธีการประมูลสินค้า ผู้ซื้อที่สนใจจะเข้าร่วมการประมูลมักต้องลงทะเบียนเป็น
    สมาชิกของเว็บไซต์นั้นๆ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หลังจากนั้นจะได้รับหมายเลขสมาชิกและรหัสผ่าน (password)
    ผู้ซื้อจะต้องเสนอราคาซื้อแข่งขันกับผู้ซื้อรายอื่น เมื่อเสร็จสิ้นการประมูลถือว่ามีการทำสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ประมูลและผู้
    เสนอขาย โดยจะมีการส่งข้อความทางอีเมล์ (e-mail) แจ้งให้ผู้ซื้อและผู้ขายทราบผลการประมูล และแจ้งรายละเอียดที่จะติด
    ต่อกันได้ เพื่อให้ทั้งฝ่ายผู้ซื้อขและผู้ขายติดต่อกันในเรื่องการชำระเงินและการส่งมอบสินค้า
    ลักษณะการหลอกลวง:
    การประมูลสินค้าทางอินเทอร์เน็ต เป็นวิธีการซื้อขายสินค้าที่ได้รับความนิยม และเป็นช่องทางการติดต่อซื้อขายสินค้าที่
    สะดวกรวดเร็ว ในรายงานสำรวจที่กล่าวมาแล้วของบางประเทศพบว่า เป็นวิธีการหลอกลวงที่พบมากที่สุดเช่นกัน การหลอกลวง
    มีหลายรูปแบบ เช่น ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าที่ผู้ซื้อประมูลได้ เพราะไม่มีสินค้าอยู่จริง, การหลอกลวงโดยการปั่นราคาซื้อขาย
    ผู้ขายหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ขายจะเข้าเสนอราคาเพื่อประมูลสินค้าของตน เพื่อให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้ซื้อต้องซื้อ
    สินค้าในราคาที่สูงเกินจริง เป็นต้น
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    ผู้ซื้อได้ชำระค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายแล้ว แต่ยังไม่ได้รับสินค้า หรือได้รับสินค้าที่ชำรุดเสียหาย หรือเป็นสินค้าที่มีลักษณะ
    ไม่ตรงกับที่มีการเสนอขายแต่แรก ด้านผู้ให้บริการประมูลทางอินเทอร์เน็ตเองก็อาจได้รับความเสียหาย เพราะผู้ใช้บริการ
    (ผู้ซื้อและผู้ขาย) ไม่ให้ความไว้วางใจและไม่ใช้บริการ
    วิธีการป้องกัน:
    ผู้ซื้อควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการด้านการประมูลทางอินเทอร์เน็ต (คนกลาง) มีวิธีการระบุตัวบุคคลที่
    เป็นผู้ขาย (หรือผู้ซื้อ) ดีพอหรือไม่ กล่าวคือมีการเก็บประวัติ รายละเอียดของผู้ขาย ที่สามารถติดต่อได้ หรือพิจารณาว่าผู้ให้
    บริการด้านการประมูลทางอินเทอร์เน็ต (คนกลาง) มีนโยบายการประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง
    2. การให้บริการอินเทอร์เน็ตโดยหลอกลวง (Internet Service Provider Scams)
    ผู้หลอกลวงจะส่งเช็คจำนวนหนึ่ง (เช่นราว 3.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้แก่ผู้ใช้บริการ เมื่อมีการเบิกเงินตามเช็คแล้ว ก็ถือว่าผู้
    บริโภคตกลงที่จะใช้บริการของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider - ISP) ที่ได้รับแจ้ง ในการนี้อาจจะไม่มีการ
    แจ้งค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ และมักเป็นการทำสัญญาให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีระยะเวลานาน ผู้หลอกลวงจงใจให้ผู้
    บริโภคหรือผู้ใช้บริการเกิดความสับสนและเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการบริการนั้น กล่าวคือเมื่อผู้บริโภคเข้าทำสัญญา
    ดังกล่าวแล้วจะถือว่ายินยอมตามเงื่อนไขทุกประการที่ระบุไว้ การหลอกลวงดังกล่าวนี้มักพบในประเทศที่มีผู้ให้บริการ
    อินเทอร์เน็ตหลายรายและมีบริการที่หลากหลาย
    ลักษณะการหลอกลวง:
    ผู้บริโภคถูกเรียกเก็บเงินค่าบริการต่างๆ จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังอาจจะมีคำขู่ที่กล่าวว่าถ้าหากผู้ใช้บริการ
    ต้องการเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดสัญญา จะถูกปรับเป็นจำนวนเงินที่สูง
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    ผู้บริโภคถูกเรียกเก็บเงินค่าบริการต่างๆ จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ยังอาจจะมีคำขู่ที่กล่าวว่าถ้าหากผู้ใช้บริการ
    ต้องการเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดสัญญา จะถูกปรับเป็นจำนวนเงินที่สูง
    วิธีการป้องกัน:
    เมื่อผู้บริโภคได้รับเช็คโดยไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนแล้ว ไม่ควรทำข้อตกลงใดๆ กับบุคคลอื่น แต่ควรศึกษารายละเอียด
    ของเอกสารหรือข้อตกลงที่ส่งมาโดยถี่ถ้วน ตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะถูกเรียกเก็บให้ครบถ้วน และควรติดต่อผู้ให้
    บริการอินเทอร์เน็ตโดยตรง
    3. การใช้บัตรเครดิตโดยไม่ได้รับอนุญาต (Credit Card Fraud)
    การชำระค่าสินค้า ค่าบริการทางอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมที่สุดวิธีหนึ่งคือ การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เนื่องจากมี
    ความสะดวกแก่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ซื้อสามารถชำระเงินโดยการให้ข้อมูลบัตรเครดิตคือ หมายเลขบัตรเครดิต ชื่อ-สกุลของ
    ผู้ถือบัตร และวันหมดอายุแก่ร้านค้า ร้านค้าสามารถตรวจสอบได้เพียงว่า บัตรดังกล่าวเป็นบัตรที่ออกโดยผู้ออกบัตรจริง
    แต่ไม่สามารถตรวจสอบตัวบุคคลผู้ใช้บัตรได้ว่าเป็นบุคคลใด
    ลักษณะการหลอกลวง:
    วิธีการหลอกลวงเกี่ยวกับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทางอินเทอร์เน็ตมีหลายวิธี ตัวอย่างเช่น การให้บริการดูภาพลามก
    อนาจารโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป (ตามกฎหมายสหรัฐอเมริกา) แต่ผู้บริโภคต้องแจ้ง
    ข้อมูลบัตรเครดิตให้ผู้ให้บริการทราบ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แล้วผู้หลอกลวงจะใช้ข้อมูลนี้ไปกระทำผิดในที่อื่น
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    ผู้ถือบัตรที่เป็นผู้บริโภคถูกเรียกเก็บเงินค่าสินค้าหรือบริการจากบริษัทหรือธนาคารผู้ออกบัตร ทั้งที่ผู้ถือบัตรไม่ได้ใช้บัตร
    เครดิตชำระรายการนั้นๆ เลย ซึ่งกฎหมายบางประเทศจะให้ความคุ้มครองผู้ถือบัตรในกรณีนี้ หรือผู้ถือบัตรรับผิดไม่เกิน
    จำนวนเงินที่กำหนดไว้ในข้อตกลงระหว่างผู้ออกบัตรและผู้ถือบัตร
    วิธีการป้องกัน:
    ผู้ถือบัตรเครดิตไม่ควรแจ้งข้อมูลบัตรเครดิตให้บุคคลอื่นทราบ แต่หากต้องมีการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทางอินเทอร์เน็ต
    ก็ควรเลือกร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือ หรือมีหลักแหล่งที่แน่นอนสามารถติดต่อได้ หรือผู้บริโภคอาจเลือกใช้บัตรที่มีวิธีการ
    ตรวจสอบตัวบุคคลผู้ใช้บัตรว่าเป็นผู้ถือบัตร เช่น การใช้รหัสประจำตัว (PIN) หรือรหัสใดๆ ที่ไม่ปรากฎอยู่บนบัตร แต่ถือ
    เป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือบัตรที่ไม่เปิดเผยให้บุคคลอื่นทราบ นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรควรตรวจดูข้อตกลงที่ทำไว้กับผู้ออกบัตร
    ด้วยว่ามีเงื่อนไขความรับผิดชอบอย่างไร
    4. การเข้าควบคุมการใช้โมเดมของบุคคลอื่น (International Modem Dialing/ Modem Hijacking)
    ลักษณะการหลอกลวง:
    การโฆษณาการให้บริการสื่อลามกอนาจารโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ผู้ใช้บริการจะต้องติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อดู
    ภาพดังกล่าวหรือเรียกว่า ‘viewer’ หรือ ‘dialer’ ของผู้ให้บริการ เมื่อผู้ใช้บริการเปิดดูภาพด้วยโปรแกรมข้างต้นแล้ว การทำงาน
    ของโปรแกรมดังกล่าวจะเริ่มเมื่อมีการใช้เครื่องโมเดม (modem) ในขณะเดียวกันโปรแกรมฯ จะควบคุมการทำงานของโมเดม
    และสั่งให้หยุดการทำงานโดยที่ผู้ใช้บริการไม่รู้ตัว แล้วจะสั่งให้มีการต่อเชื่อมผ่านโมเดมอีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นการใช้โทรศัพท์
    ทางไกลจากที่ใดที่หนึ่ง แล้วมีการใช้อินเทอร์เน็ตอีกครั้งจากที่นั้น เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถดูเว็บไซต์
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    ผู้ใช้บริการจะถูกเรียกเก็บเงินค่าโทรศัพท์ทางไกลจำนวนมาก ทั้งที่ผู้ใช้บริการอาจไม่รับรู้ ซึ่งเป็นเพราะมีบุคคลอื่น
    ลักลอบใช้โทรศัพท์โดยอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าว
    วิธีการป้องกัน:
    ผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภคควรหลีกเลี่ยงไม่ติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำหรับการให้บริการใดๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูเว็บไซต์ที่มีข้อมูลภาพลามกอนาจาร และควรตรวจสอบเงื่อนไขและค่าใช้จ่ายต่างๆ ถ้าพบสิ่งผิดปกติ
    ต้องแจ้งระงับการใช้งานกับผู้ให้บริการทันที นอกจากนั้น ผู้ใช้บริการควรตรวจสอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการโทรศัพท์อย่างสม่ำเสมอ
    5. การหลอกลวงให้ใช้บริการเกี่ยวกับเว็บไซต์ (Web Cramming)
    ลักษณะการหลอกลวง:
    การหลอกลวงว่ามีการให้บริการเปิดเว็บเพจ (web page) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เช่นการเปิดเว็บเพจเป็นเวลา 30 วัน
    และไม่มีข้อผูกพันใดๆ ถ้าไม่ใช้บริการต่อไป
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    เมื่อมีการตกลงใช้บริการดังกล่าวแล้ว ผู้ใช้บริการจะถูกเรียกเก็บเงินค่าใช้บริการโทรศัพท์ หรือค่าใช้บริการในการมี
    เว็บเพจ (ค่าธรรมเนียมการใช้พื้นที่) เป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ตนไม่เคยใช้บริการหรือไม่ได้สมัครแต่อย่างใด ผู้ใช้บริการยังไม่
    สามารถแจ้งให้ผู้ให้บริการยกเลิกได้ทันทีอีกด้วย
    วิธีการป้องกัน:
    ผู้บริโภคควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ให้บริการ และเลือกใช้บริการที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น (กรณีนี้มักพบใน
    ประเทศที่มีผู้ให้บริการโทรศัพท์จำนวนมากเช่นในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น)
    รูปแบบของการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต
    6. การหลอกลวงโดยใช้การตลาดหรือการขายแบบตรง (Multilevel Marketing Plans/ Pyramids)
    ลักษณะการหลอกลวง:
    การหลอกลวงในลักษณะนี้คล้ายคลึงกับการนำสื่อโฆษณาในการทำตลาดหรือการขายตรง โดยมีการชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมเป็นสมาชิกในเครือข่ายธุรกิจ โดยการกล่าวอ้างว่าผู้ขายจะได้รับสิทธิในการจำหน่ายสินค้าหลายชนิด และได้รับผลประโยชน์จากการขายสินค้าหรือชักชวนบุคคลอื่นเข้ามาเป็นตัวแทนขายตรง เป็นทอดๆ ทำให้ผู้ที่ได้รับประโยชน์จริงมีจำนวนน้อยราย
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    ผู้บริโภคที่เข้าร่วมเครือข่ายจะต้องชำระค่าสมาชิกจำนวนหนึ่ง แต่จะไม่มีรายได้ประจำแต่อย่างใด รายได้ของผู้บริโภคจึงไม่แน่นอนและมักจะไม่ได้รับผลประโยชน์ตามที่ผู้หลอกลวงกล่าวอ้าง เพราะไม่สามารถขายสินค้าได้ตามเป้าหมาย
    วิธีการป้องกัน:
    ผู้บริโภคควรระมัดระวังในการสมัครเป็นสมาชิกหรือตัวแทนจำหน่ายสินค้า ที่ต้องหาสมาชิกรายอื่นเพิ่มขึ้นหรือต้อง
    จำหน่ายสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงให้ได้ตามยอดจำหน่ายที่กำหนด เพราะอาจถูกหลอกลวงได้
    7. การหลอกลวงโดยเสนอให้เงินจากประเทศไนจีเรีย (Nigerian Money Offers)
    ลักษณะการหลอกลวง:
    ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะได้รับข้อความจากจดหมายหรืออีเมล์ (e-mail) จากบุคคลที่กล่าวอ้างว่ามีความสำคัญในประเทศไนจีเรีย
    เพื่อขอช่วยเหลือในการโอนเงินจำนวนมากไปยังต่างประเทศ โดยผู้บริโภคจะได้รับเงินส่วนแบ่งจำนวนนับล้านเหรียญ
    ดอลลาร์สหรัฐฯ
    ข้อความในจดหมายหรืออีเมล์มีเนื้อหาทำนองว่า ประชาชนในประเทศไนจีเรียไม่สามารถเปิดบัญชีเงินฝากในต่างประเทศ
    หรือโอนเงินออกนอกประเทศที่มีมูลค่าราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ หรือรัฐบาลไนจีเรียต้องการทำธุรกิจกับชาวต่างชาติ
    จึงต้องการความช่วยเหลือจากชาวต่างชาติในการเปิดบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวันที่เบิกด้วยเช็ค ซึ่งท่านจะได้รับค่า
    ตอบแทนหรือค่านายหน้า ผู้บริโภคเพียงแต่แจ้งรายละเอียดของบัญชีเงินฝากของตน และกรอกเอกสารพร้อมทั้งลงลายมือชื่อ
    ของเจ้าของบัญชีเท่านั้น
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    เมื่อมีการแจ้งข้อมูลบัญชีเงินฝากแล้ว ผู้บริโภคจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตลอดเวลา
    โดยให้ผู้บริโภคโอนเงินเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ ผู้ที่หลอกลวงจึงสามารถเบิกเงินจากบัญชีดังกล่าวได้โดยอ้างเอกสารมอบอำนาจของเจ้า
    ของบัญชี แต่การโอนเงินลักษณะนี้อาจทำไม่ได้ในประเทศไทย เว้นแต่จะเป็นการโอนเงินระหว่างบัญชีของธนาคารเดียวกัน
    ทางอินเทอร์เน็ต
    วิธีการป้องกัน:
    ผู้บริโภคไม่ควรหลงเชื่อบุคคลอื่นที่อ้างตัวและเสนอจะให้ผลประโยชน์จำนวนมหาศาลโดยไม่มีความเสี่ยงเช่นนี้ และ
    ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลบัญชีธนาคารของตนแก่ผู้อื่นด้วย
    8. การหลอกลวงให้ประกอบธุรกิจที่บ้าน (Work-at-Home)
    ลักษณะการหลอกลวง:
    บริษัทที่หลอกลวงจะเชิญชวนให้ผู้ต้องการประกอบธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตหรือธุรกิจด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
    สมัครเป็นสมาชิกเพื่อทำธุรกิจ โดยผู้บริโภคมีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์และสามารถใช้อินเทอร์เน็ตจากที่บ้านได้ และมักอ้าง
    ว่าธุรกิจประเภทนี้เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ผู้บริโภคจะไม่ได้รับคำแนะนำในการทำธุรกิจ ไม่มีข้อมูลธุรกิจ
    ที่ชัดเจนหรือไม่ทราบว่าตนอาจไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ เลย ผู้ถูกหลอกลวงจะถูกเรียกเก็บเงินค่าสมาชิกหรือซื้ออุปกรณ์ที่
    จำเป็นเพื่อเริ่มทำธุรกิจ
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่มีการกล่าวอ้าง และอาจต้องสูญเสียเงินจากการลงทุนอีกด้วย
    วิธีการป้องกัน:
    ผู้ที่ต้องการลงทุนหรือต้องการเป็นเจ้าของกิจการ ควรศึกษาหรือสอบถามรายละเอียดของประเภทธุรกิจที่จะลงทุนการจ่าย
    เงินค่าตอบแทนที่ผู้บริโภคจะได้รับ ที่มีกำหนดเวลาที่แน่นอนรวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะต้องจ่ายในการเริ่มต้นทำธุรกิจ
    และผู้บริโภคควรระวังไม่หลงเชื่อคำเชิญชวนของผู้ที่อ้างว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมากภายในระยะเวลาสั้นๆ
    9. การหลอกลวงให้จดทะเบียนโดเมนเนม (domain name registration scams)
    ลักษณะการหลอกลวง:
    ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตที่ต้องการมีเว็บไซต์และโดเมนเนมของตนเอง จะได้รับการเสนอแนะว่า ท่านสามารถได้รับสิทธิในการจดทะเบียนโดเมนเนมในระดับบนที่เรียกว่า “Generic Top-Level Domain’ หรือ gTLD ได้แก่ .com, .org, .net, .int, .edu, .gov, .mil, .aero, .biz, .coop, .info, .museum, .name, and .pro เป็นต้น ก่อนบุคคลอื่น และถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจองโดเมนเนมที่ต้องการ ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีการให้บริการในลักษณะดังกล่าว
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    ผู้ที่หลงเชื่ออาจได้รับความเสียหายเพราะได้ชำระเงินให้แก่ผู้ที่หลอกลวง โดยไม่ได้รับสิทธิหรือประโยชน์ตามที่กล่าวอ้าง
    วิธีการป้องกัน:
    1. หลีกเลี่ยงการใช้บริการการขอจดทะเบียนโดเมนเนมล่วงหน้า ที่ให้การรับรองว่าจะได้รับสิทธิ ในการเลือกโดเมนเนมประเภทนี้ (gTLD) ก่อนบุคคลอื่น และไม่ควรหลงเชื่อคำโฆษณา
    2. ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการยื่นขอจดทะเบียนจากผู้รับจดทะเบียนที่ได้รับสิทธิภายใน ประเทศหรือเว็บไซต์ของ ICANN (Internet Corporation for Assigned Names and Numbers) (www.icann.org)
    3. ควรใช้บริการจดทะเบียนโดเมนเนมกับหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต, บริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือใช้บริการของ “ศูนย์สารสนเทศเครือข่ายแห่งประเทศไทย” (Thailand Network Information Center – THNIC) (www.thnic.net)

    10. การหลอกลวงโฆษณาหรือขายยามหัศจรรย์ (miracle products)
    ลักษณะการหลอกลวง:
    การโฆษณาหรือขายยาทางอินเทอร์เน็ตที่อ้างสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคหรืออาการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV/AIDS), โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ หรือสามารถบรรเทาความเจ็บป่วยได้ภายในระยะเวลาอันสั้น และมักอ้างว่ายาเหล่านี้ได้รับการรับรองหรือการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว
    ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
    ผู้ป่วยที่ซื้อยาดังกล่าวโดยเชื่อว่าสามารถรักษาความเจ็บป่วยได้ อาจต้องสูญเสียเงินหรือโอกาสในการได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนั้น ยังอาจได้รับอันตรายจากการใช้ยาเหล่านั้นด้วย
    วิธีการป้องกัน:
    การใช้ยารักษาโรคควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น
     
  3. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    รู้ทันกลโกง 18 มงกุฏ

    ระวัง ระวัง!!!!!
    ปัจจุบัน คนเรามีวิธีการหากินกันแปลก ๆ และพิสดารพันลึกขึ้นอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าว “อดีตครูในจังหวัดร้อยเอ็ด” ถูกแก๊ง “ต้มตุ๋นข้ามชาติ” หลอกให้โอนเงินไปให้แก๊งต้มตุ๋นยังต่างประเทศไปถึง “๖ ล้านบาท” ซึ่งรายละเอียดของข่าวมีว่า “อดีตคุณครู” ท่านนี้ชอบเล่นอินเทอร์เน็ตเป็นประจำและวันดีคืนดีก็มี SMS แจ้งว่าคุณครูท่านนี้ได้รับรางวัลจากเครือข่าย SMS เป็นจำนวนเงิน “๕-๖ ล้านยูโร” แรก ๆ คุณครูก็ไม่ได้สนใจอะไรนักคิดว่าคงเป็นเรื่องล้อเล่นสนุก ๆ จึงไม่ได้สนใจอะไรแต่ “แก๊งต้มตุ๋นข้ามชาติ” พวกนี้หาได้ละความพยายามไม่ทำการติดต่อกลับมาอีกทางอินเทอร์เน็ตเช่นเคย ด้วยการยืนยันว่าคุณครูได้รางวัลจริง ๆ หากคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ “กว่าหนึ่งพันล้านบาท” จึงทำให้คุณ
    ครูท่านนี้เริ่มสนใจจึงติดต่อกลับไปก็เลยเป็นการ “เข้าทาง” ของพวกมันที่ติดต่อกลับมาอีกว่าก่อนที่จะทำการ “โอนเงินรางวัล” ผู้ได้รับรางวัลจะต้องจ่าย “ค่าธรรมเนียม” รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เป็นเงิน “๖ ล้านบาท” ผลก็คือคุณครูท่านนี้ “เชื่อสนิทใจ” จึงทำการโอนเงินไปให้แก๊งต้มตุ๋นข้ามชาติ “๖ ล้านบาท” ตามที่พวกมันบอกไว้ด้วยการไป “กู้เงินนอกระบบ” พร้อมนำบ้านไปจำนองเพื่อหวังจะได้เงิน “พันล้านบาท”
    กลับมาแต่หลังจากรอแล้วรอเล่าปรากฏว่า “ไม่มีการส่งเงินรางวัล” มาให้ตามที่บอกไว้แต่แรกอดีตคุณครูท่านนี้จึงส่ง SMS ติดต่อไปก็ได้คำตอบกลับมาว่า “เรายังเป็นเพื่อนกันนะ” จากนั้นก็หลบลี้หนีหน้าไปเลยอดีตคุณครูจึงทราบว่า “โดนต้มซะเปื่อย” จึงนำเรื่องไปแจ้งความซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยก็ “มืดแปดด้าน” เพราะไม่รู้จะไปจับแก๊งต้มตุ๋นข้ามชาติพวกนี้ได้ที่ไหนนั่นเอง
    ซึ่งจริง ๆ แล้วการต้มตุ๋นเพื่อหลอกเอาเงินเอาทองในลักษณะนี้ที่เมืองไทยก็มีเช่นกัน อย่างเช่นที่ฮิตฮอตก็คือการส่งข้อความทางเสียงไปถึงเจ้าของโทรศัพท์มือถือ ว่าได้รับรางวัล จากนั้นขอเบอร์บัญชีของเจ้าของโทรศัพท์เพื่อจะโอนเงินรางวัลมาให้ และพอได้เบอร์บัญชีนักต้มตุ๋นเหล่านี้ก็ไปทำการกดโอนเงินที่ตู้ ATM เข้าบัญชีของมันสบายไปซึ่งช่วงแรก ๆ ที่มีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้น ผู้เขียนก็คิดว่าเป็นเรื่องเล่าขานกันเล่น ๆ แต่พอไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร จึงได้ทราบชัดว่าเป็นเรื่องจริงจึงขอเตือนมายังทุกท่านต้องระวังการต้มตุ๋น ประเภทนี้ให้มาก ๆ เพราะธนาคารสาขาใกล้ที่ทำงานของผู้เขียนมีการหลอกให้โอนเงินให้เข้าบัญชี นักต้มตุ๋นถึง ๔-๕ รายแล้วและก่อนหน้านี้ในช่วงระยะเวลา ๕-๑๐ ปีที่ผ่านก็มี “แก๊งตกทอง” ออกอาละวาดด้วยการแกล้งทำเป็น “เก็บกระเป๋าที่มีทองคำ” (ของเก๊) เต็มกระเป๋าจากนั้นก็มี “หน้าม้า” มา “ขอส่วนแบ่งทอง” ที่มีน้ำหนักตั้ง “๔๐-๕๐ บาท” แต่พอแบ่งกันไปแบ่งกันมาก็แสร้งโต้เถียงกันในทำนองแบ่งทองไม่ลงตัวสุดท้าย ก็ไปลงเอยที่ “เหยื่อ” ที่ผ่านมาโดยบังเอิญโดยเหยื่อที่ว่านี้แก๊งตกทองจะเลือกเฉพาะผู้ที่มี “สร้อยคอทองคำ, กำไลข้อมือทองคำ, แหวนทองคำ” โดยหนึ่งในแก๊งตกทองจะมาหว่านล้อมชักชวนให้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยการขอ ให้ “เหยื่อ” (ผู้โลภมาก) นำทองคำที่อยู่ในตัวซึ่งเป็น “ทองคำแท้” ไปแลกกับ “ทองคำปลอม” ที่พวกมันบอกว่าเก็บได้แถมยังแลกแบบให้ “เหยื่อได้ทองเก๊” มากกว่าพวกมันซะอีกซึ่งกว่าจะรู้ตัวว่า “โดนต้ม” เข้าแล้ว “เหยื่อ” ก็ถึงกับเหงื่อตกกันไปเลย ซึ่งที่เล่ามานี้ก็คือกระบวนการทำมาหารับประทานของคนสมัยนี้ที่นับวันจะ พิสดารพันลึกมากขึ้น

    ทีนี้หันมาดูในวงการ “พระเครื่อง” ของเราบ้างกระบวนการทำมาหารับประทานในวงการนี้ถ้าเป็นเรื่องการหลอกลวงกัน ละก็พวก “๑๘ มงกุฎ” ที่หากินทั้งการ “ตกทอง, หลอกขอบัญชี ฯลฯ” ต้องชิดซ้ายตกขอบไปเลยแถมยังซูฮกเรียกพี่เลยล่ะครับผู้อ่าน เพราะส่วนใหญ่การทำมาหารับประทานหลอกหลวงกันในวงการพระจะมาจากการหลอกขาย “พระปลอม” กันมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งประเด็นสำคัญที่พวกนี้จะนำมาหลอกลวงกันก็คือเรื่องของ “ความโลภ” ไม่ว่าจะเป็นตกทองหรือโอนเงินก็ล้วนมาจากพื้นฐานเดียวกันคือ “ความโลภ” ด้วยกันทั้งสิ้นพวกนักต้มตุ๋นมักจับจุดเรื่องความโลภของผู้คน จากนั้นจึงนำจุดนี้มากระตุ้นต่อมความอยากเป็นเหตุให้ถูกหลอกได้โดยง่าย

    เพื่อนของผู้เขียนมีความศรัทธาในวัตรปฏิบัติและปฏิปทาของ “หลวงพ่อเทียม” แห่ง “วัดกษัตราธิราช” มาก ด้วยเหตุที่ “หลวงพ่อเทียม” มีความเชี่ยวชาญในตำรา “พิชัยสงคราม” ของ “สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว” และที่สำคัญท่านยังเป็น “พระเกจิอาจารย์” ที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงเคารพนับถือมากเพราะท่านมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ทุกแขนงไม่ว่าจะเป็น “ไสยเวท, ศิลปกรรมวิจิตรศิลป์, สถาปัตยกรรม, ช่างสิบหมู่, กระบี่กระบอง, ค่ายกล ศึก ฯลฯ” เนื่องจาก “หลวงพ่อเทียม” (ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระวิสุทธาจารเถระ”) ได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมายและเป็นที่นิยมของชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ปัจจุบัน “ของแท้” หายากมากจึงมี “ของปลอม” มาแทนที่เป็นขณะที่เพื่อนผู้เขียนออกตามล่าหาวัตถุมงคลของ “หลวงพ่อเทียม” แล้ววันหนึ่งไปเจอ “นักหาของ” ที่รู้จักกันดีมาบอกว่าไปเจอวัตถุมงคลของ “หลวงพ่อเทียม” ซึ่งเป็น “รังใหญ่” เนื่องจาก “เจ้าของ” เป็นหลานแท้ ๆ ของ “หลวงพ่อเทียม” เพื่อนผู้เขียนก็แสนยินดีจัดแจงนำเงิน “ร่วมล้านบาท” ไปเหมามาโดยผ่าน “นักหาของ” เพราะเชื่อใจกันจึงไม่ได้นำ “วัตถุมงคล” ไปตรวจสอบก่อนจ่ายเงิน

    สุดท้ายมาทราบทีหลังว่าสูญเงินไปร่วม “ล้านบาท” ก็ต่อเมื่อนำวัตถุมงคลมาแขวนคอเพื่อไป “อวดเซียน” ที่พอเห็นเซียนกลับทักว่าเป็น “ของปลอม” เพื่อนผู้เขียนเลยตื่นตัวรีบนำวัตถุมงคลที่เหมามาไป “ตรวจสอบ” จากผู้รู้ก็เลยได้รู้ว่าเป็น “ของปลอม” แทบทั้งหมดเช่นกันจึงนำไปคืนแต่ “นักหาของ” ผู้นั้น “ล่องหน” ไปอยู่หนใดแล้วไม่รู้ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นก็เพราะเพื่อนผู้เขียนบังเกิด “ความโลภ” นั่นเองเนื่องจาก “วัตถุมงคล” ที่เหมามาหากเป็น “ของแท้” ถ้านำไปขายก็จะมีมูลค่า “ล้านกว่า ๆ” กำไรเห็น ๆ แต่เพราะ “ความโลภ” และ “เชื่อใจ” กันแท้ ๆ จึง “โดนเต็มเปา”.
     
  4. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +81
    พึงระลึกเสมอว่า ถ้าการค้าใดมีกำไรเกินร้อยละสามสิบของต้นทุน ให้ระมัดระวังใจให้ดี
    มีแนวโน้มเข้าข่ายหลอกลวงหรือผิดกฏหมาย
     
  5. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    สาวออนไลน์หลอกโอนเงิน

    เรื่องราวของหนุ่มมะกัน โดนสาวออนไลน์หลอกโอนเงิน $200,000 เหรียญ
    อุทาหรณ์ให้กับคุณผู้อ่านหลายๆ ท่าน ที่อ่านเว็บ 18 fake.com แห่งนี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Sun-Times ในชิคาโก รายงานว่า หนุ่ม มะกันจาก Naperville รัฐ Illinois ถูกตุ๋นเงินไป 200,000 เหรียญฯ (ประมาณ 6.2 ล้านบาท) จาก”เพื่อนสาว”บนโลกออนไลน์ที่รู้จักกันมานานกว่า 2 ปีครึี่งแล้ว!!!
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หนุ่มใหญ่มะกันวัย 48 ปีได้โทรไปแจ้งสถานีตำรวจ Naperville เนื่องจากเขาเชื่อว่า แฟนสาวของเขาถูกลักพาตัวไปอยู่ที่ไหนสักแห่งในกรุงลอนดอน โดยเขาเล่าว่า ตัวเขาเองได้รู้จักกับสาวออนไลน์คนหนึ่งเป็นเวลากว่า 2 ปีครึี่งแล้ว ซึ่งจากความสัมพันธ์ดังกล่าว ทำให้เขาเชื่อสนิทใจสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแฟนสาวในโลกเสมือน ถึงขั้นยอมโอนเงินกว่า 200,000 เหรียญฯ (ประมาณ 6.2 ล้านบาท) เข้าไปในบัญชีของเธอ โดยบัญชีธนาคารของเธอผู้นี้มีให้เลือกทั้งอังกฤษ สหรัฐฯ มาเลยเซีย และไนจีเรีย
    เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอภาพ ถ่ายของแฟนสาว หรือ ID เพื่อช่วยหนุ่มใหญ่รายนี้ในการตามหาแฟนสาว ทางเจ้าหน้าที่ก็พบว่า สำเนาใบขับขี่รถยนต์ของสาวเจ้าความจริงเป็นแค่ตัวอย่าง ID ตัวอย่างจากฟลอริด้า ซึ่งนั่นหมายความว่า แฟนสาวที่เขารู้จักมากว่า 2 ปีครึ่งไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งให้หนุ่มมะกันรายนี้ทราบว่า เขาโดนตุ๋นจากแฟนสาวที่ไม่มีตัวจริงในโลกนี้ หนุ่มมะกันรายนี้ถึงกับเอ๋อ … ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า “ไม่น่าเชื่อ” งานนี้โดนสองเด้งเลยนะครับ
    สิ่งนี้เป็นการเตือนสำหรับคนออนไลน์ที่ชอบเล่นโปรแกรมแชทต่าง ๆ ทั้ง msn, camfrog, yahoo, ฯลฯ
     
  6. ๛❀ชัยกฤต❀๛

    ๛❀ชัยกฤต❀๛ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +9
  7. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    ข่าวเช้านี้ ฟ้าผ่ากลางวงไฮโล! นักพนันสาหัส3ราย-เจ็บอีก10คน

    ฟ้าพิโรธผ่ากลางวงไฮโล! นักพนันเจ็บสาหัส3รายทั้งหมดมีรอยคล้ายถูกไฟลวกตามลำตัว-มีอาการแน่นหน้าอก และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก10ราย ที่นครศรีธรรมราช…
    เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีนักพนันไฮโลถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บสาหัสมานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากถูกฟ้าผ่า 3 คนคือนายศรชัย ชัยฤทธิ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ที่ 12 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง สภาพร่างกายถูกไฟไหม้ที่ศีรษะจนผมเกรียน และมีร่องรอยถูกคล้ายไฟไหม้ที่ศีรษะ และใบหน้าดำคล้ำ, นายสมนึก ราษฎร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่ 12 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง มีอาการแน่นหน้าอก และนายวิน แร่ทอง อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 1 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง มีอาการแน่นหน้าอก และที่แขนซ้ายมีรอยคล้ายถูกไฟลวก และยังมีชาวบ้านเป็นชาย และหญิงที่ร่วมวงเล่นถูกแรงกระแสไฟฟ้าที่ผ่าลงมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกกว่า 10 คน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
    ทั้งนี้ จากการติดตามข่าวทราบว่าเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 มิ.ย.ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 3 คน พร้อมด้วยชาวบ้านได้กางเต็นท์ขนาดใหญ่ 1 หลัง ขึ้นที่บริเวณหน้าบ้านที่บ้านหนองยูง หมู่ที่ 11 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จากนั้นได้ตั้งวงเล่นไฮโลกัน จากนั้นเกิดฝนตกฟ้าคะนอง และมีฟ้าผ่าลงมาตรงกลางเต็นท์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว.
     
  8. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    ข่าวต่างประเทศ นาโตยังถล่มกรุงตริโปลี-ลิเบียต่อเนื่อง

    นาโตยังคงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกรุงตริโปลี เมืองหลวงลิเบียอย่างต่อเนื่อง ถึงขณะนี้มีการโจมตีแล้วกว่า 60 ครั้ง
    ขณะเดียวกัน แม้นาโตจะโจมตีทางอากาศต่อกรุงตริโปลีอย่างหนัก ก็ยังคงต้องการการสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นในการโจมตีลิเบียเมื่อวานนี้ แต่ขณะนี้ ยังไม่ได้รับฉันทามติครั้งใหม่จากพันธมิตร

    ส่วนแหล่งข่าวโรงพยาบาล เปิดเผยว่า กบฏลิเบียถูกสังหารเสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และบาดเจ็บ 35 คนจากการปะทะกันอย่างหนักกับกองกำลังที่สนับสนุนพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ในบริเวณพรมแดนเมืองมิสราตา โดยกลุ่มกบฏกล่าวว่า ทหารกัดดาฟีหลายพันนาย รุกคืบเข้าสู่เมืองมิสราตา พื้นที่ยึดครองทางตะวันตกของกลุ่มกบฏ และเปิดฉากยิงปืนใหญ่เข้าใส่ ซึ่งกลุ่มกบฏก็ยิงตอบโต้

    รายงานข่าวระบุว่า การบุกโจมตีดังกล่าว มีขึ้นหลังจากนาโตผ่อนการโจมตีกรุงตริโปลีเมื่อวานนี้ หลังจากปฏิบัติการโจมตีอย่างหนักที่สุดเมื่อวันอังคารตั้งแต่เริ่มการโจมตีในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images[6].jpg
      images[6].jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.4 KB
      เปิดดู:
      127
  9. Plagruy

    Plagruy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +130
    รู้ทันการหลอกลวง

    คำนี้ส่วนใหญ่เรามักจะรู้กันอยู่ว่าถูกหลอกลวงตลอดเวลา
    แต่ก็เต็มใจให้หลอก ไม่ว่าจะในแง่ใด ชื่อเสียง เงินทอง โดยเฉพาะเมื่อเชื่อว่าเป็นการทำดี
    เราลืมถามตัวเองหรือเปล่าว่าทำไม่ดีคืออะไร แล้วทำดีมันมีความไม่ดีไหม
    มันสร้างมาจากไหนความดีไม่ดี ตัวผมเองก็ยอมรับว่ากำลังถูกหลอก แต่เต็มใจให้หลอก
     
  10. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    การอัพเดทข่าวสารต่างๆ กระผมมิได้มีเจตนาในการที่ต้องให้ใครถูกหลอกลวงในทางที่ผิดๆ หรือ ทับถม ใครๆ เพียงการแนะนำข่าวสารให้รู้ทันกลโกงต่างๆ นาๆ มิให้ตกเป็นเครื่องมือของเหล่ามิจฉาชีพ ควรใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารในการรับชม สื่อต่างๆ ที่กระผมได้นำมาเสนอกับทุกท่าน
     
  11. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    ทะลึ่งแต่งชุดขาว! อ้างเป็นผู้พิพากษาตระเวนแจกซองผ้าป่า

    [​IMG]
    ตำรวจชนะสงคราม จับกุม 18 มงกุฎ สวมชุดขาวอ้างเป็นผู้พิพากษา ตระเวนแจกซองผ้าป่า มีชื่อผู้พิพากษาชื่อดังหลายคน และหลอกลวงเจ้าของร้านเสริมสวยช่วยวิ่งเต้นคดีเรียกรับเงิน จึงหลอกให้มารับเงินผ้าป่าที่ศาลหลักเมือง ก่อนจะสะกิดตำรวจรวบไว้ได้

    วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ต.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส.สน.ชนะสงคราม นำกำลังเข้าจับกุม นายสมัย อุปราวัลย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 6 ต.นาหมอม้า อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ พร้อมของกลาง เสื้อครุยผู้พิพากษา 1 ชุด เครื่องแบบข้าราชการสีขาว 1 ชุด เสื้อสูทผู้พิพากษาศาลฎีกา 1 ตัว เสื้อแจ็กเกตผู้พิพากษา 1 ตัว ป้ายชื่อ นายศรัญญ์ พรมสุรินทร์ ระบุตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูง 1 ชิ้น ระบุตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา 1 ชิ้น นามบัตรระบุชื่อ นายศรัญญ์ พรมสุรินทร์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ส่วนพระราชวัง จำนวน 5 ใบ ซองผ้าป่าทำปลอมชื่อวัดบ้านโนนสมบูรณ์ ต.นาหมอม้า อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ มีเงินสดจำนวน 79 ซอง รวมจำนวนเงิน 14,510 บาท และซองเปล่าจำนวน 28 ซอง โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมือง ถนนหับเผย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ชนะสงคราม โดยมี น.ส.กุลกนก จันทรา อายุ 47 ปี และ น.ส.สโรชา ทองหล้า อายุ 34 ปี สองผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน

    น.ส.สโรชา เปิดเผยว่า ตนกับ น.ส.กุลกนก เปิดร้านเสริมสวยอยู่ในซอยเพชรเกษม 91 โดยเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น.ส.กุลกนก กำลังจะฟ้องร้องคู่กรณีที่เอาที่ดินมาจำนองไว้ในราคา 1 แสนบาท เมื่อ 9 ปี ก่อน แต่ไม่ยอมใช้เงิน เลยมีเพื่อนแนะนำให้ไปพบกับนายสมัย ซึ่งอ้างตัวว่าตัวเองชื่อ ศรัญญ์ พรมสุรินทร์ ทำงานอยู่ที่ศาลฎีกา สนามหลวง มีตำแหน่งใหญ่โต มีญาติทำงานในวังด้วย โดยไปพบครั้งแรกที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร นายสมัยก็บอกว่าจะช่วยทำคดีฟ้องร้องเอาเงินคืนมาให้ พร้อมจะเอาที่ดินผืนนั้นไปขายให้หลวงในราคา 10 ล้าน แต่จะแบ่งให้ตน 7 ล้านบาท และนายสมัยขอเงินค่าส่วนแบ่ง 3 ล้านบาท

    ต่อมาช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นายสมัยก็เข้ามาติดต่อตนกับ น.ส.กุลกนก ว่าจะให้ช่วยหากรรมการผ้าป่าที่วัดบ้านโนนสมบูรณ์ จ.อำนาจเจริญ โดยมีการนำซองผ้าป่าที่มีเงินใส่ซองมาแล้วและระบุชื่อผู้พิพากษาระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นนายจรัญ ภักดีธนากุล นายอักขราทร จุฬารัตน นายทองหล่อ โฉมงาม จึงทำให้ดูน่าเชื่อถือ ประกอบกับตนเองเป็นคน จ.อำนาจเจริญ จึงรับเป็นประธานผ้าป่าในครั้งนี้ แต่หลังจากรับซองผ้าป่ามาแล้ว ตนก็เกิดเอะใจขึ้น เนื่องจากไม่คุ้นชื่อวัด จึงตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีวัดดังกล่าวจริง อีกทั้งชื่อพระอาจารย์ระทม ขันติโก ประธานฝ่ายสงฆ์ที่จัดผ้าป่า ก็ไม่มีตัวตนจริงเช่นกัน แถมชื่อศรัญญ์ พรมสุรินทร์ นั้น พวกตนไปตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นชื่อของเด็กอายุ 8 ขวบเท่านั้น พวกตนจึงคิดว่าถูกหลอกแน่นอน

    น.ส.สโรชา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ช่วงปลายเดือน มี.ค.ตนก็เลยพยายามติดต่อหา นายสมัย เพื่อแกล้งทวงถามเงินค่าที่ดินที่นายมัยอ้างว่า จะช่วยนำไปขายแล้วนำเงินมาให้ก็ได้รับคำตอบว่า ฝ่ายคู่กรณีมีเงินให้แค่ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น ต่อมาตนก็เลยทวงถามไปอีกครั้ง นายสมัย ก็บอกว่า จะเอาเงินมาให้ 4 ล้านบาท ในวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลฎีกา แต่ถึงวันนัด นายสมัยก็ไม่ยอมมา อ้างว่าป่วย พวกตนทั้งสองคนจึงเดินทางมาแจ้งความไว้ที่สน.ชนะสงคราม หลังจากนั้นนายสมัย ก็พยายามติดต่อมาหา เพื่อทวงถามถึงซองผ่าป่าที่ให้พวกตนช่วยแจก ตนจึงนัดให้มาพบที่ศาลหลักเมืองในวันนี้ พร้อมทั้งแจ้งให้ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

    จากการสอบสวน นายสมัยให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าทำงานเป็นเสมียนทนายความอยู่ที่สำนักงานแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา และตนไม่ได้หลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด เพียงจะเข้าไปช่วยเหลือด้านคดี ส่วนชุดเสื้อครุย สูท เสื้อแจ็กเกต เป็นของทนายความเจ้านายของตน และนามบัตรเจ้านายก็ทำให้ ไม่ได้ทำขึ้นมาเอง ส่วนซองผ้าป่าพวกนี้ก็จะไปทำบุญจริงไม่ได้หลอกลวง

    ด้าน พ.ต.ต.สมยศ กล่าวว่า ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้หลอกลวง แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานการทำผิดแน่ชัด จึงแจ้งข้อหา 3 ข้อหา คือ ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น, ไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ การกระทำเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่ามีสิทธิ และปลอมและใช้เอกสารปลอม ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
     
  12. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    โจรฉลาดปลอมระบบรักษาความปลอดภัยลวงเหยื่อออนไลน์

    ไซแมนเทค รายงานสถานการณ์อีเมล์ขยะและฟิชชิ่งเดือนก.พ.2554 พบเว็บฟิชชิ่งใช้ระบบรักษาความปลอดภัยปลอม หลอกขโมยข้อมูลเหยื่อ อ้างระบบ 3 มิติช่วยทำธุรกรรมได้ปลอดภัยขึ้น…
    นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ผู้จัดการฝ่ายที่ปรึกษาด้านโซลูชัน บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า จากการสำรวจภาพรวมของอีเมล์ขยะและฟิชชิ่งในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 38.56% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นแบบมีนัย โดยบางส่วนมาจากเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่สร้างจากชุดเครื่องมืออัตโนมัติ ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 50.33% และยูอาร์แอลที่มีลักษณะเฉพาะเพิ่มขึ้น 33.73% ทั้งนี้ เว็บไซต์ ฟิชชิ่งประเภทไอพีโดเมน (เช่น http://255.255.255.255) ลดลงประมาณ 47.22% บริการเว็บโฮสติ้งคิดเป็น 13% ของฟิชชิ่งทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 38.97% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเว็บฟิชชิ่ง ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 76.51% อาทิ เว็บฟิชชิ่งภาษาโปตุเกส ฝรั่งเศส และสเปน ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดในเดือนก.พ.
    นอกจากนี้ ไซแมนเทคยังสังเกตพบเว็บไซต์ฟิชชิ่ง ที่กระตุ้นให้ผู้ใช้กรอกรายละเอียดบัตรเครดิต พร้อมรหัสรักษาความปลอดภัยแบบ 3 มิติ สำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ โดยใช้เรื่องการซื้อแอร์ไทม์โทรศัพท์เคลื่อนที่ ผ่านระบบออนไลน์เป็นตัวล่อ โดยพุ่งเป้าไปที่ลูกค้าในประเทศตุรกีด้วยหน้าเว็บฟิชชิ่งภาษาตุรกี สำหรับ ข้อมูลที่อาชญากรไซเบอร์ต้องการ ได้แก่ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวนแอร์ไทม์ที่ต้องการเติม ชื่อธนาคาร ชื่อผู้ถือบัตร หมายเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุของบัตร เลขสามตัวหลังบัตรเครดิต และรหัสผ่าน ฯลฯ เพื่อรักษาความปลอดภัยแบบ 3 มิติ
    โดยหน้าฟิชชิ่งดังกล่าวยังอ้างว่า หลังผู้ใช้คลิ๊กปุ่มด้านล่างของหน้า จะได้รับรหัสผ่านทางเอสเอ็มเอส และอ้างว่าหากผู้ใช้ไม่กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ผู้ให้บริการจะไม่อนุมัติและไม่สามารถทำธุรกรรมได้ ทั้งนี้ จะมีข้อความด้านท้ายแจ้งว่าการซื้อบัตรโดยใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ 3 มิติ จะช่วยให้การทำธุรกรรมออนไลน์ปลอดภัยและมีระบบเข้ารหัสที่ให้ความปลอดภัยสูง ป้องกันผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้หลงกล
    ใน เดือนก.พ. ไซแมนเทคยังสังเกตุพบการโจมตีฟิชชิ่งในวงกว้าง โดยมุ่งไปที่แบรนด์ผู้ให้บริการบัตรเครดิต โดยมีการใช้ยูอาร์แอลปลอม จำนวนมากในการโจมตี และใช้ Secure Socket Layer (SSL) ในการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ เว็บไซต์ฟิชชิ่ง ทั่วไปมักไม่มีการใช้ SSL ในการสร้างเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่มีการใช้ SSL ฟิชเชอร์อาจต้องสร้างใบรับรอง SSL ปลอมหรือขโมยใบรับรองจากเว็บไซต์จริง อย่างไรก็ตาม ในการโจมตีมีการใช้ฟิชชิ่งยูอาร์แอลนับร้อยที่ใช้ใบรับรอง SSL ปลอม กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นได้เพราะมีการโฮสต์ฟิชชิ่งไซต์บนไอพีเดียวแต่สามารถ แปลงชื่อได้หลายโดเมน แม้จะมีหลายยูอาร์แอลแต่เมื่อแปลงชื่อก็กลับมาจะเป็นไอพีเดียวซึ่งเป็นเว็บ เพจเดียวกัน.
     
  13. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
  14. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    ข่าวพุทธศาสนา มหามกุฏฯเปิดรับสมัครผู้จบชั้นม.6 มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีตลอด4 ปี

    นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกฎหมาย และโฆษกมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มีพันธกิจด้านการผลิตบัณฑิต งานวิจัย งานบริการ วิชาการแก่ชุมชน และงานทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เป็นที่ศึกษาเล่าเรียนของพระภิกษุสามเณร กล่าวได้ว่า มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์แห่งแรกของประเทศไทย
    ที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่เริ่มประยุกต์หลักพระพุทธศาสนาให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย สถาบันการศึกษาแห่งนี้ ได้เริ่มเปิดให้การอบรมศึกษาแก่ภิกษุสามเณร ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2489 จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังได้เปิดโอกาสให้ฆราวาสได้เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยอีกด้วย

    ขณะนี้มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยกำลังเปิดรับสมัครผู้ที่จบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าทั้งชาย-หญิง เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี 4 ปี ใน 4 คณะ คือ คณะศาสนาและปรัชญา คณะมุนษยศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา

    ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของทางมหามกุฏฯ ที่จะให้ทุนการศึกษาในลักษณะเรียนฟรี ตลอด 4 ปี จนจบการศึกษา ขณะเดียวกัน ยังถือว่าเป็นการช่วยเหลือนักเรียนที่พลาดหวังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย โดยมหามกุฏฯ จะเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2554 ที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อ.ศาลายา จ.นครปฐม โทร.0-2444-6000 ต่อ 1093-95 ติดต่อพระมหาสามารถ ฐานิสสโร ในวันและเวลาราชการ

    สำหรับเอกสารประกอบการรับสมัคร ประกอบด้วย สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน วุฒิการศึกษา และรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 3 รูป โดยหลังจากรับสมัครแล้ว จะไม่มีการสอบ แต่จะดูจากผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และสอบสัมภาษณ์ ซึ่งหากพบว่าเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดีจนถึงปานกลาง แต่มีฐานะยากจนจะได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งทางมหามกุฏฯ จะรับเพียงประมาณ 100 คนเท่านั้น นักศึกษาทั้งหมดจะต้องเรียนที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย อ.ศาลายา จ.นครปฐม
     
  15. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    แม่น้ำโขง...จีนกับเพื่อนบ้านฝนตกบ้านน้อง,ฟ้าร้องบ้านพี่

    [​IMG]
    ข่าวเรื่องแม่น้ำโขงปีนี้จะแห้งขอดเป็นพิเศษเพราะประเทศจีนสร้างเขื่อนยักษ์เหนือน้ำควรจะได้รับความสนใจจากทุกประเทศที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้...เพราะเป็นประเด็นที่ยกมาพูดในหลายเวทีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้จะเป็นเรื่องร้อนที่ปักกิ่งจะอยู่เฉย ๆ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาไม่ได้
    ความเป็น “พี่ใหญ่” ของจีนในภูมิภาคนี้ย่อมหมายถึงความรับผิดชอบที่จะรับรู้ผลกระทบของนโยบายของตนต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากตนอยู่เหนือน้ำและการกระทำใด ๆ ของคนที่อยู่ข้างบน, หากมีผลทางลบต่อคนอยู่ใต้เขื่อนแล้ว, ก็จะต้องมีการแสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนและฉับพลัน
    เพราะความแห้งขอดของระดับน้ำในแม่น้ำโขงในหน้าแล้งนี้, คนที่เผชิญกับปัญหาหนักหน่วงที่สุดคือเรือขนสินค้าซึ่งหากความลึกของแม่น้ำอยู่ที่ระดับต่ำกว่า ๑.๒ เมตร, ก็จะเดินเรือไม่ได้
    หากเป็นไปตามพยากรณ์ของคนที่เดินเรืออยู่ระหว่างอำเภอเชียงแสน (จังหวัดเชียงราย) กับสิบสองปันนา (มณฑลยูนนานของจีน) แล้ว, การเดินเรือในแม่น้ำโขงที่ตื้นเขินขึ้นทุกวันจะเป็นปัญหาร้ายแรงมากเพราะระดับน้ำในแม่โขงส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับการเก็บน้ำหรือปล่อยน้ำจากเจ้าหน้าที่ของจีนด้านบน
    ความต้องการของคนเหนือน้ำกับคนใต้น้ำย่อมต่างกัน และถ้าหากไม่มีการประสานงานกันอย่างเห็นอกเห็นใจ, หรือไม่มีกลไกระหว่างประเทศที่จะสะท้อนถึงปัญหาของกันและกันเพื่อถ้อยทีถ้อยช่วยเหลือกันแล้วไซร้, ความบาดหมางก็อาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างเพื่อนใกล้บ้านเรือนเคียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    จีนสร้างเขื่อนยักษ์สองแห่งแล้วเรื่องยังไม่จบ, ข่าวบอกว่าอาจจะกำลังสร้างเขื่อนใหญ่แห่งที่สามอยู่ (ถ้าเป็นไปตามแผนแล้วท้ายที่สุดอาจจะมีถึง ๑๒ เขื่อนใหญ่) เพราะต้องการจะป้องกันน้ำท่วมและบริหารระดับน้ำในแม่น้ำโขงให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเอง
    อย่างที่บอกแล้วว่าความต้องการเรื่องน้ำของจีนกับของประเทศอื่น ๆ ในแถบนี้ไม่ว่าจะเป็นพม่า, เวียดนาม, ลาว, กัมพูชาหรือไทยนั้นย่อมแตกต่างจากของประเทศจีน ดังนั้นจึงไม่ควรที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะสามารถดำเนินการตามความต้องการของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงความต้องการหรือปัญหาที่จะเกิดกับคนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน
    สำหรับไทยและจีนแล้ว, เส้นทางขนส่งทางน้ำตามลำแม่น้ำโขงมีความสำคัญไม่น้อยเพราะเป็นวิธีการส่งผักและผลไม้จากไทยไปจีนที่ใกล้และค่าใช้จ่ายถูกที่สุด อีกทั้งเรือขนน้ำมันจากไทยไปจีนก็ใช้เส้นทางแม่น้ำโขงเช่นกัน
    มิพักต้องกล่าวถึงการใช้เส้นทางน้ำนี้เพื่อส่งเสริมการเกษตรและการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ในบริเวณนี้เพื่อให้ประชาชนริมฝั่งโขงได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันอย่างเต็มที่
    แต่ถ้าหากขาดการทำความเข้าใจระหว่างทางการจีนกับประเทศอื่น ๆ ในแถบนี้, แม่น้ำที่ควรจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการไหลมารวมกันของมิตรภาพก็อาจจะเป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้งระหว่างกันได้
    คราวหน้าต้องว่าต่อเรื่องนี้เพราะแม่โขงไม่ควรจะเป็นที่มาของความขุ่นข้องหมองใจกันในภูมิภาคนี้เป็นอันขาด
     
  16. atzcret

    atzcret สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ "_/\_"
     
  17. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    โครงการ โพไซดอน อันเดอร์ซี รีสอร์ต" โรงแรมใต้ทะเลแห่งแรกของโลก!

    [​IMG]

    โครงการนี้ใช้เงินลงทุนสูงถึง 4,200 ล้านบาท
    แต่ "บรูซ โจนส์" เจ้าของแนวคิดโรงแรมใต้สมุทรแห่งแรกของโลก เชื่อมั่นว่าจะมีลูกค้ามหาเศรษฐีเข้าคิวควักเงินจองที่พักในมูลค่าสัปดาห์ละ 600,000 บาทมากพอ และสร้างกำไรให้กับกลุ่มผู้ลงทุนเกือบ 20 เจ้าอย่างแน่นอน!
    วันนี้ "บรูซ โจนส์" นักธุรกิจชาวอเมริกัน มีอายุครบ 50 ปีเต็ม
    ตั้งแต่ยังเด็ก โจนส์มีความฝันอยากสร้างที่พักแบบถาวรในทะเล
    เมื่อเติบใหญ่เป็นวัยรุ่น ความคิดอันบรรเจิดครั้งนั้นผลักดันให้เขาเขียนจดหมายบรรยายความฝันไปถึง "แจ๊คกิว เคาตูร" นักสมุทรวิทยาชื่อดังชาวฝรั่งเศส เจ้าของฉายาบิดาแห่งการดำน้ำ
    ถึงแม้จะไม่ได้รับเสียงตอบกลับมาจากผู้ยิ่งใหญ่
    แต่โจนส์ยังเก็บความฝันเอาไว้ในใจ
    เมื่อถึงวัยทำงานก็ยังเลือกเส้นทางชีวิตประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับทะเล

    [​IMG]

    นั่นคือการประดิษฐ์-สร้าง "เรือดำน้ำส่วนบุคคล" จำหน่ายไปทั่วโลก
    บริษัทยูเอสซับมารีนส์ของเขา ผลิตเรือดำน้ำตั้งแต่ขนาดเล็กความยาว 12 ฟุต ไปจนถึงลำใหญ่ยาวกว่า 200 ฟุต
    ราคาถูกที่สุดลำละ 40 ล้านบาท และแพงขึ้นไปเรื่อยๆ ถึง 3,200 ล้านบาท
    ลูกค้าหลักของยูเอสซับมารีนส์ ได้แก่ อุตสาหกรรมนำเที่ยวใต้ทะเล และมหาเศรษฐีเงินถุงเงินถังที่ต้องการมีพาหนะส่วนตัวไว้ขับท่องสมุทรที่ระดับความลึกเฉียดพันฟุต
    เมื่อธุรกิจเริ่มอยู่ตัว โจนส์เริ่มคิดถึงความฝันวัยเยาว์อีกครั้ง
    และเริ่มลงมือทำความฝันให้กลายเป็นความจริง
    หลายปีที่ผ่านมา โจนส์วิ่งระดมเงินทุนจากสถาบันการเงิน นักลงทุนเอกชน 17 เจ้า และนำทรัพย์สินส่วนตัวเข้าไปค้ำประกันกู้เงินมาได้ประมาณ 4,200 ล้านบาท
    เป้าหมายของเงินมหาศาลก้อนนี้ก็เพื่อสร้างโรงแรมใต้ทะเลแบบถาวรแห่งแรกของโลก

    [​IMG]

    แผนที่ประเทศฟิจิ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ตั้งของโพไซดอน รีสอร์ท อยู่บริเวณเกาะนอร์ทเธอร์นลาอู ทางทิศตะวันออกของกรุงซูวา
    มีชื่อโครงการว่า "โพไซดอน อันเดอร์ซี รีสอร์ท" (เว็บไซต์ Poseidon - Prestory)
    แนวคิดของโครงการนี้ คือ สร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่บนบก 22 ห้อง และใต้ทะเลอีก 22 ห้อง

    [​IMG]
    [​IMG]

    ห้องพักบนบกมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ
    ทั้งสระว่ายน้ำ ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ดำน้ำ สนามเทนนิส ร้านอาหาร ฯลฯ
    ในส่วนของห้องพักใต้ทะเล ซึ่งก่อสร้างอยู่ลึกลงไปจากระดับผิวน้ำทะเล 40 ฟุตนั้นก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน
    ภายในห้องพักใต้บาดาลแห่งนี้มีทั้งอ่างอาบน้ำจาคุซซี่ ห้องที่โดยรอบติดตั้งกระจกใสทำจากวัสดุอะครีลิก ทำให้ผู้พักอาศัยมองเห็นบรรยากาศใต้ท้องทะเล รวมถึงปะการังสีสันสวยงามแบบ "ชัดแจ๋ว" ด้วยระบบไฟส่องสว่าง
    นอกจากนั้น ก็ยังมีส่วนห้องรับรองส่วนกลาง ร้านอาหาร ห้องสมุด ห้องประชุม โบสถ์จัดงานวิวาห์ และห้องสปา ไว้คอยบริการ
    ราคาห้องพักใต้ทะเลที่แพงที่สุด คือ ห้องสูทนอติลุส

    [​IMG]
    ลักษณะห้องพักใต้ทะเล หรูหราไม่แพ้โรงแรม 5 ดาวบนบก
    [​IMG]
    [​IMG]
    สนนราคาค่าบริการ 15,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 600,000 บาทต่อ 1 คืนเท่านั้น
    ในช่วงแรกของการเริ่มต้นโครงการโพไซดอน อันเดอร์ซี รีสอร์ต โจนส์มองทำเลเหมาะๆ ไว้หลายแห่ง
    อาทิ หมู่เกาะแถบบาฮามาส
    [​IMG]
    แต่ผลสุดท้ายตัดสินใจเลือกที่ตั้งโรงแรมในฝันที่เกาะส่วนบุคคล บริเวณเกาะนอร์ทเธิร์นลาอู ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฟิจิ ในมหาสมุทรแปซิฟิก
    โครงสร้างโรงแรมบนบกไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว
    ที่ทีมวิศวกรของโจนส์ต้องทำงานหนักก็คือ โครงสร้างห้องพักในทะเลจำนวน 22 ห้อง ซึ่งยึดเรียงติดกันเป็นแถวยาวผ่านโครงสร้างหลักที่โจนส์เรียกว่า "กระดูกสันหลัง"
    ห้องพักและโรงแรมที่อยู่ใต้ทะเลมีระบบปรับแรงดันอัตโนมัติ
    และมีระบบเข้าออกแบบ "แอร์ล็อก" ป้องกันไม่ให้น้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาภายในตัวโรงแรมยามที่แขกเข้า-ออกไปดำน้ำชมปะการัง
    [​IMG]
    การเดินทางจากบนบกลงมาใต้น้ำ โดยสารผ่านอุโมงค์ลิฟต์แก้ว ซึ่งแยกเป็นของแขก 1 อุโมงค์ ของพนักงานอีก 1 อุโมงค์
    ขนาดของห้องพักมีความกว้างและพื้นที่ใช้สอย 550 ตารางฟุต
    เนื่องจากโครงสร้างส่วนใหญ่ร้อยละ 70 ของโรงแรมเป็นกระจกอะครีลิกความหนา 4 นิ้ว จึงต้องมีการติดตั้งระบบฉีดน้ำทำความสะอาดกระจกให้ใส-สะอาดอยู่เสมอ
    เพื่อป้องกันไม่ให้ตะไคร่ สาหร่าย หรือสิ่งสกปรกอื่นใดใต้ทะเลมาบดบังทัศนียภาพของลูกค้า
    ในกรณีที่ห้องพักเสียหาย ช่างซ่อมบำรุงสามารถปลดสลักถอดห้องแต่ละห้องขึ้นมาซ่อมแซมบนบกได้
    เทคโนโลยีที่นำมาใช้สร้างโรงแรมใต้ทะเล เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ต่อตัวถึงเรือดำน้ำ
    โจนส์ กล่าวว่า โชคดีที่ธุรกิจเรือดำน้ำของตนได้รับความเชื่อถือมาก
    เวลาไปติดต่อขายแนวคิดโครงการโพไซดอน อันเดอร์ซี รีสอร์ต จึงง่ายขึ้น
    รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทางโรงแรมเตรียมมอบให้กับลูกค้าในปีหน้า อาทิ
    [​IMG]
    คู่รักมหาเศรษฐีที่พร้อมจ่ายเงินก้อนโตมาฮันนีมูนใต้น้ำ เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ผู้บริหารโรงแรมเล็งไว้เป็นลูกค้าหลัก
    ระบบให้อาหารสัตว์น้ำโดยตรงจากห้องพัก
    แต่ปริมาณอาหารจะถูกจำกัดจำนวนในแต่ละวัน
    ป้องกันไม่ให้มีเศษอาหารตกค้างมากเกินไปในทะเล
    ขณะที่บรรดาปลาทั้งหลายในพื้นที่จะได้กินแต่พออิ่ม
    ส่วนเซ็กชั่นร้านอาหาร-บาร์ใต้ทะเล ขนาด 3,000 ตารางฟุต ก็ออกแบบให้หมุนได้ เพื่อเปลี่ยนทิวทัศน์
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    บริการเสริมอื่นๆ ที่เตรียมไว้รับรองแขกยังมีโปรแกรมสอนขับเรือดำน้ำและเช่าเรือดำน้ำขับเล่น
    ปัจจุบัน ชิ้นส่วนต่างๆ ของโรงแรมใต้ทะเลอยู่ระหว่างการก่อสร้างในอู่ต่อเรือเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา
    เมื่อเสร็จสมบูรณ์จะใช้เรือบรรทุกมาประกอบที่ฟิจิ ก่อนขนย้ายนำไปติดตั้งกับพื้นทะเล
    และเปิดรอให้อภิมหาเศรษฐีใจถึงจากทั่วโลกลงทะเบียนจองคิวเข้าพักอาศัยได้นับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2550 เป็นต้นไป
     
  18. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    10 การทดลองในมนุษย์ที่สุดแสนจะน่ากลัว

    การทดลองในมนุษย์นั้นเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้มาช้านาน แม้มันจะทำให้เทคโนโลยีก้าวหน้าก็ตาม แต่เนื่องด้วยจริยธรรมและศิลธรรมทำให้การทดลองเหล่านี้เป็นเรื่องโหดร้าย และนี้คือ 10 รายการที่มีชื่อสียงเรื่องการแพทย์ ของการทดลองโดยใช้มนุษย์เป็นๆ มาทดลอง
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>อันดับ 10 Stanford Prison Experiment</O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    <O:p><O:p>
    การทดสอบคุกสแตนฟอร์ดเป็นการทดลอบทางจิตวิทยาเพื่อการศึกษาการตอบสนองของมนุษญ์เมื่อถูกจับกุมและผลกระทบต่อพฤติกรรมเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังในเรือนจำ การทดลองดำเนินการในปี 1971 โดยนักจิตวิทยา ฟิลิป ซิมบาโด(Philip Zimbardo) ของมหาลัยสแตนฟอร์ดมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยให้อาสาสมัครเป็นนักศึกษาทั้งหมด 20 คน มาเล่นบทนักโทษและผู้คุม(ทั้งหมดไม่รู้จักกันมาก่อน)ในคุกจำลองในชั้นใต้ดินของอาคารจิตวิทยาสแตนฟอร์ด 8 คนที่ถูกสุ่มจะได้เป็นผู้คุมได้ชุดฟอร์ม อุปกรณ์ครบมือ อีก12 คนที่เหลือเป็นนักโทษ ซึ่งไม่มีสิทธิในฐานะความเป็นมนุษย์ใดๆทั้งสิ้น แล้วกำหนดเงื่อนไขสถานการณ์ต่างๆ เข้าไประหว่างการทดลอง เพื่อให้ฝ่ายผู้คุมได้ใช้อำนาจของตน และให้ฝ่ายนักโทษปฏิบัติตาม (โดยห้ามใช้ความรุนแรงใดๆทั้งสิ้น หากใช้ความรุนแรงจะถูกตัดออกจากการทดลองทันที และสามารถออกไปกลางคันได้ไม่ได้เงินค่าจ้าง) โดยตอนแรกกะว่าจะทดลองสองสัปดาห์ แต่ปรากฏว่าล้มเหลวต้องหยุดกลางคันเพียงหกสัปดาห์เท่านั้น เนื่องจากบทบาทของอาสาสมัครเกินขอบเขตที่จะคาดการณ์ได้และนำไปสู่สถานการณ์ที่อันตรายและเสียทางทางจิตใจ และตอนเริ่มต้นการทดลองก็เพิ่งมาทำความรู้จักกัน พวกเขายังยิ้มแย้ม หยอกล้อเล่นหัวกันแบบเพื่อน แต่เมื่อการทดลองนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าอาสาสมัครแต่ละคน แต่ละฝ่าย ค่อยๆ อินกับบทบาทสมมติของตนมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาเริ่มทะเลาะกัน กลั่นแกล้งกัน ทำร้ายกันไปมา แล้วในที่สุด พวกเขาก็กลายเป็นผู้คุมจอมโหดและนักโทษเดนตายไปได้จริงๆหนึ่งในสามของผู้คุมกลายเป็นคนที่มีนิสัยโหดร้ายทารุณชอบทรมานนักโทษ(จำลอง)หลายคนจนบอบช้ำ และสองคนถูกตัดจากการทดลอง(บางเว็บบอกเพราะสองคนนั้นตาย) ทำให้การทดลองนี้ล้มเหลวในที่สุด
    อันดับ 9 The Monster Study
    [​IMG]
    <O:p>The Monster Study เป็นการทดสอบการพูดติดอ่างของเด็ก โดยใช้เด็กกำพร้า 22 คน(อายุ 5-15) ใน ดาเวนพอร์ท, ไอโอวา ปี 1939 ดำเนินการโดย จอห์นสัน(Wendell Johnson) แห่งมหาลัยไอโอวา จอห์นสันเลือกหนึ่งในนักศึกษาระดับบัณฑิตของเขาแมรี่ ทิวเดอร์ (Mary Tudor) ดำเนินการทดสอบและวิจัยดูแลเด็กกับด้วย สำหรับวิธีการทดลองจอห์นสันจะแบ่งเด็กเป็นสองกลุ่ม เด็กกลุ่มหนึ่งจะได้รับฟังแต่คำพูดที่ดี คำพูดสรรเสริญในแง่บวก เด็กอีกกลุ่มได้รับฟังแต่ถ้อยคำที่หยาบช้า ทับถม ติเตียนแง่ลบ ผลการทดลองพบว่า เด็กที่ฟังแต่คำชมสามารถพูดคล่องแคล่วและพูดจาสุภาพ แต่ปัญหาของการทดลองนี้คือกลุ่มที่ 2 ที่เป็นกลุ่มเด็กที่ฟังด้วยคำพูดในแง่ลบ มีปัญหาทางจิต ดื้อ เก็บกด ไม่ค่อยกับคนอื่น สร้างโลกส่วนตัว ชอบพูดติดอ่าง และส่งผลกระทบต่อการใช้ภาษาไปชั่วระยะหนึ่ง การทดลองนี้ทำให้จอห์นสันเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมากและสังคมเริ่มตื่นตัวการทดลองนี้เทียบเท่ากับการทดลองมนุษย์ของพวกนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมหาลัยไอโอวาต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะชนในการทดลอง The Monster Study ในปี 2001 (และจ่ายเงินค่าเสียหายแก่เด็กกำพร้า 6 คน เป็นจำนวนถึง 920,000 ดอลลาร์)
    <O:p>อันดับ 8 Project 4.1</O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    <O:p>รัฐบาลสหรัฐได้มีโครงการเกี่ยวกับการศึกษาการแพทย์โดยการนำประชาชนจำนวนหนึ่งไปปล่อยบนเกาะมาร์แชล Marshalls เพื่อสัมผัสกัมมันตภาพรังสีที่ออกมาจากของเสียในเหตุการณ์ Castle Bravo ที่เกาะบิกีนี่ เมื่อ 1 มีนาคม 1954 ซึ่งเกาะแห่งนี้ได้รับปริมาณรังสีนี้ในปริมาณมากกว่าที่คาดคิด ผู้ทดลองได้รับกัมมันตภาพรังสีปริมาณหนึ่งๆอย่างต่อเนื่อง และเมื่อสิ้นสุดโครงการ ก็สังเกตผลกระทบ ระยะแรกผู้เข้าร่วมโครงการยังปกติอยู่หากแต่อีกไม่กี่ปีต่อมา ผลกระทบก็ตามมา เช่น การแท้งบุตร มะเร็งต่อมไทรอยด์ เด็กที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติต่าง ฯลฯ จนโครงการนี้ได้ถูกประณามจากผู้เชี่ยวชาญว่า “พวกเขาถูกใช้เป็นหนูตะเภาทดสอบรังสี”</O:p>
    <O:p><O:p> อันดับ 7 Project MKULTRA</O:p></O:p>
    <O:p><O:p>[​IMG]</O:p></O:p>
    <O:p><O:p>โครงการ เอ็มเคอัลทราหรืออีกชื่อหนึ่งว่า CIA mind-control research program เป็นการทดลองลับๆ ที่หน่วยข่าวกรองกลางและสืบราชการลับของสหรัฐ หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ"ซีไอเอ" พยายามปิดบังซ่อนเร้นไม่ให้ประชาชนรู้ <O:p></O:p>
    โครงการเอ็มเคอัลทราเป็นการศึกษาและทดลอง "การควบคุมพฤติกรรมมนุษย์" โดยใช้สารเคมีและสารชีวภาพ เพื่อนำมาดัดแปลงใช้ทำอาวุธสงครามแรกเริ่มเดิมทีนั้น ซีไอเอ ไม่ได้คิดจะสร้างอาวุธชนิดนี้ พวกเขาเพียงแต่กลัวว่าประเทศที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสหรัฐจะใช้อาวุธเคมีและชีวภาพในการทำสงคราม พวกเขาจึงต้องทำการศึกษาเตรียมไว้ก่อนเพื่อจะได้ป้องกันและแก้ไขแก่สถานการณ์ภายภาคหน้าเอาไว้<O:p></O:p>
    การทดลองนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 และต่อเนื่องจนถึงปี 1960 มีข่าวลื่อต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับการทดลองนี้ว่าโครงการนี้ใช้ยาหลายประเภทรวมทั้งวิธีการต่างๆ มาทดลองกับคนทดลองเพื่อเปลี่ยนแปลงจิตใจและสมองโดยไม่สนจะเต็มใจหรือไม่<O:p></O:p>
    สำหรับวิธีการทดลองพวกนักวิทยาศาสตร์ผู้เข้าร่วมโครงการนี้การทดลองในช่วงแรกนั้นทำขึ้นที่ ศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด เล็กซิงตัน (Lexington Rehabillitation Center) ซึ่งปัจจุบันก็คือสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ (National Institute of Mental Health) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักโทษอาสาสมัครคดียาเสพติดนักโทษเหล่านี้จะต้องเซ็นชื่อยินยอม อนุญาตให้นำสารเสพติดเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาได้ จากนั้นพวกเขาก็ได้รับสารเสพติดชนิดเดียวกับที่พวกเขาแต่ละคนติด<O:p></O:p>
    ต่อมาก็มีทดลองโดยฉีดยาหลอนประสาท LSD((Lysergic acid diethylamide)) ให้กับลูกจ้าง CIA, ทหาร, แพทย์, ข้าราชการ, โสเภณี, ผู้ป่วยจิตเวช และบุคคลทั่วไปจำนวนหนึ่งซึ่งมีหลายระดับชนชั้นตั้งแต่อาชญากรชั้นต่ำไปจนถึงระดับไฮโซ มีทั้งคนอเมริกันและคนต่างชาติ เพื่อศึกษาฤทธิ์ของยา LSD ซึ่งคนที่ทดลองบางคนก็ยินยอม บางคนไม่ได้รับเนื้อหาการทดลอง และบางคนไม่ยอมให้ตนเองมาทดลองกับโครงการนี้ แต่กระนั้นบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและวุฒิสมาชิกต่างก็พากันปฏิเสธกันให้พัลวันว่าไม่มีการทดลองที่ผิดศีลธรรมและจรรยาดังกล่าว<O:p></O:p>
    ในปี 1973 CIA ถูกสั่งให้ทำลายไฟล์ทั้งหมด ทำให้เอกสารเกี่ยวกับโครงการนี้ถูกทำลายเผาไหม้ไปด้วย ทำให้ไม่มีหลักฐานว่ามีการทดลองนี้เกิดขึ้นจริงใน CIA
    <O:p>อันดับ 6 The Aversion Project</O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    <O:p><O:p>โครงการแห่งความเกลียดชัง เป็นการทดลองของหน่วยงานตามนโยบายการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ที่บังคับนำทหารรักร่วมเพศผิวขาว (เลสเบี้ยนและเกย์) มาทำการทดลอง "เปลี่ยนเพศ" (The Aversion Project) ซึ่งดำเนินตั้งแต่ปี 1970 และ 1980 โดยใช้สารเคมีที่มีผลทำให้หมดความรู้สึกทางเพศ/เป็นหมัน (chemical castration) ใช้กระแสไฟฟ้าช็อต ฮอร์โมน และอื่นๆ การทดลองทางแพทย์ที่ผิดจรรยาบรรณนี้ไม่มีตัวเลขผู้ทดลองที่แน่นอนแต่ก็มีการประเมินว่าผู้ทดลองมีมากถึง 900 คนที่ถูกบังคับให้เปลี่ยนเพศ และอาจมีการดำเนินการระหว่าง 1971 และ 1989ที่โรงพยาบาลทหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการลับสุดยอด ผลกระทบต่อการทดลองนี้คือคนที่โดนทดลองกลายเป็นอาการทางจิต ไม่สามารถหายจากการติดยาเสพย์ติดได้ ต้องบำบัดอาการช็อกความเกลียดชังเรื่องเพศของตัวเอง และการรักษาฮอร์โมนและอื่นๆ</O:p></O:p>
    <O:p><O:p><O:p>อันดับ 5 North Korean Experimentation</O:p></O:p></O:p>
    <O:p><O:p><O:p>[​IMG]</O:p></O:p></O:p>
    <O:p><O:p><O:p><O:p>มีรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับการทดลองในมนุษย์ในค่ายกักกัน(นรก)ของเกาหลีเหนือ รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงและการทดลองนั้นคล้ายกับการทดลองมนุษย์ของนาซีและญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองไม่มีผิด แต่กระนั้นข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ถูกปฏิเสธทั้งหมดโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือโดยอ้างว่านักโทษทั้งหมดในเกาหลีเหนือถือว่าเป็นมนุษย์<O:p></O:p>
    อดีตนักโทษเกาหลีเหนือที่สามารถหลบหนีไปยังต่างประเทศได้บอกว่า นักโทษที่ค่ายกักกันเกาหลีเหนือถูกทดลองมนุษย์เสมือนพวกเขาเป็นสัตว์ไม่ใช้คน และวิธีการทดลองนั้นสยดสยอง พวกเขายกตัวอย่างว่า 50 นักโทษหญิงที่สุขภาพดีถูกคัดเลือกและได้ถูกบังคับรับประทานใบกะหล่ำปลีที่เต็มไปด้วยพิษร้ายแรง(หากนักโทษไม่กินจะโดนซ้อมทั้งตัวนักโทษและครอบครัว) หลังจากที่ได้กินนักโทษส่งเสียงกริ๊ดร้องและทุกข์ทรมาน หลังจากนั้น 20 นาทีต่อมาพวกเขาทั้งหมดอาเจียนเป็นเลือดออกทางปากและทางทวารหนัก ก่อนที่จะตายอย่างน่าสงสาร<O:p></O:p>
    ควอน (Kwon Hyok) อดีตผู้คุมหัวหน้ารักษาความปลอดภัยที่แคมป์ 22 บอกว่าพวกเขาจะมีห้องปฏิบัติการหลายห้องสำหรับทดลองก๊าซพิษ,การสำลักอากาศและการทดลองเลือด ซึ่งจะเลือก 3 ใน 4 คนหรือทั้งครอบครัวมาทดลอง หลังจากระยะการตรวจสอบต่างๆ พวกเขาจะถูกส่งไปยังห้องรมก๊าซ แพทย์จะฉีดยาพิษเข้าสู่ทดลองและพวกเขาก็มองผ่านกระจก มองดูคนทดลองตายอย่างช้าๆ อดีตผู้คุมอ้างว่าเขาได้เห็น 2 ครอบครัว พ่อ แม่ และลูกสาวตายจากการสำลักก๊าซ และผู้ปกครองอีกคนพยายามช่วยเด็กด้วยการเป่าปากกับปากไปตราบเท่าพวกเขายังคงมีลมหายใจอยู่
    อันดับ 4. [B]Poison laboratory of the Soviets[/B]
    [​IMG]
    ห้อง ปฏิบัติการพิษของหน่วย ลัยโซเวียต หรือเรียกว่าปฏิบัติการ 1, ปฏิบัติการ 12 และ Chamber เป็นการทดลองวิจัยเกี่ยวกับพิษต่างๆ ที่พัฒนาในสถานที่หน่วยงานตำรวจลับของโซเวียตภายใต้การนำของ Pavel Sudoplatov โดยโซเวียตทดสอบพิษร้างแรงชนิดต่างๆ กับนักโทษจากคุก Gulag (ศัตรูของประชาชน)โดยการสูด ดมหรือกิน,ดื่มที่มีส่วนผสมของนา เช่นก๊าซมัสตาร์ด,ไรซิน (Ricin) เป็นสารพิษ อาจอยู่ในรูปของฝุ่นผง ละอองหรือเป็นเม็ด,ไดจิท็อกซิน(digitoxin) และยาพิษอื่นๆ อีกหลายขนาน เป้าหมายของการทดสอบเพื่อหาสารพิษที่ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ส่งผลให้เหยื่อการทดลองมีร่างกายเปลี่ยนไป และบางรายตายภายในสิบห้านาที

    อันดับ 3 Tuskegee Syphilis Study
    [​IMG]
    ปี ค.ศ. 1972 เกิดข่าวเสื่อมเสียเกี่ยวกับการทดลองศึกษาโรคซิฟิลิสในอเมริกา เรียกว่า Tuskegee Syphilis Study ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ ค.ศ. 1932 -1972 ระยะเวลานานถึง 40 ปี ใน Tuskegee เมืองชนบทในมลรัฐอลาบามา โดย U.S. Public Health Service (PHS) ของอเมริกาที่ต้องการศึกษาการเจริญเติบโตของโรคซิฟิลิส เพื่อเข้าใจโรคที่ยังไม่มียารักษา โดยการทดลองนี้คือการการฉีดยาให้แก่ผู้ทดลองแก่คนผิวดำกว่า 412คน(ชุดแรก) ในย่านอาศัยแถวนั้น โดยคนผิวดำส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือและยากจน จากนั้นก็ศึกษาวิจัยการดำเนินโรคซิฟิลิสตามธรรมชาติในคนโดยที่คนเหล่านั้น ผู้โชคร้ายเหล่านี้เข้าใจว่า ตนกำลังได้รับการรักษาจากรัฐ โดยไม่เคยมีใครบอกให้รู้ว่าเป็นโรคอะไร และจะไม่ได้รับการแจ้งว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่ได้รับการรักษาใด ๆ เลย มีการทำหัตถการหลายอย่างเพียงเพื่อการศึกษาวิจัย เช่น การเจาะหลังเพื่อนำน้ำไขสันหลังไปตรวจ เป็นต้น ตอนแรกการทดลองวางกำหนดการณ์ไว้ที่ไม่กี่เดือน แต่การวิจัยครั้งนี้กลับดำเนินการต่อเนื่องถึง 40 ปี ส่งผลให้ผู้ถูกทดลองรอดชีวิตเพียงประมาณ 70 คนจากทดลอง(ไม่รวมผู้ที่ติดเชื้อจากการทดลองนี้) แล้วสิ่งที่ได้คือวงการแพทย์ได้ศึกษาเกี่ยวกับซิฟิลิสอย่างละเอียด <O:p></O:p>
    นิวยอร์กไทม์ได้ประนามการทดลองนี้ว่า "เป็นการทดลองที่ไม่มีการให้ยารักษา ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการแพทย์" เป็นการทดลองที่ไม่มีความจำเป็นอะไรเลย อีกทั้งโรคนี้มียารักษามานานแล้ว เห็นได้ว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น และมีการกระจายภาระไม่เป็นธรรมโดยเลือกแต่ชาวผิวดำในพื้นที่ยากจน ส่งผลให้ประธานาธิบดีแถลงขอโทษต่อผู้เข้าร่วมโครงการที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือครอบครัว และชุมชน และเสนอให้ดูแลชดใช้ความเสียหายอันเกิดจากโครงการวิจัย ในปี ค.ศ. 1997 ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เข้าทำเนียบขาวเพื่อรับฟังคำกล่าวขออภัยจากประธานาธิบดีคลินตัน นำไปสู่การออกกฎหมายควบคุมดูแลการวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา (National Research Act) <O:p></O:p>

    [FONT=Angsana New]<O:p></O:p>[/FONT]
    <O:p></O:p>
    <O:p>อันดับ 2 Unit 731</O:p>
    <O:p>[IMG]http://extra.listverse.com/amazon/humanexperiments/Unit731S.jpg[/IMG]</O:p>
    <O:p>ย้อนไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ [COLOR=black][FONT=Angsana New]2 อันเป็นที่มาของการก่อตั้งหน่วยปฏิบัติการ 731 ด้วยเหตุว่าเมื่อเกิดสงคราม เป้าหมายคือชัยชนะ ทั้งสองฝ่ายต่างงัดเล่ห์เพทุบายมาใช้โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมหรือความชอบธรรมใด ๆ และสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งคือการใช้สารพิษและอาวุธชีวภาพ หรือพูดง่าย ๆ ว่าอาวุธเชื้อโรคเพื่อทำลายพลเมืองทีละเป็นหมื่นเป็นแสนคน จนเป็นเรื่องฉาวโฉ่ที่สุดในอาชญากรรมสงครามของญี่ปุ่น<O:p></O:p>[/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Angsana New]หน่วยปฏิบัติการ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New] 731 (1937-1947) เป็นชื่อหน่วยปฏิบัติการทางการแพทย์ของญี่ปุ่น ภายใต้การควบคุมกำกับโดยนายแพทย์ อิชิอิ ชิโร([/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New]Shiro Ishii[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New])[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New] การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์ในการสร้างพัฒนาอาวุธเชื้อโรคเพื่อใช้ในสงครามอย่างมีประสิทธิภาพ และการทดลองนี้จำเป็นที่ต้องใช้มนุษย์เป็นๆ ในการทดลองจำนวนมาก หน่วยนี้ได้ถูกส่งมายังประเทศจีนและเลือกเมืองฮาร์ปินเป็นที่ตั้ง และปกปิดชื่อโครงการโดยใช้ชื่อ [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Cordia New]“[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New]หน่วยงานพิเศษเพื่อการศึกษาภูมิคุ้มกันและการบำบัดน้ำเสีย[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Cordia New]”[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New] จากนั้นก็นายทหารผู้ช่วยให้ตระเวนจับชาวจีนหรือรัสเซียผู้โชคร้ายมายังห้องปฏิบัติการ เพื่อทดลองมนุษย์เป็นๆ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New]<O:p></O:p>[/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Angsana New]การทดลองของโครงการนี้มีหลายอย่าง เช่น การผ่ามนุษย์โดยไม่ใช้ยาสลบ, การใส่สารพิษที่คิดค้นมาใหม่ลงไปในหารและน้ำดื่ม เพื่อฆ่าประชาชนทีละมาก ๆ[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New], การบังคับให้หญิงสาวร่วมเพศกับชายที่ป่วยเป็นโรคซิฟิลิส (หนองใน) นับสิบคน เพื่อศึกษาการพัฒนาเชื่อซิฟิลิสที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์, การฉีดเลือดสัตว์ที่มีเชื่อเข้าร่างกายมนุษย์ที่ถูกจับมาเป็นเหยื่อ เพื่อดูผลการแพร่เชื้อในมนุษย์เป็น ๆ, การจับเหยื่อห้อยหัวลงจนกว่าจะตาย เพื่อทดสอบความทนในการเอาชีวิตรอด, การจับเหยื่อเข้าไปในห้องทดลอง และอัดความดันหรือดูดอากาศออกจนร่างระเบิดเละ, การจับมนุษย์เปลือยร่างแช่ในน้ำอุณหภูมิเป็นลบ, การตัดเอาชิ้นส่วนมนุษย์ออก เช่น ตัดกระเพาะออก นำลำไส้ต่อตรงมาที่หลอดอาหารเพื่อดูว่ามนุษย์ไม่มีกระเพาะอาหารจะมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่, การตัดแขนขา และนำต่อใหม่ด้วยการสลับข้าง ฯลฯ ซากของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจะถูกโยนเข้าไปในเตาเผาด้านหลังของหน่วยปฏิบัติการ สิ่งเหล่านี้คือภารกิจของหน่วยปฏิบัติการ 731 <O:p></O:p>[/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Angsana New]สิ่งที่น่าตะหนกคือ หน่วยปฏิบัติการ [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New]731 ได้เคยทดลองใช้อาวุธชีวภาพเพื่อฆ่ามนุษย์ทั้งในห้องปฏิบัติการและในสนามรบของประเทศจีนมากกว่า 2,700 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตล้มตายนับจำนวนไม่ได้ มีการลอบใส่สารพิษลงไปในน้ำดื่มและอาหารที่ประชาชนบริโภค การโปรยหมัดที่ติดเชื้อรุนแรงลงไปในเมืองใหญ่ ๆ ปล่อยเชื้อไข้ไทฟอยด์ อหิวาห์ บิด ลงไปในน้ำดื่ม การใช้ก๊าซพิษฆ่าคนทีละมาก ๆ<O:p></O:p>[/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Angsana New]ในเวลาต่อมาเมื่อหน่วยถูกยุบ[COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New] นายแพทย์อิชิอิ ชิโร[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Angsana New] ไม่ได้ถูกตัดสินหรือจำคุกในฐานะอาชญากรในสงครามใดๆ ทั้งสิ้น เขาเสียชีวิตลงเมื่ออายุ 67 โดยโรคมะเร็งลำคอ [/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New]อันดับ 1 [B]Nazi Experiments[/B][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New][IMG]http://extra.listverse.com/amazon/humanexperiments/dachautests.jpg[/IMG][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    [COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New][COLOR=black][FONT=Angsana New]การ ทดลอง มนุษย์ของนาซีเป็นการทดลองมนุษย์ที่ใช้มนุษย์เป็นๆ จำนวนมากและสังเวยชีวิตกับการทดลองนี้มากเช่นกัน ภายใต้ระบอบนาซีเยอรมันเต็มที่ในการทดลองมนุษย์ในค่ายกักกันในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดนเฉพาะที่"ค่ายเอาชวิตซ์" (Auschwitz) และดาเชา (Dachau) และที่ค่ายกักกันอื่นๆ ทั่วยุโรป นักโทษที่ส่วนใหญ่เป็นชาวยิวหรือชาวรัสเซียนั้นถูกพวกนาซีใช้เป็นหนูตะเภาใน การทดลองทางการแพทย์หลายอย่าง ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ในการคิดค้นยา และการหาวิธีการรักษาทหารเยอรมันจากโรคภัยและอันตรายที่เกิดขึ้นเนื่องๆ ในระหว่างสงคราม วัตถุประสงค์ทางการทหาร การทดลองระดับลับสุดยอด โดยได้รับเงินสนับสนุนจากกองกำลังทหารนาซี

    แพทย์เหล่านั้นมิใช่ถูกบังคับข่ม ขู่ แต่เป็นการกระหายใคร่รู้ในผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์โดยไม่มีเหตุผล ไม่คำนึงถึงศีลธรรมและไร้ซึ่งจรรยาบรรณ เมื่อคำพิพากษาหนึ่งเดียวสำหรับนักโทษชาวเยอรมัน เชลยชาวยิว โปแลนด์ เชค รัสเซียฯลฯ คือ "ไร้ค่า" แพทย์ในคราบสัตว์กระหายเลือดเฝ้ารอคำสั่งจากท่านผู้นำฮิตเลอร์ให้ใช้นักโทษ "ทดลอง" เพื่อความรุ่งเรืองของเยอรมนี

    นัก วิจัยที่มีชื่อเสียมากกว่าชื่อเสียงที่สุดก็คือ Dr.Sigmund Rascher เป็นผู้ควบคุมการทดลองในดาเชา และยังเป็นคนคิดค้นวิธีการทดลองแนวไซโคแบบต่างๆ เช่น

    -การฉีดไข้มาเลียให้นักโทษที่มี ร่างกายปกติดี(ประมาณ 1,100 ในค่ายคาเคา)เพื่อให้คนเหล่านั้นเป็นไข้ขึ้นมา แล้วจึงทดลองรักษาด้วยการใช้ยาชนิดต่างๆ เพื่อศึกษาผล ปรากฏว่า นักโทษหนูตะเภาและนักโทษอื่นๆ ที่ร่างกายอ่อนแอก็พลอยรับเชื้อติดต่อจากนักโทษคนอื่นๆ ไปด้วย ทำให้มีนักโทษจำนวนไม่น้อยที่ต้องสังเวยชีวิตไปในการทดลองครั้งนี้

    -นอก จากนี้พวกนาซียังทดลองเรื่องสภาวะความกดดันอากาศลดต่ำโดยฉับ พลัน(Decompression)ซึ่ง สภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินถูกยิงในขณะบินในระดับสูงๆ อันทำให้ความกดดันอากาศในห้องนักบินที่ปรับไว้พอดีสำหรับร่างกายของมนุษย์ เกิดลดต่ำอย่างกะทันหัน นักโทษที่เป็นหนูตะเภาจะต้องถูกนำไปใส่ห้องที่ปรับความดันอากาศต่ำ และสังเกตอาการ ซึ่งอาการที่ปรากฏก็คือขาดออกซิเจนจนตัวเขียว หายใจเร็ว หนาว อาเจียน จนหมดสติ มีบันทึกของนักโทษคนหนึ่งในค่ายคาเคาที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการทดลองนี้ ว่ามีนักโทษ 200 คนเข้ามาเป็นหนูทดลอง มีคนตาย 70-80 คน

    -การทดลองเพื่อหาวิธีช่วยชีวิตนัก บินทหารอีกอย่างคือ การทดลองคนที่หนาวจนแข็ง เพราะนักบินอาจตกลงในน้ำทะเลที่เย็นจัด เมื่อช่วยนักบินขึ้นจากน้ำแล้วจะมีวิธีใดที่ทำให้ร่างกายของเขาอบอุ่นโดย เร็ว ดังนั้น นักโทษจึงถูกสวมชุดนักบิน แล้วนำไปแช่อ่างที่มีน้ำเย็นจัดจนเป็นน้ำแข็ง ให้หนาวจนถึงที่สุดแล้วนำไปให้ความอบอุ่นด้วยวิธีต่างๆ ถ้าไม่สำเร็จก็ตายไปเถอะ

    -นอกจากนี้ยังมีการ ทดลองเกี่ยวกับโรคทั่วไป เช่น วัณโรค เชื้อหนองที่ทำให้เป็นแผลอักเสบ ซึ่งกระทำโดยการฉีดเชื้อเหล่านี้ให้กับนักโทษเพื่อลองยาเช่นกัน

    -ร่วมประเวณีกับนักโทษโสเภณีจากค่าย กักกัน และที่น่าหดหู่ใจกว่านั้นก็คือ ท้ายที่สุดเหยื่อผู้รอดชีวิตทั้งหมดจะต้องถูกยิงตายในที่สุด

    - การพยายามผ่ากะโหลกศีรษะของเหยื่อออกเป็นสองซีก ในขณะที่เหยื่อยังมีสติดีอยู่ (ถ้าไม่เผลอช็อคตายไปซะก่อน) ทั้งนี้ก็เพราะต้องการตรวจสอบระบบการทำงานของสมองมนุษย์ขณะที่ยังมีลมหายใจ นั่นเอง

    นักวิจัยที่ มีชื่อ เสียมากกว่าชื่อเสียงที่สุดอีกคนคือดร.โจเซฟ แม็งเกเล่ (Josef Mengele) ผู้ควบคุมการทดลอง มนุษย์ในค่ายเอาชวิตซ์ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง

    -การ ตัดอวัยวะเพศหรืออวัยวะบางส่วนเพื่อการทดสอบเรื่องยีน โดยไม่ใช้ยาสลบ การนำนักโทษหญิงมาทดลองต่อกระแสไฟฟ้าว่าชาร์ตสูงเพียงใดถึงจะมีชีวิต การเอานักโทษมาเอ็กซ์เรย์อวัยวะเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ โดยไม่สนใจว่าถ้าปล่อยกระแสไฟฟ้านานๆ จะทำให้อวัยวะนั้นถูกเผาไหม้ ฯลฯ

    - การทดลองปลูกถ่ายอวัยวะ โดยการผ่าตัดร่างกายของนักโทษคนหนึ่งเพื่อเปลี่ยนถ่ายให้กับอีกคน,

    -เหยื่อที่ หมอโจเซฟ ชื้นชอบที่สุด คือ ฝาแฝด และคนแคระ มีฝาแฝดประมาณ14 คู่ที่ต้องจบชีวิต โดยมือของ หมอโจเซฟ ( รูปซ้ายล่าง คือครอบครัว Ovitzทั้ง หมดเป็นพี่น้องกัน ตระกูลนี้มีพี่น้อง 10 คน 7 คน เป็นคนแคระ ทั้ง 12ชีวิตถูกจับ ส่งเข้าสู่ค่ายเอาชวิตซ์ เมื่อ หมอโจเซฟ พบครอบครัว Ovitzเขาคิดว่าพระเจ้าได้ประทานสิ่งหายากยิ่งให้แก่เขา 2 ใน 12เสียชีวิตในการทดลอง ที่เหลือโชคดีที่การทดลองยังไม่ทันจบเยอรมันก็แพ้สงครามก่อนจึงรอดชีวิตมา ได้

    ไม่เพียงแต่แพทย์ ชายเท่านั้น แพทย์หญิงก็ไม่เว้นที่จะทำการทดลองมนุษย์ด้วย แพทย์หญิง เฮอร์ทา โอเบอร์ฮอยเซอร์ ( Dr. Herta Oberheuser )หมอ เฮอร์ทา ทำการทดลองเกี่ยวกับการรักษาบาดแผล ที่เกิดจากสงครามซึ่งการทดลองของเธอคือการทำให้นักโทษเกิดบาดแผลต่างๆ เพื่อให้เธอรักษา เช่น ผ่าร่างกายของเชลยให้เกิดบาดแผล แล้วใส่เศษดิน ต้นไม้ใบหญ้า เศษกระจก เศษเหล็กเป็นการจำลองแผลจากสงครามขึ้น ขอจนอับแสบอย่างรุนแรง แล้วทำการรักษาด้วยตัวยาสูตรต่างๆ ส่วนบาดแผลไฟไหม้ เธอก็ทำเหมือนเช่นเดิน เธอจะกีดร่างกายเหยื่อแล้วใส่สาร Phosphorous ลงในแผล แล้วจุดไฟ จะเกิดการลุกไหม้อย่างแรงทำให้เกิดแผลไฟไหม้รุนแรง

    สุดท้าย ก่อนที่สงครามโลกจะยุติ หลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับการทดลองเหล่านี้ถูกทำลายไปภายในระยะเวลาอันแสน สั้น กลุ่มแพทย์นาซีที่มีเอี่ยวกับการทดลองมนุษย์ที่รอดชีวิตจากสงคราม ส่วนหนึ่งถูกพิจารณาคดีในฐานะอาชญากรสงคราม และอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อย ได้กลับเข้ามาทำงานในแวดวงการศึกษาโดยมีทั้งที่ใช้ชื่อเดิม และชื่อใหม่ บางคนก็หลบหนีไปยังต่างประเทศและใช้ชีวิตจนหมดสิ้นอายุไข ทำให้เรื่องของการทดลองมนุษย์ของนาซีกลายเป็นเพียงแค่ฝันร้ายข้ามคืนของชาว โลกเท่านั้นเอง[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR]
    </O:p>
    </O:p></O:p>
    </O:p>
    </O:p>
    </O:p>
    </O:p>
    </O:p>
    </O:p>
    </O:p>
     
  19. Willam

    Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    มาแก้ข้อสงสัย วันสิ้นโลก ปี 2012

    2012 ไม่มีวันสิ้นโลก
    คงจำได้ว่าหลายปีก่อน กรณี Y2K ทำให้คนทั้งโลกกังวล แต่ท้ายที่สุด
    ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เหตุเพราะเป็นเพียงการวิเคราะห์จาก
    แบบแผนจำลองสถานการณ์ ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้เท่านั้น

    วันนี้การกล่าวถึง 2012 วันสิ้นโลก จากการสร้างของภาพยนต์ด้วยเทคนิคพิเศษ
    (Special effects) นับว่าเป็นสิ่งที่ดี สร้างความสนุกสนาน
    ทำให้ผู้คนทั่วไปเกิดความสนใจ ด้านวิทยาศาสตร์และอวกาศ

    มีความเหมือนกันระหว่าง กรณี Y2K และ 2012 วันสิ้นโลก ต้องมีการวิเคราะห์
    การคำนวณศึกษาจุดจบของโลก อย่างละเอียดละออ
    บางอย่างทางวิชาการ อาจขัดกับความเชื่อ ตามสามัญสำนึกของผู้คนทั่วไป

    การมีหลักและกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ ให้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
    ทำให้กระจ่างต่อปัญหาความลึกลับ กรณี 2012 วันสิ้นโลกได้

    คำอธิบายต่อข้อสงสัย 2012 วันสิ้นโลก ในแง่มุมต่างๆใช้ฐานข้อมูลจาก

    The National Aeronautics and Space Administration (NASA)
    GFDL's (Geophysical Fluid Dynamics Laboratory)
    NOAA (The National Oceanicand Atmospheric Administration)

    และได้เรียบเรียงใหม่เพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจ
    สำหรับผู้สนใจชาวไทย ในทุกระดับความรู้

    อย่างไรก็ตาม คำอธิบายนี้จัดทำเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา
    มีเจตนาให้ผู้สงสัย ได้รับความกระจ่างขึ้น โดยมิได้คัดค้านแนวคิด
    หรือความเชื่อใดๆ ที่ทุกคนมีสิทธิพึงแสดงความเห็นได้ ตามหลักการที่ถูกต้อง

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    วันสิ้นโลกมีจริงหรือ แล้วจะเกิดขึ้นเมื่อใด ?

    วันสิ้นโลก มีจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่ต้องเกิดแน่นอน จากกรณีผลกระทบ
    การขยายตัวของดวงอาทิตย์ (Red Giant effect) อีกในราว 4.5 - 5 พันล้านปี
    ข้างหน้า 100% และวันนั้นคือวันสิ้นโลกที่แท้จริง โดยไม่มีทางแก้ไขได้

    แม้ว่ามีเวลาอีกนานแสนนาน ผลกระทบต่อโลกนั้นยังมีเรื่องที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้
    อย่างมากมายสามารถสร้างความหายนะ เป็นจุดจบมนุษย์อันเกิดผลกระทบจาก
    ธรรมชาติ เช่น กรณีผลกระทบจากปฎิกิริยาเรือนกระจก (Greenhouse effect),
    กรณีผลกระทบจากพายุสุริยะ (Solar wind effect), กรณีผลกระทบจากการที่
    ระเบิดของภูเขาไฟ (Volcanic Activity), กรณีผลกระทบการชนปะทะของวัตถุ
    ใกล้โลก (Near Earth impact) เป็นต้น ซึ่งแต่ละเดือนได้มีรายงานถึงภัยพิบัติ
    อันตรายของธรรมชาติกระทำต่อโลก โดยการสำรวจจากอวกาศ ให้ทราบล่วง
    หน้าอยู่บ่อยครั้ง

    โดยขอบเขตการเกิดขึ้นแต่ละกรณีนั้น มีเงื่อนไขทางธรรมชาติ มีความรุนแรงที่
    แตกต่างกันไป อาจสร้างความหายนะเฉพาะบางส่วนของโลก หรืออยู่ในขั้นใด
    ก็สามารถอธิบายเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ได้เสมอ

    แต่วันนี้ เรื่่องวันสิ้นโลก ได้รับการบอกเล่าไปในทิศทางต่างๆ อย่างขาดเหตุผล
    และความเข้าใจที่ครบถ้วน และบางครั้งอ้างหลักการทางวิทยาศาสตร์ ที่มีความ
    กำกวม ผิดหลักเกณฑ์ และเลื่อนลอย ด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกันไป โดยเฉพาะ
    การเล่นตลกบนอินเตอร์เน็ต กระทบต่อความเข้าใจของผู้คนทั่วไป มีความกังวล
    เกิดเป็นคำถามตามมามากมาย ว่า ค.ศ.2012 เป็นวันสิ้นโลกจริงหรือ ?


    ข้อสงสัย
    ทำไมต้องเกิดเรื่องน่ากลัวกับโลก โดยระบุ ค.ศ.2012 เป็นวันสิ้นโลก ?

    คำอธิบาย
    ไม่ควรจะมีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับโลก ในปี ค.ศ.2012 หากพิจารณาด้วยเหตุผล
    ว่าโลกผ่านวิกฤตมาอย่างมากมาย แต่ครั้นบรมยุคกำเนิดโลก (กัลป์สมัยมหายุคขุม
    นรกแตก) ตลอดระยะเวลา 4.6 พันล้านปี จนปัจจุบัน และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก
    มิได้สนับสนุนความเชื่อกรณี ค.ศ.2012 เป็นวันสิ้นโลก

    ข้อสงสัย
    อะไรเป็นต้นเหตุถึงคำนาย เรื่องวันสิ้นโลก และทำไมต้องเป็นวันที่ 21 ธันวาคม
    ค.ศ.2012 ?

    คำอธิบาย
    เรื่องราวเกิดขึ้นจาก การอ้างถึงการสำรวจพบดาว Nibiru โดยกลุ่มชนชาวสุเมเรียน
    (Sumerians) ที่กลับมายังโลก และมีการทำนายความหายนะ จะเริ่มขึ้นตั้งแต่
    เดือนพฤษภาคม ค.ศ.2003

    แต่เมื่อถึงเวลานั้นกลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นตลอดเดือน จึงเลื่อนวันเกิดเหตุการณ์ไป
    ในเดือน ธันวาคม ค.ศ.2012 และเปรียบว่า เป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้าพิพากษามนุษย์
    ทั่วโลก (Doomsday date)

    เป็นการเชื่อมโยงนิทานชาดกโบราณ กับเรื่องปฎิทินชาวมายาโบราณ (Ancient
    Mayan calendar) ให้ตรงกับ Winter solstice ประมาณวันที่ 21 ธันวาคมของ
    ทุกๆปี อันเป็นวันแรกของเหมันตฤดูหรือฤดูหนาว และดวงอาทิตยมีตำแหน่งห่าง
    จากเส้นศูนย์สูตรโลกที่สุด

    การนำวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 มากำหนดให้มีความน่าสนใจ จุดประสงค์ให้คน
    ทั่วไปได้ขบคิด เพื่อเพิ่มน้ำหนักเหตุผลของวันสิ้นโลก

    ข้อสงสัย
    เหตุใดปฎิทินชาวมายาโบราณ จึงสิ้นสุดเพียง เดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 ?

    คำอธิบาย
    ปฎิทินทั่วไปที่ใช้กันอยู่ ไม่ว่าบนโต๊ะทำงาน ในครัวที่แขวนผนัง แผ่นสุดท้ายคือ
    เดือนธันวาคม และวันสุดท้ายของเดือนคือ วันที่ 31 แต่ละปีไม่มากกว่านั้น

    สำหรับปฎิทินชาวมายาโบราณ วันสุดท้ายในยุคนั้นคือ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012
    (เป็นการคำนวณระยะยาว จากยุคนั้นมาสิ้นสุดเพียงนี้) เช่นเราก็สามารถคำนวณ
    ปฎิทินเริ่มจาก วันที่ 1 มกราคม และจะไปสิ้นสุดในปีใดก็ได้

    การแสดงถึงวันสิ้นสุดของปฎิทินชาวมายา เป็นการบอกถึงวันสิ้นโลก กระนั้นหรือ ?

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ข้อสงสัย
    จะมีปรากฎการณ์อะไรขึ้น หากดาวเคราะห์มีตำแหน่ง มาอยู่เป็นแนวเส้นตรงและ
    มีทางจะชนโลกหรือไม่ ?

    คำอธิบาย
    ยังไม่มีระบบดาวเคราะห์ (Planetary) ใดๆในระบบสุริยะ ที่จะมีตำแหน่งในแนว
    ตรงพร้อมๆกันทั้งหมด หรือหลายๆดวง ระหว่างช่วงเวลา 2-3 ทศวรรษนี้ และโลก
    ก็ไม่ผ่านแม้แต่ แนวระนาบของทางช้างเผือก (Plane of milky way galaxy)
    ในปี ค.ศ. 2012

    หากสมมุติว่า มีกรณีเกิดแนวโคจรตำแหน่งเป็นแนวเส้นตรงเกิดขึ้น มีผลกระทบ
    เพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามในเดือนธันวาคมทุกปี โลกและดวงอาทิตย์มีตำแหน่ง
    เป็นแนวเส้นตรงโดยคร่าวๆ จากจุดศูนย์กลาง Milky Way Galaxy เป็นเหตุการณ์
    เกิดขึ้นเป็นประจำที่ผ่านมาไม่มี ผลร้ายใดๆ

    และจะไม่เกิดการพุ่งชนกันระหว่าง ดาวเคราะห์อย่างแน่นอน เหตุผลเพราะว่าใน
    ระบบสุริยะ รวมถึงระบบกาแล็กซี่ มีสนามแรงโน้มถ่วงยึดเหนี่ยวกันอย่างมั่นคง
    ซึ่งกันและกัน โดยมีความเสถียร แม้บางครั้งมีความผิดปกติบ้าง จากพายุสุริยะ
    (Solar wind) หรือใน Interplanetary Medium (ช่องว่างระหว่างดาวเคราะห์)
    ก็ไม่ส่งผลให้ดาวเคราะห์ เปลี่ยนเส้นทางโคจรจนปะทะกัน

    ข้อสงสัย
    ดาวเคราะห์ (Planet) หรือ ดาวแคระสีน้ำตาล (Brown dwarf) ที่เรียกในหลาย
    ชื่อว่า Nibiru หรือ Planet X หรือ Eris จะผ่านเข้าใกล้โลกและทำความหายนะ
    กับโลกแบบ ถล่มทะลายได้หรือไม่ ?

    คำอธิบาย
    สำหรับชื่อ Nibiru เป็นชื่อดาวเคราะห์ ที่คิดขึ้นเพื่อ เล่นตลกบนอินเตอร์เนต ไม่มี
    ข้อเท็จจริงอ้างอิงทางวิชาการ

    ส่วน Planet X เป็นชื่อตั้งไว้ล่วงหน้า เป็นความพยายามค้นหาดาวเคราะห์ลึกลับนี้
    แต่ปัจจุบันยืนยันว่าไม่พบ

    ถ้า Nibiru หรือ Planet X บ่ายหน้ามุ่งมายังโลก ในปี ค.ศ.2012 นักดาราศาสตร์
    มีเครื่องมือที่จะตรวจสอบระยะ เส้นทางผ่านเข้ามาได้ล่วงหน้านับทศวรรษ และ
    แน่นอนหากเป็นจริง ระยะที่ใกล้โลกขณะนี้ คนทั้งโลกสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า
    แต่ที่ไม่เห็นเพราะยังไม่ได้เกิดขึ้น

    สำหรับ Eris นั้นมีตัวตนจริง เป็นประเภทดาวเคราะห์แคระ (Dwarf planet) มีขนาด
    เล็กคล้ายดาวพูลโต (Pluto) จัดว่าเป็นดาวที่รอนแรมอยู่บริเวณ ชายแดนขอบนอก
    ระบบสุริยะ (Outer solar system) หรือ บริเวณพิภพน้ำแข็ง มีระยะทางห่างจาก
    โลกราว 4 พันล้านไมล์ คงเป็นไปไม่ได้ ที่จะเข้าใกล้โลกและชนโลก

    [​IMG]
    ข้อสงสัย
    อะไรคือ ทฤษฎีแกนโลกพลิกกลับขั้ว (Polar shift theory) และเป็นความจริง
    หรือเปลือกโลก (Earth’s crust) สามารถหมุนกลับแบบ 180 องศา รอบๆแกนใน
    (Core) ของโลกในเพียงวันเดียว หรือไม่กี่ชั่วโมง ?

    คำอธิบาย
    เป็นไปไม่ได้ ที่โลกจะหมุนกลับในทิศตรงกันข้าม แต่แผ่นทวีปจะค่อยๆเลื่อน
    ตัวเอง (ตัวอย่างอดีตทวีป Antarctica เคยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรเมื่อ 100 ล้านปี
    ที่แล้ว) การอ้างถึงการหมุนกลับของขั้วจึงไม่น่าเชื่อถือ

    อย่างไรก็ตาม มีข้อเขียนเป็นจำนวนมากกล่าว ผลักดันเหตุผลถึงความหายนะ
    ให้กับผู้ที่ไม่เข้าใจ โดยอ้างว่าเป็นความสัมพันธ์การหมุนของโลกกับกระแสไฟฟ้า
    ของสนามแม่เหล็กโลก (Magnetic polarity of Earth) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
    อย่างผิดปกติ

    แท้จริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นราวทุกๆ 400,000-600,000 ปี
    และเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง แบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ นับระยะเวลา
    เป็นหมื่นหรืออาจแสนปี ซึ่งจะไม่ทำอันตรายให้ชีวิตใดๆบนโลกให้บาดเจ็บและ
    ยังไม่เกิดขึ้น ระยะ 1,000 ปีนี้ในทุกๆแห่งบนโลก

    [​IMG]
    ข้อสงสัย
    อะไรคือ ทฤษฎีแกนโลกพลิกกลับขั้ว (Polar shift theory) และเป็นความจริง
    หรือเปลือกโลก (Earth’s crust) สามารถหมุนกลับแบบ 180 องศา รอบๆแกนใน
    (Core) ของโลกในเพียงวันเดียว หรือไม่กี่ชั่วโมง ?

    คำอธิบาย
    เป็นไปไม่ได้ ที่โลกจะหมุนกลับในทิศตรงกันข้าม แต่แผ่นทวีปจะค่อยๆเลื่อน
    ตัวเอง (ตัวอย่างอดีตทวีป Antarctica เคยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรเมื่อ 100 ล้านปี
    ที่แล้ว) การอ้างถึงการหมุนกลับของขั้วจึงไม่น่าเชื่อถือ

    อย่างไรก็ตาม มีข้อเขียนเป็นจำนวนมากกล่าว ผลักดันเหตุผลถึงความหายนะ
    ให้กับผู้ที่ไม่เข้าใจ โดยอ้างว่าเป็นความสัมพันธ์การหมุนของโลกกับกระแสไฟฟ้า
    ของสนามแม่เหล็กโลก (Magnetic polarity of Earth) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
    อย่างผิดปกติ

    แท้จริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นราวทุกๆ 400,000-600,000 ปี
    และเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง แบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ นับระยะเวลา
    เป็นหมื่นหรืออาจแสนปี ซึ่งจะไม่ทำอันตรายให้ชีวิตใดๆบนโลกให้บาดเจ็บและ
    ยังไม่เกิดขึ้น ระยะ 1,000 ปีนี้ในทุกๆแห่งบนโลก

    [​IMG]

    [​IMG]
    ข้อสงสัย
    โลกจะอยู่ในอันตราย จากการพุ่งชนปะทะของ อุกกาบาต (Meteorite) ในปี ค.ศ.
    2012 หรือไม่ ?

    คำอธิบาย
    โดยปกติโลกจะถูกวัตถุต่างพุ่งเข้าชน เช่น ดาวหาง (Comets) ดาวเคราะห์น้อย
    (Asteroids) เป็นกิจวัตร แต่วัตถุที่มีขนาดใหญ่จริงๆนั้น มีโอกาสน้อย แต่ไม่ได้
    หมายความว่าไม่มีโอกาสเลย

    ครั้งหลังสุดเกิดขึ้นเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ไดโนเสาสูญพันธ์ไปสิ้นจากโลก
    และเมื่อ 100 ปีที่แล้ว เกิดทางตอนเหนือของไซบีเรีย เรียกว่า The Tunguska
    event (กรณีทังกัสก้า) และเมื่อปี ค.ศ.2009 เกิดเหนือน่านฟ้าอินโดนีเซีย เรียกว่า
    Indonesian asteroid ซึ่งทั้งสองกรณีไม่มีผู้เสียชีวิต ล่าสุดเมื่อ 6 พฤศจิกายน
    ค.ศ. 2009 ตรวจพบ ดาวเคราะห์น้อย 2009 VA ขนาดเล็กได้ก่อนเข้าใกล้โลก

    วันนี้ ด้วยความก้าวหน้าต่อการลาดตะเวนอวกาศ เรียกว่า Spaceguard Survey
    (หน่วยป้องกัน-ลาดตะเวณอวกาศ) เพื่อค้นหาวัตถุใกล้โลก (Near-earth objects) โดยเฉพาะวัตถุขนาดใหญ่ เช่น ดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก โดยมีความเป็นไปได้
    กรณี ดาวเคราะห์น้อย 99942 Apophis (2004 MN4) เฉียดใกล้โลก ในวันที่
    วันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2029 (พ.ศ.2572) มีการแขวนป้ายเตือน ในระดับที่ 2
    (Yellow Zone) จาก 10 ระดับหรือ (ในรายงานปี ค.ศ. 2006)

    อย่างไรก็ตาม วัตถุประเภทนี้ เส้นทางโคจรมักมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ จึงต้อง
    ตรวจสอบติดตามเป็นระยะ ในรายงานผลสรุป เช่น 99942 Apophis (2004 MN4)
    จาก Earth Impact Risk Summary (ดูหัวข้อ Torino Scale ว่าเป็นหมายเลขใด)
    ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงระดับการเตือนภัย

    ทั้งนี้สามารถทราบ เส้นทางโคจรล่วงหน้านานพอ ที่จะเตรียมตัวรับภัยพิบ้ติได้
    การเฝ้าระวังวัตถุขนาดใกล้โลก เป็นภาระกิจตรวจสอบทุกวัน 24 ชั่วโมง ตลอดปี
    ของ NASA NEO Program Office (Potentially Hazardous Asteroids)
    ทุกคนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ด้วยตนเองตลอดเวลา ขณะนี้ทำนายได้ว่าจะ
    ไม่เกิดเหตุการณ์วัตถุจากนอกโลก ขนาดใหญ่ชนปะทะโลกในปี ค.ศ.2012

    [​IMG]
    ข้อสงสัย
    จะเกิดสิ่งอันตรายจาก พายุอวกาศยักษ์ (Giant solar storms) ตามคำทำนาย
    ใน ค.ศ.2012 หรือไม่ ?

    คำอธิบาย
    กิจกรรมบนดวงอาทิตย์ หรือ เรียกว่า Solar activity มีกฎเกณฑ์เกิดขึ้นเป็นวัฐจักร
    ประมาณทุกๆ 11 ปี จะเป็นช่วงเวลาการเกิดขึ้นในระดับสูงสุด (Activity peaks) พวยก๊าซบนดวงอาทิตย์ (Solar flares) สามารถทำอันตรายต่อระบบสื่อสารของ
    ดาวเทียมได้ จากอีเล็คตรอนอวกาศ (Killer electrons in space)

    จนกระทั่งวิศวกรด้านอวกาศ ได้เรียนรู้เพื่อสร้างสิ่งป้องกันการทำลาย จากพายุ
    อวกาศยักษ์ แต่จะไม่เกิดพายุอวกาศยักษ์ เป็นภัยพิบัติกรณีพิเศษ ในปี ค.ศ.
    2012 โดยจะมีโอกาสเกิด ในช่วงกรอบเวลา ค.ศ. 2012-2014 สามารถทำนายได้
    ล่วงหน้าว่า เป็นระดับค่าเฉลี่ยทั่วไป ไม่ต่างจากที่ผ่านมาในอดีต

    [​IMG]
    ข้อสงสัย
    จะเกิดอุทกภัยน้ำท่วมโลก ครั้งใหญ่ หายนะและร้ายแรงขนาดล้างโลก
    ใน ค.ศ. 2012 หรือไม่ ?

    คำอธิบาย
    สถานการณ์โลกร้อน จากข้อมูล แบบจำลองสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพ
    อากาศโลก ทำให้เกิดสิ่งที่น่ากังวลคือ ผลกระทบต่อเนื่องไปยังแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก
    ซึ่งโดยปกติโลกมีปริมาณน้ำบนโลกมีถึง 70% มากกว่าผืนแผ่นดินอยู่แล้ว

    การยกตัวของระดับน้ำํทะเล จากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ของน้ำทะเลร้อนขึ้น
    และการละลายของแผ่นน้ำแข็ง เมื่อรวมทั้งสองกรณี เข้าด้วยกัน จะมีศักยภาพ
    ใหญ่โตมาก อย่างไม่น่าเชื่อ จากการคำนวณว่าปริมาณแผ่นน้ำแข็ง Greenland
    และ Antarctica สามารถทำให้ การยกตัวระดับน้ำทะเลอยู่ระหว่าง 7-73 เมตร

    ดังนั้นมีความเป็นไปได้ ภายใน 50-100 ปีข้างหน้า แต่ไม่ใช่ภายใน ค.ศ. 2012
    อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำของโลกจะค่อยๆสูงขึ้นในทุกๆปี บริเวณที่จะเกิดปัญหา
    ก่อนใคร คือ เกาะขนาดเล็ก เมืองท่าบริเวณปากอ่าวแม่น้ำ และที่ลุ่มริมฝั่งรวม
    ถึงลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในประเทศไทย

    การเพิ่มขึ้นของน้ำ จะไม่เกิดในลักษณะน้ำท่วมจนไม่เหลือผืนแผ่นดิน แต่จะทำ
    ให้ผืนดินน้อยลง เกิดความไม่สมดุลยต่อประชากรที่เพิ่มขึ้น ต่อพื้นที่เพาะปลูก
    จะเกิดโรคระบาดใหม่ ขาดแคลนทรัพยากร จะเห็นปัญหาต่างๆชัดขึ้นราว ค.ศ.
    2050 จนทำให้แก้ไขยากขึ้นเรื่อยๆ

    [​IMG]
    ข้อสงสัย
    หากโลกมีภัยวิกฤตมากมาย มนุษย์จะอพยพไปอยู่ดาวเคราะห์ดวงอื่นได้หรือไม่ ?

    คำอธิบาย
    เดิมทีเดียว มีแนวคิดจากนักวิทยาศาสตร์ จะสร้างยานท่องอวกาศขนาดใหญ่เพื่อ
    เดินทางค้นหา โลกใหม่ แบบไปไม่กลับโลก โดยมีอาสาสมัคร ชายหญิง 500 คู่
    เพื่อเดินทางไปด้วย พร้อมที่จะไปตั้งรกรากอนาคตบนดาวเคราะห์ แต่โครงการ

    ได้ล้มเลิกไป จากหลายสาเหตุที่ยังเป็นไปไม่ได้ เช่น การอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก
    เป็นเวลายาวนานโดยเฉพาะการเลี้ยงดูทารก ปัญหาเชื้อเพลิง ปัญหาการเดินทาง
    ในอวกาศระยะไกลมากๆ ฯลฯ ซึ่งมนุษย์ยังไม่เคยมีประสบการณ์ เป็นต้น

    สำหรับปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ด้านอวกาศ มุ่งมั่นที่จะเดินทางไปยัง ดวงจันทร์
    ยูโรปา (ของดาวพฤหัส) เพราะเชื่อว่า อาจพบระบบของชีวิตเช่น สัตว์ในทะเล
    น้ำแข็งคล้ายบนโลก

    การคิดอ่านเดินทางสำรวจอวกาศ จึงต้องย้อนกลับ ไปสำรวจดวงจันทร์อีกครั้ง
    เพื่อจะได้พัฒนาทักษะ เดินทางไปสู่ดาวอังคารต่อไป หลังจากนั้นจะใช้ความ
    สามารถ ความรู้และประสบการณ์ ไปยังดาวเคราะห์หรือดวงจันทร์ ในระบบสุริยะ
    ที่ห่างไกลขึ้นได้ โดยมีขบวนการสืบค้นโลกใหม่ อย่างเป็นขั้นตอน อย่างน้อยต้อง
    ใช้เวลาอีกนับร้อยปี จึงพอมองเห็นโอกาสตั้งอาณานิคมต่างดาวได้


    <สรุปแล้วเป็นเรื่องหลอกลวงปล่อยข่าวสารเท็จ>
     

แชร์หน้านี้

Loading...