รู้สึกเหมือนมีอะไร อยู่กลางหน้าผาก ระหว่างคิ้ว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nite, 29 มกราคม 2015.

  1. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    ขอแนะนำลองทำดูไม่เสียหายอะไร ถ้ายังหน่วงที่หน้าผากหรือเหนือคิ้ว ลองเปลี่ยนจุดมาเพ่งตรงกลางระหว่างตาทั้งสองข้าง ถ้ามันวกไปหน้าผากหรือเหนือคิ้วไม่ต้องสนใจดึงมาเพ่งตรงกลางระหว่างตาทั้งสองข้าง ทำแล้วได้ผลอย่างไรบ้าง รบกวนมาบอกผลด้วยนะครับ ก่อนเพ่งถ้าพิจารณาอาการ32ก่อนแล้วค่อยเพ่งจะดีมากเลยครับยังไงจะรอฟังนะครับได้ผลเป็นอย่างไร
     
  2. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    นั้นแน่ ผมเคย สงสัยว่าเวลาผมไม่สบายแค่นั่งสมาธิ สองสามวัน อาการดีขึ้น เพราะอย่างนี้เอง
    อันนี้ขอนอก ประเด็นนิดนึง เรื่องการถอดจิต ผมสงสัยเหมือนกันว่า มีหลายครั้งที่นั่งสมาธิ แค่นึกว่าจะไป นู้นนี้นั้น แล้ว มันไปได้จริง แบบนี้เรียกถอดจิตหรือเปล่า เพราะ มีหลายครั้ง ที่เพื่อนถามผมว่าผมผมถอดจิตไปนั่งบนกุฏิหลวงพ่อหรอ แล้วมันก็อธิบายบลาๆไป ซึ่งมันใช่กับที่ผมคิดในสมาธิ แล้วก็หลายครั้งที่มีคนถามว่าเมื่อคืนถอดจิตมาหาที่บ้านหรอ เขานับด้วยนะว่าไป กี่วัน ผมก็ งง ว่าแค่ผมคิดมันไปได้ขนาดนั้นหรอ แต่ผมมองไม่เห็นจิตคนอื่นเวลาเขาไป แต่คนอื่นมองเห็นผม เป็นเพราะกำลังสมาธิผมไม่ถึงใช่มัย เพราะผมก็ปฏิบัติยังไม่ถึงสามเดือนแถมกะท่อนกะแท่น จะทำได้ขนาดเชียวหรือ ผมเลยคิดน่าจะอุปทานกันไปเอง ภาษาผมเรียก มโน 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2015
  3. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    ได้ครับผมจะลองทำตามดู แต่วันนี้ลองทำตามคำแนะนำเพื่อนๆวันนี้ ทำให้รู้ว่าการครองสติ กับลมหายใจให้ได้ตลอดเวลานี้มัน ยากแฮ่ะ เผลอไม่ได้...
     
  4. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ตัวเองเขียนเอง นะ

    แล้วแก้วที่ว่างเปล่า มันไม่ดีอยู่แล้ว หรอก หรือ
     
  5. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    หมายถึงไรหรอครับ?? งงง
     
  6. kawpunt

    kawpunt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,276
    ค่าพลัง:
    +3,087
    ได้ตามอ่านเรื่องคุณnite น่าสนใจดีครับ
    ตั้งแต่เรื่องคะหว่างคิ้ว ซึ่งผมก็ไม่ค่อยนั่งสมาธิมีอยู่วันนึงอยากลองนั่งพอหลับตาแผลบเดียวมีอาการหน่วงหมุนๆระหว่างคิ้วตลอดเลย เลยคิดว่าเป็นอะไรเหมือนจะมีอาการมึนๆด้วยเลยเลิกนั่ง พอผ่านไปอีกหลายวันมาลองนั่งมันก็จะหน่วงๆระหว่างคิ้วอีกเหมือนมีอะไรมาหมุนๆอีก อีกอาการนึงคือพอสวดมนต์หรือแผ่ส่วนกุศลจะมีอาการขนลุกตั้งแต่เท้ายันหัวเหมือนผมจะตั้งซึ่งแรงมากๆ ก็ยังงงอยู่ว่าเป็นไร เล่าสู่กันฟังนะครับอ่านก็เล่นๆ
     
  7. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    ของผม มันหน่วง แม้ไม่ได้นั่งก็เป็น
    แต่ก่อน ก็เป็นเฉพาะเวลานั่งละครับ พอออกจากสมาธิละก็ยังเป็น ลองทำตามคำแนะนำเพื่อนๆที่โพสดู ครับ อันไหนเข้ากับเราก็ลองเอาไปปฏิบัติดู
     
  8. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ลายเซ้นข้างล่าง ของตัวเอง ไง
     
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    มานี่ มานี่ คุณต้อง อดทน มีขันติให้ดีๆ

    ถ้ากรรมฐานล้ม หรือ ละทิ้งกรรมฐาน จะยิ่ง เข้าใจผิดว่า อานาปานสติ
    ลำบาก ไม่เป็นที่สบาย

    พวกนักกรรมฐานที่ไม่เข้าใจ อานาปานสติ เขาจะ พาไป เพ่งอย่างอื่น
    พอเราไปฟังธรรมพวกนั้น ไม่ฟังธรรมที่มาจากกายใจตัวเอง จะทำให้
    เกิดการ เข้าใจผิด และ ถลำออกไปเรื่อยๆ จนในที่สุด อานาปานสติ แทนที่
    จะได้ ก็เลยกลายเป็น อานาปานสติขี้ครอก ขี้ทูตกุดถัง ...กลายเป็นการทำฌาณแบบฤาษี

    *******************************


    ขออภัย ที่ต้องแสดงธรรมแนวกีดกัน เพราะเจ้าของกระทู้ เริ่ม เข้าใจว่าการ
    แฉลบออก การส่งจิตออกนอก คือ หนทางบรรลุ

    ให้กลับมา " พิจารณาหน่วงๆ " แค่นั้นพอ และที่สำคัญ เวลาสภาวะไม่มี
    ความรู้สึกหน่วง คุณต้องกำหนดรู้ ยอมรับ ยกขึ้นเป็น "สภาวะของการหน่วง"
    ด้วย โดยสภาวะที่ไม่มี ไม่ปรากฏ มันเป็น เหรียญอีกด้าน ที่สะท้อนจากวัตถุ(สิ่งที่เรา
    อาศัยยกเป็นอุบาย)เช่นเดียวกัน

    พอยกชำนาญ การที่ " ไม่เกิดสภาวะหน่วง " นั่นแหละ คือ มันเกิดสภาวะหน่วง
    เพียงแต่มันแสดง สามัญลักษณ์อีกด้านให้เรารับทราบของการมีอยู่ ของมัน ไม่ใช่
    อุปทานไปว่า ไม่มี ..............ตรงนี้จะเป็นเรื่อง ไตรลักษณ์ญาณสัมปยุต ซึ่งจะ
    เห็นได้ชัดเมื่อ " ขจัดยินดี ยินร้าย " ที่มัน ปิดบังการเห็น ไตรลักษณ์ญาณ


    ที่นี้

    เจ้าของกระทู้ ปรารภ การถอดจิต

    ก็ขอขออนุญาติสำทับ ให้ดูน่าหมั่นไส้แก่นักภาวนาว่า การถอดจิต การส่งจิตไป
    รู้โลก เห็นนั่น เห็นนี่ อันนี้ ของขี้ๆ ของคนฝึกอานาปานสติ

    ซึ่งเราจะแนะนำให้ ฝึกได้กัน โดยไม่ต้องอาศัยการบอกว่า คุณกำลังฝึกตัวนั้น
    ตัวนี้ เราจะสอนกันด้วยความเรียบง่ายคือ " รู้หน่วงๆ เกิด ดับ " ไปนั่นแหละ
    มีก็รู้ว่ามี ไม่มีก็รู้ว่าไม่มี ...........เมื่อแน่นหนามั่นคงขึ้น หน้าที่ของ " มาร "
    มันจะมาหลอกให้เรา " ไปทำกรรมฐานอื่น " โดยเอา นิมิตมาหลอก เอา
    เรื่องราวที่มนุษย์เห็นได้ยากมาหลอก ...หากไปเชื่อมัน ...เราจะละทิ้งรัตนบัลลังก์
    ไปฝึกกรรมฐานอื่น เสร็จเลย

    แทนที่จะฝึก อานาปานสติ ตัวเดิม ให้แน่นหนาขึ้น เห็นเหตุของการเกิด กรรมฐาน40
    ได้ครบถ้วน กลายเป็น อ้อมลงไปฝึกทีละตัว โง่บัลลัย !! เพราะเราฝึก ยอดมงกุฏของ
    กรรมฐานอยู่(คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    ทีนี้ .........ลองเอาไปพิสูจน์ จะแสดงวิธีการพิสูจน์

    เวลาที่ ถอดจิตได้ หรือเห็น อำนาจกสิณอื่น เห็นอำนาจ อุคหนิมิต ปฏิภาคนิมิต
    ของกรรมฐานอื่น .........สิ่งที่เราฝึกคือ ดูกรรมฐานนั้น เกิด แล้ว ก็ดับ ตอนที่
    กลับออกมา ..........อย่าไปค้นคว้าในเรื่องราวที่เห็น

    ทำอย่างนี้เรื่อยๆ ตัวกรรมฐาน40 จะสะอาดเรื่อยๆ เพราะ เราเน้น รู้หนทางนำเวทนาออก

    ซึ่งตรงนี้ จะทำให้ ปรารภเรียกกรรมฐานอื่น " ของขี้ๆ " หรือ กล่าวตามแบบมาตรฐาน
    คือ เป็นสิ่งเกิดดับ

    เป็นการเห็น การเกิดดับ ของกรรมฐานอื่น เพื่อ ความมั่นคงของ กรรมฐานเหล่านั้น

    ไม่ใช่ พิจารณาเห็นเกิดดับ แบบ ความหมายคนติดคิด คนติดตรรกศาตร์ เห็นว่า
    ไปเห็น กรรมฐานโน้นนั้นนี่ดับ คือ การไม่ฝึก ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่มี

    อานาปานสตินั้น จะเป็น ภาชนะ ที่เอาไว้รองรับ ขณะแห่งมรรคสมังคี ว่า กรรมฐาน40
    มีตัวใดที่เราซักฟอกความยินดี ยินร้าย ออกจาก ญาณตัวนั้นแล้ว มี ญาณทัศนะวิสุทธิ
    แล้ว ตัวนั้นก็จะปรากฏด้วยความสามารถของกรรมฐาน ......ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดด้วย
    อำนาจ ลาภีบุคคล

    แต่ไอ้พวกที่ไปฝึกทีละตัว แล้วยิ่งฝึก กูยิ่งใช่ กูยิ่งรู้ กูเยิ่งเก่ง พวกนี้ เวลาจิตรวม
    ลงใน ขณะแห่งมรรคสมังคี ....ญาณไม่เกิด เพราะ สกปรก ไม่ได้กำจัด ยินดี
    ยินร้าย ออกไป .....พอเป็นอริยะแล้ว จะไป ดึงอำนาจนั้นมาใช้ กิเลส จะเสียดแทง
    ทำให้ไม่เกิด ......ไม่ใช่ ใครสั่งริบอำนาจทิพย์ แต่เป็นเพราะ มันโง่เอง ที่ไม่รู้
    จักวิธีการ ซักฟอก ให้สะอาด......โดนมารมันหลอก ทำลาย ด้วยการเอา แก้ว มาล่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    เนี่ยะๆ ถ้า ปรารภว่า ออกจากสมาธิแล้ว ก็ยังเห็นได้ ว่ามันมีอยู่

    หรือ ออกจากสมาธิแล้ว เห็นว่ามัน แสดงตัวว่าไม่มีอยู่ ก็เห็นได้ว่า มันมีอยู่

    เวทนาย่อมเกิด ไม่ว่าจะเป็น มิจฉาสมาธิ หรือ แม้จะเป็น สัมมาสมาธิ

    เวทนาย่อมเกิด ......

    เพราะ เวทนาเกิด จึง ระลึกได้ว่า มันมีอยู่ แม้นมันแสดงตัวว่า ไม่ได้ปรากฏ

    นี่คือ การรู้ที่ละเอียดขึ้น ลึกซึ้ง เห็นความเป็น อนัตตา อนิจจัง ทุกขัง
    ซึ่งหากมี อุปกิเลส หรือ อวิชชา เมื่อไหร่ มันจะ ย้อมด้วย ทิฏฐิ
    กระซิบบอกเราว่า มันเป็นภัยนะ มันไม่ใช่ทางนะ มันไม่มีอยู่ ไม่เห็น
    ไม่ต้องไปยก ไปจับ ไปต้อง เนี่ยะ สบายยย และ ใช่ ....ตายฮาเลย อวิชชา ล้วนๆ

    ที่นี้

    หากกำหนดรู้ ยินดี ยินร้ายได้ จะเห็นเลยว่า แม้นในหนึ่งช่วงลมหายใจ
    เพียงหนึ่งครั้ง " การหน่วงๆ " นั้นเกิด ดับ แสนโกฏิขณะ เห็นได้แบบนี้
    จะเห็นมัน ยิ๊บๆ แย๊บๆ ทั่วกาย หากเพ่งเกินไป หรือ ปล่อยเกิดไป ธรรมจะ
    เตือนด้วยการ หน่วงเป็นก้อนๆ เป็นจุดๆ ( การรู้ตามฐาน ตามจักร จึงเป็น
    เรื่อง โดน มาร มันหลอกเอาทั้งหมด )

    ทีนี้ หากรู้ได้โดยไม่ต้องจงใจ และ เห็นมันปรากฏตลอด แม้นมันจะไม่
    ปรากฏ(ไตรลักษณ์ญาณสัมปยุต) ก็มี การกำหนดรู้ แล อยู่ มีสติ สัมปชัญญะ
    ในกรรมฐาน ในการงาน

    นั่งอยู่ คุยอยู่ จิ้มคีย์บอร์ดอยู่ หากสิ่งใดมีประโยชน์ในการเห็น สิ่งนั้น
    จะแว็บเข้ามาให้เห็น หรือ รู้สึก หรือ รับรู้ หรือ สัมผัสได้ ....หน้าที่เรา
    คือ ดูความยินดี ยินร้ายไปอีก ......จนกว่า จะมั่นใจได้ว่า อภิชญา
    และโทมนัสในกาลก่อนๆ ไม่ปรากฏ จิตจะ รวมแน่น โดยที่ ยังหายใจ
    อยู่ อยาตนะยังปรากฏ

    หลังจากนี้จะเป็นเรื่อง พหุลีกตา ของอานาปานสติ เป็นเรื่อง อิทธิบาท4

    แต่หากเป็น สาวกภูมิ ควรจะตัดสินธรรมไปได้แล้ว เว้นแต่ เวรกรรม ที่
    ไปเชื่อ สัตว์หน้าขนตนอื่น ที่โง่ มาชักชวนให้เราเสียกรรมฐาน
     
  11. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    หนมปัง เอ้ยยยยย

    เวลายิ่งธนู ใช้ดอกเดียว พอ
    อย่าไปโยนฝูงธนูใส่เป้า

    เปลืองของเปล่าๆ


    คนผู้นี้ เขามีสัมมาทิฏฐิในตัวพอประมาณแล้ว มิใช่ไม่รู้อะไรเลย เขาเพียงแค่เฟ้นหาคำตอบสำหรับตัวเองในสิ่งที่เหมาะกับเขาเพื่อก้าวเดินต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ลองพิสูจน์ ก็ได้

    เจ้าของกระทู้ ลองรู้ เฉพาะหน่วงๆ ( จริงคือ อานาปานสติ แต่เนื่องจาก อานาปานสติ
    ตัวมันเอง ตัวกรรมฐานเอง เป็น อนิมิตสมาธิ เป็นสุญญตาสมาธิ และ อัปณิหิตสมาธิ
    เราจิตเรา เข้ากรรมฐานได้ จะไม่รู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนปั้นขี้ ปั้นจักร ปั้นพลัง )

    ลองรู้ เฉพาะหน่วงๆ เอาเท่านี้ พอให้ระลึกได้ว่า อานาปานสติ เกิดดับ อยู่กับจิต

    ลงอสักสามเดือน ....ระหว่างสามเดือน หากมั่นคง พวกนิมิตกรรมฐานอื่น จะปรากฏ
    เข้ามาอย่างฉิบหายวายวอด เพื่อหลอกให้เรา กระโดดออกจาก อานาปานสติ ไป
    ไขว้คว้า ............โดน มารมันหลอกเอา แล้วเป็นแค่ ขันธ์มาร เท่านั้น ยังไม่เจอ
    กิเลสมาร อภิสังขารมารเลย [ เว้นแต่ จะกระโดดออกไปจับ พวกมันก็จะมา รับสมอ้าง
    กระทืบต่อ .....ต่อให้ปรากฏเป็น พระพุทธเจ้า ก็ ฆ่าทิ้งได้เลย ไม่ใช่แน่นอน กรรมฐาน
    อานาปานสติ จะต้อง ปราศจาก สัตว์ ตั้งแต่ เราระลึกลมหายใจ ขณะมีอยาตนะ6 แล้ว ]

    พูดตามภาษา มาตราฐาน อยาตนะ6 นั่นแหละ ครู อยาตนะ6 นั่นแหละ การปรากฏของ อาจารย์
    และเป็น จิตส่งออก


    อันนี้ ไปหาคำครู ร่วมสมัยพิสูจน์ได้ รู้สึกจะมี หลวงพ่อพุธ ที่ พูดตรงที่สุด นอกนั้น
    พูด กองขี้ควาย พูดแล้ว คนฟังก็ยัง ฮานาก้า อู็หู อ้าหา ...แต่หลวงพ่อพุธนี่ พูด
    แล้วจบเลย

    " คนที่มีสมาธิที่ดีแล้ว จะไม่เกิดนิมิตอีก "


    ปล. แต่อย่าลืมนะ จริงๆ คือ ปรากฏให้เห็น ฉิบหายวายวอด ชักชวนออก หรือ เจโตกำเริบ
    ตลอดเวลาไม่ เพื่อดึงเราไว้ไม่ให้ " พ้นเจโตฯ ไปได้ " .....นะ ดูหน่วงๆ ให้ดีๆ ดูยินดี ยินร้ายไว้
    จะค่อยๆ ทราบชัด " ไม่มีอะไรได้มา และ ไม่มีอะไรเสียไป " มีแต่การ " รู้รอบครอบโลกธาตุ "
    โดยไม่ติด ไม่ข้อง ความวิจิตร เหล่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  13. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ลมหายใจ ถือว่าเป็น นิมิต หรือไม่?

    เมื่อลมหายใจหายไป ความว่างเปล่า ถือเป็น นิมิต หรือไม่?
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ตามเห็นความเกิด

    ตามเห็นความดับ

    ได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ ก็สงสัยอยู่นั่นว่า เป็น นิมิต ไหม


    ไตรลักษณ์ญาณไม่มีเกิด ร่วมในวิธีจิต ภาวนาไม่เป็น
     
  15. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ตามเห็นสิ่งที่เกิด สิ่งที่ดับ

    สิ่งที่ตามอยู่นั้น เป็น นิมิต หรือไม่?

    อูแว้ อูแว้ ...
     
  16. nite

    nite เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    442
    ค่าพลัง:
    +611
    แต่ลองทำตามทุกท่านละครับ ก็ดีขึ้นแต่บางทีมันก็อดไม่ได้ที่จะสนใจ หว่างคิ้ว เด่วจะเลิกสนใจละครับ เมื่อคืนลอง จับลมหายใจที่ปลายจมูกแล้ว อาการที่หน้าผากก็ไม่สนใจ แต่เกิดอาการเหมือนโดนบีบ ให้เล็กลงๆ แต่ผมก็ยัง ตามลมหายใจเข้าออกยุนะครับ
     
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ถ้าเอา ภาษาตรรกศาตร์ มันก็ เก่งโน๊ะ ภาวนาเพื่อ ตั้งนิมิต

    แต่ถ้าเอา ภาษาธรรม สมาธิในพระพุทธศาสนามีแค่สามอย่าง

    สุญญตาสมาธิ
    อนิมิตสมาธิ
    อัปณิหิตสมาธิ

    แล้ว เจอไหม ถ้า กำหนดรู้เห็นเกิดดับ แบบ สัตว์ ตรรกศาตร์
    นั่งเปรียบเทียบ มันจะเจอไหม สมาธิ3 ในพระพุทธศาสนา
     
  18. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    นั่นแค่เปลี่ยน บัญญัติ

    จริง รู้หน่วงๆ ตรงหน่าผาก จิตคุณ ระลึกอานาปานสติ ไปแล้ว สมาธิมีแล้ว

    เพียงแต่ ไปไล่ตะครุบ วิบากของอานาปานสติ .....เพราะอะไร

    บอกไปแล้วว่า ให้ ยกยินดี ยินร้าย เป็น สภาพธรรม เกิดดับ


    นี่บอกเท่าไหร่ ก็ไม่ยอมยก

    เอาแต่ ให้ยินดี ยินร้าย ย้อมติดจิต โดยอาศัย ปากนักกรรมฐานอื่นชักชวน
    ให้ตกจาก อานาปานสติ ไปอย่าง น่าเสียดาย


    ปล. วิบากของอานาปานสติ คือ กรรมฐาน40 และที่จริง มีมากกว่านั้น
    นับไม่ถ้วน และ ไม่มีที่สิ้นสุด

    เวลามาภาวนาอานาปานสติกรรมฐาน ต้องทราบด้วยว่า ไม่มีที่สิ้นสุด
    มองไม่เห็น ฝั่ง สติไม่มีวันพอ แต่ความพอเพียงแก่การพ้นสมมติ
    ในหมื่นโลกธาตุนั้นมีอยู่

    มาภาวนาอานาปาสติ หาก ตั้งจิตจะชะเง้อ ผลสำเร็จอยู่ไหนว้า ไปวาง
    อารมณ์แบบฌาณฤาษี จิตจะสัดส่าย แล้ว ไม่รู้ว่า จิตสัดส่าย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  19. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เพื่อ บรรเทา ความสงสัย

    คุณ จขกท ...ระลึกดีๆ ตอนที่ จิตคุณ ระลึกได้ในอาการหน่วง โดยที่
    ตอนนั้น ไม่ได้ ตั้งใจทำสมาธิ แต่กำลัง ทำงาน ทำการ เดิน เหินใน
    ป่าเมืองตามปรกติ แต่ จิตแว๊บไปเห็น หน่วงๆ

    ตอนนั้น พึงทราบไปเลย " จิตอบรมได้ "

    " จิตที่อบรมแล้ว นำสุขมาให้ " [ จิตเดินกรรมฐานเอง ไม่มานั่งถาม เจ้าของ ]

    และ ถ้า หน่วงอาการ หน่วงเหล่าใดได้ โดยที่ไม่เพ่งเกินไป ไม่ประครอง
    และ ไมทำให้หาย ....ตรงนั้นเรียกว่า " สมาธิมีแต่วิจาร ไม่มีวิตก "
    มันปรากฏ

    ถ้า วิตก วิจาร ปรากฏ จะลงไปเห็น จิตระลึก ลมหายใจเข้า ออก หรือ
    เห็ยจิตไประลึก กองลมทั้งปวง กองใดกองหนึ่ง อันไม่ใช่ ลมหายใจ
    ที่จมูก

    ถ้า ข้ามอาการหน่วงๆได้ เพราะ รู้ทัน ยินดี ยินร้าย มีอินทรีญสังวรณ์
    มีหิริ มีโอตัปปะ ออกมาจากจิต ไม่ใช่เราไปตั้งขึ้น ....

    ตรงนั้น จะเป็น " สมาธิไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร " เราจะเดินเหิน ทำงาน
    ทำการ ใช้ความคิดปรกติ โลกไม่หายไปไหน ธรรม(จิตภาวนา)ก็ไม่หายไป
    ไหน แยกธาตุ แยกขันธ์ ต่างคนต่างทำงาน ต่างภาวนา

    ถ้าเมือไหร่ จิตภาวนาหาย โลกจะสกปรก ...

    ถ้าเมื่อไหร่ จิตภาวนไม่หาย สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสัตว์อื่นอย่างสูงสุดจะปรากฏ ..

    ประโยชน์ตนจะปรากฏ เมื่อ กำหนดรู้ " ปิติ ปราโมทย์ (เกิด ดับ)" ซึ่งจะนำพาไป ธรรมวิจัยยะ
    ตามด้วยความจางคลายต่อ สังสารวัฏ สลัดคืนจิต ....ตามเห็นอย่างนี้เนืองๆ

    เพื่อเริ่มต้น เป็นพุทธมามะกะ [ รู้ว่า พระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธะ เดินมาทางนี้ ]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  20. อณูธาตุ

    อณูธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +195
    ถอดจิต ถอดกายใน เหมือนในพระสูตร วิชชา ๘ เรื่อง มโนมยิทธิญาณ ชักไส้ออกจากหญ้าปล้อง
    ชักดาบออกจากฝัก ชักงูออกจากคราบ ท่านอธิบายไว้ชัดเจน
    การถอดครั้งแรกจะยากมากเพราะจิตยังยึดกาย กลัวความตาย ตัองตัดตายให้ได้ จริงๆแล้ว
    ก็ไม่มีอันตรายใดๆเพียงเรามีอุปทานกลัวไปเอง หลุดออกมาแล้วก็ อิสระ พุ่งทยานรวดเร็ว ทะลุกำแพง
    ดำดิน ดำน้ำ ลอยไปในอากาศได้ สิ่งแปดล้อมในโลกของวิญญาณต่างจากของจริงบ้าง แต่สภาพจิตใน
    โลกวิญญาณดูมีความสุข ปีติ เอิบอิ่ม ตื่นตาตื่นใจ เป็นยิ่งนัก
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    มโนมยิทธิญาณ
    ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน
    ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อนิรมิตรูปอันเกิดแต่ใจ
    คือ นิรมิตกายอื่นจากกายนี้มีรูปเกิดแต่ใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง
    ดูกรพราหมณ์ เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงชักไส้ออกจากหญ้าปล้อง เขาจะพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า
    นี้หญ้าปล้อง นี้ไส้ หญ้าปล้องอย่างหนึ่ง ไส้อย่างหนึ่ง ก็แต่ไส้ชักออกจากหญ้าปล้องนั่นเอง
    อีกนัยหนึ่ง เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงชักดาบออกจากฝัก เขาจะพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า นี้ดาบ นี้ฝัก
    ดาบอย่างหนึ่ง ฝักอย่างหนึ่ง ก็แต่ดาบชักออกจากฝักนั่นเอง อีกนัยหนึ่ง เปรียบเหมือนบุรุษ
    จะพึงชักงูออกจากคราบ เขาจะพึงคิดเห็นอย่างนี้ว่า นี้งู นี้คราบ งูอย่างหนึ่ง คราบอย่างหนึ่ง
    ก็แต่งูชักออกจากคราบนั่นเอง ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแล เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว
    ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ เธอย่อม
    โน้มน้อมจิตไปเพื่อนิรมิตรูปอันเกิดแต่ใจ คือ นิรมิตกายอื่นจากกายนี้ มีรูปเกิดแต่ใจ มีอวัยวะ
    น้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง ดูกรพราหมณ์ แม้ข้อนี้ก็เป็นปัญญาของเธอ
    ประการหนึ่ง.

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
     

แชร์หน้านี้

Loading...