ร่วมกันถวายงานพระเจ้าอยู่หัว

คำพ่อสอน ในดวงใจ
วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันมหามงคลของคนไทยนับเนื่องนานมา กระทั่งปี 2551 นี้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 81 พรรษา
จึงเป็นโอกาสสำคัญที่พสกนิกรไทยจะระลึกถึงน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระวิริยะ อุตสาหะ ความเสียสละ และความอดทน ยิ่งกว่าการเป็นพระมหากษัตริย์ ด้วยทรงเป็น "พ่อ " ที่ใส่พระทัยดูแลทุกข์สุขของคนทั้งชาติ วิกฤติน้อยใหญ่ที่เกิดขึ้นจึงผ่านพ้นและเบาบาง...

-ขออนุญาตถ่ายทอดข้อเขียนของคุณ "ศาริศา" ในตอนหนึ่งของ "คำพ่อสอน ในดวงใจ" จากนิตยสารชีวจิต 1 ธันวาคม 2551 เพื่อเป็นสิ่งย้ำเตือนให้พวกเราชาวไทยทั้งผองจะได้จดจำและเทอดทูนไว้เหนือเกล้า

 

.... นับตั้งแต่พุทธศักราช ๒๔๙๓ ซึ่งเป็นปีแรกที่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชกิจอันเป็นประโยชน์ และก่อให้เกิดความสุขแก่ประชาชนชาวไทยโดยสม่ำเสมอ ด้วยทศพิธราชธรรม มิได้ทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยและประโยชน์ส่วนพระองค์ โครงการพัฒนาทุกด้านที่เกิดจากพระราชดำริและโดยพระราชประสงค์ ที่ทรงดำเนินการด้วยพระองค์เอง และที่ทรงมอบหมายให้แก่หน่วยราชการและองค์กรเอกชน นับได้จำนวนสองพันกว่าโครงการ มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเจริญ ช่วยลดปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในระยะเวลาที่เสวยราชย์มากว่า ๕๐ ปี

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชโอรสและพระราชธิดารวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงมีส่วนอย่างมากในการสนองพระราชประสงค์ และพระราชปณิธาน ไม่ว่าในการดำเนินการหลายอย่างจะต้องทรงเหนื่อยยากอย่างไร ดังปรากฏในพระราชนิพนธ์

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=580 background=picture/back_book.gif><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD><CENTER>[SIZE=+1]พระราชกรณียกิจในด้าน IT[/SIZE]
</CENTER>
<DD><DD><DD><DD><A href="http://www.prdnorth.in.th/The_King/king_it_01.php#link1">1. พระราชกรณียกิจด้านสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์
<DD><DD><DD><DD>2. พระราชกรณียกิจด้านวิทยุกระจายเสียง
<DD><DD><DD><DD>3. พระราชกรณียกิจด้านดาวเทียม

<HR align=center width="60%" SIZE=2>
1. พระราช<WBR>กรณียกิจ<WBR>ด้าน<WBR>สื่อสาร<WBR>อิเล็กทรอนิกส์
<DD>พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว<WBR>ทรง<WBR>สนพระทัย<WBR>ด้าน<WBR>การสื่อสาร<WBR>ตั้งแต่<WBR>ทรงพระเยาว์ "...ทรง<WBR>ทดลอง<WBR>ต่อ<WBR>สายไฟ<WBR>พ่วง<WBR>ขนานกับ<WBR>ลำโพง<WBR>ขยาย ของ<WBR>เครื่องรับ<WBR>วิทยุ<WBR>ส่วนพระองค์<WBR>ที่<WBR>ผลิต<WBR>จาก<WBR>ประเทศ<WBR>สวีเดน ยี่ห้อ 'Centrum' จาก<WBR>ห้อง<WBR>ที่ประทับ<WBR>พระองค์ท่าน<WBR>ไปยัง<WBR>ห้อง<WBR>ที่ประทับ<WBR>ของ พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว<WBR>อานันทมหิดล ทั้งสอง<WBR>พระองค์<WBR>ทรง<WBR>พอพระทัย<WBR>ใน<WBR>บริการ<WBR>เสียงตามสาย<WBR>ไม่น้อย..." (สุชาติ เผือกสกนธ์, วัน<WBR>สื่อสาร<WBR>แห่งชาติ : 2530)
<DD>พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว<WBR>ได้<WBR>ทรงอุทิศ<WBR>พระองค์ พระอัจฉริยะ<WBR>และ<WBR>พระอุตสาหะ<WBR>ทั้งมวล เพื่อ<WBR>ราษฎร<WBR>ใน<WBR>ทุก<WBR>ภูมิภาค พระองค์<WBR>ทรงมี<WBR>ดำริ<WBR>ให้มี<WBR>การพัฒนา<WBR>ด้านระบบ<WBR>วิทยุ<WBR>สื่อสาร<WBR>อย่างจริงจัง และ<WBR>ต่อเนื่อง และ<WBR>มี<WBR>ประสิทธิภาพ<WBR>มาก<WBR>ยิ่งขึ้น กล่าวคือ<WBR>สามารถ<WBR>รับ<WBR>ส่ง<WBR>ได้<WBR>ไกล<WBR>ยิ่งขึ้น ดัง<WBR>จะ<WBR>เห็นได้<WBR>จาก<WBR>การที่<WBR>พระองค์<WBR>ทรงใช้<WBR>เครื่องมือ<WBR>สื่อสาร<WBR>พก<WBR>ติด<WBR>พระองค์ เพื่อ<WBR>ประกอบ<WBR>พระราช<WBR>กรณียกิจ<WBR>ต่างๆ อยู่เสมอ เพราะ<WBR>สิ่งที่<WBR>พระองค์<WBR>ทรงขาด<WBR>ไม่ได้<WBR>คือ<WBR>การสดับ<WBR>ตรับฟัง<WBR>ข่าว<WBR>ทุกข์สุข<WBR>ของ<WBR>ประชาชน ดังเช่น ในระหว่าง<WBR>การ<WBR>เสด็จเยี่ยม<WBR>ราษฎร<WBR>ได้<WBR>ทรงพบว่า มีผู้ใด<WBR>ที่<WBR>กำลัง<WBR>ป่วยเจ็บ<WBR>จำเป็น<WBR>ต้อง<WBR>บำบัด<WBR>รักษา จะ<WBR>ทรงพระ<WBR>กรุณา<WBR>โปรดเกล้าฯ ให้<WBR>คณะแพทย์<WBR>ผู้ตามเสด็จ<WBR>ดูแล<WBR>ตรวจ<WBR>รักษา<WBR>ทันที ใน<WBR>บางราย<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>อาการ<WBR>ป่วยหนัก จำเป็นต้อง<WBR>ส่งตัว<WBR>เข้าบำบัด<WBR>รักษา<WBR>ใน<WBR>โรงพยาบาล<WBR>ท้องถิ่น<WBR>หรือ<WBR>โรงพยาบาล<WBR>ใน<WBR>กรุงเทพมหานคร<WBR>โดยเร็ว หาก<WBR>มี<WBR>เวลา<WBR>เพียงพอ พระองค์ท่าน<WBR>จะ<WBR>รับสั่ง<WBR>ผ่านทาง<WBR>วิทยุ<WBR>ถึง<WBR>หน่วย<WBR>งาน<WBR>ที่<WBR>เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจ<WBR>ตระเวน<WBR>ชายแดน ขอรับ<WBR>การสนับสนุน<WBR>เรื่อง<WBR>การขนส่ง เช่น เฮลิคอปเตอร์ เพื่อ<WBR>นำ<WBR>ผู้ป่วย<WBR>เจ็บ<WBR>ส่งยัง<WBR>ที่หมาย<WBR>ปลายทาง<WBR>ด้วย<WBR>พระองค์เอง นอกจากนี้ พระองค์<WBR>ได้<WBR>ทรง<WBR>พระราชทาน<WBR>พระบรม<WBR>ราชานุญาต<WBR>ให้นำ<WBR>ระบบ<WBR>สื่อสาร<WBR>แบบ<WBR>ถ่ายทอด<WBR>สัญญาณ<WBR>หรือ Repeater ซึ่ง<WBR>เชื่อมต่อ<WBR>ทางวงจร<WBR>ทางไกล<WBR>ของ<WBR>องค์การ<WBR>โทรศัพท์ฯ ให้<WBR>มูลนิธิ<WBR>แพทย์<WBR>อาสาฯ (พอ.สว.) นำไปใช้<WBR>เพื่อ<WBR>ช่วยเหลือ<WBR>รักษา<WBR>พยาบาล<WBR>แก่<WBR>ผู้เจ็บป่วย<WBR>ใน<WBR>ท้องถิ่น<WBR>ห่างไกล
<DD>
ใน<WBR>เรื่อง<WBR>การ<WBR>ปฏิบัติการ<WBR>ฝนเทียม<WBR>หรือ<WBR>ฝนหลวง<WBR>พระราชทาน ใน<WBR>การปฏิบัติ<WBR>ระยะ<WBR>แรกๆ ได้<WBR>ประสบ<WBR>ปัญหา<WBR>เรื่อง<WBR>การเปลี่ยนแปลง<WBR>สภาพ<WBR>อากาศ<WBR>ที่<WBR>ไม่ทราบ<WBR>ล่วงหน้า ซึ่ง<WBR>นักบิน<WBR>ผู้ปฏิบัติ<WBR>จำเป็น<WBR>ต้อง<WBR>ได้รับ<WBR>คำแนะนำ<WBR>แก้ไข<WBR>โดย<WBR>ฉับพลัน เนื่องจาก<WBR>ยังไม่มี<WBR>การติดต่อ<WBR>สื่อสาร<WBR>ระหว่าง<WBR>ผู้ปฏิบัติการ<WBR>ด้วยกัน จึง<WBR>เป็นเหตุ<WBR>ให้<WBR>ไม่ได้<WBR>ผล<WBR>เท่าที่ควร กล่าวคือ<WBR>ฝน<WBR>ไม่ตก<WBR>ใน<WBR>เป้าหมาย<WBR>บ้าง ตกน้อย หรือ<WBR>ไม่ตก<WBR>ตาม<WBR>ที่<WBR>คิด<WBR>บ้าง พระบาท<WBR>สมเด็จพระเจ้า<WBR>อยู่หัว<WBR>ได้<WBR>ทรงสดับ<WBR>ตรับฟัง<WBR>ข่าว<WBR>การ<WBR>ปฏิบัติการ<WBR>ฝนเทียม<WBR>ทุกครั้ง และ<WBR>ทรงทราบ<WBR>ถึง<WBR>ปัญหา<WBR>สำคัญ<WBR>คือ การ<WBR>ขาด<WBR>การติดต่อ<WBR>สื่อสาร<WBR>ที่ดี จึง<WBR>โปรดเกล้าฯ ให้<WBR>ติดตั้ง<WBR>วิทยุ<WBR>ให้แก่<WBR>หน่วย<WBR>ปฏิบัติการ<WBR>ฝนเทียม ทั้ง<WBR>ทาง<WBR>อากาศ<WBR>และ<WBR>ทาง<WBR>ภาค<WBR>พื้นดิน นอกจากนี้<WBR>พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว ทรง<WBR>มี<WBR>พระราช<WBR>ดำริ<WBR>ให้ทำ<WBR>การศึกษา<WBR>วิจัย รวมถึง<WBR>การ<WBR>ออกแบบ<WBR>และ<WBR>สร้าง<WBR>สายอากาศ<WBR>ย่าน<WBR>ความถี่<WBR>สูงมาก หรือ<WBR>ที่<WBR>เรียกว่า VHF (วี.เอช.เอฟ) ขึ้น<WBR>โดย<WBR>มี<WBR>วัตถุประสงค์ 3 ประการ
<DD>ประการแรก เพื่อที่<WBR>จะได้<WBR>ใช้งาน<WBR>กับ<WBR>วิทยุ<WBR>ส่วนพระองค์ ทั้งนี้<WBR>โดย<WBR>มี<WBR>พระราช<WBR>ประสงค์<WBR>ที่จะ<WBR>ให้<WBR>ทราบ<WBR>เหตุการณ์<WBR>ต่างๆ โดยเฉพาะ<WBR>อย่างยิ่ง<WBR>ในเรื่องของ<WBR>สาธารณภัย<WBR>ที่<WBR>เกิดขึ้น<WBR>กับ<WBR>ประชาชน เรื่อง<WBR>ไฟไหม้ เรื่อง<WBR>น้ำท่วม ฯลฯ ทั้งนี้<WBR>เพื่อ<WBR>ที่<WBR>จะได้<WBR>ทรง<WBR>ช่วยเหลือ<WBR>ได้<WBR>ทันท่วงที
<DD>ประการ<WBR>ที่สอง เพื่อที่<WBR>จะ<WBR>พระราชทาน<WBR>ให้แก่<WBR>หน่วย<WBR>ราชการ<WBR>ต่างๆ
<DD>
ประการ<WBR>ที่สาม เพื่อ<WBR>ส่งเสริม<WBR>ให้<WBR>คนไทย<WBR>ที่มี<WBR>ความรู้ ความสามารถ<WBR>และ<WBR>ตั้งใจ<WBR>จริง ได้ใช้<WBR>ความ<WBR>อุตสาหวิริยะ<WBR>ใน<WBR>การพัฒนา<WBR>ระบบ<WBR>วิทยุ<WBR>สื่อสาร<WBR>ขึ้น<WBR>ใช้เอง<WBR>ภายใน<WBR>ประเทศ นอกเหนือจาก<WBR>วิทยุ<WBR>สื่อสาร<WBR>แล้ว ในเรื่องของ<WBR>เทเล็กซ์<WBR>พระองค์<WBR>ทรง<WBR>สนพระทัย<WBR>อยู่<WBR>ไม่น้อย และ<WBR>สิ่งหนึ่ง<WBR>ที่<WBR>พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว<WBR>ไม่เคย<WBR>ทรงขาด<WBR>คือ การ<WBR>พระราชทาน<WBR>พร<WBR>ปีใหม่ นอกจาก<WBR>จะ<WBR>ทรงมี<WBR>กระแส<WBR>พระราช<WBR>ดำรัส พระราชทาน<WBR>พร<WBR>ปีใหม่<WBR>แก่<WBR>พสกนิกร<WBR>ไทย<WBR>ทาง<WBR>วิทยุ<WBR>และ<WBR>โทรทัศน์<WBR>ทุกแห่ง<WBR>แล้ว พระองค์ท่าน<WBR>ยัง<WBR>ทรงมี<WBR>พระมหา<WBR>กรุณาธิคุณ พระราชทาน<WBR>พร<WBR>ทาง<WBR>เทเล็กซ์<WBR>สม่ำเสมอ<WBR>ทุกปี แต่<WBR>ใน<WBR>ปัจจุบัน<WBR>ท่าน<WBR>ทรงใช้<WBR>เครื่อง<WBR>คอมพิวเตอร์<WBR>ใน<WBR>การประดิษฐ์<WBR>บัตรอวยพร<WBR>ปีใหม่<WBR>แทน
<DD>นอกจากนี้<WBR>พระองค์<WBR>ทรงเล็งเห็น<WBR>ถึง<WBR>ความสำคัญ<WBR>ของ<WBR>การสื่อสาร<WBR>ว่า การสื่อสาร<WBR>เป็น<WBR>ปัจจัย<WBR>สำคัญ<WBR>ใน<WBR>การดำเนิน<WBR>ธุรกิจ<WBR>ทุกประเภท, การสื่อสาร<WBR>เป็น<WBR>หัวใจ<WBR>ของ<WBR>ความมั่นคง<WBR>ของ<WBR>ประเทศ และ<WBR>การสื่อสาร<WBR>เป็น<WBR>องค์ประกอบ<WBR>ที่สำคัญยิ่ง<WBR>ใน<WBR>การพัฒนา<WBR>ประเทศ<WBR>ให้<WBR>ประชาชน<WBR>อยู่ดี<WBR>กินดี
<A name=#link2>2. พระราช<WBR>กรณียกิจ<WBR>ด้าน<WBR>วิทยุ<WBR>กระจายเสียง <DD>พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว ทรง<WBR>สนพระทัย<WBR>ใน<WBR>เรื่อง<WBR>วิทยุ<WBR>เป็น<WBR>อย่างมาก ตั้งแต่<WBR>เมื่อ<WBR>ครั้ง<WBR>ยังเยาว์ ซึ่ง<WBR>พระองค์<WBR>ประทับอยู่ ณ เมือง<WBR>โลซานน์ ประเทศ<WBR>สวิตเซอร์แลนด์ พระองค์<WBR>ได้<WBR>ทรงซื้อ<WBR>อุปกรณ์<WBR>เครื่องรับ<WBR>วิทยุ ซึ่งมี<WBR>วาง<WBR>ขาย<WBR>เลหลัง<WBR>ราคาถูก<WBR>ทรงประกอบ<WBR>เป็น<WBR>เครื่องรับ<WBR>วิทยุ<WBR>ชนิดแร่ สามารถ<WBR>รับฟัง<WBR>วิทยุ<WBR>กระจายเสียง<WBR>ใน<WBR>ยุโรป<WBR>ได้<WBR>หลายแห่ง ต่อมา<WBR>เมื่อ<WBR>กิจการ<WBR>วิทยุ<WBR>เจริญ<WBR>ก้าวหน้า<WBR>มากขึ้น ได้นำ<WBR>หลอดวิทยุ<WBR>มาใช้<WBR>ใน<WBR>เครื่องรับ-ส่ง<WBR>วิทยุ และ<WBR>เครื่อง<WBR>ขยายเสียง และ<WBR>พระองค์ท่าน<WBR>ก็ได้<WBR>ทรงทดลอง<WBR>อุปกรณ์<WBR>แบบใหม่<WBR>นี้<WBR>ด้วย<WBR>เช่นกัน
<DD>เมื่อ<WBR>พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว เสด็จ<WBR>พระราช<WBR>ดำเนิน<WBR>กลับมา ประทับอยู่<WBR>ใน<WBR>ประเทศไทย<WBR>เป็น<WBR>การถาวร ในปี พ.ศ. 2495 พระองค์<WBR>ได้<WBR>ทรงตั้ง<WBR>สถานีวิทยุ อ.ส. ขึ้น<WBR>ที่<WBR>พระราชวัง<WBR>สวนดุสิต และ<WBR>ชื่อ<WBR>สถานี<WBR>วิทยุ<WBR>ดังกล่าว<WBR>ได้<WBR>ทรงนำมา<WBR>จาก<WBR>อักษรย่อ<WBR>ของ<WBR>พระที่นั่ง<WBR>อัมพรสถาน ซึ่ง<WBR>เป็น<WBR>สถานที่<WBR>ที่ใช้<WBR>ออกอากาศ<WBR>ครั้งแรก ต่อมา<WBR>จึง<WBR>ย้าย<WBR>สถานีวิทยุ อ.ส. เข้าไป<WBR>ตั้งใน<WBR>บริเวณ<WBR>พระตำหนัก<WBR>จิตรลดา<WBR>รโหฐาน
<DD>สถานีวิทยุ อ.ส. เมื่อ<WBR>แรก<WBR>ตั้ง<WBR>เป็น<WBR>สถานี<WBR>เล็กๆ มี<WBR>เครื่องส่ง 2 เครื่อง ขนาด<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>กำลังส่ง 100 วัตต์ ออกอากาศ<WBR>ด้วย<WBR>คลื่นสั้น<WBR>และ<WBR>คลื่นยาว<WBR>ใน<WBR>ระบบ AM พร้อมๆ กัน เครื่องส่ง<WBR>รุ่นแรก<WBR>นี้<WBR>เป็น<WBR>เครื่อง<WBR>ที่ กรม<WBR>ประชาสัมพันธ์<WBR>ทูลเกล้าฯ ถวาย<WBR>และ<WBR>ติดตั้ง<WBR>ให้<WBR>ด้วย<WBR>เมื่อ<WBR>ออกอากาศ<WBR>ไป<WBR>ได้<WBR>ระยะหนึ่ง และ<WBR>ใน<WBR>ระบบ<WBR>คลื่นสั้น<WBR>ก็<WBR>มี<WBR>จดหมาย<WBR>รายงาน<WBR>ผล<WBR>การรับฟัง เข้ามา<WBR>จาก<WBR>หลาย<WBR>ประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เยอรมันฯ เป็นต้น ดังนั้น<WBR>จึง<WBR>ทรงโปรดเกล้าฯ ให้<WBR>ขยาย<WBR>กำลังส่ง โดย<WBR>มี<WBR>ชื่อ<WBR>รหัส<WBR>สถานี<WBR>ว่า HS 1 AS ใน<WBR>ปี พ.ศ. 2525 สถานีวิทยุ อ.ส. ได้<WBR>เพิ่ม<WBR>การส่ง<WBR>กระจายเสียง<WBR>ใน<WBR>ระบบ FM ขึ้น<WBR>อีก<WBR>ระบบหนึ่ง ใน<WBR>การขยาย<WBR>ด้าน<WBR>กำลังส่ง<WBR>นั้น<WBR>อุปกรณ์<WBR>ต่างๆ ล้วนแต่<WBR>มี<WBR>ผู้<WBR>โดยเสด็จ<WBR>พระราช<WBR>กุศล เพื่อให้<WBR>สถานีวิทยุ อ.ส. สามารถ<WBR>บริการ<WBR>ประชาชน<WBR>ได้<WBR>กว้างขวาง<WBR>มากยิ่งขึ้น อาจถือ<WBR>ได้ว่า<WBR>เป็น<WBR>สถานีวิทยุ<WBR>เอกชน<WBR>เพียง<WBR>แห่งเดียว<WBR>ที่<WBR>สามารถ<WBR>กระจายเสียง<WBR>คลื่นสั้น<WBR>ได้ ทั้งนี้<WBR>เพราะ<WBR>ถือว่า<WBR>เป็น<WBR>เครือข่าย<WBR>กรม<WBR>ประชาสัมพันธ์
<DD>พระองค์<WBR>ทรงมี<WBR>วัตถุประสงค์<WBR>ที่<WBR>ทรงตั้ง<WBR>สถานีวิทยุ อ.ส. เพื่อ<WBR>เปิด<WBR>โอกาส<WBR>ให้<WBR>พสกนิกร<WBR>มีช่องทาง<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ติดต่อ<WBR>กับ<WBR>พระองค์<WBR>ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้อง<WBR>ผ่าน<WBR>กระบวนการ<WBR>ขั้นตอน<WBR>ตาม<WBR>พิธีการ<WBR>เหมือน<WBR>ใน<WBR>สมัยก่อน ทรงใช้<WBR>สถานีวิทยุ<WBR>เพื่อ<WBR>เป็นสื่อ<WBR>ในการ<WBR>ประชาสัมพันธ์<WBR>ติดต่อ<WBR>ข่าวสาร<WBR>กับ<WBR>ประชาชน และ<WBR>เป็น<WBR>สื่อสัมพันธ์<WBR>ระหว่าง<WBR>พระองค์<WBR>และ<WBR>ประชาราษฎร์ ที่<WBR>ทรงแสดง<WBR>ให้<WBR>ทราบถึง<WBR>ใจรัก<WBR>ที่<WBR>พระองค์ท่าน<WBR>พระราชทาน<WBR>ให้กับ<WBR>ประชาชน<WBR>ทั่วทุกคน นอกเหนือจาก<WBR>เป็น<WBR>สถานีวิทยุ<WBR>ของ<WBR>สื่อมวลชน<WBR>เพื่อ<WBR>การบันเทิง และ<WBR>เผยแพร่<WBR>ความรู้<WBR>กับ<WBR>ประชาชน<WBR>แล้ว ยัง<WBR>ได้ทำ<WBR>หน้าที่<WBR>แจ้งข่าวสาร<WBR>แก่<WBR>ประชาชน<WBR>ใน<WBR>โอกาส<WBR>สำคัญ หรือ<WBR>เกิด<WBR>เหตุการณ์<WBR>ที่<WBR>สำคัญ<WBR>ต่างๆ ขึ้น เช่น การเกิด<WBR>โรค<WBR>โปลีโอ<WBR>ระบาด<WBR>ใน<WBR>ปี พ.ศ. 2495 อหิวาตกโรค<WBR>ใน<WBR>ปี พ.ศ. 2501 และ<WBR>เมื่อ<WBR>เกิด<WBR>วาตภัย<WBR>ที่<WBR>แหลม<WBR>ตะลุมพุก<WBR>ใน<WBR>ปี พ.ศ. 2505 โดยมี<WBR>พระราช<WBR>ดำริ<WBR>ให้ใช้<WBR>สถานีวิทยุ อ.ส. เพื่อ<WBR>ทำ<WBR>หน้าที่<WBR>เป็น<WBR>สื่อกลาง<WBR>ใน<WBR>การช่วยเหลือ<WBR>ผู้ประสบ<WBR>เคราะห์กรรม จนเป็น<WBR>บ่อเกิด<WBR>ของ<WBR>มูลนิธิ<WBR>ราชประชานุเคราะห์ ซึ่ง<WBR>ปัจจุบัน<WBR>มี<WBR>คุณ<WBR>ขวัญแก้ว วัชโรทัย ทำ<WBR>หน้าที่<WBR>นายสถานี เล่า<WBR>ให้ฟัง<WBR>ว่า นโยบาย<WBR>หลัก<WBR>เกี่ยวกับ<WBR>การบริหารงาน<WBR>ของ<WBR>สถานี ตามที่<WBR>พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว<WBR>พระราชทาน<WBR>ไว้<WBR>ก็คือ การ<WBR>เปิด<WBR>โอกาส<WBR>ให้<WBR>คน<WBR>ที่มี<WBR>ความรู้ ความสามารถ ไม่ว่า<WBR>จะเป็น<WBR>หน่วย<WBR>ราชการ<WBR>หรือ<WBR>เอกชน ได้<WBR>เข้ามา<WBR>สนอง<WBR>พระมหา<WBR>กรุณาธิคุณ<WBR>ให้<WBR>มากที่สุด<WBR>เท่าที่จะ<WBR>มาก<WBR>ได้ ดังนั้น<WBR>เจ้าหน้าที่<WBR>ของ<WBR>สถานี<WBR>จึง<WBR>เป็น<WBR>อาสาสมัคร<WBR>ทั้งสิ้น และ<WBR>ทรงรับ<WBR>ภาระ<WBR>ต่างๆ ด้าน<WBR>สถานี<WBR>ด้วย<WBR>ทุนทรัพย์<WBR>ส่วนพระองค์ พระองค์<WBR>ทรงใช้<WBR>นโยบาย<WBR>ประหยัด<WBR>และ<WBR>ใช้<WBR>ประโยชน์<WBR>ให้<WBR>คุ้มค่า<WBR>ที่สุด และ<WBR>ใน<WBR>ปัจจุบันนี้<WBR>สถานีวิทยุ อ.ส. ยังคง<WBR>กระจายเสียง<WBR>เป็นประจำ<WBR>ทุกวัน<WBR>เว้น<WBR>วันจันทร์ โดย<WBR>ออกอากาศ<WBR>ทั้ง<WBR>คลื่นสั้น<WBR>และ<WBR>คลื่นยาว ใน<WBR>ระบบ AM 1332 KHzและ FM 104 MHz ควบคู่<WBR>กันไป<WBR>ด้วย<WBR>กำลังส่ง 10 กิโลวัตต์ โดย<WBR>ออกอากาศ<WBR>วันอังคาร<WBR>ถึง<WBR>วันเสาร์ เวลา 10.30-12.00 และ 16.00-19.00 วันอาทิตย์ เวลา 9.00-12.00 หยุด<WBR>ทุก<WBR>วันจันทร์
<A name=#link3>3. พระราช<WBR>กรณียกิจ<WBR>ด้าน<WBR>ดาวเทียม<WBR> <DD>ดาวเทียมไทยคม<WBR>นับว่า เป็น<WBR>จุดเปลี่ยน<WBR>ที่ทำให้<WBR>การสื่อสารโทรคมนาคมของไทยก้าวสู่ยุคแห่งความล้ำหน้า และได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการสนองพระราชดำริ ในเรื่องของการศึกษา คุณขวัญแก้ว วัชโรทัย เป็นผู้สนองพระราชภารกิจที่โรงเรียนไกลกังวล หัวหิน ซึ่งขณะนี้ได้พยายามที่จะนำเอาดาวเทียมไทยคม เข้าไปใช้ในกิจการด้านการเรียนการสอน เจตนารมณ์ดังกล่าว เป็นการสนองตอบความต้องการของประชาชน และเป็นการปรับปรุงในเรื่องของการศึกษาให้สอดคล้องกับยุคสมัยอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการจัดการศึกษาใต้ร่มพระบารมีอย่างแท้จริง และที่สำคัญเพื่อเป็นการสนองพระบรมราโชบายทางการศึกษา ในอันที่จะทำให้โรงเรียนไกลกังวลเป็นเครือข่ายและเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาไทยคมอย่างแท้จริง
<DD>กล่าวได้ว่า พระบาท<WBR>สมเด็จ<WBR>พระเจ้า<WBR>อยู่หัว ทรงมี<WBR>พระมหา<WBR>กรุณาธิคุณ<WBR>เป็น<WBR>อเนกอนันต์<WBR>ต่อ<WBR>ประเทศ<WBR>ชาติ ที่ได้<WBR>มี<WBR>พระราช<WBR>ดำริ<WBR> ให้มี<WBR>การพัฒนา<WBR>งาน<WBR>ทางระบบ<WBR>วิทยุสื่อสาร<WBR>ขึ้นในประเทศอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพราะ<WBR>สังคม<WBR>ปัจจุบัน<WBR>นั้น การสื่อสาร<WBR>ก็<WBR>เปรียบเสมือน<WBR>กับ<WBR>ระบบ<WBR>ประสาท<WBR>ของ<WBR>ร่างกาย<WBR>มนุษย์ ดังนั้น<WBR>จึง<WBR>นับได้ว่า พระองค์ท่าน<WBR>นั้น<WBR>มี<WBR>สายพระเนตร<WBR>ที่<WBR>ยาวไกล ทรงเห็น<WBR>บทบาท<WBR>ที่<WBR>สำคัญยิ่ง<WBR>ต่อ<WBR>การสื่อสาร
<CENTER> </CENTER></DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width=780 colSpan=3 height=50><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffcc33><TBODY><TR><TD>

[COLOR=#FFFFCC,strength:2, direction:135)]T h e P u b l i c R e l a t i o n s D e p a r t m e n t R e g i o n 3 C h i a n g M a i [/COLOR]
จัดทำและบริหารระบบ โดย ศูนย์สารสนเทศ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 จังหวัดเชียงใหม่
49 ถนนประชาสัมพันธ์ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50-100
โทร. 0-5328-3734 - 6 / แฟ็กซ์. 0-5328-3738
​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

ทรงพระเจริญ

 

<FONT face=" angsanaUPC?>


<CENTER><TABLE><TBODY><TR><TD><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><TABLE><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER><TABLE cellSpacing=37 border=1><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
http://kanchanapisek.or.th/kp8/sirindhorn/pratep02.html

 

​

<CENTER>พระราชดำรัส
พระราชทาน<WBR>แก่<WBR>ปวงชน<WBR>ชาวไทย
ใน<WBR>โอกาส<WBR>วัน<WBR>ขึ้นปีใหม่
วันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗

</CENTER><!--<center>
<TABLE border=1 cellpadding=0 cellspacing=0><TR><TD><CENTER><OBJECT ID=RP1 CLASSID=clsid:CFCDAA03-8BE4-11cf-B84B-0020AFBBCCFA WIDTH=176 HEIGHT=133>





<EMBED type=audio/x-pn-realaudio-plugin src="http://live.nectec.or.th/ceremonies/20011231-video.ram?embed=true" width=176 height=133 controls=ImageWindow autostart=true console=Clip1 nolabels=true></OBJECT>
<OBJECT ID=RP2 CLASSID=clsid:CFCDAA03-8BE4-11cf-B84B-0020AFBBCCFA WIDTH=176 HEIGHT=30>





<EMBED type=audio/x-pn-realaudio-plugin src="http://live.nectec.or.th/ceremonies/20011231-video.ram" width=176 height=30controls=ControlPanel autostart=true console=Clip1 nolabels=true></OBJECT></CENTER></TD></TR></TABLE></center>-->
ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี มาอวยพรแก่ท่านทั้งหลายทั่วกัน และขอขอบใจท่านเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิต สนับสนุนข้าพเจ้า ในภารกิจทั้งปวงด้วยดีเสมอมา

ตลอดปีที่แล้ว มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายอย่าง ที่ดีก็คือ การที่นักกีฬาของเราได้รับเหรียญรางวัลหลายประเภท ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก แต่ที่ไม่ดีก็มีอยู่มาก เราต้องประสบกับเหตุไม่ปกติต่างๆ จนทำให้เกิดความวิตก ห่วงใยกันอยู่ทั่วไป

ใกล้ถึงสิ้นปีก็เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ทำให้สูญเสียชีวิต และทรัพย์สินอย่างร้ายแรง เราคงจะต้องช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และฟื้นฟูสถานะของบ้านเมืองเป็นการใหญ่ รวมทั้งหาทางป้องกัน เตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เหตุต่างๆ ทั้งนั้น ได้ทำให้เห็นแจ้งถึงน้ำใจของพวกเราอย่างเด่นชัด ว่าทุกคนในผืนแผ่นดินไทย ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน มีความสามัคคีกัน ต่างห่วงใยกันด้วยใจจริง ได้แสดงเจตนารมย์ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข และเมื่อเกิดภัยพิบัติ คนไทยไม่ทิ้งกัน

ต่างพร้อมเพรียงกันเข้าปฏิบัติช่วยเหลือทันที ด้วยความเสียสละและเมตตาจริงใจ ไม่เลือกว่าเป็นชาวไทย หรือชาวต่างประเทศ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวย้ำแก่ท่านทั้งหลาย เหมือนดังที่เคยกล่าวมาเมื่อหลายปีก่อนว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะให้มีแต่ความปกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัย ผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น

ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงขอให้ทุกคนรักษาความสามัคคี และจิตใจอันดีนี้ไว้เป็นนิตย์ เพราะสิ่งนี้คือ คุณลักษณะอันพิเศษ ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองของเราอยู่รอดปลอดภัย และช่วยให้เราทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุขมาช้านาน ตราบใดที่เราทั้งหลายรักษาคุณลักษณะนี้ไว้ได้ ก็มั่นใจได้ว่าชาติบ้านเมืองของเราจะดำรง มั่นคงอยู่ตราบนั้น ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ และประสบแต่สิ่งที่พึงประสงค์ตลอดศกหน้านี้ โดยทั่วกัน


.

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

 

เห็นด้วย และน่าจะมีกฎหมาย หรือมาตรการอะไรสักอย่างจัดการบุคคลกลุ่มนี้

 

ไม่เข้าใจว่าคนที่กล้าหมิ่นพระองค์จิตใจทำด้วยอะไร เป็นคนไทยหรือป่าว เว็บที่มีคนส่งให้ภัทรไปอ่าน รู้สึกแย่มากกับภาษาที่ใช้เขียนในนั้น เป็นภาษาที่ต่ำทรามมาก ภัทรรู้สึกโกรธแค้นแทน อยากจะสาปส่งพวกมันให้ตกนรกหมกใหม้ ไปอ่านแล้วรู้สึกไม่สบายใจ หดหู่ ก็เลยต้องเลิกอ่าน เพราะว่าไม่ใช่มีแค่เวบเดียว มีหลายเวบมาก แล้วก็ของต่างชาติ ที่หมิ่นพระองค์ก็คือ economist อ่านแล้วไม่อยากจะให้ฝรั่งที่หัวสมองแบบนี้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเลย

เจ้านายภัทรเข้าไปอ่านก็รู้สึกแย่ๆ ทั้งที่เขารักประเทศไทยและรักพระองค์มาก แต่พอไปอ่านแบบนี้เขาก็เกิดคิดขึ้นมาว่าที่ผ่านๆๆมาเขาเข้าใจผิดไปหรือป่าว อยากให้คนไทยทุกคน รักชาติ ศาสนา และราชบัลลังก์ ไม่ว่าใครจะพูดถึงพระองค์ท่านยังไง ขอให้เราเชื่อใจในความรัก เคารพ และเทอดทูนต่อพระองค์ท่านที่พวกเรามี แค่นี้ก็ไม่มีอะไรจะมาทำให้เราสั่นคลอนได้ ให้เชื่อว่าพระองค์เป็นพ่อผู้ที่เสียสละของพวกเรา เป็นพระมหากษัตร์อย่างแท้จริง เป็นผู้ที่พวกเราชาวไทยทุกคนรักท่านจากก้นบึ้งของหัวใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่จากการซื้อเสียง ไม่มีใครมาจ้างให้เรารักพระองค์ท่าน พวกเรารักเพราะเราเห็นพระองค์ทรงตรากตรำ เพื่อชาติ และประชาชนของพระองค์เอง

ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน อยู่เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ๋ ร่มไทร ให้ปวงชนชาวไทยไปตราบนานแสนนาน หากแลกได้ข้าพระพุทธเจ้าของแลกชีวิตของข้าพระพุทธเจ้าเอง เพื่อให้พระองค์มีพระชนมายุยั่งยืนยิ่งๆขึ้นไปอีก

 

-เข้าใจว่าหน่วยงานทั้งหลายเหล่านี้ เป็นต้นว่า กทช.,เนคเท็ค., DSI., ศรภ. น่าจะมีเกี่ยวข้องมากบ้างน้อยบ้าง ท่านคิดหรือมีไอเดียในเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ
-ในระหว่างนี้รบกวนพวกเรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือนะครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ม.ล.ปนัดดา”จี้รัฐบาลเอาจริง ลุยเว็บไซต์ทำชาติแตกแยก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 ธันวาคม 2551 23:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ที่ปรึกษา มท.จี้หน่วยงานความมั่นคงเข้มงวดเว็บไซต์ แพร่ข้อความขัดจารีตประเพณี ทำลายความสามัคคีคนในชาติ รวมถึงแต่งเติมเรื่องราว ไม่เคารพบุคคลผู้อาวุโส หลังเรียกผู้บริหารเว็บไซต์ ร่วมประชุมขอความร่วมมือแล้ว แต่ยังละเลยไม่รับผิดชอบ

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ยีงมีเว็บไซต์เผยแพร่ข้อความที่ขัดต่อจารีตประเพณีของไทย และมุ่งทำลายความสามัคคีของคนในชาติช่วง 1-2 วันนี้ว่า บางเว็บไซต์ยังไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควรและทางการกำลังตรวจสอบพฤติกรรมอยู่ในขณะนี้

สำหรับเว็บไซต์ที่ปล่อยให้มีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย แต่งเติมเรื่องราวที่ปราศจากความจริง รวมถึงการไม่เคารพบุคคลผู้อาวุโส และดูหมิ่นเหยียดยามบุคคลต่างเชื้อชาติและลัทธิศาสนา ต้องการสร้างความแตกแยกในหมู่คนไทยตามภาคต่างๆ ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันหยุดยั้งความคิดและการกระทำดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ ทางราชการได้จัดประชุมและขอความร่วมมืออย่างเป็นทางการไปยังผู้บริหารเว็บไซต์แล้ว พร้อมย้ำในนโยบายว่า เป็นภารกิจหลักที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อจรรโลงและรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของประเทศชาติ ขณะที่บางเว็บไซต์ยังละเลยและไม่ใส่ใจต่อความรับผิดชอบที่ทางราชการร้องขอ ทำให้หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องเพิ่มมาตรการดูแลอย่างเข้มงวด


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ฤๅเป็นเพราะแรงอธิษฐานของคุณ สร้อยฟ้า และคุณ ภัทรอังคาร รวมทั้งของพวกเราทุกๆคนในกระทู้นี้

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปชป.ร่าง กม.เอาผิดเว็บไซต์ หมิ่นสถาบันเบื้องสูง โทษหนัก 3-20 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 ตุลาคม 2551 19:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


















































</TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ส.ส.ปชป.ร่าง กม.เอาผิดเว็บไซต์หมิ่นสถาบันเบื้องสูง เสร็จแล้ว เตรียมเสนอพรรครับรอง ก่อนส่งเข้าสภา ลั่นหาก รบ.ไม่รับ กม.ฉบับนี้ ปชช.จะได้รู้ว่า คนเหล่านั้นคิดอย่างไรกับ กม.ที่ทำเพื่อในหลวง ย้ำโทษหนักต้องโทษ 3-20 ปี รวมถึงเจ้าของไอพีแอดเดรสและเกตเวย์

วันนี้ (20 ต.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุ กมธ.กำกับและติดตามการป้องกันและปราบปรามเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเขียนกฎหมายเพื่อเอาผิดกับผู้ที่กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทางเว็บไซต์ ว่า ขณะนี้ได้ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เสร็จแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 30 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ คือกำหนดให้กระทรวงไอซีทีตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อจับตาผู้ทำผิดฐานหมิ่นสถาบันทางเว็บไซต์โดยเฉพาะ จากเดิมที่ให้หน่วยงานที่ดูเว็บละเมิดกฎหมาย และเว็บโป๊ มาดูเว็บหมิ่นด้วย นอกจากนี้ยังกำหนดโทษให้ผู้หมิ่นสถาบันทางเว็บไซต์ มีโทษจำคุก 3-15 ปี ขณะที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์นั้นๆ รวมถึงเจ้าของไอพีแอดเดรสและเกตเวย์ ก็จะมีความผิดในฐานะผู้ร่วมกระทำผิดด้วย และจะมีโทษหนักกว่าคือจำคุกตั้งแต่ 3-20 ปี

 

จริงๆแล้วภัทรเขียนแรงกว่านี้อีก ด่าเลย สาปด้วย แต่ภัทรกลัวโดนแบน ก็เลยต้องแก้ไขข้อความให้ดูดี แต่คนพวกนี้แค่คำด่า คำสาป ก็ยังไม่เพียงพอเท่ากับสิ่งที่พวกมันทำกับชาติ ศาสนา พระมหากษัติ(กราบขออภัยหากสะกดผิดค่ะ)

ภัทรไม่ค่อยโกรธใครนะค่ะ และก็ให้อภัยคนอื่นเสมอ แต่คนพวกนี้มันเศษคน แม้กระทั่งจะให้อภัยยังเป็นการฝืนใจอย่างยิ่งเลยค่ะ

ภัทรว่านะ คนพวกนี้เลวยิ่งกว่า.......(ถ้ารู้จักหนังสือของคุณกาละแมร์) จะรู้ค่ะ แล้วพวกนี้นะตายตกนรกหมกไหม้แน่เลย แต่พวกเราก็ควรจะมีกำลังใจค่ะ คิดเสียว่าแม้แต่พระศาสดาของเรา ท่านยังโดนติฉิน นินทา ในหลวงท่าน ก็ทรงเป็นผู้มีบุญหนักสักใหญ่ ท่านก็เลยโดนมารพวกนี้มาทดสอบ เหมือนพระพุทธเจ้า ถ้าพระองค์ให้อภัยพวกที่หมิ่นและจาบจ้วงพระองค์ได้ ภัทรก็จะยอมให้อภัยพวกมันได้เหมือนกัน

เดี๋ยวภัทรจะช่วยหาบทความที่ชาวต่างชาติเขาสรรเสริญพระองค์มาลงไว้ให้อ่านด้วยค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุ ครับ คุณภัทร

"ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตายเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระมหากษัตริย์เจ้า "

 

นำมาให้อ่านค่ะ เป็นจนหมายถึง บก หนังสือพิมพ์ฉบับนึง ภััทรยังไม่มีเวลาแปลให้ค่ะ แค่เอามาแปะๆ คิดว่าน่าจะมีคนที่เข้าใจภาษาอังกฤษในนี้หลายคน อ่านแล้วพวกท่านก็ต้องซาบซึ้งได้ หากใครไม่เข้าใจอยากรู้ว่าเขียนอะไร ก็มาโพสในกระทู้นี้นะค่ะ ภัทรว่างเมื่อไหร่จะแปลเป็นไทยมาให้อ่านกันค่ะ แล้วจะนำบทความที่สรรเสริญพระองค์มาลงให้ได้อ่านอีกค่ะ

LETTERS TO THE EDITOR
Praise for His Majesty the King from a foreign admirer on his 60th anniversary

<!---- Photo ----> <!---- Photo ----> His Majesty the King Bhumibol Adulyadej has won the love and respect of many people, both Thais and foreigners.

Not only because he is King, but also because he is a loving, caring, peace-loving and dedicated monarch. Thais should rejoice and be glad, for they are blessed with a wonderful and caring King.

When Thais rejoice, His Majesty the King rejoices. When Thais are sad, His Majesty the King is sad. This great monarch is never blinded to the needs of his people. He is always there to rescue them in times of trouble.

No wonder on this 60th anniversary of His Majesty's accession to the throne, people all over the world, Thai and non-Thai alike, royals and religious leaders have sent congratulatory messages to him. People all over the world appreciate His Majesty's love and devotion to his people.

When his subjects are faced with political chaos, the King of Thailand rises up to the task of giving them fatherly advice, which brings peace to the land.

I admire the love the King of Thailand bestows on his people. What a caring King, who does not see it as a burden to be involved in solving the problems that jeopardise the peace of his people. In order to alleviate poverty among the Thais, His Majesty initiates myriad aid and sustainable development projects that improve the quality of life of his subjects. His Majesty the King visits difficult-to-reach rural areas so as to be aware of his people's needs and supply their needs. He is a great King, who shows love in action.

His Majesty's aid is not limited only to farmers and the poor. It is also extended to academic institutions. The Asian Institute of Technology (AIT) has received support from His Majesty the King. Through this generous support by His Majesty, students all over the world are able to achieve academically. No wonder the people of AIT thought it wise to invite Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn to preside over AIT's 105th graduation ceremony. This helped AIT join the Thai nation in celebrating the 60th Anniversary of His Majesty's accession.

The King of Thailand has won the praises of many people. His Majesty the King has a ceaseless love, a caring touch and a protecting hand.

I have been in Thailand for 15 years and never heard anybody make bad comments about His Majesty. Every man and woman honours His Majesty. If you have no love for monarchs, if you consider kingdoms a nuisance, take a trip to Thailand. Ask the people in Thailand, both citizens and foreigners, about His Majesty. After hearing the praise they will pour on His Majesty, you will be interested in monarchs; you will love HM the King of Thailand.

We congratulate you, the loving King.

For being a channel through which many people, young and old, have been blessed, we honour you.

For not being a self-centred King and for giving your all to the improvement of Thais' lives, we thank you.

For your love and kindness to Thais and foreigners in Thailand, we praise you.

For the 60th anniversary of your accession to the throne, we celebrate you.

Long Live the King of Thailand!

Long Live an excellent King!

Dr Elizabeth Ogunlana of Nigeria
Asian Institute of Technology
Bangkok

 

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-com<img src=" images="" smilies="" omg-smile.gif="" border="0" alt="" title="Surprised" smilieid="34" class="inlineimg"></o:smarttagtype>TIME praises King Bhumibol as Asian Hero

BANGKOK, Nov 7 - His Majesty King Bhumibol Adulyadej of Thailand is praised by TIME Magazine in its current issue as an Asian Hero who has inspired the Thai people during his 60 years on the throne.

American weekly newsmagazine TIME's November 13 issue said that during a reign of 60 years, His Majesty the King has been a beloved monarch who used his moral authority to guide <st1:country-region w:st="on"><st1>Thailand</st1></st1:country-region> through many crises.


King Bhumibol also gave his advice to governments, always urging them to put public interest first, said TIME.
"His stewardship has been so masterful that in times of crisis Thais invariably turn to one man: King Bhumibol. Indeed, on two occasions--October 1973 and May 1992--with Thailand descending into chaos, the King, armed only with his moral authority, intervened to end bloodshed," the magazine said.

In October 14, 1973 a student-led uprising helped topple the military regime of Field Marshal Thanom Kittikachorn.

May 1992 was later called ''Bloody May'' after the military opened fire on unarmed demonstrators calling for the resignation of a general who had taken power in a bloodless coup.

The military led by then army chief Gen. Suchinda Kraprayoon toppled the government of late prime minister Chatichai Choonhavan in a coup.

Thousands of people took to the streets of <st1:city w:st="on"><st1>Bangkok</st1></st1:city> to protest the military's seizure of the power after Gen. Suchinda took the premiership.

A subsequent bloody army crackdown saw scores of protesters killed. Many others are still missing.

On September 19 this year, a group of generals again seized power, pledging to give <st1:country-region w:st="on"><st1>lace Thailand</st1></st1:country-region> a fairer and more stable democratic system. The Thai people believe the generals will keep their promise as they had vowed to King Bhumibol to return power to the people in one year.

Time Magazine said that when King Bhumibol, at age 18, ascended the throne, some media, including TIME, wondered whether the inexperienced teenager could weather the kingdom's bumpy political situation. Now, His Majesty the King has proved his abilities and his devoted effort to help the people.

TIME added that His Majesty the King initiated over 3,000 royal projects to help the poor, saying that even as a communist insurgency raged, he personally delivered relief to remote villages.

He is the world's longest-reigning monarch and this year <st1:country-region w:st="on"><st1>Thailand</st1></st1:country-region> celebrates the 60th anniversary of His Majesty the King's accession to the throne.

In this special issue, the magazine selected 64 persons as Asian Heroes, divided into five categories --nation builders, artists and thinkers, business leaders, athletes and explorers, and inspirations.

may
News Type : <st1:country-region w:st="on"><st1>Thailand</st1></st1:country-region> news
Story : WP
Photo : Internet
Translater :<o></o>

 

ขอเทิดทูนพระองค์ท่าน พระองค์สถิตในดวงใจของชนชาวไทยทั้งมวล ขอให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยที่แข็งแรงยิ่งๆขึ้นด้วยเทอญ

 

โครงการพัฒนาส่วนพระองค์

เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการจัดทำโครงการพัฒนาขึ้นบนที่ดินส่วนพระองค์ ดำเนินงานภายใต้ บริษัท มงคลชัยพัฒนา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรูปแบบตัวอย่างสนับสนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อช่วยฟื้นฟูสังคมไทย แก้ไขภาวะความยากจนของคนในประเทศ ใช้เป็นแหล่งทดลองค้นคว้า และแสวงหาวิธีการพัฒนาสร้างรูปแบบจริงในการประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม ให้ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการศึกษาแก่เกษตรกร นิสิตนักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไปได้เข้ามาศึกษาและนำไปปฏิบัติตาม

โครงการเขาหินซ้อน

พื้นที่ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 642 ไร่ สภาพพื้นที่เป็นลูกลอนและมีลำห้วยไหลผ่านพื้นที่ ลักษณะทางกายภาพของดินในบริเวณนี้เป็นดินทราย ภูมิอากาศโดยทั่วไปแห้งแล้ง

ในอดีตพื้นที่บริเวณเขาหินซ้อนจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประ เทศไทยมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเขาหินเล็กใหญ่ทับ ซ้อนกันอยู่ทั่วๆไป เพียงชั่วระยะเวลา 30 กว่าปีต่อมาการคมนาคมสะดวกทำให้ผู้คนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ได้สะดวก ผลที่ตามมาคือมีการทำลายป่าเพื่อนำพื้นที่มาใช้เพาะปลูกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกมันสำปะหลังซึ่งเป็นพืชที่ทำลายคุณภาพดินทำให้ดินเสื่อมโทรมจนทำให้ป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์กลายเป็นพื้นที่เสื่อมโทรมและมีปัญหาการชะล้างพังทลายของดินสูง จนกระทั่งเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพื้นที่ดังกล่าว และทรงคิดหาแนวทางในการแก้ไขเพื่อช่วยเหลือหรือบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรโดยใช้วิชาการในหลายๆด้านประกอบกัน เป็นการดำเนินการแก้ไขในลักษณะผสมผสานของหลายๆหน่วยงานจึงมีพระราชดำริให้หน่วยงานจากกรมกองต่างๆ มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์ศึกษาตัวอย่างประโยชน์ที่เกิดขึ้นได้เป็นสองทางคือต้นทางซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ฝึกหัดการทำงานร่วมกันได้ความรู้ในการพัฒนา และปลายทางคือราษฎรได้รับความช่วยเหลือในการพัฒนาที่ดินทำกินให้มี ความอุดมสมบูรณ์ขึ้นอันเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญในการจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

การดำเนินงานของโครงงานในระยะแรกเน้นในด้านการพลิกฟื้นสภาพที่ดินที่เสื่อมโทรม (Regenerate Soil) โดยการสร้างแหล่งน้ำและระบบชลประทานเพื่อใช้ในการเกษตร เป็นการสร้างความชุ่มชื้นให้กับสภาพแวดล้อม และเป็นการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น เพื่อให้สามารถปลูกพืชและผลไม้ชนิดต่างๆได้ รวมทั้งการปลูกป่าเพื่อสร้างระบบนิเวศน์ให้เหมาะสมกับสภาพเดิมของพื้นที่ และช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของดินด้วย ปัจจุบันโครงการสามารถปลูกผักและผลไม้ได้ คือ ผักหวานบ้าน ส้มโอ เสาวรส (Passion Fruit) และผักใบ เป็นต้น

โครงการพัฒนาส่วนพระองค์สะพานสูง

พื้นที่ตั้งอยู่ที่ เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 15 ไร่ ด้านหน้าติดถนนรามคำแหง และด้านหลังติดกับคลองแสนแสบ สภาพพื้นที่เป็นดินถม และดินเค็ม การใช้ประโยชน์ที่ดินของโครงการ ได้แบ่งกิจกรรมออกเป็นส่วนๆ ดังนี้

5.1 แปลงปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ โดยการปรับปรุงดินให้ดีขึ้นแล้วทำการปลูกผักชนิดต่างๆ หมุนเวียนกันไปตามฤดูกาล โดยการใช้วิธีการปลูกบนดิน และปลูกแบบไร้ดิน(ในสารละลายHydroponics) รวมทั้งการปลูกผลไม้ในโรงเรือนควบคุมอุณหภูมิ (Evaporated) ซึ่งการปลูกผักได้มีการวางแผนให้สามารถเก็บผักส่งตลาดได้ทุกๆ วัน

5.2 ร้านธรรมชาติ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของโครงการภายใต้ตรา

 

ร่วมใจสามัคคี

​

 

พระราชปณิธาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการสร้างคน

<DD>ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๙ เป็นต้นมา พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงพระราชปณิธานด้านการศึกษาที่เด่นชัด ดังจะเห็นได้จากพระราชดำรัส พระบรมราโชวาทซึ่งได้พระราชทานไว้ในวโรกาสต่าง ๆ และพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงปฏิบัติไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งในที่นี้จะนำเสนอเพียงพระราชปณิธานที่สำคัญๆ ดังต่อไปนี้
<DD>- พระราชปณิธานที่จะพระราชทานการศึกษา เพื่อพัฒนาชีวิตราษฎร ทรงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพลเมืองให้มีคุณภาพด้วยการให้การศึกษา เพื่อให้สามารถพึ่งตนเองได้และมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ทั้งส่วนบุคคลและประเทศชาติ ดังจะเห็นได้จากพระบรมราโชวาทด้านการศึกษาบางตอนที่ได้พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียน ณ ศาลาดุสิดาลัยเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๔ ว่า
<DD>"

 

<DD>- พระราชปณิธานในการขยายการศึกษาภาคบังคับให้ทั่วทั้งประเทศ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ได้กล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณเกี่ยวกับการขยายการศึกษาภาคบังคับ ไว้ตอนหนึ่งว่า
<DD>"