ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อสมหวังบรรจุธาตุพระปัจเจก(ขอทรัพย์พระปัจเจก) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    หลวงปู่ทวด

    อรุณสวัสดิ์กันนะครับ

    เช้าวันนี้ก็มาพูดคุยกันสบายๆ ยังจำหลวงปู่ทวดองค์เล็กๆที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้แล้วเล่นเกมส์แจกกันได้รึเปล่า ที่เรียกว่าทวดทรงแผ่นดิน

    ก็พอดีเมื่อวานนำเครื่องมงคลไปส่ง แล้วทีนี้ก็มีโอกาสได้นั่งพูดคุยสนทนากันหลายเรื่อง พี่ท่านนี้เค้าก็พูดถึงหลวงปู่ทวดขึ้นมา

    โดยเล่ามาก่อนว่าคุณแม่ของเขาเเป็นคนที่เห็นสิ้งลี้ลับ เห็นผี เห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆและเห็นมานานแล้ว หลังจากเล่นเกมส์ไปพี่เค้าก็นำหลวงปู่ทวดไปให้คุณแม่ แต่ว่าไม่ได้ห้อยคอบูชานะ เอาไปไว้ที่หัวเตียงแทน เค้าว่าหลังจากนั้นแม่ไม่เจอผีอีกเลย

    เรายังแซวว่าเอาออกสิ ผีมาได้ขอหวย จริงๆแล้วบางคนห้อยพระแต่ผีอำก็มีนะ อันนี้คือบางคนบางกรณี แต่กรณีนี้ผมว่าก็แปลกดีไม่ได้ห้อย แต่เพียงนำไปวางไว้หัวนอน จากคนที่เคยเจอเคยเห็นตลอดกลายเป็นไม่เห็น

    พอมานั่งคิด เหมือนแม่ของพี่ท่านนี้น่าจะเห็นมาหลายสิบปีแล้ว แต่เมื่อได้บูชาหลวงปุ่ทวดกลับไม่เห็น ทั้งๆที่ในบ้านก็น่าจะมีพระอยู่ คิดๆก็แปลกใจดี ใครที่มีเรื่องแบบนี้ เห็นสิ่งที่ไม่น่าจะเห็น หรือมีอะไรรังควานก็ลองอาราธนาห้อยดูได้

    หลวงปู่ทวดหรือทวดทรงแผ่นดิน องค์ท่านไม่ใหญ่มาก หมั่นนำมาสวดอาราธนากันบ่อยๆนะ ถือว่าเป็นของดีจริงๆ คือไม่ใช่แค่ไล่ผีแน่นอนเพราะเชื่ออย่างยิ่งว่าหลวงปู่ทวดนั้นมีพุทธคุณรอบด้าน ครอบจักรวาลอยู่แล้วและยังสุดยอดนิรันตราย สำหรับคนที่ร่วมเล่นเกมส์ไป หากไม่ได้ห้อยคอเองก็ลองนำไปมอบให้ภรรยา พ่อ แม่ หรือคนที่คุณรักก็ได้ รับรองว่าชีวิตสบายใจหายห่วง

    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภควา ..สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 035.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.7 KB
      เปิดดู:
      99
    • Lputuadpixforpost.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.1 KB
      เปิดดู:
      68
  2. seekerpunch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +3,114
    ได้รับพระบรมครูหมอแล้ว ขอบคุณครับ
     
  3. ปฏิภาณ บดส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +132
    ได้รับพระบรมครูปู่ชีวกแล้วครับ
     
  4. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ดวง

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มาพูดคุยกันเช้าๆ จริงๆเรื่องนี้ผมมองเห็นว่าเป็นปัญหานานแล้วนะก็เลยจะยกมาพูดกัน นั่นก็คือเรื่องดวง เชื่อว่าหลายๆคนก็ชอบดูดวง ยิ่งดูก็ยิ่งไม่จบ เพราะแต่ละวันคนเราจะเจอสิ่งต่างๆมากมาย และแน่นอนที่ง่ายที่สุดก่อนจะโทษตัวเอง ก็จะไปโทษดวงชะตา โทษคนอื่น โทษสิ่งแวดล้อม กว่าจะมาถึงตัวเองก็คงเป็นลำดับสุดท้ายจริงๆ

    ทีนี้เราต้องมาดูกันก่อนว่าพวกคุณดูดวงไปทำไม เอาว่ารู้ไปแล้วได้อะไรดีกว่า เพราะหลายคนรู้ไปก็แค่นั้น มีมากมายที่ส่งดวงมาให้ท่านดู รู้ไปก็ไม่แก้ พอผ่านไปสี่ห้าเดือน ปีสองปี เรื่องค่อยๆทยอยเกิดตามที่ท่านทักก็มาโวยวาย ดูให้อีกสิ จะทำยังไง อะไรมากมาย เช่นนี้ผมจะไม่ตอบเค้ากลับเลย เพราะมันดูทั้งชีวิตก็ไม่จบ เนื่องจากวิธีแก้ส่วนใหญ่ผมจะพิมพ์ให้ตลอด บางครั้งมันก็ต้องใช้สมองใช้ปัญญาด้วย คนเราถึงจะพบความสำเร็จ

    อย่างกรณีคนที่เก็บเงินไม่อยู่ ดวงแบบว่าไม่มีอนาคตไม่ทีทรัพย์สมบัติเลยแหละ เค้าส่งดวงมาให้ท่านดูเสร็จเราก็พิมพ์ตอบไป แต่ทีนี้เรารู้ว่านี่ ตาคนนี้ไม่ใช่คนจนๆธรรมดา แต่รวยมากระดับมหาเศรษฐีเลย เราก็ได้ถามเค้าว่าพี่ทำยังไง ทำไมชีวิตมันถึงตรงข้ามกับดวงชะตาขนาดนี้

    เค้าก็บอกว่าเค้าชอบดูดวง แต่เค้าดูเพื่อปรับแก้ ไม่ใช่ดูเพื่อยึดถือและคิดว่าต้องเป็นตามนั้น จุดบอดจุดพร่องที่อยู่ในดวงของตัวเองทั้งหมด คือสิ่งที่เค้าจะนำมาคิดวิธีแก้ไข อย่างกรณีเก็บเงินไม่อยู่ มีเท่าไหร่ทั้งตัวเองทั้งญาติผลาญหมด มันก็ง่ายๆว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองมีเงินเก็บ แต่ดูภายนอกเหมือนคนไม่มีอะไร เงินทุกบาทจะเอาไปฝากเอาไปทำอะไรให้มันหายไปจากชีวิต แต่มันยังคงยู่ ยังคงเป็นของเรา ให้มันเข้ากับกรรมกับดวงชะตา ไม่ขัดกับดวงชะตาตนเอง เพียงเท่านี้พี่เค้าว่าก็เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว เพราะเค้ารู้จักตัวเค้าเองดีที่สุด รู้จักดวงตัวเอง และเหนือสิ่งอื่นใดคือเค้ารู้จักจัดการกับดวงตัวเอง

    ทีนี้ผมจะเรียกว่าผมมีแนวคิดของพี่ท่านนี้เป็นไอดอลเลยก็ว่าได้ เพราะมันจริง แล้วมันใช้ได้จริง ตรงนี้ทุกคนมีสมองมีความคิดสามารถคิดพลิกแพลงเช่นนี้ได้ ดีกว่าดูดวงดูไปเรื่อยๆ ดูทั้งชีวิตก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น มันจะดีกว่ามั๊ยถ้าดูครั้งเดียวแล้วตัวปัญญามันเกิดหาทางออกในดวงชะตาตัวเองได้

    คิดเล่นๆนะ ผมนั่งอ่านดวงหลายๆคนแล้วเอามาคิดตามวิธีเบื้องต้น ผมได้ทางออกเพียบเลย แต่มันติดที่ว่าคนพอดูแล้ว วิธีแก้หรอ วิธีทำหรอ มันลำบาก มันยุ่งยากเลยไม่ทำก็มี บางคนส่งมาให้ท่านดูเราก็พิมพ์กลับไป บางคนพิมพ์ยาวเป็นหน้าๆนะเพราะเราใส่ใจเรื่องดวงคนอื่น ทีนี้ท่านว่าอยากเจริญให้ย้ายงานไปเลย เราก็อธิบายไปว่าเพราะอะไร ทั้งสังคม ทั้งเจ้านาย สารพัดคือมันไม่เจริญที่นี่แน่ ซ้ำยังมีแววจะร้ายมากกว่าดีในหลายๆเรื่องก็พิมพ์อธิบายเขาไป ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ๆ ทีนี้พอเรื่องค่อยๆเกิดมันผ่านมาปีสองปีแล้ว เราก็ร้องไอ้หยา คือไม่อยากยุ่งแล้ว ต้องมานั่งดูใหม่นั่งแก้ใหม่หมดเลยหรอ แนะนำไปก็เสียเปล่า เสียเวลาเราด้วยถ้าพูดแล้วบอกแล้วไม่ทำตาม เราจะมานั่งรับดวงนั่งพิมพ์ตอบกลับให้ทำไมยาวๆ บางคนเรายังจำได้อยู่เลยว่าเคยบอกอะไรไปถ้าเค้าไม่แก้ไม่ทำก็ป่วยการตอบ เพราะแต่ละวันคนส่งดวงเข้ามามาก บางคนส่งมาเป็นครอบครัวเลย แล้วพอหลายๆคนมาสุมๆไว้เราก็ต้องทยอยให้ท่านผูกท่านทำนายนำมาพิมพ์ตอบกลับไปเป็นคนๆ

    คือการดูดวงเนี่ย อะไรที่มันเป็นที่ดวงเราจริงๆ วิธีแก้มันก็มี จะมาใช้คำว่าขอเมตตาๆแบบนี้เสียเวลาพูดกัน อะไรถ้าท่านบอกว่าต้องทำด้วยตัวเองจริงๆ มันก็คือต้องทำด้วยตัวเอง อาจจะมีกรรมมีวาระอะไรซ่อนอยู่ให้ต้องทำด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะผ่านไปได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็แก้ไปเรื่อยไม่จบ

    จริงแล้วถ้าจำกันได้ผมเคยพูดแต่ต้นแล้ว ว่าท่านบอกเสมอว่าถ้ายุ่งกับดวงคนเมื่อไหร่ มีแต่ปัญหาแน่นอน เพราะคนเรามันไม่จบ มันไม่รู้จักคิด เราถูกปลูกฝังให้เชื่อดวง ให้อยากดูดวง แต่ไม่เคยคิดจะแก้ไขดวงเอาชนะดวงตัวเอง เต็มที่ดูไปก็คล้อยตามไปกับมัน เช่นนี้จะดูจะรู้เพื่ออะไร เพื่อดูว่าดวงเราดีแล้วสบายใจ รึดูว่าดวงเราแย่แล้วก็ก้มหน้ารับกรรมไปเช่นนี้รึเปล่า

    อย่างที่บอกดวงมันไม่ต้องดูหลายครั้ง ครั้งเดียวก็พอ นานๆดูทีก็ได้ ถ้าการดูดวงนั้นทั้งคนดูและเจ้าของดวงเป็นคนที่มีประสิทธิ์ภาพทั้งคู่ เชื่อว่าจะได้อะไรมากมายถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตและอุปนิสัยของตนได้ทีเดียว เพราะเรารู้แล้วว่าต้องระวังอะไร ต้องทำยังอย่างไร เราจะคิดวิธีเอาชนะมันอย่างไรเช่นนี้การดูดวงย่อมมีผลมากกว่าไปเข้าพิธีแก้กรรมตัดกรรม เปิดกรรมอะไรทำนองนี้แน่นอน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • e1c0151d.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.3 KB
      เปิดดู:
      119
  5. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    พระสยม

    ก็เดี๋ยวไว้กลับจากธุระจะเล่นเกมส์นะครับ เอาเป็นต้นเดือนหน้าทีเดียวเลย ติดตามกันดีๆ

    ในส่วนเรื่องพูดคุย อันนี้ก็ไลน์มาเล่าให้ฟังตั้งแต่เช้าเมื่อวาน ผมเห็นพี่คนนี้เค้าโทรไลน์มาซึ่งผมไม่ได้รับจึงได้กดโทรกลับไป พี่เค้าว่าจะเล่าเรื่องสีผึ้งพระสยมให้เราฟัง เค้าว่าได้อธิษฐานกับภูติผีเสื้อและนำสีผึ้งมาเจิมหน้า

    ในวันที่ได้เจิมสีผึ้งนี้ ก็พอดีได้ช่วยงานน้องคนหนึ่ง เป็นนักศึกษาครู เราก็ตั้งใจฟัง พี่เค้าบอกว่าสีผึ้งออกฤทธิ์เลย เค้าเชื่อเพราะไม่เคยเจอมาก่อน เพราะในวันเดียวกันนั้นเองหลังจากกลับแล้วพี่เค้าว่าได้ไลน์ไปชวนน้องคนนี้เดินเล่นสะพานพุทธซึ่งน้องเค้าก็ตกลง พี่เค้าว่าแค่ชวนเฉยๆไม่คิดว่าจะไป

    พอออกมาเจอกันกลับไม่ได้ไปสะพานพุทธพี่เค้าว่ากลายเป็นหาอะไรกินแถวหอน้องเค้าแทน ทีนี้ระหว่างกินนั้นพี่เค้าว่าน้องเค้าหลบตาไม่มองหน้าเลย ชวนคุยอะไรก็ไม่ตอบ พูดอะไรก็ไม่พูดด้วยจนนึกว่าแห้วแล้ว คิดว่ากินเสร็จต่างคนต่างกลับแน่เลย ทีนี้พอกินเสร็จพี่เค้าจึงช่วยนองเค้าถือของ บอกว่าจะเดินไปส่งน่าปากซอยหอน้องเค้า เพราะน้องเค้าไม่ยอมไปเที่ยวต่อบอกว่าง่วงอยากจะนอนขึ้นมาเฉยๆ

    แล้วเค้าก็เดินไปส่งจนถึงน่าปากซอย ทีนี้เรื่องอยู่ที่ว่าพอถึงน่าปากซอยตัวผู้หญิงก็ไม่หันมารับของคืน เดินเข้าไปในซอยเฉยเลยเค้าจึงเดินตามเข้าไป พอเดินลึกเข้าไปผ่านร้านนมร้านขนมปังจึงหันมาถามพี่เค้าว่าจะทานอะไรมั๊ย พี่เค้าว่าเค้ากำลังงงๆเลยบอกไม่กิน ตอนนั้นกะจะเอาของที่ถือมาคืนน้องเค้า กลายเป็นว่าน้องเค้ารีบหันกลับไปเลี้ยวเข้าอีกซอยนึงถึงหอเค้าพอดี

    พี่เค้าเล่าว่าในใจตอนนั้นก็คิดแบบว่า เฮ้ย นี่เดินตามมาถึงหน้าหอแล้วนะเดี๋ยวเดินไปส่งเค้าเอาของคืนให้แล้วกลับก็พอ เราเลยแซวว่ามันจะได้กลับหรอเดินไปถึงขนาดนั้น ซึ่งก็จริงเหมือนที่แซว พี่เค้าว่าพอน้องเค้าแต๊มคีย์การ์ดปุ้ป เค้าหันมาพูดกับพี่คนนี้ว่าขึ้นไปนั่งเล่นก่อนมั้ย 555เราขำก้ากเลย บอกว่าเชื่อเลยว่าไม่ได้กลับแล้วไม่ได้นั่งเล่นธรรมดาแน่นอน

    พี่เค้าว่าผมโคตรงงเลยว่าผมมายืนอยู่ในห้องน้องเค้าได้ยังไง กับคนที่เพิ่งรู้จักกันวันเดียว คุยกันไม่กี่คำ เบอร์โทรยังไม่มี มีแต่ไลน์ คือเค้าก็เล่าแบบตื่นเต้นนะเค้าว่าไม่เคยเจออะไรแรงแบบนี้เหมือนเจิมตัวเองปุ้ปติดปั้ปเลย ก็ไม่ต้องเล่าต่อแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น

    ทีนี้ผมอยากจะพูดคุยอีกหน่อยเรื่องสีผึ้งรึของเสน่ห์ที่วิธีใช้งานมันดูง่ายๆแบบนี้ อยากจะบอกว่าถ้าจะรักสนุกก็อย่าทำเลย เพราะมันเป็นเวรกรรม ทุกอย่างมันอยู่ที่ความชั่งใจของเรา ว่าเราชั่งใจตัวเองได้แค่ไหน รึเราข่มใจตัวเองไม่ได้ ปล่อยใจปล่อยให้ขาเราเดินเข้าไปหามัน ถ้าเกิดขึ้นซ้ำๆบ่อยๆมันจะไม่ใช่การมีคู่ครอง หรือความต้องการมีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แล้ว แต่จะพาลไปแนวสร้างกรรมไว้แก่ตัวด้วย ก็เลยต้องย้ำว่าทุกอย่างมันอยู่ที่วิจารณญาณและการตัดสินใจของตัวเองว่าจะทำหรือไม่ทำ เพียงเท่านี้จริงๆ ต่อให้ของแรงอย่างไรถ้าเราข่มใจได้อันนี้จึงจะถือว่าโอเค เพราะถ้าทำอะไรไปก็ควรรับผิดชอบเลี้ยงดูเขาให้ถึงที่สุด ไม่ใช่ความสนุกหรือความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราว ถ้าทำดีแล้วมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ อันนี้ก็อีกกรณีหนึ่ง

    ก็นำมาเล่าให้ฟังกันว่าครูพระสยมในสีผึ้งที่ท่านเรียกว่าพิมพ์ทันใจนี้ มันมีอะไรไม่ธรรมดาจริงๆ เจอกันหลายคนแล้วทันใจสุดๆก็ขอให้นำไปใช้ในทางที่ดีเพราะพ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าถ้าจะบูชาขอพรแค่พกไว้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องไปนำสีผึ้งข้างในมาใช้แต่อย่างใด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    บารมี

    ก็มาพูดคุยกันนะครับ หลังจากรับคำถามหลายๆท่านที่ฝากขอคำปรึกษามา ก็มีเรื่องน่าสนใจที่คาดว่าจะหยิบมาพูดคุยกัน อีกทีหนึ่ง

    เรื่องนี้ก็ถือว่าน่าสนใจพอสมควร เพราะถามมาว่าจะเอาชนะเจ้าที่อย่างไร เนื่องจากเจ้าที่นั้นไม่ให้โชคลาภเลย แล้วอะไรหลายๆอย่างในบ้านก็มีแต่จะแย่ลง

    คือผมไม่อยากจัดไว้ในหมวดคำถามไม่น่าถาม เพราะมันไม่มีความจำเป็นต้องไปเอาชนะใคร เพราะว่าเราจะอยู่ในภาวะที่อยู่ร่วมกันและคอยเกื้อกูลกัน เหมือนภพที่ซ้อนกันใช้สถานที่ร่วมกัน

    ทีนี้จะไม่พูดถึงเจ้าที่ดีกว่า แต่จะพูดโดยรวมทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะนาค ครุฑ คนธรรพ์ เทวดายักษ์มารทั้งหลายก็ดี คือจะให้เค้าเกรงใจเรา ช่วยเหลือเรา ตัวเราเองก็ต้องมีดีในระดับหนึ่ง คำว่าดีนี้ต้องพูดก่อนว่าหมายถึงของดี แต่เราจะข้ามเรื่องเครื่องมงคลหรือวัตถุที่มีพลังงานทั้งหลายไป

    เราจะมาพูดถึงของดีภายใน นั่นก็คือศีลธรรมนั่นเอง แน่นอนว่าสำหรับคนที่มีบารมีเก่าสั่งสมไว้มาก คงจะไม่มีโอกาสสัมผัสถึงเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะเค้าเกรงใจเราอยู่แล้ว กรณีนี้เป็นกรณีของคนที่ยังไม่ได้สั่งสมบารมีหรือฉาบฉวยกับการปฏิบัติหลักธรรมต่างๆ

    เมื่อเป็นเช่นนี้อย่าไปเสียเวลากล่าวเลยว่าใครเขาจะมาเกรงใจ จะมาคอยช่วยเหลือประคับประคอง เพราะตัวเรานั้นไม่เคยสร้างเอง ยังไม่คิดจะช่วยตัวเอง และการสร้างบารมีนั้นก็ต้องประกอบติดกันจนสามารถระลึกได้เป็นอนุสัยติดกับพฤติกรรมตนไปทุกภพชาติ คือไม่ว่าจะเกิดชาติไหนๆ ไอ้ตัวความรู้สึกหรือพฤติกรรมมันก็จะแสดงออกเอง ทำให้เราขวนขวายเข้าหาเอง

    ไม่ใช่ว่าทำวันนี้ พรุ่งนี้จะได้ ทำวันนี้จะตั้งหน้านับเวลารอไปกี่วันถึงจะได้ แบบนี้มันไม่เป็นผล เพราะทำเอาหน้า ทำหวังผล แต่หลายๆคนเป็นเช่นนี้กันจริงๆ โดยลืมคิดไปว่าตัวเองเวียนว่ายตายเกิดมากี่ชาตินับประมาณไม่ได้ มีมั๊ยความรู้สึกที่ติดตัวว่าจะขวนขวายสร้างบารมี ไอ้ตัวความรู้สึกนี่แหละที่มันติดมาภพต่อภพ ถ้าไม่มีมันก็ต้องเริ่มวันนี้ดีกว่าไม่ได้เริ่มอะไร การสร้างนั้น ต้องสร้างสืบเนื่องต่อไปนับหน่วยเวลาประมาณมิได้ นั่นแหละคือการสร้างบารมีดังนั้นสำหรับคนที่ถามเข้ามา เราจะไม่ใช้วิธีคำว่าเอาชนะ แต่เราควรทำ และใช้ความเพียรทำให้เค้าเห็น ให้เค้าเกรงใจในคุณงามความดีของเรา

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะพูดถึงศีลอยู่บ่อยๆ โดยท่านจะเน้นย้ำว่าคุณแห่งศีลนั้นมีอยู่ในโลก และย่อมคุ้มครองรักษาผู้ประพฤตินั่นเอง ผมเชื่อแน่ว่าทุกคนท่องได้หมดเพราะเป็นเรื่องง่าย และก็เชื่อว่าทุกคำได้ไม่ยากหากมีกำลังใจ ตรงจุดนี้เองที่เป็นสิ่งสำคัญ การสั่งสมตรงนี้มันสืบเนื่องไปถึงบารมี ท่านว่าเมื่อยู่ร่วมกัน เขาจะได้เกรงใจเรา เกื้อกูลเรา ดีกว่าต่างคนต่างอยู่ นี่คือการมีดีจากข้างในของตนเอง

    เชื่อว่าหลายๆท่านที่มีปัญหาติดขัดตรงนี้คงได้คำตอบ มันง่ายมาก ไม่ต้องไปแสวงหาอะไรเลย เริ่มง่ายๆ เริ่มจากทำตัวเองให้ดีเพียงเท่านั้นก็พอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 035.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.7 KB
      เปิดดู:
      101
  7. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    พรุ่งนี้เราจะเล่นเกมส์แจกตะกรุดเบี้ยต่อไส้ ติดตามกันดีๆนะครับ เล่นกันเงียบๆ เพราะเป็นวิชาเฉพาะที่มีน้อยจริงๆ ได้จับฉลากแน่ๆ:cool:
     
  8. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมเล่นเกมส์ แจกตะกรุดเบี้ยต่อไส้(เงินไหล)

    เบี้ยต่อไส้นี้ หมายถึง การทำงานหาเช้ากินค่ำไปวันๆ ไม่เหลือเก็บไม่เหลือใช้ หาเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มไม่พอ

    พ่ออาจารย์ท่านพูดว่าที่ท่านตั้งชื่อตะกรุดเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีความหมายไม่ดี แต่จะตั้งไว้เพื่อให้เกิดสติ พิจารณากันตรงๆว่า ตะกรุดนี้นั้นดี เหมาะสมกับใครที่สมควรนำไปใช้

    แรกเริ่มนั้นท่านได้วิชานี้สืบมาจากสายหลวงปู่เคน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าหลวงปู่เคนนั้นบารมีท่านสูงยิ่ง ท่านเก่งเรื่องให้โชคลาภคนมากนัก พ่ออาจารย์ท่านได้นำวิชานี้มาทำตะกรุดดอกเล็กๆ ท่านว่าทำไว้พอมีเวลาว่างก็ทำเดือนละดอกสองดอก เพราะต้องทำทีละดอกและกำหนดจิตเสกให้เสร็จทีละดอกเลย จะใช้เสกรวมไม่ได้ เป็นวิชาที่ต้องตั้งใจทำเพื่อสงเคราะห์สัตว์ให้เขาออกจากทุกข์จริงๆ

    ซึ่งตะกรุดนี้เมื่อทำขึ้นมาแล้ว ท่านจะให้คนที่เดือดร้อน หาเช้ากินค่ำ มีภาระหนี้สิน หรือการทำมาหากินฝืดเคือง ท่านเรียกคนเหล่านี้ว่าเบี้ยต่อไส้ เพราะท่านรู้ว่าพวกเขานั้นน่าสงสาร แม้จะประกอบอาชีพสุจริต แต่ทำอย่างไรรายจ่ายก็มากกว่ารายรับที่จำเป็นต้องใช้ ท่านจึงเมตตาขอพลังบารมีหลวงปู่เคนและใช้วิชาที่สืบมาแต่องค์ท่านเพื่อทำมงคลวิเศษชิ้นนี้มอบให้กับพวกเขา ซึ่งนานๆจะทำได้เสียสักดอก เรียกว่าทำไปเท่าไหร่ก็ไม่พอเนื่องจากข้อจำกัดบางประการ

    ซึ่งที่ผ่านมาเรียกได้ว่ารายไหนรายนั้น ไม่มีผิดหวัง มีแต่ดีขึ้นทุกรายไปไม่ตั้งตัวได้ ไม่เปลี่ยนชีวิต ก็ได้คนอุดหนุนค้ำจุน เรียกได้ว่ามีสิ่งดีๆเข้ามาจะไม่พบไม่เจอคำว่าหากินไปวันๆ หาเช้ากินค่ำ หาเงินอุดรอยรั่วชีวิตเช่นนั้น หลายคนที่ได้บูชานำไปเปลี่ยนชื่อกันว่าตะกรุดเงินไหลมาบ้าง มาขอเพิ่มให้พ่อแม่พี่น้องและญาติตัวกันทั้งนั้น แต่เนื่องจากท่านไม่สามารถทำในจำนวนมากได้ จึงไม่ได้รับการตอบสนองในสวนนี้ เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าตะกรุดวิชานี้ไม่ทำให้เสียชื่อ ด้วยบารมีหลวงปู่เคน ท่านว่าไม่มีที่ว่าจะเสมอตัวหรือเลวลงแต่อย่างใด...

    ด้วยเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันนั้น ท่านเล็งเห็นว่าคนที่ประกอบอาชีพสุจริตนั้นมีมาก และคนประเภทเบี้ยต่อไส้นี้ก็ยิ่งมีมากเพิ่มขึ้นทุกวัน ท่านปรารถนาอยากจะเห็นคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเขา จึงได้ทำตะกรุดเบี้ยต่อไส้ไว้จำหนวนหนึ่ง ซึ่งมีเพียงไม่มากนัก เนื่องจากว่าท่านต้องทำและเสกให้เสร็จในคราวเดียวทีละดอก จึงกินเวลานานส่วนใหญ่ทำแล้วฤกษ์จะหมดเสียก่อน ต้องทยอยทำเก็บนานหลายปีเพื่อจะได้มีใช้กันหลายๆคน

    พ่ออาจารย์ท่านได้มอบตะกรุดเบี้ยต่อไส้นี้ให้มาเล่นเกมส์จำนวนหนึ่ง เนื่องจากมีจำนวนไม่มาก และที่จริงส่วนตัวผมที่เปิดเล่นเกมส์มาก็อยากจะให้ได้ครบกันทุกคน ก็ภาวนาขอให้ผู้ที่อยากใช้ อยากเปลี่ยนชีวิตได้ไว้บูชากันจริงๆ ซึ่งเกมส์ในวันนี้ก็จะเป็นเกมส์ง่ายๆ

    โดยจะให้หาบทสวดมนต์บทใดบทหนึ่งที่เป็นประโยชน์และใช้สวดกัน มาเผยแพร่บอกกล่าวกันในกระทู้นี้ ใช้ได้หมดไม่ว่าจะเป็นชินบัญชร เจ็ดตำนาน 12 ตำนาน หรืออื่นๆอย่างธารณปริตร พระธรรมจักร ยอดพระกัณ เป็นต้น ยิ่งถ้าเป็นบทสวดที่ตนเคยสวดจะดีมาก หรือจะเป็นพวกคาถาเช่นคาถาพระปัจเจกก็ได้ บทสวดจักรพรรดิ์ หรือคาถาอะไรที่ตนชอบภาวนาก็ได้ จะให้ดีที่สุดต้องเคยอ่านและเคยสวดมาจริงๆ ก็จะได้เป็นนิสัยให้คนที่แสวงหาบทสวดมนต์ได้ติดตามและช่วยกันดูช่วยกันสวดต่อไป บทไหนที่เค้าไม่เคยสวดหรือสนใจก็จะได้ก๊อปหรือเซฟเก็บไว้เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งในการภาวนาและการสวดมนต์ของกัลยาณมิตรทั้งหลาย

    ก็เริ่มเล่นเกมส์ได้เลย ง่ายๆเพียงไปทำความเข้าใจก๊อปและนำมาวางเท่านั้น เราจะได้อนุโมทนาบุญร่วมกัน สำหรับเกมส์นั้นจะให้กำหนดเวลาถึงวันพรุ่งนี้เวลาหกโมงเย็นถือว่าปิดเกมส์ทันที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ

    คาถาเงินล้าน

    (ตั้งนโม 3 จบ)

    สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)

    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ

    * (บูชากี่จบก็ได้ ตัวคาถาต้องกล่าวทั้งหมด ข้อความอธิบายในวงเล็บไม่ต้องสวด)
    (พรหมา-อ่านว่า พรม-มา)
    (สวาโหม-อ่านว่า สะ-หวา-โหม)



    https://www.youtube.com/watch?v=oZ0lgProiQY
     
  10. วัตรธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    364
    ค่าพลัง:
    +448
    ร่วมเล่นเกมครับ

    คาถาบูชาพระพุทธเจ้าห้าพระองค์
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
    นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร
    ยะ ทรงอากาศ พุทธังแคล้วคลาด ธัมมัง แคล้วคลาด
    สังฆัง แคล้วคลาด ศัตรูภัยพาล วินาศสันติ
    นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
    นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต
    ธากาโร ศรีศากะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ
    เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัจจะพุทธา นะมามิหัง
    โมทนาสาธุๆๆครับ:cool:
     
  11. rungsun2503 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +1,186
    ร่วมล่นเกมส์ครับ
    คาถานี้ผมเริ่มนำมาสวดหลังสวดมนต์ นั่งสมาธิเสร็จ พบว่ามีปิติดีครับ
    ตั้งนะโม 3 จบ
    " พุทโธ อะระหัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวัณโณ พุทโธ อะระหัง กัมมะโตเมตัง กัมมะภันทะนัง
    ชีวิตตังให้ไปจุติ ให้ทุกชีวิตทุกวิญาณจงไปผุดไปเกิด" ( 3 จบ )
    บทกรวดน้ำ
    " อิมินา ปุญญกัมเมนะ ขอเดชเดชะกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าอุทิศไปให้คุณบิดามารดา ญาติกาทั้งหลาย สมณชีพราหมณ์ อีกทั้งเรือด ริ้น ลา พระอินทร์เจ้าฟ้า พระโคดม พระพรหมมีฤทธิ์ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระเพชรฉลูกรรณ พระมาตุลี พระกรุงพาลี พระภูมิเจ้าที่ แม่ซื้อพันจิต พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ ที่นำข้าพเจ้ามาเกิดในท้องพระพุทธศาสนา แม่พระคงคาไหล แม่พระเพลิง แม่พระพาย แม่พระฉูดฉาด พญายมราช ท้าวเวสสุวัณ ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ นายสมุห์บัญชี ตัวข้าพเจ้านี้ได้กระทำผิด จะขอแผ่อุทิศไปยังฝูงผีทั้งหลาย ปิดอบายให้มั่น เปิดประตูสวรรค์ให้สว่างกระจ่างแจ้ง เกิดในเมืองมนุษย์ให้เป็นสุข เกิดในเมืองสรรค์ให้เป็นสุข ท่านทั้งหลายที่ได้ทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆ นิพานัง ปัจจโย โหตุ
    พุทธัง ชั่วอนันตัง ธัมมัง ชั่วจักวาลัง สังฆัง นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. chaiwatwinij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2013
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +233
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ บทสวดจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ ผมสวดประจำเช้าเย็น

    คาถามหาจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่
    “ นะโมพุทธายะ , พระพุทธะไตรรัตนญาณ , มณีนพรัตน์ ,
    สีสะหัสสะ สุธรรมา , พุทโธ ธัมโม สังโฆ ,
    ยะธาพุทธโมนะ , พุทธบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา ,
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง , สีวลี จะมหาเถรัง ,
    อะหังวันทามิ ทูระโต ,
    อะหังวันทามิ สัพพะโส ,
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ ”
     
  13. pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    ร่วมเล่มเกมส์ คาถาไตรสรณคมน์
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
     
  14. chukit1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +218
    ร่วมเล่นเกมส์
    คาถาพระธรรมราช
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
    ทะ ทะ ทะ โร โร โร อะ อะ อะ
    สะ สะ สะ โส โส โส โณ โณ โณ
    นะโมพุทธายะ
    พุทธคุณ 108 ครับ
     
  15. leobia Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2016
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +66
    ขอร่วมกิจกรรมครับ

    บทสวดมนต์
    กะระณียะเมตตะสุตตัง

    เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
    บุคคลพึงเจริญเมตตา มีในใจ ไม่มีประมาณ ไปในโลกทั้งสิ้น

    อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ
    ทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง

    อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
    เป็นธรรมอันไม่คับแคบ ไม่มีเวร ไม่มีศัตรู

    ติฎฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
    ผู้เจริญเมตตาจิตนั้น ยืนอยู่ก็ดี เดินไปก็ดี นั่งแล้วก็ดี นอนแล้วก็ดี เป็นผู้ปราศจากความง่วงนอนเพียงใด

    เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ
    ก็ตั้งสติอันนั้นไว้เพียงนั้น

    พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
    บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวกิริยาอันนี้ว่า เป็นพรหมวิหารในพระศาสนานี้

    ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน
    บุคคลผู้มีเมตตา ไม่เข้ายึดถือทิฏฐิ เป็นผู้มีศีล ถึงพร้อมแล้วด้วยทัศนะ ( คือโสดาปัตติมรรค)

    กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง
    นำความหมกมุ่นในกามทั้งหลายออก

    นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ
    ย่อมไม่ถึงความนอน(เกิด) ในครรภ์อีก โดยแท้ทีเดียว

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. techapunyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +1,730
    ร่วมเล่มเกมส์ ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
    ๑.
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วัจจะโส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วัจจะโส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน วัจจะโส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต วัจจะโส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู วัจจะโส ภะคะวา

    ๒.
    อะระหัง ตัง สะระณัง คัจฉามิ
    อะระหัง ตัง สิระสา นะมามิ
    สัมมาสัมพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    สัมมาสัมพุทธัง สิระสา นะมามิ
    วิชชาจะระณะสัมปันนัง สะระณัง คัจฉามิ
    วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสา นะมามิ
    สุคะตัง สะระณัง คัจฉามิ
    สุคะตัง สิระสา นะมามิ
    โลกะวิทัง สะระณัง คัจฉามิ
    โลกะวิทัง สิระสา นะมามิ

    ๓.
    อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร วัจจะโส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา ปุริสะธัมมะสาระถิ วัจจะโส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง วัจจะโส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ วัจจะโส ภะคะวา

    ๔.
    อะนุตตะรัง สะระณัง คัจฉามิ
    อะนุตตะรัง สิระสา นะมามิ
    ปุริสะทัมมะสาระถิ สะระณัง คัจฉามิ
    ปุริสะทัมมะสาระถิ สิระสา นะมามิ
    สัตถา เทวะมะนุสสานัง สะระณัง คัจฉามิ
    สัตถา เทวะมะนุสสานัง สิระสา นะมามิ
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    พุทธัง สิระสา นะมามิ

    ๕.
    อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา
    อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา

    ๖.
    อิติปิ โส ภะคะวา ปะถะวีจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
    ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา เตโชจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
    ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา วาโยจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
    ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา อาโปจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
    ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา อากาสะจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
    ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน

    ๗.
    อิติปิ โส ภะคะวา ยามาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ตุสิตาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา นิมมานะระติธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา กามาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน

    ๘.
    อิติปิ โส ภะคะวา รูปาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะมะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ทุติยะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ตะติยะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา จะตุตถะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา ปัญจะมาฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน

    ๙.
    อิติปิ โส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะเนวะสัญญานา
    สัญญายะตะนะอะรูปาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณัญจายะตะนะ เนวะสัญญานา
    สัญญายะตะนะอะรูปาวะ จะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะ เนวะสัญญานา
    สัญญายะตะนะ อะรูปาวะ จะระธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน

    ๑๐.
    อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปะฏิมัคคะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน

    ๑๑.
    อิติปิ โส ภะคะวา โสตาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
    อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน

    ๑๒.
    กุสะลา ธัมมา
    อิติปิ โส ภะคะวา
    อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ชมภูทีปัญจะอิสสะโร
    กุสะลา ธัมมา
    นะโม พุทธายะ
    นะโม ธัมมายะ
    นะโม สังฆายะ
    ปัญจะ พุทธา นะมามิหัง
    อา ปา มะ จุ ปะ
    ที มะ สัง อัง ขุ
    สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ
    อุ ปะ สะ ชะ สุ เห ปา สา ยะ
    โส โส สะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ
    เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
    อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ
    อิ สวา สุ สุ สวา อิ
    กุสะลา ธัมมา
    จิตติวิอัตถิ

    ๑๓.
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง
    อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    สา โพธิ ปัญจะ อิสาะโร ธัมมา

    ๑๔.
    กุสะลา ธัมมา
    นันทะวิวังโก
    อิติ สัมมา สัมพุทโธ
    สุ คะ ลา โน ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    จาตุมะหาราชิกา อิสสะโร
    กุสะลา ธัมมา
    อิติ วิชชาจะระณะสัมปันโน
    อุ อุ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตาวะติงสา อิสสะโร
    กุสะลา ธัมมา
    นันทะ ปัญจะ สุคะโต โลกะวิทู
    มะหาเอโอ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ยามา อิสสะโร
    กุสะลา ธัมมา
    พรหมมาสัททะ
    ปัญจะ สัตตะ
    สัตตาปาระมี
    อะนุตตะโร
    ยะมะกะขะ
    ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

    ๑๕.
    ตุสิตา อิสสะโร
    กุสะลา ธัมมา
    ปุ ยะ ปะ กะ
    ปุริสะทัมมะสาระถิ
    ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

    ๑๖.
    นิมมานะระติ อิสสะโร
    กุสะลา ธัมมา
    เหตุโปวะ
    สัตถา เทวะมะนุสสานัง
    ตะถา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

    ๑๗.
    ปะระนิมมิตะ อิสสะโร
    กุสะลา ธัมมา
    สังขาระขันโธ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
    รูปะขันโธ พุทธะปะผะ
    ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

    ๑๘.
    พรหมมา อิสสะโร
    กุสะลา ธัมมา
    นัจจิปัจจะยา วินะปัญจะ ภะคะวะตา ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
    นะโม พุทธัสสะ
    นะโม ธัมมัสสะ
    นะโม สังฆัสสะ
    พุทธิลา โลกะลา กะระกะนา
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
    หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ ฯ

    ๑๙.
    นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ
    วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ
    อัตติ อัตติ มะยะสุ สุวัตถิ โหนตุ
    หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ

    ๒๐.
    อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง
    พรหมะสาวัง มะหาพรหมะสาวัง
    จักกะวัตติสาวัง มะหาจักกะวัตติสาวัง
    เทวาสาวัง มะหาเทวาสาวัง
    อิสิสาวัง มะหาอิสิสาวัง
    มุนีสาวัง มะหามุนีสาวัง
    สัปปุริสาวัง มะหาสัปปุริสาวัง
    พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง
    อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิทธิวิชชาธะรานังสาวัง สัพพะโลกา
    อิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ๒๑.
    สาวัง คุณัง วะชะพะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิกัมมัง นิพพานัง
    โมกขัง คุยหะกัง
    ถานัง สีลัง ปัญญานิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ตัปปัง สุขัง
    สิริรูปัง จะตุวีสะติเสนัง
    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
    หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ

    ๒๒.
    นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
    สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
    นะโม อิติปิโส ภะคะวา

    ๒๓.
    นะโม พุทธัสสะ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
    สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
    นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม

    ๒๔.
    นะโม ธัมมัสสะ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
    สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
    นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม

    ๒๕.
    นะโม ธัมมัสสะ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
    สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
    นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

    ๒๖.
    นะโม สังฆัสสะ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ
    สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
    นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ วาหะปะริตตัง

    ๒๗.
    นะโม พุทธายะ
    มะอะอุ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
    ยาวะ ตัสสะ หาโย
    นะโม อุอะมะ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
    อุ อะมะ อาวันทา
    นะโม พุทธายะ
    นะ อะ กะ ติ นิ สะ ระ นะ
    อา ระ ปะ ขุ ธัง มะ อะ อุ
    ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
     
  17. ratchaplee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +712
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ
    พระคาถาชินบัญชร สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

    ตั้งนะโม ๓ จบ
    ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภ ธะนัง
    อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา
    อิติปิโสภะคะวา ยะมะ ราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
    มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

    ๑. ชะยาสะนาคะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.

    ๒. ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา.

    ๓. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.

    ๔. หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะวามะเก.

    ๕. ทักขิเณสะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.

    ๖. เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว.

    ๗. กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเนนัจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร.

    ๘. ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ อุปาลี นันทะสีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเฏ ตีละกา มะมะ.

    ๙. เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอตาสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเต เชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.

    ๑๐. ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง.

    ๑๑. ขันทะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะสุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา.

    ๑๒. ชินาณา วะระสังยุตตา สัตตะปาการะลังกะตา
    วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัชณัตตุปัททะวา.

    ๑๓. อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.

    ๑๔. ชินะปัญชะระมัชณัมหิ วิหะรันตัง มะฮีตะเล
    สะทา ปาเลน ตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.

    ๑๕. อิจเจวะมันโต สุคุโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ ชิตูปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะปัญชะเรติ.
     
  18. อรหโตพุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +1,017
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ
    " พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า "

    อิติปิโสวิเสเสอิ
    อิเสเสพุทธะนาเมอิ
    อิเมนาพุทธะตังโสอิ
    อิโสตังพุทธะปิติอิ


    ว่า 3 จบ 9 จบ สำหรับอานิสงค์ของคาถานี้เป็น คาถาครอบจักรวาล เรานำไปใช้ในทางกุศลได้
    ทุก ๆ เรื่อง โดยมีประวัติ ของการใช้คาถานี้มายาวนาน ส่วนใหญ่ในราชสำนัก แม้ พระบาทสมเด็จ
    พระจุลจอมเกล้า รัชกาลที่ 5 ท่านก็ทรงพระคาถานี้เป็นประจำมีที่ปรากฏเป็นปาฏิหาริย์ ก็ครั้งที่
    ถูกทูตต่างประเทศนำม้าเทศตัวใหญ่แต่เป็นม้าพยศ มาท้าให้ท่านทรงพระองค์ท่านได้ใช้พระคาถานี้
    เสกหญ้าให้ม้ากินก่อนม้าตัวนั้นก็กลับเชื่องให้พระองค์ทรงม้า แต่โดยดีเรื่องนี้ทำให้รัชกาลที่ 6
     
  19. nga sai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +3,409
    ร่วมเล่นเกมส์

    คาถาบูชาพระอุปคุต
    อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธ นะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โสอิทา นิมะหาเถโร นะมัสสิตตะวา ปะติฏฐิโต

    อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะมะหาเถรัง ยัง ยัง อุปะทะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ


    คาถาบทนี้ สวดบูชาพระอุปคุตทุกวัน จะบัลดลให้บังเกิดโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองมากมาย และป้องกันภัยอันตรายทั้งปวงแก่ผู้บูชา
     
  20. ปฏิภาณ บดส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +132
    ร่วมเล่นเกมส์ครับ
    (ตั้งนะโม 3 จบ)
    (สวดพระคาถาบทนี้เป็นประจำ อธิษฐานจิต ขอเงินทองโชคลาภ พระสีวลีเป็นพระอรหันต์ผู้บันดาลโชคลาภ)
    สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา.
    สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขะเทวาภิปูโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา สีวะลีเถระคุณัง เอตัง โสตถิลาภัง ภะวันตุ เม.
     

แชร์หน้านี้