ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเทียมครู"มหายก"หวังผลสูง(ตอกหมุดอัคคีชำระปฐมกัปเงื่อนเวลาบรมสุข..) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ประสบการณ์เรื่องนี้เล่ายากดีแต่ผมจะเล่าสั้นๆเพราะไม่เหมาะสมในการเผยแพร่ เป็นประสบการณ์ของผู้ได้รับพระเจ้าสัวตัวบู๊องค์หลักไปและฝันเป็นเทพนิมิต ว่าครูบาอาจารย์มาบอกคาถาให้ภาวนา 3 คำ เพื่อแก้ไขปัญหาส่วนตัวของเขา

    จริงๆคาถาแบบนี้
    เป็นของส่วนตัวมากๆเชื่อมั๊ยว่าคนเล่าเค้าบอกผมหมดเลยและผมตั้งใจท่องจำด้วย แต่แค่คำสามคำผมกลับจำไม่ได้ท่องๆลืมๆทั้งวันจนตอนนี้จำไม่ได้แล้ว เข้าใจว่าคงเป็นแบบที่พ่ออาจารย์ท่านเคยพูดไว้ว่าเป็นของเฉพาะตัวคาถาบางอย่างก็ให้ตายไปกับตัวสืบทอดไม่ได้

    ก็เอาเป็นว่าลองบูชากันดูนะครับเผื่อจะได้เจออะไรดีๆกัน
     
  2. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ชุดทิ้งทวน(ตัวครูแผ่นชนวนอาถรรพ์เก้าเศรษฐี)

    ### สืบเนื่องจากมีผู้ขอบูชาตะกรุดชุดพิเศษที่สร้างจากแผ่นชนวนชุดที่พ่ออาจารย์ใช้ฝังเจ้าสัวบู๊ ท่านจึงให้นำมงคลปิดกรรมชุดทิ้งทวนมาเปิดให้บูชา...เพียงแค่กับคนที่มีวาสนาผ่านมาพบเจอถูกจังหวะเท่านั้น

    ด้วยเป็นมวลสารพิเศษอันมีฤทธิ์ในตัวแบบที่ไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มเลย เพราะมันเกินกว่าตะกรุดปกติไปไกลแล้ว ท่านว่าตัวแผ่นตะกรุดนั้นก็หลอมรีดมาจากโลหะอาถรรพ์สารพัด..แข็งจนแทบจะม้วนไม่ได้..เรียกว่าแทบจะไม่ใช่ตะกั่วไปแล้ว ท่านได้รวบรวมสังขวานร,ชิน,วัชรธาตุ,ตะกั่วอวนตีนแห,จ้าวสมุทร,อวนลากฉลาม,ลูกปืนใหญ่อยุธยา..มาหลอมรีดกับโลหะเครื่องกำเนิดเสียง(ฉิ่ง,ฉาบ,ฆ้อง,กระดิ่ง,กระพรวน)เครื่องโลหะเก่ากำเนิดเสียงในบ้านเศรษฐีโบราณทั้งหลายต้องรวบรวมให้ได้ถึง 9 คน เป็นเคล็ดว่าเป็นเครื่องกำเนิดชื่อเสียงให้ดังก้องระบือไปไกล คนเราหากจะเอาแค่รวยนอกจากจะเป็นเศรษฐีรวยแบบเล็กๆเท่านั้นแล้วคนที่จะประสบความสำเร็จได้กว้างไกลต้องประกอบด้วยชื่อเสียงที่ดังก้องยิ่งชื่อเสียงขจรขจายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งร่ำรวยยิ่งใหญ่มากขั้นเท่านั้น

    แผ่นตะกรุด
    ชุดนี้จึงต้องใช้เครื่องกำเนิดเสียงในบ้านเศรษฐีมาผสมทำเป็นชนวนเวลาเอาไปพกติดตัวจะทำให้มีชื่อเสียงมีเงินทองเมตตาโชคลาภครบทุกทาง นำมาเป่าลงมนต์สะกดอาถรรพ์,สะกดจิตใจมนุษย์ทั้งผอง,สะกดสรรพสิ่งจึงใช้สะกดความจนที่เกิดจากคน..สะกดเรื่องร้ายที่คนนำพา..สะกดทรัพย์คนอื่นให้เพิ่มเข้ามาสู่เราเช่นนี้..ทั้งสะกดเรื่องร้ายทั้งหลายไม่ให้งอกเงยไปมากกว่าเดิม เปลี่ยนชะตาเก้าเศรษฐีอุปมาดั่งวาสนาชื่อเสียงเศรษฐีเก้าคน(เก้ามังกร)ให้มาเป็นฐานหนุนดวงค้ำชูตัวเรา
    - อุปมาดั่งพลิกชะตาให้ตัวเรากลับกลายเป็นรวยเท่าทรัพย์ของเศรษฐีทั้ง 9 รวมอยู่กับเรา
    - ให้มีชื่อเสียงดั่งชื่อเสียงเศรษฐีทั้ง 9 รวมอยู่ที่ตัวเรา
    - ให้มีวาสนาเราเหมือนวาสนาเศรษฐีทั้ง 9 เป็นวาสนาเรา

    เรื่องเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นการทำอาถรรพ์เปลี่ยนชีวิตแก้ชะตาคนนะฉันทำได้ไม่บ่อย

    เพราะ
    ต้องใช้และเปลี่ยนกลับทั้งพลิกชะตาและค้ำคูณไปในตัวจะช่วยให้เธอเป็นเจ้าคนนายคนเป็นเศรษฐีมีเงินสารพัดจะดี เอาไว้อธิษฐานไม่ให้ชีวิตตนตกต่ำจะได้ดีรุ่งเรืองมีอาถรรพ์ดั่งสะกดวาสนาทุกอย่างที่เศรษฐีเขามี..ให้เรามีได้เสมือนเขา..เราขาดอะไร..เขามีอะไร..ชีวิตแบบเศรษฐีมันเป็นอย่างไร..นี่คือโอกาสให้เราได้พัฒนาตัวเองไปถึงจุดที่เราไม่มีทางทำได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้ทำยากนะมีอาถรรพ์มากมีแต่ทรัพย์เข้าไม่มีทรัพย์ออกทั้งสะกดใจคนได้ด้วย องค์ปฐมท่านตั้งใจให้แสวงหามวลสารต่างๆมาหลอมรีดลงอาถรรพ์ก่อนจะทำตะกรุดเสกถึงบอกไงว่าเป็นตะกรุดโทน ### โทนก็คือมีดอกเดียวแล้วจบเรื่องเลย พึ่งได้ ไม่ต้องการของเสริมอะไรอีก (ท่านว่าฝังตะกรุดดอกนี้เหมือนลงของวิเศษไปห้าหกอย่างมันจบในตัวของมันเองจริง รวยแบบจุกๆเข้าไม่มีออก)

    ตัวครูมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์
    ที่ผ่านมาถือได้ว่าน้อยนักหากพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างเครื่องมงคลอันมีอิทธิคุณเกี่ยงโยงกับเรื่องของกรรมโดยตรง ด้วยสัตว์ทั้งหลายนั้นล้วนแต่ถูกผูกอยู่ในกฏแห่งกรรม มีเกณฑ์ชะตาที่จะเกิดสุขทุกข์ระคนกันไป ซึ่งเกณฑ์ชะตาเหล่านี้สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยความประพฤติและการกระทำ หากแต่กฏแห่งกรรมนั้นแก้ไขไม่ได้ เพราะสัตว์ทุกรูปนามนั้นปรารถนาความสุข ซึ่งสุขนั้นก็มีทั้งสุขที่ฉาบฉวย ปราณีต ไปจนถึงบรมสุข ไม่ว่าจะสัตว์ชนิดใดหรือมหาสัตว์โพธิสัตว์ก็ตามทุกคนล้วนบำเพ็ญบารมีทนรับความลำบากอย่างยิ่งเพื่อไปให้ถึงความสุขนั้นนั่นคือพระนิพพาน

    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้น โดยท่านได้ทำตามวิชาเฉพาะซึ่งสมเด็จองค์ปฐมได้ประทานให้แก่ท่านไว้ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาที่พิเศษมาก เนื่องจากเกี่ยวเนื่องด้วยธาตุนิพพานอันต่างจากเครื่องมงคลใดๆที่จะพึงมีหรือปรากฏมี ซ้ำวิชาที่ใช้ลงนั้นก็เป็นของสูงเป็นวิชาชั้นสูงยิ่งกว่าตำรับใดๆ ท่านว่าไม่ว่าวิชาในมนุษย์โลกหรือเทวะโลกตลอดจนพรหมโลกก็ดีนั้นล้วนเทียบกันไม่ได้ เพราะวิชานี้มีเฉพาะเหล่าพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้แม้พระอริยสาวกผู้เป็นอรหันต์ขีณาสพก็ไม่สามารถรู้ได้ จะมีที่รู้ก็คือเหล่าพระพุทธเจ้านอกจากนั้นก็คือผู้ที่รับวิชาจากองค์ปฐมท่านโดยตรง

    สำหรับพ่ออาจารย์นั้นท่านพิจารณาเห็นแล้วว่า กระแสแห่งพระนิพพานนั้นนอกจากเหล่าพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์แล้วยากที่บุคคลทั้งหลายจะเข้าถึง ท่านจึงได้สร้างตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นมาครั้งหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดนี้แค่ได้ทำก็ถือเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งแล้วเนื่องจากตะกรุดนี้มีอานุภาพต่อต้านกรรมหนักโดยตรง ท่านว่าเหนือกว่าวิชาหนุนดวงหรือวิชาที่เสกโดยคุณแห่งวิปัสนาญาณทั้งหลาย ทั้งกับอักขระเลขยันต์นั้นซับซ้อนต้องลงสองส่วนแยกกันเสกทีละครั้งท่านจึงตั้งใจจะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้ประกอบวิชาลงอักขระเดินธาตุนิพพานโดยขอความอนุเคราะห์และสงเคราะห์จากองค์ปฐมโดยตรง ได้จารมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นมาโดยใช้แผ่นโลหะชนวนชั้นครูคือ
    - มงคลปิดกรรม ท่านว่าวิชานี้เป็นของสำคัญนักแม้ตกในพรหมโลกหรือเทวโลกก็ดีทั้งพรหมและเทพยดาทั้งหลายย่อมให้ความเคารพนบนอบดุจเข้าเฝ้าเบื้องหน้าสมเด็จพระชินสีห์เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าธาตุนิพพานในวิชามงคลปิดกรรมนี้มีผลเกี่ยวเนื่องกับบรมสุขโดยเฉพาะ เมื่อธาตุนิพพานอยู่กับผู้ใดก็ย่อมถือได้ว่าผู้นั้นถึงซึ่งบรมสุขอย่างแท้จริง..เมื่อนั้นความทุกข์ทั้งหลายย่อมจะไม่มากล้ำกรายได้ ..แม้แต่กรรมเวรหรือภัยจากอมนุษย์ทั้งหลายก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วแม้เหล่าสมเด็จพระบรมศาสดาเมื่อทรงตรัสรู้นั้นตลอดไปจนสิ้นอายุขัยและพระชนม์ชีพท่านก็ยังรับผลของกฏแห่งกรรมอยู่ จวบจนท่านเข้านิพพานจึงจะพ้นกฏของสิ่งสมมติทั้งหลาย ดังนั้นมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ
    ท่านว่าจะเกิดขึ้นในวาระสำคัญเท่านั้นแม้พระศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองหรือตกต่ำเพียงใด หากองค์ปฐมท่านไม่เปิดให้แก่ผู้ใดแล้ว วิชานี้ย่อมไม่เกิดขึ้นเลย เพราะมีผลใหญ่หลวงให้ล่วงกรรมได้โดยตรงท่านว่าแม้มีทุกข์เข็ญใดเป็นปัจจัยให้เผชิญอยู่ก็ดีให้ระลึกถึงองค์ปฐมเป็นที่สุดกาลแห่งทุกข์นั้นย่อมคลี่คลายและล่วงผ่านไปได้เสมอดุจว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลย แม้ทุกข์นั้นจะมีผลสืบมาจากกฏแห่งกรรมก็ตามท่านว่าตรงนี้ศรัทธามีส่วนมากยิ่งศรัทธามากก็ยิ่งได้ผลมาก พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาแล้วว่าเหตุในปัจจุบันนั้นคนลืมสุขตกทุกข์นั้นมีมาก ด้วยว่าวาระเวรกรรมนั้นหนุนสัตว์ให้โลกปั่นป่วนวุ่นวายผู้มีอำนาจล้วนทุศีลขาดความสุจริตยุติธรรม ส่งผลตามมาถึงคนกลุ่มใหญ่ในทุกๆประเทศล้วนเดือดร้อนตามกันไปทั้งหมด ท่านจึงเสี่ยงสัตย์เพื่อสร้างมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นให้ผู้ที่มีบุญในศาสนาพระสมณะโคดมและมีบุญสัมพันธ์กับองค์ปฐมได้นำไปบูชา

    - พุทธพรหมกายสิทธิ์ ในส่วนนี้ท่านนำมาลงจารด้วยวิชาพุทธพรหมกายสิทธิ์ผสานกับมงคลปิดกรรม ท่านว่าวิชานี้ดีทางเสริมบารมี คนเราเมื่อปิดกรรมแล้วก็ต้องเร่งสร้างบารมีหนุนชีวิตตัวเอง วิชานี้เป็นวิชาที่หนุนบารมีให้กุศลกรรมส่งผลท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ นอกจากเสริมบารมีแล้วยังเกี่ยวกับการสร้างฤทธิ์ เป็นวิชาที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ
    ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วจะหาวิชาใดที่จะเสริมส่งให้ผู้ครอบครองนั้นล่วงอิทธิฤทธิ์วิเศษได้ย่อมไม่มีอยู่เลย
    ท่านว่าฤทธิ์วิเศษนี้คือฤทธิ์ทางใจไม่ใช่จะไปดำดินเหินฟ้าที่ไหน ท่านพิจารณาแล้วว่าเป็นของมงคลชั้นเลิศ ท่านว่าติดตัวเอาไว้เดี๋ยวก็รู้เองมันจะพอกพูนและเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณติดตัวไปถึงภพหน้าไม่ตายตามกายสังขาร คนที่ไม่เคยมีสัมผัสพิเศษ,ไม่เคยมีลางสังหรณ์,ไม่เคยมีฤทธิ์ทางใจทั้งหลายท่านว่าเดี๋ยวก็จะมีจะค่อยๆมีค่อยๆเกิดขึ้น..ค่อยๆเป็น..ค่อยๆไปและมากขึ้น..แม่นยำขึ้น..พอกพูนไปเรื่อยๆ ท่านว่านี่มันวิเศษถึงปานนั้น หากคนไหนใช้เป็นนำมาประกอบการทำสมาธิเข้าฌานหรือฝึกพลังทางจิตท่านว่ายิ่งกว่าเสือติดปีก จะไปชมป่าหิมพานต์,จะไปพิภพนาคาหรือจะไปคุยกับเทวดาหรือพรหมทั้งหลายก็ย่อมทำได้ทั้งสิ้น ท่านว่ามันจะสั่งสมพอกพูนขึ้นเองเวลาเราสร้างบารมีหรือนำมาใช้เวลานั่งสมาธิวิปัสนา แม้พกไว้ปกติก็ยังเป็นมหาอำนาจทำให้คนเคารพหวั่นเกรงมาจากจิตใจของเค้า


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำตะกรุดมาอุดมวลสารอิทธิมงคลอันมีพรรณคุณวิเศษอีกคำรบหนึ่งก่อนจะทำการปิดผนึกไว้ ท่านว่าของที่อุดไว้ข้างในนั้นแม้ไม่เสกก็ยิ่งกว่าขลังประกอบด้วย
    - สีผึ้งหลวงปู่ภู วัดอินทร์ ท่านว่าสีผึ้งนี้เป็นของโบราณสืบทอดมา อย่างที่ทราบกันว่าหลวงปู่ภูท่านเป็นพระทองคำเป็นศิษย์ในเจ้าพระคุณสมเด็จโต
    แต่น้อยคนนั้กจะรู้ว่าท่านมีวาจาสิทธิ์พูดอะไรก็เป็นไปตามปาก สำหรับสีผึ้งนี้เป็นของใช้แต่เดิมของท่านพ่ออาจารย์ว่าไม่รู้ท่านได้มาแต่ไหนหรือท่านทำขึ้นเอง แต่เอาแน่ว่าเป็นของที่ท่านใช้มันแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นของดีที่สุดไม่มีอะไรดีกว่านี้ ท่านว่าคนจะเล่นทางมหานิยมหรือมหาเสน่ห์ควรมีไว้ท่านว่าไม่ต้องดูไกลดูแค่องค์หลวงปู่ภูท่านมีคนรักคนเคารพกันทั่วเมือง มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล พ่ออาจารย์ว่าสีผึ้งนี้แต่ก่อนมีทั้งอาจารย์ทั้งคนมาขอบูชาท่านเขาว่าแค่เม็ดกลมๆเท่าปลายเข็มหมุดให้ก่อนละหมื่น ถึงกระนั้นท่านก็ยังเงียบท่านยังไม่เคยนำออกมาให้ใครทั้งสิ้นท่านว่าเอาไว้รอเวลาองค์ปฐมจะใช้งานแล้วจะนำออกมาทำของโดยครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้ปั้นและอุดไว้ปลายตะกรุดก่อนจะลงผนึกทุกดอก

    - ผงโพธิ์นิพพาน
    ท่านว่าผงนี้ท่านปรุงขึ้นจากไม้ที่มีพรรณคุณวิเศษหลายชนิด
    แต่เพื่อให้ตรงตามชื่อตะกรุดจึงเรียกว่าผงโพธิ์นิพพาน โดยท่านได้นำผงไม้โพธิ์นิพพานมาผสมกับผงไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง..ผงไม้กาตอมซาก..ผงไม้ตะเคียนหลักเมืองนคร..ผงไม้เสาตะลุงช้างโบราณ..ผงไม้เสาชิงช้าโบราณ ท่านว่าไม้แต่ละอย่างนั้นล้วนมีอิทธิคุณแฝดมีสิริมงคลและพุทธคุณอย่างสูงต่างกันไป ท่านว่าบางอย่างเป็นของโบราณอย่างไม้เสาตะลุงต้นนี้อายุกว่าสี่ร้อยปีนานกว่าอายุกรุงเทพเสียอีก ส่วนใหญ่เป็นของโบราณที่มีอำนาจลึกลับรักษาหวงแหนทั้งนั้น ท่านพลีมาและก็เชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นมาช่วยหนุนช่วยเสริมผู้บูชาโดยเฉพาะโดยนำผงไม้เหล่านี้อุดไว้ที่ปลายอีกข้างหนึ่ง


    พ่ออาจารย์ท่านสร้างมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ขึ้นท่านได้ทำไว้ทั้งหมดเก้าดอก ท่านว่าไม่ต้องพูดกันมากเพียงผงไม้ต่างๆที่นำมาอุดนั้นแต่ละอย่างถ้านำมาบอกกล่าวกันจริงๆแล้วก็เป็นทั้งหนุนดวงอย่างที่สุด..เป็นของสูงที่สุด เป็นเสน่ห์อย่างที่สุดและเป็นมงคลอย่างที่สุดทั้งสิ้น เมื่อได้ตะกรุดแล้วท่านว่าเสกนั้นยากกว่า การจะเสกให้ได้ตามที่องค์ปฐมท่านมีบัญชาไว้ไม่ใช่ง่าย นอกจากเสกบนพื้นดินแล้วท่านยังให้เสกบนฟ้ากับใต้ดินอีกด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าเป็นอุบายธรรม หลังจากเชิญองค์ปฐมมาบรรจุวิชาแล้วท่านจึงดำเนินการณ์เสกให้ครบทั้งสามภพภูมิดังกล่าว โดยเสกบนฟ้าท่านก็นำตะกรุดนั้นขึ้นไปเสกบนยอดเขายอดภูเชิญเทพพรหมทั้งหลายมาเป็นสักขีพยาน เสกใต้ดินท่านก็ปิดถ้ำทำเชิญพญานาคคนธรรพ์วิทยาธรมาเป็นสักขีพยาน ท่านว่าให้คิดกลับไปใหม่ท่านว่าคงทำไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สองเพราะใช้เวลานานมาก เสกแต่ละครั้งอย่างต่ำสามวันสามคืนต่อไปคงทำไม่ได้อีก เพราะเทพพรหมและนาคราชทั้งหลายต้องลงมาช่วยหนุนช่วยกันทำอย่างต่อเนื่อง ท่านว่าทุกการกระทำไม่มีเสียเปล่าตะกรุดนี้มีฤทธิ์พิเศษอย่างแท้จริง

    คาถาบูชา

    นะมะพุทธัง นะพุทธะสังสะตะอุอิ ปาสุอุชาวิระสติ พุทธิจะติสิวังพุทธัง อิมังคะมังทิตวิสัง อรหังโลกะวิทู ยะวะโลกะวิทู สัพพะอะระหา พุทธะสังมิ พุทธะสังอิ อิสวาสุ สะระณะมะ ทุสะนิมะ ผะเวสัจเจเอหิ อะนิโสสะ เอตังสะตึง เยตะมังคะลัง

    *** ตะกรุดมงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะทาง ใครที่มีกรรมหนัก ยังไม่ลืมตาอ้าปาก อยากสำเร็จ อยากมั่นคงท่านว่าค่อยมานำไปบูชา รายการนี้คนที่สบายแล้ว..รวยแล้ว..ท่านว่าไม่ต้องใช้เพราะของมีน้อยเพียงเก้าดอกจะได้บูชากันอย่างทั่วถึงแม้ตัวท่านเองยังต้องเก็บไว้คู่สำนักสองดอกจึงเหลือสำหรับจอง 7 ดอกเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการบูชาก็รับจองเฉพาะ PM ให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมประสิทธิ์ตะกรุดอีกคำรบหนึ่ง

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลปิดกรรมนิพพานพระชินสีห์ชุดทิ้งทวน(ตัวครูแผ่นชนวนอาถรรพ์เก้าเศรษฐี) บูชา 4,000 บาท

     
  3. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    พ่ออาจารย์ท่านว่า..มงคลปิดกรรมชุดนี้คือกรรมหนักแบบปิดทิ้งปิดตาย ไม่ใช่ต้านต่อชะลอลดหากแต่เป็นเครื่องมงคลสำหรับคนที่ต้องการปิดกรรมหนักให้นิ่งสนิท โดยชุดทิ้งทวนนี้ท่านว่าเป็นการทำครั้งสุดท้าย..และเป็นโอกาสสุดท้ายของคนที่เห็นปัญหาในตัวเอง หลังจากนี้ไปต่อให้จะเอาค่าบวงสรวงค่าทำมาดอกละเป็นแสนท่านก็จะไม่ทำให้ใครอีก ท่านว่าองค์ปฐมท่านให้เท่านี้ ..แต่นี้ต่อไปมงคลปิดกรรมไม่มีอีกแล้ว
     
  4. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มงคลปิดกรรมมาแรงมากๆ พ่ออาจารย์ท่นว่าใช้งานตรงตามชื่อเลย..ไม่ใช่ละทอนบรรเทาแต่เป็นปิดตาย แต่แน่นอนว่าของแบบนี้นอกจากสร้างยากมากแล้วยังมีเจ้าของได้ยากพอๆกันเพราะเจ้ากรรมนายเวรเขาจะคอยปิดหูปิดตาหนักสุดเลยคือปิดใจ ใครเห็นก็จะนึกประมาทว่าไม่มีประโยชน์อะไรมากกับฉัน ท่านว่าก็กรรมนี่แหละที่มันทำให้เกิดเรื่องสารพัดในชีวิตคนได้ แต่บางคนบุญเขาไม่พอแม้แต่รูจะเห็นหนทางรอดก็ยังไม่มีเช่นนี้จึงมองผ่านไปได้ง่ายๆ เพราะเป็นคนที่มงคลปิดกรรมก็ไม่สะกิดใจ(คือไม่เอาด้วยเหมือนกัน) นี่แหละที่ว่าพระเลือกคน
     
  5. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ช่วงนี้ติดตามกันดีๆนะครับ กับเครื่องรางที่พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าจำเป็นต้องมีคาดเอวกันทุกคน ชุดนี้ท่านลงแก้วเสด็จของสำคัญแบบเป็นดวงๆไว้ด้วย
     
  6. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นพิฆาตเหยื่อช่วงชิงสะกดฝันอสูรเทพกวางทองซ้อนกล(แก้วสถิตย์จิตวีรภัทรมหามุนี)

    แต่โบราณเล่าขานพญามารีศแปลงกวางทองหลอกสะกดได้แม้แต่นางสีด(พระลักษมีอวตารผู้มีรูปงามเหนือเทวีทั้งหลายยังหลงใหลในความงาม สิ้นสติไร้ปรีชาโดนเล่ห์ลวงไปเสียดื้อๆ) ล่อซ้อนกลหลอกพระนารายณ์ไปติดกับดัก(ล่อพระรามออกไปนอกอาศรมเป็นเหตุให้เสียนางสีดา หลอกพระรามได้เสมือนด้วยชนะโดยปัญญาแล้ว)
    - พ่ออาจารย์ท่านว่าพญามารีศต้องแปลงเป็นกวางทองงามขนาดไหนจึงทำให้พระลักษมีอยากได้แล้วต้องเอาให้ได้..อันนี้อุปมาว่างามที่สุด เป็นความงามอันล่อลวงได้แม้แต่เทวีผู้ได้รับการยกย่องในความงาม
    - พญามารีศต้องซ่อนกลทำเล่ห์อย่างใด แม้พระนารายณ์(ราม)ผู้เก่งกาจมากปรีชาล้ำเลิศฟ้ามีทรรศนะของพระเป็นเจ้ายังคลายสติหลงกลเดินตามไปตกอยู่ในกลลวงศัตรูจนสูญเสียคนรักเกิดเภทภัยมหาสงครามใหญ่หลวง

    เรียกว่าเป้าหมายของพญามารีศนั้นไม่พลาดเป้าเลยและกระทำสำเร็จอย่างงดงามด้วย เช่นนี้เครื่องรางอสูรเทพกวางทองจึงเป็นกลลวงแห่งความสำเร็จอย่างงดงามตรงตามใจหมาย..ตรงตามเป้าประสงค์
    - ไม่ใช่ความสำเร็จแบบทุลักทุเล
    - ไม่ใช่ความสำเร็จแบบกล้ำกลืนฝืนเอา
    - ไม่ใช่ความสำเร็จแบบทุ่มทุกอย่างในชีวิต

    หากแต่เป็นความสำเร็จแบบง่ายดาย
    ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการณ์ตรงกับแนวทางที่เราตั้งใจวางเอาไว้อันไม่มีในเครื่องรางใดพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้แต่พระคเณศที่ท่านเคยทำก็ไม่มีอาถรรพ์คลี่คลายกำลังฟ้ากำลังพระเป็นเจ้าที่สะกดทับชะตาคนได้เช่นนี้ นี่คืออิทธิคุณแท้จริงของเครื่องรางเอกชิ้นนี้ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญเป็นอย่างมากเพราะความสำเร็จนั้นมีหลายรูปแบบบางคนก็เอาได้ง่ายดายแต่บางคนกว่าจะได้มาก็แทบล้มตายและแม้กระทั่งบางคนทำให้ตายก็ไม่ได้เลย เธอต้องเข้าใจก่อนว่าเครื่องรางเอกแบบนี้ไม่ใช่แค่ช่วยในความสำเร็จระดับปกติ *** แต่เป็นอิทธิคุณที่โกงได้แม้แต่พระเป็นเจ้าให้มีชัยเหนือพระเป็นเจ้าเช่นนี้จึงเป็นเครื่องรางที่เปิดช่องให้ชนะชะตากรรม..ชนะกำลังฟ้า..ชนะพลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงที่บงการกดทับชีวิตเราอยู่

    โดยการทำหุ่นวิชากวางนอกจากจะใช้ดลความสำเร็จในระดับอภิมหาจุดสุดยอดอันสำคัญที่สุดของชีวิตเช่นมารีศแปลงกวางทองนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่มีมารีศเกียรติยศแห่งพระรามมหาสงครามเหล่าทวยเทพครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย เรียกว่ามารีศแปลงกวางคือจุดเริ่มต้นแห่งเกียรติยศก็ได้ท่านรู้ดีถึงเล่ห์สนกลในทั้งปวงเหล่านี้ว่าถ้าจะเอามาซึ่งเกียรติยศให้ประดับชีวิต..ให้เกริกเกียรติคุณไปชั่วลูกชั่วหลาน..ให้ประกาศเกียรติก้องแก่วงศ์สกุลจนทุกผู้คนต้องจดจำเรา ### และที่สำคัญที่สุดก็คือให้ประสบความสำเร็จตั้งแต่แรกเริ่มต้องเริ่มต้นการงานและเริ่มใช้เครื่องมงคลคืออสูรเทพกวางทอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    วิชานี้อาถรรพ์มากนะเป็นเมตตาอย่างเอกเลยถึงขนาดเดินไปที่ไหนหากมีคนใด(จะบุรุษหรือสตรีไม่ใช่ในแง่ชู้สาว)เดินทับรอยเท้าก็ดี..จะเหยียบเงาเราก็ดี..รึมองเห็นแค่เพียงเงาหลังเราไวๆก็ดีคนเหล่านั้นล้วนเมตตาอยากเข้าหาเราทั้งหมด จะเหลียวแลเกิดความสนใจใคร่รู้ใคร่ใส่ใจเอาอกเอาใจดูแลทนุถนอมอย่างน่าประหลาดใจ เป็นกำลังมหานิยมในระดับที่ว่า "แม้พระนารายณ์ยังหลงกลเดินไปตายพ่ายแพ้หมดรูป แม้พระลักษมียังต้องมนต์" ด้วยความอ่อนโยนนุ่มนวลชวนมองย่อมสะกดได้แม้แต่ผู้มากปรีชายิ่งใหญ่ในบุญฤทธิ์และบารมีให้หลงกลเดินตามความต้องการของเราไปแบบง่ายๆ ต่างจากเครื่องรางปกติที่ใช้กับผู้มีบุญมากๆไม่ได้ แต่เครื่องรางเอกชิ้นนี้ตรงกันข้ามทุกสิ่งเพราะจุดประสงค์ตั้งใจเอาไว้พิฆาตผู้มีบุญมากบารมีที่ปกติเราทำอะไรไม่ได้โดยเฉพาะ

    ทั้งยังเป็นเคล็ดให้คนเข้าหาหรือนำสิ่งที่สูญเสียไปจากชีวิตแล้วเช่นโอกาส,ความมั่งคั่ง,ความร่ำรวย,ความสำเร็จ,มิตรภาพสิ่งใดที่ยังมีหวังอยู่จะหวนคืนกลับมาสู่เราได้เช่นสีดาคืนสู่พระราม..เห็นมั๊ยเครื่องรางเอกชิ้นนี้มันได้สองต่อเลย
    - หนึ่งคือความสำเร็จตั้งแต่เริ่มคิดจะทำ
    - สองคือความสำเร็จปลายทางที่เราเคยผิดพลาดไป

    วิชานี้ทำยากและแรงกว่าเครื่องมงคลป้องกันตัวหรือดลความสำเร็จธรรมดาๆทั่วไปหลายเท่า พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อทำเป็นเครื่องรางออกมาแล้วจะใช้พกตรงไหนก็ได้จะใช้คาดเอวใส่กระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าถือก็ย่อมได้ไม่มีข้อห้ามไม่มีวันเสื่อมฤทธิ์..ขอแค่อย่าทำหายให้รักษาไว้ช่วงชิงทุกสิ่งที่ชีวิตต้องการ..ช่วงชิงทุกสิ่งที่ทำได้เพียงฝันถึงว่าเราต้องมีต้องเป็นแบบนี้..ให้กวางทองช่วงชิงความฝันมาเป็นความจริงเสีย(ดั่งทศกัณฐ์ที่ทำเรื่องยากแม้แต่ฝันถึงก็ยังทำไม่ได้ หากแต่ทำสำเร็จได้เพราะใช้กวางทองนั่นคือลักนางสีดาออกจากมือพระนารายณ์) พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่ายึดติดรูปลักษณ์คิดว่าเป็นเครื่องรางอะไรก็ไม่รู้ แต่อะไรก็ไม่รู้แบบนี้นี่แหละที่ล่อลวงได้แม้แต่พระเป็นเจ้าเป็นอาถรรพ์สะกดข่มและมีชัยเหนือฟ้าดินชนิดเทพไม่ยุ่งมารไม่สอดมือจะเปิดช่องให้โอกาสความสำเร็จโดยง่ายดาย

    เครื่องรางเอกชิ้นนี้หากเราผจญด้วยศัตรูหมู่มารมันก็สับสนทำอะไรไม่ถูกเดินตามเราคล้อยตามมาแบบเชื่องๆเลยนี่คือชัยชนะแบบง่ายๆโดยไม่ต้องรบรึเปลืองแรงให้เกิดความสูญเสียใดๆ ทั้งยังเป็นเคล็ดว่ากวางทองนี้คือเหยื่อล่อที่ดีที่สุดจะล่อเหยื่อล่อเป้าหมายล่อความฝันความสำเร็จทุกอย่างเข้ามาติดกับ..จะล่อทุกความฝันของชีวิตเราให้ลงล๊อคอย่างง่ายดายไม่พลาดเป้า
    ### แต่ข้อเสียใหญ่ของเครื่องรางนี้ก็คือมารีศ เพราะมารีศนั้นตายง่ายเกินไป พ่ออาจารย์ท่านว่าหากทำมารีศแปลงกวางทองนั้นต้องทำลายอาถรรพ์ตรงนี้เสียก่อน อย่ากระนั้นเลยเราจำจะใช้จิตเทพอสูรมหาวีรภัทรผู้เป็นบรมครูใหญ่เข้าสถิตย์แทนจิตเทพอสูรอันมีกำลังอ่อนด้อยทั้งหลาย...ท่านว่าหากเปลี่ยนจากมารีศแปลงกวางเป็นมหาวีรภัทรแปลงกวางมันคนละเรื่องเลยนะไม่ใช่แต่จะเกริกเกียรติหากแต่ยังมากด้วยกำลังฤทธิ์ทำสิ่งใดไม่เคยพลาดเป้าพ่ออาจารย์ท่านจึงใช้ดวงจิตพระวีรภัทรสร้างกวางแปลง ..ซึ่งพระวีรภัทรเป็นครูเทพอสูร..

    แก้วสถิตย์จิตวีรภัทรมหามุนี
    เป็นดวงธาตุกายสิทธิ์ที่พ่ออาจารย์ท่านไปตั้งพิธีรับถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ในอินเดียเพราะท่านเสด็จมาชุดหนึ่งและพ่ออาจารย์ท่านก็ตั้งใจบูชาเสมอมาดุจบูชาดูแลครูบาอาจารย์ ถื
    อเป็นกายสิทธิ์ขั้นสุดชิ้นเอกในฝ่ายเทพอสูรอันมีศิวะมายาและกำลังอำนาจไม่สิ้นสุด ทำไมต้องเป็นครูอสูรก็เพราะว่าความดุร้ายและเกรี้ยวกราดตลอดจนเทวานุภาพนั้นจะประสิทธิ์เต็มกำลังสามารถสงเคราะห์คนตามประสงค์ประการต่างๆและยังเหมาะสมแก่กลียุค ที่พ่ออาจารย์ท่านนำแก้วจิตพระวีรภัทรมาเป็นแกนหลักเป็นกำลังแก่อสูรเทพกวางทองนี้ก็เพื่อจุดประสงค์จะได้ใช้กำลังพระวีรภัทรคลี่คลายเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆได้อีกต่อหนึ่ง..ท่านว่าจะได้รับความสุขในยุควิกฤติและในยามคับขันย่อมไม่ขัดข้องแบบชนทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านเปรยว่าเทพอสูรวีรภัทรเป็นพระภาคใหญ่ของศิวะมหาเทพที่ถือได้ว่าเป็นปางที่มีฤทธานุภาพแรงกล้าและดุร้าย มหาวีรภัทรนั้นเป็นการที่มหาเทพได้ใช้ศิวะมายาหรืออำนาจของพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดแห่งจักรวาลสร้างมหารูปแห่งการทำลายล้างขึ้นมาเป็นอสูรเทพนามว่าวีรภัทร

    ซึ่งการปรากฏรูปของมหาเทพศิวะในปางมหาวีรภัทรก็เพื่อใช้อำนาจเเห่งการทำลายล้างทำการประหารเหล่าเทพยดาโดยแท้ ในปางนั้นท้าวทักษะประชาบดีได้กระทำการหลู่เกียรติของพระเป็นเจ้าพระศิวะเจ้าพิโรธอย่างถึงที่สุดจึงได้ให้กำเนิดพระมหาวีรภัทรขึ้นพร้อมกับมีบัญชาให้ดำเนินการทำลายพิธีของท้าวทักษะ ในการณ์นั้นเหล่าเทพยดามากมายไม่ว่าจะอินทร์พรหมยมยักษ์หรือวรุณ เทพยดาทั้งหมดได้เข้าช่วยเหลือปกป้องท้าวทักษะประชาบดีซึ่งได้เชิญตนเองมาเป็นสักขีพยานในพิธีที่ท้าวทักษะจัดขึ้น มหาวีรภัทรเมื่อกำเนดขึ้นแล้วก็เร่งรีบไปจนถึงเมืองแห่งทักษะประชาบดีและทำลายเมืองนั้นจนพินาศย่อยยับจนเข้ามาถึงภายในโรงพิธี ซึ่งเหล่าทวยเทพทั้งหลายได้เข้าปกป้องพระทักษะก็ไม่สามารถสู้กำลังเเห่งมหาวีรภัทรได้เทพเจ้าองค์สำคัญทั้งหลายต่างได้รับบาดเจ็บและพิการไปตามๆกัน แม้กระทั่งพระผู้ทรงธำรงค์รักษาจักรวาลอย่างพระวิษณุนารายณ์ซึ่งท้าวทักษะเคารพนับถือและได้เชิญพระเป็นเจ้าของตนให้ปกป้องชีวิตของเขายังได้เข้าทำการยุทธ์กับเทพอสูรมหาวีรภัทรก็ไม่สามารถเอาชัยชนะได้จนต้องอันตรธานหายไปจากมณฑลพิธี เมื่อไม่มีใครปกป้องแล้วพระวีรภัทรจึงตัดศรีษะท้าวทักษะประชาบดีโยนลงในกองไฟที่ทำพิธีเป็นการประกาศชัยชนะของพระศิวะให้กึกก้อง

    ด้วยแก้วสถิตย์จิตวีรภัทรมหามุนีมีอานุภาพร้ายแรงดุดันและร้ายกาจมากที่สุดอันจะพึงมีบังเกิดขึ้นทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตกาล ### เหนือสิ่งอื่นใดคือพระวีรภัทรนั้นเป็นเทพอสูรที่พระนารายณ์สู้ด้วยยังต้องหนี ไม่ใช่เทพอสูรแบบพญามารีศที่โดนพระนารายณ์สังหารเมื่อเชิญมาเป็นแก่นพลังเป็นดวงจิตกวางแปลงเทพอสูรจึงมีฤทธิ์ล้ำปิดประตูพินาศพ่ายแพ้ไปทั้งหมด อย่าลืมว่าวีรกรรมมหาวีรภัทรคือประหารท้าวทักษะซึ่งเป็นมานสาบุตรแห่งพระบรมบิดาพรหมเทพ อำนาจแห่งทักษะประชาบดีนั้นไม่เพียงเป็นที่เคารพนับถือในหมู่ทวยเทพทั้งหลายแต่ทักษะยังขยายอำนาจพอๆกับที่จะพูดได้ว่ากลืนโลกไว้เป็นของตนเองทั้งใบเลยก็ว่าได้ เช่นนี้การจะประหารพระทักษะย่อมไม่ใช่เรื่องที่ใครก็สามารถทำได้ เพราะเหนือหัวพระทักษะนั้นมีพระบรมบิดาพรหมเทพเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดมีพระวิษณุนารายณ์ให้การคุ้มครอง แต่ภารกิจแห่งมหาวีรภัทรก็ทำให้เทพเข็ดขยาดไปตามๆกันเพราะนอกจากจะบาดเจ็บล้มตายเเล้วยังมีพิการต้องกลับไปเลียแผลเก่ากันอีกมากมาย เป็นการเอาชนะกองทัพเทพรวมไปถึงเอาชนะพระเป็นเจ้าอย่างศรีหริวิษณุเทพด้วย เช่นนั้นดวงแก้วสถิตย์จิตวีรภัทรมหามุนีจึงเป็นพลังแห่งมายาเกรี้ยวโกรธที่มีอานุภาพสูงสุดเเห่งพระผู้เป็นเจ้าที่จะแปรเป็นพลังทำให้ผู้ครอบครองเจริญก้าวหน้าได้เพราะมีทิพย์อำนาจทำลายล้างบาปและอธรรมขั้นสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้า เป็นการทำลายล้างอกุศลและบาปกรรมเพื่อจะให้กำเนิดสิ่งที่ดีงามมั่นคงขึ้นมาทดแทนผู้ถือดวงแก้วจะก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายและเริ่มมีสิ่งที่ดีงามปรากฏแก่ชีวิตตนเองด้วยอานุภาพแห่งเทพอสูรวีรภัทรนี้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าแก้วจิตมหาวีรภัทรนั้นมีกำลังแรงมากหากเทียบกับเครื่องรางที่ลงด้วยมนต์พระกาฬแล้วยังนับว่าเหนือกว่าหลายขุม
    อย่าว่าแต่พระกาฬซึ่งเป็นเทพบริวารของพระยมราชเลย เเม้ตัวพระยมเองก็โดนพระวีรภัทรทำร้ายสาหัสมาแล้ว ดวงจิตนี้สิ่งไม่ดีไม่อาจเข้าใกล้หรือรังควานได้เลยทั้งสิ่งอกุศลไม่ดีทั้งหลายตลอดจนวิญญาณร้ายจะกลายเป็นอาหารที่พระมหาวีรภัทรท่านเสพย์ท่านกินไปหมดสิ้น ..แม้มีใครคิดร้ายต่อเราไม่ต้องพูดอะไรหรอกหากมีดวงจิตมหาวีรภัทรคุ้มครองก็คอยเตรียมดูความพินาศฉิบหายของคนเหล่านั้นได้เลย ..พ่ออาจารย์ท่านว่ากายทิพย์มหาวีรภัทรนั้นทรงมงกุฏเปลวเพลิงมีพันหน้าสองพันมือเลยทีเดียว

    หุ่นพิฆาตเหยื่อช่วงชิงสะกดฝันอสูรเทพกวางทองซ้อนกลพ่ออาจารย์ท่านสร้างด้วยผงวิเศษมากมาย โดยนำผงมหาสูตรที่ทำเป็นกรณีพิเศษเพื่อสร้างครูในสายเทพอสูรโดยเฉพาะซึ่งท่านได้นำผงว่านยามาตำรวมกัน ซึ่งว่านที่ใช้นั้นท่านจะคัดเฉพาะว่านที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวตนเป็นกายสิทธิ์หาได้ยาก..จับได้ยาก..พลีได้ยากมาบดสะสมไว้ร่วมกับผงมหายันต์ลบตามสูตรของท่านที่เน้นเลือกเก็บเฉพาะที่เสกจนเรียกว่าอักขระดิ้นได้พร้อมกับเข้าด้วยผงอาถรรพ์อีก 9 ชนิดที่หาง่ายแต่เอายากไม่สามารถเปิดเผยที่มาได้นำมาผสมกับผงที่มีแรงครูสูงที่สุดของท่านคือ "ผงมหาธาตุพันสังขารของเหล่าโยคีมหาฤาษีที่บำเพ็ญยิ่งใหญ่ในตบะฌาณ" พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแต่กาลก่อนย่อมเป็นบรมครูของสรรพศาสตร์ทุกแขนงการทำอสูรเทพกวางทองให้มากฤทธิ์เดชยิ่งกว่าตบะทวยเทพจำจะต้องใช้ผงธาตุขันธ์ของผู้ทรงตบะอภิญญา เหมือนดั่งพระอินทร์จะใช้ยอดอาวุธวชิราวุธนั้นยังต้องทำมาจากแก่นกายของฤาษีผู้ยิ่งในตบะเช่นนี้เมื่อได้กำลังตบะของฤาษีพันตนเป็นปฐมย่อมสำเร็จกวางทองแปลงเทพอสูรอันไร้พ่ายได้ทั้งยังหนุนกำลังแรงครูในดวงจิตวีรภัทรมหามุนีอีกทอดหนึ่งด้วย พ่ออาจารย์ท่านจึงนำผงมหาธาตุพันสังขารของเหล่าโยคีในอินเดียที่ท่านสืบเสาะหาสะสมไว้เพื่อปั้นรูปครูฤาษีของท่านนำมาผสมท่านว่ากว่าจะได้ผงนี้มาแม้อินเดียจะมีฤาษีอยู่มากแต่จะหาที่มีชาติตระกูลสูงทั้งยิ่งในตบะและสันโดษอย่างแท้จริงทิ้งร่างสังขารถอดจิตสู่พรหมโลกก็ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายไม่เหมือนฤาษีเก๊อย่างทางบ้านเรา...ก็นั่นแหละผงนี้จึงเป็นที่สุดแห่งอำนาจตบะบารมีดั่งมีมหาพรหมพันองค์คอยพิทักษ์รักษากว่าจะรวบรวมมาได้ต้องใช้อุตสาหะคอยสืบคอยตามอยู่นานปีเพื่อให้ได้ผงอาถรรพ์ที่มีแรงครูสูงสุดเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเป็นยอดผงแม้ช้อนชาละเป็นแสนก็ขายไม่ได้

    อสูรเทพกวางทองฝังด้วยยอดของวิเศษในตำนาน
    นอกจากใช้ที่สุดแห่ผง..ที่สุดแห่งมหาธาตุกายสิทธิ์แก้วเสด็จของดวงจิตเทพอสูรวีรภัทรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังตั้งใจฝังของวิเศษต่างลงไปอีกหลายอย่างเพื่อให้กวางแปลงนี้มีกำลังอันน่าอัศจรรย์ยิ่ง
    - ตะกรุดตราล้างโลกสามตรา(ถือเคล็ดล้างได้สามโลกไม่มียกเว้นเป็นอาถรรพ์สูงสุดคือสามตราสามดอกท่านจะลงเพียงครั้งเดียว) ตะกรุดนี้คือตะกรุดดวงตาพระอิศวร(ศิวะ)มีอานุภาพในการทำลายล้างสิ่งไม่ดีไม่ว่าจะเป็นสิ่งไม่ดีในร่างกายเรา..หรือสิ่งไม่ดีอันติดมาแต่ชาติกำเนิด.. สิ่งไม่ดีอันเป็นอุปสรรคบั่นทอนชีวิตของเราในทุกๆด้าน ใช้ขับล้างพลังงานด้านลบออกไปจากร่างกายของเราตลอดจนมีอานุภาพเป็นที่หวาดกลัวแก่เหล่าวิญญาณร้ายมิจฉาทิฏฐิตลอดจนเทวดาทั้งหลายเป็นที่ยิ่ง ตะกรุดนี้มีกลวิธีในการลงซับซ้อนเเละต้องมีพระคาถาเข้ามาเสริมและหนุนเฉพาะเพื่อเสกให้ทรงอานุภาพสูงสุด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าตาของพระอิศวรหรือศิวะนั้นเป็นสิ่งที่มีอานุภาพสูงสุดในการทำลายล้างใช้ทำลายจักรวาลให้เป็นจุณมหาจุณในพริบตาเพื่อให้กำเนิดสิ่งที่ดีงามประดิษฐานขึ้นต่อไปตามกลไกแห่งวัฏฏจักร เราจึงเรียกตะกรุดตัวนี้ว่าตะกรุดตราล้างโลกที่จะเสริมฤทธิ์เครื่องมงคลให้มีอานุภาพแรงกล้าขึ้นไปอีก

    - คตปลวกขาว เป็นกายสิทธิ์โดยธรรมชาติซึ่งหาของแท้ได้ยากมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าของดีโดยธรรมชาติหากนำมาเสกแล้วจะไม่มีวันเสื่อมฤทธิ์ต่อให้เราไปเจอคนเก่งที่ไหนเค้าก้คัดถอนอาคมไม่ได้ ใช้ป้องกันสิ่งไม่ดีภูติผีสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงได้ชะงัดนักมีอานุภาพสูงทั้งกันคุณไสยและเป็นมงคลชีวิตสร้างพลังสิริมงคลอยู่ในตัว คอยเสริมดวงชะตาให้ผู้ครอบครองประสบโชคดีอย่างต่อเนื่อง ### พ่ออาจารย์ท่านว่าปลวกขาวนี้ให้ลาภต่างๆเก่งมาก มันครอบจักรวาลทั้งหมดจะใช้เรื่องมหาเสน่ห์คนรักคนหลงเจ้านายเอ็นดูก็ได้ หรือจะใช้ทางคุ้มครองภัยก็ได้ แม้แต่เรื่องพูดแล้วคนเชื่อพูดแล้วติดหูค้าขายคล่องตัวก็ใช้ได้ทั้งสิ้นมีไว้ย่อมเป็นมงคลแก่ชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วตัวคตปลวกนี้มีไว้ป้องกันตัวนางพญาในรังนะจึงเป็นอาถรรพ์ว่ามีพลังทางป้องกันภัยที่มองไม่เห็นสูงมากอันตรายใดๆไม่สามารถกล้ำกลายได้เลย ส่วนใหญ่มักจะพบเพียงคตปลวกดำส่วนคตปลวกขาวแท้ๆจะหายากมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าคตปลวกขาวมีอานุภาพสูงมีพลังแปลกๆที่จะใช้เพิ่มพลังอำนาจให้ผู้ครอบครองได้อย่างน่าอัศจรรย์ถ้าจะให้พูดก็คือมีอานุภาพพอๆกับเหล็กไหลผู้ที่ได้ไว้ใช้ย่อมเป็นผู้มีวาสนาสูงส่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าฝังๆแบ่งกันไปจากที่ท่านได้รวบรวมเสาะหามาทั้งชีวิตจะได้นำไปบันดาลโชคลาภทรัพย์สินเงินทองแก่ชีวิตผู้ครอบครอง หนนี้ท่านว่าให้ไว้เป็นเสมือนหลักประกันแห่งความก้าวหน้าผู้ที่ได้บูชาคตปลวกขาวชุดนี้ชีวิตจะสำเร็จและเจริญรุดหน้าได้ไวอย่างน่าประหลาด ทั้งยังป้องกันอาถรรพ์คุณไสยกันเรื่องร้ายต่างๆควบคู่ไปในตัว

    - มหาธาตุธรณีลอยโศก องค์เหล็กไหลยอดธาตุตระกูลนี้มีอำนาจขับไล่ทุกข์โศกใดๆก็ตามให้ลอยออกจากตัว ให้ลอยไปไกลพ้นตัวพ้นสังขาร ดั่งว่าเราเหยีบบนพื้นแม่ธรณีนี้ไม่ว่าอยู่จุดไหนในโลกย่อมหาความทุกข์..โศก..เจ็บ..จนไม่ได้ ลำบากไม่เป็นยากเย็นไม่รู้จัก องค์เหล็กมหาธาตุธรณีลอยโศกนี้มีคุณหนักมากแก่ผู้ครองดั่งว่าทั่วแผ่นดินนี้จะหาทุกข์โศกใดมาทำให้แปดเปื้อนไม่ได้ องค์เหล็กนี้อยู่กับตัวใครก็ทำอันตรายไม่ได้ทั้งจะเน้นหนักทางขับชะตาราศีให้ดีวันรวยคืน..ดั่งพ่ออาจารย์ท่านว่าความโศกเศร้าในชีวิตลอยไปหมดรับเอาแต่ความสุขรับแต่เงินทองเข้ามาแบบนี้..อยากได้อยากมีสิ่งใดก็กลืนลงไปได้ทั้งหมด ### องค์เหล็กนี้ท่านว่าใครมีทุกข์มีเคราะห์กรรมที่ติดตัวฝังแน่นมาโดยชาติกำเนิดหรือมีกรรมวิบากจากภพก่อนท่านว่านี่แหละลอยขับพ้นหมด ลอยหมดไม่เหลือทุกข์ใดๆด้วยอำนาจแห่งทิพย์ธาตุกายสิทธิ์..ทั้งจะพาชีวิตเราลอยเข้าหาสุขคติเลี่ยงทุกข์คติทุกอย่าง...เหนือสิ่งอื่นใดเขาช่วยเคลื่อนย้ายดวงหลบหลีกพระเคราะห์ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามหาธาตุแบบนี้เป็นประโยชน์แก่การทำมาหากินเป็นประโยชน์แก่เรื่องทางโลกมากที่สุดเพราะเขาสงเคราะห์คนใช้โดยตรง (องค์เหล็กนี้มีข้อมูลเชิงลึกอีกมาก ลงให้พอสังเขปคร่าวๆก่อน พ่ออาจารย์ท่านว่ายอดเต็มแล้วค่อยเฉลยเขาเพราะครูข้างบนท่านกำชับไว้ต้องใช้เฉพาะคู่บารมีเท่านั้น..อย่าเพิ่งให้เขารู้อย่าไปบอกเขาหมดตอนนี้เราต้องการคู่บารมีจริงๆ..มหาธาตุ..ยอดธาตุ..สร้างยอดคน..คู่บารมีมหาธาตุก็คือจอมคน) มหาธาตุปรากฏบนแผ่นดินไหนบุคคลผู้นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ท่านสรรเสริญไว้ดุจดังได้ทิพย์สมบัติ..อมฤตทรัพย์แม้ติดตัวไว้ยังช่วยคลายความอ่อนล้าช่วยให้สติปัญญาโลดแล่นใช้งานได้เต็มที่ ด้วยองค์เหล็กนั้นอุบัติขึ้นเพื่อต้านกำลังของบาปเคราะห์จึงเป็นสมดุลย์ธาตุแก่ร่างกายคนไหนที่เคราะห์มากไป..ป่วยบ่อยเกินไป..โชคร้ายเกินไป...อะไรที่มันมากเกินไปเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือชีวิตขาดความสมดุลย์ องค์เหล็กนั้นเป็นสมดุลธาตุซึ่งจะคลี่คลายสิ่งที่มากเกินไปเหล่านี้ให้สมดุล..ท่านว่าคนทื่ธาตุสมดุลก็เป็นคนประเภทที่มีความสุขมากที่สุดคือทุกสิ่งสมดุลกันหมดมีความสุขไปตลอดชีวิตหาความทุกข์ไม่เจอ

    นอกจากลอยโศกเคราะห์ออกจากตัวแล้วยังเป็นมหาธาตุที่ดึงโอกาสเนืองๆมาสู่ชีวิตผู้อาราธนา พ่ออาจารย์ท่านว่าโอกาสนั้นไม่ใช่เราจะสร้างได้ด้วยตัวเองทุกครั้ง..โอกาสที่จะพบแต่ความสุข..โอกาสที่จะดินในเส้นทางสวรรค์..โอกาสที่ชีวิตโรยไปด้วยกลีบกุหลาบนี่แหละคือโอกาสอย่างแท้จริงที่จะดลให้ความสำเร็จนั้นงอกงามและง่ายดายต่อเรา มหาธาตุมีอานุภาพปรับเปลี่ยนลอยเคราะห์เชิญโอกาสเหล่านี้สู่ตัวเราให้สำเร็จใหญ่ มีโชคใหญ่จะฉวยเอาอะไรก็ง่ายดายดั่งว่าเหยียบย่ำไปบนหนทางแห่งความรุ่งเรืองมีบุญญาดุจเทวดามาซ้อนกาย ส่วนเรื่องรับเคราะห์แทนเจ้าของนั้นท่านว่านี่ก็ใช้ได้ทั้งรับเข้าลอยออกลอยโศกไปหมดสิ้น แล้วคนไม่รู้โศกนั้นดีอย่างไร

    - เรื่องโชคลาภมันจะเข้ามา อะไรที่ทำให้เราได้เงินได้ลาภลอยเหล่านี้ พอโศกหมดสุขมันก็เข้ามา
    - คนทั้งหลายรักและเมตตาอยากได้อะไรก็ขอได้ขอเอา พอโศกหมดมิตรก็เข้ามา
    - ความอัปมงคลจากสิ่งชั่วร้ายทั้งการกระทำจากคุณไสยภูติผีย่อมลอยหายไป พอเรื่องจัญไรหมดสิริมงคลย่อมเข้ามา
    - องค์เหล็กย่อมอารักขาเราดั่งเทพวิญญาณคุ้มตัวเพื่อให้สงบระงับปัญหาทั้งสิ้น พอปัญหาหมดความคลายใจ..โล่งใจ..สบายใจก็เข้ามา
    - จะทำกิจใดย่อมไม่เกิดอันตราย ไม่มีภัยความปลอดภัยก็เข้ามา
    - เปลี่ยนดวงร้ายให้งอกเงยลอยโศกลอยเศร้า ไม่มีดวงวิบัติบารมีก็เข้ามา


    รับรองได้ว่าอสูรเทพกวางทองที่สวมครอบด้วยดวงจิตมหาวีรภัทรนั้นมีครบทุกทางจะอ่อนช้อยมากเล่ห์ใช้ปูทางซ้อนกลชีวิต..มีอำนาจเปิดช่องแหวกรูรอดได้ทุกสถานการณ์อันตรายที่แม้แต่กำลังฟ้าหรืออำนาจเทวดาแม้แต่พระเป็นเจ้าก็แทรกแซงไม่ได้ เมื่อได้ผสานจิตมหาวีรภัทรอันเป็นกำลังเกรี้ยวโกรธสูงสุดแห่งพระศิวะเจ้าแล้วย่อมให้คุณรุนแรงได้ไวอย่างมหาศาลนี่จึงเป็นที่มาของเครื่องรางที่พ่ออาจารย์ท่านว่าจำเป็นต้องคาดเอวไว้ทุกคนนะ เพราะบางทีคุณพระคุณเทพเขาก็มีขีดจำกัดมีลีลาของเขาต่างจากเครื่องรางเหล่านี้ที่ใช้ไขจุดบอดของชีวิตคนได้ พระวีรภัทรนี่พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าดุที่สุดยิ่งดุเท่าไหร่ความเมตตาก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นมหาวีรภัทรนี้คือครูอสูรดึกดำบรรพ์ที่แรงที่สุด ซ้ำพระศิวะยังยกย่องให้เป็นหัวหน้าเทวดาคณะสาวกด้วยกล่าวได้ว่าเทพในสายของพระศิวะหรือฤาษีทั้งหลายล้วนแต่เป็นบริวารของพระวีรภัทรทั้งสิ้นนอกจากจะมีพระภาคเป็นจอมอสูรแล้วยังมีพระภาคเป็นฤาษีอีกด้วยเรียกว่ามหามุนีวีรภัทร

    พ่อาจารย์ท่านว่าเราชี้แจ้งไว้ชัดสุดได้แค่นี้เพราะทำกวางทองชุดนี้พระยมเทพที่มากเมตตายังเขม่นด้วยเป็นเครื่องรางที่เอาวิถีชีวิตหลบหลีกอะไรต่อมิอะไรอีกมากได้ตลอดเวลา บางคนนี้วันๆเจอหลายเรื่องก็รอดมีรูหลบหลีกได้ทุกเรื่อง..เคยมั๊ยล่ะเรื่องที่เริ่มทำก็สำเร็จตั้งแต่คิด ทำได้สำเร็จตั้งแต่เริ่มส่วนเรื่องที่คั่งค้างไว้ปลายทางก็สำเร็จมันดีเช่นนี้ เฉพาะเครื่องมงคลอาถรรพ์ที่ฝังอยู่ในนี้มีเงินล้านบางอย่างก็ซื้อไม่ได้

    *** พ่ออาจารย์ท่านให้ย้ำไว้เลยว่า รายการนี้ให้เปิดจองหนึ่งอาทิตย์นะ ครบ 7 วัน ให้ปรับราคาเป็น 50,000 ทั้งหมด ฉันเสียดายกลัวแต่คนจะไม่รู้ค่าว่าได้ถืออะไร..ได้ใช้อะไร..ได้ฝากชีวิตกับอะไร ของแบบนี้หาโอกาสทำยากอย่างแท้จริง ของบางอย่างเงินแสนเงินล้านก็ซื้อไม่ได้

    *** รายการนี้ท่านว่าไม่ต้องใช้คาถาอะไรเลยแค่พกไว้กับตัวก็ทำงานของเขาโดยอัตโนมัติ จะหมั่นพูดคุยกับเขาบ้างก็ได้หรือพกเป็นเครื่องรางโดยไม่ใส่ใจก็ได้..แต่ต้องพก รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM นะครับ ท่านว่าไม่ต้องแจ้งชื่อสกุลอะไรเพราะรายการนี้เป็นกายสิทธิ์ใช้ได้ทุกทาง..ต้องรอดทุกเรื่อง..เหมือนกวางทองช่วยทศกัณฐ์ไม่เลือกดีชั่วเขาก็สงเคราะห์หมด

    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นพิฆาตเหยื่อช่วงชิงสะกดฝันอสูรเทพกวางทองซ้อนกล(แก้วสถิตย์จิตวีรภัทรมหามุนี) บูชา 50,000 บาท

     
  7. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    *** อันนี้ย้ำจริงๆเพราะเปลี่ยนราคาหลังจากนี้ถ้าใครจองไม่ทันกำหนดเลยเจ็ดวันมาจองจะยึดราคานี้ถือว่ายึดตามนี้นะครับ พ่ออาจารย์ท่านให้ย้ำไว้เลยว่า รายการนี้ให้เปิดจองหนึ่งอาทิตย์นะ ครบ 7 วัน ให้ปรับราคาเป็น 50,000 ทั้งหมด ฉันเสียดายกลัวแต่คนจะไม่รู้ค่าว่าได้ถืออะไร..ได้ใช้อะไร..ได้ฝากชีวิตกับอะไร ของแบบนี้หาโอกาสทำยากอย่างแท้จริง ของบางอย่างเงินแสนเงินล้านก็ซื้อไม่ได้
     
  8. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มีคนทักมาว่ารายการนี้ให้รออีกนานมั๊ย เอ๊ะเมื่อไหร่ อุ๊ยยังไง จริงๆแล้วรายการนี้เป็นของเก่า..เป็นหนึ่งในของรักของสะสมของพ่ออาจารย์ที่แรงมากๆด้วย เดี๋ยวเห็นแล้วจะรู้ว่าหาโคตรยากและเอาไม่ง่ายใครจะมีปัญญาเอามาสร้างของซักรุ่นหนึ่ง ที่สำคัญปกติเลยก็โคตรแรงโคตรเป็นมงคลอยู่แล้ว..ปกติก็มีกำลังเหมือนไฟประลัยกัลป์สำหรับศัตรูคู่แค้นคู่อาฆาตของเราจะมีกำลังผลาญเผาพวกมันดุจไฟนรก พอเอามาเสกแล้วจะยิ่งแรงขึ้นไปอีกขนาดไหน อันนี้ก็ติดตามกันไว้
     
  9. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลประสิทธิ์ปกาสิทธิ์ครูฟ้าสั่งให้รวย(ฝังเขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะสูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง)

    ด้วยพระศิวะมีอำนาจเหนือวัฏฏะทั้งสามและมีพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งจิตวิญญาณสูงสุดที่จะบันดาลให้เกิดได้ทุกสิ่งเอาว่าขออะไรยิ่งได้ยิ่งขอยิ่งสำเร็จด้วยมหากรุณาส่วนนี้ของพระเป็นเจ้า แต่คนจะไม่ค่อยรู้กันว่าพระศิวะนั้นท่านก็เป็นผู้ประทานโชคลาภคนจะไปคิดกันเอาเองว่าท่านเป็นแต่พนักงานทำลายฝ่ายเดียว ซึ่งจริงๆแล้วพ่อนั้นเป็นผู้ทำลายความเศร้าโศก..เป็นผู้ทำลายกาลเวลา(ใครตกอยู่ในกาลแห่งทุกข์ท่านนำออกได้ ท่านทำลายให้พ้นได้)..เป็นผู้ลิขิตโชคชะตาไม่ว่าร้ายหรือดี..ซ้ำยังเป็นผู้สร้างอาคมนี่รู้หรือไม่ว่าพลังงานพระเวทย์อาคมต่างๆล้วนมีจุดกำเนิดมาจากพระองค์ทั้งสิ้น ด้วยเป็นต้นกำเนิดทุกสิ่งทั้งพ่อยังเป็นผู้ประทานโชคลาภที่ยิ่งใหญ่..เป็นผู้ให้ความผาสุขประทานทุกสิ่งทุกอย่าง ชนแต่โบราณเค้ารู้กันถึงกับขนานนามไว้ว่าสรวัทบ้าง,ศุภัทบ้าง,สุขทะบ้างนั่นคือพ่อผู้ประทานโชคลาภอันยิ่งใหญ่ให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเอง

    ทั้งยังมีอำนาจลอยเคราะห์และรับบาปแทนตัวลูกๆโดยไม่ติดอยู่ในกฏของกรรมหรือใช้อำนาจเกินกรรมไม่ได้จึงสยบเคราะห์หนักและวิบากกรรมได้ชะงัด พ่ออาจารย์ท่านยกครูพระสยมเป็นครูใหญ่และมักเรียกแทนท่านว่า"พ่อ" เป็นตัวแทนของมหากรุณาที่พร้อมจะเสียสละและรับความเจ็บปวดแทนสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยความรักอันยิ่งใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติ..ความสุข..ความเจริญ พระศิวะรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ปลดห่วงหมดทุกข์หมดหนี้สินเป็นเศรษฐีมหาศาลมีความสุขในห้วงชีวิต ด้วยพ่อนั้นจะรับความเจ็บปวดความทุกข์โทษเคราะห์ภัย..อุบาทว์พิฆนะจัญไรหายนะ ท่านจะกลืนกินอัปมงคลอวมงคลทั้งหลายไว้ด้วยความรักอันใหญ่หลวงเพื่อสิริ,เพื่อมงคล,เพื่อสันติ,เพื่อความสุข,เพื่อความเจริญที่จะพึงบังเกิดมีในชีวิตของลูกนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำวิชาเป็นเฉพาะเพื่อให้คนใช้ลอยเคราะห์และรับบาปแทนลูกๆที่ทุกข์เข็ญ การรับเคราะห์รับกรรมโดยพ่อนั้นจะกลืนทุกข์กลืนวิบัติอาเพททำลายเคราะห์โศกปิดชีวิตที่มืดบอด กำจัดบาปทำลายล้างบาปประทานพรให้พ้นจากบาปและอกุศลกรรมต่างๆของลูกทั้งหมดทั้งสิ้น เพราะครูองค์เดียวที่สามารถรับและกำจัดบาปได้ซ้ำยังพาและผลักดันให้ชีวิตดำเนินต่อไปในจุดที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของมหาวัฏจักร โดยปรับเปลี่ยนชีวิตที่หลุดพ้นจากบาปและอกุศลกรรมเสียใหม่ก็คือพ่อ แต่ต้องสร้างในเฉพาะกาลเฉพาะวาระที่ท่านเปิดให้ด้วยจึงจะเป็นดาวข่มและทำลายล้างบาปทั้งมวลโดยตรง คือ
    เป็นสดาจาร..พ่อคือพระเป็นเจ้าที่มีการกระทำอันสูงสุด
    เป็นอกลมัย..พ่อคือผู้ไร้บาป
    เป็นสรวปาปหร..พ่อคือผู้ทำลายล้างบาปทั้งหลาย
    เป็นหระ..พ่อคือผู้มีอำนาจกำจัดบาปทั้งหมด
    เป็นมุกันทะ..พ่อสามารถประทานพรให้พ้นจากบาป
    เป็นตมิศรหา..พ่อมีอำนาจทำลายความมืด
    เป็นโศกนาศัน..พ่อมีอำนาจทำลายความโศก
    เป็นสรวารถปริวรตัก..พ่อมีตัวเป็นตนต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
    เป็นวิฆันนาคัน..พ่อมีอำนาจทำลายอุปสรรคร้ายทั้งหมด
    ดังนั้นเพื่อจะ
    เอาชนะกรรมลิขิตบาปเคราะห์ดาวข่มตลอดจนอำนาจของพรหมลิขิตเทพลิขิตชะตาตลอดจนมหาวัฏฏทั้งหลายแล้วนำชีวิตออกไปสู่การเริ่มต้นใหม่ การเปลี่ยนแปลงโดยมีพ่อเป็นต้นเหตุของทุกเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างพระผงรุ่นนี้จึงแฝงอานุภาพทางล้างบาปเคราะห์แบบที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน

    พ่อกับเทพอสูร
    ด้วยเข้าสู่ยุคแปดที่เรียกว่าเป็นเวลาซึ่งประตูนรกประตูผีมันเปิด คนจะเชื่อในพลังแห่งจิตวิญญาณทั้งสายขาวสายดำ ที่ใจมืดมนก็จะใช้สิ่งเหล่านี้ทำลายกันเพื่อเอาชนะกัน ทั้งยังเกิดอาเพศที่เป็นยุคซึ่งภูติผีปีศาจอาละวาดเหิมเกริมเป็นผลให้ไสยศาสตร์มนต์ดำเริงอำนาจเป็นมหันต์เกินกว่าปกติ ผลสั่งสมจากคนใช้มนต์ดำบงการสิ่งเหนือธรรมชาติทำลายกันเองมากขึ้นย่อมส่งผลกระทบร้ายแรงกับธรรมชาติทั้งโรคระบาดทั้งเคราะห์ภัยโดยธรรมชาติทั้งหลายจะอุบัติขึ้นเนืองๆ เหล่าปีศาจที่เคยถูกจองจำไว้ยาวนานจนประมาณไม่ได้ในโลกจะเริ่มออกมาสร้างความปั่นป่วนสิงสู่จิตใจคนให้ตกลงสู่ความมืดมีอารมณ์รุนแรง..อาฆาตแรง..พยาบาทแรง..ริษยาแรง..ใจคนจะวิปริตทั้งโรคภัยร้ายกาจจะกำเริบไปทั่ว พ่ออาจารย์ท่านว่าไอ้ตัวโคโรน่าก็เหมือนสมัยก่อนที่ผีห่าลงนั่นแหละฟ้าดินมันวิปริตไปหมดตั้งแต่อากาศฤดูกาลก็แปรปรวนไม่ได้เหมือนเก่า ตัดทางไปกับความเจริญนั่นคือโลกวิปริตใจคนเสื่อมแต่วัตถุจะยิ่งเจริญได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นแต่ระบบคุณธรรมกับธรรมชาติจะเรียวลงเหี่ยวลงคนจะเน้นวัตถุกันมากขึ้น จะใช้ความพยายามทุกทางเพื่อแก่งแย่งชิงดีกันให้ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะแก้เอาตัวให้รอดกันจริงๆ นอกจากใช้เครื่องมงคลสายพ่อแล้วยังต้องแฝงอำนาจเทพอสูรด้วยเพราะจะกำราบปีศาจร้ายโดยตรงจะปราบมารกำจัดภูติผีปีศาจ ..แต่ทำไมต้องเป็นเทพอสูรนั่นก็เพราะเขามีอำนาจที่จะใช้สิทธิ์ทำลายล้างอสูรทั้งมวลได้ราบคาบ ทั้งทำลายล้างอำนาจมืดที่ค่อยๆก่อตัวเกาะกุมจิตใจรวมถึงมนต์ดำที่จะมีผลกระทบต่อธรรมชาติและสั่งสมอยู่ในตัวผู้คนแบบฝังเมล็ดพันธ์ ท่านว่าอำนาจเทพอสูรแก้ตรงนี้ได้รวมไปถึงเรื่องกำจัดปราณวิญญาณร้ายกันไข้ระบาดโรคร้ายที่เกิดจากโลกวิปริต..เห็นมั๊ยว่าครูเทพอสูรนั้นใช้งานได้เฉพาะเจาะจงในยุคนี้โดยแท้จริงติดตัวไว้จะไม่ตายก่อนวัยอันควร..จะไม่ตกทุกข์ไปตามเคราะห์ภัย..จะพึ่งได้ยามชีวิตเจอเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเราไปตลอดกาล

    ทั้งแรงแห่งครูเทพอสูรนี้ไม่เพียงแต่จะคุ้มครองจากความวิปริตจากคนและธรรมชาติเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเคล็ดแห่งความสำเร็จที่น้อยคนจะรู้ได้ พ่ออาจารย์ท่านจะย้ำเสอว่าถ้าจะบูชาครูเทพอสูรต้องหาดุๆ..ยิ่งดุ..ยิ่งแรง..ยิ่งดุ..ยิ่งรวย พวกที่ใจดีไม่ดุไม๋โหดอย่าไปไหว้เลย..พวกที่สู้รบกับใครไม่ไหวท่านก็ไม่เอา เพราะเทพอสูรที่เก่งกาจดุดันท่านจะประทานทรัพย์ความร่ำรวยทั้งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่รวมไปถึงอำนาจให้คนรักคนนับถือ ยิ่งดุเท่าไหร่ก็ยิ่งแรงยิ่งเร็วมากขึ้นเท่านั้นทั้งยังต้านทานและทำลายล้างอัปมงคลไปในตัวต่างจากอำนาจแห่งเทพพรหมตรงนี้เห็นมั๊ย
    - ชีวิตใครที่ดำมากมืดมนมามาก
    - ชีวิตใครที่เคยต้องมนต์ดำมานาน
    - ชีวิตใครที่โดนภูติผีวิญญาณจองเวร
    - ชีวิตใครที่โดนมนุษย์หรืออมนุษย์รังควาน

    นั่นแหละสายงานตรงท่านคือทำลายล้ายความขัดข้อง ยกเจ้าให้พ้นจากภัยที่ต้องเจอทั้งภัยสะสมภัยฉับพลันทั้งหลายตอนนี้จะสำเร็จสมความปรารถนาอะไรก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง อะไรที่เคยได้มายากก็จะได้มาโดยง่าย นั่นคือมาด้วยบุญบารมี..ไม่ใช่ของเรานะแต่เป็นของครูเทพอสูรที่ชักนำมา ทำไมเราจึงบอกว่าให้หาครูเทพอสูรที่มีศักดิ์สูงมาก..มีความดุดันมาก นั่นก็เพราะบารมีท่านมากยิ่งบารมีมากก็ยิ่งชักนำสิริมงคลเปลี่ยนฐานะคนได้ไวมาก เพราะบารมีนี้มันเกิดจากความเพียรและความยิ่งใหญ่ในตบะของใครของมัน เป็นฌาณเป็นสมาบัติเป็นฤทธิ์วิเศษที่มีไม่เท่ากันเลยเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นเทพอสูรที่เกิดจากพ่อ(คือพระศิวะอันมีบารมียิ่งใหญ่ที่สุดเสมอๆ) เพื่อดึงเอากำลังของเทพอสูรที่ไม่มีวันสูญหายมาครอบกายคุ้มครองเรา เพียงคุ้มครองนั่นแหละย่อมสำเร็จพันเรื่องหมื่นเรื่องจะได้เจอผลสำเร็จในปาฏิหาริย์ที่สร้างขึ้นโดยแรงครูอย่างแท้จริง

    นอกจากพระศิวะจะเป็นผู้ให้กำเนิดเทพอสูรที่ยิ่งใหญ่สูงสุดแล้ว ท่านยังโอบอุ้มจักรวาลดำรงค์สถานะพระผู้ไม่มีวันตาย(ดวงชีพนิรันดร์)และยังเป็นเทพเจ้าแห่งอาตมัน(วิญญาณทั้งหลาย) พ่ออาจารย์ท่านรู้ดีว่าบารมีของครูนั้นฉุดกระชากเปลี่ยนวิบากกรรมให้ศิษย์ทั้งหลายได้จริงเพราะท่านมีหน้าที่ปัดเป่าทำลายบาปอันชั่วร้ายทั้งหมดและยังประสาทพรให้ผู้ที่รักและศรัทธาเต็มหัวใจอยู่เสมอ ด้วยสถานะเทพบดีผู้ปกครองหมู่เทพที่เป็นสัมมาทิฏฐิและเป็นเทวาธิเทพของมหาเทพและเทพทั้งปวงเมื่อาราธนาแล้วความเดือดร้อนและยุคเข็ญที่ส่งผลกระทบถึงพลังงานธรรมชาติและจิตวิญญาณทั้งหลายให้แปรปรวนย่อมคลี่คลาย เธอลองพิจารณาตัวเองดูว่ายังขาดผู้ที่จะปกป้อง..ปลดเปลื้อง..และปลดปล่อยเราเอาไปพร้อมๆกันในเวลาเดียวกันรึเปล่า ถ้าขาดก็มาพึ่งพ่อเสียเพราะท่านมีอำนาจทำลายล้างอกุศลธรรมและสถาปนาหลักคุณธรรม จะเปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาให้อยู่ในมหาปาฏิหาริย์การสงเคราะห์ของด้วยความศรัทธาและแรงครูขั้นสูงสุด(เขี้ยวพระไภรวะ)

    เขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะ(สูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง)
    เครื่องมงคลชุดนี้สร้างได้ยากอย่างแท้จริง เพราะพ่ออาจารย์ท่านจะสื่อพลังงานโดยตรงของพระไภรวะอันเป็นเทพอสูรที่เกิดจากพระศิวะให้รุนแรงที่สุด ท่านว่า
    ฉันต้องใช้ของเก่าอันมีคุณกายสิทธิ์ด้วยตนเองของพระไภรวะโดยเฉพาะมาเชิญครูพระสยมทำให้อีกครั้ง ซึ่งครูพระสยมท่านได้บัญชาไว้แล้วว่าให้รวบรวมหัวครูพระพิราพเก่าๆที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้วไปขอเขาบูรณะแล้วถอดเขี้ยวเก่านั้นออกเอาของใหม่ใส่ไปแทนทำให้สมบูรณ์คงทนขึ้น โดยเขี้ยวเก่าๆของหัวครูพระพิราพนั้นท่านไม่ให้ทิ้งเลย กลับกันจะต้องนำมาทำพิธีลงอาถรรพ์เพื่อทำเครื่องมงคลชุดนี้

    โดยเขี้ยวยักษ์พระพิราพ(ไภรวะ)ในหัวครูชุดเก่าๆอายุมากกว่าห้าถึงหกสิบปีขึ้นไปนั้นส่วนมากจะผ่านพิธีไหว้ครูมาอย่างยาวนานจะสึกเสื่อมสภาพตามวันเวลาทั้งยังมีอาถรรพ์รุนแรงสูงส่งสูงสุดแห่งกำลังพระเป็นเจ้ารวมถึงกำลังแรงครูชักนำฉุดดึงชีวิต เขี้ยวในหัวครูนั้นผ่านการลงประสิทธิ์ของญาณพระไภรวะมานักต่อนักในงานบวงสรวงไหว้ครู ทั้งยังเป็นเคล็ดที่ว่าสร้างหัวครูใส่เขี้ยวยักษ์ด้วยเขี้ยวหมู(ใช้เขี้ยวหมูมาทำเขี้ยวยักษ์จะทำอะไรก็ได้เจอแต่งานหมูๆมีชีวิตง่ายๆนั่งกินนอนกิน) ทั้งครูพระสยมท่านยังบอกเอาไว้ว่าเขี้ยวเหล่านี้ที่เก่าจนรานจนผุกร่อนผุพังไปบ้างตามวันเวลาล้วนมีอำนาจแรงครูประเสริฐเลอเลิศเป็นกำลังแห่งไภรวะอันมีอำนาจร้อนแรงดั่งไฟประลัยกัลป์(พ่ออาจารย์ท่านว่าเข้าอาถรรพ์เอามาทำเครื่องมงคลเลยเพราะแรงด้วยกำลังตบะบารมีเป็นที่สุด) ท่านได้นำเขี้ยวยักษ์หัวครูพระพิราพที่ท่านรวบรวมมาทั้งชีวิตมาเจาะระทำสร้อยห้อยคอไว้..เพราะจะวางต่ำนั้นไม่ได้เลยจะเก็บก็กลัวความบังเอิญที่ท่านจะหล่นร่วงลงไปตกดินเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตัดสินใจทำอาถรรพ์เชิญครูเสกมาสามสิบปีพร้อมกับห้อยคอท่านไปด้วยจะมีถอดบ้างก็ตอนนำไปคล้องศิวลึงค์หรือเทวรูปองค์พระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าเขี้ยวพระพิราพชุดนี้ใครตาดีอย่าเผลอไปลองดีมองเอานะเดี๋ยวจะเจอไฟพวยพุ่งออกมาจะเสียตากันไปเปล่าๆ ดูไม่เป็นเดี๋ยวตาจะบอดเอาง่ายๆ เพราะไภรวะเป็นภาคปราบมารของพระศิวะและเป็นครูสูงสุดทางฝ่ายยักษ์มีฤทธิ์แรงวิเศษเพราะทรงเพศเป็นเทพอสูร

    อำนาจแห่งพระไภรวะ
    พระไภรวะนั้นเป็นชื่อที่เรียกเทพคณะหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเรียกว่าคณะไภรวะก็ได้จัดอยู่ในกลุ่มของเทพอสูรระดับพระเป็นเจ้าที่มีความดุรุนแรงเกรี้ยวกราดอย่างถึงที่สุด ### ตามคติของพ่ออาจารย์ท่านที่ว่ายิ่งดุมากยิ่งให้คุณมาก ยิ่งให้คุณมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีแก่ตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เช่นนี้ท่านจึงอัญเชิญอำนาจคณุพระสยมแผ่ซ่านลงในเขี้ยแก้วสุรกานต์พระพิราพของเก่านี้ให้เป็นตัวแทนมหาเทพในกลุ่มไภรวะท้้งหมด ด้วยเทพไภรวะนั้นเป็นตัวแทนของอำนาจแห่งการทำลายล้างสูงสุดโดยปกติแล้วจะไม่ปรากฏองค์เลยแต่เมื่อปรากฏรูปขึ้นมาจะแสดงฤทธิ์ยิ่งใหญ่สะท้านสะเทือนจักรวาลโดยจะมีหัวหน้าคณะเป็นผู้ปกครอง ได้ชื่อว่าเป็นเทพอสูรผู้ครองอำนาจสูงสุดของจักรวาลนี้ซึ่งก็คือ " พระกาละไภรวะ "

    **** พระกาละไภรวะนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นครูสูงสุดในคณะไภรวะ เพราะมีฤทธิ์มากที่สุดจะคอยดูแลร่างไภรวะอวตารทั้งแปดองค์อันประจำอยู่ขอบกำแพงจักรวาลทั้งแปดทิศ ดุจว่าแปดเทพอสูรนี้เป็นดั่งด่านสุดท้ายของจักรวาลที่ไม่มีใครฝ่าหรือต้านทานได้องค์กาละไภรวะท่านจะคอยบัญชาคณะไภรวะนั้นซึ่งแต่ละองค์จะมีฤทธานุภาพแตกต่างกันไป
    - พระโคทะไภรวะ มีพระวรกายสีเข้มมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะนกเหยี่ยว พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นี้มีอำนาจฤทธิ์ที่กล้าหาญเป็นผู้อยู่เหนือกาลเวลาและห้วงมิติทั้งหลาย ท่านจะคอยประสาทพรแก่เราเวลาเราต่อกรสู้กับปัญหาอุปสรรคทั้งปวงหรืออำนาจชั่วร้ายทั้งหลายมีปัญหาที่ใหญ่เกินตัวท่านจะคอยช่วยเราตลอด
    - พระกาปาลไภรวะ มีพระวรกายผ่องใสมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นช้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นเลิศในความสมบูรณ์ เป็นครูผู้เลิศในอุดมคติและนำความสำเร็จทั้งปวง ทั้งยังทรงธรรมคอยประทานความยุติธรรมแก่โลกแก่สรรพชีวิตที่ถูกกลั่นแกล้ง ท่านจะคอยประสาทพรให้เรามีชัยชนะในกิจการที่ได้รับมอบหมาย นำความสมบูรณ์ในอุดมคติและความสำเร็จทั้งหลายเข้ามาในชีวิตนำความยุติธรรมมาสู่ตัวเรา
    - พระอสิตังกะไภรวะ มีพระวรกายคล้ำมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นหงส์ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นผู้มีความสามารถเชี่ยวชาญงานศิลปะมีความรู้ทางสติปัญญาที่มั่นคงสูงส่ง ท่านจะคอยประสาทพรให้ความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งหลายที่เราศึกษาจับต้องทั้งเปิดสมองเปิดสติปัญญาให้ดวงจิตเราแจ่มใส มีสติมั่นคงมีดวงปัญญาสว่างกระจ่างสูงส่ง
    - พระจันดาไภรวะ มีพระวรกายขาวมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นนกยูง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงไร้พ่ายในการศึกสงครามมีอานุภาพสิบทิศไร้ผู้ต้านมีชัยชนะเหนือศัตรูมีความสามารถในการสู้รบและเป็นผู้พิชิตปัญหาทั้งปวงให้ราบรื่น ท่านจะคอยประสาทพรเวลาเราเจอหมู่มารหรือศัตรูเบียดเบียนกวนใจชีวิตเขาจะอยู่ไม่เป็นสุขเลย(ครูแรงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าพูดเยอะไม่ได้ข้างบนเขาห้ามเด็ดขาด) ทั้งยังคอยแก้ไขปัญหาชีวิตที่เราเองสะสมเอาไว้ดลให้ชีวิตเราราบรื่นเช่นนี้
    - พระคุรุไภรวะ มีพระวรกายสีเทามีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นวัว พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ท่านเป็นนักปราชญ์เป็นมหาปราชญ์คือรู้ทุกสิ่งในจักรวาลไม่มีสิ่งใดที่ท่านไม่รู้ ท่านจะคอยประสาทพรให้คุณความรู้ให้ดวงตาเรามองเห็นปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เห็นทางที่ควรเดินชีวิตที่ควรเลือกควรดำเนินไปและยังให้พรการศึกษาวิทยาความรู้และพระเวทย์ทั้งปวง
    - พระสัมหาระไภรวะ ทรงอวตารเปลือยกายวรกายสีแดงมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะสุนัข พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นปางแห่งการสังหารกำจัดซึ่งอวิชาสิ่งชั่วร้ายความอหิงสาและความอหังการ์ทั้งหลายเรียกว่าเป็นมหาปราบจักวาล ลองได้ลงมือปราบแล้วย่อมสิ้นนามสิ้นเชื้อ ท่านจะประสาทพรดับล้างความเสื่อมโทรมและกำจัดคุณแห่งอวิชชาทั้งหลาย คุณของไสยต่ำอสุรกายภูติผีทั้งหลายแม้การกระทำคำสาปแช่งหากมีตกตะกอนในตัวเราย่อมมลายหายสิ้น
    - พระอุนมัตตะไภรวะ รูปนี้ทรงบริสุทธิ์สูงสุดวรกายผุดผ่องมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นม้า พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นที่มาแห่งความรื่นรมย์ความสุขสงบแห่งธรรมสูงสุด ท่านจะคอยประสาทพรทำลายล้างความชั่วทั้งหลายในจิตใจของมนุษย์ ดลให้ชีวิตเห็นธรรมเห็นสัจจะถึงซึ่งความรื่นรมย์และสงบสุขไปกับธรรมเหล่านั้น
    - พระภีชานะไภรวะ มีพระวรกายขาวผ่องใสมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นสิงโต พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นครูที่คอยกำจัดอำนาจมืดกำจัดวิญญาณชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคลในโลก หากชีวิตเราโดนอำนาจมืดรังแกหรือตกอยู่ใต้การรุกรานของผู้อื่นท่านจะประสาทพรคอยช่วยเหลือทั้งยังล้างอัปมงคลทั้งหลายให้สูญสิ้น

    คณะไภรวะทั้งเก้านี้แม้เป็นเทพอสูรแต่ก็เป็นครูสูงสุดที่จะนำพรแห่งความสุขสมหวังมาสู่ผู้บูชาหาได้น่ากลัวดั่งคำว่าอสูรไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าอสูรก็เป็นเทวะไม่ใช่ยักษ์ใช่มารมีความเป็นทิพย์เช่นกันทั้งคณะไภรวะนั้นยังมีอำนาจหน้าที่อันสมควรเรียกได้ว่าตรงงานที่สุดอันจะนำมาซึ่งองค์ประกอบถ้วนทุกประการประสานกันเป็นความสุขแห่งชีวิตของผู้บูชา ท่านจึงได้เชิญกำลังสูงสุดประสิทธิ์ในแรงครูสูงสุด(เขี้ยวแก้วพระพิราพ)พลังของคณะเทพอสูรไภรวะทุกองค์ขึ้นเพื่อจะให้คณะไภรวะได้ปกป้องและนำพรมงคลมาสู่ผู้ถือครอง แต่เพื่อให้กำลังของคณะไภรวะสมบูรณ์อย่างถึงที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่เก้าแต่ต้องเป็นสิบ เป็นสิบเทพอสูรเป็นคณะไภรวะไร้ผู้ต้านท่านจึงเชิญครูไภรวะองค์สำคัญให้ร่วมประสิทธิ์ประสาทแฝงญานในรูปนามด้วย นั่นก็คือองค์พระไภรวะที่เกิดขึ้นจากอวตารขององค์พระศิวะ

    - พระบาตุกไภรวะ อยู่ในรูปของเด็กหนุ่มมีสี่พระกรทรงสุนัขดำเป็นพาหนะ องค์นี้ได้ชื่อว่ามีฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่ในมือถือกระบองดัมรูและชามกะโหลกทรงถือศรีษะของอสูรอพาตและเศียรที่ห้าของท้าวมหาพรหม องค์บาตุกนั้นได้ชื่อว่ามากฤทธิ์ที่สุดเพราะทรงประหารเศียรที่ห้าของพระบรมบิดาพรหมเทพซึ่งเศียรนี้หมายถึงอัตตาเป็นความลุ่มหลงในตัวตนของตนเองทำลายความอหังการแต่นั้นมา ทั้งเป็นสาเหตุให้พรหมทั้งหลายเหลือเพียงสี่เศียรเรียกว่ามีอำนาจทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดินให้เกิดขึ้นได้ ทั้งองค์บาตุกนั้นยังได้สังหารอสูรอพาตที่ไม่มีใครสังหารได้แม้แต่พระแม่กาลี ด้วยพระแม่กาลีได้เชิญอวตารองค์บาตุกไภรวะนั้นสังหารอสูรในรูปเด็กห้าขวบ องค์บาตุกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีฤทธิ์มากสามารถประสาทพรให้เราทำสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่คาดฝันให้สำเร็จเสร็จสิ้นได้ *** ซึ่งนามบาตุกนั้นแปลว่าบุตรชายแห่งพราหมณ์ทั้งยังเป็นเทพที่ถือว่ามีความสำคัญยิ่งยวดด้วยองค์พระศิวะท่านโองการให้บูชาบุตรพราหมณ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ก่อนคือบาตุกไภรวะแล้วจึงบูชาพระองค์

    เช่นนี้เขี้ยวแก้วสุรกานต์พระพิราพจึงมีกำลังแรงครูสูงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าสมบูรณ์แล้วด้วยกำลังตบะแห่งไภรวะและแรงครูศักดิ์สิทธิ์สูงสุด(เพราะเป็นเศียรครูสูงสุดของฝ่ายยักษ์ที่แต่ละเศียรผ่านพิธีมามากมายยาวนานเป็นเศียรประธานครูสูงสุดในงานไหว้ครู) เช่นนั้นอาถรรพ์เขี้ยวแก้วชุดนี้คืออาถรรพ์ที่สงเคราะห์คนด้วยแรงครูสูงสุดอย่างแท้จริง เป็นเขี้ยวแก้วแทนจิตวิญญาณทั้งสิบของครูเทพอสูรที่มีอานุภาพร้ายแรงดุดันและร้ายกาจร้อนแรงมากที่สุดอันจะพึงมีบังเกิดขึ้นทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตกาลอันมีทิพย์อำนาจการทำลายล้างอกุศลและบาปกรรมสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้าทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าแบบนี้มันเกินกว่าดุและแรงมากไปไกลแล้วนะฉันทำได้ครั้งเดียวใครจะเอาไว้ก็ถือว่าชีวิตเขาได้ผ่านมาเจอครูชั้นสูงสุดอันมีแรงครูดุดัน..หนักแน่น..ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วถึงเวลาที่จะผ่านพ้นเคราะห์กรรมแล้วจะก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายและเริ่มมีสิ่งที่ดีงามปรากฏแก่ชีวิตตนเอง เขี้ยวพระพิราพนี้อยู่ที่ไหนสิ่งไม่ดีไม่อาจเข้าใกล้หรือรังควานได้เลยสิ่งอกุศลไม่ดีทั้งหลายตลอดจนวิญญาณร้ายจะกลายเป็นอาหารที่สิบเทพอสูรคณะไภรวะท่านเสพย์ท่านกินไปหมดสิ้น แม้มีใครคิดร้ายต่อเราไม่ต้องพูดอะไรมากหรอกเตรียมดูความพินาศฉิบหายของคนเหล่านั้นได้เลยไม่มีใครตายดีซักคนถ้าเข้ามารังแก "ลูกของพ่อ" และ "ลูกของครู"

    เพื่อจะสร้างมงคลวิเศษให้ได้ตามโองการพ่อเพื่อกำเนิดเครื่องมงคลอันมีพลานุภาพสูงสุด จำต้องใช้มวลสารพิเศษมากมาย
    - เถ้าศิวะรูป พ่อพระสยมท่านได้มีโองการแก่พ่ออาจารย์เมื่อจะทำพระรูปของพระองค์ต้องทำพิธีไสยเวทย์ดุจดั่งว่าในองค์พระนั้นจะมีเลือดเนื้อของพระองค์จริงๆผสมลงไปด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้นำไม้ศิวลึงค์โบราณที่สืบทอดมาแต่อารยธรรมเขมรมาประกอบพิธีพราหมณ์อีกคำรบหนึ่ง ก่อนจะลงจารพระเวทย์สายพระศิวะทั้งหมดลงมนต์มหากำเนิดก่อเกิดสรรพสิ่งในองค์ศิวลึงค์ไม้โบราณนั้น เรียกได้ว่าพระศิวะท่านแฝงพระรูปลงมาเต็มพระญาณถือได้ว่าศิวลึงค์นี้คือเลือดเนื้อและชีวิตของท่านก็ไม่ปานเมื่อสำเร็จเเล้วจึงนำมาบูชาไฟด้วนมันตราพระศดาศิวะเทพ ตามหลักกฏแห่งธรรมชาติจนแปรเป็นเถ้าจุณมหาวิจุณกลับคืนสู่พระรูปเดิมเถ้านี่แหละสำคัญนักถือคติแห่งมายาศาสตร์ที่ว่าพระศิวะท่านพลีพระรูปของท่านให้แก่มนุษย์แล้วด้วยมหากรุณา เมื่อเป็นศิวลึงค์ขลังเยี่ยงไรตอนเป็นเถ้าขลังเสียยิ่งกว่านั้นเพราะผ่านไฟแห่งพิธีกรรมอันได้ชื่อว่าจะชำระเสียให้ได้มาซึ่งความบริสุทธิ์สูงสุดแล้วนั่นเอง
    - ผงตรีวิภูติ ผสมด้วยผงวิภูติสำคัญต่างๆที่ท่านรวบรวมไว้ซึ่งผงวิภูตินี้ก็คือผงเถ้าที่พระศิวะทรงโปรดมากเสมือนขี้เถ้าที่พระองค์นำมาทาพระวรกาย หรืออีกนัยหนึ่งคือผงขี้เถ้าที่ท่านเผาทำลายพระกามเทพจนกลายเป็นอณูผงและทรงโปรดให้เป็นผงเจิมใช้ในการสถาปนากาลมงคลทั้งปวงโดยผงวิภูติของครูพระสยมนั้นจะมีอยู่สามชนิดพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะให้มีฤทธิ์สูงสุดก็ต้องใช้ทั้งสามชนิดนี้มาผสมเป็นกำลังให้กันและกันทั้งเถ้าที่เกิดจากมหาพิธีของเครื่องหอม..เถ้าที่เกิดจากอัคคีบูชา..และเถ้าอศุภที่เกิดจากฤาษีหรือมหาโยคีเผาร่างตนเองด้วยศรัทธาเพื่อบูชาพระเป็นเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าชนิดหลังนี้จะหายากที่สุดและในปัจจุบันก็หาแทบไม่เจอแล้วถึงมีก็มักจะเก็บไว้ในนิกายลับและเขาก็จะสงวนไว้ใช้ในศาสตร์ลับและพิธีลับอันเกี่ยวเนื่องกับครูพระสยมเท่านั้น
    - ผงศิลาชิต อันเป็นว่านวิเศษพ่ออาจารย์ท่านว่าว่านนี้หายากอย่างมากและทั้งโลกในทุกจุดก็ย่อมไม่มีปรากฏ เพราะว่านนี้จะขึ้นอยู่ที่เดียวในบริเวณเขาไกรลาสเท่านั้นเขาจะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณศิลาบัลลังค์ที่องค์พระศิวะ(ครูพระสยม)นั่งบำเพ็ญตบะญาณเท่านั้น ดังนั้นว่านนี้จึงอุปมาเหมือนกำลังตบะกำลังชีวิตของครูพระสยมที่ถ่ายทอดและแปรออกมาเป็นมหาพฤกษาโดยท่านตั้งใจทิ้งไว้ให้เป็นตัวแทนพลังยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ ซึ่งศิลาชิตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสำคัญที่ต้องใช้ถวายครูพระสยมมานานนับพันปีพ่ออาจารย์ท่านว่าว่านตัวนี้มีทั้งกำลังตบะและกำลังชีวิตของครู ทั้งยังมีอานุภาพและพลังงานมหัศจรรย์ที่จะบันดาลความสุขความบริบูรณ์ทำให้ทุกสิ่งที่ตั้งใจหวังได้สมหวังทั้งยังมีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวปราศจากโรคภัย ด้วยเป็นสิ่งที่มีกำลังญาณของครูพระสยมมีพลังชีวิตของครูพระสยมและเป็นอาถรรพ์สำคัญในการทำรูปท่านทั้งครูพระสยมยังเน้นให้ใช้แทนตัวของท่าน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำให้เต็มสูตรชนิดแทนตัวของท่านเลยย่อมจะขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้
    - ผงพรหมกรรมะ ท่านได้นำใบมะตูมที่ท่านถวายครูพระสยมโดยท่องมนต์พรหมกรรมะมาบดเป็นมวลสารด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าใบมะตูมที่ผ่านพรหมกรรมะนั้นสำคัญมากเพราะเชื่อว่า ### สามารถทำลายบาปแก่ผู้มีศรัทธาได้ สามารถล้างบาปหนักที่สุดได้แม้เพียงได้เห็นหรือสัมผัสก็จะหลุดพ้นจากบาปทั้งปวง ท่านว่าอยากจะให้ศิษย์ที่มีวาสนาเกี่ยวข้องกับองค์พระสยมนั้นได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อะไรไม่ดีที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปใช้อำนาจของของมนตราพิธีกรรมและความเชื่อนี้ล้างบาปล้างสิ่งไม่ดีออกไปให้หมด ซึ่งเรื่องนี้อยู่เหนืออำนาจกฏแห่งกรรมของวัฏฏสงสารโดยแท้
    - ผงมเหศวรยันตรา ท่านได้ลบถมผงมเหศวรยันตราวนเวียนไปมาถึง 84,000 รอบด้วยความอุตสาหะอย่างยิ่ง เพื่อก่อเกิดเป็นมเหศวรยันตราที่เลอค่าและทรงพลังอย่างสูงสุดมีอานุภาพและกำลังบริบูรณ์อย่างที่สุดเปรียบเสมือนอำนาจแห่งครูที่จะกลับกลายเป็นปกาศิตคำพรสูงสุด เป็นความรัก,ความปรารถนาดี,ความสุข,ความเจริญอันสูงสุดที่ครูพระสยมท่านจะประทานให้กับศิษย์ที่ท่านรักดุจลูกแลท่านโปรดปรานเป็นที่สุด เป็นพลังอันนิรันดร์..เป็นคำพรอันเป็นนิรันดร์และเป็นอำนาจที่จะประสิทธิ์แก่เราเสมอชั่วนิรันดร์กาล
    - ผงยาแดง ผงที่พ่ออาจารย์นำมาทำนั้นเป็นของบูรพาจารย์ท่านในฝั่งพม่าท่านว่ายาแดงนั้นมีอานุภาพมากท่านเรียกว่ายาสัจจะ ยานี้แค่มีไว้กับตัวได้ไว้ครอบครองหรือเก็บรักษายังไม่ต้องบูชาแต่อย่างใดอานุภาพของยาก็ช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้นแล้วอานุภาพยาสัจจะนั้นมีมากนอกจากเปลี่ยนแปลงชีวิตช่วยให้ชีวิตดีขึ้นทันตาเห็นได้แล้ว ตัวยาสัจจะเองนั้นยังมีอานุภาพต่างๆอีกมาก ท่านว่าดีเกินกว่าจะคิดนั่นคือทำให้รวยมีทรัพย์สินศฤงคาร,ทำให้คนเมตตาเป็นเสน่ห์มหานิยม,เป็นมหาอำนาจวาสนาบารมี,คุ้มครองป้องกันเป็นข่ามคง,ช่วยให้เจริญอาหาร,ช่วยให้มีอายุยืนนานไม่ตายด้วยโรคปัจจุบันทันด่วน,ขับไล่คุณผีคุณคนเสน่ห์ยาแฝด,ล้างมนต์ดำทำลายอาถรรพ์เมฆหมอกปิดกั้นชีวิต,ทำลายล้างวิชาอาคมต่างๆ...(ท่านว่าไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ยังมีอีกแต่พูดไม่ได้) ท่านว่าเอาว่าเหมาะไม่ใช่ด้วยว่าควรจะมีแต่ต้องมียาสัจจะนั้นมีอานุภาพวิเศษที่จะทำให้ชีวิตคนบริบูรณ์ด้วยความสุขทุกประการได้ยาแดงหรือยาสัจจะเก้าขั้นที่ท่านนำมาสร้างองค์พระนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษาวิชาทุกระดับขั้นท่านว่าจะไม่เจริญเปลี่ยนชีวิตคนได้อย่างไร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้นรักษายานี้
    - ผงเทวะโอสถรัตนคัมภีร์ ยานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเปล่งอานุภาพยิ่งใหญ่มากนักสมกับเป็นยาเทพที่ประกอบพิธีปรุงยาก
    1.แม้ได้บูชาอาราธนาไว้กับตัวท่านว่าความสุขความสงบร่มเย็นจะมาเยือน
    2.ไม่ทุกข์ร้อนกลัดกลุ้มด้วยปัญหาสารพันอันเกิดจากปัจจัยสี่หรือธาตุทั้งหลาย
    3.จะนำให้ถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นความสุขสวัสดีของโลกอย่างถึงที่สุด
    4.ถ้าได้พกอยู่กับตัวย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาตลอดจนอสูรนาคาแลสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
    5.หากคนที่ยังไม่เคยมีความรักท่านว่าจะได้รักจะมีคู่ครองภายในเจ็ดวัน
    6.ยานี้สถิตย์อยู่ที่ใดก็ดีเทวดาตลอดจนภูติผีปีศาจราชฑูตอสูรแลครุฑธานาคาทั้งหลายอันจะพึงสถิตย์อยู่บนโลกใบนี้ย่อมจะมาชุมนุมอภิบาลรักษาคนผู้นั้น
    7.พรหรือการประสาทพรจากเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงตบะฌาณขั้นสูงให้ชีวิตเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ให้มีพลัง เต็มเปรี่ยมไปด้วยสิริมงคลที่เกิดจากพรอันเปล่งจากตบะฌาณของท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะเป็นของเราตลอดกาล
    8.แม้จะเข้าหานายผู้หลักผู้ใหญ่เพศตรงข้ามที่หมายปองก็ดีเค้าจะรักและเมตตาเราเสมอบุตรในไส้ที่คลอดออกมาเอง
    9.แม้อาราธนาทำน้ำมนต์รดสิ่งใดก็จะสำเร็จสมความปรารถนาถ้วนทุกประการ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าอันเทวะโอสถนั้นย่อมมีศักดิ์ศรีของเทวะโอสถต่างจากตำรับยาอันพิลาศในโลกแดนดินทั้งหลายอย่างสิ้นเชิง

    - ดินอาถรรพ์ท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสาร พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าในอดีตนั้นพระเจ้าพิมพิสารเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งทางโลกและทางธรรมรวมถึงเป็นพระอริยบุคคล มีทรัพย์สมบัติมากเหนือกว่าเศรษฐีและคฤหบดีทั้งปวงและในปัจจุบันนั้นดวงจิตของท่านก็ได้ไปอุบัติแทนที่ในตำแหน่งท้าวเวสสุวรรณ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากอยากทำของให้คนตั้งตัวและมีชีวิตที่ก้าวกระโดดไปได้ไกลแล้วสิ่งนี้ท้าวเวสสุวรรณท่านได้นิมิตให้พ่ออาจารย์ท่านไปหามา ก็นับว่าเป็นจังหวะที่ลงตัวพอดีพ่ออาจารย์ท่านว่าท้าวเวสสุวรรณนี้ท่านได้แบ่งภาคมาทำหน้าที่ประทานโชคลาภและดูแลสมบัติเทวโลกโดยเฉพาะโดยมีชื่อเรียกคือพระธนบดีสมบัติสวรรค์ทั้งหมดอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเทพหน้าใหม่หรือเทพเจ้าองค์ไหนๆใครจะมีสมบัติเท่าไหร่ล้วนแต่ได้รับการจัดการดูแลจากพระธนบดีทั้งสิ้น ดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารนี้ก็คือคลังหลวงคลังที่เก็บทรัพย์ของพระธนบดีผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์สินและการประทานโชคลาภเงินตราทั้งปวง เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้นำมาเสกหนุนแผ่นดิน..หนุนชะตาชีวิต..ดึงลาภผลโภคทรัพย์เข้าคลังผู้บูชา ท่านว่าท่านเชิญพระธนบดีมาทำวิชาด้วยตัวท่านเองถึงกับพ่ออาจารย์ออกปากว่า "ดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารที่เราทำวิชานี้แม้อยู่กับใคร ระวังอย่างเดียว จะรวยมือเติบไม่รู้เรื่อง"
    - ผงกันปีศาจ กันภูติผี สัมภเวสี อสุรกายทุกชนิด ผงนี้จะกันการทำร้ายจากมือมืด หรือสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นในจำพวกมิจฉาทิฏฐิทั้งหมด

    - ผงกันเดรัจฉาน ใช้กันสัตว์เดรัจฉานต่างๆอันจะเป็นอุบัติเหตุให้เกิดแก่ชีวิตด้วยการทำร้ายเรา เช่น ช้าง โค กระบือ เสือ สิงห์ต่างๆบรรดามี
    - ผงกันข่ม ใช้กันข่มจกผู้มีอำนาจมากกว่า รวมไปถึงการกลั่นแกล้งต่างๆให้ชีวิตเราวิบัติจากทั้งไสยศาสตร์ การกระทำมนุษย์และอานุภาพดวงดาวต่างๆ ท่านว่ากันข่มทั้งหมด ไม่ให้มีสิ่งแวดล้อมใดมาสะกด มาข่ม มากดหัวกดชีวิตเอาไว้
    - ผงกันศาสตราวุธ ท่านว่าผงตัวนี้ปืนผาหน้าไม้ ศาสตราวุธทั้งหลายเมื่อทำร้ายเรา จะไม่ปรากฏอันตรายแก่ชีวิต เอาตัวรอดได้ ไม่ตายด้วยศาสตราวุธทั้งปวง
    - ผงเข้าหาเจ้านาย ผงนี้ทำไว้สำหรับเวลาเข้าหาผู้ใหญ่ หรือจะสมาคมด้วยคนชั้นสูงก็ดี ผู้มีอายุมากกว่าก็ดี พูดอะไรไปเขาเชื่อหมด เขาเมตตาเราดุจลูกในไส้ เลือดในอก อุปมาดุจว่าแม้มีความผิดถึงที่ตายก็ยังฆ่าไม่ลง เอาไว้ใช้ในการงาน ในชีวิต จะทำอะไรคนเขาจะโอนอ่อนผ่อนปรนให้อย่างน่าประหลาด
    - ผงเรียกลาภ ผงนี้หาลาภดี ค้าง่ายขายคล่อง ทำอะไรได้ผลเกินตัว ได้กำไรสูงไม่มีขาดทุน ท่านว่าสูตรนี้จำเอาไว้ไม่มีขาดทุน จะเอาไปใช้ทางไหนก็เรื่องของเธอ
    - ผงค้าสำเภา อันนี้สำคัญ สำเร็จงานใหญ่ ได้จับธุรกิจใหญ่ ดึงดูดโชคลาภใหญ่หลวง เรียกว่าประสบความสำเร็จใหญ่ ไปอยู่ถิ่นใด จะจรไปไหนก็ได้ดีทุกที เป็นเอกทางมหาลาภอย่างที่สุด
    - ผงมหาเสน่ห์ ผงนี้ลงไว้ด้วยสูตรสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน เป็นมหาเสน่ห์ถึงขนาดว่าภรรยาทั้งหลายอยู่รวมกันได้ไม่ตีกันถึงแม้ผู้หญิงจะถือคติเสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครก็ตาม นั่นคือรักและหลงจนลืมโกรธเป็นเสน่ห์ถึงปานนั้น
    - ผงอริพ่าย ผงนี้สำคัญที่สุด ลงยาก ท่านว่าลงไว้รับกับทุกสถานการณ์ ผงนี้อยู่ไหนทำอะไรก็ชนะเขาทั้งหมด ศัตรูพ่ายแพ้ แข่งยังไงแกล้งอย่างไรก็ไม่มีวันชนะ ทำร้ายเราไม่สำเร็จเลย ท่านว่าโลกต่อไปเบื้องหน้าจะยิ่งน่ากลัว จะหาคนที่อยู่โดยไม่มีศัตรูนั้นยาก ต่อไปนี่แค่เขม่นตากันก็เกลียดชังกันแล้ว เรียกว่าเกลียดกันดื้อๆ ท่านว่าผงนี้จึงสำคัญมากเพราะใช้รับได้ทุกสถานการณ์

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตามหลักพราหมณ์นั้นการจะทำรูปแทนครูนี้ย่อมต้องใช้ของเฉพาะทางหลายอย่าง แต่พ่ออาจารย์ท่านดำริว่าอยากจะทำสิ่งที่ดีที่สุดดังนั้นมวลสารเฉพาะทางบางอย่างจึงต้องมีทั้งกำลังของครูและพลังชีวิตของครูเช่นนั้นด้วยท่านได้นำมวลสารอันเป็นมงคลที่ท่านสะสมไว้หลายชนิดมาเป็นตัวปรุงแต่เสริมสร้างสิริมงคลให้กับบรมครูรุ่นนี้ ได้แก่ พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล,คดไม้มงคล,ไม้มงคลที่ตายพราย,ต้นว่านมงคล,เกสรดอกไม้,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อย,สมุดใบลานเก่าๆที่ขาดไม่ได้ใช้,ผงธูปไหว้พระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระนำมาตากแห้ง,ลูกมะพร้าวกะลาตาเดียวเป็นมหาเสน่ห์,ลูกมะพร้าวกะลาไม่มีตาเป็นมหาอุตม์,กิ่งโพธิ์นิพพานคือโพธิ์ที่หักมาเองทางทิศตะวันออก,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5
    แร่ธาตุต่างๆได้เเก่ เพชรหน้าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล็กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง
    สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆ เช่นจิ้งจกสองหาง,กิ้งก่าสองหางนำมาเลี้ยงไว้จนตายเผาไฟเเละบดเป็นผง
    ผงลบมือสูตรต่างๆตั้งแต่ ผงสยมภูวปราบไตรจักร,ผงศิวะกลึงจักร,ผงสยมภูวทรงเมือง,ผงพระสยมพลิกแผ่นดิน,ผงพระศิวะบันลือสีหนาท,ผงองการพินธุมเหศวร... ผงต่างๆที่กล่าวมาแต่ละชนิดมีอุปเท่ห์การใช้และวิธีการลบถมที่แตกต่างกันไป เป็นผงที่นำมาสร้างรูปอาถรรพ์ในองค์พระศิวะอย่างแท้จริงหาใช่ใช่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ดูขลังเล่นแต่อย่างใด ท่านได้นำมวลสารที่มีฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดทั้งหลายมาเข้ากับผงไม้เสาชิงช้าของเก่าที่มีกำลังของสามมหาเทพและผสมผงยอดแก้วแม่ธรณีของท่านที่มีอานุภาพทางค้ำจุนผู้บูชาถึงขนาดว่าว่าคนไม่มีบ้านจะมีบ้าน คนมีบ้านมีหลักแหล่งจะมั่นคง ที่ใดร้างจะกลับรุ่งเรืองเฟื่องฟูดุจมหานคร...
    หลังจากได้มวลสารทั้งหมดแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำสิ่งต่างๆมาป่นให้ละเอียดที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเท่านี้ยังไม่พอด้วยหากจะสร้างสิ่งแทนครูให้ดีที่สุดก็ต้องอาศัยกำลังและจิตวิญญาณครูบาอาจารย์เป็นหัวใจหลักท่านได้นำผงวิเศษที่เตรียมไว้มาเข้ากับผงมงคลโสฬสผงโสฬสมหาพรหมตลอดจนผสมด้วยผงกุมของครูพระสยมและว่านยาในพิธีกรรมเฉพาะที่พ่ออาจารย์ท่านจะใช้พอกเทวรูปครูพระสยมก่อนทำพิธีสรงสนานว่านยาเหล่านั้นท่านว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์มากดุจไคลของพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริงท่านได้นำมานวดผสมกันท่านได้นำผงวิเศษชุบมนต์ด้วยโองการครูอย่างเต็มกำลัง

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าไม่ต้องอธิบายอะไรมากเเค่ขึ้นรูปขึ้นพิมพ์เวลาจะกดด้วยมนต์มหากำเนิดนี่ก็ยอดขลังแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้หากปรารถนาให้ขอแก่องค์พระศิวะนี่ได้เลย พระผงตรีเนตรปุราลีนี้หมายถึงตาที่สามอันมีพลังยิ่งใหญ่เหนือพลังธรรมชาติใดๆด้วยว่าพระศิวะนั้นเป็นผู้ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานจนได้พระนามเฉพาะว่าพระมหากาล(คนละกาฬกับบริวารพญายม) กาลในที่นี้คืออดีตกาล,ปัจจุบันกาล,อนาคตกาลพระองค์ทรงรอบรู้ในกาลทั้งสามเหล่านั้นจนได้ยกย่องว่าเป็นมหากาลรู้กรรมรู้วาระของสรรพสิ่ง แม้ทรงโปรดในคุณงามความดีของผู้ใดก็จะช่วยเหลือเต็มที่ประสาทพระพรให้ในสารพัดสิ่งที่เค้าขอ และยังฝังด้วยตะกรุดสายพ่อตัวที่ทำยากที่สุดคือ
    ตะกรุดฟ้าสั่งรวย


    ตะกรุดฟ้าสั่งรวย
    เอามาฝังครูพระสยมดุจปกาศิตสาปไว้ว้าห้ามจนคือจนไม่ได้และไม่มีวันจนนั่นเอง จนในที่นี้คือจนด้วยทรัพย์สิน,จนด้วยปัญหาหนทางในการดำรงค์อยู่การดำเนินชีวิต ท่านว่านี่คือห้ามไว้แล้วนะทางจนไม่เปิดเข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นก็เหลืออยู่ทางเดียวนั่นคือสุขสมบัติพิพัฒนมงคลทั้งหลายท่านว่าห้ามจนนี่ก็ปิดประตูทุกข์ไปแล้วอย่างหนึ่ง ยุคนี้สมัยนี้ต้องรวย ต้องมีกินท่านจึงทำตะกรุดที่เรียกว่าฟ้าสั่งรวยตำรับหลวงปู่ศุขฝังไว้ด้วย


    ท่านว่าวิชานี้เป็นศาสตร์วิชาโบราณ เป็นอีกหนึ่งคุณวิชาที่มีดีครบหมดเมตตาก็มีแต่ทว่าที่เด่นและแรงแซงหน้าทางอื่นก็คือโชคลาภ ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยนี้เน้นทางหาเงินหาทองให้ผู้ใช้เจริญในเงินทองทรัพย์สมบัติบริบูรณ์..ให้รุ่งเรืองเป็นมหาจำเริญขั้นสูงสุดโดยตะกรุดฟ้าสั่งรวยนี้สมัยก่อนหลวงปู่ศุขท่านจะทำให้พวกเศรษฐีคนธรรมดาไม่มีหวังจะได้เห็นเพราะว่าเค้าจะแข่งความร่ำรวยกัน ใครมีตะกรุดนี้เงินทองเหมือนอยู่ใกล้มือทำอะไรก็ทางสะดวกไม่ไกลเกินเอื้อม เป็นเคล็ดลับที่เศรษฐีสมัยก่อนไม่นิยมบอกหรือพูดต่อกันเรียกว่าใช้จนตายไปกับตัว

    วิชาฟ้าสั่งรวยนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแรงนักจะไม่แรงได้อย่างไร ท่านว่าชีวิตคนนั้นประกอบด้วยตัณหาทั้งสามคือความอยากในอารมณ์รักใคร่หนึ่ง..ความอยากในอารมณ์อยากมีอยากเป็นหนึ่ง..ความอยากในอารมณ์ที่ไม่อยากมีไม่อยากจะเป็นหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยคือวิชาที่เสริมตัณหาทั้งสามนี้ให้บริบูรณ์พูดให้ครบคือได้ในสิ่งที่คิดห่างไกลในสิ่งที่ไม่พึงใจก็แล้วมันจะไม่ดีได้ยังไง ก็ในเมื่อมันตอบสนองความคิดจิตวิญญาณตัณหาคนใช้ถึงปานนั้น

    วิชานี้ท่านว่านอกจากจะเป็นสิ่งที่ถูกปกปิดแล้วยังเป็นวิชาที่แปลกมากทีเดียวเพราะตะกรุดฟ้าสั่งรวยนั้นก็เหมือนกับชื่อคืออยู่ดีๆฟ้าก็สั่งให้คนๆนี้รวย มันเป็นพลังวิชาแบบปาฏิหาริย์ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ศุขแล้วท่านก็ไม่ได้ทำให้ใครมากเพราะผู้รับก็เหมือนภาชนะที่จะรองรับปาฏิหาริย์ฟ้าเป็นชีวิตที่จะต้องเกิดปาฏิหาริย์ ถ้าเดิมชีวิตเค้าไม่ดีก็เรียกว่าจะพลิกกลับจากหน้าเป็นหลังมือทีเดียวพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเจริญขึ้นเป็นลำดับต่อชาติต่อภพไป เช่นว่าคนยากจนจะเป็นเศรษฐี,เศรษฐีจะเป็มหาคหบดี,มหาคหบดีจะเป็นขุนนางเจ้าพระยามหาอำมาตย์,เจ้าพระยามหาอำมาตย์จะเป็นกษัตริย์,กษัตริย์จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ท่านว่านี่คือวงจรชีวิตที่ต้องเกิดถ้าชาตินี้จบลงที่ตรงไหน ก็ไปเริ่มใหม่ที่ชาติหน้าไม่มีถอยกลับจนกว่าจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์นั่นเอง

    เมื่อจะเสกนั้นท่านว่าต้องเสกใส่วิชาตาไฟประลัยกัลป์ไว้ด้วยจะไม่สามารถวัดพลังงานใดๆได้เลยที่ตาพระศิวะถ้าเพ่งจิตดูจะเห็นแสงไฟกะพริบที่ตาขององค์พระแต่อย่ามองมากเดี๋ยวจะจะเสีย องค์พ่อนี้หากมีสิ่งไม่ดีและอวิชชาทั้งหลายมากระทบ หรือแม้แต่มีจิตที่ตกไปในฝ่ายต่ำตลอดจนเครื่องรางของขลังทั้งหลายที่มีผู้ส่งมาลองดีองค์พ่อท่านจะส่งแสงสว่างกะพริบออกมาจากตา ไฟนั้นจะเผารูปเผาญาณฝ่ายตรงข้ามจนมอดไหม้หายไปในที่สุดไม่เคยเห็นมีสิ่งใดต้านทานได้ซักทีด้วยตาไฟประลัยกัลป์นั้นยิ่งใหญ่เหนือกว่าพลังธรรมชาติท่านจึงลงไว้ที่หน้าผากองค์พ่อด้วยจะได้เป็นโฉลกเป็นมงคลแก่ผู้ครอบครอง วิชานี้แม้ใครที่มีวาสนามีวิชาดีมาจากที่ไหนเมื่อได้ชื่อว่ายังอยู่ในกฏแห่งพลังธรรมชาติเขาแพ้เราทั้งสิ้น เพราะเราข่มเราชนะคนทั้งหลายเหล่านั้นด้วยสิ่งที่อยู่เหนือกว่าพลังธรรมชาติ

    คาถาบูชา
    โอมยักษะ สะวะรูปายะ ชะตาธะรายะ ปินากะ หัสตะตายะ สะนาตะนายะ ทิวะยายะ เทวายะ ทิคัมพะรายะ ตัสไม ยะการายะ นะมะศิวายะ

    *** อย่าประมาทแรงครูนะผู้ดูถูกครูย่อมไม่พบความเจริญ เครื่องมงคลชุดนี้ฉันใช้ของสูงมาสร้างมาทำ มีไม่กี่องค์หรอกเพราะหัวครูแบบนี้หาคนเต็มใจมอบให้ยากยิ่งเก่าเขายิ่งหวงต่อให้สลายกลายเป็นฝุ่นก็ยังมีค่าสำหรับเขา แรงครูชั้นสูงสุดที่ผ่านพิธีกรรมมายาวนานแบบนี้ใครรับไว้ก็มีแต่เจริญก้าวหน้าด้วยครูนำพา หากแต่ไม่ใช่ครูธรรมดาแต่เป็นครูสูงสุดฝ่ายเทพอสูร ถ้าจะห้อยเล่นๆก็ไม่ต้องเอาไปแต่หากจะฝากตัวฝากใจอย่าให้ท่านช่วยให้รวยก็มาเอาไปห้อย ..ห้อยแล้วอย่าถอดออกจากคอไม่มีเสื่อมถอยไม่มีข้อห้าม ถ้ารักครูนับถือครูอยากได้แรงครูสูงสุดค่อยมาเอารายการนี้

    *** พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

    มงคลประสิทธิ์ปกาสิทธิ์ครูฟ้าสั่งให้รวย(ฝังเขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะสูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง)บูชา 50,000 บาท


     
  10. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    *** อย่าประมาทแรงครูนะผู้ดูถูกครูย่อมไม่พบความเจริญ เครื่องมงคลชุดนี้ฉันใช้ของสูงมาสร้างมาทำ มีไม่กี่องค์หรอกเพราะหัวครูแบบนี้หาคนเต็มใจมอบให้ยากยิ่งเก่าเขายิ่งหวงต่อให้สลายกลายเป็นฝุ่นก็ยังมีค่าสำหรับเขา แรงครูชั้นสูงสุดที่ผ่านพิธีกรรมมายาวนานแบบนี้ใครรับไว้ก็มีแต่เจริญก้าวหน้าด้วยครูนำพา หากแต่ไม่ใช่ครูธรรมดาแต่เป็นครูสูงสุดฝ่ายเทพอสูร ถ้าจะห้อยเล่นๆก็ไม่ต้องเอาไปแต่หากจะฝากตัวฝากใจอย่าให้ท่านช่วยให้รวยก็มาเอาไปห้อย ..ห้อยแล้วอย่าถอดออกจากคอไม่มีเสื่อมถอยไม่มีข้อห้าม ถ้ารักครูนับถือครูอยากได้แรงครูสูงสุดค่อยมาเอารายการนี้

    เหมือนที่พ่ออาจารย์ท่านพยายามย้ำว่าของชุดนี้วิเศษด้วยแรงครูสูงสุดและย้ำหนักหนา ถึงขั้นเวลามีใครถามว่าอะไรครูแรงสุดบางที่ท่านจะชี้ที่เขี้ยวชุดนี้ในคอท่าน ท่านว่าคนที่รู้คุณและสืบทอดมาบางคนเขาหวงยิ่งกว่าชีวิตไม่ใช่จะหาได้ง่ายเรียกว่าทั้งหายากและจะเอายิ่งยากกว่านับร้อยเท่า เพราะส่วนมากคนไหว้ครูชีวิตดีมีอันจะกินเกินฐานะคนปกติทั้งนั้น ท่านว่าเราพูดเราอธิบายอะไรไม่ได้มาก เพชรอยู่ที่ไหนก็ย่อมเป็นเพชร ด้วยเป็นเครื่องมงคลที่เกินกว่ามูลค่าการซื้อหาจะกำหนดราคาได้ ถ้าใครมองเห็นเพชรเป็นเพชรก็จะรีบขวนขวายมาครอบครอง แต่หากเราไปบอกใครว่านี่เพชรแต่ตาเขาเห็นเป็นกรวดดินเช่นนี้ก็ป่วยการ
     
  11. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ร่วมทำบุญบูชา เขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะสูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง(พันตะกรุดครูช่วยคน)

    จะกล่าวถึงตะกรุดครูช่วยคนนั้นนับว่าเป็นของที่หาครอบครองได้ยากยิ่งในยุคแรกๆซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้เลิกทำไปแล้วแต่ท่านยังได้ลงหัวใจวิชาใส่ตะกรุดดอกเล็กๆเก็บไว้บ้างและนำมาพันเข้ากับเขี้ยวพระพิราพชุดนี้ ตะกรุดครูช่วยคนเป็นตะกรุดที่เอาไว้ใช้ฉุดชักดวงชะตาแก้ไขปัญหาให้เเก่ศิษย์ที่กำลังฝ่าฟันวิกฤติเเละเรื่องเลวร้ายเเสนสาหัสต่างๆท่านเรียกว่าตะกรุดครูช่วยคน

    ตะกรุดครูช่วยคน
    เมื่อลงต้องทรงครูลงทุกดอกอ่านโองการไม่ได้ขาดปากเพื่อให้คนใช้พลิกชีวิตเเละวิกฤติได้จริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดชุดนี้ใช้กำลังของปฐมฤาษีคือครูของมนุษย์,ครูของเทวดา,ครูของอสูร..ครูคือผู้ถ่ายทอดวิทยาการต่างๆแก่ศิษย์มีความปรารถนาดีให้กับศิษย์เปรียบได้กับพ่อแม่ ทั้งคอยเป็นห่วงคอยสอดส่องดูเเลและที่สำคัญครูอยากเห็นศิษย์เจริญรุ่งเรืองเเละประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งครูทั้งหลายเหล่านั้นท่านเป็นผู้คิดค้นศาสตร์ต่างๆบนโลกทั้ง18ศาสตร์ วิทยาการต่างๆ18เเขนง เมื่อเกิดสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นพระองค์ก็ทรงค้นคว้าคิดค้นพุทธศาสตร์แต่ศาสตร์ต่างๆดั้งเดิมทั้ง18ศาสตร์นั้นก็เเตกเเขนงออกไปมากมายทั้งกฏหมาย,ดนตรี,รัฐศาสตร์,การบริหาร,เเพทยศาสตร์,วิศวกรรม,งานสถาปัตยกรรมและอื่นๆสารพัดที่จะเเตกเเขนงเป็นสายย่อยออกไปจาก18ศาสตร์ก็เกิดเป็นวิชาชีพต่างๆเป็น100เป็น1,000

    ดังนั้นการจะบูชาครูต้นที่ประดิษฐานรากฐานของวิชาการไว้บนโลกก็คือการระลึกถึงคุณของเหล่าครูบาอาจารย์ที่เราประกอบสัมมาอาชีพอยู่ในสาขาวิชานั้นๆ เมื่อเกิดผิดพลาดเกิดปัญหาเหตุการณ์ต่างๆก็จะพ้นผ่านไปได้รวดเร็วด้วยอำนาจของเเรงครูเเละเเรงกตเวทิตาที่เราระลึกถึงท่านบูชาท่านสม่ำเสมอ ชีวิตจะมีแต่ก้าวไปข้างหน้าไม่มีวันถอยหลังกลับมีหลักชัยในชีวิตคอยค้ำยันดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำไม่ให้เดือดเนื้อร้อนใจ จะไม่อยู่ต่ำกว่าใครในสายอาชีพของตนเมื่อเราได้ยึดถือครูบาอาจารย์ไว้ไปไหนก็เป็นที่รักทั้งมนุษย์เทวดาเเละอสูร พกตะกรุดของพ่ออาจารย์ดอกนี้ก็เหมือนไปไหนทำอะไรมีเเรงครูช่วยเหลือสนับสนุนเราตลอดเวลา เมื่อศิษย์มีครูก็เหมือนงูมีพิษใครที่ไหนก็ทำอันตรายเเก่เราไม่ได้เเถมพ่ออาจารย์ยังบอกว่าตะกรุดสายพระฤาษีนี้ยังเน้นเมตตาเเรงๆอีกด้วย

    อิทธิคุณโดยรวมตรงๆตัวเด่นมากท่านว่าตามชื่อเลยคือ "ครูช่วยคน" เวลาใช้ให้อธิษฐานจิตบอกพ่อครูว่าลูกประกอบสัมมาอาชีพที่สุจริตอย่างไรขอความเจริญรุ่งเรืองในสาขาอาชีพนั้นๆตามเเต่จะอธิษฐานเเต่อย่าบนท่านว่าถ้าลืมเเก้มันจะไม่ดี คนเราได้ดีเพราะเเรงครูมีเยอะเเละก็ย่อยยับเพราะเเรงครูก็มีมากเช่นกัน ***ดังนั้นท่านให้ขอเเต่ห้ามบนเพราะถ้าบนเเล้วลืมเเก้เป็นคนปากไวใจเร็วจะเสียมากกว่าดี วิชาชุดนี้ท่านว่าห้ามพกต่ำกว่าเอวห้อยคอได้จะดีมากอธิษฐานบอกกล่าวใช้ได้ร้อยแปดประการ ท่านว่าทำยากเวลาทรงครูลงก็ยากให้เอาไปใช้ให้ชีวิตดีขึ้นอย่าเอาไปเก็บถ้าจะเอาไปวางไว้เล่นๆก็อย่าเอาไปเพราะมันลงยาก(น้อยนักที่จะมีเครื่องมงคลชุดใดที่พ่ออาจารย์ต้องลงทรงประทับร่างเพื่อสร้างให้สำเร็จ)

    เขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะ(สูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง)
    เครื่องมงคลชุดนี้สร้างได้ยากอย่างแท้จริง เพราะพ่ออาจารย์ท่านจะสื่อพลังงานโดยตรงของพระไภรวะอันเป็นเทพอสูรที่เกิดจากพระศิวะให้รุนแรงที่สุด ท่านว่า
    ฉันต้องใช้ของเก่าอันมีคุณกายสิทธิ์ด้วยตนเองของพระไภรวะโดยเฉพาะมาเชิญครูพระสยมทำให้อีกครั้ง ซึ่งครูพระสยมท่านได้บัญชาไว้แล้วว่าให้รวบรวมหัวครูพระพิราพเก่าๆที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้วไปขอเขาบูรณะแล้วถอดเขี้ยวเก่านั้นออกเอาของใหม่ใส่ไปแทนทำให้สมบูรณ์คงทนขึ้น โดยเขี้ยวเก่าๆของหัวครูพระพิราพนั้นท่านไม่ให้ทิ้งเลย กลับกันจะต้องนำมาทำพิธีลงอาถรรพ์เพื่อทำเครื่องมงคลชุดนี้

    โดยเขี้ยวยักษ์พระพิราพ(ไภรวะ)ในหัวครูชุดเก่าๆอายุมากกว่าห้าถึงหกสิบปีขึ้นไปนั้นส่วนมากจะผ่านพิธีไหว้ครูมาอย่างยาวนานจะสึกเสื่อมสภาพตามวันเวลาทั้งยังมีอาถรรพ์รุนแรงสูงส่งสูงสุดแห่งกำลังพระเป็นเจ้ารวมถึงกำลังแรงครูชักนำฉุดดึงชีวิต เขี้ยวในหัวครูนั้นผ่านการลงประสิทธิ์ของญาณพระไภรวะมานักต่อนักในงานบวงสรวงไหว้ครู ทั้งยังเป็นเคล็ดที่ว่าสร้างหัวครูใส่เขี้ยวยักษ์ด้วยเขี้ยวหมู(ใช้เขี้ยวหมูมาทำเขี้ยวยักษ์จะทำอะไรก็ได้เจอแต่งานหมูๆมีชีวิตง่ายๆนั่งกินนอนกิน) ทั้งครูพระสยมท่านยังบอกเอาไว้ว่าเขี้ยวเหล่านี้ที่เก่าจนรานจนผุกร่อนผุพังไปบ้างตามวันเวลาล้วนมีอำนาจแรงครูประเสริฐเลอเลิศเป็นกำลังแห่งไภรวะอันมีอำนาจร้อนแรงดั่งไฟประลัยกัลป์(พ่ออาจารย์ท่านว่าเข้าอาถรรพ์เอามาทำเครื่องมงคลเลยเพราะแรงด้วยกำลังตบะบารมีเป็นที่สุด) ท่านได้นำเขี้ยวยักษ์หัวครูพระพิราพที่ท่านรวบรวมมาทั้งชีวิตมาเจาะระทำสร้อยห้อยคอไว้..เพราะจะวางต่ำนั้นไม่ได้เลยจะเก็บก็กลัวความบังเอิญที่ท่านจะหล่นร่วงลงไปตกดินเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตัดสินใจทำอาถรรพ์เชิญครูเสกมาสามสิบปีพร้อมกับห้อยคอท่านไปด้วยจะมีถอดบ้างก็ตอนนำไปคล้องศิวลึงค์หรือเทวรูปองค์พระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าเขี้ยวพระพิราพชุดนี้ใครตาดีอย่าเผลอไปลองดีมองเอานะเดี๋ยวจะเจอไฟพวยพุ่งออกมาจะเสียตากันไปเปล่าๆ ดูไม่เป็นเดี๋ยวตาจะบอดเอาง่ายๆ เพราะไภรวะเป็นภาคปราบมารของพระศิวะและเป็นครูสูงสุดทางฝ่ายยักษ์มีฤทธิ์แรงวิเศษเพราะทรงเพศเป็นเทพอสูร

    อำนาจแห่งพระไภรวะ
    พระไภรวะนั้นเป็นชื่อที่เรียกเทพคณะหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าจะเรียกว่าคณะไภรวะก็ได้จัดอยู่ในกลุ่มของเทพอสูรระดับพระเป็นเจ้าที่มีความดุรุนแรงเกรี้ยวกราดอย่างถึงที่สุด ### ตามคติของพ่ออาจารย์ท่านที่ว่ายิ่งดุมากยิ่งให้คุณมาก ยิ่งให้คุณมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีแก่ตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เช่นนี้ท่านจึงอัญเชิญอำนาจคณุพระสยมแผ่ซ่านลงในเขี้ยแก้วสุรกานต์พระพิราพของเก่านี้ให้เป็นตัวแทนมหาเทพในกลุ่มไภรวะท้้งหมด ด้วยเทพไภรวะนั้นเป็นตัวแทนของอำนาจแห่งการทำลายล้างสูงสุดโดยปกติแล้วจะไม่ปรากฏองค์เลยแต่เมื่อปรากฏรูปขึ้นมาจะแสดงฤทธิ์ยิ่งใหญ่สะท้านสะเทือนจักรวาลโดยจะมีหัวหน้าคณะเป็นผู้ปกครอง ได้ชื่อว่าเป็นเทพอสูรผู้ครองอำนาจสูงสุดของจักรวาลนี้ซึ่งก็คือ " พระกาละไภรวะ "

    **** พระกาละไภรวะนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นครูสูงสุดในคณะไภรวะ เพราะมีฤทธิ์มากที่สุดจะคอยดูแลร่างไภรวะอวตารทั้งแปดองค์อันประจำอยู่ขอบกำแพงจักรวาลทั้งแปดทิศ ดุจว่าแปดเทพอสูรนี้เป็นดั่งด่านสุดท้ายของจักรวาลที่ไม่มีใครฝ่าหรือต้านทานได้องค์กาละไภรวะท่านจะคอยบัญชาคณะไภรวะนั้นซึ่งแต่ละองค์จะมีฤทธานุภาพแตกต่างกันไป

    - พระโคทะไภรวะ มีพระวรกายสีเข้มมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะนกเหยี่ยว พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์นี้มีอำนาจฤทธิ์ที่กล้าหาญเป็นผู้อยู่เหนือกาลเวลาและห้วงมิติทั้งหลาย ท่านจะคอยประสาทพรแก่เราเวลาเราต่อกรสู้กับปัญหาอุปสรรคทั้งปวงหรืออำนาจชั่วร้ายทั้งหลายมีปัญหาที่ใหญ่เกินตัวท่านจะคอยช่วยเราตลอด
    - พระกาปาลไภรวะ มีพระวรกายผ่องใสมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นช้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นเลิศในความสมบูรณ์ เป็นครูผู้เลิศในอุดมคติและนำความสำเร็จทั้งปวง ทั้งยังทรงธรรมคอยประทานความยุติธรรมแก่โลกแก่สรรพชีวิตที่ถูกกลั่นแกล้ง ท่านจะคอยประสาทพรให้เรามีชัยชนะในกิจการที่ได้รับมอบหมาย นำความสมบูรณ์ในอุดมคติและความสำเร็จทั้งหลายเข้ามาในชีวิตนำความยุติธรรมมาสู่ตัวเรา
    - พระอสิตังกะไภรวะ มีพระวรกายคล้ำมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นหงส์ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงเป็นผู้มีความสามารถเชี่ยวชาญงานศิลปะมีความรู้ทางสติปัญญาที่มั่นคงสูงส่ง ท่านจะคอยประสาทพรให้ความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งหลายที่เราศึกษาจับต้องทั้งเปิดสมองเปิดสติปัญญาให้ดวงจิตเราแจ่มใส มีสติมั่นคงมีดวงปัญญาสว่างกระจ่างสูงส่ง
    - พระจันดาไภรวะ มีพระวรกายขาวมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นนกยูง พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ทรงไร้พ่ายในการศึกสงครามมีอานุภาพสิบทิศไร้ผู้ต้านมีชัยชนะเหนือศัตรูมีความสามารถในการสู้รบและเป็นผู้พิชิตปัญหาทั้งปวงให้ราบรื่น ท่านจะคอยประสาทพรเวลาเราเจอหมู่มารหรือศัตรูเบียดเบียนกวนใจชีวิตเขาจะอยู่ไม่เป็นสุขเลย(ครูแรงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าพูดเยอะไม่ได้ข้างบนเขาห้ามเด็ดขาด) ทั้งยังคอยแก้ไขปัญหาชีวิตที่เราเองสะสมเอาไว้ดลให้ชีวิตเราราบรื่นเช่นนี้
    - พระคุรุไภรวะ มีพระวรกายสีเทามีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นวัว พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้ท่านเป็นนักปราชญ์เป็นมหาปราชญ์คือรู้ทุกสิ่งในจักรวาลไม่มีสิ่งใดที่ท่านไม่รู้ ท่านจะคอยประสาทพรให้คุณความรู้ให้ดวงตาเรามองเห็นปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เห็นทางที่ควรเดินชีวิตที่ควรเลือกควรดำเนินไปและยังให้พรการศึกษาวิทยาความรู้และพระเวทย์ทั้งปวง
    - พระสัมหาระไภรวะ ทรงอวตารเปลือยกายวรกายสีแดงมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะสุนัข พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นปางแห่งการสังหารกำจัดซึ่งอวิชาสิ่งชั่วร้ายความอหิงสาและความอหังการ์ทั้งหลายเรียกว่าเป็นมหาปราบจักวาล ลองได้ลงมือปราบแล้วย่อมสิ้นนามสิ้นเชื้อ ท่านจะประสาทพรดับล้างความเสื่อมโทรมและกำจัดคุณแห่งอวิชชาทั้งหลาย คุณของไสยต่ำอสุรกายภูติผีทั้งหลายแม้การกระทำคำสาปแช่งหากมีตกตะกอนในตัวเราย่อมมลายหายสิ้น
    - พระอุนมัตตะไภรวะ รูปนี้ทรงบริสุทธิ์สูงสุดวรกายผุดผ่องมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นม้า พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นที่มาแห่งความรื่นรมย์ความสุขสงบแห่งธรรมสูงสุด ท่านจะคอยประสาทพรทำลายล้างความชั่วทั้งหลายในจิตใจของมนุษย์ ดลให้ชีวิตเห็นธรรมเห็นสัจจะถึงซึ่งความรื่นรมย์และสงบสุขไปกับธรรมเหล่านั้น
    - พระภีชานะไภรวะ มีพระวรกายขาวผ่องใสมีสามพระเนตรสี่พระกรทรงพาหนะเป็นสิงโต พ่ออาจารย์ท่านว่าครูองค์นี้เป็นครูที่คอยกำจัดอำนาจมืดกำจัดวิญญาณชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่เป็นมงคลในโลก หากชีวิตเราโดนอำนาจมืดรังแกหรือตกอยู่ใต้การรุกรานของผู้อื่นท่านจะประสาทพรคอยช่วยเหลือทั้งยังล้างอัปมงคลทั้งหลายให้สูญสิ้น

    คณะไภรวะทั้งเก้านี้แม้เป็นเทพอสูรแต่ก็เป็นครูสูงสุดที่จะนำพรแห่งความสุขสมหวังมาสู่ผู้บูชาหาได้น่ากลัวดั่งคำว่าอสูรไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าอสูรก็เป็นเทวะไม่ใช่ยักษ์ใช่มารมีความเป็นทิพย์เช่นกันทั้งคณะไภรวะนั้นยังมีอำนาจหน้าที่อันสมควรเรียกได้ว่าตรงงานที่สุดอันจะนำมาซึ่งองค์ประกอบถ้วนทุกประการประสานกันเป็นความสุขแห่งชีวิตของผู้บูชา ท่านจึงได้เชิญกำลังสูงสุดประสิทธิ์ในแรงครูสูงสุด(เขี้ยวแก้วพระพิราพ)พลังของคณะเทพอสูรไภรวะทุกองค์ขึ้นเพื่อจะให้คณะไภรวะได้ปกป้องและนำพรมงคลมาสู่ผู้ถือครอง แต่เพื่อให้กำลังของคณะไภรวะสมบูรณ์อย่างถึงที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่เก้าแต่ต้องเป็นสิบ เป็นสิบเทพอสูรเป็นคณะไภรวะไร้ผู้ต้านท่านจึงเชิญครูไภรวะองค์สำคัญให้ร่วมประสิทธิ์ประสาทแฝงญานในรูปนามด้วย นั่นก็คือองค์พระไภรวะที่เกิดขึ้นจากอวตารขององค์พระศิวะ
    - พระบาตุกไภรวะ อยู่ในรูปของเด็กหนุ่มมีสี่พระกรทรงสุนัขดำเป็นพาหนะ องค์นี้ได้ชื่อว่ามีฤทธิ์อำนาจยิ่งใหญ่ในมือถือกระบองดัมรูและชามกะโหลกทรงถือศรีษะของอสูรอพาตและเศียรที่ห้าของท้าวมหาพรหม องค์บาตุกนั้นได้ชื่อว่ามากฤทธิ์ที่สุดเพราะทรงประหารเศียรที่ห้าของพระบรมบิดาพรหมเทพซึ่งเศียรนี้หมายถึงอัตตาเป็นความลุ่มหลงในตัวตนของตนเองทำลายความอหังการแต่นั้นมา ทั้งเป็นสาเหตุให้พรหมทั้งหลายเหลือเพียงสี่เศียรเรียกว่ามีอำนาจทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดินให้เกิดขึ้นได้ ทั้งองค์บาตุกนั้นยังได้สังหารอสูรอพาตที่ไม่มีใครสังหารได้แม้แต่พระแม่กาลี ด้วยพระแม่กาลีได้เชิญอวตารองค์บาตุกไภรวะนั้นสังหารอสูรในรูปเด็กห้าขวบ องค์บาตุกนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีฤทธิ์มากสามารถประสาทพรให้เราทำสิ่งที่ไม่คาดคิดไม่คาดฝันให้สำเร็จเสร็จสิ้นได้ *** ซึ่งนามบาตุกนั้นแปลว่าบุตรชายแห่งพราหมณ์ทั้งยังเป็นเทพที่ถือว่ามีความสำคัญยิ่งยวดด้วยองค์พระศิวะท่านโองการให้บูชาบุตรพราหมณ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ก่อนคือบาตุกไภรวะแล้วจึงบูชาพระองค์

    เช่นนี้เขี้ยวแก้วสุรกานต์พระพิราพจึงมีกำลังแรงครูสูงมากพ่ออาจารย์ท่านว่าสมบูรณ์แล้วด้วยกำลังตบะแห่งไภรวะและแรงครูศักดิ์สิทธิ์สูงสุด(เพราะเป็นเศียรครูสูงสุดของฝ่ายยักษ์ที่แต่ละเศียรผ่านพิธีมามากมายยาวนานเป็นเศียรประธานครูสูงสุดในงานไหว้ครู) เช่นนั้นอาถรรพ์เขี้ยวแก้วชุดนี้คืออาถรรพ์ที่สงเคราะห์คนด้วยแรงครูสูงสุดอย่างแท้จริง เป็นเขี้ยวแก้วแทนจิตวิญญาณทั้งสิบของครูเทพอสูรที่มีอานุภาพร้ายแรงดุดันและร้ายกาจร้อนแรงมากที่สุดอันจะพึงมีบังเกิดขึ้นทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตกาลอันมีทิพย์อำนาจการทำลายล้างอกุศลและบาปกรรมสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้าทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าแบบนี้มันเกินกว่าดุและแรงมากไปไกลแล้วนะฉันทำได้ครั้งเดียวใครจะเอาไว้ก็ถือว่าชีวิตเขาได้ผ่านมาเจอครูชั้นสูงสุดอันมีแรงครูดุดัน..หนักแน่น..ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วถึงเวลาที่จะผ่านพ้นเคราะห์กรรมแล้วจะก้าวล่วงพ้นจากความทุกข์ทั้งหลายและเริ่มมีสิ่งที่ดีงามปรากฏแก่ชีวิตตนเอง เขี้ยวพระพิราพนี้อยู่ที่ไหนสิ่งไม่ดีไม่อาจเข้าใกล้หรือรังควานได้เลยสิ่งอกุศลไม่ดีทั้งหลายตลอดจนวิญญาณร้ายจะกลายเป็นอาหารที่สิบเทพอสูรคณะไภรวะท่านเสพย์ท่านกินไปหมดสิ้น แม้มีใครคิดร้ายต่อเราไม่ต้องพูดอะไรมากหรอกเตรียมดูความพินาศฉิบหายของคนเหล่านั้นได้เลยไม่มีใครตายดีซักคนถ้าเข้ามารังแก "ลูกของพ่อ" และ "ลูกของครู"

    คาถาบูชา
    โอมยักษะ สะวะรูปายะ ชะตาธะรายะ ปินากะ หัสตะตายะ สะนาตะนายะ ทิวะยายะ เทวายะ ทิคัมพะรายะ ตัสไม ยะการายะ นะมะศิวายะ

    *** อย่าประมาทแรงครูนะผู้ดูถูกครูย่อมไม่พบความเจริญ เครื่องมงคลชุดนี้ฉันใช้ของสูงมาสร้างมาทำ มีไม่กี่องค์หรอกเพราะหัวครูแบบนี้หาคนเต็มใจมอบให้ยากยิ่งเก่าเขายิ่งหวงต่อให้สลายกลายเป็นฝุ่นก็ยังมีค่าสำหรับเขา แรงครูชั้นสูงสุดที่ผ่านพิธีกรรมมายาวนานแบบนี้ใครรับไว้ก็มีแต่เจริญก้าวหน้าด้วยครูนำพา หากแต่ไม่ใช่ครูธรรมดาแต่เป็นครูสูงสุดฝ่ายเทพอสูร ถ้าจะห้อยเล่นๆก็ไม่ต้องเอาไปแต่หากจะฝากตัวฝากใจอย่าให้ท่านช่วยให้รวยก็มาเอาไปห้อย ..ห้อยแล้วอย่าถอดออกจากคอไม่มีเสื่อมถอยไม่มีข้อห้าม ถ้ารักครูนับถือครูอยากได้แรงครูสูงสุดค่อยมาเอารายการนี้

    *** พ่ออาจารย์ท่านให้เปิดจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น


    ร่วมทำบุญบูชา เขี้ยวเกี้ยวสุรกานต์พระไภรวะสูบหมื่นมารพ้นบาปทั้งปวง(พันตะกรุดครูช่วยคน) บูชา 2,000 บาท


     
  12. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    เขี้ยวชุดนี้แรงครูสูงนะครับ พ่ออาจารย์ท่านเปรยเอาไว้ว่าของโบราณแบบนี้มีแต่คนจะหาจะเก็บเพราะเพชรยังไงก็เป็นเพชร มันผ่านกาลเวลาการประทับแรงครูจนเสื่อมสภาพนี่คือยอดขลังเลยนะเป็นที่สุดของอาถรรพ์แรงครู ท่านว่าของแบบนี้ต่อไปจะหาที่ไหนไม่ได้เลยทุกวันนี้ก็แทบหามาครอบครองไม่ได้แล้ว วันนึงรอตนมีเงินแล้วกำเงินหมื่นรึเงินแสนไปขอซื้อคนที่เขามีแล้วจะรู้..ว่าไม่มีใครขายเผลอๆเขาจะด่าคนตื้อเอาด้วยเพราะของเช่นนี้ประเมิณราคาไม่ได้เลยเพชรยังไงก็เป็นเพชรเสมอไปเป็นศิษย์เป็นครูกันแล้วย่อมไม่มีใครกล้าขายครูตน...เพราะศิษย์ได้ดีที่ครูดีเช่นนี้
     
  13. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    พรุ่งนี้จะมีการปรับขึ้นราคาเครื่องมงคล 2 รายการนะครับ แจ้งไว้ล่วงหน้า รายการหนึ่งเป็นรายการที่แจ้งไว้แล้วส่วนอีกรายการหนึ่งเป็นมงคลปกาสิทธิ์..ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านย้ำมาตลอดว่ามีค่ามากกว่าเพชร ใครที่จองทันสองรายการนี้ในราคาก่อนปรับจองถือว่าดีใจด้วยจริงๆโดยเฉพาะรายการล่าสุดนั้นอีกหลายสิบปีท่านก็หาของวิเศษที่แรงครูสูงแบบเต็มลิมิตเช่นนี้ยากมากๆไม่ได้ ใครจับจองทันก็ดีใจด้วยโดยเฉพาะเขี้ยวแก้วนั้นท่านว่าแรงจนทำลายอำนาจเทพศาสตราได้..ถ้าใช้แทนเทพอาวุธนี่ปราบได้ทุกอย่างแม้แต่เทพอาวุธด้วยกันเอง

    ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านอุปมาไว้ว่า
    เขี้ยวพระพิราพ(ไภรวะ)นี่สำคัญมากเช่นใด ก็ให้ดูอย่างพระเคณศท่านสิแม้งาที่หักแล้วท่านก็ยังถือไว้ตลอดเวลาซ้ำยังใช้ซัดอสูรตายไปมากต่อมากเพราะของแบบนี้มันแก้ทางพวกกายสิทธิ์มีกายอมตะไม่ตายด้วยอาวุธใดๆได้ทั้งนั้น เขี้ยวพระไภรวะก็มีคุณดุจเดียวกันเช่นนั้นที่จะต่างกันก็คือนอกจากความร้อนแรงสูงสุดยิ่งกว่าไฟนรกอันกำราบปีศาจทั้งหลายยังมีบารมีครูชักนำยกดวงให้เราไปพร้อมๆกันด้วย
     
  14. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    มีประสบการณ์เข้ามาเล่าก็เลยก้อปๆไว้มาลงแชร์ต่อ

    ผมชอบนะสีผึ้ง ทาประจำแต่เด็กจนติดนิสัย แม่หุงให้ ผมปากแห้งแตกลอกจึงขาดสีผึ้ง(นวด)ไม่ได้ อาบน้ำเสร็จต้องทาไม่งั้นอยู่ไม่ได้ ปากมันแห้งๆหน้ามันตึงๆยังไงไม่รู้ แล้วก็ทาเรื่อยๆทั้งวัน สีผึ้งเขียวที่บูชามาก็แหว่งลงไปเยอะแล้วครับ

    สัปดาห์ก่อนน้องผู้หญิงที่ทำงานด้วยกันมีอาการคล้ายโดนของ เพลีย ปวดตามตัวไม่มีสาเหตุ หวัดไข้ไม่มี พอสวดมนต์แล้วดีขึ้นว่างั้น ผมเลยล้วงตลับสีผึ้งเขียวออกมาทาที่ฝ่ามือให้ทั้ง2ข้าง ก็ไม่บอกหรอกว่าอะไร บอกแต่ว่าลองทาดูเผื่อดีขึ้น หลายวันต่อมาเลยถามอาการ เห็นว่าปรกติแล้ว แต่แปลกๆ รู้สึกว่าใจเย็นๆนิ่งๆ จากปกติซื้อหวยรายวันจากเวบไซต์ สารพัดหวย ลาว ฮานอย ออมสิน หุ้น ยันหวยหุ้นยุโรป แต่ตอนนี้หมดอยาก มันไม่อยากซื้อไปเฉยๆ ว่างั้น
    ผมนี่ขำในใจเลย เออ..คงโดนฤทธิ์สีผึ้งพ่ออาจารย์แน่แล้ว ขนาดทาแค่ครั้งเดียวนะเนี่ย ร้ายจริงๆ 555
     
  15. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ช่วงนี้มีแต่คนเล่าประสบการณ์สีผึ้งกับน้ำมันมาเยอะมากจริงๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาไล่ๆพูดคุยกันนะครับ
     
  16. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    มีแจ้งเรื่องพระไภรวะชุดล่าสุดมาก็เลยก้อปเอามาให้อ่านกันไว้ว่าแรงจริง

    เมื่อคืนอาราธนาพระไภรวะทำสมาธิ มีนิมิตเศียรครูพ่อยักษ์ครอบหัวแบบสมจริงเลย แถมเศียรครูซ้อนทับกันเป้นชั้นๆแนวตรงสูงเป็นสิบๆเศียรหลายสี แต่หน้ายักษ์ทั้งหมด

    แถมปวดหัวฝั่งขวาจี๊ดๆๆๆทั้งคืน

    ครูแรงมากครับอาการแบบนี้คือแรงสุดๆ
     
  17. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ร่วมทำบุญบูชา เครื่องมงคลแห่งความบังเอิญตะกรุดขอ,ได้,ให้,เป็นพันชะตามหาขุมทรัพย์(บังเอิญจะมี)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในกาลปัจจุบันนั้นทุกข์เข็ญหาง่ายกว่าความสุข ตั้งแต่ยุคนี้สืบต่อไปตัวทุกข์สารพัดที่จะเกิดขึ้นได้ในสังสารวัฏจะแสดงผลออกมาที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็นเองกับตา เรียกว่าของเก่าไม่ทันหายก็เกิดเรื่องใหม่ๆมาให้อกสั่นขวัญผวากันไปเรื่อยๆ ที่เป็นการกระทำจากการบงการโดยอสูร,ปีศาจ,รากษสเหล่านี้ก็มากที่เกิดจากภัยระบาดด้วยการครอบงำของนักบวชด้านมืดซึ่งทำให้เทวดาหลงผิดได้ก็มีท่านว่านี่ยังไม่รวมไปถึงการทำคุณไสยอวิชชาที่นับจากนี้ต่อไปจะเข้มข้นรุนแรงกันมากขึ้นเพื่อหวังเอาชัยชนะซึ่งกันและกันจากจิตใจคนนที่ตกต่ำ เช่นนั้นเครื่องมงคลที่สร้างขึ้นต่อไปมันไม่ใช่แค่หนุนให้คนรวยก็ใช้ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว

    การเปลี่ยนผ่านของยุคสมัยร้ายแรงนัก..แล้วจะรอดไปได้ซักกี่วัน
    เธอสังเกตุกันหรือไม่ว่าตั้งแต่โลกตกอยู่ในความปั่นป่วนนี้วัตถุมงคลบางอย่างแม้แต่ของที่ใช้กันใช้แก้ที่เคยใช้ได้ผลมาในปัจจุบันนั้นกลับไม่ได้ผลอะไรเลย..ไม่ใช่ตัวของมันเสื่อมหรือใช้ไม่ได้นะ ยิ่งถ้าเป็นของเกี่ยวข้องกับดวงชะตาด้วยแล้วกลับให้ผลลดลงไปมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมาถึงจุดที่กำลังและพลังงานเปลี่ยนผ่านตัวเรามาเกิดอยู่ในช่วงจังหวะเวลาที่คาบเกี่ยวการเปลี่ยนผ่านยุคสมัย ตรงนี้เองที่ทำให้ความอัตคัดขัดสนมันรุนแรงมากขึ้นทั้งแก้ไขได้ยากแบบเดาทิศทางคาดการณ์ไม่ได้เลย การที่จะกันแก้เปลี่ยนชะตาให้ครบจบกระบวนความจึงเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่เดิมนั้นมืดมนแต่ก็ยังมีแสงสว่างสุกสกาวให้ได้เห็นเป็นคำตอบ ครูพรหมท่านว่าก็ความบังเอิญไง..บังเอิญจะมี..บังเอิญจะได้..บังเอิญจะเป็น..บังเอิญจะเกิด..บังเอิญจะรวย..บังเอิญจะสุข..บังเอิญไม่ทุกข์เหมือนใคร ก็ความบังเอิญเหล่านี้เองที่ไม่คาบเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยไม่ข้องแวะด้วยพลังฟ้าดินซึ่งไม่เสถียร..ไม่ข้องแวะด้วยชะตาคนซึ่งรับเอากำลังฟ้าดินโดยตรงเหล่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลแห่งความบังเอิญนี่สร้างยากที่สุดนะเพราะมันท้าทายเรามาก เรียกว่าเป็นของปราบเซียนจริงๆมีคุณลบล้างอำนาจอันไม่ชอบธรรมออกไปได้รวมไปถึงพวกคนที่ให้โทษคอยขัดแข้งขัดขาเกะกะระรานในชีวิตเราด้วยลบหายไปเลย..เหนือสิ่งอื่นใดเลยที่ครูพรหมท่านบอก คือความบังเอิญให้สบายใจไม่มีมือที่สามที่สี่มาเกาะแกะชีวิต,ไม่โดนคนอื่นหาเรื่องใส่ตัวเอาความเดือดร้อนมาพัวพันเราไปด้วย ศาสตร์แห่งความบังเอิญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำมาแล้วแหกคอกไปหมดทั้งกระบวนการเลยนะ
    - ข้อแรกมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุญเก่าเลยวว่าจะมีมากน้อย..หรือไม่มี บังเอิญก็คือบังเอิญได้
    - ข้อสองมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับบารมีหรือความประพฤติอะไรทั้งสิ้น เพราะความเอิญก็คือบังเอิญเกิดขึ้น
    - ข้อสามมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะความยากดีมีจน เพราะความบังเอิญก็คือบังเอิญรวย
    - ข้อสี่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงสนันสนุนใดๆรอบข้างแม้แต่สติปัญญาตนเอง เพราะความบังเอิญไม่ได้เลือกจะเกิดที่คนฉลาดหรือคนโง่
    - ข้อห้ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราจะเคยเป็นอย่างไรมาก่อน เพราะความบังเอิญมันบังเอิญเกิดกับคนได้ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ

    นั่นแหละพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าอย่าไปใช้เหตุผลกับมัน เครื่องมงคลชิ้นนี้คือเครื่องมงคลแห่งความบังเอิญที่ไม่ต้องการเหตุผลหรือพลังงานบุญ,พลังงานบาป,พลังงานฟ้า,พลังงานดิน,พลังการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยหรือแม้แต่พลังงานใดๆมารองรับ มันคือเครื่องมงคลที่ใช้แหกคอกได้โดยปริยาย ท่านจึงเรียกสั้นๆแค่ "บังเอิญจะมี" ก็บังเอิญจะมี..บังเอิญจะเกิด..บังเอิญจะรวย..บังเอิญจะรอด..ไม่ต้องการเหตุผลหลักการประกอบใดๆให้รวยแบบฟลุ๊คๆ..ให้รอดแบบฟลุ๊คๆ..ให้สบายแบบฟลุ๊คๆ..ให้มีความสุขแบบฟลุ๊คๆ เช่นนี้ ปัดเหลือบไรลิ้นเห็บหมัดที่คอยเกาะกินสูบเลือดสูบเนื้อในวงจรชีวิตเราออกไปเป็นเครื่องมงคลแห่งความบังเอิญที่สุดท้ายแล้วท่านว่า "จะบังเอิญตั้งตัวได้และบังเอิญลืมตาอ้าปากได้ยามอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านยุคสมัยนั่นเอง"

    ท่านว่าเครื่องมงคลชุดนี้ท่านทำออกมาเป็นตะกรุดซึ่งครูบรมพรหมท่านกำชับไว้เลยว่า
    - เอาไว้ใช้เยียวยารักษาบาดแผลที่เกิดขึ้นยามเปลี่ยนผ่านยุคสมัยอันยาวนาน
    - เอาไว้บรรเทาอำนาจพิบัติภัยในสังสารวัฏให้ทุเลาเบาบางจางหาย
    - เอาไว้รบกับความไม่แน่นอนในชีวิต
    - คนที่เคยได้รับผลหนักแม้ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวก็จะเบาลง


    ตะกรุดนี้เปรียบดั่งมงคลวัตถุที่คอยเยียวยาเธอไม่ว่าจะอยู่ในสภาพย่ำแย่มามากแค่ไหนทั้งไม่มีอำนาจใดจะปิดกั้นมันได้ไม่ว่าอำนาจฟ้า,อำนาจดิน,อำนาจคน,อำนาจสังสารวัฏ...เพราะกรรมบังเอิญอยู่เหนืออำนาจเหล่านี้จึงไม่มีอำนาจฝ่ายใดยับยั้งหรือทำลายการเยียวยาด้วยกำลังความบังเอิญนี้ได้ ท่านว่าจะมีทุกสิ่งสมบูรณ์พร้อมตามแนวทางหน้าที่การงานของตนแบบสง่างาม ฉันย้ำนะว่าแบบสง่างามผ่าเผยเลยก็คนมันจะบังเอิญมีบังเอิญเกิด...ดั่งที่คนเขาว่ากูจะฟลุ๊คกูจะรวยแล้วจะทำไมอิจฉากันเข้าไปสิ มันก็เป็นแบบนี้แต่อำนาจแห่งความบังเอิญนี้ไม่ใช้ใช้แค่เพียงผิวเผินดังกล่าวเท่านั้นหากแต่ยังลบอำนาจของผลพวงหลักๆใหญ่ๆที่จะบ่อนทำลายเราไปด้วย

    1. จะบังเอิญให้เกิดความรุ่มร้อนแก่ภูติผีปีศาจวิญญาณร้ายรอบข้างเราทั้งหมด
    2. ทิพย์กายใดๆที่ตกอยู่ในความหลงผิด..ที่เดินตามศาสตร์มืดมนต์ดำจะบังเอิญให้หัวแตกเป็นเจ็ดภาคหากมาทำลายเรา
    3. หน่อเนื้อเผ่าพงษ์บริวารภูติผีปีศาจที่ปล่อลมเพลมพัดมาหรือจะริษยาตั้งใจทำลายเราก็ดีจะขยาดขลาดกลัวเหมือนถูกไฟนรกเผา
    4. คนที่ต้องอาถรรพ์ไสยเวทย์แบบหาสาเหตุไม่ได้จะคลี่คลาย
    5.
    ความเสื่อมที่เคยประสบพบมา..จะไม่วกกลับมาทำลายข้องเกี่ยวกับเราอีก เมื่อพ้นความทุกข์ยากใดๆแล้วนั่นคือพ้นเลยนะ พ้นแบบหายขาดเลย(วิชานี้มันอัศจรรย์ตรงนี้หายขาดแบบไม่เจอซ้ำซากไปทั้งชีวิต)
    6. กรรมที่มีตัว
    ..มักจะกำเริบเรื่อยๆ..เคลื่อนที่ไปเรื่อย..เล่นกับชีวิตเราเรื่อยๆวนเวียนอยู่กับเรามาสนองเราเป็นรอบๆเป็นวาระจะระงับไป
    7. เมล็ดพันธุ์แห่งภูติผีปีศาจ ไสยศาสตร์มนต์ดำที่เคยกินตัวเรามาแต่ก่อนที่ซ่อนลึกอยู่ในกระดูกในเลือดเนื้อแบบฝังเข้ากระดูกดำจะเหือดแห้งไปดุจโดนสูบลงกระทะทองแดง
    8. ภูติผีปีศาจที่เคยแฝงร่างจะถอยออกจากร่าง
    9. การรอเวลา..การประทุของเวรกรรมขั้นรุนแรงจะสงบระงับไป เปิดโอกาศให้ได้ก่อกรรมดี


    ### ก็เมื่อสิ่งเหล่านี้หมดไปจากร่างกายอย่างสิ้นเชิงแล้ว นั่นแหละคือที่มาของการขอ,ให้,ได้,เป็น...คือเหตุที่จะเกิดความบังเอิญทั้งหมดขึ้นได้ หากยังติดขัดสิ่งหนึ่งสิ่งใดอยู่ความบังเอิญย่อมเกิดขึ้นไม่ได้เลย แบบนี้แหละครูบรมพรหมท่านถึงบอกเราว่าทำยากและท้าทายมากเพราะวิชาที่ลงตะกรุดมันส่งผลเป็นค่ายกลลบล้างสิ่งต่างทั้งเก้าขั้นแบบต่อเนื่องพร้อมๆกันก่อนจะสนองความบังเอิญให้เกิดขึ้น..เมื่อเกิดความบังเอิญดังนี้จึงขอให้ได้เป็นทุกสิ่ง..บังเอิญขอแล้วได้..บังเอิญให้ก็เป็น

    คนที่เคยตกทุกข์ได้ยากทั้งที่ทราบสาเหตุ..หรือแบบไม่ทราบสาเหตุหาทางแก้ไขมากมายก็ล้มเหลวที่ว่าชีวิตเจอมาหนักๆวนเวียนซ้ำซาก เวลาใช้ตะกรุดนี้ต้องอดทนเล็กน้อย

    - หากเป็นกรณีความผิดปกติที่เกิดด้วยโดนกลั่นแกล้งหรือสิ่งทีมองไม่เห็นประการต่างๆ ที่เรียกว่าซวยซ้ำซวยซากทุกข์ซ้ำซ้อนท่านว่าจะมีอาการประทุออกมา เมื่ออาราธนาตะกรุดจะรู้สึกหน้ามืด(แค่ช่วงแรกๆต้องทนเอา) หรืออาจจะอ่อนเพลียรู้สึกกระอักกระอ่วนข้างในมันคือการที่ ไอ้ตัวที่เรามองไม่เห็นนั่นแหละจะประทุออกมาต้องทนให้ได้พอผ่านแล้วก็ผ่านเลยจะไม่กลับมาทุกข์ซ้ำซ้อนอีก

    - ในกรณีที่มีผีแฝงมีแรงอาฆาตพยาบาทกรรมเวรใดๆแฝงตัวอันนี้ก็เหมือนกัน เมื่อตะกรุดอยู่กับตัวผีมันจะทรมานและเพราะมันอยู่ในตัวเราจึงทำให้เราเกิดอาการกระสับกระส่ายบ้าง(ในกรณีคนที่โดนมาหนักแต่ก็จะเป็นเพียงช่วงแรกๆที่รับตะกรุดไปใส่) ไอ้ตัวที่มองไม่เห็นที่ว่ามันดื้อด้านวนเวียนป้วนเปี้ยนไล่ไม่หายไปจากชีวิตเราซักทีนั่นแหละจะไม่กลับมารบกวนอีกเลย

    - ถ้าในตัวเราโดนคุณโดนของไปทับไปจมกับอาถรรพ์เจอลมเพลมพัดอะไร พอห้อยตะกรุดนี้ไว้มันจะขับบางครั้งเราก็จะเรอหรือผายลมออกมาแบบบูดเน่า บางครั้งก็จะอ้วกเอาสิ่งแปลกปลอมในร่างกายออกมาท่านว่าเป็นครั้งเดียวหายเช่นกัน

    - หากอยู่ในสถานที่ซึ่งผีหรือเทวดาให้โทษแล้ว เอาเอาตะกรุดแช่น้ำทำน้ำมนต์สาดให้ทั่วที่ว่าให้โทษทั้งที่ดุที่เฮี้ยน ที่มันทำลายเราทำร้ายเราก็ดี..คอยกลั่นแกล้งเราก็ดีจะอยู่ไม่ได้เลย

    - เมื่ออาราธนาตะกรุดหากแต่เดิมชีวิตเราเจอแต่เรื่องยุ่งยากไม่หยุด หากเรารับเอาอาถรรพ์ลี้ลับทับถมมาเรื่อยๆจนมากเกินไปโดยไม่รู้ตัวก็เป็นเหตุให้ชีวิตเจอปัญหาต่อเนื่องได้ไม่จบไม่สิ้น เหมือนเราแบกรับภาระหนักในทุกๆวันยิ่งมีชีวิตอยู่ต่อหนึ่งวันภาระก็ยิ่งหนักขึ้น ตะกรุดนี้จะล้างเรื่องยุ่งยากพวกนี้ออกไปโดยตรงทำลายอาถรรพ์ร้าย ถ้าใครโดนตรงนี้แล้วห้อยตะกรุดไปเราจะรู้สึกวาตัวเราโล่งเบาสบายอย่างน่าประหลาด..นั่นคือไม่มีภาระแล้วไม่มีไอ้ตัวอาถรรพ์ถ่วงชีวิตแล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดตัวนี้มันเคลียร์ปัญหาหมักหมมในชีวิตเราตรงๆเลย ก็คือเคลียร์หมดจะออกอาการแปลกๆดั่งว่าข้างต้นยิ่งคนที่โดนมาหนักหรือเจอมมามากก็จะยิ่งอาการหนักแต่แป๊ปเดียววันสองวันก็หาย มันเคลียร์ระบบเราก่อนที่จะเจอเรื่องบังเอิญต่างๆเปลี่ยนแปลงตัวเอง

    แต่ทั้งนี้ท่านก็อธิษฐานและเฝ้าแต่คาดหวังและอธิษฐานจริงๆว่าให้ได้แต่คนที่มีจิตใจดีๆเอาไปใช้เถิดพราะความบังเอิญเรื่องดีๆมันตกแก่เราเนืองๆทั้งหมด แต่...ท่านว่าคนที่ถือตะกรุดนี้มีสิทธิ์ทำให้คนที่เราเกลียดที่เราแค้นที่เราชังบังเอิญโชคร้าย,บังเอิญซวย...และสารพัดความบังเอิญด้านลบได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้ทำเด็ดขาดอย่าลืมว่าที่เราตั้งใจบูชาตะกรุดก็เพื่อเร้นเคราะห์ซ่อนกรรมใช้ความบังเอิญเอาโชคชัยให้กับชีวิต

    *** อย่าพาลทุจริตเอาตะกรุดไปใช้ทำกรรมเพิ่มแก่คนอื่นใส่ตัวเลย เพราะคุณตะกรุดนี้หากเอาไปแกล้งไปรังแกคนอื่นจะส่งผลถึงตัวเองเช่นกัน..มันเท่ากับเราผูกกรรมและกลับไปเหยียบในวงจรกรรมนะ


    ตะกรุดขุมทรัพย์แพะทองคำ
    พ่ออาจารย์ท่านเอาตะกรุดมาพันด้วยวิชาก้นหีบของท่านคือวิชาทำตะกรุดขุมทรัพย์แพะทองคำ
    เป็นปกาศิตครูจะได้พันชะตาให้พัวพันข้องเกี่ยวกับมหาขุมทรัพย์ ให้มีทรัพย์เกิดขึ้นจากภายในกลืนราชาทรัพย์..กลืนความบังเอิญทั้งสิ้นไว้ในชีวิตเรา
    อันท่านตั้งชื่อตะกรุดนี้ตามอานุภาพของพระยันต์ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาชั้นยอดที่ท่านสืบมาจากครูซึ่งเรียนต่อมาจากหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วอีกคำรบหนึ่ง โดยท่านไม่เคยนำมาสร้างตะกรุดแต่อย่างใดเลยจนกาลต่อมาท่านปรารถนาจะทำเครื่องมงคลเพื่อเป็นสิ่งระลึกถึงหลวงปู่บุญและเป็นกำลังใจให้ผู้บูชา ท่านจึงตัดสินใจสร้างตะกรุดนี้องค์ที่ว่ากันว่าหลวงปู่บุญท่านจะทำให้เฉพาะกับคนที่มีความคุ้นเคยสนิทชิดเชื้อแต่เพียงเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเพราะเป็นวิชาที่มีอานุภาพมากจะบันดาลให้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียว..ไม่มีทุกข์โทษโทสาใดๆเลย ที่เห็นไว้คนที่มีสืบต่อกันมาก็เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งมีเกียรติคุณระดับชาติทั้งนั้นไม่ตกอยู่ในมือเจ้าสัวก็เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินวิชานี้จึงถือว่าสำคัญนัก


    พ่ออาจารย์ท่านจึงดำริตั้งใจทำบูชาพระคุณหลวงปู่บุญเสียวาระหนึ่งจึงได้บอกกล่าวขออนุญาติหลวงปู่และขอให้ท่านเมตตามาช่วยลงพระเวทย์ปลุกเสกให้เสมอเหมือนกับตะกรุดที่ท่านเคยสร้างไว้แต่เก่าก่อน ตะกรุดนี้มีพรรณคุณวิเศษนานัปประการ
    -ด้วยว่าจะดลบันดาลให้ทุกสิ่งพบกับความสำเร็จ
    - เป็นฐานมั่นคงให้ผู้บูชาเจริญรุ่งเรือง
    - ซ้ำยังมีคุณดุจดวงแก้วมณีนพรัตน์อันเกิดแต่บุญญาภิสมภารพระมหาจักรพรรดิ์ เป็นดวงแก้วสารพัดนึกสุกสว่างที่จะประกอบการสิ่งใดนึกคิดอะไรก็สามารถฉุดดึงให้ผู้บูชาเจริญขึ้น
    - จะไม่ตกไปสู่ความมืด จะเจริญและมั่นคงในทุกกิจที่พึงกระทำ
    - จะทำอะไรก็สำเร็จไปหมดไม่มีคำว่าแพ้ว่าพ่าย ไม่มีคำว่าติดรั้งขัดสนต้องผจญอุปสรรค
    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดเวทย์วิชานี้มีอานุภาพกว้างเพราะสำเร็จด้วยพุทธานุภาพจึงมีอภินิหาริย์อย่างยิ่ง ปกติวิชานี้จะไม่ลงให้กับใคร..ไม่ใช่ว่ากับใครก็ได้เพราะเป็นวิชาเอก..มันให้คุณมากไป..ท่านกริ่งเกรงว่าจะเป็นโทษภัยใหญ่หลวงหากคนใจต่ำได้ไปครอบครอง


    ด้วยกาลเวลาและสถานการณ์ทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป พ่ออาจารย์ท่านจึงดำริว่าถ้าเรียนมาจะมัวแต่เก็บงำเอาไว้ก็ไม่สู่ฝังดินเสียดีกว่าอื่นไหนๆคนเขาก็เดือดร้อนทุกข์ยากกันถ้วนหน้าแล้วจะทำไว้เสียวาระหนึ่งจะเป็นอย่างไร ถือด้วยว่าทำบูชาพระคุณบูรพาจารย์ท่านจึงลงอักขระพระยันต์ไว้โดยตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุด
    - วิชานี้จะให้ผลทางด้านความเจริญรุ่งเรือง เสริมส่งให้ผู้บูชามั่นคงซ้ำยังเป็นดั่งแก้วสารพัดนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าตั้งจิตอธิษฐานขอเอาได้ถ้วนทุกประการ ทุกอย่างที่ขอจะตั้งอยู่บนฐานความสำเร็จ ถ้ามีกฏแห่งกรรมมาเกี่ยวเนื่องฉุดรั้งไว้ด้วยอานุภาพตะกรุดจะแปรเปลี่ยนให้เป็นไป ที่ว่าหนักก็จะเบาที่ว่าเบาก็จะหายไปจะไม่ให้ขุ่นข้องเจ็บเนื้อช้ำกายแต่อย่างใด ใช้ได้ครอบจักรวาล หากใช้เป็นสามารถปรับดวงจิตปรับภพภูมิของตนและสรรพสัตว์ได้ ตีค่าไว้เสมอด้วยดวงแก้วคู่บารมีบรมจักรพรรดิของหน่อพระพุทธเจ้าโดยแท้จริง
    - ให้อิทธิคุณสูงสุดทางด้านโชคลาภการทำมาหากิน..การเสี่ยงโชค ความเจริญลาภผลเงินทอง แม้ไม่ปรารถนาหรืออธิษฐานแต่อย่างใดก็จะมีโชคลาภความสุขสบายเข้ามาหา


    เมื่อทำวิชานี้ท่านได้อธิษฐานจิตเชิญครูปลุกเสกอยู่ร่วมขวบปีจนสำเร็จโดยเฉพาะแผ่นยันต์มีรัศมีส่องออกมาเป็นแสงประกายพฤกษ์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเต็มแล้ว ต่อจากนี้จึงเชิญบารมีเฉพาะของเมณฑกเศรษฐีมาครอบอีกหนหนึ่งจะได้สำเร็จประสงค์ พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานเชิญเมณฑกเศรษฐีขอบารมีเฉพาะทางของท่านให้ผู้บูชาร่ำรวยมีความสุข โดยบอกท่านว่า
    - ขอให้เค้าตั้งตัวได้
    - คิดสิ่งใดก็สมปรารถนาสำเร็จโดยไว
    - ที่สำคัญคือได้อะไรมาง่ายๆแบบสบายๆ

    จากการเสกด้วยบารมีของเมณฑกเศรษฐีจึงปรารกฏฝูงแพะทองคำขึ้นมาจำนวนมาก แผ่นยันต์แต่ละแผ่นได้เปลี่ยนไปกลายเป็นแพะทองคำพ่ออาจารย์ท่านว่าแผ่นยันต์นี้ท่านตั้งชื่อให้ว่ายันต์ขุมทรัพย์แพะทองคำ เพราะเป็นของมงคลที่มีคุณใหญ่ดุจแก้วพระมหาจักรพรรดิ์เป็นแก้วสารพัดนึกซ้ำยังได้บารมีของเมณฑกเศรษฐีอธิษฐานจิต

    ซึ่งแพะทองคำของเมณฑกเศรษฐีนั้นเป็นแพะสารพัดนึก..ที่จะปรารถนาเงินทอง..เสื้อผ้าแพรพรรณ..อาหาร..หยูกยารักษาโรค..ทุกสิ่งหากมีประสงค์เพียงแต่ดึงด้ายออกมาจากปากแพะ..ก็จะได้สมปรารถนาในทุกสิ่งเรียกได้ว่ามีครบรสถ้าปรารถนาความรุ่งโรจน์มั่นคงและความร่ำรวย ท่านจึงเอาแผ่นพระยันต์นี้มาม้วนกลืนไว้ด้านนอก

    ### ในตะกรุดทุกดอกจะบรรจุมหาธาตุผงคตวิเศษต่างๆทั้ง 108 ชนิด ท่านว่าบางอย่างมีมูลค่านับหมื่นนับแสน..บางอย่างก้หายากยิ่งกว่าหาหนวดเต่าเขากระต่าย จึงทำให้ตะกรุดนี้มีอำนาจกายสิทธิ์คงทนไม่มีวันเสื่อมถอยในอานุภาพ เปล่งประกายออกมาจากภายในเจิดจ้าเสมอตะวันพันดวง ท่านว่ามหาธาตุต่างๆภายในนั้นครูบรมพรหมท่านให้บรรจุไว้เสริมกำลังตะกรุดนี้ให้อยู่เหนืออำนาจฟ้าดินขึ้นไปอีก 108 ขั้น เป็นเคล็ดว่าปิดหนทางตกระกำลำบากเพราะคตวิเศษเหล่านี้มีอานุภาพต่อต้านกำลังฟ้าดินได้โดยตรง

    ### รายการนี้ไม่มีคาถา..ไม่ต้องอธิษฐาน...เพียงแค่พกทุกอย่างก็ทำงานของมันทันที

    ### รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพียง 8 ดอก แต่ท่านทำสายห้อยคอท่านเองไปแล้วคู่หนึ่ง ใครจองทันก้นับว่าเป้นที่สุดแห่ง..ความบังเอิญอย่างแท้จริง

    ร่วมทำบุญบูชา เครื่องมงคลแห่งความบังเอิญตะกรุดขอ,ได้,ให้,เป็นพันชะตามหาขุมทรัพย์(บังเอิญจะมี) บูชา 4,000 บาท


     
  18. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ใครได้พบได้อ่านเรื่องราวตะกรุดรุ่นนี้ท่านว่าจะตาสว่างและเข้าใจเรื่องที่ตนเองตกระกำลำบากมานานนมซึ่งเป็นความลับสวรรค์ให้มนุษย์ดินรนหาทางแก้ไขไปวันชนวันคืนชนคืน แต่ตาสว่างแล้วก็ยังไม่เท่าเร็วพอจะเอามาใช้จะจองทันกันรึเปล่า ท่านว่านั่นก็ให้ความบังเอิญมันพาไป
     
  19. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็อย่างที่พ่ออาจารย์ท่านว่าไว้ว่าขอให้ความบังเอิญเลือกเธอ และก็ขอให้เธอบังเอิญเลือกมันเช่นกัน ท่านว่าตั้งแต่ทำเครื่องมงคลมาไม่มีอะไรจะสบาย..ได้ง่าย..ได้ตลอด..ได้ไปหมดเหมือนรุ่นนี้ ถ้าไม่ดีจริงท่านคงไม่ใช้เองถึงคู่หนึ่งแต่ก็นั่นแหละครับคนที่จะครอบครองเครื่องมงคลชุดนี้ท่านว่ามันมีเจ้าของที่ถูกบัญญัติไว้ทั้งหมดแล้ว

    *** แค่อ่านเรื่องของมันทันก็นับว่าโชคดีแล้วที่เกิดมาเจอเครื่องมงคลอะไรที่แปลกขนาดนี้ แต่ถ้าจะเอามาครอบครองให้ได้ก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะต้องให้ความบังเอิญมันพาไป..เป็นเหตุการณ์บังเอิญซ้อนชีวิตที่จะแก้ไขให้บังเอิญหลุดพ้นจากอำนาจรอยต่อยุคสมัยซึ่งหาจุดสิ้นสุดไม่ได้
     
  20. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,471
    ค่าพลัง:
    +16,550
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นทับถมมงคลสิริสมดุลอาถรรพ์เศวตเวทย์(แมงปอกลับธาตุ)

    - พ่ออาจารย์ท่านได้ซุ่มทำหุ่นแมงปอเก็บไว้ ...โดยอัดตราส่วนการหล่อหลอมคือตะกรุดมงคลเศวตเวทย์...1ดอก เท่ากับแมงปอ 1 ตัว แต่ท่านให้บูชาในราคาเดิมเท่าตะกรุดเหมือนเดิมคือ 4,000 บาท
    - วิชานี้เป็นวิชาที่ให้ผลรุนแรงซึ่งมีคนขอให้ท่านทำรุ่นสองมาตลอด...แต่ท่านไม่เคยทำให้ใครเพราะได้ทำหุ่นแมงปอซุ่มเสกไว้นานแล้ว
    - หุ่นเศวตเวทย์นี้ ..พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อนำมาทำเป็นหุ่นมีรูปนามลงธาตุลงอาถรรพ์วิชาครบสำเร็จเป็นตัวตนจะแรงกว่าตอนเป็นตะกรุดซักร้อยเท่า..ทั้งยังให้คุณเร็วกว่าเดิมซักพันเท่า

    นี่จึงเป็นเหตุผลที่พ่ออาจารย์ท่านเก็บงำหุ่นทับถมมงคลสิริ(หุ่นแมงปอไว้เสมอ) เพราะด้วยคุณเศวตเวทย์ซึ่งเป็นเวทย์ฝ่ายขาวขั้นสูงจะเกิดอะไรขึ้นหากมันแรงและเร็วกว่าตอนเป็นตะกรุดซักร้อยเท่าพันเท่า ..นั่นย่อมหมายถึงความสมดุลย์แห่งทุกสิ่งในชีวิตจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทั้งหุ่นแมงปอทุกตัวท่านจะลงจารพระเวทย์กำกับให้ตามฐานหน้าที่การงาน...ลงวิชาให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่อยากได้..อยากรับ..ต้องการให้ตนเองเป็นคนประสบความสำเร็จด้านไหนเรื่องอะไรท่านก็จะลงกำกับให้หุ่นแมงปอเป็นพิเศษด้านนั้นๆ

    กว่าจะมาเป็นหุ่นทับถมมงคลสิริ(หุ่นแมงปอ)
    พ่ออาจารย์ท่านเคยปรารภถึงวิชาแมงปออยู่หลายครั้งแต่ท่านก็ยังไม่ใคร่ทำ จนหลายครั้งมีผู้นำแมลงปอสำนักต่างๆที่ศูนย์พระสร้างมาให้ท่านตรวจสอบ ก็กลับพบว่าแมงปอเหล่านั้นผู้สร้างยังไม่รู้แม้แต่หัวใจของแมลงปอไม่มีการลงหัวของแมลงปอเลย ท่านว่าป่วยการที่จะพูดอะไรมากกว่านั้นว่าเสกไปได้อย่างไร หลังจากนั้นท่านมีนิมิตเชื่อมต่อเข้ากับอารยธรรมยุคบรรพกาลท่านจึงรู้และเห็นความสำคัญของวิชาแมงปอที่ว่า ทำไมทุกคนถึงควรที่จะมี..วิชาแมงปอนี้สำคัญเพียงไร..สูงส่งแค่ไหนหากลงหัวใจและลงเต็มวิชาแล้วจะมีคุณมากเพียงใด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนจะรู้จักวิชาแมลงปอเพียงแค่ว่า เป็นวิชาชั้นสูงทางเรียกทรัพย์ เป็นวิชาทางมหาลาภ ด้วยแมลงปอมีนิสัยชอบอยู่ร่วมกันเป็นฝูง..จะอยู่ร่วมกันในบริเวณที่มีอาหารบริบูรณ์ ดังนั้นวิชาแมงปอนี้อยู่ที่ไหนที่นั่นจึงจะสมบูรณ์ ไพบูลย์เจริญรุ่งเรืองวัฒนาด้วยชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เพียบพร้อมไปด้วยอาหารการกินปัจจัยสี่แก้วแหวนเงินทอง ท่านว่าหลายๆคนจะรู้เพียงเท่านี้ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดอย่างใด แต่มันคืออานุภาพของแมลงปอแบบเต็มวิชาไม่ใช่แมลงปอที่ขาดหัวใจ

    ท่านว่าวิชาแมลงปอนี้สำคัญนัก นอกจากจะเป็นเลิศทางเรียกทรัพย์เรียกสิ่งที่ไม่มีให้มีเต็มคลังเต็มบ้าน ช่วยให้คนจนเป็นเศรษฐีอย่างง่ายๆ..ดีทั้งการทำมาหากินและเสี่ยงโชคทุกสถานเพราะเป็นสัญลักษณ์และวิชาแห่งความอุดมสมบูรณ์ที่สืบทอดมาแต่ยุคบูรพาจารย์แล้ว ท่านว่ามันก็ถูกแต่ยังไม่ใคร่ถูกเสียทีเดียวทั้งหมดวิชาแมงปอจริงแท้แล้วนั้น ที่ว่าเป็นวิชาสำคัญมากจนบูรพาจารย์แม้สั่งสอนศิษย์ก็ไม่ใคร่จะสอนทั้งหมดอาจจะมีปิดบังหัวใจหรือการลงบางอย่างทำให้ในชั้นหลังวิชาแมงปอเป็นแค่การเสกพยนต์ที่หนุนด้วยธาตุและคาถาต่างๆไป

    ท่านว่าโดยแท้จริงวิชาแมลงปอเป็นวิชาแห่งความสมดุล สิ่งใดที่มันยังขาดไปมันก็จะเต็ม..สิ่งใดที่มันเกินไปมันก็จะลดทอนทั้งอุปัทวอันตรายเคราะห์กรรมโรคภัยทั้งหลายเช่นนี้จะลดทอนไป ท่านว่ามนุษย์ที่เกิดมาตามกฏแห่งกรรมนี้มีอยู่แค่สองอย่างในความรู้สึกตน มีแค่สองสถานไม่มีมากไปหรือน้อยไปกว่านั้น หากมากไปนั้นก็ได้ชื่อว่าทุกข์..น้อยไปก็ยิ่งทุกข์อีกไม่ขาดก็เกินเป็นเช่นนี้ทุกคน

    - วิชาแห่งความสมดุลนี้เป็นวิชาสายกลางเป็นวิชาของความพอดี ซึ่งจะปรับสมดุลย์ธาตุตลอดจนวิถีชีวิต
    ไม่ให้มีมากหรือน้อยเกินไป ท่านว่าที่ว่ามีพอดีนั้นคือมีความสุข วิชาแมลงปอหรือตะกรุดแมงปอกลับธาตุนี้จึงเป็นวิชาอันจะนำมาซึ่งความสุขแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดย่อมได้ชื่อว่าห่างไกลจากทุกข์ พูดง่ายๆคือถึงขั้นนิรทุกข์ทีเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะพุดว่า แมงปอนั้นเค้ามองโลกได้รอบทิศเห็นได้ถ้วนทั่วเกินกว่าทัศนวิสัยของมนุษย์หรือสัตว์อื่นๆเพราะเค้ามองโลกได้ทั้ง 360 องศา(
    จะเกิดอะไรถ้าเรามีหุ่นจิตพิทักษ์ซึ่งเห็นได้สามร้อยหกสิบองศารอบทิศทางล่ะมันดีขนาดไหนลองคิดเอา) และก็เป็นเช่นนั้น
    - ผู้ที่ถือครองวิชาแมลงปอนี้จะมีคุณวิเศษเสริมสร้างสัมผัสเร้นลับตลอดจนทัศนวิสัยให้เปิดเต็มที่..มองโลก..มองชีวิตได้ง่ายและเข้าใจกว่าคนอื่น
    - จะเห็นช่องทาง..เห็นลู่ทาง..เห็นอนาคต..จะพึงรู้ว่าสิ่งใดควรทำมิควรทำ

    - จะมีลางสังหรณ์พิเศษว่าสิ่งใดต้องลงมือทำแล้วจะสำเร็จหรือสิ่งใดเกี่ยวข้องด้วยจะถึงคราววิบัติ

    ท่านว่าวิชาแมงปอมันพิเศษตรงสัญชาตญาณเช่นนี้แหละเธอพกหุ่นแมงปอของฉันสัญชาติญาณมันก็เกิดแก่ตัวเธอเป็นคุณสมบัติพิเศษของตัวตนเธอที่หาไม่ได้จากที่ไหนนี่คือเศวตเวทย์ เพราะวิชาอื่นทำไม่ได้และไม่มีมันถึงได้ถูกยกไว้เป็นยอดวิชาเป็นวิชาที่ค่าควรเมืองจะหาวิชาใดมาเปรียบเทียบมิได้ เพราะคนที่กอปรด้วยสัญชาตญาณและสัมผัสพิเศษถึงปานนี้แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นยอดคนที่พันปีจะเกิดมีซักครั้งหนึ่ง(นี่แหละโอกาสมันอยู่ข้างหน้า..อยู่ตรงนี้..ไม่มีสิ่งใดจะประเสริฐสำหรับตัวของตนเท่ากับการพึ่งตนเอง..ไม่มีสิ่งใดจะพิเศษไปกว่าสัญชาติญาณดุจพรสวรรค์เช่นนี้แล้ว) แต่คนที่รู้และเข้าใจวิชาหัวใจแมงปอนั้นกลับไม่มี

    ท่านว่าถ้าไม่ดีจริงวิชาแมงปอนี้แม้แต่กษัตริย์ในอารยธรรมโบราณอย่างพวกฟาโรห์อียิปต์คงจะไม่ใช้กัน มันเป็นวิชาแห่งความสมดุลเป็นวิชาแห่งความอุดมสมบูรณ์ถึงขึ้นสร้างมหานคร..สร้างชาติ...ก่อเกิดอาณาจักรที่มั่งคั่งยาวนานนับพันปีท่านว่านี่คือความลับของวิชาแมงปอ เพียงหัวใจแมลงปอลงและเสกเต็มวิชาให้กับใครไม่เห็นเค้าว่าจะแย่ลงซักราย มีแต่กลายเป็นตัวตนที่คาดไม่ถึงไปแล้วทั้งนั้น

    เมื่อเป็นเช่นนั้นท่านก็พิจารณาจะทำไว้แบบเต็มวิชาเต็มสูตรเป็นรุ่นเสียวาระหนึ่ง ท่านว่าตั้งใจว่าจะทำให้เป็นหุ่นเศวตเวทย์คนมีวาสนาบูชาเค้าจะได้พกง่ายใช้งานง่าย แต่ถึงกระนั้นวิชามันไม่เล็กตามดังนั้นจึงต้องอาศัยความเพียรพยายามอย่างยิ่ง ท่านว่ากว่าจะเรียกสูตรจารแต่ละตัวนั่นยั่งไม่เท่าไหร่แต่การบีบและย่ออักขระนี่สิทำเสร็จแล้วปลงโลกได้เลย ท่านว่าเพราะอาศัยความเพียรความตั้งใจและความเข้มข้นของจิตอย่างมากจึงทำไว้ได้เพียง 8 ตัวเท่านั้น หลังจากท่านเป่าลงหัวใจแมงปอเสร็จแล้วท่านบอกว่า

    หุ่นแมงปอกลับธาตุนั้นทำเพื่อให้เป็นวิชาแห่งความสมดุล
    ท่านได้นำอาถรรพ์เศวตเวทย์ทั้ง 32 บท ลงเสกเสริมเข้าไปด้วยอีก 84,000 คาบ ท่านว่าเพียงลำพังเศวตเวทย์อันได้ชื่อว่าสูงส่งเหนือกว่าคุณวิชชาหรือไสยเวทย์ทั้งหลาย แม้เพียงบทเดียวก็มีคุณมากประมาณยิ่งกว่าฝอยท่วมหลังช้างแล้ว แต่ท่านกลับลงไว้ถึง 32 บทเสกให้แปดหมื่นสี่พันคาบ(ท่านว่านี่องค์ปฐมสั่งนะให้เสกแปดหมื่นสี่พันคาบ..ท่านว่าใครได้ใช้จะได้ครอบคลุมจบกิจความปรารถนาที่ตั้งใจจะทำกันในชาตินี้..เท่ากับเห็นผลทันตา)

    เศวตเวทย์ 84,000 คาบ
    ท่านว่าเศวตเวทย์คือเวทย์บริสุทธิ์เป็นวิชาธรรมสูงส่งอันจะบันดาลให้เกิดความสำเร็จสมหวังด้วยอานุภาพแห่งอาถรรพ์ธรรมเวทย์ วิชาเช่นนี้เหนือกว่าคุณไสยอวิชชาทั้งปวงท่านว่าไม่มีใครเค้ามักใช้มักทำกันเพราะมันเหมือนเป็นดาวข่ม สำหรับผู้ถืออาถรรพ์เศวตเวทย์ดุจว่าข่มและเหยียบวิชาไสยเวทย์และอาถรรพ์ฝ่ายต่ำฝฝ่ายอวิชชาทั้งหลายไว้ทีเดียว แม้ใครมีของดีหรือเล่นคุณไสยอย่างไรท่านว่าเศวตเวทย์ข่มและกำราบทั้งหมด คนเหล่านั้นไม่มีที่ว่าจะชนะและอยู่เหนือกว่าเราเลย

    ท่านว่าเมื่อลงตะกรุดเศวตเวทย์นี้ ย่อมเป็นการลงอาถรรพ์ที่เหนือกว่าวิชาอาถรรพ์ใดๆทั้งปวง เป็นการทำวิชาวาระสำคัญที่จิตวิญญาณเบื้องบนยังต้องน้อมเศียรนมัสการธรรมเวทย์นั้น เพราะธรรมเวทย์เหล่านั้นแม้แต่เหล่าองค์สมเด็จพระพิชิตมารพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังน้อมยึดถือไว้เป็นสรณะ ท่านว่าจะพูดมากก็ไม่ควร..บอกได้คร่าวๆเพียงเท่านี้

    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้อาศัยยามปลอดอาศัยฤกษ์มงคลสร้างหุ่นแมงปอชุดสำคัญคนใช้จะได้ยิ่งมีโชคกันมากๆสำเร็จแล้วท่านก็พึงเสกหุ่นนั้นเรื่อยมา จนในวาระหนึ่งท่านนิมิตเห็นเสด็จพระใหญ่ได้เมตตามาอธิษฐานแมงปอเหล่านี้ พร้อมกับถามท่านว่ากำลังเล่นอะไรทำอะไรอยู่นี่แสบตาดีจัง หลังจากนั้นพระองค์ก็พิจารณาหุ่นแมงปอเศวตเวทย์เหล่านั้น พร้อมกับเปล่งพุทธอุทานว่าสาธุซึ่งแปลว่าดีแล้ว และดำรัสว่า ดูเถิด แม้แต่ธรรมเวทย์ธรรมธาตุเหล่านี้ยังบังเกิดแล้วในวัตถุใด เบื้องหน้านั้นธรรมธาตุเหล่านี้ย่อมบังเกิดในชนเหล่านั้นเสมอกัน หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงขอให้พระองค์ท่านช่วยกำกับและลงวิชาธรรมอีกวาระหนึ่ง

    หุ่นแมงปอนี้ใครได้พกยิ่งกว่าวิชาเพชรกลับหรือมหากลับอะไรเหล่านั้น อันว่าแมงปอกลับธาตุนี้ธรรมดาท่านว่าแม้ใครได้บูชาก็จะบรรเทาเคราะห์กรรมได้ ยิ่งใครดวงตกพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกต่างๆให้รีบบูชา..จะผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายและเคราะห์กรรมเหล่านั้นไปได้
    แต่แมงปอกลับธาตุนี้หากพกแล้วมันได้มากกว่าเรื่องแก้ดวงตกโดยทั่วไปซึ่งหาได้ในมงคลวัตถุต่างๆ เพราะไอ้เรื่องแย่ๆร้ายๆต่างๆบรรดามีที่จะทำความเสียหายล่มจมพอมันว่าจะเกิดๆมันก็กลับไม่เกิดไปเสียดื้อๆ กลับหน้ามือเป็นหลังมือไปหมด พูดง่ายๆคือไม่มีนั่นเอง ไม่มีช่วงเวลาเสวยทุกข์..เสวยเคราะห์กรรม หุ่นแมงปอกลับธาตุนี้จึงเป็นยิ่งกว่าวิชาหนุนดวงใดๆ ท่านว่าพกไว้สบายใจอย่างยิ่ง

    ท่านว่ามงคลอาถรรพ์เศวตเวทย์นี้เป็นของสูงค่าและทำได้ยาก ดังนั้นจึงตั้งใจไว้ว่าจะทำเพียงครั้งเดียว..ไม่มีครั้งต่อไปอีก เพราะการลงวิชา 84,000 คาบทั้ง 32 บทเช่นนี้ใช้พลังจิตสูงใช้เวลานานมาก..ลองคูณไปดูสิ ..84,000 * 32 = 2,688,000 เสกเป่าลมอธิษฐานจำนวนขนาดนี้ฉันจึงใช้ปราณใช้เวลานานหลายๆปี..หมดครั้งนี้รอจนตายฉันก็เสกไม่ไหว ท่านว่าหุ่นแมงปอนี้อธิษฐานใช้ได้เลยเวลาอธิษฐานให้บอกว่าชีวิตลูกยังขาดอะไร..ยังไม่มีอะไร (เพราะสิ่งเหล่านี้ยังขาด..จึงได้ชื่อว่าชีวิตยังไม่สมบูรณ์) ขอให้อานุภาพแห่งองค์ปฐมและครูพระเวทย์พระธรรมสงเคราะห์ให้มีทุกสิ่งสำเร็จทันใจทุกประการ ท่านว่าหุ่นแมงปอนี้ทำใจให้สงบให้อารมณ์เย็นสบายแล้วค่อยอธิษฐาน คาถานั้นไม่จำเป็นต้องใช้แต่จะถือภาวนาไว้ก็ได้

    คาถาบูชา
    เอหิจิตตัง นะกะหะตะปะพุทธัง ภควาจิตตัง มานิมามา

    *** หุ่นแมงปอศวตเวทย์(กลับธาตุ)นี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาอาถรรพ์ที่ไม่มีใครทำกันเหนือกว่าวิชาอาถรรพ์ใดๆทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่จะบูชาจึงต้องมีวาสนาและจิตผูกพันธ์กับวิชาอาถรรพ์อันเป็นยอดวิชาแต่บรรพกาล ท่านจึงอธิษฐานจิตทำขึ้นฝากไว้ให้กับผู้มบุญสัมพันธ์เหล่านั้น สำหรับคนที่จะบูชารับจองเฉพาะทาง PM และแจ้งชื่อนามสกลุล วันเดือนปีเกิด..อาชีพหน้าที่การงาน..เป้าหมายในชีวิตฝากไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการลงจารเสริมเปิดดวงรับทรัพย์ที่หุ่นทุกตัวให้เป็นของเฉพาะคน

    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นทับถมมงคลสิริสมดุลอาถรรพ์เศวตเวทย์(แมงปอกลับธาตุ) บูชา 100,000 บาท


     

แชร์หน้านี้