พรุ่งนี้จะจัดส่งของให้นะครับ วันนี้ใครจะฝากอะไรก็ PM ไว้เลย
ร่วมทำบุญบูชา นัยน์ตาพระธรณีเจาะจำเพาะมหาถอดแสนมนต์(องค์ปฐมเปลื้องผ้ากาสา) พ่ออาจารย์พล
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.
หน้า 250 ของ 459
-
-
ติดตามกิจกรรมเล่นเกมส์เดือนนี้กันนะครับ แล้วเดี่ยวจะมาลงสาระให้เรื่อยๆ
-
ที่แจ้งโอนไว้ผมรับทราบแล้วนะครับ แต่พอดียังไม่ได้ PM กลับไปเพราะติดฝนอยู่ข้างนอก
-
อรุณสวัสดิ์ครับ
วันนี้ส่งของให้นะครับ ;) -
แจ้งการส่ง EMSพี่ฐิตกาญจน์ ET 2875 1631 7 TH
พี่ปภัสสร ET 2875 1632 5 TH
พี่กฤตกุญช์ ET 2875 1633 4 TH
พี่วันชัย ET 2875 1634 8 TH
พี่สุเทพ ET 2875 1635 1 TH
พี่วิศณุกร ET 2875 1636 5 TH -
พรุ่งนี้ผมมาลงสาระให้ต่อนะ ติดตามๆ
-
รุกขเทวดา
อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็จะนำความเชื่อเกี่ยวกับรุกขเทวดามาให้อ่านกัน เพราะสืบเนื่องจากมีแต่คนถามหาเรื่องนางตะเคียนเข้ามา ก่อนจะไปลงลึกๆก็เลยอยากจะเอาประวัติหมวดหมู่ของเทวดาที่สิงสถิตย์อยู่ในต้นไม้มาให้ศึกษากันก่อน
รุกขเทวดา (บาลี: รุกฺขเทวตา) คือเทวดาที่สิงสถิตอยู่ตามไม้ต้น คัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถาถือว่ารุกขเทวดาอยู่จำพวกเดียวกับพระภูมิ และเป็นเทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกา
ส่วน นางไม้ เป็นผีผู้หญิงที่สิงสถิตตามต้นไม้ใหญ่ ศาสนาพุทธถือว่านางไม้เป็นคนธรรพ์ที่ถือกำเนิดอยู่ภายในต้นไม้ และต่างจากรุกขเทวดาตรงที่ เมื่อต้นไม้ที่สิงสถิตนั้นล้มลง รุกขเทวดาจะย้ายไปอาศัยต้นไม้อื่นต่อ แต่นางไม้ยังคงสถิตในต้นไม้นั้นเรื่อยไปแม้ไม้นั้นจะถูกแปรรูปแล้วก็ตาม
นางไม้ตามความเชื่อของไทย จัดเป็นสตรีสาวสวย ไว้ผมยาวประบ่า ห่มผ้าสะไบเฉวียงบ่า นุ่งผ้าจีบงดงาม แต่นางไม้ในความเชื่อของชาวตะวันตก หรือที่เรียกว่า "นิมฟ์" มักจะไม่นุ่งห่มเสื้อผ้าอาภรณ์ อาจจะเป็นในแง่ของผีที่ไม่มีความก้าวหน้าด้านการแต่งตัวเคยแต่งกายอย่างไรก็แต่งเช่นนั้น ไม่สวมเสื้อหรือรองเท้า แต่หมวกและมงกุฎจะสวมอยู่เสมอไม่ถอดออก
เทวดาชั้นจาตุมมหาราชิกานี้ มีที่อยู่ตอนกลางเขาสิเนรุ ตลอดลงมาถึงพื้นดิน ที่มนุษย์อยู่ เรียกชื่อตามที่อยู่ที่อาศัยดังนี้
ก. ที่อยู่บนพื้นแผ่นดิน เรียกว่า ภุมมัฏฐเทวดา
ข. ที่อยู่บนต้นไม้ เรียกว่า รุกขัฏฐะเทวดา
ค. ที่อยู่ในอากาศ(มีวิมานอยู่) เรียกว่า อากาสัฏฐะเทวดา
เทวดาในจาตุมมหาราชิกาภูมิ ที่มีใจโหดร้ายก็มีถึง ๔ จำพวก คือ
๑. คันธัพโพ คันธัพพี ได้แก่ เทวดาคันธัพพะ ที่ถือกำเนิดภายในต้นไม้ที่มี กลิ่นหอม เราเรียกกันว่า นางไม้ หรือ แม่ย่านาง ชอบรบกวนให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ เช่น ให้เกิดเจ็บป่วย หรือทำอันตรายแก่ทรัพย์สมบัติ ของผู้ที่นำไม้นั้นมาใช้สอย หรือมาปลูกบ้านเรือน เทวดาจำพวกนี้อยู่ในความปกครองของท้าวธตรัฏฐะ
คันธัพพเทวดานี้ สิงอยู่ในต้นไม้นั้นตลอดไป แม้ว่าใครจะตัดฟันไปทำเรือ แพ บ้านเรือน หรือเครื่องใช้ไม้สอยอย่างใด ๆ ก็คงสิงอยู่ในไม้นั้น ซึ่งผิดกับรุกขะเทวดา ที่อาศัยอยู่ตามต้นไม้เหมือนกัน แต่ถ้าต้นไม้นั้นตาย หรือถูกตัดฟันก็ย้ายจากต้นนั้น ไปต้นอื่น
๒. กุมภัณโฑ กุมภัณฑี ได้แก่ เทวดากุมภัณฑ์ ที่เราเรียกกันว่ารากษส เป็น เทวดาที่รักษาสมบัติต่าง ๆ มีแก้วมณีเป็นต้น และรักษาป่า ภูเขา แม่น้ำ ถ้ามีผู้ล่วง ล้ำก้ำเกิน ก็ให้โทษต่าง ๆ เทวดาจำพวกนี้อยู่ในความปกครองของท้าววิรุฬหกะ
๓. นาโค นาคี ได้แก่ เทวดานาค มีวิชาเกี่ยวแก่เวทย์มนต์คาถาต่าง ๆ ขณะ ท่องเที่ยวมาในมนุษย์โลก บางทีก็เนรมิตเป็นคน หรือเป็นสัตว์ เช่น เสือ ราชสีห์ เป็นต้น โดยเฉพาะ ชอบลงโทษพวกสัตว์นรก เทวดาจำพวกนี้อยู่ในความปกครอง ของท้าววิรูปักขะ
๔. ยักโข ยักขินี ได้แก่ เทวดายักษ์ พอใจเบียดเบียนสัตว์นรก เทวดา จำพวกนี้อยู่ในความปกครองของท้าวกุเวระ หรือท้าวเวสสุวรรณ
เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกานี้ มีอยู่ตั้งแต่กลางเขาสิเนรุจนกระทั่งถึงพื้นดินที่มนุษย์อยู่ มีชื่อเรียกตามที่อยู่ที่อาศัย ดังนี้
๑. อยู่บนพื้นดิน เรียกว่า ภุมมัฏฐะเทวดา
๒. อยู่บนต้นไม้ เรียกว่า รุกขะเทวดา
๓. อยู่ในอากาศ (มีวิมานอยู่) เรียกว่า อากาสัฏฐะเทวดา
๑. ภุมมัฏฐเทวดา
ได้แก่ เทวดาที่อาศัยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ภูเขา แม่น้ำ มหาสมุทร ใต้พื้นดิน ตามบ้านเรือน ซุ้มประตู เจดีย์ ศาลา เป็นต้น ท้าวมหาราชทั้ง ๔ จะอยู่ตอนกลางรอบเขาสิเนรุ มีปราสาทเป็นวิมานของตนเอง สำหรับ เทวดาอื่นที่ไม่มีวิมาน ก็ต้องไปอาศัยอยู่ตามสถานที่ดังกล่าวข้างต้น โดยถือเอาสถานที่นั้นเป็นวิมานของตน
๒. รุกขเทวดา
ได้แก่ เทวดาที่อาศัยอยู่ตามต้นไม้ มีอยู่ ๒ จำพวก คือ พวกที่มีวิมานอยู่บนต้นไม้ กับพวกที่ไม่มีวิมาน รุกขเทวดาที่มีวิมานนั้น จะเอา วิมานตั้งอยู่บนยอดไม้ ส่วนเทวดาที่ไม่มีวิมานของตนเอง ก็จะอาศัยอยู่บนคบไม้ หรือ กิ่งก้านของต้นไม้
๓. อากาสัฏฐเทวดา
ได้แก่ เทวดาที่มีวิมานของตนเองในอากาศ ตั้งอยู่ในอากาศ ภายใน และภายนอกของวิมาน จะประกอบด้วยรัตนะ ๗ อย่าง ซึ่งเกิดขึ้นด้วยอำนาจ ของกุศลกรรม คือ แก้วมรกต แก้วมุกดา แก้วประพาฬ แก้วมณี แก้ว เชียร เงิน และทอง บางวิมานก็มี ๒ รัตนะ บางวิมานก็มี ๓, ๔, ๕, ๖ รัตนะ ขึ้นอยู่กับบุญกุศลที่ตนได้สร้างไว้ วิมานเหล่านี้ จะลอยหมุนเวียนไปในอากาศรอบ ๆ เขาสิเนรุ
-
รายการที่ค้างส่งอยู่ พรุ่งนี้จะส่งให้ครบนะครับ ติดตามๆ;)
-
พรุ่งนี้ติดตามนะครับ เดี๋ยวมีเรื่องมาพูดคุยกัน
-
เสาร์อาทิตย์นี้ติดตามเล่นเกมส์กันด้วยนะครับ แจ้งล่วงหน้า ;)
-
อรุณสวัสดิ์ครับ
วันนี้เดี๋ยวส่งของให้แล้วมาติดตามเรื่องพูดคุยกันนะ -
แจ้งการส่ง EMSพี่วันชัย ET 5619 2215 7 TH
พี่ธีธัช ET 5619 2216 5 TH
พี่ศิระ ET 5619 2217 4 TH
พี่ปกรณ์เกียรติ ET 5619 2218 8 TH
พี่นวรัตน์ ET 5619 2219 1 TH -
วันนี้เดี๋ยวมาคุยเรื่องนางตะเคียนกันต่อนะ ;)
-
นางตะเคียน
ก็มาพูดคุยกันต่อรอบเย็นๆนะครับ สำหรับเรื่องของนางตะเคียนนั้นก็ถือว่าเป็นรุกขเทวดาประเภทหนึ่ง ในบางทีก็อาจเป็นภูติผีหรือสิ่งอื่นๆได้ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านเวลาเชิญนางตะเคียนหรือไปนำไม้ตะเคียนโบราณที่มีอาถรรพ์มากๆมา ท่านจะเลือกภูมิเทวดาโดยเฉพาะ ภูติผีไม่เอา
ที่ท่านเจาะจงเช่นนี้ก็ทำให้ตะเคียนของท่านที่ท่านนำมาแกะเป็นเครื่องมงคลต่างๆนั้นมีประสบการณ์กันมาก โดยเฉพาะเครื่องมงคลที่เกี่ยวกับนางตะเคียนนี้ ท่านก็มักจะบอกทุกครั้งไปว่าเวลามีผู้บูชาเครื่องมงคลซึ่งทำจากไม้ตะเคียนของท่านว่าเป็นจิตเทพชื่อว่าอะไร ท่านจะแจ้งนามให้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้การจะได้มาซึ่งไม้ตะเคียนของท่านนั้น ก็เป็นเรื่องของญาณวิถีโดยเฉพาะ เพราะท่านจะเลือกแต่ต้นที่ดีให้คุณไม่มีโทษ ไม่ใช่จิตวิญญาณที่เฮี้ยนมุ่งร้าย มุ่งจะทำลายหรือก่อความพินาศให้กับคนที่ไปตัดไปบูชา
จะเห็นได้จากคนที่แม่ฮ่องสอนกับขอนแก่น จะมีอยู่สองครอบครัว ต้องใช้คำว่าครอบครัวเลยจำเพาะเจาะจงเอาไม้ตะเคียนจากท่านตลอดทุกฤดูกาลที่ท่านจะพลีมาได้ ซึ่งท่านก็มักจะหาพลีมาเท่าที่พลีได้ไม่ว่าจะตะเคียนตกน้ำมัน ตะเคียนจมน้ำ ตะเคียนพันปี และตะเคียนอาถรรพ์ประเภทต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านจะขอให้จิตเทพมาช่วยสร้างบุญกุศลกันโดยท่านไม่ได้ไปเลื่อยหรือไปตัดเขามาแต่อย่างใด
เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งที่ว่าท่านใช้เพียงมือของท่านหลังจากตั้งจิตขอสื่อสารกันแล้วถ้าเขาเต็มใจอย่างยิ่งที่จะมากับท่าน ท่านก็จะนำมือเปล่าๆของท่านไปจับต้นตะเคียนและดึงเนื้อไม้ออกมาเฉยๆ ซึ่งสิ่งนี่น่าอัศจรรย์มาก เพราะตะเคียนเป็นไม้เนื้อแข็งแต่พ่ออาจารย์ท่านก็ดึงออกมาได้ดุจดั่งว่าท่านดึงปุยสำลี
ตะเคียนที่เฮี้ยนและสร้างชื่อให้กับท่านก็เริ่มจากสองครอบครัวนี้ทางแม่ฮ่องสอนกับขอนแก่น เนื่องจากได้บูชาเครื่องมงคลไปแล้วชนิดที่พ่ออาจารย์แกะจากไม้ช่อฟ้า ทีนี้ก็อยากถามท่านว่ามีไม้อาถรรพ์อะไรอีกหรือไม่ที่ท่านจะนำมาแกะเครื่องมงคล ซึ่งท่านก็แจ้งว่ามีไม้ตะเคียนอาถรรพ์ประเภทต่างๆ แต่ของเช่นนี้ไม่ใช่ได้มาเมื่อไหร่อยากจะเอาตอนไหนก็ได้ เพราะต้องเป็นตะเคียนอาถรรพ์ที่จิตเทพให้คุณจริงๆเท่านั้นท่านถึงจะนำมาได้
พอพ่ออาจารย์ท่านพลีตะเคียนอาถรรพ์มาทีไรก็จะถูกสองครอบครัวนี้บอกกันปากต่อปากจนมีบูชากันครบทุกคนในครอบครัว เป็นไม้ตะเคียนที่พ่ออาจารย์นำมาแกะเป็นเครื่องมงคลต่างๆในรายการที่มีให้บูชาซึ่งปกติเป็นไม้ช่อฟ้า แต่ของเขากลับขอเอาเฉพาะไม้ตะเคียน สองครอบครัวนี้มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่สิ่งหนึ่งหลังจากที่บูชาเครื่องมงคลที่แกะจากตะเคียนอาถรรพ์ของพ่ออาจารย์ไปคือเขาเจริญขึ้น
ต้องใช้คำว่าเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟื้นชะตาชีวิตกันทุกคน ถึงขนาดที่ว่ามีเรื่องพูดกันติดปากในครอบครัวและบอกต่อๆกันไปยังคนรู้จักว่าอยากตั้งตัวหรือเปลี่ยนแลงดวงชะตาต้องหาไม้ตะเคียนของพ่อพล และสุดท้ายก็ทำการสั่งมาอย่างต่อเนื่องจนท่านไม่สามารถหาไม้มาแกะและเสกได้ทันเป็นเครื่องมงคลในทุกรูปแบบ จนเราก็สงสัยว่าความสำเร็จใดทำให้คนมีศรัทธาแรงกล้าขนาดนี้ พอได้รู้ปรากฏว่าเค้าถูกหวยเกือบทุกงวดซึ่งบางงวดก็ถูกกันยกครอบครัวเป็นตัวเลขเงินหลายหลัก เค้าพูดอย่างเต็มปากว่าบารมีแม่ตะเคียนพ่อพลที่บูชานั้นรวมรายได้จากหวยทุกงวดยังมากกว่างานประจำหรือรางวัลที่หนึ่ง ซ้ำยังaลุ๊คขายที่ได้ มีลาภสักการะชนิดที่ว่าในความรู้สึกของเราเหมือนฝังเค้าเล่านิยาย แต่ก็ต้องเชื่อเพราะเค้ายืนยันว่าบารมีองค์เทพในรูปลักษณ์เครื่องมงคลบวกกับพลังแม่ตะเคียนนี่สุดๆจริงๆ ถึงขนาดว่าทั้งสองครอบครัวคุยตรงกันว่าได้สัมผัสบารมีแม่ตะเคียนทางตาเนื้อมาแล้ว เค้าว่าบูชาไปเรื่อยๆบางองค์ถึงกับตกน้ำมันก็มี
แต่ ..เมื่อมีคนสมหวัง ก็ย่อมมีคนผิดหวัง ถึงจะเป็นเรื่องวงใน แต่คนที่ได้ดีก็บอกกันไปปากต่อปาก หลายๆครั้งที่คนสั่งเครื่องมงคลหรือจะให้ท่านแกะพระบูชาต้องการจะได้ไม้ตะเคียนที่ท่านพลีมา บางครั้งก็ต้องผิดหวังกันไปไม่ได้สมใจปรารถนา เนื่องจากที่ท่านนั้นก็ไม่ได้มีมากมายอะไร ท่านพลีของท่านมาตามวาระตามแต่ละสถานที่ไม่ใช่ไปเลื่อยไปตัดมา ท่านใช้เพียงแค่มือดึงไม้ตะเคียนที่แข็งดุจหินออกมา ทำให้มีบางคนเท่านั้นจริงๆถึงจะได้เครื่องมงคลเนื้อตะเคียนอาถรรพ์ไว้บูชา เรียกว่าต้องประสบครบพร้อมกันทั้งบุญสัมพันธ์ วาสนา และบารมีอย่างแท้จริงจึงจะครอบครองได้ เพราะไม้เหล่านี้เป็นไม้อาถรรพ์ที่มีจิตวิญญาณ มีเทพถือครองอยู่ แล้วจิตนั้นเค้าก็ไปกับไม้ที่พ่ออาจารย์ท่านพลีมา ไม่ใช่ไม้ธรรมดาแต่อย่างใด
วันนี้ผมก็มาเล่าเกริ่นคร่าวๆไว้ก่อน ก่อนจะมาพูดคุยกันต่อไป เพราะจริงๆแล้วหากให้พูดถึงฤทธิ์เดชของนางตะเคียนจริงๆท่านว่าคุยสามวันก็ไม่จบ อันนี้ก็ติดตามกันนะ จะค่อยๆเล่าเพราะฤทธิ์นางตะเคียนนี่เยอะจริงๆ ใครที่บูชาขุนแผนชุดที่เปิดจองไปนั่นก็มีมวลสารตะเคียนอาถรรพ์ด้วย ถือเป็นเรื่องดีที่สุด เพราะการได้มาของตะเคียนสำหรับพ่ออาจารย์นั้น ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย
-
อรุณสวัสดิ์นะครับ
เมื่อวานมีสอบถามการบูชาวิธีบูชาแม่ตะเคียนกันมาเยอะมาก เดี๋ยววันนี้มาพูดคุยกันต่อ ติดตามนะ -
ตอบ PM ครบแล้วนะครับ
-
พรุ่งนี้เล่นเกมส์นะครับ ว่าจะให้หาประวัติพระเจดีย์องค์สำคัญๆมาลงกันทั้งในไทย ลังกา อินเดีย พม่า หรือสถานที่ต่างๆ อันนี้น่าจะหาได้ไม่ยาก ติดตามกันนะ
-
- แม่ตะเคียนทอง...
ภาพที่สมควรจดจำ พ่ออาจารย์บอกว่า "นางนี้ชอบให้โชค" เรื่องหวยก็ให้ติดๆกันมาห้างวดแต่ท่านไม่เคยสนใจ ถ่ายรูปมาจากองค์บูชาใหญ่ๆเกือบสองฝ่ามือกลายเป็นเล็กนิดเดียว หนึ่งในนางตะเคียนที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างและเชิญญาณบารมีไว้บูชาเองตามวิชาของท่าน ก็ขอบารมีพระแม่ตะเคียนทองให้ทุกคนมีโชค มีลาภ วาสนาดีๆกันทุกคนนะครับ
-
พรุ่งนี้เรามีนัดกิจกรรมกัน ห้ามลืมนะครับ ;)
-
ร่วมกิจกรรมเล่นเกมส์ แจกตะกรุดโทนนะโมตาบอดตำรับวัดพระปรางค์ตะกรุดนะโมตาบอดนั้นเป็นตะกรุดสำคัญที่พ่ออาจารย์นั้นไม่ค่อยจะได้ทำแจกใครเท่าไหร่ ซึ่งหลายๆคนก็ถามหากันเข้ามามาก เพราะวิชานะโมตาบอดนั้นจะหาผู้รู้ที่ทำได้จริง เรียกว่าทำได้เข้าถึงจริงๆนั้นหายากมาก
พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าวิชานี้หลวงพ่อกวยท่านก็ใช้ ซึ่งต้นตำรับนั้นพลวงพ่อท่านศึกษามาจากวัดพระปรางค์ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงลงชักลากอักขระผูกยันต์นะโมตาบอดตำรับวัดพระปรางค์ขึ้นมาเพื่อบูชาครูองค์หลวงปู่ศรีและหลวงพ่อกวยอีกคำรบหนึ่ง
อันตะกรุดนะโมตาบอดนนั้นท่านว่าแท้จริงแล้วหากใครได้รู้จักจะพบว่าเป็นตะกรุดที่มีพรรณคุณวิเศษอย่างยิ่ง หากพูดถึงตะกรุดนี้หลสยคนคงคิดว่าวิชานะโมตาบอดใช้ทางแคล้วคลาด คงกระพัน มหากำบัง มีคุณทางมหาอุตม์เป็นอย่างมาก มีอานุภาพไปในทางคุ้มครองสูง หากทำถึงจริงๆแล้วถึงขั้นที่ว่าผู้บูชาสามารถล่องหนหายตัวได้ทีเดียว
แต่ความจริงนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าใช่จะดีแต่ทางเหนียวแคล้วคลาดมหาอุตม์เสียเมื่อไหร่ วิชาของบูรพาจารย์เหล่านี้ดีรอบด้านเลยทีเดียวทั้งป้องกันอันตรายนานาประการ แม้มีศัตรูที่คิดร้าย มุ่งร้าย ประสงค์ร้ายกับเรา จะเป็นจังงังเขาทำอะไรไม่ได้เลย
ทีนี้ก็มาดูถึงพุทธคุณของตะกรุดนะโมตาบอดกันบ้างว่าสำคัญอย่างไรทำไมหลวงพ่อกวยท่านถึงนำมาใช้ลงไว้ในเหนรียญรุ่น 2 ของท่าน ตะกรุดนี้หลายคนคงคิดว่าเหนียวดี หนังคง อยู่ปืน ทนอาวุธ เป็นตบะ เดชะเหนือคนทั้งหลาย ซึ่งก็ถูกแต่ไม่ทั้งหมด ยังเป็นกลบทกลับไปกลับมา เป็นจังงัง เป็นมหาอำนาจ ทำให้จำไม่ได้ ทำให้ไม่เห็น ใช้ได้ถึง 108 ประการ
โบราณว่า ยันต์นะโมตาบอด 1 ตัว คุมคนได้ทั้งกองทัพ เสือปล้น ขุนโจรสมัยก่อนก็ใช้ยันต์นี้ออกปล้น เจ้าทรัพย์หลับใหลทั้งบ้าน หากบ้านไหนมีวิชาก็จะตาบอด ตาใส มองไม่เห็นโจร สู้รบด้วยไม่ได้ คล้ายแพ้อำนาจไปเฉยๆ
พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาลงเหล็กจารผูกอักขระเสกวิชานะโมตาบอดเอาไว้ให้ผู้ที่เคารพศรัทธานำไปใช้ ท่านวว่าก่อนใช้ให้ว่าคาถา หรือถ้าจิตด๊หน่อยนึกถึงหน้าหลวงปู่ศรี หลวงพ่อกวยเป็นใช้ได้ ท่านว่าท่านทำให้คนที่เกิดไม่ทันหลวงปู่ศรี หลวงพ่อกวย ไม่ทันได้มีของดีของพวกท่านไว้ใช้กัน ได้มีโอกาสอาราธนาวิชาของพวกท่านเป็นกำลังใจ เป็นขวัญชีวิต ซึ่งตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านลงไว้ให้เต็มสูตร เป็นตะกรุดโทนดอกน้อยๆที่ท่านบรรจงตั้งใจจารและใช้สมาธิสูงบีบอักขระอย่างมากเพื่อไม่ให้ตะกรุดดอกใหญ่เกินไปจะได้บูชากันง่ายๆ
คาถาบูชา
นะตันโต นะโมตันติ ตันติตันโต นะโมตันตัน ตะโต โพธิอสัตโต ราชะสิงโหวะมหิทธิโก อะระหัง ตะมัตทังปะกาเสนโต ราชะสิงโห สัตถาอาหะ นะโมพุทธายะ นะมามิสุคะตังชินัง
สำหรับกิจกรรมร่วมเล่นเกมส์ครั้งนี้
- ก็จะให้ผู้ร่ววมกิจกรรมหาประวัติพระเจดีย์องค์สำคัญๆซึ่งมีอยู่หลายสถานที่ในหลายภูมิภาค ทั้งในไทย ศรีลังกา อินเดีย พม่า หรือประเทศต่างๆจะที่ไหนก็ได้ ขอให้เป็นสถานที่สำคัญของพระพุทธศาสนา พร้อมข้อมูลขององค์พระเจดีย์มาโพสต์ลงไว้ เป็นวิทยาทานให้ท่านที่ผ่านมาอ่านกระทู้ทั้งหลายได้เห็นได้รับชมกัน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจจะได้นำมาซึ่งความศรัทธาใหญ่น้อย เป็นประโยชน์ให้คนได้เห็นได้รู้จักอันจะนำไปสู่การเที่ยวจาริกแสวงบุญต่อไป
สำหรับกิจกรรมนี้ก็จะจัดให้มีสองวันคือเสาร์อาทิตย์ และวันอาทิตย์ผมจะเลือกเวลาปิดกิจกรรมโดยเหมาะสม และใช้กติกาต่างๆเหมือนเดิมตอนเล่นเกมส์ครั้งก่อนๆที่ผ่านมา ก็เริ่มได้เลย
หน้า 250 ของ 459