ร่วมทำบุญบูชา พระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล) 1 องค์
ร่วมทำบุญบูชา นัยน์ตาพระธรณีเจาะจำเพาะมหาถอดแสนมนต์(องค์ปฐมเปลื้องผ้ากาสา) พ่ออาจารย์พล
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.
หน้า 47 ของ 459
-
จองพระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล) จำนวน 1 องค์ครับ
-
นานาสาระ กลุ่มเทพดาวดึงส์
ก็มาตามสัญญานะครับ วันนี้จะพิมพ์เนื่องของกลุ่มเทพเจ้ากลุ่มหนึ่งในดาวดึงส์ ที่ผ่านมาได้นำเสนอเทพใหญ่ๆในฐานะเทพบดีหรือเทวราชไปมากเเล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงประชากรเทพทั่วไปในดาวดึงส์กันบ้าง
พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่า สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้เป็นชั้นที่มีระบบโครงสร้างสำคัญๆอยู่มาก เเละก็มีเทพเจ้าหลากหลาย ที่มีงานหน้าที่รับผิดชอบกับมนุษย์โดยตรงในเรื่องต่างๆ
แต่ทั้งนี้ประชากรชั้นดีของดาวดึงส์เองก็มีมาก เเต่ที่แย่นั้นก็มากเช่นกัน เพราะเป็นสวรรค์ที่จะว่าขึ้นไปได้ง่ายก็ได้เเต่ก็หล่นลงมาได้ง่ายเหมือนกัน
ท่านว่าให้ทำความเข้าใจไว้ เหนือดาวดึงส์ขึ้นไปนี่ถือว่าเริ่มขึ้นยาก อย่างพิภพยามาส่วนใหญ่จะเป็นที่รวมของผู้มีคุณธรรมระดับโสดาบันประเภทต่างๆ พิภพดุสิตก็เช่นกันเหล่าเทพที่บำเพ็ญบารมีทศบารมีธรรมดำเนินอยู่ในขอบเขตของการเป็นพระโพธิสัตว์เขาก็จะมาอยู่กันตรงนี้ เลยขึ้นไปก็มีกฏมีระดับภูมิจิตภูมิธรรมของเเต่ละพิภพที่ต่างกันออกไป
ทีนี้ประชากรของจตุมหาราชิกาเเละดาวดึงส์ ส่วนมากจะมาจากผู้ทำบุญเเละตายลงด้วยกุศลที่เคยทำไว้ พอส่งผล ก็ให้มาเกิดเป็นเทพในดินเเดนจตุมหาราชิกาเเละดาวดึงส์ ตามระบบบุญทำกรรมเเต่ง ซึ่งระบบนี้มันก็ดี แต่มันผิดตรงที่ว่าคนที่เค้าทำบุญทำกุศลนั้น เค้าขาดการอบรมจิตตนเองไม่มีฌานสมาบัติใดๆติดตัวไปทั้งสิ้น เมื่อได้ขึ้นมาเป็นเทพตามอานิสงค์ที่ทำไว้ ก็ไม่อาจรักษาสถานะของเทพเจ้าเอาไว้ได้อยู่นาน
กลุ่มเทพเหล่านี้มีเกลื่อนไปในดาวดึงษ์ เเบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้
- ขิฑฑาปโทสิกา
- มโนปโทสิกา
พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพเจ้าเหล่านี้ ส่งผลต่อเสถียรภาพของดาวดึงส์มาก เพราะเป็นประชากรที่มีขีดจำกัด เนื่องจากได้ขึ้นมาเป็นเทพเจ้า อาจเพราะบุญกุศลที่เคยทำในบางช่วงเวลาหนุนส่ง หรือเพราะเหตุผลใดๆก็ตาม ไม่ได้เป็นเทพเจ้ามาจากภายใน ไม่ได้สั่งสมอบรมมาจากการบำเพ็ญเพียร
เมื่อได้เกิดขึ้นมาในดาวดึงษ์เเล้ว เทพเจ้าทั้งหลายที่มีชื่อตามกลุ่มเหล่านี้ ก็จะหลงติดอยู่ในความสะดวกสบาย ในความสวยงามของดาวดึงส์ ลืมแม้กระทั่งการกลับวิมานตนเอง ซึ่งเทพเจ้าทั้งหลายที่เป็นเช่นนี้ จะมีอยู่เกลื่อน เต็มสวนสวรรค์ทั้ง 6 สถานที่ของดาวดึงส์
เพลิดเพลินลุ่มหลงมัวเมา อยู่กับการเสพย์สุขอันเป็นทิพย์ ไม่ได้สนใจสิ่งอื่นสิ่งใดทั้งสิ้น ลืมบุญ ลืมนมัสการพระจุฬามณี ลืมความรู้สึกของการปฏิบัติรับรู้รสชาติของพระสัทธรรม เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็เพลิดเพลินไปเพื่อรอการจุติร่วงหล่นลงไปในจตุรบายเท่านั้น
นครดาวดึงส์นี้แสนสนุกสนานด้วยสิ่งสวยงามเพลิดเพลินหนักหนา เทพยดาในกลุ่มที่ถูกจัดไว้ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ถือเป็นประชากรชั้นเลวของดาวดึงส์ ด้วยว่าเพลิดเพลินกับการเล่นสนุกกับนางฟ้าติดใจในรสกาม ลืมเเม้กระทั่งการกินอาหาร เทวดาเหล่านั้นก็สิ้นชีวิต
ในจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเทวดาน่ะเขาอิ่มทิพย์ เเต่ไอ้ตัวอิ่มทิพย์นี่ไม่ใช่ไม่ต้องกินนะ มันมีเวลาที่เค้าต้องกินต้องเสพย์ เมื่อถึงเวลาเเล้วลืมกินไม่ได้กินไม่ได้เสพย์ เนื้อตัวรัศมีของเขาก็จะอ่อนลง ทีนี้มานึกได้ทีหลังเเล้วเร่งกินไอ้ตัวอิ่มทิพย์นี่ถึงจะกินมันก็ไม่ทันการเสียเเล้ว เป็นเทวดาเรื่องกินนี่ต้องตรงเวลาอย่างยิ่งทีเดียว เมื่อรัศมีอ่อนลงความสวยงามของกายลดลงมารู้สึกตัวได้ว่าลืมกินเร่งกินอีกซักร้อยครั้งก็ไม่อาจเอาสิ่งที่เสียไปกลับมาได้ เพราะเช่นนั้นเทวดาในดาวดึงส์ที่เพลิดเพลินกับกามเเละได้ตายลงก่อนอายุขัยจึงมีอยู่มาก
อันนี้เราพูดถึงเทพเจ้าทั่วไปไม่ใช่ที่เกิดขึ้นเพราะมีบารมีมากหรือเป็นเทพเจ้าชั้นสูง เป็นพระอริยบุคคลซึ่งในจตุมหาราชิกาเเละดาวดึงส์ก็มีคนเหล่านี้เช่นกัน ระบบร่างกายของเขาจะเเตกต่างกันฟ้ากับเหวทีเดียว อันนี้เราพูดถึงประชากรอย่างหยาบทั่วไป
ความเลวร้ายของการไม่ได้อบรมขัดเกลาจิตใจแต่ต้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ยิ่งมีมาก เพราะมนุษย์นิยมการทำบุญให้ได้ขึ้นสวรรค์ แต่ก็มีสวรรค์หลายๆชั้นที่แค่การทำบุญนั้นไม่สามารถจะขึ้นไปได้
ในดาวดึงส์นี้ถือว่ามีอะไรดีๆให้เราดูอยู่มาก เทพเจ้าบางส่วนนั้นจะลืมตัวไปเลยเพราะมัวเเต่หมกมุ่นอยู่กับความอิจฉาริษยา เห็นเทวราชทั้งหลายในดาวดึงส์ หรือผู้มีบารมีมากที่อุบัติขึ้นมาใหม่ เห็นความเป็นทิพย์ของเขาต่างจากเรา เห็นอำนาจของรัศมีเขาสุกใสกว่าเรา แผ่ไปได้ในบริเวณมณฑลที่กว้างไกลกว่าเรา เช่นนี้ก็มีใจริษยา มีไฟโทสะเกิดความโกรธด่าทอถกเถียงกัน ด้วยอำนาจเเห่งไฟโทสะที่มีขึ้นมานั้นก็จะลุกลามเผาผลาญสถานะเทพเจ้าของเขาจนต้องจุติตายตกจากสวรรค์ไปก็มีมาก
เพราะว่าการขึ้นไปอยู่บนนี้นั้นมันง่ายเเต่การรักษาเเละคงสถานะไว้ถือว่ายากกว่า หากไม่ได้อบรมตนเองมาพอสมควร ไม่มีบารมี ไม่มีพื้นฐานทางใจไม่มีกำลังใจที่ดีก็อยู่กับเขาไม่ได้ และเทพเจ้าเหล่านี้เองที่มักจะลงมาทำความวุ่นวายให้กับโลกมนุษย์ และเป็นหนึ่งในมาร คือเทพเจ้าที่มีจิตมารสิงสู่ ยินดีกับกามเเละอารมณ์อยากได้ใคร่ดีต่างๆ
เทพเจ้าเหล่านี้จะไม่สนใจการบำเพ็ญเพียร การช่วยเหลือสรรพสัตว์ ไม่สนใจพระสัทธรรมใดๆทั้งสิ้น พอใจอยู่กับสิ่งที่มีความสุข พอใจกับการเซ่นสรวงเเละยกยอสรรเสริญ ทำอย่างไรตนเองจะมีความสุข อาจจะหยิบยื่นทุกข์ให้แก่ใครเพื่อให้เขามากราบมาเคารพตนเองก็ถือว่ามีอยู่มาก
พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพเจ้าเหล่านี้รังเเกมนุษย์ได้มากก็จริง เเต่พวกเขานั้นก็กลัวเหล่าเทพบดีทั้ง 33 พระองค์ของดาวดึงส์เช่นกัน เช่นอินทราเทวราช วรุณเทวราช ปชาบดีเทวราช อีสาณเทวราช โสมเทวราช ยมเทวราช จุลรถเทวราช มหารถเทวราช อเนกวัณณเทวราช และองค์อื่นๆ
นี่ประชากรทั้งหลายของดาวดึงส์ เห็นเทวราชทั้ง 33 พระองค์นี้ก็อารมณ์เดียวกับที่เราเห็นเจ้าฟ้าเจ้าเเผ่นดิน ถ้ากลัวการรังเเกของเทวดาเกเร ก็ให้เชิญเทวราชซักพระองค์ใน 33 พระองค์นี้ เลือกที่มีบารมีแก่กล้าเป็นพิเศษ เช่นอินทราเทวราช ปชาบดีเทวราช วรุณเทวราช จุลรถ มหารถ อเนกวัณณ นี่จำไว้นะ 3 องค์สุดท้ายนี่สำคัญมากเลย จุลรถ มหารถ อเนกวัณณ เพราะถือกำเนิดขึ้นมาโดยมีบารมีที่ยิ่งใหญ่กว่าองค์อินทร์ผู้ปกครองพิภพเสียอีกคือมีอานุภาพบารมีและความเป็นทิพย์ภาวะสูงกว่า น่าจับตาดูว่าซักวันหนึ่ง ไม่พระวรุณ ก็พระจุลรถ พระมหารถ พระอเนกวัณณ ไม่องค์ใดก็องค์หนึ่งนี่เเหละที่จะมีความสามารถพอที่จะเข้าเเทนตำเเหน่งพระอินทร์องค์ต่อไปได้
วันนี้ก็ขอจบลงเเต่เพียงเท่านี้ก่อน ไว้มีโอกาสจะมาพิมพ์ต่อไป ถ้ายังอยากอ่านอยากศึกษากันอยู่นะครับ -
ชอบอ่านครับ
-
-
-ขอจองบูชา พระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล) 1 องค์ ขอโอนช่วงปลายเดือนครับ
-
จอง พระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล) 1 องค์ครับ
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
พ่อยักษ์แดง นี่มีให้บูชาแยกมั้ยครับ หรือ มีเฉพาะในพระสิวลีเท่านั้น :D
-
พ่อยักษ์แดงของคุณกรณ์ นี่เหมือนกับที่ฝังในพระสีวลีหรือเปล่าครับ พ่ออาจารย์ท่านเสกแบบเดียวกันหรือเปล่าครับ
-
เหมือนกันครับ ของผมจะเอาออกมาก่อนเสกเสร็จซะอีก สีแดงจริงๆ เเต่พอฝังลงเนื้อพระ คงเพราะมีน้ำมันเสน่ห์และสีผึ้ง ประกอบกับพอเเห้งเเล้วท่านพ่นเคลือบไว้ด้วย สีมันเลยออกไปเเนวแดงๆดำๆ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
จองตะกรุดพ่อพญาเมืองมอญ 1 ดอก
-
จอง ตะกรุดพ่อพญาเมืองมอญรุ่นแรก (ตัวพ่อ ดัน ได้ ดี) 1 ดอกครับ
-
จองตะกรุดพ่อพญาเมืองมอญ 1 ดอก
-
แจ้งโอนค่าบูชา 2 รายการ นี้ก่อนครับ
1. พระของขวัญสำเร็จทันใจ (เนื้อผงสุริยกาล) 1 องค์
2. ตะกรุดพ่อพญาเมืองมอญรุ่นแรก (ตัวพ่อ ดัน ได้ ดี) 1 ดอก
ที่อยู่ทาง PM ครับ
วันที่ทำรายการ: 15/05/2015 23:56:49 และ 23:57:30 ตามรายการครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เรื่องเล่าวันละนิด เทวาสุรสงคราม
ก็เคยพูดกันไปแล้ว วันนี้ก็มาพูดกันอีกคำรบหนึ่ง จะได้ลงรายละเอียดกัน เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวพวกเรามากจนอาจคิดไม่ถึงทีเดียว
พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า เทวาสุรสงครามก็คือการทำสงครามกันระหว่างเทวดากับอสูร เป็นสงครามระหว่างทิพย์กายและอสุรกาย สงครามนี้ไม่มีวันแตกหัก ไม่มีแพ้ชนะ ไม่มีการเอาชัยอย่างเด็ดขาด เป็นสงครามที่ดำเนินไปไม่มีวันสิ้นสุด
กล่าวคือเมื่อกองทัพอสูรตีทัพนาค ครุฑ เทพคนธรรพ์ กุมภัณฑ์ ยักษ์แตกพ่ายจนมาถึงพิภพดาวดึงส์ หากกองทัพเทพยกกลับเข้าเทพนคร จะต่อตีอย่างไรก็ไม่อาจยึดได้ ในขณะเดียวกันหากกองทัพเทพตีอสุรกายภูมิไปจนถึงอสูรพิภพ ซึ่งอยู่ใต้จอมเขาพระสุเมรุใต้มหานทีสีทันดร หากกองทัพอสูรยกกลับเข้านครกองทัพเทพก็ไม่อาจตีหักเอาได้เช่นกัน
หลักการของเทวาสุรสงครามนั้น หากมองในเเง่กุศลเเละบาปกรรมเเล้ว จะทำให้เห็นว่า อกุศลกรรมย่อมมาก่อนกุศลกรรมเสมอ เปรียบได้กับเทพนครก่อนที่จะถูกเทพดาวดึงส์ปกครองก็เป็นของอสูรมาก่อน ดังนั้นถ้าเราเปรียบอสูรเป็นตัณหาเเละอกุศลฝ่ายเทพก็ย่อมเป็นบุญกุศล หากพวกเธอทั้งหลายได้ปฏิบัติโยคะฝึกสมาธิจะทราบได้เองว่าเรื่องนี้มันเป็นของจริงเพราะตัณหานั้นจะมาก่อนพระนิพพานเสมอ
มาดูที่พิภพอสูรกันบ้างผ่านจอมเขาพระสุเมรุมหานทีสีทันดรไป เราจะเจอเขาสามลูก เรียกว่าตรีกูฏบรรพต ในการซ้อนที่เหลื่อมกันทำให้เกิดการบังเงาขึ้นมาเเละสถาปนาอสูรนครไว้ได้ถึง 4 เเห่ง ถ้าเธอมองอสูรคือตัณหาเเล้ว ตรีกูฏบรรพตคือปราการที่จะไปถึงอสูรพิภพ ก็เปรียบได้กับ ราคะ โทสะ โมหะ นั่นเอง
นี่คือเรื่องจริง เป็นเรื่องที่ละเอียดและลึกซึ้ง สมัยพุทธกาลก็มีคนเห็นมาแล้ว ต้องนำเรื่องไปทูลถามพระพุทธเจ้าเพราะเขาคิดว่าเขาบ้า เพราะได้เห็นเทวาสุรสงครามนั่นเอง ในครั้งนั้นกองทัพอสูร ทั้งทัพช้าง ม้า รถ พลทหาร ได้ใช้ก้านบัวในมนุษยภูมิเป็นประตูมิติเพื่อเดินทางกลับอสูรกายภูมิ เรื่องนี้ไม่ใช่เเค่คนเห็นอาจจะเป็นบ้าได้ เพราะเเม้เเต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังตรัสรับรองไว้ ว่าสิ่งนี้เเม้เทวดาได้เห็น ก็ยังแปลกใจงวยงงเเละสงสัยทำอะไรไม่ถูก
พ่ออาจารย์ท่านว่า ตรงนี้สำคัญ เพราะมันเป็นเรื่องของจิตที่มีปฏิสัมพันธ์กับกาลเวลา เราต้องเข้าใจว่ามนุษยภูมินี้มิได้อยู่โดดเดี่ยว เเต่ทับซ้อนเหลื่อมล้ำกับมิติเเละพิภพอื่นมากมาย ในทางเดียวกัน ประตูที่จะไปสู่พิภพอื่นๆนั้น ก็มีปรากฏมากมายอยู่ในมนุสสภูมิ หากเเต่ตัวมนุษย์เองมิได้รู้เรื่องอะไรด้วย เพราะไม่รู้ ไม่มีความสามารถที่จะรู้ ไม่สามารถจะเข้าไปหาเขาได้ ไม่เห็น จึงสรุปว่าไม่มี ถ้าใครบอกว่ามีหรือเห็น คนๆนั้นเขาจะเรียกว่าคนบ้า เพราะเห็นอยู่เเต่ฝ่ายเดียวคนอื่นเขาไม่เห็นด้วย เเต่ก็เเปลกที่คนซึ่งถูกเข้าใจว่าบ้าคุยกับพระพุทธเจ้ารู้เรื่องและก็เห็นสิ่งเดียวกับพระพุทธเจ้าท่านเห็น ขนาดอยู่ในสมัยพุทธกาลอันได้ชื่อว่ามีการพัฒนาทางจิตที่สูงกว่าสมัยอื่นก็ยังเป็นเช่นนั้น
เมื่อมีการปรากฏของทิพยกายเเละอสูรกาย เทวาสุรสงครามจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงมิได้ มนุษย์เราก็มีโอกาสรับรู้เเละเห็นกันอยู่บ่อยๆ เพราะหากมีเทวาสุรสงครามเกิดขึ้น เเน่นอนว่าอสูรกายภูมิต้องผ่านมนุสสภูมิขึ้นไป เราจะรู้ได้ในรูปของมวลพลังงานที่แปรปรวนอันนี้พูดถึงคนธรรมดาๆเลยนะ แล้วเราก็จะไม่คิดอะไร นอกจากคิดไปเพียงว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ผิดปกติ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ก็แปลกนะ ยุคนี้ธรรมชาติ ก็ดูจะผิดปกติซะบ่อยเสียจริงๆ มนุษย์เราจะเห็นหรือไม่ว่าเทวาสุรสงครามได้เกิดอยู่เนืองๆ เค้าจะเห็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ซึ่งทั้งเทพเเละอสูรนั้น หากมีการรบกันก็ต้องผ่านมิติมนุษย์ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะ เพราะเกิดเทวสุรสงครามทีไรธรรมชาติก็จะวิปริตเเละเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ เป็นการหักลบกันของพลังงานในจักรวาล มันไม่ได้ส่งผลกระทบเเค่โลกของเราเเต่มันมีผลถึงพิภพอื่นๆเเละห้วงจักรวาลทั้งหลาย ซึ่งเรื่องนี้มันก็มีข้อจำกัดที่เราจะพูดจะบอก เพราะมันเป็นหน้าที่ของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งท่านก็ได้เคยมีดำริไว้เเล้ว หากเเต่เพียงว่ายุคนี้พระองค์ไม่ได้ดำรงค์ธาตุขันธ์อยู่เเล้ว สิ่งทั้งหลายที่มนุษย์ควรรู้ก็เลยไม่ได้รับรู้ไป
เมื่อมีเทวาสุรสงครามเกิดขึ้นเพราะอสูรต้องการจะกลับไปยึดเทพนครอันเป็นที่อยู่เดิมของตนเองซึ่งถูกคณะเทพดาวดึงส์เเย่งไป ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรเเต่สิ่งที่ได้ก็มีเพียง 2 ประการเท่านั้น คือ
1. ทิพยกายจะเสื่อม อสูรกายจะบริบูรณ์
2. อสูรกายจะเสื่อม ทิพยกายจะบริบูรณ์
ซึ่งก็เหมือนการต่อต้านกันระหว่างคุณงามความดีเเละกิเลสตัณหา ซึ่งต้องต่อสู้กันไปไม่จบสิ้น ตราบใดที่ยังมีสิ่งมีชีวิต เนื่องจาก เราอันเป็นมนุษย์นั้น เป็นบุคลากรชั้นดี ที่ทั้งสองพิภพต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเทวภูมิหรืออสูรกายภูมิก็ดี เขาจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากเขามีประชากรเพิ่มขึ้น เเม้เพียงคนเดียวก็ตาม
ตรงนี้ก็เหมือนตราชั่งวัดระดับความดีงามในโลกมนุษย์ ว่าในยุคไหนประชากรของใครมากกว่ากัน เเละดูเหมือนยุคนี้อสูรกายภูมิก็จะเจริญขึ้นผิดหูผิดตา ซ้ำร้ายประชากรเทพนั้นกลับไร้คุณภาพเพราะมนุษย์อาศัยการเข้าถึงเทพนครด้วยคำว่าบุญแลกุศลขาดการอบรมเพาะบ่มจิตสำนึกเเละอุปนิสัยขาดการปฏิบัติฌานสมาบัติเช่นยุคที่ผ่านๆมา
แม้ทุกวันนี้ ก็มีเหตุผลหนึ่งที่พระอินทร์พระองค์ปัจจุบัน ยังอยู่ในตำเเหน่งเเละคาดว่าจะอยู่ไปอีกยาวนาน เเม้จะถึงคราวหมดวาระลงไปแล้ว ก็จะมีเหตุและปรากฏการณ์ให้ท่านคงอยู่ต่อไปได้โดยมีความเป็นทิพย์และมีบารมีเพิ่มพูนเสียยิ่งกว่าเก่า ซึ่งก็เพราะว่าท่านผูกขาดการทำเทวาสุรสงครามกับอสูรกายภูมิเอาไว้แบบไม่มีวันสิ้นสุดนั่นเอง เนื่องจากท่านเป็นคนก่อตั้งดาวดึงส์ เเละขับไล่เจ้าของเดิมลงไปอยู่ในอสูรกายภูมิ
วันนี้ก็พอเพียงเเค่นี้ก่อน มองดูท้องฟ้าเเล้วมืดๆเหมือนฝนจะตก จะค่อยๆมาทยอยเล่าอะไรที่เป็นประโยชน์รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม พวกนี้ไปทีละเล็กๆน้อยๆ ก็คอยๆติดตามกัน -
สาธุๆๆได้ความรู้ดีครับ
-
ตะกรุดพ่อพญาเมืองมอญ สามารถคาดเอวได้ไหมครับ
-
ลงได้ เเต่คิดว่าใช่ประเป๋าเสื้อก็ดี ผมไม่ค่อยชอบคาด เอาตามความถนัดดีกว่า
-
หน้า 47 ของ 459