ผลกรรม
ก็มาคุยกันยามเย็น
พอดีมีคำถามน่าสนใจเข้ามาฝากให้ถามท่านให้ เห็นว่าเป็นประโยชน์เลยจะจับมาเป็นประเด็นพูดคุยกันเลย
ก็มีใครก็ไม่รู้ผมไม่ค่อยคุ้นเลยส่งคำถามเข้ามาว่า ตนเองนั้นเป็นคนทำบุญมาก แต่ทำไมชีวิตถึงตกต่ำลง ยิ่งทำยิ่งแย่ ยิ่งทำยิ่งไม่เจริญ เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพยดาไม่มีอยู่จริง ทำไมคนทำชั่วกลับได้ดี คนทำดีกับได้ชั่ว
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องกฏแห่งกรรม พ่ออาจารย์ท่านบอกว่า คนเรานั้น แน่นอนว่าทุกคนมีอดีต คนเราที่อยู่กับปัจจุบันนั้นทุกคนมีอดีตหมด และมีอดีตที่ผ่านมามากมายแตกต่างกัน
ในการทำบุญทำกุศลนั้น เป็นส่วนของความดีซึ่งอานิสงค์ของบุญย่อมคืนสนองแก่ผู้ทำตามกำลังใจและวาระบุญนั้น การทำความดีแล้วตกต่ำหาความเจริญไม่มี บางครั้งก็ควรพิจารณาให้ดี ไม่ใช่กฏแห่งกรรมไม่มี เทพยดาไม่มี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มี
ในบางบุคคลนั้นสมมติว่าเค้ามีกรรมต้องได้รับผลไปอีกห้าชาติ สิบชาติ ร้อยชาติ เค้าต้องไปเกิดแล้วเจอกรรมต่างๆตามผลกรรมที่เค้าทำไว้ แต่ในระหว่างภพการเกิดนั้นเค้าสร้างบุญด้วยกำลังใจมาก บุญนั้นมีอานิสงค์มาก ไม่ใช่ว่าบุญนั้นจะรอส่งผล แต่บางครั้งกฏแห่งกรรมก็ได้ลิขิตสิ่งที่ต้องเกิดไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้มาแล้ว
ด้วยอานุภาพแห่งบุญและบารมี หากบุคคลใดหมั่นสั่งสมไว้ตลอดแล้ว ไม่ต้องกลัวเลยว่าเทพยดาเขาจะไม่รู้เขาจะไม่ช่วยเหลือ บางรายสมมติว่าชาตินี้ต้องตายโหง ชาติหน้าต้องอดตาย ชาติต่อไปต้องโดนโกง ชาติต่อไปอีกต้องถูกทอดทิ้งเช่นนี้เป็นต้น ด้วยมติเทพยดาตลอดจนครูบาอาจารย์ก็อาจจะรวบยอดทุกสิ่งที่จะต้องเจอให้เกิดขึ้นกับเขาภายในชาติเดียวเช่นนี้ก็มีมาแล้ว เริ่มจากโดนโกง โดนครอบครัวทิ้ง อดมื้อกินมื้ออย่างทรมาน สุดท้ายตายโหง นี่ท่านรวบยอดทั้งหมดในชาติเดียว พอเกิดภพชาติต่อไปบุญจะลงเต็มที่กลายเป็นคนมีวาสนาถึงพร้อมในทุกสิ่งอย่าง เพราะเช่นนั้นจะว่ากฏแห่งกรรมไม่มีอยู่จริง เทพยดาท่านไม่ช่วยเหลือแบบนั้นไม่ได้
อย่าลืมว่าระบบเวลาของเขากับของเรามันต่างกันนัก ห้วงชีวิตของเรามันเทียบกับเขาไม่ได้ ดังนั้นบางครั้งเค้าคิดจะช่วยไม่ใช่ไม่ช่วย จึงขึ้นอยู่กับว่าเค้าจะช่วยเราด้วยวิธีไหน เพราะเทพยดาครูบาอาจารย์ก็มีวิธีของเค้า อย่าไปกล่าวโทษท่านเลย หากคิดว่ามันสาหัสและหนักหนาเกินไป เรายังไม่พร้อมรับความทุกข์ไม่พร้อมจะเผชิญที่สุดแห่งทุกข์ ก็บอกกล่าวกับครูบาอาจารย์หมั่นสวดมนต์ทำบุญบำเพ็ญบารมีให้มาก แต่ภพชาติต่อไปสิ่งที่ต้องเกิดมันก็ยังต้องเกิดอยู่ดี หากแต่เมื่อเกิดแล้วจะได้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นมาบรรเทาจิตใจของเราอีกส่วนหนึ่งนั่นเอง จะได้ไม่ร้ายไม่แรงไปชั่วชีวิต
ในกฏแห่งกรรมนั้น จริงอยู่ว่าครูบาอาจารย์ตลอดจนเทพยดาทั้งหลาย ท่านมีสิทธิ์ที่จะอนุเคราะห์ช่วยเหลือผ่อนปรนได้ แต่อย่าลืมว่า ท่านก็มีสิทธิ์จะเร่งเร้ารวบยอดให้กรรมนั้นแสดงผลได้เช่นกัน เพราะว่าท่านปรารถนาดีดังนั้นจึงไม่ควรนำน้ำใจของตนไปคิดหรือตัดสินครูบาอาจารย์
ร่วมทำบุญบูชา พ่อหุ่นมงคลกระจกเงาตะข่ายคันฉ่องฟ้า(ผู้ศรัทธายึดมหาฐานะคาบช้อน..) พ่ออาจารย์พล
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.
หน้า 154 ของ 476
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ก็มีคนถามเข้ามา เหมือนกับจะเคยอธิบายไปแล้ว เกี่ยวกับสวรรค์ชั้นพิภพดุสิต ว่าสวรรค์ชั้นนี้ไม่มีผู้ปกครองรึเปล่า เพราะตัวจอมเทพคือท้าวสันดุสิตเทวราชได้เสด็จลงมาเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันไปแล้ว
ก็ไม่รู้ว่ารับข้อมูลมาจากไหน แต่เห็นว่ามีการกล่าวถึงว่าท้าวสันดุสิตเทวราชนั้นได้จุติเป็นสมเด็จองค์ปัจจุบันกันมากหลายที่จริงๆ ที่จริงพิภพดุสิตนี้จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแดนสุขาวดีแบบพุทธมหายานเรียกก็ได้ ซึ่งแดนนี้จะมีเทพยดาอยู่มาก ไม่ใช่ว่าพิภพดุสิตจะมีเฉพาะพระโพธิสัตว์เท่านั้น แต่เทพยดาทั้งหลายอันจุติขึ้นในภูมิของพิภพดุสิตนั้นจะเป็นเทพผู้รู้บุญรู้ธรรม รวมไปถึงเหล่ามหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทั้งหลายส่วนใหญ่จะมีวิมานอยู่ในภูมินี้
ดังที่กล่าวไป ใช่ว่าจะมีแต่พระโพธิสัตว์ แต่เหล่าพระอริยบุคคลตั้งแต่ชั้นโสดาบันขึ้นไป มีความปรารถนาจะจุติในพิภพดุสิตนี้ก็ยังมี เช่นท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี พระธรรมิกเถระ พระติสสเถระ พระนางมัลลิกา พระเจ้าทุฏฐคามินี พระเจ้าปเสนทิโกศล เป็นต้น
จอมเทพของสวรรค์ชั้นนี้ก็คือท้าวสันดุสิตเทวราช ซึ่งในปัจจุบันพระองค์ก็ยังเป็นจอมเทพอยู่เช่นเดิม เป็นความเข้าใจผิดไปกันเองว่าพระมหาโพธิสัตว์ที่ลงมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้านั้นคือท้าวสันดุสิตจอมเทพแห่งแดนสุขาวดี
ซึ่งต้องทำความเข้าใจใหม่ว่าท้าวสันดุสิตก็ยังอยู่เช่นเดิม แต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันคือท้าวสาเกตุเทวราช เป็นคนละองค์กันกับท้าวสันดุสิต และในอนาคตกาลพระหน่อพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้เป็นพระศรีอาริย์นั้นก็คือท้าวนาถเทวราชซึ่งปัจจุบันองค์ท้าวนาถเทวราชก็ยังสถิตย์อยู่ที่พิภพดุสิตเช่นกัน -
ร่วมเล่นเกมส์ แจกพระบรมครูแพทย์หมอชีวกโกมารภัจจ์
พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างเหรียญหล่อหมอชีวกขึ้นด้วยเหตุผลสำคัญหลายประการ แต่ท่านจะไม่เรียกหมอชีวกว่าชีวกเฉยๆ โดยปกติท่านมักจะเรียกว่าพระบรมครู เพราะก่อนตายนั้นท่านเป็นฆราวาสหาได้บวชกับพระบรมศาสดา แต่ว่าท่านก็บรรลุอรหันต์ทั้งที่ยังเป็นฆราวาส ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นทำให้วันต่อมาท่านเข้านิพพานทันที พ่ออาจารย์ถึงเรียกพระบรมครูโดยติดคำว่าพระไว้เพื่อจะให้รู้ว่าท่านไม่ใช่ปุถุชนสามัญ และการสร้างการเชิญนั้นก็ทำได้ยาก
สืบเนื่องจากสังคมในภาพรวมที่มักจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นอยู่เสมอ ท่านจึงคิดจะว่าจะทำอะไรแจก เอาไว้ให้คนทั้งหลายใช้คุ้มตัวให้รอดปลอดภัยในสภาวะเช่นนี้ ซึ่งท่านได้นิมิตเห็นหลวงพ่อฤาษีมาบอกว่าให้ท่านทำพระบรมครูหมอชีวก ด้วยว่าท่านนั้นมีบารมีมากพอ เพื่อจะได้แจกออกไปคุ้มครองผู้เคารพศรัทธาให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งมวล ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจก็ดี ซ้ำยังจะปกป้องให้รอดพ้นจากภัยธรรมชาติ ภัยจากมนุษย์ ภัยจากอมนุษย์ ตลอดจนภัยพิบัติทั้งหลาย
ซึ่งเมื่อปลุกเสกแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังสำทับว่าบารมีพระบรมครูชีวกนั้นสำคัญมากเหมาะแก่กาล ถือว่าควรยิ่งแล้วจริงๆ เหรียญนี้แม้อาราธนาพกพาด้วยใจศรัทธาหมั่นอาราธนาท่าน จะแก้โรคเวรโรคกรรมได้ ป้องกันอาการเจ็บไข้ได้ป่วยให้ระงับไป ดับทุกข์ภัยทั้งปวง กันคุณผี คุณไสย คุณคน อาถรรพ์วิญญาณร้ายบรรดามี ซ้ำยังเสริมส่งดวงชะตาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นเสียยิ่งกว่าแก้วสารพัดนึก ท่านว่านี่เป็นบารมีของพระอรหันต์องค์สำคัญ ยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน
ก็จะเปิดให้เล่นเกมส์กันซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้มอบมาให้ 30 เหรียญ โดยเกมส์นี้เราจะว่ากันด้วยเรื่องทศบารมี หรือบารมีสิบทัศก็เรียก ซึ่งภพชาติการเกิดนั้นสำหรับสรรพชีวิตก็ต้องอบรมสั่งสมทศบารมีหรือกำลังใจตัวนี้ให้เต็มด้วยนั่นเอง
สำหรับเกมส์นี้จะกล่าวถึงทศบารมี อันประกอบด้วย
- ทานบารมี
- ศีลบารมี
- เนกขัมมบารมี
- ปัญญาบารมี
- วิริยบารมี
- ขันติบารมี
- สัจจบารมี
- อธิษฐานบารมี
- เมตตาบารมี
- อุเบกขาบารมี
ซึ่งคุณธรรมทั้งสิบข้อนี้เป็นเหตุให้ไปเกิดในสุขคติภูมิ ได้แก่ภพสวรรค์ต่างๆ และท้ายที่สุดก็ยังเป็นคุณธรรมที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็นพระอรหันต์ กลายเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นกัน
ดังนั้นเกมส์วันนี้เราจะให้ผู้เล่น บอกกล่าวเรื่องราวในชีวิตตัวที่เคยปฏิบัติ หรือทำเป็นนิสัย เกี่ยวกับบารมีทั้งสิบนี้ข้อใดข้อหนึ่งก็ดี หรือจะมากกว่าข้อหนึ่งก็ดี ก็ให้บอกเล่ากันมาเพื่อที่ผู้อ่านหลายๆคนจะได้สร้างกำลังใจและเห็นเป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกันต่อไป และสุดท้ายก็จะได้มาร่วมอ่านและมาร่วมอนุโมทนาสาธุกาลกันด้วยกำลังใจที่เต็มเปี่ยม
* กำหนดเวลา หมดหรือปิดการเล่นเกมส์ เวลาหกโมงเย็นวันอาทิตย์ที่ 17 นี้ ก็เริ่มเกมส์ได้เลย เดี๋ยวผมจะมาลงรายละเอียดพิมพ์ทรงของเหรียญพระบรมครูหมอชีวกอีกที รับรองว่าดีเกินกว่าที่คาดคิดเพราะพระยันต์ที่พ่ออาจารย์เลือกมาลงจารกำกับทุกองค์นั้น แค่วิชานี้ก็มีอะไรดีๆน่าอัศจรรย์เยอะแล้วไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ร่วมเล่นเกมส์ครับ
สำหรับตัวผมเองนั้นสิ่งเคยปฎิบัติและพยายามปฎิบัติอย่างสม่ำเสมอ คือ ทานบารมี ครับ
ไม่ว่าจะถวายทานกับผู้ทรงศีล(พระสงฆ์)หรือให้ทานกับบุคคลทั่วไป มูลนิธิการกุศล หรือ ถวายทานในเขตของบวรพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน หรือถวายทานนอกเขตของพระพุทธศาสนาก็ตาม ทานบารมีเป็นบารมีขั้นต้นที่จะสามารถพัฒนาไปสู่การบำเพ็ญบารมีขั้นอื่นๆได้อีกมากมาย หากปราศจากทานบารมีแล้วการบำเพ็ญบารมีในขั้นอื่นๆคงเป็นไปได้ยาก -
ร่วมเล่นเกมส์
ผมจะกล่าวด้วยเรื่อง "ศีลบารมี" ผมได้ปาวรณาตนเพื่อ ระลึกและรักษาใน ศีล 5 ให้เป็นปกติ เนื่องด้วยได้ให้สัจจะวาจาต่อครูบาอาจารย์และวิชาที่ได้รับสืบมาแต่ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ผ่านทางพระอาจารย์เก่ง แห่งวัดเขาถ้ำพระ จ.สุราษฏธานี พระอาจารย์ท่านได้ สืบทอดวิชาธรรมบันดาลให้ ด้วยข้อรักษาสำหรับวิชานี้คือห้ามผิดข้อสุราเมระยะ โดยต้องถือโดยเคร่งครัด ซึ่งผมสามารถ รักษามาได้ถึงทุกวันนี้ และมีผลทำให้ผมรักษาข้ออื่นๆด้วยตามมาครับ...จนทำให้มันเป็นในกมลจิตแล้วว่าเราต้องรักษา "ศีล" รักษาธรรมข้อนี้ ยิ่งกว่าชีวิตครับ -
สิ่งที่ทำมาเรื่อยๆจนเป็นนิสัยคือทานบารมี ได้แก่ การให้วัตถุ เงินหรือวัตถุสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องบริโภค แก่พระสงฆ์ วัด องค์กรการกุศล บุคคล ตลอดจนสัตว์ต่างๆ และสิ่งที่กำลังฝึกทำคือ อภัยทาน สิ่งเหล่านี้เมื่อทำแล้วรู้สึกว่าใจเป็นสุข
-
ร่วมเล่นเกมส์
ผมจะเจริญเมตตาบารมีอยู่เสมอ เห็นสัตว์โลกเป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันทุกคน จึงเกิดความสงสาร เห็นอกเห็นใจ ใครเดือดร้อนทั้งกายและใจ ก็จะให้ความช่วยเหลือตลอดไม่ได้เลือกชนชั้น วรรณะ และมักจะสวดมนต์คาถาเมตตาใหญ่เพื่อแผ่เมตตาจิตให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้อยู่ดีมีสุข พ้นทุกข์ทั้งปวง -
ทานบารมี ครับ
ร่วมทำบุญสร้างวิหารทาน ถวายสังฆทาน มูลนิธิ โรงพยาบาล เนื่องจากทำได้ง่ายกว่า และไม่จำเป็นต้องมีมากมาย ทำตามกำลัง การบำเพ็ญบารมีขั้นอื่นๆคงเป็นไปตามลำดับ เพราะจะทำได้ยากขึ้น -
ร่วมเล่นเกมส์ครับ ศีลบารมี ตื่นนอนทุกเช้า กราบพระอาราธนาศีล และตั้งใจว่าในวันนี้เราจะรักษาศีลให้ได้ครบทั้ง 5 ข้อ วันไหนมีเผลอพลั้งพลาดก็ตั้งใจใหม่ ว่าวันนี้เรายังไม่ดีพอต้องปรับปรุงตัวเองแก้ไขใหม่ ทานบารมี มีโอกาสหรือได้เห็นในข่าวบุญต่างๆ เช่น การสร้างโบสถ์ พระประธาน วิหารทานต่างๆ ก็ได้ร่วมบุญสร้างตามศรัทธาและโอกาสจะพึงมีครับ และให้ชีวิตสัตว์ที่ต้องทุกข์จากการต้องถูกประหารจากการถูกนำไปฆ่า ได้แก่ปลา และสัตว์ที่ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวให้หมดสิ้นอิสระภาพ ให้เป็นอิสระตามอัตตภาพของเค้าครับ
-
ผมทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์ทุกเดือน นั่นคือ ทานบารมี และวิริยบารมี
รักษาศีล5เป็นปกติ นั่นคือ ศีลบารมี วิริยบารมี และขันติบารมี
นั่งสมาธิและสวดมนต์ทุกวัน นั่นคือ เนกขัมมบารมี วิริยบารมี และอุเบกขาบารมี
ขณะนั่งสมาธิจนจิตได้ที่แล้ว ก็ใช้สติ และจิตพิจารณาสภาวะธรรมต่างๆ นั่นคือ ปัญญาบารมี
แผ่เมตตาทุกวัน นั่นคือ เมตตาบารมี วิริยบารมี และอธิษฐานบารมี
พูดคำไหนคำนั้น นั่นคือ สัจจบารมี ครับ -
ร่วมเล่นเกมส์ครับ
สิ่งที่ผมพยายามทำทุกวันเป็นปกติ คือ ศีล 5 ครับ ศีลบารมี และทำทานบารมี ควบคู่กันไปด้วยเมื่อมีโอกาส โดยการซื้อปลาดุก ที่เขาจะฆ่าตายในตลาดเพื่อเป็นอาหาร มาปล่อยให้เป็นอิสระ ถึงแม้ทุกวันนี้จะลำบาก เป็นหนี้เยอะมาก ไม่มีทุนทรัพย์อะไรเลย แต่ผมก็ทำครับ ทานบารมี เพราะเข้าใจว่าที่เราเป็นแบบนี้ทุกวันนี้ คงขาดทานบารมี นั่นเองครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมกระทำสม่ำเสมอ ในชีวิตนี้ก็คือ สัจจะบารมี สิ่งไหนที่ผมตกลงไว้กับใคร หรือให้คำมั่นแล้ว ผมจะทำตามนั้นทุกครั้งครับ (ถ้าไม่ได้มีเหตุจำเป็นให้ขอเปลี่ยนแปลงก่อน) สิ่งนี้ผมทำเพื่อชดเชยกับสิ่งที่ผมคิดว่าตนเองขาดไปครับ เพราะปัจจุบัน ผมเป็นคนที่อธิษฐานขออะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แทบไม่ได้ผลอะไรเลย หรือได้ก็น้อยครั้งมากๆ ไม่ต้องขอเวอร์อะไรเลยเหมือนเรื่องถูกหวยที่คนชอบขอกัน ผมขอเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ยังไม่ได้เลยครับ และเวลาขอมักได้ตรงข้ามด้วยซ้ำไป เหมือนโดนกลั่นแกล้ง ผมเลยพยายามทำสัจจะบารมีเพื่อแก้ไขครับ
ปล. บ้านปัจจุบันของผม อยู่แล้วร้อนจัง จากเรื่องอารมณ์ ทะเลาะ และเจ็บไข้ได้ป่วย เสียเงินตลอด ถ้าคุณคุรุปาละมาอ่าน ช่วยผมหน่อยนะครับ แก้ไขอย่างไรดี แต่ย้ายบ้านคงไม่ได้นะครับ เพราะติดเรื่องเงินมากๆ เรียกว่า ขายยาก ถึงขายได้ ก็กู้ซื้อใหม่ไม่ได้แน่นอน เพราะหนี้เยอะครับ -
ทำทุกวันคือการรักษาศีล5ไม่ให้ขาดสัมมทานศีลทุกวันรักษาใจเป็นหลักทุกเช้าจะทำบุญโดยใส่กระปุกทุกวันโดยรวบรวมทำบุญใหญ่ครั้งเดียวเมิ่อตอนไปวัดฝึกอภัยทานแก่ทานที่นินทาเราทุกวันเป็นประจำทุกวัน
-
สิ่งที่ทำบ่อยๆก็คือทานบารมีกับศีลบารมี คือพยายามรักษาศีล5ให้ได้ตลอดอาจจะมีผิดพลาดบ้างบางวัน ส่วนทานบารมี พยายามจะให้ทานบ่อยๆในทุกๆโอกาศ เช่นไปวัดทำสังฆทาน ปล่อยปลา หรืออาจจะมีอภัยทานในบางที แล้วก็จะทำบารมีอื่นๆเพิ่มเติมครับ
-
ปกติผมจะพยายามรักษาศีลห้าทุกวัน แผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลหลังการสวดมนต์ภาวนา รวมทั้งการถืออุเบกขา ซึ่งเกิดจากการพิจารณาถึงเหตุและผล ตามหลักทางพระพุทธศาสนา คือเมื่อเราสร้างเหตุใดขึ้นมา ก็ย่อมจะได้รับผลจากเหตุนั้นไม่ช้าก็เร็ว เมื่อศึกษามากๆเข้า เข้าใจมากขึ้น เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา ก็มักจะมีความรู้สึกว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องเกิดขึ้นเป็นของธรรมดา ทำให้ไม่เกิดความรู้สึกสับสน วุ่นวาย หรือผิดหวังเสียใจอะไรมากมาย ผลการพิจารณาเหตุและผลมานานหลายปี ทำให้เป็นคนที่มีความรู้สึกกลางๆ คือไม่สุขมากและไม่ทุกข์มาก ปัญหาอย่างเดียวที่เกิดขึ้นคือจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะเฉื่อยชาละครับ
-
บารมี10ข้อ ที่ทำบ่อยคงเป็น ทานเพราะชอบทำบุญ เจอตู้บริจาคกะชอบหยอด มีคัยบอกบุญมากะร่วมใส่ซองอยู่เสมอๆเวลาสวดมนต์กะจะหยิบเหรียญมาหยอดเก็บไว้ไปทำบุญ มีโอกาสกะชอบซื้อปลาจากตลาด ไปปล่อย ไถ่ชีวิตสัตว์ การรักษาศีลผมจะเคร่งในวันพระ วันธรรมดาก็มีเผลอบ้างแฮ่ๆ แต่ชอบสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนทุกๆวัน หลักๆก็ประมานนี้ครับ ^^"
-
ร่วมเล่นเกมส์
ทานบารมี ปกติทุกๆ 6 เดือน จะบริจาคโลหิตที่ ร.พ.ศิริราช เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่เสียทรัพย์แต่สุขใจมากๆ ค่ะ และที่ทำทุกวันคือ ทุกวันเมื่อสวดมนต์เสร็จจะนำเงิน 9 หรือ 10 บาทหยอดใส่กระปุกไว้ เมื่อเต็มก็จะนำเงินไปตามวัดต่างๆ เพื่อหยอดตามตู้บริจาค เช่น ชำระหนี้สงฆ์ ค่าน้ำค่าไฟวัด ค่าอื่นๆ อีกมากมาย ทำแบบนี้แล้วสบายใจเพราะไม่รู้สึกเสียดายเงินในกระเป๋าเพราะใส่วันละน้อยๆทุกๆวัน ไม่เดือดร้อนตนเองด้วยค่ะ -
สิ่งที่ทำเป็นประจำทุกวัน คือ นำเงินหยอดใส่บาตรทุกวัน ครั้งละ 5 บาท หรือมากกว่า อธิฐานบูชาพระรัตนตรัย และชำระหนี้สงฆ์เมื่อรวบรวมได้มากพอก็จะนำไปถวายวัดครั้งหนึ่ง บริจาคโลหิต ทุุก 3 เดือนครับ หากมีโอกาสก็จะไปปฏิบัติธรรมที่วัด ในวันพระ วันสำคัญเช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา
-
- ทานบารมี ทำบุญให้ทานอยู่เสมอ ทั้งการร่วมสร้างพระ สร้างโบสถ์ วิหาร ทำถังเก็บน้ำ ตักบาตร ถวายสังฆทาน ร่วมจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ และยังให้ทานกับสัตว์อยู่เสมอ เช่น ปลา นก ฯ
- ศีลบารมี รักษาศีลห้าอยู่เสมอ
- เนกขัมมบารมี ไปถือศีลแปดที่วัดทุกครั้งที่มีโอกาส
- ปัญญาบารมี ร่วมจัดซื้อพระไตรปิฎกถวายพระ บริจาคหนังสือให้ห้องสมุด
- ขันติบารมี พยายามอดทนอดกลั้นต่อความโกรธ -
ที่ทำทุกวันคือ ศีลบารมี คือรักษาศีล 5 ให้ครบ ข้อนี้ปฏิบัติมานาน มีบางวันผิดไปบ้างโดยไม่เจตนา ก็ตั้งใจใหม่ที่จะรักษาศีลให้สมบูรณ์ ส่วนบารมีที่ทำบ่อย คือ ทานบารมี ด้วยการหยอดตู้ที่วัดร่วมบุญถวายสังฆทาน สร้างวิหารทาน
-
ร่วมเล่นเกมส์
ปากติรักษาศีล5 อยู่เป็นประจำ ทำบูญบริจาคเงิน ตามโรงพยาบาล ตามวาระต่างๆ
บริจารโลหิตเป็นประจำ แต่ เดี๋ยวนี้ สุขภาพไม่แข็งแรงเหมือนก่อน หมอเลยให้หยุดไป
หน้า 154 ของ 476