ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเทียมครูปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ(มาหลังได้ก่อน) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    เรื่องของคู่บารมี

    ประเด็นนี้จริงๆน่าจะยกมาพูดกันนานแล้ว เพราะว่ามีหลายคนที่ยังทำผิด ยังไม่เข้าใจและยังคิดไม่ได้กันอยู่ ยกตัวอย่างง่ายๆแบบตัวผมเลยสมัยก่อน นิสัยส่วนตัวเวลาไปไหนเจอพระเกจิเก่งๆก็ชอบถอดของที่เราใส่เอาไปให้ท่านเป่า เพราะคิดว่าเป่านิด เสกหน่อย ทำไปเรื่อยๆอีกหลายๆองค์น่าจะขลังดี

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าของบางอย่างนั้น ไม่ว่าใครก็ทำแทนกันไม่ได้ ด้วยเหตุผลง่ายๆคือเขาไม่ใช่คู่บารมี ไม่เคยมีวาสนาร่วมภพ ไม่มีองค์ความรู้และความศรัทธา...ซึ่งตรงนี้ถึงบางคนเขารู้แต่ก็อดไม่ได้อยู่ดีเพราะคิดว่าไหนๆเจอแล้วก็เสกๆไปเถิด พ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเตือนว่าไม่มีสิ่งใดที่ขึ้นชื่อว่ามนุษย์นั้นทำไม่ได้ เพราะมนุษย์นั้นทำได้ทุกอย่างหากแต่เขาจะสำนึกรู้ได้มั๊ยว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรเท่านั้น ..ขึ้นชื่อว่าของที่เสกมาเต็มแล้ว ยิ่งถ้าไม่นับเรื่องความเหมาะสม รั้นแต่จะให้เสกเพิ่มเพราะคิดว่าขลังดี ของสิ่งนั้นนอกจากมันจะเต็มจนล้น มันก็ยังส่งผลถึงธาตุขันธ์ที่รองรับตัวมันอยู่ด้วยนั่นก็คือร่างกายของเรา เธออย่าลืมเสียล่ะว่าอะไรที่มันเต็มแล้วหากจะรั้นอัดมันต่อไปเมื่อบีบไม่ให้มันล้น ภาชนะมันก็จะแตก พ่ออาจารย์ท่านจึงพูดเสมอว่าถ้าเต็มคือจบ อย่าสู่รู้เกินไปกว่าครูบาอาจารย์ เพราะอะไรที่มันเดือด มันล้น มันก็จะแตก สุดท้ายไอ้ที่พังก็คือธาตุคือขันธ์คนใช้นั่นเอง

    เมื่อพูดถึงเรื่องของคู่บารมี ลองสังเกตุกันดูก็ได้ว่าเวลาใครสร้างอะไรก็จะต้องนึกไปถึงผู้เสกที่คู่ควร ไม่ใช่ตระเวณเสกกันมั่วทำกันไปเรื่อย ยกตัวอย่างเช่นหากพูดถึงเจ้าแม่กวนอิมก็ต้องหลวงปู่โต๊ะเช่นนี้เพราะท่านมีบารมีร่วมกัน สื่อถึงกัน เคยเจอกัน คุยกันรู้เรื่อง เช่นเดียวกันหากพูดถึงเสด็จเตี่ย(กรมหลวงชุมพร)นี่ก็ต้องไปหาหลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอยเพราะใครก็ทำแทนท่านไม่ได้ ด้วยจิตท่านถึงและพูดคุยกันได้

    เช่นเดียวกับอีกหลายๆที่ ทำไมใครก็อยากได้กุมารหลวงพ่อเต๋ ใครก็อยากได้ฤาษีหลวงปู่พรหมมา ทำไมพระพรหมต้องหลวงปู่ดู่ พระปิดตาต้องหลวงปู่โต๊ะ เสือต้องหลวงพ่อปาน ... ทั้งนี้เพราะพ่ออาจารย์ท่านให้เหตุผลว่าทุกสิ่งนั้นล้วนเป็นของคู่บารมีและเกื้อหนุนกันนั่นเอง ลองนึกเล่นๆจับสลับกันมั่วๆดูซิ้จะเป็นอย่างไร เช่นเอาฤาษีไปให้หลวงปู่โต๊ะเสก เอากุมารไปให้หลวงปู่ดู่เสกแบบนี้ ทั้งฤาษีก็คงจะสำเร็จเป็นฤาษีจริงๆไม่ได้ ไหนจิตกุมารทองก็คงโดนหลวงปู่ท่านจับบวชพระทั้งสิ้นนั่นแหละ

    ทั้งนี้เพราะคนเค้าลืมคิดเรื่องคู่บารมี และลืมคิดไปว่าทำได้หรือทำไม่ได้ เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ควรหรือไม่ควรนั่นเอง

    เช่นกันหากพูดถึงพ่ออาจารย์พล ท่านก็จะมีคู่บารมีของท่านเป็นครูพระสยม ครูบรมพรหม และครูสมเด็จเช่นนี้ กล่าวง่ายๆว่าแม้หลายๆที่จะแอบเอาของมาให้ท่านเสก บางอย่างท่านก็รับ บางอย่างท่านก็ไม่รับ และส่วนใหญ่ท่านจะถือคติเสกเฉพาะของที่ตัวเองทำ นั่นก็เพราะว่าของนั้นๆย่อมเป็นของในสายบารมีของท่าน ท่านทำได้และต้องจบที่ตัวท่าน ไม่ต้องเร่ไปหา ไปฝาก ไปถวายให้ใครทำให้ทั้งสิ้น

    ทำไมของบางอย่างถึงเสกเป่าแทนกันไม่ได้ ทำไมวัตถุมงคลถึงแตก ถึงเสื่อม ธาตุขันธ์ถึงวิปริต พ่ออาจารย์ท่านให้เหตุผลง่ายๆ ก็ยกตัวอย่างเหมือนคนเราพูดกันคนละภาษาย่อมคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วจะเอาอะไรไปนึกถึงกัน จะเอาอะไรไปเชิญเขา กลับกันถึงเชิญได้แต่เขาจะมาหรือเปล่านี่ก็อีกเรื่อง ง่ายๆเลยเช่นครูพระสยมนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกอย่างเวลาทำก็ต้องมีมนต์เฉพาะของท่าน ทั้งการบูชาไฟ ทั้งใบไม้ว่านยาที่ต้องใช้ในพิธีกรรม แม้แต่น้ำเทพมนต์ก็ยังเสกด้วยมนต์เฉพาะของท่านเท่านั้น จะรวมจะปนเปื้อนกันไม่ได้ การเชิญ การให้ท่านทำ ทุกสิ่งล้วนเป็นเรื่องของท่าน ก็ในเมื่อทุกสิ่งเป็นของเฉพาะหลายๆอย่างจึงใช้ จึงทำร่วมกันไม่ได้ และก็ใช้บทพุทธคุณเสกก็ไม่ได้ ซ้ำที่หนักไปกว่านั้นก็คือใครก็ทำแทนครูท่านไม่ได้

    ทั้งนี้ในกรณีครูบรมพรหม ครูพระเคณศ พระนารายณ์ต่างๆของพ่ออาจารย์ก็เช่นกัน เพื่อให้ได้สิ่งแทนครูที่เป็นของคู่วาสนาคู่บารมีจริงๆ ทุกสิ่งล้วนมีขั้นตอนเป็นไปตามลำดับขั้น ท่านว่าถ้าจะคิดง่ายๆแค่ปั๊มๆไปวางกองในพิธีพุทธาภิเษกให้พระเสกแล้วจะพูดว่าขลังแค่นั้น ของสิ่งนั้นก็จะไม่ใช่ของแทนครูหรือสื่อบารมีขององค์เทพตามรูปลักษณะที่ทำไว้ หากแต่จะเป็นเทวดาที่รักษาพระศาสนามารักษามาเป็นสื่อเป็นกำลังให้แทน และของแบบนี้ต่อให้ส่งมาให้เราทำให้ใหม่เราก็ไม่ทำ เพราะสิ่งที่มีจิตวิญญาณถือครองแล้วไปรบกวนเขาก็เหมือนไปไล่เขาจะเป็นบาปกรรมทั้งคนจ้างและคนทำนั่นเอง

    ดังนั้นสิ่งที่ควรหรือไม่ควรก็ต้องมองด้วยว่าท่านใช่คู่บารมีกันหรือไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่จะเป็นคู่บารมีกันก็คือเคยมีบุพกรรมร่วมกันมาแต่กาลก่อน มีความผูกพันธ์ ทั้งยังพบเจอกันนับครั้งไม่ถ้วนส่งผลให้มีปัจจัยเกื้อกูลกันในชาติภพนี้เช่นนี้ ไม่ใช่ใครก็ได้ ใครก็ได้ อะไรๆก็ได้ ดังนั้นของบางอย่างจึงมีข้อจำกัดมากกว่าการเสก แม้จะรู้ธาตุรู้ว่าเสกอย่างไรแต่ก็ไม่สามารถหลับหูหลับตาเสกให้สำเร็จได้ ของบางอย่างจะเสกแบบพระก็ไม่ได้ เสกแบบปลุกตะกรุด ปลุกเครื่องรางก็ไม่ได้ ถ้าขาดบุญสัมพันธ์และวาสนาร่วมภพเหล่านี้ และที่สำคัญเหนือสิ่งใดเลยนั่นก็คือคนที่เขาเคารพตนเองและเคารพครูบาอาจารย์เขาอย่างแท้จริงเขาย่อมไม่ทำอะไรที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วนหรือทำไปเรื่อยดังนี้


     
  2. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    หลายๆคนไลน์มาหาบอกว่าอ๋อกันเยอะมาก เพราะบางคนก็สงสัยมาตลอดว่าทำไมของบางอย่างจับพลังดูว่าแรง แต่พอเอาไปใช้ถึงเงียบบ้าง ร้อนบ้าง เจอเรื่องร้ายต่างๆมากมายบ้าง อันนี้ก็ระวังกันไว้อะไรที่ไม่ว่าสำนักไหนก็ตาม ครูบาอาจารย์ท่านใดก็ตาม ท่านสร้างมาดีแล้ว คือท่านต้องมั่นใจของท่านว่าใช้ได้แล้วจึงออกให้บูชา เราคนใช้ก็มีหน้าที่ของเราคือใช้บูชาไป ถ้าไม่มีความมั่นใจก็อย่าใช้ ดีกว่าได้อะไรมาทุกหลวงพ่อไปไหนทีก็ต้องหอบไปทุกที่ ต้องไปวิ่งวุ่นเสกเพิ่ม แบบนี้ต่อไปไม่เอากันนะ ;)
     
  3. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้จะกล่าวถึงครูพระสยมของพ่ออาจารย์ท่านที่สร้างเป็นเนื้อผงสำคัญในวาระนี้เพียงสั้นๆ เอาว่าท่านให้ทดสอบบารมีชนิดที่ว่าใครไม่ใช่คู่บารมี ไร้วาสนาก็ไม่มีวันพบก็ไม่ผิด ท่านว่าของรุ่นนี้สำคัญนักเพราะเป็นพ่อที่มีแต่ให้ เป็นพ่อที่ยิ่งกว่าพ่อทั่วไป คนในที่นี้ถึงมีบุญแต่ไร้วาสนาก็ไม่ได้เจอ กรรมเขาจะจัดสรรค์เอง ซึ่งครูพระสยมนี้พ่ออาจารย์ท่านก็พูดถึงอยู่เสมอว่า "สร้างไว้แทนตัวครูของเรา พระเป็นเจ้าของเรา"

    เป็นคำสั้นๆที่มีความหมายลึกซึ้งจริงๆเพราะท่านใช้คำว่าทำไว้แทนตัวครู ไม่ใช่เพียงของแทนครูแต่มันลึกเสียยิ่งกว่านั้นคือแทนตัวครู ดุจตัวครู และเป็นตัวครูนั่นเอง ดังนั้นพระสยมรุ่นนี้จะมีอะไรลึกๆและสำคัญอย่างไร คนที่รอสายองค์พ่อห้ามพลาด (กะซิบนิดๆว่ารุ่นนี้จัดเต็มจริงๆ องค์แม่...ที่ทุกคนถามหาอยากได้กันเยอะที่สุดก็มา ท่านฝังให้ครบ)
     
  4. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ที่โอนไว้แล้วจัดส่งวันพรุ่งนี้นะครับ
     
  5. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ผงอะไร ...มวลสารสำคัญอะไร ที่มีกำลังญาณของครูพระสยม มีพลังชีวิตของครูพระสยม และเป็นอาถรรพ์สำคัญในการทำรูปท่านทั้งครูพระสยมยังเน้นให้ใช้แทนตัวของท่าน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำให้เต็มสูตรชนิดแทนตัวของท่านเลยจะขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ...ใครลูกศิษย์สายองค์พ่อ ต้องติดตามดีๆ บอกได้คำเดียวว่าสายครูพระสยมท่านไม่ธรรมดา เพราะความรัก ความเมตตาในตัวลูกศิษย์ของท่านนั้น ท่านรักและสงเคราะห์เสมอด้วยบุตรแท้ๆทีเดียว

     
  6. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงอาถรรพ์ไตรภูมิมหาวิภูติศิลาชิต(สยมภูวญาณมหาโยคี)

    ยุคนี้...ทำไมต้องครูพระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยคติที่ครูพระสยม(พระศิวะ) ท่านเป็นเทพเจ้าที่โอบอุ้มจักรวาลทั้งยังดำรงค์สถานะพระผู้ไม่มีวันตาย(ดวงชีพนิรันดร์) หรือจะเป็นเทพเจ้าแห่งอาตมัน(วิญญาณทั้งหลาย) ด้วยนามนับพันนับหมื่นที่แสดงสภาวะธรรมสูงสุดต่างๆนั้นแน่นอนว่าพระองค์ท่านย่อมมีสถานะสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านยกครูพระสยมเป็นครูใหญ่และท่านยังรู้ดีว่าบารมีของครูนั้นฉุดกระชากเปลี่ยนวิบากกรรมให้ศิษย์ทั้งหลายได้จริง เพราะท่านมีหน้าที่สำคัญด้วยเป็นเทพเจ้าผู้ปัดเป่าทำลายบาปอันชั่วร้ายทั้งหมด ทั้งยังประสาทพรให้ผู้ที่รักและศรัทธาเต็มหัวใจอยู่เสมอ ด้วยสถานะเทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ในสามโลก เทพบดีผู้ปกครองหมู่เทพที่เป็นสัมมาทิฏฐิและเป็นเทวาธิเทพของมหาเทพและเทพทั้งปวง ...ด้วยกาลปัจจุบันนั้นเกิดความเดือดร้อนและยุคเข็ญไปถ้วนทั่ว ส่งผลกระทบถึงพลังงานธรรมชาติและจิตวิญญาณทั้งหลายให้แปรปรวน ชนทั้งร้ายขาดผู้ที่จะปกป้อง ปลดเปลื้อง และปลดปล่อย ด้วยสถานะของพระผู้ทำลายล้างอกุศลธรรมและสถาปนาหลักคุณธรรม เมื่อพิจารณาอย่างแยบคายแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงขออนุญาตครูพระสยมท่านเพื่อสร้างของที่เป็นสื่อแทนตัว แทนใจ กันระหว่างครูกับศิษย์เสียครั้งหนึ่ง

    ซึ่งครูท่านก็ได้เมตตานิมิตกำหนดรูปแบบให้พ่ออาจารย์ท่านแกะแม่พิมพ์ในลักษณะประทานพรเต็มกำลัง(ให้พรด้วยมือสองข้างด้วยมือที่คอยโอบอุ้มสรรพสิ่งและจักรวาลนั่นเอง) โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ทำพิมพ์พระเเละเสกเก็บไว้ตามหลักไศวะศาสตร์ เรียกได้ว่าขลังและประสิทธิ์เต็มกำลังตั้งเเต่เเม่พิมพ์ เพราะท่านนำไม้เสาชิงช้าเก่าของกรุงเทพมาเเกะสลัก ท่านบอกว่าเป็นไม้ที่ผ่านพิธีพราหมณ์รับส่งพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามมานับร้อยปีเป็นของที่มีความศักดิ์สิทธิ์เเละมีอานุภาพในตัวเอง เหมาะที่จะถ่ายพลังและกำลังขึ้นรูปเป็นพระเป็นเจ้าให้คนได้บูชา

    ด้วยความตั้งใจตั้งต้นอันประเสริฐที่ท่านจะทำพระรุ่นนี้โดยมีดำริว่าจะ "สร้างไว้แทนตัวครูของเรา พระเป็นเจ้าของเรา" เป็นคำสั้นๆที่มีความหมายลึกซึ้งจริงๆเพราะท่านใช้คำว่าทำไว้แทนตัวครู ไม่ใช่เพียงของแทนครูแต่มันลึกเสียยิ่งกว่านั้นคือแทนตัวครู ดุจตัวครู และเป็นตัวครูนั่นเอง ท่านว่าเราจะทำให้เสียหนหนึ่งกับพระเป็นเจ้าแห่งศรัทธาและปาฏิหาริย์ที่จะสร้างปาฏิหาริย์ เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาให้อยู่ในมหาปาฏิหาริย์การสงเคราะห์ของครูพระสยมไปตลอดช่วงชีวิต

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตามหลักพราหมณ์นั้นการจะทำรูปแทนครูนี้ย่อมต้องใช้ของเฉพาะทางหลายอย่าง แต่พ่ออาจารย์ท่านดำริว่าอยากจะทำสิ่งที่ดีที่สุดดังนั้นมวลสารเฉพาะทางบางอย่างจึงต้องมีทั้งกำลังของครูและพลังชีวิตของครูเช่นนั้นด้วย ท่านได้นำมวลสารอันเป็นมงคลที่ท่านสะสมไว้หลายชนิดมาเป็นตัวปรุงแต่เสริมสร้างสิริมงคลให้กับบรมครูรุ่นนี้ ได้แก่ พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล คดไม้มงคล ไม้มงคลที่ตายพราย ต้นว่านมงคล เกสรดอกไม้ ไม้ไผ่ตัน ไม้รวกตัน คดข้าวสารดำ ข้าวสารหิน สมุดใบข่อย สมุดใบลานเก่าๆ ที่ขาดไม่ได้ใช้ ผงธูปไหว้พระ ข้าวสุกก้นบาตรพระนำมาตากแห้ง ลูกมะพร้าวกะลาตาเดียวเป็นมหาเสน่ห์ ลูกมะพร้าวกะลาไม่มีตาเป็นมหาอุตม์ คดมะพร้าว กิ่งโพธิ์นิพพานคือโพธิ์ที่หักมาเองทางทิศตะวันออก ไม้ไก่กุก ปูนากระตุกเดือน5นำขุยที่อยู่ปากรูมา กบจำศีลเดือน5ตายคารูกบนำมาเผาไฟป่นเป็นผง เขี้ยวงูจงอางตัวที่ฟักไข่จนตายคาไข่ที่ฟัก(ตัวนี้โดนไฟครอกตาย) ไม้คานคุก ไม้คานประตูคุก ตัวชันโรงที่ต้องอยู่กลางเเจ้งเท่านั้นถ้าอยู่ตามโพรงไม้ใช้ไม่ได้ เวลาพลีต้องให้ดวงอาทิตย์ส่องตรงกับปากรูพอดีจึงนำมาทำเป็นผงได้ ไม้คานเเม่หม้ายที่ใช้หาบของขาย สากเบือเเม่หม้ายที่สามีตายเป็นอาถรรพ์แก้คุณไสยต่างๆ ไม้คานและสากของผู้หญิงที่ไม่มีสามีจนเเก่ตายเเละตายวันเสาร์เผาวันอังคาร เขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย เขี้ยวเสือโปร่งเป็นมหาอำนาจ เขี้ยวหมูตันเป็นมหาอุตม์ คดสมองวัวจะเป็นก้อนหินที่อยู่ในสมองวัวมีอานุภาพทางตบะเดชะ ผู้เจตนาร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่า ให้ร้ายป้องกันเขี้ยวงาอยู่ยงคงกระพัน คดขนุนเป็นของที่เกิดในพืชถือว่า ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเองตามธรรมชาติ คดขนุนที่เกิดจากลูกขนุนที่มีลูกขึ้นอยู่ใต้ดิน เมื่อผ่าดูจะพบคดขนุนเชื่อว่า มีเทพยดารักษามีอานุภาพค้ำดวงชะตา เมตตามหาอุตม์ งาช้างดำ(งาที่กลายเป็นหิน)มีอานุภาพครอบจักรวาล งากำจัด งากำจาย งาช้างน้ำ เขากวางคุด ใช้ทางมหาอุตม์คงกระพันเสน่ห์เมตตา ถ้าค้าขายก็จะได้ชัยชนะค้าขายดี เขากระจงคุดมีอานุภาพทางคลาดแคล้ว พญางูปากเบ็ดมีอานุภาพทางโชคลาภ ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่เสมา ตะไคร่เจดีย์ใหญ่ กระเบื้องหลังคาโบสถ์เก่าที่เลิกใช้เเล้ว ดินสังเวชนียสถานทั้ง4 แร่ธาตุต่างๆ ได้เเก่ เพชรหน้าทั่ง ดินกากยายักษ์ เหล็กสังขวานร เหล็กน้ำพี้ รังเหล็กไหล ข้าวตอกพระร่วง สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆ เช่นจิ้งจกสองหาง กิ้งก่าสองหาง นำมาเลี้ยงไว้จนตายเผาไฟเเละบดเป็นผง อัญมณี 12 สี ตะไคร่หลักเมืองเก่า น้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์โดยนำโอ่งมารองกลางเเจ้งใช้ผสมทำผง ผงลบมือสูตรต่างๆตั้งแต่ผงสยมภูวปราบไตรจักร ผงศิวะกลึงจักร ผงสยมภูวทรงเมือง ผงพระสยมพลิกแผ่นดิน ผงพระศิวะบันลือสีหนาท ผงองการพินธุมเหศวร... ผงต่างๆที่กล่าวมาแต่ละชนิดมีอุปเท่ห์การใช้และวิธีการลบถมที่แตกต่างกันไป เป็นผงที่นำมาสร้างรูปอาถรรพ์ในองค์พระศิวะอย่างแท้จริงหาใช่ใช่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ดูขลังเล่นแต่อย่างใด ท่านได้นำมวลสารที่มีฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดทั้งหลายมาเข้ากับผงไม้เสาชิงช้าของเก่าที่มีกำลังของสามมหาเทพ และผสมผงยอดแก้วแม่ธรณีของท่านที่มีอานุภาพทางค้ำจุนผู้บูชาถึงขนาดว่าว่าคนไม่มีบ้านจะมีบ้าน คนมีบ้านมีหลักแหล่งจะมั่นคง ที่ใดร้างจะกลับรุ่งเรืองเฟื่องฟูดุจมหานคร...

    หลังจากได้มวลสารทั้งหมดแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำสิ่งต่างๆมาป่นให้ละเอียดที่สุดเพื่อสร้างเป็นแท่งผง โดยนำแท่งผงนั้นมาลบถมผงมเหศวรยันตรา วนเวียนไปมาถึง 84,000 รอบด้วยความอุตสาหะอย่างยิ่ง เพราะมวลสารตั้งต้นที่เลอค่าและทรงพลังอย่างสูงสุดนี้เมื่อก่อเกิดเป็นมเหศวรยันตราแล้ว ท่านว่าผงนี้ย่อมมีอานุภาพและกำลังบริบูรณ์อย่างที่สุด อันผงมเหศวรยันตรานั้นท่านว่าเปรียบเสมือนอำนาจแห่งครูที่จะกลับกลายเป็นปกาศิตคำพรสูงสุด เป็นความรัก ความปรารถนาดี ความสุข ความเจริญอันสูงสุดที่ครูพระสยมท่านจะประทานให้กับศิษย์ที่ท่านรักดุจลูกแลท่านโปรดปรานเป็นที่สุด เป็นพลังอันนิรันดร์ เป็นคำพรอันเป็นนิรันดร์ และเป็นอำนาจที่จะประสิทธิ์แก่เราเสมอชั่วนิรันดร์กาล

    เมื่อได้มวลสารมงคลที่เกิดจากอุตสาหะของมนุษย์เป็นชนวนตั้งต้นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าเท่านี้ยังไม่พอด้วยหากจะสร้างสิ่งแทนครูให้ดีที่สุดก็ต้องอาศัยกำลังและจิตวิญญาณครูบาอาจารย์เป็นหัวใจหลัก ท่านจึงได้นำผงมเหศวรยันตรานั้นมาผสมด้วยผงกุมของครูพระสยม และผสมด้วยผงวิภูติ ซึ่งผงวิภูตินี้ก็คือผงเถ้าที่พระศิวะทรงโปรดมากเสมือนขี้เถ้าที่พระองค์นำมาทาพระวรกาย หรืออีกนัยหนึ่งคือผงขี้เถ้าที่ท่านเผาทำลายพระกามเทพจนกลายเป็นอณูผงและทรงโปรดให้เป็นผงเจิมใช้ในการสถาปนากาลมงคลทั้งปวง โดยผงวิภูติของครูพระสยมนั้นจะมีอยู่สามชนิด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะให้มีฤทธิ์สูงสุดก็ต้องใช้ทั้งสามชนิดนี้มาผสมเป็นกำลังให้กันและกันทั้งเถ้าที่เกิดจากมหาพิธีของเครื่องหอม เถ้าที่เกิดจากอัคคีบูชา และเถ้าอศุภที่เกิดจากฤาษีหรือมหาโยคีเผาร่างตนเองด้วยศรัทธาเพื่อบูชาพระเป็นเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าชนิดหลังนี้จะหายากที่สุดและในปัจจุบันก็หาแทบไม่เจอแล้วถึงมีก็มักจะเก็บไว้ในนิกายลับและเขาก็จะสงวนไว้ใช้ในศาสตร์ลับและพิธีลับอันเกี่ยวเนื่องกับครูพระสยมเท่านั้น

    ท่านได้นำผงวิเศษที่เข้ากับตรีวิภูติมาเสกชุบมนต์ด้วยโองการครูอย่างเต็มกำลัง และนำมาผสมกับมวลสารสำคัญคือศิลาชิตอันเป็นว่านวิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าว่านนี้หายากอย่างมากและทั้งโลกในทุกจุดก็ย่อมไม่มีปรากฏ เพราะว่านนี้จะขึ้นอยู่ที่เดียวในบริเวณเขาไกรลาสเท่านั้น เขาจะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณศิลาบัลลังค์ที่องค์พระศิวะ(ครูพระสยม)นั่งบำเพ็ญตบะญาณเท่านั้น ดังนั้นว่านนี้จึงอุปมเหมือนกำลังตบะ กำลังชีวิตของครูพระสยมที่ถ่ายทอดและแปรออกมาเป็นมหาพฤกษาโดยท่านตั้งใจทิ้งไว้ให้เป็นตัวแทนพลังยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ ซึ่งศิลาชิตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสำคัญที่ต้องใช้ถวายครูพระสยมมานานนับพันปี พ่ออาจารย์ท่านว่าว่านตัวนี้มีทั้งกำลังตบะและกำลังชีวิตของครู ทั้งยังมีอานุภาพและพลังงานมหัศจรรย์ที่จะบันดาลความสุข ความบริบูรณ์ ทำให้ทุกสิ่งที่ตั้งใจหวังได้สมหวัง ทั้งยังมีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวปราศจากโรคภัย ด้วยเป็นสิ่งที่มีกำลังญาณของครูพระสยม มีพลังชีวิตของครูพระสยม และเป็นอาถรรพ์สำคัญในการทำรูปท่านทั้งครูพระสยมยังเน้นให้ใช้แทนตัวของท่าน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำให้เต็มสูตรชนิดแทนตัวของท่านเลยย่อมจะขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านนำผงอาถรรพ์ทั้งหมดมาขึ้นพิมพ์กดบูชาครูโดยท่านว่าต้องค่อยๆทำไปและต้องละเมียดละไมอย่างมาก ค่อยๆทำเก็บไปองค์ต่อองค์สะสมไว้ บางทีทั้งเดือนทำได้องค์เดียวก็มีเพราะการขึ้นรูปครูพระสยมนี้ดุจจำลองมหาอนันตจักรวาลชุบรูปนามเคลื่อนสภาวะองค์ธรรม...ท่านว่ามีขั้นตอนและวิธีการยุ่งยากใช่เล่น ด้วยพระศิวะท่านเป็นครูสูงสุดของไศวะศาสตร์(ไสยศาสตร์)จะทำเล่นๆไม่ได้ องค์เดียวนี้เอาว่าใครได้ไปเขาห้อยไม่หนักคอหรอกท่านว่าแบบนั้น ซึ่งครูพระสยมนั้นจะฝังเครื่องรางพิเศษต่างๆ ดังนี้
    - พระแม่กาลี(แม่ย่าเทวดา) ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเสกไว้ครบ มีเทวานุภาพเด่นทางด้านข่มสะกด ปราบไพรี สะกดเภทภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าแม่ย่านี้สำหรับศิษย์ที่ศรัทธาและยึดถือท่านเป็นที่พึ่งแล้ว ท่านมักจะประทานพรด้วยอำนาจอันไม่อาจยับยั้งเรียกว่าเป็นแม่ผู้ให้ชนิดไม่ลืมหูลืมตาก็ว่าได้ ด้วยหากผู้ใดบูชาจนพระนางพอพระทัยท่านก็มักจะประทานพรชนิดลืมตัวและให้ผลไวกว่าการบูชาเทพองค์ใดเพราะแม่ย่าเป็นลักษณะอำนาจของการปลดปล่อยผู้มีศรัทธาออกจากความเลวร้ายทั้งปวง เป็นอำนาจแห่งการปกป้องในฐานะแม่ที่แสดงออกมาอย่างเกรี้ยวกราดซึ่งอยู่เหนือเหตุผล กฏเกณฑ์วัฏจักรและอำนาจความสมดุลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าที่เลือกฝังพระแม่นี้เพราะท่านเชื่อว่ามนุษย์ทุกวันนี้หลายคนมีชีวิตที่เรียกว่าทุกข์จนเสียสมดุลไปแล้ว เจอเรื่องหนักๆ เจอสิ่งเร้า เจออุปสรรคใหญ่ๆที่สู้ชีวิตต่อไปไม่ไหว สำหรับยุคแปดในปัจจุบันซึ่งมีภัยพิบัติและภยันอันตรายต่างๆมากมายรวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน ท่านว่าต้องใช้แม่ย่านี่แหละ ขอให้ท่านผลักดันเราให้พ้นจากสภาวะการณ์เลวร้ายต่างๆด้วยอำนาจเกรี้ยวกราดของผู้เป็นมารดาเท่านั้น
    - ศิวลึงค์ ที่พ่ออาจารย์ท่านแกะสลักและปลุกเสกผ่านพิธีกรรมมาอย่างโชกโชนทั้งบูชาไฟ ประสระโลหิต... ท่านว่าศิวลึงค์นี้เป็นสัญลักษณ์ชีวิตขององค์ครูที่จะอยู่กับมนุษย์ เป็นองค์เกิด องค์กำเนิดที่จะทำให้อะไรเกิดขึ้นก็ได้ ทำสิ่งที่ไม่มีให้เป้นจริงก็ย่อมได้ มีอานุภาพใหญ่ ท่านว่าทำลายได้แม้กระทั่งยมราชเพียงขอให้ผู้ใช้มีศรัทธาอย่างแท้จริงเท่านั้น ด้วยเมตตาในครูและแรงครูแล้วท่านว่าครูท่านลงให้ครบใช้ได้ทุกด้าน ถ้าจะเล่นทางเสน่ห์ก็ถึงขั้นที่ว่าหมายตาชายหญิงใดที่จะไม่ได้เป็นไม่มี อีกทั้งคุ้มชีวิตให้รุ่งเรืองเฟื่องฟูไม่ตกต่ำต้องดีกว่าใครเขาทั้งหมด แลดึงดูดโชคโภคทรัพย์มหาศาลหากินไม่นานก็เป็นเศรษฐีมั่งมีสมใจ จะเรียกขานบนบานกล่าวขอสิ่งใดไม่ว่าเรื่องยากหรือง่ายย่อมสำเร็จดั่งใจประสงค์ ทั้งยังเป็นตบะเดชฤทธิ์มีวาสนาคนเกรงกลัว ท่านว่าท่านขอครูเอาไว้ลงเอาไว้ให้ครบทั้งหมดแล้ว
    - ตะกรุดฤาษีแปลงสาร พ่ออาจารย์ท่านว่าดอกนี้สำคัญ เป็นวิชาครูเก่าที่เอามาทำเล่นไม่ได้เพราะเสมือนหนึ่งว่าอำนาจครูนั้นฝืนและต่อต้านทุกกฏ เป็นตะกรุดที่ใช้แปลงชะตาชีวิต อุปมาว่าต่อให้ดวงยาจกหนทางภายหน้าเดินไปต้องตกตาย ฉิบหาย ล่มจมอย่างเดียวเท่านั้นไม่มีคติเป็นอื่นใดไปได้ แต่ก็ยังกลับมาเสพย์สุขจากยาจกกลายเป็นพระราชาได้ จากคนจะตายกลายเป็นเสวยความสุขมีอายุยืนยาวได้ด้วยอำนาจแรงครู ท่านว่าวิชานี้ครูเขาแรง และย่อมเปลี่ยนแปลงชีวิตเราทังหมด อะไรที่มันว่าแย่ อะไรที่ไม่ดีผิดที่ผิดทาง ครูท่านจัดสรรค์เปลี่ยนให้ทั้งหมด เหมือนมีมือมืดที่เราไม่เห็นแต่ก็รู้ว่ามีคอยกำกับปรับเปลี่ยนตกแต่งชีวิตเราให้ดีวันดีคืน
    - ว่านผูกชะตา ท่านได้นำส่วนหนึ่งของว่านศิลาชิตอันเป็นกำลังและตบะของครูพระสยมนั้นมาขมวดปมไว้ดุจผูกสายสัมพันธ์ ผูกวาระกรรม ผูกวาสนาร่วมภพ สร้างสายสัมพันธ์ความเป็นพ่อกับลูกให้เกิดขึ้นในขันธ์สันดาน เชื่อมต่อวาสนาบารมีคนอาราธนาเข้ากับพระศิวะเจ้าโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าของทุกอย่างต่อให้ดีอย่างไรหากไม่มีวาสนาร่วมกันมันก็ใช้ไม่ได้ ดังนั้นท่านจึงแก้ปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดให้ ท่านว่าถ้ามันไม่มีก็ผูกขึ้นมาเท่านั้น ต่อไปนี้ก็ถือว่ามีเป็นพ่อเป็นลูกกันต้องช่วยกันไปจนตาย


    พ่ออาจารย์ท่านเสกและอัญเชิญครูเน้นหนักให้คุ้มครองป้องกันภัย ทั้งอำนวยพรชัยท่านว่ามีค่าดั่งได้แก้วจักรพรรดิ์ครบ 7 ประการ ทั้งหนุนชะตาค้ำชีวิตกันและแก้ดวงชงพระเคราะห์พระเสาร์พระราหูเสวยอายุ ทั้งทำลายอุปสรรคแลศัตรู แม้ต้องธรณีสารระยะยาวประเภท 3 ปี 5 ปี 10ปี ยังอยู่ที่เดิมไร้ความเจริญก้าวหน้า ทำอะไรไม่ขึ้น จับอะไรก้หลุดคว้าน้ำเหลว ถึงขั้นชะตาตกต่ำ ชะตาขาด คนรอบข้างไม่รัก เจ้านายไม่สนับสนุน หรือติดแรงสินบนทำอะไรไม่สำเร็จมีแต่เจ๊งกับเสมอตัว แลมีเรื่องเข้ามากระทบใจบ่อยๆ มีปัญหาประหลาดๆให้แก้ไขวันต่อวันสารพัดเรื่อง ท่านว่าเราขอให้ครูท่านรับรักาาดวงชะตาดูแลเกื้อกุลกันแล้ว รับรองว่าท่านไม่ทิ้งไปไหน สิ่งเลวร้ายและวิกฤตต่างๆจะผ่อนปรนและคลี่คลาย พลิกฟื้นชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ....พ่ออาจารย์ท่านว่าบอกได้เท่านี้ มากกว่านี้ก็เอาไปใช้เอง เราขอให้คุณครูคุ้มหัว คุ้มโทษโทสาทั้งปวง (ท่านย้ำว่าครูเรามีตัวมีตนนะ ถ้าวันไหนท่านออกมาให้เห้นกันทางตาเนื้อก็ไม่ต้องตกใจ แต่เอาว่ากำลังใจมาเต็มอาราธนาท่านไว้จะรู้สึกเองว่าเวลามีครู มีอำนาจลี้ลับจับตา จับตัว ค่อยๆผ่านปัญหาชีวิตไปกับเราดุจครอบครัวเดียวกันนั้นเป็นอย่างไร)

    คาถาบูชา
    โอม กระปูระเคารัม กรุณาวะตารัม สัมสาระสารัม ภุชะเคนทระหารัม สะทาวะสันตัม หะริทะยาระวินเท ภะวัมภะวาณิ สะหิตัมนะมามิ

    * พระสยมรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านพูดแปลกๆว่า ดุจเป็นทั้งกำลัง เลือดเนื้อและชีวิตของครู ทั้งท่านยังกดพิมพ์ไว้เพียงหกองค์และท่านอาราธนาเององค์หนึ่ง จึงมีให้บูชาเพียงห้าองค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าของนี้เอาไว้ให้ทดสอบบารมีถ้าใครไม่ใช่คู่บารมี ไร้วาสนาก็ไม่มีวันพบด้วยเป็นพ่อที่มีแต่ให้ เป็นพ่อที่ยิ่งกว่าพ่อทั่วไป คนในที่นี้ถึงมีบุญแต่ไร้วาสนาก็ยากที่จะได้เจอ กรรมเขาจะจัดสรรค์เอง รายได้ทำบุญโลงศพไร้ญาติให้ชาวขาสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงอาถรรพ์ไตรภูมิมหาวิภูติศิลาชิต(สยมภูวญาณมหาโยคี) บูชา 4,000 บาท


     
  7. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ปกรณ์เกียรติ EV 7738 3500 5 TH

    พี่วุฒิชัย EV 7738 3501 9 TH

    พี่ทวีพงษ์ EV 7738 3502 2 TH

    พี่รังสรรค์ EV 7738 3503 6 TH
     
  8. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    มีพี่ที่จององค์พระสยม เค้าว่าฝันเห็นก่อนหน้าแล้ววันนี้ก็บอกว่ารูปนี้เลยแต่เป้นเทวรูปสีเงินแววๆ แบบนี้คงต้องยกเครดิตให้ครูท่านไปตามมาจนพบ :)
     
  9. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ช่วงนี้มีแต่เล่าประสบการณ์แปลกๆกัน เดี๋ยวจะนำมาพูดคุยวันพรุ่งนี้ติดตามๆ;)
     
  10. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    พูดคุยรอบเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็เห็นแซวๆกันมาว่าเมื่อไหร่พ่ออาจารย์ท่านจะออกพระผงหลักร้อยแบบมวลสารพิเศษจัดเต็มบ้าง อยากได้กันแบบหลักร้อยพุทธคุณหลักล้าน อันนี้เห็นรอกันอยู่หลายคนเลย ก็ติดตามกันไว้ก่อนนะ

    ในส่วนของประสบการณ์ช่วงนี้ก็มีคนเล่ามาเยอะ ทั้งองค์พระเคณศที่ออกให้บูชาก็เห็นคนบอกมาเมื่อคืนว่ารับไปแล้วก็เจอ กึ่งหลับกึ่งตื่น ท่านมาให้เห็น พี่เค้าว่าเห็นดวงตาทีละข้างสวยมากเรียวตรงปลายแล้วค่อยๆเห้นอีกข้างแบบเอียงด้านซ้าย 45 องศา สักพักเห็นงวงบริเวณจมูกใกล้ๆดวงตาก็รู้เลยว่าเป็นองค์พ่อพระพิฆเนศ พี่เค้าว่าตาท่านสวยมากจนเค้ายังจำได้ติดตา ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับบุญสัมพันธ์ในองค์เทพที่พ่ออาจารย์ท่านเชิญมาสถิตย์ในเครื่องมงคล หลายคนก็เล่า หลายคนก็เจอ คนที่ไม่เคยเห็นก็ได้พบได้เห็นอันนี้ก็แปลกดี

    อีกท่านหนึ่งก็เหมือนมรสุมชีวิตเจอหลายเรื่องเลยจนเราเองก็ไม่รู้จะตอบยังไง แต่หลังจากใช้พระไพรีอะไรหลายๆอย่างก็ดีขึ้น ทั้งเห็นนิมิตดีๆหลายอย่าง อุบัติเหตุที่เกิดก็คล้ายๆผ่อนหนักเป็นเบา ที่มีหนี้ด้านการศึกษาประมาณสามล้านก็คลี่คลายได้ง่ายๆ เห็นตอนแรกดูพี่เขาเครียดมาก แต่เขาก็มาแจ้งข่าวดีว่าไปคุยกะใครอันนี้ผมไม่ทราบเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง ปรากฏว่าสรุปพี่เค้าไม่ต้องใช้ตัง ให้ใช้เป็นเวลาเอา หลายๆเรื่องก็ดีขึ้นทุเลาขึ้น เบาขึ้นอย่างน่าประหลาด สุดท้ายเลยหลังจากได้พระเจ้าสัวรุ่นล่าสุดไปก็เห็นบอกว่ารีบสวดมนต์บูชาท่านก็มีสิ่งดีๆเข้ามาแบบไม่คาดฝันมีคนมาช่วยเรื่องทำตำแหน่ง


    * อันนี้เราเป็นคนนั่งอ่าน ต้องบอกว่าที่ตรงนี้ปรับทุกข์กันได้เพราะสังเกตุหลายท่านเวลามีทุกข์ไม่มีที่ระบายก็มักจะโทรจะพิมพ์มาเล่าให้เราฟัง บางคนคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยผมบอกได้เลย ไม่เล็กนะครับบางคนทุกข์เขามากเขาโทรหาผมคุยกันอย่างน้อยวันละชั่วโมง มากสุดถึงสามชั่วโมงโทรติดกันทุกวันเกือบสองเดือนพูดแต่เรื่องเดิมๆซ้ำๆจนเราเห็นภาพจำได้แทบจะทั้งหมดว่าเขาเจออะไรมาบ้าง แต่พอเขาได้ดีเขาก็ยังโทรมาเล่าให้เราฟังพอได้ชื่นใจว่าเออองค์นี้ห้อยแล้วดีอย่างนี้ๆนะ บางครั้งเวลาใครโทรมาปรับทุกข์หนักเราก็จะพาลมีอารมณ์เหมือนเรารับเรื่องนี้แล้ว วันนี้เราไม่พร้อมที่จะรับอะไรเครียดๆเพิ่มมากไปกว่านี้ แล้วก็จะไม่รับโทรศัพท์ใครเลยทั้งวันก็มี เอาตรงๆถ้ารับทุกเรื่องผมก็รู้สึกห่อเหี่ยวไม่เบิกบานเหมือนกัน ดังนั้นใครจะปรับทุกข์แล้วน้อยใจว่าผมไม่ได้รับสายบางครั้ง ก็พิมพ์มาได้ในไลน์หรือจะPMไว้ก็ได้ เพราะบางทีเราก็มีขอบเขตจำกัดในแบบของเราเหมือนกัน เวลาใครมาเล่าประสบการณ์ดีๆที่เกิดขึ้นมาถี่ๆนี่เราก็รู้สึกปลื้มและยินดีไปกับเขาด้วย บางทีเวลาชีวิตใครดร้อปลงแล้วมาเล่าให้กันฟังคนไหนที่เห็นว่าแย่มากๆเจอหนักๆไม่ไหวแล้วเราก็จะแอบจดชื่อเขาไว้เอาไปให้พ่ออาจารย์ท่านสวดหนุนเขา ซึ่งวิธีนี้ก็ถือว่าได้ผลไม่น้อยเพราะพวกที่แย่ๆสังเกตุหลังจากพ่ออาจารย์ท่านรับเป็นธุระสวดหนุนให้มักจะมีเรื่องดีๆกรี๊ดกร๊าดมาเล่าให้เราฟังกันในเวลาไม่ช้าไม่นาน

     
  11. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    กะซิบกันมาหลายคนว่าอยากได้เฉพาะพระแม่กาลี(แม่ย่า)ที่ฝังด้านหลัง ก็ตอบไปบ้างเงียบบ้างแต่สังเกตุดูว่าสาวกแม่ย่าในนี้เยอะจริงๆ ก็เดี๋ยวเอาไว้พูดคุยกันอีกทีนะครับ
     
  12. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ภิญโญ EV 7737 0354 8 TH

    พี่พรเทพ EV 7737 0355 1 TH

    พี่เมธี EV 7737 0356 5 TH

    พี่ธเนศพล EV 7737 0357 9 TH

    พี่อนุวัฒน์ EV 7737 0358 2 TH

    พี่ศิระ EV 7737 0359 6 TH
     
  13. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แม่ย่ากาลี
    พรุ่งนี้ใครที่รอแม่ย่ากาลีมีเฮแน่นอน แต่บอกไว้ก่อนว่าอันนี้องค์จะจิ๋วๆหน่อย เพราะเป็นแม่ย่ารุ่นแรกตั้งแต่พ่ออาจารย์ท่านทำพระสยมพิมพ์ใบมะตูมนับเวลานานปีมาแล้ว ซึ่งแม่ย่าชุดนี้จะเสกเข้มมากๆถึงมากที่สุดและเป็นชุดพิเศษที่ท่านฝังตะกรุดเฉพาะไว้ เอาแค่เสกก็ยาวนานแล้วเต็มสูตร เต็มพิธี เต็มพลังจิตวิญญาณ แต่ขนาดนี่น่ารักกำลังใช้จริงๆ

    ก็เลยจะยกบทความสมัยเรื่องแม่ย่ามาให้อ่านกันเล่นๆก่อน (เป็นบทความเก่า)

    พระแม่ย่านี้พ่ออาจารย์ท่านมักจะทำพิธีคู่กันกับครูพระสยม โดยเป็นครูทางอิตถีเทวะที่ทรงพลานุภาพแกล้วกล้าดุดันสูงสุด ซึ่งโดยปกติเครื่องรางเกี่ยวกับพระแม่ย่านี้ พ่ออาจารย์ท่านจะไม่ได้ออกให้ใครบูชาเท่าไหร่ จะมีบ้างก็เฉพาะคนที่ถามกันเข้ามาหรือแจ้งความประสงค์ว่าอยากได้ไว้เคารพสักการะจริงๆ

    ซึ่งเมื่อมีคนขอท่านก็จะทำสงเคราะห์ให้ โดยที่ผ่านมาเวลาใครขอท่านก็จะนำแผ่นตะกั่วมาลงอักขระ ถามท่าน ท่านบอกว่าท่านจารคำว่า เจ มาตา กาลีมา ลงไป ก่อนจะอธิษฐานจิตเสกคำรบหนึ่ง

    ซึ่งตะกรุดแม่ย่ากาลีนี้เป็นตะกรุดที่ก่อประสบการณ์มาก ที่ว่ามากนั้นเพราะเล่ากันสามวันก็ไม่จบ โดยผู้ที่ได้รับไปก็นำไปบอกกล่าวกันต่อ มาขอให้ท่านทำเพิ่มบ้าง ให้ญาติพี่น้องบ้างกระจายกันไปทั่ว เค้าไม่ได้เข้าใจเลยว่าท่านทำให้เฉพาะกิจ แต่ด้วยความเมตตาพอใครขอมาก็สนองตอบทำให้เขาไป จนในที่สุดบางท่านถึงกับจองบูชากันมาเป็นร้อยดอก

    ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบพ่ออาจารย์ท่านจึงหยุดลงตะกรุดแม่ย่าเสียแต่นั้นมา แม้ใครถามท่านก็ไม่เคยทำอีก และไม่เคยตอบรับใดๆ ...นับว่าเพียงแค่ตะกรุดยังขลังถึงปานนี้

    ช่วงหลังนี้ก็ยังมีคนข้อความมาขอให้พ่ออาจารย์ท่านทำแม่ย่าให้บูชาก็เดี๋ยวได้เห็นกัน ซึ่งพระแม่กาลีนั้นหลายๆท่านคงสงสัยว่าทำไมถึงมีอานุภาพมากจนคนปรารถนาจะบูชากันเยอะนัก

    พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าแม่ย่านั้นมีอานุภาพแรงกล้า ท่านจะคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ทุกข์โทษโทสาทั้งหลายเข้าไม่ถึงตัว เป็นการปรากฏพระรูปที่มีนัยย์สำคัญ....

    กาลี คำๆนี้หากกล่าวเฉยๆ ในความรู้สึกคนฟังนับว่าเลวร้ายนัก ด้วยมีความเข้าใจผิดสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ว่าการบูชาพระนางจะต้องสังเวยด้วยเลือดบ้าง ต้องใช้เลือดสาวพรหมจรรย์บ้าง ก็สุดแท้แต่จะเชื่อตามลัทธินิกายใด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้สังเวยพระนางด้วยชีวิตมนุษย์

    ซ้ำยังมีความเข้าใจว่าพระนางนั้นเป็นเทพเจ้าแห่งอำนาจมืดและความชั่วร้ายต่างๆ เพราะว่ารูปลักษณะของพระนางนั้นดูอย่างไรก็แตกต่างจากมหาเทวีทั่วไปอย่างพระลักษมี พระสุรัสวดีเป็นอาทิ ด้วยว่ามีรูปลักษณะเช่นนั้น คนจึงยิ่งเข้าใจว่าพระนางเป็นเทพแห่งไสยศาสตร์มนต์ดำ ตันตระ ความมืดอำนาจมืดต่างๆ เสริมให้คนที่เป็นศิษย์คิดบูชานิยมกันอยู่ในซ่องโจรบ้าง พวกที่ประกอบกรรมทำชั่วต่างๆบ้างๆ

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนที่ทำผิดคิดอุบาทว์ ไปบูชาแม่ย่า สุดท้ายไม่มีตายดีกันซักคน ทั้งนี้เพราะเหตุผลสองประการ หนึ่งคือเพราะท่านไม่ใช่ สองคือเพราะท่านไม่ชอบ ไม่ใช่ในที่นี้หมายถึง ไม่ใช่ตัวตนในรูปแบบที่ความรู้สึกมนุษย์เข้าใจและพยายามจะให้ท่านเป็น ไม่ชอบคือ ท่านไม่ชอบคนใจบาปหยาบช้ากระทำการอกุศล ดังนั้นแม่ย่าจึงเป็นมหาเทวีที่จะเข้าถึงได้ด้วยความเพียร ความศรัทธา ตลอดจนคุณธรรมความดีเฉกเช่นเทวะพระองค์อื่น

    แม่ย่านั้นเป็นเทวีที่มีอานุภาพสูงสุดทรงไว้ด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ สามารถขจัดศัตรูตลอดจนทำลายอุปสรรคขัดขวางให้แก่ผู้บูชาได้ ใครโดนกลั่นแกล้งใส่ความ กระทำด้วยทุจริต ชีวิตโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด ท่านแก้ไขได้หมด หรือแม้แต่คุณไสย ไสยศาสตร์มนตร์ดำชาติไหนภาษาใด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พ่ายแพ้อานุภาพของท่านไม่มีได้กิน ซ้ำยังปรับเสริมแก้ไขอุบาทว์ตัวทุกข์ตัวเคราะห์ตลอดจนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งภายในภายนอกด้วย เพราะท่านมีคุณถึงปานนี้ถึงกับว่าผู้บูชานั้นจะไม่เจออุบัติเหตุร้ายแรงสิ่งใดเลยมาแพ้วพาลกับชีวิต จะไม่เจอเหตุที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่พบสาเหตุใดที่นำเราออกจากชีวิตอันสันติและผาสุกจากการครองเรือน

    แต่เหนืออื่นใดนั้น แม่ย่าก็คือปางหนึ่งของพระนางอุมา แต่เมื่อพระนางอยู่ในปางนี้ ก็มีรูปกายสยดสยองน่ากลัว ถึงรูปกายจะเป็นอย่างใดก็ตามแต่จิตใจก็ยังรักพระสวามีไม่ต่างจากเดิม พ่ออาจารย์บอกว่าเพราะรูปกายเช่นนี้ แม่แต่องค์พระสยมก็ยังไม่ปรารถนาที่จะอยู่ด้วยถึงจะรู้ว่าคือพระอุมาก็ตาม ดังนั้นแม่ย่าจึงเป็นเทวีที่เทิดทูนความรัก และพร้อมที่จะทำจะหยุดทุกอย่างเพื่อความรักที่มีต่อภัสดา

    นอกจากการกันแก้อาถรรพ์ร้ายล้างบางอวิชชา ให้โทษกับมารยาทุจริต ประทานพลังอำนาจให้กับผู้ทรงธรรมสุจริตแล้ว พระนางจึงปรารถนาจะเติมเต็มความรู้สึกรักใคร่ชอบพอของเหล่าผู้ศรัทธาให้สุขสมหวัง

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะกล่าวว่าพระนางนั้นให้ค่ากับคำว่าความรักและความรู้สึกมาก มากเกินจะทำความเข้าใจได้ทีเดียว ในทางกลับกัน หากผู้บูชาเข้าใจนัยยะที่แฝงอยู่ในรูปกายอันเสียสละและทรงพลังอำนาจของพระนาง สามารถรักพระนางได้ดุจแม่บังเกิดเกล้า ค่าของความรู้สึกนั้นมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย สายสัมพันธ์แม่ลูกนั้นมีอานุภาพยิ่งใหญ่ ยิ่งเป็นสายสัมพันธ์ที่มีต่อมหาเทวีอันเป็นร่างจำแลงของฤทธานุภาพสูงสุดในศักติแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าการได้เป็นลูกท่านและรับการอุ้มชูนั้นถือว่าคุ้มค่าโดยแท้ เพราะแม่ยอมปกป้องลูกเสมอ และแม่ยอมให้ลูกได้ทุกสิ่ง

    ดังนั้นเมื่อท่านทำตะกรุดแม่ย่าให้ใครไปใช้ในยุคก่อน ท่านจะย้ำสั้นๆว่า "รัก" เสมอ ไม่ต้องเซ่นด้วยเลือด ไม่ต้องถวายอามิสสินจ้างใด เพียงแต่ให้ความรู้สึกรักเท่านั้น เพราะในปางนี้สิ่งที่ท่านขาดจากพระภัสดาก็คือความรัก แม้ท่านจะไม่ได้บอกกล่าวอย่างละเอียดแต่ก็มีประสบการณ์เข้ามามากมาย มากจนกระทั่งบางครั้งคนเดียวขอบูชาร้อยดอกบ้าง สี่สิบดอกบ้างก็มี สำหรับผู้ศรัทธาในสายแม่ย่ากาลี จนพ่ออาจารย์ท่านต้องหยุดทำ
     
  14. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อจิ๋วแม่ย่าเทวดามหาปราบโลก(ชนะชัย ชนะวาสนา ชนะชะตากรรม ศักติมหากาลี)

    กะซิบกันมาหลายคนว่าอยากได้เฉพาะพระแม่กาลี(แม่ย่า) แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าอันนี้องค์จะจิ๋วๆหน่อย เพราะเป็นแม่ย่ารุ่นแรกสุดตั้งแต่พ่ออาจารย์ท่านทำพระสยมพิมพ์ใบมะตูมนับเวลานานปีมาแล้ว ซึ่งแม่ย่าชุดนี้จะเสกเข้มมากๆถึงมากที่สุดและเป็นชุดพิเศษที่ท่านฝังตะกรุดเฉพาะไว้ เอาแค่เสกก็ยาวนานแล้วเต็มสูตร เต็มพิธี เต็มพลังจิตวิญญาณ แต่ขนาดนี่น่ารักกำลังใช้จริงๆ

    แม่ย่ากาลีผู้มีอานุภาพ สำหรับแม่ย่ากาลีนั้นเป็นครูสำคัญของสำนัก ที่พ่ออาจารย์ได้สร้างแบบเป็นทางการและเปิดบารมีไว้เป็นครั้งแรก พระแม่ย่านี้พ่ออาจารย์ท่านมักจะทำพิธีคู่กันกับครูพระสยม โดยเป็นครูทางอิตถีเทวะที่ทรงพลานุภาพแกล้วกล้าดุดันสูงสุดให้คุณได้มากที่สุด

    แม่ย่านั้นมีอานุภาพแรงกล้า ท่านจะคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ทุกข์โทษโทสาทั้งหลายเข้าไม่ถึงตัว ด้วยแม่ย่านั้นเป็นเทวีที่มีอานุภาพสูงสุดทรงไว้ด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ สามารถขจัดศัตรูตลอดจนทำลายอุปสรรคขัดขวางให้แก่ผู้บูชาได้ ใครโดนกลั่นแกล้งใส่ความ กระทำด้วยทุจริต ชีวิตโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด ท่านแก้ไขได้หมด หรือแม้แต่คุณไสย ไสยศาสตร์มนตร์ดำชาติไหนภาษาใด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พ่ายแพ้อานุภาพของท่านไม่มีได้กิน ซ้ำยังปรับเสริมแก้ไขอุบาทว์ตัวทุกข์ตัวเคราะห์ตลอดจนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งภายในภายนอกด้วย

    เพราะท่านมีคุณถึงปานนี้ถึงกับว่าผู้บูชานั้นจะไม่เจออุบัติเหตุร้ายแรงสิ่งใดเลยมาแพ้วพาลกับชีวิต จะไม่เจอเหตุที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่พบสาเหตุใดที่นำเราออกจากชีวิตอันสันติและผาสุกจากการครองเรือน นอกจากการกันแก้อาถรรพ์ร้ายล้างบางอวิชชา ให้โทษกับมารยาทุจริต ประทานพลังอำนาจให้กับผู้ทรงธรรมสุจริตแล้ว พระนางยังปรารถนาจะเติมเต็มความรู้สึกรักใคร่ชอบพอของเหล่าผู้ศรัทธาให้สุขสมหวัง

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะกล่าวว่าพระนางนั้นให้ค่ากับคำว่าความรักและความรู้สึกมาก มากเกินจะทำความเข้าใจได้ทีเดียว ในทางกลับกัน หากผู้บูชาเข้าใจนัยยะที่แฝงอยู่ในรูปกายอันเสียสละและทรงพลังอำนาจของพระนาง สามารถรักพระนางได้ดุจแม่บังเกิดเกล้า ค่าของความรู้สึกนั้นมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย สายสัมพันธ์แม่ลูกนั้นมีอานุภาพยิ่งใหญ่ ยิ่งเป็นสายสัมพันธ์ที่มีต่อมหาเทวีอันเป็นร่างจำแลงของฤทธานุภาพสูงสุดในมหาศักติด้วยแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าการได้เป็นลูกท่านและรับการอุ้มชูนั้นถือว่าคุ้มค่าโดยแท้ เพราะแม่ยอมปกป้องลูกเสมอ และแม่ยอมให้ลูกได้ทุกสิ่ง

    กาลี คำๆนี้หากกล่าวเฉยๆ ในความรู้สึกคนฟังนับว่าเลวร้ายนัก ด้วยมีความเข้าใจผิดสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ว่าการบูชาพระนางจะต้องสังเวยด้วยเลือดบ้าง ต้องใช้เลือดสาวพรหมจรรย์บ้าง ก็สุดแท้แต่จะเชื่อตามลัทธินิกายใด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้มีการสังเวยพระนางด้วยชีวิตมนุษย์มายาวนานนับร้อยนับพันปี ซ้ำยังมีความเข้าใจว่าพระนางนั้นเป็นเทพเจ้าแห่งอำนาจมืดและความชั่วร้ายต่างๆ เพราะว่ารูปลักษณะของพระนางนั้นดูอย่างไรก็แตกต่างจากมหาเทวีทั่วไปอย่างพระลักษมี พระสุรัสวดีเป็นอาทิ ด้วยว่ามีรูปลักษณะเช่นนั้น คนจึงยิ่งเข้าใจว่าพระนางเป็นเทพแห่งไสยศาสตร์มนต์ดำ ตันตระ ความมืดอำนาจมืดต่างๆ เสริมให้คนที่เป็นศิษย์คิดบูชานิยมกันอยู่ในซ่องโจรบ้าง พวกที่ประกอบกรรมทำชั่วต่างๆบ้างๆ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนที่ทำผิดคิดอุบาทว์ ไปบูชาแม่ย่า สุดท้ายไม่มีตายดีกันซักคน ทั้งนี้เพราะเหตุผลสองประการ หนึ่งคือเพราะท่านไม่ใช่ สองคือเพราะท่านไม่ชอบ ไม่ใช่ในที่นี้หมายถึง ไม่ใช่ตัวตนในรูปแบบที่ความรู้สึกมนุษย์เข้าใจและพยายามจะให้ท่านเป็น ไม่ชอบคือ ท่านไม่ชอบคนใจบาปหยาบช้ากระทำการอกุศล ดังนั้นแม่ย่าจึงเป็นมหาเทวีที่จะเข้าถึงได้ด้วยความเพียร ความศรัทธา ตลอดจนคุณธรรมความดีเฉกเช่นเทวะพระองค์อื่น

    ด้วยว่าพระพิมพ์นี้เป็นการประดิษฐานรูปครูสำคัญไว้โดยเฉพาะแม่ย่ากาลีนั้น ที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างเพราะท่านอยากให้ทุกคนสุขสมหวังไม่ว่าจะในเรื่องใดก็ตาม ให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลับเป็นไปได้ อย่างเช่นเรื่องความรักของแม่ย่า* สำหรับแม่ย่านี้พ่ออาจารย์ได้แยกมาประกอบพิธีบูชาอัญเชิญปลุกเสกให้พระรูปมีภูติพระเจ้าของพระนางกาลีสถิตย์ทุกองค์ ท่านว่าแม่ย่านี้มีอาถรรพ์สูงมีความรักความเป็นห่วงลูกหลานอย่างจริงใจและรุนแรง ให้คุณมาก ให้ผู้บูชาอาราธนาบูชาด้วยความรักและจะเห็นเองว่าแม่รักลูกเป็นอย่างไร

    พ่ออาจารย์ท่านเสกไว้ครบ มีเทวานุภาพเด่นทางด้านข่มสะกด ปราบไพรี สะกดเภทภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าแม่ย่านี้สำหรับศิษย์ที่ศรัทธาและยึดถือท่านเป็นที่พึ่งแล้ว ท่านมักจะประทานพรด้วยอำนาจอันไม่อาจยับยั้งเรียกว่าเป็นแม่ผู้ให้ชนิดไม่ลืมหูลืมตาก็ว่าได้ ด้วยหากผู้ใดบูชาจนพระนางพอพระทัยท่านก็มักจะประทานพรชนิดลืมตัวและให้ผลไวกว่าการบูชาเทพองค์ใดเพราะแม่ย่าเป็นลักษณะอำนาจของการปลดปล่อยผู้มีศรัทธาออกจากความเลวร้ายทั้งปวง เป็นอำนาจแห่งการปกป้องในฐานะแม่ที่แสดงออกมาอย่างเกรี้ยวกราดซึ่งอยู่เหนือเหตุผล กฏเกณฑ์วัฏจักรและอำนาจความสมดุลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าท่านเชื่อว่ามนุษย์ทุกวันนี้หลายคนมีชีวิตที่เรียกว่าทุกข์จนเสียสมดุลไปแล้ว เจอเรื่องหนักๆ เจอสิ่งเร้า เจออุปสรรคใหญ่ๆที่สู้ชีวิตต่อไปไม่ไหว สำหรับยุคแปดในปัจจุบันซึ่งมีภัยพิบัติและภยันอันตรายต่างๆมากมายรวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน ท่านว่าต้องใช้แม่ย่านี่แหละ ขอให้ท่านผลักดันเราให้พ้นจากสภาวการณ์เลวร้ายต่างๆด้วยอำนาจเกรี้ยวกราดของผู้เป็นมารดาเท่านั้น

    โดยปกติเครื่องรางเกี่ยวกับพระแม่ย่านี้ พ่ออาจารย์ท่านจะไม่ได้ออกให้ใครบูชาเท่าไหร่ จะมีบ้างก็เฉพาะคนที่ถามกันเข้ามาหรือแจ้งความประสงค์ว่าอยากได้ไว้เคารพสักการะจริงๆท่านก็จะลงตะกรุดขอบารมีแม่ย่าให้สมัยก่อน ซึ่งตะกรุดแม่ย่ากาลีนี้เป็นตะกรุดที่ก่อประสบการณ์มาก ที่ว่ามากนั้นเพราะเล่ากันสามวันก็ไม่จบ โดยผู้ที่ได้รับไปก็นำไปบอกกล่าวกันต่อ มาขอให้ท่านทำเพิ่มบ้าง ให้ญาติพี่น้องบ้างกระจายกันไปทั่ว เค้าไม่ได้เข้าใจเลยว่าท่านทำให้เฉพาะกิจ แต่ด้วยความเมตตาพอใครขอมาก็สนองตอบทำให้เขาไป จนในที่สุดบางท่านถึงกับจองบูชากันมาเป็นร้อยดอก ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบพ่ออาจารย์ท่านจึงหยุดลงตะกรุดแม่ย่าเสียแต่นั้นมา แม้ใครถามท่านก็ไม่เคยทำอีก และไม่เคยตอบรับใดๆ ซึ่งก็น่าแปลกใจว่าแม้เพียงตะกรุดยังขลังถึงปานนี้

    ดังนั้นเมื่อท่านทำตะกรุดแม่ย่าให้ใครไปใช้ในยุคก่อน ท่านจะย้ำสั้นๆด้วยคำว่า"รัก"เสมอ แม่ย่าของท่านไม่ต้องเซ่นด้วยเลือด ไม่ต้องถวายอามิสสินจ้างใดๆ เพียงแต่ให้ความรู้สึกรักเท่านั้น เพราะในปางนี้สิ่งที่ท่านขาดจากพระสวามีก็คือความรัก เรียกว่าถวายใจ มีสายสัมพันธ์ มีความรักคให้ท่าน ท่านก็จะหยิบยื่นพลังชีวิตและความปรารถนาดีให้แก่เรา ง่ายๆเพียงเท่านี้ แม้ท่านจะไม่ได้บอกกล่าวอย่างละเอียดแต่ก็มีประสบการณ์เข้ามามากมายเกินคำว่าปาฏิหาริย์ มากจนกระทั่งบางครั้งคนเดียวขอบูชาร้อยดอกบ้าง สี่สิบดอกบ้างก็มี สำหรับผู้ศรัทธาในสายแม่ย่ากาลี จนพ่ออาจารย์ท่านต้องหยุดทำ

    หนนี้ก็เป็นโอกาสอันดีที่พ่ออาจารย์ท่านนำพระแม่กาลีรุ่นแรกที่ท่านเสกเก็บไว้อย่างยาวนานตั้งแต่พิธีสมัยพระจันทรโมเลศวร(พระสยมใบมะตูม) ซ้ำยังเป็นชุดพิเศษที่ท่านทำไว้ด้วยการฝังตะกรุดมนต์เฉพาะบทพิเศษของพระแม่ ซึ่งตะกรุดนี้ก็คือตะกรุดที่ท่านเลิกทำไปแล้ว เป็นตะกรุดที่ก่อประสบการณ์มาก เป็นตะกรุดในสายบารมีพระแม่ที่จะหาใครทำเสมอเหมือนได้เป็นไม่มีอย่างแน่นอน เป็นเป็นตะกรุดแห่งความรัก ความห่วงหาอาทร ความปราถนาดีและสายสัมพันธ์ระหว่างมารดาที่จะมีเกิดขึ้นแก่บุตร พ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำก่อนออกให้บูชาว่า "ชุดนี้จะเป็นชุดประสบการณ์ เพราะคนที่เอาไปแขวนคอเขาจะพบเจอสัมผัสลี้ลับ ด้วยเจตน์จำนงค์ของพระผู้เป็นเจ้า เขาจะได้ดีเพียงไหนอันนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขาแล้ว ว่าเขาจะรักและให้ค่าทางความรู้สึกและจิตวิญญาณกับคำว่าแม่ได้มากมายเท่าไหร่ เราบอกได้แค่ว่าให้รักท่านเหมือนแม่แท้ๆ เดี๋ยวจะสนิทกันเอง อะไรก็ล้วนจะดีไปหมด จะเจริญก้าวหน้าง่าย ชีวิตมีโชคอย่างง่ายๆ จะมีความรักง่ายๆ เปลี่ยนผันศัตรูเป็นมิตรได้ง่ายๆ... พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งรักกันมากอะไรมันก็ง่ายถึงปานนั้น เพราะไม่มีหรอกซักเรื่องที่แม่จะไม่เดือดร้อนแทนลูก"

    แม่ย่ารุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านทำให้มีขนาดเล็กสวยงามห้อยกำลังดีเป็นศิลปะแบบชาวบ้าน สวยมีเสน่ห์คลาสสิคแบบงานโบราณที่ของใหม่ๆจะทำไม่ได้ ซึ่งองค์พระนั้นก็จะมีขนาดจิ๋วๆเพียงใหญ่กว่าพระนาคปรกใบมะขามไม่มาก ท่านว่าเล็กพริกขี้หนู เพราะมีบารมีเต็ม และเราเชิญท่านมาทำให้เองเสกกันจนอัดไม่เข้าแล้ว ท่านว่าใครเอาไปเพียงแค่ห้อยเฉยๆอำนาจบารมีแม่ย่าเขาก็จับตัว สัมผัสกายพร้อมที่จะปกปักรักษาแล้ว รุ่นนี้ท่านจึงเน้นตลอดว่าใช้งาย ถ้าเป็นคนมีหัวใจ รักแม่เป็นนี่ใช้ได้เลย

    คาถาบูชา
    โอม ชยะตีมหากาลี ชยะตีอาธยะกาลีมาตา ชยะรูปะประจัญทิกา มหากาลิกะเทวี ชยะตีรักตาสะนะ เราทะระมุขี รุทะรานี อริ โศนิตขะไประ ภะระนี ขัททะคะ ธรณี ศุจี ปาณนี ฯ

    เหรียญรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเน้นเป็นพิเศษ ด้วยเป็นอำนาจแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของแม่ย่าท่าน ดังนั้นคนใช้จึงแพ้ไม่เป็น ด้วยแรงครูหนุนนำคุ้มเกล้าคุ้มเกศไปแข่งอะไรใครเขาก็ชนะหมด ไอ้ความเชื่อที่ว่าตัวเราต่ำต้อยแข่งกะใครเขาก็ย่อยยับ เพราะแข่งเรือแข่งพายมันแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาย่อมแข่งกันไม่ได้แบบนั้น ท่านว่าตัดทิ้งมันไปได้เลยเพราะวาสนาของแม่ย่านี้ ใครก็มาแข่งกับท่านไม่ได้ ชนะโลก ชนะอสูร ชนะเทวดา เมื่อท่านคุ้มเราท่านก็จะดลให้คนใช้มีแต่คำว่าชนะๆๆ ชนะโชค ชนะชัย ชนะไพรี ชนะวาสนา ชนะชะตากรรม และเมื่อเป็นลูกแม่ย่าแล้วก็ต้องชนะอย่างราบคาบเท่านั้น

    *** เหรียญหล่อรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าควรจะใช้อย่างน้อยคนละสององค์ถึงจะดีเป็นที่สุด องค์หนึ่งนั้นท่านให้อาราธนาไว้ในบ้าน ในถิ่นที่อยู่ของตน ตรงหิ้งพระหรือหิ้งเทพที่ตนเองกราบไหว้บูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าประดิษฐานท่านไว้ตรงนั้นให้ท่านล้างบางอวิชชาพลังงานเลวร้ายทั้งหลายเพื่อจะขับส่งพลังงานบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณสูงสุดให้เกิดขึ้นและเป็นมหามงคลแก่สถานที่อันเราพักอาศัยเพื่อเชื่อมต่อพลังงานนั้นเข้ากับเรา ท่านว่าถ้าที่พักมีอาถรรพ์เยอะนอกจากที่ไม่ดีแล้ว คนที่อยู่ก็จะแย่ลงๆไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ส่วนอีกองค์นั้นท่านว่าให้อาราธนาไว้ติดคอ ติดตัวตลอดขอความรักขอบารมีแม่ย่าท่านเปลี่ยนชีวิตเรา สำหรับใครที่จะบนอะไรแม่ย่านั้นจริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องบน แต่ถ้าอยากหรือทนไม่ไหวมีเรื่องใหญ่อะไรจริงๆก็ให้บนด้วยมาลัยดอกกุหลาบหรือจะเป็นน้ำแดงซักแก้วง่ายๆเท่านี้ก็ได้

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อจิ๋วแม่ย่าเทวดามหาปราบโลก(ชนะชัย ชนะวาสนา ชนะชะตากรรม ศักติมหากาลี) บูชา 900 บาท



     
  15. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    แม่ย่ากาลี

    ก็เอาบทความมาให้อ่านกันคร่าวๆ เผื่อจะตรงกับตัวเอง หากคิดทันเรื่องร้อนๆร้ายๆก็จะผ่านไปได้

    พระแม่กาลีเป็นอีกปางหนึ่งของพระอุมาเทวี นักสะสมและผู้หลงใหลเครื่องรางมหาเทพนั้นทราบดีว่าวัตถุมงคลสัญลักษณ์ของเจ้าแม่กาลีนั้นดูดุร้ายน่าสะพรึงกลัวอย่างมากซ้ำเจ้าแม่กาลียังมีรูปร่างอ้วนดำ มีประคำ สายสร้อย เครื่องประดับหัวกะโหลก....แต่แท้จริงแล้ว การที่เราเห็นภาพเจ้าแม่กาลี เหยียบบนพระอุระของพระศิวะ พระสวามีนั้นหาใช่การแทนสัญลักษณ์ความดุร้ายไม่ ตรงกันข้ามนั่นหมายถึงการแสดงออกของความรักอันเป็นที่สุดต่อพระศิวะพระสวามีต่างหาก

    ด้านพระศิวะที่ยอมมานอนรองพระบาทเจ้าแม่กาลีนั้นท่านมีความเชื่อมั่นอยู่เต็มอกแล้วว่า เจ้าแม่กาลีนั้นคือพระอุมาเทวีซึ่งมีจิตอารีย์และมีความเมตตาเป็นที่สุด ด้วยรู้ว่าพระอุมาที่อวตารแปลงกายมาเป็นเจ้าแม่กาลีเพื่อปราบเหล่าอสูรร้าย ท่านจึงยอมสละตัวเองมานอนรองพระบาทเพื่อไม่ให้เจ้าแม่กาลีนั้นกระทืบเท้าลงพื้นดิน

    ว่ากันว่านอกจากบุรุษชาติขัตติยะและเหล่ากษัตริย์ตลอดจนผู้นำทั้งหลายแล้ว แม้สตรีใดก็ตามที่บูชาเจ้าแม่กาลีนั้นย่อมได้เปรียบทางวิถีชีวิตนัก เรียกว่ายิ่งศรัทธาและบูชาท่านมากเท่าใดมักจะประสบความสำเร็จและพบแต่ชัยชนะอยู่เสมอ เพียงอธิษฐานให้ท่านช่วยและเมตตาเราง่ายๆเพียงเท่านี้

    ส่วนบุรุษนั้นหากบูชาเจ้าแม่กาลีคนๆนั้นย่อมได้ชื่อว่าจะเป็นที่รักยิ่งของเหล่ามวลมนุษย์และเทพยดาทุกชั้นฟ้า จึงเป็นอานุภาพหลักเรื่องเมตตาบารมี มหาเสน่ห์ และชัยชนะอันไม่มีที่สิ้นสุด

    พระแม่กาลีหรือกากิลามีอำนาจฤทธิ์ในการปราบปรามสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง มีเทวานุภาพอันแรงกล้าสร้างความวิบัติแก่เหล่าอสูรอย่างรุนแรง เด็ดขาด แฝงเร้นไว้ซึ่งความน่ากลั วผู้บูชาพระแม่กาลีอย่างถูกต้องและเคร่งครัด พระแม่จะประทานความแข็งแกร่งความกล้าหาญและอำนาจเหนือผู้อื่น

    นอกจากนี้พระแม่กาลียังมีพลังอำนาจในการขจัดคุณไสยลบล้างไสยเวทย์ด้านมืด หากบุคคลใดถูกกระทำทางไสยศาสตร์เมื่อผู้นั้นได้สวดบูชาอ้อนวอนต่อพระองค์ท่านแล้ว พระองค์ท่านก็มักให้พรขจัดสิ่งอาถรรพ์ชั่วร้ายให้มลายหายไป ผู้ใดกระทำการสวดบูชาสรรเสริญและถวายเครื่องสังเวยแด่พระแม่กาลีเป็นประจำพระองค์ท่านมักจะประทานความปลอดภัยมาสู่ผู้นั้น ทั้งยังทรงดลบันดาลให้เกิดความสันติผาสุกแก่ผู้ครองเรือนทั่วไป ทั้งคุ้มครองผู้บูชาจากภยันตรายและอุบัติเหตุร้ายแรงด้วย

    พระแม่กาลีทรงมีบุคลิกภาพที่ยากแก่การเข้าใจมีความลึกลับที่สุดในบรรดาเทพเทวาทั้งปวง พระนางมีความดุดัน เกรี้ยวกราด รูปลักษณ์และอุปนิสัยล้วนเต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว แต่พระนางก็จะทำลายล้างเฉพาะอสูร ปีศาจ และมนุษย์ที่กระทำการชั่วร้ายเท่านั้น เนื่องจากพระแม่กาลีก็คือเทพและเทพก็มักปกป้องคุ้มครองผู้กระทำความดีเช่นเดียวกันทุกพระองค์

    ผู้ที่มีจิตใจไม่มั่นคงกำลังประสบพบเจอหรือเพิ่งผ่านพ้นจากเหตุการณ์ร้ายแรงทำให้จิตใจอ่อนแอสามารถกระทำการบูชาพระองค์เพื่อขอความเข้มแข็งและเด็ดขาด เพื่อขออำนาจจากพระองค์ได้ ทั้งผู้ที่เจอคุณไสยและถูกเบียดเบียนจากพลังงานชั่วร้ายหรืออำนาจไม่ดีทั้งจากมนุษย์และอมนุษย์ก็สามารถขอพรจากพรหมวิหารธรรมของท่านได้เช่นกัน ท่านจะขจัดและทำลายพลังงานชั่วร้ายให้พินาศสิ้นสูญ

    ทั้งนี้แม้ผู้ที่ฝันร้ายเจออวมงคล นิมิตอันเป็นเหตุไม่ดีมีอาการวิปริตแสดงเป็นประการต่างๆ สามารถกระทำการบูชาด้วยประทีปสีแดงและดำ ก็เชื่อว่าเทวานุภาพจะช่วยขจัดอวมงคลทั้งหลายช่วยปัดเป่าให้มลายหายไป รวมถึงผู้ที่มีโรคร้ายแรงยากแก่การรักษาก็สามารถกระทำ ปฏิบัติบูชา เพื่อนำไปสู่หนทางบรรเทาโรคภัยได้

    แม้ผู้ที่ผิดหวังในรัก รักเพศเดียวกัน รักซ้อน รักแทรก ก็สามารถกระทำปฏิบัติบูชาพระองค์ท่านได้เพื่อความสมหวังทั้งปวง นอกจากนั้นท่านยังเด่นในเรื่องการให้โชคลาภและยศฐาบันดาศักดิ์ด้วยพระมหาเทวีท่านโปรดปรานการบูชา ด้วยประทีปหรืออัคนี(อารตีไฟ)ปูเทวรุปด้วยผ้าแดงหรือสีดำก็ได้ (สามารถใช้ สีเงินหรือสีขาวเพื่อระลึกถึงพรหมวิหารธรรมของพระองค์ได้ด้วย)

    ด้วยพระแม่กาลีเป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวีที่มีลักษณะดุร้าย มีรูปลักษณ์คล้ายปีศาจ และใช้เลือดและชีวิตในการบูชายัญจึงมีความเข้าใจผิดกันว่า พระแม่กาลีเป็นเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายในสำนวนภาษาไทยจึงมีคำว่า "กาลี" ซึ่งหมายความว่า สิ่งที่ชั่วร้าย เช่น"กาลีบ้านกาลีเมือง" หมายถึง "สิ่งที่ชั่วร้ายต่อบ้านเมือง" เป็นต้น บ้างก็ว่าเจ้าแม่กาลีเป็นเทพเจ้าที่โจรบูชา แต่แท้ที่จริงแล้วถ้าคนไม่ดีบูชาเจ้าแม่กาลีก็มักจะมีอันเป็นไปและล่มสลายในเร็ววัน ส่วนผู้ที่ประสบเคราะห์กรรมโดนข่ม โดนรังแก หากได้บูชาท่านก็มักจะผ่านพ้นอุบัติเหตุเภทภัยได้อย่างน่ศจรรย์เช่นกัน และเหนือสิ่งอื่นใดเลยสำหรับศิษย์ของท่าน สิ่งที่ท่านทำให้และมักประสบพบเจอในผู้มีศรัทธาอย่างแท้จริงก็คือการแก้ไขดวงชะตาให้เจริญรุ่งเรืองและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว


     
  16. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ความหวังที่แท้จริง สำหรับหนึ่งชีวิตที่เกิดมา

    มีใครเคยกำหนดเป้าหมายของชีวิตมั้ยค่ะ น่าจะเคยมีกันทุกคนเพราะทุกๆวันที่พวกเราต้องทำงาน ต้องกิน ต้องเดิน ต่างทำไปเพื่อมีเป้าหมายบางสิ่งบางอย่างให้เราต้องทำอย่างนั้น มีหนังสือมากมายเหลือเกินที่บอกถึงเป้าหมายของการใช้ชีวิตว่ามีความสำคัญมาก ชีวิตเราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเป้าหมาย แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว เป้าหมายอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญมากกว่าเป้าหมาย คือ ความหวัง

    “อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขาเหลืออยู่”
    -พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช-

    เป้าหมาย คือ สิ่งที่เราต้องทำเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่เรากำหนดขึ้นว่าจะต้องมีในอนาคต ส่วน ความหวัง คือ การต่อลมหายใจในการใช้ชีวิตเพื่อบางสิ่งบางอย่างในอนาคต มีคำถามหนึ่งที่อยากให้ช่วยกันคิด.......

    ชีวิตเราควรจะอยู่ด้วยเป้าหมาย หรือความหวัง? ติ๊ก....ต๊อก.....ติ๊ก....ต๊อก.....ติ๊ก....ต๊อก.....หมดเวลาสำหรับคำถาม

    ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง แต่มีคำตอบที่อยากจะบอก คือ

    ถ้าเราต้องการมีความสุขกับปัจจุบันเราต้องอยู่ด้วยความหวัง.......ถ้าเราต้องการมีความสุขกับอนาคตต้องอยู่ด้วยเป้าหมาย

    หลักการข้อหนึ่งของการใช้ชีวิต คือ การอยู่กับปัจจุบัน เพราะอนาคต คือผลของการกระทำในปัจจุบัน ทำไมความหวังถึงทำให้เรามีความสุขกับปัจจุบัน เช่น เราหวังว่าสักวันหนึ่ง เราจะ.มีโอกาสได้พบคนที่เรารักอีกสักครั้ง สักวันหนึ่งเราจะได้กลับไปอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว สักวันหนึ่งเราจะ........

    เมื่อเรามีความหวังจะทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต เราจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความหวังนั้น เช่น การรักษาชีวิตและสุขภาพให้ดี เพื่อความหวังในบางสิ่งบางอย่าง ในขณะที่เป้าหมาย คือ การเร่งทำบางสิ่งบางอย่างโดยอาจจะไม่หวังผลในด้านความสุขรู้สึก เช่น เป้าหมายขอเงินเก็บ 1 ล้านในอายุ 30 ปี แล้วเราก็เร่งทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อเป้าหมายนั้น

    ดังนั้นคนเราควรอยู่ด้วยความหวัง เพราะความหวังจะช่วยเติมเต็มความรู้สึกบางสิ่งบางอย่าง ความหวังทำให้เราอยู่กับปัจจุบัน และความหวังสามารถสร้างอนาคตที่มุ่งหวังได้ ถ้าเราไม่หวังแบบลมๆแล้งๆ และความหวังของเราจะส่งผลต่ออนาคต เพียงแต่เราทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อความหวังเดียวที่เราเหลืออยู่ ชีวิตอาจจะมีหลายเป้าหมายได้ แต่ความหวังที่แท้จริงมีไม่มากนักสำหรับหนึ่งชีวิตที่เกิดมา

    “….ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่เป็นอยู่แก่เราในวันนี้ย่อมมีต้นเรื่องมาก่อน ต้นเรื่องนั้นคือ เหตุ สิ่งที่ได้รับคือ ผล ...ให้พิจารณาการกระทำหรือกรรมของตนให้ดีนั่นเอง คนเราโดยมากมักนึกว่า อนาคตจะเป็นอย่างไรเราทราบไม่ได้ แต่ที่จริงเราทราบได้เหมือนกัน เพราะอนาคต คือผลของการกระทำในปัจจุบัน” -พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช-

     
  17. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    เดี๋ยววันนี้มาติดตามพูดคุยกันนะครับ เห็นหลายคนมีปัญหากันเยอะ เรื่องก็คล้ายๆกันคือไม่มีทุนรอนแต่แรกรึทำไรไปแล้วก็ล้ม ไปไม่ตลอด ไปไม่สวย บางท่านก็จะปรึกษามาแนวๆนี้ ก็เดี๋ยวเอาไว้พูดคุยกันในส่วนของ"วิชาจับเสือมือเปล่า"
     
  18. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    จับเสือมือเปล่า

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ก็จะมาทำความรู้จักกับคำๆนี้กันก่อน ค่อยๆอ่านไปแล้วเชื่อได้เลยว่าย่อมมีหลายๆท่านที่บอกว่าแรงครูสามารถทำให้ตนเองประสบความสำเร็จดังนี้ได้ง่ายๆและก็ผ่านจุดนี้ใช้ชีวิตแบบนี้มาแล้ว หรือแม้กระทั่งมีอีกหลายท่านที่คาดหวังและอยากประสบผลสำเร็จเช่นนี้

    มารู้จักคำว่าจับเสือมือเปล่ากันก่อน คำนี้นั้นใช้อธิบายความหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน หรือการใช้แรงงานและต้นทุนที่เราสามารถแสวงหาผลประโยชน์ได้เต็มร้อยแบบที่ไม่ต้องอาศัยต้นทุนเลย หรือใช้ทุนเพียงเล็กน้อย ...ทั้งนี้อาจจะแม้กระทั่งได้ผลประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยที่ไม่ต้องลงทุน เรียกว่าพวกที่คาดหวังความสำเร็จสูงจากต้นทุนที่ต่ำหรือคนที่ไม่มีทุนแต่อยากไปต่อ และไปได้จนสุดนั่นเอง

    แล้วคนที่มีคนที่ได้ประสบความสำเร็จแบบจับเสือมือเปล่านั้นมีดีอย่างไร แน่นอนว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นที่จับตามองและอาจเกิดความรูสึกอิจฉาขึ้นในใจของผู้อื่น เพราะคนที่ได้ดีแบบจับเสือมือเปล่านั้นนอกจากทุนจะไม่ต้องใช้แล้ว แรงก็ยังไม่ต้องลงด้วย จึงเป็นคนประเภทที่หลายๆคนนั้นสามารถเห็นได้ในสังคมว่าวันๆมันก็ไม่ทำอะไรแต่ทำไมมันโชคดีจัง ทำไมมันรวยเอาๆแต่กับเรามาทุ่มกำลัง ความคิด สติปัญญาแทบตาย ทำไมงานเรามันไปได้ไม่สุด ทำไมมันไม่ปัง มันไม่ใช่ดังนี้

    ระหว่างคนที่ใช้กำลังและสติปัญญาอย่างหนักเพื่อทำอะไรให้ได้ดีแต่กลับถูกกรอบและชะตาบีบให้จนมุม กับคนที่ใช้ชีวิตแบบสบาย มีอิสระทุกแง่มุม อยู่ๆไปทำๆไปก็ยิ่งมีประสบการณ์มีชื่อเสียงมีศักยภาพมีไอเดียเกิดขึ้นเรื่อยๆ เราต้องมามองกันก่อนว่าคนสองประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร แน่นอนว่ากำลังและสติปัญญาเป็นสิ่งที่ทุกคนมีแต่ทำไมถึงเขาจะหยิบมาใช้ไม่เท่าเราแต่เขากลับไปได้ไกลกว่าเราจนเราคิดจะตามก็ตามไม่ทัน นั่นก็เพราะสิ่งที่เขากับเรามีต่างกันก็คือตัว"โชค"

    คนที่ทำงานแบบชุบมือเปิบโกยเอาๆโดยใช้แค่โชคไม่ใช้ทุน ไม่ลงแรง คนเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าคนประเภทจับเสือมือเปล่า กับคนอีกประเภทหนึ่งที่ทุนก็ลงเยอะ แรงก็ใช้เยอะ สมองก็ใช้จนคิดอะไรไม่ออกแล้ว เรียกว่าทำแทบตายแต่ไม่มีอะไรดี เผลอๆทำๆไปมีคนมาชุบมือเปิบเอาไปหมดด้วยซ้ำ ทั้งที่ความคิดเราเราทำก่อนแต่ทำแทบตายก็นิ่ง แต่เขามาที่หลังนิ่มๆทำเหมือนเราทำไมมันไปได้เช่นนี้

    ก็ลองคิดกันเล่นๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมีวิชาที่เปลี่ยนคนประเภทที่สองให้เป็นประเภทที่หนึ่งได้ เปลี่ยนคนที่ล้าหลังที่ปากกัดตีนถีบได้ทรัพย์ได้ผลประโยชน์ไม่เท่ากับแรงที่ลงหรือทุนที่ใช้ไปให้เป็นคนประเภทจับเสือมือเปล่าได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่โบราณมีวิชาหนึ่งที่ทำขึ้นเพื่อให้คนได้รับทรัพย์ได้รับผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ เปลี่ยนคนธรรมดาให้เป็นบุคคลประเภทจับเสือมือเปล่าได้ เช่นนั้นท่านจึงนำอาถรรพ์วิชาสำคัญนี้มาลงไว้พร้อมวิชาเสือนอนกินของท่านเสริมเข้าไปอีก เป็นที่สุดแห่งความมั่งคั่ง ความมั่งมี ความสำเร็จและอิสรภาพทางชีวิตและจิตวิญญาณ... วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงท่านก็ไม่ได้อยากให้ใครเพราะอยากให้คนใช้ความเพียร ใช้สติปัญญา ใช้ความรู้จากศิลปะวิทยาการกันมากๆเพื่อขัดเกลาตัวเองให้ได้ดี แต่พอลองมองปัจจัยรอบข้างแล้ว หากไม่มีโชคสังคมทุกวันนี้ก็ย่อมอยู่ได้ลำบาก

    ดังนั้นใครสนใจวิชาจับเสือมือเปล่าของท่านซึ่งเป็นวิชาเฉพาะสายและเสมือนทำให้เฉพาะคนเพราะเป็นของมีเจ้าของตามวาสนาทั้งสิ้น เอาไว้ติดตามพูดคุยกันต่ออีกที ...เพราะวิชานี้มีอาถรรพ์มากและเรื่องก็ยังไม่จบ

     
  19. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    ใครที่รอวัตถุมงคลสายพ่อขุนหรือสมเด็จพระร่วงเจ้าติดตามกันไว้ดีๆนะครับได้ทั้งบารมีของมหาจักรพรรดิ์และแรงครูวิชาจับเสือมือเปล่าและเสือนอนกินของพ่ออาจารย์ท่านด้วย เดี๋ยวเอาไว้พูดคุยกัน
     
  20. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,072
    ค่าพลัง:
    +16,619
    คุณล้มขนาดนี้หรือยัง
    (อ่านให้จบ ..คุ้ม)

    วันนี้ก็เกริ่นหัวเรื่องเป็นคำพูดเชิงคำถามไว้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าต้องล้มถึงขนาดไหนที่จะเรียกได้ว่าล้มแทบทรุด ก็พอดีมีคนที่เข้ามาถามเข้ามาปรึกษาหลายๆคนมักจะเล่าจะบรรยายชีวิตที่ไม่สมหวังไม่สงบสุขของตัวเองให้เราฟัง

    ทีนี้ประโยคยอดฮิตเลยของคนที่ท้อแท้หมดกำลังใจก็คือรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย อันนี้เราเข้าใจว่าเป็นแค่ความรู้สึกกับความคิดชั่ววูบ เชื่อว่าคนที่พูดๆยังไงก็ไม่ทำจริงหรือไปถึงจุดๆนั้น เป็นคล้ายๆคำบอกถึงอารมณ์และความหดหู่มากกว่า

    ช่วงนี้เมื่อพูดถึงวิชาจับเสือมือเปล่าที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้อยากให้ใครใช้เลยจากใจจริง เพราะท่านอยากให้คนใช้ความเพียร ใช้สติปัญญา ใช้ความรู้จากศิลปะวิทยาการกันมากๆเพื่อขัดเกลาตัวเอง เพื่อขวนขวายความสำเร็จจากความพยายาม เขาจะได้เห็นค่าของสิ่งที่เขาสร้างที่เขาทำ แต่เมื่อเหตุการณ์หลายๆอย่างในชีวิตบางคนมันไม่โอเค ท่านก็ได้อาราธนาสมเด็จพระร่วงเจ้าที่ท่านทำวิชาจับเสือมือเปล่านี้ให้เขาไปใช้เปลี่ยนวิถีชะตาตนเอง

    วันนี้ก็จะมาพูดคุยโดยเริ่มกรณีตัวอย่างของคนใช้วิชาจับเสือมือเปล่าที่พ่ออาจารย์ท่านเมตตาให้เขาใช้ดูก่อน เพื่อที่จะได้ลองเปรียบเทียบกันดูว่าชีวิตที่มันล้มแล้วมันทรุดจริงๆ กับชีวิตที่ล้มแล้วกลายเป็นประสบการณ์ให้เราแก้ไขเพื่อลุกขึ้นใหม่ได้ มันต่างกันอย่างไร ตรงนี้จะให้อ่านกันไว้เป็นแง่คิดเผื่อหลายๆคนที่ทุกข์ร้อนเปิดมาเจอกระทู้นี้จะได้ไม่พูดคำคิดสั้นว่าอยากฆ่าตัวตายออกมาง่ายๆ

    ชีวิตคนที่เริ่มจากนับ1 ไปจนถึงร้อยนั้น หากหาได้เพิ่มก็ยังนับว่ามีมากขึ้น เรียกว่าทยอยค่อยๆมากขึ้นทีละลำดับขั้น ......แต่กับชีวิตของคนอีกจำพวกหนึ่งที่เรียกว่ารวยมหาเศรษฐีมาตั้งแต่เกิด ไม่ต้องพยายามก็มีถึง100 คนประเภทนี้อยู่ดีๆถ้าทุนชีวิตเขาหล่นวูบลงมาเหลือศูนย์จะเป็นอย่างไร

    พี่ท่านนี้ก็เป็นความรู้สึกเหมือนที่ผมพูดเลยนั่นคือเค้ามีทุกอย่างตั้งแต่คฤหาสน์(ไม่ใช่บ้านด้วยซ้ำ) มีบริษัท มีโรงงาน มีทรัพย์สินสารพัดแทบจะประเมิณกันไม่ได้เรียกว่าไม่ต้องทำอะไรเอาเงินฝากธนาคารเฉยๆไว้ ไอ้ดอกเบี้ยธนาคารเมืองไทยที่น้อยแสนน้อยนั่นแหละก็ยังทำให้เขามีเงินใช้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่าเงินเดือนปกติของคนยี่สิบสามสิบคนรวมกันด้วยซ้ำ เมื่อเขามีมากขนาดนั้นแต่พอช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ต้องเรียกว่าไอ้ที่มีอยู่ร้อยนั้นมันกลายเป็นศูนย์ไปเลย แล้วก็คือศูนย์จริงๆ จากคนที่จบนอกใช้ชีวิตเทวดาอยู่คฤหาสน์ทำอะไรหยิบจับอะไรเองแทบไม่เป็น กลายมาเป็นต้องพึ่งและทำทุกอย่างด้วยตัวเอง จากที่พักสุดหรู ก็กลายมาเป็นต้องไปขออาศัยอยู่ตามศาลาวัด ไปนอนตามป้ายรถเมล์ ตามศาลารอรถรับส่งในต่างจังหวัด อาหารก็ต้องซื้อปลากระป๋องมาเปิด กระป๋องนึงกินกับข้าวถุงได้สองสามมื้อ กินเสร็จทีนึงก็ต้องเอาถุงพลาสติกคลุมหาหนังยางมัดไว้เพื่อใช้กินในมื้อต่อไป ใช้เงินก้อนสุดท้ายเดินทางไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้จะลุกขึ้นมาใหม่ได้อย่างไร ไม่มีจุดพลิกตัว ไม่มีกำลังใจอะไรเลยในเวลานั้น เรียกว่าเป็นชีวิตที่ดิ่งเหวจากเทวดาลงมาเป็นหมาวัดทีเดียว

    เช่นนี้จึงเป็นชีวิตที่ผมเปรียบเปรยไว้กับคำว่าล้มแทบทรุด แล้วก็จะย้อนถามกลับหลายๆคนที่บ่นอยากฆ่าตัวตายว่าชีวิตเขานั้นถึงขั้นนี้แล้วหรือยัง ทุกวันนี้เขายังกินข้าวร้อนๆมีอาหารดีๆหรือไม่ เขายังมีบ้านมีรถขับมีครอบครัวหรือไม่ และต่อให้เค้าล้มอย่างไรรากฐานที่เขาสร้างไว้ก็คงมากกว่าหนึ่งหรือศูนย์แน่นอน

    ทีนี้จุดพลิกและกำลังใจของเขาก็มาได้จากพ่ออาจารย์สมัยท่านบวชในระยะสั้นๆเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี่เอง หลังจากได้เจอชายคนนี้และท่านพิจารณาแล้วว่าเขาสมควรจะใช้ของที่ท่านเสกเก็บมานานที่สุดและให้คุณตรงเรื่องที่สุด ด้วยเมตตาพรหมวิหารที่อยากเห็นเขาฟื้นกลับมาลุกยืนได้อีกครั้ง พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เขาอาราธนาสมเด็จพระร่วงเจ้าชุดวิชาจับเสือมือเปล่านี้ (ถ้าจะใช้คำพูดแบบตรงตัว พระชุดนี้ต้องเรียกว่าเป็นพระที่พ่ออาจารย์ท่านหวงไว้กับมนุษย์มากที่สุดก็ว่าได้ เพราะท่านไม่อยากเห็นใครนั่งกินนอนกินง่ายๆโดยที่ตัวเองไม่ต้องใช้ความพยายาม)

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหลังจากนั้นพี่ท่านนี้เขาฟื้นตัวขึ้นมาได้เร็วมาก เรียกว่าเพียงเวลาแค่ไม่กี่ปีนี้ที่นับได้ด้วยการยกนิ้วมือข้างเดียว เขามีวาสนาได้เริ่มต้นใหม่ อย่าลืมว่าพี่เขาต่างจากคนอื่นที่เริ่มจาก1 เพราะชีวิตเขาตอนนั้นต้องเริ่มจากศูนย์ เริ่มจากเงินเก็บที่เหลือเพียงสี่พันบาทขยายออกไปจนเรียกได้ว่าตอนนี้เค้ามีเกินร้อยหากจะนับเรื่องความสำเร็จในเวลสั้นๆ จากสี่พันบาทกลายเป็นธุรกิจเล็กๆที่ขยับเป็นระบบอย่างต่อเนื่องจนมีมูลค่าหลายร้อยล้าน ซึ่งแน่นอนว่าแม้เค้าจะยังไม่มีคฤหาสน์แต่เค้าก็มีบ้านขึ้นมาแล้ว มีทุกสิ่งที่ดีๆตามกลับมาอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังไม่เท่าที่บรรพบุรุษเขาหาไว้ แม้ยังไม่อาจเรียกได้ว่ามีเท่าเดิมเพราะยังห่างไกลแบบประเมิณค่าไม่ได้ แต่เขาก็มีจุดหมายและก็พุ่งไปด้วยความรวดเร็วเหนือคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำมากมายนัก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ แต่นี่ก็เป็นเพราะวิชาจับเสือมือเปล่าของเราจริงๆ พระองค์ใหญ่พระนักเลงแบบนั้นถ้าคนไม่ศรัทธาเค้าคงไม่เลี่ยมทองให้หนักทอง ไม่ห้อยองค์เดียวให้หนักคอแน่นอน และนับจากนั้นตั้งแต่ท่านเห็นคุณสมบัติลี้ลับของวิชาจับเสือมือเปล่าที่เป็นวิชาสายพราหมณ์พาราณสีโบราณ...ที่ท่านนำมาประยุกต์ทำวิชาไว้ในพระร่วงเจ้าท่านก็ขนานนามถวายองค์พระเสียใหม่ว่าพระรุ่งโรจน์ และก็ทำการปิดผนึกเสกเก็บต่อมาเรื่อยๆเอาไว้แบบนั้น

    จนทุกวันนี้เราได้รับข้อความคำปรึกษาสมาชิกใหม่ๆหลายๆคนที่เดือดร้อนจากภัยเศรษฐกิจ มีเวลาว่างก็มานั่งอ่านกระทู้เล่นๆแล้วก็ตัดสินใจพูดคุยปรึกษาเข้ามา หลายๆคนพูดเหมือนกันว่าเหนื่อยเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว อยากฆ่าตัวตายจากปัจจัยนั้นนี้ อ่านรวมแล้วเรายังคิดว่าล้วนมีแต่เรื่องเลวร้ายทั้งสิ้น แต่จะอย่างไรก็ยังไม่ร้ายเท่าพี่เจ้าของประสบการณ์ที่ยกตัวอย่างให้ฟัง เช่นนี้จึงได้แจ้งให้พ่ออาจารย์ท่านรับทราบไว้ และท่านก็ได้เมตตาเอาวิชาจับเสือมือเปล่าที่ท่านหวงแหนว่าไม่คู่ควรกับมนุษย์ที่มีสันดานเกียจคร้านออกมาให้บูชาช่วยเหลือคนให้ผ่านวิกฤติเหล่านี้ไปได้ ท่านบอกว่าให้ถือเสียว่าเราเอาออกมาเพื่อสร้างบารมี และต้องเน้นคำว่าเพื่อสร้างบารมีเท่านั้นทั้งกับองค์พระร่วงเจ้าและกับเขา เพราะคนที่เขาจะได้ใช้ย่อมต้องมีความผูกพันธ์เป็นลูกหลาน เคยเกื้อกูลกันมา ในเชื้อสายสมเด็จพระร่วงเจ้ากันทุกคน ...ใครที่รอวิชาสำคัญนนี้พรุ่งนี้ก็เกาะขบวนกันไว้เพราะพระมีน้อย ถือว่าเป็นโอกาสหนึ่งที่มีน้อยมากๆให้กับคนที่คิดได้ไวกว่าคนอื่น


     

แชร์หน้านี้