แจ้งการส่งEMSพี่วิศณุกร EW 2340 5335 1 TH
พี่ฐิตกาญจน์ EW 2340 5336 5 TH
ร่วมทำบุญบูชา มงคลแปลงยุคสมัยนกกากลายหงส์(ชุมนุมครูฝากพระคงคา) พ่ออาจารย์พล
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.
หน้า 333 ของ 487
-
-
ใครชอบวิชาแนวพิศดารเป็นของโบราณ พรุ่งนี้ต้องติดตามดีๆนะ
-
ร่วมทำบุญบูชา พยนต์หมามหานิลดำเมตตาเข้าไส้(เสน่ห์หน้าหมา)
ยุคก่อนสมัยหลวงพ่ออ่ำวัดหนองกระบอก เจ้าตำนานแพะมหาเสน่ห์ก็เคยใช้เขาควายเผือกฟ้าผ่าแกะหมาพยนต์ให้ลูกศิษย์ใช้ ว่ากันว่าเฮี้ยนและหายากกว่าแพะแท้ๆมากมายนัก แม้พ่ออาจารย์ท่านก็เคยเอาดินมาปั้นเสกหมาพยนต์ให้คนใช้ จนถึงท่านก็ยังปั้นไว้ใช้เองตามศาสตร์วิชาการสร้างหมาพยนต์หรือหมานิลดำโดยหมานิลดำของท่านนั้นท่านจะรักมันมากและมักบอกเป็นนัยน์ๆเสมอๆว่าเห็นแบบนี้มันเก่งนะมันมาช่วยเราหลายครั้งแล้ว ซึ่งท่านว่าศาสตร์เหล่านี้เขาให้คุณมากเพราะหมานั้นซื่อสัตย์กับมนุษย์เป็นที่สุด
ด้วยคุณสมบัติต่างๆอันหาได้ยากนานาประการของพยนต์หมานิลดำ ได้แก่
- ยอมรับเราเป็นเจ้านาย
- เชื่อฟังคำสั่ง
- คอยติดตามเราไม่ห่างดุจเงาตามตัว
- คอยเตือนภัยบอกเหตุร้ายให้รู้ตัว
- เข้าใจความคิดและการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลอดจนบุคลิกของเรา
- ปกป้องเมื่อมีภัย
- พยายามเข้าหาเราด้วยตัวเองและเขาจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเรา
สิ่งต่างๆเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้จะทำวัวธนู ควายธนู หรือพยนต์สัตว์เทพใดๆเขาก็ไม่ได้ให้ค่าความซื่อสัตย์จงรักภักดีหรือใส่ใจเรา ทั้งจะพยายามเข้าหาเราด้วยตัวเองตลอด เรียกได้ว่าผู้เป็นนายต้องอยู่ในสายตาตลอดเช่นพยนต์หมานิลนี้ เพราะเขาต้องการสื่อสารกับเราและต้องการพึ่งพาเรา เล่นกับเรา เป็นภาวะที่เอื้อเฟื้อความอารีย์ซึ่งกันและกันเช่นนั้นเองเขาจึงซื่อสัตย์และจงรักภักดีกับเรามากด้วยเห็นว่าเราเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา และผู้ที่บูชาพยนต์หมามหานิลดำนั้นจะรู้ได้เองว่าเขาชอบผลประโยชน์ที่เท่าเทียม อันนี้พูดกันง่ายๆคือขออะไรเพียงมีตัวล่อ มีเรื่องบน มีของกินเข้ามาล่อมาเสนอเอาว่าสำเร็จไวแน่นอนชนิดทำงานได้ทันตาเห็น เป็นข้อแลกเปลี่ยนง่ายๆยิ่งเราให้เขาก็ยิ่งคืนให้เช่นนี้ ทั้งความรักความรู้สึกก็จะยิ่งผูกพันธ์กันมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ด้วยความเก่ง ความซื่อสัตย์จงรักภักดีและคุณสมบัติเฉพาะตัวงของพยนต์หมามหานิลดำที่เขาเห็นเราเป็นเพื่อนและใส่ใจความรู้สึกนึกคิดเราตลอดเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะทำพยนต์หมาให้ใช้อย่างเป็นทางการไว้ซักรุ่น ซึ่งท่านว่าเราจะทำให้เพียงครั้งเดียวเพราะวิชาเหล่านี้ถ้าทำให้สุดๆจริงๆแล้วล้วนมีอาถรรพ์อยู่มาก โดยท่านตั้งใจปั้นหุ่นเทียนให้มีลักษณะคล้ายหมาจิ้งจอกด้วยเหตุผลว่าหมาท่านต้องเก่ง เป็นหมานักล่า จะมาหงอยๆซึมๆนั้นใช้ไม่ได้ ท่านทำให้เป็นจิ้งจอกเพราะต้องการไหวพริบ ความเจ้าเล่ห์ ความฉลาด ปราดเปรียว มีสัญชาติญาณดิบ มีความเป็นนักล่า เพื่อจะให้คนนำไปบูชาสามารถใช้ได้เหมาะแก่ยุคสมัยไม่ใช่เอาไว้คอยเป็นเพื่อนเฝ้าบ้านเท่านั้น แต่ยังต้องล่าเหยื่อ หาทรัพย์ ทั้งยังคิดเป็นคอยช่วยเหลือเจ้านายเวลาตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ
ทั้งหมาพยนต์นี้ยังเป็นวิชาทางด้านเมตตาชั้นยอดอันโดดเด่นไม่มีใครเหมือนชนิดหนึ่งด้วย เพราะลักษณะของลูกหมาตัวเล็กๆนั้น ย่อมดูน่ารัก น่าใคร่ น่าเอ็นดู ใครเห็นก็เมตตา ใครเห็นก็อยากเข้าหา อยากเข้ามาเล่นด้วย เรียกว่าเราพกหมาพยนต์ไว้ใครเห็นใครก็ชอบ อยากเล่น อยากหยอก ซึ่งคุณสมบัตินี้พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าคนมีไหวพริบดีเขาจะรู้ว่าใช้ได้หลายทางเช่นเอาไปใช้กับเจ้านายเขาก็รักเขาก็วางใจ ที่เคยไม่พอใจนึกโกรธเราเคืองเราพอเห็นหน้ามันก็วูบไปหมดลืมไปสิ้น ถ้าเอาไปใช้กับเพื่อนเขาก็รักคอยเกื้อกูลเราเช่นนั้น และวิชาหมานิลดำนั้น ท่านว่าพกเขาไว้เถิดจะมีกินมีใช้ตลอดแม้ไม่ต้องขออะไร เพราะหมามันไม่มีวันอดตาย คนโบราณเขาเชื่อเขาถือกันยิ่งนักว่าหมาไม่เคยอดตายดังนั้นวิชานี้จึงดีทางความอุดสมบูรณ์ ความบริบูรณ์อย่างลงตัวเรียกว่าขาดอะไรก็เติมเต็มสิ่งนั้น จะใช้ให้เขาเฝ้าเจ้าของ,เฝ้าทรัพย์ หรือจะใช้ให้ล่าให้หาล้วนใช้ได้ทั้งสิ้น พอได้ไปให้ตั้งชื่อให้เขาด้วย หรือว่าจะเรียกเจ้ามหานิลก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใครคิดร้ายหรือเล่นไม่ซื่อกับเรา ถ้าใครทำอันตรายปองร้ายหมายชีวิตเราอันนี้เขาจะไปปรากฏกายให้มันเห็นโดยมาเป็นรูปกายสีดำตาแดงตัวใหญ่เรียกว่าไปเตือน และอาจจะไปลงโทษมันผู้นั้นตามระดับความเหมาะควรแก่โทษที่เขาปองร้ายเช่นนี้ และหากผู้บูชาเห็นเขาเองก็ให้รู้ตัวไว้ถ้าเขามาแบบน่ารักๆเป็นลูกหมาตัวเล็กๆนั่นก็คือเขามาเล่นด้วย แต่ถ้าวันไหนเขามาให้เห็นเป็นสุนัขดำตัวใหญ่โตตาแดงเมื่อไหร่ให้รู้ไว้ว่าเรากำลังมีเคราะห์ภัยหรือดวงเรากำลังจะตกกำลังจะเจอเรื่องไม่ดี ให้รีบเอ่ยนามเรียกชื่อเขา บอกให้เขาช่วยเสียแต่เนิ่นๆแล้วคราเคราะห์ตลอดจนเหตุเภทภัยทั้งหลายก็จะระงับไปเอง ***ตรงนี้ให้จำไว้ให้ดีเพราะเขาจะใส่ใจเรามากและถือว่าเขามาเตือนเราแล้ว ถ้าเราไม่เอ่ยปากเคราะห์ภัยนั้นก็จะมาถึงตัว
เพราะวิชานี้น่าอัศจรรย์ถึงเพียงนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะมันใช้กินเคราะห์ภัย เตือนบอกเหตุร้าย ทั้งเฝ้าระวังคอยป้องกันเราไปเสียทุกอย่าง พออะไรมาที่ดูไม่ดีๆนี่เขาจะรีบเตือนเรา เอาว่าถ้าเราอนุญาติหรือเอ่ยปากเขาจะเขมือบสิ่งเหล้านั้นทันทีเช่นนี้ เราจึงบอกได้คำเดียวว่ามันเก่งมากและมันก็เคยช่วยเรามาเยอะแล้ว
เมื่อท่านใช้ธาตุกายสิทธิ์สูตรเล่นแร่แปรธาตุของท่านหล่อหลอมพยนต์มหานิลดำขึ้นมาท่านยังได้ทำวิชาฝังตะกรุดสำคัญไว้ด้วย นั่นคือตะกรุดวิชาเสน่ห์หน้าหมาหรือหมาเข้าไส้นั่นเอง อันวิชานี้ก็มีตำนานพื้นเมืองสืบทอดกันมาว่า
" เมื่อโบราณการนานมา มีเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งทางภาคเหนือ มีพระธิดาที่มีรูปโฉมงดงามมาก เป็นที่หมายปองของเจ้าเมืองน้อยใหญ่ต่างปรารถนาจะได้นางมาเป็นมเหสี แต่พระธิดานางนั้นก็ยังไม่ตกลงปลงใจกับกษัตริย์เมืองใดเลย จนเรื่องความงามนี้ไปเข้าหูกษัตริย์นักรบเมืองใหญ่ผู้มีฝีมือการรบเก่งกล้า มีวิชาอาคมดี และที่สำคัญมีพระฤาษีที่ทรงฤทธิ์แก่กล้าเป็นที่ปรึกษา แต่ด้วยเป็นกษัตริย์นักรบที่ภาพลักษณ์โหดเหี้ยมกระหายเลือดและรูปโฉมไม่งดงาม เมื่อส่งพ่อสื่อส่งของไปบรรณาการและสู่ขอ เจ้าหญิงจึงปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย กษัตริย์นักรบหนุ่มรู้เช่นนั้นก็โมโหโกรธายกทัพเข้าตีเมืองหวังหักชิงเอาด้วยกำลัง พระบิดาองค์หญิงก็ออกรบต้านไว้เต็มกำลังก็มิอาจสู้ได้ ทหารประชาชนต่างบาดเจ็บล้มตายกันเป็นเบือ เจ้าหญิงเห็นดังนั้นก็สลดพระทัยตัดสินใจกลั้นใจตายในห้องบรรทมหวังให้เรื่งทุกอย่างยุติไปพร้อมกับความตายของนาง กษัตริย์นักรบหนุ่มหลังตีพิชิตเมืองได้พอทราบข่าวก็เสียใจและเจ็บแค้นใจที่พระธิดาเลือกความตายแทนที่จะเลือกตนจึงปรึกษาพระฤาษีผู้อาจารย์ อาจารย์ท่านนั้นจึงใช้พระเวทย์นำดวงจิตของพระธิดาใส่ในร่างของสิงโตหวังจะหาทางแก้ไขให้นางฟื้นด้วยวิชา แต่เมื่อดวงจิตของพระธิดาไปอยู่ในร่างสิงโตก็เกิดดุร้ายไล่กัดทหารล้มตายลงเป็นอันมาก พระฤาษีท่านนั้นจึงย้ายดวงจิตเจ้าหญิงไปไว้ที่หมาตัวเมียตัวหนึ่ง แต่ด้วยสัญชาติหมา เมื่อติดสัด ก็วิ่งร่านไปหาเพศผู้เพื่อเสพสังวาส ด้วยอาถรรพ์ร้ายแรงใดไม่ทราบได้ไม่ใช่แต่หมาด้วยกัน แม้แต่ ม้า วัว ควาย ยันคน ต่างมาหลงเสน่ห์นางหมาพากันมาร่วมเสพสังวาสกับนางกันทั้งเมืองจนเป็นเรื่องวิปริตอาเพศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โบราณจารย์ท่านจึงได้ผูกวิชาเสน่ห์หน้าหมาหรือหมาเข้าไส้ขึ้นมาเช่นนั้น"
ด้วยเป็นวิชาที่ไม่ค่อยปรากฏผู้สร้างมากนักเพราะจะหาผู้รู้จริงทำได้จริงยากยิ่ง อีกทั้งวิชานี้มีเคล็ดการสร้างและวิธีการปลุกเสกพิสดารสร้างได้ยากมากๆ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจว่าจะทำไว้ซักหนแต่ท่านจะไม่พูดไปถึงทางเสน่ห์ราคะแบบต้นสายวิชา ท่านว่าท่านพูดมากไม่ได้เอาแค่เมตตานี่แหละคนเราเมตตากันมันก็รักกันเอง(ท่านพูดเป็นนัยน์ๆไว้เท่านี้) พ่ออาจารย์ท่านจารตะกรุดปลุกวิชาเสกจนเกิดนิมิตรตรงตามตำราจึงเห็นแจ้งว่าสำเร็จ แล้วจึงนำตะกรุดนี้ฝังลงไปในหมาพยนต์มหานิลดำตอนหล่อหลอม ด้วยตะกรุดเสน่ห์หน้าหมานี้เวลาใครเอาไปใช้ท่านว่าจะเป็นเสน่ห์เมตตาในลักษณะของหมาหยอกไก่นั่นคือหยอกกันคุยกันแบบทีเล่นทีจริง ไปไหนก็มีคนรัก คนนิยมชมชอบ อยากเข้ามาหาไปจีบสาวเขาก็ไม่กลัวต่างก็ยอมเปิดใจให้กับเรา ดังนั้นวิชานี้จึงมีดีทางตี้ซี้หรือจะเรียกว่าตีสนิทก็ได้เพราะขึ้นชื่อว่าคนแล้วหากลองสนิทใจกันเมื่อไหร่ ที่เหลือก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้วเช่นนั้นวิชานี้จึงเป็นวิชาเสน่ห์ชั้นสูงตำรับสายขาว เป็นเสน่ห์มหานิยมดึงดูดผู้คนให้อยากเข้ามาพบปะเจรจาด้วย เจ้านายก็รักเมตตา คนรักก็รักเมตตาอยากอยู่กับเราเพราะเขาอยู่กับเราแล้วเขามีความสุข คนทั่วไปหรือเพศตรงข้ามก็อยากเข้ามาหาเรา ใครที่โกรธเคืองหรือไม่ลงลอยกัน ก็จะมีน้ำใจอ่อนลงอยากเข้ามาหาเรา ***พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่โบราณวิชานี้จึงไม่ทำกันบ่อย เพราะมันจะเป็นเหมือนวิชากล่อมจิต กล่อมประสาทเขา ใช้ในการกล่อมจิตใจคนที่เราอยากเข้าหาให้เผยความในใจออกมาและดลจิตดลใจให้รักและซื่อสัตย์กับเราดั่งหมารักนายของมันเช่นนั้น ท่านว่าทำให้หนนี้แล้วจะไม่ทำอีกเลย ใครมีวาสนาก็มาเอาไปเพราะเราทำให้เพียงแค่นี้
ทั้งความเชื่อแต่โบราณนั้นยังเชื่อว่าสุนัขจะเป็นผู้นำพาเจ้านายไปหาขุมสมบัติ เมื่อได้เลี้ยงสุนัขดีก็จะมีวาสนาดี หรือทางอียิปต์เขาก็เชื่อว่าเทพหน้าสุนัขนั้นเป็นผู้นำพาในโลกวิญญาณทั้งสุนัขดำยังเป็นสัญลักษณ์ของการตายแล้วเกิดใหม่ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะคตินี้ท่านจึงทำพยนต์มหานิลดำขึ้นด้วยถือเป็นสิริมงคลไว้อย่างหนึ่ง ด้วยใครที่เขามีชีวิตทุกข์ยากจะได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองเสมือนตายแล้วเกิดใหม่ จะได้เจอเพื่อนเจอผู้นำทางไปหาวาสนาและโชคลาภที่ประเสริฐยิ่งๆขึ้นไปตามอาถรรพ์ของพยนต์มหานิลดำเช่นนี้
คาถาบูชา
โอม วาวาคุปุเน คุวิสสุสัง มะ มะ สวาโหมติด
ใช้ทางเสน่ห์ว่า โอม พระญาหน้าหมา คันกูไปนอนที่ขอนไม้จนก้านพอโป่งใบ ตกไปตางใดก็หื้อรักกูกูจักเนรมิตรเป๋นผม นางก็ลู่กันชิงกันเกล้ากูจักเนรมิตรเป๋นเข้า นางก็ลู่กันชิงกันกินกูจักเนรมิตรเป๋นดิน นางก็ลู่กันชิงกันย่ำสองพร่ำรักกู แท้เนอนางเนอเออนางรัก โอม สาวหุมติด
*** ผู้บูชาเวลาจะกินข้าวทุกมื้อ ให้ใช้ช้อนเขี่ยข้าวกับอาหารมาไว้ที่มุมจานกองเล็กๆกองหนึ่งและตั้งจิตเรียกมหานิลดำให้เขากินกับเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้ไม่ต้องเปลืองหรือเสียเวลาไหว้ให้อาหารเขา และเรายังจะได้ผูกสัมพันธ์กับเขาให้ใช้ชีวิตอยู่กับเราไปตลอดเค้าก็จะติดและซื่อสัตย์กับเรามากยิ่งๆขึ้นไป ด้วยปรกติของหมานั้นท่านว่ามักจะอยู่ร่วมกันเป็นฝูง หากใครบูชาไปใช้ติดตัวก็พกตัวเดียวได้ แต่ถ้าอยากให้เค้ามีเพื่อน ให้เค้าอุปถัมภ์และเกื้อกูลเราแบบเป็นระบบฝูงของเขาตามสัญชาติญาณก็ให้พกไว้เป็นคู่หรือสองตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าหมานั้นเป็นสัตว์ให้คุณ รายการนี้จะเลี้ยงกี่ตัวก็ได้บอกได้แค่ว่ายิ่งอยู่เป็นฝูงยิ่งดี ให้ตั้งจิตดีๆแล้วครูท่านจะทำให้รู้สึกได้เองว่าเรามีวาสนาจะเลี้ยงเขากี่ตัว
ร่วมทำบุญบูชา พยนต์หมามหานิลดำเมตตาเข้าไส้(เสน่ห์หน้าหมา) บูชา 900 บาท
-
น้องหมามหานิล(ผมเรียกของผมแบบนี้)ตอนนี้มาแรงจริงๆ เพราะเค้าเตือนภัยได้ทั้งยังระงับได้ แถมยังเข้าหาเราเองต่างจากเลี้ยงสัตว์อาคมประเภทอื่นๆ เรียกได้ว่าคอยดูไปใครพลาดนี่รู้อะไรดีๆทีหลังมีน้ำตาตกในแน่นอน
-
มงคลชีวิต
ในสภาวะปัจจุบัน เราจะพบเห็นมงคลได้สองแบบ คือทั้งวันเกิด วันแต่งงาน หรืองานศพก็มีการทำบุญ มีการนิมนต์พระไป ดังนั้นเราควรจะทำความเข้าใจกับคำศัพท์ต่างๆ ดังนี้
- มงคลแบบสุขเวทนา หมายถึง งานที่มีการทำบุญ นิมนต์พระมาทำพิธี เพื่อปรารถนาสุขเวทนา ความเจริญรุ่งเรือง ความรักความสามัคคีในหมู่คณะ เช่น งานวันเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานสมรส
- สมรส หมายถึง การที่คนมีรสนิยมหรือศีล ทิฐิ ศรัทธา จาคะ และข้อปฏิบัติต่างๆเสมอกัน มาสมกัน ลงกันได้ จึงจะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นตลอดรอดฝั่ง ในส่วนของงานมงคลสมรส สามารถแบ่งย่อยลงไปได้อีกดังนี้
- วิวาหะมงคล การแต่งงานที่ฝ่ายชายย้ายไปอยู่ในครอบครัวของฝ่ายหญิง แต่ในสมัยปัจจุบันก็สามารถอนุโลมได้กับการแต่งงานที่ที่บ่าวสาวแยกครอบครัวออกไปอยู่กันเองตามลำพัง
- อาวาหะมงคล การแต่งงานที่ฝ่ายหญิงย้ายไปอยู่ในครอบครัวของฝ่ายชาย
- สมรส หมายถึง การที่คนมีรสนิยมหรือศีล ทิฐิ ศรัทธา จาคะ และข้อปฏิบัติต่างๆเสมอกัน มาสมกัน ลงกันได้ จึงจะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นตลอดรอดฝั่ง ในส่วนของงานมงคลสมรส สามารถแบ่งย่อยลงไปได้อีกดังนี้
- มงคลแบบเจริญในธรรม พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึง มงคล ในความหมายของความเจริญในธรรม นั่นคือ คนที่ติดยึดถือ ลุ่มหลง กำหนัดในสุขเวทนาใดแล้ว ความยึดถือ ความลุ่มหลง หรือความกำหนัดในสุขเวทนานั้นไม่เป็นมงคล แต่เป็นความเสื่อม ความถอย หรือความไม่ดี ชักนำไปในการผิดศีลหรือทางอกุศลธรรมต่างๆ และไม่ถือว่าเป็นผู้เจริญในธรรมนั้น ในทางกลับกันหากพบทุกขเวทนาจากการเกิด แก่ ตายของบุคคลอันเป็นที่รัก และมีความเข้าใจในทุกขเวทนาอย่างถูกต้องว่าการเกิด แก่ และตายเป็นทุกข์ เป็นธรรมดาของชีวิต ถือว่ามีความเจริญในธรรม
- อวมงคล ซึ่งคำว่า “อว” หมายถึง การก้มหน้า เป็นงานที่เทวทูต (ทูตของเทวดา) คือ ผู้นำข่าวสารความดีงาม ทำให้กุศลธรรมเกิดได้แม้ในทุกขเวทนาที่อยู่ตรงหน้านั้น ไม่จำเป็นต้องแสดงความเสียใจ หรือไม่จำเป็นต้องใส่ใจในสุขเวทนาหรือทุกขเวทนาใดๆ ถือว่าเป็นความเจริญในธรรมแล้ว
พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติในบท “มงคลสูตร” ที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามเกี่ยวกับคุณธรรมที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ “มงคลชีวิต” เป็นคุณธรรมอันดีที่เราสามารถทำเองได้ทันที ซึ่งในแต่ละข้อไม่ได้เกี่ยวข้องกับสุขหรือทุกข์เลย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความลำบากหรือสบายเลย แต่ให้มีความเจริญในธรรมมาเป็นหลักยึด โดยมีทั้งหมด 38 ประการอันได้แก่
- การไม่คบคนพาล
- การคบบัญฑิต (คบคนที่มีกาย วาจา ใจอันเป็นกุศล)
- การบูชาบุคคลที่ควรบูชา (บูชาคนที่มีคุณงามความดี ผู้มีพระคุณ)
- การอยู่ในถิ่นอันสมควร (อยู่ในถิ่นที่มีกุศลธรรม มีบุญเขต มีคำสอนของพระพุทธเจ้า)
- เคยทำบุญมาก่อน
- การตั้งตนชอบ (เริ่มจากศีล สมาธิ ปัญญา สามารถตั้งสติได้)
- ความเป็นพหูสูต (เป็นผู้ฟัง พิจารณาและใคร่ครวญในธรรมต่างๆ)
- การรอบรู้ในศิลปะ (ศึกษาหาความรู้ในการหาเลี้ยงชีพ)
- มีวินัยที่ดี
- กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต
- การบำรุงบิดามารดา
- การสงเคราะห์บุตร
- การสงเคราะห์ภรรยา
- ทำงานไม่ให้คั่งค้าง (ถือเป็นลักษณะของความประมาทอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิดอกุศลธรรมได้)
- การให้ทาน
- การประพฤติธรรม
- การสงเคราะห์ญาติ
- ทำงานที่ไม่มีโทษ (การทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับบาป ไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น)
- ละเว้นจากบาป (ละเว้นจากอกุศลกรรมบถ 10)
- สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
- ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย
- มีความเคารพ
- มีความถ่อมตน
- มีความสันโดษ
- มีความกตัญญู
- การฟังธรรมตามกาล
- มีความอดทน
- เป็นผู้ว่าง่าย
- การได้เห็นสมณะ
- การสนทนาธรรมตามกาล
- การบำเพ็ญตบะ (ฝึกตนในความลำบาก เพื่อให้เกิดความอดทน ปฏิบัติธรรมเพื่อแผดเผากิเลสในใจ)
- การประพฤติพรหมจรรย์
- การเห็นอริยสัจสี่
- การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
- มีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
- มีจิตไม่เศร้าโศก
- มีจิตปราศจากกิเลส
- มีจิตเกษม
- มงคลแบบสุขเวทนา หมายถึง งานที่มีการทำบุญ นิมนต์พระมาทำพิธี เพื่อปรารถนาสุขเวทนา ความเจริญรุ่งเรือง ความรักความสามัคคีในหมู่คณะ เช่น งานวันเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานสมรส
-
ที่มีคนถามพระชุดเนื้อผงพุทธคุณนั้น อันนี้เดี๋ยวติดตามกันอีกทีนะเพราะพระชุดนี้เป็นพระพิมพ์ชนิดที่ต้องปั้นมือทีละองค์ไม่ใช่ผสมผงแล้วก็กดๆลงบล๊อค ซึ่งอันนั้นคือพิมพ์มือ เรียกว่าพิมพ์มือกับปั้นมือนี้ค่อนข้างต่างกันมาก เพราะพระปั้นมือนั้นจะทำได้ทีละองค์ๆกว่าจะเสร็จยิ่งพ่ออาจารย์ท่านค่อยๆทำด้วยเรียกว่าได้องค์นึงก็หมดฤกษ์แล้ว แต่เอาว่ามีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและสวยงามแบบหาดูได้ยากทุกองค์ ท่านว่าที่ต้องปั้นมือนั้นเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านสั่งไว้เป็นเคล็ดให้ทำ(เดี๋ยวค่อยติดตามอีกที) ที่สำคัญเลยพระชุดนี้ใช้ผงที่ค่อนข้างพิเศษมากๆ ถึงขนาดพ่ออาจารย์ท่านพูดว่ากลัวเค้าไม่รู้ค่า พระผงนี้ถ้าจะเบิกบุญก็เก็บๆกันเอาไว้บ้างนะ ....จะสำคัญอย่างไรเอาว่าแค่เห็นถ้าใครชอบพระที่ดูปุ๊ปมีเสน่ห์และหลงรักทันทีในแนวศิลป์โบราณและชอบที่ตัวผง อันนี้สุดๆ
-
แจ้งการส่ง EMS
พี่อัครพงศ์ EW 2341 4591 0 TH
พี่ฐิตกาญจน์ EW 2341 4592 3 TH -
พระผงพิมพ์ปั้นหรือทรงเทวดา พิมพ์ตุ๊กตาก็เรียก งานจะดูสวยงามหนึบๆย่นๆแบบหนังช้างคล้ายๆพระโบราณเป็นเอกลักษณ์ ใครชอบแนวนี้ติดตามกันดีๆนะครับ
ในส่วนของน้องหมา(ขออนุญาติเรียกแบบนี้) มีคนตรวจสอบเขามาเล่าให้ฟังว่าหมาน้อยเก่งมาก สายอื่นเก่งที่สุดก็แค่เฝ้าบ้าน หาทรัพย์ เตือนภัย คุ้มกัน แต่ของพ่ออาจารย์ท่านกินเคราะห์ระงับและกำจัดเหตุ ถึงกับกินเคราะห์ได้ถือว่าสุดยอดแล้ว ใครรักหมาเป็นทุนพกขึ้นแน่นอนมันจะผูกพันธุ์
** ก็เอามาเล่าต่อรายการนี้สุดยอด ส่วนเรื่องพระผงคุณวิชาเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน -
พรุ่งนี้ติดตามกันดีๆนะ
-
ร่วมทำบุญบูชา พระอนันตชินราชผงวิชาพิมพ์ปั้น(สำเร็จเบิกบุญก่อลาภพลิกฟ้ากลับธรณี)
"คนบางคนทำบุญมามากแต่ก็ยังนำมาใช้ไม่ได้"
ด้วยสภาวะสังคมที่เปลี่ยนไป ทั้งคนมีความทุกข์มากขึ้น พ่ออาจารย์ท่านจึงพิจารณานำพระรุ่นเก่าที่มีอานุภาพตัดกรรม หรือช่วยผู้บูชาให้พ้นจน พ้นทุกข์ไปได้ ซึ่งท่านเพียรสร้างไว้ตามวาระโอกาสซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำ โดยพ่ออาจารย์ท่านว่าพระสำเร็จรุ่นนี้เสด็จพระใหญ่ท่านคุมงานเองทั้งหมดนะ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันที่จริงหลักคำสอนของศาสนาพุทธที่ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นั้นเป็นหลักใหญ่เป็นกฎแข็งที่ไม่มีใครมาเปลี่ยนได้ หากเราไม่เคยทำบุญทำทานไว้เมื่อชาติปางก่อนเลย ไม่เคยสนใจเรื่องศีล สมาธิ หรือสัมมาทิฐิเลย ผลที่ตามมาก็คือ เราต้องเป็นคนยากจนแน่ๆ อันว่าคนยากจนก็มีหลายประเภท ประเภทที่แย่ที่สุดคือ เมื่อเกิดมาเป็นคนยากจนแล้วยังไม่พอ ยังดื้อดึงไม่เคารพพระศาสนา ผลของการไม่ได้ทำบุญกุศลสั่งสมไว้ในชาติที่ผ่านมาก็จะทำให้ไม่สนใจ ไม่ขวนขวายทำมาหากินไม่มุ่งในการทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ แต่หากในชาติก่อนเราเคยสนใจในเรื่องไตรสิกขาหรือตัวศีลสมาธิปัญญานี่แหละมาบ้าง เรียกว่าเคยทำบุญในพระศาสนาอยู่บ้างสิ่งเหล่านี้ก็จะตามรักษาตัวเรา แม้ว่าจะเกิดมายากจนอย่างไรก็จะพยายามขวนขวายหากินสร้างตนเองจนมั่งมีขึ้นมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ก็เป็นสัจธรรมที่กำหนดความยากดีมีจนและอุปนิสัยต่างๆของสัตว์โดยทั่วไป
แต่กาลปัจจุบันนั้นกลับมีคนที่ทำบุญมามากทั้งในชาติก่อนและชาติปัจจุบันแต่กลับยังติด ยังนำออกมาใช้ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เสด็จพระใหญ่ท่านก็เลยให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระขึ้นไว้ใช้เฉพาะกาล เรียกว่าทำไว้แก้ทุกข์ซักหน เพราะคนที่วาสนาปิดกั้นนิ่งเฉยดังกล่าวมานี้จำเป็นจำต้องใช้กระแสแห่งศีลและอภิญญาของผู้สำเร็จเป็นสื่อชักนำ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็อธิบายเอาไว้ว่าในโลกนี้ไม่มีอำนาจใดๆที่สมควรจะใช้และฝากเอาไว้ให้ท่านช่วยได้เสมอกับเสด็จพระใหญ่อีกแล้ว ด้วยธรรมวินัยทั้งหลายที่พระองค์บัญญัติขึ้นในไตรสิกขานั้นจะช่วยผู้เคารพเลื่อมใสที่ติดอยู่ในห้วงทุกข์ได้ถ้วนทุกประการ ไม่ว่าจะช่วยตัดกรรมเก่าที่ไม่หนักให้ขาดได้ หรือทำกรรมหนักให้เบาบางลงมาก็ยังได้ ด้วยเพราะพระองค์นั้นได้บำเพ็ญทศบารมีมายาวนาน หากใครขัดข้องเรื่องปากท้องการทำมาหากินผลของทานบารมีก็จะช่วยให้เราผู้เลื่อมใสทำมาหากินเจริญก้าวหน้าไม่ฝืดเคืองเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อชนใดได้พึ่งพระพุทธานุภาพนั้นแลสามารถตั้งตัวขึ้นมาได้ได้ด้วยกระแสอภิญญากระแสบารมีขององค์ปฐม(เสด็จพระใหญ่)ที่เราเข้าไปอาศัยอยู่ในร่มเงาของท่าน เราก็จะทำบุญทำทานรักษาศีลสั่งสมไปตามการเปลี่ยนแปลงในอุปนิสัยของเราโดยอัตโนมัติเพื่อเป็นทุนเอาไว้ใช้ในภายภาคหน้าอย่างไม่รู้จบ
ดังนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้พ่ออาจารย์ลบผงวิชาเบิกบุญไว้เสียครั้งหนึ่ง เพื่อให้ท่านได้สร้างพระที่ฝืนดวงได้ แหวกทุกข์ แหวกโศก และแหวกอุปสรรคทั้งปวง ท่านเปรียบว่าชีวิตคนบูชาจะได้สูงขึ้นดุจเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง เพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม แม้ผู้มีไว้บูชาศรัทธาและนับถืออย่างจริงใจล้วนจะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกประการทั้งสิ้น ท่านทำให้เน้นไปทางด้านเบิกบุญเพื่อใช้ดับทุกข์ ดับโศก ดับโรคภัย ข้ามพ้นอุปสรรคอันตราย ให้เปลี่ยนวิถีความเป็นอยู่ดุจเดินจากที่มืดสู่ที่สว่าง นอกจากจะเบิกบุญแล้วท่านยังลงทางฝืนดวง ค้ำดวงเสริมไว้ ด้วยตั้งใจจะทำให้ผู้บูชามีดวงดี ไม่ตกไม่ต่ำ ถึงคราวจนก็จนไม่นาน ถึงคราวดวงตกก็ไม่ตกจนถึงต่ำ จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าเขาดังนี้ พระอนันตชินราชนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้ดีไม่แพ้ของเก่า ทั้งเบิกบุญแหวกออกจากทุกข์โศกโรคภัย ขจัดออกจากอุปสรรค เสกให้ครบทั้งทางเจริญก้าวหน้า ป้องกันและคุ้มครอง เสริมชะตาบารมี โชคลาภค้าขายดี ให้เอาไปใช้ดูแล้วชีวิตจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้น
เก็บๆกันเอาไว้บ้างนะ
พ่ออาจารย์ท่านนำผงเบิกบุญที่ลบไว้ตั้งเป็นผงหลัก ผสมด้วยผงที่ท่านหวงแหนที่เรียกว่าผงเทพเนรมิตนั่นก็คือผงอิทธิเจพันปีซึ่งท่านได้จากในถ้ำ
ผงอิทธิเจพันปีนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าก้อนผงนี้เขามีนางฟ้ารักษาชื่อจันทร์ฉายเป็นผงที่ดีครบทางเสน่ห์เมตตาโชคลาภครบถ้วนทุกประการถึงขั้นแม้โกรธกันแทบตายเจอกันจะฆ่ากันก็เป็นมิตรกันได้ ผูกมิตร รักเมตตาต่อกันได้ แม้ผงนี้ซักอณูหนึ่งก็มีอานุภาพมีตัวมีตนมีอาการสามสิบสอง มีความรู้สึกนึกคิดตอบรับความปรารถนาคำอธิษฐานได้ สมัยก่อนท่านว่าแค่เอาอณูผงนี้ผสมกับปูนปั้นเป็นเม็ดกลมๆให้คนห้อย เขาว่าเอาไปใช้ได้ภรรยาถึงสามคน พ่ออาจารย์ท่านเห็นคุณทางด้านเสน่ห์เมตตาของผงอทธิเจจันทร์ฉายนี้มามาก ท่านจึงนำก้อนผงทั้งหมดน้อมถวายเป็นพุทธบูชาหวังให้คนเอาไว้ใช้เป็นเมตตาแก่ชนทั่วไป ท่านว่าผงนี้แม้ได้ไปใช้แล้วให้ติดตัวไว้จะรักใครจะผูกมิตรกับใครให้อธิษฐานเอาถ้าสำเร็จแล้วต้องรับผิดชอบทุกอย่าง(ห้ามใช้ในทางไม่ดี ใช้ผิดศีลธรรม) ท่านจึงเอาบารมีของนางฟ้าหรือแม่จันทร์ฉายนี้ให้ออกไปสร้างบารมีเกื้อหนุนวาสนาคน ท่านว่าบารมีของนางฟ้าเขา ขอได้ทุกทางนะ ขอแค่เธอเป็นคนดีจะขออะไรก็ได้
ท่านนำผงสองอย่างนี้เป็นมวลสารตั้งต้นผสมกับผงต่างๆที่มีคนรวบรวมส่งมาให้อันเป็นมวลสารที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาที่เก็บสะสมมาเพื่อให้พ่ออาจารย์ท่านใช้ผสมสร้างเครื่องมงคลประจำตัว ได้แก่ ผงพระแหวกม่านของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ผงจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ผงชันเพชรจากพระมหาบุษบกพระแก้วมรกต ผงว่านห้าร้อยชนิดของหลวงปู่พรหมมา ผงจากวัดพระแก้ว ผงแร่บางไผ่ ผงบางขุนพรหมที่แตกหักพ่ออาจารย์ท่านว่ามีค่อนกระป๋องท่านจึงถือบารมีสมเด็จโตโดยนำผงชิ้นกรุบางขุนพรหมนั้นมาตำบดใช้แทนปูนทีเดียว...และยังมีผงสำคัญที่มีความพิศดารอันไม่สามารถกล่าวได้อีกมากที่ชนทั้งหลายรวบรวมมาไม่ว่าจะเกษาหลวงปู่เทพโลกอุดร เกษาสำเร็จลุน ผงหลวงปู่เดินหน...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าผงและของมงคลต่างๆล้วนแต่ถูกสร้างและได้มาด้วยอภินิหาริย์ทั้งสิ้นท่านได้นำผงอันไม่สามารถเปิดเผยได้เหล่านี้มาผสมผงนะปัดตลอดแดง ผงนะปัดตลอดลอดกระดานชนวน ผงว่านมหามงคล 108 ผงผลิกแผ่นดิน ผงพระธาตุ ผงพระธาตุพระสีวลี ผงหัวปลีแฝด ผงดอกบัวแฝด ผงอิทธิเจนวหรคุณ ผงอิทธิเจหัวช้าง ผงตะไบพระกริ่งสังฆราชแพ ผงปัถวีธาตุ ผงมหาอาคม ผงว่านชนะคน ผงมหายันต์ ผงมหาอุตม์ และผงมหาราช ผงจินดามณี ผงนางอกแตก ผงผูกจิต ผงมหาปัทมึนทั้งห้า ผงมหากันทั้งเก้า ผงเกสรดอกไม้บูชาพระคู่บ้านคู่เมือง ดินรอยเท้าลูกอ่อนที่ร้องไห้ตามแม่เก้าคน ผงแต่ละอย่างพ่ออาจารย์ท่านว่าล้วนมีอานุภาพและสิริมงคลมากท่านจึงนำมาเทรวมกันและเสกด้วยมนต์ดับทุกข์นาน 3 เดือน ด้วยผงเหล่านี้ท่านตั้งใจนำมาสร้างพระเบิกบุญพิมพ์ปั้นท่านว่าต่อไปพระนี่ใครได้ไปให้เขาเอาไว้ใช้ทำกรรมฐาน เพิ่มบุญ เบิกบุญ ด้วยรุ่นนี้เสด็จพระใหญ่ท่านทำให้เองทุกขั้นตอนจึงดีทุกทางดีทุกอย่างเกินกว่าที่มนุษย์จะทำ เธอเก็บกันให้ดีนะต่อไปจะหาไม่ได้
เมื่อพ่ออาจารย์ท่านปั้นองค์พระแล้วท่านได้เชิญพระบรมธาตุอันเสด็จทอแสงไปมาระหว่างอากาศซึ่งเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีฤทธานุภาพมาก มีอานุภาพมาก เข้ามาประดิษฐานไว้บริเวณเศียรองค์พระซี่งปกติแล้วพระธาตุอันแสดงฤทธิ์ที่ท่านไปเชิญมาเหล่านี้ท่านจะหวงแหนอย่างมาก พร้อมกับฝังแร่เหล็กไหลหัวใจธรณีและพลอยเสกจินดามณี นอกจากนั้นท่านยังนำผงแก้วสารพัดนึกที่ท่านตั้งใจจะใส่ตอนปั้นองค์พระมาปั้นเป็นดวงแก้วติดไว้ ท่านว่าผงนี้หากเราใส่แต่แรกคงแสดงอานุภาพได้ไม่เต็มที่นัก เพราะมีผงอย่างอื่นอยู่มากแล้วก็แรงๆทั้งนั้น เสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้นำผงนี้มาปั้นเป็นดวงแก้วถือไว้เพื่อจะได้เป็นแก้วสารพัดนึกจริงๆ ท่านจึงนำผงแก้วสารพัดนึกมาเข้ากับผงพรายกุมารขึ้นหนึ่งครกพอทำสำเร็จแยกกันปลุกเสกเสร็จแล้วท่านได้นำผงพรายกุมารผสมกับผงแก้วสารพัดนึกปั้นเป็นลูกเล็กๆด้วยผงล้วนๆแล้วจึงปลุกเสกอีกคำรบหนึ่งโดยอาราธนาเสด็จพระใหญ่ท่านลงวิชาไปในทางสารพัดนึกหรือสำเร็จตามความปรารถนา สำเร็จตามใจทันใจเช่นนั้น ส่วนผงพรายกุมารที่ใส่ไว้ท่านว่าทำเพื่อเร่งให้ผงแก้วสารพัดนึกส่งผลเร็วขึ้น พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าผู้ที่มีลูกแก้วสารพัดนึกนี้อยู่กับตัวจะคิดจะนึกอะไรในทางที่ถูกอยู่ภายในศีลในธรรมจะสำเร็จสมความมุ่งมาตรปรารถนาอย่างรวดเร็ว ลูกแก้วนี้จะส่งผลชัดเจนตอนที่ถึงเวลาคับขัน หรือยามที่หมดที่พึ่งแล้วจะเห็นผลชัดมาก พ่ออาจารย์ท่านปั้นองค์พระอนันตชินราชนี้เป็นพระพิมพ์เพชรกลับถือดวงแก้วนั่งบัลลังค์ดอกบัวตามที่เสด็จพระใหญ่กำหนด ด้วยถือคติว่าจะได้กลับร้ายกลายเป็นดีได้ทุกสิ่ง ทั้งยังพร้อมที่จะพ้น พร้อมที่จะเบิกบานบนหนทางแห่งแสงสว่างเช่นดอกบัวนั้น แม้จะปรารถนาสิ่งใดก็จะได้อธิษฐานกับดวงแก้วสารพัดนึกนั่นเช่นกัน
ตะกรุดโชคปาฏิหาริย์ เป็นตะกรุดที่พ่ออาจารย์เลือกลงฝังไว้ด้านหลังองค์พระ ท่านว่าอันปาฏิหาริย์นั้นคือสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ โชคปาฏิหาริย์นี้ก็เช่นกันกล่าวคือคนที่ปกติไม่มีโชคเกิดขึ้นก็จะเกิดได้นั่นเอง ท่านว่าให้ใช้เดินไปบนหนทางที่จะเป็นเศรษฐี ใช้ทางร่ำรวยเงินทอง ทางมั่งมีทรัพย์ต่อยอดเข้าไป พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีนิมิตตอนเสกว่าเป็นแสงเงินแสงทองเต็มไปหมด ท่านจึงบอกว่าคนเอาไปใช้ท่านให้เอาไปให้รวยนะ เพราะเป็นตะกรุดที่จะแสดงอภินิหาริย์และปาฏิหาริย์ทางโชคลาภทางร่ำรวยเป็นเศรษฐีมั่งมีทรัพย์เช่นนั้น ท่านว่าอธิษฐานได้เลยตามใจเรา อธิษฐานให้รวยก็รวยไม่ยาก อธิษฐานให้มีก็ไม่ยาก อธิษฐานดูนะอย่าไปขอสิ่งที่เหลือวิสัยก็พอแล้วจะสำเร็จ เพราะวิชานี้องค์ปฐมท่านนำมาให้
“ห้อยพระเบิกบุญ เคราะห์ต้องหนีไกล” ด้วยองค์ปฐมนั้นท่านรับอาราธนาให้มาไล่ตัวทุกข์ ขับความชั่วร้ายเลวทราม แม้ทุกข์ภัยหนักต้องเดือดร้อนถึงท่านให้มาแก้เคราะห์กรรมให้ ท่านว่าให้จับอาการตัวเองให้ดีดูสิว่าในช่วงนี้มีทุกข์เข้ามาหาเราหรือยัง ที่บ้านมีความสุขความอบอุ่นไหม ทำมาหากินสะดวกสบายเหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า ครอบครัวทะเลาะกันบ่อยมั๊ย...ปัญหาต่างๆเหล่านี้แหละคือตัวทุกข์ ทุกข์เพราะบุญนั้นไม่จับ ทุกข์เพราแรงบุญนั้นมาไม่ถึง เมื่อไม่มีความสุขเหมือนชีวิตแต่ก่อน การงานก็มีปัญหาจุกจิกมากมายทั้งเจ้านายลูกน้องไม่เกื้อกูลไม่อุปถัมภ์ไม่เชื่อฟังเราซะเลย เอาว่าแม้ทำมาค้าขายทำธุรกิจการงานก็เงียบเหงาซบเซา เรื่องเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นปัญหาใหญ่เพราะตัวเคราะห์ตัวทุกข์มันทำเอา วิธีแก้ง่ายที่สุดคือให้บูชาพระเบิกบุญ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นหากไม่เคยเกิดมาเกื้อกูลกันมาก่อน แม้ชาตินี้พบเจอกัน ก็จะไม่เลื่อมใสศรัทธา พบเห็นพระอยู่ตรงหน้าก็จะไม่เห็นความสำคัญถือว่าไม่ใช่ของของเขา พระเบิกบุญนี้ก็เช่นกัน หากเขาพอมีวาสนากับเสด็จพระใหญ่อยู่บ้างเรียกว่าเคยมีความผูกพันกัน เดี๋ยวเขาก็มาเอาของของเขาไป องค์พระนี้ท่านว่าแม้เอาไว้ที่บ้านเงินทองก็เข้าบ้าน ทั้งค้าขายดีมีกำไร นำโชคลาภการเงินไม่ขาดกระเป๋า กระตุ้นการเงิน เรียกเงิน เรียกลาภ รับทรัพย์อย่างเดียว เพราเสด็จพระใหญ่ท่านสงเคราะห์เหมาะแก่ยุคสมัย
พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระเบิกบุญนี้ท่านเก่ง ฤทธิ์ท่านมาก พระพิมพ์ปั้นนี้เสด็จพระใหญ่จะเน้นฤทธิ์คืออะไรที่เกิดขึ้นไม่ได้ก็เกิดขึ้นได้ อะไรที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้เสกเน้นให้ทุกอย่างครบหมดแต่จะเด่นอีกอย่างคือเสด็จพระใหญ่ท่านลงวิชา"ชุบตัว"ของท่านไว้ ด้วยวิชาเฉพาะของท่านวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาที่ช่วยให้ทำอะไรก็ดีไปหมด ทำอะไรก็สำเร็จไปหมด เหมือนการชุบตัว ชุบให้มี ชุบให้ได้ ชุบจากดำเป็นขาว ชุบลงบ่อเงินบ่อทองเช่นนี้ ด้วยคนเรานั้นวัฏจักรต้องวนเวียนอยู่กับไอ้ตัวทุกข์ไอ้ตัวเคราะห์ที่ชอบเข้าไปเสวยหรือไปกินไปทับดวงชะตาทำให้ดวงดาวเปลี่ยนผันไปมีผลร้ายมากกว่าดี เขาก็จะตกต่ำย่ำแย่ไปตามๆกันทุกๆเรื่องเช่นนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงเสกชุบมนต์ ชุบวิชา ชุบตัวขึ้น เพื่อดับความทุกข์ความเดือดร้อนทั้งเคราะห์ร้ายต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านพูดเป็นนัยน์ๆว่าวิชาชุบตัวแบบเสด็จพระใหญ่นั้นเป็นวิชาเฉพาะ แม้คนก็ทำไม่ได้ แม้พระอรหันต์สาวกก็ยังทำไม่ได้ ดังนั้นคนที่ทุกข์หนักจึงต้องหาพระเบิกบุญชุบตัวนี้บูชาไว้ก่อน
พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเรานั้นตราบใดที่ยังเหยียบดินก็ยังมีทุกข์ ท่านจึงเสกมนต์ปราบธรณีเพื่อให้ผู้บูชาชนะทุกข์และชนะทั้งแผ่นดิน ท่านว่าเสกมานานปีจนเต็มจนเสกไม่เข้าแล้ว เอาว่าให้ติดตัวบูชาไว้จะป็นต่อเขาตลอด จะมีคนนำของดีๆมาให้ จะต่อเงินต่อทองต่อวาสนาไม่ให้หมดให้มียืดยาวอยู่เสมอ เรียกว่าตราบใดที่ยังเหยียบดินอยู่ก็มีแต่เรื่องดีๆ ถ้าจะบูชาไว้ในบ้านก็ให้วางองค์พระไว้ที่ฐานพระประธานของบ้านโดยให้พระพิงฐานพระประธานของบ้านให้พระเบิกบุญหันหน้าออกท่านว่านี้เหละเสริมอานุภาพให้คลุมได้ทั้งบ้าน หรือจะใช้พกติดตัวได้นี่ก็จะแน่นอนกว่า ท่านว่าแล้วแต่กำลังบุญและวาสนานะ เพราะเราทำให้ดีที่สุดแล้ว ถ้าเขาไม่รู้ปัญหาของตัวเอง ตายังมืดบอดหรือมองไม่เห็นนั้นมันก็เรื่องของเขาไม่ต้องไปพูดเยอะ
คาถาบูชา
อรหังกันโตอิติปิโสภควา กุมภัณยักษาพระโมคคัลลาปาระยันติ นะโมพุทธัง นะกันตังอรหังพุทโธนะโมพุทธายะ เย อริยะสัจจะพุทโธอรหัง ธรรมโมอรหัง สังโฆอรหัง พุทธังกัน ธัมมังกัน สังฆังกัน ท้อท้อกันกันสารพัดกัน พุทธังร้อยโยช ธัมมังร้อยโยช สังฆังร้อยโยชอิติปิโสภควา พระพุทธเจ้าสั่งมา พระโมคคัลลาปาระยันติ นะเยปะลังยุธเต พุทธสังมินะชาลิติ สัพพะลาภะภวันตุเม เอหิเมมาคะนะชาลิติ ข้าขออัญเชิญเสด็จพระอนันตชินราชมาล้อมรอบครอบตัว ขออาราธนาพระสัทธรรมเจ้าและพระพุทธคุณเข้ามาในตัว ขอเบิกบุญรับบุญให้สิ่งไม่ดีห่างหายไหลไปดั่งกระแสพระคงคา สาธุๆๆ
****พระอนันตชินราชพิมพ์ปั้นหรือพระเบิกบุญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำครั้งนี้เป็นหนสุดท้าย ด้วยว่ามวลสารหายากและจะกวนเสด็จพระใหญ่ท่านบ่อยๆก็ไม่สมควร ดังนั้นใครมีวาสนาก็มาเอาไปท่านทำไว้ทั้งหมดแปดองค์แต่ท่านอาราธนาบูชาเององค์หนึ่งและให้ผู้มีวาสนาสูงไปองค์หนึ่ง จึงเหลือให้ร่วมสั่งจองทั้งหมดหกองค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนหล่อพระใหญ่ประดิษฐานตามวัดที่ขาดแคลนต่อไป
ร่วมทำบุญบูชา พระอนันตชินราชผงวิชาพิมพ์ปั้น(สำเร็จเบิกบุญก่อลาภพลิกฟ้ากลับธรณี) บูชา 4,000 บาท
-
แจ้งการส่ง EMS
พี่ชนันธร EW 2340 6593 3 TH
พี่วิชัย EW 2340 6594 7 TH -
พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันต่อนะครับ อย่าลืมสวดมนต์ภาวนากันนะ;)
-
วัวธนู ควายธนู หลวงพ่อน้อย ของขลังสายเขมรที่ไม่ธรรมดา
วันนี้ก็จะก๊อปเรื่องของวัวธนูหลวงพ่อน้อยผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมาให้อ่านกันคร่าวๆนะครับ แท้จริงแล้วเรื่องของวัวและควายธนู เป็นเครื่องรางของขลังทางฝั่งลาวและเขมร แต่ต่อมาได้เข้ามาสู่แผ่นดินสยามเมื่อคราวมีการอพยพไพร่พลเข้ามา
หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง นครปฐม ท่านเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในพระเวทย์สายนี้เป็นอย่างมาก ท่านสร้างและปลุกเสกวัวธนูและควายธนูเอาไว้เฝ้าบ้านป้องกันเสนียดจัญไรจากคุณไสยลมเพลมพัด
หลวงพ่อน้อย ท่านเอาทองแดงมาขึ้นเป็นรูป จากนั้นพอกด้วยครั่งผสมผงอาถรรพ์ 108 ลงรักปิดทองก็มี ท่านเสกด้วยคาถาที่เข้มขลังจากสายลาว เสกจนวัวธนู-ควายธนูหันหัวไปซ้ายไปขวาได้ พระเกจิรุ่นเก่าท่านขลังศักดิ์สิทธิ์จิตสูงจึงทำได้
คนโบราณเรียกวัวของท่านว่า วัวปั้นหุน ดังคำภาษิตที่เขายกเอาไว้ให้เป็นเบญจภาคีเครื่องรางของขลังว่า "ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อปาน หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่นหลวงพ่อน้อย ศรีษะทอง เบี้ยแก้กันของวัดนายโรง"
เคยเห็นมากับตาตอนที่เดินจากตราดเข้าสู่เขมรทางด้านเกาะกงและอ่าวปอ ด้วยเราเป็นเพียงพระหนุ่มเณรน้อยที่ยังอ่อนนักกับพระเวทย์และอาคมในยุคนั้น ได้เดินทางไปพักที่อ่าวปอเพื่อรอวันพรุ่งจะไปเฝ้าสังฆราชเขมร ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์สอนกรรมฐานที่อยู่เมืองนครศรีธรรมราช
ที่อ่าวปอนี้มีวัดหนึ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างเอาไว้ ทราบจากที่หน้าบันโบสถ์มีรูปตราประจำพระองค์ และเลข 5 ไทย ภายใต้มหามงกุฎปรากฏ อย่างนี้ก็ทำให้เราได้อุ่นใจขึ้นบ้างว่าโบสถ์หลังนี้พระราชสมภารเจ้า เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของเราสร้างขึ้น คงจะพอนอนได้หลับลงสนิท ไม่คิดมากถึงเรื่องไสยอันลึกลับเสียเท่าไหร่นัก
ไม่น่าเชื่อ สองทุ่มเศษที่เงียบราวกับป่าช้าที่ผีดุ ในใจก็กลัวอยู่แต่พอข่มด้วยสมาธิให้อยู่พอประคองไหว ราวเที่ยงคืนเศษไม่รู้สุนัขทำไมเห่าหอนนัก ทั้งๆ ที่นี่ไม่มีเลือกตั้งผู้แทน สักครู่ได้ยินเสียงอะไรไม่ทราบดังขึ้นตุบๆๆ อยู่หน้าโบสถ์ นึกในใจเป็นตายก็ไม่ออกไปดู โบสถ์ทรงแบบมหาอุดเข้าออกทางเดียวยังไม่น่าเกรงเท่าไหร่ แต่ในใจลึกๆ นึกไว้ว่าทหารเขมรมาเราไม่กลัว แต่ถ้าหากเป็นผีเขมรนี่คงลำบาก เพราะคงพูดกันไม่รู้เรื่องแน่
แต่คืนนั้นก็รอดผ่านพ้นไปด้วยดี พอเช้าแล้วเปิดประโบสถ์ออกไปดู เห็นมีเศษหนังชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือวางเรียงกองอยู่ตรงใกล้ๆ ธรณี ประมาณ 3-4 ชิ้น พระในวัดที่พอสื่อกันได้พูดไทยสำเนียงเขมรบอกว่า เมื่อคืนนี้เขาเห็นมีคนมาปล่อยของลองอาคม แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เลยหล่นอยู่หน้าโบสถ์ พอได้ฟังแล้วขนลุกซู่ และพนมมือขึ้นนึกถึงพระบารมีพระราชสมภารเจ้าในหลวงรัชกาลที่ 5 เพราะลำพังพระหนุ่มเณรน้อยอย่างเราคงไม่รอดพ้นแน่
พอเดินไปดูหลังประธาน ก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมมีคอกของวัวและควายธนูอยู่บนโต๊ะหมู่เล็กๆ ถามว่ามีไว้ทำไม เขาบอกว่าโยมเอามาถวายไว้ เวลาวันโกนโยมเขาจะมาถือศีลนอนในโบสถ์นี้ รุ่งเช้าเป็นวันพระ ก็ทำบุญใส่บาตรและภาวนาจนสิ้นวันพระ เขามีเอาไว้กันคนที่เป็นมิจฉาทิฐิมาทำของใส่อย่างเมื่อคืนนี้แหละ ผมจึงเชื่อว่าแม้วันนี้โลกเปลี่ยนไปปานใด แต่ทว่าเรื่องของคุณไสยยังมีอยู่จริง
ที่เขมร วัวธนูและควายธนูเป็นเครื่องรางที่ป้องกันคุณไสยได้เยี่ยมนัก ใครมีบูชาต้องตั้งเป็นคอก มีแก้วน้ำและกอหญ้าสดวางไว้เป็นเครื่องเซ่น เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องเกรงกับสิ่งที่มองไม่เห็นอีกต่อไป แม้เราจะอยู่ในโลกวิทยาศาสตร์แล้ว แต่บางครั้งวิทยาศาสตร์ก็กลายเป็นสิ่งที่จำกัดกั้นไม่ให้เราเข้าถึงกับสิ่งที่นอกเหตุเหนือผลที่มีอยู่จริงได้เหมือนกัน
-
พระเบิกบุญนี่ผมปิดยอดก่อนนะครับ ไม่รับจองแล้ว เต็มจริงๆ
-
การทำบุญง่ายๆในชีวิตประจำวัน
การทำบุญ คือการเป็นผู้ให้ ให้อะไรก็ได้ ให้ความรัก ให้ความรู้ ให้ความสนใจ ให้ความสำคัญ ให้โอกาส ให้อภัยทาน ให้ธรรมะเป็นวิทยทาน ให้การสังคมสงเคราะห์ ให้น้ำจิตน้ำใจแก่ผู้อื่น แม้กระทั่ง ให้เวลาแก่ตนเองและครอบครัว
ยิ่งสมัยนี้มีภารกิจมากมายรัดตัว มักไม่ค่อยมีเวลาทำบุญมากเท่าไหร่นักแถมยังเข้าใจผิดกันอีกว่า การทำบุญคือการไปวัดถวายสังฆทานเพียงอย่างเดียว ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาที่จะไปทำบุญกันเพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงมีวิธีทำบุญแบบง่ายๆโดยไม่ต้องไปวัดและประหยัดเวลามาฝากกัน มาดูว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง เหมาะมากๆสำหรับคนไม่มีเวลาไปทำบุญ ทำตามนี้เลยได้บุญเช่นกันกับ 16 วิธีเพิ่มบุญให้ตัวเองทำได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ต้องไปวัดก็ทำบุญได้
1. ดูแลพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่อยู่ในบ้านให้ท่านมีความสุข พ่อแม่คือพระประจำบ้าน อย่าทำให้ท่านเดือดร้อนใจหรือเป็นทุกข์ใจ หรือถ้ามีโอกาสทำดีก็ควรหมั่นทำอาจจะพาไปเที่ยวซื้อของมาฝากและเรียกพวกท่านให้รับของที่เราซื้อมาเท่านี้ก็เป็นการทำบุญที่ดีสุดๆแล้ว
2. ตักบาตรตอนเช้าก่อนที่จะไปทำงาน ตื่นเช้าขึ้นอีกสักนิด รู้จักการให้มากกว่าการรับ แล้วชีวิตของคุณจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น
3. สวดมนต์ วันละ 1 บท สร้างสมาธิด้วยการสวดมนต์วันละแค่ 1 บท ให้พระธรรมช่วยขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นอาจเป็นบทสวดมนต์ง่ายๆ อย่างการแผ่เมตตาหรืออิติปิโส แต่ถ้ามีเวลาหน่อยก็สวดพระคาถาชินบัญชร 1 จบก็จะดีเลยละ
4. ถวายน้ำเปล่า 1 แก้วหรืออาหารคาวหวานหรือจะเป็นดอกไม้พวงมาลัยให้พระพุทธรูปที่บ้าน พระพุทธรูปประจำบ้านเป็นสิ่งที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดีของคนในบ้าน เราจึงควรดูแลท่านให้ดี
5. นั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาที แบ่งเวลาแค่เพียงวันละ 5 นาที อยู่กับตัวเองด้วยการนั่งสมาธิเสียบ้าง ไม่เรียกว่าเสียเวลาหรอก
6. ไม่กินเนื้อสัตว์สัก 1 วันในสัปดาห์ ลองไม่เบียดเบียนสัตว์ดูบ้าง ได้ทั้งบุญและสุขภาพที่ดีในเวลาเดียวกัน
7. พูดคุยหรือสั่งสอนเรื่องธรรมะ แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องพระธรรมซึ่งกันและกัน จะช่วยให้รอบรู้มากขึ้น
8. ทำบุญกับพระสงฆ์ที่พบระหว่างการเดินทาง เช่น หากพบเจอพระสงฆ์ยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ก็อาจะไปบอกท่านว่า เราต้องการทำบุญ เนื่องจากไม่มีเวลาจะไปที่วัด และขอเสนอตัวไปขับรถไปส่งท่าน ณ จุดมุ่งหมายหรืออาจถวายเงิน, ผ้าไตร, ผ้าจีวร หากพบว่าท่านกำลังซื้ออยู่หรือมีร้านอยู่ใกล้ๆพอดี
9. ถ้าทราบว่าใครเดือดร้อนเรื่องใดๆ ก็ให้ช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ และเราก็จะต้องไม่เดือดร้อน เพียงแค่ทำตามกำลังความสามารถของเราที่เราพอทำได้และเราต้องไม่ลำบาก เช่นช่วยคนแก่ให้ข้ามถนน, ให้เงินคนที่ไม่มีเงินกินข้าวหรือเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เป็นต้น
10. ให้คำแนะนำที่ดีๆกับผู้ที่มีความทุกข์และเดินเข้ามาขอคำแนะนำจากเรา คำแนะนำของเราจะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย
11. ช่วยคนที่เขาเอาของมาขายกับเราตรงนี้ยกเว้นลอตเตอร์รี่นะ เพราะหากเป็นลอตเตอรี่ เรามักจะหวังผลจากลอตเตอร์รี่ที่ซื้อไปว่าอาจจะถูกรางวัล ซึ่งการทำบุญตรงนี้เราจะต้องไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น
12. ดูแลสัตว์เลี้ยงที่บ้านเป็นอย่างดี เช่น อาบน้ำ, ดูแลจานใส่อาหารให้สะอาด, ดูแลเรื่องความสะอาดเรียบร้อยของกรงหรือที่อยู่, หมั่นพูดคุย, คอยสังเกตุว่าเขาชอบหรือรักอะไรก็ให้เขาไป เช่น ชอบนอนในถุง หรือ ชอบนอนกับตุ๊กตา, มีโอกาสพิเศษก็มอบของให้เขาด้วยเช่นกัน อย่าคิดว่าเขาเป็นแค่‘สัตว์เลี้ยง’
13. จาน ชาม กินเสร็จแล้วควรล้างขึ้นมาทันที หรือ ถ้าไม่มีเวลา อย่างน้อยที่สุดก็ควรล้างเอาเศษอาหารออกให้หมดก่อนเพราะไม่เช่นนั้น มดจะเดินมาขึ้นมาบนเศษอาหาร ทำให้เวลาล้างต้องราดน้ำไปที่มดทั้งหมดและจะเป็นการฆ่าสัตว์แบบไม่ได้ตั้งใจ
14. ถือศีล 5
- ข้อที่ 1 ตั้งใจงดเว้นจากการฆ่าสัตว์
- ข้อที่ 2 ตั้งใจงดเว้นจากการลักขโมย
- ข้อที่ 3 ตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
- ข้อที่ 4 ตั้งใจงดเว้นจากการพูดเท็จ พูดคำหยาบ คำส่อเสียด เพ้อเจ้อ
- ข้อที่ 5 ตั้งใจงดเว้นจากดื่มสุรา
16. สิ่งของที่ไม่ใช้ก็ให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์ เสื้อผ้า หนังสือ ที่ไม่ใช้แล้ว ไม่มีค่าแล้วสำหรับเรา อาจมีค่าอย่างยิ่งสำหรับคนอื่น ลองแบ่งปันให้พวกเขาดูบ้าง คนไม่มีเวลาหรือมีเวลาน้อย เราสามารถทำบุญตามทั้ง 16 ข้อนี้ได้ เพียงเท่านี้คุณก็ได้บุญที่ยิ่งใหญ่แล้ว ไม่ต้องรอไปทำความดีที่วัดเพียงอย่างเดียว…สนับสนุนให้ทุกคนทำดีกันนะ
เชื่อว่าถ้าทุกคนที่อ่านบทความนี้แล้วนำไปฝึก นำไปปฏิบัติตาม ไม่ข้อใดก็ข้อหนึ่ง รับรองว่าชีวิตดีขึ้นแน่นอนพราะสามารถทำบุญได้ทุกที่ทุกเวลา
-
แจ้งการส่ง EMS
พี่พรเทพ EW 2340 6653 1 TH
พี่ภิญโญ EW 2340 6654 5 TH
พี่สุทธิธรรม EW 2340 6655 9 TH
พี่วิชัย EW 2340 6656 2 TH
พี่ชนันธร EW 2340 6657 6 TH
พี่เมธี EW 2340 6658 0 TH -
เห็นคนที่ได้น้องหมาไปบอกกันมาว่าได้โชคฝันเห็นหมาเห่าอะไรซักอย่างผมจำไม่ได้ ก็ลองติดตัวดูกันนะบอกได้แค่ว่านี่แหละทาสที่ซื่อสัตย์สุดๆ;)
....ส่วนที่ช่วงนี้ถามกันมาเยอะจังว่าจะเอาตะกรุดมหาสะท้อนรอบใหม่ออกเมื่อไหร่ อันนี้ยังไม่มีนะครับ เดี๋ยวเอาไว้ติดตามพูดคุยกัน -
อรุณสวัสดิ์ครับ ก็เห็นถามหาจะกรุดชุดพิเศษกันเข้ามามาก ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้อนุญาติให้นำชุดวิชาเวทย์สวรรค์อันกระทำได้ยากและแทบจะสาปสูญไปแล้วมาลงไว้ ซึ่งวิชาเหล่านี้ท่านว่าหากยังไม่ถึงขั้นวิกฤติหรือว่าตกต่ำก็อย่าเพิ่งไปใช้ อาจจะด้วยเหตุผลเพราะช่วงนี้มีหลายๆคนปรึกษากันเข้ามามากเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจตลอดจนหนี้สินและการว่างงาน....เรียกว่าเป็นทุกข์กันหนักมาก
ซึ่งวิชาอันเกี่ยวเนื่องกับเวทย์สวรรค์นั้นหลายๆปีหรือนานๆปีนานมากๆท่านจึงจะยอมนำออกมาให้คนที่เหมาะสมได้บูชากันสักครั้ง เรียกว่าเป็นตะกรุดที่สร้างความฮือฮาและมากด้วยประสบการณ์เกี่ยวกับเวทย์สวรรค์ทุกประเภทของพ่ออาจารย์ท่าน แม้เปิดบูชามาครั้งสองครั้งกระทู้ก็แทบจะล่มและยอดก็เต็มภายในสิบวินาทีหรือห้าวินาทีทีเดียว ดังนั้นใครเคยพลาดชุดเวทย์สวรรค์บอกได้แค่ว่าชุดนี้เป็นที่สุดจริงๆ ด้วยท่านย้ำไว้ตลอดว่าเวทย์สวรรค์นั้นปกติเป็นวิชาที่เทพพรหมเขาใช้กัน ดังนั้นมนุษย์บางคนตั้งแต่เกิดจนตายหรือผ่านไปอีกหลายชาติจึงไม่มีโอกาสได้สัมผัส ได้ใช้ หรือได้ยินเลย
ประกอบกับตะกรุดเวทย์สวรรค์แบบสั่งทำมีราคาสูงคือหลักหมื่นและมีน้ำหนักมากบางดอกตกครึ่งกิโลกรัม ทำให้มีความยากลำบากที่จะพกและอาราธนาเพราะน้ำกนักของตัวตะกรุดนั้น ** ดังนั้นหนนี้ใครที่เคยพลาดก็เฝ้ากระทู้กันไว้ได้เลย -
แจ้งการส่ง EMS
พี่นิธิรุจน์ EW 2340 8983 8 TH
พี่นฤชา EW 2340 8984 1 TH
พี่ปกรณ์เกียรติ EW 2340 8985 5 TH -
ติดตามกันดีๆนะครับ พรุ่งนี้ใครพลาดน่าจะรอกันอีกหลายปี:)
หน้า 333 ของ 487