ร่วมทำบุญบูชา ยอดทิพย์บรมพรหมบิดรเข้าแกนอาถรรพ์(สิทธิมงคลถือขึ้นปราศเงื่อนไข) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา ซุ้มกอก่อเหตุ,สนอง,ต้องประสงค์(ยอดเหล็กทิพย์แก้วมณีเลี้ยงน้ำมัน)

    หลายคนถามหาพระชุดเล็กที่ห้อยคอสะดวก...แต่ต้องแรง ด้วยเครื่องมงคลทั้งหลายส่วนมากจะมีขนาดใหญ่ห้อยยาก ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้ซุ่มทำเครื่องมงคลสกุลหนึ่งไว้ด้วยท่านว่าทำยากกว่าพระสมเด็จ จะเห็นได้ว่าพ่ออาจารย์ท่านแทบจะไม่ได้ออกพระสกุลซุ้มกอเลย ด้วยการสร้างนั้นอาศัยเหตุว่าต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายประการทั้งมวลสารแร่ธาตุที่ต้องนำมามนต์ปลุกเสก ท่านว่าที่ท่านเลือกทำพระซุ้มกอนี้เพราะเป็นพระที่ฤาษีสร้างสำเร็จด้วยเทพพรหมร่วมใจกันจึงมีฤทธิ์ถึงขนาดว่ามีกูไว้ไม่อับจนแม้กาลภายหลังผู้ใดจะพึงสร้างก็ไม่ปรากฏอิทธิคุณเสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านมนต์ปลุกเสกผงพร้อมเชิญเทพพรหมให้หาสรรพยากายสิทธ์ต่างๆมาร่วมสร้างพระพิมพ์ไปพร้อมกัน..จึงเป็นพระที่ได้มวลสารว่านยาด้วยปาฏิหาริย์หลายประการดุจเทวดาต้องการให้เป็นไปจะได้มีส่วนร่วมในการสร้างยอดพระพิมพ์ขึ้นมา(แต่มวลสารทั้งหลายที่ได้มาดุจเทวดามอบให้ท่านจะไม่กล่าวถึง) ท่านว่าซุ้มกอที่เราทำนี้ก็เพื่อให้ใช้กันแทนของเก่าคนที่ใช้จะรู้ว่าคำว่ามีกูไว้ไม่อับจนเป็นอย่างไร ซ้ำพระสำคัญนี้ยังคอยก่อเหตุสนองความต้องการต้องประสงค์ในสิ่งที่พึงประสงค์และปัดพ้นในสิ่งที่เราไม่พึงประสงค์มีพลังเร่งเร้าการเริ่มต้นและผลสำเร็จขับเคลื่อนศักยภาพพลังงานชีวิตอย่างแท้จริง

    ที่สุดแห่งผงวิเศษ
    พ่ออาจารย์ท่านได้ลบถมผงวิเศษที่ท่านทำรวบรวมไว้ด้วยความยากลำบาก มาผสมกับผงจักรพรรดิชองหลวงปู่ดู่,ผงทำพระของท่าน,ตลอดจนผงวิเศษห้าประการที่ท่านลบถมเองและผงจินดามณี,ผงแก้วบรมจักพรรดิ ท่านว่าเพียงเท่านี้ก็เหลือกินแล้วลำพังผงบางชนิดที่คนไม่มีปัญญาทำได้นี่ก็เหลือกินนักท่านนำมาหมักมานวดกับน้ำมุรธาวารีซึ่งเป็นน้ำที่เกิดขึ้นเองจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติเช่นน้ำในพระพุทธบาท,น้ำในเศียรพระปฏิมา,น้ำในบาตรพระปฏิมา,น้ำทิพย์ในบ่อในถ้ำสำคัญต่างๆ ที่สำคัญที่สุดนั้นท่านนำมาผสมผงไม้ตะเคียนโบราณพันปีด้วยท่านว่าใส่ไปให้เป็นเชื้อเพราะตะเคียนต้นนี้มีจิตของนางตะเคียนเขาไวต่อการบนบานศาลกล่าวหรือคำบูชาอธิษฐานของมนุษย์ท่านว่าเวลาขอจะได้สำเร็จสมหวังรวดเร็วดั่งใจ ...ด้วยท่านปรารถนาจะทำให้เป็นเครื่องมงคลชั้นครูชนิดเล็กพริกขี้หนูท่านจึงได้นำมาผสมกับผงวิเศษสูตรที่ท่านบอกว่าแรงและทำยากมากไม่เคยนำมาใช้กับสิ่งใดๆนอกจากเขียนเป็นตะกรุดนานๆครั้งดังนี้

    - ผงเจริญลาภ ผงวิเศษที่ให้ผลเจริญไวดังลมพัด..ใครหน้าไหนก็ตามเราไม่ทัน ท่านว่ายุคสมัยนี้อยู่ยากนักแข่งบุญแข่งพายยังหาแข่งกันได้เเต่คนไม่มีบุญอับวาสนาจะเอาอะไรไปแข่งไปสู้กับเขา ท่านว่าลงผงนี้ไว้กันเอาไว้ก่อนเผื่อคนเขาไม่มีในส่วนนี้ผลบุญยังไม่สุกงอมวาสนายังไม่พร้อมจะได้ไม่ขัดความเจริญเขา ด้วยคุณแห่งวิชานี้จะได้ช่วยต่อยอดออกไปให้เขาเจริญไว,เติบโตได้ไว,เจริญด้วยลาภยศ,สุข,สรรเสริญ,ทรัพย์สินศฤงคาร,ธนสารสมบัติเช่นนี้ ด้วยผงเจริญลาภนี้เป็นวิชาเฉพาะทางโภคสมบัติซึ่งให้ผลตรงตัวพ่ออาจารย์กล่าวว่าวิชานี้นั้น เป็นวิชาทางมหากำเนิดแต่เป็นการเกิดขึ้นของโชคลาภทรัพย์สมบัติ..จากศูนย์..จากไม่มี ก็จะเกิดขึ้นจนผู้ครอบครองมั่นคงไม่รู้จักตกต่ำสิ่งที่มีอยู่แล้วก็จะยิ่งเพิ่มพูนต่อไปเรื่อยๆแม้เอาไว้กับตัวก็ดึงดูดโชคลาภเข้ามาหาตัวไม่รู้จักเสื่อมถอย แม้ติดไว้กับเรือนสถานที่ทำงานก็จะรุ่งโรจน์มีแต่เร่งให้ดวงเปิดรับทรัพย์เป็นอเนกอนันต์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากทีแรกท่านเพียงจะลงผงเจริญลาภนี้เท่านั้นแต่ครูบาอาจารย์ข้างบนท่านว่ามันดีแต่ก็ยังไม่สุด ท่านได้มีนิมิตรเห็นหลวงพ่อฤาษีลิงดำกับหลวงพ่อปานมาหาท่านบอกว่าให้ลงวิชาพระเจ้านวโกฏิล้อมไปด้วยจะได้ดึงเอาบารมีของมหาเศรษฐีแห่งพุทธกาลทั้ง 9 ท่านมาไว้กับตัวคนใช้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเห็นเมตตาครูบาอาจารย์ตรงจุดนี้ท่านเลยลงผงเจริญลาภไว้เป็นฐานก่อนที่จะลงยันต์เบิกทางรับขุมทรัพย์ทั้ง 8 ทิศอันได้แก่มหาทิศทั้ง 4 และอีก 4 ทิศย่อย ท่านว่าแม้ตัวผู้ใช้อยู่จุุดในในโลกในทิศทั้ง 8 นี้เขาก็เป็นดุจแกนกลางที่โชคลาภความเจริญมั่งคั่งจะวิ่งเข้ามาหาดูดทุกอย่างมาไว้กับตัวเขา..ไม่หนีไปที่อื่น..ไม่วิ่งไปทางอื่น..ไม่ตกไปสู่คนอื่น ผงชุดนี้นั้ แม้ใครที่ติดผลกรรมทำอะไรไม่เจริญก็ใช้ได้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องกลัวเงียบ ละควรจะอาราธนาอย่างยิ่ง ท่านว่าเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำให้เราเพิ่มวิชาเข้าไปอีกสองส่วนให้เหมาะสมกับชะตาของสรรพชีวิตอันได้รับทุกข์ขุกเข็ญจากกระแสของโลกในปัจจุบันนี้สองส่วนนั้นก็คือ " วิชาระงับสงสาร,วิชาหนีสงสาร " สองวิชานี้ก็ตรงตามชื่อคือจะเข้าไปหยุดไม่ใช่ทำให้เวรกรรมเก่าหายไปเลยหากแต่เพียงระงับไว้หยุดไว้ปรามไว้ซึ่งอำนาจอกุศลกรรมที่เจ้าตัวเคยก่อไม่ให้ส่งผลนี่คือให้โอกาศเร่งสร้างกรรมอันเป็นกุศลขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแค่ระงับไว้เท่านั้นยังหนีอกุศลกรรมนั้นไม่ให้ตามติดตัวเพื่อจะแสดงผลได้ทันด้วย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าสองอย่างนี้สำหรับคนที่ทุกข์ขุกเข็ญเสวยผลแห่งทุกขเวทนาอยู่หาความสุขในลาภและทรัพย์สมบัติไม่เจอ สองวิชานี้นั้น..เพียงพอและเกินพอที่จะนำชีวิตของเขาออกจากห่วงแห่งทุกข์ได้ หากแต่ว่าออกแล้วต้องประกอบกุศลกรรมมาชดเชยกันมิเช่นนั้นชาติหนี้าไม่ได้เกิดมาพบเจอวิชานี้ก็จะต้องรับกรรมเก่าต่อไป ท่านว่าวิชานี้เปิดหมด เปิดทิศทั้ง 8 ระงับและหนีทุกข์เข็ญที่สำคัญท่านยังล้อมยันต์ด้วยวิชาพระเจ้านวโกฏิเพื่อดึงบารมีมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านแห่งพุทธกาลมาสู่จุดศูนย์กลางให้เกื้อหนุนผู้บูชาโดยตรง มหาเศรษฐีทั้ง 9 นั้นได้ชื่อว่าเป็นพระอริยบุคคลอันจะไม่ตกต่ำลงอีกด้วยบุญของทั้ง 9 ท่านค้ำจุนเราอยู่จึงเหมือนดั่งคำปกาศิตที่ชีวิตเราจะตกต่ำนั้นหามิได้จะได้ลืมตาอ้าปากสมหวังในการประกอบกิจเป็นเกียรติยศอยู่ในวงการอาชีพของตนเอง เมื่อท่านลงผงแล้วท่านได้นำมาปลุกเสกยันต์ให้มีชีวิต และอธิษฐานจิตลบท่านทำซ้ำไปซ้ำมาลงแล้วลบสะสมไปจนมีผงครึ่งกระปุกจึงเสกเก็บไว้จนเต็มดีแล้วไม่รู้จะใส่อะไรเพิ่ม ก่อนที่จะอัญเชิญเสด็จพระใหญ่,ครูพระปัจเจกดพธิเจ้า,สมเด็จบรมครูและหลวงพ่อปานตลอดจนหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้ท่านมารับรู้และช่วยกำกับเพิ่มเติม ผงนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านเอาเข้าพิธีอธิษฐานตลอดพรรษาที่ผ่านมาและได้รับคำแนะนำจากเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐมโพธิญาณ)ว่าในพรรษานี้ท่านจะเข้านิโรธสมาบัติถ้าจะให้เป็นเอกลาภเป็นผงเจริญลาภดั่งที่ท่านหมายใจไว้ก็ให้ยกผงนี้ไปให้ท่านที่นิพพานทุกวันท่านจะทำให้เป็นผงทิพย์ มีฤทธิ์ของการอธิษฐานจิตนิโรธกรรมเป็นเอกด้านโภคทรัพย์สมบัติความเจริญรุ่งเรืองแม้ผู้ใช้ปรารถนาสิ่งใดก็ย่อมได้ลุแก่ใจปรารถนาด้วยบารมีของนิโรธสมาบัตินี้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็เพียรยกถวายในทุกๆวันไม่ให้ขาดบารมีของนิโรธสมาบัตินั้นกล่าวกันว่าแม้ใครได้พบได้ถวายทานได้ตักบาตรกับพระผู้ทรงคุณอันออกจากนิโรธแล้วกุศลย่อมเสริมส่ง แม้ยาจกก็ได้เป็นพระราชาในวันเวลานั้นทีเดียว เมื่อจบพิธีนิโรธท่านตรวจดูพลังแล้วท่านว่าต่างจากตอนที่ท่านเสกไว้แต่แรกมากนัก เพราะสำเร็จด้วยวิชาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม ผงนี้มีพลังที่เย็นยะเยือกมากนัก ท่านจึงลองเอามาอธิษฐานจิตหนุนธาตุไฟขึ้นมาแม้ธาตุไฟยังไม่สามารถส่งผ่านพลังงานได้ ท่านว่าผงนี้ดุจกลับว่าใครที่มีความร้อนรนอาจจะเป็นด้วยจริตเป็นคนใจร้อนมุทะลุดุดันหากเขาได้พกไว้จะสลายเปลี่ยนเป็นความเย็นมาเกาะกุมแทน ทำให้เขานิ่งขึ้นสงบขึ้นมีสมาธิมากขึ้น ผงชุดนี้ท่านว่าถ้าไม่ใช่เจ้าของก็ไม่มีบุญที่จะได้พบ..แม้ชื่อก็จะไม่ได้ยิน..ถึงได้ยินก็จะหาความสนใจมิได้ด้วยวาสนานั้นปัดไปไม่ให้เข้ากัน จะมีผู้ที่รู้ค่าคู่ควรเท่านั้นถึงจะเชิญไปประดิษฐานเพื่อการณ์อันจะสำเร็จประโยชน์สมดั่งคำว่าเจริญลาภเค้าผู้นั้นจะเจริญและเจริญยิ่งๆขึ้นไป

    - ผงคุณพระแก้กรรม(ตำรับท้าวสหัมบดีพรหมสงเคราะห์) นับเเต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันเมื่อกำเนิดสรรพชีวิตขึ้นมากาลเวลาผ่านไปชีวิตเหล่านั้นได้วนเวียนอยู่ในวัฏฏสงสาร เขาไหลไปตามกรรมตามวาระตามกาลเวลาของเขาเเต่ละรูปนามจะหาที่เสมอเหมือนกันนี่บ่มิได้ "พ่ออาจารย์ ท่านเคยมีนิมิตรถึงท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่ในโลกทิพย์ซึ่งก็คือท้าวสหัมบดีบรมพรหมครูใหญ่สายพรหมของท่านได้กล่าวเอื้อนเอ่ยด้วยความเป็นห่วงด้วยกลัวภัยอันเกิดจากเคราะห์กรรมนานัปการจะเกิดแก่สรรพชีวิต เพราะยุคนี้โลกเสื่อมทรามลงนักหนาจึงได้มอบวิชาบอกวิธีทำของวิเศษอย่างหนึ่งไว้กับพ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อเห็นถึงเวลาตามสมควรเเล้วก็ให้ทำซะเเต่เราเเละเธอคงช่วยมนุษย์เหล่านั้นได้เพียงหยิบมือเฉพาะคนที่มีวาสนาเกื้อกูลกับเราเเละเธอจะช่วยทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้" พ่ออาจารย์ท่านจึงลบผงวิเศษขึ้นมาประกอบพิธีกรรมครบตามที่องค์ครูท้าวสหัมบดีบรมพรหมกำหนด ท่านทำเสร็จตามพิธีท่านก็เก็บไว้มองฟ้ารอเวลาให้ถึงพร้อมบรรจบกันทำเก็บไว้เช่นนั้นรอว่าเมื่อไหร่จะได้เอาออกมาช่วยผู้ที่มีวาสนาตามปกาศิตท้าวบรมพรหมท่าน ความทุกข์หลากหลายชนิดหลายรูปแบบที่มีคนบอกเล่าขอความเมตตาขอความช่วยเหลือมาทางพ่ออาจารย์นั้นเริ่มมีมากขึ้นเยอะขึ้นไม่ว่าจะมีทุกข์จากดาวนพเคราะห์,จากชะตาชีวิต,จากกฏแห่งเวรกรรมตามวัฏฏสงสาร,จากเจ้ากรรมนายเวรในอดีตที่ชาตินี้เราไม่รู้อะไรด้วยตามเล่นงานหลอกหลอน,จากศัตรูหมู่มารเทวดาอันธพาลทั้งหลาย,จากความทุกข์ทวีมากขึ้นสู่ทุกข์เข็ญตกยากลำบากอึดอัดคับข้องใจ,จากความปรารถนา,จากหน้าที่การงานต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านก็เป็นกังวลตามไปด้วย นกระทั่งที่ผ่านมาท่านได้ทำพิธีเสกเครื่องมงคลท่านได้เห็นจิ้งจกเผือก 9 หางมาปรากฏตตรงหน้าของท่านพ่ออาจารย์ท่านจึงกำหนดจิตดูเพราะท่านเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยเวลาปฏิบัติธรรมสั่งสมกำลังบารมี ซึ่งพญาจิ้งจกนี้คือร่างจำแลงของเทพเจ้าหรือมหาพรหมชั้นสูงลงมาเพื่อจะเเจ้งเหตุบอกกล่าวหรือร่วมอนุโมทนาในการปฏิบัติธรรมทั้งหลายซึ่งหลังจากท่านกำหนดจิตดูแล้วก็แจ้งแก่ใจว่าคือใครเเละท่านดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าครูบรมพรหมของท่านอนุญาติให้เอาผงวิเศษชุดนี้ออกไปโปรดสัตว์ช่วยเหลือหมู่ชนได้เเล้ว ด้วยความทุกข์ร้อนหนักหนาสาหัสของมนุษย์ในปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นอาณัติสัญญาณส่งขึ้นไปถึงพรหมโลก ผงวิเศษนี้คือผงคุณพระเเก้กรรมนั่นเองพ่ออาจารย์บอกว่าสมัยนี้คนเราเวลาเดือดร้อนนี่น่ากลัวมากเพราะเขาจะทุรนทุรายหาทางออกหาทางเอาตัวรอดทำให้โดนหลอกโดนต้ม จากพวกบรรดาหมอดูคนทรงเจ้าเข้าผีหรือเดรัจฉานวิชาฝ่ายต่ำต่างๆ จากที่ยิ่งเดือดร้อนอยู่เเล้ว กลายเป็นยิ่งทุกข์หนักขึ้นไปอีกท่านว่าท่านจึงสนองโองการพรหมเทพคือท้าวสหัมบดีได้ทำผงมหาวิเศษชุดนี้ขึ้นเพื่อผู้ที่ได้ไปจะได้มั่นใจเเละมีหลักประกันในชีวิตตนเองไม่ต้องไปโดนใครเขาหลอก ซึ่งผงคุณพระแก้กรรมนั้นเป็นผงที่ทำยากมากเพราะกว่าจะทำเเล้วเสร็จในชุดหนึ่งๆนั้น ต้องกินระยะเวลายาวนานถึง 9 ปี เมื่อพ่ออาจารย์ได้ลบผงเต็มสูตรตามสูตรวิชาของบรมครูผู้เป็นใหญ่ท่านได้นำมาอธิษฐานจิตด้วยตัวท่านเองกำหนดอารมณ์ใส่วิชาเเละพระคาถาตามที่ได้รับถ่ายทอดมา หลังจากนั้นจึงนำไปประกอบพิธีเชิญญาณของเสด็จพระพรหมใหญ่หรือองค์ท้าวสหัมบดีพรหมลงมาจุณเจิมผงประจุวิชาด้วยพรหมศาสตร์ของพระองค์ท่าน หากแต่ว่าการทำผงคุณพระเเก้กรรมนั้นไม่ได้ง่ายเเละเสร็จเพียงเท่านี้หากแต่ที่กินระยะเวลาถึง 9 ปีกว่าก็ด้วยว่าเพราะในแต่ละปีนั้นพ่ออาจารย์ท่านต้องนำผงนี้ไปบรรจุไว้ตรงหน้าพระประธานในอุโบสถวัดต่างๆ ในเวลาที่มีการชุมนุมสงฆ์ลงพระอุโบสถสวดปาฏิโมกข์กันเพียรทำไปทีละปีปีละวัดทำเช่นนี้จนครบ 9 ปี 9 วัดหลังจากนั้นจึงนำมาสอบทานพลังว่าตรงตามสายวิชาเเละสำเร็จเเล้วหรือไม่ ท่านว่าเมื่อผ่านพิธีปาฏิโมกข์มาถึง 9 ครั้ง 9 พระอุโบสถนั้นผงนี้มีกำลังเเรงกล้ามากมิถดถอยต่างจากเดิมเเต่อย่างไร เเต่ที่มั่นใจได้อย่างหนึ่งก็คือผงนี้ใครก็คัดถอนมิได้ใส่ไปที่ใดของก็ไม่เสื่อมเมื่อสำเร็จครบตามพิธีเเล้วผู้ที่ได้ไปนั้นถือว่าชีวิตเขาเหมือนมีเเก้วมณีมีของวิเศษอยู่ในครอบครอง ชีวิตจะเปลี่ยนกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปนี้ชีวิตเลิกไปดูดวงนอนโลงไปทำบังสุกุลตายหรือเป็นได้เลยเพราะชีวิตเปลี่ยนดวงเปลี่ยนเเล้ว บารมีคุณพระพุทธเจ้าคุณท้าวสหัมบดีมหาพรหมท่านลงมาสงเคราะห์เหยียบเกล้าเหยียบกระหม่อมเราเเล้วสัพพเคราะห์ใดๆแม้มีกำลังมากก็ไม่อาจกล้ำกรายเราได้ ทุกข์เข็ญเคืองขัดหมู่มารสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่อาจทำอันตรายแก่เราได้ปิดประตูทุกข์ได้เลย เชื่อว่าพวกเธอจะดีวันดีคืนทำอะไรก็ไหลรื่นประสบความสำเร็จตามคำอำนวยพรของบรมพรหมพระองค์ท่าน

    - ผงหมดทุกข์ ด้วยพ่ออาจารย์ท่านก็มีความเป็นห่วงเรื่องทุกข์ยากในสรรพชีวิตท่านจึงอธิษฐานจิตช่วยอยู่ทุกวัน เทพยดาทั้งหลายทั้งวิญญาณบรรพบุรุษตลอดจนพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตทุกๆพระองค์ต่างก็ไม่ได้นิ่งนอนใจด้วยไม่อยากเห็นคนเชื้อชาติไทยลำบากตกทุกข์ได้ยาก ความอัตคัดขัดสนนี้ได้เเผ่กระจายไปทั่วเป็นวงกว้างพ่ออาจารย์ท่านก็ปรารถนาจะเสี่ยงนิมิตรว่าจะทำสิ่งใดด้วยอาถรรพ์และวิชชาดี พื่อจะช่วยเหลือผู้ที่ยังไม่หมดเคราะห์กรรมให้พ้นจากห้วงแห่งทุกข์ จนกระทั่งพ่ออาจารย์ได้มีนิมิตรถึงเสด็จพระใหญ่(หรือที่เราเรียกว่าพระสมเด็จองค์ปฐมต้นพุทธภูมิ)ท่านได้เมตตาทำให้พ่ออาจารย์ท่านเห็นวิชชาหนึ่งท่านจึงได้นำมาถอดเป็นอักขระยันต์พระยันต์หนึ่ง ซึ่งเสด็จพระใหญ่ได้มีพุทธโองการดำรัสไว้ว่า "วิชานี้ตกต้องถึงผู้ใดกาลแห่งทุกข์ทั้งหลายจะคลี่คลายโดยฉับพลัน" ซึ่งหลังจากพ่ออาจารย์ท่านได้ถอดอักขระยันต์แล้วก็ทำการชักยันต์ในอากาศให้เสด็จพระใหญ่ท่านพิจารณาจนมีวาทะรองรับ ซึ่งจุดนี้พ่ออาจารย์เล่าว่าวิชานี้จะเเตกต่างจากวิชาอื่นๆที่ทำมาเพราะเราไม่มีส่วนในการเสกเสียเลย เมื่อลงทำผงเสร็จเเล้วพระองค์ท่านให้นำผงนี้ไปวางไว้ที่โต๊ะบูชาครูกล่าวขอบารมีเสด็จพระใหญ่ท่านให้มาลงมาทำโดยเฉพาะ..ด้วยเป็นวิชชาของท่านที่ท่านประสงค์จะช่วยคนที่รู้ค่าเเละคู่ควรใครก็มาลงแทนท่านมิได้ เมื่อพ่ออาจารย์ท่านลบผงไว้ได้จำนวนหนึ่งเเล้วท่านก็เข้าญาณติดตามพิจารณาที่ผงนั้นจนเห็นว่ามีรัศมีใสกระจ่างหลากหลายสีแบบฉัพพรรณรังสีปรากฏขึ้นท่านก็กล่าวลานำออกมา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านไม่ได้พึงใจเพียงเรื่องแค่นี้ด้วยท่านเห็นว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำไว้ดีมากแล้ มากเกินกว่ามนุษย์และครูบาอาจารย์ใดๆจะทำได้ ผงหมดทุกข์หรือผงพระเจ้าห้ามกลียุคนี้ถือเป็นของสำคัญทีเดียวเพราะสร้างด้วยวิชชาของเสด็จพระใหญ่ซึ่งท่านมีเมตตารับไว้ในอนุเคราะห์ทำให้จนเสร็จสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพุทธคุณเป็นเอกสามารถระงับซึ่งทุกข์ภัยโทษเคราะห์ต่างๆได้วิชานี้คนพกได้ดี..ดีอย่างไร..ดีตรงที่ไม่รู้จักความทุกข์เลย เอาผงนี้ติดเนื้อติดตัวไว้พ่ออาจารย์ท่านว่าไอ้ตัวทุกข์ทั้งหลายนั้นมันหาเราไม่เจอเข้าไม่ถึงตัวเราเลย "ของแบบนี้คนที่ยังเวียนว่ายอยู่ในความทุกข์อยู่ในห้วงวัฏฏสงสารทำไม่ได้..ต้องคนที่พ้นโลกพ้นสงสารไปแล้วเท่านั้นถึงจะทำได้ นี่ได้เมตตาเสด็จพระใหญ่ท่านช่วยทำเพราะท่านเปลื้องทุกข์เป็นผู้นิราศทุกข์มิรู้จักความทุกข์ไปนานมากโขเสียเเล้ว" ด้วยความทุกข์นี้คือสิ่งต่างๆทั้งหลายที่มาสัมผัสกายสัมผัสใจเราทำให้เกิดสภาวะบีบคั้นต่างๆ,ทำให้เกิดสภาพต่างๆที่เราทนไม่ได้,เป็นสถานะที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด,กังวล,ไม่สบายใจ,ไม่สบายกายทำให้เราเดือดร้อน เมื่อบุคคลใดอยู่ในห้วงทุกข์แล้วบุคคลนั้นย่อมมืดมนหาความสุขมิได้ ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาทำในส่วนนี้เเล้วก็เป็นอันว่าผงหมดทุกข์หรือพระเจ้าห้ามกลียุคนี้ก็เป็นผงวิเศษที่จะเอาไว้ใช้ดับทุกข์อันเกิดเเต่ห้วงกรรมห้วงวัฏฏสงสารที่บิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไป

    - ผงดับเคราะห์พระยาพิเภกค้ำดวง เรียกว่าพระพิเภกค้ำดวงก็ได้,ท้าวเวสสุญาณเขียนดวงก็ได้ เพราะท่านบอกว่าผงนี้ผู้ที่ได้ใช้จะเปลี่ยนแปลงดวงชะตาของเขาใหม่ทั้งหมด เหมือนดั่งต้นไม้ แม้จะเเห้งเหี่ยวไปเเล้วก็จะกลับมามีชีวิตผลิดอกออกใบเหมือนเดิม อาศัยเหตุที่พระยาพิเภกนั้นรับโองการพระอิศวรผู้เป็นเจ้าเกิดขึ้นมาเพื่อช่วยพระรามจนได้ดี..เห็นมั๊ยว่าก่อนเจอพระยาพิเภกนั้นพระรามเเทบจะไม่มีอะไรเลยพอได้ความรู้และสิ่งของวิเศษคือแว่นเเก้วสุรกานต์ขององค์พระอิศวรที่ซ่อนอยู่ในตัวของพิเภกทัพชัยของพระรามก็กลายเป็นกองทัพที่ไร้พ่ายทันทีประสบพบเจอเเต่ความสำเร็จ,ความเจริญรุ่งเรือง แม้มีปัญหาอุปสรรคใดๆมากมายต่อให้ยากนักหนาจนเลือดตาแทบกระเด็นพอได้คำเเนะนำได้การช่วยเหลือของพระยาพิเภกก็จะผ่านไปได้ด้วยดีทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านเห็นสมควรยิ่งที่จะทำผงเพื่อนำบารมีของพระยาพิเภกหรือท่านท้าวเวสสุญาณนี้มาให้หนุนให้เสริมดวงชะตาราศีแก่ชีวิตของลูกๆที่ศรัทธาที่เจอปัญหา,เจอมรสุม,เจอวิกฤติต่างๆให้หนุนจนได้ดีมีเกียรติเจริญรุ่งเรืองไม่รู้จักตกต่ำ ท่านว่าพระยาพิเภกหนุนพระรามอย่างไรบารมีท้าวเวสสุญาณนี้ก็ให้หนุนให้ช่วยคนที่ใช้ผงแบบนั้นเเบบเดียวกับที่ทำให้พระรามประสบชัยชนะ,ประสบความเจริญรุ่งเรือง ท่านว่าเรื่องหนุนดวงนี้ผงชุดนี้นี้ถือเป็นเรื่องเล็กเลย เพราะว่าไม่เพียงเเต่หนุนเท่านั้นยังค้ำไว้ไม่ให้ตกก่อนที่จะหนุนให้สูงยิ่งขึ้นด้วยแม้ใครมีเคราะห์มีทุกข์..กาลเเห่งทุกข์โทษและพระเคราะห์ทั้งหลายจะหายไปและจะเจอเเต่เรื่องดีๆที่ไม่คาดคิดไม่นึกฝันอยู่เรื่อยๆต่อให้เเห้งเหี้ยวอับเฉาลงไปแล้วก็ฟื้นขึ้นมามีชีวิตชีวาได้ ผงนี้ท่านว่าอย่าคิดว่าทำง่ายเพราะต้องวางอักขระเลขยันต์ที่จะหนุนดวงเสริมส่งชะตาของผู้บูชาจริงๆ โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ใช้บารมีของพระนารายณ์และพระยาพิเภกหนุนส่งกันลงอักขระเลขยันต์ลบถมเพื่อให้ผงนี้เกิดการเกื้อกูลเกื้อหนุนซึ่งกันเเละกันชั้นหนึ่งก่อนตามสายวิชาก่อนที่จะลงเสกต่อไป เพื่อให้บารมีของพ่อท้าวเวสสุญาณสามารถนำไปเกื้อหนุนผู้ครอบครองได้จริง ท่านว่าเหมือนเป็นสัญญาใจที่พระยาพิเภกนั้นจงรักภักดีเกื้อหนุนพระนารายณ์ฉันใดท่านก็จะทำแบบเดียวกันนั้นกับเรา อย่าลืมว่าเมื่อนำผงวิเศษชนิดนี้ติดตัวของเราเเล้วทุกข์โทษเคราะห์ทั้งหลายก็จะค่อยๆบรรเทาลงไปเองท้าวเวสสุญาณท่านมีแว่นเเก้วสุรกานต์ด้วยอานุภาพของเเว่นแก้วนั้นท่านย่อมรู้ย่อมเห็นทุกเรื่อง ทั้งยังเสกอาถรรพ์ด้วยบทสายฟ้าฟาดพระธรณีซึ่งวิชานี้ท่านไม่เคยลงในเครื่องมงคลใดๆแต่ท่านเห็นใจว่าสมัยนี้ใครเค้าก็อยากเจริญอยากได้ดีกันทั้งนั้น ที่จะให้คอยช้ารอท่ารอเวลาอะไรก็เห็นว่าไม่เข้าทีท่านจึงลงวิชานี้เสริมลงไปด้วยจะได้สำเร็จเเบบรวดเร็ว ท่านว่าอิทธิคุณของวิชาสายฟ้าฟาดพระธรณีนี้จะหนุนส่งเสริมกันให้สำเร็จรวดเร็วทะลุทะลวงทุกอย่างท่านจึงลงวิชานี้เอาไว้ ท่านว่าไม่มีสิ่งใดขวางกั้นสายฟ้าเอาไว้ได้จนสายฟ้านั้นตกต้องพระธรณีฉันใดคนใช้ผงนี้ก็เหมือนกันจะไม่มีสิ่งใดมาขวางผู้ใช้ได้เลยจนกว่าจะพบความสำเร็จตามที่ตนปรารถนาฉันนั้น พ่ออาจารย์ท่านย้ำหนักหนาว่าสายฟ้านี้เธออย่าลืมนะว่ามันรวดเร็วและว่องไวผ่าลงตรงไหนก็รุนแรงตรงนั้น มันก็หนุนก็ส่งให้ความสำเร็จที่เธอคิดเธอปรารถนากันเป็นไปได้โดยทันทีรวดเร็วและว่องไวเช่นเดียวกัน คุณแห่งผงชุดนี้ท่านว่าถือเป็นของมงคลอย่างยิ่งเพราะตกอยู่กับใครที่ไหนก็ใช้ได้ทั่วทุกตัวคนเป็นของค้ำคูน,ดับเคราะห์,ฟื้นดวง,พลิกชะตาแถมด้วยบารมีท้าวเวสสุญาณเทพบุตรก็จะชักนำพาตัวเราให้ไปถึงจุดหมายได้ฉับพลันทันที แม้จะอธิษฐานบอกกล่าวสิ่งใดให้ท่านช่วยเหลือนอกจากทุกเรื่องจะเป็นไปได้โดยง่ายยังสำเร็จว่องไวและรุนแรงปานประหนึ่งสายฟ้าฟาดพระธรณี ผงนี้ภูติผีเเละสิ่งอัปมงคลทั้งหลายจะกลัวเกรงไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยมีญาณพญายักษ์ท้าวเวสสุญาณคุมอยู่ถ้าได้ใช้บูชาติดตัวยังช่วยให้อารมณ์โปร่งใสสมองจะปลอดโปร่งจะคิดพิเคราะห์พิจารณาสิ่งใดในทางที่ถูกที่ควรก็เป็นไปได้โดยง่ายเเละรวดเร็วด้วยบารมีของท้าวเวสสุญาณซึ่งครอบครองแว่นแก้วสุรกานต์นั้น นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของลางสังหรณ์ความรู้สึกทั้งหลายอีกด้วยท่านว่าเมื่อใช้ผงนี้ความรู้สึกหรือลางสังหรณ์ของเธอนั้นจะเเม่นขึ้น เวลาคิดหรือตัดสินใจอะไรหากมีสิ่งใดไหลเข้ามาให้เชื่อความรู้สึกแรกเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าผงชุดนี้มันแปลกนะไม่ใช่ค้ำดวงเเค่นั้นอาจเพราะได้บารมีท้าวเวสสุญาณมาด้วยเต็มๆเวลาใช้จึงช่วยเรื่องความจำด้วยจะมีความจำเเม่นขึ้นเป็นคนใฝ่รู้ใฝ่การศึกษามีนิสัยบุคลิกของนักปราชญ์ คนที่ว่าเกเรใช้ผงนี้ย่อมเปลี่ยนดวงเปลี่ยนอุปนิสัยเขานอกจากค้ำดวงเเล้วยังเอาดีเรื่องพลิกแพลงชีวิตไอ้คนที่ชอบเที่ยวเตร่สำมะเลเทเมาก็จะค่อยๆเปลี่ยนกลับคืนมาเป็นคนชอบทำบุญมีนิสัยเหมือนนักปราชญ์ชอบเเสวงหาความรู้ไม่หลงไปกับพาลทุจริตถูกสิ่งอกุศลต่างๆยั่วยวน

    - ผงมหาสะเดาะ วิชานี้เเต่เดิมเป็นวิชาที่ผู้หวังรวยทางลัดชอบการพนันเสี่ยงโชคนิยมกัน ซึ่งคนที่ได้ดิบได้ดีทางนี้ล้วนมีอยู่มากมายเขาเหล่านั้นนอกจากดวงเเละโชคเเล้วยังมีของดีมีวิชาดีติดตัวมาเเต่โบราณด้วย พ่ออาจารย์บอกว่าเเต่เดิมวิชานี้เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในภาควิชาของเทพนิมิตร ท่านได้เฝ้าครูมหาพรหมคือองค์สหัมบดีบรมพรหมสูงสุดแห่งปัญจสุทธาวาสท่านจึงได้วิชานี้มา โดยใช้วิชานี้ตั้งตัวเเละทำไว้ให้ลูกศิษย์บ้างเฉพาะบางคนที่มีความประพฤติดี วิชานี้องค์บรมพรหมท่านให้มาโดยเฉพาะพ่ออาจารย์กล่าวว่าแก่นเเท้ของวิชานี้ต้องสวนกับกระเเสของกรรมในระดับหนึ่ง พระองค์ท่านได้มอบอักขระให้พร้อมคาถาเสกเรียกว่ามหาสะเดาะพระองค์ท่านบอกว่าเพราะสัตว์นั้นมีกรรมเฉพาะเเต่ละบุคคลถึงมีโชคบางทีก็รับไม่ได้ บางครั้งกรรมส่งผลหนักเเม้โชคก็ยังไม่มีเลยในจุดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้เสวยศุภมงคลอันเกิดเเต่โชคลาภวาสนาพระองค์ท่านจึงให้วิชามหาสะเดาะเเก่พ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อพกไว้บูชาไว้กับตัวจะสะเดาะโซ่ตรวนบ่วงพันธนาการที่กุมรัดให้หลุดออกให้ไขว่คว้าโชคลาภได้จะทำอะไรก็มีเเต่โชคร่ำรวยง่ายๆโชคดีเเบบนั้น ในส่วนของเวรกรรมนั้นก็ไม่ได้หายหรือสลายไปไหนเพียงเเต่คลายพันธะทั้งหมดออกชั่วคราวให้สัตว์เหล่านั้นที่ได้บูชาสามารถรับโชคได้เเต่กรรมเก่าก็ยังรับเหมือนเดิม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้มันดีตรงที่เวลามีโชคพูดง่ายๆคือมีเงินให้เอาเงินไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรบ่วงกรรมมันก็จะบรรเทาเบาบางลง ทีนี้อะไรก็ง่ายไปหมดทำไปเรื่อยๆได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำการกุศลอุทิศให้เขา เช่นนี้ก็ขึ้นชื่อว่าต่อไปบ่วงพันธนาการต่างๆก็จะลดคลายลงเงินเเละความโชคดีมันจะยิ่งไหลมาไม่รู้จบ เมื่อท่านลงผงมหาสะเดาะเเล้วพ่ออาจารย์จึงล้อมมหาสะเดาะด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ของหลวงพ่อปานวัดบางโคนม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ดีมากอยู่เเต่เดิมเเล้วในส่วนของพระคาถาไม่ต้องกล่าวอะไรมากเเต่พอนำมาลงทำผงกลับต้องทำให้มากขึ้นไปอีกคืออัญเชิญบารมีพระปัจเจกพุทธเจ้าอันอภิเษกพระสัมโพธิญาณทั้งหลาย ซึ่งพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีจำนวนมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่เอ่ยอ้างมหาบารมีในระดับโพธิญาณซึ่งสูงกว่าระดับวิปัสนาญาณของพระอรหันต์ทั่วไปมาช่วยเป็นตัวเบิกทางลดกระเเสเวรกรรมให้ผู้บูชาประสบโชคดี เมื่อเหล่าพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลายช่วยกันสงเคราะห์ผสานกับพระเวทย์ในสายบรมพรหมสหัมบดีจึงรับเเละหนุนกันเป็นทอดๆ หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงพระเวทย์เฉพาะอันท้าวสหัมบดีบรมพรหมท่านสอนไว้พระเวทย์นี้ไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยเเก่ผู้ใดท่านลงจารล้อมวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์อีกทีหนึ่ง พ่ออาจารย์กล่าวว่าพระเวทย์นี้ต่อให้อยู่เฉยๆโชคลาภก็วิ่งเข้ามาหาเองเเม้ปรารถนาเงินทองของมีค่าความสุขสบายใดก็ไม่ไกลเกินความปรารถนา ะเสี่ยงโชคจะพนันขันต่ออะไก็เอาเเต่พองามตามใจเถิด ให้ตั้งสัจจะกับผงชุดนี้ไว้ว่าวันนี้อยากได้เท่าไหร่ได้เเล้วให้พอให้หยุด เเล้ววันอื่นค่อยขอเมตตาในส่วนมหากรุณาของเสด็จปู่ท้าวสหัมบดีต่อไป

    - ผงงอกเงยเศรษฐีจับช้าง ผงวิเศษนี้เป็นผงตระกูลเศรษฐีที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมเอง โดยเมื่อจะทำต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญของครูช้างครูปะกำนำมาประกอบพิธี ทั้งหนังช้าง งาช้าง งวงช้าง หูช้าง... หางช้าง โดยแต่ละส่วนนั้นล้วนมีคุณอยู่ในตัวของมันเอง ท่านนำมาทำวิชาก่อนที่จะเผาตำเอาผงลงวิชาเศรษฐีจับช้าง ท่านว่าวิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงชื่อแปลกๆ ผงวิชาเศรษฐีจับช้างนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มากกำลัง มากบารมี ผงเศรษฐีจับช้างนี้ก็อาศัยกำลังของช้างสำคัญให้เป็นเศรษฐีแบบไม่นึกฝัน ท่านว่าคนที่ถูกเมินเฉย ชีวิตจับแต่งานเล็ก คิดการณ์ใหญ่ ทำสิ่งที่ต้องเติบโตและพัฒนาขึ้นไม่เคยประสบความสำเร็จ ตัวนี้ต้องใช้ผงนี้แก้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยทำให้พวกทำธุรกิจลองใช้กันหลายคน ที่บอกว่ามีแต่งานเล็กๆโครงการที่ไม่ค่อยจะได้กำไรกัน รายไหนรายนั้นกลายเป็นได้จับงานใหญ่โตทั้งสิ้น ท่านว่าผงนี้เหมาะสำหรับคนอยากมีพัฒนาการ ต้องการความสำคัญ อยากรับผิดชอบงานใหญ่จะได้รวยและมั่งมีแบบใหญ่โต ซ้ำวิชาเศรษฐีจับช้างนี้ยังสยบการแข่งขัน ปราบปรามคู่แข่ง กำราบปัจจามิตรคิดร้ายให้มีอันเป็นไปได้อีกด้วย

    - ผงสุริยะมณฑลทรงรถ ผงสำคัญนี้ท่านพบในถ้ำที่พม่าเป็นผงสำคัญคู่กับผงจันทร์ทรงกลด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำไว้โดยฤาษียุคโบราณ เราสอบถามดูได้ความว่าเป็นองค์เดียวกันกับที่คิดประดิษฐ์ยันต์สุริยประภา จันทรประภาให้ใช้กันสืบมานั่นทีเดียว อันผงสุริยะมณฑลทรงรถนั้นท่านว่าเป็นของประเสริฐเลิศเสียกว่าทรัพย์สินจินดามณีใดๆในโลก หาค่ามิได้ หาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก ถึงขนาดว่าแม้แก้วมณีโชติ สมบัติบรมจักรพรรดิ หรือสมบัติพระอินทร์สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่อาจเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะดีด้านหนุนดวง ซ้ำยังทำให้บุคคลทั่วไปผ่อนคลายอารมณ์ไม่มักโกรธถือโทษเรา ทั้งคนเคารพยำเกรง มีอายุยืนโสตสัมผัสแจ่มใสมิหลงเลือน ทั้งระงับโรคาอาการเจ็บไข้โทษภัยร้ายแรงทุกประการ แม้นได้พบอาราธนากล่าวสืบมาว่าย่อมไม่รู้จักที่จะตกทุกข์ได้ยากนั่นทีเดียว มีค่าดุจได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กระทำสักการะให้ดี

    - ผงจันทร์ทรงกลด เป็นผงสำคัญคู่กับสุริยะมณฑล แต่ผงนี้จะเน้นหนักทางโชคลาภถึงขนาดที่ว่าแม้ไม่มีจะกินเทวดายังเอาอาหารมาให้ และผิว่าถิ่นที่อาศัยของเรารอบบริเวณมีสินทรัพย์สมบัติใดย่อมได้ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เราทั้งสิ้น หรือแม้นจะปรารถนาแก้วแหวนเงินทองหรือวัตถุอะไรก็ตาม ให้จัดเครื่องบูชาแก่ผงนี้ดุจบูชาพระสัมมาสมพุทธเจ้า ท่านว่าบำเพ็ญไปเถิดปรารถนาอันใดต้องได้ดั่งใจทุกประการท่านว่าผงนี้สำคัญมากแม้นคนหนียังได้กลับคืน คนรักเอาใจออกห่างยังกลับมาสนใจ เป็นเสน่ห์เมตตาติดกันไม่แยกจาก ดั่งชะตาเปิดรับวาสนาดุจน้ำขึ้นทรัพย์เต็มท้องน้ำ ให้รีบตักรีบโกย ท่านว่าอุปมาไว้แก่ผู้ที่ได้ผงนี้ไปบูชาดุจชีวิตน้ำขึ้นอยู่เช่นนี้เรื่อยไปไม่ลดลงเสื่อมถอยเลย ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นผงสำเร็จของฤาษีแต่โบราณ หากจะทำพระซุ้มกอให้แรงและมีฤทธิ์เสมอหรือเกินกว่านั้นสิ่งอื่นย่อมมิอาจแทนกันได้ ผงนี้จึงเหมาะแก่การสร้างพระซุ้มกอที่สุด พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ผงสองชนิดนี้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างพระผสมมวลสารนั่นเอง

    - ผงฤาษีสัมฤทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อฤาษีท่านยื่นใส่มือมาให้ บอกแค่ว่าชื่อผงฤาษีสัมฤทธิ์ ให้เก็บไว้รอคนมีบุญเอาไปใช้ ท่านว่าท่านไม่ได้ถามอะไรมากเพราะถือคำพระอริยะเจ้านั้นเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าสัมฤทธิ์แปลว่ามันดีไปหมด เกิดผลทุกอย่าง สัมฤทธิ์ผลไปหมดทุกอย่าง และผงนี้เป็นผงแต่โบราณที่สร้างโดยฤาษีเช่นกันท่านจึงเรียกว่าฤาษีสัมฤทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเก็บมานานจนทำพระซุ้มกอนี้ ก็เพื่อจะให้คนมีบุญแต่กรรมบังทั้งหลายได้เอาไปอาราธนาใช้ดู ให้ชีวิตเขาสัมฤทธิ์ เป็นประสิทธิ์เกิดมรรคเกิดผลตามแนวทางของอาชีพและวิถีชีวิตที่คาดหวัง ท่านจึงนำมาผสมพร้อมผงทั้งหลาย

    ผงทั้งหมดนี้เป็นผงสำเร็จไม่มีสิ่งอื่นใดเจือปน พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้นใครมีก็มีชีวิตในวิถีที่เหนือกว่าผู้อื่นดุจเหยียบย่ำฟ้าดินไม่ตกยากอับจนเป็นของที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ท่านว่าเราไม่ได้กล่าววาจาท้าทายฟ้าดินแต่ของบางอย่างที่มีค่าถึงขนาดที่สมบัติเทวดา,แก้วมณีโชติหรือสมบัติพระเจ้าจักรพรรดิยังต่ำชั้นจนไม่กล้าเปรียบของเช่นนี้ไม่ใช่ของธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพื่อสร้างพระให้ตรงสายวิชาเฉพาะผงของฤาษีทั้งสามชนิดนี้ไม่รวมเศรษฐีจับช้างและผงสำคัญต่างๆให้เสนอมาช้อนละแสนหรือมากเท่าให้ท่านก็ไม่ให้ใครหรือแม้แต่จะนำออกมา เมื่อท่านสร้างพระซุ้มกอนั้นท่านได้ใช้เคล็ดสำเร็จทันใจนำผงวิเศษล้วนๆมาเข้ากับตัวประสานผสมนวดให้เข้ากันก่อนนำมากดพิมพ์

    ยอดเหล็กไหลทิพย์แก้วมณีโชติ
    ในอดีตนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้นำแร่เหล็กไหลกลางทุ่งหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วสร้างเครื่องมงคลในบางรุ่น แร่นี้เป็นในส่วนของเหล็กไหลที่หลวงปู่บุญท่านเคยชี้จุดให้ศิษย์ฆราวาสไปขุดกลางทุ่งนครชัยศรี ครูฆราวาสของท่านนั้นเล่าว่าตอนขุดนี้มืดฟ้ามัวดินทีเดียวเป็นแร่ที่มีจิตวิญญาณรักษาอัญเชิญขึ้นมาได้ไม่มากหลวงปู่บุญท่านได้นำมาอธิษฐานจิตในส่วนของพุทธคุณ มีบดผสมพระบางส่วนและที่เหลือท่านก็มอบให้ศิษย์ไว้สืบต่อมาจนตกทอดถึงพ่ออาจารย์ ท่านว่าแร่นี้มีพุทธคุณแรงมากทีเทพยดาเข้ารักษาทุกชิ้นเมื่อนำมาฝังทำพระแล้วเทพยดานั้นก็จะเข้าอารักขาพระพิมพ์ไปด้วย เมื่อจะขอจะอธิษฐานอะไรกับองค์พระให้ทำจิตให้นิ่งสงบเพ่งจิตไปที่เม็ดแร่หรือจะใช้ฝึกสมาธิก็ได้จิตจะปลอดโปร่งแม้อธิษฐานสิ่งใดก็สำเร็จโดยเทวานุภาพ ### แต่เหนือสิ่งอื่นใดเหล็กไหลชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้คัดเลือกองค์ครูเก็บไว้ นั่นคือองค์ที่มีสัณฐานกลมดุจแก้วมณีโชติท่านได้เพียรเชิญครูลงเสกองค์เหล็กชุดนี้ให้มีคุณดุจดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์ พ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นความสำคัญของวัตถุธาตุชนิดนี้ซึ่งเป็นของสำคัญอันจะกำเนิดมาแต่พระเจ้าจักรพรรดิเป็นดวงแก้วมณีที่มีอานุภาพมากสามารถอธิษฐานปรารถนาสิ่งใดก็ย่อมได้เรียกว่าแก้วหนึ่งดวงนั้นล้วนเป็นของประเสิรฐยิ่งเพราะสามารถบันดาลได้ทุกสิ่งไม่มีอับจน เช่นนั้น "ยอดเหล็กไหลทิพย์แก้วมณีโชติ" จึงเป็นองค์เหล็กไหลชั้นครูชุดพิเศษของพ่ออาจารย์ที่ท่านคัดพิเศษเฉพาะองค์ที่ได้ลักษณะมาทำวิชาจากเดิมที่แรงครูสูงและมีฤทธิ์รุนแรงอยู่แล้วให้แรงยิ่งขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์เหล็กนั้นจะมีทิพย์กายทั้งหลายเค้าลงมารักษาดุจมาชื่นชมบารมีดวงแก้วมากล้นพ้นประมาณเสมอกันกับดวงแก้วจักรพรรดิ์อันประดิษฐานที่พระจุฬามณีในดาวดึงส์นั่นทีเดียว พูดได้ว่าองค์เหล็กดวงแก้วอยู่ที่ไหนเทพพรหมทั้งหลายก็ลงมาประชุมที่นั่นคอยอารักขาองค์เหล็กสำคัญนี้เทพพรหมเค้าลงบ้านไหนบ้านนั้นก็เจริญรุ่งเรือง ให้บูชาแทนแก้วสารพัดนึกหรือแก้วบรมจักรพรรดิ์ด้วยความคิดความปรารถนาคนมันมีร้อยแปดพันประการแต่ละวันนั้นหาจะซ้ำกันได้ซักวันหนึ่งไม่มี ดังนั้นท่านจึงอธิษฐานจิตให้ "ยอดเหล็กไหลทิพย์แก้วมณีโชติ" แก่ผู้ที่มีบารมีต้องกันท่านว่าหากไร้วาสนาไม่มีบารมีเกิดมาเช่นใดก็ไม่มีวันได้พบเจอหรือพบคุณสมบัติในดวงธาตุองค์เหล็กนี้ได้เลย ท่านว่าของใครของมันแม้เกิดชาติภพใหม่ก็ย่อมมีเหตุให้ตามเราไปเป็นพันธะสัญญาเกื้อกูลกันทุกชาติท่านว่านี่จึงไม่ใช่ของเล่น

    ด้วยองค์เหล็กชุดนี้ท่านทำมาให้ใช้แทนแก้ววิเศษชั้นสูงจึงควรบูชาในที่สูงแต่พ่ออาจารย์ท่านอนุโลมด้วยจะทำให้ใช้ติดกายถ้าต้องใส่พานยกย่องบูชาจะอาราธนาทีย่อมลำบากเช่นนั้นองค์เหล็กชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงนำมาหล่อเลี้ยงในน้ำมันมหาพฤกษาวิญญาณ อันเป็นน้ำมันที่พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจัดสร้างด้วยเหตุผลใหญ่ๆสี่ประการ ท่านว่าน้ำมันนี้ไม่ใช่แต่เพียงน้ำมันเสน่ห์เท่านั้นก่อนที่จะเป็นเสน่ห์นั้นยังใช้ด้านอื่นได้อีกด้วยซึ่งท่านว่าน้ำมันของท่านนั้นใช้ได้ในด้านต่างๆดังนี้
    - เป็นน้ำมันเร่งรวย เร่งโชคลาภวาสนา ท่านว่าตรงนี้ถ้าเอาขวดน้ำมันมาเจิมหน้าผากเจิมฝ่ามือตัวเองจะเปิดดวงรับทรัพย์แบบไม่คาดคิดมาก่อน..ที่ไม่เคยมีก็จะมีไม่เคยได้ก็จะได้
    - เป็นน้ำมันแก้เสนียด ท่านว่าปกติให้ดีดใส่น้ำซักหยด(แต่หนนี้เพียงอาราธนาองค์พระแช่น้ำ)นำน้ำนั้นมาอาบชำระร่างกาย เสนียดประการใดที่เกิดจากอาถรรพ์ในทุกอวัยวะของร่างกายจะถูกขับล้างไป
    - เป็นน้ำมันพลิกดวง ท่านว่าทำไว้ให้แก้ดวง เวลาดวงใครชงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกใช้ขวดน้ำมันนี้เจิมหน้าตาได้จะไม่ทุกข์หมองหรือเจอพระเคราะห์เล่นงานแต่อย่างใด ท่านลงสูตรมหานารายณ์พลิกแผ่นดินบทใหญ่เต็มสูตรซึ่งท่านไม่เคยลงที่ใดกำกับไว้พร้อมทั้งผสมน้ำมันกะลาอาถรรพ์ด้วยทั้งกะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา
    - เป็นน้ำมันเสน่ห์ ท่านว่าสารพัดจะใช้พกไว้เป็นเมตตามหานิยมใหญ่ เจิมปากวนรอบริมฝีปากนี่ท่านว่าพูดอะไรเขาก็เชื่อเราหมดดีกว่าลงมหานิยมหรือสาลิกาลิ้นทองเสียร้อยที่ ถ้ท่านว่าน้ำมันของท่านนี้ไม่ใช่น้ำมันพรายไม่มีอันตรายอันใดแอบแฝงทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ด้วยแรงครูทั้งสิ้น

    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าการนำเหล็กทิพย์มาเลี้ยงน้ำมันนี้เป็นกฤติยาคมแฝดว่าเหล็กอิ่มเราก็อิ่ม..ต่อไปจะได้เสวยสุขอิ่มทิพย์ไม่มีอด ทั้งยังไม่ต้องเสียเวลามาคอยบูชาอะไรที่จุกจิกหลายๆอย่าง เอาว่าน้ำมันนี้หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณองค์เหล็กแล้วสบายใจได้ทุกอย่าง ที่อด ที่ไม่มี ที่ลำบากจะไม่พบเห็นอีกเลย

    ไม่เพียงเท่านั้นในขวดน้ำมันที่หล่อเลี้ยงองค์เหล็กพ่ออาจารย์ท่านยังได้ทำวิชาลงตะกรุดผูกไว้ด้วยเป็นตะกรุดดอกครูชุดสำคัญของท่านที่ต้องลงบีบอักขระผูกไว้
    - ตะกรุดกลับชีวิต ท่านว่าท่านนำนะสำคัญต่างๆ 9 นะ ท่านเรียกว่ามหากลับของพระเถระสำคัญต่างๆทั้ง 9 องค์มาลงไว้ในตะกรุดดอกเดียวได้แก่ สังฆราชสุก,ขรัวโต,หลวงพ่อเงิน,หลวงพ่อกลั่น,หลวงพ่อเดิม,หลวงปู่ศุข,หลวงพ่อแก้ว,หลวงพ่อปาน,หลวงพ่อทบ ท่านว่านะมหากลับทั้ง 9 วิชานี้ลำพังแต่ละวิชาก็ได้ชื่อว่าเอกอุแล้ว เป็นตะกรุดที่ทำยากมากเพราะกว่าจะว่าคาถาลงจารให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้และเรียกสูตรตรึงวิชาเอาไว้ กว่าจะสำเร็จเป็นตะกรุดกลับชีวิตนั้นท่านว่าดอกนึงไม่ง่ายเลยเห็นดอกเล็กๆแต่ทำยากน่าดู ตะกรุดนี้ท่านว่าตรงตามชื่อเมื่อใช้เพียงแค่นึกถึงบูรพาจารย์ทั้งหลายท่านว่าง่ายๆแค่นั้นรับรองว่าชีวิตเปลี่ยน ตะกรุดนี้ท่านว่าพกไว้ได้เดือนนึงก็ดีเดือนนึง..พกไว้ได้ปีนึงก็ดีปีนึง..พกไว้ได้ตลอดชีวิตก็ดีขึ้นตลอดไปมีแต่ดีกับดีห้ามหายอย่างเดียวเท่านั้น

    คาถาบูชา
    นะมามีมามะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา มะณีวา ธะนังวา พีชังวา อัตถังวา ปัตถังวา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมีมา นะมามิหัง

    *** รายการนี้เป็นเครื่องมงคลชุดพิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านว่าผงแต่ละอย่างนั้นทำยากทั้งองค์เหล็กก็มีกายสิทธิ์ที่ใช้สื่อจิตของเราได้ทันทีที่นึกถึงกัน เพราะมีคุณอนันต์เช่นนั้นผู้ที่จะรับก็ต้องมีชะตาสอดรับกับมหาธาตุอันมีแรงครูสูงเชนนกัน..นั่นคือมีวาสนาที่องค์เหล็กจะได้ตอบสนองในสิ่งที่ต้องประสงค์และไม่พึงประสงค์ พ่ออาจารย์ท่านว่า " พระซุ้มกอชุดพิเศษนี้อยู่เหนือการควบคุมแห่งกรรมลิขิตนะข้างบนเขาบอกมาแบบนี้ฉันพูดได้เท่านี้ " ผู้ที่จะเป็นเจ้าของได้จำเป็นต้องเป็นผู้ถูกเลือกโดยครูเบื้องบนเท่านั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสทบทุนการึกษษเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ซุ้มกอก่อเหตุ,สนอง,ต้องประสงค์(ยอดเหล็กทิพย์แก้วมณีเลี้ยงน้ำมัน) บูชา 2,500 บาท



     
  2. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  3. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์รอดอภินิหาริย์ (พระปัจเจกทรงน้ำเต้า)

    " เหรียญโปรดสัตว์น่ะ ..ก็เอาไว้ใช้ยามที่ชีวิตหาทางรอดไม่เจอ ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนนั่นแหละ ใครที่รู้ตัวว่า..ทำอะไรแล้วไปไม่รอด เอาเหรียญรอดอภินิหาริย์ติดตัวไว้จะรอดจริงๆสมชื่อ อย่าห่างจากคอนะ "
    ด้วยหวังอานิสงค์เฉพาะทางเพื่อสงเคราะห์สัตว์ที่เดือดร้อน ประสบทุกข์เข็ญ อดอยาก มีความเป็นอยู่ที่ยากแค้นผิดจากครรลองที่ควรจะเป็นแม้กุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ก็หามีอำนาจที่จะหยุดรั้งบาปกรรมที่ตามติดได้ ด้วยว่าพระพุทธานุภาพแห่งเหรียญโปรดสัตว์นี้จะยังให้สัตว์ทั้งหลายที่มีความทุกข์ร้อนอันเกิดขึ้นแล้วในประการต่างๆได้รอดพ้นจากโทษทรมาน พ่ออาจารย์ท่านจึงทำเหรียญโปรดสัตว์ที่มีอานุภาพเฉพาะทางเพื่อใช้ปลดปล่อยเคราะห์กรรม..บรรเทาทุกข์โทษภัย.. แลชำระกฏแห่งกรรมขึ้นมา ...จากการณ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้พิจารณาเพื่อขอนิมิตจากครูบาอาจารย์ด้วยว่าจะกระทำรูปเหรียญโปรดสัตว์นั้นเป็นพิมพ์พระพุทธปฏิมาเช่นใดจึงมีกฤติยาคมแฝดใช้ปลดพันธนาการแรงกรรมหนักๆแบบรุนแรงมากๆได้โดยเฉพาะและจะมีอำนาจสงเคราะห์ช่วยเหลือสัตว์ให้เหมาะสมแก่กาลและยุคสมัย ซึ่งก็ได้รับนิมิตให้ทำเหรียญ "พระปัจเจกทรงน้ำเต้า"

    เพื่อจะให้เหรียญโปรดสัตว์ใช้โปรดชีวิตได้จริงทั้งยังมีอานุภาพมากล้นพ้นประมาณเกินกว่าเหรียญใดๆพ่ออาจารย์ท่านจึงพิจารณาและท่านก็รู้ว่าว่างานนี้ยากและตึงมือเสียมากเพราะเป็นพระใช้กับกรรมเฉพาะทางของแต่ละบุคคลซึ่งแต่ละคนก็มีเหตุแห่งเคราะห์ภัยต่างกันไป ท่านจึงตั้งใจจะขอบารมีครูอาจารย์เข้าช่วยเพื่อสร้างรูปพระปัจเจกนี้ให้เป็นสิ่งสักการะเฉพาะทางทั้งใช้โปรดสัตว์ได้จริงพร้อมกันไปกับพุทธคุณที่จะรับ,ผลัก,ต้าน,ดันทุกข์โศกเคราะห์ภัยได้ทุกรูปแบบ ..เพื่อให้รอดสิ่งอันไม่พึงประสงค์ดุจปาฏิหาริย์ สำหรับเหรียญโปรดสัตว์นั้นท่านว่าจะใช้วิชาธรรมดาย่อมไม่สามารถทำได้เพราะจุดประสงค์การนำไปใช้นั้นมันเหนือมันพ้นความสามารถของมนุษย์แม้จะเป็นบูรพาจารย์ในอดีตก็ตาม เช่นนั้นจึงจำจะต้องใช้วิชาที่สำเร็จด้วยพระปัจเจกโพธิเจ้า พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ใช้ความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่งยวดเพื่อลงถมชนวนโลหะและลบถมผงอาถรรพ์สำคัญขึ้นมาตามวิชาต้องห้ามที่สำเร็จด้วยพุทธคุณอันทำได้ยากทั้งหมดนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์นั้นท่านพิถีพิถันตั้งแต่ทำมวลสารเฉพาะเจาะจงใช้พุทธคุณผสานอาถรรพ์วิชามหาลาภมาผลักดัน,เกื้อหนุน,เปลี่ยนชีวิตคนใช้ดุจตาเห็น อันเป็นวิชาเฉพาะทางเท่านั้นเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ให้สัตว์เคลื่อนเลื่อนหนีออกจากทุกข์ ถึงซึ่งสุขสมควรแต่อัตภาพที่ควรจะเป็นพร้อมทั้งเจริญรุ่งเรืองไม่หยุดยิ่งๆขึ้นไป ท่านได้พิจารณาถึงสภาวะของมนุษย์โดยรวมก่อนว่าจะทำพระให้เขารอดพ้นจากทุกข์ภัยเท่านั้นมันคงไม่พอ นอกจากจะรอดแล้วยังต้องรวยไปพร้อมกันทั้งต้านกระแสกรรมหนักได้ด้วย ไม่เช่นนั้นพระก็ไม่สามารถส่งผลอะไรได้มากเนื่องจากสัตว์โลกยังอยู่ในกฏของกรรม..เช่นนั้นเหรียญจึงมีคุณให้ผู้บูชารอดทุกข์อย่างอภินิหาริย์สมดั่งชื่อมีบารมีมากใช้เปิดโลก,เปิดไตรภูมิ,เปิดทาง,เบิกฟ้าเบิกดิน,เปิดขุมทรัพย์เบิกทรัพย์สินให้ถาวรโดยแท้จริง

    รอดอภินิหาริย์ ...ด้วยพ่ออาจารย์นั้นปรารถนาที่จะสร้างเครื่องมงคลอันมีกฤติยาคมช่วยคลี่คลายปัญหาชีวิตให้รอดจากภัยพิบัติ ..ให้รอดจากชีวิตอันไม่พึงประสงค์ ..ให้รอดจากความไปไม่รอดไปไม่ถึงทั้งหลายนั้น แต่ของบางอย่างถึงได้อภิญญาสมาบัติก็จริงแม้จะทำไว้ให้เป็นสาธารณะก็ใช่ว่าจะทำได้แต่ถ้าจะทำให้ใช้ได้จริงตามความปรารถนาของเรานั้นมันย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง *** ด้วยเหรียญรอดอภินิหาริย์นั้นจะไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและกฎของกรรม เครื่องมงคลแบบนี้ใช่ว่านึกจะทำก็ทำได้เพราะไม่มีตำราที่ไหนไม่มีใครสอนไม่มีใครกำหนดวิชาที่จะทำพระให้คนใช้รอดทุกข์จริงๆได้นอกจากให้พระท่านมาสั่งเอง..ทำเองซึ่งท่านเมตตาตรงนี้และทำให้เอง ดังนั้นปฐมเหตุของพระพิมพ์สำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าพระเจ้าโปรดสัตว์รอดอภินิหาริย์เพื่อให้คนมีชีวิตที่รอดได้อย่างปาฏิหาริย์จึงเกิดขึ้น เพื่อให้รอดพบทางออกของชีวิตได้ตลอดเวลา ให้ทันยุคทันสมัยปรับเข้ากับสถานการณ์เลวร้ายของแต่ละคนได้อย่างพอดิบพอดี พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้องค์พระในนิพพานท่านคุมพิธีกันเองจะใช้ยันต์อะไรหล่อจากอะไรจะต้องลงอะไรเราไม่ต้องคิดท่านกำหนดของท่านเองลงมาทีละอย่างๆ เพื่อจะทำเหรียญที่ใช้โปรดสัตว์คลายทุกข์บรรเทาความเดือดร้อนได้จริงให้คนที่เขาแขวนคอไว้ต้องรอดพ้นทุกวิกฤติจริงๆย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย แม้คนที่ชะตาขาดชีวิตเจอวิกฤติต้องการพลิกกลับชะตาตนให้กลับร้ายกลายดีทั้งคนที่รู้ตัวว่าทำอะไรแล้วไปไม่รอดท่านว่านั่นแหละมาเอาไปใช้เสียจะได้รอดพ้นภัยพิบัติในชีวิต ต่อไปเหรียญโปรดสัตว์นี้จะช่วยเธอเอาไว้อีกมาก..หลายเรื่อง คนที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครก็ให้พึ่งพระโปรดสัตว์นี่แหละ ในยามที่ชีวิตคับขันหาทางออกไม่เจอจะต้องรอดเพราะครูท่านช่วยกันทำไว้ให้หมดแล้วไม่มีวันเสื่อม

    วิชาน้ำเต้า(พระปัจเจกทรงน้ำเต้า)
    เหรียญโปรดสัตว์นั้นเบื้องบนทำให้อย่างเต็มที่จะเผลอไปปรามาสไม่ได้เลยทั้งองค์พระท่านยังกำหนดพิมพ์ให้ทำรูปพระปัจเจกทรงน้ำเต้าไว้เป็นพิเศษอีกด้วย

    ...แต่เดิมนั้นวิชาทำน้ำเต้าได้รับความนิยมตกทอดกันมายาวนาน หากจะหาต้นสายหรือใครที่ทำได้ดังและมีชื่อเสียงที่สุดนั่นย่อมต้องเป็นพระสังวราชุ่มวัดพลับที่ทำน้ำเต้ากันไฟขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย โดยท่านได้วิชานี้มาขณะออกเดินธุดงค์และได้พบศาลาพักร้อนกลางป่าหลังหนึ่งถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมดแต่ตัวศาลากับไม่ได้รับความเสียหายเป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อท่านสำรวจจึงพบว่าบริเวณอกไก่มีน้ำเต้าแขวนไว้ลูกหนึ่งพอเทออกดูก็พบคาถากันไฟบทหนึ่งบรรจุอยู่ภายใน.....เมื่อประจักษ์ในอภินิหารดังกล่าวท่านจึงได้สร้างน้ำเต้าขนาดเล็กบรรจุคาถาแจกจ่ายแก่ศิษย์ยานุศิษย์จนมีชื่อเสียงถึงทุกวันนี้ ดังนั้นวิชาทำน้ำเต้าจึงนิยมกันสืบมา แต่ทว่าก็มีหลายอาจารย์ได้สร้างขึ้นให้น้ำเต้านั้นมีอานุภาพแตกต่างกันออกไปไม่ใช่ดีทางด้านกันไฟแบบเดียวมีทั้งใช้กันไฟกันปืนแคล้วคลาดหรือทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองตามความถนัดของผู้สร้างนั้นๆ

    น้ำเต้าหรือ “หูหลู” ในภาษาจีน มีความเชื่อถือต่อเนื่องกันมาโดยนับถือเป็นหนึ่งในของวิเศษของเซียน ซึ่งภายหลังคณาจารย์จีนนิยมเอามาทำเป็นเครื่องรางมงคลและแขวนไว้ตามบ้านเรือนเพื่อขับไล่สิ่งชัวร้ายไล่สิ่งอัปมงคล คนจีนที่นับถือลัทธิเต๋าเชื่อว่าน้ำเต้าเป็นของวิเศษของเซียนที่มีศักดิ์ใหญ่หลายองค์ไม่ว่าจะเป็นทิก้วยลี้หนึ่งในแปดเซียนหรือไท่ซ่างเหล่ากุงผู้ปรุงยาในสรวงสวรรค์ดังนี้ ความวิเศษของน้ำเต้าเซียนนั้นนอกจากจะเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์มงคลแล้ ภายในน้ำเต้าเซียนยังเชื่อว่าบรรจุน้ำทิพย์แห่งความเป็นอมตะไว้ ดังนั้นการแขวนน้ำเต้าจึงทำไปเพื่อเป็นการเก็บกักเคราะห์ภัยร้ายไว้ภายในไม่ให้มาเยือนสถานที่หรือผู้พกพา ทั้งยังใช้น้ำเต้าวิเศษนั้นดูดหรือกักขังมารปีศาจไว้ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการแขวนน้ำเต้าไว้จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงไร้โรคภัยอีกด้วย ซึ่งชาวจีนเชื่อกันว่าน้ำเต้าเป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคลความมั่งคั่งร่ำรวยเพราะมีรูปลักษณะคล้ายเลขแปดอันหมายถึงความร่ำรวยที่ไม่สิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพลังงานที่ไม่สิ้นสุดหรือการมาถึงของวาสนาแบบอินฟินิตี้จึงถือว่าเป็นสิริมงคลเพราะจะได้ใช้แก้เคล็ดคนที่วาสนายังมาไม่ถึงเหล่านั้น ทั้งยังจะได้ทำเครื่องรางเกี่ยวทรัพย์บันดาลโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองทั้งหลายในรูปน้ำเต้านี้ ด้วยน้ำเต้าของท่านนั้นจะคอยดูดซับพลังงานที่ดี..ดูดทรัพย์สินเงินทองนำพาให้เกิดโชคลาภแก่ผู้บูชาทำให้มีผลด้านโชคลาภอย่างมาก ทั้งยังจะคอยเก็บกักความชั่วร้ายเอาไว้ไม่ให้เข้ามาเยือนในชีวิตได้ เช่นนั้นท่านจึงได้สร้างพระปัจเจกทรงน้ำเต้าขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หลักคือ...นอกจากรอดทุกข์ได้อย่างอภินิหาริย์ยังต้องใช้ตั้งเนื้อตั้งตัวได้

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวย้ำว่าวิชาน้ำเต้านั้นถ้าทำให้ละเอียดและมีอิทธิคุณสูงสุดแล้วจะมีอานุภาพสูงมากกว่าพวกเบี้ยแก้นับหมื่นนับแสนเท่า เพราะน้ำเต้าทิพย์นั้นจะเป็นของวิเศษที่มีหน้าที่ในตัวเองนั่นคือการใช้เขาเพื่อดลบันดาลความสุขให้แก่มนุษย์ โดยมหาศาสตร์ของวิชาทำน้ำเต้านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าภายในจะต้องมีความสุขห้าประการของมนุษย์อุปมาดุจค้างคาวห้าตัวเช่นนั้น ทั้งยังมีอานุภาพเฉพาะทางเป็นพลังซึ่งใช้สลายและป้องกันสิ่งไม่ดีตลอดจนฟื้นฟูสุขภาพที่ทรุดโทรมให้กับผู้พกพาด้วย แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดเลยนั่นก็คือใช้กักเก็บเงินทองดั่งน้ำเต้าทิพย์นี้ต้องมีกำลังของธาตุทอง ดังนั้นเมื่อสร้างพ่ออาจารย์ท่านจึงต้องรีดทองคำหนักหนึ่งบาทเป็นฉนวนลงจารยันต์โภคทรัพย์ในเบื้องต้นหล่อหลอมลงไปด้วยเพื่อเอากำลังของธาตุทองที่จะไปช่วยสลายถ่ายเทพลังร้าย ช่วยขับไล่สลายโรคภัยไข้เจ็บและความมืดมนชั่วร้ายให้พ้นไปจากชีวิตผู้พกพา ทั้งอานุภาพธาตุทองที่เสริมกับยันต์โภคทรัพย์จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ถือเปี่ยมด้วยโชคลาภวาสนา และบรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง ยิ่งมีพลังความชั่วร้ายหรือโรคภัยมากเท่าไหร่ ยิ่งดวงซวยหรือตกต่ำมากเท่าไหร่ น้ำเต้านั้นก็จะดูดและแปรเปลี่ยนพลังงานนั้นกลับมาฟื้นฟูตัวเราได้มากขึ้นเป็นเงาตามตัวมากเท่านั้น จะเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีเป็นทรัพย์สินสิริมงคลเช่นนั้น เพื่อเปลี่ยนถ่ายพลังงานให้มีแต่สิ่งที่ดีเข้ามาหาตลอดเวลา ทั้งเสริมดวงแก้อาถรรพ์เพิ่มความเป็นสิริมงคลปราบสิ่งชั่วร้ายด้วยคติที่ว่าน้ำเต้าเป็นผลไม้ที่อยู่ในดินเมื่อเอาเมล็ดฝังดินแล้วโผล่จากดินขึ้นมาอยู่ด้านบนเพราะน้ำเต้าเป็นธาตุทองพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดว่าดินที่ต่ำที่สุดกลับให้กำเนิดทองที่อยู่สูงที่สุดได้(ดินให้กำเนิดทอง)ดังนั้นเครื่องรางน้ำเต้านี้ท่านจึงตั้งใจทำเพื่อแก้วาสนาคนที่อยู่ต่ำที่สุดดุจดั่งเม็ดน้ำเต้าที่โดนฝังดินไว้นั่นเอง

    ด้วยศาสตร์การสร้างน้ำเต้าที่ให้คุณด้านต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านจึงทำน้ำเต้าที่เป็นเอกลักษณ์สองมหาศาสตร์ควบคู่กัน หนึ่งก็คือใช้พระยันต์กันไฟ,กันฟ้า,กันเคราะห์,กันกระทำย่ำยีมาหลอมหล่อกับชนวนทองคำหนักหนึ่งบาทที่ลงยันต์โภคทรัพย์ดังกล่าวข้างต้นเทออกมาเป็นองค์น้ำเต้าแล้วจึงเสกตามวิชาลงน้ำเต้าของท่าน เมื่อสำเร็จดีแล้วท่านจึงเชิญโพธิสัตว์และเซียนฝ่ายมหายานตลอดจนลัทธิเต๋ามาช่วยสำเร็จน้ำเต้านี้ซึ่งท่านตั้งใจทำให้เป็นของวิเศษที่ให้คุณมหาศาลกับผู้พกพาเพราะน้ำเต้านั้นเป็นของสูงเมื่อเสกสำเร็จพ่ออาจารย์ท่านว่าคติคนจีนนั้นเขาเชื่อว่าในน้ำเต้าจะมีสุราเซียนหมื่นปีซึ่งเป็นยาอายุวัฒนะถ้าบ้านเราก็ต้องเรียกว่าน้ำอมฤตนั่นเองดังนั้นน้ำเต้าทิพย์นี้ผู้บูชานอกจากจะอายุยืนสุขภาพแข็งแรงแล้ว ในทางกลับกันยังใช้ปราบปีศาจดูดสิ่งชั่วร้ายเข้ามาสลายด้วยอานุภาพน้ำทิพย์ในน้ำเต้าเช่นนั้นเรียกได้ว่าน้ำเต้าจะดูดสิ่งชั่วร้ายแล้วแปรเปลี่ยนเป็นสิริมงคลให้กับเรานั่นเองเพราะคติที่ในน้ำเต้ามีน้ำอมฤตสามารถนำมาใช้ชุบชีวิตคนตายให้กลับฟื้นคืนชีพได้ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาว่าชีวิตของใครที่โดนปัญหารุมเร้าหนักๆ หรือคนที่มีชีวิตดุจคนตายแม้จะแก้ไขได้ยากแล้ว หากได้น้ำเต้าทิพย์ไปเขาก็จะต้องฟื้นได้ฉับพลันทันทีดุจมีชีวิตด้วยน้ำอมฤตเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเสกกำกับเชิญครูมาลงไว้เป็นขั้นเป็นตอนเพื่อให้มีอานุภาพดุจน้ำเต้าทิพย์ดังนี้ถ้วนทุกประการ

    เมื่อได้องค์น้ำเต้าทิพย์แล้วเพื่อให้คนใช้เอาไปตั้งตัวได้ไวๆท่านจะต้องนำมาสำเร็จด้วยธาตุน้ำเพื่อให้เขาอยู่เย็นเป็นสุขทำมาค้าขายดีทำอะไรก็ดีมีความชุ่มเย็นเหมือนธาตุน้ำ กันไฟได้ทั้งยังดับความร้อนรุ่มในใจทำให้ผู้บูชามีสติมากขึ้นใจเย็นขึ้นเรียกว่าประคองตนให้เป็นคนดีได้ แล้วน้ำเต้านี้เมื่อหนุนด้วยกำลังธาตุน้ำแล้วเวลานำไปใช้จะได้เกิดประสบการณ์ในด้านโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองค้าขายดีมีกำไรด้วยน้ำเต้านั้นจะดึงดูดทรัพย์ถ้าเขาจะพกไปค้าขายหรือไปหาลาภสักการะก็จะได้สมความปรารถนาพ่ออาจารย์ท่านเสกให้มีไว้ดูดเงินดูดทอง นอกจากนี้ยังมีอิทธิคุณในด้านหนุนดวงให้ดีขึ้นหนุนให้มีโชคลาภหนุนให้มีความเจริญรุ่งเรืองหนุนให้การค้าดีทุกด้าน ทั้งเป็นเมตตามหานิยมกันภัยให้โชคลาภเสริมดวงปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่างๆโดยน้ำเต้าทิพย์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากพกเอาคุณวิเศษแล้วยังสามารถใช้ปกป้องภัยอันตรายต่างๆโดยเฉพาะกันคุณไสยกันสิ่งอัปมงคลลมเพลมพัดมนต์ดำคาถาได้เป็นอย่างดี เพราะเขาจะขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงให้ไกลห่างจากเราไปทั้งใช้เสริมดวงเสริมบารมีกันดวงตกดวงแตกก็ได้เพราะพ่ออาจารย์ท่านลงไว้ครบทั้งกันไฟกันฟ้ากันเคราะห์กันกระทำย่ำยี
    ...นี่แหละต้องทำน้ำเต้าแบบนี้เป็นชนวนก่อนนำไปเทผสมมวลสารเหรียญพระปัจเจกทรงน้ำเต้า ด้วยน้ำเต้านั้นนับเป็นไม้มงคลที่มักจะออกลูกตลอดจนกว่าจะแก่ตายซึ่งมีความหมายอุปมาถึงชีวิตคนพกพาว่าจะมีดอกหรือออกผลได้กำไรได้โชคลาภ ดั่งวาสนาทรัพย์สินเงินทองต้องเพิ่มพูลงอกเงยขึ้นเท่านั้น เงินทองจะไหลมาเทมาไปตลอดชีวิตจนสิ้นใจจากภูมิมนุษย์นี้ไปและเพื่อสิริมงคลเช่นนั้นท่านจึงให้พกน้ำเต้าทิพย์นี้ไว้กับตัวเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ออกไปทั้งยังคุ้มภัย และที่สำคัญคือพลังในการดูดทรัพย์สินเงินทองและความโชคดีมาให้กับผู้ครอบครองนั่นเอง ด้วยน้ำเต้าจะค้ำคูณแม้แสวงโชคก็จะได้สมใจ ทั้งคนที่เก็บเงินไม่อยู่ก็จะแก้อาถรรพ์ให้เก็บเงินเก็บทองได้ดี อีกประการหนึ่งน้ำเต้าทิพย์นี้จะกระตุ้นให้วาสนาผู้พกเปิดรับโชคลาภทั้งยังดูดทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา เสริมส่งให้การงานการค้าเจริญรุ่งเรืองปราศจากอุปสรรคเคราะห์ภัย ทั้งอำนวยให้มีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวครบถ้วนจะมีดอกออกผลทรัพย์สมบัติงอกเงยเช่นนั้น ท่านว่าเอาว่าบูชาไว้เพื่อดูดทรัพย์ดีมากเช่นนี้พระข้างบนท่านจึงกำหนดพิมพ์ให้สร้างพระปัจเจกทรงน้ำเต้าเพราะน้ำเต้าทิพย์ใช้ได้ทั้งปราบปรามและทำลายล้างทั้งยังสร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ไปพร้อมๆกัน เพราะเขามีอานุภาพการดึงดูด..การย่อยสลาย..การสร้างเสริมถ่ายเทพลังงานเข้าสู่วาสนาคนพกพาเป็นของตัวเขาเอง

    รอดแล้ว..ต้องรวย
    พ่ออาจารย์ท่านเทองค์พระด้วยชนวนน้ำเต้าผสมกับยันต์ดวงประสูติ,ดวงตรัสรู้,ยันต์ไจยะเบงชรพิศดาร,ยันต์ไจยะเบงชรตัวย่อ,ยันต์ฟ้าฟีก...ยันต์ดวงตำรับเสด็จพระใหญ่ทั้งร้อยแปดดวงและวิชาสำคัญต่างๆ
    - กำเนิดทรัพย์ ท่านว่าวิชานี้ปกติจะใช้เรียกความมั่งคั่งเปลี่ยนคนธรรมดาแม้จะเป็นขอทานยากไร้หากรู้จักทำกินยังกลายเป็นเศรษฐีมหาศาลได้ จะทำให้เกิดลาภสักการะมากมายไม่มีวันรู้สูญรู้สิ้น แม้คนที่เคยดวงตกหรือทำมาหากินไม่ขึ้นลงทุนแล้วขาดทุนหมดเดือนชนเดือนไม่เห็นกำไรเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนพลิกกลับให้วาสนาเงินทองหลั่งไหลทำอะไรก็เห็นกำไรสำเร็จโดยง่าย วิชานี้คือกำเนิดทรัพย์พ่ออาจารย์ท่านว่าพอทรัพย์กำเนิดทุกสิ่งก็จะเกิดขึ้นตามคนที่มีหนี้จะหมดหนี้,คนโสดจะได้คู่,คนที่อยู่ใต้บัญชาผู้อื่นเจ้านายก็จะรักเมตตา,คนที่แสวงหาลาภจะได้ลาภ,คนที่ไร้ยศจะได้ยศ,คนที่ไร้ตำแหน่งจะได้เลื่อนตำแหน่ง ท่านว่ามันกำเนิดเกิดขึ้นทีละอย่างเป็นวงจรวนไปเช่นนี้
    - หนุนทรัพย์ ท่านว่าหนุนทรัพย์ก็เหมือนหนุนดวงแต่เป็นดวงทางด้านทรัพย์สินเฉพาะเจาะจง เป็นวิชาที่ใช้หนุนทางด้านการเงินโดยเฉพาะ หนุนให้รับโชคก่อนใครให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเงินไม่คล่องตัวหรือการงานไม่ราบรื่นติดขัดเหล่านี้หนุนให้ฝ่าวิกฤติปัญหาต่างๆได้ ท่านว่าหนุนทรัพย์นี้จะชูดวงเราขึ้นเพื่อเรียกลาภโดยเฉพาะแม้คนที่เงินขาดมือก็หนุนให้เต็มมือหยิบจับอะไรก็กลายเป็นเรื่องเงินๆทองๆไปหมดหนุนโอกาสให้เราได้รับไวขึ้น...
    - เปิดทางรวย วิชานี้ท่านว่าอาศัยอำนาจเทวดาเข้าหนุนให้เทวดารักผีสงสารเจ้าที่เจ้าทางเมตตา อยู่ที่ไหนเขาก็เอ็นดูเปิดทางให้เราให้ลาภให้โชคให้มีกินมีใช้ไม่ขาด แม้คนก็เมตตาอุปถัมภ์ค้ำชูเราให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เปิดทางรวยให้เราเห็นช่องทางชี้ทางนำทางเราไปสู่หนทางแห่งความเจริญรุ่งเรือง
    - ข่มศัตรู วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใส่ไว้เพราะคนใช้เจ้าสัวนั้นถ้าไปเจอคนดีคนที่เขาเก่งกว่าเราแล้วโดนเขาข่มมันก็จะแย่ ด้วยการทำมาหากินต้องเอาชนะคู่แข่งได้ปราบศัตรูและสะกดข่มเขาได้เพียงแค่เห็นก็เกรงใจหลีกทางให้เราเห็นเราแล้วก็ไม่อยากสู้ไม่อยากแข่งด้วย ท่านว่าเป็นวิชาสะกดคนให้อยู่ในอำนาจเราจะพูดอะไรเขาก็เชื่อทำตามเราทุกอย่าง ยิ่งใครที่โดนบ่นโดนด่าว่าอยู่บ่อยๆหรือใครที่พูดอะไรแล้วไม่มีคนเชื่อเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แก้ทางกัน พอข่มเขาแล้วทำอะไรไปเขาก็เชื่อเราฟังเรายอมรับเราทั้งสิ้น เปลี่ยนคนที่เคยดุเคยเกลียดเป็นดาวข่มให้อยู่ใต้อำนาจเราเป็นมิตรกับเรา
    - พระเจ้าเบิกทรัพย์ มีคุณทางด้านโชคลาภอย่างถึงที่สุดถึงขนาดที่ว่าคนไม่รู้จักคำว่ามีก็กลับมีกินเหลือเก็บเหลือใช้ได้..ตั้งตัวได้..เจริญรุ่งเรืองได้ แต่ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญที่ว่าต้องเป็นคนดี และหมั่นกระทำกุศลอวยทานเป็นนิจ ท่านว่าเมื่อได้ลาภมาแล้วให้ทำบุญทำทานต่อไปลาภก็จะไหลเพิ่มพูนมาไม่รู้จักหมดเพราะอาศัยการสร้างบารมีของเราเป็นเหตุ เมื่อเรารู้จักให้เราก็จะได้รับสิ่งตอบแทนที่เสมอค่ากันพ่ออาจารย์ท่านว่าในยุคสมัยนี้เราไม่ได้ไปสู้รบปรบมือกับใครด้วยความรุนแรงหรือสงครามแต่เราต้องสู้เค้าด้วยความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจโดยวิชานี้จะเบิกทางให้แก่เราเพื่อให้สำเร็จทั้งภายนอกและภายใน พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระเครื่องทั้งหลายนั้นส่วนใหญ่มักจะเสกวิชาโดยทั่วๆไปเพื่อเน้นพุทธคุณให้โดดเด่นต่างกันในแต่ละด้าน ซึ่งวิชาเหล่านั้นถึงอย่างไรก็เป็นฝ่ายโลกียะยังไม่ใช่วิชาชั้นสูงแต่อย่างใดด้วยยังเกลือกกลั้วไปกับกิเลสความต้องการเป็นรากฐานนั่นเอง เสด็จพระใหญ่ท่านจึงแนะให้ทำวิชาโลกุตรธรรมควบคู่กันไปด้วยจะได้มีอำนาจริดรอนกรรมเป็นขั้นๆไปเรื่อยๆจนเผ่าพันธุ์มันฝ่อลงและยังนำมาซึ่งทรัพย์ขั้นสูงสุด ล้ำค่าทวิทวียิ่งๆขึ้นไปตามแนวทางพระเจ้าเบิกทรัพย์
    - เจ้าสัวเจริญลาภ วิชานี้เป็นวิชาเฉพาะทางโภคสมบัติซึ่งให้ผลตรงตัวพ่ออาจารย์กล่าวว่าวิชานี้นั้นเป็นวิชาทางมหากำเนิดแต่เป็นการเกิดขึ้นของโชคลาภทรัพย์สมบัติจากศูนย์จากไม่มีก็จะเกิดขึ้นจนผู้ครอบครองมั่นคงไม่รู้จักตกต่ำ สิ่งที่มีอยู่แล้วก็จะยิ่งเพิ่มพูนต่อไปเรื่อยๆทั้งจะดึงดูดโชคลาภเข้ามาหาตัวไม่รู้จักเสื่อมถอ และยังทำให้บ้านเรือนสถานที่ทำงานรุ่งโรจน์เมื่อได้อาราธนามีแต่จะเร่งให้ดวงเปิดรับทรัพย์เป็นอเนกอนันต์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ทำยากเพราะต้องลงเบิกทางรับขุมทรัพย์ทั้ง 8 ทิศอันได้แก่มหาทิศทั้ง 4 และอีก 4 ทิศย่อย ท่านว่าแม้ตัวผู้ใช้อยู่จุดใดในโลกในทิศทั้ง 8 นี้เขาก็เป็นดุจแกนกลางที่โชคลาภความเจริญมั่งคั่งจะวิ่งเข้ามาหา ดูดทุกอย่างมาไว้กับตัวเขา,ไม่หนีไปที่อื่น,ไม่วิ่งไปทางอื่น,ไม่ตกไปสู่คนอื่นแม้ใครที่ติดผลกรรมทำอะไรไม่เจริญก็ระงับได้ไม่ต้องกลัวเงียบ
    - ระงับสงสารหนีสงสาร วิชานี้จะเข้าไปหยุดกรรมร้ายไม่ใช่ทำให้เวรกรรมเก่าหายไปเลย หากแต่เพียงระงับไว้หยุดไว้ปรามไว้ซึ่งอำนาจอกุศลกรรมที่เจ้าตัวเคยก่อไม่ให้ส่งผลนี่คือให้โอกาสเร่งสร้างกรรมอันเป็นกุศลขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแค่ระงับไว้เท่านั้นยังหนีอกุศลกรรมนั้นไม่ให้ตามติดตัวเพื่อจะแสดงผลได้ทันด้วย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าวิชาอย่างนี้ใช้สำหรับคนที่วนเวียนในทุกข์เข็ญเสวยผลแห่งทุกขเวทนาอยู่หาความสุขในลาภและทรัพย์สมบัติไม่เจอ ท่านว่าตัวนี้เพียงพอและเกินพอที่จะนำชีวิตของเขาออกจากห้วงแห่งทุกข์ได้ หากแต่ว่าออกแล้วต้องประกอบกุศลกรรมมาชดเชยกันมิเช่นนั้นชาติหน้าไม่ได้เกิดมาพบเจอวิชานี้ก็จะต้องรับกรรมเก่าต่อไป
    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องทยอยลงเก็บไว้ตามที่ท่านสั่งเพราะยันต์แต่ละแบบก็มีวิธีเสกต่างกันไป หล่อหลอมเข้ากับตะกั่วอวนเจ้าสมุทรที่ลงอักขระรับทรัพย์เปิดทางหาทรัพย์ทุกลูก,ตะกั่วลงถมหมื่นยันต์พันคาถาทั้งปรอทและเหล็กไหลช่อทิพย์,เหล็กไหลวัชรธาตุ(เหล็กนิพพาน),หยาดน้ำฟ้าทวาราวดี(มีลักษณะคล้ายปรอทกลิ้งได้แต่เหนือกว่าปรอทมากนักเป็นเหล็กไหลชนิดหนึ่ง)และกายสิทธิ์ธาตุที่เหมาะจะลองรับกระแสญาณของท่านตลอดจนคุณพระได้มากที่สุด ทั้งตอนหลอมแร่ธาตุต่างๆนั้นท่านยังได้ผสมแร่เจ้าน้ำเงินลงไปด้วยเพื่อให้มีอำนาจเหนือเงินตราเป็นราชาแห่งโชคลาภเปิดทางเบิกขุมทรัพย์เงินตราโภคทรัพย์ได้สูงสุด

    ด้านหลังบรรจุผงอิทธิคุณพิเศษประกอบด้วย
    - ผงพระสังข์เรียกเนื้อ ผงนี้ต้องรวมมวลสารต่างๆมาลบผงได้แก่ผงไม้โพธิ์นิพพานแก้อาถรรพ์,ผงไม้ยอ,ผงหัวว่านนางกอดทรัพย์,ผงไม้พญาพรานหลง,ผงว่านเศรษฐีและผงกะลาตาเดียวลงราหูหนุนชะตาที่ให้คุณทางเรียกโชคลาภเสริมโชคหนุนดวงเมตตามหานิยมเสี่ยงโชคนำมาปั้นรวมกันเป็นแท่งผงลงมนต์ลบผงพระสังข์เรียกเนื้อและเสกผงลบนั้นให้มีคุณทางด้านเรียกโชคเรียกลาภให้เข้ามาหาได้เองในชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ท่านว่าผงนี้แม้ไม่คาดคิดว่าจะได้อยู่ดีๆก็ได้ เรียกว่าอยู่เฉยๆโชคลาภก็มาให้เอาถึงที่อยู่เฉยๆโชคลาภก็เข้ามาหาเองเช่นนั้น
    - ผงวิชาพระเจ้าเก้าเศรษฐี เพื่อดึงบารมีมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่านแห่งพุทธกาลมาสู่จุดศูนย์กลางให้เกื้อหนุนผู้บูชาโดยตรงด้วยมหาเศรษฐีทั้ง 9 นั้นได้ชื่อว่าเป็นพระอริยบุคคลอันจะไม่ตกต่ำลงอีก ซึ่งทั้งเก้าท่านได้เคยกระทำมหาบริจาคกระทำทานอย่างมหาศาลมโหฬารใหญ่โตและยังเป็นพระอริยบุคคล ด้วยกุศลเจตนาการบริจาคอันยิ่งใหญ่ของมหาเศรษฐีทั้งเก้านี้เป็นการเสียสละอันกระทำได้ยากนักหนาจะทำเหตุอัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้ ด้วยบุญของทั้ง 9 ท่านค้ำจุนเราอยู่จึงเหมือนดั่งคำพรปกาศิตที่ชีวิตเราจะตกต่ำลงนั้นเป็นไม่มีหามิได้เลย ท่านว่าจะได้ลืมตาอ้าปากสมหวังในการประกอบกิจเป็นเกียรติยศอยู่ในวงการอาชีพของตนเอง ผงนี้เมื่อท่านลงอักขระเสร็จแล้วท่านจึงค่อยๆลบสะสมไว้และได้นำมาปลุกเสกยันต์ต่างๆให้มีชีวิตและอธิษฐานจิตลงไปจนบอกว่าเต็มดีแล้วไม่รู้จะใส่อะไรเพิ่ม ก่อนที่จะอัญเชิญเสด็จพระใหญ่,ครูพระปัจเจกโพธิเจ้าและมหาเศรษฐีทั้งเก้าช่วยกำกับเพิ่มเติมด้วยจะให้ใครทำผงทางโชคลาภก็ไม่เสมอทั้งเก้าท่านนี้ลงมาทำด้วยตัวเองท่านจึงขอบารมีครูมหาเศรษฐีผู้อริยบุคคลทั้งเก้านี้ให้ประสิทธิผงเป็นกรณีพิเศษให้ผู้ครอบครองผงนี้ได้ร่ำรวยเสมือนมหาเศรษฐีพุทธกาลเช่นนั้น
    - ผงพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไห ดังที่ทราบกันว่าพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีบารมีมากแม้พระพุทธองค์ก็ตรัสรับรองไว้ว่า..ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย.. วิชานี้จึงเป็นวิชาเฉพาะที่แทบจะไม่มีใครทำหรือสาบสูญไปแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าคนส่วนใหญ่ที่สร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าขึ้นมามักจะสร้างและเพียงเชิญบารมีหาได้ทำด้วยวิชาของท่านเองซึ่งสืบมาแต่โบราณบูรพาจารย์ ซึ่งวิชานี้หากทำได้แล้วจะให้ผลมากในทางเกื้อหนุนค้ำจุนให้ร่ำรวย มีฐานะ สังคม ชีวิต ดีขึ้นมากกว่าเดิม เป็นวิชาเรียกทรัพย์ บังเกิดทรัพย์อย่างแท้จริงๆ ท่านว่ายิ่งถ้าตกอยู่ในมือของคนที่ใจบุญสุญทานชอบอวยบุญอวยทาน หมั่นสร้างบารมีโดยเฉพาะทานบารมี หรือจะเป็นตักบาตรพระก็ได้ท่านว่านี่พระปัจเจกท่านชอบท่านโปรดนัก ถ้ามีผงวิชาธรรมพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไหนี่อยู่กับตัวจะยิ่งเสริมส่งให้ดี ให้ไว ให้สำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก ท่านว่าถ้าให้ทานเป็น มีจิตใจที่เสียสละแก่ส่วนรวมแล้วถือครองพระปัจเจกโพธิเจ้าเก้าไหนี้ท่านว่ายิ่งกว่าคำว่าชีวิตสะดวกสบาย วิชานี้ท่านว่ายากที่จะสร้าง ผู้ที่จะทำได้ขลังนั้นจะต้องเข้าถึงแก่นแท้ของธรรมและมีวาระกรรมจำเพาะพิเศษตามที่บูรพาจารย์กำหนดไว้ซ้ำต้องมีญาณเชื่อมถึงคณะพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วย จึงเป็นเรื่องยากที่จะสร้างออกมาเสียหนหนึ่ง
    - คำข้าวพระอรหันต์ สิ่งนี้เป็นของส่วนตัวของท่าน โดยท่านได้รับเมตตามาจากหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพลผู้เป็นพระอรหันต์แห่งยุคองค์หนึ่งได้คายคำข้าวใส่มือท่าน ดุจจะรู้ว่ากาลในอนาคตนั้นท่านจะได้นำมาใช้ประโยชน์ช่วยเหลือผู้คน ซ้ำยังได้มอบคำข้าวขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ท่านรักษาไว้มาให้พ่ออาจารย์อีกด้วย แค่คำข้าวที่พะอรหัต์คายออกมาเหล่านี้ ก็ล้วนเชื่อได้เลยว่าองค์พระรุ่นนี้จะต้องมีลาภผลมากแน่นอน พ่ออาจารย์ท่านว่าใครมีไว้ดุจมีสมบัติทิพย์นับล้านโกฏิอยู่กับตัว
    - ผงเจดีย์ร้อยยอด พ่ออาจารย์ท่านทำพิธีพลีกรรมขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวบรวมผงสถูปเจดีย์โบราณต่างๆที่แตกหักมีอายุนับร้อยนับพันปีให้ครบ 100 องค์ ซึ่งท่านใช้เวลาหลายปีเพื่อรวบรวมโดยเดินทางไปทั้งทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคอีสาน ประกอบพิธีพลีขอกลับมาประกอบเป็นมวลสาร ด้วยท่านว่าแต่โบราณกาลนั้น พระเจดีย์คือสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา มีพระเจดีย์ที่ไหนแปลว่าพระศาสนาเข้าถึงที่นั้น ซ้ำองค์เจดีย์นั้นจะได้รับการบำรุงรักษาเคารพกราบไหว้อย่างดี เปรียบดั่งพระวรกายแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยว่าในพระเจดีย์เหล่านั้นล้วนประดิษฐานซึ่งพระบรมสารีนิกธาตุของพระองค์ เมื่อรวบรวมมวลสารได้ครบเเละมาประกอบขึ้นเป็นผงเจดีย์ 100 ยอด ท่านว่าจะมีอานิสงค์ให้ผู้บูชานั้นเป็นศูนย์รวมของความเจริญ อยู่ที่ไหนที่นั่นก็เจริญ เดินทางไปไหนก็ได้ดีตรงนั้น ซ้ำยังเป็นยอดคน ทำอะไรก็ดีไปกว่าคนอื่นเค้าหมด
    - ผงพิชัยสมบัติ ท่านว่านี่ของสำคัญทรัพย์แผ่นดินมีมากเพียงใด ทรัพย์พระคลังมีมากอย่างไร ทรัพย์ของพระเจ้าจักรพรรดิ์เป็นอย่างไร วิชาพิชัยสมบัติก็มีมากเสมอกันเรียกว่าเป็นวิชาที่ช่วยให้คนมีทรัพย์มากได้รับความสุขสบายดุจพระเจ้าจักรพรรดิ์ก็ไม่ผิด ท่านว่าวิชาเช่นนี้จึงนำมาทำเล่นๆไม่ได้ใช้ได้เพียงในวาระในโอกาศสร้างพระสำคัญเท่านั้น พิชัยสมบัติคือมีชัยชนะในสมบัติ ท่านว่าคนที่ชีวิตไม่เคยชนะ,ดวงไปล่มไปตกผิดที่ผิดทาง,ทรัพย์ไม่มีติดมือเรียกว่าหาทรัพย์ไม่ได้เก็บทรัพย์ไม่อยู่แพ้หมดรูป ท่านว่าเอาให้ย่ำแย่ถึงปานนั้นก็ยังได้ดีเปลี่ยนชีวิตพลิกคืนมาได้ เพราะพิชัยสมบัติคือมีชัยชนะเหนือทรัพย์สมบัติทั้งปวง,เหนือทรัพย์พระคลัง,เหนือทรัพย์แผ่นดิน,เหนือทรัพย์พระเจ้าจักรพรรดิ์วิชานี้ทรงคุณถึงเพียงนั้น
    - ผงพระเจ้าค้าคำ วิชานี้พ่ออาจารย์กล่าวว่าเป็นยอดของวิชาชั้นสูงทางมหาบังเกิด,ทางทรัพย์สิน,ทางความร่ำรวยอย่างแท้จริง ด้วยอาศัยเหตุปัจจัยที่เกิดจากอำนาจบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่าแม้พระองค์ทรงพระประสงค์จะพึงมีปรารถนาถึงภูเขาทั้งลูกก็เปลี่ยนเป็นทองคำได้ วิชานี้จะเปลี่ยนจากสิ่งที่ไร้ค่าให้มีค่ามันมีแต่ดีมีแต่ได้กับได้ เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระประสงค์สิ่งใดสิ่งนั้นก็ย่อมเป็นไปด้วยพุทธานุภาพ วิชานี้จึงเกิดขึ้นมาด้วยโบราณจารย์ท่านถ่ายทอดให้สืบต่อกันเอาไว้ใช้ช่วยคนที่เค้ามีวาสนาถึงพร้อมต้องการจะเป็นมหาเศรษฐีต้องการจะหลุดจากทุกข์แห่งการหาเช้ากินค่ำโดยแท้ ซึ่งน้อยนักที่ครูบาอาจารย์จะทำวิชานี้ให้แก่ผู้ใดและคำในทีนี้คือทองคำจะได้รวยเหนือรวยเป็นมหาเศรษฐีมากกว่าเงินก็ต้องมีทองเป็นโกฏิเท่าภูเขานี่แหละ
    - ผงวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ เป็นผงเก่าของหลวงพ่อปานซึ่งสืบทอดมา พ่ออาจารย์ท่านได้มาในปริมาณที่ไม่มากนัก ท่านว่าผงนี้สำคัญนักครูเก่าท่านย้ำนักหนาว่าให้เก็บไว้ให้ดี ใครมีเอาไปใช้เเละหมั่นทำบุญ มีเเต่รวยเจริญขึ้นทันตาเห็น ซึ่งปกติสมัยหลวงพ่อปานมีชีวิตอยู่ ผงนี้จะใช้อุดรูพระผงพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆเเต่เพียงนิดเดียวเท่านั้น หาพระของท่านแท้ๆไม่ได้มาเอาผงนี้ไปใช้เเทนกันได้เลย
    - ผงรังต่อ ท่านว่าขาดไม่ได้ถ้าทำพระเจ้าสัวเพราะมันเป็นเคล็ด จะได้ต่อออกไปไม่รู้หมดไม่อยู่ที่เดิม มีพระรุ่นนี้จะได้ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่
    - ผงสะหรี๊พันต้น เป็นผงที่พ่ออาจารย์ได้ทำรวบรวมไว้และนำมาเสกทางค้ำคูณชุ่มเย็นลงไปอีก ท่านว่าผงนี้หนุนดวงหนุนนำชะตาชีวิตดีนัก ชีวิตมันไม่ตกลงเลยนะมีแต่จะยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆใครที่กลัวตัวเองตกต่ำลงกว่าเดิมหรือกลัวที่จะเลวลงสามวันดีสี่วันไข้ ได้ดีไม่สม่ำเสมอนี่เลิกคิดไปเลย มีผงนี้ใส่ไปให้ต่อไปนี้จะได้ทรงตัวและพุ่งขึ้นไปให้สูงไม่ต้องทรุดลงมาอีก
    - ผงลบมนต์เศรษฐีสี่ตระกูล ท่านใช้มนต์น้ำซึมบ่อทราย,มนต์มหาเศรษฐีหลวง,มนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภา,มนต์พระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐี ท่านว่าใช้ผงเพียงสี่ตระกูลนี้เท่านั้นมาผสมลบถมผงวิเศษ เฉพาะมนต์น้ำซึมบ่อทรายนี้ก็รวยแบบมั่นคงดุจน้ำตกสู่ทรายที่ค่อยๆซึมเข้าไป ชีวิตผู้ใช้ที่ว่าไม่มีโชคก็จะได้มีโชคหล่นมาหาซึมซับเข้าไปในตัวเราอยู่ร่ำไปไม่มีวันหมด,ส่วนผงมนต์พระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าสำเภานั้นจะทำกิจการงานใดๆก็จะสำเร็จลุล่วงประสบโชคลาภครั้งใหญ่ได้โดยง่ายเมื่อรวมกับผงพระโพธิสัตว์เป็นมหาเศรษฐีและผงมนต์มหาเศรษฐีหลวงแล้ว ก็จะช่วยต่อยอดให้ได้เป็นมหาเศรษฐีเร็วขึ้น
    - ผงดูดพลัง ท่านว่าก้อนผงนี้สมัยก่อนท่านธุดงค์เข้าไปในมเหนทรบรรพตก็ไปเจอก้อนผงนี้วางอยู่หน้าแท่นศิวลึงค์ ไม่รู้ว่าเป็นก้อนอะไรรู้แต่ว่ามีอาถรรพ์มากเพราะรอบๆบริเวณสถานที่นั้นมันแสดงออกมาอย่างชัดเจน(ไม่สามารถเล่าได้) ท่านจึงได้พลีกรรมบอกกล่าวและขอมาเพื่อจะทำประโยชน์ให้เกิดแก่ชนหมู่มากในภายหลังจนครูพระสยมท่านมอบให้และบอกว่าเป็นก้อนผงดูดพลังที่พวกฤาษีสมัยก่อนทำมาวางข่มอาถรรพ์ไว้... เมื่อพ่ออาจารย์ท่านนำออกมาแล้วท่านว่าเราก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดีเพราะผงนี้มีอาถรรพ์มากและก็มีพลังงานสูงเกินไป ท่านเห็นว่าในพระรุ่นนี้มีวิชาน้ำเต้ามันจำเป็นต้องใช้พลังดูดเพื่อย่อยสลายสิ่งตกค้างทั้งวิบากกรรมและอกุศลกรรมอย่างมหาศาลซึ่งคุณวิชาทั่วไปไม่สามารถทำได้ครอบคลุม ท่านจึงนำก้อนผงที่แข็งเป็นหินนี้มาทุบผสมทำผงเป็นพลังงานตั้งต้นเพื่อให้มีอำนาจรุนแรงที่สุดนั่นเองทั้งท่านเสกกำกับให้ดึงดูดความรุ่งโรจน์,ให้ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง,ให้ก่อเกิดความมั่งคั่งมีชัยชนะทุกๆด้าน
    - ผงสหัสนัยน์อโลมะประสิทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเกิดด้วยบุญฤทธิ์ของพระอินทร์โดยตรง มีคุณใช้ได้ทั้งพันคือพันช่องพันทางพันเรื่องทำอะไรก็สำเร็จทั้งหมดดุจได้พรท้าวโกสีย์ ถ้าพวกนักสิทธิ์วิทยา,คนธรรพ์,สุบรรณ,นาคีเหล่านี้ได้ไปครอบครอง จะยิ่งเพิ่มฤทธานุภาพของตนให้สูงล้ำสัญชาติญาณเดิมอีกมาก จึงเป็นของมีค่าแม้อยู่กับมนุษย์ก็เชื่อได้ว่าย่อมได้ในทุกสิ่งเกินวิสัยชาติภพของมนุษย์ภูมินั้น
    - น้ำมันอินทราทิพย์ น้ำมันนี้เป็นน้ำมันเฉพาะตัวของท่านที่ท่านทำเอาไว้ใช้เองของท่านผู้เดียว โดยนำธาตุทนสิทธิ์และกายสิทธิ์มากมายลงมาแช่แล้วจึงขอบารมีพระอินทร์ทำน้ำมัน จากน้ำมันแก้วธรรมดาเมื่อปลุกเสกไปหุงด้วยไฟสุริยัน ก็กลายเป็นน้ำมันสีเขียวใสยิ่งกว่าตาตั๊กแตนแต่กลับมีกลิ่นฉุนนัก ท่านว่ากำหนดจิตดูตอนขอให้พระอินทร์ท่านทำปรากฏว่าทั้งพระอินทร์และเทพเทวดานางฟ้ามากมายช่วยกันเอาสรรพยาว่านทิพย์โอสถมากมายมาเทมาปรุงน้ำมันนี้ จากน้ำมันธรรมดาจึงมีทั้งสีและกลิ่นฉุนรุนแรง พ่ออาจารย์ว่าเราก็ไม่ได้ใส่อะไรเพียงแค่นำธาตุศักสิทธิ์แช่ไว้เท่านั้นท่านเห็นเป็นอัศจรรย์ใจจึงเก็บน้ำมันนี้ไว้แช่พระและเครื่องคาดของท่านมาตลอด ท่านว่าน้ำมันอินทราทิพย์นี้แรงกว่าพวกน้ำมันผีน้ำมันพรายมากเพราะสำเร็จด้วยเทวานุภาพเป็นของกายสิทธิ์ ท่านว่าแรงกว่าสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบเสียอีกมีอาถรรพ์มากต้องเอามานวดกับผงอุดพระไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะมีผงผงสหัสนัยน์อโลมะประสิทธิ์ท่านจึงใช้น้ำมันอินทราทิพย์หัวเชื้อผสมเพียวๆกันไปเลยผงที่ใส่รุ่นนี้เพียงผงสหัสนัยน์กับน้ำมันอินทราทิพย์นี้ก็กินขาดยิ่งกว่าสมบัติเทวโลกแล้ว
    - นวดพระสีวลี ซึ่งเป็นนวดของครูบาอาจารย์ฆราวาสในดงที่ถ่ายทอดวิชาให้พ่ออาจารย์ท่านมีอิทธิคุณแรงกล้าในเรื่องโชคลาภโภคทรัพย์ มหาเมตตาใหญ่ และมหาเสน่ห์ใหญ่ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้มาขวดหนึ่ง นวดนี้มีอายุตก40-50ปี ท่านว่านวดนี้มีพิธีการหุงที่พิเศษเเตกต่างจากสีผึ้งสายเทพ เเละสายพรายทั่วไป มีวิธีการสร้างที่แปลกประหลาดจนเราไม่คิดว่าจะหาใครมาทำได้เป็นคนที่สอง เพราะขนาดตัวเราเองก็ยังทำไม่ได้ ถึงจะเรียนไว้ เเต่อะไรหลายๆอย่างมันหาในยุคนี้ไม่ได้เสียเเล้ว ครั้งนี้เอามาใช้นวดผงเป็นตัวประสานเพราะเป็นนวดในตำนานที่หมดเเล้วก็ไม่มีการสร้างขึ้นมาอีก
    นอกจากนี้ยังมีผงที่เตรียมไว้ทั้งพญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108,คดไม้มงคล108,ไม้มงคลที่ตายพราย108,ว่าน108,เกสร108,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อยใบลานเก่า,ผงธูปบูชาพระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธเจ้า,กะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา,คดมะพร้าว,กิ่งโพธิ์นิพพาน,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5,กบจำศีลเดือน5ตายคารู,เขี้ยวงูจงอางที่ฝักไข่จนตายคาไข่,ไม้คานคุก,ไม้คานประตูคุก,ชันโรงกลางแจ้ง,ไม้คานแม่หม้าย,สากกะเบือแม่หม้าย,ไม้คานและสากกะเบือของหญิงที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร,เขาควายเผือกฟ้าผ่า,เขี้ยวเสือโปร่ง,เขี้ยวหมูตัน,คดสมองวัว,คดขนุน,งาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,เขากวางคุด,เขากระจงคุด,งูปากเป็ด,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่เจดีย์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ดินสังเวชนียสถาน,เพชรน่าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล็กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง,จิ้งจกสองหาง,จิ้งจกห้าหาง,อัญมณี,ตะไคร่หลักเมือง,น้ำฝนกลางหาว,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช(พ่ออาจารย์ท่านได้เพิ่มผงพระสมเด็จวัดระฆังของสมเด็จครูใหญ่เข้าไปด้วย)ทั้งพ่ออาจารย์ท่านได้ผสมผงลบตระกูลเศรษฐีทั้งดวงเศรษฐี,เศรษฐีสำเภาทอง,พระสีวลีเรียกทรัพย์,จินดามณี,ค้าแม่นขายหมาน,เจริญสมบัติ,หากินคล่อง,มีลาภต่อเนื่อง,ฝนแสนห่า,อริยสัจโสฬสมงคล,ตรีนิสิงเห,จตุโรบังเกิดทรัพย์,นกคุ้มสี่ตระกูล,ยันต์ถุงเงินถุงทอง


    อาญาสิทธิ์รอดอภินิหาริย์
    เหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์นั้นพ่ออาจารย์
    ท่านเน้นสนองยุคเข็ญและทุกข์เข็ญที่จะเกิดขึ้นสืบไปเบื้องหน้าอย่างแท้จริง ท่านจึงได้ทำเครื่องรางโบราณฝังไว้ด้านหลังอันเป็นพลังที่จะช่วยให้รอดและพ้นวิกฤติได้อย่างอภินิหาริย์หนุนกับกำลังองค์พระอย่างแยกกันไม่ออกขาดกันไม่ได้
    - แองค์ไม้ยอดฟ้า สัญลักษณ์โบราณของอียิปต์ที่เป็นตัวแทนของชีวิตและการอยู่รอด ในสมัยโบราณมีเพียงฟาโรห์และเทพเจ้าเท่านั้นที่ครอบครองแองค์ได้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอมตะทั้งยังเป็นเป็นเครื่องรางที่เก่าแก่และทรงอำนาจมากที่สุด แองค์นี้นอกจากเป็นพลังแห่งการอยู่รอดแล้วยังหมายถึงชีวิตคนอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านเห็นควรว่าจะทำไว้และอธิษฐานขอให้เจ้าของวิชาและเทพทางฝั่งนั้นมาทำให้ซักหนด้วยครานี้คนตกทุกข์ได้ยากมีมาก คนเอาตัวไม่รอดก็เยอะแม้เศรษฐีก็ยังตกม้าตาย ท่านจึงทำสัญลักษณ์แห่งการดำรงค์ชีวิตและความอมตะนี้ขึ้นเพื่อเปิดทางรับเอาพลังชีวิตพลังที่จะกู้วิกฤติช่วยให้เรารอดได้ในทุกเภทภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องรางตัวนี้เมื่อเทพทางฝั่งโน้นเขาทำให้มันไม่ใช่ของเล่นๆนะเพราะแต่โบราณเป็นเครื่องสูงเฉพาะกษัตริย์มีอำนาจทั้งสองโลก(คือโลกนี้และโลกหน้า) เป็นเครื่องรางแห่งความอุดมสมบูรณ์ ทำให้เกิดชีวิต..ใช้ต่อลมหายใจ..ให้รอด..ให้เป็นอมตะ พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเครื่องรางแบบนี้ใช้ต่อลมหายใจใช่ต่อชีวิตใช้ต่อโอกาสช่วยให้รอดให้ฟื้นตัวได้เป็นเครื่องรางที่ใช้มอบชีวิตใหม่ที่ดีกว่า จะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์..จะนำมาซึ่งชีวิตที่ดีเพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างจะนำมาซึ่งรูปธรรมและนามธรรมทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตนี่คือคุณของแองค์ เป็นเครื่องรางที่จะช่วยให้เราสมบูรณ์แบบในสิ่งปรารถนา เรียกว่าเป็นยอดปรารถนาแห่งมนุษย์พ่ออาจารย์ท่านว่านี่แหละต่อไปแม้คนร่ำรวยมั่งมีที่ไหนยังเอาตัวไม่รอด ..แต่เรามีแองค์นี้เราต้องรอดในทุกปัญหา ท่านประดับดวงตาไว้ที่แองค์ให้สามารถมองทะลุทุกอย่างทั้งยังเป็นดวงตาแห่งชัยชนะในการต่อสู้กับความชั่วร้ายสืบไป
    - ตะกรุดดับล้าง อุบาทว์อันใดที่หมักหมมตกตะกอนข้ามชาติข้ามภพสะสมอยู่ในจิตวิญญาณส่งผลกับชีวิตเราโดยตรงท่านว่านั่นแหละเขาจะดับล้างออกไปจากตัวเรา ทั้งยังค้ำชูดวงชะตาเราเสริมราศีให้ดีขึ้นไม่ตกต่ำในเวลาที่ดวงดีอยู่แล้วจะดันให้ดีขึ้นไปอีก ในเวลาที่ตกก็จะดึงขึ้นไม่ให้ตกที่นั่งลำบากพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะพูดกันเข้าใจง่ายๆเลยก็คือไม่มีวันดวงตกต่อให้ทายชะตาออกมาว่าดวงจะตกหรือดวงจะแตกอย่างไรแต่ชีวิตเราก็ดีขึ้นทางเดียวไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องดวงเหล่านั้นเลยเพราะตัวเรารุ่งเรืองเฟื่องฟูในทางเดียว ทั้งตะกรุดสำคัญนี้หากได้อาราธนาติดตัวเป็นประจำนอกจากจะดับล้างอุบาทว์ทั้งหลายในจิตวิญญาณตนแล้วยังจะช่วยชำระปราณในตัวให้บริสุทธิ์มากขึ้นไปเรื่อยๆด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะรู้และสังเกตุได้ด้วยตัวเองว่าความคิดเราจะกระฉับกระเฉงมากขึ้นเป็นคนปัญญาไวมีปัญญามากมีประสาทสัมผัสต่างๆไวขึ้นสามารถเห็นนิมิตดีร้ายในกาลภายหน้าได้อย่างแม่นยำไม่บิดเบือน ทั้งคุณครูยังจะป้องสิ่งไม่ดีทั้งหลายแลอุบาทว์จัญไรทั้งปวงช่วยเราเรียกหาทรัพย์สินเงินทองให้เราเจริญด้วยทรัพย์สมบัตินับคณา ดึงดูดเรื่องที่เราอยากให้เกิดสิ่งที่เราปรารถนาคล้ายกับหีบสมบัติที่จะเปิดไว้ให้ชีวิตมีแต่รับอย่างเดียว

    คาถาบูชาองค์พระ
    นะมามีมามหาลาภา นะสะมานิลาโภเมตตามามา นะหะปาลิหิโภคังเมตตาลาโภนิโสธะยะ
    ต่อด้วย พระโสนามะยักโข เมตทันตปริวาสะโก อะสุณิหะเตโหตะโต ชยะมังคละ เออุ อุเอ อาคัจฉะ มานิ มานิ


    **** เหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์ชุดรอดอภินิหารย์นี้ท่าน เชิญประชุมพระเวทย์และพระธรรม,เชิญองค์ต้นธาตุต้นธรรมและเหล่าพุทธภูมิลงมาเป็นประธานทำพิธีอุดผงควบคุมประจุธาตุและธรรมเอง พระรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าลืมเวลาเสกไปแล้วเพราะเสกเก็บมานานตั้งแต่เป็นมวลสารแต่ละพิธีกรรมก็มีการแยกเสกแบบเสกแล้วเสกอีกทุกขั้นตอนเพื่อให้ครบตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านสั่งเอาไว้...เมื่อได้อาราธนาติดตัวไว้จะรอดพ้นเภทภัยทุกข์เข็ญได้อย่างอภินิหาริย์ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญพระเจ้าโปรดสัตว์รอดอภินิหาริย์ (พระปัจเจกทรงน้ำเต้า) บูชา 2,500 บาท




     
  4. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  5. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา ตราสังหารปรปักษ์สลักเทพ(ประหารอีกาทองคำสุริยัน)

    ที่สุดแห่งเครื่องรางสำหรับผู้มีศัตรูและสิ่งรบกวนรอบกาย ...
    - แกะสลักจากไม้ที่ทรงอาถรรพ์รุนแรงแบบพิเศษ
    - ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องรางที่โหด รุนแรง และให้ผลไวสูงสุดของพ่ออาจารย์
    - เป็นเครื่องรางที่มีฤทธิ์เก่งกล้าเหนือเทพ สยบเทพ สยบเก้าสุริยัน

    (รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นเพียงหกองค์แต่ท่านอาราธนาไว้องค์หนึ่ง ทำให้มีมาเปิดจองเพียงห้าองค์เท่านั้น ... อย่าช้านะครับ)

    ด้วยเหตุว่าภยันตรายและแรงอาฆาตของคนรอบด้านมักจะฉุดให้ชีวิตที่ดำเนินไปอย่างสันติสุขตกต่ำลงได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำเครื่องราง"ตราสังหารปรปักษ์สลักเทพ" ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์สูงสุดขึ้นมาโดยองค์เต๋าบ้อท่านแนะนำให้ทำเป็นรูปโฮ่วอี้ดับเก้าตะวันเพื่อจะดับทุกข์ภัยร้ายแรงทุกชนิดให้แก่มนุษย์

    พลังของมนุษย์ที่สังหารเทพเจ้า
    ในสมัยดึกดำบรรพ์บนดินแดนแห่งลุ่มน้ำฮวงโหปกครองโดยพระเจ้าเหยา พระองค์ทรงเป็นธรรมราชาที่มีพระสติปัญญาและพระเมตตาเลิศล้ำประชาชนทั่วแผ่นดินล้วนมีแต่ความสงบสุข ฝนฟ้าก็ตกต้องตามฤดูกาลพืชพันธุ์ธัญญาหารก็อุดมสมบูรณ์แต่บนท้องฟ้ากลับปรากฏมีพระอาทิตย์ 10 ดวงอยู่พร้อมกัน..ส่วนโฮ้วอี้ได้ชื่อว่าเป็นนักยิงธนูที่ใช้ธนูดับดวงอาทิตย์ โดยธนูเพียงดอกเดียวสามารถยิงให้ดวงอาทิตย์ตกลงมาได้และเค้าก็ยิงถึง 9 ดวง

    เมื่อย้อนกลับไปที่ยุคราชวงศ์เซี่ยตรงกับสมัยพระเจ้าเหยาโลกมนุษย์
    มีดวงอาทิตย์พร้อมกันถึง 10 ดวงซึ่งเป็นพี่น้องกันและเป็นลูกเง็กเซียน(ชาวจีนสมัยก่อนยกย่องให้เง็กเซียนคือเทพพระอาทิตย์) หน้าที่ของพระอาทิตย์ทั้งสิบดวงคือรับพระบัญชาผลัดกันลงมาให้แสงสว่างแก่โลกมนุษย์ตามบัญชาของเง็กเซียนพ่อตัวเอง ซึ่งดวงอาทิตย์ทั้งสิบนี้ล้อมรอบผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้แสงสว่างและความร้อนบนโลก ยุคนั้นจึงเต็มไปด้วยมนุษย์ที่เก่งกล้ามีฤทธิ์มีอภินิหาริย์และอาศัยกันอยู่อย่างสงบสุข..เมื่อคนมีความสุขก็พาลทำให้เทพเจ้าและเหล่าเซียนเกิดความริษยาด้วยคนทั้งหลายไม่ให้ความเคารพนับถือพวกตนอีกต่อไปเพราะไม่มีเรื่องทุกข์จึงไม่ต้องร้องเรียนเซียนเทพใดๆ เทพเจ้าบางองค์จึงได้วางแผนทำให้โลกร้อนระอุเป็นเพลิงเผาโดยวางแผนให้พระอาทิตย์ทั้งสิบดวงเกิดความคึกคะนองลงมาเล่นบนโลกมนุษย์กัน ทั้งหมดสาดแสงพร้อมกันเรียกว่าพร้อมใจกันส่องแสงสว่างแก่โลกมนุษย์ทำให้มนุษย์ได้รับความเดือดร้อนอย่างยิ่ง แสงอาทิตย์ที่แรงกล้าได้ทำให้โลกร้อนระอุเผาแผ่นดินจนเหี่ยวแห้งพืชพันธ์ธัญญาหารล้วนเหี่ยวเฉาไปหมด มนุษย์รู้สึกร้อนจนหายใจไม่ออกล้มลงสลบไสลเนื่องจากอากาศร้อนเกินไป สัตว์ร้ายต่างๆก็พากันออกจากป่าและแหล่งน้ำที่แห้งแล้งมาทำร้ายมนุษย์แม่น้ำลำธารหลายสายถูกแดดแผดเผาจนแห้ง ทุ่งหญ้าและป่าไม้ลุกเป็นไฟธัญญาหารต่างๆมอดไหม้ ทำให้ผู้คนและเหล่าสัตว์อดอยากล้มตายเป็นจำนวนมากทำให้โลกเกิดทะเลทรายขึ้นมากมาย แต่พระอาทิตย์ทั้งสิบก็หาได้สำนึกไม่ยังคงกระทำการคึกคะนองอันธพาลเพิ่มความร้อนแผดเผาโลกให้หนักมือยิ่งขึ้นไปอีกจนมีผู้คนล้มตายเพิ่มเป็นเท่าทวี..จุดประสงค์ก็เพื่อจะให้มนุษย์ร้องขอและกลับมาเกรงกลัวเหล่าเซียนเทพอีกคราหนึ่ง

    พระเจ้าเหยาจึงทำพิธีบูชาฟ้าไหว้อ้อนวอนสวรรค์ให้ช่วยหยุดภัยพิบัติครั้งนี้จนเง็กเซียนฮ่องเต้เห็นถึงความเดือดร้อนของผู้คนจึงทนอยู่ไม่ได้ เง็กเซียนก็ได้เฟ้นหาแม่ทัพสวรรค์ที่เก่งกล้ามากที่สุดพอที่จะสยบอาทิตย์เทพหรืออีกาทองทั้งสิบได้จึงมีบัญชาให้แม่ทัพสวรรค์โฮวอี้ลงไปเตือนพระอาทิตย์ทั้งสิบให้ยุติหยุดพฤติกรรมโหดร้าย ..โฮ่วอี้จึงลงมาสู่โลกมนุษย์และได้เกลี้ยกล่อมพระอาทิตย์สิบดวงให้พวกเขาหมุนเวียนโคจรวันละดวง ถ้าทำเช่นนี้ได้นอกจากจะส่งความอบอุ่นและแสงสว่างแก่มนุษย์ขณะเดียวกันจะไม่ทำให้โลกร้อนเกินไป ซึ่งพระอาทิตย์ทั้งสิบก็ไม่ได้กลัวเลยพวกเขาหาได้ใส่ใจไม่กลับท้าทายแม่ทัพสวรรค์

    เง็กเซียนจึงมีบัญชาให้โฮ่วอี้แม่ทัพสวรรค์ผู้มีความสามารถในเชิงธนูสูงยิ่งกว่าเทพและมนุษย์ทั้งปวงถือพระราชบัญชาไปสั่งให้พระอาทิตย์ทั้งสิบหยุดการเผาโลก หากไม่ฟังกันแล้วก็ให้โฮ่วอี้ยิงธนูข่มขู่เหล่าพระอาทิตย์ให้เกรงกลัวเป็นการใช้กำลังขู่ให้อาทิตย์ทั้งสิบหนีกลับไป เมื่อโฮ่วอี้ไปถึงก็ได้แสดงสาส์นของเง็กเซียนให้พระอาทิตย์ทั้งสิบเห็นแต่พวกเขากลับไม่ยอมเชื่อฟังทั้งยังกล่าววาจาท้าทายโฮ่วอี้ด้วยดวงตะวันแต่ละดวงนั้นย่อมมีฤทธานุภาพสูงสุดทั้งในสวรรค์และโลก เป็นทั้งลูกรักที่เง็กเซียนฟูมฟักและทนุถนอมมากที่สุดไม่เคยมีผู้ใดขัดใจ

    ทำให้โฮ่วอี้โมโหเกิดโทสะปีนขึ้นไปบนภูเขาคุณลุ้นและได้ยิงพระอาทิตย์ตกลงมาทีละดวงๆ เขาใช้ธนูสีแดงและลูกธนูสีขาวยิงใส่พระอาทิตย์ที่หยิ่งผยองโฮ้วอี้สังหารพระอาทิตย์ไปถึง 9 ดวงจากสิบตะวันเหลือเพียงดวงสุดท้ายที่กลัวตายและร้องขอชีวิตโฮ่วอี้จึงละเว้นไว้ พระอาทิตย์เลยเหลือดวงเดียวเหมือนปัจจุบันนับแต่นั้นมา มนุษย์จึงอยู่เย็นเป็นสุขได้และขอบคุณโฮ่วอี้ที่ช่วยเหลืออย่างมาก...เพราะนับแต่อดีตยังไม่มีผู้ใดสังหารเทพหรือดวงตะวันได้ถึงเก้าดวงติดต่อกันมาก่อน

    จากความชอบอนันต์กลับกลายเป็นโทษมหันต์เป็นการกระทำเกินเหตุ ผลสำเร็จของโฮ่วอี้ถูกเทพยดาอื่นๆอิจฉาไม่อยากให้ท่านจอมทัพถูกมนุษย์บูชายิ่งขึ้นไปอีกพวกเขาจึงทูลใส่ร้ายแม่ทัพสวรรค์กับเง็กเซียนทำให้เง็กเซียนโมโหมากที่โฮ่วอี้ทำเกินรับสั่ง บังอาจสังหารพระอาทิตย์ที่เป็นเหมือนพระบุตรสวรรค์ไปถึงเก้าดวง เง็กเซียนฮ่องเต้จึงห่างเหินจากโฮ่วอี้และในที่สุดก็เนรเทศขับไล่โฮ้วอี้ลงจากสวรรค์ไปอยู่ยังโลกมนุษย์เป็นการลดขั้นตำแหน่งของโฮ่วอี้จากแม่ทัพสวรรค์ผู้เกรียงไกรและหมดสิ้นความเป็นเทพ...นี่จึงเป็นสาเหตุทำให้โฮ่วอี้กลายเป็นมนุษย์ผู้เก่งกล้าแม้เทพเจ้าทั้งหลายยังขยาดหวาดกลัว เมื่อโฮ้วอี้ลงมายังโลกมนุษย์แล้วก็ได้รับการต้อนรับจากคนบนโลกในฐานะยอดวีรบุรุษของมนุษย์ชาติเป็นอย่างดีเพราะประชาชนทราบว่าโฮ่วอี้คือผู้สังหารพระอาทิตย์ก็พากันไปต้อนรับและยกย่องด้วยสำนึกในบุญคุณที่โฮว่อี้ได้ปราบพระอาทิตย์ช่วยชีวิตมวลมนุษย์เอาไว้

    ในยุคของโฮ่วอี้เมื่อลงมาอยู่กับมนุษย์ด้วยอำนาจฤทธิ์และทักษะธนูในระดับที่ทำลายพระอาทิตย์ได้ทำให้โฮ่วอี้ใช้ฝีมือยิงธนูปราบปรามสัตว์ร้าย,สัตว์ปีศาจดึกดำบรรพ์ต่างๆที่มีอยู่ในโลกมนุษย์จนเหี้ยนเรียกว่าขจัดต้นตอหายนะและเภทภัยทั้งหลายที่จะเกิดแก่มนุษย์แบบล้างทวีป จนกระทั่งพระเจ้าเหยาได้ตั้งให้โฮว่อี้เป็นเจ้าครองแคว้นยกให้เป็นผู้นำเผ่าหย่งฉิวจากเดิมเคยเป็นแม่ทัพสวรรค์ก็กลับกลายเป็นเจ้าครองแคว้น..เป็นกษัตริย์ที่ได้รับการบูชาเสมอเทพเซียนจากมนุษย์ทุกยุคสมัยเช่นนี้

    อีกาทองคำสุริยัน
    เมื่อจะทำ
    เครื่องรางที่มีอำนาจดั่งโฮ่วอี้สังหารอีกาทองคำสุริยันทั้งเก้าหรือเทพพระอาทิตย์ผู้เป็นบุตรเจ้าสวรรค์ทั้งเก้าดวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องรางนั้นย่อมมีฤทธิ์พิฆาตเด็ดขาดที่สุดดั่งว่ามีกำลังของโฮ่วอี้และกาทองคำสุริยันทั้งเก้าหนุนกำลังส่งเสริมทำลายศัตรูรอบกายทุกทิศทางไปพร้อมกัน ท่านได้ใช้องค์เหล็กอาตมันแทนดวงธาตุเก้าทิศเพื่อเป็นตัวแทนของกาสุริยันทั้งเก้า ขอเมตตาเต๋าบ้อและเหล่าปรมาจารย์เทพวิญญาณสูงสุดมาทำยอดเครื่องรางชิ้นนี้ให้ตามคำแนะนำของเต๋าบ้อ ด้วยอีกาทองคำสุริยันนั้นนอกจากจะเป็นอาทิตย์เทพยุคบรรพกาลแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ชี้ทางออกจากชีวิตที่ติดขัดมืดมนไร้ความสำเร็จแก่มนุษย์ด้วย

    อำนาจของอีกาทองคำสุริยันย่อมเปิดสติปัญญาและหนทางอำนาจให้กับมนุษย์ การสังหารอาทิตย์ทั้งเก้าดวงของโฮ่วอี้แท้จริงแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่โฮ่วอี้สังหารเทพพระอาทิตย์ แต่เป็นโฮ่วอี้สังหารอีกาทองคำสุริยันซึ่งเป็นตัวพระอาทิตย์เอง อีกาทองนั้นมากด้วยรัศมีเพียงแค่กระพือปีกก็พัดเอาเปลวไฟที่ส่องสว่างดุจอาทิตย์พันดวงออกมาได้ แม้ปรากฏขึ้นที่ใดเพียงอยู่ไกลลิบมิได้สัมผัสตัวอีกาทองแต่ก็ยังให้อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นเผาไหม้เขาไปถึงกระดูก แสงรัศมีของอีกาทองคำสุริยันนั้นมีอำนาจทำลายล้างได้ทุกสิ่งสามารถแปรเปลี่ยนเป็นรังสีสังหารปกคลุมได้ทั้งฟ้าดินไม่มีใครสามารถหาที่ซ่อนตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าอีกาทองได้ ผู้ใดถูกอีกาทองคำสังหารแม้วิญญาณก็ถูกเผาไหม้ไปด้วยดุจว่าลบตัวตนคนผู้นั้นออกไปจากวัฏสงสารถูกกำจัดให้ปราศจากตัวตนตลอดกาล ด้วยกำลังของอีกาทองนั้นมากฤทธิ์ทั้งยังเป็นจอมราชันแห่งพระเพลิงทั้งหลายทั้งปวง..ในบรรดาเปลวไฟทั้งหมดของทุกโลกทุกวัฏสงสารไม่มีเพลิงใดเหนือไปกว่าเพลิงของอีกาทองคำสุริยัน..เช่นนั้นเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องรางพ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมต้องใช้อำนาจของยอดบุรุษโฮ่วอี้และอำนาจของอีกาทองคำสุริยันทั้งเก้ามาหนุนบารมีและกำลังฤทธิ์ของผู้บูชาเพื่อดับล้างทำลายศัตรูและอุปสรรคในหนทางชีวิตให้เหี้ยนลงทั้งหมด

    ด้วยสภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่ามันแย่มากถึงมากที่สุด คนที่ดิ้นรนต่อสู้ก็จะสร้างศัตรูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆคนที่อยู่จึงจำเป็นต้องเอาตัวให้รอดฝ่าฟันปัญหาเศรษฐกิจการเงินเรื่องปากท้องและเคราะห์กรรมต่างๆที่ไม่ได้ลดลงไปเลย ด้วยท่านเห็นว่าในกาลบัดนี้นั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องเอาตราสังหารปรปักษ์ออกมาให้ผู้ที่ยังมีกำลังยังมีความสามารถได้ใช้ติดตัว..หากช้ากว่านี้คนที่สู้ได้จะกลับกลายเป็นไร้ทางสู้ ด้วยตราสังหารปรปักษ์นั้นเป็นเครื่องมงคลที่ใช้กำจัดศัตรูและสิ่งรอบกาย..สิ่งรอบข้าง..สิ่งรอบตัว..และทรัพย์ในตัวเองอันบกพร่อง สิ่งที่จะนำมาซึ่งปัญหานำมาซึ่งความไม่งอกงาม..ไม่งอกเงย..ไม่อุดมสมบูรณ์รอบทิศทางทุกชนิด พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละปราบปรามความไม่อุดมสมบูรณ์และปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาหาเรา ถ้ามีศัตรูหรือคนที่คิดร้ายพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่เรานึกถึงหน้าเขาหากเขาทำผิดคิดชั่วกับเราจริงดวงตราก็จะทำกรปราบปรามคนผู้นั้นทันทีท่านว่ามีอาถรรพ์มากนะเพราะตรานี้เห็นผลทันทีโดยไม่ต้องรอ แม้พกติดตัวไว้ก็เป็นมหาอำนาจปราบได้ทุกอย่างที่ขึ้นชื่อว่าเกิดมาเพื่อทำให้ชีวิตเราเดือดร้อนและไม่สมบูรณ์แบบ เพียงอาราธนาเครื่องมงคลนี้ติดกายพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องลำบากไปเพ่งจิตนึกถึงใครเลย เพียงแค่ติดตัวไว้ความไม่สมหวังไม่สมมาตรปรารถนาความไม่อุดมสมบูรณ์ทั้งหลายจะไม่เกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน...***แม้ทุกข์ยากดั่งชีวิตตกอยู่ในกลียุค ใครที่ชีวิตร้อนรนจะร้อนอย่างไรก็ไม่ร้อนเท่ารัศมีอีกาทองคำสุริยันทั้งเก้า ท่านว่านั่นแหละฉันบอกได้แค่ว่าไฟชีวิตที่เผาผลาญเราจนเดือดร้อนนั้นดับลงได้สนิทเพราะตราสังหารปรปักษ์นี้ ไม่มีไฟใดไม่มีพระเพลิงที่ไหนจะแรงไปกว่าไฟของกาสุริยันแม้ไฟนั้นยังดับมาแล้วเช่นนั้นไฟที่แผดเผาชีวิตให้มอดไหม้เดือดเนื้อร้อนใจเหล่านั้นโฮ่วอี้ย่อมดับได้ทั้งสิ้น

    นอกจากนี้ยังใช้กันคุณไสยปราบสิ่งชั่วร้ายหรือจะเล่นทางอธิษฐานสารพัดนึกก็ได้ทั้งสิ้นเพราะท่านทำมาให้ใช้เป็นเครื่องรางดั่งพยนต์แต่มีอำนาจเหมือนโฮ่วอี้ผู้สังหารเทพเจ้า เช่นนั้นตราสังหารปรปักษ์นอกจากใช้ปราบแล้วยังใช้เรียกทรัพย์สินเงินทองได้ด้วย ...พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานไปสิ
    - ให้ท่านปราบผีความจนแบบนี้ถ้าใครไม่มีเงิน
    - ให้ท่านปราบปีศาจขี้โรคถ้าใครเจ็บป่วยด้วยโรคที่ไร้ทางรักษา
    - ให้ท่านปราบปีศาจเคราะห์ร้ายถ้าดวงใครสามวันดีสี่วันซวย

    แบบนี้พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างว่าใช้ทางปราบได้ทุกทาง ..ปราบอย่างไรให้รวย ..ปราบอย่างไรให้หมดโรคภัย ...ปราบอย่างไรให้หมดโรคเวรโรคกรรมล้วนขึ้นอยู่กับคำสั่งเราทั้งสิ้นไม่ใช่จะใช้เขาทางกันศัตรูกันคนว่าร้ายเท่านั้นหากแต่ยังให้ใช้พลิกผันชีวิตให้ประสบความสุขสูงสุดได้เรื่อยๆอีกด้วย เช่นนั้นตราสังหารปรปักษ์จึงไม่ใช่เครื่องมงคลที่ใช้ปราบไพรีธรรมดาๆหากแต่ใช้ปราบศัตรูชีวิตเราได้ทุกชนิดทั้งยังมีอานุภาพแรงมากพ่ออาจารย์ท่านว่า"ไม่ต้องกลัวเสื่อม เพราะไม่มีวันเสื่อม" ด้วยท่านลงทำผงกันเสื่อมผสมไว้ให้ในผงที่อุดแล้ว

    ด้วยยุคเข็ญต่อไปภายหน้านั้นต่างคนก็ต่างเอาตัวรอด ต่างคนก็ต่างเล่นของเช่นนั้นท่านจึงนำตราสังหารปรปักษ์ออกมาด้วยจะมีประโยชน์แก่คนทำมาหากินจะได้ไม่ตกเป็นรองผู้ใดเอาไปใช้ปราบศัตรูคู่แข่งและกำราบปราบปรามพลังงานเลวร้าย ###ทั้งพลังธรรมชาติและกำลังที่มีคนกระทำใส่เรา พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละพลังงานในโลกนี้มีทั้งดีและไม่ดีมีทั้งที่ต้องโฉลกและไม่ถูกโฉลกกับเรา วันๆเราไปอาศัยที่ไหนผ่านไปจุดไหนยืนอยู่ตรงไหนร่างกายเรารับอะไรมาบ้างล้วนไม่มีใครรู้หรือระวังตัวได้ตลอดรอดฝั่งเช่นนั้น ถ้าเป็นพลังงานที่เสริมส่งสอดคล้องเกื้อหนุนเราก็ดีไป แต่ถ้าเป็นพลังที่ทำลายหรือก่อกวนวิถีชีวิตเราไม่สอดคล้องกับตัวเรานั่นก็ต้องปราบออกไป
    *** หลายๆคนมักจะถามพ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งชีวิตทำบุญมาเยอะแต่ทำไมเทวดาประจำตัวถึงไม่ช่วยเหลือยามวิกฤติ ท่านว่านี่ก็อีกกรณีนึงเหมือนกันร่างกายเราไปรับอะไรมาสารพัดแม้ตัวเราไม่รู้ก็ใช่ว่าเทวดาจะไม่รู้ แล้วเทวดาประจำตัวที่อ่อนกำลังลงเรื่อยๆเช่นนั้นจะไปช่วยเหลือใครเขาได้ลำพังตัวเองก็ยังแย่ เหมือนที่พ่ออาจารย์ท่านพูดว่าทุกสิ่งนั้นมีเหตุผลของมันขึ้นอยู่กับใครจะเข้าใจได้รึเปล่า หากเทวดาประจำตัวอ่อนกำลังแล้วท่านว่านี่แหละทางแก้ตราสังหารปรปักษ์นี้จะปราบปรามกำลังที่สั่นคลอนชีวิตเราทั้งเสริมกำลังให้เทวดาประจำตัวเรามีฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ...พ่ออาจารย์ท่านว่าพกไว้เถิดฉันบอกได้แค่ว่าดีแต่จริงๆก็มีอะไรที่พูดไม่ได้อีกมากเพราะข้างบนท่านสั่งห้ามเด้ดขาดให้มันเป้นไปตามกำลังวาสนาของคนผู้นั้นไม่ต้องชี้นำ

    ตราสังหารปรปักษ์เขาจะปล่อยพลังงานโดยตัวเขาเองไม่เพียงสะท้อนกลับแต่ยังทำลายและดูดเคราะห์ร้าย..พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งตรานี้ใช้งานมากเท่าไหร่ใครที่มีเคราะห์มากชีวิตวุ่นวายดวงตราก็ทำงานหนักยิ่งเขาทำงานหนักก็ยิ่งมีกำลังมากเรียกว่าขอให้ใช้ไปเถอะยิ่งใช้จะยิ่งเก่งขึ้นเรื่อยๆ ..ใครที่มีตรานี้ไว้ไม่ต้องกลัวเขาไม่เก่งเลย จะปฏิเสธว่าตัวเองศัตรูน้อยอย่างไรก็ตามเอาว่าเชื่อเถอะโลกที่กำลังจะหมุนไปนี้ด้วยการแก่งแย่งชิงดีกันทุกทางยากนักที่จะหาผู้ใดอยู่ได้โดยปราศจากศัตรูในเบื้องหน้า พ่ออาจารย์ท่านได้นำแก่นไม้มะขามโปร่งฟ้าที่มีลักษณะกลวงเรียกว่าโปร่งฟ้าปัดตลอดที่ถูกฟ้าผ่ายืนตายมาทำเป็นฐานรองของตราสังหารปรปักษ์ ด้วยว่านอกจากมีฤทธิ์แล้วยังมีกฤติยาคมแฝดทำให้คนเกรงขามในบารมีของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้แบบนี้มีอาถรรพ์แรงมากเรียกว่าเป็นที่สุดทั้งโปร่งฟ้าปัดตลอดยังเป็นเคล็ดให้ชีวิตคนที่ติดขัดไม่สมความปรารถนาอยู่กลับกลายปลอดโปร่งไร้อุปสรรคขวากหนามดุจการตัดไม้ข่มนามที่ทำให้เราไร้พ่ายครองชัยชนะอยู่เรื่อยไป จะทำการใดมีแต่ปลอดโปร่งโล่งสบายไม่ติดขัดทั้งมะขามโปร่งฟ้าปัดตลอดที่ต้องสายฟ้าผ่ายืนต้นตายยังหาได้ยากยิ่งนัก

    โฮ่วอี้ดับ 9 ตะวัน

    พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดแกะด้วยต้นกำจัดที่ขึ้นในดงไมยราบถือเคล็ดว่ากำจัดได้ทุกสิ่งจนเหี้ยนราบ..ไม่มีสิ่งใดที่กำจัดไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อทำต้องขอบารมีวิสุทธิเทพฝ่ายเต๋าท่านทำท่านเสกให้เป็นอย่างๆไปก่อนกว่าจะได้มารวมกันไม่ใช่ง่าย ท่านว่าทำตราสังหารปรปักษ์นี้มันท้าทายตัวเราเองมากๆด้วยมีไว้ปราบสิ่งที่เกินกำลังคนที่เขาเอาไปใช้ ขาไม่ไหวมันเกินกำลังชีวิตเขาแน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นย่อมต้องเป็นเรื่องใหญ่..ถ้าเป็นคนที่สร้างปัญหาก็ต้องเป็นคนใหญ่คนโตจึงจะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ได้ พูดง่ายๆคือปราบคนที่กระทำต่อเราโดยไม่สุจริตถึงจะเป็นคนใหญ่คนโตเป็นหัวหน้าเป็นเจ้านายที่มีบารมีมากกว่าเราก็ไม่ละเว้นขอเพียงเขาให้โทษเราเท่านั้นไม่มีเลือกว่าเขาจะมีอำนาจปานใดเลย ...หรือจะมีคนหาเรื่องมาให้เราเป็นปกติของวิถีมนุษย์ที่อยู่ดีๆอยู่เฉยๆเราก็ไปเจอปัญหาพบอันตรายทั้งหลายจากคนที่ตั้งใจนำความเดือดร้อนมาให้เรา คนที่ตั้งใจมาเกาะมาพึ่งเราเรียกว่ามีทุกข์จรเข้ามามีความเดือดร้อนจรเข้ามาเรื่อยๆดั่งเห็บหมัดที่คอยรังควานไม่จบสิ้น เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกว่า"โฮ่วอี้ดับ 9 ตะวัน" นั้นท้าทายอยู่มากๆจำเป็นต้องสร้างจากไม้กำจัดในดงไมยราบเพื่อจะลงวิชาเป่าคาถาพระเวทย์ทางมหาปราบทุกสายให้ปราบเรื่องใหญ่น้อยทุกปัญหาได้เหี้ยนราบเป็นหน้ากลองทั้งสิ้น

    หากมีวาสนาได้อาราธนาตราสังหารปรปักษ์แล้วแม้กลียุคจะผ่านเข้ามาก็ยังลืมตาอ้าปากได้จะมีกินมีใช้ทั้งมั่นคงในอำนาจวาสนา คนที่ดวงร้ายก็กลายเป็นดีได้เพราะท่านลงผงกลับดวงผสมไว้ด้วย *** เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อปราบทั้งหมดแล้วยังต้องให้กำเนิดสิ่งที่เป็นมงคลเพื่อไม่ให้ชีวิตย่ำอยู่กับที่หรือต้องใช้ความพยายามของตัวเองมากเกินไป..จนเหนื่อย..จนท้อเหมือนที่ผ่านๆมา พ่ออาจารย์ท่านจึงลงผงยันต์มหากำเนิดเป็นมวลสารหลักใช้ฝังตราสังหารปรปักษ์นี้ด้วยท่านถือว่าพอปราบปรามสังหารสิ่งไม่ดีออกจากชีวิตจนสูญสิ้นแล้วสิ่งดีๆจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเริ่มต้นใหม่ ด้วยตราสังหารนั้นทำงานดุจค่ายกลทั้งผงมหากำเนิดยังเร่งเร้าสิ่งประเสริฐสวัสดิมงคลให้จำเพาะเจาะจงสิ่งที่เราต้องประสงค์หรือชีวิตเราดำเนินการอยู่ให้สำเร็จโดยง่ายท่านว่าเพราะผงมหากำเนิดนี้จะแก้ปมชีวิตแต่ละคนได้ ปมต่างๆที่ผูกมามั่วซั่วยุ่งยากจนหาต้นเหตุไม่ได้คลำไปจนตาบอดก็หาไม่เจอปัญหาต่างๆที่รุมเร้ารอบทิศทางย่อมถูกแก้ไขให้กำเนิดแต่เรื่องประเสริฐและสิ่งประเสริฐในชีวิตเราตลอดไป

    ตราสังหารปรปักษ์หรือโฮ่วอี้ดับตะวันนั้นเป็นตราดับเรื่องร้อนและทุกข์ยากในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอาถรรพ์มากเพราะตรานี้แรงอยู่เหนือปัญหาทุกอย่างทุกเรื่อง ปัญหาทั้งหลายในชะตาชีวิตมนุษย์จะพึงมีปัญหาเหล่านั้นจะไม่มีผลเลย เพราะตราสังหารนี้เหนือดวงแม้สุริยันเก้าดวงยังดับได้ คนที่เคราะห์หามยามร้ายดวงตกดวงดาวให้โทษไม่ต้องกลัวพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีผล แม้คนที่โนกระทำโดนรังแกจากคนที่มีอนาจบารมีหรือผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีตบะฌาณพ่ออาจารย์ท่านว่าเหล่านี้หายห่วงต่อให้ศึกผีหรืออสูรนรก,เทวดาบนสวรรค์องค์ไหนๆจะศึกอะไรก็ชนะหมด ตราสังหารปรปักษ์นี้ไร้พ่ายแค่ติดตัวไว้ทั้งภูติผีปีศาจก็ดี,ตัวโทษ,ตัวเคราะห์ร้าย,ตัวภัยพิบัติ,ตัวโรคระบาดก็ดี...สรรพเข็ญสรรพเคราะห์เหล่านี้ย่อมหนีห่างจากตราสังหารปรปักษ์ไกลถึงร้อยลี้ไม่เข้าใกล้หรือให้ผลต่อตัวเราเลย จะทำกิจใดแข่งขันกับใครก็ชนะเพราะฐานเราแน่นดวงเราดีของเราจริงตัวช่วยเราเก่งไม่เป็นสองรองใครเช่นนี้เอง ### ในภาคหน้าแม้ชนทั้งหลายจะตกทุกข์ได้ยาก ผลหมากรากไม้จะไม่งอกงาม หันมองหน้ามนุษย์คนใดล้วนหน้าเศร้า ...ท่านว่านั่นแหละถือตรานี้เธอรอด

    ด้วยตราสำคัญนี้มีกำลังดวงอาทิตย์หรือกาทองคำสุริยันถึงเก้าดวงที่พ่ออาจารย์ท่านผูกไว้ให้หนุนบารมีแก่ผู้บูชาดั่งคติโบราณว่าทุกสรรพชีวิตย่อมกำเนิดมาแต่ครรภ์บิดามารดา แม้หญิงชายก็ย่อมเกิดขึ้นแต่ตะวันจันทราเช่นนั้นจึงเปรียบมารดาและบิดาเป็นตะวันจันทราของบุตร ด้วยถือว่าสุริยาทิตย์นั้นเป็นสิ่งที่ให้คุณสูงสุดตามธรรมชาติทั้งกำเนิดขึ้นก่อนสรรพชีวิตทั้งปวง เหนือสิ่งอื่นใดเลยพระอาทิตย์ย่อมส่งพลังงานเข้าหาสรรพชีวิต พ่ออาจารย์ท่านจึงทำตามดำริครูบาอาจารย์เบื้องบนนำเหล็กองค์ธาตุอาตมันมาแทนพระอาทิตย์หรือกาทองคำสุริยันทั้งเก้า..ด้วยถือคติว่ารัศมีมหาพรหมนั้นแรงกล้าดุจอาทิตย์พันดวงเช่นรัศมีอีกาทอง ท่านได้ผูกอาถรรพ์ลงตะกรุดกำกับตะวันแต่ละดวงเพื่อดึงกำลังอาทิตย์ทั้งเก้าส่งเสริมเราไม่ให้กำลังงานในตัวเราอ่อนด้อยและไม่เสถียรจนเกิดเรื่องร้ายต่างๆมารบกวนชีวิตได้

    คนที่กำลังหรือพลังในตัวเองไม่เสถียรนั้นมักจะเกิดเรื่องร้ายแก่ดวงชะตาโดยตรงจะมีเรื่องยุ่งยากต่างๆเข้ามาให้ปวดหัวกันอยู่เรื่อยๆทั้งเป็นคดีความบ้าง ผู้ใหญ่รังแกเพื่อนร่วมงานกลั่นแกล้ง เทวดาให้โทษภูติผีปีศาจเล่นงานก่อกวนนี่คือคนเหล่านี้ที่พลังงานของสุริยะเทพไม่สงเคราะห์ทำให้กำลังในตัวเองไม่เสถียรพูดง่ายๆเหมือนคนป่วยแต่เป็นอาการป่วยบารมี คนแบบนี้จะทำอะไรก็ซวยไปหมดจับโน่นทำนี่ก็เคราะห์ภัยดวงหด เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าตราสังหารปรปักษ์จำเป็นต้องทำให้ครอบคลุมรอบด้านจริงๆท่านจึงได้ผูกตะกรุดชุดพิเศษขึ้นมากำกับดึงกำลังพระอาทิต์ทั้งเก้าสงเคราะห์ธาตุขันธ์ ท่านว่าลำพังอาทิตย์บนหัวเราถ้าชีวิตย่ำแย่แก้ไม่ตกก็ช่างมันเพราะตรานี้มีอาทิตย์อีกเก้าดวงหนุนเราอยู่...คิดดูสิว่าเราจะมากบารมีขนาดไหน

    ทั้งตราสังหารนี้ยังผูกไว้ให้เป็นตัวตายตัวแทนนั่นคือเป็นตายรับเคราะห์แทนตน ยามใดที่เรามีเคราะห์เลี่ยงไม่ได้แน่นอนแล้วเขาจะรับไปก่อนเรา นอกจากจะทำให้ชีวิตเราไปได้สูงขึ้นยังดุจว่าเรามีพี่เลี้ยงคอยปกป้องดูแล คนที่ถึงฆาตถึงเคราะห์หรือเจ็บไข้ได้ป่วยจะเจอเรื่องแปลกกับสิ่งที่มองไม่เห็นในตราสังหารนี้ เช่นนั้นคนที่มีศัตรูมาก,ดวงไม่ดี,ทำมาหากินไม่ขึ้น,ค้าขายขาดทุนย่อยยับ,คนรักนอกใจ,เจ้านายไม่อุปถัมภ์,บริวารไม่เชื่อฟัง,แข่งขันพ่ายแพ้...พ่ออาจารย์ท่านว่าถือตรานี้ไปใช้เถิดแล้วจะรู้ว่าของจริงเป็นเช่นใด

    คาถาบูชา
    รายการนี้เป็นเครื่องรางที่ท่านว่าไม่ต้องใช้คาถาใดๆกำกับทั้งสิ้น
    เพราะวิสุทธิเทพฝ่ายเต๋าท่านทำมาให้เป็นของสำเร็จศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแล้ว ท่านว่าดีแล้วไม่มีวันเสื่อมขอให้นำไปใช้เถิดจะพกติดกายหรือไว้ในบ้านเรือนจะเลือกบูชาเป็นเครื่องรางอย่างใดก็แล้วแต่ไม่มีเสื่อมถอยใดๆเลย พกติดตัวไว้จะไม่มีศัตรูหมู่มารใดๆมากล้ำกรายรุกล้ำเราได้

    จงจำเอาไว้
    ต่อไปเบื้องหน้าโลกจะแปรเปลี่ยนไปทั้งภัยพิบัติทางบกทางน้ำทางอากาศและภัยธรรมชาติทั้งหลาย โรคร้ายอันตรายทั้งปวงที่ไม่เคยเจอเกิดมาหนนี้ก็จะได้เจอกันครบทุกเรื่อง แต่คนที่ถือตราสังหารปรปักษ์นั้นจะรอดจากภัยทั้งหมดไอ้ที่ว่าดวงไม่ดีหุ้นตกดวงแตกทำงานขาดทุนเหล่านั้น..เรื่องร้ายจะกลับเป็นดี ต่อไปเศรษฐกิจจะแย่บ้านเมืองจะวุ่นวายแต่เธอรอด ด้วยตรานี้จะทำอะไรก็ชนะคนทั้งปวง


    ### บอกได้ว่าเป็นเครื่องรางที่ทำยากมากทั้งมวลสารและตะกรุดที่ลงแต่ละดอกล้วนขับให้มีอำนาจดุจอาราธนาอาทิตย์เก้าดวงเป็นบริวารโฮ่วอี้ดับล้างขวากหนามได้ทุกสิ่ง เครื่องรางชิ้นนี้ไม่ใช่พระรามอย่างที่หลายท่านสอบถามกันหากแต่มีฤทธิ์เสมือนโฮ่วอี้รวมกำลังกับอีกาทองคำสุริยันทั้งเก้า เปรียบกับพยนต์ที่ฟังคำสั่งของเราทุกสิ่งไม่ใช่เทพที่รอการบูชา สำหรับรายการนี้ผู้เช่าให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดให้ชัดเจนพ่ออาจารย์ท่านจะหาสิ่งที่แรงที่สุด..เหมาะสมที่สุด..เสริมบารมีเจ้าของได้มากที่สุดมาผนึกไว้ด้านหลังตราสลักเทพให้เป็นของพิเศษเป็นคนๆไป(เหมือนได้ของขวัญเป็นของใช้ประจำตัวแต่ละคนแตกต่างกันออกไป) เป็นเครื่องรางที่ใช้ได้ตามคำสั่งเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงระดับประหารเทพแต่รุ่นนี้ฉันไม่ได้ทำมาเพื่อให้คนบูชาแบบเทพหากแต่ทำเป็นเครื่องรางของมนุษย์โดยยอดบุรุษต้นเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เทพทั้งหลายยังขยาดกลัว

    *** รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดให้ชัดเจนนะครับ (รอเปิดประวัติพรุ่งนี้..บอกเลยว่ารายการนี้อาถรรพ์แรงมากๆเพราะมวลสารโหดจริงๆเอาไว้ใช้กับคนที่ชีวิตมากเสี้ยนหนามมีศัตรูและสิ่งรบกวนรอบกายคอยรังควานกวนเราอยู่เสมอ..ทั้งมนุษย์และอมนุษย์)

    ร่วมทำบุญบูชา ตราสังหารปรปักษ์สลักเทพ(ประหารอีกาทองคำสุริยัน) บูชา 4,000 บาท


     
  6. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  7. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลจอมภพกำสรวลไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า(ข้าเอาให้เจ้า)

    ศาสตราประสาทประสิทธิ์ฝัน สำหรับผู้ที่ฝันสูง มีปรารถนาเกินตัว ดั่งว่า.....แม้พญามารยังฝันสูงจนถึงนิพพาน เป็นเคล็ดว่าแม้พญามารท่านฝันสูงขนาดนั้นยังสำเร็จ..ยังจะได้ตรัสเป็นพระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าในเบื้องหน้า ความปรารถนาอื่นใดของเราพระองค์ผู้บรมโพธิสัตว์ย่อมหยิบยื่นให้จนกว่าจะถึงพระนิพพาน ไม้อาญาสิทธิ์บารมีสูงสุดในองค์พญามาราธิราชที่พ่ออาจารย์ท่านทำได้เพียงครั้งเดียว ด้วยว่า.. ไม้ครูย่อมต้องอาศัยแรงครูในการชักชวนผู้เป็นเจ้าของเพื่อสืบทอดอาญาสิทธิ์แห่งครูนาม "พญามาราธิราช" หรือท้าวมาลัยผู้เป็นหน่อพุทธเจ้าอนาคตวงศ์ อักขระอาถรรพ์ในสายวิชาพญามาราธิราชและผงวิเศษต่างๆในตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแรงมาก

    พญามารหกพระพักตร์
    ที่ท่านให้ทำนี้เป็นพญามาราธิราชที่มีอาถรรพ์แรงสุดสูงสุดที่ท้าวมาลัยท่านสั่งให้พ่ออาจารย์ทำเพื่อโปรดศิษย์ในสายบารมีองค์ท่านเพราะรูปกายท่านแท้จริงแล้วมีหกหน้าเช่นนี้ ท่านว่าต้องทำหกหน้าเท่านั้นบารมีถึงจะลงมาได้เต็ม ทั้งท่านให้ทำเพียงแต่เศียรเท่านั้นด้วยว่าอาถรรพ์จะแรงกว่าทำเต็มองค์


    " บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ "...(พุทธดำรัส)

    "พระยามารนี้เวลานี้ช่วยชาวบ้านพวกพุทธมามกะทุกคน พระยามารต้องบังคับให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ ที่ประคับประคองพวกเรานี่แหละ "(หลวงพ่อฤาษี)

    หากกล่าวถึงเครื่องมงคลที่เป็นรูปของพญามาราธิราชอันมีพระบารมีเต็มโดยเฉพาะ และใช้อาราธนาให้เข้ากับกรรมหรือวงจรสำคัญที่มีคุณลักษณะพิเศษนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างแล้วย่อมยากอย่างแท้จริง ด้วยต้องใช้วัตถุและมวลสารที่เป็นของพญามารมีบารมีของท่านจริงๆมาทำสิ่งนี้ย่อมเรียกได้ว่าเห็นยากเอายาก ...เมื่อจะกล่าวถึงปกติวิสัยของพญามาราธิราชนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่องค์สำคัญแต่คนส่วนมากก็ยังยึดติดกับคำว่ามาร ไม่ได้เข้าใจว่าท่านคือเทวดาจำพวกหนึ่ง ไปเข้าใจเสียว่ามารคือตัวตนที่น่าเกลียดน่ากลัวจินตนาการให้น่าสยดสยองดุจยักษ์มารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วพญามารนอกจากจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีล้นฟ้าแล้วยังมีฐานะเป็นถึงจอมภพหรือเจ้าสวรรค์ชั้นปรนิม ขึ้นชื่อว่ามีภพภูมิที่สูงกายทิพย์ย่อมสง่างามและมีความปราณีตมากกว่าเทวดาต่ำชั้นลงไปทั้งหมด ท่านว่าในกามภพนั้นแม้เราคิดว่าเทวดาตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึงนิมานรดีมีรูปงาม แต่นั่นย่อมไม่อาจเทียบได้กับชั้นปรนิมนับประสาอะไรจะไปเทียบกับพญามาร

    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า "ในบรรดาผู้ใหญ่ยิ่งทั้งหมด มารเป็นเลิศ" .... "พญามาร มีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ " จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมารหรือประมุขเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุด ที่มีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด แท้จริงแล้วมารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คือกามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป,เสียง,กลิ่น,รส,โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมวงจรแห่งกามคุณการดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ" หากไม่มีเหล่าเทวปุตตมารบรรดาโพธิสัตว์แลเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณในตนทั้งสิ้น เมื่อพูดถึงมารหลายคนย่อมคิดเสมอว่าขึ้นชื่อว่ามารย่อมมีหน้าที่ทำลายล้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมารทั้งหลายและพญามารนั้นเค้าก็มีหน้าที่ของเค้าหากให้กล่าวกันจริงๆแล้วหน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่มากเสียด้วย หากแต่ไม่มีใครนิยมพูดถึงกันและไม่รู้ไม่เข้าใจ..ไม่สนใจจะรู้ หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิดเพราะพญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตามจะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้าก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์,มีอานุภาพใหญ่,มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือเทวปุตตมาร แม้แต่พรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น

    มงคลจอมภพกำสรวลไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้าจึงเป็นไม้ครูในอาญาสิทธิ์แทนครูพญามาราธิราชอย่างแท้จริง หากใครที่ติดตามกระทู้มาตลอดจะทราบดีว่ามีการกล่าวถึงพญามารอยู่เนืองๆด้วยท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งพ่ออาจารย์ยังยึดเป็นครูองค์สำคัญ โดยการทำไม้อาญาสิทธิ์นั้นท่านได้ขออนุญาติครูซึ่งพญามารท่านก็ได้กำหนดให้กระทำในรูปแบบที่ท่านต้องการ นอกจากพระเวทย์สวรรค์ชุดนิพพานมารฟ้าอันจะช่วยผู้ที่ฝันสูงมีความปรารถนาเกินตัวแล้วท่านยังกำหนดให้แกะพญามารหกพระพักต์ให้มีใบหน้าละมุนงดงามอ่อนช้อยที่สุดโดยต้องแกะรูปท่านจากไม้หิ่งหายผีเท่านั้น ท่านว่าไม่เคยมีใครทำรูปท่านได้ถูก..ได้ตรงเลย หนนี้จึงให้พ่ออาจารย์ทำไว้ให้เหมือนรูปกายแท้จริงยามท่านแผลงฤทธิ์มากที่สุด ### นั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกเศียรครูพญามารว่าปางแผลงฤทธิ์หมายถึงพร้อมที่สุดแล้วที่จะออกฤทธิ์ออกเดชด้วยเป็นปางสูงสุด

    ด้วยจะทำให้มีฤทธิ์อำนาจและแรงครูสูงสุดม้อาญาสิทธิ์นั้นองค์พญามาราธิราชท่านจึงให้นำเอาคตของเจ้าปู่ชัยพรหมและของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมาเคี่ยวรวมกับธาตุกายสิทธิ์ พร้อมทั้งใช้เพลิงพิธีหลอมเอาตบะและอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมารวมกันอุดไว้ภายในเป็นแก่นวิชาเพื่อสร้างไม้อาญาสิทธิ์ที่มีพลังงานเหนือโลกอยู่เหนือกฏและความเป็นไปทุกอย่างของโลกท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้จริงๆ การทำไม้อาญาสิทธิ์ของพญามารนั้นพ่ออาจารย์ว่าทุกอย่างต้องเคร่งครัดและปราณีตอย่างมาก ด้วยเป็นเครื่องสูงที่มีอานุภาพเป็นเลิศแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดบุคคลนั้นดุจมีอาญาสิทธิ์พิเศษ ทั้งเทพแห่งนิมมานรดีจะต้องคอยรักษาเนรมิตสิ่งต่างๆตามที่ปรารถนาให้ดั่งใจคิด และเหล่าเทวปุตตมารอันอยู่ภายใต้บัญชาแห่งพญามารทั้งหลายก็จะบันดาลให้บุคคลนั้นเจริญด้วยกามคุณอันเป็นความสุขอย่างยิ่งในโลกด้วยการสร้างสรรค์อย่างปราณีต พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆนะชีวิตคนเกิดมาแล้วก็ควรจะเหยีบเรือสองแคมไว้บ้างถ้าจะตัดโลกตัดทุกอย่างก็ตัดให้มันจริงอย่าเพียงแต่คิดให้หรูให้ดูดี หากอยากตัดแล้วก็อย่าอยู่เป็นมนุษย์เลยไปบวชเสียไปทำความเข้าใจทำให้แจ้งให้เห็นในอรหันต์นิพพานนั่นเถิด แต่หากจะอยู่เป็นปุถุชนใช้ชีวิตไม่ให้ข้องขัดหวังเอาดีทางโลกเจริญไปพร้อมกับการปฏิบัติธรรมดูแลพระศาสนาแล้วเช่นนี้เราจึงเรียกว่าเหยียบเรือสองแคม ด้วยหมายความว่าเจริญไปพร้อมๆกันทั้งทางโลกและทางธรรมดังนั้นอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาวิวัฒนาการตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้า,สิ่งสวยงามสะดวกสบาย,ความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย สิ่งใดอยู่ในกามคุณห้านั่นแหละคือานุภาพและการควบคุมของเหล่าเทวปุตตมารมันคือหน้าที่ของชาติพันธุ์เขา เป็นหน้าที่อันมีมาแต่กำเนิด..หน้าที่ซึ่งทำด้วยความเชี่ยวชาญ..หน้าที่อันเหมาะสมกับฤทธิ์อำนาจตน

    ไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลชุดนิพพานมารฟ้านี้มีอำนาจ "บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต" อย่างแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเรานั้นถ้าถึงกับบิดเบือนคราเคราะห์,เยาะเย้ยเวรกรรม,ผันผวนชะตา,ปั่นป่วนพรหมลิขิตได้แน่นอนว่าชีวิตนี้ย่อมไม่มีไม่รู้จะให้เดือดร้อนเรื่องอะไร อันจอมฟ้าพญามารนั้นหากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใดด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ..มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลายของทุกชาติพันธุ์..มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวกสบาย,ความยิ่งใหญ่ในภพ,ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆอยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย..หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด,พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็นเกินประโยชน์ใช้สอย..เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้นั่นคือการอุปถัมภ์ของเหล่าเทวปุตตมารนั่นเอง

    ตัวจอมฟ้าพญามารนี้ได้เคยกล่าวไว้เบื้องหน้าพระบรมศาสดาว่า "ตัวพระองค์มีฤทธิ์ที่จะบันดาลภูเขาทั้งลูกให้เป็นทองคำได้ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในกามสามารถขวนขวายเรื่องทรัพย์ อำนวยประโยชน์สุขต่างๆตามแต่จะประสงค์ " ดังนั้นบุคคลใด..สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง,ความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันจอมฟ้าพญามารนั้นท่านได้กำหนดรูปแบบของไม้อาญาสิทธิ์แทนวาสนาบารมีของท่านให้แล้วเสร็จตั้งแต่แกะพระเศียรและแม้แต่ผงที่จะใช้อุดต้องจำเพาะลงไปว่านอกจากผงคตที่อุดภายในนั้นก็ใช้อุดปิดได้เพียงผงพุทธนิมิตกับผงพุทธเนรมิตรเท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเพียรลบถมผงทั้งสองนี้ล้วนๆจำนวนนึงนำมาคลุกกับผงไม้ตะเคียนช่อฟ้าอุโบสถก่อนจะอุดปิดก้นด้ามไม้อาญาสิทธิ์ ท่านว่าตะเคียนช่อฟ้านี้คืออยู่ที่สูงค้ำฟ้าไม่ต่ำลงซึ่งนอกจากจะอุดผงสำคัญอันมีคุณนิมิตเนรมิตได้ทุกอย่างด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณสมกับอานุภาพทางด้านสร้างสรรค์ความสุขอันเกิดแต่กามคุณของพญามาราธิราช พ่ออาจารย์ว่าเมื่อพระผู้สร้างอยู่กับตัวแล้วการใช้ชีวิตทำทุกกิจให้แจ้งนั้นสิ่งต่างๆบรรดามีหากประสงค์อะไรให้บนบอกท่านเอา

    ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า
    ด้วยพญามาราธิราชท่านเล็งเห็นว่าปัญหาความเสื่อมโทรมและทุกข์ยากของผู้คนนั้นกำลังจะแผ่ขยายมายังศิษย์ทั้งหลาย ท่านเมตตาด้วยว่ายังมีบางคนที่ลุกขึ้นสู้ถึงแม้จะมีฐานะยากจนหรือประสบชะตากรรมอันยากลำบากแต่ก็มีความขยันอดทนและตั้งใจเดินตามความใฝ่ฝันที่ดีของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพญามารท่านยังเมตตาอยู่ตรงนี้เพราะคนที่มีฝันเหล่านั้นเมื่อฝันแล้วเดินตามจึงจะเกิดพลังงานสร้างสรรค์เหนือพรหมหรือกรรมลิขิตเรียกว่าชีวิตยังมีไฟเพียงมุ่งเดินไปตามฝันก็จะพบแสงสว่าง เช่นนั้นท่านจึงให้วิชามาชุดนึงซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า "ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า" ท่านว่าให้เอาไว้ใช้ช่วยคนที่เขาไม่ย่อท้อเพื่อดึงเขาเข้าสู่ความสำเร็จไม่ว่าฝันนั้นจะสูง...จะยาก..จะอยู่ไกลเพียงใด ในขณะเดียวกันวิชาชุดนี้จะมีอานุภาพควบคุมพลังงานด้านบวกทุกๆสิ่งมาเกื้อกูลเราโดยตรงท่านว่าไม่ว่าเราจะเป็นใครจะมีความฝันอย่างไรต่อไปนี้ย่อมทำฝันของเราให้เป็นจริงได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติคนนั้นย่อมมีความปรารถนาไม่สิ้นสุดมีความคิดที่จะทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา บางคนก็ละเมอเพ้อพกในสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้จึงเรียกว่ามีทั้งคนประเภทที่สามารถทำให้ความฝันเป็นจริงได้ผ่านการกระทำของตนเอง(เป็นประเภทคิดแล้วลงมือทำ) กับอีกประเภทนึงคือฝันเกินจริงเป็นเพียงจินตนาการที่ตนติดอยู่ในความปรารถนานั้นด้วยพ่ออาจารย์ท่านเข้าใจว่าการทำความฝัน,ความคิด,ความปรารถนา(ที่เราตั้งไว้ให้เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต)นั้นให้เป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนที่เราจะผ่านไปยังจุดที่สูงที่สุดได้เราต้องผ่านอะไรมา *** ถึงแม้จะประสบความสำเร็จแต่เส้นทางนั้นกลับไม่ง่ายเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่มีแต่แรงใจอย่างนี้ย่อมเหนื่อยมากและใช้เวลานานมากเกินไปเช่นกัน เช่นนั้นนิพพานมารฟ้าจึงเป็นวิชาที่จะชักนำเราไปสู่ความฝันขั้นสูงสุดแบบที่ไม่ต้องรอเวลาไม่ต้องใช้กำลังเกินตัวด้วยอานุภาพแห่งท้าวมาลัยหรือพญามาราธิราชผู้เป็นใหญ่ประณีตสูงสุดในกามคุณ ท่านว่าเพราะความสำเร็จนั้นมันมีอยู่หลายแบบแต่เนื่องจากเรานั้นเป็นมนุษย์จึงรู้ไว้เลยว่าทุกอย่างมันเป็นความว่างเปล่าอะไรที่อยากอะไรที่ต้องการมันมักจะไม่ได้มา ส่วนอะไรที่เราไม่คิดไม่ปรารถนานั่นย่อมได้มาง่ายๆเช่นนั้นพอคนเราตั้งปณิธานตั้งความหวังไว้แล้วเดินไปตามฝันเส้นทางนั้นจึงมักเปนอะไรที่ยากเป็นพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเพราะเราเป็นมนุษย์ส่วนความสำเร็จนั้นเขาเป็นนามธรรมเป็นกฏของวัฏจักร ดังนั้นความฝันที่จะสำเร็จได้จึงเป็นนามธรรมที่สูงส่งยิ่งเกินกว่าความคิดเหลวไหลที่ไขว่คว้าได้ ทีนี้เมื่อมนุษย์เอาตัวเองเข้าไปหาไปไขว่คว้านามธรรมเช่นนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากและเกินกำลังแต่ด้วยอำนาจพญามารผู้ควบคุมกฏสัจธรรมกามคุณทั้งมวลท่านจะเอื้อให้ปัจจัยทั้งปวงเกิดขึ้นได้เพื่อดึงเอามโนและความคิดของเรามาทำให้มันเป็นจริงในโลกแห่งความจริง ท่านจึงเปรียบห้วงฝันบรรพกาลนี้ว่าสำคัญนักด้วยเขาเป็นปัจจัยที่จะสร้างตัวตนของเรา..สร้างความคิดเราให้ปรากฏในโลกความจริง

    สำหรับคนที่ไม่สามารถทำให้จินตนาการหรือความฝันง่ายๆเป็นความจริงได้ แม้กระทั่งเรื่องฝันอันสูงสุดที่ตั้งไว้เป็นเป้าสุดท้ายในชีวิตว่าชาตินี้ต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องอันยากที่มนุษย์จะทำก็ยังไม่ได้ทำ ไม่ว่าจะเรื่องใดนั่นก็ล้วนเป็นความปรารถนาที่จะจุดไฟในชีวิตของตัวเราอยู่ลึกๆทั้งสิ้นแต่ทุกคนคงรู้ดีกันอยู่ว่ามันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน *** บางคนนั้นเหนื่อยเพราะเดินตามฝันมามากและเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทำตามฝันให้สำเร็จหรือเป็นจริงได้ บางคนนั้นยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ด้วยอาชีพกับสิ่งที่คิดนั้นเป็นคนละเรื่องกันเลยจึงไม่มีโอกาสเดินตามความตั้งใจของตนเองด้วยพันธะต่างๆมากมายที่เกี่ยวรัดพัวพันเนื้อตัวและชีวิตเราอยู่ บางครั้งจึงทำได้เพียงเสียดายและเสียใจทำได้เพียงแค่ยืนมองฝันนั้นอยู่ในความคิดในขณะที่บางคนยืนมองความฝันนั้นหลุดลอยไป บางทีเห็นคนอื่นทำในสิ่งที่เราคิดไว้จนสำเร็จก็ยังทอดถอนใจว่าทำไมคนๆนั้นถึงไม่ใช่ตัวเรา อาการค้างคาใจและปล่อยไปเหล่านี้มันทำให้เราเดินวนอยู่ในเกมส์ชีวิตที่เราเล่นไม่ชนะ ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งก่อสร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จดุจนั่งอยู่ในบ้านที่ไม่มีหลังคาพอฝนมันตกฟ้ามันผ่าก็กังวลหาทางรอดไปวันๆ ด้วยความฝันนั้นถึงบางทีพอทำจริงๆแล้วอาจจะดูยากเกินไปบางคนพยามจนเหนื่อยแทบตายก็ไปไม่ถึงเสียทรัพย์สินลงทุนลงแรงไปเปล่าๆ ความคิดว่าเราเสียดายเวลาเสียดายนั่นนี่ไปเรื่อยมันจึงเป็นความคิดที่เราบั่นทอนกำลังใจตัวเอง ### เช่นนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยหากจะเดินไปให้สุด..ไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดคว้าเอานามธรรมที่ยิ่งใหญ่ดึงมันลงมาก็คือแรงสนับสนุน ด้วยห้วงฝันบรรพกาลนั้นจะเป็นกำลังที่เราขาดสนับสนุนเราให้ความฝันเปลี่ยนถ่ายปัจจัยเกื้อกูลกันเป็นชีวิตจริง

    ชีวิตใครที่หมดหวังหมดสิ้นกำลัง...แลหยุดเดินแล้วท่านว่าต่อไปไม้ครูนิพพานมารฟ้าจะเป็นดั่งกุญแจเพียงดอกเดียวที่ใช้ไขเปิดชะตาเขา ผลักให้เราเข้าใกล้ความฝันช่วยให้มีแรงบวกสนับสนุนเอาชนะความคิดและจิตใจตัวเองเป็นปฐมก่อนจะเอาชนะทุกสิ่งในโลกแห่งความจริง ท่านว่าขอแค่เพียงเราลงมือและอาราธนาไม้ครูไว้ปัจจัยเสี่ยงต่างๆในชีวิตจะจางลางเลือนไป ขอแค่เรากล้าในสิ่งที่ถูกคุณของห้วงฝันบรรพกาลนั้นจะผลิดอกออกผลให้เราเห็นให้เราค้นหาอีกตัวตนนึงที่ซ่อนอยู่ในตัวเองของเราเจอ ทั้งปลดปล่อยตัวเราออกจากโลกแห่งความฝันที่ปิดตาย..โลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริงขอเพียงตัวตนของเรามีความต้องการและมีความพร้อมที่จะรับทุกอย่างเพื่อเป้าหมายนั่นย่อมเป็นธุระของท้าวมาลัยที่จะ"นำมาให้" ด้วยความปรารถนาให้ชีวิตตนสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้..ไม่ใช่เรื่องที่มีวันหมดอายุ..ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับอายุขัยว่าจะหนุ่มจะแก่ทุกคนมีความฝันได้หมด ทั้งฝันเรื่องการทำงานการประสบความสำเร็จต่างๆในขณะที่ความสำเร็จบางคนไม่อยู่ที่การเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคนั่นก็มีนั่นแหละกำลังของท้าวมาลัยท่านจะนำเราเข้าหาสุขอันเกิดขึ้นจากฝันที่สมปรารถนา ทั้งยังจะป้องกันตัวเรายามเจออุปสรรคทั้งหลายในปัจจัยเสี่ยงรอบตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนั้นย่อมมีจิตวิญญาณมารฟ้าคือพญามาราธิราชไม่ใช่มงคลวัตุถุปกติธรรมดา ท่านจะคอยเติมเต็มให้เราสมหวังในความฝันทุกด้านขอเพียงใจเรามีปรารถนาเพียงเท่านั้นไม่ต้องพูดไม่ต้องขอก็ได้ดั่งใจ

    ผู้ถืออาญาสิทธิ์แห่งมารฟ้าผู้เป็นจอมเทพจะเกิดความเจริญรุ่งเรืองในกามคุณบริบูรณ์ทุกสิ่งไม่ขาดสายดั่งพลิกกลับโชคชะตาให้สูงขึ้มีอำนาจวาสนาบารมีมีคนนับหน้าถือตาทั้งยังใช้สะกดให้คนเชื่อฟังอยู่ในอำนาจของเรา ใครที่ดวงตกทำมาหากินไม่ขึ้นไม่เคยมีโชคเลยนั่นแหละพญามารท่านเปิดดวงให้เราทำตามความฝันได้ง่ายๆทำอะไรก็สำเร็จง่ายดายได้สิ่งที่ต้องการจากคนอื่นง่ายๆเหมือนเขาโดนโจรปล้น ท่านว่าไม้อาญาสิทธิ์ชุดนี้ใครมีไว้จะรุ่งเรืองเอาชนะคนใจแข็ง,เอาชนะคนรัก,เหนือคู่แข่ง,เหนือศัตรู แม้ลงมือทำอะไรย่อมกินใจผู้อื่นขอเพียงมีความฝันไม่ว่าจะเรื่องใดอาญาสิทธิ์มารฟ้าย่อมบันดาลให้เร็วไวได้เสมอแม้ไม่ต้องขอไม่ต้องอธิษฐาเพียงเราใช้ชีวิตของเราไป เท่านี้ก็จะพบเจอความสำเร็จตามฝันอยู่ที่ไหนชีวิตไม่มีตกอับ

    คาถาบูชา
    นะโม วะสะวะตีมาเร อนาคะตังเส พุทธัสสะ(ใช้ภาวนา)
    โอม วสวัตตีโพธิสัตโตนะโมพุทธานะ ปาฏิหารัญจะ ทวาทะสะ กาละกัญชะมหา ภิสมาปะสะนะวา อิติสิทชะติ


    *** มงคลจอมภพกำสรวลไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า(ข้าเอาให้เจ้า)ในบารมีของพญามาร พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าองสิ่งนี้ต้องใช้ชะตาทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนครอบครองจึงไม่ให้พูดอะไรก่อนประกอบกับของมีน้อยมาก ท่านว่าถ้าใครฉุกคิดได้ก็ตรงตามชื่อเลยใช้อย่างนั้นแหละ"ข้าเอาให้เจ้า" ...เอาอะไร ก็นี่แหละ...อมเทพผู้ควบคุมความปรารถนากิเลสฝ่ายมารความต้องการจะให้จะมีของสรรพสัตว์,เทวดา,มาร,พรหมทั้งหมด ....จอมเทพผู้มีอำนาจบงการได้แม้แต่ท้าวมหาพรหม ...จอมเทพผู้ประสิทธิประสาทห้วงฝันแต่ครั้งบรรพกาลให้เกิดขึ้นได้เสมอๆ..เธอเข้าใจมั๊ย "ข้าเอาให้เจ้า" คนที่เอาให้นี่ระดับจอมภพก็คือพญามารโพธิสัตว์ผู้จะตรัสรู้เป็นพระธรรมสามีสัมมาสัมพุทธเจ้า รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นนะครับ รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลจอมภพกำสรวลไม้ประสิทธิ์ห้วงฝันบรรพกาลนิพพานมารฟ้า(ข้าเอาให้เจ้า) บูชา 4,000 บาท



     
  8. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  9. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงอาภรณ์มารฟ้าชุดพญามารน้อย(ผังตะกรุดพาลีดึงบารมี)

    เป็นที่ทราบกันดีว่า
    พ่ออาจารย์ท่านเป็นต้นตำรับการสร้างเครื่องมงคลสายพญามาราธิราชจึงทำให้ทุกครั้งที่ท่านออกเครื่องมงคลในบารมีของพญามารหรือท้าวมาลัยนั้นมีผู้ติดตามและซุ่มจองบูชากันมาก แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่พลาดไปทั้งยังบ่นอยากได้พญามารหรือองค์ท้าวมาลัยที่ลงวิชาเต็มขั้นองค์เล็กๆบ้าง เพื่อให้คนรัก,ลูก,หลานหรือคนในครอบครัวคนที่เราเป็นห่วงให้เค้าได้มีโอกาสอาราธนาบารมีขององค์พญามารฟ้า พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ซุ่มทำพระผงอาภรณ์มารฟ้าชุดพญามารน้อยเอาไว้

    สำหรับผู้ที่ฝันสูง มีปรารถนาเกินตัวควรอาราธนาท้าวมาลัย(พญามาร) ดั่งว่า.....แม้พญามารยังฝันสูงจนถึงนิพพาน เป็นเคล็ดว่าแม้พญามารท่านฝันสูงขนาดนั้นยังสำเร็จ..ยังจะได้ตรัสเป็นพระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าในเบื้องหน้า ความปรารถนาอื่นใดของเราพระองค์ผู้บรมโพธิสัตว์ย่อมหยิบยื่นให้จนกว่าจะถึงพระนิพพาน พระผงงบารมีในองค์พญามาราธิราชชุดนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านทำเพื่อสืบทอดวิชาแห่งครูนาม "พญามาราธิราช" หรือท้าวมาลัยผู้เป็นหน่อพุทธเจ้าอนาคตวงศ์ ผงอาถรรพ์ในสายวิชาพญามาราธิราชและวิชาพิเศษต่างๆจึงถูกรวบรวมไว้ในพระผงรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแรงมาก

    พระผงพญามาร
    ที่ท่านให้ทำนี้เป็นพญามาราธิราชเต็มองค์ชูดอกบัวบานบัวหุบ เป็นปางอาถรรพ์ที่ท้าวมาลัยท่านสั่งให้พ่ออาจารย์ทำเพื่อโปรดศิษย์ในสายบารมีองค์ท่านไม่ว่าชีวิตจะเหี่ยวเฉาดั่งบัวหุบบัวบัวแล้งน้ำฉันใดเมื่อได้อาราธนาแล้วย่อมพ้นน้ำเป็นดอกบัวบานเสมอเช่นนี้ ท่านว่าต้องทำ"พญามารทัศนาปทุมมาศ"แบบนี้ถึงจะแก้อาถรรพ์ชีวิตคนที่ตกอับเหี่ยวเฉาให้ฟื้นคืนได้ ทั้งวิชาทำพระพิมพ์สำคัญของท่านนี้ท่านยังจำกัดให้ทำเพียงหนเดียวเท่านั้นด้วยว่าเป็นของมีอาถรรพ์ครูแรงผู้ที่จะได้ไว้ต้องมีบารมีคู่ควร

    " บรรดาสัตว์ผู้มีอัตภาพ (ใหญ่) อสุรินทราหูเป็นเลิศ บรรดาบุคคลผู้บริโภคกาม พระเจ้ามันธาตุราชเป็นเลิศ บรรดาผู้ใหญ่ยิ่ง มารเป็นเลิศ "...(พุทธดำรัส)

    "พระยามารนี้เวลานี้ช่วยชาวบ้านพวกพุทธมามกะทุกคน พระยามารต้องบังคับให้ลูกน้องไปช่วยเหลือ คือ ที่ประคับประคองพวกเรานี่แหละ "(หลวงพ่อฤาษี)

    หากกล่าวถึงเครื่องมงคลที่เป็นรูปของพญามาราธิราชอันมีพระบารมีเต็มโดยเฉพาะ และใช้อาราธนาให้เข้ากับกรรมหรือวงจรสำคัญที่มีคุณลักษณะพิเศษนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะสร้างแล้วย่อมยากอย่างแท้จริง ด้วยต้องใช้วัตถุและมวลสารที่เป็นของพญามารมีบารมีของท่านจริงๆมาทำสิ่งนี้ย่อมเรียกได้ว่าเห็นยากเอายาก ...เมื่อจะกล่าวถึงปกติวิสัยของพญามาราธิราชนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์ใหญ่องค์สำคัญแต่คนส่วนมากก็ยังยึดติดกับคำว่ามาร ไม่ได้เข้าใจว่าท่านคือเทวดาจำพวกหนึ่ง ไปเข้าใจเสียว่ามารคือตัวตนที่น่าเกลียดน่ากลัวจินตนาการให้น่าสยดสยองดุจยักษ์มารเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วพญามารนอกจากจะเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่มีบารมีล้นฟ้าแล้วยังมีฐานะเป็นถึงจอมภพหรือเจ้าสวรรค์ชั้นปรนิม ขึ้นชื่อว่ามีภพภูมิที่สูงกายทิพย์ย่อมสง่างามและมีความปราณีตมากกว่าเทวดาต่ำชั้นลงไปทั้งหมด ท่านว่าในกามภพนั้นแม้เราคิดว่าเทวดาตั้งแต่จาตุมหาราชิกาไปจนถึงนิมานรดีมีรูปงาม แต่นั่นย่อมไม่อาจเทียบได้กับชั้นปรนิมนับประสาอะไรจะไปเทียบกับพญามาร

    พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า "ในบรรดาผู้ใหญ่ยิ่งทั้งหมด มารเป็นเลิศ" .... "พญามาร มีโคตรเสมอด้วยพระอินทร์ " จะเรียกว่าพญามารคือประมุขฝ่ายมารหรือประมุขเทวดาฝ่ายมารในสวรรค์ชั้นสูงสุด ที่มีความเป็นทิพย์ประณีตที่สุดอันจะพึงมีได้ในสวรรค์และเทวดาทั้งมวลก็ไม่ผิด แท้จริงแล้วมารก็คือเทวดา หากแต่มีหน้าที่ซึ่งตรงนี้หน้าที่ของพญามารก็คือกามคุณทั้งหลายประกอบด้วยรูป,เสียง,กลิ่น,รส,โผฏฐัพพะ ด้วยท่านมีหน้าที่ดูแลและควบคุมวงจรแห่งกามคุณการดูแลวงจรที่ยิ่งใหญ่นั้นเมื่อมองในมุมกลับหากพ้นจากจุดนี้ก็จะถึงซึ่งความเป็นอริยะเช่นกัน ดังนั้นเมื่อไม่มีมารแล้วจะมีพระอริยะได้อย่างไรจุดนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างอาจมองว่าขัดแย้งกัน แต่แก่นแท้กลับหนุนเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันโดยที่เราไม่อาจเข้าใจ" หากไม่มีเหล่าเทวปุตมารบรรดาโพธิสัตว์แลเทวดาทั้งหลายย่อมไม่มีหน้าที่ให้กระทำเพื่อที่จะเพิ่มบารมีของตน ย่อมไม่มีบททดสอบต่างๆเพื่อการก้าวล่วงไปถึงความเป็นอรหันต์หรือโพธิญาณในตนทั้งสิ้น เมื่อพูดถึงมารหลายคนย่อมคิดเสมอว่าขึ้นชื่อว่ามารย่อมมีหน้าที่ทำลายล้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันมารทั้งหลายและพญามารนั้นเค้าก็มีหน้าที่ของเค้าหากให้กล่าวกันจริงๆแล้วหน้าที่ของมารนั้นกลับเป็นคุณประโยชน์กับหมื่นจักรวาลและสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่มากเสียด้วย หากแต่ไม่มีใครนิยมพูดถึงกันและไม่รู้ไม่เข้าใจ..ไม่สนใจจะรู้ หน้าที่นั้นคือหน้าที่ของการสร้างสรรค์จะเรียกว่าพญามารก็เป็นพระผู้สร้างองค์หนึ่งทีเดียวย่อมไม่ผิดเพราะพญามารคือกษัตริย์แห่งภพปรนิมในฝ่ายมาร ภพนี้เทวดาทั้งหลายปรารถนาสิ่งใดก็ตามจะมีเทวดาในภพต่ำกว่าหรือภพนิมมานรดีมาคอยตามเนรมิตถวาย แต่ถึงกระนั้นหากเป็นเรื่องการสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับกามคุณทั้งห้าก็ไม่มีเทวดาที่ไหนจะมีฤทธิ์,มีอานุภาพใหญ่,มีความประณีตที่จะสร้างสรรค์ได้เหนือเทวปุตตมาร แม้แต่พรหมก็ยังไม่เป็นเลิศในกามคุณเช่นนั้น

    พระผงอาภรณ์มารฟ้าหรือพญามารทัศนาปทุมมาศในบารมีพญามาราธิราชจึงเป็นเครื่องมงคลชุดพิเศษที่ใครได้..ใครทันอาราธนาเสมอดุจได้รับการห่มคลุมปกปักรักษาอยู่ในอ้อมกอดท้าวมาลัยผู้เปรียบประหนึ่งเทพบิดาเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกพระผงสำคัญรุ่นนี้ว่าอาภรณ์มารฟ้า ท่านว่านั่นแหละความห่วงหาความรักอันบิดา(พ่อมารฟ้า)มีต่อบุตร(ลูกๆ)นั้นจะเป็นดั่งอาภรณ์มงคลที่ห่มคลุมชีวิตเรา หากใครที่ติดตามกระทู้มาตลอดจะทราบดีว่ามีการกล่าวถึงพญามารอยู่เนืองๆด้วยท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ทั้งพ่ออาจารย์ยังยึดเป็นครูองค์สำคัญ โดยการทำพระผงนี้ท่านได้ขออนุญาติครูซึ่งพญามารท่านก็ได้กำหนดให้กระทำในรูปแบบที่ท่านต้องการ นอกจากผงวิเศษพระเวทย์สวรรค์พญามารทัศนาปทุมมาศที่ใช้แก้อาถรรพ์ชีวิตคนที่ตกอับเหี่ยวเฉาให้เบ่งบานแล้วท่านยังกำหนดให้สร้างพิมพ์ทัศนาปทุมมาศอันเป็นนิมิตแห่งความรุ่งเรืองแบบโกงชีวิต(ในรูปแบบท้าวมาลัย)อย่างที่สุดด้วย ท่านว่าไม่เคยมีใครทำรูปท่านได้ถูก..ได้ตรงเลย หนนี้จึงให้พ่ออาจารย์ทำไว้ให้เหมือนรูปกายแท้จริงมากที่สุด

    ด้วยจะทำให้มีฤทธิ์อำนาจและแรงครูสูงสุดพระผงสำคัญนั้นองค์พญามาราธิราชท่านจึงให้นำเอาคตของเจ้าปู่ชัยพรหมและของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมาเคี่ยวรวมกับธาตุกายสิทธิ์ทำผงวิเศษ พร้อมทั้งใช้เพลิงพิธีหลอมเอาตบะและอานุภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นมารวมกันผสมสร้างพระผงพญามารน้อยเพื่อสร้างพญามารที่มีพลังงานเหนือโลกอยู่เหนือกฏและความเป็นไปทุกอย่างของโลกท่านว่าบอกได้เพียงเท่านี้จริงๆ การทำพระผงในบารมีพญามารนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าทุกอย่างต้องเคร่งครัดและปราณีตอย่างมาก ด้วยเป็นเครื่องสูงที่มีอานุภาพเป็นเลิศแม้สถิตย์อยู่กับผู้ใดบุคคลนั้นดุจมีอาญาสิทธิ์พิเศษ ทั้งเทพแห่งนิมมานรดีจะต้องคอยรักษาเนรมิตสิ่งต่างๆตามที่ปรารถนาให้ดั่งใจคิด และเหล่าเทวปุตตมารอันอยู่ภายใต้บัญชาแห่งพญามารทั้งหลายก็จะบันดาลให้บุคคลนั้นเจริญด้วยกามคุณอันเป็นความสุขอย่างยิ่งในโลกด้วยการสร้างสรรค์อย่างปราณีต พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาตรงๆนะชีวิตคนเกิดมาแล้วก็ควรจะเหยีบเรือสองแคมไว้บ้างถ้าจะตัดโลกตัดทุกอย่างก็ตัดให้มันจริงอย่าเพียงแต่คิดให้หรูให้ดูดี หากอยากตัดแล้วก็อย่าอยู่เป็นมนุษย์เลยไปบวชเสียไปทำความเข้าใจทำให้แจ้งให้เห็นในอรหันต์นิพพานนั่นเถิด แต่หากจะอยู่เป็นปุถุชนใช้ชีวิตไม่ให้ข้องขัดหวังเอาดีทางโลกเจริญไปพร้อมกับการปฏิบัติธรรมดูแลพระศาสนาแล้วเช่นนี้เราจึงเรียกว่าเหยียบเรือสองแคม ด้วยหมายความว่าเจริญไปพร้อมๆกันทั้งทางโลกและทางธรรมดังนั้นอานุภาพแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาวิวัฒนาการตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันวิทยาการความเจริญก้าวหน้า,สิ่งสวยงามสะดวกสบาย,ความยิ่งใหญ่โอ่อ่าอัครฐานทั้งหลาย สิ่งใดอยู่ในกามคุณห้านั่นแหละคือานุภาพและการควบคุมของเหล่าเทวปุตตมารมันคือหน้าที่ของชาติพันธุ์เขา เป็นหน้าที่อันมีมาแต่กำเนิด..หน้าที่ซึ่งทำด้วยความเชี่ยวชาญ..หน้าที่อันเหมาะสมกับฤทธิ์อำนาจตน

    พระผงในบารมีมารฟ้านั้นย่อมมีอำนาจ "บิดเบือนคราเคราะห์ เยาะเย้ยเวรกรรม ผันผวนชะตา ปั่นป่วนพรหมลิขิต" อย่างแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนเรานั้นถ้าถึงกับบิดเบือนคราเคราะห์,เยาะเย้ยเวรกรรม,ผันผวนชะตา,ปั่นป่วนพรหมลิขิตได้แน่นอนว่าชีวิตนี้ย่อมไม่มีไม่รู้จะให้เดือดร้อนเรื่องอะไร อันจอมฟ้าพญามารนั้นหากลงมาทำหน้าที่หนุนส่งผู้ใดด้วยฐานะที่ตนก็มีหน้าที่สร้างสรรค์กามคุณ..มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองในเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทั้งหลายของทุกชาติพันธุ์..มีหน้าที่ดูแลความเป็นไปและความเจริญก้าวหน้าของโลกแลมนุษยชาติ ด้วยกามคุณนี้ก็คือความสะดวกสบาย,ความยิ่งใหญ่ในภพ,ในชาติ หลายคนสงสัยว่าพวกที่รวยๆอยู่เฉยไม่ทำอะไรก็รวย..หรือพวกที่ใช้เงินให้ตายใช้ทั้งชาติมันก็ยังไม่หมด,พวกที่มีบารมีมากคับฟ้าคับแผ่นดินใครก็เอาลงมาไม่ได้ หรือสถานที่อันใหญ่โตโอ่อ่าเกินความจำเป็นเกินประโยชน์ใช้สอย..เกินชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งคนและสถานที่เหล่านี้นั่นคือการอุปถัมภ์ของเหล่าเทวปุตมารนั่นเอง

    ตัวจอมฟ้าพญามารนี้ได้เคยกล่าวไว้เบื้องหน้าพระบรมศาสดาว่า "ตัวพระองค์มีฤทธิ์ที่จะบันดาลภูเขาทั้งลูกให้เป็นทองคำได้ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในกามสามารถขวนขวายเรื่องทรัพย์ อำนวยประโยชน์สุขต่างๆตามแต่จะประสงค์ " ดังนั้นบุคคลใด..สถานที่ใด หากได้รับความอุปถัมภ์หรือบารมีจากเทวปุตตมาร บุคคลเหล่านั้นก็จะถึงซึ่งความเปลี่ยนแปลง,ความเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ท่านว่าอันจอมฟ้าพญามารนั้นท่านได้กำหนดรูปแบบของพระผงในบารมีของท่านให้แล้วเสร็จตั้งแต่แกะพิมพ์และแม้แต่ผงที่จะใช้ผสมสร้างต้องจำเพาะลงไป นอกจากผงคตและกายสิทธิ์นั้นก็ใช้อุดปิดได้เพียงผงพุทธนิมิตกับผงพุทธเนรมิตรเท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเพียรลบถมผงทั้งสองนี้ล้วนๆจำนวนนึงนำมาคลุกกับผงไม้ตะเคียนช่อฟ้าอุโบสถก่อนจะกดพิมพ์ ท่านว่าตะเคียนช่อฟ้านี้คืออยู่ที่สูงค้ำฟ้าไม่ต่ำลงซึ่งนอกจากจะอุดผงสำคัญอันมีคุณนิมิตเนรมิตได้ทุกอย่างด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณสมกับอานุภาพทางด้านสร้างสรรค์ความสุขอันเกิดแต่กามคุณของพญามาราธิราช พ่ออาจารย์ว่าเมื่อพระผู้สร้างอยู่กับตัวแล้วการใช้ชีวิตทำทุกกิจให้แจ้งนั้นสิ่งต่างๆบรรดามีหากประสงค์อะไรให้บนบอกท่านเอา

    ด้วยอำนาจพญามารผู้ควบคุมกฏสัจธรรมกามคุณทั้งมวลท่านจะเอื้อให้ปัจจัยทั้งปวงเกิดขึ้นได้เพื่อดึงเอามโนและความคิดของเรามาทำให้มันเป็นจริงในโลกแห่งความจริง สำหรับคนที่ไม่สามารถทำให้จินตนาการหรือความฝันง่ายๆเป็นความจริงได้ แม้กระทั่งเรื่องฝันอันสูงสุดที่ตั้งไว้เป็นเป้าสุดท้ายในชีวิตว่าชาตินี้ต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องอันยากที่มนุษย์จะทำก็ยังไม่ได้ทำ ไม่ว่าจะเรื่องใดนั่นก็ล้วนเป็นความปรารถนาที่จะจุดไฟในชีวิตของตัวเราอยู่ลึกๆทั้งสิ้น ชีวิตใครที่หมดหวังหมดสิ้นกำลัง...แลหยุดเดินแล้วท่านว่าต่อไปบารมีท้าวมาลัยาจะเป็นดั่งกุญแจเพียงดอกเดียวที่ใช้ไขเปิดชะตาเขา ผลักให้เราเข้าใกล้ความฝันช่วยให้มีแรงบวกสนับสนุนเอาชนะความคิดและจิตใจตัวเองเป็นปฐมก่อนจะเอาชนะทุกสิ่งในโลกแห่งความจริง ท่านว่าขอแค่เพียงเราลงมือและอาราธนาองค์ท่านไว้ไว้ปัจจัยเสี่ยงต่างๆในชีวิตจะจางลางเลือนไป ขอแค่เรากล้าในสิ่งที่ถูกคุณของท่านนั้นจะผลิดอกออกผลให้เราเห็นให้เราค้นหาอีกตัวตนนึงที่ซ่อนอยู่ในตัวเองของเราเจอ ทั้งปลดปล่อยตัวเราออกจากโลกแห่งความฝันที่ปิดตาย..โลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริงขอเพียงตัวตนของเรามีความต้องการและมีความพร้อมที่จะรับทุกอย่างเพื่อเป้าหมายนั่นย่อมเป็นธุระของท้าวมาลัยที่จะ"นำมาให้" ด้วยความปรารถนาให้ชีวิตตนสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้..ไม่ใช่เรื่องที่มีวันหมดอายุ..ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับอายุขัยว่าจะหนุ่มจะแก่ทุกคนมีความฝันได้หมด ทั้งฝันเรื่องการทำงานการประสบความสำเร็จต่างๆในขณะที่ความสำเร็จบางคนไม่อยู่ที่การเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคนั่นก็มีนั่นแหละกำลังของท้าวมาลัยท่านจะนำเราเข้าหาสุขอันเกิดขึ้นจากฝันที่สมปรารถนา ทั้งยังจะป้องกันตัวเรายามเจออุปสรรคทั้งหลายในปัจจัยเสี่ยงรอบตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระย่อมมีจิตวิญญาณมารฟ้าคือพญามาราธิราชไม่ใช่มงคลวัตุถุปกติธรรมดา ท่านจะคอยเติมเต็มให้เราสมหวังในความฝันทุกด้านขอเพียงใจเรามีปรารถนาเพียงเท่านั้นไม่ต้องพูดไม่ต้องขอก็ได้ดั่งใจ ด้วยผู้ถืออาญาสิทธิ์แห่งมารฟ้าผู้เป็นจอมเทพจะเกิดความเจริญรุ่งเรืองในกามคุณบริบูรณ์ทุกสิ่งไม่ขาดสายดั่งพลิกกลับโชคชะตาให้สูงขึ้ มีอำนาจวาสนาบารมีมีคนนับหน้าถือตาทั้งยังใช้สะกดให้คนเชื่อฟังอยู่ในอำนาจของเรา ใครที่ดวงตกทำมาหากินไม่ขึ้นไม่เคยมีโชคเลยนั่นแหละพญามารท่านเปิดดวงให้เราทำตามความฝันได้ง่ายๆทำอะไรก็สำเร็จง่ายดายได้สิ่งที่ต้องการจากคนอื่นง่ายๆเหมือนเขาโดนโจรปล้น ท่านว่าพระชุดนี้ใครมีไว้จะรุ่งเรืองเอาชนะคนใจแข็ง,เอาชนะคนรัก,เหนือคู่แข่ง,เหนือศัตรู แม้ลงมือทำอะไรย่อมกินใจผู้อื่นขอเพียงมีความฝันไม่ว่าจะเรื่องใดอาญาสิทธิ์มารฟ้าย่อมบันดาลให้เร็วไวได้เสมอแม้ไม่ต้องขอไม่ต้องอธิษฐาเพียงเราใช้ชีวิตของเราไป เท่านี้ก็จะพบเจอความสำเร็จตามฝันอยู่ที่ไหนชีวิตไม่มีตกอับ

    ##### กำลังมารฟ้า..พาลีดึงบารมี
    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ชุดนี้ท่านทำพระผงด้วยคุณวิชาให้มีกฤติยาคมแฝด ปกติลำพังบารมีในองค์พญามาราธิราชใครได้ไปคุ้มเกรงก็นับว่าโกรงชีวิตมากพอแล้ว แต่ในพระผงองค์เล็กๆนี้ท่านตั้งใจทำให้ดีกว่านั้นด้วยว่าจะโกงก็ต้องโกงให้ถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงตะกรุดพาลีดึงบารมีเอาไว้ฝังเฉพาะเจาะจงทุกองค์ ท่านว่าจะทำให้พญามารแรงแบบลูกโดดดลบันดาลให้ผู้ครอบครองชนะไร้พ่าย ทำอะไรก็สำเร็จ แต่ทว่าวิชานี้เดิมทีครูบาอาจารย์นั้นย่อมเกรงกลัวว่าคุณสมบัติแท้จริงของวิชานี้น่ากลัวเกินไป..จึงปิด..จึงบัง..อำพรางไว้..ไม่สร้างไปเลยก็มี ถ้าสร้างก็มักจะไม่ทำเต็มวิชาด้วยเกรงว่าจะก่อภัยอันตรายให้กับศิษย์ทั้งหลายที่นำไปใช้ด้วยเล่ห์กลให้เกิดภัยต่อมนุษย์ด้วยกัน

    ด้วยพาลีนั้นมีฤทธิ์เลิศเป็นเอกเหนือวิชาพญาวานรทั้งหลาย ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์กล่าวไว้ว่า พาลีถ้าไม่ตายเสียก่อนในรามเกียรติ์นั้นพระรามไม่ได้เกิดแน่นอน เพราะใครก็ฆ่าพาลีไม่ได้ ใครสู้ก็แพ้พาลี ขนาดเจ้าทศกัณฐ์ที่พระรามตามล่าทำสงครามจนเรื่องกินระยะเวลายาวนานนั้นเจอพาลีเข้าก็หมดแรง..รบกี่ทีก็แพ้ แถมยังโดนพาลีจับไปกระทำการทรมานทรกรรมให้กินข้าวเหลือของนางกำนัลแล้วให้องคตลูกชายเอาทศกัณฐ์ไปลากเล่น(เหมือนจูงหมาเดินเล่น)ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงหยามเกียรติอสูรวงศ์พรหมถึงปานนั้น ถ้าว่ากันด้วยฤทธิ์พระรามก็ยังฆ่าพาลีไม่ตาย..แต่พาลีตายด้วยมือของตนเอง แม้แต่พระรามแผลงศรแล้วศรพระรามที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดศาสตราวุธฝ่ายเทพแผลงที่ไรได้เรื่องทุกที พาลีก็ยังคว้าจับมาเล่นได้ไม่ได้สะทกสะท้านในฤทธิ์อำนาจใดๆเลยแต่เพราะระลึกถึงคำสาบานแต่หนหลังได้ว่าตนเองนั้นแย่งเมียน้องคือสุครีพและเคยถวายสัตย์ต่อพระนารายณ์ไว้ว่าถ้าแย่งจะให้ศรพระนารายณ์ล้างชีวิตจึงได้ยกศรปักอกตน พระรามนั้นอาลัยในตัวพาลีมากนักเพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยปรากฏมีผู้ใดที่จะมีฤทธิ์แกล้วกล้าเฉกเช่นพญาวานรผู้นี้พระรามจึงอยากได้พาลีมาทำราชการกับพระองค์ ได้เอ่ยขอเพียงเลือดของพาลีเสียครึ่งหยดมาล้างคำสัตย์ที่สาปสรรค์ไว้ถึงชีวิตให้แก่ศรพระเป็นเจ้าแต่พาลีก็หายอมไม่เพราะต้องการรักษาคำสัตย์นั้น จึงใช้ศรของพระรามทำการปลิดชีพตัวเองเมื่อตายไปก็ได้เกิดเป็นเทพเจ้ากลับมาทำลายพิธีบูชาหอกของทศกัณฐ์ที่ทำให้อินทร์พรหมยมยักษ์ทั้งสวรรค์เดือดร้อนอีกครั้งนั่นเอง

    พาลีนั้นพ่ออาจารย์บอกว่ามีความสามารถที่ไม่เหมือนใคร ในชั้นฤทธิ์นั้นถ้าเปรียบกับชั้นหลานอย่างหนุมานแล้วระดับเจ้าผู้ครองนครขีดขินก็มีความสามารถแต่เดิมมากอยู่แล้วไม่เป็นรองกันแต่อย่างใด เพราะสืบสายเลือดศักดิ์สิทธิ์เป็นบุตรพระอินทร์เจ้าสวรรค์นั่นเองแต่สิ่งหนึ่งซึ่งรู้กันไปทั่วว่าเป็นความสามารถที่ขี้โกงที่สุดในสามโลกทำให้กากาศนั้นเก่งเกินกว่าเก่ง เก่งจนแม้แต่พระเป็นเจ้าก็ยังไม่สามารถต่อกรให้มีชัยชนะได้นั่นคือพรของพระศิวะเจ้าที่ให้กับพาลี กล่าวคือเวลาสู้กับใครให้กำลังอีกฝ่ายนั้นลดลงเสียครึ่งหนึ่งแล้วกลับมาเพิ่มเป็นกำลังให้พาลี เพราะเช่นนี้พาลีเมื่อสู้กับใครจึงมีฤทธิ์เพิ่มอีกมหาศาล..ยิ่งศัตรูเก่งแค่ไหน..พาลีก็ยิ่งเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดด....ตะกรุดพาลีจึงมีพลังดังนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันเล่านิทานให้ฟังได้เธอคงเข้าใจเองเพราะวิชาลงตะกรุดพาลีดึงบารมีนี้ข้างบนท่านไม่ให้พูดไป แม้องค์พญามารท่านยังห้ามไว้นักหนาว่าถ้าใครไม่มีจิตศรัทธาม็ก้ไม่ต้องเอาไปใช้ พ่ออาจารย์ท่านจึงทำได้เพียงเล่านิทานว่าตะกรุด...พาลีนี้เก่งเพียงใด ยิ่งบารมีจอมฟ้าพญามารเมื่อหลอมรวมกับที่สุดแห่งการโกงชีวิตล้มล้างทุกกฏเกณฑ์อย่างพญาพาลีแล้วนั่นย่อมหมายถึง....การโกงสูงสุดอย่างแท้จริง

    คาถาบูชา
    นะโม วะสะวะตีมาเร อนาคะตังเส พุทธัสสะ(ใช้ภาวนา)
    โอม วสวัตตีโพธิสัตโตนะโมพุทธานะ ปาฏิหารัญจะ ทวาทะสะ กาละกัญชะมหา ภิสมาปะสะนะวา อิติสิทชะติ


    ***พระผงในบารมีของพญามาร พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าองสิ่งนี้ต้องใช้ชะตาทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนครอบครองประกอบกับของมีน้อยมาก ท่านว่าถ้าใครฉุกคิดได้ก็ตรงตามชื่อเลย...จอมเทพผู้ควบคุมความปรารถนากิเลสฝ่ายมารความต้องการจะให้จะมีของสรรพสัตว์,เทวดา,มาร,พรหมทั้งหมด ....จอมเทพผู้มีอำนาจบงการได้แม้แต่ท้าวมหาพรหม รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นนะครับ รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงอาภรณ์มารฟ้าชุดพญามารน้อย(ผังตะกรุดพาลีดึงบารมี) บูชา 900 บาท


     
  10. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  11. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา ปฐมศาสตราขุนขวานวัฒนาการเบิกฟ้าแยกดิน(ถากเคราะห์ฟาดบาปกระทำ)

    ชุดวิชาอักขระอาถรรพ์ที่ใช้ลงจารตลอดจนเป่าเสกขวานบรรพกาลของผานกู่นั้น เป็นชุดวิชาที่ท่านรักษาและหวงเท่าชีวิตด้วยว่ามีอาถรรพ์ทรงอิทธิฤทธิ์หนักมากเกี่ยวกับเรื่องการลบบาปกระทำและเคราะห์เข็ญเวรกรรม...พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากขวานมีชีวิตของท่านผู้มาก่อนสรรพสิ่ง(ผานกู่)แล้ว วิชาก็ไม่เหมาะสมที่จะลงไว้ในที่ใดหรือจะลงกับตัวบุคคลใดอีก

    ขวานชีวิต
    ทำไมต้องเป็นขวาน ..ขวานชีวิตนั้นมีมงคลอย่างไรทำไมผู้มาก่อนสรรพสิ่งเช่นผานกู่ถึงไม่ใช้ดาบหรือศาสตราอื่นๆ

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ขวานของผานกู่นั้นแตกต่างจากเทพศาสตราทั้งหลายที่มีไว้ฆ่าฟันเอาชีวิตกัน หากแต่มงคลของขวานผานกู่มีไว้ใช้เพื่อบุกเบิกสิ่งใดๆก็ตามที่เราหมายมั่นปั้นมือว่าจะเอาให้ได้..สิ่งต่างๆเหล่านั้นแหละเมื่อมีขวานผานกู่อยู่แม้จะประสงค์บุกเบิกมงคลวิถีข้อใด,อย่างใดอย่าว่าแต่วัตถุอันเป็นสิ่งลวงตาทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าย่อมเอามาได้ทั้งสิ้น ยามเมื่อผานกู่ใช้ขวานเบิกฟ้าแยกแผ่นดินนั้นทำให้ขวานผานกู่แตกต่างจากอาวุธคร่าชีวิตทั้งปวงในทางตรงกันข้ามขวานผานกู่กลับเป็นขวานที่ให้กำเนิดโลก ทั้งแบ่งแยกฟ้าดินให้กำเนิดสรรพชีวิตให้กำเนิดสรรพสิ่งทั้งปวงเช่นนั้นขวานนี้จึงมีรัศมีมงคลที่จะใช้ถากถางบุกเบิกสิ่งอันเป็นมงคลและความเจริญทั้งหลายให้วิวัฒนาการเกิดขึ้นได้ฉับพลัน นี่คือความสำคัญที่หายากในเทพศาสตราทั้งหลาย

    แม้มองในมุมเทพศาสตราขวานผานกู่ก็ได้ชื่อว่ามีอานุภาพรุนแรงเป็นที่สุด ไม่เพียงจะใช้เบิกทางชีวิตให้งอกงามหากแต่ยังใช้สร้างหนทางชีวิตยามเมื่อเราอับจน พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกคนย่อมเจอเรื่องอึดอัดในช่วงชีวิตเหมือนกันเมื่อทำทุกสิ่งบริบูรณ์แล้วเราจะไม่รู้ว่าต้องลงมือทำอะไรต่อ เราจะเจริญมากกว่านี้ได้อย่างไร นี่เองคือหนทางแห่งวิวัฒนาการซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าการขยับขยาย ...ชีวิตที่มีเท่าเดิมมีเหมือนเดิม หรือชีวิตที่สามารถขยับขยายได้มากขึ้นและมากขึ้นตามกำลังที่เราไหวสิ่งไหนจะเจริญเติบโตได้มากกว่ากัน แน่นอนว่าการขยับขยายของชีวิตอันรุ่งโรจน์นี้เป็นดั่งโอกาสหนึ่งในล้านที่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นั่นแหละขวานผานกู่มีอานุภาพในการขยับขยายยังผลให้ความงอกงามเกิดขึ้นจริง

    ### ขวานผานกู่ใช้คราแบ่งแยกฟ้าดิน ...เคยรู้สึกมั๊ยว่าตนเองมีทุกข์วิปริต มีเวรกรรม มีสรรพอาถรรพ์กำลังร้าย มีสิ่งอุบาทว์ในร่างกาย มีบาปกระทำอันติดอยู่กับดวงวิญญาณ...พ่ออาจารย์ท่านว่าเวรกรรม เวรกรรมหลายสิ่งมันไม่ใช่ก่อตัวขึ้นมาเดี๋ยวนี้หากแต่มันทับถมก่อเกิดขึ้นมาผ่านภพชาติเป็นอนันต์ของเรา เช่นนั้นกรรมจึงมีกำลังแรงยิ่งกรรมอันล้างผลาญตัวเราจนเรารู้สึกได้และแก้ไขไม่ถูกนั้นย่อมมีกำลังแรงกว่ากรรมอื่น เวรกรรมอันสืบเนื่องจากบาปกระทำนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าบางคนเพียรทำบุญสารพัดแม้จะบวชก็ดีจะทำบุญใหญ่ใดๆก็ดีกลับเมือนเติมน้ำจืดเจือมหาสมุทรที่ถมไม่เต็มทำอย่างไรก็มีแต่แย่มีแต่ต่ำลงกว่าเดิม ก็นั่นแหละขวานผานกู่นั้นใช้แยกได้แม้แต่ฟ้าดิน ใช้แยกได้แม้แต่กฏสัจธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพอาวุธชิ้นนี้หากเอาไปทำลายคนจะถือว่าเสียของมากแต่ในทางกลับกันหากใช้ก่อร่างสร้างตัวใช้ช่วยตัวเองให้รุ่งเรืองหรือจะใช้โปรดสัตว์ทั้งหลายเช่นนั้นจึงจะเรียกได้ว่าใช้เป็น เพราะขวานผานกู่นั้นใช้แยกอัปมงคลอันติดและตกตะกอนในชีวิตเราได้ทุกสิ่ง อัปมงคลทั้งหลายที่รวมตัวอยู่ไม่ว่าทุกข์ว่าเคราะห์หรือสิ่งไม่พึงปรารถนาสารพันปัญหาในชีวิตที่ติดค้างสะสมมานานหาทางแก้ไขไม่ได้..ขวานผานกู่ย่อมตัดสิ่งเหล่านั้นออกจากเราได้(ขวานผานกู่เมื่อตัดอะไรออกไปจากชีวิตเราแล้วสิ่งนั้นจะไม่มีวันบรรจบกลับมาต่อติดตัวเราได้อีก ทุกข์โศกโรคภัยทั้งหลายก็เช่นกัน) พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันพูดได้เท่านี้นะว่าฟ้าดินแยกจากกันไม่มีวันผสานกันได้ก็ด้วยอานุภาพขวานผานกู่เช่นใด เราจะผ่าทุกข์ผ่าบาปกระทำใช้ขวานผานกู่เพื่อบุกเบิก..เพื่อสร้างยุคสมัยที่เป็นของเราขึ้นมาจริงๆย่อมทำได้ทั้งนั้น ฟ้าดินแยกจากอย่างไรทุกข์โศกเคราะห์ร้ายก็แยกจากเรียกว่าพรากไปจากเราไม่สามารถติดตามก่อกวนได้เช่นนั้น

    ด้วยเป็นเทพศาสตราที่ใช้บุกเบิกก่อให้เกิดยุคสมัยใหม่ที่เป็นของเราเป็นอาวุธเทพสำหรับเริ่มต้นชีวิตขวานผานกู่จึงมีอาถรรพ์มากและสร้างยากกว่าอาวุธทำลายล้างทั้งหลายทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ...แต่อย่าดูถูกว่าเทพอาวุธนั้นจะด้อยฤทธิ์อ่อนกำลัง พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่ปรามาสขวานผานกู่นั้นเตรียมตัวขนพองสยองเกล้าได้เลยเพราะเขามีฤทธิ์ที่รุนแรงมากเป็นพิเศษนั่นหมายถึงการฟาดขวานผานกู่ไปในอากาศเพียงครั้งเดียวนั้นสามารถแหวกทลายความว่างเปล่าแบ่งแยกสูญญากาศทำให้เกิดมิติโลกเพื่อรองรับสรรพชีวิตได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าขวานผานกู่นั้นที่ใช้เพียงครั้งเดียวเพราะว่าไม่มีความจำเป็นต้องนำกลับมาใช้อีกด้วยว่าฟาดหนึ่งครั้งก็เกิดหนึ่งโลกทั้งยังใช้ผ่าแบ่งแยกอัปมงคลความมืดมิดให้พ้นตัวไปจากชีวิตเราได้ เรียกได้ว่าในเหล่าเทพอาวุธนั้นฤทธิ์ของขวานผานกู่สามารถผ่าทลายห้วงอวกาศได้เช่นนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นเทพอาวุธที่มีอานุภาพรุนแรงถึงขนาดนำมาใช้เบิกฟ้าผ่าแผ่นดิน เป็นอาวุธที่ใช้เพื่อสร้างโลกสร้างสรรพชีวิตแผ้วถางวิถีฟ้าและกฏสัจธรรมเพื่อให้กำเนิดความรุ่งเรืองต่างจากอาวุธทั้งหลาย

    ทั้งชุดวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านกำหนดเพื่อลงจารประสิทธิ์ไว้ในขวานผานกู่นั้นยังมีอานุภาพอัศจรรย์ แม้ชีวิตใครเคราะห์หนักนักทำอย่างไรก็ไม่ทุเลาเบาบางลงเพียงยกขวานมาพกเคราะห์ย่อมจืดย่อมจางลดน้อยถอยลงทุกเมื่อเชื่อวันทั้งควายซวยความเสื่อมทั้งหลายพ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งนั่นเลยอะไรที่ไม่ดีแค่เพียงติดตัวไว้ยังไม่ต้องอาราธนาใช้ก็ลดลงทุกอย่างจนสังเกตได้ นี่คือมันผ่อนความแรงลงนะทั้งเวรกรรมและบาปกระทำทั้งหลายที่มันจะเอาเราให้แย่ ให้มอดม้วย ให้ถึงตาย ให้อับจนหนทางทำมาหากินไม่ขึ้น...สิ่งต่างๆมันค่อยๆผ่อนค่อยดลงเรียกว่าเบาลงจนหายใจสะดวก นี่ฉันพูดถึงแค่พกนะแต่หากเอามาอาราธนาใช้ก็จะยิ่งให้ผัลรวดเร็วกว่านั้น ท่านว่าขวานผานกู่นี่ไม่ใช่อาวุธทำลายชีวิตหากแต่ใช้สร้างชีวิตและสรรพสิ่งเช่นนั้นตัวขวานจึงไม่คม พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เอาอักขระนี่แหละถูกเนื้อถากตัวเราไปเคราะห์หามยามร้ายที่เจ็บป่วยใดย่อมได้รับการขจัดทั้งสิ้นจะถูกถากบริเวณหน้าผากก็ดีย่อมให้ผลครอบคลุมทำลายอัปมงคลร้ายทั้งหลายได้ทั่วร่างกาย พ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนเขาไม่ให้ฉันพูดนะเลยทำได้เพียงบอกวิธีใช้คร่าวๆให้เท่านี้ ส่วนจะใช้อย่างไรให้พิศดารกว่านี้แรงครูและตัวรู้ในใจเราระหว่างขวานกับเจ้าของเวลาอาราธนาเขาจะบอกแก่เราเอง

    ที่เรียกว่าขวานชีวิตนั้น เพราะขวานของผานกู่นั้นมีจิตวิญญาณแม้ในหมู่เทพศาสตราด้วยกันก็ยังไม่ถือว่าสามัญแบบจิตวิญญาณอาวุธเทพเจ้าทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าใครใช้อยู่ก็เรียกก็บอกเขาคุยกับเขาได้เลยว่าพี่ขวานจะให้ผ่าทุกข์ผ่าโศกโรคผีโรคคนหนทางแห่งวิบากกรรมทั้งหลาย สื่อสารบอกพี่ขวานเขาไปตรงๆนี่คือใช้งานกันแบบจิตสื่อจิต พ่ออาจารย์ท่านว่าขวานผานกู่นั้นเป็นของผานกู่หรือท่านผู้มาก่อนสรรพสิ่ง คิดดูเอาแล้วกันว่าอยู่มานานขนาดไหนเช่นนั้นเราก็เรียกเขาโดยให้ความเคารพเสียว่าพี่ขวาน เมื่อเราอ่อนน้อมถ่อมตัวย่อมจะใช้งานเขาได้ง่ายส่วนไอ้เรื่องคุ้มเกรงป้องกันอันตรายกำจัดศัตรูคิดร้ายทั้งหลายพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเป็นเรื่องเด็กๆไปเลย เขาเป็นขวานชีวิตจึงทำงานได้โดยตัวรู้ของเขาเอง *** ทั้งขวานชีวิตนี้ก็เป็นเคล็ดถากถางบุกเบิกให้เกิดสิริมงคลแน่นอนว่าพลังชีวิตย่อมต่อต้านพลังร้ายทั้งหลายชีวิตใครที่เหมือนตายทั้งเป็นนั่นแหละต้องใช้ขวานชีวิต ดั่งว่าทำสิ่งที่ห่อเหี่ยวดุจแห้งตายให้ฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันพูดแบบนี้ไม่ใช่ให้เอาไปชุบชีวิตคนตายนะแต่หมายถึงชีวิตใครที่มันร้อนมันทุกข์มากๆเหมือนตายทั้งเป็นนั่นแหละขวานนี้ย่อมชุบกลับมาให้ร่มเย็นเต็มเปี่ยมด้วยพลังชีวิตได้อีกคราหนึ่ง

    เทพบิดรผานกู่
    ในสมัยบุพกาลฟ้ากับดินไม่ได้แยกออกจากกันทั่วทั้งจักรวาลเหมือนไข่ใบใหญ่ ข้างในย่อมมีแต่ความมืดมิดหาแสงสว่างใดๆไม่ได้ ในตอนนั้นย่อมไม่มีการแบ่งแยกสูงต่ำซ้ายขวาหรือเหนือใต้ออกตกใดๆทั้งสิ้น แต่ในไข่ใบนี้กลับมีเทพบิดรผานกู่ถือกำเนิดเกิดขึ้น...ผ่านกู่ผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้เบิกฟ้าแยกแผ่นดินผู้นั้น ผานกู่อาศัยอยู่ในไข่ใบนี้เป็นเวลาถึงหมื่นแปดพันปีจึงตื่นขึ้นแต่เมื่อท่านลืมตากลับเห็นแต่ความมืดมัวและรู้สึกร้อนจนทนไม่ไหวด้วยไม่มีลมและไม่มีอากาศจึงหายใจไม่ออก แม้อยากจะยืนขึ้นแต่เปลือกไข่แข็งก็ห้อมล้อมรอบตัวจนไม่สามารถยืดเท้ายืดมือได้แม้แต่นิดเดียว ท่านผานกู่โกรธมากจึงเอาขวานที่ติดตัวมาจามเปลือกไข่ได้ยินเสียงกึกก้องแตกออกทันที สิ่งของภายในไข่ที่เป็นของเบาก็ค่อยๆลอยตัวขึ้นกลายเป็นท้องฟ้าและสิ่งที่หนักก็ค่อยๆจมลงและกลายเป็นแผ่นดิน

    ด้วยเทพบิดรผานกู่นั้นเป็นเทพอสูร
    และขวานของผานกู่ก็เกิดขึ้นมาพร้อมกับตัวของท่านจึงถือได้ว่าขวานผานกู่นั้นก็เป็นเทพศาสตราที่มีมาก่อนเทพศาสตราทั้งปวง เมื่อเทพบิดรผานกู่เสร็จสิ้นภารกิจสร้างโลกแล้วท่านจึงไปเอากำเนิดในครั้งที่สอง เกิดมาเป็นองค์วิสุทธิเทพหยวนสือเทียนจุนอันเป็นเทพเจ้าสูงสุดฝ่ายเต๋า จะเรียกว่าองค์เทียนจุนก็คือการเกิดใหม่ของเทพบิดรผานกู่ก็ได้ เช่นนั้นเมื่อจะสร้างเครื่องมงคลองค์เทียนจุนที่เคยออกให้บูชาไปแล้วพ่ออจารย์ท่านจำเป็นต้องสร้างขวานผานกู่ขึ้นมาก่อนเพื่อเบิกฤกษ์ฟ้าดิน ถือว่าบุกเบิกจิตวิญญาณปลุกขวานผานกู่ให้มีที่สิงสถิตย์ โดยองค์เทียนจุนนั้นท่านแนะนำและคอยเชื่อมต่อและทำให้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อให้ขวานชีวิตที่สูญหายไปเมื่อครั้งกำเนิดสรรพสิ่งกลับมามีชีวิตขึ้นจริงในโลกอีกครั้ง ขวานที่เป็นมากกว่าเทพศาสตราวุธใดๆ ขวานที่เป็นต้นกำเนิดของสรรพชีวิตและกฏเกณฑ์ฟ้าดินทั้งหลาย เพื่อจะทำให้สำเร็จจึงต้องให้องค์เทียนจุนซึ่งก็คือเทพบิดรผานกู่ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ท่านเมตตาลงให้ นอกจากอักขระคาถาวิเศษแล้วแม้การสร้างขวานการทำด้ามขวานแต่ละเล่มท่านก็ใช้ไม้ตะเคียนรอดคุกซึ่งท่านนำมาใช้น้อยครั้งมากๆด้วยถือว่าเป็นอาถรรพ์ให้ผู้ถือขวานนั้นรอดจากความทุกข์ทั้งปวง...ด้วยขวานนี้เป็นเทพศาสตราอันมีศักดิ์สูงสุดแห่งจ้าวสวรรค์บรรพกาล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเคล็ดนะแก่ผู้มีบุญได้สัมผัสขวานผานกู่ด้วยองค์เทียนจุนหรือจิตเดิมที่กลับชาติของเทพบิดรผานกู่ท่านทำให้ทั้งกำกับควบคุมทุกสิ่ง ขวานทิพย์แบบนี้ต่างจากเทพศาสตราทั้งหลายเพราะเป็นเทพศาสตราที่ใช้เพื่อให้กำเนิดโลกเมื่อมีโลกจึงมีสรรพชีวิต...เมื่อมีสรรพชีวิตจึงมีเธออยู่ในทุกวันนี้ นี่คือหนี้บุญคุณของสรรพชีวิตที่มีต่อขวานผานกู่ ขอเพียงเรารู้คุณพี่ขวานนับถือเขาดั่งเป็นตัวแทนของเทพบิดรผานกู่ในฐานะปฐมอาวุธหรือเทพศาสตราอันมีมาก่อนอาวุธทั้งหลายในหมื่นจักรวาลเช่นนั้นด้วยความรู้คุณอันประเสริฐนี้จะทำกิจใดในโลก..มุ่งหวังชีวิตอย่างไรในโลก..อยากเป็นอะไรให้ได้ดั่งใจในโลกอันท่านผานกู่บุกเบิกมานี้ ด้วยอำนาจแห่งขวานสร้างโลกของจ้าวสวรรค์บรรพกาลย่อมทำให้เราสำเร็จได้จริง

    หากใครคิดว่าขวานผานกู่เป็นอาวุธที่มีไว้ถือโก้ๆใช้ลดเคราะห์กรรมแต่ไม่รู้คุณท่านเทพบิดรพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นก็เพียงใช้ได้แค่คุณเบื้องต้นแต่ถ้าใครสำนึกกตัญญูในเทพบิดรผานกู่ เมื่อนั้นจะเอาอะไรปรารถนาอะไรในโลกของผานกู่นี้ย่อมได้ทั้งสิ้น ### พ่ออาจารย์ท่านว่าขวานทิพย์องค์หยวนสือเทียนจุนท่านไม่ให้พูดถึงหรือบอกกล่าวอะไรมากท่านว่าพูดเยอะก็เหมือนทำความลับสวรรค์รั่วไหลไม่สมควร เทพศาสตราเช่นนี้ต้องให้ผู้ใช้เขาสื่อจิตสื่อใจใช้ด้วยตัวของเขาเองเราป้อนให้เขาได้เพียงเท่านี้(อย่าลืมว่าเป็นขวานชีวิต) นั่นแหละในบรรดาเทพศาสตราทั้งหลายที่มีไว้ทำลายล้างเข่นฆ่าเอาชีวิตทั้งหมด หามีสิ่งใดที่จะมีคุณอันประเสริฐนั่นคือให้กำเนิดจุดเริ่มต้นแห่งสรรพสิ่งเช่นขวานผานกู่นั้นเป็นไม่มี ...อยากได้อะไรออกนามปฐมบิดรผานกู่แล้วขอเอาจากพี่ขวานเขาเลย

    ### นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่พ่ออาจารย์ท่านจะลงวิชาทำเทพศาสตราที่ใช้ฟาดฟันผลร้ายอันสืบเนื่องจาก...แรงบาปกระทำ ใครที่เจอมาโดนมาหนักทั้งชีวิตต้องถามใจตัวเองดูท่านว่ารู้อยู่แก่ใจว่าผลแห่งบาปกระทำนั้นคืออะไร ทำไมจึงสนองให้เราทุกข์และไม่สมปรารถนาในสิ่งที่เป็นอยู่ รายการนี้เปิดรับจองเฉพาะทาง PM พ่ออาจารย์ท่านเรียกขวานแต่ละด้ามว่าขวานชีวิต(อันนี้ขอย้ำนะครับว่า..ขวานชีวิต)

    ร่วมทำบุญบูชา ปฐมศาสตราขุนขวานวัฒนาการเบิกฟ้าแยกดิน(ถากเคราะห์ฟาดบาปกระทำ) บูชา 4,000 บาท



     
  12. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  13. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญมหาธาตุเปิดเนตรทิพย์เปิดขุมทรัพย์พระอนุรุทธะศากยวงศ์ (ผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มี)
    * เคยรู้จักพระอนุรุทธะศากยะวงศ์กันหรือยัง พระอนุรุทธะของพ่ออาจารย์นั้นแต่ก่อนท่านจะแกะสลักออกให้บูชากันในราคาหลักหมื่น แต่แปลกถึงราคาจะสูงแต่คนใช้ก็สั่งกันเข้ามาเรื่อยๆบางคนสั่งแล้วสั่งอีกก็มี องค์พระจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ได้ไปก็ต้องตั้งบูชาเท่านั้น เรียกว่าใครอยากได้พระบูชาก็รับไป แม้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนสั่งแกะอยู่เรื่อยๆแนะนำต่อๆกันไม่ขาดปากด้วยประสบการณ์ประหลาดที่เกิดกับตัวเอง ส่วนใหญ่คนใช้จะรู้จะเห็นเองเรื่องโชคลาภไหลมาเทมาเป็นอย่างไร สมกับคำที่ว่าเป็นพระเถระผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่ได้ ไม่มี ตรงข้ามกับสองคำนี้ก็คือมีทุกอย่างได้ทุกสิ่งนั่นเอง เขาว่าขอได้ไหว้รับ ขอแล้วไม่เงียบ แถมให้โชคได้ติดๆถี่ๆไม่มีอะไรเกินพระอนุรุทธะของพ่ออาจารย์

    ทั้งนี้ไม่เพียงเรื่องโชคลาภวาสนาเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องสัมผัสพิเศษ..ตาที่สาม..สัมผัสที่หกหรือที่เรียกว่าตาใน บางคนพอสัมผัสได้เลือนลาง บางคนเปิดออกจนเห็นผี เห็นเทวดา เห็นแม้รัศมีหรือวิมานแผ่ออกมาจากองค์พระ จากคนที่ไม่เคยเห็นอะไรเลย บางคนว่าเวลานั่งรถนั่งมอไซด์ไปไหนจะเห็นเป็นกลุ่มธาตุลักษณะแปลกๆในอากาศเป็นรูปทรงพญานาคบ้าง เทวดาบ้าง เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นแวดล้อมอยู่รอบตัวมากมาย เห็นเพียงแค่กะพริบตาก็หายซักพักก็ปรากฏใหม่จนชิน เรียกว่าเล่าให้ใครฟังก็คงหาว่าบ้าถ้าไม่เห็นเอง บางคนเห็นแต่ไม่ต้องการก็กราบขอบารมีท่านว่าไม่อยากเปิดตาก็กลับมาเป็นปกติก็มี ในครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างเหรียญหล่อเเปิดเนตรทิพย์เปิดขุมทรัพย์ขึ้น ด้วยบารมีพระอนุรุทธเถระแม้เทวดายังต้องตามใจจนไม่รู้จักคำว่าไม่มี ที่จริงท่านเรียกเหรียญหล่อนี้ว่าเหรียญเปิดขุมทรัพย์เทวดาตามใจอย่างมีนัยยะสำคัญ ท่านว่า
    หรียญนี้เก็บไว้ให้คนที่บูชาราคาสูงไม่ไหว เก็บไว้ให้คนที่อยากห้อยบูชาติดตัวไม่ใช่เอาไปตั้งกราบเช่นนี้ก็มาอาราธนาไปใช้ ครชอบสายเฮง สายโชคดี สายขอได้ขอดี..ขอจนตั้งตัวได้ค่อยมาเอา

    ยุคสมัยนี้...พ่ออาจารย์ท่านออกปากเสมอว่า สงสารคนหาเช้ากินค่ำเพราะทีไ่หนๆธุรกิจก็ฝืดเคืองกันเสียไปหมด เรียกว่าข้าวยากหมากเเพงลืมตาอ้าปากกันยาก สิ่งที่เราพอจะทำได้นอกจากให้กำลังใจก็คือใช้วิชาทำมงคลวัตถุนี่เเหละ ดั่งที่เคยกล่าวไปเเต่ต้นว่าท่านไม่ประสงค์ให้ลูกศิษย์อดอยากยากจนหรือต่ำกว่าใครเขา ท่านจึงมักทำวิชาเกี่ยวกับเรื่องเงินทองโชคลาภเสมอ เพื่อให้ถูกจริตกับยุคสมัยซึ่งจะเลวร้ายลงไปอีกมากหลังกึ่งพุทธกาล ท่านว่าใครที่เขาเล่นเสน่ห์ซักวันหนึ่งเขาก็จะมาตามเก็บของที่ช่วยเรื่องเงินทองโชคลาภเเบบเน้นๆเอง เพราะในยุคนี้มันต่างออกไปจากอดีต เงินหมื่นเงินเเสนนั้นไม่ได้มีค่าซื้อบ้านได้เป็นหลังๆ ไหนจะภัยธรรมชาติ ภัยจากสัตว์ร่วมโลก ภัยจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายที่จะทวีเเละหนักขึ้น เตรียมพร้อมกันไว้ดีกว่าเเก้ที่หลัง ถ้าจะเล่นวัตถุมงคลท่านว่าอย่าลืมด้านโชคลาภโภคทรัพย์เด็ดขาด **** หนึ่งในวิชาซึ่งหายสาบสูญไปนานตามกาลเวลา วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาเอกที่หาคนทำคนสืบทอดได้ยาก เป็นวิชาสายครูพระอนุรุทธะเถระ วิชานี้สืบทอดมาจากกฤษดาภินิหาริย์ของเจ้าอนุรุทธะศากยวงศ์ ผู้ใดได้บูชาเเล้วให้ถือท่านเป็นครูไปจนตัวตาย ชีวิตจะมีเเต่ความเจริญในลาภสักการะมิรู้ขาด มีได้สมประสงค์ทุกสิ่งที่พึงจะปรารถนา ถือว่าเป็นยอดวิชาที่สร้างขึ้นเฉพาะคนที่จะขอรับไปบูชาจริงๆ

    ดีอย่างไร.. ทำไมต้องเป็นพระอนุรุทธะเถระ พ่ออาจารย์บอกว่าบารมีของพระผู้เป็นเจ้าอนุรุทธะเถระท่านมากเหลือล้น เต็มเปี่ยมด้วยบุญญาภินิหาริย์ที่ท่านสร้างสมมาจากบุพกรรมเเต่ชาติปางก่อน พวกเธอจำไว้นะพระอนุรุทธะเถระนี่ท่านอยู่สูงมากก่อนจะเกิดในศากยวงศ์
    ท่านเวียนว่ายตายเกิดอยู่เเต่บนสวรรค์เป็นพระอินทร์หรือท้าวสักกะไม่รู้กี่ภพชาติเป็นเเล้วก็เป็นอีกอยู่เเบบนั้น บางครั้งก็จุติไปเป็นเทพยดาอื่นๆตามบุญวิสัยเเละบุพกรรมของท่าเต่จะเป็นพระอินทร์นี่มากที่สุดท่านมีบุญถึงขนาดนั้นเธอคิดดูเเล้วกัน ในสวรรค์ทั้งหมดนี่พระพุทธเจ้าของเราท่านสรรเสริญสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ว่าเป็นสถานที่ที่มีความสนุกสนาน,สวยงาม,ดูมีชีวิตชีวาน่าอยู่มากที่สุด ดังนั้นคนที่จะมาใช้ชีวิตเกิดเป็นพระอินทร์เจ้าเเห่งดาวดึงษ์ได้เป็นประจำนั้นย่อมไม่ธรรมดาเเน่นอน คิดสั้นๆเท่านี้ก็พอ

    พระอนุรุทธะเถระท่านมีสิ่งที่พิเศษของท่านคือบุญฤทธิ์ติดตัวมาเเต่กำเนิด ท่านคือผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มี นี่พวกเธอทั้งหลายคำหนึ่งคำนี้ไม่ได้หมายเฉพาะลาภสักการะนะเเต่รวมไปถ้วนทุกอย่าง ทุกสิ่งอย่างท่านไม่รู้เลยว่าคำว่าไมม่มีคืออะไร ตัวไม่มีนี่หน้าตาเป็นอย่างไร ท่านเป็นสุขุมาลชาติขนาดนั้น ทุกสิ่งที่พระองค์มีพระประสงค์ต้องมี ต้องได้ต่อให้เป็นสิ่งที่ไม่มีในโลกมนุษย์เทพเจ้าทั้งหลายก็ต้องรีบมาเนรมิตรให้ฉับพลันทันที อยู่ในทิศไหนก็มีทุกสิ่งตรงนั้นเป็นหน้าที่ของเทพยดาเเถบนั้นไปเลย เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่าเหรียญเปิดขุมทรัพย์ วิชาเหล่านี้ส่วนมากจะปกปิดเหลือให้ท่องจำกันไว้เพียงคาถาเล็กน้อยที่ไม่ได้เข้าถึงเเก่นวิชาโดยเเท้จริง ### การทำพระอนุรุทธะเถระให้เขาบูชานั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเราต้องใส่วิชาเต็มที่ วิ
    ชานี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะรองรับความประสงค์ของผู้ใช้ให้มีในทุกๆสิ่งเช่นเดียวกับบุพกรรมอันดีในอดีตของเจ้าอนุรุทธะศากยวงศ์ที่ทำให้พระองค์ไม่รู้จักคำว่าไม่มีอย่างไรอย่างนั้น วิชานี้ของท่านตกอยู่กับผู้ใดจะมีจะได้ในทุกสิ่งที่ปรารถนาไม่เพียงเเต่โชคลาภวาสนาเเต่ยังรวมไปถึงสิ่งต่างๆ เอาเป็นว่าสำเร็จดั่งใจคิดฝันก็เเล้วกัน

    เปิดเนตรทิพย์
    พระอนุรุทธะเถระนั้นท่าน
    ไม่เพียงเเต่เป็นเอตทัคคะผู้เป็นเลิศทางทิพยจักษุญาณในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันท่านยังนับเนื่องอยู่ในอสีติมหาสาวกด้วย ไม่ใช่มีดีเเค่เปี่ยมบุญฤทธิ์จนไม่รู้จักคำว่าไม่มีนะแต่ทิพยจักษุญาณของท่านก็เป็นเลิศทีเดียวแม้ในหมู่พระอรหันต์ด้วยกันยังหาผู้เสมอเหมือนเเละตามท่านทันได้ยากยิ่ง ด้วย
    ท่านเข้าออกทิพยจักษุญาณ(ตาทิพย์)เป็นวสีทุกขณะจิต ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่าท่านเข้าทิพยจักษุญาณทั้งวันทั้งคืนทีเดียวเเหละเธอเอ๋ยจะมีเว้นก็เพียงเวลาฉันภัตตาหารเท่านั้น ท่านทำของท่านเช่นนี้เสมอ ก็สมัยพระพุทธเจ้าท่านปรินิพพานเป็นอย่างไรเทวดาทั้งนั้นพระอรหันต์ทั้งนั้นต่างเข้าใจว่าพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว มีเพียงพระอนุรุทธะเถระผู้เป็นเจ้ากูนี่เเหละที่เข้าญาณตามขั้นตอนเเละสามารถอธิบายบอกทุกคนให้รู้ได้ว่าพระองค์ยังไม่ปรินิพพานหากเเต่อยู่ในสมาบัติต่างๆอย่างไร เห็นมั๊ยล่ะท่านชำนาญการเข้าออกญาณถึงเพียงนั้นขนาดจับเเละตามอารมณ์พระพุทธเจ้าได้

    สำหรับเหรียญเปิดเนตรทิพย์เปิดขุมทรัพย์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระอนุรุทธท่านกำหนดให้ทำรัศมีปรากฏเป็นรูปทิพย์จักษุ พ่ออาจารย์ท่านพูดถึงความสำคัญของดวงเนตรนี้ไว้ว่าสำคัญนักพอจะจำแนกบอกสืบต่อไปถึงพวกเจ้าได้ ดังนี้
    - ปกตินั้นตาเป็นสัญลักษณ์ของการมองเห็นเป็นเครื่องรู้ เช่นเดียวกันกับทิพย์จักษุนี้หากเบิกขึ้นแล้วผู้ครอบครองไว้จะไม่เดินทางผิด สิ่งที่ไม่เห็นไม่รู้ไม่เคยประสบพบเจอนับจากนี้ไปก็จะได้เห็นได้ทราบเฉพาะตัวของตนเอง
    - ตาเป็นสัญลักษณ์ของการเห็นการรู้แจ้ง เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอันยิ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าดวงนัยน์ตานี้ดีนัก ให้เอาไว้กับตัวสมองจะปลอดโปร่งความคิดจะแจ่มใสขึ้นจะคิดอ่านทำสิ่งใดย่อมเกิดตัวรู้ตัวปัญญาเด่นชัดไม่ขุ่นเคือง
    - แม้ในพระพุทธศาสนาก็สรรเสริญนัก สมเด็จพระสุคตบรมครูท่านก็ได้แสดงธรรมไว้อย่างชัดเจนแล้วถึงความสำคัญของการมองเห็นธรรม ว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา สิ่งนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราถือเป็นเคล็ดสำหรับคนที่ยังมืดบอดอยู่ยังไม่รู้จักคำว่ามี เพราะเรายัดหัวใจพระธรรมจักรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงไปด้วยสิ่งใดที่ปรารถนาจะมียังไม่เกิดยังไม่มีนับจากนี้ให้เกิดมีตามที่แรงครูนี้ประสิทธิ์เอาไว้
    - นัยน์ตานั้นสื่อถึงความหมายยิ่งใหญ่ประดุจของรัก ด้วยแก้วตาดวงใจสิ่งที่มีค่าสูงสุดของเจ้าของดั่งที่คำโบราณท่านเปรียบเปรยของล้ำค่าเอาไว้ว่าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ นัยน์ตานี้ก็คือแก้วตาสื่อถึงความรักหวงแหนสูงสุดเป็นอิทธิคุณแฝดทางด้านมหานิยม หาเสน่ใหญ่อย่างที่สุด ถ้ารักใครชอบใครนั้นต่อไปไม่ใช่เรื่องยากดุจเราได้ครองของสำคัญคือแก้วตาดวงใจของเค้าไว้แล้วนั่นเอง ให้ตั้งจิตนึกเอาว่าเรากุมแก้วตาดวงใจของเขาไว้อยู่ในตัวเราเขาอยู่ในอุ้งมือเราแล้ว จะใช้ทางเสน่ห์เล่กลใดก็สุดแต่ใจเถิด
    - เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ในเหล่ามาร,อสุรกาย,เทพเจ้าและพระเป็นเจ้าก็ยังเกรงอำนาจการทำลายล้างอันเป็นปรมัตถ์ดังตาพระอิศวร,ตาของฤาษีตาไฟ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงขอบารมีเทพพรหมให้ทิพย์จักษุนี้เป็นมหาเดชในตัวเองเมื่อปรากฏแก่ผู้ใดพกไว้กับตัวจะเป็นเดชะมหาอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด เป็นที่เคารพและเกรงกลัวจนเข้าต้องรีบเข้าหาเรามาประจบเอาใจเราเช่นนั้น

    *** โดยปกตินั้นดวงตาคือสิ่งที่ใครๆผู้ใดก็ย่อมมี แต่ทิพย์จักษุอันชัดเจนจะปรากฏตามบารมีของแต่ละนั้นย่อมไม่เสมอกันช่นนี้เหรียญเปิดเนตรทิพย์พระอนุรุทธะจึงเป็นสัญลักษณ์ของการหยั่งรู้คือรู้กาลอดีต,รู้กาลปัจจุบั และหยั่งรู้ในอนาคตกาล นอกจากจะเปิดขุมทรัพย์เร่งลาภเร่งรวยให้ไม่รู้จักคำว่าไม่มีแล้วบูชาไว้ยังเปิดญาณทัศนะสติปัญญาของตนอีกด้วย

    ฝังตะกรุดพระเจ้าเสี่ยงบารมี
    วิชาลงตะกรุดพระเจ้าเสี่ยงบารมีนี้เป็นของทำยากอย่างยิ่งด้วยมีแรครูสูง เพราะต้องอาศัยบารมีครูบาอาจารย์ต่างๆทั้งเทพพรหมและในนิพพาน หนุนเนื่องต่อกันไปเรื่อยๆนับแต่ร้อยโกฏิปี,พันโกฎิปี,แสนโกฏิปี,ล้านโกฏิปีเป็นห่วงโซ่ที่คลายไม่ออก พ่ออาจารย์ท่านว่าอันตะกรุดพระเจ้าเสี่ยงบารมีนี้เป็นดุจของวิเศษที่ใช้อธิษฐานใช้ถามหาความสำเร็จเมื่อเราตกทุกข์ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เมื่อเรามีความรู้สึกว่าไม่มีที่พึ่งใดแล้วที่จะเสมอด้วยใจของเรา พึ่งเทวดาเขาก็ไม่ขานรับ อาราธนาหมู่พรหมเขาก็ไม่ตอบ พึ่งพระพึ่งครูบาอาจารย์ท่านก็เงียบ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเป็นเพราะบารมีในตัวเรายังไม่เปิดยังมีสิ่งขวางอยู่กั้นอยู่ อันบารมีในตัวเรานี้ท่านว่าตรงนี้สำคัญแม้จะเล็กน้อยแต่หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองไม่มี อันบุพกรรมของสัตว์โลกทั้งหลายนั้นย่อมเวียนว่ายตายแล้วเกิ ในภพมนุษย์นี้บางคนอาจเคยเป็นพระเจ้าจักรพรรดิเคยเป็นนักบวชเคยเกิดมาสร้างคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่มาก่อนมีบุพกรรมทั้งหลายเคยทำมาดีจึงทำให้ได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีก แน่นอนที่ขึ้นชื่อว่าเกิดเป็นมนุษย์ลืมตาดูโลกอยู่ทุกวันนี้ ที่จะไม่มีบุญวาสนาบารมีติดตัวกันเลยนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้


    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เมตตาลงตะกรุดพระเจ้าเสี่ยงบารมีขึ้นเพื่อนำมาฝังกับพระอนุรุทธะชุดพิเศษท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนัก ใครที่บุญยังไม่จับบารมียังไม่เปิดอมทุกข์หน้าดำเอาไปใช้เดี๋ยวจะหน้าใสยิ้มได้ชีวิตมีความสุขทุกคน เอาจริงๆแล้วตะกรุดนี้สำคัญมากเพราะว่าเวลาเราเสี่ยงบารมีอธิษฐานตรงนี้นอกจากเปิดบารมีของเรามาใช้แล้วยังมีบารมีของครูเทพ,ครูพรหม,ครูพระหนุนเนื่องส่งต่อมาให้กับเราอีก เป็นมหาบารมีที่ประมาณไม่ได้ ด้วยการส่งต่อหนุนเนื่องเช่นนี้ทุกกิจและการกระทำทุกคำอธิษฐานย่อมดำเนินไปตามครรลองแห่งความสุขที่สมควรจะเป็น ไม่มีบิดเบือนให้เกิดโทษทุกข์ภัยโชคร้ายใดๆทั้งสิ้น

    ดุจดั่งสมเด็จพระมหาโพธิสัตว์ เมื่อจะตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณในกาลนั้นหมู่เทพพรหมทั้งแสนโกฏิจักรวาลล้วนหนีไกลจากพระองค์ไปคอยดูอยู่ห่างๆถึงกำแพงจักวาลทีเดียวด้วยเกรงกลัวหวาดกลัวต่อรูปแปลงของพญามาราธิราช
    สมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ในยามนั้นที่จะหาพยานมายืนยันความสัตย์จริงที่พระองค์ได้กล่าวขึ้นต่อพญามารแม้ซักผู้หนึ่งก็ไม่มี เรียกว่าถามฟ้าฟ้าก็ไม่ขานเช่นนั้น สุดที่จะพึ่งใครได้นอกจากพึ่งตนเอง พระองค์จึงเสี่ยงสัตย์อธิษฐานบารมีของพระองค์เองจนแม่พระธรณีขึ้นมาเป็นพยานให้พ่ออาจารย์ท่านว่าเวลาเสี่ยงสัตย์อธิษฐานสิ่งใดๆก็ตามให้ตั้งจิตกันให้ดี เพราะบารมีของเรานั้นมีอยู่ทุกคนและหนุนเสริมด้วยบารมีของครูเทพ,ครูพรหม,ครูพระทั้งหลายที่เค้ามีใจอยากช่วยเราปรารถนาดีกับเราพร้อมจะสงเคราะห์เรา ตรงนี้อุปสรรคหรืออะไรก็ดีที่มาขวางมากั้นมาทำให้ชีวิตเราพัง ทให้ชีวิตเราต่ำลงแย่ลงเสื่อมโทรมลงทั้งหลายนั้นแม้จะมีฤทธิวิเศษอย่างใดเขาจะอันตรธานหายไปดุจกองทัพของพญามาราธิราชฉันใดก็ฉันนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นของสูงและได้ชื่อว่าสำคัญจากกรณีดังกล่าว " จะเรียกว่าความฝันที่เป็นจริง..คำพูดที่ได้รับการรับฟัง..ความปรารถนาที่ได้รับการตอบรับก็ย่อมได้ " เมื่อจะทำตะกรุดอาถรรพ์พลิกชีวิตผู้บูชาเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกอย่างล้วนกระทำได้ยากตั้งแต่การทำบริสุทธิ์โลหะการหาฤกษ์การลงวิชาที่หลายสิบปีจะมีซักครั้ง เมื่อทำได้แล้วท่านจึงฝังพระอนุรุทธไว้เพื่อให้คนที่ใช้ได้สัมผัสกับตัวตะกรุดเลยจะเสี่ยงบารมีขออะไรอธิษฐานสิ่งใดต่อไปจะได้สำเร็จดั่งใจคิด

    พระอนุรุทธะเถระที่เราทำนี้ผู้ใดได้บูชานอกจากไม่รู้จักคำว่าไม่ได้ไม่มีแล้ว หากใช้ท่านกำไว้ในขณะภาวนาประจำทำให้เป็นนิสัยอย่าขาดจะเป็นการช่วยเปิดสัมผัสพิเศษต่างๆที่มนุษย์ควรจะมีในร่างกายของเราด้วย ถ้าผู้ใดมีบุพกรรมสืบเนื่องมาเเต่บุญเก่าเป็นทุนเดิมเเล้วก็จะไวมากในเรื่องของทิพยจักษุญาณ เพราะการบูชาองค์ท่านโดยตรงนี่ท่านส่งผลให้เราเเบบตรงๆเลยนะสิ่งนี้ท่านสำเร็จเเละชำนาญมากคุณเหล่านี้ไม่ได้หายไปไหนหรอก หากเราน้อมระลึกเเละชักนำเข้าตัวโดยการภาวนามันก็จะไวมากเเละเป็นไม่ยาก เพราะเราทำเราเสกตามขั้นตอนทุกอย่างเบิกเนตรเปิดญาณทิพย์โดยเฉพาะ
    พระอนุรุทธะเถระนี้เป็นที่พิศมัยของเหล่าเทพยดาทั้งหลายนะ พวกเธอจำไว้นอกจากมีดีในเรื่องทิพยจักษุญาณเป็นพระผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มีเเล้ว ยังเป็นเมตตาเเก่สรรพชีวิตรอบข้างเราด้วย อยู่ที่ไหนเทวดาเห็นท่านก็อยากลงมากราบขอฟังธรรมอยากลงมาทำบุญกับท่านนี่ไม่ต่างจากพระสีวลีหรือพระมหากัจจายนะเลยเห็นมั๊ย เเต่ความโดดเด่นเป็นพิเศษของท่านคือทิพยจักษุญาณก็เลยกลบความเด่นเรื่องอื่นๆไปหมด เพราะท่านตั้งใจปรารถนาเเต่อดีตชาติไว้ด้วยว่าจะเป็นเอตทัคคะทางด้านนี้โดยเฉพาะ

    การบูชานั้นให้ท่องคาถาตามนี้ (จำไว้ให้ขึ้นใจ)
    อะหังวันทามิอนุรุทธะเถโร อะหังวันทามิสัพพะโส มัยหังปุตโต ปุญญะวากะตา ภินิหาโร ภะวิสสะติ เทวะตะหิปาติง ปูเรตวา ปูวาปะหิตา ภะวิสสะตีติ


    พระอนุรุทธะเถระนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างเป็นรูปพระอนุรุทธะเถระออกจากญาณสมาบัติ ซึ่งท่านจะออกมาโปรดสัตว์โดยการรับบาตรนั่นเองเพราะท่านเข้าญาณเป็นวสีทุกขณะจิต พ่ออาจารย์ท่านหวังให้ผู้บูชาครูพระอนุรุทธะได้ถวายข้าวน้ำเเก่ท่าน เป็นเคล็ดเหมือนถวายอาหารเเก่พระอรหันต์ที่ออกจากญาณใหม่ๆทำให้ได้บุญได้อานิสงค์มากในทุกๆวัน ยิ่งทำบ่อยยิ่งดีข้าวที่ถวายก็ให้ลามากินต่อยิ่งดีมากถือว่าเป็นสิริมงคลเหมือนเรากินลาภผลเเละสิ่งดีๆที่เหลือจากการถวายให้ครูบาอาจารย์ แลองค์พระนั้นประทับนั่งเปิดตาที่สามดุจทอดสายตาพิจารณากฏแห่งไตรลักษณ์ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้สิ่งทั้งหลายนี้ก็ใช่ว่าจะเที่ยงแท้แน่นอนเมื่อเราอาราธนาครูพระอนุรุทธะแล้วแม้กฏไตรลักษณ์ก็ยังพลิกกลับได้เรียกว่าสามารถบิดเบือนพลิกผันเพื่อให้อยู่ในจุดที่ดีที่สุด
    ด้วยรูปแกะสลักขนาดบูชานั้นมีข้อปฏิบัติมากมาย..บางคนเขาว่าก็ไม่ยากพอจะปฏิบัติได้ก็ทำตามจนเกิดความเจริญแก่ตัวเขาแต่ในกรณีนี้ก็มีคนปฏิบัติไม่ได้เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างพระอนุรุทธะขนาดห้อยคอนี้ให้ได้บูชากัน ### ท่านว่าหนนี้ไม่ต้องทำพิธีรับหรือมีข้อห้ามให้ถืออะไร เพราะเราเพียงอาราธนาท่านเข้ามาในชีวิตเท่านี้ก็เฮงแล้ว

    *** เรียกว่าเป็นโอกาศแล้วและอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระอนุรุทธะให้แก่ศิษย์ที่รอคอยมายาวนาน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นท่านว่าคนที่เค้ามีบารมีร่วมกับครูท่านก็จะมาเอาไปใช้ ครูพระอนุรุทธะนี้พ่ออาจารย์ว่าถ้าใครจะเอาไปใช้ห้อยคอก็ใช้ได้เลยแรงและเร็ว แต่ถ้าใครอยากนำไปอาราธนาฝึกปฏิบัติก็ให้บูชาหาพานวางรองด้วยผ้าขาวอาราธนาท่านเป็นครูกรรมฐานถวายพวงมาลัยสักการะประดิษฐานไว้ในห้องพระองค์หนึ่งและนำติดคอองค์หนึ่ง หรือใครที่ชีวิตมีปัญหาด้านลาภสักการะเกี่ยวกับสถานที่ทำกินหรืออาถรรพ์ต่างๆท่านว่าปัญหามีที่ไหนก็อาราธนาไว้ที่นั่นย่อมคลี่คลายทุกปัญหา ถ้าเก็บเงินไม่อยู่เงินเข้าแล้วหมดไปรายจ่ายไม่ทันรายรับท่านว่าอาราธนาท่านใส่เซฟหรือตู้เก็บทรัพย์สมบัติของเราก็ได้ บอกท่านให้ลาภสักการะงอกเงยไม่ขาดมือเพียงเท่านั้นคำว่าไม่ได้ย่อมไม่มี แต่ท่านว่าจะอาราธนาอย่างไรก็ตามสำคัญที่สุดอย่าลืมห้อยท่านไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้สารพัดสุดที่จะใช้อาราธนาดีทุกทาง

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญมหาธาตุเปิดเนตรทิพย์เปิดขุมทรัพย์พระอนุรุทธะศากยวงศ์
    (ผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มี) บูชา 900 บาท


     
  14. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  15. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระองค์ธรรมอนันต์มุนี(แย่งแปลงชะตาฟ้าจัดสรร)

    วิชาทำตะกรุดที่องค์ปฐมท่านอนุญาติให้พ่ออาจารย์ท่านลงเพียงครั้งเดียวในชีวิต แม้ว่าหากทำเกินหรือมีครั้งที่สองจะถือว่าเป็นบาปทั้งละเมิดคำครู...ก็คือตะกรุดยอดวิชาองค์ธรรมอนันต์มุนี(แย่งแปลงชะตาฟ้าจัดสรร)

    *** เพื่อให้ได้รับในสิ่งที่ทั้งชีวิตไม่เคยรับได้
    - เคยหรือไม่
    ที่ดวงชะตาถูกผูกไว้ตั้งแต่กำเนิดว่าเกิดมาเป็นคนไร้บ้าน,ไร้ทรัพย์สิน,ไร้อำนาจวาสนา,ไร้หนทางความสำเร็จ

    - เคยหรือไม่ ที่มีชะตาสัมพันธ์ มีโชควาสนากับอะไรแล้วเอามาครอบครองไม่ได้

    - เคยหรือไม่ ที่ตัวเองต้องเห็นสิ่งที่ตนทำมาและควรจะเป็นของตนต้องตกเป็นของคนอื่น..เป็นคนของคนอื่น,เป็นผลงานของคนอื่น,เป็นวาสนาของคนอื่น,เป็นความสำเร็จของคนอื่น

    - เคยหรือไม่ เมื่อทำบุญหนักชีวิตกลับกลายเป็นทุกข์หนัก บุญกุศลไม่สามารถเยียวยาวิกฤติที่ยากจะผ่านไปได้

    - เคยหรือไม่ ที่รู้สึกคับข้องในใจตนเองว่าเพราะอะไรเราถึงเกิดมาแล้วทำตามความฝันไม่ได้สักที

    - เคยหรือไม่ ที่ต้องคอยระแวงระแวดระวังภัยอันจะเกิดขึ้นแก่ตนจากสังคมรอบข้าง

    - เคยหรือไม่ ที่เราลงแรงพยายามมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพังมากขึ้นเท่านั้น

    - เคยหรือไม่ ที่รู้สึกตัวว่ากิจที่ทำอยู่ทำต่อไปก็หาความเจริญก้าวหน้าอะไรม่ได้

    - เคยหรือไม่ ที่รู้สึกว่าปัจจัยสี่ทั้งทรัพย์สิน,ที่อยู่อาศัยการลงหลักปักฐานเลี้ยงดูตนเองนั้นขวนขวายมาได้ยากลำบาก

    - เคยหรือไม่ ที่ชนทั้งหลายดูถูกติฉินนินทาจะทำสิ่งใดให้สำเร็จก็ขาดโอกาส

    - เคยหรือไม่ ที่ดวงชะตาวิบัติตกต่ำจมดิ่งกดชีวิตตัวเองลงครั้งละหลายๆปีติดๆกัน

    - เคยหรือไม่ ที่ความปรารถนาคำวิงวอนไม่ได้รับการเห็นใจ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าปัญหาร้อยแปดพันประการในชีวิตมนุษย์นั้นมีมากกว่านี้นักบางคนก็หนักกว่านี้ บางคนก็เบากว่านี้ แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าปัญหาที่กดทับหนักหนาดั่งขุนเขาสะกดแผ่นดินแน่นอนว่าเรื่องทั้งหลายย่อมคลี่คลายได้ยากดั่งว่าเป็นชะตาเรา..ดั่งว่าจัดสรรมาแล้วว่าเราต้องเป็นคนที่ต่ำที่ด้อยกว่าคนอื่น..ดั่งว่าฟ้าสาปสรรลงมาแล้วว่าการเกิดหนนี้ต้องแบกรับทุกข์เวทนาสาหัสนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าเหตุเพราะมีอำนาจฟ้ามาเกี่ยวพันกับดวงดาวและธาตุทั้งสี่ในชีวิตมนุษย์แต่ละคน การอุบัติของชนทั้งหลายจึงแตกต่างกันออกไปทำให้วิถีชะตาที่ถูกกำหนดมานั้นยากแก้ไข ด้วยภัยอันเกิดจากการกดดันแบกรับทุกข์เวทนาของสรรพชีวิตนั้นย่อมทำให้จิตเศร้าหมองและเสื่อมทรามลงความทุกข์หลากหลายชนิดหลากหลายรูปแบบเริ่มมีมากขึ้นเยอะขึ้น ไม่ว่าจะทุกข์จากดาวนพเคราะห์,จากชะตาชีวิต,จากกฏแห่งเวรกรรมตามวัฏฏสงสาร,จากเจ้ากรรมนายเวรในอดีตที่ชาตินี้เราไม่รู้อะไรด้วยตามเล่นงานหลอกหลอน,จากศัตรูหมู่มารเทวดาอันธพาลทั้งหลาย,จากความปรารถนา,จากหน้าที่การงานต่างๆ...สิ่งเหล่านี้จากความทุกข์กลับทับทวีมากขึ้นนำไปสู่ทุกข์เข็ญ,ความตกยากลำบากอึดอัดคับข้องใจ ด้วยคนเราเวลาเดือดร้อนนี่น่ากลัวมากเพราะเขาจะทุรนทุรายหาทางออกหาทางเอาตัวรอดจากที่ทุกข์ก็จะยิ่งลำบากกว่าเดิมที่ยิ่งเดือดร้อนอยู่เเล้วกลายเป็นยิ่งทุกข์หนักขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ท่านจึงเห็นเป็นกาลสมควรให้นำตะกรุดมหาวิเศษชุดนี้เปิดจองในวาระปัจจุบัน เพื่อผู้ที่ได้ไปจะได้มั่นใจเเละมีหลักประกันในชีวิตตนเองไม่ต้องทุกข์โถมทวีใดๆอีก ซึ่งตะกรุดพระองค์ธรรมอนันต์มุนีนั้นเป็นตะกรุดที่ทำยากมาก เพราะกว่าจะทำเเล้วเสร็จในชุดหนึ่งๆนั้นต้องใช้ระยะเวลายาวนานถึง 9 ปีค่อยๆทำสะสมไว้

    เมื่อทำแล้วอาราธนาพ่อพระพุทธท่านเสกให้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเกิดปาฏิหาริย์ถึงเก้าครั้ง(ท่านว่าเรื่องพวกนี้พูดไม่ได้เพราะเป็นของที่พ่อพระพุทธท่านทำให้ท่านว่าเดี๋ยวจะเป็นการอวดอุตริ)จึงจะสำเร็จ ทั้งตะกรุดนี้ยังมีกำลังเเรงกล้ามากไม่มีวันถดถอยซ้ำใครก็คัดถอนมิได้ใส่ไปที่ใดของก็ไม่เสื่อม เมื่อบรรจุดวงชะตาตนเข้าไปชีวิตเราจะเปลี่ยนกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือเสมอด้วยชีวิตเขาเหมือนมีเเก้วมณีมียอดสมบัติสารพัดนึกอยู่ในครอบครองดั่งว่าคุณพ่อพระพุทธท่านลงมาสงเคราะห์เหยียบเกล้าเหยียบกระหม่อมเราเเล้วสัพเคราะห์ใดๆแม้มีกำลังมากก็ไม่อาจกล้ำกรายเราได้ทุกข์เข็ญเคืองขัดหมู่มารสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่อาจทำอันตรายแก่เราได้ปิดประตูทุกข์ได้เลย ทำอะไรก็ไหลรื่นประสบความสำเร็จตามข้อคำความปรารถนาที่เราเขียนถวายสอดไว้ในดวงชะตาแน่นอน
    ด้วย "ตะกรุดนี้ตกต้องถึงผู้ใด กาลแห่งทุกข์ทั้งหลายจะคลี่คลายโดยฉับพลัน"
    ด้วยคำปรารถนาใดๆที่พ่อพระพุทธท่านเมตตารับไว้ในอนุเคราะห์ย่อมมีผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทำให้สมความปรารถนาจนเสร็จสิ้น เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงใช้ระงับทุกข์ภัยโทษเคราะห์ต่างๆได้ หากได้อาราธนาสวมใส่ท่านว่าย่อมไม่รู้จักความทุกข์เลยเอาตะกรุดนี้ติดเนื้อติดตัวไว้ไอ้ความทุกข์ยากขัดสนฉิบหายทั้งปวงนั้นเข้าไม่ถึงตัวเราดั่งหาตัวเราไม่เจอ

    เธอจำไว้นะของแบบนี้คนที่ยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏยังต้องทนทุกข์อยู่ในห้วงวัฏฏสงสารต่อให้นึกอยากทำก็ทำไม่ได้ เพราะต้องให้คนที่พ้นโลกพ้นสงสารไปแล้วเท่านั้นมาทำถึงจะทำได้นี่ถ้าไม่ได้จากองค์ปฐมท่านช่วยทำตะกรุดแบบนี้ชาตินี้ไม่มีทางหาใช้กันได้เลย เพราะท่านเปลื้องทุกข์..นิราศทุกข์..มิรู้จักความทุกข์ไปนานมากโขเสียเเล้ว สิ่งใดก็ดีที่จะทำให้เกิดสภาวะบีบคั้นต่างๆกับชีวิตเรา ทำให้สภาพและสถานะต่างๆในชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปจนเราทนไม่ไหว..บางคนก็เปลี่ยนหนักเกินกว่าจะรับได้ การแปรเปลี่ยนด้วยทุกข์อันทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดเดือดร้อนเป็นกังวลไม่สบายกายไม่สบายใจ หาความสุขไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าสอดดวงไว้เดี๋ยวพระข้างบนท่านดับให้เองทุกข์และการเปลี่ยนแปลงใดที่ทำให้ชีวิตเราบิดเบี้ยวแปรเปลี่ยนผิดเพี้ยนไปจากหนทางที่เราขวนขวายมุ่งหวังจะได้รับการแก้ไข ### หากแม้ผลบุญอันทำไว้ยังไม่สุกงอม.ยังไม่มี.ยังไม่พร้อม.ยังเอาไม่ได้ ด้วยคุณแห่งตะกรุดที่ใช้แย่งแปลงชะตานี้ย่อมช่วยต่อยอดความเจริญให้ไวขึ้นไม่ต้องรอผลบุญนำพา ...ด้วยหากหมดทุกข์และชีวิตไม่เจริญมันก็จะตกที่ว่างอยู่นิ่งๆแบบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ก้าวหน้า เมื่อสิ้นเคราะห์สิ้นโศกแล้วต้องเจริญด้วยลาภยศสุขสรรเสริญทรัพย์สินศฤงคารธนสารสมบัติถ้วนทุกประการเช่นนี้

    *** บุคคลที่มีความทุกข์ทั้งหลายไม่ว่าจะทุกข์ต่างๆประการใดจากภายในหรือภายนอกจากภาวะสังคมหรือสิ่งเเวดล้อมใดๆก็ดีย่อมหลุดพ้นจากมหาทุกข์ดังกล่าว ท่านว่าพ้นจากทุกข์ประสบซึ่งความสุขอิ่มเอิบในทุกด้านอันไม่ใช่สุขฉาบฉวยสามัญชั่วคราวหากเป็นความสุขที่เเท้จริง

    *** แม้บุคคลใดหมดหวังชีวิตขาดที่พึ่งพิงไม่สามารถกระทำสิ่งที่คิดหวังไว้ให้ได้สมใจปรารถนา ชีวิตรันทดหมดหนทาง ท่านว่านั่นเเหละมันจะพลิกกลับได้ทุกอย่างเขาจะสำเร็จถึงซึ่งความสมหวังมีสุขเสมอใจเขา

    *** แม้บุคคลใดสิ้นไร้ไม้ตอกต่อไปเขาย่อมเเวดล้อมด้วยข้าทาสบริวาร..คนที่ไร้เรือนก็จะมีเรือน มีคฤหาสต์..คนที่ขาดความรักปรารถนาคนรักก็จะมีคู่ครอง..คนที่ขาดทรัพย์สินก็จะมีทรัพย์สมบัติ ด้วยชะตาชีวิตนั้นพลิกผันไป ทั้งความชั่วร้ายอวมงคลปีศาจสัมภเวสีทั้งหลายก็มิได้กล้ำกรายปิดหนทางตกต่ำ,ปิดความมืดมนในชีวิตจะได้เสวยซึ่งความสุขแห่งกามภพ ไม่เจอความขัดข้องชะตาวิบัติขัดสนมีอันเป็นไปอีกเด็ดขาด

    หากแต่ตะกรุดพระองค์ธรรมอนันต์มุนี(แย่งแปลงชะตาฟ้าจัดสรร)กลับเป็นวิชาที่สมเด็จองค์ปฐมท่านได้สั่งสอนเราไว้เพื่อใช้แก้ไขเหตุเหล่านี้โดยเฉพาะ เหนือสิ่งอื่นใดท่านว่าไม่ใช่จะทำให้ใครก็ได้นึกอยากจะทำเมื่อไหร่ก็ได้หากแต่ทั้งชีวิตพ่ออาจารย์ท่านนั้นให้ลงได้เพียงครั้งเดียวตามวาสนาของสัตว์โลกที่มีบุญสัมพันธ์กันมา ### ที่จริงแล้วพ่ออาจารย์ท่านพูดเสมอว่าตะกรุดสำคัญแบบนี้ต่อให้เสกมาเรื่อยๆทำมาทั้งชีวิตเป็นแสนเป็นล้านดอกก็ยังไม่พอกับคนที่เขาต้องการเอาไปใช้ จะติดก็เพียงว่าเรารับคำบรมครูพ่อพระพุทธท่านไว้จึงทำได้เพียงไม่กี่ดอกก็เลยต้องงดไว้ก่อนไม่ได้เอาออกมาให้ใครใช้เสียนาน ด้วยเหตุว่าถึงกาลอันสมควรผู้มีววาสนาครอบครองตะกรุดนั้นจะได้แปรเปลี่ยนหนทางชีวิตหลุดรอดจากทุกข์ทรมานทั้งหลายดั่งว่าเวรกรรมอันจะมาเบียดเบียนทุกข์โทษภัยสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่ตามติดผู้คล้องตะกรุดอยู่จะหาตัวเราไม่พบเช่นนั้นเสมอด้วยเรานั้นเป็นอากาศธาตุจะเพียรหาตามติดด้วยวิธีใดก็หลุดพ้นไปได้โดยพุทธานุภาพ นอกจากจะแปลงชะตาแล้วยังใช้สร้างฐานะเติมเต็มความปรารถนาให้เสมอด้วยความทะเยอทะยานอยาก...ให้ได้พบเกียรติยศสูงสุดในชีวิต

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากเลื่อนขั้นไว ทำกิจใดคั่งค้างให้สำเร็จ ทำความฝันที่ใหญ่โต ทำการแข่งขันให้เจริญก้าวหน้าไม่ถดถอย..นั่นแหละต้องแปลงที่ชะตาคนก่อน เมื่อบรรจุดวงเราเข้าไปแล้วแม้นเกิดมาจะเป็นคนที่ไร้วาสนาก็จะได้มาซึ่งวาสนาเปลี่ยนแปลงชะตาให้สำเร็จสัมฤทธิ์ในทุกเรื่องทุกสรรพสิ่ง แปลงชะตาให้ภูติผีเทวดาเค้าขยาดไม่กล้ารังแกเราได้เลยอยู่ที่ไหนใครก็เกรงกลัวทั้งนั้นทำอะไรก็ง่ายดายไปหมด แปลงชะตาให้ดี..ให้สำเร็จ..ให้เป็นเลิศกว่าคนอื่นหมื่นแสน แปลงชะตาดั่งว่าเป็นหลักปักฟ้าไม่ให้ชีวิตคลอนแคลนเอนเอียงย่อยยับได้อีกต่อไป ตะกรุดนี้ใช้แย่งแปลงชะตาด้วยกำลังพ่อพระพุทธจึงยังให้เราสมบูรณ์ด้วยบุญบารมีครอบดวงชะตาด้วยฉัพพรรณรังสีอันส่องสว่างแรงกล้ากว่าตะวันพันแสงของสมเด็จองค์ปฐมอันเป็นแสงสว่างแห่งอริยผล..แสงสว่างแห่งสัจธรรมที่จะปัดเป่าและทำลายความมืดลงได้โดยแท้จริง
    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าให้คุณดั่งได้รับการชำระบาป ทั้งบาปที่ทำไปโดยรู้ก็ดี,ไม่รู้ก็ดี,ทางกาย,ทางวาจา,ทางใจในชาตินี้หรือในภพก่อนๆมาก็ดี ทั้งหมดทั้งมวลของการแปลงชะตานั้นคือการชำระให้บริสุทธิ์เพื่อให้ถึงซึ่งความเจริญไม่รู้จบมีแต่จะเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป การแปลงชะตานั้นจะปิดจุดมืดมุมบอดในชีวิต..คนที่เคยนอนฝันร้าย..เป็นโรคร้าย..มีชะตาร้าย..ก็สิ่งเลวร้ายทั้งหลายในชีวิตย่อมพินาศไปเป็นธรรมดาต่อไปจะได้เป็นผู้นำคนอื่นเขาทั้งหมด

    *** ตะกรุดวิชานี้ขึ้นอยู่กับวาสนาด้วยนะ ถ้าชะตาชีวิตใครยังไม่เปิดทำเสียอย่างไรทั้งชีวิตก็ไม่มีวันได้พบ พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดสั้นๆนะรูในตะกรุดนี้ก็คนใช้นั่นแหละต้องเอาชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดพร้อมกับเส้นผมอันเป็นอวัยวะสูงสุดของตัวเองใส่ไว้ภายใน..หลังจากทำตามนั้นฉันบอกได้เพียงว่ารับโชค รับในสิ่งหา รับในสิ่งที่ขาด รับในสิ่งที่ปรารถนา รับในสิ่งที่ไม่เคยได้ไม่เคยมีไม่เคยเห็น รับในสิ่งที่อยู่เหนือกว่าสามัญสำนึกของตนเอง...ต้องได้รับ ดั่งว่าฟ้าท่านจัดสรรชีวิตเราให้แปรเปลี่ยนไป ที่ว่าฟ้าจัดสรรนี้มันมีอานุภาพใหญ่กว่าเทพพรหมลิขิตหรือรอเทวดาสงสารให้พรทีละข้อๆไปมากนัก....เพราะการบรรจุดวงในตะกรุดเธอต้องเข้าใจด้วยว่ามันไม่ใช่การแปลงดวงปกติ แต่ตราบใดที่ชาตินี้ดวงเราอยู่ภายในตะกรุดนั้นย่อมเสมอด้วยการเข้าพิธีตัดกรรมตลอดเวลา ด้วยวิชาที่จะใช้แย่งแปลงชะตาเรานั้นย่อมมีคุณริดรอนกรรมเก่าอันส่งผลในปัจจุบันช่วยดับล้างขับไล่สิ่งไม่ดีทั้งหลายจากร่างกายเรา เพื่อให้หนทางข้างราบรื่นในทุกสิ่งยังต้องแปลงชะตาให้หลีกพ้นจากศัตรูหมู่มารและอุปสรรคทั้งหลาย ของแบบนี้จึงไม่ใช่ว่ามีแค่บุญแล้วจะได้เจอหากแต่ยังต้องยิ่งด้วยบารมีที่สั่งสมมามากจึงจะได้พาลพบและครอบครองได้

    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้มีอาถรรพ์แรงนอกจากจะใช้
    ..รับ..
    ได้ชะงัดแล้วยังใช้แย่งแปลงชะตาคนที่เราปรารถนาจะเจริญและเอาดีให้ได้เสมอเขา เรียกว่าขอแล้วต้องได้เพราะเมื่อเราแปลงดวงบรรจุชะตาไว้ในตะกรุดเมื่อจะขออะไรกับตะกรุดก็ย่อมสำเร็จโดยง่ายดั่งว่าเรามีกำลังบารมีแห่งพระพุทธเจ้าที่ได้บำเพ็ญบารมีไว้ก่อนจะตรัสรู้มาเป็นฐานหนุนดวงชะตาบารมีเหล่านั้นมากมายเหลือคณาเมื่อดวงเราขับเคลื่อนด้วยบารมีพุทธองค์เวลาเราขอเราอธิษฐานอะไรนั่นย่อมหมายถึงการอ้างอิงในบารมีของท่านให้เหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพยดาทั้งหลายรับฟังคำขอคำอธิษฐาน เช่นนั้นเองขออะไรแล้วจึงต้องได้ ..อยากจะรับอะไรก็ได้รับ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากแปลงชะตาให้มั่นคงแล้วยังแปลงเปลี่ยนด้วยพุทธบารมีให้สมหวังได้รับในความปรารถนาที่ดีทุกอย่าง จากคนที่ผิดหวังขอความเมตตาอธิษฐานอะไรก็ไม่เป็นผลแต่เมื่อเราแปลงชะตาเช่นนี้ท่านว่าอย่าได้เอ่ยปากบ่อยเชียว นั่นแหละต่อไปขออะไรก็เป็นจริงและสำเร็จเพราะเรามีพุทธบารมีคอยแปลงชะตาอยู่จะขออะไรย่อมบังเกิดขึ้นได้ ..ขอแล้วต้องได้..ขอแล้วเตรียมรับเช่นนี้ ตะกรุดดอกนี้ท่านทำไว้ให้เป็นกำลังแก่คนที่มีความปรารถนาในสิ่งที่ถูกที่ควร อะไรที่เอื้อมไม่ถึงจะได้ไม่ไกลเกินเอื้อมดั่งว่าโลกอยู่ในมือเราท่านว่าห้อยติดตัวไว้ทั้งพรหมทั้งเทวดาอันรักษาพระศาสนาผู้มากฤทธิ์ทั้งหลายย่อมเข้าดลช่วยเหลือในสิ่งที่ปรารถนาให้สำเร็จเสร็จกิจด้วยพุทธภูมิบารมี ต่อไปจะได้ดีมีกินมีใช้ไม่ขาด จะเป็นเหตุให้พบความโชคดีจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปเสียหมดมีเงินทองบังเกิดขึ้นเรื่อยๆแปลงชะตาวาสนาให้มีเงินต่อเงินมีทองต่อทองไม่รู้หมดรู้สิ้น...### เวลาจะขออะไรให้นำตะกรุดวางไว้บนฝ่ามือ แล้วจึงแบมืออีกข้างหนึ่งขอในสิ่งที่เราปรารถนาว่า "ด้วยเดชเดชะแห่งพ่อพระพุทธโปรดสงเคราะห์ข้าพระพุทธเจ้า...(ขอในความที่ปรารถนา)" ท่านว่าทำได้ทุกวันขอให้ขยันขอเถิดย่อมได้รับทุกสิ่งเสมอใจ

    ### รายการนี้เป็นยอดสุดของตะกรุดหนุนดวงชะตา ยอดสุดของวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงเร็วและอันตรายหากคนใช้ไม่ควบคุมความปรารถนาตนเอง ท่านว่าจะรับจะปรารถนาอะไรจะแย่งชะตาใครก็เอาแต่พอดีๆนะ ท่านว่าเป็นตะกรุดรุ่นที่ทำและข้างบนให้ทำได้น้อยที่สุดจริงๆฉันก็บอกได้เหมือนที่บอกแหละว่าของบางอย่างข้างบนเขาเลือกคน..แต่หนนี้ไม่ใช่ข้างบนแล้วนะแต่เป็นสมเด็จองค์ปฐมท่านเลือกคนของท่าน เพราะท่านบอกเองว่าเป็นยอดสุดของตะกรุดหนุนดวงชะตาที่ผันผ่านกาลเวลาดั่งให้หมุนแปรเปลี่ยนกงล้อชีวิตอันปรากฏในวัฏสงสารการเวียนว่ายตายแล้วเกิดไปจนถึงพระนิพพาน ด้วยกาลเวลาย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเปลี่ยนผ่านจากสิ่งหนึ่งไปสู่สิ่งหนึ่งตะกรุดแปลงชะตาจึงเปลี่ยนทุกสิ่งให้ดีขึ้นทันตาเห็นให้พ้นอัตภาพอันขัดข้อง..ให้จิตละเอียดบริสุทธิ์ไปมาได้อิสระทุกหนแห่ง ..ให้ชีวิตไม่ตกอยู่ในห้วงทุกข์หรืออำนาจใดๆครอบงำทั้งสิ้น ต่อไปย่อมดำรงค์อยู่ในสุขสันตินิรันดร์กาล

    แม้คนที่บุญยังปิดบารมียังไม่เปิดต่อให้สะสมบุญใหม่ถ้าบารมีเก่ายังไม่เปิดก็ป่วยการณ์แต่ตะกรุดที่ใช้แปลงชะตานั้นย่อมเปิดทางทรัพย์สินตลอดจนอริยทรัพย์เปิดความเจริญก้าวหน้าให้เจริญรุดหน้ารวดเร็วไม่ถอยหลังกลับเปิดชีวิตให้ก้าวเข้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งที่ไม่มีไม่ได้ก็เดินเข้าไปให้มีครบถ้วนสมบูรณ์ ให้ถึงซึ่งความสุขอย่างประณีตจะได้มีโอกาสสั่งสมอบรมสร้างบารมีให้บรรจบครบกัลป์ในชาตินี้และทุกๆชาติไปจะปรารถนาสิ่งใดก็เป็นไปเสมอใจด้วยพุทธบารมีอุปการะเราไปตลอดจนกว่าจะถึงเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ ซึ่งจะเป็นเหตุให้พบเจอแต่ความเจริญรุ่งเรืองและไม่ถึงจุดตกต่ำกลับไปอีกแล้วนั่นเอง

    ตะกรุดพระองค์ธรรมอนันต์มุนีนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าห้อยอาราธนาไปเถิด แม้พกไว้เฉยๆก็จะเจริญรุ่งเรืองไม่มีศัตรูอริใดจะมาเบียดเบียนได้ ซ้ำยังได้ชื่อว่าเป็นผู้มีเดชมาก..มีฤทธิ์มากและจะปรากฏเกียรติยศสืบต่อไปในเบื้องหน้สมบูรณ์พร้อมหมดทั้งเดชปัญญายศศักดิ์และโภคทรัพย์ทั้งปวง ขับเคลื่อนผู้บูชาให้เป็นใหญ่ได้ดีเจริญรุ่งเรืองในกิจที่กระทำทุกสิ่งดั่งพลิกฟ้าพลิกดินกลับเรื่องร้ายๆที่กำลังผจญอยู่ แม้สถานการณ์ชีวิตจะเลวจะแย่หรือเข้าขั้นวิกฤติก็จะพลิกกลายเป็นโอกาสเป็นเรื่องที่ดีได้ แม้ดวงตกมีทุกข์โทษภัย คราะห์หามยามร้ายใดๆก็จะคลายสูญสิ้นไม่ใช่ด้วยจะไปเบียดเบียนกฏแห่งวัฏสงสารแต่อาศัยพุทธานุภาพส่งทุกข์โทษภัยเหล่านั้นกลับไปให้ไกลหมื่นโยชน์แสนโยชน์ พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดแปลงชะตานั้นไม่ได้สร้างขึ้นมาเฉยๆหากแต่ได้อิงอาศัยหลักการชีวิตในอุดมคติของมหาสัตว์มหาบุรุษนับไม่ถ้วน เธอจำไว้นะหลักการในอุดมคติของมหาสัตว์ทั้งหลายที่ต้องสมบูรณ์และบริบูรณ์ในความสุขสมหวังทุกสิ่งทางโลกีย์วิสัยทั้งตะกรุดนี้ยังมีแรงครูสูงและมีอาถรรพ์มากด้วยว่าเป็นวิชาที่ปกปิดไว้ไม่มีใครทำสืบทอดกันมายาวนาน ท่านว่าทำยากปานเข็นครกขึ้นภูเขาปรารถนาจะทำให้ได้ทั่วกันก็ทำไม่ครบจึงต้องทำไว้เพียงเล็กน้อยให้เฉพาะผู้ที่มีบุญสัมพันธ์พ่อพระพุทธท่านได้ใช้ เมื่อได้ตะกรุดเอกดอกนี้ไปให้อาราธนาบอกกล่าวนึกถึงชีวิตที่เราฝันเส้นทางในอุดมคติของเราว่าต้องการความเจริญทางไหนอย่างไร ท่านว่าแปลงชะตาได้ทุกสิ่งจะทำอะไรก็นึกให้ดีแล้วบอกกล่าวเอาเถิดแม้คนสิ้นไร้ไม้ตอกไม่มีเรือนคุ้มหัวไม่มีที่อยู่อาศัยนั่นแหละก็ยังพลิกกลับกลายเป็นความสุขได้

    คาถาบูชา(ท่านว่าตั้งนะโมระลึกถึงพระพุทธเจ้าและใช้เลยก็ได้ แต่หากเป็นคนจิตไม่นิ่งยึดติดกับการภาวนาก็ใช้คาถาได้)
    นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา โยโพธิสัตโต วะระโท สะระโสมะรานัง เทวาติเทโ ภิตะนาระมาโส โอวาทะเทตังพิตะนาระมาสัตถัง


    *** ตะกรุดแย่งแปลงชะตาฟ้าจัดสรรนี้ท่านให้เปิดจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าใช้อย่างไรถ้าคนมีปัญญาและถูกเลือกแล้วเพียงรู้ชื่อก็จะเข้าใจว่าตะกรุดที่ใช้แย่งแปลงชะตาฟ้าจัดสรรนั้น..มีอาถรรพ์เร็วและดีจนน่ากลัวที่สุด..มากอย่างไร ท่านว่าในยุคนี้มีแต่คนเขลาเท่านั้นแหละที่จะวางใจชะตาตนเอง

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระองค์ธรรมอนันต์มุนี(แย่งแปลงชะตาฟ้าจัดสรร) บูชา 4,000 บาท



     
  16. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  17. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา พระเวทย์หมื่นโลกธาตุสี่มหาพรหมกุมารชุดอาถรรพ์พนมกุเลน (สนกะ,สนาตนะ,สนันทนะ,สนัตกุมาร)

    ในอดีตที่ผ่านมาพ่ออาจารย์ท่านมักจะกล่าวถึงพระเวทย์และพระธรรมเสมอแต่การปรากฏขึ้นของพระเวทย์ทั้งสี่ในร่างมหากุมารสี่พระองค์นั้นพ่ออาจารย์ท่านกลับปกปิดไว้ไม่ได้เปิดเผยนัก ด้วยยอดกุมารทั้งสี่อันได้แก่สนกะ,สนาตนะ,สนันทนะ,สนัตกุมาร ล้วนแต่เป็นมานัสบุตรแห่งพระบรมบิดาพรหมเทพ เรียกว่าเกิดโดยบริสุทธิ์คือเกิดจากความคิดบรมพรหม กุมารทั้งสี่นี้ล้วนอุดมไปด้วยเดชและตบะเป็นล้นพ้นเหนือกว่าเทพยดาและมหาฤาษีทั้งปวง

    ด้วยทั้งสี่นั้น
    อุบัติขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของพระเวทย์ทั้งหมื่นโลกธาตุ(พ่ออาจารย์ท่านว่าพระเวทย์และพระธรรมคือขุมกำลังอันยิ่งใหญ่สูงสุด) การปรากฏของมหากุมารทั้งสี่จึงเป็นดั่งร่างเนื้อของพระวทย์ทั้งปวง
    - พวกเขาจะไม่มีวันโต โดยจะปรากฏรูปเป็นเด็กทารกนี้ไปตลอดกาล
    - พวกเขาจะไม่แต่งงาน ด้วยจะรักษาพรหมจรรย์เช่นนั้นตลอดกาล
    - พวกเขาจะไม่มีทายาท จึงไม่มีสกุลไม่มีพันธะไม่มีบ่วงฉุดดึงเป็นอิสระในโลกธาตุทั้งหลาย

    ทั้งสี่มหากุมารนี้ยังเก่งกาจหาตัวจับยากเรียกได้ว่าแม้ในหมู่เทพเจ้าถึงรู้ว่าทั้งสี่นั้นมีอยู่แต่ก็ยังใช่ว่าจะเคยเห็น เพียงแต่รู้ศักดิ์รู้ฐานะแต่กลับเจอตัวยากยิ่งนัก ด้วยเป็นการปรากฏร่างด้วยกายหยาบของพระเวทย์จึงทำให้กุมารทั้งสี่เป็นที่เคารพยกย่องสรรเสริญในหมู่มหาเทพและโลกธาตุทั้งหลายไปโดยปริยาย สี่กุมารนี้มีฐานะเป็นสุคุณพรหมันคือพรหมอันปรากฏรูป โดยกำลังพระเวทย์แห่งมหาจักรวาลนี้ได้ปรากฏรูปเป็นกุมารทั้งสี่ผ่านความคิดของพรหมเทพเมื่อคราวเริ่มต้นสัตยยุค

    ทั้งสี่ท่านล้วนถืออภิสิทธิ์จะเข้าเฝ้าพระเป็นเจ้าพระองค์ใดที่ไหนเวลาใดก็ได้ ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่นี่คือสี่ยอดกุมารที่เก่งที่สุดในโลกธาตุทั้งหลาย...จะหายอดกุมารใดที่มีอานุภาพสยบฟ้าดินมีอภิสิทธิ์ของมหาเทพและเป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับผู้บูชาได้เท่านี้ไม่มีอีกแล้ว ท่านย้ำ!หนักหนาว่าแต่ละท่านล้วนเป็นมหาพรหมคือมีศักดิ์ฐานะเป็นมหาพรหมด้วยตนเองทั้งสิ้น ### พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณแรงให้พรได้ทุกอย่างด้วยว่าท่านเป็นเด็กใจดี ถ้าเราขอเราพูดดีกับท่านมหาพรหมทั้งสี่นั้นย่อมตามใจเราโดยง่าย(ท่านว่าก็เหมือนเด็กนั่นแหละวันๆเอาแต่นั่งเข้าตบะพอลืมตามาเธอพูดอะไรเขาฟังเขาเชื่อหมดเลย) พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือข้อดีและนิสัยของเด็กๆแต่เธออย่าไปดูถูกคำพรของสี่มหาพรหมกุมารนะ ด้วยตบะของท่านไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเหลวไหลแม้ให้พรผู้ใดย่อมติดตัวไปนับชาติภพไม่ได้....ดูอย่างตอนสี่มหาพรหมกุมารนี้สาปชัยและวิชัยผู้ทำหน้าที่เฝ้าประตูวิมานพระวิษณุนารายณ์นั่นสิ ท่านสาปให้ลงไปเกิดเป็นอสูรอีกสามชาติเรียกได้ว่าสี่มหาพรหมกุมารนี่แหละคือต้นเหตุให้พระนารายณ์ลงไปเกิดเป็นพระรามบ้าง,พระกฤษณะบ้าง,พระนรสิงห์บ้าง,พระวราหาบ้าง...เพื่อตามล้างคำสาปของสี่มหาพรหมกุมารให้แก่เทพสาวกผู้เฝ้าทวารบาลทั้งสอง

    ด้วยมหาพรหมกุมารทั้งสี่นั้นทรงศักดิ์และสิทธิ์สูงเยี่ยมเทียมฟ้าดินเพราะเป็นร่างชีวิตของพระเวทย์ดึกดำบรรพ์ทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านจึงได้รับโองการครูพรหมสร้างเครื่องมงคลในรูปกุมารที่เก่งที่สุดและทรงศักดิ์ใหญ่ที่สุดในทุกๆโลกธาตุขึ้นมา โดยครูพรหมท่านแนะนำว่าให้ทำสี่หน้าเพื่อสื่อถึงความเป็นมหาพรหมของกุมารทั้งสี่และยังรวบสี่กุมารไว้ในองค์เดียวกัน โดยท่านได้แกะสลักจากยอดวัตถุอาถรรพ์...อันมีที่มาแต่เขาพนมกุเลน(แดนอาถรรพ์ยอดไสยเวทย์) ###จะเป็นอะไรติดตามกันดีๆนะครับ

    **** พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพรหมท่านให้แกะตามรูปเดิมของกุมารทั้งสี่ คือเป็นทารกเปลือยเปล่าท่านว่านี่แหละขลังที่สุดด้วยรูปนี้เป็นที่รักและเคารพแก่ทวยเทพและมหาฤาษีทั้งหลาย สี่มหาพรหมนุ่งห่มทิฆัมพร(นุ่งฟ้าห่มฟ้าอุปมาเหมือนเอาฟ้าทั้งหมดมาเป็นเครื่องประดับ)

    **** สี่มหากุมารนั้น
    มือหนึ่งชี้ฟ้ามือหนึ่งชี้ดิน ด้วยว่ายิ่งใหญ่เหนือฟ้าดินจะชี้เอาอะไรในฟ้าดินให้พรหรือสาปสรรค์ใครย่อมให้คุณหนักหน่วงหลายชาติภพ

    **** พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่
    าผงที่อุดและตะกรุดที่อุดนั้นเป็นยอดวิชา(พรุ่งนี้ติดตามรายละเอียดกันนะครับ) เพราะผงนี้เคยมีคนขอซื้อท่านช้อนชาละเป็นแสน ไม่นับตะกรุดซึ่งเป็นยอดวิชาเฉพาะที่นานทีปีหนทานจะลงซักคราซึ่งมีคุณทางด้านบอกหวยบอกเบอร์ให้คุณทางการทำงานเสี่ยงโชครับลาภอย่างที่สุด

    **** องค์กุมารแกะจาก
    ไม้...อาถรรพ์แห่งเขาพนมกุเลนอันเป็นของอาถรรพ์ที่ได้ชื่อว่าให้คุณทางโชคลาภมากที่สุด..เร็วที่สุด..หนักหน่วงที่สุดและเฮี้ยนที่สุด ใช้ได้ในการเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงถามหาฐานะทรัพย์สินเงินทองความเจริญก้าวหน้าทั้งปวง

    **** พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเชื่อฉันนะ ฉันบอกได้แค่ว่า
    นี่เป็นกุมารที่แรงที่สุดและจะหากุมารใดมีศักดิ์สูงกว่านี้เป็นไม่มี แม้เทพเจ้าหรือมหาฤาษีเห็นก็ยังต้องไหว้ หากรูปกายท่านดูเป็นทารกเปลือยกายน่ารักแต่ลำดับศักดิ์ในฟ้าดินนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลยด้วยเป็นกำลังธรรมชาติอันเป็นสัจธรรมสูงสุดคือพระเวทย์แห่งหมื่นโลกธาตุ...ฉันบอกเธอได้เท่านี้นะ

    *** โดยปกติแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าคนเขาจะไม่นิยมทำรูปท่านกันและ
    ยิ่งเชิญทั้งสี่ท่านมารวมกันในองค์เดียวแบบนี้ เพราะถือกันว่าท่านเป็นเด็ก แต่อย่าลืมเชียวว่าก็เด็กนี่แหละที่เราพูดอะไรท่านก็เชื่อก็ฟังก็ช่วยทันทีไปเสียทุกเรื่อง เพราะพื้นฐานนิสัยท่านเป็นเด็กตลอดกาลเช่นนี้ กุมารนี้จึงให้คุณมากซ้ำยังสงบนิ่งมากด้วยตบะดุจมหาพรหมไม่ใช่กุมารผีดื้อซน แม้จะเอามหาพรหมสี่องค์มามัดรวมกันก็ยังไม่มีฤทธิ์เสมอด้วยสี่ยอดกุมารนี้เพราะท่านคือพระเวทย์...เห็นมั๊ยเล่าทั้งสี่สาปครั้งเดียวพระนารายณ์ตามลงไปเกิดแก้ไขคำสาปให้ชาติแล้วชาติเล่า เช่นนั้นจะขอพรใดๆด้วยท่านเป้นเด็กก็ขอให้พูดขอแต่เรื่องดีๆทำเป็นเพื่อความมั่นคง เพื่อการเติบโตในชีวิตและหน้าที่การงานของตนเอง ขอให้พูดกับท่านแต่ความสัจจริงเชื่อฉันเถือะขอกับเด็กจะเอาอะไรก็ได้เพราะรุ่นนี้เคยมีคนขอมาแล้วได้ทุกอย่างทันตาเห็นทีเดียวไม่รอนาน ...อย่าว่าแต่ในโลกนี้เลยแม้ในหมื่นโลกธาตุทั้งปวงก็ล้วนอยู่ใต้มหาเวทย์พรหมกุมารทั้งสี่นี้

    *** พ่ออาจารย์ท่านว่า
    ติดสินบนท่านหน่อยเหมือนเราจะคุยกับเด็กด้วยนมและของหวาน ไม่ต้องบนไม่ต้องถวายอะไรมากกว่านี้เลยรับรองว่าเด็กเทพที่แม้แต่เทพเจ้าทั้งหลายยังขยาดหวาดเกรงนี้ พวกท่านจะหาเลี้ยงเธอได้ทั้งชีวิต

    ด้วยพระเวทคือตัวแทนของความรู้ศักดิ์สิทธิ์เป็นความรู้ของเหล่าเทวะ..เป็นความรู้ของพระเป็นเจ้าเช่นนั้นพระเวทจึงเป็นความรู้สูงสุด เพราะพระเวทเป็นรากฐานของทุกสิ่งในจักรวาลพ่ออาจารย์ท่านว่าผู้ที่จะใช้พระเวทหรืออีกนัยน์หนึ่งคือพรหมกุมารทั้งสี่นั้นย่อมเป็นผู้ที่ได้รับการเลือกสรรค์แล้ว ท่านได้แกะสี่มหาพรหมขึ้นมาจากไม้อาถรรพ์อันปรากฏแต่ยอดเขาพนมกุเลนมเหนทรบรรพตยอดดินแดนอาถรรพ์ ซึ่งต้นไม้นี้คือต้นไทรอายุหลายร้อยปีที่แช่อยู่ในน้ำพ่ออาจารย์ท่านว่าการจะไปนำมานอกจากต้องบอกกล่าวแล้วยังต้องขอเขาด้วยจะไปเอาไปทำถ้าท่านไม่ยินยอมนี่ถึงตายเท่านั้น ด้วยพระไทรเป็นเทพารักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ให้ความคุ้มครองและคอยอุ้มสมผู้ที่ดูแลอยู่ให้สมความปรารถนา การจะนำพระไทรขึ้นมาจากน้ำต้องดำลงไปใช้ปากกัดดึงรากที่แช่อยู่ในน้ำทางทิศตะวันออกกัดดึงออกมาได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ด้วยเป็นพระไทรที่มีอาถรรพ์สูงดั่งมีวิมานรุกขเทวดาประทับอยู่ถ้าไปเอาและทำไม่เป็นท่านว่ามีแต่เจอดีเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าพระไทรต้นนี้มีอาถรรพ์มากคนแถบนั้นยุคร้อยๆปีในยุคครูบาอาจารย์ต่างๆท่านสั่งสืบกันมาว่าไม่ธรรมดาใครที่ไปพนมกุเลนแล้วทำตัวไม่สมควรเป็นได้วิ่งป่าราบ รากพระไทรที่พลีมานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของดีใช้กำบังตาหลบหลีกเคราะห์ภัยได้ทั้งสิ้น ทั้งยังมีคุณคือให้ผลสูงทางด้านโชคลาภการเสี่ยงทายทั้งหลาย *** จะเสี่ยงดวงทำหวยเหล่านี้ขอบารมีพระไทรท่านสงเคราะห์เป็นที่สุด แม้พกไว้กับตัวก็ได้ชื่อว่าเป็นเมตตามหาเสน่ห์มหาละลวยจังงังพาให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยมีพลังแฝงจากพระไทรเจ้าป่าเจ้าเขาพนมกุเลนยอดอาถรรพ์แดนลี้ลับคอยช่วยอีกแรงหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไม้ชุดนี้ครูแรงมาก เพราะรากพระไทรหล่อเลี้ยงด้วยน้ำพันศิวลึงค์มาหลายร้อยปีเมื่อนำมาแกะเป็นพรหมกุมารจึงศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ทั้งยังมีกำลังคุณแห่งพระไทรคือเป็นที่พึ่งที่ยึดเกาะให้ร่มเงาแก่ชีวิตได้ จะได้ตั้งตัวแผ่ขยายกิ่งก้านสาขาสร้างความมั่นคงให้ชีวิตเป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ทั้งปวงเรียกว่า..เธอพึ่งเขาได้ ทั้งยังคอยอุ้มสมให้สมปรารถนาด้วยอาถรรพ์พระไทร พ่ออาจารย์ท่านว่าการดำน้ำทำอาถรรพ์แบบนี้ด้วยสังขารย่อมทำไม่ได้อีก ของบางอย่างเมื่อทำแล้วจึงทำได้เพียงครั้งเดียวรุ่นเดียวเก็บไว้ให้เป็นตำนานเท่านั้น

    อุดหุ่นพรหมกุมารด้วยตะกรุดพระเจ้าแห่งการพนันเสี่ยงดวง(มหาสะเดาะ)
    * ต้องเเจ้งก่อนว่าตะกรุดนี้เป็นวิชาเฉพาะทางที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เพื่อสืบสายวิชาเท่านั้น วิชานี้เเต่เดิมเป็นวิชาที่ผู้หวังรวยทางลัดชอบการพนันเสี่ยงโชคนิยมกัน ซึ่งคนที่ได้ดิบได้ดีทางนี้ล้วนมีอยู่มากมายเขาเหล่านั้นนอกจากดวงเเละโชคเเล้วยังมีของดีมีวิชาดีติดตัวมาเเต่โบราณด้วย

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเเต่เดิมวิชานี้เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในภาควิชาของเทพนิมิตร ท่านได้เฝ้าครูมหาพรหมคือองค์สหัมบดีบรมพรหมสูงสุดแห่งปัญจสุทธาวาสท่านจึงได้วิชานี้มา โดยใช้วิชานี้ตั้งตัว เเละทำไว้ให้ลูกศิษย์บ้างเฉพาะบางคนที่มีความประพฤติดี วิชานี้องค์บรมพรหมท่านให้มาโดยเฉพาะพ่ออาจารย์กล่าวว่าแก่นเเท้ของวิชานี้ต้องสวนกับกระเเสของกรรมในระดับหนึ่ง พระองค์ท่านได้มอบอักขระให้พร้อมคาถาเสกเรียกว่ามหาสะเดาะพระองค์ท่านบอกว่าเพราะสัตว์นั้นมีกรรมเฉพาะเเต่ละบุคคลถึงมีโชคบางทีก็รับไม่ได้บางครั้งกรรมส่งผลหนักเเม้โชคก็ยังไม่มีเลย ในจุดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้เสวยศุภมงคลอันเกิดเเต่โชคลาภวาสนาพระองค์ท่านจึงให้วิชามหาสะเดาะเเก่พ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อพกไว้บูชาไว้กับตัวจะสะเดาะโซ่ตรวนบ่วงพันธนาการที่กุมรัดให้หลุดออก ให้ไขว่คว้าโชคลาภได้จะทำอะไรก็มีเเต่โชคร่ำรวยง่ายๆโชคดีเเบบนั้น ในส่วนของเวรกรรมนั้นก็ไม่ได้หายหรือสลายไปไหนเพียงเเต่คลายพันธะทั้งหมดออกชั่วคราวให้สัตว์เหล่านั้นที่ได้บูชาสามารถรับโชคได้เเต่กรรมเก่าก็ยังรับเหมือนเดิม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้มันดีตรงที่เวลามีโชคพูดง่ายๆคือมีเงินให้เอาเงินไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรบ่วงกรรมมันก็จะบรรเทาเบาบางลง ทีนี้อะไรก็ง่ายไปหมดทำไปเรื่อยๆได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำการกุศลอุทิศให้เขา เช่นนี้ก็ขึ้นชื่อว่าต่อไปบ่วงพันธนาการต่างๆก็จะลดคลายลง เงินเเละความโชคดีมันจะยิ่งไหลมาไม่รู้จบ

    เมื่อท่านลงมหาสะเดาะลงบนเเผ่นจารเเล้วพ่ออาจารย์จึงล้อมมหาสะเดาะด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ของหลวงพ่อปานวัดบางโคนม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ดีมากอยู่เเต่เดิมเเล้วในส่วนของพระคาถาไม่ต้องกล่าวอะไรมากเเต่พอนำมาลงในตะกรุดกลับต้องทำให้มากขึ้นไปอีกคืออัญเชิญบารมีพระปัจเจกพุทธเจ้าอันอภิเษกพระสัมโพธิญาณทั้งหลาย ซึ่งพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีจำนวนมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่เอ่ยอ้างมหาบารมีในระดับโพธิญาณซึ่งสูงกว่าระดับวิปัสนาญาณของพระอรหันต์ทั่วไปมาช่วยเป็นตัวเบิกทางลดกระเเสเวรกรรมให้ผู้บูชาประสบโชคดี เมื่อเหล่าพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลายช่วยกันสงเคราะห์ผสานกับพระเวทย์ในสายบรมพรหมสหัมบดีจึงรับเเละหนุนกันเป็นทอดๆ หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงพระเวทย์เฉพาะอันท้าวสหัมบดีบรมพรหมท่านสอนไว้พระเวทย์นี้ไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยเเก่ผู้ใด ท่านลงจารล้อมวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์อีกทีหนึ่งพ่ออาจารย์กล่าวว่าพระเวทย์นี้ต่อให้อยู่เฉยๆโชคลาภก็วิ่งเข้ามาหาเองเเม้ปรารถนาเงินทองของมีค่าความสุขสบายใดก็ไม่ไกลเกินความปรารถนา จะเสี่ยงโชคจะพนันขันต่ออะไก็เอาเเต่พองามตามใจเถิดให้ตั้งสัจจะกับตะกรุดไว้ว่าวันนี้อยากได้เท่าไหร่ได้เเล้วให้พอให้หยุดเเล้ววันอื่นค่อยขอเมตตาในส่วนมหากรุณาของเสด็จปู่ท้าวสหัมบดีต่อไป เมื่อได้ตะกรุดเเล้วด้านหลังท่านจึงลงประทับด้วยนะมหาเมตตาโปรดจักรวาล เสมือนสำทับอำนาจอาญาสิทธิ์ที่ผู้บูชานั้นเทพเจ้าท่านจะต้องสงเคราะห์ถ้วนทุกคนไม่มีเลือกที่รักมักที่ชังโปรดเสมอหน้ากันหมดรักเราเต็มใจโปรดเรา อีกประการหนึ่งท่านว่าจะทิ้งวิชาทางเมตตานั้นไม่ได้ยิ่งโชคลาภการพนันเสี่ยงดวงด้วยเเล้วมันต้องเดินไปควบคู่กับเมตตาใครเห็นเราเค้าก็เต็มใจให้เรายิ้มให้กับเราเราเอาเงินเขามาง่ายๆไม่ขัดขืนเรา ตะกรุดนี้ตอนเสกพ่ออาจารย์ต้องเชิญองค์บรมพรหมมาเหยียบบ่าเเฝงร่างมาเป่าครอบวิชาทุกดอก


    ทั้งท่านยังอุดปิดผนึกด้วยผงที่มีแรงครูสูงที่สุดของท่าน คือผงมหาธาตุพันสังขารของเหล่าโยคีมหาฤาษีที่บำเพ็ญยิ่งใหญ่ในตบะฌาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูแต่กาลก่อนย่อมเป็นบรมครูของสรรพศาสตร์ทุกแขนงการจะทำมหาพรหมกุมารนี้จะใช้ผงพรายผงผีไม่ได้แต่ต้องใช้ผงธาตุขันธ์ของผู้ทรงตบะอภิญญา เหมือนดั่งพระอินทร์จะใช้ยอดอาวุธวชิราวุธนั้นยังต้องทำมาจากแก่นกายของฤาษีผู้ยิ่งในตบะ เช่นนั้นการจะปลุกมหากุมารผู้เป็นพรหม..เป็นบรมโยคีก็ต้องใช้กำลังตบะของฤาษีพันตนเป็นปฐม พ่ออาจารย์ท่านจึงนำผงมหาธาตุพันสังขารของเหล่าโยคีในอินเดียที่ท่านสืบเสาะหาสะสมไว้เพื่อปั้นรูปครูฤาษีของท่านนำมาอุดมหากุมารชุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะได้ผงนี้มาแม้อินเดียจะมีฤาษีอยู่มากแต่จะหาที่มีชาติตระกูลสูงทั้งยิ่งในตบะและสันโดษอย่างแท้จริงทิ้งร่างสังขารถอดจิตสู่พรหมโลกก็ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายไม่เหมือนฤาษีเก๊อย่างทางบ้านเรา...ก็นั่นแหละผงนี้จึงเป็นที่สุดแห่งอำนาจตบะบารมีดั่งมีมหาพรหมพันองค์คอยพิทักษ์รักษากว่าจะรวบรวมมาได้ต้องใช้อุตสาหะคอยสืบคอยตามอยู่นานปีเพื่อให้ได้ผงอาถรรพ์ที่มีแรงครูสูงสุดเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเป็นยอดผงแม้ช้อนชาละเป็นแสนก็ขายไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามหากุมารนี้สำเร็จศักดิ์สิทธิ์ในตนเองสุดแล้วแต่จะอธิษฐานใช้สามารถบอกกล่าวท่านได้เลยหากเพียงแต่จะใช้คุณแห่งตะกรุดมหาสะเดาะภายในก็ค่อยว่าคาถาซักหน่อยด้วยคาถาบูชา(ระลึกถึงบรมพรหมสหัมบดีเป็นที่สุดกล่าวคาถานมัสการ)

    โองการพินทุนาถัง อุปปันนัง พรหมมาสะหะปะตินามะ อาทิกัปเป สุอาคะโต ปัญจะปะทุมังทิสวา นะโมพุทธายะ วันทะนังฯ

    สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะโต สิทธิเตโช ชะโยนิจจัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สัพพะกัมมัง ประสิทธิเม สัพพะสิทธิ ภะวันตุเมฯ


    เมื่ออาราธนาเเล้วให้อธิษฐานในการเสี่ยงดวงที่ปรารถนาพ่ออาจารย์ว่าครอบคลุมทุกอย่าง จะไปสอมสัมภาษณ์..จะไปยื่นซองประมูล..จะไปทำอะไรที่มันได้ชื่อว่าเสี่ยงว่าจะได้หรือไม่จะร้ายมากกว่าดีหรืออย่างไร นี่มันสะเดาะเคราะห์ทุกข์ให้ชั่วคราวอธิษฐานเอาเลยขึ้นชื่อว่าเสี่ยงดวงตั้งจิตอธิษฐานได้ครอบคลุมทั้งหมดจากนั้นก็นำมาสวมคอ

    หากปรารถนาจะฝันเห็นตัวเลขให้กำองค์มหากุมารภาวนาคาถาจนหลับจะช่วยให้เห็นง่ายขึ้น อิติ อรหัง พุทธนิมิตตัง อุปปันนัง โหติ

    หากปรารถนาเห็นตัวเลขโดยการเข้าสมาธิให้กำมหากุมารเเล้วภาวนา เลขะยันตัง สันตัง อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ

    นอกจากนั้นยังทำหวยได้ทุกวิธีตามเเต่จะปรารถนาพ่ออาจารย์ว่าให้อาราธนามหากุมารลงในขันน้ำมนต์เป็นขันสัมฤทธิ์จะดีมากเเล้วจุดเทียนขี้ผึ้งหยดน้ำพระมนต์ลงไปเถิด ภาวนาโองการท้าวสหัมบดีบรมพรหมขอความเมตตาท่านเพ่งพิจารณาเเล้วจะเห็นเอง


    ### ท่านว่ามหากุมารนี้ถ้าไม่หวังเรื่องหวยหรือการพนันก็จะเป็นโชคลาภอย่างที่สุดกล่าวคือมีโชคดีเรื่องอื่นๆเข้ามาหาผู้ครอบครองเรื่อยๆท่านทำมาดีทุกอย่างทั้งแรงและให้คุณหนักตั้งแต่มวลสารและวิชาลงตะกรุด...ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านพูดว่าไม่ได้แกะมาง่ายๆต่อไปจะเป็นที่เล่าขานไปชั่วลูกสืบหลาน รุ่นนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าให้เปิดจองก่อนเพราะมหาพรหมกุมารนี้ไม่ใช่ของใครจะเอาก็ได้ลองเราลงวัตถุอาถรรพ์ที่มาและอิทธิคุณหลักๆของท่านไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเผลอสองสามนาทียอดก็เต็ม จึงจะให้วัดใจกันไปก่อนเพราะท่านเลือกเจ้าของด้วยตัวเองเช่นนี้

    ร่วมทำบุญบูชา พระเวทย์หมื่นโลกธาตุสี่มหาพรหมกุมารชุดอาถรรพ์พนมกุเลน (สนกะ,สนาตนะ,สนันทนะ,สนัตกุมาร) บูชา 4,000 บาท






     
  18. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
  19. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา ดวงตราพญาธรรมกลืนทิพย์ทรัพย์ปราบโลกโปรยทาน(มหายักษ์กินวิญญาณ)

    ### นับแต่ออกเครื่องมงคลมามีซักครั้งหรือไม่ที่เราเรียกอะไรว่าพญาธรรม

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลชิ้นนี้มีไว้เพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษอันไม่เคยมีอยู่ก่อน..ไม่เคยมีแต่เดิม..ไม่เคยสั่งสมมาให้กับตัวเอง ท่านว่ายากนะที่จะทำเครื่องมงคลใดเพิ่มคุณสมบัติให้กับกายเนื้อและชีวิตผู้บูชาได้ นี่ถือเป็นเครื่องมงคลชิ้นแรกที่ใช้เพื่อเพิ่มคุณสมบัติอันหาได้ยากยิ่งให้กับผู้น้อมนำไปสักการะบูชา

    ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่แม้แต่จอมเทพผู้ดูแลขุมทรัพย์เทวโลกยังปรารถนาจะครอบครอง
    ...และเพราะมีสิ่งนี้ท่านจึงเป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ในทรัพย์ทั้งปวง ทั้งยังมีอำนาจอาญาสิทธิ์เด็ดขาดในการกลืนกินภูติวิญญาณทั้งหลายให้อันตรธานไปจากวัฏสงสารจึงเป็นที่หวาดกลัวครั่นคร้ามแก่ปีศาจ,สัตว์นรก,ภูติผี,คุณไสยและอวิชาทั้งหลาย *** แม้ชิ่งที่ชั่วร้ายจะไม่กลัวตาย แต่พวกเขาทั้งหมดย่อมกลัวโดนลบให้ไร้ตัวตนตลอดไปในสังสารวัฏ...โดนลบหายไปตลอดกาลเสมือนไม่เคยมีมาก่อนทั้งอดีตและอนาคต

    ในสมัยโบราณนั้นผู้เชี่ยวชาญในพระเวทย์มักจะสร้างพญายักษ์ที่เรียกกันว่าพญาปุริสาทบ้างผีลูบ้างทำมาจากกะโหลกมนุษย์หรือชิ้นส่วนสัตว์และว่านยาตามวัสดุที่หาได้ พ่ออาจารย์ท่านจึงเห็นควรจะทำด้วยธาตุกายสิทธิ์เสียหนหนึ่งแต่ท่านจตุโลกบาล(ท้าวเวส)ท่านแนะนำให้สร้างในลักษณะหน้าเทวดาเพราะว่าจะใจดีให้ทรัพย์ง่าย ด้วยพญาปุริสาทนั้นท่านแตกต่างจากเผ่าพันธุ์ยัก์ทั้งหลายเนื่องจากท่านกลืนกิน"ดับ"ชีวิตของเทวดาเกเร,ขุนผี,ปีศาจ,อสูรและยักษ์ร้ายทั้งหลายได้ โดยปกติท่านมีหน้าที่เป็นหนึ่งในสี่มหายักษ์ผู้เป็นมหาอำมาตย์ของท้าวเวสสุวรรณ แต่ในทางกลับกันพญาปุริสาทนั้นท่านก็เป็นเจ้าแห่งภูติผีปีศาจและยักษ์ทั้งหลายเช่นท้าวเวสสุวรรณด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่าในโลกทิพย์นั้นชื่อของพญาปุริสาทยังน่ากลัวกว่าท้าวเวสสุวรรณเสียอีกด้วยท่านเป็นผู้บังคับใช้กฏกับพวกยักษ์และภูติผีทั้งหลาย...แม้นใครไม่เชื่อฟังจะต้องตาย(ก็ไม่มีใครที่จะอยากตายแล้วตายอีกจริงหรือไม่)

    พ่ออาจารย์ท่านว่า
    พญาปุริสาทนั้นแท้จริงแล้วทำยากเพราะการจะสร้างท่านขึ้นมาไม่ใช่ทำกันแค่รูปลักษณ์แต่จำเป็นต้องทำให้เป็นเครื่องมงคลประเภท"ญาณสถิตย์" ท่านว่าเครื่องมงคลแบบนี้ถ้าใครตาดีหรือวันดีคืนดีจิตเราสื่อกับท่านได้ก็จะเห็นตัวท่านเป็นๆอยู่กับเราใกล้ๆเรานี่แบบนี้นี่เอง ซึ่งเครื่องมงคลประเภทนี้จะให้คุณสูงมากและช่วยเหลือผุ้บูชาได้เร็วและแรงกว่าสิ่งใดเพราะเป็นของมีญาณสถิตย์ ทั้งตัวพญาปุริสาทนั้นยังได้ชื่อว่ามีหน้าที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยคอยควบคุมพฤติกรรมเหล่าเทวดา,ยักษ์,มาร,ภูติผีปีศาจ นี่จึงเป็นอำนาจอาญาสิทธิ์อย่างแท้จริงที่จะทำให้ชีวิตใครที่ไม่นิ่งโดยเกิดจากการกระทำหรือกลั่นแกล้งรังแกของผีร้ายหรือเจ้าเกเรทั้งหลายสงบระงับได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตที่สงบเรียบร้อยไม่มีมารผจญนั่นแหละดีที่สุดเป็นชีวิตในอุดมคติ ด้วยพญาปุริสาทนั้นมีอำนาจทิพย์จะจับผีกินก็ได้จะจับยักษ์กินก็ได้...ใครที่ไม่อยู่ในคำสั่งไม่ทำตามคำสั่งออกนอกลู่นอกทางนั่นแหละกลายเป็นอาหารท่านหมดเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงมักกล่าวว่าดวงตราพญาธรรมนี้เป็นเครื่องรางอย่างแรง ใครได้ไปชีวิตจะสะดวกราบเรียบผิดหูผิดตาจนผิดปกติ เรียกว่าไม่มีปัญหาไม่มีเรื่องก่อกวนดีจนผิดปกติเพราะพวกกายทิพย์นี่จะกลัวพญาปุริสาทหรือพญาธรรมกันมาก...ยิ่งพวกยักษ์และภูติผีปีศาจต้องบอกเลยว่าเขากลัวท้าวเวสอย่างไรนั่นแหละเขากลัวพญาปุริสาทมากกว่านั้น

    ดวงตราพญาธรรมจึงมีอำนาจมากด้วยแก้อาถรรพ์ที่อยู่กับตัวรวมไปถึงอาถรรพ์ในสถานที่ใหญ่ๆเช่นบ้านเรือนหรือที่ทำงานได้ทั้งหมด ใครที่ชีวิตไม่ดีนักมีแต่เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยและปัญหาชีวิตเหมือนโดนผีกินเทวดาแกล้งเหล่านี้ท่านว่าอย่าตกใจรับรองว่าที่เป็นๆอยู่จะหายทันทีแบบนิ่งสนิท *** ทั้งวันดีคืนดีถ้าได้เห็นพญายักษ์หล่อเหลารูปงามเดินสี่ขาเช่นพระโคอุสุภราชพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละคือพญาปุริสาทไม่ต้องไปกลัวท่าน เราอยู่กับท่านแล้วท่านย่อมไม่ไปไหนจะช้าหรือเร็วแค่นั้นเองวันนึงต้องได้เห็น พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะป้วนเปี้ยนอยู่บนหัวเรานี่แหละ วันไหนถ้านอนก็อาจเห็นท่านนั่งเฝ้าเราอยู่บนหัวเตียงเรียกว่ามีพญายักษ์เทวดาชั้นอินทกะระดับท้าวพญาเทวราชแห่งจตุมหาราชิกาตามติดเฝ้าดูแลรักษาแบบนี้ ทั้งดวงตราพญาธรรมยังใช้ขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายให้สงบราบเรียบได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าวางใจเรื่องภูติผีวิญญาณร้ายได้เลยว่าไม่มีใครกล้ากระทำรังแกมีแต่จะหนีให้ห่างเราทั้งหมดดั่งที่สมัยนี้เค้าเรียกกันว่าโซนปลอดภัยแม้เราพกดวงตราพญาธรรมไปจุดใดที่ตรงนั้นจะเป็นโซนปลอดภัยของเราทันที

    ด้วยผีดีๆเทวดาใจดีก็มีอยู่มาก เช่นนั้นใครที่กังวลว่าพกพญาปุริสาทนี้จะเหมือนไปรังแกภูติผีพระภูมิเจ้าที่นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเกินเรื่องไป เทวดาเหล่านี้เขาก็เหมือนเราฉันจะบอกเธอให้ยิ่งในโลกมนุษย์แล้วกฏต่างๆยังไม่เข้มเท่าภูมิสวรรค์เช่นนั้นเมื่อผู้รักษาควบคุมกฏแห่งจตุมหาราชิกาลงมาอยู่ตรงนี้ เธอเอ๋ยมันจะกลายเป็นว่าภูติผีปีศาจพระภูมิเจ้าที่เทวดาเทพารักษ์ทั้งหลายจะกลายเป็นมาประจบเอาใจคอยเปิดทางคอยช่วยเหลือกันล่ะไม่ว่าเพราะนี่คือผู้มีอำนาจลงทัณฑ์เขาได้โดยตรง ทั้งคนที่เชื่อว่าตัวเองเจ็บป่วยจากสิ่งที่มองไม่เห็นมากระทำซ้ำเติม..คนที่เป็นโรครุมเร้าโดนกระทำให้หนักขึ้นก็ดี คนที่มีปัญหาชีวิตโดนพายุปัญหาต่างๆถาโถมมากขึ้นชัดเจนดุจมือที่มองไม่เห็นกลั่นแกล้งก็ดีท่านว่านั่นแหละพญาปุริสาทท่านจะปัดเป่าให้ ท่านปัดให้หมดนะทั้งเภทภัยที่มันอันตรายหรือพวกกันตัวเราจากลมเพลมพัดและสิ่งที่เราเกินจะรู้เกินจะเห็น

    นอกจากนั้นพญาปุริสาทยังเป็นอารักษ์ผู้รักษามหาเจดีย์ทุกแห่งเป็นผู้รักษาพระบรมสารีริกธาตุ มีอาญาสิทธิ์เด็ดขาดแก่ทรัพย์ทั้งปวงในแผ่นดินหรือที่ฝังอยู่ตามสถูปเจดีย์เช่นนั้นจึงเป็นคติว่าท่านรวยมากและมีทรัพย์มากที่สุดผู้ใดได้ครอบครองพญาปุริสาทเสมอได้ครองครองทรัพย์ในแผ่นดิน เช่นนั้นท้าวเวสสุวรรณที่ได้ครอบครองพญาปุริสาทจึงถือได้ว่าท่านเป็นเจ้าแห่งทรัพย์ในแผ่นดินตามนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าพูดกันง่ายๆก็คือท้าวเวสเป็นเทวดาที่รวยและมั่งคั่งที่สุดซึ่งเหตุแห่งความมั่งคั่งนั้นก็คือพญาปุริสาทนั่นเองทำให้ท่านกลายเป็นพระเจ้าแห่งขุมทรัพย์เทวโลก เช่นนั้นผู้ได้ครอบครองดวงตราพญาธรรมอันมีญาณสถิตย์ของพญาปุริสาทย่อมได้รับคุณสมบัติให้ได้ครอบครองขุมทรัพย์และเป็นผู้มากมีด้วยทรัพย์ทั้งหลายตามไปด้วยดุจท้าวเวสสุวรณณเช่นนั้น คนสมัยโบราณเขาจะถือจะเชื่อกันนักว่าพญาปุริสาทนี้นอกจากกันตัวกันสิ่งชั่วร้ายไม่ดีต่างๆยังให้คุณหนักทางทรัพย์สมบัติด้วยใครที่ถือโชคลางเชื่อในโลคลาภฉันก็บอกได้แค่ว่าพญาปุริสาทนั้นท่านเป็นเทวดาที่ชอบให้เลขให้เบอร์ คนที่แสวงหาโชคลาภก็ดีอยากถูกหวยรวยจากตัวเลขหรือชีวิตไม่ได้เดินทางขาวสะอาดแต่ประกอบธุริจหรือมีอาชีพสีเทาๆเหล่านี้ท่านว่ายิ่งต้องใช้พญาปุริสาท

    จะเห็นคนโบราณนั้นเ
    ขาเชื่อกันนักทั้งยังดัดแปลงมาทำมาสร้างเป็นเครื่องรางที่เรียกว่า "ผีลู" ใครได้ใช้ผีลูที่มีญาณสถิตย์ยังไม่หมดกำลังฤทธิ์(หาได้ยากมากๆส่วนใหญ่จะเอาผีจริงๆมาทำไม่ใช่พญาปุริสาท) พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละท่านจะเพิ่มเงินทองเพิ่มอาถรรพ์ทางการเงินเรียกว่าให้มีโชคลาภในอาชีพที่ทำแม้จับหวยเล่นพนันก็ถูกเรียกเงินเรียกทองทุกช่องดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านพูดว่าพญาปุริสาทท่านว่าให้เป็นร้อยล้าน เพราะท่านคือราชาแห่งการเรียกทรัพย์เข้าตัว ถ้าฉันพูดว่าเป็นราชาแห่งโชคลาภหลายๆคนอาจไม่เข้าใจแต่หากพูดว่าเรียกทรัพย์เข้าตัวนี่คือตรงๆเลย อาถรรพ์อีกประการของท่านก็คือหาเงินและเรียกทรัพย์เข้าตัวแต่ไม่ใช่ของดาษๆทั่วไปนะแต่เป็นการเรียกการหาอย่างราชาผู้มีบริวารเป็นภูติ,ผี,ปีศาจ,ยักษ์,อสูร,เจ้าที่เจ้าทาง,เจ้าพ่อเจ้าแม่,รุกขเทวดา,นางไม้.....ฉันบอกได้แค่ว่าสมหวังแน่เพราะหากพญาปุริสาทเหยียบโลกเมื่อใดเชื่อได้เลยว่าเธอจะสบายไปทั้งชาติเพราะบนโลกนั้นบริวารท่านเยอะชนิดที่เดินไปตรงไหนก็เจอมีทุกรูทุกเลี้ยว นอกจากอาถรรพ์ในโชคลาภแล้วผู้มีญาณสถิตย์แห่งพญาปุริสาทนั้นยังมีอำนาจแห่งความรักเรียกว่ารักใครก็สมหวัง

    ทั้งพญาธรรมยังทำหน้าที่คอยกะซิบเตือนหรือดลจิตดลใจเราตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเชื่อความรู้สึกนะเวลาอาราธนาพญาปุริสาทของฉันแล้วขนหัวลุกหรือรู้สึกว่าท่านมาแล้วมาบอกเราแล้ว จิตเราบอกอะไรนั่นแหละให้เชื่อตัวเองและทำได้เลย ที่ต้องรู้อีกอย่างหนึ่งก็ถือตราพญาธรรมนั่นเป็นของข่มสิ่งที่เรียกว่าอาถรรพ์ได้ทุกอย่างในโลก...สถานที่ซึ่งมีอาถรรพ์มากที่สุดในโลก็คือขุมสมบัติขุมทรัพย์โบราณนั่นแหละยิ่งท่านเป็นผู้รักษาอาถรรพ์เหล่านั้นเรื่องการข่มอาถรรพ์อื่นๆจึงเป้นของถนัด บางคนจะรู้จักเพียงปู่โสมเฝ้าทรัพย์แต่ไม่รู้จักมหายักษ์เฝ้าสมบัติพ่ออาจารย์ท่านว่าหัวหน้าแห่งยักษ์เฝ้าสมบัติทั้งปวงก็คือพญาปุริสาท ### ฉันบอกได้แค่ดวงตราพญาธรรมนี้ท่านให้ทำนาคบาศครอบไว้ด้วยคือมีกินไม่หมดกินไม่อิ่มกินได้ตลอดเวลาและเหนือสิ่งอื่นใด...พวกที่ชอบขอเรื่องแปลกๆนี่แหละขอซะ ขอให้ถูกที่ถูกทางถูกคนพวกที่มีคามคิดแปลกๆชอบขอเรื่องแปลกๆให้มาขอกับพญาปุริสาทรับรองว่าได้แน่ ก็ดูรูปกายท่านสิเป็นยักษ์อย่างไร..เป็นเทวดาอย่างไร..เป็นจอมภูติอย่างไร..เป็นเทพอสูรอย่างไร เรียกได้ว่าท่านเป็นทุกอย่าง ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่มีอะไรจะแปลกหรือประหลาดไปกว่าท่านแล้วฉันถึงบอกว่าเธอจะเจอเรื่องน่าประหลาดใจเนืองๆในชีวิตเพราะเธอใช้พญายักษ์อันมีศักดิ์ใหญ่มีรูปกายอันน่าประหลาดเช่นนี้

    ส่วนใครที่ดวงซวยเรียกว่า
    ถึงคราวซวยไปเดินข้ามเดินเหยียบสิ่งอาถรรพ์ทั้งหลายไปต้องสิ่งที่จะทำให้ชีวิตซวยไปได้ตลอด..ไปโดนการสะกดของผู้ใดเข้าท่านว่ามีตราพญาธรรมอยู่คลายออกหมด แต่ให้จำไว้อยู่อย่างหนึ่งเมื่อขออะไรกับพญาปุริสาทแล้วท่านว่าให้ขอทีละข้อ ..คือขอแค่อย่างเดียวข้อเดียวได้แล้วต้องเลิกเลย(เลิกไปขอวันพรุ่งนี้ใหม่..นี่แหละขอแบบคนฉลาดคือขอวันละเรื่อง)พ่ออาจารย์ท่านว่าการสร้างพญาปุริสาทให้มีญาณสถิตย์นั้นเป็นเรื่องยากและค่อนข้างเสี่ยงกับคนสร้างจึงทำได้ครั้งเดียวไม่มีรุ่นสองรุ่นเล็กรุ่นเสริมอะไรทั้งนั้น แม้ท้าวเวสท่านยังกำกับไว้ว่าจะทำให้มีญาณปุริสาทสถิตย์จะต้องกล้าแกร่งในอาคมเช่นนั้นจึงจะนำมาใช้ได้จริงสมัยก่อนตราพญาธรรมหรือปุริสาทกินผียักษ์กินวิญญาณ...ยักษ์กินยักษ์นี้จะเป็นเครื่องรางของเจ้านายชั้นสูงและแม่ทัพนายกองด้วยผู้ถือครองจะมากอำนาจบารมีสามารถควบคุมสั่งการเปลี่ยนแปลงจิตใจคนได้ จะใช้ทางใดทั้งป้องกันคุณไสย,สยบภูติผีปีศาจอันมีฤทธิ์มากมีตบะบารมี,ใช้แจ้งเตือนบอกเหตุเภทภัยหรือจะให้ท่านไปตามทวงหนี้คนก็ได้สุดแล้วแต่จะใช้เลยพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อครอบครองตราพญาธรรมแล้วแม้แต่เรื่องเรียกผัวเรียกเมียท่านก็ยังช่วย ท่านไม่มานั่งถือตัวว่าเป็นนายแห่งผีเป็นเจ้าแห่งยักษ์เป็นผู้ปกครองเผ่าพันธุ์ใดๆท่านจะปฏิบัติกับเราเสมอด้วยมิตร...เรียกว่ากระทำดุจเพื่อน จะแข่งดวงแข่งวาสนาใดๆหรือจะบันดาลให้คนในบ้านรักใคร่กลมเกลียมร่มเย็นพ่ออาจารย์ท่านว่าขอได้ทั้งสิ้น ให้ใช้ไปเรื่อยๆแล้วจะรู้ว่าความรู้สึกเราแม่นยำในเรื่องต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆถึงขนาดที่ว่าเอาไปประกอบอาชีพเป็นหมอดูหมอเดาทักทายใจคนอื่นได้เลย

    พวกทิพย์กายไอ้ที่เรามองไม่เห็นเขาจะไม่เบียดเบียนเรา จำไว้นะว่าไม่เบียดเบียนแต่ไม่หยุดนิ่งด้วยเขาจะช่วยเหลือเราทุกอย่างเมื่อพกพาตราพญาธรรมย่อมทำให้เราเป็นที่รักที่เสน่หาแก่คนทั้งหลายดั่งพญาปุริสาทแม้ใครรู้ว่าท่านมีหน้าที่ใดมีอำนาจอย่างไรก็ยังอยากเห็นท่านเช่นนั้นตราของท่านจึงเป็นมหานิยมอย่างยิ่ง ทั้งชีวิตใครที่วนเวียนอยู่ในเคราะห์ร้ายหรือเจอภัยพิบัติอันใดมาก็ดี..เรื่องที่ไม่สมควรหรือมั่นใจว่าไกลตัวแต่ก็เกิดเรื่องเกิดเหตุกับตัวเราก็ดี แม้กระทั่งคนที่ดวงขาดดวงตกชะตาร้ายแรงหรือจะฝันมีนิมิตอันไม่ประเสริฐใดๆเกิดขึ้นแล้วก็ดีให้เอาตราพญาธรรมนี้มาแช่น้ำอาบหนึ่ง..แช่น้ำกินหนึ่ง ท่านว่าเหตุวิบัติย่อมกลับกลายเป็นความสุข ทั้งน้ำแช่ตราพญาธรรมที่เราอาบเราดื่มกินนั้นยังกันโรคระบาดทั้งหลายได้ชะงัดพ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งอาบยิ่งดื่มบ่อยยิ่งดีแม้ทำได้อาทิตย์ละครั้งจะดีมากแต่ถ้าใครว่างทำได้ทุกวันนี่จะประเสริฐที่สุด ท่านว่าลำพังอาทิตย์ละครั้งก็เหมือนเธอมีเกราะแก้วคุ้มตัวเป็นแหพันช่องไม่อาจมีสิ่งใดหลุดรอดมาสร้างความลำบากได้ถ้าทำได้ทุกวันนั้นยิ่งไม่ต้องสรรเสริญอะไรเลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าท่าน
    ทำตราอาถรรพ์นี้อย่างแรงด้วยอุดฝังขวดที่บรรจุไปด้วยยามหาปราบและผงที่ท่านลบไว้ทางโชคลาภทุกตำรับ...ย้ำว่าทุกตำรับที่ทำสะสมมาในชีวิตที่ว่าแรงว่ามีค่าอย่างใดเอามาใส่หมดทั้งปราบผี,ปราบเสนียด,ปราบโลก,ปราบไตรจักร...ใส่ไปทุกตัวเป็นมหาปราบแรงขึ้นทีละขั้นๆแม้ทางโชคลาภก็ลงไปทุกอย่างเสริมคุณพญาปุริสาทอย่างแท้จริงใช้กันอุบาทว์จัญไรได้ทุกช่องทุกชนิด แม้ผงที่อุดด้านหลังก็ยังใช้สูตรมหารัตนะ คือผงวิเศษอันเป็นที่ดึงดูดมาซึ่งรัตนะอันประเสริฐทั้งเจ็ดซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแก้ว 7 ประการของพระเจ้าจักรพรรดิ์ ได้แก่จักรแก้ว,ช้างแก้ว,ม้าแก้ว,มณีแก้ว,นางแก้ว,ขุนคลังแก้ว,ขุนพลแก้ว เรียกว่าเป็นผงสมบัติสัตรัตนะอันเป็นของประเสริฐคู่บารมีจักรพรรดิ์

    คาถาบูชา
    โพธิ มะหิสะกะ อิถิพุนะ อิถิสัตโต อิถีวาโย เอหิมะมะ นะกาโรโหติสัมภะโว


    ด้วยเป็นพญาธรรมผู้เป็นใหญ่เหนือขุมทรัพย์และสมบัติทั้งปวงไม่ว่าจะสังกมทรัพย์,อสังกมทรัพย์,วิญญาณกทรัพย์,อวิญญาณกทรัพย์,โภคยทรัพย์,ทิพย์ทรัพย์....มีสิทธิ์ในการปกครองโดยชอบธรรมแก่ทรัพย์ทั้งหลาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยมีคุณโดดเด่นหลายทางแต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการเติมเต็มคุณสมบัติในสิทธิโดยชอบแห่งทรัพย์ทั้งปวง...อีกทั้งคุณสมบัติในการกำจัดดับลบสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย เช่นนี้ท่านจึงว่าพญาธรรมนั้นผู้ใดได้ไว้ยิ่งกว่าได้มิตรจิตมิตรใจอันประเสริฐด้วยเขาจะเป็นเพื่อนคู่กายคอยบ่มเพาะฟูมฟักรักษาเราไปจนชั่วชีวิต

    *** รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เปิดจองก่อนถ้ายอดเต็มได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น เพราะคุณสมบัติทั้งสองข้อนี้ของพญาธรรมพระองค์นี้ อย่าว่าแต่มนุษย์เลยแม้ในเทวราชก็ยังไม่ปรากฏ เรียกว่าทั้งหมื่นโลกธาตุผู้ที่มีคุณสมบัติอันหาได้ยากยิ่งนี้มีอยู่เพียงผู้เดียว ท่านว่าพญาธรรมท่านจะเลือกผู้เป็นนายของท่านเอง ### พ่ออาจารย์ท่านว่าเครื่องมงคลชุดนี้แรงนะเหมือนวัวธนู,ควายธนู,หมูวราหะด้วยเป็นเครื่องมงคลที่ต้องรับฟังบัญชาเรา..ทำตามความต้องการของเรา(ท่านว่าฉันบอกได้เท่านี้แค่นี้...ก็ชี้รูโหว่เบ้อเร่อเกินไปแล้ว)

    รายการนี้เปิดจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าให้ดูและรู้กันเพียงเท่านี้ก่อนถ้าคิดว่าชอบว่าใช่ก็ค่อยเอาไป ท่านว่ารายการนี้ครูในนิพพานท่านย้ำนักว่าหากเหลือเท่าไหร่ให้ฝังดินไปให้หมด ด้วยท่านกลัวว่าคนที่ไม่ใช่เจ้าของก็ดีหรือคนที่มีจิตใจฮึกเหิมรุนแรงก็ดีได้ไปจะทำให้สรรพสิ่งในภูมิในภพทั้งหลายหวาดผวา

    ร่วมทำบุญบูชา ดวงตราพญาธรรมกลืนทิพย์ทรัพย์..(มหายักษ์กินวิญญาณ) บูชา 4,000 บาท


     
  20. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,112
    ค่าพลัง:
    +16,625

แชร์หน้านี้