ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จชุมนุมมหาคุณบารมีเก้าชั้นแต่งอโหสิกรรม(ถอนกรรมเผ่าพันธุ์บาปบรรพชน) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    มีสอบถามว่าเมื่อไหร่จะลงชุดหลักร้อย รอกันอีกนิดนะครับหนนี้
     
  2. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    เป็นกระแสที่มีคนถามหามามากที่สุดตั้งแต่เห็นว่าอยากจะขอแยกบูชาไปฝากน้องๆฝากภรรยา และถึงกับตั้งชื่อมาเรียกจนผมเองยังสับสนติดปากว่าฝ่ามืออรหันต์ ใครที่เคยถามๆไว้ผมตอบตัดภาระไปหมดเลย รอให้ติดตามชุดพิเศษนี้แทนบอกได้แค่ว่าหลักร้อยถือว่าคุ้มสุด
     
  3. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา พระหัตถ์หมื่นลักษณ์ทรงดัชนีปฐมภูมิเปิดวัฏจักรย่อย (รับ,ขอ,ห้าม,โอบอุ้ม)

    ท่านว่ารอยพระหัตถ์นี้ทรงพุทธานุภาพเสมือนหนึ่งสิ่งแทนตัวขององค์พระศาสดา เป็นพระหัตถ์ของท่านที่จะคอยปัดเป่าป้องกันอันตรายทั้งปวงให้กับเรา เป็นมือที่จะคอยโอบอุ้มค้ำชูเราจะหยิบจับทำสิ่งใดก็สำเร็จได้ดั่งประสงค์เสมอด้วยเจตจำนงค์ของตน ท่านว่ามือนี้เธอรู้มั๊ยว่าสำคัญนัก คนเราจะให้หรือเป็นฝ่ายที่ถูกให้(รับ)ล้วนต้องยื่นมือออกไปทั้งสิ้น พระพุทธหัตถ์ขององค์ปฐมหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าหัตถ์พระเจ้านี้ท่านถือเป็นฝ่ามือรับทรัพย์จะขออะไรใครก็ให้ทั้งสิ้น และอีกประการหนึ่งฝ่ามือมนุษย์ปุถุชนคนปกติย่อมมีรอยเส้นที่มีความหมายต่างๆสั้นบ้างยาวบ้างไม่ได้เสมอกันตามวาสนามนุษย์จะพร่องบ้างหย่อนบ้างตามบุญกรรมที่เคยอบรมไว้ จะหาที่เต็มได้ดั่งหัตถ์พระชินสีห์ที่อบรมบารมีมาดีแล้วเป็นไม่มี เพราะคนปกตินั้นไม่ได้เต็มเปรี่ยมด้วยมหาปุริสลักษณะเช่นนี้... ท่านจึงถือว่าไม่มีมือของใครที่ไหนจะดีไปกว่ามือพระศาสดา สมเด็จองค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์หล่อพระพุทธหัตถ์นี้จากแร่โคตรเศรษฐีผสมด้วยยันต์ดวง ประสูติ,ตรัสรู้,ปรินิพพาน ,ยันต์รอยลักษณ์พระหัตถ์,รอยพระบาท,และยันต์ดวงวิเศษร้อยแปดผสมเข้ากับธาตุกายสิทธิ์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วเสด็จพระใหญ่ท่านเรียกว่า "หัตถ์หมื่นลักษณ์" หัตถ์ที่จะห้ามความวิบัติตกต่ำหมื่นเรื่องให้หยุดอยู่ไกลจากตัวเรา

    หัตถ์หมื่นลักษณ์นี้ท่านว่าใช้ต่อเสริมเติมวาสนาให้ดี ใช้ยกฐานะให้สำเร็จหรือแม้แต่จะใช้เสริมต่อเส้นวาสนาของคนที่ขาดที่พร่องไปเพื่อประโยชน์ใหญ่อย่างถาวรคือความสำเร็จในชีวิตก็ได้ ท่านว่าชีวิตเราจะสูงจะดีขึ้นตามวาสนาและลายมือขององค์พระมหาสัตว์เจ้าท่านจะดึงเราขึ้นทุกๆทางจนแม้แต่ลายมือหรือฐานชีวิตของเราค่อยๆเกิดความเปลี่ยนแปลงไป ท่านว่าใช้ต่อชีวิต,ต่อวาสนาคนได้ จะเสริมดวง...ให้เป็นยอดในกิจด้านที่ตนกระทำให้ได้ดีมีวาสนาเต็มมืออุดมไปด้วยเรื่องมงคลทุกสิ่ง พระหัตถ์นี้พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าให้ติดตัวเอาไว้เพราะท่านจะอุ้มชูเราทุกด้านทั้งจะพลิกร้ายกลายเป็นดีได้ง่ายๆในทุกเรื่องดุจเราพลิกฝ่ามือ มีคุณเสมอใจเพราะเป็นหัตถ์ของพระผู้มีแต่ให้ มือที่โอบอุ้มหรือพระหัตถ์หมื่นลักษณ์นี้ในกาลภายหน้าจะช่วยเหลือคนได้อีกมากโดยเฉพาะคนที่ดวงไม่เปิด คนที่วาสนายังไม่เกิดขึ้นกับตัว คนที่เจออุปสรรคไร้ทางออกจะได้พบช่องเห็นทางที่เปิดให้ ชีวิตเราวาสนาเราลายมือของเราอะไรที่มันขาด,อะไรที่มันหาย,อะไรที่ทำไมมันถึงไม่ได้มีเหมือนใครเขา,สิ่งที่มันบกพร่องมันไม่เต็ม ท่านว่าองค์ปฐมท่านจะต่อให้ทำให้อย่างเต็มที่ พระหัตถ์หมื่นลักษณ์นี้ขึ้นชื่อว่าใช้ยกวาสนาได้โดยไม่ต้องไปทำอะไรทั้งสิ้น ทั้งให้กิจทุกอย่างสำเร็จยั่งยืนเสมอกันมีชีวิตที่สูงส่ง มีวาสนาความมั่นคงเข้มแข็งพร้อมสรรพด้วยที่อยู่อาศัย ทำสิ่งใดล้วนเต็มไปด้วยเกียรติยศแลชื่อเสียง มีอำนาจทางการเงินมหาศาลทำให้สิ่งที่ลงมือทำสำเร็จอย่างรุ่งโรจน์ล้มเหลวไม่ได้เลย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านตั้งใจให้ทำไว้เมื่อครั้งสมัยก่อนนั้นแน่นอนว่าย่อมเป็นสิ่งสำคัญ ท่านว่าลักษณ์พระหัตถ์นี้อยู่กับตัว นิ้วทั้งห้านี้ชี้ใส่ตัวแม้จะเรียกเงินเงินก็ต้องมา,จะเรียกความรุ่งเรืองทุกสิ่งย่อมเดินหน้าไม่นิ่งหยุด,จะเรียกวาสนาก็ยำให้วาสนาสูงกว่าชนนับหมื่นแสนไม่ต่ำกว่าใครทั้งสิ้น,จะเรียกหาผู้ค้ำคูณก็มีบริวารคอยค้ำจุนเกื้อหนุนให้เรา,เรียกความสุขความสงบสบายใจสิ่งใดเหล่านี้ล้วนชี้เข้าตัวให้เกิดกับเราทั้งสิ้นเพราะเป็นมือที่คอยโอบอุ้ม วิบัติใดๆก็ตามที่เกิดจากลายมือที่แย่อันสะท้อนมาจากบุญทำกรรมแต่งของเรา สิ่งที่บกพร่องไปเหล่านั้นจะต้องดึงขึ้นใหม่ทั้งหมด

    *** หัตถ์หมื่นลักษณ์ชุดนี้พิเศษอย่างไร
    *** ทำไมพ่ออาจารย์ถึงตั้งใจฝังตะกรุดหัวใจดัชนีปฐมภูมิ(วิชานี้ถ้าแยกกันอยู่ท่านว่าก็แล้วไปแต่ถ้าได้รวมกันเมื่อไหร่ จะเป็นของดียอดอัศจรรย์ที่ทรงกำลังอันมหาศาล)...

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงเวลาหนึ่งที่พวกเราลงมาเกิดกันนี้ มันเป็นเพียงเวลาสั้นๆของเทพ,พรหมเท่านั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าในภพที่เราอยู่นั้นจะมีภพภูมิทั้งหลายซ้อนทับกันและหมุนวนวัฏจักรดำเนินท่วงทำนองของการเกิด,ดับไปด้วยกัน หากแต่ต่างกันที่ข้อกำหนดของเวลาเท่านั้น ด้วยเราท่องเที่ยวไปในอาการที่เป็นวัฏฏะ คือหมุนวนอยู่ในการเวียนว่ายตายเกิดหมุนวนอยู่เช่นนั้นตราบเท่าที่ยังตัดกิเลส,กรรม,วิบากไม่ได้ ดังนั้นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนก็ดำเนินอยู่บนพื้นฐานของเวลาที่ไหลไปในวัฏจักรเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือกิจกรรมใดๆก็ดีทั้งที่เราอยากให้เกิดหรือไม่อยากให้เกิดก็ดี,ที่เราพอใจหรือไม่พอใจก็ดี,จะเป็นสุขหรือเป็นทุกข์,เป็นสิ่งที่เราต้องการปรารถนาหรือไม่ เมื่อมีการเริ่มต้นก็ต้องมีจุดจบในตัวเองและในบางทีกระแสเวลาอาจจะดึงหมุนเข้าไปสู่จุดเริ่มต้นนั้นอีก พ่ออาจารย์ท่านเรียกเหตุการณ์เหล่านี้ว่าวัฏจักรย่อยที่จะกระตุ้นเร่งเร้าให้มหาวัฏจักรใหญ่เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะช้าจะเร็วก็ตาม

    เช่นนั้นชีวิตเล็กๆของเราย่อมตกอยู่ในวงจรที่ซับซ้อนเหล่านั้น เวลาเธอมีทุกข์หรือเหตุการณ์ไม่พึงใจไม่พึงปรารถนาเรื่องเหล่านั้นมันก็ยังเกิดซ้ำๆวนเวียนไปไม่รู้จบบางคนเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ยังเกิดขึ้นอีกทำให้การใช้ชีวิตนั้นยากเย็นเต็มทีจะพิจารณาสิ่งใดหนอก็เจอแต่เรื่องลำบากใจ จะแก้ไขสิ่งใดก็อึดอัดเต็มทน ###แล้วจะทำอย่างไรล่ะจึงจะสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏได้แม้จะเป็นการตัดช่องน้อยแต่พอตัว พอให้รอดให้ได้ลืมตาได้หายใจกันบ้างก็ยังดี

    ครานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำตะกรุดพิเศษที่ทำไว้ออกมา ท่านว่าวิชานี้ใช้เพื่อเปิดวงจรย่อยให้กับตัวเอง ให้เราได้มีโอกาสกำหนดและลิขิตวัฏจักรที่เราจะเดินและเปลี่ยนมันด้วยตัวเองเพราะปกตินั้นมหาวัฏย่อมผูกพันธ์และโดนจองจำภายใต้เงื่อนไขพันธะของเวลา ซ้ำยังประกอบด้วยภพภูมิต่างๆอันจะมาซ้อนทับเหลื่อมล้ำกันมากมายทำให้ปัจจัยของเวลานั้นใหญ่และทรงพลังมากขึ้นไปอีกเพราะความแตกต่างของระบบเวลาในวัฏจักรย่อยต่างๆนั้นไม่ได้เสมอกันเลย เรื่องเลวร้ายต่างๆเมื่อเกิดขึ้นมันจึงดำเนินไปตามระยะเวลาของมันตั้งแต่ต้นจนจบจะเห็นว่าเราเป็นเพียงผู้อยู่ในเงื่อนไขของกาลเวลา ไม่สามารถเอาตัวรอดหรือตัดผ่านวงจรที่เกิดขึ้นออกมาได้ ทีนี้ตามหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญาที่ประกอบด้วยโลกุตตรมรรคเก้าย่อมสามารถตัดวงจรของสังสารวัฏได้ส่วนความสัมพันธ์และการตัดวงจรสังสารวัฏตามหลักอริยสัจสี่คือทุกข์,สมุทัย,นิโรธ และมรรคนั้นต้องดูที่กรรม เพราะมีกิเลสเป็นสาเหตุของการเกิดกรรมและกรรมเป็นสาเหตุให้เกิดวิบากวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏจนกว่าจะบรรลุพระนิพพานอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต

    ด้วยการบรรลุนั้นย่อมไม่ง่ายเลยหากบารมียังไม่ถึงพร้อม ชนทั้งหลายก็จะขวนขวายในกิจและหน้าที่ดำเนินชีวิตบนภาระของตนในแต่ละวันให้ผ่านไปอย่างดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาโดยทั่วไปจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมหาวัฏจักรได้นอกจากจะทำด้วยวิปัสสนาญาณหรือ..เสด็จพระใหญ่ท่านใช้อำนาจแห่งโลกุตตรเพื่อตัดวงจรสังสารวัฏอันจะมีผลสืบทอดไปถึงกรรมวิบากที่เราวนเวียนประสบอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าตัดวงจรสังสารวัฏปุ๊ปไอ้ตัวกรรมวิบากที่เราเจออยู่นี้มันก็หยุดทันทีเลยนะไม่ได้ไหลไปตามกระแสเวลาของมันอีก มันจะดับ,จะหยุดและตัวเราจะได้ประโยชน์นั่นก็คือการพ้นทุกข์ แม้ไม่ใช้พ้นจากกองกิเลสบรรลุมหานฤพานแต่ก็ยังเป็นการออกจากทุกข์และเริ่มวัฏจักรย่อยที่เราเป็นผู้สร้างผู้ดำเนินด้วยตัวเราเองได้ จะได้เริ่มได้ทำให้มันดีที่สุดดั่งที่เราตั้งใจคิด ตั้งใจจะกระทำนั่นเอง สูตรที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงและสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏคือกิเลส,กรรม,วิบากได้นั้นจึงเป็นเรื่องที่คนทั่วไปทำไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เมตตาจริงๆอันนี้ยังนับว่ายาก แม้องค์พระทั้งหลายท่านก็ยังละวางเอาไว้ด้วยเรื่องแห่งสังสารวัฏในมหาวัฏจักรนั้นย่อมไม่ใช่กิจธุระของท่าน

    อันปกติในโลกมนุษย์นี้ส่วนมากผู้ที่มาเกิดก็จำแนกออกได้ด้วยสองหลักใหญ่ๆนั่นก็คือ ผุดขึ้นมาหรือเกิดลงมา แม้ค่าของความเป็นคนจะมีอยู่เท่ากันแต่อย่าลืมวิสัยอันเป็นของติดตัวหรือของเก่าของตนเอง คนที่ผุดขึ้นมานั้นย่อมแน่นอนว่าเคยก่อกรรมทำเข็ญมามากไม่ได้คำนึงถึงบุญบาปใช้ชีวิตผูกติดอยู่แต่กับอกุศล พอถึงกาลกิริยาย่อมหนีไม่พ้นอบายภูมิทั้งสี่ นี่ตรงนี้พอกรรมหมดกำลังบุญก็จะเห็นจะส่งผลจึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่บาปกรรมที่ติดตัวอยู่ก็ตามมาติดๆให้เกิดมาแล้วต้องได้รับทุกข์สาหัสทั้งหลาย บางคนเกิดมาพิการเกิดมาไม่สมประกอบหรือมีร่างกายอัปลักษณ์ ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นผลติดตามตัวเองทั้งสิ้นในขณะที่บางคนเกิดมาแล้วเจอแต่ความสุขอันปราณีตนั่นก็เพราะบุญเก่าเขาตามสนอง ตามปรุงแต่งให้ชีวิตเขาดำเนินไปอย่างปรกติสุข ให้สังเกตุได้เลยว่าเวลาเรามีทุกข์หรือมีปัญหานั้นไม่ใช่เพียงตัวเราคนเดียวเสียเมื่อไหร่ที่ต้องเผชิญกับปัญหา หากแต่คนรอบข้างก็ยังโดนไปด้วยจะเป็นในแง่ของภาระหรือร่วมกันแก้ก็ดี นั่นก็เพราะทุกคนมีวงจรกรรมที่ผูกมาร่วมกันตั้งแต่ในระดับตัวตนจนโตไปถึงในระดับประเทศนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านอยากเห็นชีวิตคนโดยรวมนั้นมีสุขแบบปรกติ ไม่ต้องจมกองทุกข์หรือหาทางออกให้พ้นจากบ่วงกรรมวิบากไม่ได้ ด้วยศิษย์ทั้งหลายนั้นที่เป็นคนดีและตั้งใจทำความดีจริงๆก็มีอยู่หากแต่ชีวิตของเขาไม่ได้ดีเพราะไม่มีของเก่าหนุนส่ง ทำให้ไม่มีกำลังใจที่จะประกอบกรรมดีกันต่อไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอเมตตาเสด็จพระใหญ่ให้ท่านช่วย ท่านก็ให้พ่ออาจารย์ลงตะกรุดวัฏจักรย่อยนี่เสียซักครั้งเพื่อเปิดโอกาส,เปิดวงจรกาลเวลาและวัฏจักรสำหรับคนใช้จะได้คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำของตัวเอง

    เพื่อจะเริ่มสร้างชีวิตที่ดีให้เกิดสุขอันปราณีตให้ชนนั้นได้เสวยสมบัติอันประเสริฐสุดท่านว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมากดุจว่านั่นทีเดียว เสด็จพระใหญ่ท่านว่าตะกรุดวัฏจักรย่อยนี้จะดำเนินลีลาแห่งภพให้ชีวิตเราสูงขึ้นดุจพระเจ้าจักรพรรดิที่เสวยสมบัติไม่บกพร่องหรือดุจองค์อมรินทร์จอมสวรรค์ที่มีทิพยสมบัติอันรุ่งเรืองเหนือทวยเทพทั้งหลายทีความสุขความสำราญดั่งรูปพรหมเช่นนั้น แต่ทว่าให้พึงจดจำกันให้ดีว่าสรรพสิ่งใดๆก็ตามเมื่อรุ่งเจริญไปแล้วย่อมไม่ตั้งอยู่เช่นนั้นถาวรณ์ ที่จะเที่ยงแท้ยั่งยืนเรื่อยไปตลอดกาลนั้นเป็นไม่มี สิ่งที่จะดีที่สุดเที่ยงแท้ที่สุดนั่นก็คือตนพึ่งตน ตะกรุดนี้เป็นเพียงตะกรุดที่จะเปิดทาง เปิดช่องช่วงชิงโอกาสและความสุขสบายมาให้เรา เมื่อได้โอกาสนั้นตัวเราเองก็ต้องประกอบกรรมดีหมั่นสร้างกุศลด้วยไม่ใช่ใช้ชีวิตเละเทะเหลวไหลอย่างนี้ไม่ต้องเอาไปใช้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อจะได้เกิดประโยชน์ใหญ่แก่ตนได้อาศัยสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกเป็นเครื่องอาศัยเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างบารมี เช่นนั้นคนใช้ตะกรุดนี้จึงถือคติที่ว่าสมบัติทั้งหลายนั้นเป็นของกลาง,ของโลก เป็นเพียงเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสร้างบุญกุศลได้สะดวกสบายมากขึ้นเช่นนั้น ท่านว่าไอ้ความสะดวกสบายนี้อย่าไปยึดติดมันเป็นแก่นสารทีเดียวให้จำไว้ว่าเรามีภาระที่ต้องพึ่งตัวเองอยู่ เราต้องแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระของชีวิตเข้ามาพอกพูนขัดเกลาสติปัญญาของตัวเองอยู่เรื่อยๆ

    เพราะการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอนและไม่ปลอดภัยเลย ทุกชีวิตต้องท่องเที่ยวไปเกิดในสุคติบ้าง,ทุคติบ้างตามกรรมที่เผลอกระทำกันแต่งแต้มเข้าไปจะทุกข์ก็ดีจะสุขก็ดีสลับกันไปอยู่เช่นนี้ ดังนั้นการที่เสด็จพระใหญ่ท่านจะช่วยให้พ้นจากภัยในวัฏสงสาร จะดับย่อยวัฏจักรเพื่อตัดการจองจำให้กับเรานั้นตัวเราเองก็อย่าลืมจุดหมายที่แท้จริงในการเกิดเป็นมนุษย์ด้วย ว่าเรามีหน้าที่อย่างไรจะต้องไปให้ถึงฝั่งพระนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุขได้อย่างไร จะสะสมบารมีให้เต็มได้อย่างไรสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น อย่าได้ประมาทในการสั่งสมบุญบารมี ทั้งทาน ศีล ภาวนานั้นก็อย่าละเลย เพราะที่ไปของสรรพสัตว์ทั้งหลายย่อมมีคติไม่แน่นอน บ้างก็ไปนรก บ้างก็กำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน บ้างก็เกิดในเปรตวิสัยคือคติของพวกเปรตและอสุรกาย บ้างก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ และคติที่สูงไปกว่านั้นคือเหล่าเทวดาซึ่งหมายรวมเอาทั้งที่เป็นพรหมและอรูปพรหม ที่ไปของสัตว์ที่ยังอยู่ในวัฏฏะมีเพียงเท่านี้ไม่ยิ่งไปกว่านี้ท่านจึงปรารถนาจะให้มีที่ไปที่ดีและสมบูรณ์ไม่ต้องพัวพันจองจำอยู่ในทุกขเวทนานับชาติไม้ถ้วน

    นี่คือโอกาส ...พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเราไม่ทำไว้แล้วใครจะทำ เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนวนอยู่ในสังสารวัฏนี้ดุจเหมือนถูกขังอยู่ในคุกขนาดใหญ่ ท่านอุปมาว่าเป็นเหมือนเชลยศึกที่ถูกจองจำ เป็นประดุจโคงานที่เขาเทียมไว้หรือเป็นดุจวัวที่ผูกหลักเอาไว้ เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงเป็นเครื่องดับย่อยวัฏจักรและตัดการจองจำทั้งหลายที่พันธนาการจิตวิญญาณของเขาอยู่เพื่อเปิดให้เขาได้ลืมตาอ้าปากได้สร้างวัฏจักของตนเองอันเปรียบตัวเขาในโลกนั้นเป็นดั่งพระจักรพรรดิ,ดั่งองค์อมรินทร์ที่บริบูรณ์ด้วยความสุขเช่นนั้น ท่านว่านี่จึงเป็นโอกาสเป็นทางให้ได้สร้างบารมีกันสืบไป หากใครจะกินจะใช้แต่เพียงเท่านี้ชาตินี้ก็ช่างเขา เพราะภพชาติหนึ่งของมนุษย์นี้ก็เปรียบเสมือนการหลับของเทวดาเสียตื่นนึงพอตื่นมาก็เริ่มต้นกันใหม่ ถ้าเขาฉวยโอกาสพอได้ดีมีกำลังทรัพย์มากรู้จักทำบุญกับพระศาสนาหมั่นอบรมจิตใจบ่มเพาะปัญญาตนเองเขาก็จะมีคติมีที่ไปที่ดีขึ้นสูงขึ้นนับชาติไม่รู้จบ แต่ถ้าเขาได้โอกาสแล้วเขายังหลงระเริงเช่นนั้นก็ย่อมไม่มีโอกาสใดๆอีก ท่านว่าช่วยกันได้แค่นี้ ทุกอย่างในสังสารวัฏนั้นใช่ว่าจะประคองไปมอบให้ถึงมือกันได้


    ตะกรุดนี้ท่านว่าสร้างยากมากอย่างแท้จริง เสด็จพระใหญ่ท่านให้สงวนวิธีทำเอาไว้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่พระยันต์ด้านในก็ไม่มีภาษาใดๆที่มนุษย์ยุคไหนจะเข้าใจได้แล้วเพราะเป็นอักขระวิธีปฐมแรกเริ่มของพ่อพระพุทธท่านโดยเฉพาะ ทั้งเวลาทำท่านก็ต้องนำตะกรุดมาวัดเทียบกับนิ้วชี้(ดัชนีของท่านเอง) เป็นคติว่าจะได้ชี้สั่งคนอื่นได้ตลอดเวลาชุดนี้ท่านลงเป็นหัวใจไว้เสกพร้อมกับชุดใหญ่ทานว่ามีอานุภาพใช้ได้เสมอกัน ทั้งยังมีขั้นตอนที่ปราณีตอย่างการแช่น้ำว่าน คลุกผงยันต์ เข้ามวลสารศักดิ์สิทธิ์ อาบว่านยา ท่านว่าทุกอย่างทำได้ยากมากในสิ่งที่เสด็จพระใหญ่ท่านสั่งให้หาแต่ละอย่าง ยังดีที่เราพอมีเก็บไว้อยู่บ้างจึงทำได้ ถ้าสั่งให้หาเดี๋ยวนี้และทำเดี๋ยวนี้เอาว่าถอดใจได้เลย ว่านแต่ละอย่างยาแต่ละตัวนั้นล้วนแต่ครูในโลกทิพย์ท่านเอาออกมาให้ทั้งสิ้นต้องเก็บมาทั้งชีวิตเท่านั้น

    ตะกรุดนี้สำคัญมากเพราะท่านทำเทียบกับดัชนี ท่านว่าแม้ตอนเสกเสด็จพระใหญ่ท่านก็นำตะกรุดแต่ละดอกเทียบกับดัชนีของพระองค์ท่านทีละดอกทั้งนั้น เช่นนั้นตะกรุดนี้นอกจากมีคุณวิเศษดังกล่าวข้างต้นแล้วยังใช้ชี้ธรรม,ชี้ทางสว่างได้อีกด้วย ตะกรุดนี้เป็นสัญลักษณ์บอกถึงการสิ้นสุดของการเดินทาง,บอกถึงจุดหมาย,ถึงความสำเร็จ ในวงจรของเวลานั้นท่านว่าเมื่อแรกเริ่มจะเหนื่อยต่อเมื่อสิ้นสุดเท่านั้นจึงจะพอหายใจได้สบายกันบ้าง เช่นกันตะกรุดนี้ก็เปรียบดั่งจุดสิ้นสุดคือจุดที่เราสบายที่สุดนั่นเอง ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเทียบตะกรุดกับดัชนีให้ทีละดอก เช่นนั้นจึงใช้ชี้ได้สารพัด ท่านว่าถ้าใช้ชี้ให้พรตัวเองก็จะให้ทรัพย์ได้เร็วกว่าทุกสิ่ง ชี้ให้สำเร็จก็สำเร็จทุกประการ ชี้เพื่อขอพรใดๆก็ให้พรได้ทันใจทันคิด ชี้ไปที่ไหนที่นั่นจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง(จริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้ด้วยประสงค์จะชี้ให้พ้นทุกข์,พ้นความขัดข้อง) แต่เราคนใช้จะเอาไปอธิษฐานใช้อะไรมันก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะว่าไอ้ตัวทุกข์นั้นมันก็ครอบคลุมวิบากกรรมทุกอย่างอยู่แล้ว เรียกว่ามีผลสืบทอดกันไปเป็นช่วงๆจะกล่าวว่านี่เอาไปชี้ทีก็ลดวิบากกรรมไปได้อย่างหนึ่งนั้นก็ได้ จะชี้ให้รวย,ชี้ให้เลื่อนตำแหน่ง,ชี้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ,ชี้ให้หายจากโรคเวรโรคกรรมก็ได้ ท่านว่ามีอานุภาพดุจเสด็จพระใหญ่ท่านชี้ท่านให้พรประสิทธิ์กับเราด้วยตัวท่านเอง

    อันคำว่า"พร"นี้ เมื่อให้แล้วจะถอนไม่ได้มันเป็นบาปเพราะเทพ,พรหมและองค์พระนั้นท่านจะถือคติว่าเมื่อเขียนด้วยมือแล้วจะลบด้วยเท้าไม่ได้ ดั่งพ่อแม่ที่ให้พรลูกให้มีความเจริญรุ่งเรือง แล้วพอโมโหจะถอนพรก็จะถอนไม่ได้ด้วยจะเป็นบาปอย่างร้ายแรง เช่นนั้นทั้งองค์พระ,เทพ,พรหมทั้งหลายก็ดีเมื่อให้พรแก่ผู้ใดแล้วก็ย่อมประสิทธิอยู่เช่นนั้นจะถอดจะถอนไม่ได้เลย ดั่งตะกรุดนี้ท่านท่านทำไว้เพื่อให้ผู้ใช้ได้ชี้ตัวเอง ได้ให้พรตัวเอง ท่านว่าคิดเอา ปรารถนาเอาแต่สิ่งที่ดีที่เป็นสิริมงคลกับตัวเองอย่าไปขออะไรอันน่ารังเกียจ จะมีผลดุจเสด็จพระใหญ่ท่านให้พรกระทำอนุโมทนาให้เราด้วยตัวท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าหมั่นชี้หมั่นให้พรแก่ตัวเองไปเรื่อยๆติดอะไรเจออะไรคับข้องใจก้ชี้เข้าไป ชี้ตัวเองก็ให้พรตัวเอง ชี้งาน ชี้กิจการก็เปิดทางเปิดอุปสรรคชี้ทางสว่างให้แก่ชีวิตตัวเองอยู่เช่นนั้น ท่านว่าชี้ได้เรื่อยไปทั้งตะกรุดยังจะดับย่อยวัฏจักรทำให้เราเป็นคนใหม่ในแบบคนเก่าที่มีชีวิตสุขได้มากขึ้นและสบายได้มากกว่าใคร ดุจเราอยู่ในโลกในวัฏจักรอันมีเราเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวเช่นนั้น

    นอกจากนี้ด้วยอานุภาพของดัชนีนั้นยังถือเป็นมหาปราบชั้นสูง เหนือเทพ พรหม ยมยักษ์ทั้งปวง เพียงอาราธนาติดตัวไปศัตรูหมู่มารทั้งหลายก็พ่ายแพ้แก่บารมี จะมีชัยยะ,มีเดช,มีศรี,มีตบะเดชะ และเป็นมหาอำนาจแก่ผู้พบเห็น ถ้าถึงคราวจำเป็นเจอหมู่มารรุกรานก็ให้อธิษฐานตะกรุดเป็นดั่งนิ้วเพชรที่ชี้ไปต้องหมู่มารใดๆย่อมพินาศสูญสิ้น ท่านว่าอย่าชี้ไปเรื่อยเพราะเพียงพกไว้ก็เจริญก้าวหน้ามากพอดูอยู่แล้ว ทั้งจะปราบศัตรู,ปราบอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าให้กับเรา,ทั้งจะสะกดสิ่งไม่ดี,สะกดเหตุเสื่อมทั้งปวง

    คาถาบูชา
    นะโม กาเยนะ วาจายะ เจตะสาวา วะชิรังนามะปะฏิมัง อิทธิธรรมะปาฏิหาริยะกะรัง พุทธสิกขีรูปังปฐมพุทธังสัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา อะหัง วันทามิ สัพพะโส สะทา โสตถี ภะวันตุ เม


    *** วิชาตะกรุดดัชนี้นั้นท่านให้ใช้อาราธนาไว้จี้หรือชี้ให้พรตัวเอง เมื่อฝังประสิทธิเมไว้ในพระหัตถ์หมื่นลักษณ์ย่อมถือเป็นของประจำตัวคู่กายคู่ชีวิตอย่างหนึ่ง โดยปกติเฉพาะตะกรุดนี้ท่านว่าแต่ก่อนเราตั้งราคาไว้นับแสน เพราะไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ได้อีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ครูท่านจะยอมทำให้อีกชาติไหน แต่ปัจจุบันนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านกระตุ้นให้เอาออกไปให้คนที่เขาตกอยู่ในสภาวะการณ์อันเป็นทุกข์ตรงกับอิทธิคุณตะกรุดนี้ได้ใช้ ท่านว่าดุจรอเวลาสุกงอมจนได้ที่แล้วมีเจ้าของครบแล้วท่านจึงให้เอาออกเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เอาออกมาในราคาปกติ(พูดได้เลยว่าถ้าไม่ถึงเวลามีเงินก็ยังเอายากจริงๆ)ท่านจึงได้นำออกให้บูชา ซ้ำพระหัตถ์หมื่นลักษณ์นี้ก็เป็นของมีประสบการณ์เกรียวกราวว่าคนใช้เอาไปดึงเส้นวาสนาเป็นพระสำเร็จ พระรวยเร็วกันทุกคน รายการนี้ท่านว่าใครที่เค้ามีบุญคู่ควรกันเดี๋ยวเขาจะมาเอาไปเอง รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยท่านจะอธิษฐานบอกกล่าวขอเปิดชะตาวาสนาให้เป็นรายบุคคลไป รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กชาวดอยที่ด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระหัตถ์หมื่นลักษณ์ทรงดัชนีปฐมภูมิเปิดวัฏจักรย่อย (รับ,ขอ,ห้าม,โอบอุ้ม) บูชา 900 บาท


     
  4. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ฝ่ามือรุ่นนี้แบ่งๆกันไปใช้นะครับ เห็นเถ้าแก่โรงสีโทรมาแต่เช้านึกว่าพี่เขามีอะไร เขาบอกว่าพี่อยากเหมาฝ่ามือเพราะเค้านอนไม่หลับพอหลับก็ฝันเห็นสมเด็จองค์ปฐมท่านยื่นมือมาหาเค้า...ฟังจากที่เล่าองค์พระใหญ่ท่านก็บอกชัดเจนว่าฝ่ามือรุ่นนี้พิเศษอย่างไรพี่เค้าถึงอยากได้เก็บไว้บูชาในโรงสี แต่รายการนี้ผมไม่ให้ใครเหมาจริงๆนะครับแค่แบ่งๆกันไปคนละเล็กๆน้อยๆเอาไปใช้เต็มที่ก็เผื่อคนในครอบครัว จะเอาไปขอทรัพย์สินหรือหยุดชีวิตแย่ๆก็ตามแต่อาราธนาเลย เชื่อว่าคนละองค์ก็คุ้มแล้ว
     
  5. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่นวรัตน์ EI 3031 2303 8 TH

    พี่ภิญโญ EI 3031 2304 1 TH

    พี่ทวีพงษ์ EI 3031 2305 5 TH

    พี่ธีรนนท์ EI 3031 2306 9 TH

    พี่สายเมธี EI 3031 2307 2 TH

    พี่กฤตยชญ์ EI 3031 2308 6 TH
     
  6. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    มีคนถามว่าห้อยพระหลายองค์ในเส้นเดียวกันได้มั๊ย บางคนเราก็ถามเค้าว่าทำไมห้อยพระเต็มคอไม่ห้อยทีละองค์เค้าก็จะบอกว่าเขาศรัทธาอยากห้อยเยอะๆจะได้ช่วยผมกันหลายๆคน

    เช่นนี้เรื่องแบบนี้ท่านว่าเป็นที่ศรัทธาคน คนเช่นนี้ถ้าเขามีศรัทธาเราก็ปล่อยเขาไปเพราะมันไม่ได้เสียหายอะไรนอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านมักย้ำเสมอว่า
    ศรัทธาคือชะตากรรมและความไม่เชื่อก็คือชะตากรรม

    บางสิ่งหากเชื่อก็จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมได้เรียกว่าชะตากรรมมีโอกาสเปลี่ยนแปลงในตัวของมันเอง ในขณะเดียวกันสำหรับคนที่เขาไม่เชื่อก็มีชะตาของเขา ด้วยความไม่เชื่อบางเรื่องก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เขาจะมีชะตากรรมของเขาเพราะมันก็เป็นชะตากรรมเช่นกันดังนี้
     
  7. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    คำสาปแช่ง

    ตามความเชื่อในเรื่องของการสาปแช่ง “คำสาป” หรือ “คำสาปแช่ง” คือ ถ้อยคำที่กล่าวขึ้นเพื่อแสดงความต้องการให้เกิดสิ่งร้ายแก่ผู้อื่น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ผู้ที่ทำการสาปแช่งมักเป็นคนที่ถูกกระทำให้ได้รับความเดือดร้อน ทุกข์กาย ทุกข์ใจ จากการกระทำของผู้ที่ถูกสาปแช่งไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม โดยวิธีการที่มักจะใช้ตามความเชื่อที่ถูกบอกต่อกันมาก็คือ “การเผาพริกเผาเกลือ” ด้วยการเทน้ำลงบนเกลือที่กองไว้ แล้วโยนพริกและเกลือลงไปในกองไฟ พร้อมกับกล่าวคำสาปแช่ง ซึ่งเชื่อกันว่าจะสามารถทำให้ศัตรูร้อนรุ่ม ไม่มีความสงบสุขในจิตใจ แต่คำสาปแช่งจะเกิดผลขึ้นจริง หรือไม่นั้น...ก็ไม่อาจมีใครคาดเดาได้ เพราะขึ้นอยู่กับจิตของผู้สาปแช่ง หากมีพลังจิตที่แรงกล้ามากพอก็สามารถทำให้คำสาปแช่งนั้นกลายเป็นจริงได้เร็วยิ่งขึ้น แต่หาคนที่คิดจะสาปแช่งผู้อื่นนั้นเป็นคนที่มีจิตคิดร้าย ไร้คุณธรรม มุ่งทำลายคนอื่นโดยที่เขาไม่เคยสร้างความทุกข์ให้กับตัวเองมาก่อน คำสาปแช่งนั้นก็จะไม่เป็นผล

    การสาปเเช่งมีขึ้นมาตั้งเเต่สมัยโบราณ เวลาที่มีใครมาทำให้รู้สึกเจ็บเเค้นหรือเดือดร้อนใจ จนเกิดความรู้สึกผูกอาฆาตพยาบาทกับอีกฝ่ายก็จะเปล่งวาจาสาปแช่งเพื่อต้องการให้อีกฝ่ายประสบกับชะตากรรม หรือความปรารถนาให้เกิดสิ่งร้ายตามในเเบบที่ตนต้องการ แล้วคุณล่ะ...เคยสาปแช่งใครไหม แล้วเคยมีใครเป็นอย่างที่คุณสาปเเช่งหรือเปล่า? วันนี้มีบทความที่จะมาอธิบายว่าคำสาปแช่งจะเป็นจริงได้ด้วยสาเหตุใดบ้าง

    คติความเชื่อโบราณเชื่อว่าคำสาปแช่งจะเป็นจริงตามผู้สาปแช่งได้ในกรณีดังต่อไปนี้

    คำสาปแช่งของคนดี
    หากคนดี มีศีลธรรม โดนผู้อื่นที่ไร้ศีลธรรมกระทำโดยเจตนา ให้ต้องทนกับความเดือดร้อนทุกข์ใจจากการะกระทำนั้น จนเกิดเป็นความอาฆาตพยาบาทต่อผู้กระทำ แล้วกล่าวสาปแช่งผลจะเกิดเป็นจริงกับผู้กระทำตามคำสาปแช่ง ความรุนแรงจะมากน้อยแปรผันตามความเดือดร้อนทุกข์กายใจ

    คำสาปเเช่งเกิดจากตบะผู้สาปแช่ง
    ผู้ที่มีความเพียรหรือธรรมที่พยายามให้กิเลสหมดไป จะมีอำนาจแฝงเปล่งวาจาสาปแช่งแล้วจะเกิดผลตามที่เเช่ง ในกรณีนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากผู้สาปแช่งมีความรักหรือหวงสมบัติ ไม่อยากให้ใครมาหยิบจับโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเปล่งวาจาสาปแช่งเอาไว้ เคยเกิดผลจริงในประวัติศาสตร์สมัยอิยิปต์โบราณหากผู้ใดเข้าไปในสุสานฟาโรห์จะต้องมีอันเป็นไป

    ทำพิธีกรรมสาปแช่ง
    พิธีกรรมจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละที่ อย่างคนไทยเชื่อว่าการเผาพริกเผาเกลือ โดยในตอนเช้าให้หยิบเกลือมาหยิบมือหนึ่งเเล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออกพร้อมเปล่งวาจาสาปแช่งผู้ที่ทำให้ตนเดือดร้อน เทน้ำใส่มือให้เกลือละลาย ตอนเย็นหันหน้าไปทางทิศตะวันตก โยนเกลือใส่กองไฟ หรือพริกกับเกลือพร้อมคำสาปแช่ง จะทำให้ผู้ถูกสาปแช่งร้อนลุ่มกระวนกระวาย

    การผูกอาฆาตพยาบาทหรือสาปแช่งกันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะจะเป็นการผูกกรรมกันไม่รู้จักจบสิ้น ควรรู้จักการให้อภัย อโหสิกรรมเพื่อเลิกเเล้วต่อกันดีกว่า


     
  8. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    มีสอบถามกันมานับสิบคนถึงของที่เอาไว้แก้ใช้แก้เรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะ ก็ยกไปพูดคุยกันพรุ่งนี้นะครับ
     
  9. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ใครชอบเครื่องมงคลสายพระเวทย์โบราณแบบแรงๆ ที่มีวิธีใช้เฉพาะเพื่อตัวเรา หนุนเรา เป็นของเราอย่างแท้จริง เอาไว้มาติดตามพูดคุยกันนะครับ
     
  10. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ฐิตกาญจน์ EI 2170 9855 1 TH

    พี่ศิระ EI 2170 9856 5 TH

    พี่พรหมพล EI 2170 9857 9 TH

    พี่ชัยวัฒน์ EI 2170 9858 2 TH
     
  11. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา พระพิมพ์ปฐมฤกษ์พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์กลืนกินคำสาปคำสาบาน (ซุ้มกอสะดุ้งกลับ โพธิ์เก้า,ผงมหาสะเดาะ)

    *** พระชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านตอกย้ำไว้ชัดเจนว่า พุทธคุณอย่างแรง คนไม่มีเคราะห์ห้ามใช้

    *** ตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ)
    ตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นตามพระเวทย์โบราณ ด้วยปางก่อนนั้นสังข์อสูรได้กลืนกินพระเวทแลพระธรรมศาสตร์ทั้งปวงอันไหลออกมาจากโอษฐ์ของพระพรหมธาดาเป็นเจ้าได้ ด้วยกำหนดเมื่อถึงพรหมราตรีองค์พรหมท่านหลับไหลกินเวลายาวนานถึง 4,320 ล้านปี โลกก็เข้าสู่ความมืดมน อนธการ น้ำจะท่วมโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์ จนหมดสิ้นช่วงเวลาพรหมราตรีนั้นเข้าสู่พรหมทิวาทุกอย่างจึงจะกลับมาเป็นปกติ การที่คัมภีร์พระเวทย์หายไปทำให้โลกมนุษย์เดือดร้อน ฝนฟ้าไม่ตก เกิดความแห้งแล้งอดอยาก ก่อนเวลาที่โลกจะวิบัติตามช่วงพรหมราตรีที่กำหนดไว้
    ด้วยสังข์อสูรนั้นสำคัญว่าเมื่อโลกขาดซึ่งพระเวทย์แลพระธรรมศาสตร์ไป พอพระพรหมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็จะไม่สามารถสร้างโลกแลสร้างสรรค์จักรวาลได้เลย เทพยดาตลอดจนมนุษย์ก็จะไม่ได้รับองค์ความรู้ต่างๆทั้งยังไม่นับถือพระเป็นเจ้าอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้พ่ออาจารย์ท่านซึ่งได้รับการแนะนำจากองค์ปฐมพรหมว่าให้ทำตะกรุดครูดอกสำคัญขึ้นลงวิชาสังข์อสูรไว้ เพราะสังข์อสูรนั้นเป็นผู้กลืนกินที่ได้ชื่อว่ากลืนได้ทุกอย่างแม้กระทั่งพระเวทย์และพระธรรมศาสตร์ทั้งหลายอันปกติแล้วจะหาผู้ใดกลืนกินมิได้ จึงได้ชื่อว่าสังข์อสูรนั้นมีอำนาจมากกลืนได้ทุกสิ่งด้วยตัวสังข์อสูรนั้นเป็นมหาพรหมจุติลงมาจึงมีกำลังฤทธิ์มาก ซ้ำเหนือสิ่งอื่นใดสังข์อสูรนั้นได้ลักโขมยสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากพระเป็นเจ้า ได้กลืนกินทั้งรูปธรรมและนามธรรมอันเป็นต้นกำเนิดของมหาจักรวาลได้(พระเวทย์และพระธรรม)
    เช่นนั้นท่านจึงถือว่าสังข์อสูรนั้นเป็นดั่งหลุมดำที่ใช้กลืนกินได้ทุกสิ่ง(วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านปกปิดมากและวิชานี้ท่านตั้งใจหลบไว้ไม่ให้ใครเห็นหรือเอาไปใช้กันได้ง่ายๆด้วยท่านกลัวว่าจะหลงระเริงเอาไปใช้ในทางที่ผิด) ซ้ำสังข์นั้นยังมีอานุภาพมงคลอีกหลายประการ แม้ว่าบุคคลใดจะทำการมงคลให้เอาสังข์ไปเป่าให้ดังจนสุุดเสียงสังข์นั้นแล เสียงนั้นได้ยินไปถึงสถานที่ใดก็เป็นอุดมมงคล ทั้งสังข์ยังใช้ในการเป่าประโคมเพื่อเตรียมพร้อมขบวนศึก ใช้เป่าเป็นอาณัติสัญญาณในการสงคราม ใช้เพื่อประกาศศักดาและความมีชัย ...เช่นนั้นพ่ออาจารย์จึงสรุปว่าวิชาสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบานนั้นสามารถกลืนได้ทุกสิ่งทั้งยังใช้ขับไล่สิ่งอันไม่เป็นมงคลออกไปจากตัวเราหรือสถานที่ซึ่งเราอาศัยอยู่ และเป็นเครื่องหมายแห่งศักดานุภาพแลชัยชนะอีกด้วย ท่านว่าบ้านไหนร้อนเป็นไฟ ชีวิตใครที่วิบัติอย่างไร้สาเหตุชนิดที่โดนผีมันทำเอา หรือโดนเจ้าที่เทวดาให้ร้ายเหล่านี้ มีสังข์อสูรอยู่ด้วยรับรองได้ว่าวิบัติต่างๆนั้นเงียบสนิท
    อานุภาพของสังข์อสูรนั้นมีอยู่มากเมื่อพ่ออาจารย์ท่านลงตามโองการปฐมพรหมโดยทำเป็นตะกรุดครูที่สร้างด้วยสรรพพิธีกรรมโบราณเช่นการทำตะกรุดตะกั่วลงถมแล้วท่านจึงเรียกตะกรุดสังข์อสูรนี้ว่าเจ้าหลุมดำ เพราะเจ้าหลุมดำนี้มีแรงกระหายที่แฝงลึกอยู่ในสัญชาติญาณสามารถกลืนกินได้แม้แต่พระเวทย์และพระธรรม ซ้ำวิชานี้ยังใช้กลืนกินคำสาป,คำสาบาน,ทุกข์,โทษ,ภัยใดๆอันแสดงออกถึงผลร้ายที่มากระทบกายและใจของเรา ท่านว่าเจ้าหลุมดำนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม กลืนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม หากคนใช้เป็นจะรู้ว่าสามารถใช้เพื่อกลืนและกินได้ทุกสรรพสิ่ง ยิ่งเรามีบาปมากทุกข์มาก มีชีวิตติดอยู่ในคำสาปคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติอันผูกพันธ์เหนี่ยวรั้งเราไว้ ใช้ชีวิตวกวนหาทางออกไม่ได้อยู่เช่นนี้ ท่านว่านั่นแหละเจ้าหลุมดำกลืนกินได้ทั้งหมด ยิ่งเค้ากินมากก็จะยิ่งให้คุณมาก ท่านว่าวิชานี้แปลกคนที่ว่าทรุดๆไร้จุดยืน คนที่ติดคำสาปคำสาบานเหล่านี้ พอเจ้าหลุมดำมันกินเสร็จไม่ใช่แค่มันนะที่อิ่ม แต่ตัวเรามันก็ให้กินให้อิ่มด้วยเหมือนเป็นการตอบแทนที่เราให้มันกิน ชีวิตใครที่ขาดสิ่งใดอยู่ไม่ว่าจะโชคลาภความรักความปรารถนา สิ่งใดที่ต้องประสงค์นั่นแหละบอกกับเจ้าหลุมดำไว้ได้เลยว่า "เมื่อกินอิ่มแล้วให้พ่ออิ่มด้วยนะพ่อขาด...สิ่งนี้ๆก็ว่าไป" ท่านว่าถ้าใช้เป็นดังนี้จะมีกินมีใช้ไม่รู้จบ มันกินเร็ว กินไวชนิดที่ไม่เหลือให้ใคร ก็ส่งผลให้เราได้ทุกอย่างแบบที่ไม่มีใครกล้าแย่งเช่นกัน
    ทั้งเจ้าหลุมดำนี้ได้ชื่อว่า
    กินอย่างเดียว เก็บอย่างเดียวไม่มีเอาออก ไม่รู้จักอิ่มและไม่มีอะไรที่เขาจะกินไม่ได้ เช่นนั้นวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้เปรยเอาไว้ว่านอกจากกลืนกินคำสาปคำสาบานในร่างกายตัวตนของเราแล้ว เจ้าหลุมดำนี้แม้อยู่ที่ไหนก็ยังจะช่วยเจ้าของกอบโกยสิ่งที่ตัวเธอต้องการแบบไม่รู้จักคำว่าพอดี(พูดง่ายๆคือเกินพอไปไกล) จะกอบโกยทุกอย่าง ครอบครองทุกอย่างจนตัวเธอเองคาดไม่ถึงว่าทำไมเมื่อก่อนเป็นแบบนั้นและตอนนี้เรามีขนาดนี้ได้อย่างไร จะถึงซึ่งสิ่งอันสมปรารถนา มีความสุขกับทรัพย์สมบัติที่ตั้งใจจะให้เป็นตั้งแต่แรก ...ท่านว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือใช้ชีวิตแบบไม่มีจุดอิ่มตัว นี่คืออานุภาพของเจ้าหลุมดำ เพราะตัวของมันนั้นสามารถบรรจุพระเวทย์และพระธรรมได้จึงมีอานุภาพอันประมาณมิได้ ท่านว่ามีมิติอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่สามารถคาดคะเนจุดสิ้นสุดได้อยู่ในตัวของมันเช่นนี้ท่านจึงเรียกเจ้าหลุมดำเพราะจริงๆแล้วตัวของมันสามารถใส่ได้ทุกสิ่ง ***วิชานี้เป็นพระเวทย์พิศดารซึ่งพ่ออาจารย์ได้รับการถ่ายทอดโดยปฐมพรหม ท่านว่ามีอำนาจเหนือแรงพรหมลิขิตต่างๆที่ดลบันดาลชีวิตคนมากนัก ด้วยเหตุสังข์อสูรนั้นโขมยของจากพระพรหมเปลี่ยนแปลงพรหมลิขิตซึ่งส่งผลร้ายแรงที่สุดต่อมหาจักรวาลได้อย่างไร เรื่องโขมยชะตา เปลี่ยนชีวิต กลับทุกข์เป็นสุขทั้งหลายเค้าก็ทำได้ง่ายๆเช่นนั้น
    ### วิธีใช้
    - ตะกรุดนี้เมื่อได้รับไปท่านให้ผู้บูชาตั้งจิตตั้งสมาธิให้ดี นำเอาปากกามาเขียนชื่อตัวเองจารใส่ลงไปที่ตะกรุด ให้ทำเบื้องหน้าพระปฏิมาหรือทำจิตหน่วงไว้มั่นคงในพระรัตนตรัยอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เมื่อกระทำนั้นพ่ออาจารย์ท่านให้ตั้งจิตให้ดีบอกกล่าวกับมหาสังข์เขาว่าให้กลืนกินคำสาปและคำสาบานตั้งแต่อดีตชาติของเราขณะที่เราเขียนชื่อลงไป...(ต้องทำด้วยตัวเอง) อยากจะให้ท่านช่วยให้ท่านกลืนกินอะไรก็บอกไปเลยในขณะนั้น การเขียนชื่อนี้ทำได้เพียงครั้งเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพกแบบไม่เขียนก็ได้ แต่หากทำตามนี้วิชานี้จะมีผลมาก เห็นผลได้ไวดั่งใจ เจ้าหลุมดำจะเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเราและตามช่วยเราตลอดไปแม้ในภพภูมิไหนๆ จะเกิดอีกกี่ชาติ พรและความโชคดีเหล่านี้จะไม่หายไปจากตัวเราเลย

    *** พระชุดนี้แก่ผงมหาสะเดาะ
    ผงมหาสะเดาะพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเเต่เดิมวิชานี้เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในภาควิชาของเทพนิมิตร ท่านได้เฝ้าครูมหาพรหมคือองค์สหัมบดีบรมพรหมสูงสุดแห่งปัญจสุทธาวาสท่านจึงได้วิชานี้มา โดยใช้วิชานี้ตั้งตัวเเละทำไว้ให้ลูกศิษย์บ้างเฉพาะบางคนที่มีความประพฤติดี วิชานี้องค์บรมพรหมท่านให้มาโดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแก่นเเท้ของวิชานี้ต้องสวนกับกระเเสของกรรมในระดับหนึ่ง พระองค์ท่านได้มอบอักขระให้พร้อมคาถาเสกเรียกว่ามหาสะเดาะ ครูท่านบอกว่าเพราะสัตว์นั้นมีกรรมเฉพาะเเต่ละบุคคล ถึงมีโชคบางทีก็รับไม่ได้ บางครั้งกรรมส่งผลหนักเเม้โชคก็ยังไม่มีเลย
    ในจุดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้เสวยศุภมงคลอันเกิดเเต่โชคลาภวาสนา พระองค์ท่านจึงให้วิชามหาสะเดาะเเก่พ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อพกไว้บูชาไว้กับตัว จะสะเดาะโซ่ตรวนบ่วงพันธนาการที่กุมรัดให้หลุดออก ให้ไขว่คว้าโชคลาภได้ จะทำอะไรก็มีเเต่โชคร่ำรวยง่ายๆโชคดีเเบบนั้น ในส่วนของเวรกรรมนั้นก็ไม่ได้หายหรือสลายไปไหน เพียงเเต่คลายพันธะทั้งหมดออกชั่วคราวให้สัตว์เหล่านั้นที่ได้บูชาสามารถรับโชคได้เเต่กรรมเก่าก็ยังรับเหมือนเดิม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้มันดีตรงที่เวลามีโชคพูดง่ายๆคือมีเงิน ให้เอาเงินไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร บ่วงกรรมมันก็จะบรรเทาเบาบางลง ทีนี้อะไรก็ง่ายไปหมด ทำไปเรื่อยๆได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญ ได้เงินเเบ่งส่วนหนึ่งไปทำการกุศลอุทิศให้เขา เช่นนี้ก็ขึ้นชื่อว่าต่อไปบ่วงพันธนาการต่างๆก็จะลดจะคลายลง เงินเเละความโชคดีมันจะยิ่งไหลมาไม่รู้จบ เมื่อท่านลงวิชาทำผงมหาสะเดาะลงด้วยว่านยาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจะล้อมมหาสะเดาะด้วยวิชาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์ของหลวงพ่อปาน วัดบางโคนม พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ดีมากอยู่เเต่เดิมเเล้วในส่วนของพระคาถาไม่ต้องกล่าวอะไรมาก เเต่พอนำมาลงวิชาทำผงกลับต้องทำให้มากขึ้นไปอีก คืออัญเชิญบารมีพระปัจเจกพุทธเจ้าอันอภิเษกพระสัมโพธิญาณทั้งหลาย ซึ่งพระปัจเจกโพธิเจ้านั้นมีจำนวนมากกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้งสี่ เอ่ยอ้างมหาบารมีในระดับโพธิญาณซึ่งสูงกว่าระดับวิปัสนาญาณของพระอรหันต์ทั่วไป มาช่วยเป็นตัวเบิกทางลดกระเเสเวรกรรมให้ผู้บูชาประสบโชคดี เมื่อเหล่าพระปัจเจกโพธิเจ้าทั้งหลายช่วยกันสงเคราะห์ ผสานกับพระเวทย์ในสายบรมพรหมสหัมบดีวิชานี้จึงรับเเละหนุนกันเป็นทอดๆ หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงพระเวทย์เฉพาะอันท้าวสหัมบดีบรมพรหมท่านสอนไว้ พระเวทย์นี้ไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดเผยเเก่ผู้ใด ท่านลงผงวิเศษล้อมวิชาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์อีกทีหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระเวทย์นี้ต่อให้อยู่เฉยๆโชคลาภก็วิ่งเข้ามาหาเอง เเม้ปรารถนาเงินทองของมีค่าความสุขสบายใดก็ไม่ไกลเกินความปรารถนา จะเสี่ยงโชคจะพนันขันต่ออะไก็เอาเเต่พองามตามใจเถิดก่อนที่ท่านจะลบเอาผง ท่านว่าพระหรือเครื่องมงคลใดๆก็ดีที่สร้างด้วยผงนี้ ผู้ใช้ให้พึงรู้แก่ใจไว้ว่าอยากได้อะไรเท่าไหร่ให้ตั้งสัจจะกับผงนี้ไว้ ว่าวันนี้อยากได้เท่าไหร่ได้เเล้วให้พอให้หยุด เเล้ววันอื่นค่อยขอเมตตาในส่วนมหากรุณาของเสด็จปู่ท้าวสหัมบดีต่อไป ผงนี้มีอำนาจอาญาสิทธิ์ด้วยผู้ที่บูชานั้นเทพเจ้าท่านจะต้องสงเคราะห์ถ้วนทุกคน ไม่มีเลือกที่รักมักที่ชังโปรดเสมอหน้ากันหมดรักเราเต็มใจโปรดเรา อีกประการหนึ่งท่านว่าจะทิ้งวิชาทางเมตตานั้นไม่ได้ ยิ่งโชคลาภการพนันเสี่ยงดวงด้วยเเล้วมันต้องเดินไปควบคู่กับเมตตา ใครเห็นเราเค้าก็เต็มใจให้เรายิ้มให้กับเรา เราเอาเงินเขามาง่ายๆไม่ขัดขืนเรา เช่นนั้นผงมหาสะเดาะนี้ท่านจึงลงไว้ครอบคลุมทั้งหมด

    *** พระพิมพ์สำคัญชุดปฐมฤกษ์ พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ (ซุ้มกอสะดุ้งกลับ โพธิ์เก้า)

    เป็นประสงค์ของพ่ออาจารย์ที่ท่านตั้งใจจะสร้างพระพิมพ์ขึ้นบูชาครูเสียหนหนึ่ง โดยตั้งใจว่าจะทำให้ดี ใช้มวลสารของครูมาทำ เชิญครูลงมาเมตตาอธิษฐานจิตให้ ซ้ำยังเป็นการสร้างพระพิมพ์ที่ได้ชื่อว่าทำได้ยากที่สุดอีกวาระหนึ่ง พระพิมพ์นี้เรียกว่าพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ หรือจะเรียกว่าสะดุ้งกลับโพธิ์เก้าก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้จะมีปาฏิหาริย์มาก มีฤทธิ์มากและมีคุณครอบทุกทาง ซึ่งท่านใช้เวลาอธิษฐานจิตและเชิญครูลงปลุกเสกนานมาก


    ท่านไม่ให้บอกอะไรที่เรียกว่ามากเกินไป ให้พูดแต่เพียงคร่าวๆพอเข้าใจเท่านั้น โดยแรกเริ่มนั้น ท่านได้นิมิตรเห็นประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยากเป็นกำลัง และเหล่าพระเบื้องบนตลอดจนพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเมตตาสงสารจับใจ จึงได้ปรารภกับท่านว่า พวกเราจะช่วยกันแผ่เมตตา เอาความกรุณานี้ชำระล้างทุกข์เข็ญที่จะปรากฏขึ้นช่วยกันทำเสียหนหนึ่ง ในภายหลังท่านก็ได้รับสื่อต่อลงมาว่า อยากให้ท่านช่วยสร้างพระพิมพ์ ซึ่งพระพิมพ์นี้เป็นพระพิมพ์สำคัญต้องเป็นท่านเท่านั้นถึงจะทำให้สำเร็จได้ โดยต้องทำตามอาถรรพ์แห่งคุณวิชา เอาไว้ให้เป็นขวัญกำลังใจแก่สัตว์ผู้ยากในภายหน้า พ่ออาจารย์ท่านจึงเริ่มบูชาครูแกะแม่พิมพ์ บอกกล่าวครูบาอาจารย์ให้ท่านช่วยเหลือ แฝงครูลงมาช่วยกันสร้างให้รูปแบบพิมพ์ทรงออกมาเป็นเช่นที่ครูต้องการ ท่านว่าพระพิมพ์นี้ให้คุณถึงสามสถาน ดุจมีพระซุ้มกอบูชาไว้ มีพระเศียรโล้นสะดุ้งกลับบูชาไว้ มีพระปรกโพธิ์เก้าใบบูชาไว้ในองค์เดียวกัน

    พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์นั้น พ่ออาจารย์ท่านใช้มวลสารเดิมของบูรพาจารย์มาเป็นธาตุตั้งต้นในการทำ เพราะท่านอาศัยอำนาจจิตของบูรพาจารย์เหล่านั้นให้กำเนิดก่อเกิดสิ่งดีงามซึ่งทรงคุณวิเศษ โดยท่านกล่าวว่าเดินตามรอยเท้าครูนั่นเอง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์นั้น เป็นพระพิมพ์ที่มีคุณวิเศษอยู่มาก พอจะจำแนกให้เห็นได้ ดังนี้
    - พุทธลักษณะพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับนั้น เป็นการสร้างพระพิมพ์ที่สร้างได้ยากกว่าปกติ อันนี้พูดถึงพระพุทธคุณภายใน ไม่ใช่แค่เพียงรูปลักษณ์ การทำพระพิมพ์นี้ต้องสำเร็จด้วยวิทยาคมขั้นสูงจากผู้อธิษฐานจิต เหนือกว่าพุทธาคมธรรมดา หากผู้สร้างกระแสจิตไม่เข้มแข็ง ถ้าทำตามหลักคุณวิชาแล้ว จะเสียจริตไปทันที กล่าวคือถ้าเสกไม่เป็นคนเสกเป็นบ้าได้เพราะต่างจากการทำพระธรรมดา โดยการอธิษฐานจิตนั้นจะใช้บทพระคาถายอกย้อนถอยหลังขึ้นต้น แล้วฐานกำลังการปลุกเสกการแผ่กระแสจิตก็ยังไหลยอกย้อนเสมอด้วยบทพระคาถาเช่นกัน จึงเหนือและต่างจากการอธิษฐานธรรมดา ดังนั้น พุทธคุณของพระเศียรโล้นสะดุ้งกลับนั้นจึงแรงกล้ายิ่งนัก เหนือกว่าวิชามหาสะท้อนหรือเพชรกลับใดๆหลายเท่า พ่ออาจารย์ท่านว่า สามารถทำให้ผู้ครอบครองพลิกฟ้าพลิกดินได้ เปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ กลับเรื่องร้ายๆที่กำลังผจญอยู่ สถานการณ์แย่หรือวิกฤติ ให้กลายเป็นโอกาส เป็นเรื่องที่ดีได้ แม้ดวงตก มีทุกข์โทษภัย เคราะห์หามยามร้ายใดๆก็จะคลายสูญสิ้น ไม่ใช่ด้วยจะไปเบียดเบียนกฏแห่งวัฏฏะสงสาร แต่อาศัยพุทธานุภาพและแรงครู ส่งทุกข์โทษภัยเหล่านั้นกลับไปให้ไกลหมื่นโยชน์แสนโยชน์
    - ปรกโพธิ์เก้าใบ ดั่งที่บอกไปแล้วแต่ต้นว่าพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์นั้น เป็นพระที่พ่ออาจารย์ท่านต้องการเดินขุมพลัง เน้นพุทธคุณทุกทางพร้อมกัน ตามมติครูบาอาจารย์เบื้องบนให้เหมาะแก่ยุคปัจจุบัน การอัญเชิญองค์พระพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับเข้าประทับในซุ้มโพธิ์เก้าใบนี้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการปกปักรักษาคุ้มครองไม่ทอดทิ้งกัน ของศิษย์และครู ซ้ำยังมีความหมายถึงความเจริญก้าวหน้า รุดหน้า ไม่อยู่นิ่ง แม้ได้อาราธนาบูชาก็จะพบความสุขร่มเย็น สมหวังในทุกๆสิ่ง
    - พิมพ์ซุ้มกอ สำคัญยิ่งนัก เพราะพ่ออาจารย์ท่านต้องการเน้นพุทธคุณพร้อมกันให้เหมาะแก่สภาวะการณ์ปัจจุบัน โดยท่านว่าพระกำแพงซุ้มกอนั้น ดีเด่นครอบจักรวาล ทุกคนรู้กันดีว่า มีพุทธคุณทางโชคลาภวาสนาสูงนัก ดั่งจารึกในลานทองว่ามีกูไว้ไม่จน แม้องค์ครูสมเด็จจะสถาปนาพระสมเด็จวัดระฆังยังต้องเอาดินกรุ เอาพระกำแพงซุ้มกอที่แตกหักมาเป็นมวลสารผสม จนพระสมเด็จวัดระฆังนั้นมีอิทธิคุณดุจเดียวกัน คือใครมีกูไว้ไม่จนนั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้มวลสารเก่าดั้งเดิม ของครูบาอาจารย์ที่ท่านรับสืบทอดมา นำมาผสมสร้างเป็นหัวเชื้อในการทำพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ครั้งนี้ พอจะยกตัวอย่างได้อาทิเช่น
    - ผงเปิดทาง เปิดวาสนา เป็นวิชาที่ต้องลงคู่กัน พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าชีวิตคนนั้น เกิดมาเป็นมนุษย์ได้ต้องบอกไว้ว่ามีทุน มีวาสนากันทุกคน แต่ทั้งนี้ใครจะมีกรรมมีสิ่งใดมาบดบังเบียดเบียน มันก็เป็นเรื่องกฏแห่งกรรมของชะตาสัตว์โลก วิชานี้เมื่อเราอาราธนาจะช่วยขจัดปัดเป่า เปิดทาง เปิดผลบุญอำนาจวาสนาให้เราเป็นวาระๆไป มีข้อห้ามอย่างเดียวคือห้ามหาย ต้องอาราธนาตลอด เช่นนั้นคุณแห่งวิชาก็จะเกื้อกูลเปิดทางให้เราตลอด เมื่อทางเปิดแล้วจงเร่งตักตวงสร้างคุณงามความดี อย่าเพลิดเพลินแต่การณ์คิดจะเสวยสุขฝ่ายเดียวก็พอ
    - ผงสมเด็จวัดระฆัง ขรัวโต เป็นผงที่พ่ออาจารย์ได้เคยนำออกมาใช้สร้างพระบ้างในบางวาระที่จะสถาปนาพระสำคัญๆเท่านั้น
    - ผงยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งท่านได้นำยาวาสนาทั้งแบบเม็ดยา และลูกประคำปราบหงสานำมาฝนขอเป็นชนวนมวลสารเข้ากับผงยาสำเร็จของหลวงปู่บุญที่เอาไว้ผสมทำพระเนื้อผงยาโดยเฉพาะอีกต่างหาก เพื่อจะนำลงมาผสมเป็นมวลสารในวาระนี้ ใครมีไว้ได้ชื่อว่ามีวาสนาอย่างยิ่ง
    - ผงพระพุทธคุณคาถาลบมือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งท่านได้รับมอบมาจากครูฆราวาสของท่าน โดยครูท่านกำชับไว้ว่า แม้จะผสมทำอะไร องค์พระนั้นมีพุทธานุภาพมาก ไม่ต่างจากที่หลวงปู่บุญท่านทำเอง
    - ผงทำพระ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิต เป็นผงที่ท่านได้รับสืบต่อมาซึ่งผงนี้คือผงที่หลวงพ่อกวย ได้ชักยันต์อักขระคาถาวิชาต่างๆลบถมไว้เพื่อนำมาผสมทำพระผงของท่าน พ่ออาจารย์ว่า พระรุ่นนี้มีพุทธลักษณะนั่งบัลลังค์โพธิ์เก้า จึงได้นำผงของหลวงพ่อกวยผสมทำพระด้วย เพื่อเป็นเกียรติแก่ครูบาอาจารย์
    - ผงจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นผงที่สร้างชื่อทางสายนี้ พุทธคุณนั้นยิ่งใหญ่ครอบจักรวาลไม่ต้องกล่าวอะไรกันมาก
    - ผงคู่ชีวิต สายหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน
    - ผงวิเศษ 5 ประการ
    - ผงพุทธคุณนะหน้าทอง พระลักษณ์หน้าทอง
    - ผงพระสีวลีเร่งลาภ
    - ผงมนต์พระกาฬสะท้อนกลับ
    - ผงบทพระอิติปิโสธงชัย(ถอยหลัง)
    - ผงว่านสำคัญ 108 ชนิด
    - ผงกรุบางขุนพรหม
    - ผงดินก้นกรุและพระกำแพงซุ้มกอแตกหัก
    - น้ำทิพย์มนต์ธรรมชาติ ที่ผุดเองตามถ้ำและเศียรพระพุทธรูปต่างๆ


    เมื่อท่านได้ผสมมวลสารสำคัญต่างๆแล้ว จึงได้สถาปนาพระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ ซึ่งในองค์พระนี้ท่านยังได้ฝัง เครื่องมงคลต่างๆลงไปเสริมอิทธิคุณด้วย อาทิเช่นด้านหน้าโรยแร่เหล็กไหลกลางทุ่ง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว แร่นี้เป็นในส่วนของขี้เหล็กไหล ที่หลวงปู่บุญท่านเคยชี้จุดให้ศิษย์ฆราวาสไปขุดกลางทุ่งนครชัยศรี ครูฆราวาสของท่านนั้นเล่าว่าตอนขุดนี้มืดฟ้ามัวดินทีเดียว เป็นแร่ที่มีจิตวิญญาณรักษา อัญเชิญขึ้นมาได้ไม่มาก หลวงปู่บุญท่านได้นำมาอธิษฐานจิตในส่วนของพุทธคุณมีบดผสมพระบางส่วน และที่เหลือท่านก็มอบให้ศิษย์ไว้สืบต่อมาจนตกทอดถึงพ่ออาจารย์ ท่านว่าแร่นี้มีพุทธคุณแรงมาก ทีเทพยดาเข้ารักษาทุกชิ้นเรียกว่าเฮี้ยนที่สุดก็ได้ เมื่อนำมาฝังมาโรยไว้แล้วเทพยดานั้นก็จะเข้าอารักขาพระพิมพ์ไปด้วย เมื่อจะขอจะอธิษฐานอะไรกับองค์พระ ให้ทำจิตให้นิ่งสงบ เพ่งจิตไปที่องค์พระเลยหรือจะใช้ฝึกสมาธิก็ได้ จิตจะปลอดโปร่ง แม้อธิษฐานสิ่งใดก็สำเร็จโดยเทวานุภาพ

    พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์นี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างตามมติครูบาอาจารย์ เมื่อจะเสกท่านก็ได้เชิญครูนอกจากเสด็จพระใหญ่และองค์พระในนิพพานแล้ว ยังมีครูองค์อื่นๆอาทิครูสมเด็จโต และบูรพาจารย์องค์อื่น เช่นหลวงปู่บุญ หลวงพ่อกวย หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อฤาษี ท่านว่าเจ้าของมวลสารท่านลงมาทำให้แผ่เมตตากันครบ ต่างกรรมต่างวาระกัน เพราะท่านเน้นเชิญแต่ละองค์ให้ลงมาอธิษฐานจิตเดียวควบคู่ไไปกับการทำวิชาของท่าน เมื่อสำเร็จนั้นท่านมีนิมิตเห็นหลวงปู่บุญมาเตือนท่านว่า พอแล้ว พระเหล่านี้มีเจ้าของครบแล้ว คนมีบุญเขาจะมารับ ตกต้องตามพรหมลิขิตทุกองค์

    คาถาอาราธนา
    ติวาคะภะ โธพุทนังสา นุสมะวะเทถา สัตถิระ สามะทัมสะริปุโรตะ นุตอะทูวิกะโลโตคะสุโนปันสัม ณะระจะชา วิโทพุธสัมมา สัมหังระ อะวาคะภะ โสปิติอิ


    *** พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์ชุดพิมพ์ปฐมฤกษ์นี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมด 4 องค์ ผู้ต้องการบูชาจริงๆรบกวนจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น โดยให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟากตลอดจนเรื่องที่ขัดข้องเอาไว้ด้วย ท่านจะทำการประสิทธิให้เป็นการเฉพาะต่อไป รายได้จากการทำบุญร่วมสมทบทุนบุญวิหารทานต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระพิมพ์ปฐมฤกษ์พระเจ้ากลับร้ายคลายเคราะห์กลืนกินคำสาปคำสาบาน (ซุ้มกอสะดุ้งกลับ โพธิ์เก้า,ผงมหาสะเดาะ) บูชา 4,000 บาท




     
  12. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    พระผงชุดนี้ท่านว่าใครได้ไปเหมือนได้เปล่าเฉพาะตะกรุดด้านหลังนั้นก็คุ้มแล้ว หากทำตามวิธีที่ท่านบอกไปนั่นยิ่งมีอาถรรพ์แรงเห็นผลเร็วมาก อาถรรพ์จากวิชานี้ท่านว่าจะติดตัวไปทุกภพทุกชาติหนุนเรากลืนกินสิ่งอัปมงคลทั้งหลายในตัวเราเช่นนั้น
     
  13. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ เมื่อวานส่วนใหญ่คนที่จองพระถามว่าเคราะห์ยังน้อยอยู่ขอบูชาเผื่อไว้ก่อนได้มั๊ย รายการนี้ถ้ามีเคราะห์แล้วจะมากจะน้อยใช้ได้หมดเลยนะครับ ส่วนวันนี้ก็เป็นวันออกพรรษาก็เลยจะนำพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่ควรจะทำในวันนี้กันก่อน

    วันออกพรรษา

    วันออกพรรษา คือวันสิ้นสุดระยะการจำพรรษา หรือออกจากการอยู่ประจำที่ในฤดูฝนซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑

    วันออกพรรษานี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" คำว่า "ปวารณา" แปลว่า "อนุญาต" หรือ "ยอมให้" คือ เป็นวันที่เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ด้วยกันว่ากล่าวตักเตือนกันได้ ในข้อที่ผิดพลั้งล่วงเกินระหว่างที่จำพรรษาอยู่ด้วยกัน

    ในวันออกพรรษานี้กิจที่ชาวบ้านมักจะกระทำก็คือ การบำเพ็ญกุศล เช่น ทำบุญตักบาตร จัดดอกไม้ ธูป เทียน ไปบูชาพระที่วัด และฟังพระธรรมเทศนา ของที่ชาวพุทธนิยมนำไปใส่บาตรในวันนี้ก็คือ ข้าวต้ม มัดไต้ และข้าวต้มลูกโยน และการร่วมกุศลกรรมการ "ตักบาตรเทโว" คำว่า "เทโว" ย่อมาจาก"เทโวโรหน" แปลว่าการเสด็จจากเทวโลกการตักบาตรเทโว จึงเป็นการระลึกถึงวันที่ พระพุทธองค์เสด็จกลับจากการโปรด พระพุทธมารดาในเทวโลก

    ประเพณีการทำบุญกุศลเนื่องในวันออกพรรษานี้ ทุกวัดในประเทศไทยก็มีพิธีเหมือนกันหมด จะผิดกันก็เพียงแต่สถานที่ที่สมมติว่าเป็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เท่านั้น

    กิจกรรมต่างๆ ที่ควรปฏิบัติในวันออกพรรษา
    ๑. ทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับ
    ๒. ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา
    ๓. ร่วมกุศลธรรม "ตักบาตรเทโว"
    ๔. ปัดกวาดบ้านเรือนให้สะอาด ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือนและสถานที่ราชการและ ประดับธงชาติและธงธรรมจักรตามวัดและสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา
    ๕. ตามสถานที่ราชการ สถานที่ศึกษาและที่วัด ควรจัดให้มีนิทรรศการ การบรรยาย หรือ บรรยายธรรม เกี่ยวกับวันออกพรรษาฯลฯ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้สนใจทั่วไป

     
  14. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวส่งของแล้วมาติดตามพูดคุยกันเรื่องลูกอมกันนะครับ แอบบอกนิดว่าลูกอมหนนี้เน้นใช้งานจริงชนิดที่ว่าเดือดร้อนให้เอาใส่ปากอาราธนาแบบนั้นเลย
     
  15. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ขออภัยนะครับ พอดีผมลืมว่าวันนี้ไปรษณีย์ปิด รายการที่โอนไว้จะยกไปส่งให้พรุ่งนี้นะครับ
     
  16. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา ลูกอมมหาภูติกินฝันสร้างคนต่อชีวิต(เพิ่มบุญฤทธิ์ต้านภัยพิบัติ)

    วิชาสร้างลูกอมนั้นเป็นวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านใส่ใจและใคร่ครวญพิจารณาในการลบผงอย่างแท้จริง ด้วยว่าเป็นของที่ทำยากแต่ใช้ง่ายและใช้สะดวกที่สุดไม่มีข้อจำกัดใดๆในการพกพา เช่นนั้นท่านจึงปรารถนาที่จะทำลูกอมอย่างดีที่สุดขึ้นมาให้ใช้กันสักหน เพราะชีวิตมนุษย์นั้นยังขาดแคลน เพราะไม่เคยมี ไม่เคยได้รับมาก่อน จึงมีความฝัน มีความปรารถนาที่จะครอบครอง มีกำลังใจที่จะเพียรพยายามไปบนหนทางแห่งวาสนาและชะตาของตนนั้น แม้ความตั้งมั่นจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ผู้ที่ไปถึงจุดหมายนั้นก็มีเพียงหยิบมือ พ่ออาจารย์ท่านจึงแนะนำให้อาราธนาลูกอมชุดนี้เพื่อใช้คู่กายในการทำความปรารถนาทั้งหลายให้เกิดขึ้นจริง ท่านว่าสรุปแล้วลูกอมนั้นเปรียบดังแก้วสารพัดนึกและมีอานุภาพครบไม่ว่าจะเป็นทาง
    - เร่งโชคลาภเข้ามาตลอด
    - มีชีวิตที่รุ่งเรือง
    - ทำมาหากินง่ายอย่างเหลือเชื่อ
    - ดีด้านเสี่ยงโชคลาภการพนัน
    - กำราบศัตรูได้ราบคาบ
    - คู่ค้า เหยื่อ เขาจะเดินเข้ามาหาเราด้วยตัวเอง
    - เป็นเมตตามหานิยมให้คนชอบพอ
    - เป็นเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม....


    เพื่อการณ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมผงวิเศษที่แก่กล้าอิทธิคุณตามที่ท่านพิจารณาว่าดีแล้ว ควรแล้ว ในการปั้นลูกอมวิชาขึ้นทีละลูกด้วยตนเอง ท่านคัดสรรค์วิชาที่ขึ้นชื่อและท่านทำสำเร็จซ้ำยังเสกเก็บไว้มายาวนานอย่างหวงแหนซึ่งผงเหล่านั้นล้วนแล้วแต่สร้างได้ยาก แม้อย่างใดอย่างหนึ่งก็นับว่าเป็นยอดของผงวิเศษแล้ว ได้แก่
    - ผงฝืนลิขิตฟ้าโสฬสมหาพรหม เป็นการลบผงลิขิตฟ้ากับผงโสฬสพรหมภูมิรวมกับผงสายวิชาพรหมศาสตร์ทุกแขนงที่ว่าด้วยฤทธานุภาพอันพิศดาร ท่านว่าผงนี้จะแรงเป็นพิเศษคือมีพลังกล้าแข็ง แรงและเร็วด้วยอานุภาพเทพพรหมศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ใช้รับมือกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกรรมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะกรรมเก่า กรรมปัจจุบัน หรือกรรมใหม่ วาระกรรมใดๆก็ดีรวมไปถึงชะตาฟ้าลิขิตที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ท่านว่าจะยกตัว เปลี่ยนฐานดวง ฐานชีวิตเหมือนเกิดใหม่ มีอานุภาพมากท่านไม่สามารถบอกหรือบรรยายได้เพราะเป็นเรื่องของกรรม เรื่องของพรหม ผิดกฏโลก ท่านว่าเอาง่ายๆ ผงนี้แม้เหล่ามหาพรหมในโสฬสยังเข้าพิทักษ์รักษา มีอาญาสิทธิ์มาก สว่างมากท่านว่าคนที่ได้ไปจะเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ยุติกรรมร้ายแรงเดิมๆแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ครูพรหมจะลิขิตให้ เป็นการเกิดครั้งที่สองตามหลักพระเวทย์ ใช้พลิกสถานการณ์กลับฐานะได้ เปลี่ยนคนได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งพลิกกลับและค้ำไว้ให้มั่นคงเป็นดาวค้างฟ้าไม่ร่วงหล่นลงมา ผงนี้ท่านว่าอย่ามองข้ามใช้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ ใครปัญหาอุปสรรคเยอะๆสมควรต้องใช้
    - ผงทำลูกอมเงินล้าน ผงที่พ่ออาจารย์ท่านใช้ทำลูกอมชุดนี้เป็นผงวิชาเงินล้าน,ผงพระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้า,ผงทศชาติ,ผงจินดามณี,ผงพระสีวลีเปิดบาตร,ผงหาลาภ,ผงเร่งลาภ,ผงเสริมลาภ ท่านได้นำผงต่างๆมาเข้ากับว่านตระกูลเศรษฐีเพื่อใช้ปั้นเป็นลูกอม โดยลูกอมเม็ดเล็กๆนี้ก็ปรากฏความขลังยิ่งนัก ท่านว่าคนเค้าเอาไปแช่น้ำพรมที่ค้าขาย เขาตั้งตัวได้ จับเงินล้านกันก็มีมาแล้ว ท่านจึงถือเป็นอุดมมงคลเรียกเสียว่าลูกอมเงินล้าน ท่านนำผงทำลูกมซึ่งท่านหวงแหนนี้มาเป็นมวลสารตั้งต้น เพื่อจะได้ดึงโชคลาภให้พัดพาเข้าสู่ตัวด้วยบทคาถาสำคัญนี้จะช่วยให้ธุรกิจหรือการทำมาหากินใดๆไม่มีสะดุด เป็นไปโดยราบรื่น คล่องตัว หากใจศรัทธามั่นย่อมเป็นโชคลาภขนานเอก ซ้ำยังแก้เคล็ดให้คนใช้ได้จับเงินล้าน ท่านว่าใครอาราธนาดีๆหมั่นทำทานตลอด มติครูบาอาจารย์ว่าจะได้จับเงินล้านในเร็ววัน
    - ผงปถมังมหากำเนิด วิชาสำคัญที่ใช้สร้างสรรค์พร้อมกับเรียกร้องสิ่งที่ต้องการให้มาหาได้ทุกสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ขาดสิ่งใด พร่องสิ่งใดไม่รู้สิ้นรู้สุด ก็จะก่อเกิดเติมเต็มสิ่งเหล่านั้น ท่านว่าพูดได้แต่เพียงเท่านี้ว่ามันสำคัญ และเป็นของที่สำคัญมากจนไม่สามารถนิยามสิ่งใดได้มากกว่านี้เพราะมันจะเติมเต็มไปจนถึงจิตวิญญาณเป็นวิชาที่เรียกว่าช่วยให้สมความปรารถนาก็ได้ อันผงปถมังมหากำเนิดนี้ทำยากนัก และไม่ค่อยมีคนทำกันเนื่องจากเป็นผงที่มีแรงครูสูง
    - ผงนิพพานดับธาตุ พ่ออาจารย์ท่านดำริว่า..ที่เราตั้งชื่ออย่างนี้เพราะว่ามีความหมายสำคัญ การดับของพระนิพพานคือดับสิ้นทุกสิ่งอย่าง สิ้นธาตุ สิ้นชาติ สิ้นอวิชชาบรรดามี เป็นการดับอย่างบริสุทธิ์ พูดเช่นนี้ก็คงพอจะเดาได้ ผงนี้มีคุณทางด้านดับทุกข์นี่เอง ใช้ได้ตั้งแต่ดับทุกข์ทางใจ ดับทุกข์ทางชาติ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ประเสริฐสุดถึงขั้นดับไปทั้งหมด บูรพาจารย์สรรเสริญนักว่าผู้บูชาจะมีพระนิพพานเป็นที่ไป
    - ผงหมูกินเสือ วิชานี้มีชื่อประหลาดเพราะปกติหมูต้องเป็นเหยื่อเสือ ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกกิน แต่หมูกินเสือนั้นท่านว่าเป็นวิชาที่กลับร้ายให้กลายเป็นดี เปรียบตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนด้อยไร้ฤทธานุภาพแต่เหล่าผู้มากด้วยวาสนาบารมีก็ยังมาตายคาปาก มาให้เรากินถึงที่ ไม่ต้องแสวงหา ไม่ต้องดิ้นรน อิ่มแบบมีเกียรติไม่ใช่อิ่มไปมื้อๆขอไปที ตรงนี้ท่านว่าสำคัญมากสมัยนี้คนเราชอบแสวงหาสิ่งที่ช่วยเหลือชั่วมื้อชั่วคราวประดุจหิวข้าวก็จะหาโภชนาหารเพียงเติมให้เต็มท้อง แก้หิว แก้อยากไปมื้อๆ อิ่มเช่นนี้เป็นอิ่มมื้อเดียว มื้อหน้าก็ต้องเหนื่อยออกหากินใหม่ กว่าจะได้กว่าจะอิ่มอีกก็เสียเวลาสูญเสียช่วงชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำวิชาหมูกินเสือเพื่อแก้ปัญหาวาสนาชะตาคนให้มีชีวิตที่ง่ายขึ้น ทำอะไรก็ง่ายไปหมด และเป็นผู้ชนะตลอดกาล
    - ผงท้าวกำพร้า วิชาท้าวกำพร้านี้เเม้ยาจกกำพร้าเข็ญใจ ยังประสบความมั่งมีได้ดีเป็นถึงเจ้าพระยาพระมหากษัตริย์จอมจักรพรรดิ์ได้ จากบุคคลชนชั้นต่ำสุดได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตมนุษย์ด้วยอำนาจพรเเละเเรงผลักดันของสิ่งมีชีวิตผู้เป็นใหญ่เเห่งพิภพดาวดึงส์ซึ่งก็คือพระอินทร์นั่นเอง ผงนี้ผู้ใดถือครองเสมือนหนึ่งได้รับพรจากพระอินทร์เจ้า ในการทำลูกอมผงวิเศษนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ลงผงวิชาท้าวกำพร้าและทำวิชาท้าวกำพร้าโดยตรงแบบเต็มสูตรเป็นครั้งแรก เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคน จากจุดต่ำสุดให้ขึ้นสู่ขั้นสูงสุด อุปมาดุจยาจกไร้พ่อแม่ ไร้กำลัง ไร้ญาติขาดมิตร ก็ยังบินสูงขึ้น ชีวิตเกิดปาฏิหาริย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าขึ้นสู่การเป็นพระราชาได้
    - ผงกฤษณะยันตรา ด้วยว่าพระกฤษณะนั้นนับถือว่าเป็นองค์อวตารของพระวิษณุผู้ปกปักรักษาสรรพสิ่งซึ่งคนนิยมนับถือท่านว่าเป็นคนเลี้ยงวัว เป็นผู้อภิบาลโคทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกทำวิชาลงผงวิเศษขึ้นเพื่อเสริมอาถรรพ์ท่านได้เขียนยันต์อักกะตัชชารี เป็นเลขยันตร์คาถาอาคมที่ถอดจากคำพูดแต่ละคำกลายเป็นตัวอักษรและสัญลักษณ์อันถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบและนำตัวเลขแทนสัญลักษณ์ดวงดาว มหาธาตุ และเทพเจ้าต่างๆจัดเรียงอยู่ในผังสมมุติของจักวาลทำการจัดเรียงตัวเลขเหล่านั้นในทิศทางที่ดีที่สุด ด้วยว่าอำนาจจากตัวเลขที่ถูกสมมุติแทนดาวดวงทั้งหลายจะส่งพลังงานจากดาวดวงจริงหรือพลังจักรวาลมาสู่ตัวผู้บูชาเพื่อให้สำเร็จในเหตุการณ์และความปรารถนาต่างๆผงนี้จะแผ่พลังงานจากมหาธาตุ ดวงดาว ตลอดจนถึงเทวราช เป็นพลังที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไม่มีบกพร่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงสำคัญนี้อันที่จริงเราก็ไม่อยากทำเท่าไหร่ ด้วยอานุภาพของมันนั้นจะส่งผลไปถึงการบิดเบือนมิติต่างๆรอบด้าน เป็นสื่อของพลังงานจักรวาล พลังงานกาลเวลาตลอดจนนำพาอำนาจพระกฤษณะมาสู่ผู้ศรัทธาด้วยวิถีของการกระจายพลังงานที่แผ่ออกมาดุจคลื่นกระทบฝั่งไม่มีวันหยุดพัก ทั้งตัวผงเองยังดึงดูดพลังจักรวาลเข้ามาใช้เป็นตัวขับเคลื่อนพลังงานอันจะแผ่นี้ตลอดเวลา ดังนั้นผงกฤษณะยันตราก็เป็นผงที่มีอานุภาพการปรับเปลี่ยนสมดุลย์ให้ร่างกายผู้อาราธนาโดยอัตโนมัติ ด้วยจะควบคุมพลังงานเข้าออกทั้งดึงทั้งแผ่ไปในทิศต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านลบ " ยันตรากฤษณะมณฑล" ให้มีอานุภาพเฉพาะทาง ท่านว่าหากใครถามว่าทำไมต้องเจาะจงลงยันต์กฤษณะมณฑล ทำไมไม่ใช้ศิวะมณฑล หรือวิษณุ อัคนีแลเทพเจ้าทั้งหลาย ทำไมเราถึงเจาะจงกฤษณะมณฑลนี้ ก็ให้บอกเขาไปว่า เพราะยันตราแต่ละรูปแบบนั้นมีอานุภาพต่างๆกันไปและเราพิจารณาแล้วว่ากฤษณะมณฑลนั้นมีอานุภาพมากยิ่งซ้ำยังเหมาะแก่ยุคสมัย ด้วยมีอานุภาพดึงดูดความรัก ดึงดูดน้ำจิตน้ำใจสัตว์ทั้งหลายอันมีน้อยและหาได้ยากในยุคนี้ให้เข้าหา ซ้ำผงยันต์กฤษณะมณฑลนี้ก็เป็นเสน่ห์อย่างเหลือล้น ทั้งยังเป็นผงเดียวที่มีอานุภาพทำให้ผู้พกผู้บูชาหลุดพ้นจากความทุกข์ ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่าผงยันต์ตัวอื่นก็ไม่วิเศษเช่นนี้ ก็สมัยนี้ตัวทุกข์มันมาก สืบไปเบื้องหน้าคนก็จะยิ่งทุกข์หนักมาก เมื่อจะมีผู้ใดบูชาลูกอมนี้ก็ด้วยปรารถนาการอภิบาลให้พ้นจากทุกข์ เช่นนั้นจึงต้องอาราธนากระแสพลังงานของกฤษณะยันตราให้ดึงดูดธาตุและพลังจักรวาลขับออกซึ่งภัยพิบัติ ดลให้เจอแต่สิ่งดีงามพ้นห้วงทุกข์ทั้งหลาย
    - ผงคุณวิชาท้าวกินรี อันวิชาท้าวกินรีนี้ท่านว่ามีชื่อพ้องเสียงกับคำว่า กิน - นา - รี เป็นนามที่สื่อให้เห็นชัดด้านมหาเสน่ห์อย่างแท้จริง และยังเป็นภาควิชามหาเสน่ห์ที่ให้คุณพิเศษแบบเต็มสูตรอีกแขนงหนึ่งเช่นกัน ด้วยนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณโดษเด่น โดยนับถือกันว่าผู้ใดที่ได้ครอบครองเครื่องมงคลอันสำเร็จด้วยวิชานี้จะมีสรรพคุณนานัปประการดังต่อไปนี้
    1. จะได้คู่ครองที่มีรูปงามมีชาติตระกูลสูงแม้ตัวเองจะต่ำต้อยรูปชั่วตัวดำก็จะได้หญิงงาม หญิงสูงศักดิ์ สูงด้วยชาติตระกูลนิสัยดีงามมาเป็นคู่ครอง
    2. มีอานุภาพสะกดทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิต ให้เค้าเห็นใจเรา เมตตาสงสารเรา ช่วยเหลือเราในทุกเรื่องที่เราปรารถนา ตั้งเเต่มนุษย์จนถึงอมนุษย์แม้อินทร์พรหมยมยักษ์ก็ตาม
    3. ผู้ที่ได้ครอบครอง แม้จะผจญอยู่ในกฏแห่งกรรม เทพเจ้าทั้งหลายก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผ่อนหนักให้เป็นเบา เเละจะประสบความสำเร็จเข้าสู่จุดสูงสุดในชีวิตรวดเร็วเเละง่ายดาย
    4. แม้รักหรือชอบพอใครเเล้วก็ไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ ขอเพียงปรารถนาที่จะเริ่มต้นในความรัก ย่อมได้เเละสำเร็จผลทุกครั้งไป
    พอจะกล่าวสั้นๆได้เเต่เพียงเท่านี้เพราะเป็นวิชาที่มีผลทางชักจูงชักนำ ทำให้จิตผู้อื่นเคลิบเคลิ้มหลงใหลตกอยู่ในภวังค์ของตัวเรา ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาของผู้มีบูญญาธิการยิ่งใหญ่ มีวิธีใช้สารพัดจะใช้ตามเเต่ใจปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าแม้ได้ครอบครองเเล้ว สืบไปเบื้องหน้าชีวิตผู้ที่ถือครองจะสบาย หาความตกต่ำมิได้ เเม้ทุกข์เข็ญหรือปรารถนาสิ่งใดอันเกินเนื้อเกินเเรง เกินกว่าความสามารถของตน เทพเจ้าทั้งหลายท่านย่อมลงมาช่วยเหลือเนรมิตรสิ่งต่างๆให้ไม่เกินใจผู้ปรารถนา


    ลูกอมสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านเลือกผงผสมมวลสารและปั้นเองทุกลูก ท่านว่าเมื่อปั้นก็เอ่ยโองการเชิญเทพพรหมและครูบาอาจารย์ต่างๆท่านมาช่วยทำการประสิทธิ์ไป ค่อยๆเอาผงผสมปั้นไปทีละลูก ***(ท่านว่าเราทำทีละลูกก็คือรอเสร็จรอแห้งสำเร็จเป็นลูกอมลูกหนึ่งนั่นแหละถึงผสมมวลสารทำใหม่อีกหนึ่งลูก ค่อยๆทำไปทีละลูกก็ตกลูกละวันสองวันตามแต่เวลาจะมี เพราะลูกอมของชั้นไม่ใช่ของโหลๆ แต่ฉันตั้งใจจะทำลูกอมที่ดีที่สุดซึ่งฉันใส่ใจทำมากที่สุดต้องผสมมวลสารทีละลูกจะได้แน่ใจว่าใส่ครบทุกอย่าง ปั้นไปดูพลังงานไปจะขาดจะพร่องอะไรไม่ได้...) โดยลูกอมทุกลูกนั้นท่านจะลงตะกรุดภูติกินฝันไว้เป้นแกนกลางสำคัญ
    ตะกรุดลูกอม(มหาภูติกินฝัน)
    ท่านว่าสิ่งนี้ทำไว้ให้เพื่อจะได้ใช้กันตามแต่ใจคิด ตะกรุดลูกอมภูติฝันนั้นคือวิชามหาภูติที่กินความฝันเรา แม้ฝันสิ่งใดก็ย่อมเป็นจริงตามนั้น คิดสิ่งใดก็จะเกิดสิ่งนั้น วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณมาก ซ้ำยังมีโทษมหันต์ ให้ใช้ให้ระลึกแต่สิ่งที่ดีเป็นประโยชน์แก่ตนเองเท่านั้นหากมีความคิดในทางเสื่อมลามกอนาจารให้อาราธนาออกจากคอไปก่อน จะเรียกว่าวิชานี้ทำความฝัน ความตั้งมั่น ตั้งใจของหลายๆคนให้เกิดขึ้นและเป็นจริงก็ได้ ซ้ำยังช่วยเพิ่มลางสังหรณ์โดยภูติฝันมักจะแจ้งเตือนเหตุการณ์ดีร้ายต่างๆล่วงหน้า ท่านว่าคนใช้มักจะฝันเห็นเหตุที่จะเกิดขึ้นจริงกับตัวเองในอนาคตอันใกล้ นั่นคือเขามาบอกมาเตือนจะได้ระวังและเตรียมรับมือได้ถูกช่องทาง ตะกรุดภูติฝันนี้จึงเป็นวิชาสำคัญมาก ท่านว่าก็มันโกงเขาทั้งหมด ที่ไม่ให้ใส่เวลาความคิดไม่เข้าท่านั้นเพราะจะได้ไม่ติดกรรม คิดอะไรฝันอะไรมันก็กินแบบนั้นและทำความฝันให้ปรากฏในชีวิตจริง ท่านเมตตาลงตะกรุดฝังไว้เป็นดั่งหัวใจลูกอมนี้เพื่อทำวิชาให้คนใช้ลูกอมสำเร็จสมดั่งใจสารพัดนึก

    ซ้ำลูกอมทุกลูกนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังนำมาคลุกเข้ากับแร่อาถรรพ์สำคัญคือ ผงแร่โควรรธ ท่านว่าแร่สำคัญนี้ครูบาอาจารย์ที่สืบสายเลือดจากพราหมณ์ที่เดินทางเข้าสู่สุวรรณภูมิได้มอบไว้ให้ ส่วนตัวท่านนั้นท่านไม่รู้ว่าแร่นี้คืออะไร เอามาจากไหน รู้จักแต่เพียงว่าเขาโควรรธนั้นเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยได้รับการสัมผัสกับพระกฤษณะเป็นเจ้ายกขึ้นท้าทายอำนาจของพระอินทร์ เมื่อสืบทอดต่อกันมาก็บอกสืบๆกันมา พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนดั่งเป็นเจตนาฟ้า ย่อมไม่ใช่เพียงเรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ในเมื่อแร่นี้มีชื่อพ้องกับเขาโควรรธ มีพลังงานของพระกฤษณะสถิตย์อยู่แต่ปางบรรพ์ ท่านจึงนำแร่วิเศษนี้มาคลุกลูกอมให้ผู้บูชาอาราธนาด้วย ท่านว่าเขาโควรรธต้านภัยพิบัติอันพระอินทร์บันดาลให้เกิดขึ้นอย่างร้ายแรงได้ฉันใด แร่นี้ก็ย่อมต้านทานภัยพิบัติและสิ่งไม่ดีของผู้ทรงอำนาจ ผู้มากด้วยบารมี ไม่ว่าจะกระทำทางตรง หรือกระทำด้วยฤทธิ์และไสยเวทย์ทั้งหลาย แร่นี้ย่อมป้องกันได้เช่นนั้น เมื่อปั้นลูกอมเสร็จแล้วท่านจะนำลูกอมเหล่านี้มาวางใส่พานรวมกันและเสกมนต์กำกับขุมทรัพย์ซึ่งมีถึง 128 พระคาถา ด้วยว่าเป็นมนต์อาถรรพ์ของสำนักพระราชวังโบราณสมัยขอมเรืองอำนาจที่เอาไว้ทำอาถรรพ์กำกับท้องพระคลังมหาสมบัติ ด้วยสมัยโบราณนั้นขอมเรืองอำนาจมากพอที่จะขยายอำนาจและอารยธรรมปกคลุมไปทั่วดินแดนแถบนี้ ดังนั้นท้องพระคลังมหาสมบัติของเขาจึงรุ่งเรืองมาก ว่ากันว่าแม้ใช้อย่างไรก็ไม่พร่องไม่หมด เป็นท้องพระคลังที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทองคำแลจินดามณีเลิศเลอไปด้วยสมบัติล้ำคานานัปการ พ่ออาจารย์ท่านว่ามันยากก็ตรงนี้เสกลูกอมวิชานี้เหมือนลงอาถรรพ์ท้องพระคลังโบราณ ยากเพราะมีนิมิตเกิดขึ้นแต่ละครั้งแต่ละอย่างนั้นต่างกันไป อันพระคาถาทั้ง128 นั้น ท่านว่าต้องนั่งเสกด้วยมนต์คาถาละพันจบ จนมีนิมิตศุภมงคลต่างกันครบร้อยยี่สิบแปดอย่างถึงจะใช้ได้ จะเห็นว่าท่านต้องใช้เวลายาวนานมากซึ่งเรื่องนี้ท่านไม่สามารถบอกใครได้ด้วยเป็นความลับและไม่ต้องการสืบทอดให้ใครนั่นเอง

    ### ลูกอมชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำได้น้อย เมื่อจะใช้ หากมีเรื่องเดือดร้อนอะไร(จวนตัวและจำเป็นจริงๆ) ท่านว่าให้เอาลูกอมเข้าปากอาราธนาพระคาถากลืนน้ำลายสามครั้ง จากนั้นจึงนำออกมาเช็ดทำความสะอาด ท่านว่าลูกอมนี้หากอมบ่อยก็จะยิ่งเพิ่มบุญฤทธิ์และมงคลวิเศษทุกๆประการตามอำนาจผงวิเศษที่ได้สร้างไว้ให้แก่ชีวิตเรา ท่านว่าท่านลงไว้ครบทุกด้าน เน้นให้คนใช้มีชีวิตที่ดี มีความสุขความสงบ สมบูรณ์ด้วยวาสนาลาภผล ใครที่ไร้วาสนา ขาดความสุขสมบูรณ์ก็ให้อาราธนาอมเป็นครั้งคราวเถิด ท่านว่าถ้าชีวิตเปลี่ยนได้ลาภสมใจหรือรู้สึกว่าเราสุขเท่านี้ตอนนี้มันพอมันเหมาะแก่ชีวิตเราแล้วก็ไม่ต้องอาราธนามาอม เพียงแต่ใช้ห้อยคอหรือทำพวงกุญแจไปเท่านั้น จะพกส่วนไหนของร่างกายก็ได้ ***เมื่อจะนอนก็ให้เอาไว้ใต้หมอน ด้วยแรงครูของตะกรุดวิชาภูติกินฝันนั้นจะช่วยให้เราฝันแจ้งเหตุล่วงหน้า หรือจะมีนิมิตมงคลอื่นใดตามแต่ที่เราขอหรือครูจักบันดาลให้เป็นไป

    คาถาบูชา
    โอม อะคะหึม อะคะหัม อึอะอำ อะอิอุ อะอิอุ อะอิอุ (ภาวนาไว้เมื่ออาราธนาลูกอม หรือจะภาวนาเวลาอมกลืนน้ำลายท่านว่าจะยิ่งมีฤทธิ์ทบทวี ตัวเราเองก็จะเห็นผลแรงและเร็วกว่าปกติ)


    *** ลูกอมนี้ท่านว่าเราทำให้ครั้งเดียว เพราะวิชาแต่ละสูตรนั้นล้วนแต่เป็นของค่าควรเมืองทั้งสิ้น ใครได้ไว้ใช้ก็ให้รักษาให้ดีสืบทอดชั่วลูกชั่วหลาน ##ท่านว่าคนใช้หนึ่งคนควรมีสองลูก(อันนี้ถ้าจะเน้นใช้งานจริงๆก็ใช้เป็นเรื่องๆไปลูกหนึ่งวิชาภูติกินฝันจะได้ทำงานเต็มที่ ส่วนอีกลูกหนึ่งนั่นก็เก็บไว้อมปรับสมดุลย์ทางบุญฤทธิ์ในร่างกายของตน) หรือจะเผื่อเพื่อนเผื่อคนในครอบครัวก็ได้ เพราะมันจะไม่ดีเท่าไหร่ถ้าจะผลัดกันอมหรือเราอมแล้วเอาไปให้คนอื่นอมต่อเช่นนี้ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ลูกอมมหาภูติกินฝันสร้างคนต่อชีวิต(เพิ่มบุญฤทธิ์ต้านภัยพิบัติ) บูชา 900 บาท



     
  17. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่กานต์ธิดา EI 3031 3208 8 TH

    พี่ศิระ EI 3031 3209 1 TH

    พี่พิสุทธิ์ EI 3031 3210 5 TH

    พี่พรเทพ EI 3031 3211 4 TH

    พี่เกษมธิดา EI 3031 3212 8 TH
     
  18. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ลูกอมรุ่นนี้ทำไมถึงใช้ดี ติดตามส่วนขยายพรุ่งนี้นะครับ รอให้ยอดใกล้เต็มก่อนแล้วจะพิมพ์แจ้งรับรองว่าใครที่เชื่อใจไม่ต้องรออ่านก่อนนี่มียิ้มแน่นอน :)
     
  19. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    พูดคุยรอบเช้า

    ดั่งที่พูดไว้และหลายคนมองข้ามไปเลยนั่นคือคุณวิเศษด้านหนึ่งของลูกอมนี้ ซึ่งใช้ทางด้านบุญฤทธิ์ ถ้าจำกันได้ผมจะย้ำอยู่เรื่อยๆว่าพ่ออาจารย์ท่านมักจะพูดอยู่บ่อยครั้งว่า ท่านมาสายบารมี เครื่องมงคลที่ทำให้ไปนั้นก็เป็นสายบารมีและบุญฤทธิ์ จุดนี้ถ้าพอจะทำความเข้าใจกันได้หากเอาไปแล้วใช้ในทางที่ถูก เอาไปเพื่อสร้างบารมี รับรองว่าจะมีสิ่งดีๆที่เกิดขึ้น เกินกว่าการคิดและคาดเดากับคนใช้ ตามที่ท่านบอกเสมอว่ารู้เอง เห็นเอง

    หลายๆคนที่ดำเนินชีวิตกันอยู่ก็คาดหวังกันอยู่แล้ว ว่าชีวิตตัวเองจะมีหนทางที่ดีขึ้น มีชีวิตที่พฒนาไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่ง บางคนมาศรัทธาพระก็มาแบบตั้งใจออกมาจากใจจริงๆ แต่บางคนก็มาเพียงเพื่ออยากหาโอกาสให้ชีวิตตนพัฒนาขึ้น(กุศล) ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบไหนก็ตาม ตรงนี้สิ่งเดียวที่จะทำให้เป็นดังนั้นได้ก็คือบารมี ไม่จำเป็นด้วยว่าต้องมีบุญเก่ายิ่งใหญ่ มีอดีตชาติที่เลอเลิศอะไร เพราะในปัจจุบันนี้เราเสมอกันหมด เป็นชาติมนุษย์ เป็นคนเท่ากัน คือชาติที่ได้ชื่อว่ามีโอกาสลงมือกระทำทุกสิ่งได้มากกว่าเขาอยู่แล้ว ถ้ามันไม่มีก็แค่ทำให้มันมีเท่านั้ัน จำไว้เถิดอย่าไปเข้าถึงครูบาอาจารย์หรือเทพเจ้าด้วยการกระทำผิดคิดชั่ว หรือต้องประจบเอาใจพลีกรรมสังเวยบ่อยๆ ลองเป็นเรามีคนมาเลียประจำเราเองยังรำคาญกันเลยใช่หรือไม่ เราต้องเข้าถึงท่านด้วยความประพฤติและการปฏิบัติ เดินต่อไปในสายกลางการสร้างบารมี ก็คงต้องสร้างบารมีกันอันนี้ก็เพียงเล่าให้ฟัง แต่ไม่ต้องไปคิด ไปโฟกัสว่าเราจะทำเพื่อปรารถนาอะไร ทำแล้วจะได้จะมีอะไร ต้องฝืนไปทำให้ใครมาชอบเราฝืนมากๆมันก็ไม่ใช่ตัวเอง การกระทำกับใจไม่ไปด้วยกันมันจะกลายเป็นวิกลจริตไป ทีนี้เราทำความดีมันก็ดีกับตัวเราเอง เรื่องจะถูกชะตากับเทวดาท่านหรือไม่หรือท่านจะทดสอบเราอย่างไร อันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง


    ...ก็นอกเรื่องกันไปนิดทีนี้ลองมาดูเครื่องรางสายบุญฤทธิ์ว่าสำคัญกันอย่างไร เครื่องรางสายบุญฤทธิ์นี้โดยปกติแล้วพ่ออาจารย์ท่านแทบจะไม่ทำเลย ถึงทำก็ทำไม่บ่อยพอจะนับได้ด้วยนิ้วมือมีน้อยถึงปานนั้น ด้วยว่าสายนี้อยู่กับใครตรงนั้นจะอุดมสมบูรณ์ เต็มเปรี่ยมไปด้วยวิวัฒนาการและความเจริญก้าวหน้าของผู้ครอบครอง ทั้งยังดลสิริมงคลให้บังเกิดแก่ร่างกาย ให้สิริสถิตย์อยู่ในตำแหน่งอันเป็นมหาอุดมที่จะดลบันดาลความสุขความสมหวังทุกสิ่งบรรดามี ทั้งยังตอบสนองให้แก่ผู้บูชาได้ทุกสิ่งให้สมหวังในทรัพย์สมบัติแลความปรารถนานานัปการ สายบุญฤทธิ์นี้ท่านว่าพกไว้เรียกว่าเขาก็มีหน้าที่คอยตอบสนองเราไม่ให้เราได้ทุกข์ รำคาญใจ หรือเดือดเนื้อร้อนใจเช่นนั้น

    ซ้ำที่ผ่านมา
    บางคนยังใช้อำนาจของสายบุญฤทธิ์ในการล้างอาถรรพ์ลดทอนวิบากกรรมของตนเองลงได้ก็มีมามากแล้ว อันนี้พอจะชี้นำได้เพียงเท่านี้สั้นๆ เพราะใครมองแล้วอาจจะดูว่าเป็นแค่ลูกอมไม่มีอะไร แต่จริงๆแล้วลูกอมนี่แหละสร้างยากและใช้ง่ายที่สุด ลูกอมหนึ่งลูกสำเร็จด้วยคาถาต่างๆมากมายทั้งผงลบอักขระต่างๆ ดุจว่าห้อยลูกเดียวเสมือนคาดตะกรุดนับร้อยดอกก็ไม่ปาน เพราะตะกรุดต่างๆดอกหนึ่งส่วนมากก็หนึ่งยันต์ แต่ลูกอมนั้นต้องลบถมผงจำนวนมากกว่าจะมาปั้นเข้ากันได้ ...นี่แหละทำไมผมถึงย้ำว่าลูกอมนั้นสำคัญจริงๆ และปราชญ์ทั้งหลายที่รู้กลในก็แทบจะแย่งกันจองด้วยซ้ำ ที่ยกมาพูดกันนี้ก็เพื่ออยากจะตอกย้ำว่าใครได้ไปโชคดีจริงๆ บางคนมีนิมิตรับล่วงหน้าทักมาเล่าให้ฟังฝันว่าได้กลืนดวงแก้วเลยก็มี

     
  20. คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    มีสอบถามอยากได้บูชาแยกตะกรุดลงถมสังข์อสูรกลืนกินคำสาปคำสาบาน(เจ้าหลุมดำ)กันเข้ามาจำนวนมาก บางคนที่ทันจองบูชาองค์พระก็อยากได้ไว้เขียนชื่อคนในครอบครัวคนละดอก รายการนี้เดี๋ยวต้องถามพ่ออาจารย์ท่านก่อนนะครับผมยังตอบอะไรไม่ได้ เอาไว้รอคิดตามพูดคุยกันอีกที
     

แชร์หน้านี้