ท่าน คุรุปาละ ช่วยแจ้ง บัญชีธนาคารด้วยครับ
ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสรรพกิจบุญญาธิการวงแหวนควบคุมชะตา(ดึงกุศลกรรม) พ่ออาจารย์พล
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.
หน้า 122 ของ 486
-
มีข้อสงสัยสอบถามครับ
1. ตุ๊กตาก้อนทองนี้ ดวงจิตเป็นเทวดาหรือเปล่าครับ
2. ถ้านำเข้าบ้านต้องบอกกล่าวเจ้าที่และสิ่งที่คอยดูแลบ้านไหมครับ
3. ถ้าที่บ้านมีพระขรรค์ น้องก้อนทองจะโดนพุทธคุณของพระขรรค์จัดการเอาไหมครับ
4. การเรียกกินข้าว บอกกล่าวครั้งแรกที่นำมาอยู่ด้วยว่า "ให้มาอยู่ด้วยกัน ถ้าเห็นว่ากินข้าวหรือกินอะไรอยู่ก็มากินด้วยกันได้เลย ไม่ต้องรอให้เรียก" แบบนี้ได้ไหมครับ (เผื่อว่าหลงลืมชวนกินข้าวด้วย)
5. สามารถห้อยกับพวงกุญแจรถ หรือใส่กระเป๋ากางเกงได้หรือเปล่าครับ -
สงสัยน้องกุมารทองเทพฤทธิ์ที่ผมเลี้ยงไว้อยู่ ๑ ตน อยากได้เพื่อนสิเนี่ย :cool:
รบกวนสอบถามครับว่าห้อยรวมกับกุมารทองอีกตนนึงได้เลยใช่ไหมครับ น้องก้อนทองมีขนาดความสูงเท่าไหร่ กว้างเท่าไหร่ครับ -
อุทยัพ : แจ้งโอนเงินค่าจัดส่งกุมารน้อยล้มลุกเจ้าสัวทับทอง (ตุ๊กตาก้อนทอง) ครับ
ที่อยู่ในการจัดส่งเดี๋ยวผมจะแจ้งไปที่pmของคุณคุรุปาละนะครับ
โมทนาครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
-
โอนแล้วครับ หลักฐานที่นี่
ที่อยู่ pm ครับผม...
ขอบคุณครับ.. -
ขออนุญาตสอบถามครับว่าตะกั่วทับถม คืออะไรครับ -
แจ้งโอนค่าจัดส่งน้องกุมาร ก้อนทองครับ
ที่อยู่แจ้งทาง PMไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แจ้งโอนค่าจัดส่งพี่กุมารก้อนทองครับ
ที่อยู่ PM ครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แจ้งโอนค่าจัดส่ง ที่อยู่ PMครับ ขอบคุณครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แจ้งโอนค่าจัดส่งน้องกุมารก้อนทองครับ โอน 100 บาท วันนี้ 01/03/59 เวลา 20.26 น.
ที่อยู่แจ้งทาง PM -
แจ้งโอนค่าส่งน้องก้อนทองแล้วครับเมื่อเวลา 21.33 น. ที่อยู่ขอแจ้งทาง pm ครับ
-
โอนค่าจัดส่งไปให้แล้วนะครับ
นายอัครพงศ์ แก้วบุญเรือง
223/106 ถ.จรัญสนิทวงศ์ 22
แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพฯ
10700ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
โอนแล้วครับจากกรุงไทยไปกสิกรไทย 100 บาทเวลา 08.28.12 น.
ส่ง นายจิรัฏฐ์ ฉัตรศิริสกุล
571 หมู่4 นิคมอุตสาหกรรมบางปู ซอย 11 บี
ต.แพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ 10280 -
แจ้งการโอนเงินค่าจัดส่งน้องก้อนทองครับ วันนี้ เวลา 13.41 น. ยอด 100.-บาท ที่อยู่แจ้งทาง PM ครับ
-
ได้รับพระวิสุทธิเทพแล้วองค์จริงสวยขลังมากครับ
-
ได้รับแล้วรวดเร็วทันใจ...
วิ่งสนุกสนานเลย...
โชว์...ลูกทองก้อนไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ได้รับน้องก้อนทองและได้จุดธูปบอกกล่าวท่านพระภูมิเจ้าที่และเจ้าที่เจ้าทางที่บ้านเพื่อเปิดทางให้น้องเข้ามาอยู่ในบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เมื่อสักครู่นี้ก็นำน้องก้อนทองกับน้องกุมารอีกตนนึงขึ้นไปสวดมนต์บนห้องพระมา บอกกล่าวให้น้องทั้งสองตนร่วมสวดมนต์ด้วยกันเพื่อเพิ่มพูนบารมี :cool: ที่เหลือก็คือนำน้องไปเลี่ยมในวันพรุ่งนี้ น้องหนักกว่าที่คิดไว้น่าดูครับ :cool:
-
ได้รับก้อนทองแล้วครับ ขอบคุณครับ
-
อารมณ์
ก็อรุณสวัสดิ์กันยามเช้า วันนี้ก็จะมาเข้าข้อคิดคำสอนกันต่อ เรื่องที่จะพูดต่อไปนี้ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของอารมณ์
อารมณ์หรือก็คือความรู้สึก เป็นสิ่งที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีเหมือนกันหมด ด้วยว่าอารมณ์นั้นมีหลายลักษณะทั้งรุนแรง ปานกลาง และละเอียดอ่อน อาจจะกล่าวได้ว่าก็อารมณ์ตัวนี้มันเป็นเครื่องกำหนดคุณลักษณะพื้นฐานของแต่ละคน ไม่ว่าจะลักษณะนิสัย ท่าทาง การแสดงออกต่างๆ
เธอทั้งหลายจะเห็นว่า หลังเราเกิดนั้น เราก็ถูกอารมณ์ครอบงำกันหมดทุกคนแล้ว ยิ่งโตขึ้น ใช้ชีวิตมากขึ้น ทุกคนก็จะสะสมประสบการณ์มากขึ้นทำให้มีอารมณ์หลากหลายและเข้มข้นขึ้น
อารมณ์ที่จะพูดในที่นี้คือสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความคิดอ่าน การตัดสินใจของเรา อารมณ์ก็เหมือนปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินั่นแหละ มันจะเกิดขึ้นและผ่านไปไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย หากเพียงแต่ว่ามนุษย์ไม่หยิบมันมาใส่ใจ มาคิด และมองว่ามันพิเศษ อารมณ์ก็เหมือนกัน หากเราไม่ใส่ใจปล่อยมันไป ละ วาง ใจเราก็จะสบาย
ที่พูดเช่นนี้เหมือนเรื่องเล็กๆและฟังดูง่าย เพราะยุคสมัยปัจจุบันนี้โลกเปลี่ยนไปมาก มองไปทางไหน เทวดา องค์พระต่างๆก็มักพูดมักบอกต่อกันว่าชนเหล่านี้เขาปล่อยให้อารมณ์ควมคุมร่างกายเสียแล้วหนอ ฟังแล้วก็หดหู่นัก ด้วยว่าโลกนี้ยังจะมีพัฒนาการไปได้อีก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสังคมและสิ่งแวดล้อม การดำเนินชีวิตซ้ำๆซากๆของแต่ละคนนั้นมันเป็นตัวแปรที่มีผลมากกับอารมณ์โดยตรง
เมื่อไม่รู้จักจำกัดขอบเขตของอารมณ์ เค้าก็จะหยิบอารมณ์ขึ้นมาเป็นใหญ่ คนเหล่านี้น่ากลัวมาก เพราะอารมณ์นั้นมันไม่นิ่ง ไม่คงที่ มันมีขึ้นมีลงแปรเปลี่ยนได้เป็นพันเป็นหมื่นในระยะเวลาเพียงครู่ คนเหล่านี้น่ากลัว ที่ว่าน่ากลัวเพราะเค้าปล่อยอารมณ์ควบคุมกาย ควบคุมจิตใจเสียแล้ว
กล่าวถึงจุดนี้ก็ลองพิจารณากันดูว่าเราปล่อยให้อารมณ์ควบคุมเรามานานแค่ไหนแล้ว ปล่อยให้มันกัดกินเราทั้งภายนอกและภายในเช่นนั้นหรือ เราจะไม่พูดถึงการทำให้อารมณ์นั้นสงบระงับไป เพราะมันไกลตัวนัก เหมือนสอนเด็กหัดเดินให้บินได้ มันไม่จำเป็นที่ต้องทำเช่นนั้น
ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย มักสอนมักกล่าวให้เรารู้จักคิด หมั่นพิจารณาสิ่งโดยรอบอย่างแยบคาย สอนให้สวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิ ได้ทำกันหรือไม่ ละเลยกันหรือเปล่า ที่ต้องให้พิจารณากายพิจารณาสังคมสิ่งจอมปลอมอย่างแยบคายนั้น ก็เพื่อจะให้รู้เท่าทันสิ่งฉาบฉวยต่างๆบรรดามี รู้เท่าทันกิเลสเพลิงทุกข์ ไม่หลงสนุกไปกับมัน
พอรู้แล้ว ตัวรู้นี่ก็สำคัญนะ เพราะบางสัตว์นั้นรู้ไว้ใช่ว่า รู้แล้วอย่างไร ก็แค่รู้ แต่ก็ทำอยู่ดีสกัดกั้นความอยากความต้องการของใจตนเองมิได้ เพราะเช่นนั้นเมื่อรู้แล้ว จึงต้องกอปรด้วยสติ มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่พึงกระทำ สิ่งเหล่านี้มันฝึกให้ชำนาญได้จากการสวดมนต์นั่งสมาธินั่นแหละ พอเรามีสติเราก็จะรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ อารมณ์ใดควรใส่ใจปิติไปกับมัน อารมณ์ใดควรวางเฉยไม่วิ่งตามมัน นอกจากนี้สมาธิก็สำคัญ เพราะมันเหมือนกรงทองขังใจเราไว้ไม่ให้อารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลายมาครอบงำได้เลย เพราะเราจดจ่ออยู่กับกิจการงาน กับสิ่งที่เราควรพึงจะกระทำ ไม่วอกแวกโลเลไปที่อื่น
ดังนั้นจึงต้องประกอบกันด้วยสามคุณลักษณะที่ว่า รู้ คือรู้เท่าทันด้วยการหมั่นสังเกตุ หมั่นคิดและพิจารณา แล้วจึงดึงเอาสติกับสมาธิมาเป็นองค์ประกอบ เห็นมั๊ยว่าการสวดมนต์นั่งสมาธินี้มีอานิสงค์มากนะ มันกินไม่หมดเลยแหละ เพราะสติมันประคับประคองคนให้เป็นคน ถ้าไร้สติเธอก็ไม่ต่างจากเดรัจฉานอย่างไร ถึงมีปัญญามาก แต่ควบคุมปัญญาไม่ได้ ควบคุมกาย ควบคุมความคิดไม่ได้ เช่นนี้ต่างจากสัตว์สี่เท้าอย่างไร สังคมมนุษย์ในบางแห่งบางที่นั้นต่างจากนรกอย่างไร แม้ในบางมุมจะเหมือนสวรรค์ก็ตามที เชื่อหรือไม่ว่าข้างบนเค้าเป็นห่วงนัก ด้วยว่าจุดมืดบอดหรือนรกบนดินนั้น นับวันจะยิ่งมีมากขึ้นทุกทีไป
อารมณ์นั้นก็เหมือนน้ำ หยิบมันมาใส่ภาชนะอย่างไรมันก็มีรูปร่างเช่นนั้น แล้วไอ้ตัวภาชนะเล่ามันมีรูปร่างอย่างไร ตัวของเราเองนี่แหละมันทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลงไปในรูปไหน สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าครูอาจารย์แต่ก่อนนั้น ท่านไม่ได้ผลักไสอารมณ์ทิ้งไป ด้วยว่าท่านก็คือมนุษย์เหมือนกับเรา คือรู้สึกได้และเจ็บเป็น มีอารมณ์ผ่านเข้ามาตลอด หากแต่ว่าท่านเหล่านั้นรู้จักวางอุเบกขาญาณเป็นอารมณ์ จึงไม่มีอารมณ์ใดกำเริบขึ้น ไม่ตามอารมณ์ ไม่สุขทุกข์ไปกับอารมณ์ที่ผ่านเข้ามา
อุเบกขานั้นก็คือการวางเฉย ไม่เอามันมาใส่ใจ ปล่อยวางแล้วมันก็โล่ง มันก็สบาย เห็นความต่างหรือไม่ เพราะเรานั้นไม่รู้จักวางกันหรือเปล่า หรือว่าเรายังวางกันไม่เป็น เรายังคุ้นยังชินกับการถือการขนแบกอะไรมากๆอยู่ เพราะเช่นนั้นก็จงเริ่มเรียนรู้ที่จะวางซะ เริ่มจากการรู้เท่าทันพัฒนาการของโลก รู้เท่าทันกิเลสและอารมณ์ความรู้สึกของตน รู้ที่จะสร้างสติและสมาธิให้เกิดมีกับใจตนเองในทุกขณะจิต เมื่อใช้ความรู้เหล่านี้เป็นเราก็จะไม่เตลิดไปตามอารมณ์ฉาบฉวยใดๆ ท้ายที่สุดนั้นจะวางหรือจะถือต่อก็ใช้ปัญญาความรู้พิจารณากันให้จงดี
หน้า 122 ของ 486