ร่วมแลกเปลี่ยนเคล็ดลับในการประคองศีล 5 กันคะ่

อ่าน นมแท้ๆ ไม่มีเมลามีนผสม บ้างละกัน
..................

ถ้าใครไม่เหมาะกับการ บริกรรมภาวนา

ก็อย่าก็ไม่ต้องไปบริกรรมภาวนา

ถ้าจิตของท่านผู้ใดไปเหมาะสมกับการกำหนดรู้จิตเฉยอยู่

โดยไม่ต้องนึกคิดอะไร เป็นแต่เพียงตั้งหน้าตั้งตา

คอยจ้องดูความคิดว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นแค่นั้น

อะไรเกิดขึ้นรู้ อะไรเกิดขึ้นรู้ รู้ รู้ รู้ เอาตัวรู้อย่างเดียว

หรือ

บางทีบางท่าน อาจจะใช้ความคิดอยู่ไม่หยุด

หรือบางท่าน อาจจะฝึกหัดสมาธิ
โดยวิธีการ
ทำสติตามรู้ การ ยืนเดิน นั่ง นอน รัปทาน ดื่ม ทำ พูด คิด

ทุกลมหายใจก็สามารถที่จะทำจิตเป็น สมาธิได้เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น

ถ้าเราจะเป็น นักปฏิบัติเพื่อความรู้ยิ่ง เห็นจริง กันจริงๆแล้ว

อย่าไปติดวิธีการ ให้กำหนดหมาย ว่า


สมถะก็ดี

วิปัสนาก็ดี

เป็น วิธีการปฏิบัติ

ถ้าบริกรรมภาวนา หรือเพ่งกสิณ เป็นวิธีปฏิบัติ ตามวิธีของ สมถะ

ถ้าปฏิบัติ ตามแบบที่ใช้ความคิดพิจารณาเรื่อยไป

หรือกำหนดทำสติตามรู้ความคิดเรื่อยไป


เป็นการปฏิบัติ ตามแบบ ของวิปัสนากรรมฐาน

ทั้งสองอย่าง

เพื่อมุ่งประสงค์ให้จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ


ประกอบด้วยองค์ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคัคตาด้วยกัน เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น

อย่าไปสงสัยข้องใจใครถนัดในทางไหน ปฏิบัติลงไป

และ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

วิธีการปฏิบัติมันมีหลายแบบ หลายอย่าง อย่าไปติดวิธีการ

ยุบหนอ พองหนอ ก็ปฏิบัติ แบบสมถะ

สัมมาอะระหังก็ แบบสมถะ

หรือการใช้พิจารณาอะไรต่างๆ ก็เพื่อสมถะ
เพื่อความสงบจิตนั่นเอง
เมื่อจิตไม่มีความสงบ สมาธิก็ไม่มี สมาธิไม่มี ฌานไม่มี
ในเมื่อไม่มีฌานก็ไม่มีญาณ
ไม่มีญาณก็ไม่มีปัญญา
ไม่มีปัญญาก็ไม่มีวิชชา

นี่ กฎธรรมชาติมันเป็นอยู่อย่างนี้


อ่านต่อที่นี่ https://palungjit.org/threads/จิตตะภาวนา-หลวงปู่พุธ-ฐานิโย.280415/

 

ยังไม่จบอีกหรอครับคุณแนน
อันนี้แกล้งชวนผมคุยหรือเปล่า?

คุณแนนย้อนไปอ่านและพิจารณาดีๆ
อย่าให้ผมชี้ไปหมดซะทุกอย่าง

ตะโกนบอกก็แล้ว..กระซิบก็แล้ว
ปลอบก็แล้ว....ขู่ก็แล้ว

ไม่เข้าใจหรือครับ....
ว่าคุณแนน....
ทำทั้งสองอย่าง...ที่ผมบอก
ทั้ง.....
.....ตามดู....ตามรู้
.....ตั้งมั่น....แล้วเห็นอยู่

แต่เพราะคุณแนนมองไม่ออกเอง..
เลยไม่รู้เหตุ....
....ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้จิตตั้งมั่น

คุณแนนเข้าใจผิดว่า
การเข้าไปดูเข้าไปรู้....ทำให้ตั้งมั่น
แท้จริง....
ตอนที่คุณแนนสติไปรู้กายบ่อยๆ
ได้เกาะกายเป็นวิหารธรรม....
นั่นคือเหตุ....ที่แท้จริง
....ที่ทำให้จิตตั้งมั่นมาเป็นขณะ

มันเป็นฟลุ๊คที่ทำถูก...บางขณะ
แต่เพราะความไม่รู้มรรค
เลยกระโดดเข้าไปดู....เข้าไปรู้

มันเลยมีทั้ง....
....เดี๋ยวก็เห็นไม่ชัด
....เดี๋ยวก็เห็นชัด
เพราะคุณแนนทำทั้ง2เหตุ
ทั้งถูกและผิด
ผลมันเลยไป2ทาง

แต่ดูๆแล้ว.....ตอนนี้จะลงคลอง
เพราะอะไร?
เพราะดูจากโพสที่คุณแนน....ตอบมา
สำคัญตนเองว่ายน้ำได้...
จะโยนห่วงยางทิ้ง
....ผมช่วยดึงสติให้แล้ว....
....ไปดูลต.มหาบัว....ไปดูลป.ดุลย์
ท่านเหล่านั้นเดินมรรคยังไง?

ท่านเหล่านั้นเดินมรรคโดย...
อาศัยวิหารธรรมทั้งสิ้น....(พุทโธ)

.....ผมเตือนสติให้
คุณแนนเป็นใครหรือ?
....ถึงไปบอกว่า...
คนมีปัญญาเค้าไม่ใช้วิหารธรรม
....ไม่ใช่ห่วงยาง
รู้ได้เลย....

รู้ได้เลยซะที่ไหน...
คุณแนน....โดยตัณหาลากไปยังไม่รู้ตัว
เกิดภพชาติ....ในรู้
....คุณแนนยังไม่รู้ตัว

วิหารธรรมใช้ไปจนโน้นล่ะครับ
.....วันที่ยกระดับจิตแล้ว
อุเบกขา...วิเวก...เป็นปกติที่จิตคุ้น
ตรงที่...ทำอะไรๆ....
....จิตก็เด้งกลับมาวางเฉย....สงัดอยู่ข้างใน
เอาจริงๆไหมครับ....
ต้องบอกว่า....แบบนั้น...
ต้องโสดาบันขึ้นไปด้วยซ้ำ
ต้องละความเห็นผิดในตัวตนไปแล้ว

.....เพราะงั้น
วิหารธรรม...เป็นจำเป็นกับคุณแนน
.....แน่นอน
อย่าไปเข้าข้างตัวเอง...
.....สำคัญผิดว่าตัวมีปัญญา
แม้แต่หลวงปู่....หลวงพ่อ
....สมาธิจิตท่านขนาดไหนแล้ว
....เวลาไปดูเห็นจิต....ยังต้องวิหารธรรม
ไม่งั้นมีแต่จม...ไปในนามธรรม
...นามธรรมเป็นของเกิดดับ...เร็ว
ถ้าไม่มีห่วงยาง....
จิตผูกติดกับอารมณ์แน่นอน....
ตัณหา....อุปทาน...ภพ...ชาติ....ในรู้
....เกิดแน่นอน

กับอีกทาง....ถ้ามีวิหารธรรมให้จิต
...สภาวะธรรมที่เกิดแน่ๆ
จะเห็นเกิดดับที่แท้จริง....
และจะเป็นสภาวะ....
......"ตั้งมั่น......แล้วเห็นอยู่"

ผมอธิบายให้อ่านแล้วทั้งสองทาง
ไม่รู้หรอกคุณแนน....ฟลุ๊คถูกทาง
.....อย่างที่ผมบอก....บ่อยแค่ไหน
ที่ทำให้จิตฟลุ๊คมาตั้งมั่น...ได้บางขณะ
แต่....
แค่บางขณะ....มันไม่พอ
....และเท่าที่อ่านมา
ตอนนี้มีแนวโน้ม
...จะเข้าไปดู...เข้ารู้อย่างเดียว
ด้วยซ้ำ....

รับรอง....จมอยู่ในนั้น...นั่นล่ะครับ
จากเคยถูกบ้าง....ผิดบ้าง...
....จะกลายเป็นผิดทั้งหมดเอา
เพราะอ่านการโพสของคุณแนน
....ก็พอเดาได้
ว่าพยายามวิจัยขี้....กอดทั้งขี้
....และสำคัญว่ากูรู้ขี้....
อย่างที่อ.ประเสริฐบอกไว้ไม่มีผิด

เพราะอะไร.....
เพราะคุณแนนเคยบอกเอง...
ต้องรู้ให้ละเอียด....รู้ให้บ่อย
ยิ่งมากยิ่งดี.....

ผิดแล้วครับคุณแนน
.....ไปดูพระพุทธเจ้าตรัสมรรคไว้อย่างไร?
ไปดูสัมมาวายามะ....
พระพุทธองค์ให้เพียรทำอะไร?

คุณแนนต้องพิจารณาเองบ้างครับ
ผมแจกแจงไปครบแทบทุกมุม
....ย้อนกับไปอ่านครับ
พิจารณาตัวเอง...
มรรคแบบไหน....ต้องทำให้ยิ่งขึ้น
....แล้วมรรคแบบไหน....ต้องทิ้งครับ

ดูให้ออกครับ....
อะไรกันแน่....ที่ทำให้จิตตั้งมั่น
....ระวัง
......โยนทิ้งผิดอันนะครับ


..........

 

อ.ประเสริฐนั่นแหล่ะตัวดีเลย
อิเหนาเป็นเอง ว่าแต่เขา

อ.ประเสริฐนั่นแหล่ะ
ที่พยายามวิจัยขี้ กอดทั้งขี้
และอ.ประเสริฐอีกนั่นแหล่ะสำคัญว่ากูรู้ขี้

 

อ.ประเสริฐ กับ ไม้หมู
ตอบตัวเองให้ได้ก่อน
ว่าจิตตั้งมั่นของมันเอง
หรือมีใครมีอะไรพาให้จิตมันตั้งมั่น

 

ทำอย่างกับมานั่งปฏิบัติด้วยกัน

แนนไม่ได้พยายามดึงจิตมาที่กายเล้ยยย ไม่เคยบังคับจิตว่าต้องไปอยู่ที่ไหน เห็นอย่างเดียว จิตชัดดูจิต กายชัดรู้กาย ไม่ได้แบบเห็นจิตแล้วดึงมากายๆ เป็นสเต็ปเป๊ะ แบบนั้น หลักๆเห็นจิตเลย เพราะสติมันคงชินกับจิตแล้ว ส่วนกายเป็นรองลงมา ถ้าแนนจะบังคับแบบเป๊ะๆก็ตอนตั้งใจเพ่งในรูปแบบเท่านั้น

อ่านแล้ว เวียนหัว
วนไป วน มา ไม่เก็ทสักที
ขอหมดความพยายาม ณ บัดนี้

 

ถึงบอกว่าคุณแนนฟลุ๊คไงครับ
ที่เกิดตั้งมั่นมาบางขณะ....
เพราะไม่รู้อะไรเป็นเหตุ...ให้ตั้งมั่นกันแน่

พิสูจน์ ณ เวลานี้เลย....
เอาจิตมารู้กาย .... รู้ลม
....จิตตั่งขึ้นทันที....
แม้แค่ขณะเดียว.....
....ไม่ต้องพูดถึง...
ถ้าหมั่นเอามาเป็นวิหารธรรมให้จิต
จะเกิดความตั้งมั่นยังไง...

มรรคนี้...พิสูจน์ได้ทันที
....และเมื่ออยู่กับวิหารธรรม
จะเห็นนามธรรมภายใน
....ด้วยใจที่ตั้งมั่นทันทีครับ

 

โอเค ฟลุ๊ค
ใครจะเจตนาสร้างได้เหมือนนิ้วดีดแบบคุณหมูไม้

 

แฟนต้า ต้อง มอบ สิ่งนี้ให้หมูไหม้



Silly Fools

 

ไม่เอาละค่ะ เด่วบ่นกลับมายาวเป็นกิโล ตามอ่านไม่ไหว

 

แฟนต้าแนน
สตรีหาญ
ผู้เกาะห่วงยางข้ามมหาสมุทร

 

ขอเรือสปีดแทนได้มั้ยคะ

 

84,000 มหาเรือลำใหญ่พร้อมวิหารธรรม
ไปได้แรงไปได้ไว
ทำไมแฟนต้าแนน
ไม่ยอมไปกับมหาเรือใหญ่

 

84000 คืออะไร

 

ก็ 84000 พระธรรมขรรค์ยังงัยล่ะ
คือมหาเรือใหญ่
ขนรื้อสัตว์ไปนิพพานได้ไม่จำกัด

 

คิดดีก้ใจเย็น คิดไม่เป็นเย็นสะบาย

 

ช่วงนี้ลุงปัง ไปบวช หรือโดนแบนนะ
เงียบแปลก หายกริบ เหมือนคราวแล้ว

 

นั่งอ่านอยู่มั้ง

 

ผิดปกติ วิสัยลุงมาก
ไม่น่าจะเป็นคนชอบแอบอ่านเฉยๆ

 

เรื่องปกติ ที่ลุงแกก้เป็น ใครๆก้เป้น
ก้เป้นแบบนี้มานาน ก้ไม่แปลกหรอก

ไว้มาอ่านใหม่

 

ผันตัวกลับไปเป็นผู้แอบละ