ร้อนวิชา

ผมทราบมาจากหนังสือเล่มหนึ่งว่าผู้ที่ร่ำเรียนเวทย์มนท์คาถามากๆจะมีอาการร้อนวิชาอย่างเช่น ร้อนผ่าวไปทั้งตัว ใจหงุดหงิด จิตใจร้อนรน ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บางคนถึงสติฟั่นเฟือนถึงกับเข้าป่าหายไปเลย และต้องทำการปล่อยวิชาถึงจะหายจากอาการนั้น (smile)ผมเองก็หาได้มีความรู้เรื่องนี้เลยแต่อย่างใด เพียงแต่ได้อ่านมาจากหนังสือเท่านั้น ผมจึงเชิญผู้รู้ทุกคนแสดงทัศนคติเกี่ยวกับข้อความนี้ ว่าความจริงเป็นเช่นไรและเชิญติดต่อกระทู้นี้ต่อเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับคำตอบของท่านเพราะมีสมาชิกบางคงคนอาจจะมีความสงสัยในคำตอบของท่าน หรือต้องการขอความรู้จากท่านผู้รู้ทังหลาย ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

 

ก็อย่าเรียน มาก เอาเเบบพอเพียงก็พอ เเล้วก็ควบคุมอารมณ์ อย่าเรียนมนดำมากนัก ควรท่องคาถามหาเย็นไว้ด้วย เเต่ถ้าจะไห้ดี อย่าเรียนเยอะเลยดีกว่า เดี๋ยวจะเสียสติ ควบคุมไม่ได้จ้า

 

เป็นอย่างงั้นหรอครับ ก็นึกว่าอาการร้อนวิชาเป็นอาการของคนที่อยากลองวิชาของตัวเองซะอีก

 

เย็น.........ไว้โยม

โองการคาถามหาเย็น บทนี้ ใช้สำหรับดับความร้อนในการเรียนเวทมนต์คาถา หรือก่อนที่จะเรียนเวทมนต์ให้ทำน้ำมนต์ด้วยคาถานี้อาบเสียประเสริฐนักแล กันอุบาทว์จัญไรทั้งปวง เมื่อเห็นว่าเกิดความรุ่มร้อนในใจด้วยอำนาจอาคมคาถา ให้ภาวนาคาถาบทนี้หรือจะทำน้ำมนอาบก็หายสิ้นแล

โองการมหาเย็น:cool:

สิโรเม พุทธเทวัญจะ นะลาเตพรหมเทวตา หัทยังนารายกัญเจวะ ทะเวหัตเถ<O:p</O:pจะปะระเมสุราปาเท วิษณุกรรม์เจวะ สัพพะกัมมา ประสิทธิเม
โอมสิทธิการครูกู จึงให้ตั้งสารสิทธิแก่เทพยดาทั้งหลาย ทั้งพระอินทร์ พระพรหม พระกาฬ ธะจึงได้มานั่งชุมนุมกัน บ่ มิได้นาน ได้เก้าโกฏและเก้าล้าน ธะจึงให้กูตั้งศาสตราพระมนต์ มนต์หนึ่งชื่อมหาเย็น ให้เย็นแก่กู ดังน้ำพระคงคาในท้องพระมหาสมุทรรามฤทธิ ธะจึงให้กูดับสรรพพิษทั้งหลายให้แก่ตนกู ให้กูเย็นดั่งน้ำพระคงคาในท้องพระสมุทรสาคร โอมทรุด ทรุด โทรม โทรม ลง ลง นะ นะ อะ อะ อุ สวาหะ
อิติปิโสภะคะวา กูจะไหว้พระพุทธเจ้าทั้ง ๒๘ พระองค์ ธะจึงมาทรงจำแนกอักษร อะให้เย็นภายใน โมให้เย็นภายนอก อะหายใจเข้า อาหายใจออก อุให้เย็นแก่ตัวกู ทั้งพระพุทธแลพระธรรม ธะจึงมาจำแนกนำอักขระศาสตราแลอาคม อิกุมไว้แล้ว ทั้งคาถาอันกล้าแข็ง คือหินผาศิลาแลง พุทโธ ธัมโม สังโฆ อุให้เย็นแก่ตัวกู โอมชัยยะ ชัยยะ สรรพอุบาทว์จัญไรขอให้วินาสสันติ<O:p</O:p
<O:p</O:p
หมายเหตุ..ทำน้ำมนต์รดให้ผู้อื่น สิโรเม ให้เปลี่ยนเป็น สิโรเต<O:p</O:p
ประสิทธิเม ให้เปลี่ยนเป็น ประสิทธิเต​

<O:p</O:p

​

<O:p</O:p

 

มันก็มีส่วนจริงอยู่นะ

 

ร้อนอวิชา

....ต้องเข้าใจนิยามคำใหม่ คำว่า "ร้อนวิชา" แก้เป็น "ร้อนอวิชา" จึงจะควรครับ....

 

เกิดจากการสะสมพลังงาน พวกนี่ถ้าไม่ปล่อยพลังงานออกมา พลังงานนั้นจะคุมจิตผู้ใช้ แทนที่จะเล่นของ กลับโดนของเล่นซะเอง และหากเรียนมนต์ดำ หากไม่มีกำลังแรงพอ ปล่อยมนต์ไม่หมด มนต์ตกค้าง มนต์ดำนั้นก็จะทำร้ายตนเอง

 

ไม่ทราบเหมือนกันครับ

 

การถือครู ร่ำเรียนคาถา ถ้ามีแล้วไม่ท่องสวด ครูคาถาท่านไม่ได้ออกมา ก็จะทำให้ร้อนรน อึดอัด

ต้องหาวันดี หรือวันที่ร้อนวิชา เตรียมตัวให้ดี อาราธนาคุณทั้งหลายตั้งแต่พระพุทธ ..... แล้วสวดคาถาที่เรียนมา

หากเป็นเพราะร้อนวิชาจริง คุณไม่ต้องคิดเลย ว่าจะต้องทำอะไร ว่าจะต้องสวดคาถาอะไร เพราะเราอารธนาท่านมา แล้วใจอยากทำอะไร อยากสวดบทไหน มันจะอยากสวดออกมาเอง จนพอใจ

สักพักก็โล่งครับ

การถือขันครู ต้องปฏิบัติธรรมด้วย สวดภาวนาพุทธคุณ ...... และต้องสวดคาถาที่ร่ำเรียนมา ถึงจะคุมอยู่ วันโกนวันพระ ก็เคร่งหน่อย ทำน้ำมนต์รดตัวเอง ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้ ปฏิบัติดี ก็มีคุณสูง ปฏิบัติไม่ดี บารมีไม่ถึงท่าน รับบารมีท่านไม่ได้ เราก็จะแย่

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ทางหลุดพ้น แต่เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวให้ถึงความดีงาม เข้าถึงการสร้างบารมี ขอเพียงปฏิบัติเป็นสัมมาทิฐิ ก็ไม่ขัดขวางทางนิพพาน