..ร้านพระกรรมฐาน พ่อแม่ครูอาจารย์ แท้ทุกรายการครับ..

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Thunder Rnk, 7 พฤษภาคม 2015.

  1. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1777. เหรียญเสมา หลวงปู่แก้ว สุจิณโณ รุ่นประทานบุญ ปี 2558 เนื้อทองเเดง พร้อมกล่องเดิม กำลังมาเเรงไม่หยุดหย่อนครับ ไม่เก็บตอนนี้จะเก็บตอนไหนครับ อนาคตไปไกลเเน่นอนครับ



    ท่านพระอาจารย์ทองแก้ว สุจิณฺโณ นามเดิมท่านชื่อ ทองแก้ว นามสกุล ฮ่มป่า เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๘๖ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะแม ณ บ้านห้วยหีบ ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร

    บิดาท่านมีนามว่า นายจันทร์ ฮ่มป่า มารดาท่านมีนามว่า นางวงศ์ ฮ่มป่า


    การอุปสมบท
    ในขณะนั้นอายุของท่านได้ ๒๕ ปีพอดี ท่านพระอาจารย์ทองแก้ว สุจิณฺโณ ท่านได้เข้าไปบวชเป็นตาผ้าขาวอยู่กับหลวงพ่อแบน ธนากโร ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ เพื่อให้ทราบถึงข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ เกี่ยวกับพระภิกษุ ซึ่งผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุหรือสามเณรนั้น ในวัดพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจะให้บวชเป็นตาผ้าขาวก่อน เพื่อให้หัดท่องคำขานนาค ท่องบ่นบทสวดมนต์ และให้ทราบถึงข้อวัตรปฏิบัติ รวมทั้งอยู่ดูนิสัยไปก่อน เรียกง่ายๆคือ อยู่ดัดนิสัยเดิมเสียก่อน ฝึกกิริยามารยาทให้งดงาม ให้รู้จักครรลองครองธรรมของพระสงฆ์ ฝึกความอดทน ฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง ต้องใช้เวลานานพอสมควร บางคน ๑ เดือน ๒ เดือน ๓ เดือน หรือเป็นปีสองสามปีก็มี แล้วแต่ใครจะฝึกหัดได้ง่ายได้ยาก
    จนเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๑ หลวงพ่อแบน ธนากโร จึงได้นำท่านไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ณ วัดป่าสุทธาวาส ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โดยมี พระวิบูลธรรมภาณ (ไพบูลย์ อภิวณฺโณ) วัดศรีโพนเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แว่น ธนปาโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์แบน ธนากโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    ภายหลังจากบวชแล้ว ท่านก็ได้กลับไปพักปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อแบน ธนากโร ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ อยู่ปฏิบัติธรรม ศึกษาพระธรรมวินัย ครั้นต่อมา ท่านได้กราบลาหลวงพ่อแบน ธนากโร ออกเดินธุดงค์ จาริกปฏิบัติธรรมไปตามสถานที่ต่างๆ และได้ขึ้นมาอยู่ศึกษา ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ที่วัดถ้ำเจ้าผู้ข้า อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร จนกระทั่งปัจจุบัน


    ราคา 350 บาท





     
  2. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1778. เหรียญหลวงปู่ดุลย์ อตุโล รุ่นกฐินพระราชทาน กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก สร้างเมื่อปี พ.ศ.2521 สภาพสวยๆ เนื้อทองเเดง เจตนาการสร้างดี ประสบการณ์ก็สูง พระเครื่องของท่านดีทุกรุ่นครับ รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าเก็บ เเละนิยมครับผม

    ราคา 650 บาท



     
  3. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    ............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1780 . พระสังกัจจายน์..รุ่นแรก..เนื้อเมฆพัด หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโคธารม จ.อุดรธานี ปี 2517 หายากครับ สร้างน้อยกว่าเหรียญรุ่นเเรก ประสบการณ์เพียบ ใครๆก็เเสวงหาครับ พร้อมเลี่ยม สวยๆ




    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ดำเนินรอยตามเยี่ยงพระอริยเจ้าทั้งหลายมาเป็นแบบอย่างดีเยี่ยม ผู้เขียนเคยได้ยินคำสรรเสริญจากครูบาอาจารย์หลาย ๆ องค์ท่านมักกล่าวเสมอว่า...

    หลวงพ่ออ่อน ญาณสิริ นี่ท่านเป็นพระชั้นเยี่ยมองค์หนึ่งท่านเป็นพระนักต่อสู้จริง ๆ... การปฏิบัติของท่านเด็ดขาด ตายก็ยอมตายกันเลยทีเดียว จิตใจของท่านเข้มแข็งมาก ยิ่งกระแสจิตด้วยแล้วเข้มข้นเหลือเกิน

    ศิษย์ของท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต จะมีกำลังจิตที่ไม่ค่อยจะซ้ำแบบกัน เพราะบางองค์ท่านมีจิตโลดโผน บางองค์ท่านมีจิตแบบเรียบๆ แต่ละแบบก็แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ท่านเป็นเลือดอาชาไนยทั้งนั้น หาไม่ได้แล้วในยุคนี้”

    ผู้เขียนได้สอบถามท่านผู้รู้บางท่าน ก็มีคำตอบอย่างเดียวกัน

    หลวงปู่อ่อน ญาณสิรินี้ ท่านไม่ค่อยสนใจกับประวัติ เมื่อพบกันก็คุยกันในเรื่องสมาธิภาวนาเพียงอย่างเดียว

    การเดินธุดงค์นี้ ท่านก็ได้ออกเที่ยวมาหลายแห่ง เมื่อมารวมกันแล้ว ก็นับได้ว่าเป็นเวลาหลายสิบปีเหมือนกัน

    แต่ท่านได้ผ่านประสบการณ์อย่างไรบ้างนั้น ไม่มีคนกล้าถามท่าน เพราะถ้าถามดีก็ดีไป ถ้าถามไม่ดีหรือท่านเห็นว่าไร้ประโยชน์ท่านก็จะดุเอาด้วย

    ความดีของท่านนั้นมีมาก การภาวนาก็เป็นเยี่ยมเลยทีเดียว

    อีกทั้งหลวงปู่อ่อนท่านยังมีลูกศิษย์มากมาย ซึ่งปัจจุบันลูกศิษย์ของท่านล้วนเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เช่น
    -หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล
    -หลวงปู่เคน เขมาสโย
    -หลวงปู่จันเรียน วัดถ้ำสหาย
    -หลวงปู่ประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่
    ฯลฯ



    ราคา 550 บาท ท่าน อาทิตย์03




     
  5. sereenon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,724
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,931
    จองค่ะ
     
  6. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ
     
  7. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1781. พระยอดธงรุ่นแรก (บารมีปกเกล้า) หลวงปู่เคน เขมาสโย วัดป่าหนองหว้า อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เนื้อทองเเดง มากด้วยประสบการณ์ เป็นที่เเสวงหาของลูกศิษย์มากครับ

    พระยอดธงรุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อแจกทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามดำริเจตนารมณ์ของหลวงปู่เคน ที่อยากให้มีสิ่งศักดิ์ ไว้คุ้มครองป้องกัน พิธี 23 ตุลาคม 2553

    นอกจากนี้ยังได้รับเมตตาจาก หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหาย จ.อุดรธานี อธิฐานจิตให้เป็นกรณีพิเศษด้วยครับ

    จำนวนการสร้าง
    เนื้อทองคำ 8 องค์
    เนื้อเงิน 119 องค์
    เนื้อพิเศษ (ชนวน) 83 องค์
    เนื้อนวะ 210 องค์
    เนื้อทองเหลือง 215 องค์
    เนื้อทองแดง 4,060 องค์
    พระช่อ เนื้อทองเหลือง 33 ช่อ



    ชีวประวัติและปฏิปทาหลวงปู่เคน เขมาสโย ท่านมีชาติกำเนิดในสกุล “นิ่งแนน” ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๑ ตรงกับ วันจันทร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ณ บ้านนาเตียง ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เป็นบุตรของคุณพ่อไพ คุณแม่บับ ท่านเกิดได้ไม่นานแม่ก็เสียชีวิต น้าสาวเลยเอาท่านไปเลี้ยงเป็นลูก แล้วเปลี่ยนนามสกุลเป็น “ฤกษ์งาม”

    ในสมัยเด็ก ๆ องค์ท่าน มีจิตใจในทางเมตตา ใฝ่ใจใคร่รู้ในทางธรรมมาก และมีจิตเมตตา สงสารในสัตว์เล็ก สัตว์น้อย และมีชีวิตที่ไม่โลดโผนมากนัก ผิดกับวัยรุ่นวัยหนุ่ม ที่คะนองตามแบบหนุ่มบ้านนอกลูกทุ่งโดยทั่วไป ด้วยใจที่ใฝ่ในทางธรรม จึงออกปากขอโยมพ่อ โยมแม่ ขอออกบวช ก็เป็นที่น่ายินดีกับทุกคนที่ได้รับฟังเวลานั้น ช่วงนั้นเป็นเดือน ๑๑ เป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้าว พอตอนเย็น ท่านกับเพื่อน ๆ ที่พร้อมจะบวชด้วยกันทั้ง ๔ คน ก็มาฝึกขานนาคกับหลวงปู่หอม ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ ที่วัดป่าสามัคคีบำเพ็ญผล บ้านนาเตียง

    ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๓ ปี ณ สิมกลางน้ำ วัดป่าบ้านหนองดินดำ(ภายหลังเปลี่ยนเป็น วัดป่าคามวาสี) ต.ตาลโกน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๓ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล โดยมีพระอธิการพุฒ ยโส (ภายหลังได้รับสมณศักดิ์ เป็นพระครูพุทธิวาคม) เป็นอุปัชฌาย์ หลวงปู่นนท์ โกวิโท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่หอม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    พระอาจารย์เคน ได้รับฉายาว่า "เขมาสโย" แปลว่า "ผู้ยินดีอาศัยในธรรม" ในการบวชครั้งนั้นได้มีการเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทพร้อมกัน ๔ นาค คือ
    ๑.นาคเคน ฤกษ์งาม หรือท่านพระอาจารย์เคน เขมาสโย
    ๒.นาคประสาร รำไพ หรือท่านพระอาจารย์ประสาร ปัญญาพโล
    ๓.นาคสมัย โสภาจาร หรือท่านพระอาจารย์สมัย ทีฆายุโก
    ๔.นาคชาลี โคตรสมบูรณ์ บวชเป็นสามเณร เพราะอายุยังไม่ถึง ต่อมาได้ลาสิกขาบท
    หลังจากท่านบวชแล้วก็ติดตามหลวงปู่นนท์ โกวิโท เที่ยวไปธุดงค์ที่ จ.นครพนม ได้ไปศึกษาธรรมอยู่กับหลวงปู่บุญมา มหายโส ที่วัดอรัญญิกาวาส อ.เมือง จ.นครพนม อยู่พักหนึ่ง

    ภายหลังหลวงพ่อวัน อุตตโม แห่งวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ได้ฝากให้ท่านไปอยู่จำพรรษากับหลวงปู่คำ ยสกุลปุตโต เพื่อให้ท่านสอนวิปัสสนากรรมฐานในเบื้องต้นให้ ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่คำ มีอายุ ๖๐ ปี ที่วัดศรีจำปาชนบท บ้านพังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร เป็นพรรษแรก คือปี พ.ศ.๒๔๙๔ หลวงปู่คำ ให้อาตมาฝึกนั่งสมาธิเจริญคำภาวนาว่า “พุทโธ” ด้วยการให้พิจารณาการหายใจเข้าหายใจออกอย่างสม่ำเสมอ และให้มีสติกำหนดรู้อยู่ในการหายใจ ฝึกอยู่ได้หนึ่งพรรษาจิตยังหยาบอยู่ จึงต้องตั้งสติอยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมอ

    จากนั้นจึงไปศึกษาธรรมอยู่กับท่านพระอาจารย์จันทร์ ไปอยู่บ้านนาเหมือง จ.สกลนคร ท่านพระอาจารย์จันทร์ ได้สอนการอ่านตัวธรรมที่จารอยู่ในใบลานต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการฝึกจิตเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จนจิตใจสงบดีขึ้นเป็นลำดับ ทำให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่านเหมือนเมื่อก่อน จึงทำให้หูตาสว่างไสวไปอีกขั้นหนึ่ง คือมองอะไรก็เป็นธรรมดา จิตใจไม่ว้าวุ่นเป็นสมาธิดี ท่านพระอาจารย์เคนอยู่อบรมธรรมกับพระอาจารย์จันทร์อยู่ ๓ พรรษา คือปี พ.ศ.๒๔๙๕ ถึงปี พ.ศ.๒๔๙๗ จากนั้นก็ไปจำพรรษาที่วัดโนนแสนคำ บ้านทุ่งคำ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ณ ที่นี้ ก็เป็นสัปปายะดี คือเป็นสถานที่ดี มีความสงบสงัด เป็นที่ถูกใจ เหมาะแก่การภาวนาปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ท่านอยู่จำพรรษาที่นี่ ๑ พรรษ คือปี พ.ศ.๒๔๙๘

    จากนั้นจึงมาอยู่ศึกษาธรรมกับหลวงปู่หอม ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่พรหม จิรปุญฺโญ ที่วัดป่าสามัคคีบำเพ็ญผล บ้านนาเตียง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ๔ พรรษา คือ ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๒ จากนั้นท่านทราบข่าวว่าหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นลูกศิษย์รูปหนึ่งของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นพระที่มีปฏิปทาที่น่าเลื่อมใส จึงได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาอบรมธรรมอยู่กับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดป่านิโครธาราม บ้านหนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี อีก ๑ พรรษา คือปี พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงปู่อ่อน ได้อบรมสั่งสอนในเรื่องทางการฝึกจิต ความเจริญทางจิตใจนั้น เราจะปล่อยไปเองตามธรรมชาติไม่ได้ เพราะใจจะไหลลงต่ำ ไม่ดีงาม เราต้องรู้จักควบคุมบังคับ ฝืนไม่ให้อาหารในทางเสื่อม ไม่อย่างนั้นจิตใจจะไม่เจริญก้าวหน้า ท่านสอนให้ยึดคำบริกรรม “พุทโธ” เป็นหลัก เพราะไม่มีคำบริกรรมอย่างใดจะดีเท่าการสรรเสริญพระพุทธเจ้า

    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ อบรมเรื่องการอยู่ป่าเป็นวัตร เมื่อไปอยู่ป่าแล้ว อย่าไปยึดป่า อย่ามีอุปาทานในป่า เรามีนี่เพื่อทำปัญญาให้เกิด ถ้ายังไม่มีปัญญา ก็จะเห็นว่า รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์นั้น เป็นปฏิปักษ์กับเรา เป็นข้าศึกกับเรา ถ้าปัญญาดีแล้ว รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์นั้น ไม่ใช่ข้าศึก แต่เป็นสภาวะที่ให้ความรู้ความเห็นแก่เราอย่างแจ้งชัด เมื่อสามารถกลับความเห็นอย่างนี้ แสดงว่าปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อท่านพระอาจารย์เคน รับการอบรมจากหลวงปู่อ่อนแล้ว ก็ได้กราบลา แล้วธุดงค์ไปที่ดงหม้อทอง แล้วไปอยู่ตามเขาตามถ้ำต่าง ๆ ที่ อ.บ้านผือ

    สมัยนั้นยังมีป่าไม้ให้ร่มเย็น สมัยที่องค์ท่านออกเดินธุดงค์ ไม่ต้องกล่าวถึงความสะดวกสบายในการเดินทาง เรียกว่า มีแต่ป่ากับป่า ท่านเล่าว่าสิงสาราสัตว์ อย่างเสือ กวาง เก้ง แม้ช้างป่า มากมายจริง ๆ แต่ก็ไม่ทำให้องค์ท่านท้อในการเดินทางเข้าหาพ่อแม่ครูอาจารย์ การไปอยู่ ณ ที่ใด ก็ได้พิจารณายึดเอาคำสอนของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่ท่านได้แนะนำให้ไปปฏิบัติตามครรลองของพระพุทธศาสนา การบิณฑบาตในสมัยนั้นก็ได้แต่ข้าวเหนียว ไม่มีกับข้าว อดบ้างอิ่มบ้างก็อดทนอดกลั้น แม้จะพบความยากลำบาก ก็ไม่กังวลกับสิ่งใดใด

    ท่านพระอาจารย์เคน เขมาสโย ได้ธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาว ขึ้นไปธุดงค์อยู่รุกขมูลตามร่มไม้ เพิงหิน โถงถ้ำที่ภูเขาควาย ประเทศลาว ที่ภูเขาควายนี้เป็นที่มีอาถรรพณ์ และศักดิ์สิทธิ์ เต็มไปด้วยภูตผีวิญญาณร้าย พระธุดงค์มากมายเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เป็นจำนวนมาก ท่านเล่าว่า ที่ภูเขาควายนี้เป็นภูเขาที่สูงมากของฝั่งลาว สูงกว่าดอยสุเทพเสียอีก เป็นภูเขาที่น่ากลัวจริง ๆ เพราะเป็นป่าทึบดงดิบหนา มีสัตว์ป่ามากมาย เช่นช้าง เสือ หมี งู และสัตว์มีพิษอื่น ๆ อยู่มาก ที่สำคัญอากาศบนยอดเขาภูเขาควายหนาวเย็นมาก ถ้ามองรอบตัวจะไม่เห็นอะไรเลย เพราะป่ามันทึบมาก

    เวลาขึ้นเขาไปต้องค่อย ๆ มีสติเหยียบก้อนหินขึ้นไปทีละก้อนอย่างเชื่องช้า เพราะหินบางก้อนลื่นมาก เขาก็สูงชันมาก กลัวจะพลาดตกลงไป ทั้งบนบ่าก็แบกกลด แบกบาตรอัฐบริขารหนักมาก ท่านนึกถึงตนเองสมัยนั้นก็น่าสงสารตนเองยิ่งนัก แต่เราเป็นพระที่ขึ้นชื่อว่าเสียสละในทุกสิ่งทุกอย่างก็เลยปลงได้ เพราะถือว่าครูบาอาจารย์ก็เคยลำบากมาก่อนแล้ว ท่านจึงได้ดีมีอรรถมีธรรม ครูบาอาจารย์ที่เคยมาเยือนที่ภูเขาควายแห่งนี้ในสมัยก่อน ได้แก่ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่เครื่อง ธัมมธโร หลวงปู่ขาว อนาลโย และพระอาจารย์ของท่านคือ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม ก็เคยมาเยือนที่ภูเขาควายเพื่อบำเพ็ญสมณธรรม ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แล้วทั้งนั้น

    เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา ท่านพระอาจารย์เคน ได้เห็นตาผ้าขาว กำลังกวาดใบไม้อยู่บนพลาญหิน จึงรู้สึกดีใจว่าบนยอดภูเขาควายนี้ ก็มีผู้มาบำเพ็ญสมณธรรมเช่นกัน ท่านจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาหวังพูดคุยเจรจาด้วย เพราะไม่ได้พูดคุยกับใครมานานแล้ว แต่พอไปถึงที่นั้นกลับไม่พบใคร มีแต่ความว่างเปล่า หรือจะเป็นเทพเทวดาอารักษ์รักษาป่าก็เกินจะคาดเดาได้ คืนนั้นท่านพระอาจารย์เคน พักอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ถ้ำที่ท่านไปอยู่ก็มีโครงกระดูก ไม่ทราบเป็นของพระธุดงค์หรือของโยมชาวบ้านที่มาล่าสัตว์ คงจะมาพักแล้วโดนงูกันตายก็เป็นได้ เพราะมีสิ่งของบางอย่างวางทิ้งไว้เช่นกาน้ำ การมาอยู่ที่ภูเขาควายก็ได้ความสงบสงัด ความวิเวกดี ได้ความก้าวหน้าในสมาธิตามลำดับ ท่านได้เที่ยวไปที่ต่าง ๆ ในเขตฝั่งลาวอยู่ถึง ๒ พรรษา คือปี พ.ศ.๒๕๐๔ ถึงปี พ.ศ.๒๕๐๕

    ในช่วงนั้นเกิดความไม่สงบของบ้านเมืองในประเทศลาว ชาวบ้านจึงให้ความเห็นให้ท่านเดินทางกลับมาฝั่งไทยจะดีกว่า ท่านธุดงค์ข้ามมาทางบึงกาฬ-ปากคาด-โซ่พิสัย เรื่อยมาทางคำตะกล้า-บ้านม่วง ผ่านวานรนิวาส จนมาถึงสว่างแดนดิน ท่านพระอาจารย์เคน เขมสโย ได้มาวิเวกมาบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ที่บ้านหนองหว้าครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๕ บริเวณด้านหลังกุฏิไม้(หลังเก่า)ขององค์ท่าน ท่านว่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เคยมาปักกลดอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนแถบนี้เป็นป่ารกชัฏ แล้วก็ยังมีเสืออยู่ แต่ปัจจุบันก็เป็นอย่างที่เห็น กลายเป็นไร่นาของชาวบ้านหมดแล้ว สมัยที่ท่านพระอาจารย์เคน มาวิเวกอยู่ที่นี่ครั้งแรก มีชายรูปร่างสูงใหญ่ เป็นคนโบราณ ตัวดำทมึน เดินเข้ามาหา บอกว่าตามมาดูแลรักษา มิให้เกิดอันตรายใดใดทั้งสิ้น ขอให้ปฏิบัติธรรมไปด้วยความสบายใจ เขาบอกว่าเขาตามมาจากฝั่งลาว จะมาขออยู่ด้วยตลอดไป ท่านพระอาจารย์เคน ก็ไม่ได้ว่าอะไร

    จากนั้นท่านพระอาจารย์เคน ได้เข้าไปศึกษาอบรมธรรมอยู่กับท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม ที่ถ้ำพวง ภูผาเหล็ก อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ท่านพระอาจารย์วัน เป็นพระที่มีเมตตาธรรมมาก เป็นพระปฏิบัติดีเคร่งครัดพระธรรมวินัยรูปหนึ่ง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ท่านพระอาจารย์วัน นับเป็นอาจารย์ใหญ่ของท่านพระอาจารย์เคน ที่ท่านมีแต่ให้มาตลอด ข้อธรรมที่ไม่รู้ ท่านก็สอนให้รู้โดยไม่ปิดบังแต่อย่างใด ท่านสอนให้พิจารณษสังขารร่างกายนั้นเป็นของไม่เที่ยงเป็นทุกข์ อย่าไปยึดติดในสิ่งที่อยู่นอกกาย เช่น เนื้อหนังมังสาที่สวยงาม ล้วนแต่เป็นอนิจจังเป็นของไม่เที่ยงแท้ทั้งนั้น

    ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๐๖ ท่านได้มากลับมาอยู่กับหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่วัดป่านิโครธาราม บ้านหนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี มีโยมอุบาสกคนหนึ่งชื่อ “จันทร์เรียน” ได้มาฝึกขานนาคด้วย มีท่านพระอาจารย์เคน และท่านพระอาจารย์สมัย ทีฆายุโก ช่วยกันสอนการออกเสียงอักขระ การขานนาคให้กับท่านจันทร์เรียน ท่านพระอาจารย์เคน จึงถือได้ว่าเป็นพระอาจารย์ และเมื่อครั้งท่านอาจารย์จันทร์เรียน อุปสมบทที่วัดโพธิสมภรณ์ ท่านพระอาจารย์เคน ก็ได้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร แห่งวัดถ้ำสหาย อีกด้วย

    จากนั้นท่านพระอาจารย์เคน ได้กลับไปวิเวกอยู่ที่ป่าช้า บ้านหนองหว้าอีกครั้งนึง แล้วจึงได้อยู่โปรดญาติโยม จนได้สร้างเป็นวัดป่าหนองหว้า ได้อยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๔๖ หลวงปู่เคน เขมาสโย ท่านไปจำพรรษาที่วัดถ้ำสหายกับหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร เนื่องจากหลวงปู่เคนท่านอาพาธ หลวงพ่อจันทร์เรียนเลยอาราธนานิมนต์ท่านไปอยู่ด้วย ท่านเล่าว่าสมัยอยู่วัดป่านิโครธาราม ญาติโยมเอาหลวงพ่อจันทร์เรียนไปฝากท่านให้สอนขานนาคเนื่องจากหลวงปู่อ่อน ญาณสิริไม่อยู่ เพราะหลวงปู่อ่อนไปทำธุระที่กรุงเทพ ฯ ที่แรกท่านว่าจะไม่รับ รอหลวงปู่อ่อนกลับมาค่อยเอามาฝากหลวงปู่อ่อนใหม่ ญาติโยมไม่ยอม จำเป็นท่านเลยรับไว้ และก็สอนขานนาคให้ หลวงพ่อจันทร์เรียน นึกถึงบุญคุณครูบาอาจารย์สมัยหลวงปู่เคน ท่านเคยสอนนาค และอยู่อบรมธรรมด้วยกันมาเสมอ

    หลวงปู่เคน เขมาสโย มีเพื่อนสหธรรมิกที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก คือ
    ๑.หลวงปู่ประสาร ปัญญาพโล วัดคามวาสี บ้านหนองดินดำ ต.ตาลโกน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ท่านมรณภาพแล้ว เมื่อวันพุธที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
    ๒.หลวงปู่สมัย ทีฆายุโก วัดป่าโนนแสงทอง ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ท่านมรณภาพแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
    ๓.หลวงปู่เกิ่ง วิทิโต วัดป่าสามัคคีบำเพ็ญผล บ้านนาเตียง ต.ตาลเนิ้ง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ท่านมรณภาพแล้ว วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๖

    หลวงปู่เคน เขมาสโย ท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูง อารมณ์ดี เยือกเย็นเสมอ พร้อมให้การสังเคราะห์ต่อศรัทธาญาติโยม ท่านมีอัธยาศัยเป็นพระที่ไม่ค่อยเก่งในการปฏิสัณฐานกับศรัทธาญาติโยมมากนัก เรียกว่าไม่ค่อยพูด นอกเสียจากว่านาน ๆ ครั้งองค์ท่านก็มีเมตตาสอนให้ข้อคิดคติธรรมบ้าง ในลักษณะคำสอนสั้น ๆ แต่ก็ถึงใจกับลูกศิษย์ลูกหา เมื่อได้น้อมใจที่พยายามเข้าใจในธรรมที่องค์ท่านเมตตาสอน ทั้งผิวพรรณขององค์ท่านก็สดใส ขาวผ่อง สมกับความเป็นพระอริยเจ้าผู้มีคุณธรรมขั้นสูง หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ศิษย์ผู้มีความผูกพันกับหลวงปู่เคน เคยกล่าวไว้ว่า "พระผู้เฒ่าไม่ต้องห่วงแล้ว ท่านสบายแล้ว”

    หลวงปู่เคน เขมาสโย ท่านได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จยุพราชสว่างแดนดิน เนื่องจากลื่นหกล้มที่กุฏิ ในช่วงก่อนวันคล้ายวันเกิดในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งทำให้สะโพกท่านหัก ภายหลังจึงได้นำตัวท่านส่งไปโรงพยาบาลสกลนคร และได้ละสังขารลงด้วยสาเหตุไตวาย เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๔๕ นาฬิกา ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา สิริรวมอายุ ๘๖ ปี ๗ วัน พรรษา ๖๓



    ราคา 950 บาท ท่าน j999



     
  8. อาทิตย์03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1,072
    ค่าพลัง:
    +767
    จองครับ
     
  9. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1782. เหรียญหลังโต๊ะหมู่ หลวงพ่อผาง จิตตฺคุตโต วัดอุดมคงคาครีรีเขตร์ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ปี 2521 เป็นเหรียญโต๊ะหมู่รุ่นเเรกเเละรุ่นเดียวของท่านครับ หายากมาก

    เป็นเหรียญที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) จัดสร้างขึ้นในปี ๒๕๒๑ ซึ่งเป็นช่วงที่พลตำรวจเอก เภา สารสิน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส. จัดว่าเป็นเหรียญดีที่หายากอีกเหรียญหนึ่ง เหรียญนี้เป็นเหรียญเก่าเก็บ สภาพเดิมๆ ครับ



    หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต เป็นพระสงฆ์ผู้มีจิตใจเมตตาอยู่เสมอ ท่านบำเพ็ญพรหมวิหารธรรม เมตตาบารมีของท่านนี้เป็นกระแสธรรมที่นุ่มนวลเยือกเย็น ภายในวัดอุดมคงคาคีรีเขต มีบึงเป็นที่อาศัยของจระเข้อยู่แห่งหนึ่ง ทราบว่ามีอยู่หลายตัว บางคราวน้ำป่าหลากมามาก ทำให้จระเข้หนีไปอยู่ในถิ่นอื่น หลวงปู่ต้องตามไปบอกให้กลับมาเฝ้าวัดที่บึงแห่งเดิม และจระเข้ก็กลับมาจริงๆ ด้วย

    มีเรื่องเล่ากันว่า วันที่หลวงปู่มรณภาพ จระเข้ลอยไปทางด้านเหนือของบึงและร้องเสียงดังอยู่เป็นเวลานาน คล้ายจะบอกให้รู้ว่า หลวงปู่จะจากพวกเราไปแล้ว และเป็นการแสดงถึงความอาลัยอาวรณ์ของสัตว์

    คราวหนึ่งได้มีการสร้างกุฏิในบึงดังกล่าว พวกช่างไม้กล้าลงไปปักเสาในน้ำเพราะกลัวจระเข้ หลวงปู่ต้องลงไปยืนแช่ในน้ำ คอยไล่ไม่ให้จระเข้เข้ามารบกวนพวกช่าง เมื่อถูกถามว่าไม่กลัวจระเข้หรือ หลวงปู่ตอบว่า เลี้ยงมันมาแต่เล็กแต่น้อยจะไปกลัวมันทำไม อีกเหตุการณ์หนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงพลังเมตตาบารมีของหลวงปู่คือ หลายครั้งที่เกิดเหตุไฟป่าใกล้กับบริเวณวัด บรรดาสัตว์ป่านานาชนิดกระเสือกระสนหนีไฟเข้าไปอาศัยในเขตวัด ส่วนพวกที่หนีไฟไม่ทันเพราะหมดกำลังและยังอ่อนก็ถูกไฟไหม้ตายเป็นกองอย่างน่าเอน็จอนาถ หลวงปู่ย่อมเห็นเหตุการณ์โดยตลอด ด้วยพลังแห่งเมตตาธรรมที่มีอยู่ในใจเป็นเหตุให้หลวงปู่ต้องอดอาหารเป็นเวลาหลายวัน เข้านั่งสมาธิเพื่ออุทิศกุศลผลบุญให้แก่สัตว์ที่ถูกไฟไหม้ตาย

    หลวงปู่ผางเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามพระธรรมวินัย ท่านเป็นผู้มีจิตใจเข้มแข็งแก่กล้ามาก ปฏิภาณไหวพริบเฉียบแหลม อีกทั้งวาจาของท่านที่พูดออกมาก็มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นจริงดังคำพูดของท่านเสมอ



    ราคา 550 บาท ปิดรายการ



     
  10. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ
     
  11. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1783. เหรียญรุ่นเเรก หลวงปู่บัวทอง อัตตทันโต วัดเหล่าหลวง หรือ วัดป่าอรัญญวิเวก ตำบลวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ปี 2539 ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ขาว อนาลโย ปัจจุบันลูกศิษย์ลูกหาท่านเยอะมากครับ วัตถุมงคลก็หายาก ราคาก็เเรงขึ้นเรื่อยๆครับ



    ราคา 850 บาท



     
  12. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1784. เหรียญรุ่นเเรก เจ้าปู่-ย่า ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ปี 2524 หายากสุดๆ
    พระพิธีใหญ่อธิฐานจิตโดยพระกรรมฐานในจังหวัดอุดรธานี ประสบการณ์สูง นับเป็นเหรียญยอดนิยมหายากเหรียญของอุดรธานีครับผม น่าเก็บครับ

    ราคา 750 บาท ท่าน j999


     
  13. j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ขอจองครับ
     
  14. j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ขอจองครับ
     
  15. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1785. พระบูชารุ่นเเรก หลวงปู่ดีเนาะ วัดมัชฌิมาวาส จ.อุดรธานี ปี 2512 รุ่นเเรกเเละรุ่นเดียวของท่าน ที่ทันท่านปลุกเสก ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว สร้างจำนวนน้อย เเละหายากสุดๆครับ เก่าถึงยุด เเท้เเน่นอนครับ



    ถ้าเอ่ยชื่อของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดอุดรธานี โดยเฉพาะในเขตเทศบาลแล้ว ชื่อของ พระเทพวิสุทธาจารย์ เจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดมัชฌิมาวาสนั้น น้อยคนที่จะรู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ถ้าเอ่ยชื่อถึง "หลวงปู่ดีเนาะ" แล้วทุกคนจะรู้จักท่านเป็นอย่างดี เพราะท่าน หลวงปู่ดีเนาะที่ว่านี้ ท่านเป็นพระสงฆ์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า พระเกจิอาจารย์ที่มีประชาชน พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพ นับถือมากไม่แพ้พระเกจิอาจารย์รูปอื่น ๆ ในประเทศไทยเลยทีเดียว

    “พระเทพวิสุทธาจารย์ (บุญ ปุญญสิริ)” หรือ “หลวงปู่ดีเนาะ” นามเดิมว่า บุญ ปลัดกอง เกิดที่บ้านดู่ ต.บ้านดอน อ.ปักธงชัย จ. นครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๕ โยมบิดาชื่อ นายทา ปลัดกอง โยมมารดาชื่อ นางปาน ปลัดกอง เมื่อมีอายุได้ ๑๙ ปี ครอบครัวของท่านได้อพยพย้ายถิ่นฐานอาศัยจากจังหวัดนครราชสีมา มาอยู่ที่บ้านทุ่งแร่ ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ในปัจจุบันนี้

    เมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดบ้านโนนสว่าง บ้างทุ่งแร่ นั่นเอง และต่อมาอีกหนึ่งปี ท่านก็ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดบ้านบ่อน้อย ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี มีพระอธิการกัน วัดสระบัว บ้านสร้างแป้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปุญญสิริ” เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้วนั้น ได้ไปจำพรรษาอยู่ ณ วัดบ้านโนนสว่าง บ้านทุ่งแร่ อยู่ ๓ พรรษาจึงได้ย้ายสำนัก ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดมัชฌิมาวาส เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ และท่านหลวงปู่ดีเนาะก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ และได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงแก่มรณภาพ

    ฉายาว่า “หลวงปู่ดีเนาะ” ความเป็นมาของฉายาดังกล่าวนั้น เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ศิษย์และประชาชนทั่วไปที่เคยใกล้ชิดกับท่าน ได้กล่าวว่า ตามปกติวิสัยของท่านหลวงปู่ดีเนาะนั้น ท่านชอบอุทานหรือกล่าวคำว่า “ดีเนาะ” และคำว่า “สำคัญเนาะ” และท่านจะเรียกคนทั่วไปรวมทั้งพระภิกษุและสามเณร หรือคฤหัสถ์ ว่า “หลวง” เวลาท่านหลวงปู่ดีเนาะจะพูดคุยกับใครก็ตาม ท่านก็จะออกปากเรียกคนที่ท่านคุยด้วยว่า “หลวง” และเมื่อท่านจะต้องกลายเป็นผู้รับฟังนั้น ท่านก็จะมีคำอุทานวาจาว่า “ดีเนาะ” อยู่เป็นอาจินต์ ไม่ว่าเรื่องที่ท่านได้รับฟังนั้นจะเป็นดี หรือเรื่องร้ายเพียงใดก็ตาม ท่านหลวงปู่ดีเนาะก็จะเอ่ยปากอุทานว่า ดีเนาะ หรือ สำคัญเนาะ จากคำอุทาน หรือคำพูดที่ท่านหลวงปู่ติดปากนี้เอง ประชาชนและลูกศิษย์ของท่านหลวงปู่ จึงตั้งฉายาหรือสมานามท่านหลวงปู่ว่า “หลวงปู่ดีเนาะ” แม้กระทั่งในการได้รับ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ของท่านนั้น ราชทินนามของท่านก็ยังมีคำว่า “สาธุอุทานธรรมวาที” ซึ่งแปลว่า “ดีเนาะ” อยู่ในราชทินนามของท่านด้วย

    “พระเทพวิสุธาจารย์” ได้เลื่อนสมณศักดิ์ตามกาลเวลาเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในพระราชทินนามที่ “พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ปูชนียฐานประยุต เชษฐวุฒิอิสาน คณาธิกร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” และซึ่งก่อนหน้านั้นท่าน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส เมื่อยังคงเป็นพระปุญญสิริ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๑ นับว่าเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๓ ของวัดมัชฌิมาวาส

    เหรียญและตะกรุดหลวงปู่ดีเนาะนั้น ในเรื่องของประสบการณ์นั้น คนที่เคยมีสิ่งของเหล่านี้ มีเรื่องที่เล่าและกล่าวถึงมากพอสมควร และไม่ใช่เฉพาะแต่ในหมู่ของพุทธศาสนิกชนชาวไทยเท่านั้น แม้แต่คนที่อยู่ในศาสนาอื่นก็ยังให้ความเคารพนับถือท่านหลวงปู่ กล่าวคือในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ในขณะนั้นสถานการณ์สงครามเวียดนามกำลังทวีความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ทหารอเมริกันถูกส่งเข้ามาประจำการตามฐานทัพต่างๆ ในประเทศไทยเพื่อรอการเดินทางไปทำการรบในสนามรบที่ประเทศเวียดนาม และมีทหารอเมริกันส่วนหนึ่งที่อยู่ในประเทศไทย ที่ได้ผู้หญิงไทยเป็นภรรยา และเมื่อสามีที่เป็นทหารอเมริกันจะเดินทางไปรบเวียดนาม ด้วยความเป็นห่วงสามี ภรรยาคนไทยก็เลยเอาเหรียญหลวงปู่ดีเนาะแขวนคอสามีไป จะด้วยเหตุอภินิหาร หรือด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่านหลวงปู่ดีเนาะ ก็ไม่มีใครตอบได้ ทหารอเมริกันคนนั้นออกทำการลาดตระเวนไปในพื้นที่ โดยใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เป็นพาหนะ และเครื่องบินลำดังกล่าวถูกฝ่ายตรงข้ามยิงตก ทหารหน่วยลาดตระเวนดังกล่าวเสียชีวิตเกือบหมด รวมทั้งนักบินประจำเครื่องด้วย ส่วนทหารอเมริกันที่ห้อยเหรียญหลวงปู่ดีเนาะ เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต เมื่อได้รับการรักษาตัวจนหายเป็นปกติดีแล้ว และได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมาพักผ่อนในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง จึงได้พาพรรคพวกที่เป็นทหารด้วยกันมาประเทศไทยด้วย

    ราคา 7,500 บาท ท่าน j999

    ราคานี้หาไม่ได้อีกเเล้วครับ



     
  16. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203

    รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ
     
  17. j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ขอจองครับ
     
  18. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ
     
  19. ktv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    1,148
    ค่าพลัง:
    +1,156
    โอนแล้วครับ 29/01/61 เวลา 12.41 น.จำนวน 650 บ.ที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง pm ครับ ( 1775. เหรียญช้างหมอบเล็ก " หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม " ปี 2521 เนื้อทองเเดง )
     
  20. Thunder Rnk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2013
    โพสต์:
    6,412
    ค่าพลัง:
    +203
    1786. “เหรียญรับทรัพย์” หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ. เชียงใหม่ พ.ศ. 2556 ชุดกรรมการ(1 ชุด มี 4 เหรียญ เนื้อเงิน-ดีบุก-นวะโลหะ-ขวานฟ้า) ตอก 2 โค๊ต

    ที่สุดแห่งเหรียญรับทรัพย์ ที่สุดแห่งความงามความประณีต ประวัติการสร้างชัดเจน โดยองค์หลวงพ่ออนุญาตอย่างเป็นทางการ เจตนาการสร้างบริสุทธิ์เพื่องานบุญ ... เหรียญรุ่นนี้ หลวงพ่อเมตตาอธิฐานจิตเดี่ยว ที่วัดศรีมุงเมือง วัดที่หลวงพ่ออุปถัมป์และอนุญาตให้สร้าง มหาวิหารแห่งบุญ "วิหารไทลื้อ ปุญมากโร" แห่งเดียวในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหรียญที่เน้นไปทางด้านเมตตามหาลาภ ไม่กิน ไม่มีอด รับทรัพย์ โดยเฉพาะ




    ท่านพระอาจารย์ประสิทธิ์ ปุญญฺมกโร เป็นคนจังหวัดอุดรธานี หมู่บ้านหนองบัวบาน ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ ซึ่งบ้านใกล้กับวัดนิโครธาราม
    สมัยนั้นมี หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นเจ้าอาวาส และตัวท่านได้เข้าวัดตั้งแต่ เด็ก
    เมื่ออายุครบ 18 ปี ก็บวชเป็น สามเณร และบวชเป็นพระเมื่ออายุครบ 20 ปี
    คอยปฎิบัติรับใช้หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ อยู่ตลอดเรื่อยมา

    เมื่อหลวงปุ่อ่อน ญาณสิริ ได้มรณภาพลง ท่านก็ได้ไปปฎิบัติ และอยู่กับ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย
    ค่ำคืน เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากในวัดปัจจุบัน ทั้งๆ ที่วัดเองก็มีไฟฟ้าเข้ามาถึงด้านหน้าแล้ว ก็เพียงได้ ใช้อาศัยเปิดเป็นบางจุดสำหรับศาลาด้านหน้า
    แต่กุฎิต่างๆ ภายในวัด ไม่ใช้ไฟฟ้า เพราะท่านอาจารย์ ประสิทธิ์ ท่านไม่ต้องการให้มี ไฟฟ้า ใน กุฎิ เพื่อที่พระ-เณร และญาติโยมสามารถปฎิบัติภาวนาได้ โดยไม่มีสิ่งอื่นมาล่อใจ หรือไขว้เขวได้

    น้ำใช้สอยก็ไม่ขาดแคลนอาศัยน้ำจากชลประทานแม่แตง แต่ภายในวัดก็ยังมี บ่อน้ำ สำหรับผู้ที่ ประสงค์จะใช้สอยได้ ซึ่งน้ำบ่อก็เย็นและใสสะอาด สามารถใช้อาบ,สรงน้ำ หรือซักจีวรหรือ เสื้อ ผ้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งดูคล้ายวิถีการใช้ชีวิตของคนสมัยโบราณ ซึ่งหาดูได้ยากเต็มทีในปัจจุบัน น้ำดื่มก็ได้อาศัยน้ำฝน โดยเก็บในแท็งค์ปูนหรือภาชนะเก็บน้ำฝนตามจุดต่างๆ ภายในวัด

    องค์ประกอบต่างๆ นี้ ทำให้วัดป่าหมู่ใหม่ ทั้งที่อยู่ในเมือง ก็กลายเป็นวัดป่า ที่ดูโบราณ เก่าแก่ ดูศักดิ์สิทธิ์ และมีเสน่ห์ ต่อผู้เข้ามาสัมผัสและพบเห็น สมกับเป็นวัดป่าจริงๆ ที่พระ-เณร และญาติธรรมทั้งหลาย เข้ามาปฏิบัติกันเพื่อมรรค ผล นิพพาน อย่างแท้จริง


    ภาพหลวงปู่จันทร์เรียน กับหลวงพ่อประสิทธิ์
    ท่านเป็นหลานแท้ๆของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่จนสิ้น ก็ไปเป็นศิษย์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าโคกมน ปรนนิบัติจนหลวงปู่สิ้น ลูกศิษย์นิมนต์ให้ไปอยู่เชียงใหม่ สร้างวัดป่าหมู่ใหม่ครับ ท่านเป็นพระอรหันต์ เมื่อปี 2545 หลวงพ่อเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ แขนขององค์หลวงพ่อไถลไปกับพื้น ลูกศิษย์พาไปโรงพยาบาลสวนดอก เอ็กซเรย์ ปรากฎว่า ภาพดำไปหมด(ส่วนที่แข็งจะเป็นสีขาว)หมองง เอ็กซเรย์ใหม่ เหมือนเดิม แสดงว่ากระดูกใสเป็นแก้ว(พระธาตุ)ไปแล้วครับ ฮือฮากันทั้งโรงพยาบาลสวนดอก


    ชุดนี้มีเเต่เนื้อหลักๆทั้งนั้นครับ หายากสุดๆ ปัจจุบันเนื้อทองเเดงก็เล่นหากัน 500 บาทขึ้นไปเเล้วครับ

    ราคา 2,950 บาท ปิดรายการ

    เฉพาะเหรียญเนื้อเงิน นวะ ดีบุก ก็เล่นหากันหลักพันเเล้วครับ ชุดนี้สุดคุ้มจริงๆครับ



     

แชร์หน้านี้