**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9652

    เหรียญพระอุปคุต วัดอมราวาส เนื้อเงินตอกโค๊ต เลี่ยมโบราณ สวยเเชมป์

    พิธีปลุกปลุกเสกพร้อมเหรียญครูบาผาผ่า ปี2517
    เหรียญอุปคุต วัดอมราวาส " ครูบาขิ่นตอง" เป็นผู้จัดสร้าง ประมาณราวปี16 ครูบาท่านปลูกเสกทั้งและปี 17 ทำการแจก คณะศรัทธาญาติโยม ที่มาทำบุญ เดิมชื่อ วัดป่าเห้ว พระดีเเม่ฮองสอน มีประสบการณ์ด้านเมตตา มหานิยมสำหรับการทำมาค้าขาย และโชคลาภ ดีนักแล
    พระดีเเม่ฮองสอน มีประสบการณ์ด้านเมตตา มหานิยม
    เนื้อเงินจำนวนน้อยมาก หายากมากเหรียญนี้เลี่ยมโบราณสวยเเชมป์ผิวเดิมๆ เหรียญในตำนาน ของแม่ฮองสอนครับ

    ราคา 8999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_43.jpg Clip_44.jpg Clip_47.jpg Clip_48.jpg Clip_49.jpg Clip_50.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9653

    เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัยวัดพระธาตุสบฝางปี 2518เนื้อเงิน มีจาร ผิวรุ้ง หายากสุดๆ

    ปี พ.ศ. 2467 ท่านครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ได้เดินธุดงค์ไปเมืองเชียงแสน และได้แวะพักแรมอยู่ที่วัดพระธาตุสบฝางได้เห็นเจดีย์เก่าและชำรุดทรุดโทรมมาก จึงให้โยมอุปัฏฐากนำหนังสือไปให้เจ้าเมืองฝาง เพื่อขออุปถัมภ์ที่จะบูรณะครั้งนั้นมิได้ต่อเติมหรือดัดแปลงรูปทรงองค์พระเจดีย์ให้ผิดไปจากทรงเดิมเพียงแต่ก่อและห่อหุ้มองค์พระเจดีย์ให้สมบูรณ์เท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ.2532 พระครูวุฒิญาณพิศิษฐ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอแม่อายได้ย้ายขึ้นมาอยู่ จำพรรษาบนดอยนี้ ได้สร้างอุโบสถจตุมุธและวิหารปฏิบัติธรรม โดยได้รับการอุปถัมภ์จากคุณอเนก ฮุนตระกูล จากกรุงเทพมหานคร พร้อมกับได้บูรณะองค์พระเจดีย์ โดยได้กะเทาะปูนเก่าออกทั้งหมดและฉาบใหม่ทั้งองค์และเปลี่ยนยอดฉัตรบนยอดดอยพระเจดีย์ด้วยให้สมบูรณ์และสวยงามเหมาะสมยิ่งขึ้นตราบเท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
    เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย ปี 2518 วัดพระธาตุสบฝาง อ.แม่อาย จ.เขียงใหม่ จัดสร้างโดย พระอาจารย์ธีระ ญาณวฺฒโฑ มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานอุปถัมภ์ให้เมตตามาอธิษฐานจิตร่วมกับครูบาชุ่ม วัดวังมุย และ คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิของล้านนาในสมัยนั้นน่าใช้มากๆครับ

    เนื้อเงิน มีจาร ผิวรุ้ง หายากสุดๆ

    บูชาแล้วครับ


    fi.jpg Clip_9.jpg hjg.jpg sdf.jpg g.jpg cfp.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9654

    พระปิดตาพิมพ์รุ่นแรกพิมพ์เล็บมือใหญ่ครูบาสม โอภาโส วัดศาลาโป่งกว๋าว สอดตะกรุด สวยเดิมๆ

    ครูบาสม วัดโป่งกว๋าว สะเมิง สุดยอดพระเกจิท่านหนึ่งของเมืองเหนือ ที่ลูกศิษย์ของท่าน นิยมแสวงหาวัตถุมงคลของท่านมาใช้และมีประสบการณ์ทางด้านมหาอุดมานักต่อนักแล้ว ท่านได้ยึดถือตามรอยปฎิบัติ ของ ครูบาศรีวิชัยสม่ำเสมอตลอดชีวิตของท่าน คณะศรัทธา วัดศาลาโป่งกว๋าว โดยการนำของพ่อหลวง แก้ว ซึ่งมีความเลื่อมใสในวัตรปฎิบัติของ พระสม โอภาโส พร้อมใจกันอาราธนานิมนต์ ท่าน จากวัดสวนดอกมาเป็นผู้นำการพัฒนาวัดศาลาโป่งกว๋าว ต. สะเมิงเหนือ อ. สะเมิง หลังจากนั้นท่านได้สร้างวัตถุมงคลอีกหลายครั้งหลายคราวด้วยกัน ครูบาสม โอภาโส เป็นลูกศิษย์ผู้อุปฐากรับใช้ใกล้ชิดครูบาเจ้าศรีวิชัยรูปหนึ่ง ที่มีอาคมขลังยิ่ง ครั้งหนึ่งเคยเอาลูกระเบิดมาแกะเล่น ลูกระเบิดทำงาน ระเบิดกุฏิพังราบเรียบ จีวรขาดเป็นชิ้นๆ แต่ตัวท่านเองไม่ได้รับอันตรายอะไร นอกจากเหรียญรูปเหมือน รุ่น ๑ ของท่านที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในราคานิยมหลักพันต้นๆ พระปิดตาเนื้อผง ก้นอุดตะกรุด ก็ได้รับความนิยมไม่เเพ้กันครับผม
    ครูบาหนังเหยียว ท่านเก่งทางด้านคงกระพัน
    สอดตะกรุดน้ำบ่ห่าง ตามตำรา เหนียว มหาอุด สุด ๆ ครับ
    ท่านใดชอบสายเหนี่ยวไม่ควรพลาด

    ราคา 7999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    bnnv.jpg rg.jpg cvx.jpg ik.jpg vbvcc.jpg vbn.jpg fr.jpg ครูบาสม.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9655

    ตะกรุดยันต์แสนค้อนอ่อนหลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ วัดร้องขุ้ม จารมือ

    ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม สันป่าตอง เชียงใหม่ เป็นพระอริยะสงฆ์รูปสำคัญของเชียงใหม่ ศีลาจริยวัตรงดงาม มีเมตตาสูงมาก
    ……………………………………………………………เจ้าตำราวิชาเทียนเศรษฐีล้มลุกอันโด่งดัง...
    วิชา"เศรษฐีล้มลุก"นี้ ถือว่าเป็นวิชาคู่บุญบารมีครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้มก็ว่าได้ มีอานุภาพส่งเสริม"แก้ดวง หนุนดวง" และ"ส่งเสริมโชคลาภ"ให้บังเกิดขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผู้ใดมีบูชาไว้ ไม่มีจน เป็นเศรษฐี ไม่มีวันล้ม เพราะล้มแล้วก็ลุก
    ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธัมมปัญโญ พระอริยเจ้าผู้ทรงคุณอันประเสริฐสุดแห่งวัดร้องขุ้ม เชียงใหม่นี้ จัดเป็นของดีที่หาได้ยากยิ่ง ส่วนมาก จะตกแก่ศิษยานุศิษย์และผู้ที่มีวาสนาในยุคต้นๆเสียโดยมาก ยากจะหลุดรอดมาถึง"คนนอก"ในภายหลังได้
    ตะกรุดแสนค้อนอ่อน เป็นตะกรุดล้านนา ที่มีแบบแผนมาแต่โบราณถักเข้าชุดกัน ๔ ดอกยันต์ หัวใจสำคัญมี ๒ ดอกอยู่ตรงกลาง อาจทำเป็นตะกรุดม้วนคู่กัน หรือพับหน้ายันต์เข้าหากันคล้ายยันต์หนีบ ส่วนอีก ๒ ดอก หัวท้ายนั้นเป็นยันต์หนุนกำกับใว้
    ยันต์แสนค้อนอ่อนนี้ ตุ๊อุ้ยครูบาบุญปั๋นฯได้รับสืบทอดมาจากบูรพาจารย์ของท่านมา ยันต์แสนค้อนอ่อนเป็นยันต์เมตตาชั้นสูงของล้านนา มิใช่ยันต์ข่ามดังที่หลายท่านเข้าใจกันมา
    ขอขยายความ คำว่าแสนค้อนอ่อน คือเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร มาดแม้นมีผู้ปองร้ายหมายชีวิต คิดอันตรายตัวเรา ด้วยศาตราอาวุธ มีดซุย มุยค้อน สักแสนเล่ม ครั้นเมื่อได้เห็นหน้า ก็อ่อนใจ รักเอ็นดู เกิดเมตตาสงสาร กลับกลายเป็นสมานมิตรมีไมตรีจิตแก่เรา
    ชุดนี้สวยสมบูรณ์ถือเป็นสุดยอดยันต์เมตตาของท่านครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้มครับ


    คุณ j999บูชาแล้วครับ


    Clip_10.jpg Clip_11.jpg Clip_12.jpg Clip_13.jpg Clip_14.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2022
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9656

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระคงยุคต้น ลงรักเก่า

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล
    #องค์นี้พิมพ์คงยุคต้น ลงรักเก่าแห้ง แห้งดูง่ายมาก สุดคลาสสิคครับ

    ราคา 3599 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900
    hjh.jpg h[.jpg ccx.jpg Clip_20.jpg Clip_16.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2022
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9657

    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่มั่น ทัตโต วัดบ้านโนนเจริญ ปี 2519 เหรียญดังแห่งนาจะหลวย ตอกโค๊ต ม เดิมๆ

    หลวงปู่มั่น ทัตโต ยอดพระเกจิที่มีอายุกว่า 100ปีของ อำเภอนาจะหลวย ผู้ที่สามารถเปลี่ยนใจ ผกค.ในพื้นที่ให้กลับใจมาเป็นคนดีได้ หลวงปู่มั่น ทัตโต นอกจากจเชี่ยวชาญด้านคาถาอาคม ท่านยังเก่งด้านปฏิบัติกรรมฐานอีกด้วย วัตถุมงคลของหลวงปู่มั่น ทัตโต มีประสบการณ์สูงมากด้านค้มครองป้องกัน เหรียญของหลวงปู่มั่น เท่าที่พบเจอจัดสร้างไม่น่าเกิน 20 รุ่น เหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างปี 2519 หายากแล้ว ปลอมเยอะ หลวงปู่มั่น ทัตโต ถือกำเนิดที่ บ้านจิกก่อ อ.วารินชำราบ อุบลราชธานี เมื่อปี 2421 เมื่ออายุได้ 14 ปีบวชเป็นสามเณร ต่อมาได้บวชเป็นพระเมื่ออายุครบ 22 ปีหลังจากเกณฑืหาร ที่ วัดวารินทราราม อ.วารินชำราบ โดยมีพระครูวิจิตรธรรมภาณี เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชแล้วได้ศึกษาวิขาอยู่วัดวารินทราราม จนมีความรู้พอสมควรจึงได้ออกเดินธุดงค์แสวงหาวิชาความรู้เพิ่มเติม หลวงปู่มั่น ได้จำพรรษาและเป็นผู้ก่อตั้งวัดบ้านโนนเจริญ อ.นาจะหลวย ตั้งแต่ปี 2508 นอกจากวัดที่ท่านจำพรรษาแล้ว หลวงปู่มั่น ยังได้ช่วยเหลืออุปถัมถ์ในการก่อสร้างถาวรวัตถุให้วัดอื่นๆเช่น วัดบ้านบก อำเภอวารินชำราบ เป็นต้น หลวงปู่มั่น ได้มรณภาพเมื่ออายุได้ราว 104 ปี วันที่ 13 กันยายน 2524 ที่วัดโนนสมบูรณ์ อำเภอเดชอุดม อุบลราชธานี เมื่อมรณภาพแล้วอัฏฐิท่านกลายเป็นพระธาตุครับ

    บูชาแล้วครับ

    Clip_25.jpg Clip_26.jpg Clip_27.jpg Clip_28.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9658

    เหรียญปลอดภัย หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ปี2540 หลังยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า เนื้อฝาบาตร ทองพระธาตุ(ทองจังโก๋)


    #ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆเถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    เหรียญปลอดภัย หลังยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า เนื้ออัลปาก้า หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ปี2540
    เหรียญรุ่นนี้ขออนุญาตจัดสร้างโดย คุณเฒ่า สุพรรณ เมื่อปี 2540 เพื่อสมทบทุนสร้างมณฑป และเมรุ วัดหัวเด่น จังหวัดสุพรรณบุรี
    จำนวนการจัดสร้าง
    เนื้อนวะ ๓๐๐ เหรียญ
    เนื้ออัลปาก้า ๒,๐๐๐ เหรียญ
    เนื้อทองพระธาตุ(ทองจังโก๋) ๘,๐๐๐ เหรียญ
    คุณเฒ่า สุพรรณ ลูกศิษย์หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ได้ทำพิธีฯ ขออนุญาตหลวงพ่อกวย ใช้ยันต์มวงกุฏพระพุทธเจ้า และได้จุดธูปอัญเชิญขอท่านมาช่วยปลุกเสกด้วยค่ะ
    หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ได้เมตตาปลุกเสกให้ตลอด ๔ เดือน พอออกพรรษาจึงได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีก ๗ วัน ๗ คืน โดยพระเถระ ๑๐๘ รูป ณ วัดหม้อคำตวง (หลวงปู่ครูบาอิน ก็ยังไปร่วมพิธี) จากนั้นกลับมาถวายหลวงปู่ครูบาอิน ปลุกเสกซ้ำอีก ปรากฏว่าท่านเสกไม่เข้าแล้ว จนท่านต้องให้พระเลขาฯ โทร. มาติดต่อหนานขวัญผู้ประสานงาน ให้โทร. มาขอเหรียญนี้จากคุณเฒ่า สุพรรณ โดยให้เหตุผลว่า "กลัวคนเจียงใหม่จะบ่ได้ใช้ของดีๆ" ผู้สร้างจึงได้ถวายหลวงปู่ครูบาอินไว้แจก จำนวนประมาณ ๒ ถาดใหญ่ หลังจากนั้นผู้สร้างได้นำเหรียญที่เหลือมาเก็บไว้ที่ วัดหลวงปู่หม้อคำตวง โดยขอให้ท่านปลุกเสกให้ด้วย ซึ่งท่านก็เมตตาเสกให้ทั้งลังแบบนั้น แต่ท่านก็แปลกใจจนถามออกมาว่า "เป็นเหรียญไผ จะไดเสกบ่อเข้า ขอชมดูสักหน่อย" จึงให้กรรมการแกะลังออกดู เมื่อท่านได้เห็นเหรียญแล้ว ท่านถึงกับพูดขึ้นมาว่า "อ๋อ เหรียญท่านฟ้าหลั่งนี่เอง"
    เหรียญสวยเดิมๆน่าใช้มากๆครับ

    ราคา 2550 บาท บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_21.jpg Clip_23.jpg Clip_36.jpg Clip_40.jpg Clip_41.jpg Clip_42.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9659

    เหรียญหลวงพ่อวัดดอนตัย รุ่นพิเศษหลังยันต์วงกลม ปี 2520


    เป็นวัตถุมงคลของหลวงพ่อวัดดอนตัน เหรียญรุ่นนี้ได้ทำการจัดสร้างขึ้นในนามของวัดบุญยืน อ.เวียงสา จ.น่าน เมื่อปี 2520 โดยมี พระสาราธิคุณ (อินหวัน วิริยะธัมโม) เจ้าคณะอำเภอเวียงสา เจ้าอาวาสวัดบุญยืน(ในขณะนั้น) เป็นผู้ดำเนินการสร้าง เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้างวัดบ้านแขม(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น วัดพระเนตร) อ.เวียงสา จ.น่าน โดยมีพระสาราธิคุณ เจ้าคณะอำเภอเวียงสาในขณะนั้น ได้เมตตาเป็นประธานดำเนินการให้กับทางวัดบ้านแขม และจัดทำพิธิพุทธาภิเษกที่วัดบุญยืน
    พิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดบุญยืน อ.เวียงสา จ.น่าน โดยมีหลวงพ่อวัดดอนตันเป็นประธานพิธี และนั่งปรกปลุกเสกร่วมกับพระคณาจารย์ของจังหวัดน่าน อาทิเช่น หลวงพ่อวัดดอนตัน พระสาราธิคุณ หลวงปู่ไผ่วัดไผ่งาม พระครูพุทธมนต์โชติคุณ วัดศรีบุญเรือง และอีกหลายท่าน ยังมีผู้รู้บอกว่าในการปลุกเสกครั้งนี้ครูบาสมวัดเมืองรามก็ได้เข้าร่วมปลุกเสกในพิธีด้วย
    ถ้าดูรายนามคณาจารย์แล้วรุ่นนี้ถือว่าน่าใช้มากที่สุดครบเครื่องครูบาดังๆอันดับแนวหน้าจ.น่านเลยทีเดียว ถึงแม้ราคายังพอเช่าหาได้แต่ก็ไม่ค่อยมีของออกมาให้เห็นเท่าที่ควร การสร้างประมาณ 3,000 เหรียญ

    ประวัติหลวงพ่อวัดดอนตัน
    พระครูเนกขัมมาภินันท์(สุทวงศ์ พุทธวโส)มีชื่อเดิมว่าบุญทา ใจเฉลียวเกิดเมื่อวันที่๕ มกราคม พ.ศ.๒๔๓๙ ตรงกันกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๒ ปีวอก เกิดที่บ้านดอนตัน ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน บิดาชื่อนายคำเขียว ใจเฉลียว มารดาชื่อนางคำดี ใจเฉลียว มีพี่น้องทั้งหมด ๓ คน
    เมื่ออายุได้ ๑๖ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดดอนตัน เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ มีพระเตวินต๊ะ วัดสบหนอง เป็นพระอาจารย์บรรพชาและได้เปลี่ยนชื่อจาก บุญทา เป็น สุทธวงศ์ เมื่อถึง พ.ศ. ๒๔๖๐ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ โดยพระ เตวินต๊ะ วัดสบหนองเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอุปทะ วัดตาลชุม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระพรมเทพ วัดอัมพวัน ต.ตาลชุม เป็นพระอนุสา?-วนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พุทธวโส เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษา ณ วัดดอนตันและได้ศึกษาพระธรรมวินัยและศึกษาด้านคันถธุระด้วยความพากเพียรจนได้วุฒิความรู้ระดับนักธรรมโท นอกจากนั้นหลวงพ่อวัดดอนตันยังศึกษาด้านวิชาอาคม การเขียนอักขระเลขยันต์ การลงยันต์ การลงตระกรุด ต่อมาท่านได้อธิษฐานสมาทานออกธุดงค์วัตร บำเพ็ญสมาธิขัดเกลากิเลสและฝากตัวเป็นศิษย์กับครูอาจารย์ต่างๆ หลายสำนักทั้งบรรพชิตและฆราวาส โดยออกธุดงค์ถึงเมืองเชียงฮ่อนประเทศลาว แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์และไกลถึงอยุธยาและเมื่อพบพระสหธรรมิก ก็จะสนทนาแลกเปลี่ยนวิชา นอกจากนี้หลวงพ่อยังเคยเข้าพิธีอาบแช่น้ำว่าน(ภาษาล้านนาเรียกว่าอาบขาง)โดยหลวงพ่อได้เข้าพิธีอาบขางถึง ๗ หม้อ ๗ อาจารย์ การอาบแช่น้ำว่านเป็นเคล็ดวิชาด้าน คงกระพันชาตรี หนังเหนียว
    หลวงพ่อวัดดอนตันมีความเชี่ยวชาญด้านการลงตระกรุด ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ คุ้มครองป้องกันแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เช่น ตระกรุดโทน ตระกรุดสามแหลม ตระกรุดเมฆ-บังวัน ตระกรุดพุทธคุณหลวง ตระกรุด ๑๐๘ ดอก ผ้ายันต์ธงชัย โดยตระกรุด ผ้ายันต์และวัตถุมงคลของหลวงพ่อมีประสบการณ์คุ้มครองป้องกันภัยให้แก่ตำรวจ ทหารให้รอดพ้นอันตรายจากสมรภูมิต่างๆจนเป็นที่กล่าวขานและเล่าสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
    เมื่อต้นปี พ.ศ. ๒๕๒๓ สุขภาพหลวงพ่อเริ่มมีปัญหาด้วยเหตุจากความชรา หลวงพ่ออาพาธด้วยโรคชรามีอาการหลอดลมอักเสบและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลน่าน ต่อมาในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๓หลวงพ่อเริ่มอาพาธหนักและมรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา ๒๐.๒๕ ของวันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ รวมสิริอายุได้ ๘๕ ปี ๖๕ พรรษา

    ราคา 850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_33.jpg Clip_34.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9660

    เหรียญพระครูธรรมรัตนโพธิ วัดสวนหอม รุ่นแรก จ.น่าน หายากปี2494.

    พระครูธรรมรัตนโพธิ อดีตเจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน อดีตเจ้าอาวาสวัดสวนหอม
    ______________________

    เหรียญเกจิเกจิอาจารย์เป็นเหรียญแรกของเมืองน่าน.
    หายากมากครับ


    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_32.jpg Clip_35.jpg

    Clip_43.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9661

    เหรียญรุ่นแรกครูบาผาผ่า ปี 2517เนื้อนวะ ขอเบ็ด 11 ขีดนิยมสุด


    เนื้อนวะโลหะจัดสร้างเพียง 885 เหรียญ เหรียญยอดนิยมอันดับ 1 ของเเม่สะเรียง ตอกโค๊ต กว คมชัดลึก ผิวสวยเดิมๆไม่ผ่านการใช้ครับ วัตถุมงคลของท่านครูบา เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ให้ผลทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเภทภัยอันตรายต่างๆ นานา จนกลายเป็นพระเครื่องยอดนิยมของเมืองเหนือ · ตนบุญแห่งอำเภอแม่สะเรียง ผู้มีสมาธิจิตแก่กล้าแต่เยาวัย · สามารถหยั่งรู้จิตใจของคนอื่นและเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ · ผู้ถือมังสะวิรัติเคร่งครัดในพระกัมมัฎฐาน เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม · เป็นพระภิกษุรูปเดียวที่ครูบาเจ้าศรีวิไชย ยกย่องประกาศเกียรติคุณว่า มีบุญญาธิการบารมีแก่กล้า แต่ไม่ชอบแสดงตนและยอมรับว่าเป็น “ ตุ๊น้อง ” สวยเดิมๆไม่ผ่านการใช้น่าบูชามากครับ

    ราคา 5500 สนใจสอบถามได้ครับ0861936900


    Clip_9.jpg Clip_14.jpg Clip_15.jpg Clip_36.jpg Clip_40.jpg Clip_41.jpg Clip_54.jpg Clip_42.jpg Clip_44.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9662

    พระกริ่งรุ่นแรกหลวงพ่อดาบส สุมโน เนื้อนวะก้นจารตอกโค๊ต


    พระกริ่งอริยะดาบส สุมโน
    รุ่นสร้างพระเจดีย์ ดอยขุมเงิน อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นครั้งแรกที่พระอริยะดาบส สุมโน อนุญาตให้ศิษย์จัดสร้างพระเครื่องรุ่นแรก อธิฐานจิตโดยหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมเวฬุวัน เมื่อปี2531 เนื้อนวะสร้าง 2000 องค์ เนื้อเงิน สร้างไม่ถึง 100 องค์ แจกจ่ายแก่ผู้ร่วมทำบุญ บริจาคสร้างเจดีย์ดอยขุมเงิน อ.เมือง จ.ลำพูน ปัจจุบันพระกริ่งรุ่นแรกนี้หายากมาก ลูกศิษย์เขาเก็บกันหมด สำหรับองค์นี้เป็นพระกริ่งเนื้อนวะโลหะ ตอกโค๊ตลงจารย์ สภาพสวยมากผิวเดิม ๆพร้อมกล่อง
    หลวงพ่อดาบส สุมโน
    ท่านเป็นพระอริยะเจ้า เป็นพระบุญฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ เป็นพระสุปฏิปันโนที่ควรแก่การสักการะ กราบไหว้ เมื่อท่านมรณภาพแล้วขนาดหัวใจของท่าน ยังเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็นพระธาตุ สีเขียวมรกตครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน
    “หลวงพ่อดาบส สุมโน
    ” เดิมชื่อ “สง่า” นามสกุล “เจริญจิตต์”
    เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กัน ยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
    เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน
    บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง”
    ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ขณะอายุได้ ๗ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรมและต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุได้ ๑๑ ปี “เด็กชายสง่า” ก็ต้องสูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปอีกคน จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณป้า” และเริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่ ๑ โรงเรียนวัดบางกระไชย จบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘
    ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท”
    ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ อายุครบ ๒๐ ปี “สามเณรสง่า” จึงอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” โดยมีท่าน “เจ้าคุณอมรโมลี” เป็นอุปัชฌาย์ได้ฉายาว่า “สุมโน” กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๘๙ อันเป็นพรรษาที่ ๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” ได้กราบลา “พระอุปัชฌาย์” เพื่อเดินทางไปศึกษา “ภาษาบาลี” กับท่าน “เจ้าคุณรัชมงคลมุณี” วัดหนองบัว จังหวัดระยอง ต่อมาในปี
    พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี
    ปี พ.ศ.๒๔๙๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” เดินทางมาพำนักที่ “วัดเจดีย์หลวง” จัง หวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติธรรมกับ “เจ้าคุณวินัยโกศล” (จันทร์ กุสโล) หรือ “พระพุทธพจนวราภรณ์” แล้วจึงออกจาก “วัดเจดีย์หลวง” ธุดงค์ไปตามเส้นทางสู่ “อำเภอดอยสะเก็ด” อีกครั้งพร้อมลัดเลาะไปตามป่าเขาถึง “ดอยพระเจ้าหล่าย” วันนั้นเป็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” จึงตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “๓ วัน ๓ คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๓๔ สิริอายุได้ ๗๖ ปี
    “หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่านจึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป

    ราคา4999 สนใจสอบถามได้ครับ0861936900


    Clip_49.jpg Clip_50.jpg Clip_51.jpg Clip_52.jpg Clip_53.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9663

    เหรียญครูบาอภิวงศ์ วัดแม่ลอยไร่ เชียงรายปี19 บล็อกนิยม กะไหล่ทองสวยเดิมๆ


    เหรียญดังเมืองเทิง กะไหล่ทองกรรมาการสร้ายน้อยหายากมากครับ


    ราคา 2999 สนใจสอบถามได้ครับ0861936900

    Clip_60.jpg Clip_61.jpg Clip_62.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9664

    เหรียญรุ่นแรกครูบาคำอ้าย วัดดอนเจดีย์ ปี 2528
    ตอกโค๊ต เดิม ๆ

    เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์และเป็นเหรียญนิยม อันดับหนึ่งของ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน น่าใช้มากๆครับ

    บูชาแล้วครับ

    Clip_55.jpg Clip_56.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9665

    เหรียญรุ่นแรกพระแก้วมรกต วัดพระธาตุลำปางหลวง บล็อกสระอะจุดนิยม

    พระแก้วดอนเต้า เป็นพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งของไทยเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ วัสดุหยกสีเขียวเข้มขนาดหน้าตัก 6.5 นิ้ว สูง 8 นิ้ว ฐานสูง 17.75 นิ้ว ฐานกว้างตอนบน 7.75 นิ้ว ฐานกว้างตอนล่าง 10.75 นิ้ว ศิลปะแบบเชียงแสนตอนปลาย นับเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง ประดิษฐานอยู่ในกุฏิพระแก้ว วัดพระธาตุลำปางหลวง พระแก้วดอนเต้า วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นพระแก้วที่สวยงามมากองค์หนึ่ง เป็นพระศิลปะเชียงแสนสิงห์สาม ปลายสังฆาฏิยาวลงมาจรดพระนาภี (สะดือ) พระพักตร์เป็นรูปทรงรีหรือรูปไข่ พระเกศเป็นต่อม พระกรรณยาวสยายปลายโค้งบานออก องค์พระประทับนั่งสมาธิราบมือประสานบนตักเล่าเป็นตำนานว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ไว้ เมื่อทรงดับขันธ์ปรินิพพานล่วงมาแล้ว ๑,๐๐๐ ปี จะมีผู้มีบุญจากดาวดึงส์ลงมาจุติและได้บวชเป็นพระเถระ การณ์เป็นดังคำพยากรณ์ พระมหาเถระนั้นดำริสร้างพระพุทธรูป แต่ยังไม่ปลงใจเลือกวัสดุใด พญานาคในลำน้ำวังจึงนำแก้วมรกต (หรือ "แก้วกายสิทธิ์") ใส่ในหมากเต้า คือ แตงโมในไร่ของนางสุชาดาผู้อุปัฏฐาก นางสุชาดาเก็บแตงโมไปถวายพระมหาเถระเมื่อผ่าออกพบก้อนมรกตจึงนำมาจะแกะสลักเป็นพระพุทธรูป ก็พยายามแกะพระพุทธรูปขึ้น แต่ก็แกะไม่สำเร็จเพราะเนื้อแข็งมาก จนกระทั่งมีตาปะขาวซึ่งเป็นเทวดาปลอมตัวมาอาสาแกะพระให้ เมื่อแกะเสร็จตาปะขาวก็หายไป ครั้นเมื่อพระมหาเถรและนางสุชาดาทำการสมโภชแล้วก็ถวายพระนามพระพุทธรูปแก้วมรกตองค์นั้นว่า "พระแก้วดอนเต้า" ต่อมาพระมหาเถระและนางสุชาดาถูกเจ้าผู้ครองนครลำปางสั่งประหาร โดยมีผู้ใส่ความว่าเป็นชู้กับพระมหาเถระ ก่อนตายนางได้ตั้งสัตยาธิษฐานว่า ถ้าตนไม่มีความผิดขอให้เลือดพุ่งขึ้นสู่อากาศ เป็นการประกาศความบริสุทธิ์เพื่อให้พระมหาเถระพ้นข้อครหา เหตุการณ์เป็นดังคำอธิษฐานของนาง เมื่อพระมหาเถระพ้นจากความผิดจึงอัญเชิญพระแก้วไปประดิษฐานยังวัดพระธาตุลำปางหลวงตราบถึงปัจจุบัน

    ราคา 550 บาทสนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_67.jpg Clip_68.jpg Clip_73.jpg Clip_74.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9666

    รูปหล่อโบราณรุ่นแรกครูบาพรหมาวัดพระพุทธบาทตากผ้า ปี 2497 น้ำทองเดิมๆ


    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ครูบาพรหมา” หรือบ้างก็เรียก “ครูบาพรหมจักร” ท่านเปรียบดั่ง “เจ้าคุณนรแห่งล้านนา” ด้วยความมั่นคงในพระวินัย จริยาวัตรอันเรียบร้อยสงบเสงี่ยม เมตตาอันล้ำเลิศ ไม่ผิดพลาดไปจากพระธรรมแม้สักนิด อีกทั้งยังมีจิตที่ทรงฤทธิ์ ถึงขนาดเหยียบหินให้เป็นรอยเท้าได้ ถึงขนาดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไท ยังต้องนัดขอดูตัวด้วยความชื่นชม และท่านยังเป็นอาจารย์ของครูบาชัยวงศาพัฒนาผู้มีฤทธิ์ยอดยิ่งอีกต่างหากด้วย ประวัติ วัยเด็ก ท่านมีนามเดิมว่า พรหมา พิมสาร กำเนิดวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2441 ที่บ้านป่าแพ่ง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของ นายเป็งกับนางบัวถา พิมสาร มีพี่น้องร่วมกัน 13 คนท่านครูบาพรหมมาได้เรียนหนังสืออักษรลานนาและไทยกลางที่บ้านจากพี่ชายที่ได้บวชเรียน บรรพชาและอุปสมบท ครูบาเจ้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2455 เวลา 15.00 น. ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง มีเจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้หมั่นศึกษาเล่าเรียน ปฎบัติธรรม และประพฤติในศีลาจารวัตรอย่างเคร่งครัด ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดเดิมเมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2461 เจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฮอน โพธิโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สม สุวินโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมจักโก” กระทั่งพรรษาที่ 4 ท่านได้เริ่มต้น เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ทั้งเขตประเทศไทย พม่า และลาว กระทั่งในปีพ.ศ.2491 ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้พัฒนาวัดจนมีชื่อเสียงเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เองทำให้ ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธบริษัทโดยทั่วไป ละสังขาร ครูบาเจ้าพรหมาได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 06.00 น.อายุ 87 ปี 67 พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2531 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมาด้วยพระองค์เอง หลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่าอัฐิของครูบาเจ้าพรหมาได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ หลายสี คำสอน ครูบาพรหมาท่านได้แสดงธรรมโอวาทไว้มากมาย “การทำบาปหรือการทำบุญ จะทำในที่ลับหรือในที่แจ้ง หรือใครไม่รู้ไม่เห็น ก็ตัวของเรา ใจของเรารู้เห็นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กล่าวได้ว่าที่ลับไม่มีในโลกนี้ แม้ว่าจะลับตาลับหูคนอื่น แต่เราก็รู้ เราก็เห็นคนเดียว” “ทุกๆคน จึงควรรีบขวนขวาย ซึ่งความงามความดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้านในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ความเฉลียวฉลาดความสามารถ เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อคุณงามวามดีให้ยิ่งๆกว่าเด็กและคนหนุ่มทั้งหลาย” “คนเราทุกคนมีความปรารถนาดี ปรารถนาหาความสุข ความปรารถนาหาที่ผึ่งในวัฏฏะสงสาร ท่านเปรียบเหมือนเราที่ตกอยู่ในกลางทะเลอันเวิ้งว้างกว้างไกลทุกคนก็มีความใฝ่ฝันหาที่ผึ่ง เพื่อที่จะได้อาศัยพักพิงไปยังฝั่งเบื้องหน้า” คำไหว้บูชาพระธาตุของครูบาพรหมา พรหมจักโก อะหัง วันทามิ พรหมจักกะธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส ฯ พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนาแห่งแดนล้านนา เสน่ห์ของหล่อแบบโบราณคราบขี้เบ้าน้ำทองเดิม ๆ เข้มขลังมากครับ

    ราคา 5850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_57.jpg Clip_58.jpg Clip_59.jpg Clip_63.jpg Clip_64.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9667

    เหรียญรุ่นแรกครูบาเทือง วัดบ้านเด่น เนื้อนวะโลหะ

    ครูบาเทือง นาถสีโล (พระครูไพศาลพัฒนโกวิท)
    เจ้าอาวาส วัดบ้านเด่น (วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ อายุ 53 ปี พรรษา 33 แม้ว่าทั้งอายุและพรรษาไม่มาก แต่ท่านมีปฏิปทา น่ากราบไหว้ สงบเสงี่ยม หากจะประมวลภาพรวมความเป็น ครูบาของท่าน จะได้ดังนี้


    ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโลครูบาเจ้าเทือง นาถสีโลพระครูไพศาลพัฒนโกวิท


    สถิต ณ วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

    นามเดิมครูบาเจ้าเทือง หน่อเรืองฉายานาถสีโลเกิด๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๕ เหนือ ปีมะโรง (ปีสี)

    “ครูบาอ่อนน้อมถ่อมตน-ฝึกฝนปฏิบัติ-เคร่งครัดพระธรรมวินัย-จิตใจสุขุมเยือกเย็น-บำเพ็ญบารมี-ทำความดีเป็นนิจ-จิตเมตตาเสมอ”

    ตั้งแต่บวชเป็นสามเณรจนกระทั่งบวชเป็นพระครูบาเทือง ได้บำเพ็ญบุญบารมี ตามรอยแห่งครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาทุกประการ ถ้าพูดถึงทานการบริจาค ครูบาสามารถสร้างศาสนสถาน ถาวรวัตถุ ไม่แต่เฉพาะใน จ.เชียงใหม่ เท่านั้น ทุกจังหวัดในภาคเหนือครูบา ได้ประดิษฐานพระพุทธ ศาสนาอย่างทั่วถึงและมั่นคง ท่านสร้างทั้งโบสถ์ วิหาร เจดีย์ พระพุทธปฏิมา ศาลากุฏิสงฆ์ ฯลฯ

    ในด้านการปฏิบัติ ครูบานับเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งที่เข้าถึงธรรม และมีข้อวัตรอย่างเคร่งครัด โดยยึดข้อปฏิบัติตามสมัยโบราณ ตามครูบาอาจารย์ที่สืบๆ กันตาม โดยวิธีปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเคร่งครัด โดยเฉพาะวิปัสสนากรรมฐาน ในด้านการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ครูบาเสียสละปัจจัยไทยธรรมที่มีผู้ถวาย บริจาคช่วยเหลือแก่ส่วนราชการ องค์กร ชมรม สโมสร ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวไทยภูเขา ตั้งแต่ข้าว ผ้า ยา บ้าน การศึกษา น้ำประปา ไฟฟ้า ถนนหนทาง มากมายมหาศาล

    “เป็นพระต้องพูดจริง ต้องทำจริง และต้องรู้จริง”

    เป็นคติธรรม ที่ครูบาเทืองยึดปฏิบัติเรื่อยมาผลจาก ความจริงที่ท่านบำเพ็ญ เพียรภาวนา ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวช เทศนา พัฒนาชุมชนบน พื้นฐานของข้อ วัตรปฏิบัติที่ปราศจากการใส่ร้ายป้ายสีโจมตีบีทา ครูบารักษาศีล ไม่เห็นแก่กิน ไม่เห็นแก่นอน ฝึก สอนใจตนเอง ตลอดเวลา รวมทั้งการเสียสละสร้างศรัทธา นำพาถูกต้องปรอง ดองให้เห็น ดีเด่นใน คุณธรรม

    ที่มา หนังสือประวัติครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล วัดบ้านเด่น อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน


    สวยเดิมๆไม่ผ่านการใช้ครับ

    บูชาแล้วครับ

    Clip_69.jpg Clip_70.jpg Clip_71.jpg Clip_72.jpg Clip_75.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2022
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9668

    พระรอดชานหมากครูบาชัยวงค์ ฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์ สวยเดิมๆ เลี่ยมพร้อมใช้


    เมื่อ พ.ศ.2542 สร้างจากชานหมากที่หลวงปู่เคี้ยว ผสมผงเกสรดอกไม้ ธูปเทียน ที่หลวงปู่ใช้ไหว้พระ ด้านหลังฝังพระธาตุข้าวบิณฑ์ พุทธคุณแคล้วคลาด โชคลาภ เมตตา ครบครัน พระเนื้อชานหมากของหลวงปู่ที่ดังมากๆ คือ พระรอดชานหมาก ว่ากันว่ามีพุทธคุณเทียบเท่ากับพระรอดกรุมหาวันเลยทีเดียว เล่ากันปากต่อปากว่า หลวงปู่ท่านเคยพูดว่าในอดีตชาติท่านคือฤาษีวาสุเทพ ผู้ร่วมสร้างพระรอดลำพูนที่โด่งดัง เลยเชื่อกันว่าใช้พระรอดชานหมากของท่านก็ไม่ต้องไปหาพระรอดของแท้องค์เป็นล้านๆ และมีศิษย์หลายต่อหลายคนเคยได้พระรอดที่หลวงปู่คายออกมาจากปากหลังเคี้ยวหมากด้วยครับพุทธคุณทางด้านเมตตา แคล้วคลาด ชานหมาก หมายถึง การกินดูอยุ่ดีเหลือกินเหลือใช้ เมตตามหานิยม พระรอด พระเครื่องที่มีพุทธคุณทางเด่นทางด้านเมตตาแคล้วคลาด รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง รุ่นนี้มีหลายท่านนำไปใช้เเล้วเกิดประสบการณ์ "ประสบอุบัติเหตุรอดตายมาหลายครั้ง" เป็นพระเครื่องที่มากด้วยประสบการณ์ที่ลุกศิษย์ถามถึงกันมากครับ
    #องค์นี้ฝังเม็ดพระธาตุด้านหน้า

    สวย เดิมๆ เลี่ยมพร้อมใช้

    บูชาแล้วครับ

    Clip_84.jpg Clip_85.jpg Clip_86.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9669

    พระผงพระบาทกบ ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้มปี 2521 โรยเส้นเกศา สวย ๆ


    พระยุคแรกของท่านครูบาน่าใช้มากๆครับเห็นเส้นเกศาชัดเจน
    XXX น่าบูชามากๆ ครับ

    ราคา999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900


    Clip_89.jpg Clip_90.jpg Clip_91.jpg Clip_88.jpg Clip_86.jpg



    ประวัติพระบาทกบ
    #เอาขี้บูชาพระ_เอาขนก้นบูชาพระ
    จากหนังสือ ธรรมปกิณกะ เล่ม 1
    ...มีเรื่องของประวัติพระบาทกบ เกี่ยวเนื่องกับครูบาเจ้าชัยยะวงศ์ษามหาโพธิสัตว์... อดีตกาล ในยุคที่ พระพุทธตัณหังกะโร ได้มาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    (ก่อนพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ย้อนไป 28 พระองค์)
    มีเด็กชายพี่น้อง 4 คน เป็นคนยากจน กำพร้าพ่อแม่ ตั้งแต่ยังเล็กๆด้วยกัน จึงต้องหาอาชีพรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเลี้ยงปากท้องไปวันๆ บางวันก็ไม่ค่อยพอ กินไม่ค่อยอิ่ม
    เด็กชายพี่น้อง 4 คน ต่างก็รับจ้างเป็นคนเลี้ยงควาย ให้กับนายบ้าน (ผู้ใหญ่บ้าน) ผู้มีฐานะคนหนึ่งเป็นประจำ พวกเขาจะต้อนควายฝูงใหญ่ให้หากินหญ้าตามประสาที่กลางทุ่งแห่งหนึ่ง ส่วนพวกเขาก็จะไปหลบพักนั่งหลบแดดอยู่ภายใต้ร่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง คือ "ต้นทองกวาว"
    ในขณะที่นั่งพักก็จะเฝ้าดูควายไปด้วย พอตกเย็นก็ช่วยกันต้อนควายเหล่านั้นกลับเข้าคอก จะกระทำเช่นนี้อยู่ทุกวันเป็นประจำ
    วันหนึ่งประมาณเที่ยงวัน ขณะที่พวกเขา 4 คนพี่น้อง นั่งหลบแดดเฝ้าดูควายอยู่ภายใต้ร่มต้นทองกวาวอยู่นั้น ก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย
    ในที่สุดก็เลยถามกันเองว่า "พวกเรา 4 พี่น้องนี้ ใครปรารถนาอยากจะเป็น อยากจะได้อะไรบ้าง ใครนึกอยากจะมีอะไร ทำอะไรก็ให้บอกมา"
    โดยพวกพี่ทั้ง 3 คน ได้พูดถามกับน้องคนสุดท้องว่า "น้องล่า..จะเป็นอะไรอยากได้อะไร อยากจะเป็นเจ้านาย เศรษฐีร่ำรวยมีข้าวของ เงินทอง หรืออยากได้อะไรให้พูดมาเลย"
    น้องคนสุดท้อง ก็มานั่งคิดพิจารณาว่าจะเป็นอะไรดี จะเป็นเจ้าบ้านเจ้าเมืองก็มีความทุกข์ ปัญหามาก เป็นคนมั่งมีข้าวของเงินทองก็ทุกข์ ต้องคอยระวังรักษา เป็นเจ้าลูก-เจ้าเมียก็ทุกข์ อันใดก็ทุกข์ทุกอย่าง ไม่เห็นดี ไม่เป็นสุขโดยตลอดเลย สู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าดีกว่า จะได้พ้นทุกข์ มีสุขอย่างแท้จริง
    จึงได้กล่าวตอบพวกพี่ๆ ไปว่า
    "พี่ของข้าทั้ง 3 เอ๋ย ตัวข้าปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าอย่างเดียว"
    แล้วน้องสุดท้องก็ถามกลับยังพี่ชายคนที่ 3 ว่า
    "แล้วอ้ายล่ะ ปรารถนาอะไร อยากเป็นอะไร อยากได้อะไร"
    พี่คนที่ 3 ก็ว่า "ถ้าน้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ตัวอ้ายก็ปรารถนาจะเอาขี้บูชา"
    น้องสุดท้องก็ตอบว่า "ดีแล้ว...ถ้าอ้ายปรารถนาอย่างนี้"
    หลังจากนั้นน้องสุดท้องก็ถามพี่ชายคนที่ 2 ว่า "อ้ายล่ะ ปรารถนาอยากได้อะไร อยากเป็นอะไร ขอให้บอกแก่น้องด้วย"
    พี่คนที่ 2 ก็ตอบว่า "ถ้าน้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า อ้ายก็ปรารถนาจะถอนขนที่ก้นบูชา"
    น้องก็ตอบว่า "ดีแล้ว อ้ายปรารถนาอย่างนั้นดีแล้ว"
    พี่ชายคนโตเมื่อได้ยินน้องรองทั้งสองกล่าวคำปรารถนาเช่นนั้นต่อน้องสุดท้อง ก็ไม่พอใจ
    จึงได้กล่าวดุด่าน้องทั้งสองว่า "พวกสูนี่โง่เง่าหรืออย่างไร น้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า แต่สูทั้งสองกลับจะเอาของไม่ดีไปบูชา สูนี่แย่ โง่เง่าเต่าตุ่น ที่ถูก เราควรปรารถนาอย่างน้องล่าดีกว่า"
    พี่น้องทั้ง 4 พูดกันแค่นี้แล้วก็เลิกกันไป
    เวลาผ่านไป จนพี่คนโตถึงแก่กรรม ก็ได้ไปเกิดเป็น พญากบ เฝ้าดอกบัวอยู่
    น้องคนที่สอง เมื่อถึงแก่กรรมก็ไปเกิดเป็น พญานกยูง
    น้องคนที่สาม ถึงแก่กรรมตามอายุขัยก็ไปเกิดเป็น พญาผึ้ง
    ส่วนน้องคนสุดท้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อถึงแก่กรรมก็ไปเกิดเป็นผู้มีศีล มีสัตย์ มีเมตตาและได้เกิดเป็นหน่อพุทธางกูรมาทุกชาติ จนเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
    ส่วนพี่ๆ ทั้ง 3 คน ก็ได้บำเพ็ญบารมีเพื่อจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อ ๆ ไป ในอนาคตกาลตามวิถีแห่งความปรารถนาในภายหลัง
    ผลจากการตั้งจิตปรารถนาอะไร อย่างไรไว้ ก็ต้องเป็นไปตามผลแห่งความปรารถนา ตามนั้น
    น้องคนสุดท้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องมีความอุตสาหะ วิริยะ บำเพ็ญบารมี สร้างสมคุณงามความดี เป็นเวลาถึง 4 อสงไขยแสนกัป จึงได้เป็นพระพุทธเจ้าตามความปรารถนา
    ส่วนพี่คนที่ 3 (ตัวครูบา) ที่ปรารถนาจะเอาขี้บูชา ก็ได้เป็นพญาผึ้ง ซึ่งคนทั้งหลายจะนำเอาขี้มาทำเป็นเทียน เพื่อจุดบูชาพระพุทธรูป หรือพระธาตุเจดีย์วิหาร เป็นปูชนียวัตถุแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ส่วนพี่คนที่ 2 ที่ปรารถนาจะเอาขนที่ก้นบูชาพระพุทธเจ้า ก็ได้มาเกิดเป็นพญานกยูง ซึ่งพุทธบริษัทได้นำเอาขนหางที่สวยงามมาทำเป็นพัดและเครื่องประดับ เพื่อใช้บูชาในพิธีทางศาสนาต่างๆ
    ส่วนผลกรรมของพี่ชายคนโตที่ว่า "น้อง 2 คน โง่เง่า" ทำให้มาเกิดเป็นพญากบ เฝ้าดอกบัวอยู่ โดยไม่รู้คุณค่าของดอกบัว และยังติดตามมาในชาติต่อๆมา แม้เมื่อมาเกิดเป็นกษัตริย์ บริวารของท่านก็ใช้คำพูดไม่ดีเป็นอาจิณกรรม คือชอบว่าผู้อื่น "โง่ เซ่อ" เป็นประจำ
    ฝ่ายพญานกยูง ซึ่งเป็นน้องคนที่ 2 เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ บริวารของท่านคือ พม่า และ ไทยใหญ่ ซึ่งมีนิสัยใช้ผ้าโสร่งที่ปกปิดก้น เอามาเช็ดหน้า เอามาหนุนนอน เช่นเดียวกับนกยูงซึ่งถือหางเป็นสำคัญ
    ส่วนพญาผึ้ง ซึ่งเป็นน้องคนที่ 3 เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์อีก บริวารของท่านคือ พวกกระเหรี่ยง พวกละว้า พวกชาวเขาเผ่าต่างๆ พวกนี้มีอาจิณกรรม คือ มีนิสัยนุ่งผ้าแล้วไม่ยอมซัก นุ่งจนผุจนขาด ถ้วยไหตะไลชามของใช้ก็ไม่ยอมล้าง ตัวก็ไม่ใคร่จะอาบน้ำ ขี้ไคลพอกอยู่หนา แทบจะเอามาปั้นเป็นก้อนเหมือนขี้ผึ้งได้ คล้ายๆ กับผึ้งที่สะสมขี้เอาไว้ฉะนั้น
    อาจจะกล่าวได้ว่า อุปนิสัยของแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติ ย่อมสืบทอดสะสมกันมาเป็นอเนกชาติ ยากที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ในชาติปัจจุบัน แม้แต่พระอัครสาวกก็ไม่เว้น จะมียกเว้นแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
    ขอย้อนกล่าวถึงพี่ชายคนโต ซึ่งมาเกิดเป็นพญากบ ในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระพุทธกัสสปะ (พระพุทธเจ้าองค์ก่อนพระสมณโคดม) ในระยะนั้นมีพระมหาเถระเจ้าองค์หนึ่ง ธุดงค์มาที่วัดพระบาทห้วยต้ม มาหยุดพักอยู่พี่พระบาทกบในปัจจุบัน ท่านได้สวดพระอภิธรรมและมาติกา ณ ที่นั้น
    ขณะเดียวกันพญากบได้ออกจากฝั่งแม่น้ำและเข้ามาใกล้พระมหาเถระ พญากบก็ได้ยินเสียงมหาเถระเจ้าสวดอยู่ก็ยินดีนั่งฟัง เข้าใจว่าเสียงนี้เป็นเสียงของพระพุทธเจ้า
    พญากบตั้งสตินั่งฟังอยู่อย่างใจจดใจจ่อ ในขณะที่พระมหาเถระเจ้ายังสวดไม่จบ ก็มีหมอพรานปลาผู้หนึ่ง ซึ่งหากินด้วยการหาปลา นำเอาเหล็กแหลมสำหรับแทงตะพาบน้ำมาด้วย
    เมื่อเดินมาพบพระมหาเถระเจ้ากำลังสวดอยู่ แต่ไม่เห็นพญากบที่กำลังฟังธรรมอยู่นั้น หมอพรานปลาผู้นั้นก็เอาเหล็กแหลมที่ถือมานั้นทิ้ง (ปัก) ลงไปถูกพญากบโดยไม่ตั้งใจ
    ส่วนพญากบนั้นถูกเหล็กแหลมแทงตัวก็ยังไม่รู้สึกตัว เพระฟังพระสวดเพลินอยู่
    ส่วนพรานปลาผู้นั้นก็น้อมตัวเข้าไปใกล้พระมหาเถระเจ้า นั่งลงคุกเข่าไหว้ แล้วฟังเทศน์ที่นั่นจนพระมหาเถระเทศน์จบ
    เมื่อจบแล้วก็ไหว้พระมหาเถระ แล้วก็กลับหลังออกมาเอาเหล็กแหลมที่ปักไว้ ก็เห็นเหล็กแหลมแทงใส่พญากบก็ถอนออก แล้วร้องว่า "โอ้หนอ....เหล็กนี่แทงถูกกบตายเสียแล้ว"
    ส่วนพระมหาเถระได้ยินเสียงหมอพรานร้องอย่างนั้น ก็เข้ามาใกล้ที่หมอพรานแทงพญากบ และบอกว่า
    "อ้าว....หมอพรานทำไมแทงใส่กบ กบนี้ไม่ใช่กบธรรมดาสามัญ เป็นพญากบตัววิเศษ มันดักนิ่งฟังธรรมอยู่"
    หมอพรานก็บอกมหาเถระเจ้าว่า
    "ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ากบอยู่ที่นี่ ข้าก็เอาเหล็กแหลมนี่ทิ้งลงไปซ่อนไว้ที่นี่ เพื่อจะไปฟังธรรมที่ท่านเทศน์อยู่ เพราะจะเอาเหล็กแหลมนี่ไปด้วย ก็ไม่สมควรจะนำไปฟังเทศน์ ข้าพเจ้าก็เลยเอาทิ้งไว้นี่ เพราะไม่รู้ว่ากบอยู่ที่นี่"
    พระมหาเถระก็สงสารกบตัวนั้น จึงตั้งสัจจะอธิษฐานเอาเท้าเหยียบหลังกบ ให้เป็นรอยพระบาทไว้ เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ต่อไปเบื้องหน้า
    ส่วนพญากบ ขณะที่ถูกแทงก็ไม่รู้ตัวว่าตาย เมื่อรู้ตัวก็กลายเป็นเทพบุตรอยู่ชั้นฟ้าดาวดึงส์ อยู่ปราสาทสูง 12โยชน์ กว้าง 12 โยชน์ มีเทพยดาทั้งหลายเป็นบริวารอยู่มากมายหลายโกฏิ
    เนื่องจากผลบุญกุศลที่พญากบได้ตั้งใจฟังเทศน์อยู่นั้น ทำให้พญากบได้ไปเกิดชั้นดาวดึงส์ เป็นเทพอยู่ชั้นฟ้า7 ชาติ ตายจากชั้นฟ้าก็มาเกิดเป็นมหาเศรษฐีอยู่ในมนุษยโลก ได้เป็นใหญ่ในบรรดาเศรษฐีทั่วไป มีนามว่า เมณฑกมหาเศรษฐี
    ต่อจากนั้นมาก็ได้มาเกิดเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์อีกหลายชาติ และท่านเมณฑกมหาเศรษฐีนี้ ก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในภายหน้า
    ในขณะที่ยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้านี้ ก็ยังเป็นหน่อพุทธางกูร บำเพ็ญบารมีอยู่ทุกชาติ จนกว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
    ฉะนั้น พวกเราพุทธบริษัททั้งหลายจึงควรเอานิสัยพญากบที่ได้ฟังเทศน์อย่างตั้งใจจนได้เป็น เมณฑกเทวบุตร
    ส่วนพญาผึ้ง และพญานกยูง ท่านก็เป็นหน่อพุทธางกูร บำเพ็ญบารมี 30 ทัศน์ ไปทุกชาติ จนกว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าโปรดโลก อีกองค์หนึ่ง ในภายหน้า
    ในหนังสือพระชัยวงศาปูชนียาลัย กล่าวกันว่าพี่ชายคนที่สอง ในอดีตชาติ ได้เกิดเป็นพระภิกษุในประเทศพม่า มีพระนามว่า พระอนันตยา ซึ่งเป็นพระภิกษุรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียง และเป็นที่เคารพรักของชาวพม่าและมอญ รวมทั้งไทยใหญ่ โดยทั่วไป (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว)
    หลวงพ่อองค์นี้ไม่เคยพบกันกับครูบา แต่ท่านทั้งสองก็รู้จักกันดี มีบันทึกยืนยันจากลูกศิษย์
    ส่วนพี่ชายคนที่สามนั้น (คือท่านครูบา) ต่อมาในสมัย พระพุทธเจ้ากกุสันโธ ก็ได้เกิดเป็นพญากวาง ดังมีตำนานเล่ากันต่อมา
    ต่อมาพญากบตัวนั้นได้กลายเป็นหินเป็นรูปร่างกบ มีรอยพระบาทประทับอยู่ที่หลัง ปัจจุบันครูบาชัยวงศาท่านได้สร้างรูปกบครอบรอยจริงไว้ และสร้างมณฑปครอบอีกชั้นหนึ่ง
    #สันตจิตโต ภิกขุ#โพธิสัตว์พญากวางคำ#​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2022
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 9670

    ชุดเหรียญครูบาศรีวิชัย ปี 2539 ศรีวิชัยยาชนะ เนื้อเงิน นวะ ฝาบาตร ทองแดง สวยกล่องเดิม

    ที่ระลึกในการสร้างอนุสาวรีย์ ศรีวิชัยยาชนะ วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน
    ครูบาเจ้าศรีวิชัย รุ่นศรีวิชัยยาชนะ สร้างในปี พ.ศ.2539 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เช่าบูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ในการจัดสร้างอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ณ รอยต่อบริเวณถนนสายลี้-เถิน อ.ลี้ จ.ลำพูน โดยครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นผู้ตั้งชื่อรุ่นนี้ ว่า “ศรีวิชัยยาชนะ” พิธีพุทธาภิเษก วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2539 ณ วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน
    ตอก๙โค๊ต สวยกล่องเดิมๆครับ

    ราคา3999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    czcz.jpg vc[.jpg cvfg.jpg cr.jpg w.jpg bcbco.jpg Clip_89.jpg Clip_86.jpg Clip_87.jpg Clip_88.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,475
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 9671

    ล็อกเก็ตรุ่นแรก ครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง เชียงใหม่ ปี2517

    "ครูบากองแก้ว" ท่านเป็นหนึ่งในศิษย์ของ "ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย" ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกที่ได้ติดตามครูบาเจ้าศรีวิชัย บวชตั้งแต่เป็นสามเณร เมื่อครั้งที่ "ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย" เป็นผู้นำในการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ครูบากองแก้วก็เป็นกำลังหลักในการร่วมสร้างทางด้วยรูปหนึ่ง ครูบากองแก้ว เป็นพระที่อาวุโสกว่าครูบาชัยยะวงศา, ครูบาธรรมชัย, ครูบาดวงดี, ฯลฯ นับได้ว่าครูบากองแก้ว เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง เป็นพระสมถะ โดยท่านจะฉันอาหารมื้อเดียวตลอดชีวิต จนเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนทั้งใน จ.เชียงใหม่ และทั่วประเทศ
    #ในพิธีพุทธาภิเษก นั้น ครูบากองแก้ว ได้ให้ลูกศิษย์นำปืนมีดและดาบมาในพิธีด้วย โดยท่านบอกว่าจะได้สะกดอาวุธเหล่านี้ เพื่อให้พระเครื่องของท่านมีอานุภาพด้านป้องกันภัยครบทุกด้าน ทุกครั้งที่ท่านแผ่เมตตาอธิษฐานจิตพระเครื่อง ท่านจะอธิษฐานครอบคลุมไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ หรือค้าขาย

    สร้างน้อยหายากมากครับ


    ราคา2999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    ล.ก.ครูบากองแก้ว 1.0 a.jpg ล.ก.ครูบากองแก้ว 1.0 b.jpg ล.ก.ครูบากองแก้ว 1.0 c.jpg Clip_21.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...