**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10435

    พระเกศาครูบาเจ้าศรีวิไชยพระสังกัจจายน์ เลี่ยมเงินพร้อมใช้

    สุดยอดปรารถนา พระเครื่องของพี่น้องชาวล้านนา พระเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย #จากตำนานเล่าขานกันสืบมา ถึงการสร้างพระเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย มวลสารที่สร้างมักจะนำเอาผงเกสรและดอกไม้ต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมากราบไหว้พระในโบสถ์ ในพระวิหารรวมถึงตามพระบรมธาตุจากที่ต่างๆ ตามความเชื่อของศรัทธาชาวบ้านแล้ว ก็จะนำดอกไม้มาบากแห้งแล้วนำมาเผาบดให้ละเอียดผสมกับผงใบล้านเรียกว่าผงสมุก แล้วนำมาคลุกเคล้ากับยางรักผสมเส้นเกศาของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยลงไปแล้ว จึงนำเอามากดลงบนแม่พิมพ์เป็นองค์พระเครื่อง เก็บไว้บูชาเป็นสิริมงคล
    องค์นี้เป็นพิมพ์พระสังกัจจายน์ นิยมอีกพิมพ์หนึ่ง รับประกันความแท้ครับ

    ราคา 5999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    cvxvx.jpg ['.jpg cxrf.jpg Clip_42.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2022
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10436

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระบาง ยุคต้น

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นในสมัยที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยยังดำรงค์ขันธ์ 5 อยู่ สร้างจากผงเกสรดอกไม้ขันแก้วทั้งสาม ที่บูชาพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล
    #องค์นี้พิมพ์พระบางเนื้อหาจัดจ้านเก่าแห้งดูง่ายมากครับ


    ราคา3550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_9.jpg Clip_10.jpg Clip_11.jpg Clip_12.jpg Clip_13.jpg Clip_14.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2022
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10437

    พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระคงโพธิ์เม็ดปิดทอง สวยเดิมๆเลี่ยมเงินพร้อมใช้ครับ


    พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล
    องค์นี้พิมพ์พระคงโพธิ์เม็ด ลงรักปิดทองสวยเดิมๆ เลี่ยมเงินพร้อมใช้ ครับ


    ราคา4550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_6.jpg Clip_7.jpg Clip_8.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2022
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 10438


    ประคำ ๑๐๘ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี สวยเดิมๆ

    เนื้อกรามช้าง หลวงพ่อท่านจัดสร้างหลังจากที่สร้างอุโบสถ วัดท่าซุง เสร็จได้ไม่นาน ราวๆ ปี ๒๕๒..กว่าๆ ลูกประคำที่หลวงพ่อท่านสร้างจะมีอยู่หลายแบบ มีทั้งเม็ดเล็กและเม็ดใหญ่ ประคำนี้ดีใช้ภาวนาทำกรรมฐาน ท่านบอกให้ทำเป็นกรรมฐานจะเกิดผลมากและยิ่งใหญ่ คือทิพจักขุญาณ ให้อาราธนาทุกวันควบคู่กับการภาวนาพระคาถาเงินล้านไปด้วย จะมีความคล่องตัว จะบังเกิดให้เห็นทันตา และยังป้องกันอันตรายต่างเหมือนพระเครื่องทุกประการ ควรอธิษฐานว่า "ขอความปราถนาทุกอย่างของข้าพเจ้าจงสำเร็จทุกประการ และเป็นเมตตามหานิยมแล้ว ยังมีนัยเพื่อให้เป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ
    สวยเดิมๆเม็ดกลมสวยมากครับครับ


    ราคา 1550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ0861936900


    Clip_15.jpg
    Clip_16.jpg
    Clip_18.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2022
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10439

    พระบูชาครูบาอิน อินโท ขนาด 5 นิ้ว หมายเลข 229
    1 ใน 375 องค์

    .......................................................................................
    ในปี พ.ศ.2539 ทางคณะกรรมการ ศรัทธาชาวบ้าน ลูกศิษย์ หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท วัดฟ้าหลั่ง นำโดย นายณรงค์ มูลรัตน์ นายจันทร์ ปัญญาไว และนายโต เจริญกุล ได้เล็งเห็นว่า วัดฟ้าหลั่ง ยังขาดปัจจัยใช้สอยในกิจการของทางวัด จึงได้กราบขออนุญาตหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท จัดสร้าง รูปเหมือนหลวงปู่ รุ่น “หลวงปู่ฟ้าหลั่ง” และพระพุทธรูปบูชา “หลวงพ่อฟ้าหลั่ง” ขนาดต่างๆ ขึ้นมา เพื่อให้ศรัทธาญาติโยมที่เคารพนับถือได้เช่าบูชา เพื่อรวบรวมรายได้จัดตั้งเป็นกองบุญนิธิ หาดอกผลมาใช้จ่ายในกิจการของทางวัด ตามกิจที่เห็นสมควรต่อไป
    จำนวนจัดสร้าง
    การจัดสร้าง โดยมีพระอาจารย์ไพบูลย์ อินทปัญฺโญ หัวหน้ากองเลขาของหลวงปู่เป็นผู้ดำเนินการติดต่อช่าง ให้ออกแบบเป็นรูปหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท รูปนั่งสวมประคำ และมีผ้าห่มคลุม ส่วนพระพุทธรูปเป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน เพื่อให้หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท ได้พิจารณา เพื่อขึ้นแม่พิมพ์และหล่อองค์พระจนเป็นที่แล้วเสร็จในปีดังกล่าว
    รูปหล่อหลวงปู่ฟ้าหลั่ง และพระพุทธรูปหลวงพ่อฟ้าหลั่ง จัดสร้างตามจำนวนดังนี้
    รูปเหมือนหลวงปู่ครูบาอิน รุ่น “หลวงปู่ฟ้าหลั่ง
    1. รูปหล่อลอยองค์เล็ก ขนาดหน้าตัก ประมาณ 1.5 เซนติเมตร อุดกริ่ง
    - รูปหล่อลอยองค์ บรรจุกล่องบุกำมะหยี่ เนื้อทองคำ 9 องค์
    - รูปหล่อลอยองค์ บรรจุกล่องบุกำมะหยี่ เนื้อเงิน 200 องค์
    เนื้อโลหะผสมรมดำจำนวนประมาณ 5,903 องค์ โดยเนื้อโลหะผสมรมดำแยกเป็น ๓ แบบ คือ
    - รูปหล่อลอยองค์ บรรจุกล่องบุกำมะหยี่ 4,100 องค์
    - รูปหล่อลอยองค์ พร้อมครอบแก้ว ตั้งหน้ารถ 984 องค์
    - รูปหล่อลอยองค์ ในกระเช้าพลาสติก สำหรับแขวนหน้ารถ 819 องค์
    2. รูปหล่อบูชา ขนาดหน้าตัก ๓ นิ้ว สร้างจำนวน 608 องค์
    3. รูปหล่อบูชา ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว สร้างจำนวน 375 องค์
    4. รูปหล่อบูชา ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว สร้างจำนวน 115 องค์
    โดยมีหมายเลขกำกับทุกองค์
    พระพุทธรูป หลวงพ่อฟ้าหลั่ง เนื้อเดียวกัน มี 2 ขนาด คือ
    1. รูปหล่อหลวงพ่อฟ้าหลั่ง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว 116 องค์
    2. รูปหล่อหลวงพ่อฟ้าหลั่ง ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว 109 องค์
    โดยมีหมายเลขกำกับทุกองค์
    พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก
    หลังจากจัดสร้างเสร็จ หลวงปู่ครูบาอินได้เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวบนอุโบสถวัดฟ้าหลั่ง เป็นเวลาหลายเดือน และในปี พ.ศ.2540 ทางวัดฟ้าหลั่งได้จัดงานฉลองมงคลอายุ 8 รอบ ถวายหลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท พร้อมทั้งจัดงานสมโภชพระบรมธาตุเจ้าฟ้าหลั่งซึ่งสร้างเสร็จในปีเดียวกัน จึงได้นำรูปหล่อและพระพุทธรูปเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นพิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวัดฟ้าหลั่ง ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2540
    ในพิธีพุทธาภิเษก หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท ได้ให้พระเณรและคณะศรัทธาชาวบ้าน ลำเลียงรูปหล่อและพระพุทธรูป เข้าไปตั้งบริเวณฐานองค์พระบรมธาตุ แล้วจัดปะรำพิธีรอบองค์พระธาตุ เพื่อให้พระเถระ ครูบาอาจารย์ที่นิมนต์มาได้นังปรกปลุกเสก โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่เป็นที่มีฃื่อเสียงในยุคนั้นร่วมพิธีจำนวนมาก อาธิเช่น พระครูชัยวงศ์วิวัฒน์ (หลวงปู่ครูบาน้อย ชยวํโส) วัดบ้านปง พระครูสุภัทรศีลคุณ (หลวงปู่ครูบาดวงดี สุภทฺโท) วัดท่าจำปี (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมงคลวิสุต) พระธรรมสิทธาจารย์ (หลวงปู่หนู ถาวโร) วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระโพธิรังษี วัดพันตอง พระราชรัตนากร วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวรสิทธาจารย์) พระสุพรหมญาณเถระ (พระอาจารย์ทอง สิริมํคโล) วัดพระธาตุศรีจอมทอง (ปัจจุบันได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสิทธาจารย์) พระครูมงคลคันธวงศ์ (ครูบาศรียูร คนฺธวํโส) วัดมงคล (ทุ่งแป้ง) พระครูสถิตธรรมวัตร (ครูบาดวง ฐิตวโร) วัดศรีทรายมูล (กู่ลายมือ) พระครูบุญมี สุเมโธ (ครูบาบุญมี) วัดศิลามงคล พระครูพิศาลประชานุกูล (ครูบาติ๊บ ปภากโร) วัดท่าวังพร้าว พระครูวุฒิธรรมวิมล (ครูบาดำ) วัดดอยหล่อ พระครูมนูญธรรมาภรณ์ (ครูบาอิ่นคำ ฐานงฺกโร ) วัดมหาวัน (เชียงใหม่) พระครูมงคลคุณาทร (ครูบาคำปัน นนฺทิโย) วัดหม้อคำตวง พระครูสิงหวิชัย (ครูบาสิงห์ สิริวิชโย) วัดฟ้าฮ่าม หลวงพ่อต๋า ปัญญาวุฒโฒ (ครูบาต๋า) วัดอุโบสถบ้านเหล่า พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ (พระอาจารย์อินทร ปัญยาวัฑฒโน) วัดสันป่ายางหลวง ฯลฯ และยังมีพระเถระจากทุกวัดในเขตอำเภอจอมทอง (และอำเภอดอยหล่อในปัจจุบัน) พระเถระจากทั่วจัดหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน เข้าร่วมสวดมนต์ตั๋น อธิษฐานจิตตลอดระยะเวลาสามวัน

    พระดีพิธีใหญ่ประวัติการจัดสร้าชัดเจน น่าบูชามากๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_41.jpg Clip_42.jpg Clip_43.jpg Clip_44.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2022
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10440

    พระเจ้าพรหมมหาราช เนื้อทองเหลืองรมดำ ขนาดความสูง 21 นิ้ว ฐาน 5 นิ้ว หมายเลข 14 งดงามมาก

    ประวัติ พระเจ้าพรหม มหาราชองค์แรกของไทย

    หากมีการตั้งคำถามว่า กษัตริย์ที่นักประวัติศาสตร์ไทยยกย่องว่าเป็น “มหาราช” องค์แรกของไทย คือ พระองค์ใด หลายคนคงนึกถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บางคนอาจจะนึกถึงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือบางคนอาจนึกไปได้ไกลถึงพระเจ้ามังรายมหาราช เพราะแต่ละพระองค์ล้วนแต่ครองราชย์ในช่วงหลายร้อยปีก่อนหน้าโน้น และมีพระนามเป็นที่คุ้นหูอย่างดี แต่ความเป็นจริง พระมหากษัตริย์ไทยเราที่ทรงเป็นมหาราชองค์แรก ก็คือ “พระเจ้าพรหมมหาราช” ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยให้รอดพ้นจากการรุกรานย่ำยีของพวกขอม เมื่อประมาณ ๑,๐๖๔ ปีล่วงมาแล้ว ในสมัยอาณาจักรโยนกหรืออำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ในปัจจุบัน

    อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของเวลา แต่ละตำราจะเขียนไว้ไม่เหมือนกัน ในที่นี้จะขอยึดข้อมูลจากหนังสือประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค จังหวัดเชียงราย ซึ่งเอา “ตำนานสิงหนวัติฉบับสอบค้น” มาเป็นหลักอ้างอิง กล่าวคือย้อนไปเมื่อ พ.ศ.๑๔๖๐ ในรัชสมัยของ พระเจ้าพังคะ หรือ พระองค์ฬั่ง กษัตริย์องค์ที่ ๔๓ แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ ได้ถูกพวกขอมขับไล่จากเมืองโยนกพันธุ์ไปอยู่เมืองเวียงสี่ตวง ใกล้แม่น้ำสาย จนกระทั่ง ๔ ปีต่อมา หรือเมื่อ พ.ศ. ๑๔๖๔ มเหสีของพระองค์ไปประสูติโอรสคนที่ ๒ มีการขนานนามว่า “พระเจ้าพรหมกุมาร”

    ในตำนานได้กล่าวถึงประวัติตอนปฐมวัยของ “พระเจ้าพรหมกุมาร” เต็มไปด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ เช่น เมื่อพระองค์มีพระชันษาได้๗ ปี ก็สามารถเล่าเรียนวิชาเพลงอาวุธและตำราพิชัยสงคราม จนจบครบถ้วนกระบวนความ หรือเมื่อพระองค์มีพระชันษาได้ ๑๓ ปี ได้ทรงสุบินว่า มีเทพยดามาบอกว่า จะมีช้าง ๓ ตัวล่องน้ำโขงมา และให้เจ้าพรหมกุมารไปล้างหน้าที่นั่น หากจับช้างตัวแรกได้จะมีอานุภาพปราบได้ทั้ง ๔ ทวีป ถ้าจับได้ตัวที่ ๒ จะมีอานุภาพได้ชมภูทวีป ถ้าจับได้ตัวที่ ๓ จะปราบแว่นแคว้นล้านนาได้
    พอรุ่งเช้า เจ้าพรหมกุมารจึงได้พาบริวารประมาณ ๕๐ คน ไปยังท่าน้ำ ครั้งแรกเห็นงูเหลือมเลื่อมเป็นมันระยับลอยผ่านไปแล้ว ๑ ตัว พอตัวที่ ๒ ก็เป็นงูอีกเหมือนกัน พอตัวที่ ๓ เจ้าพรหมกุมารจึงทรงนึกถึงเรื่องในสุบินนั้นคงเป็นงูนี่เอง จึงพร้อมกับบริวารช่วยกันจับงู เมื่อเจ้าพรหมกุมารสามารถขึ้นขี่ งูก็กลายเป็นช้างไปทันที แต่ไม่ยอมขึ้นฝั่ง จนกระทั่งบริวารต้องเอาพานทองคำตีล่อ ช้างจึงยอมขึ้นจากน้ำ และมีการเรียกชื่อว่า “ช้างพานทองคำ”

    พระเจ้าพรหม ทรงมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีความสามารถและโปรดในการสงคราม เมื่อสามารถเตรียมกำลังไพร่พลได้อย่างเต็มที่แล้ว ก็ทูลพระบิดาให้เลิกการส่งส่วยแก่ขอม พวกขอมจึงยกทัพขึ้นไปปราบ พระเจ้าพรหมก็คุมกำลังออกต่อสู้และขับไล่พวกขอมจนแตกพ่าย สามารถยึดเมืองโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติคืนได้เมื่อ พ.ศ.๑๔๗๙ ในขณะที่พระองค์มีพระชันษาได้เพียง ๑๖ ปีเท่านั้น

    สำหรับช้างพานทองคำ เมื่อเสร็จสงครามก็ได้หายไปทางดอยลูกหนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียกว่า “ดอยช้างงู” แต่ชาวเขาเผ่าอีก้อออกเสียงไม่ชัดเจน เรียกว่า “ดอยสะโง้” และได้เรียกเพี้ยนมาจนถึงปัจจุบัน

    ส่วนพระเจ้าพรหม เมื่อได้อัญเชิญพระบิดามาครองเมืองโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองโยนกชัยบุรีแล้ว พระองค์ก็นำทัพไปขับไล่ขอมจนถึงเมืองกำแพงเพชร จนหมดเชื้อชาติขอมในอาณาจักรโยนกแล้วจากนั้นพระองค์ก็ได้สร้างเมืองใหม่ขึ้นที่เมืองอุมงคลเสลาเก่า เมื่อ พ.ศ. ๑๔๘๐ เพื่อเป็นด่านหน้าคอยป้องกันพวกขอมยกทัพกลับมาตีอีก และเปลี่ยนชื่อเมืองใหม่เป็น “เมืองไชยปราการ” ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอชัยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ นั่นเอง

    พระองค์ได้ครองเมืองไชยปราการได้ ๕๙ ปี ก็เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ.๑๕๔๐ ต่อมาได้มีการขนานนามพระองค์ว่า “พระเจ้าพรหมมหาราช” นับเป็นมหาราชองค์แรกของชาติไทย


    ราคา 9999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_58.jpg Clip_59.jpg Clip_60.jpg Clip_61.jpg Clip_62.jpg Clip_63.jpg Clip_64.jpg Clip_65.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2022
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10441

    พระเจ้าพรหมมหาราช ทรงช้าง เนื้อทองเหลืองรมดำ ขนาดความสูง 10 นิ้ว ฐาน 5*8 นิ้ว ฐานจาร งดงามมาก

    ***พระเจ้าพรหมมหาราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองแม่สาย จ.เชียงราย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแม่สาย ศาลหลักเมืองแม่สาย ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาหลักเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช กษัตริย์มหาราชพระองค์แรกของไทย
    พระเจ้าพรหมมหาราช หรือ พระเจ้าพรหมกุมาร เป็นราชบุตรของพระเจ้าพังคราช ครองเมืองโยนกชัยบุรี (โยนกชัยบุรีราชธานีศรีช้างแสน) ราว พ.ศ. 1480 ถึง พ.ศ. 1541 ซึ่งเป็นเมืองในลุ่มแม่น้ำกก แต่มีหลักฐานท้องถิ่นระบุว่าพระองค์ประสูติใน พ.ศ. 1655 ที่เวียงสี่ตวง (ปัจจุบันอยู่ในบริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย) และสิ้นประชมน์ใน พ.ศ. 1732 (พระชนมมายุ 77 พรรษา มีพระชนมมยุในช่วง พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ที่ครองราชย์ใน พ.ศ. 1656- พ.ศ. 1693 จนถึงตอนต้นของ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ครองราชย์ใน พ.ศ. 1724- พ.ศ. 1762 ในยุคพระนครของกัมพูชา ) พระองค์มีพระปรีชาสามารถด้านการรบ สามารถตีเอาเมืองโยนกชัยบุรี คืนได้จาก พญากลอมดำ (ขอมดำ จากเมืองอุโมงคเสลา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ที่ครองราชย์ใน พ.ศ. 1633- พ.ศ. 1650 ในยุคพระนครของกัมพูชา ) ซึ่งยกทัพมาชิงเมืองโยนกในสมัยพระเจ้าพังคราช (พระบิดาของพระเจ้าพรหมมหาราช) เมื่อตีเอาเมืองโยนกคืนได้ ยังทรงยกทัพไล่ต้อนทัพพญากลอมดำ ลงมาถึงใกล้เขตแดนลวรัฐ (ที่บริเวณเมืองแปบ ซึ่งคือเขตเมืองกำแพงเพชรในปัจจุบัน) ก็ทรงเลิกทัพกลับไป และทรงคืนโยนกชัยบุรีให้พระบิดา ส่วนพระองค์ ขยับลงมาสร้างเมืองทางตอนใต้ไม่ห่างกันมาก และตั้งชื่อว่าไชยปราการ และทรงครองที่เมืองนี้ตลอดพระชนม์ช



    ราคา 7999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_67.jpg Clip_68.jpg Clip_69.jpg Clip_70.jpg Clip_71.jpg Clip_72.jpg Clip_73.jpg Clip_74.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2022
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    #อีก1ในตำนานครับ
    เหรียญครูบาชัยวงศ์ รุ่น2 ปี2518 เนื้อทองแดง ไม่ตัดปีก
    เข้าพิธีที่วัดท่าซุงรุ่นเดียวกับวัตถุ มงคล ชุดครบรอบ 100 ปีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเมื่อปี18 เกจิที่ปลุกเสกในพิธีมี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง , หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรี , ครูบาคำแสน อินทจักโก วัดสวนดอก , ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดดอนมูล , ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย , ครูบาอินทจักรรักษา วัดน้ำบ่อหลวง , ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม , ครูบาธรรมชัย ธัมมชโย วัดทุ่งหลวง , ลป.สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จากนั้นยังได่นำไปขอเมตตาอธิษฐานจิตจากหลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดถ้ำเขาบุนนาค , หลวงปู่แหวน สุจิณโน วัดดอยเม่ปั๋ง ) ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระบาทตากผ้า , หลวงปู่หล้า ตาทิพย์

    Clip_52.jpg Clip_57.jpg
     
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 10442

    รูปหล่ออุ้มบาตรครูบาอินสม สุมโน วัดทุ่งน้อย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ก้นอุดเกศา เทียนชัย


    ถือเป็นวัตถุมงคลที่ได้รับควานิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของท่าน เนื่องจากมีผู้นำไปใช้แล้วต่างเกิดประสบการณ์ด้านต่างที่ไม่เหมือนกันมีทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน และด้านเมตตาแล้วแต่บุคคลนั้นจะอธิษฐานเอา จึงทำให้ปัจจุบันหาได้ยากมากในพื้นที่ใครมีต่างหวงแหนกันมาก
    สวยเดิมๆครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_45.jpg Clip_46.jpg Clip_47.jpg Clip_48.jpg Clip_66.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2022
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10443

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อห้อม กะไหล่ทอง ปี 2519 หลังมีจาร เลี่ยมเก่าเดิมๆ

    หลวงพ่อห้อม อมโร

    พระราชพฤฒาจารย์ วัดคูหาสุวรรณ ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย

    #ประวัติย่อ พระราชพฤฒาจารย์ หรือ พระสุขวโรทัย (หลวงพ่อห้อม อมโร) - สมณศักดิ์ พ.ศ.2481 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมที่ “ พระสมุห์ ” ของเจ้าคณะกิ่งอำเภอบ้านด่านลานหอย พ.ศ.2494 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็น พระครูเจ้า คณะอำเภอชั้นโทที่ “ พระครูสุขวโรทัย ” พ.ศ.2499 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็น พระครูเจ้า คณะอำเภอชั้นเอกที่ “ พระครูสุขวโรทัย ” (ราชทินนามเดิม) พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็น พระราชา คณะชั้นสามัญที่ “ พระสุขวโรทัย ” พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็น พระราชา คณะชั้นราชที่ “ พระราชพฤฒาจารย์ ” :ข้อมูลจาก บันทึกประวัติพระสุขวโรทัย โดย หลวงพ่อบันทึกประวัติท่านเมื่ออายุ 84 ปี (9 มิถุนายน 2535) "หลวงพ่อห้อม อมโร" เป็นพระสุปฏิปันโน “ ปฏิบัติดี “ เป็นที่เคารพศรัทธาของพระภิกษุ และญาติโยมทั่ว ๆ ไป - เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมแก่กล้า ประกอบด้วยเมตตาธรรม สมาธิจิตมั่นคง ได้รับอาราธนาไปพุทธาภิเษกหลายสถานที่ - สมเด็จพระญาณสังวร และหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เคยมากราบหลวงพ่อห้อม วัตถุมงคลที่หลวงพ่อห้อมปลุกเศกมีพุทธคุณ ตามที่มีผู้บูชาบอกเล่า คือ เมตตา–ค้าขาย– แคล้วคลาด–กันไฟ–ภัยศัตรู และคงกระพัน หลวงพ่อห้อมมรณภาพเมื่อ วันที่ 6 มิถุนายน 2541 สิริอายุ 90 ปี ( 70 พรรษา )


    บูชาแล้วครับ

    clip_38-jpg.jpg clip_39-jpg.jpg clip_40-jpg.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2022
  11. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,977
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ขอ จองครับ
     
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    ขออภัยด้วยครับพี่รายการนี้ปิดไปแล้วครับ
     
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345

    รายการที่ 10444

    ปิดตารุ่นแรกอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ วัดป่าสัก

    อาจารย์เณรท่านนี้ท่านมีความขมังเวทย์และเชี่ยวชาญการสร้างวัตถุมงคล ทั้งพระเครื่องและเครื่องรางโดยเฉพาะเครื่องรางของท่านนั้นในยุคนั้นโด่งดัง มาก ไม่ว่า จะเป็น กุมารทอง วัวธนู ตะกรุด เสื้อยันต์ และ เครื่องรางอื่นๆท่านได้สร้างกุมารทองเนื้อผงอาถรรพ์
    หายากมากครับ


    ราคา 4850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_3.jpg Clip_6.jpg Clip_7.jpg Clip_8.jpg Clip_10.jpg Clip_9.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2022
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10445

    เหรียญหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม รุ่นแรก ปี 2516.ตอกโค๊ตแท้ดูง่าย

    “หลวงปู่แย้ม ฐานยุตโต” หรือ “พระครูประยุตนวการ” พระเกจิอาจารย์อาวุโส วัดสามง่าม หรือวัดอรัญญิการาม ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เหรียญรุ่นแรก สร้างเมื่อปีพ.ศ.2516 ที่ระลึกงานทำบุญฉลองอายุครบ 5 รอบ (60 ปี) ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาส งานนี้คณะลูกศิษย์ร่วมกันจัดสร้างถวาย แต่ไม่กล้าขออนุญาต จึงไปขออนุญาตหลวงพ่อเต๋ เจ้าอาวาสวัดสามง่ามในขณะนั้นแทน นับได้ว่าได้รับการปลุกเสกจากทั้งหลวงพ่อเต๋และหลวงปู่แย้ม สองพระเกจิชื่อดัง…●
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่แย้ม ปี 16 ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ หูในตัว ยกขอบหน้า–หลัง ด้านหน้าเหรียญมีขอบเส้นลวดอีกชั้นหนึ่ง ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงปู่แย้มห่มคลุมจีวรหันข้างไปทางขวา ด้านล่างมีอักษรไทยว่า “พระอาจารย์แย้ม ฐานยุตฺโต” ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์พุทธะสังมิ ซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวของท่าน มีข้อความว่า “ทำบุญฉลองครบอายุ ๕ รอบ รองเจ้าอาวาส วัดสามง่าม นครปฐม” และมีการตอกโค้ดตัว “ย” ทุกเหรียญ
    หลังจากนั้น คณะลูกศิษย์ผู้สร้างได้เก็บเหรียญทั้งหมดไปถวาย "หลวงพ่อเต๋" ท่านก็ได้เมตตาปลุกเสกให้ ต่อมาลูกศิษย์ได้นำเหรียญทั้งหมดมาถวายหลวงปู่แย้มอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ท่านไม่ปฏิเสธ ได้เมตตาปลุกเสกเหรียญให้อีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับลงเหล็กจารให้ด้วย นับเป็นเหรียญที่ได้รับการปลุกเสกทั้งหลวงพ่อเต๋ และหลวงปู่แย้ม
    เหรียญรุ่นแรกนี้สร้างด้วยเนื้อเงิน, นวโลหะ และทองแดง จำนวนไม่เกิน 2,500 เหรียญ
    เหรียญรุ่นแรกนี้..สร้างเป็นเนื้อเงิน นวโลหะ และทองแดง มีจำนวนไม่เกิน 2,500 เหรียญ…●
    หลวงปู่แย้ม..เป็นพระเกจิผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สมถะ มีศิลจารวัตรงดงาม มีเมตตาบารมี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และจรรโลงพระพุทธศาสนาตลอดอายุขัย ได้เดินตามรอยพระอาจารย์ ประการสำคัญคือ การสืบทอด "ตำรามหาพุทธาอาคมของวัดสามง่าม"
    พระเกจิอาจารย์ที่อยู่ในยุคเดียวกับ หลวงปู่แย้ม ก็มี หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ฯลฯ
    ในงานพิธีสำคัญๆ หลวงปู่แย้ม จะได้กิจนิมนต์ด้วยเสมอ และได้สมญานาม "พระเกจิ 5 แผ่นดิน" เพราะท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ 6 มรณภาพรัชกาลที่ 10 มีอายุยืนยาว ถึง 102 ปี 79 พรรษา..


    แท้ดูง่าย ตอกโค๊ต ชัดเจน


    ราคา 7850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 0861936900

    Clip_11.jpg Clip_12.jpg Clip_13.jpg Clip_15.jpg Clip_16.jpg Clip_18.jpg Clip_19.jpg Clip_22.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2022
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10446

    เตารีดหลวงพ่อจันทร์แก้ว ปราบภัยแหลมทอง วัดเลียบ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
    เป็นพระปั๊มสร้างปี พ.ศ. 2506 รุ่นแรก พิมพ์นิยม เนื้อเหลือง ก้นกลึง


    พระประสบการณ์ ของทางสงขลา

    บูชาแล้วครับ

    Clip_21.jpg Clip_23.jpg Clip_25.jpg Clip_26.jpg Clip_27.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2022
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10446

    ประคำ ๑๐๘ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี เม็ดใหญ่ ขนาด 1 ซม ยาว 18 นิ้ว หายาก สวยจัดจ้านเก่าดูง่าย

    เนื้อกรามช้าง หลวงพ่อท่านจัดสร้างหลังจากที่สร้างอุโบสถ วัดท่าซุง เสร็จได้ไม่นาน ราวๆ ปี ๒๕๒..กว่าๆ ลูกประคำที่หลวงพ่อท่านสร้างจะมีอยู่หลายแบบ มีทั้งเม็ดเล็กและเม็ดใหญ่ ประคำนี้ดีใช้ภาวนาทำกรรมฐาน ท่านบอกให้ทำเป็นกรรมฐานจะเกิดผลมากและยิ่งใหญ่ คือทิพจักขุญาณ ให้อาราธนาทุกวันควบคู่กับการภาวนาพระคาถาเงินล้านไปด้วย จะมีความคล่องตัว จะบังเกิดให้เห็นทันตา และยังป้องกันอันตรายต่างเหมือนพระเครื่องทุกประการ ควรอธิษฐานว่า "ขอความปราถนาทุกอย่างของข้าพเจ้าจงสำเร็จทุกประการ และเป็นเมตตามหานิยมแล้ว ยังมีนัยเพื่อให้เป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ
    เม็ดใหญ่หายากมากเก่าสวยจัดจ้านน่าบูชามากครับ
    สวยเดิมๆครับ


    ราคา 2650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_31.jpg Clip_32.jpg Clip_33.jpg Clip_34.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2022
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10447

    ล็อคเก็ตเข็มกลัดมงกุฎเพชร รุ่น1 ปี 2528 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง (พระสุธรรมยานเถระ-เล็ก) หายากครับ สวยกล่องเก่าเดิมๆ


    ล็อกเก็ตเข็มกลัดมงกุฎเพชรหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ( พระสุธรรมยานเถระ ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี รุ่นแรก ฝังเพชรแก้วมณีรัตนะหรือลูกแก้วสารพัดนึก ( สร้างปีพ.ศ 2528 เป็นรูปหลวงพ่อ ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร ยันต์ที่นับว่าป้องกันได้ทั้งหมด เป็นยันต์พุทธคุณห้องแรก อิติปิโสฯตามตำราพระร่วงที่สืบทอดมาจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

    ล็อกเก็ต มงกุฏเพชร หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    กว้าง 4.5 ซม. ยาว 2.8 ซม.

    เป็นเหรียญที่ระลึกสมณศักดิ์ มีรูปลงยาหลวงพ่อในวงกลม บนรูปมีมงกุฎครอบเพชร และประภามณฑลรอบล่างเขียนชื่อสมณศักดิ์

    แบบตัวหนังสือ "พระสุธรรมยานเถระ" สร้างครั้งแรกเมื่อเดือน มีนาคม 2528

    ด้านหลังมียันต์เกราะเพชร

    หลวงพ่อท่านเล่าถึงอานุภาพของเหรียญมงกุฎเพชรไว้เมื่อครั้งปลุกเสกเมื่อเดือนกันยายน 2532 ว่าดังนี้
    "พอเต็มแล้ว ฉันก็ขึ้นไปกราบพระ พระใหญ่คือองค์ปฐม ท่านเป็นประธานอยู่ ถามว่าของทั้งหมด ทั้งพระบูชา และก็มงกุฎเพชรนี่ มีประโยชน์อย่างไรครับ มีอะไรบ้าง ท่านก็บอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ด้วยอำนาจพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ เทวานุภาพ พรหมานุภาพ ทั้งหมดต้องมีความไม่ประมาทอาราธนาไว้เสมอ
    อันดับแรกที่ฉันจะบอกเธอนะ คือ กันโรคระบาดทุกอย่าง ขึ้นชื่อว่าโรดระบาดทุกอย่างนี่กันหมด พอท่านบอกแบบนี้ เจ้าของโรคระบาดก็ปรากฏตัวเป็นกลุ่มใหญ่ โรคระบาดขั้นถึงตายอย่างอหิวาต์ชุดแดง คนนะ โรคระบาดสัตว์นี่ชุดเขียว บอกผมครับเป็นเจ้าหน้าที่โรคระบาดทั้งสองฝ่าย
    มาแล้วก็ถามว่า ถ้าเขามีของนี้บูชาอยู่ หรือจะติดตัวอยู่ก็ตาม พระบูชาก็ตาม จะมีผลไหม เขาก็บอกว่า อย่าลืมนึกถึงพระพุทธเจ้านะ ผมเคารพพระพุทธเจ้า ถ้ามีผลจะจัดหลีก ก็เลยถามท่านบอกว่า โรคระบาดอันดับแรกที่พระองค์จะทรงสงเคราะห์คือโรคอะไรครับ ท่านบอก "โรคเอดส์"
    ถามท่านว่า ถ้าเชื้อมันมาจะเป็นอย่างไร ท่านบอกถ้าเชื้อเข้ามามันจะด้าน พอดีท้าวเวสสุวัณท่านอธิบายต่อว่า คำว่า "ด้าน" คือตาย เชื้อมันตาย แต่ว่าทั้งนี้ต้องอาราธนาเช้า อาราธนาเย็น ก็บูชาเช้าบูชาเย็น ต้องบอกไว้เรื่อยๆ โรคระบาดทั้งหมด
    ประการที่สอง ท่านบอกว่าถ้าต้องการความปลอดภัย ท้าวเวสสุวัณอธิบายว่า อำนาจพุทธานุภาพ "พุทโธ อัปปมาโณ" คุณของพระพุทธเจ้าหาประมาณมิได้ "ธัมโม อัปปมาโณ" คุณของพระธรรมหาประมาณมิได้ "สังโฆ อัปปมาโณ" คุณพระสงฆ์หาประมาณมิได้
    ถ้าหากว่าไม่ต้องการให้ของหาย ขอให้อธิฐานบอกว่า "ขอผู้ร้ายจงอย่าเห็นบ้าน จงอย่าเห็นประตู หรือศัตรูอย่าเห็นตัว เฉพาะศัตรู หมายความว่าเขายังไม่คิดจะทำร้าย เขาก็อาจจะเห็น ถ้าคิดจะทำร้ายเขาจะไม่เห็น ถ้าคนนั้นยังเป็นขโมยยังไม่ลักบ้านเรา อาจจะเห็น ถ้าจะลักบ้านเราอาจจะไม่เห็น ให้อธิฐานตามนั้นนะ และต่อไปเรื่องลาภสักการะอะไรต่างๆธรรมดา


    บูชาแล้วครับ

    Clip_28.jpg Clip_29.jpg Clip_30.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2022
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10448

    เหรียญรุ่นแรกครูบาอินทวงศ์ วัดอินทขิล อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ปีพ.ศ. 2511 ผิวไฟสวยๆเดิม


    ครูบาอินทวงศ์เป็นพระปฏิบัติดีอย่างยิ่งรูปหนึ่งของสายเหนือ เป็นพระผู้เฒ่าซึ่งเป็นที่เคารพของหมู่พระภาคเหนือหลายรูป ท่านเกิดร่วมยุคกับครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน ถือได้ว่าเป็นผู้รัตตัญญูภาพที่ทรงศีลและอภิญญาอย่างยอดเยี่ยมของเมืองลำพูนครับ ครูบาอินทวงศ์ วัดอินทขิล ป่าซาง องค์สุปฎิบันโน ที่เกิดอัศจรรย์งานประชุมเพลิง เพลิงโหมไหม้แรงมาก แต่น้ำฉีดกลับออกแค่ปลายกระบอก แต่หันไปทางอื่นกลับพุ่งเต็มแรง คนฉีดน้ำคือลุงประเสริฐ หูแกไม่ค่อยดี ครับ ได้สอบถามประวัติกับ ท่านลุงสุดสาคร ชมพูงามบ้านป่าซางอินทขิลผู้เป็นอุปฐากท่านสมัยนั้น ปัจจุบันอายุ 70 กว่าปีแล้ว อาชีพตัดผ้าครับ ได้เล่าว่า( เพราะน้ำที่เอามานั้นสูบมาจากหนองใกล้บ้านสาวสมัยน้ำที่บ่อ ปัจจุบันคือ โลตัสป่าซางนั้นเอง เป็นน้ำชำระตัว และอื่นฯฯ นั้นเอง ท่านเป็นพระร่วมสมัยครูบาเจ้าศรีวิไชยครับ ตามประวัติ ##รูปครูบาเจ้าอินทวงศ์วัดอินทขิลอ.ป่าซาง กระดาษหนังไก่เข้าใจว่าสร้างพร้อมเหรียญรุ่นแรกปี2511มีประสบการณ์และอภินิหารมากมายเกี่ยวกับครูบาเจ้า ท่านเป็นพระรุ่นพี่ที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยเคารพนับถือยิ่งนักและมาแวะกราบและพักที่วัดท่านทุกครั้งที่เดินทางผ่าน ท่านยังเป็นพระอาจารย์ใหญ่อีกท่านหนึ่งของครูบาเจ้าพรหมาวัดพระพุทธบาทตากผ้า พระอริยสงฆ์แห่งลำพูนอีกท่านหนึ่ง ท่านครูบาเจ้าเป็นพระผู้ทรงวิทยาคมและเปลี่ยมล้นด้วยบารมีธรรมมีศีลธรรมกรรมฐานแก่กล้าเป็นที่เคารพนับถือในพื้นที่อ.ป่าซางเป็นอย่างยิ่ง... ประวัติมหาเถรเมืองเวฬุคามป่าซางในอดีต ---------------------------- เถรประวัติท่านครูบาอินทวงศ์ อินฺทวํโส เรียบเรียงจากท่าน @หลักเมือง ป่าซาง --------------------------- ชาตกาล - ชาติภูมิ นามเดิม: อิ่นแก้ว เอ๊ะคำโย (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น วงศ์สุรินทร์) เกิด 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2417 ตรงกับเดือนยี่เหนือ ขึ้น 4 ค่ำ ปีกาบเส็ด จ.ศ. 1236 เวลา 18.30 น. ณ บ้านป่าซางน้อย ต.บ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน บิดา-มารดา: พ่อตุ่น - แม่วันดี เอ๊ะคำโย (บ้านเดิมบิดาอยู่บ้านสันมะโก บ้านเดิมมารดาอยู่ป่าซางน้อย) ท่านครูบา มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 5 คน; 1. แม่เฒ่าขันแก้ว เอ๊ะคำโย เป็นบุตรคนหัวปี 2. ท่านครูบา 3. พ่อน้อยอิ่นคำ เอ๊ะคำโย 4. พ่อน้อยคำสม เอ๊ะคำโย 5. พ่อหนานคำณวล เอ๊ะคำโย (อาจารย์วัดพานิชสิทธิการาม) เมื่อวัยเยาว์ท่านครูบาเป็นผู้มีนิสัยเรียบร้อยอารมณ์เยือกเย็น ไม่ชอบการรังแก ไม่ชอบกระทำสิ่งที่ผิดต่อศีลธรรม เมื่ออายุได้ 11 ปี บิดาได้นำท่านครูบาไปฝากให้เล่าเรียนในสำนักวัดอินทขิล กับท่านครูบาจันทร์ จนฺทรํสี อดีตเจ้าอาวาส ------------------------ บรรพชา-อุปสมบท เมื่ออายุครบ 12 ปี ตรงกับปีเส็ด (ปีจอ) จ.ศ. 1248 พ.ศ. 2429 ท่านครูบาได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดอินทขิล โดยมีท่านครูบาอุปละ วัดบ้านก้อง เป็นพระอุปัชฌาย์ ให้นามว่า “สามเณรอินทวงศ์” เมื่ออายุครบ 21 ปี ในปีสัน (ปีวอก) จ.ศ. 1258 พ.ศ. 2439 ท่านครูบาได้เข้าอุปสมบท ณ อุโบสถวัดป่าซางงาม โดยมี; 1. ครูบาอุปละ วัดบ้านก้อง เป็นพระอุปัชฌาย์ 2. ครูบาจันทร์ จนฺทรํสี วัดอินทขิล เป็นพระกรรมวาจารย์ 3. ครูบาชินนะชัย วัดป่าซางงาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีนามฉายาว่า “อินฺทวํโส” -------------------------- การปกครอง ต่อมาท่านครูบาจันทร์ จนฺทรํสี อดีตเจ้าอาวาส ได้ถึงแก่มรณภาพ ในปียี (ปีขาล) เดือน 12 เหนือ ขึ้น 15 ค่ำ ขณะท่านครูบาอินทวงศ์มีอายุได้ 31 ปี พระมหาเถระในละแวกนั้น เป็นต้นว่าท่านครูบาขัตติยะ (แก้ว) วัดป่าเหียง และ ท่านครูบาปัญญา วัดป่าซางน้อย ได้มอบหมายให้ท่านครูบาอินทวงศ์เป็นเจ้าอาวาสวัดอินทขิล ในปียี (ปีขาล) จ.ศ. 1269 พ.ศ. 2540เดือน 3 เหนือ -------------------------- ประวัติการก่อสร้าง 1. สร้างหอพระไตรปิฏก (หอธรรม) ปัจจุบันรื้อไปแล้ว 2. จัดการรื้อวิหารหลังเก่าซึ่งชำรุดทรุดโทรมไป แล้ว ได้สร้างวิหารหลังใหม่แทน (หลังปัจจุบัน) 3. สร้างกุฏิขึ้น 1 หลัง เมื่อปี พ.ศ. 2477 4. บูรณะพระประธานและแท่นแก้ว ปี พ.ศ. 2477 5. สร้างศาลาบาตรติดกำแพงด้านทิศเหนือ เมื่อปี พ.ศ. 2481 6. สร้างศาลาการปรียญ 1 หลัง เมื่อปี พ.ศ. 2490 7. สร้างมณฑปครอบเสาอินทขิล เมื่อปี พ.ศ. 2494 8. สร้างเจดีย์ ด้านหลังวิหาร 9. จัดการรื้อศาลาการเปรียญหลังเก่า เพราะไม่ถูกลักษณะ สร้างใหม่แทนเมื่อ ปี พ.ศ.2500 10. ต่อเติมศาลาการเปรียญ เมื่อปี พ.ศ.2507 11. วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2509 เริ่มก่อสร้างอุโบสถ 1 หลัง และผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 ทำการฉลองอุโบสถ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2510 ---------------------------- มรณกาล ท่านครูบาได้ถึงแก่มรณภาพ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511 เวลา 06.55 น. สิริอายุ 95 ปี 74 พรรษา

    #สุดยอดเหรียญประสบการณ์ของเวียงป่าซางครับ

    สวยแชมป์ผิวไฟเดิม


    ปิดรายการนี้ครับ

    Clip_36.jpg Clip_37.jpg Clip_35.jpg Clip_38.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2022
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10449

    ล็อกเก็ตยุคต้น หลวงพ่อดาบส สุมโน หายากมากขนาด เล็ก สวยเดิมๆน่าบูชามาก


    พระคุณเจ้าดาบส สุมโน พระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์
    วัตถุมงคลยุคแรกของท่านทีท่านเมตตาพระคุณเจ้าฯเอง มอบไว้ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ได้ใช้พกพาติดตัว พุทธคุณนั้นโดดเด่นในด้านโชคลาภ ทำมาค้าขายดี ร่ำรวยเงินทอง เล็กกระทัดรัดพกพาง่าย ครับ

    ดูง่ายหายากมากครับ


    ปิดรายการนี้ครับ

    Clip_6.jpg Clip_7.jpg Clip_16.jpg Clip_18.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2022
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,377
    ค่าพลัง:
    +1,345
    รายการที่ 10450

    ผ้ายันต์ เขียนมือ หลวงพ่อดาบส สุมโน ขนาด 3.5 *3 นิ้ว สวยเดิม


    พระคุณเจ้าดาบส สุมโน พระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ วัตถุมงคลยุคแรกของท่านทีท่านเมตตาลงอักขระด้วยมือของพระคุณเจ้าฯเอง มอบไว้ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ได้ใช้พกพาติดตัว พุทธคุณนั้นโดดเด่นในด้านโชคลาภ ทำมาค้าขายดี ร่ำรวยเงินทอง และเมตตามหานิยม ผืนเล็กกระทัดรัดพกพาง่าย ครับ
    ลายมือหลวงพ่อชัดเจนดูง่ายหายากมากครับ


    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_8.jpg Clip_16.jpg Clip_18.jpg

    หลวงพ่อดาบส ท่านเป็นพระอริยะเจ้า เป็นพระบุญฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ เป็นพระสุปฏิปันโนที่ควรแก่การสักการะ กราบไหว้ เมื่อท่านมรณภาพแล้วขนาดหัวใจของท่าน ยังเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็นพระธาตุ สีเขียวมรกตครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน

    “หลวงพ่อดาบส สุมโน
    ” เดิมชื่อ “สง่า” นามสกุล “เจริญจิตต์”
    เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กัน ยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
    เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน
    บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง”
    ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ขณะอายุได้ ๗ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรมและต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุได้ ๑๑ ปี “เด็กชายสง่า” ก็ต้องสูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปอีกคน จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณป้า” และเริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่ ๑ โรงเรียนวัดบางกระไชย จบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘

    ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท”

    ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ อายุครบ ๒๐ ปี “สามเณรสง่า” จึงอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” โดยมีท่าน “เจ้าคุณอมรโมลี” เป็นอุปัชฌาย์ได้ฉายาว่า “สุมโน” กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๘๙ อันเป็นพรรษาที่ ๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” ได้กราบลา “พระอุปัชฌาย์” เพื่อเดินทางไปศึกษา “ภาษาบาลี” กับท่าน “เจ้าคุณรัชมงคลมุณี” วัดหนองบัว จังหวัดระยอง ต่อมาในปี

    พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี

    ปี พ.ศ.๒๔๙๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” เดินทางมาพำนักที่ “วัดเจดีย์หลวง” จัง หวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติธรรมกับ “เจ้าคุณวินัยโกศล” (จันทร์ กุสโล) หรือ “พระพุทธพจนวราภรณ์” แล้วจึงออกจาก “วัดเจดีย์หลวง” ธุดงค์ไปตามเส้นทางสู่ “อำเภอดอยสะเก็ด” อีกครั้งพร้อมลัดเลาะไปตามป่าเขาถึง “ดอยพระเจ้าหล่าย” วันนั้นเป็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” จึงตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว ้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “๓ วัน ๓ คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๓ สิริอายุได้ ๗๖ ปี

    “หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่านจึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2022

แชร์หน้านี้

Loading...