**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10849

    เหรียญเมตตา หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร ปี 2517 เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต


    เหรียญ รุ่น 4

    ที่มาของเหรียญรุ่นเมตตา หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หรือ ท่านพระครูสันติวรญาณ อดีตเจ้าอาวาส วัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่ ท่านบำเพ็ญสมถกรรมฐานอยู่ที่สำนักสงฆ์ ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต(พระเถระที่มีอัฐิเป็นพระธาตุ) ท่านพระอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น เคยเอ่ยถึงหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร ต่อหน้าลูกศิษย์ของท่านทั้งหลายว่า"ยังมีดอกไม้ดอกหนึ่งยังตูมอยู่ หากบานเมื่อใดจักหอมหวลกว่ามวลหมู่" ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ศิษย์เอกหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของ หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร เคยบอกกับผู้ใกล้ชิดท่านว่า"ท่านสิมเขามีบุญบารมีแต่ชาติก่อนที่เขาได้บำเพ็ญบารมีมามากเหลือเกิน เป็นบุญกุศลส่งเสริมเขาให้สำเร็จไวกว่าคนอื่นๆ"...นั่นเป็นคำทำนายของปรมาจารย์ในฝ่ายธรรมยุตนิกายของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ที่เอ่ยถึง หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร...
    หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่เคร่งครัดต่อกรรมฐานและสมณะอย่างยิ่งยวด ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพันธะผูกพันเครื่องรัดร้อย...มุ่งสู่ป่าเขาเพื่อบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานหาทางหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ด้วยบุญบารมี..มีคนนิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสพร้อมกันถึง 3 วัดคือ วัดอโศการาม เมื่อตอนหลวงพ่อลี มรณภาพ ญาติยมที่ศรัทธาได้มานิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปีพศ.2504-2508 เป็นเจ้าอาวาส วัดป่าสุธาวาส ปีพศ.2509และที่วัดสันติธรรม เชียงใหม่ ทั้งๆที่มีพระอาจารย์อยู่มากองค์ แต่ญาติยมและศรัทธากลับลงมติขอเลือก หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร เป็นเจ้าอาวาสทั้ง 3 วัดดังกล่าว...
    คุณธงชัย อุดมความสุข ได้ชวนเพื่อนๆขึ้นไปกราบนมัสการท่านหลวงพ่อสิม บนถ้ำผาปล่อง เมื่อวันที่ 1 กันยายน พศ.2517 ได้ตั้งเจตนาและอธิฐานจิตไว้แล้วว่า ว่าจะขออนุญาตท่านจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่าน...เพื่อนำปัจจัยที่ได้ไปซื้อยารักษาโรคให้แก่ภิกษุสงฆ์ที่อาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์ เชียงใหม่และผู้ป่วยโรคปอดในโรงพยาบาลโรคปอดเชียงใหม่...ส่วนที่เหลือก็นำถวายให้ทางสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่องไว้ก่อสร้างวัตถุในวัดด้วย...คุณธงชัย อุดมความสุข ได้คุยปรึกษากับ พระมหาทองอินทร์ กุสลจิตโต เจ้าอาวาสวัดสันติธรรม ท่านพระมหาทองอินทร์ ได้พูดว่า"อาตมาเคยขอท่าน(หลวงพ่อสิม)หลายครั้งแล้ว ท่านก็บอกให้รอๆไปก่อนยังไม่ถึงเวลา การที่ได้ขอไปหลายครั้งเลยไม่กล้าขออีก มีหลายคนแล้วที่มาขอ ท่านสร้างเหรียญของท่าน แต่ก็ไม่เห็นมีใครได้เลย...
    คุณธงชัย อุดมความสุข ได้ขึ้นไปนมัสการหลวงพ่อสิม และได้ขอความเมตตาจาก หลวงพ่อสิม พร้อมทั้งแจ้งจุดประสงค์และเจตนา ในการสร้างครั้งนี้ หลวงพ่อสิม ท่านรับรู้ได้ว่ามีความตั้งใจจะทำจริงๆ ท่านก็ได้อนุญาตให้จัดสร้างและบอกว่า"เหรียญใส่ชื่อว่าเหรียญเมตตานะ"ทำให้คุณธงชัย ปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้คาดคิดว่าหลวงพ่อจะเมตตาให้อย่างง่ายดาย เพราะเท่าที่ทราบมามีคณะจากกรุงเทพ ได้ขออนุญาต หลวงพ่อสิมจัดสร้างหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นมีคณะไหนได้รับอนุญาตเลย...มีอยู่ช่วงหนึ่งหลวงพ่อ สิมได้กล่าวกับคุณ ธงชัย ว่า..."ธงชัยกับหลวงพ่อเคยสร้างบุญร่วมกันมาแต่ชาติก่อน แล้วชาตินี้ได้มาพบกันอีก มาร่วมทำบุญกัน ขอทำให้ดีทำใจให้มีธรรมมะ ทำแล้วให้ถึงตัวบุญตัวกุศลจริงๆ"...
    การดำเนินการสร้างครั้งนี้ คุณ ธงชัย อุดมความสุข มีความตั้งใจอย่างมากให้ได้ตรงตามเจตนา และยังได้รับความเมตตาช่วยเหลือจาก ท่านพระครูใบฎีกาณรงค์ชัย รักขิตสีโล เจ้าอาวาสวัดป่าทรงคุณ จ.ปราจีน รับเป็นธุระเรื่องแผ่นยันต์ลงจาร จาก..พระอาจารย์สายกรรมฐานอีกหลายๆรูป และแผ่นทอง แผ่นเงิน แผ่นนาค จากหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร นำมาหล่อหลอมกับพระชุดเมตตานี้ รายละเอียดจำนวนการสร้างมีดังนี้...
    1.เหรียญเมตตาเนื้อทองคำ 67 เหรียญ ทำบุญ 2,500 บาท
    2.เนื้อเงิน 999 เหรียญ ทำบุญ 109 บาท
    3.เนื้อนวโลหะ 1,111 เหรียญ ทำบุญ 75 บาท
    4.เนื้อทองแดง 7,777 เหรียญ ทำบุญ 25 บาท
    5.พระหล่อซุ้มกอรูปเหมือน 227 เหรียญ ทำบุญ 300 บาท
    6.พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักปิดทอง 2000 องค์ ทำบุญ 30 บาท
    7.เหรียญพระปิดตา(เจริญสุข)เนื้อทองแดง 2000 องค์ 30 บาท
    ทั้งนี้ได้มีนำพระบางส่วนจัดเข้าชุดกรรมการจำนวน 227 ชุดหนึ่งมี 6 องค์ดังนี้....
    1.พระหล่อซุ้มกอรูปเหมือน ตอกโค๊ด"ธา"
    2.เหรียญเมตตาเนื้อเงิน ตอกโค๊ด"นะ"
    3.เหรียญเมตตาเนื้อนวโลหะ "ธา"
    4.เหรียญเมตตาเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอกโค๊ด"ธา"
    5.เหรียญเมตตาเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอกโค๊ด"ธา"
    6.พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักปิดทอง
    เหรียญรุ่นนี้ถูกยกย่องว่าเป็นเหรียญยอดนิยมชื่อ รุ่นเมตตา เป็นมงคลแก่ผู้ได้มีไว้บูชา ออกเเบบได้สวยงดงามเเกะบล็อกได้เหมือนหลวงปู่สิมมากที่สุดรุ่นหนึ่งของท่าน...ตอกโค๊ดรันนัมเบอร์ ประวัติการสร้างชัดเจน
    สำหรับเหรียญนี้เป็นเนื้อ ทองแดง ตอกโค๊ต
    ยกให้เหรียญรุ่นนี้เป็นยอดนิยมที่สุดของท่านน่าบูชามากครับ


    ราคา 8500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    nbku.jpg nvyh[[.jpg vn.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10850

    พระปิดตา(เจริญสุข) หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร ปี 2517 เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต


    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หรือ ท่านพระครูสันติวรญาณ อดีตเจ้าอาวาส วัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่ ท่านบำเพ็ญสมถกรรมฐานอยู่ที่สำนักสงฆ์ ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต(พระเถระที่มีอัฐิเป็นพระธาตุ) ท่านพระอาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น เคยเอ่ยถึงหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร ต่อหน้าลูกศิษย์ของท่านทั้งหลายว่า"ยังมีดอกไม้ดอกหนึ่งยังตูมอยู่ หากบานเมื่อใดจักหอมหวลกว่ามวลหมู่" ท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ศิษย์เอกหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของ หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร เคยบอกกับผู้ใกล้ชิดท่านว่า"ท่านสิมเขามีบุญบารมีแต่ชาติก่อนที่เขาได้บำเพ็ญบารมีมามากเหลือเกิน เป็นบุญกุศลส่งเสริมเขาให้สำเร็จไวกว่าคนอื่นๆ"...นั่นเป็นคำทำนายของปรมาจารย์ในฝ่ายธรรมยุตนิกายของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ที่เอ่ยถึง หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร...
    หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่เคร่งครัดต่อกรรมฐานและสมณะอย่างยิ่งยวด ท่านได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพันธะผูกพันเครื่องรัดร้อย...มุ่งสู่ป่าเขาเพื่อบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานหาทางหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ด้วยบุญบารมี..มีคนนิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสพร้อมกันถึง 3 วัดคือ วัดอโศการาม เมื่อตอนหลวงพ่อลี มรณภาพ ญาติยมที่ศรัทธาได้มานิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปีพศ.2504-2508 เป็นเจ้าอาวาส วัดป่าสุธาวาส ปีพศ.2509และที่วัดสันติธรรม เชียงใหม่ ทั้งๆที่มีพระอาจารย์อยู่มากองค์ แต่ญาติยมและศรัทธากลับลงมติขอเลือก หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร เป็นเจ้าอาวาสทั้ง 3 วัดดังกล่าว...
    คุณธงชัย อุดมความสุข ได้ชวนเพื่อนๆขึ้นไปกราบนมัสการท่านหลวงพ่อสิม บนถ้ำผาปล่อง เมื่อวันที่ 1 กันยายน พศ.2517 ได้ตั้งเจตนาและอธิฐานจิตไว้แล้วว่า ว่าจะขออนุญาตท่านจัดสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่าน...เพื่อนำปัจจัยที่ได้ไปซื้อยารักษาโรคให้แก่ภิกษุสงฆ์ที่อาพาธอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์ เชียงใหม่และผู้ป่วยโรคปอดในโรงพยาบาลโรคปอดเชียงใหม่...ส่วนที่เหลือก็นำถวายให้ทางสำนักสงฆ์วัดถ้ำผาปล่องไว้ก่อสร้างวัตถุในวัดด้วย...คุณธงชัย อุดมความสุข ได้คุยปรึกษากับ พระมหาทองอินทร์ กุสลจิตโต เจ้าอาวาสวัดสันติธรรม ท่านพระมหาทองอินทร์ ได้พูดว่า"อาตมาเคยขอท่าน(หลวงพ่อสิม)หลายครั้งแล้ว ท่านก็บอกให้รอๆไปก่อนยังไม่ถึงเวลา การที่ได้ขอไปหลายครั้งเลยไม่กล้าขออีก มีหลายคนแล้วที่มาขอ ท่านสร้างเหรียญของท่าน แต่ก็ไม่เห็นมีใครได้เลย...
    คุณธงชัย อุดมความสุข ได้ขึ้นไปนมัสการหลวงพ่อสิม และได้ขอความเมตตาจาก หลวงพ่อสิม พร้อมทั้งแจ้งจุดประสงค์และเจตนา ในการสร้างครั้งนี้ หลวงพ่อสิม ท่านรับรู้ได้ว่ามีความตั้งใจจะทำจริงๆ ท่านก็ได้อนุญาตให้จัดสร้างและบอกว่า"เหรียญใส่ชื่อว่าเหรียญเมตตานะ"ทำให้คุณธงชัย ปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้คาดคิดว่าหลวงพ่อจะเมตตาให้อย่างง่ายดาย เพราะเท่าที่ทราบมามีคณะจากกรุงเทพ ได้ขออนุญาต หลวงพ่อสิมจัดสร้างหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นมีคณะไหนได้รับอนุญาตเลย...มีอยู่ช่วงหนึ่งหลวงพ่อ สิมได้กล่าวกับคุณ ธงชัย ว่า..."ธงชัยกับหลวงพ่อเคยสร้างบุญร่วมกันมาแต่ชาติก่อน แล้วชาตินี้ได้มาพบกันอีก มาร่วมทำบุญกัน ขอทำให้ดีทำใจให้มีธรรมมะ ทำแล้วให้ถึงตัวบุญตัวกุศลจริงๆ"...
    การดำเนินการสร้างครั้งนี้ คุณ ธงชัย อุดมความสุข มีความตั้งใจอย่างมากให้ได้ตรงตามเจตนา และยังได้รับความเมตตาช่วยเหลือจาก ท่านพระครูใบฎีกาณรงค์ชัย รักขิตสีโล เจ้าอาวาสวัดป่าทรงคุณ จ.ปราจีน รับเป็นธุระเรื่องแผ่นยันต์ลงจาร จาก..พระอาจารย์สายกรรมฐานอีกหลายๆรูป และแผ่นทอง แผ่นเงิน แผ่นนาค จากหลวงพ่อสิม พุทธาจาโร นำมาหล่อหลอมกับพระชุดเมตตานี้ รายละเอียดจำนวนการสร้างมีดังนี้...
    1.เหรียญเมตตาเนื้อทองคำ 67 เหรียญ ทำบุญ 2,500 บาท
    2.เนื้อเงิน 999 เหรียญ ทำบุญ 109 บาท
    3.เนื้อนวโลหะ 1,111 เหรียญ ทำบุญ 75 บาท
    4.เนื้อทองแดง 7,777 เหรียญ ทำบุญ 25 บาท
    5.พระหล่อซุ้มกอรูปเหมือน 227 เหรียญ ทำบุญ 300 บาท
    6.พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักปิดทอง 2000 องค์ ทำบุญ 30 บาท
    7.เหรียญพระปิดตา(เจริญสุข)เนื้อทองแดง 2000 องค์ 30 บาท
    ทั้งนี้ได้มีนำพระบางส่วนจัดเข้าชุดกรรมการจำนวน 227 ชุดหนึ่งมี 6 องค์ดังนี้....
    1.พระหล่อซุ้มกอรูปเหมือน ตอกโค๊ด"ธา"
    2.เหรียญเมตตาเนื้อเงิน ตอกโค๊ด"นะ"
    3.เหรียญเมตตาเนื้อนวโลหะ "ธา"
    4.เหรียญเมตตาเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอกโค๊ด"ธา"
    5.เหรียญเมตตาเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอกโค๊ด"ธา"
    6.พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักปิดทอง
    เหรียญรุ่นนี้ถูกยกย่องว่าเป็นเหรียญยอดนิยมชื่อ รุ่นเมตตา เป็นมงคลแก่ผู้ได้มีไว้บูชา ออกเเบบได้สวยงดงามเเกะบล็อกได้เหมือนหลวงปู่สิมมากที่สุดรุ่นหนึ่งของท่าน...ตอกโค๊ดรันนัมเบอร์ ประวัติการสร้างชัดเจน
    สำหรับเหรียญนี้เป็นเนื้อ ทองแดง ตอกโค๊ต
    ยกให้เหรียญรุ่นนี้เป็นยอดนิยมที่สุดของท่านน่าบูชามากครับ


    ราคา 2850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ดกหด.jpg กฟกฟ.jpg กเ.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10851

    รูปหล่อรุ่นแรกครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม กะไหล่เงิน อุดผงพุทธคุณ เส้นเกศา กล่องเดิม สวยเเชมป์


    พระแท้มาตรฐาของหลวงปู่วงค์อีกรุ่นที่น่าเก็บมากครับ

    สำหรับท่านที่ชอบเก็บพระสวยส่งประกวดไม่ควรพลาดครับ


    ราคา 2700บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    bnvy.jpg b[.jpg de.jpg bg.jpg buo.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10852

    พระผงพระบาทกบ ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ปี 2521 โรยเส้นเกศา สวย ๆ


    พระยุคแรกของท่านครูบาน่าใช้มากๆครับเห็นเส้นเกศาชัดเจน ครับ


    ราคา 1200 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    grf.jpg bvc.jpg v[.jpg nvy.jpg Clip_11.jpg

    ประวัติพระบาทกบ #เอาขี้บูชาพระ_เอาขนก้นบูชาพระ จากหนังสือ ธรรมปกิณกะ เล่ม 1 ...มีเรื่องของประวัติพระบาทกบ เกี่ยวเนื่องกับครูบาเจ้าชัยยะวงศ์ษามหาโพธิสัตว์... อดีตกาล ในยุคที่ พระพุทธตัณหังกะโร ได้มาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ก่อนพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ย้อนไป 28 พระองค์) มีเด็กชายพี่น้อง 4 คน เป็นคนยากจน กำพร้าพ่อแม่ ตั้งแต่ยังเล็กๆด้วยกัน จึงต้องหาอาชีพรับจ้างทั่วไป เพื่อหาเลี้ยงปากท้องไปวันๆ บางวันก็ไม่ค่อยพอ กินไม่ค่อยอิ่ม เด็กชายพี่น้อง 4 คน ต่างก็รับจ้างเป็นคนเลี้ยงควาย ให้กับนายบ้าน (ผู้ใหญ่บ้าน) ผู้มีฐานะคนหนึ่งเป็นประจำ พวกเขาจะต้อนควายฝูงใหญ่ให้หากินหญ้าตามประสาที่กลางทุ่งแห่งหนึ่ง ส่วนพวกเขาก็จะไปหลบพักนั่งหลบแดดอยู่ภายใต้ร่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง คือ "ต้นทองกวาว" ในขณะที่นั่งพักก็จะเฝ้าดูควายไปด้วย พอตกเย็นก็ช่วยกันต้อนควายเหล่านั้นกลับเข้าคอก จะกระทำเช่นนี้อยู่ทุกวันเป็นประจำ วันหนึ่งประมาณเที่ยงวัน ขณะที่พวกเขา 4 คนพี่น้อง นั่งหลบแดดเฝ้าดูควายอยู่ภายใต้ร่มต้นทองกวาวอยู่นั้น ก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย ในที่สุดก็เลยถามกันเองว่า "พวกเรา 4 พี่น้องนี้ ใครปรารถนาอยากจะเป็น อยากจะได้อะไรบ้าง ใครนึกอยากจะมีอะไร ทำอะไรก็ให้บอกมา" โดยพวกพี่ทั้ง 3 คน ได้พูดถามกับน้องคนสุดท้องว่า "น้องล่า..จะเป็นอะไรอยากได้อะไร อยากจะเป็นเจ้านาย เศรษฐีร่ำรวยมีข้าวของ เงินทอง หรืออยากได้อะไรให้พูดมาเลย" น้องคนสุดท้อง ก็มานั่งคิดพิจารณาว่าจะเป็นอะไรดี จะเป็นเจ้าบ้านเจ้าเมืองก็มีความทุกข์ ปัญหามาก เป็นคนมั่งมีข้าวของเงินทองก็ทุกข์ ต้องคอยระวังรักษา เป็นเจ้าลูก-เจ้าเมียก็ทุกข์ อันใดก็ทุกข์ทุกอย่าง ไม่เห็นดี ไม่เป็นสุขโดยตลอดเลย สู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าดีกว่า จะได้พ้นทุกข์ มีสุขอย่างแท้จริง จึงได้กล่าวตอบพวกพี่ๆ ไปว่า "พี่ของข้าทั้ง 3 เอ๋ย ตัวข้าปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าอย่างเดียว" แล้วน้องสุดท้องก็ถามกลับยังพี่ชายคนที่ 3 ว่า "แล้วอ้ายล่ะ ปรารถนาอะไร อยากเป็นอะไร อยากได้อะไร" พี่คนที่ 3 ก็ว่า "ถ้าน้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ตัวอ้ายก็ปรารถนาจะเอาขี้บูชา" น้องสุดท้องก็ตอบว่า "ดีแล้ว...ถ้าอ้ายปรารถนาอย่างนี้" หลังจากนั้นน้องสุดท้องก็ถามพี่ชายคนที่ 2 ว่า "อ้ายล่ะ ปรารถนาอยากได้อะไร อยากเป็นอะไร ขอให้บอกแก่น้องด้วย" พี่คนที่ 2 ก็ตอบว่า "ถ้าน้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า อ้ายก็ปรารถนาจะถอนขนที่ก้นบูชา" น้องก็ตอบว่า "ดีแล้ว อ้ายปรารถนาอย่างนั้นดีแล้ว" พี่ชายคนโตเมื่อได้ยินน้องรองทั้งสองกล่าวคำปรารถนาเช่นนั้นต่อน้องสุดท้อง ก็ไม่พอใจ จึงได้กล่าวดุด่าน้องทั้งสองว่า "พวกสูนี่โง่เง่าหรืออย่างไร น้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า แต่สูทั้งสองกลับจะเอาของไม่ดีไปบูชา สูนี่แย่ โง่เง่าเต่าตุ่น ที่ถูก เราควรปรารถนาอย่างน้องล่าดีกว่า" พี่น้องทั้ง 4 พูดกันแค่นี้แล้วก็เลิกกันไป เวลาผ่านไป จนพี่คนโตถึงแก่กรรม ก็ได้ไปเกิดเป็น พญากบ เฝ้าดอกบัวอยู่ น้องคนที่สอง เมื่อถึงแก่กรรมก็ไปเกิดเป็น พญานกยูง น้องคนที่สาม ถึงแก่กรรมตามอายุขัยก็ไปเกิดเป็น พญาผึ้ง ส่วนน้องคนสุดท้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อถึงแก่กรรมก็ไปเกิดเป็นผู้มีศีล มีสัตย์ มีเมตตาและได้เกิดเป็นหน่อพุทธางกูรมาทุกชาติ จนเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ส่วนพี่ๆ ทั้ง 3 คน ก็ได้บำเพ็ญบารมีเพื่อจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อ ๆ ไป ในอนาคตกาลตามวิถีแห่งความปรารถนาในภายหลัง ผลจากการตั้งจิตปรารถนาอะไร อย่างไรไว้ ก็ต้องเป็นไปตามผลแห่งความปรารถนา ตามนั้น น้องคนสุดท้องปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องมีความอุตสาหะ วิริยะ บำเพ็ญบารมี สร้างสมคุณงามความดี เป็นเวลาถึง 4 อสงไขยแสนกัป จึงได้เป็นพระพุทธเจ้าตามความปรารถนา ส่วนพี่คนที่ 3 (ตัวครูบา) ที่ปรารถนาจะเอาขี้บูชา ก็ได้เป็นพญาผึ้ง ซึ่งคนทั้งหลายจะนำเอาขี้มาทำเป็นเทียน เพื่อจุดบูชาพระพุทธรูป หรือพระธาตุเจดีย์วิหาร เป็นปูชนียวัตถุแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนพี่คนที่ 2 ที่ปรารถนาจะเอาขนที่ก้นบูชาพระพุทธเจ้า ก็ได้มาเกิดเป็นพญานกยูง ซึ่งพุทธบริษัทได้นำเอาขนหางที่สวยงามมาทำเป็นพัดและเครื่องประดับ เพื่อใช้บูชาในพิธีทางศาสนาต่างๆ ส่วนผลกรรมของพี่ชายคนโตที่ว่า "น้อง 2 คน โง่เง่า" ทำให้มาเกิดเป็นพญากบ เฝ้าดอกบัวอยู่ โดยไม่รู้คุณค่าของดอกบัว และยังติดตามมาในชาติต่อๆมา แม้เมื่อมาเกิดเป็นกษัตริย์ บริวารของท่านก็ใช้คำพูดไม่ดีเป็นอาจิณกรรม คือชอบว่าผู้อื่น "โง่ เซ่อ" เป็นประจำ ฝ่ายพญานกยูง ซึ่งเป็นน้องคนที่ 2 เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ บริวารของท่านคือ พม่า และ ไทยใหญ่ ซึ่งมีนิสัยใช้ผ้าโสร่งที่ปกปิดก้น เอามาเช็ดหน้า เอามาหนุนนอน เช่นเดียวกับนกยูงซึ่งถือหางเป็นสำคัญ ส่วนพญาผึ้ง ซึ่งเป็นน้องคนที่ 3 เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์อีก บริวารของท่านคือ พวกกระเหรี่ยง พวกละว้า พวกชาวเขาเผ่าต่างๆ พวกนี้มีอาจิณกรรม คือ มีนิสัยนุ่งผ้าแล้วไม่ยอมซัก นุ่งจนผุจนขาด ถ้วยไหตะไลชามของใช้ก็ไม่ยอมล้าง ตัวก็ไม่ใคร่จะอาบน้ำ ขี้ไคลพอกอยู่หนา แทบจะเอามาปั้นเป็นก้อนเหมือนขี้ผึ้งได้ คล้ายๆ กับผึ้งที่สะสมขี้เอาไว้ฉะนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า อุปนิสัยของแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติ ย่อมสืบทอดสะสมกันมาเป็นอเนกชาติ ยากที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ในชาติปัจจุบัน แม้แต่พระอัครสาวกก็ไม่เว้น จะมียกเว้นแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ขอย้อนกล่าวถึงพี่ชายคนโต ซึ่งมาเกิดเป็นพญากบ ในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระพุทธกัสสปะ (พระพุทธเจ้าองค์ก่อนพระสมณโคดม) ในระยะนั้นมีพระมหาเถระเจ้าองค์หนึ่ง ธุดงค์มาที่วัดพระบาทห้วยต้ม มาหยุดพักอยู่พี่พระบาทกบในปัจจุบัน ท่านได้สวดพระอภิธรรมและมาติกา ณ ที่นั้น ขณะเดียวกันพญากบได้ออกจากฝั่งแม่น้ำและเข้ามาใกล้พระมหาเถระ พญากบก็ได้ยินเสียงมหาเถระเจ้าสวดอยู่ก็ยินดีนั่งฟัง เข้าใจว่าเสียงนี้เป็นเสียงของพระพุทธเจ้า พญากบตั้งสตินั่งฟังอยู่อย่างใจจดใจจ่อ ในขณะที่พระมหาเถระเจ้ายังสวดไม่จบ ก็มีหมอพรานปลาผู้หนึ่ง ซึ่งหากินด้วยการหาปลา นำเอาเหล็กแหลมสำหรับแทงตะพาบน้ำมาด้วย เมื่อเดินมาพบพระมหาเถระเจ้ากำลังสวดอยู่ แต่ไม่เห็นพญากบที่กำลังฟังธรรมอยู่นั้น หมอพรานปลาผู้นั้นก็เอาเหล็กแหลมที่ถือมานั้นทิ้ง (ปัก) ลงไปถูกพญากบโดยไม่ตั้งใจ ส่วนพญากบนั้นถูกเหล็กแหลมแทงตัวก็ยังไม่รู้สึกตัว เพระฟังพระสวดเพลินอยู่ ส่วนพรานปลาผู้นั้นก็น้อมตัวเข้าไปใกล้พระมหาเถระเจ้า นั่งลงคุกเข่าไหว้ แล้วฟังเทศน์ที่นั่นจนพระมหาเถระเทศน์จบ เมื่อจบแล้วก็ไหว้พระมหาเถระ แล้วก็กลับหลังออกมาเอาเหล็กแหลมที่ปักไว้ ก็เห็นเหล็กแหลมแทงใส่พญากบก็ถอนออก แล้วร้องว่า "โอ้หนอ....เหล็กนี่แทงถูกกบตายเสียแล้ว" ส่วนพระมหาเถระได้ยินเสียงหมอพรานร้องอย่างนั้น ก็เข้ามาใกล้ที่หมอพรานแทงพญากบ และบอกว่า "อ้าว....หมอพรานทำไมแทงใส่กบ กบนี้ไม่ใช่กบธรรมดาสามัญ เป็นพญากบตัววิเศษ มันดักนิ่งฟังธรรมอยู่" หมอพรานก็บอกมหาเถระเจ้าว่า "ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ากบอยู่ที่นี่ ข้าก็เอาเหล็กแหลมนี่ทิ้งลงไปซ่อนไว้ที่นี่ เพื่อจะไปฟังธรรมที่ท่านเทศน์อยู่ เพราะจะเอาเหล็กแหลมนี่ไปด้วย ก็ไม่สมควรจะนำไปฟังเทศน์ ข้าพเจ้าก็เลยเอาทิ้งไว้นี่ เพราะไม่รู้ว่ากบอยู่ที่นี่" พระมหาเถระก็สงสารกบตัวนั้น จึงตั้งสัจจะอธิษฐานเอาเท้าเหยียบหลังกบ ให้เป็นรอยพระบาทไว้ เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ต่อไปเบื้องหน้า ส่วนพญากบ ขณะที่ถูกแทงก็ไม่รู้ตัวว่าตาย เมื่อรู้ตัวก็กลายเป็นเทพบุตรอยู่ชั้นฟ้าดาวดึงส์ อยู่ปราสาทสูง 12โยชน์ กว้าง 12 โยชน์ มีเทพยดาทั้งหลายเป็นบริวารอยู่มากมายหลายโกฏิ เนื่องจากผลบุญกุศลที่พญากบได้ตั้งใจฟังเทศน์อยู่นั้น ทำให้พญากบได้ไปเกิดชั้นดาวดึงส์ เป็นเทพอยู่ชั้นฟ้า7 ชาติ ตายจากชั้นฟ้าก็มาเกิดเป็นมหาเศรษฐีอยู่ในมนุษยโลก ได้เป็นใหญ่ในบรรดาเศรษฐีทั่วไป มีนามว่า เมณฑกมหาเศรษฐี ต่อจากนั้นมาก็ได้มาเกิดเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์อีกหลายชาติ และท่านเมณฑกมหาเศรษฐีนี้ ก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในภายหน้า ในขณะที่ยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้านี้ ก็ยังเป็นหน่อพุทธางกูร บำเพ็ญบารมีอยู่ทุกชาติ จนกว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ฉะนั้น พวกเราพุทธบริษัททั้งหลายจึงควรเอานิสัยพญากบที่ได้ฟังเทศน์อย่างตั้งใจจนได้เป็น เมณฑกเทวบุตร ส่วนพญาผึ้ง และพญานกยูง ท่านก็เป็นหน่อพุทธางกูร บำเพ็ญบารมี 30 ทัศน์ ไปทุกชาติ จนกว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าโปรดโลก อีกองค์หนึ่ง ในภายหน้า ในหนังสือพระชัยวงศาปูชนียาลัย กล่าวกันว่าพี่ชายคนที่สอง ในอดีตชาติ ได้เกิดเป็นพระภิกษุในประเทศพม่า มีพระนามว่า พระอนันตยา ซึ่งเป็นพระภิกษุรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียง และเป็นที่เคารพรักของชาวพม่าและมอญ รวมทั้งไทยใหญ่ โดยทั่วไป (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว) หลวงพ่อองค์นี้ไม่เคยพบกันกับครูบา แต่ท่านทั้งสองก็รู้จักกันดี มีบันทึกยืนยันจากลูกศิษย์ ส่วนพี่ชายคนที่สามนั้น (คือท่านครูบา) ต่อมาในสมัย พระพุทธเจ้ากกุสันโธ ก็ได้เกิดเป็นพญากวาง ดังมีตำนานเล่ากันต่อมา ต่อมาพญากบตัวนั้นได้กลายเป็นหินเป็นรูปร่างกบ มีรอยพระบาทประทับอยู่ที่หลัง ปัจจุบันครูบาชัยวงศาท่านได้สร้างรูปกบครอบรอยจริงไว้ และสร้างมณฑปครอบอีกชั้นหนึ่ง #สันตจิตโต ภิกขุ#โพธิสัตว์พญากวางคำ#
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10853

    เต่าสำลีชุบสีผึ้งครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม


    #พระโพธิสัตว์พญาเต่าเรือน
    ในสมัยเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ได้ทรงสร้างสมพระบารมีอยู่นั้น ในพระชาติหนึ่งพระองค์ได้เสวยพระชาติเป็นพญาเต่า มีพระวรกายใหญ่โตเท่ากับบ้านเรือน ชนทั้งหลายจึงพากันเรียกว่าพญาเต่าคำ อาศัยจำศีลภาวนาอยู่กลางเกาะใหญ่ท่ามกลางมหาสมุทร ในครั้งนั้นได้มีสำเภาพานิชย์ลำหนึ่งไปค้าขายกลางมหาสมุทร บังเอิญสำเภาล่มแตกกระจัดกระจายกลางทะเล ผู้คนที่ไปกับสำเภาลำนั้นต้องสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมากแต่ยังมีบางคนที่รอดตายโดยเกาะเศษกิ่งไม้ไว้เป้นเครื่องพยุงตนไปในมหาสมุทร ในที่สุดก็ได้ไปถึงที่เกาะใหญ่ ที่พญาเต่าจำศีลภาวนาอยู่จึงได้พากันขึ้นไปอาศัยอยู่บนเกาะนั้น และก็ได้พบกับความหิวโหยอำนาจความหิวถึงกับจะฆ่ากันตาย เพื่อเอาเนื้อมาเป็นอาหารแก้ความหิว พระพุทธองค์ทรงทราบดังนั้น แล้วอยากจะช่วยเหลือผู้ที่ประสบเคราะห์ร้ายเหล่านั้นเพื่อให้พ้นทุกข์ พญาเต่าคำจึงได้ไต่ขึ้นไปบนยอดเขาแล้วปล่อยให้ตัวเองกลิ้งลงมาจากยอดเขา แล้วพญาเต่าก็เสียชีวิต พวกพ่อค้าเหล่านั้นได้อาศัยกินเนื้อของพญาเต่าเป็นอาหารเพื่อแก้ความหิวและผลสุดท้ายยังได้ใช้กระดองของพญาเต่าทำเป็นเรือกลับบ้านเมืองของตน ด้วยความปลอดภัย ได้บันทึกไว้ในคัมภีร์ใบลาน เต่าบ้านเต่าเมือง หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้บอกไว้ว่า เมื่อผู้ใดกราบไหว้พญาเต่าคำ จะเกิดศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว มีกินมีใช้ตลอดไม่มีอดยากขัดสน
    หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ท่านจึงได้เมตตาจัดทำขึ้นเต่าไว้แจกจ่ายแก่บรรดาลูกศิษย์ไว้บูชา มหาลาภ มีทั้ง เต่าสำลี เต่าสำลีชุบสีผึ้ง
    หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ท่านได้เมตตาจัดทำขึ้นสำลีเช็ดตา (สำลีเช็ดทำความสะอาดตาขณะเวลาใส่ -ถอด คอนแทคเลนส์ ) ในตอนเช้าหรือเย็นหลังจากใส่ -ถอดเลนส์เสร็จเเล้วท่านได้นำเอาสำลีเช็ดตามาแบ่งเป็นก้อน ๆ ปั้นเป็นเต่าสำลี โดยท่านจะบรรจุเกศาพระธาตุ พระธาตุข้าวบิณ และของศักดิ์สิทธิ์มงคลไว้ภายในตัวเต่า #องค์นี้หลวงปู่ได้หุงสีผึ้งซึ้งมีพุทธคุณทางด้านเมตตาได้นำเต่าสำลีชุบลงไปในสีผึ้ง จึงเป็นสุดยอดเครื่องรางทางด้านเมตตามหานิยม
    ท่านทำเองและปลุกเสกเอง สำหรับคาถาที่ใช้บูชาพระโพธิสัตว์เจ้าพญาเต่าเรือน มีว่า (นะโม 3 จบ) นะเมองค์นี้ท่านได้หุงสีผึ้งเเละได้นำเต่าสำลีตตา โมการุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู เมตตา การุณา มุทิตา อุเบกขา ไมตรี นานาจิตตัง ปิยังมะมะ
    #น้ำต๋าสักหยดก่บ่หื้อได้เสี้ยง" อมตะวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้กล่าวไว้
    ด้วยถือเคล็ดที่ว่า " เต่านั้นเฝ้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ไม่ให้เจ้าของนั้นเสียน้ำตา " เมตตามหาลาภ รักษาทรัพย์ "บูชาไว้ ...ไม่เสียน้ำตา"
    ใช้ในทุกด้าน เด่นทางด้านเมตตามหาลาภ ค้าขาย ซื้อง่ายขายคล่อง ขึ้นล่องปลอดภัย ป้องกันภัยอันตราย บูชาแล้วไม่อดอยากขัดสน
    พุทธคุณทางด้านเมตตามหาลาภ รักษาทรัพย์ มีไว้บูชาไม่มีอดไม่มีอยากพุทธคุณดียิ่งนัก
    #องค์นี้ตัวจริงเสียงจริง เนื้อหาแท้ดูง่ายครับ

    #รับประกันความแท้ตลอดชีพครับ

    ราคา 8500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    bcth.jpg vjyhu.jpg ddew.jpg gty.jpg vcgt.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10854

    เหรียญหลวงพ่อมงคลบพิตรปี ๒๔๘๕ ห่วงเชท่อม สวยเดิมๆ


    ได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อจงและเกจิเก่งร่วมสมัยนับร้อยรูปด้วยกัน
    เมื่อถึงปีพ.ศ. ๒๔๘๕ ได้มีการจัดสร้าง "วัตถุมงคลหลวงพ่อมงคลบพิตร" ขึ้นเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสให้เช่าบูชา โดยจัดสร้างเป็นเหรียญรูปเหมือน และแหวนยันต์มงคล ซึ่งไม่ว่าจะเป็นด้านชนวนมวลสารหรือพิธีกรรม เรียกได้ว่า "ยิ่งใหญ่อลังการ" มีค่านิยมสูงมากและหาดูหาเช่าของแท้ยากยิ่งมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
    เริ่มจากการรวบรวมชนวนมวลสารในการจัดสร้าง "โลหะ" จะประกอบด้วย แผ่นทองที่ลงอักขระปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมในยุคนั้นจำนวนถึง 121 รูป มีอาทิ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์, สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ (สมเด็จพระสังฆราช ชื่น) วัดบวรนิเวศวิหาร, สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) วัดมหาธาตุ, สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) วัดเทพศิรินทราวาส, พระญาณไตรโลกาจารย์ (หลวงพ่อฉาย) วัดพนัญเชิง, หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่นอก, หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก, หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาณมิตร
    หลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง, หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่าอรัญญิกาวาส จ.ชลบุรี, หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี, หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง จ.ราชบุรี, พระอธิการจันทร์ วัดคลองระนง จ.นครสวรรค์, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม, หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง จ.นครปฐม, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม, หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จ.ฉะเชิงเทรา
    หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ, หลวงปู่จาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี, หลวงปู่บ่าย วัดช่องลม จ.สมุทรสงคราม, หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จ.สมุทรสงคราม, หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.สมุทรสาคร, หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท, พระอาจารย์แฉ่ง วัดบางพัง จ.นนทบุรี, หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู จ.ลพบุรี, หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ จ.พระนคร ศรีอยุธยา, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา และหลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น
    รวมกับ "โลหะเครื่องรางโบราณ" ที่พบในบริเวณพระราชวังโบราณ เมื่อคราวปรับปรุงเกาะเมืองฯ เช่น ชินสังขวานร บนวิหารพระมงคลบพิตร-วัดพระศรีสรรเพชญ์-วัดป่าพาย, ทองคำจากองค์พระมงคลบพิตร, เนื้อสำริดกะเทาะจากองค์พระมงคลบพิตร, พระชินขุนแผนจากวัดป่าพาย-วัดสะพานเงินสะพานทอง, พระชินกำแพงพัน วัดพระศรีสรรเพชญ์-วัดมหาธาตุ-วัดราชบูรณะ, พระปรุหนังวัดพระศรีสรรเพชญ์, พระชิน วัดขุนหลวงต่างใจ, พระปิดทวารในเจดีย์พระราชวังโบราณ, ลูกอมทองแดง วัดพระราม, แผ่นทองกะเทาะจากองค์พระธาตุเชียงใหม่ ฯลฯ
    นอกจากนี้ ยังมีทองชนวนจากพิธีสำคัญของพระอารามต่างๆ เช่น วัดอนงคาราม, วัดหิรัญรูจี, วัดราชบพิธฯ, วัดกัลยาณมิตร, วัดชนะสงคราม, วัดสุทัศน์ ฯลฯ
    โดยพิธีการสร้างแบ่งเป็น 2 วาระ วาระแรก เป็นพิธีหลอมทอง ณ วิหารพระมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา แบบข้ามคืนตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 โดยพระญาณไตรโลกาจารย์ (หลวงพ่อฉาย) วัดพนัญเชิง เป็นประธานจุดเทียนชัย
    ไฟที่ใช้จุดเทียนชัยเป็น "ล่อจากแสงอาทิตย์" และได้นำแม่พิมพ์ให้พระเกจิอาจารย์ลงเลขยันต์และปลุกเสกพร้อมมวลสารที่จะจัดสร้างอีกครั้ง หน้าพระพักตร์หลวงพ่อมงคลบพิตร ต่อเนื่องถึงวันรุ่งขึ้นเมื่อได้ปฐมฤกษ์ หลวงปู่จาด วัดบางกระเบา เป็นประธานหย่อนแผ่นเงินจารึกดวงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน กับดวงฤกษ์ลงเบ้า เพื่อหลอมรวมกับทองชนวนและโลหะมงคลต่างๆนับเป็นสุดยอดพิธีแห่งปีเลยก็ว่าได้ครับ
    น่าบูชามากครับ


    ราคา 7999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    fgj.jpg m.jpg dgdg.jpg
    Clip_21.jpg Clip_22.jpg Clip_23.jpg Clip_25.jpg Clip_26.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10855

    เหรียญรุ่นแรกเจ้าคุณเฒ่า วัดเขาบางทราย ชลบุรี 2450


    เจ้าคุณเฒ่า วัดเขาบางทราย
    พระเถราจารย์ยุคเก่าผู้มีตบะบารมีแก่กล้า วันนี้ "ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญาครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม" ขอนำเอาประวัติของพระเถราจารย์ยุคเก่าเมืองชลบุรี (พระชลโธปมคุณมุนี หรือที่รู้กันในชื่อว่า เจ้าคุณเฒ่า วัดเขาบางทราย ) มาเล่าสู่กันฟัง..เพื่อจักเป็นประโยชน์แก่อนุชนผู้ใคร่ต่อการศึกษาประวัติ และเพื่อเป็นการเผยแผ่บารมีหลวงปู่เจ้าคุณเฒ่า ซึ่งท่านเป็นพระเถระยุคเก่าที่สร้างคุณงามความดีไว้มากมาย....สาธุ สังฆัง นะมามิ
    ประวัติเจ้าคุณเฒ่า วัดเขาบางทราย
    พระชลโธปมคุณมุนี นามเดิม พุฒ เป็นบุตรจีนทองคำ อำแดงปาน ตั้งบ้านเรือนอยู่ข้างวัดขุนจันทร์ คลองบางกอกใหญ่ ธนบุรี เกิดวันพุธที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๖๑ ปีเถาะ อายุ๑๓ ขวบ บรรพชาเป็นสามเณร อยู่ที่วัดประยูรวงศ์ อยู่ที่ ๘ พรรษา อายุได้ ๒๑ ปี อุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระอุปัชฌายะมีนามฉายาว่า "ปุณฺณโก" พระศรีวิสุทธิวงศ์ (ฟัก) เป็นพระกรรมวาจารย์ อุปสมบทได้ ๘ พรรษา ได้ลาสิกขาบท พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้ารับราชการเป็นเจ้าพนักงานทำรายงานช้างเผือก
    (ครั้นออกจากราชการตอนปัจฉิมวัย จึงบวชอีกครั้งหนึ่ง
    สถิตย์อยู่วัดบุบผาราม ธนบุรี ครั้นจุลศักราช 123 รัตนโกสินทร์ศก 89 ตรงกับ พ.ศ. 2412
    (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ครองราชย์เป็นปีที่สอง)
    เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) ได้อาราธนา
    พระอาจารย์พุฒ ปุณฺณโก จากวัดบุบผาราม มาเป็นเจ้าอธิการวัดเขาบางทราย)
    นำพาญาติโยมทำนุบำรุงก่อสร้างปฏิสังขรณ์วัดอยู่ ๑๙ ปี ได้พระราชทานสัญญาบัตรตำแหน่งพระครูเจ้าคณะเมืองให้เป็นครูชลโธปมคุณมุนี จนอายุท่านล่วงมาถึง๘๑ ปี ด้วยสัทธิวิหาริกแลอันเตวาสิกเจริญมากขึ้น สัทธิวิหารของท่านได้เป็นถึงพระราชคณะ เป็นเจ้าอธิบดีการต่างวัดก็มี จึงได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชคณะที่ "พระชลโธปมคุณมุนี" เจ้าคณะเมืองบังคับบัญชาภิกษุสามเณรในวัด ๓ หัวเมือง คือ เมืองชลบุรี เมืองพนัสนิคม และเมืองบางละมุง (ขณะนั้นมีฐานะเป็นเมือง ๓ แห่ง) ท่านยังมีจิตศรัทธาสร้างวัดธรรมยุติกนิกายขึ้นอีกหนึ่งคือวัดอุทกเขปสีมาราม (วัดน้ำ) อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
    "ท่านเจ้าคุณเฒ่า" มรณภาพเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ สิริอายุ ๘๙ ปี พรรษา ๓๙
    “พรธรรมเจ้าคุณเฒ่าแต่งไว้”
    จงเจริญอายุร้อย เรืองศรี
    อยู่ศุขสวัสดิ์ อีกด้วย
    ลาภไหล่หลั่งมั่งมี มูลทรัพย์ เทอญพ่อ
    อุปัทวันตรายม้วย หมดสิ้น สัตรู ฯ

    เหรียญเจ้าคุณเฒ่าวัดเขาบางทรายเป็นเหรียญปั้มข้างกระบอกมีหูในตัว
    ด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเจ้าคุณเฒ่าครึ่งองค์ล้อมด้วยกนก
    ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์และล้อมด้วยลายกนก

    เหรียญท่านเจ้าคุณเฒ่า เหรียญเก่าแก่ที่สุดของจังหวัดชลบุรี

    เหรียญหายากในตำนาน


    ราคา 7999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_29.jpg Clip_30.jpg Clip_31.jpg Clip_32.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10856

    เหรียญรุ่น2หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย ปี 2494


    พุทธคุณของเหรียญหลวงพ่อลาส่วนมากจะเด่นเรื่องคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุดเป็นเลิศ แต่เรื่องโชคลาภก็มีนะครับ เรียกได้ว่าครบเครื่องเลยทีเดียว ..


    ประวัติพระครูสุนทรสังฆกิจ(หลวงพ่อลา ชยมงฺคโล) วัดแก่งคอย จ.สระบุรี ข้อมูลจากหนังสือประวัติวัดแก่งคอย อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เรียบเรียงโดยพระครูประภัศร์วรญาณ เจ้าคณะตำบลแก่งคอย(เจ้าอาวาสวัดแก่งคอย) หลวงพ่อลา นามเดิมว่า ลา สายสมบัติ เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2428 เดือนยี่ ปีระกา สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ต.คล้อทอง อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี มีบิดาชื่อ นายโม้ มารดาชื่อ นางแจ่ม สายสมบัติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 5 คน หลวงพ่อลาเป็นที่ 4 ประกอบอาชีพชาวนา หลวงพ่อมีนิสัยฝักใฝ่ทางธรรมตั้งแต่อายุยังน้อย ครั้นอายุได้ 15 ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดคล้อทอง ต.คล้อทอง อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เมื่อครบกำหนดอายุได้ 20 ปี จึงได้อุปสมบทต่อสำเร็จเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ ฉายานามว่า “ชัยมงฺคลโล” อยู่วัดคล้อทองได้หลายพรรษาจนพ้นนวะกแล้ว จึงได้รุกขมูลไปทางชายแดนไทย-ลาว เข้าสู่แขวงสวันเขต ประเทศลาว(ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในการปกครองของประเทศไทย) ระหว่างที่พำนักอยู่ที่แขวงสวันเขตนี้ ได้มีโอกาสศึกษาวิชาอาคามต่างๆตามสมัยนิยม ขณะนั้นท่านได้พบกับหลวงปู่ผู้เฒ่ารูปหนึ่ง และได้เรียนวิชาการทำน้ำมนต์ประกอบเทียน เป็นวิชาสำคัญที่ส่งเสริมให้ท่านมีชื่อเสียงอย่างยิ่ง และกว่าที่ท่านจะสำเร็จวิชานี้ครบถ้วนกระบวนความ ต้องไปฝึกบนภูเขาถึง 5 ปี เต็ม จึงจะได้รับอนุญาตให้นำวิชานี้ไปใช้ได้ คุณวิเศษของวิชาเทียนน้ำมนต์น้ำมนต์มหัศจรรย์นี้ ถ้าหากผู้ใดได้อาบกินแล้วถือได้ว่าสำเร็จตามความปรารถนาที่ได้อธิษฐานไว้ทุก ประการ ถึงแม้ว่ามีความขึ้นโรงขึ้นศาลเรื่องราวปัญหาชีวิตต่างๆ ที่หนักหนาสาหัสก็จะบรรเทาเบาบางลง ส่วนเรื่องที่ไม่หนักหนาก็จะสูญหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อสำเร็จวิชาแล้วท่านได้กราบลาหลวงปู่ผู้เฒ่ากลับสู่เมืองไทย โดยรุกขมูลผ่านทางอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เดินทางเรื่อยๆ จนเข้าสู่เขต จังหวัดสระบุรี และได้เข้าจำพรรษาอยู่ในบ้านช่องเหนือ ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พำนักอยู่ในโบสถ์หลังเล็กๆ มุงด้วยสังกะสีที่ชาวบ้านศรัทธาสร้างถวาย จำพรรษาอยู่หลายปีจนได้ตำแหน่งทางคณะสงฆ์เป็นพระปลัดลา ชยมงฺคโล ครั้นต่อมาทางวัดแก่งคอยได้ขาดแคลนสมภารเจ้าวัด คณะสงฆ์กับชาวบ้านจึงได้นิมนต์ท่านมาครองวัด จนได้ตำแหน่งทางคณะสงฆ์เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับขั้น โดยได้รับตำแหน่งพระครูชั้นประทวน เมื่อปี 2476 และอีกสองปีต่อมาท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะแขวง อำเภอแก่งคอย และในที่สุดได้เลื่อนชั้นเป็น พระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสุนทรสังฆกิจ พร้อมกับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี พระครูสุนทรสังฆกิจ ได้มรณภาพลงที่วัดแก่งคอย เมื่อวันที่ 4 พฤษจิกายน พุทธศักราช 2497 รวมสิริอายุ 71 ปี โดยพรรษารวม 50 พรรษา พระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2498 เวลา 16.30 น. ณ เมรุลอยวัดแก่งคอย ...ปาฏิหาริย์และความศักดิ์สิทธิ ของ พระครูสุนทรสังฆกิจ(หลวงพ่อลา ชัยมงฺคโล) ท่านพระครูปลัดทองห่อ วิรยธมโม อายุ 71 ปี(พ.ศ.2547) ศิษย์บรรพชิตของหลวงพ่อลารุ่นสุดท้ายได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงพ่อลา ยังดำรงขันธ์อยู่นั้น มีผู้มาขอให้หลวงพ่อลาทำพิธีอาบน้ำมนต์ให้ทุกวันตั้งแต่เช้ายันดึก ไม่เว้นแต่ละวัน วันละหลายสิบราย หลวงพ่อก็ไม่เคยทำให้ผู้ใดผิดหวังกลับไปแม้แต่รายเดียว จนทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณเลื่องลือระบือไกล แม้กระทั่งท่านผู้ใหญ่ระดับผู้ปกครองบ้านเมืองในสมัยนั้น เข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย โดยเฉพาะบุคคลสำคัญในคณะเปลี่ยนแปลงการปกครอง(คณะราษฎร์) เช่น พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์พหลโยธิน) , จอมพล ป.พิบูลสงคราม , หลวงวิสุชาญแพทย์ , นายควง อภัยวงศ์ ฯลฯ ท่านเหล่านี้เคยมาขอให้หลวงพ่อลาประกอบพิธีทำน้ำมนต์เทียนมหัศจรรย์กันทั้งสิ้น วิธีการทำก็คือ ใช้ขี้ผึ้งแท้ ไส้เทียนใช้ด้ายดิบและกระดาษสาเขียนยันต์เต่าเลือนด้านหนึ่ง และอีกด้านหนึ่งเขียนยันต์มหาราช ผู้ที่มาอาบน้ำมนต์จากท่านจะต้องเขียนคำอธิษฐานและชื่อวันเดือนปีเกิดลงใส่ในกระดาษยันต์นั้น หลังจากนั้นหลวงพ่อจะนำไปเป็นไส้เทียน ฟั้นเทียนเป็นรูปแก้วสเปน น้ำตาเทียนของท่านจะไหลออกทางก้นเทียน ถ้ามีเคราะห์น้ำตาเทียนจะเป็นสีแดง และหากมีโชคน้ำตาเทียนจะเป็นสีเหลือง เมื่อท่านทำน้ำมนต์จนเสร็จแล้วน้ำมนต์นั้นจะบอกเลยว่ามีโชคหรือมีเคราะห์ เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก และในสมัยนั้น ท่านได้มีผู้มีจิตเมตตานำกวางและแพะมาถวายท่านเลี้ยงไว้ที่วัด ท่านได้ลงผ้ายันต์ผูกคอให้กวางและแพะของท่านปล่อยไว้ในวัด เมื่อได้เวลากวางและแพะออกไปหากินอาหารในตลาด แย่งกินผักผลไม้จากแม้ค้าในตลาด บางคนก็เอาไม้คานตี เอามีดฟัน บางคนถึงกับเอาปืนยิง แต่ก็ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า จนเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่วว่าแพะและกวาง ของหลวงพ่อลาอยู่ยงคงกระพัน ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2507 ทางวัดทำการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม ในปี พ.ศ. 2506 ทางวัดได้ทำการขุดรอบฐานอุโบสถหลังเก่าเพื่อจะรื้อถอน ในวันหนึ่งเวลาเที่ยงทางโรงเรียนได้ให้นักเรียนพักเที่ยง ได้มีเด็กกลุ่มหนึ่งได้พากันมาวิ่งเล่นซ่อนหารอบอุโบสถที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้น ขณะที่เด็กกำลังเล่นกันอย่างเพลิดเพลินนั้น เหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้น อุโบสถทั้งหลังได้ลมครืนลงมาทับเด็กที่เล่นซ่อนหากันอยู่นั้น เด็กบางคนได้วิ่งไปบอกครูให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คณะครูจึงได้ตีระฆังเช็คดูนักเรียนว่ามีใครอยู่และมีใครสูญหายบ้าง เมื่อเช็คดูแล้วได้มีเด็กหายไปหนึ่งคน คือเด็กชายไพบูลย์ ภู่อ่อนนิ่ม คณะครูและพระสงฆ์ในวัดได้มาค้นหาเด็กคนนั้นในที่พระอุโบสถพังลงมา หาอยู่เป็นเวลานานก็ได้ยินเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือ คณะครูและพระสงฆ์ได้ช่วยกันงัดและยกก่อนปูนที่พังทับอยู่นั้นออก ก็ได้พบเด็กนอนอยู่ใต้นั้น ตรวจร่างกายของเด็กแล้วก็พบว่า ไม่ได้รับบาดเจ็บ เด็กได้บอกกับหลวงพ่อพระครูสมบูรณ์ ศีลวัตรว่า ได้มีหลวงพ่อแก่ๆ มาช่วยดันก่อนปูนเอาไว้ เมื่อดูที่คอของเด็กชายไพบูลย์ ก็ปรากฏว่ามีเหรียญหลวงพ่อลารุ่นแรกแขวนอยู่ที่คอของเด็กคนนั้น จึงเชื่อได้ว่าอภินิหารของเหรียญหลวงพ่อลาได้ช่วยให้เด็กชายไพบูลย์ ภู่อ่อนนิ่ม รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น จนเป็นที่กล่าวขานเลื่องลือไปทั่ว อภินิหารของหลวงพ่อลาที่มีต่อนายสวัสดิ์ หริญเดช คือได้ถูกรถชนกระเด็นไปอยู่บนหน้ากระโปรงรถ แต่ก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพราะท่านได้มีแหนบและผ้ายันต์ของหลวงพ่อลาพกติดตัวอยู่ จึงได้รับความคุ้มครองปลอดภัยด้วยปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อลา... เมื่อมาตุภูมิในยุคสมัยที่ประเทศไทยระส่ำระสายด้วยพิษภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านเจ้าคุณพหลพลพยุหเสนา ได้มาขอให้หลวงพ่อลาทำพิธีน้ำมนต์เทียนมหัศจรรย์และได้อธิษฐานมีใจความว่า “ประเทศชาติขณะนี้ได้เกิดระส่ำระสาย มีแต่การแตกแยกกัน ขอให้อำนาจสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบรรดาลให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขในประเทศ และขอให้ประเทศไทยมีความเจริญวัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป ขออย่าให้สูญเสียเอกราชตกเป็นทาสของชาติใดๆ” อาจกล่าวได้ว่า ส่วนหนึ่งที่ประเทศไทยเรารักษาเอกราชไว้ได้ในช่วงนั้น บางส่วนอาจเกิดจากอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อลา ที่ได้เพ่งเจริญฌาณให้แก่ประเทศชาติก็ว่าได้ หลวงพ่อลาแห่งวัดแก่งคอย จึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวแก่งคอยและบุคคลทั่วไปให้ความเคารพและแวะ เวียนมากราบไหว้นมัสการและขอพรรูปเคารพอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อลาทุกวันเสมอ มิได้ขาดจนตราบเท่าทุกวันนี้

    ราคา 2999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_37.jpg Clip_38.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10857

    พระผงจันทร์ลอย วัดประสาทบุญญาวาส ปี2506 (เนื้อพระสมเด็จ)

    กล่าวกันว่า พระสมเด็จพิมพ์จันทร์ลอย มีส่วนผสมของสมเด็จวัดบางขุนพรหมเป็นจำนวนมาก จันทร์ลอยวัดประสาท พิมพ์นิยมมีลูกบอล และเศียรมีขีด พระผงวัดปราสาท ที่สร้างในปี 2506 ซึ่งนับว่าเป็นพิธีใหญ่มากๆ คณาจารย์ที่ดังและมีชีวิตอยู่ในยุคนั้นมากันร้อยกว่ารูป ถึงขนาดที่ว่าไม่มีที่นั่งในอุโบสถต้องโยงสายสิญณ์มานอกโบสถ์แล้วนั่งปลุกเศกกันเลย พระดี เจตนาดี มวลสารยอดเยี่ยม พิธีครบถ้วน พระผงพิมพ์จันทร์ลอย วัดประสาทบุญญาวาส ปี 2506 เป็นพระที่เรียกว่าของดี ราคาเยาวชนก็ว่าได้ พระครูสมุห์อำพล เจ้าอาวาส ได้รวบรวมมวลสาร ผงวิเศษต่างๆ ว่านนานาชนิดรวมทั้งแร่ศักดิ์สิทธิ์นำมาผสมจัดสร้างพระและในการนี้ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ 127 รูปมาร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่มากเป็นประวัติการณ์ เรียกได้ว่าพระเกจิที่มีชื่อเสียงและโด่งดังในสมัยนั้นได้รับการนิมนต์มาทั้งนั้น

    พุทธาภิเษก 3 วัน 3 คืน เมื่อวันที่ 13-14-15 พย. 2506 และในวันที่ 16 พย. 2506 เวลา 5 โมงเย็น อาราธนา พระคณาจารย์ 108 รูป ร่วมมหาพุทธาภิเษก พระเกจิอาจารย์ที่เรืองเวทย์ด้านคาถาอาคมมาร่วมพิธีปลุกเสกมากกว่า 108 รูป อาทิ เช่น
    - อาจารย์ทิม วัดช้างไห้ - หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ - หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี - หลวงปู่นาค วัดระฆัง - หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม - หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก - หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน - หลวงพ่อทบ วัดชนแดน - หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก - หลวงพ่อสุด วัดกาหลง - หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส - หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม- หลวงปู่สี วัดสะแก - หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี - หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม - หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง - หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะองค์ -

    หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ - หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง - หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม - หลวงพ่อหวล วัดพิกุล - เจ้าคุณผล วัดหนัง - หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ - หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ - หลวงพ่อมุย วัดดอนไร่ - หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง - หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยานิมิตร - หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร และคณาจารย์ชื่อดังอีกมากมายกว่า 100 รูป
    พระวัดประสาทฯสร้างออกมา 3 รุ่นด้วยกันระหว่างปี 2506-2508 โดยพระสมุห์อำพล เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส และอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ปลุกเสกครั้งแรก มีพระคณาจารย์มาร่วม 156 องค์ ครั้งที่สอง มีพระคณาจารย์ มาร่วม 234 รูป , ครั้งที่สาม มีพระคณาจารย์ มาร่วม 191 รูป
    ประกอบกับความดีเด่น อีก 3 ประการ คือ
    1.เจตนาในการสร้างดี ผู้สร้างมีเจตนาที่จะสร้างพระเครื่องเพื่อบรรจุในองค์พระเจดีย์เพื่อสืบสารพระพุทธศาสนาและส่วนหนึ่งได้ทำการ แจกจ่ายให้การผู้ที่มาร่วมบุญในการนี้ตามแต่จะศรัทธา
    2.ส่วนผสมในเนื้อพระมี วัตถุมงคลที่มีคุณค่า เพราะได้รวบรวม มวลสาร ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั้งผงวิเศษจากเกจิอาจารย์ต่างๆ ผงตะไบกริ่ง ว่าน และแร่วิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผงและชิ้นส่วนแตกหักของสมเด็จวัดบางขุนพรหมกรุเจดีย์ใหญ่ มากมายที่สุดนำมาคลุกเคล้าในการจัดสร้างครั้งนี้
    3.พิธีการปลุกเสกเรียกว่ายิ่งใหญ่มากเพราะเกจิอาจารย์กว่าร้อยรูปที่นิมนต์มาจากทั่วทุกทิศทุกภาคของประเทศมารวมกัน เรียกว่าด้านพุทธคุณสุดยอดไม่เป็นรองพิธี 25 พุทธศตวรรษ กล่าวถีงพระผงพิมพ์จันทร์ลอยนั้นเรียกได้ว่าที่พิเศษก็เพราะเป็นพระที่ทางวัดจัดสร้างจากผงเก่าและชิ้นส่วนแตกหักของสมเด็จบางขุนพรหม วัดใหม่อมตรส ล้วนๆ
    พระเครื่องของวัดประสาทประกอบด้วยพระหลายพิมพ์ด้วยกัน ได้แก่
    1. พิมพ์จันทร์ลอย , 2. พิมพ์สมเด็จ มีหน้าตาพระครูมูล , 3. พิมพ์สมเด็จเล็ก(คะแนน) เทวดา , 4. พิมพ์สมเด็จวัดระฆัง , 5. พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ , 6. พิมพ์สมเด็จโต ล 7. พิมพ์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า 8. พิมพ์หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด , 9. พิมพ์หลวงพ่อจง 10. พิมพ์พระสังกัจจายน์ ฐานมักมีรูงัดออกจากพิมพ์ หลังนูน สร้างในครั้งที่ 2 และ 3 , 11. พิมพ์หลวงพ่อโต บางกะทิง , 12. พิมพ์นางกวัก
    13. พิมพ์หลวงพ่อพัฒน์ วัดพัฒนาราม , 14. พิมพ์หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง , 15. พิมพ์หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน , 16. พิมพ์หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช , 17. พิมพ์หลวงปู่ทวด 97 , 18. พิมพ์หลวงปู่ทวด สี่เหลี่ยม19. พิมพ์หลวงปู่ทวดเล็ก , 20. พิมพ์พระราหุล สี่เหลี่ยม , 21. พิมพ์สมเด็จคะแนนจิ๋ว , 22. พิมพ์ชินราชสามเหลี่ยม , 23. พิมพ์อุ้มบาตร , 24. พิมพ์สีวลี , 25. สมเด็จเข่ากว้าง , 26. สมเด็จแขนกว้าง(มีผ้าปูรองนั่ง) 27. ปิดตาจันทร์ลอย ข้างมีลาย , 28. ปิดตาใหญ่ , 29. ปิดตาจิ๋ว , 30. นางกำแพงขาว วัดสุทัศน์ , 31. ปิดตาลอยองค์ ก้นอุดเทียนชัย , 32. ลีลาฐานบัว ฝังตะกรุด , และ พิมพ์อื่นๆยังจะมีอีกมากมาย

    ใบฝอยวัตถุมงคลวัดประสาทบุญญาวาส พิธีพุทธาภิเษก 6-7-8-9 มีนาคม พ.ศ.2506 คณาจารย์ร่วมปลุกเสก 234 รูป ขอ เชิญท่านนำทองแดง ทองเหลือง ไปร่วมหล่อพระประธาน และรับแจกรูปนิมิตหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ที่มหาชนสนใจ ปลุกเสกด้วย คณาจารย์ 234 องค์ ในวันที่ 6-7-8-9 มีนาคม 2506ที่ วัดประสาทบุญญาวาส ในตลาดสามเสนจะหล่อพระประธานหน้าตัก 2 ศอกคืบ ถวายวัดทุ่งสว่างศรีเสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งกำลังก่อสร้างอุโบสถขึ้นใหม่ อนึ่ง ทางวัดได้จัดสร้างพระเพื่อบรรจุเจดีย์ 84000 องค์ และคราวนี้ได้สร้างเพิ่มขึ้นอีกเพื่อบรรจุเจดีย์ เพื่อสืบอายุพระศาสนา ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งนี้ ทางวัดได้จัดสร้างพระเครื่องขึ้นเล็กน้อย เพื่อแจกเป็นทานให้แก่ผู้ที่ไปปิดทองพระที่หล่อขึ้นใหม่และฝ่าพระพุทธบาท จำลอง
    การสร้างพระเครื่องและพระบรรจุเจดีย์ครั้งนี้ได้มีผู้มีจิตศรัทธามอบผงเข้าร่วมการกุศลสร้างพระเครื่องอีกมากมาย เช่น
    ท่านเจ้าคุณเทพสิทธินายก (เจ้าคุณใหญ่) วัดระฆัง ได้มอบผงสร้างพระเครื่องของวัดระฆัง ท่านพระครูศรีปทุมรักษ์ วัดสรีบัวบาน สุพรรณบุรี ได้มอบผงสำหรับทำลูกอมของหลวงพ่อเนียม วัดน้อย สุพรรณบุรี ผงในกรุวัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) และผงอิทธิเจ พระปทุม วัดขุนจันทร์ มอบว่านพร้อมดินดำกากยา ผงสร้างรูปหลวงพ่อพัฒน์ วัดพัฒนาราม พลโทพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร ได้มอบผงของหลวงพ่อกัง วัดบางพระ จ.ชลบุรี ดินที่ประสูติ ตรัสรู้ นิพพาน และชนวนหล่อรูปนิมิตหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี นายช่างหล่อสวัสดิ์ เดชพ่วง (ช่างหล่อรูปพระพุทธนฤมิตช่างหล่อวัดคอกหมู) ได้ถวายดินทรายพอกหุ่นในการหล่อรูปนิมิตหลวงพ่อทวดในพิธีกรรมของวัดช้างไห้ พร้อมกับน้ำพระพุทธมนต์ 1 ขวด เป็นน้ำมนต์ในพิธีกรรมเดียวกันและผงซึ่งอยู่ในพระวรกายของหลวงพ่อสุโขทัยไตร มิตร
    นายเชื้อ พุทธภินโย บ้านเลขที่ 927 บางบำหรุ จ.ธนบุรี ได้มอบว่านหลายชนิด
    นายแสวง เรือนขำ บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 2 ตลาดขวัญ นนทบุรี มอบว่าน 16 ชนิด
    นายพรม รุ่งกลั่น บ้านในซอยศาสนา มอบว่าน 10 ชนิด
    สารเณรนี้ แซ่ตั้ง มอบว่าน 10 ชนิด
    นายพยอม วิไลรัตน์ บ้านเลขที่ 13/7 ซอยสุจริต 1 มอบว่านให้ 109 ชนิด พร้อมทั้งแร่ 1 ก้อน
    นายทองพูน กลิ่นพงษา บ้านเลขที่ 96 ตลาดภูเขียว จ.ชัยภูมิ ได้มอบคตปลวกให้ประมาณสองกิโลกรัม

    ท่านพระครูภูมิวุฒาจารย์ (หลวงปู่สอน) วัดทุ่งสว่างศรีเสิงสาง จ.นครราชสีมา มอบขี้เหล็กไหลให้สร้างพระเครื่อง
    ผงมหาราชของหลวงพ่อโม วัดยมตามธรรม อ.วังน้อย จ.อยุธยา
    ผงในกรุวัดอัมพวา จ.ธนบุรี เจ้าอาวาสมอบถวาย
    ผงพระหักกรุวัดสามปลื้ม พระประสิทธิ์เมธังกรถวายวัดประสาทบุญญาวาส
    ผงสร้างรูปหลวงพ่อพัฒน์ พระอธิการบุญช่วย วัดสามัคคีนุกูลมอบถวาย
    ผงพระหักในการสร้างที่พลเอกเผ่า ศรียานนท์ เป็นประธานสร้างที่วัดอินทร์วิหาร ท่านเจ้าคุณอินทรสมาจารย์มอบถวาย
    ผงสมเด็จหัก ๆ ในกรุของวัดใหม่อมตรส พระครูบริหารคุณาวัตร รองเจ้าอาวาสมอบถวาย
    ชนวนหล่อพระกริ่งของอาจารย์ไสว วัดราชนัดดา ผงดินเกตุมวดี ศิษย์วัดบัณฑูรสิงห์มอบถวาย
    ผงการสร้างพระเครื่อง 25 ศตวรรษ นายทองหล่อ เหมือนดวง มอบถวาย
    ผงการสร้างพระเครื่องของหลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน แร่เขาแดง เขาเขียว เขาถ้ำสิงห์โต จ.ราชบุรี มอบถวาย
    ผงวัดไก่เตี้ย ผงวัดตาล อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี นายพุฒ บ้านข้างวัดศรีจันทร์มอบถวาย
    ผงสร้างพระเครื่องของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มอบถวายไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2497
    ผงของพระครูรักขิตวันต์ (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์
    ผงหลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย พร้อมทั้งแร่ลิ้นโป ผงอิทธิเจมหาราช ผงปถมัง ท่านเจ้าคุณเทพวิสุทธิ์สมโพธิ วัดพระเชตุพน มอบถวาย
    ผงสร้างพระเครื่องของอาจารย์บก อดีตเจ้าอาวาสวัดสมรโกฏิ นนทบุรี มอบถวาย
    ผงสร้างพระเครื่องของท่านพระครูนนทวุฒาจารย์ (หลวงปู่ช่วง) วัดบางแพรก มอบถวาย
    ผงสร้างพระเครื่องวัดไร่ขิง พระอาจารย์เจียม วัดไร่ขิง มอบถวาย
    ผงมหาราชของพระอาจารย์ฉัตร วัดสุขเกษม จ.สุพรรณบุรี มอบถวาย
    ผงพระหักกรุลำพูน ร.ต.อ.มงคล อินทรฑูต มอบถวาย
    ผงวัดคูหาภิมุข (หน้าถ้ำ) จ.ยะลา นายปรีชา แต้มอางกูร นำถวาย
    ผงสร้างพระเครื่องของวัดกษัตราธิราช พระอาจารย์บุญเทียม มอบถวาย
    ผงสร้างพระรอดในพิธีครั้งใหญ่ จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร มอบถวาย
    ผงพระว่านจำปาศักดิ์ซึ่งหักชำรุด หลวงพ่อกี๊ วัดหูช้าง มอบถวาย
    ว่านต่าง ๆ หลายชนิด หลวงพ่อแจ่ม วัดจันทาราม (วัดบางพลัดใน) มอบถวาย
    ท่านพระครูสมุห์เนี้ยว เจ้าอาวาสวัดชนานิกร จ.ปัตตานี ได้มอบถวายผง และแร่ว่านต่าง ๆ ซึ่งได้ใช้สร้างรูปนิมิตของหลวงพ่อทวด วัดชนานิกร ได้มอบให้สร้างพระเครื่องของวัดประสาทบุญญาวาส คุณเกื้อกูล หิตะพงษ์ กระท่อมสุขใจ ต.นาประดู่ จ.ปัตตานี ได้นำดินดำกากยาจากเขากระทะ ซึ่งผู้นี้ได้แจ้งว่าสิ่งนี้เคยได้ใช้สร้างหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้มาแล้ว พร้อมทั้งได้จัดหาดินดิบซึ่งหักชำรุดสมัยศรีวิชัยจากถ้ำคณโท ถ้ำเสือหมอบ ว่านงู ว่านกบ ว่านเขียด และไม้ซึ่งกลายเป็นหินจากเขาตกน้ำ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พร้อมทั้งอัญมณีของเมืองเถิน จ.ลำปาง มอบถวายให้สร้างพระเครื่อง
    นอกจากนี้ยังมีผู้มีจิตศรัทธามอบผงว่านต่าง ๆ นำมามอบถวายสร้างพระเครื่องให้แจกเป็นทานแก่ผู้เลื่อมใสในพระรัตนตรัยอีกมาก

    ใน คราวนี้ และสรรพสิ่งอันเป็นมงคลอันควรแก่การสักการบูชาสุดที่จะพรรณนา ได้รวบรวมมาสร้างพระเครื่องเข้าบรรจุเจดีย์ของวัดประสาทบุญญาวาสเพื่อสอบ อายุพุทธศาสนา ขอดชะอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้ท่านจงมีความสุขกาย สุขใจ รู้ซึ้งในธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ขอให้ท่านจงมีความเชื่อ ความเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และท่านที่มอบแร่ว่านผงให้สร้างพระเครื่องนี้ ถึงท่านจะมรณภาพไปแล้ว ถ้าข้าพเจ้าลืมหลงมิได้กล่าวนามชื่อของท่าน จงรับอนุโมทนาในส่วนกุศลที่พวกข้าพเจ้าได้บำเพ็ญให้เป็นไป ท่านจะเกิดชาติใดภพใด ขอให้ท่านจงมีปกติสุขทุกสถาน อนึ่ง กุศลที่พวกข้าพเจ้าได้สร้างพระเข้าบรรจุเจดีย์ 84000 องค์ และสร้างพระเครื่องขึ้นเล็กน้อยเพื่อแจกเป็ฯทานโดยมิได้คิดมูลค่าให้แก่ผู้ ที่ไปปิดทองพระที่หล่อขึ้นใหม่ ขอกุศลอันนี้จงได้แก่บิดา มารดา ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ และท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ จะใช่ญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอจงได้รับส่วนกุศลทั่วถึงกัน
    ท่าน ผู้ใดมีจิตคิดประพฤติอยู่ในสิ่งชั่ว ขอบารมีพระเครื่องที่ข้าพเจ้าได้สร้างขึ้นนี้ ถ้าเขาผู้นั้นได้รับไปขออำนาจพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ในพระเครื่องนี้ ดลบันดาลให้ผู้นั้นประพฤติตนกลับเป็นคนดี ถ้าเขายังไม่รู้ซึ้งในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงห์ และศีลห้า ซึ่งเป็นข้อห้ามของพระพุทธเจ้า ขอจงดลบันดาลให้เขาผู้นั้นรู้ซึ้งในธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกประการ ด้วยอำนาจสัจจะอธิษฐานนี้ขอจงเป็นไปตามความอธิษฐานทุกประการ
    ทำ พิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 6-7-8-9 มีนาคม 2506 (วันที่ 9 มีนาคม เวลา 5 โมงเย็น เป็นเวลาเททองหล่อพระประธาน ขอเชิญท่านนำทองแดง ทองเหลือง ไปร่วมหล่อองค์พระโดยทั่วถึงกัน เงินค่าจ้างหล่อพระไม่รับทำบุญ)
    คาถา บุชาพระเครื่องของวัดประสาทบุญญาวาส ใช้ดังนี้ ตั้งนะโม 3 จบ ตั้งใจให้สงบแล้วตั้งจิตอธิษฐานต่อไปว่า ขอเดชะการที่ข้าพเจ้าได้เข้าถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า เป็นที่พึ่งที่ระลึกแล้วนี้ จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้า และสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วสากลพิภพได้ประสบความร่มเย็นเป็นสุขพ้นภัยพิบัติ และประสบมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ทั้งชาตินี้ ชาติหน้าเทอญ และต่อไปจะปราถนาสิ่งใดก็อธิษฐานสุดแต่ความปราถนา (อย่าให้ผิดศีลห้า และข้อห้ามพระพุทธเจ้า) เพราะได้กล่าวคำถึงพระรัตนตรัยแล้วจะผิดความตั้งใจ เพราะพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนมิให้สัตว์โลกเบียดเบียนซึ่งกันและกัน

    (อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ตามหาพระสมเด็จ)


    บูชาแล้วครับ

    Clip_33.jpg Clip_34.jpg Clip_35.jpg Clip_36.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10858

    พระขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน พิมพ์ตาโปน สวยเดิมๆ

    พระ อธิการจันต๊ะ อนาวิโล ( ครูบาจันต๊ะ )เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28ก.พ.2468 ที่ตำบลหนองช้างคืน อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อเยาว์วัยได้มาเป็นลูกศิษย์วัดหนองช้างคืนเพื่อศึกษาเล่าเรียนจากครูบา อาจารย์หลายท่าน เมื่อมีอายุได้ 12ปีได้บรรพชา จนเมื่อท่านอายุได้ 20 ปีท่านก็ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 5มิ.ย.2487 ท่านได้เล่าเรียนธรรมจนสอบธรรมสนามหลวงแผนกธรรม ชั้นโท พ.ศ. 2494 หลังจากนั้นท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองช้างคืนเมื่อ พ.ศ.2520 ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสและได้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น เป็นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ บูรณะอุโบสถ ท่านมีความเมตตาธรรมสูง มีความสามารถพิเศษในด้านการเทศน์ธรรมมหาชาติ กัณฑ์มัทรี และได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่าเป็นเกจิอาจารย์ในด้านเครื่องลางของขลัง วัตถุมงคล คาถาอาคมและยันต์ต่างๆเป็นต้น จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จนท่านมรณะภาพเมื่อวันพฤหัสบดีที่26 ก.ค.2544 รวมสิริอายุได้ 76 ปี พรรษา56 เมื่อท่านมรณะภาพ ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น เมื่อฝูงผึ้งได้เข้ามาทำรังในโลงของท่านรังใหญ่ด้วยกัน ต่อเมื่อจะทำการพิธีพระประชุมเพลิง ฝูงผึ้งเหล่านั้นกลับได้ออกไปเองโดยไม่ มีใครไปทำลายแต่อย่างใด
    ในปี 2537 และปี 2542 ท่านได้สร้างพระเครื่องครั้งใหญ่ขึ้นโดยเป็นเนื้อผงพุทธคุณ ได้แก่ พิมพ์ขุนแผน ขุนช้าง สังขจาย ล.ป.ทวด กลีบบัว และปิดตา วัตถุมงคลรุ่นนี้ต่อมาภายหลังได้รับความนิยมของในพื้นที่มาก โดยมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและ มหาเสน่ห์โชคลาภ
    โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและ มหาเสน่ห์โชคลาภ
    ขุนแผนครูบาจันต๊ะ อนาวิโล จังหวัดลำพูน พระมาแรงแห่งยุค
    ขุนแผน ครูบาจันต๊ะ(รุ่นแรก) เนื้อดำหายาก ออกปีพ.ศ.๒๕๓๗ มีส่วนผสมผงสมเด็จหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐและผงพรายกมารของปู่ทิมที่ลูกศิตษ์เก็บไว้นำผสมกับพระคง พระเปิม ที่หักด้วย คุณวิเศษไปทางด้านเมตตา มหานิยม ถือเป็นขุนแผนแห่งเมืองเหนือครับ ใครมีไว้ใช้บอกสุดยอดมากเลยครับ สาวรักสาวหลงครับ พุทธคุณที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่นักเล่นพระเชียงใหม่ลำพูน จำนวนสร้างชัดเจน และมีจำกัด ของเก๊ยังนับวันยิ่งพัฒนาฝีมือขึ้นมา ปัจจุบันเริ่มหายากแล้ว เพราะคนพากันหันมาเก็บกันมากขึ้น ด้านหลังองค์พระมีทั้งปั้มตราวัด จาร และไม่มีตราวัดครับ
    เปิดตำนานเรื่องจริงยอดขุนแผนพลายกุมารอันดับ1ของทางเหนือที่เด่นเรื่องเมตตามหาลาภ
    สุดยอดขุนแผนยอดนิยมอันดับ 1 ของเมืองเหนือครับ


    บูชาแล้วครับ


    rfh.jpg nvhy.jpg sa.jpg bc.jpg Clip_21.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    พระขุนแผน ครูบาจันต๊ะ รุ่นแรก พิมพ์เกศสั้น เนื้อเคลือบสีน้ำตาล

    พระ อธิการจันต๊ะ อนาวิโล ( ครูบาจันต๊ะ )เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28ก.พ.2468 ที่ตำบลหนองช้างคืน อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อเยาว์วัยได้มาเป็นลูกศิษย์วัดหนองช้างคืนเพื่อศึกษาเล่าเรียนจากครูบา อาจารย์หลายท่าน เมื่อมีอายุได้ 12ปีได้บรรพชา จนเมื่อท่านอายุได้ 20 ปีท่านก็ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 5มิ.ย.2487 ท่านได้เล่าเรียนธรรมจนสอบธรรมสนามหลวงแผนกธรรม ชั้นโท พ.ศ. 2494 หลังจากนั้นท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองช้างคืนเมื่อ พ.ศ.2520 ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสและได้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น เป็นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ บูรณะอุโบสถ ท่านมีความเมตตาธรรมสูง มีความสามารถพิเศษในด้านการเทศน์ธรรมมหาชาติ กัณฑ์มัทรี และได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่าเป็นเกจิอาจารย์ในด้านเครื่องลางของขลัง วัตถุมงคล คาถาอาคมและยันต์ต่างๆเป็นต้น จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จนท่านมรณะภาพเมื่อวันพฤหัสบดีที่26 ก.ค.2544 รวมสิริอายุได้ 76 ปี พรรษา56 เมื่อท่านมรณะภาพ ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น เมื่อฝูงผึ้งได้เข้ามาทำรังในโลงของท่านรังใหญ่ด้วยกัน ต่อเมื่อจะทำการพิธีพระประชุมเพลิง ฝูงผึ้งเหล่านั้นกลับได้ออกไปเองโดยไม่ มีใครไปทำลายแต่อย่างใด
    ในปี 2537 และปี 2542 ท่านได้สร้างพระเครื่องครั้งใหญ่ขึ้นโดยเป็นเนื้อผงพุทธคุณ ได้แก่ พิมพ์ขุนแผน ขุนช้าง สังขจาย ล.ป.ทวด กลีบบัว และปิดตา วัตถุมงคลรุ่นนี้ต่อมาภายหลังได้รับความนิยมของในพื้นที่มาก โดยมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและ มหาเสน่ห์โชคลาภ
    โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและ มหาเสน่ห์โชคลาภ
    ขุนแผนครูบาจันต๊ะ อนาวิโล จังหวัดลำพูน พระมาแรงแห่งยุค
    ขุนแผน ครูบาจันต๊ะ(รุ่นแรก) เนื้อดำหายาก ออกปีพ.ศ.๒๕๓๗ มีส่วนผสมผงสมเด็จหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐและผงพรายกมารของปู่ทิมที่ลูกศิตษ์เก็บไว้นำผสมกับพระคง พระเปิม ที่หักด้วย คุณวิเศษไปทางด้านเมตตา มหานิยม ถือเป็นขุนแผนแห่งเมืองเหนือครับ ใครมีไว้ใช้บอกสุดยอดมากเลยครับ สาวรักสาวหลงครับ พุทธคุณที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่นักเล่นพระเชียงใหม่ลำพูน จำนวนสร้างชัดเจน และมีจำกัด ของเก๊ยังนับวันยิ่งพัฒนาฝีมือขึ้นมา ปัจจุบันเริ่มหายากแล้ว เพราะคนพากันหันมาเก็บกันมากขึ้น ด้านหลังองค์พระมีทั้งปั้มตราวัด จาร และไม่มีตราวัดครับ
    เปิดตำนานเรื่องจริงยอดขุนแผนพลายกุมารอันดับ1ของทางเหนือที่เด่นเรื่องเมตตามหาลาภ

    สุดยอดขุนแผนยอดนิยมอันดับ 1 ของเมืองเหนือครับ


    ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 1.0 a.jpg ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 1.0 c.jpg ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 1.0 d.jpg ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 1.0 e.jpg ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 1.0 f.jpg ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ 1.0 g.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10859

    ขุนช้างรุ่นแรก ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน
    พิมพ์ใหญ่ ทาทอง
    #สำหรับท่านที่ชอบของเดิม ๆ ทองเขียว ๆ ดูง่าย ๆ


    ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน จังหวัดลำพูน ผู้ทรงวิทยาคมอันเข้มขลัง และเปี่ยมไปด้วยสุดยอดแห่งความ เมตตา ค้าขายคล่อง การเงินการทองดี มหานิยมนิยมชมชอบ หายากกว่าขุนแผน รุ่น ๑ ครับ ดีทางค้าขาย
    สร้างถวายโดย คุณเมี้ยน เปียผ่อง เมื่อ 15 มิถุนายน 2535
    อธิฐานจิตโดย ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน , ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี , ครูบาหน้อย วัดบ้านปง , ครูบาอินสม วัดทุ่งน้อย
    แบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ซึ่งในการแบ่งแยกพิมพ์บางครั้งอาจสับสนบ้าง เพราะว่าขนาดของขุนช้างนั้นใกล้เคียงกัน จึงให้สังเกตที่ผ้าขาวม้าตรงหน้าตักของขุนช้าง ถ้าเป็นพิมพ์ใหญ่ผ้าขาวม้าตรงหน้าตักจะชัดและแหลมกว่าพิมพ์เล็ก

    มวลสารที่นำมาสร้างขุนช้างครูบาจันต๊ะ -ผงพระปิดตาแร่บางไผ่ -ก้นบุหรี่ครูบาอินสม อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ -ผงปัทมัง พระอธิการโต๊ะ จ.ราชบุรี -ปูนหลวงปู่ขาว ข้างศาลาเก่า เชียงใหม่ -ทองคำเปลว ครูบาศรีวิชัย -ทองไหล วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี -ชานหมากเสก วัดหนองตาเมือง จ.ประจวบฯ -ดินประตูเมือง -น้ำมนต์วัดพระสิงห์ น้ำมนต์ไม้คันทรง วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ จ.เชียงใหม่ -ผงพระต่างๆกว่า ๑๐๐ องค์ น้ำหนักรวม ๑ กิโลกรัม -ไม้กาฝากรัก -เกล็ดเงิน -เกสรดอกไม้ ๑๐๘ -ลูกขนุน -ว่านต่างๆ -เกศ -สีผึ้งมหาเสน่ห์ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ -ปูนเปลือกหอย -ข้าวสุกบด -น้ำผึ้ง -มะกล่ำดำ -น้ำมันตังอิ้ว
    ครูบาจันต๊ะท่านได้สร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นพิมพ์ขุนช้างและให้เป็นเนื้อผง ซึ่งจะกล่าวได้ว่า เป็นยุคแรกของท่านสร้างก่อนพระขุนแผนรุนแรก
    ประสบการณ์สุดยอด เด่นเรื่องเมตตามหาลาภ ผู้ใดมีไว้บูชาร่ำรวยเงินทอง ครับ

    #สำหรับท่านที่ชอบของเดิมๆทองเขียวๆเดิมๆดูง่ายๆเชิญได้ครับ

    ราคา 65500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    vccc.jpg gfhfll.jpg gfhy.jpg bbvy.jpg Clip_56.jpg Clip_21.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10860

    ขุนช้างรุ่นแรก ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน พิมพ์เล็ก ทาทองหลังจาร ครบสูตร

    #สำหรับท่านที่ชอบของเดิมๆทองเขียวๆดูง่ายๆเชิญได้ครับ


    ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน จังหวัดลำพูน ผู้ทรงวิทยาคมอันเข้มขลัง และเปี่ยมไปด้วยสุดยอดแห่งความ เมตตา ค้าขายคล่อง การเงินการทองดี มหานิยมนิยมชมชอบ หายากกว่าขุนแผน รุ่น ๑ ครับ ดีทางค้าขาย
    สร้างถวายโดย คุณเมี้ยน เปียผ่อง เมื่อ 15 มิถุนายน 2535
    อธิฐานจิตโดย ครูบาจันต๊ะ วัดหนองช้างคืน , ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี , ครูบาหน้อย วัดบ้านปง , ครูบาอินสม วัดทุ่งน้อย
    แบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ซึ่งในการแบ่งแยกพิมพ์บางครั้งอาจสับสนบ้าง เพราะว่าขนาดของขุนช้างนั้นใกล้เคียงกัน จึงให้สังเกตที่ผ้าขาวม้าตรงหน้าตักของขุนช้าง ถ้าเป็นพิมพ์ใหญ่ผ้าขาวม้าตรงหน้าตักจะชัดและแหลมกว่าพิมพ์เล็ก


    มวลสารที่นำมาสร้างขุนช้างครูบาจันต๊ะ -ผงพระปิดตาแร่บางไผ่ -ก้นบุหรี่ครูบาอินสม อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ -ผงปัทมัง พระอธิการโต๊ะ จ.ราชบุรี -ปูนหลวงปู่ขาว ข้างศาลาเก่า เชียงใหม่ -ทองคำเปลว ครูบาศรีวิชัย -ทองไหล วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี -ชานหมากเสก วัดหนองตาเมือง จ.ประจวบฯ -ดินประตูเมือง -น้ำมนต์วัดพระสิงห์ น้ำมนต์ไม้คันทรง วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ จ.เชียงใหม่ -ผงพระต่างๆกว่า ๑๐๐ องค์ น้ำหนักรวม ๑ กิโลกรัม -ไม้กาฝากรัก -เกล็ดเงิน -เกสรดอกไม้ ๑๐๘ -ลูกขนุน -ว่านต่างๆ -เกศ -สีผึ้งมหาเสน่ห์ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ -ปูนเปลือกหอย -ข้าวสุกบด -น้ำผึ้ง -มะกล่ำดำ -น้ำมันตังอิ้ว
    ครูบาจันต๊ะท่านได้สร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นพิมพ์ขุนช้างและให้เป็นเนื้อผง ซึ่งจะกล่าวได้ว่า เป็นยุคแรกของท่านสร้างก่อนพระขุนแผนรุนแรก
    ประสบการณ์สุดยอด เด่นเรื่องเมตตามหาลาภ ผู้ใดมีไว้บูชาร่ำรวยเงินทอง ครับ

    พิมพ์เล็ก ทาทองหลังจาร ครบสูตร

    #สำหรับท่านที่ชอบของเดิมๆทองเขียวๆดูง่ายๆเชิญได้ครับ

    ราคา 65500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    hgfh.jpg iu.jpg nvh.jpg bg[.jpg lj.jpg Clip_21.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10861

    กุมารทองอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ วัดป่าสัก จ.เชียงใหม่
    สุดขลัง กล่องเดิมๆ


    กุมารทองแห่งล้านนากุมารทองเนื้อผงกระดูกผี อาจารย์เณร วิเศษสิงห์คำกล่าวถึงกุมารทองของล้านนา สำนักหนึ่งที่โด่งดังเรื่องการสร้าง กุมารทองจากกระดูกผีก็คือ สำนักสันป่าสัก อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ หรือ รู้จักกันดี ในนามของ กุมารทองของอาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ อาจารย์เณรท่านนี้ท่านมีความขมังเวทย์และเชี่ยวชาญการสร้างวัตถุมงคล ทั้งพระเครื่องและเครื่องรางโดยเฉพาะเครื่องรางของท่านนั้นในยุคนั้นโด่งดัง มาก ไม่ว่า จะเป็น กุมารทอง วัวธนู ตะกรุด เสื้อยันต์ และ เครื่องรางอื่นๆท่านได้สร้างกุมารทองเนื้อผงอาถรรพ์ขึ้นเมื่อปี 2520 ตำนานการสร้างกุมารทอง ให้เกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ตำนานการสร้างแบบโบราณกาลได้นั้น ผู้สร้างต้องเป็นผู้ที่มีความรู้แตก ฉาน เกี่ยวกับวัตถุส่วนผสมต่าง ๆ ที่นำมาเป็นผงวิเศษของกุมารทอง ซึ่งเรียกว่า “วัตถุอาถรรพ์” อย่างละเอียดพิสดาร กุมารทองจึงจะบังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้วัตถุอาถรรพ์ล้วนเป็นสิ่งที่หาได้ ยากยิ่งทั้งสิ้น หากไม่มีวิชาอาคม และของขลังแล้วจักไม่สามารถเสาหามาได้เลย ซึ่งมีถึงเจ็ดชนิดด้วยกันเช่น ดินเจ็ดป่าช้า ดินเจ็ดวัดร้าง ดินเจ็ดทางสามแพร่ง ดินเจ็ดท่าน้ำ ดินเจ็ดสระน้ำ และดินเจ็ดสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อหาวัตถุเหล่านั้นได้ตามตำราแล้ว จึงนำมาผสมผง กระดูกเจ็ดป่าช้า และผงว่านที่มีคุณอิทธิฤทธิ์ทางเมตตา มหานิยมโชคลาภ ซึ่งประกอบด้วย ว่านเสน่ห์จันทร์เขียว ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ ว่านดินสอฤาษี ว่านเสน่ห์นางกวัก ว่านเสน่ห์มหาโชค ว่านกาหลง และว่านดอกสุวรรณ์ ซึ่งว่านเหล่านี้เป็นของที่หาได้ยากยิ่ง ต้องใช้เวลาในการเสาะหาเป็นเวลาหลายปีจึงจะได้ครบ เมื่อหาได้ครบตามตำราการสร้างแล้วจะกระทำพิธีปลุกเสก ด้วยเวทย์มนต์จนบังเกิดเป็นผงอันศักดิ์สิทธิ์ใช้บรรจุในองค์กุมารทอง การปลุกเสก ต้องประกอบพิธีปลุกเสกในบริเวณป่าช้าที่เงียบสงัดในยามค่ำคืนจนครบเจ็ด ป่าช้า จนกว่ากุมารทองจักเกิดความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งผู้ปลุกเสกต้องเป็นผู้มีพลังจิต และสมาธิอันกล้าแข็ง และได้รับการถ่ายทอดศึกษาวิชาอาคมต่าง ๆ จากเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิทางวิชาไสยศาสตร์อย่างละเอียดลึกซึ้ง สามารถ่ายทอดอำนาจเวทย์ให้คงไว้ในกุมารทอง จนบังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์สมประสงค์ต้องตามตำรา อิทธิปาฏิหาริย์พุทธคุณของกุมารทอง กุมารทองเป็นวัตถุมงคลเอกชนิดหนึ่ง ที่บรรดาเกจิอาจารย์ต่าง ๆ และผู้ที่มีความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์เชื่อถือว่าเป็นวัตถุที่มีอิทธิฤทธิ์ ทางเมตตามหานิยม สามารถช่วยดลบันดาลให้ผู้ที่มีไว้สักการบูชา หรือมีติดตัวอยู่เสมอบังเกิดโชคลาภทางเมตตาค้าขาย เป็นที่รักเสน่หาแก่บุคคลผู้พบเห็น หาศัตรูมิได้ทั้งช่วยป้องกันภยันตราย ภูตผีปีศาจได้อย่างมหัศจรรย์

    สวยเดิมนอนกล่องครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_26.jpg Clip_29.jpg Clip_30.jpg Clip_31.jpg Clip_32.jpg Clip_33.jpg Clip_34.jpg Clip_35.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10862

    พระกริ่ง พิมพ์พระประธาน หลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา ปี2514
    (นวะโลหะ หูทะลุนิยม)

    ยาขัดแดงสวยเดิมมากๆ ก้นอุดแดงกริ่งดังชัดเจน


    บูชาแล้วครับ

    Clip_36.jpg Clip_37.jpg Clip_38.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10863

    รูปหล่อปั๊มหลวงพ่อกล่อม วัดโพธาวาส จ.สุราษฎร์
    เลี่ยมโบราณ สวยเดิม ๆ


    หลวงพ่อกล่อม วัดโพธาวาส – “พระครูวิธูรธรรมสาสน์” หรือ “หลวงพ่อกล่อม นันทะ” อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธาวาส ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่งของภาคใต้

    หลวงพ่อกล่อม เป็นพระเกจิผู้ทรงวิทยาอาคม และมีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องเรือแข่ง ในงานประจำปีของ จ.สุราษฎร์ธานี ที่เรียกว่า งานชักพระ ซึ่งจะมีการแข่งขันเรือยาวกัน


    สมัยนั้น เรือของวัดโพธาวาสไม่มีคำว่าพ่ายแพ้ต่อผู้ใด เล่ากันว่า ท่านให้ลูกศิษย์จัดการขุดเรือขึ้นมา พอเวลาเช้าของวันแข่งขัน ท่านจะออกมายืนริมคลองมะขามเตี้ยแล้วบริกรรมคาถา ปรากฏว่าเรือที่จอดอยู่บนคานแล่นลงน้ำได้อย่างอัศจรรย์

    นอกจากนี้ ยังสามารถบริกรรมคาถาสะกดจระเข้ ซึ่งชุกชุมยิ่งนักในบริเวณลำน้ำมะขามเตี้ยและแม่น้ำตาปี ได้เช่นเดียวกับพ่อท่านคล้าย แห่งวัดสวนขัน

    ร่ำลือกันว่าคาถาสะกดจระเข้ของหลวงพ่อกล่อม จะทำให้จระเข้ที่ว่ายน้ำผ่านหน้าวัดต้องโผล่หัวผ่านไป และปากก็ไม่สามารถอ้าขึ้นได้เช่นกัน

    ดังนั้น วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่นิยมของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและชาวสุราษฎร์ธานีเป็นอย่างสูง ส่วนใหญ่ท่านจะสร้างตะกรุดและสาลิกาลิ้นทอง ที่มีพุทธคุณเข้มขลังในด้านอยู่ยงคงกระพัน

    ราคา 999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_36.jpg Clip_37.jpg Clip_38.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10864

    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อพัฒน์ เนื้อว่านพิมพ์ เล็ก เกลียวเชือก ปี 2505


    พระเนื้อว่านหลวงพ่อพัฒน์ วัดพัฒนาราม ปี 2505 พิมพ์เกลียวเชือกเล็ก ถึงแม้ว่าวัตถุมงคลที่ออกในปี2505นี้ไม่ได้รับการปลุกเสกจากหลวงพ่อพัฒน์โดยตรง แต่พุทธคุณเป็นเลิศมากด้วยประสบการณ์ก็ต้องหามาขึ้นคอแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนเพราะตอนปลุกเสกมี 2 อาจารย์ชื่อดังแห่งดินแดนเมืองใต้เข้าร่วมด้วย คือ หลวงพ่อทิม วัดช้างให้ และ เทวดาเมืองคอน พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน วาจาสิทธิ์ และเกจิดังๆของเมืองสุราษฎร์อีกหลายท่าน เช่น หลวงพ่อพัว วัดบางเดือน ฯลฯ เป็นวัตถุมงคลที่คู่ควรแก่การนำไปบูชาเป็นอย่างยิ่ง
    ประวัติหลวงพ่อพัฒน์ วัดใหม่
    ท่านเกิดเมื่อวันพุธ เดือน ๖ ปีจอ พ.ศ.๒๔๐๕ ร.ศ.๘๑ ในปีที่ ๑๒ แห่งรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ณ ตลาดบ้านดอน อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    โยมบิดาของท่านชื่อ ฉุ้น โยมมารดา ชื่อ เนียม บิดาของท่านเป็นชาวบ้านดอน ส่วนโยมมารดาเป็นชาวเกาะพะงัน มีพี่น้องร่วมอุทร บิดา มารดาเดียวกัน ๗ คน หลวงพ่อเป็นคนที่ ๕ ครั้งมีพระราชบัญญัติขนานนามสกุล (ขณะท่านอยู่ในเพศบรรพชิต แล้ว) ญาติพี่น้องของท่านใช้ชื่อสกุลว่า "พัฒนพงศ์"
    เมื่อเยาว์วัย ได้ศึกษาอยู่กับพระอาจารย์ผ่อง แห่งวัดพระโยคศึกษาเล่าเรียน ตามเนื้อหาวิชาซึ่งเป็นที่นิยม ศึกษาสืบทอดกันอยู่ในยุคสมัยนั้นตามควรแก่วัยและตาม ภูมิพื้นความรู้ของผู้เป็นอาจารย์ท่านผู้สอนอุปสมบท ในการอุปสมบทของหลวงพ่อพัฒน์นั้น ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๕ ปี ใน พ.ศ.๒๔๓๐ ณ อุโบสถวัดพระโยค โดยมีพระครูสุวรรณรังษี (มี) เจ้าคณะเมืองกาญจนดิษฐ์เจ้าอธิการวัดโพธิ์ ตำบลบ้านตลาดบน (ยึดถือตามรายงานมณฑลชุมพร ร.ศ.๑๑๙) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อกล่อม วัดโพธิ์ (ภายหลังเป็นที่พระครูวิธูรธรรมสาส์น) เป็น พระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อขำ วัดบางใบไม้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ว่า "นารโท" บวชแล้ว ท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดพระโยค เป็นเวลาหลายพรรษา สร้างวัด
    เมื่อมีอายุพรรษามากขึ้น หลวงพ่อพัฒน์ก็ได้บุกเบิกสร้างวัดขึ้นมาใหม่อีกแห่งหนึ่ง กล่าวกันว่า ที่ดินที่หลวงพ่อพัฒน์ใช้เป็นสถานที่สร้างวัดนั้น แต่เดิมเป็นเขตป่าช้าของ วัดพระโยค
    ด้วยพรรษากาลที่ไม่ถึงสิบพรรษาและด้วยปัจจัยที่ท่านมีอยู่เพียง ๖ บาท เมื่อครั้ง แรกเริ่มสร้างวัด แต่ด้วยบารมี ผลานิสงฆ์อันท่านได้เคยสร้างสมมา ประกอบกับความ เป็นผู้มุ่งมั่น มีปณิธาน และเป็นที่นิยมนับถือของราษฎร ดังที่ "รายงานพระสงฆ์จัดการ ศึกษามณฑลชุมพร ร.ศ.๑๑๘" กล่าวว่า "พระพัฒน์เจ้าอธิการเปนผู้สามารถ แลเปนที่ นิยมนับถือของราษฎรในเมืองนี้" (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๖ แผ่นที่ ๒๕ วันที่ ๒๗ กันยายน ร.ศ.๑๑๘ หน้า ๓๓๔) หลวงพ่อพัฒน์ ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นภิกษุหนุ่ม ก็สามารถสร้างวัดขึ้นใหม่ได้สำเร็จ รู้จักเรียกขานกันโดยทั่วไปว่า "วัดใหม่" (ชื่อวัดว่า "วัดใหม่" นี้ คงใช้อยู่ตลอดสมัยของหลวงพ่อพัฒน์ภายหลังจากท่านมรณภาพแล้ว ได้มีการเปลี่ยนชื่อ วัดเพื่อเป็นที่ระลึกถึงท่านผู้สร้างว่า "วัดพัฒนาราม")
    หลวงพ่อพัฒน์ท่านมรณะภาพวันที่ 11 กรกฎาคม 2485 รวมสิริอายุ 80 ปี 56 พรรษา

    ของดีราคาเบาๆน่าบูชาครับ


    คุณ pkchalerm. บูชาแล้วครับ

    Clip_39.jpg Clip_40.jpg Clip_41.jpg Clip_42.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10865

    เหรียญเม็ดแตงเงินลงถม(ห่วงเชื่อม) หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ.ปี 2500 กว่า

    ห่วงเชื่อมในตัวเหมาะสำหรับเด็กและสุภาพสตรี

    ของดีเล็ก ๆ ราคาเบา ๆ น่าบูชาครับ

    ราคา 999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    Clip_43.jpg Clip_44.jpg .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  19. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10866

    เต่าสำลีครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม แท้ดูง่าย ทรงสวย

    #พระโพธิสัตว์พญาเต่าเรือน
    ในสมัยเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ได้ทรงสร้างสมพระบารมีอยู่นั้น ในพระชาติหนึ่งพระองค์ได้เสวยพระชาติเป็นพญาเต่า มีพระวรกายใหญ่โตเท่ากับบ้านเรือน ชนทั้งหลายจึงพากันเรียกว่าพญาเต่าคำ อาศัยจำศีลภาวนาอยู่กลางเกาะใหญ่ท่ามกลางมหาสมุทร ในครั้งนั้นได้มีสำเภาพานิชย์ลำหนึ่งไปค้าขายกลางมหาสมุทร บังเอิญสำเภาล่มแตกกระจัดกระจายกลางทะเล #น้ำต๋าสักหยดก่บ่หื้อได้เสี้ยง" อมตะวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ครูบาชัยวงค์ได้กล่าวไว้
    ด้วยถือเคล็ดที่ว่า " เต่านั้นเฝ้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ไม่ให้เจ้าของนั้นเสียน้ำตา " เมตตามหาลาภ รักษาทรัพย์ "บูชาไว้ ...ไม่เสียน้ำตา"
    ใช้ในทุกด้าน เด่นทางด้านเมตตามหาลาภ ค้าขาย ซื้อง่ายขายคล่อง ขึ้นล่องปลอดภัย ป้องกันภัยอันตราย บูชาแล้วไม่อดอยากขัดสน
    พุทธคุณทางด้านเมตตามหาลาภ รักษาทรัพย์ มีไว้บูชาไม่มีอดไม่มีอยากพุทธคุณดียิ่งนัก
    #องค์นี้ตัวจริงเสียงจริง ทรงสวยเนื้อหาแท้ดูง่ายครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_45.jpg Clip_46.jpg Clip_47.jpg Clip_48.jpg Clip_49.jpg Clip_50.jpg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    15,921
    ค่าพลัง:
    +1,340
    รายการที่ 10867

    เหรียญปีระกา หลวงปู่ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เนื้อทองแดงกล่องเดิม


    หลวงปู่ท่านเม่ตตาออกแบบอักขระยันต์ด้านหลังยันต์เมตตาหลวง
    มะอะอุ เมตตา มหาชนา สัพพสีเนหัง ปูชีตัง สัพพสุขัง มหาลาภัง วะทันตุมัง สัพพโกธัง วินาสติ สิทธิสีเนหัง นิรันตรัง ปิยังมะมะ
    #ของดีราคาเบาๆ องค์นี้ผิวสวยเดิมๆน่าบูชาครับ


    บูชาแล้วครับ

    Clip_51.jpg Clip_52.jpg Clip_53.jpg Clip_50.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2023

แชร์หน้านี้

Loading...