พระเกศาครูบาเจ้าศรีวิชัย ยุคต้น พิมพ์พระลือหน้ายักษ์เกศแหลม
พิมพ์มาตรฐาน หรือเซียนเล่นเกศานิยมเรียก #พิมพ์ลุงเหมอ
พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล
องค์นี้พิมพ์หายาก เห็นเส้นเกศาชัดเจน ของดีน่าบูชา
ครับ
**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.
หน้า 851 ของ 898
-
-
พระเกศาครูเจ้าศรีวิชัยพิมพ์พระคงยุคต้น เส้นเกศาชัดเจน เก่าดูง่าย
พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล
องค์นี้พิมพ์พระคงยุคต้น เส้นเกศา เก่า เนื้อหาจัดจ้านเก่าแห้งดูง่ายมากครับ
-
รายการที่ 12052
พระเกศาครูบาศรีวิชัย พิมพ์พระประประทาน
เกศาลอย แห้งเก่าดูง่าย หายาก
พระเกศาครูบาศรีวิชัย สร้างขึ้นสร้างจากผงดอกบูชาพระที่ชาวบ้านมาทำบุญกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เผาให้เป็นผงสมุก ผสมกับผงใบลานคลุกรัก ผสมเกศา ปั้นและนำไปกดพิมพ์แจกจ่ายให้แก่บรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สักการะบูชาเป็นสิริมงคล
#องค์นี้พิมพ์พระประทาน เกศาลอย เนื้อแห้ง เก่า หายาก เนื้อหาจัดจ้านเก่าแห้งดูง่ายมากครับ
ราคา 5500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12053
วัวธนู รุ่น3 ครูบาคำแสน คุณาลังกาโล วัดป่าดอนมูล ผิวหิ้งเดิมๆ ไม่ตอกโค๊ต กล่องเดิมๆ
ตำนาน แห่ง สุดยอดวัวธนูโลหะยอดนิยม อันดับ1 ของล้านนา
วัวธนูอันดับ1ของล้านนา พุทธคุณป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันคุณไสย ลบล้างเสนียดจัญไร ปกปักรักษาทรัพย์สินเงินทอง ป้องกันเหล่าโจรกรรมต่างๆได้อีกด้วย หรือว่าจะเอาไปทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น ในเวลากลางวันให้หันหน้าเข้าบ้าน…ให้อธิฐานจิตเอาในทางโชคลาภ ส่วนในเวลากลางคืนให้เอาวัวธนูหันหน้าออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรม
#กล่าวกันว่า เมื่อคราวที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้มรณภาพลง ในย่ามของหลวงพ่อจะมีเครื่องรางที่ท่านพกติดตัวไปตลอดด้วย นั่นก็คือ วัวธนูของหลวงปู่ครูบาคำแสน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เป็นจึงเป็นเรื่องราวที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของ วัวธนูหลวงปู่ครูบาคำแสนครับ
#คาถาสำหรับปลุกเสกวัวธนู
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า 3หน)
โอม...โคโน มหาโคโน, โอม โคโส มหาโคโส, โอมกูจักมนต์วัวธนู กูสูงได้เก้าพันศอก, ปล๋ายหนอกได้เก้าพันวา, กูโอ้ดังก้องฟ้า อ้าปากร้องผีกลัว, เห็นเสือด่าหนี เห็นผีด่าจม, โอมสวาหะ ขะจัดเถ็กฯ
โอม...โคโน มหาโคโน, โอมกูจักมนต์วัวธนู, กูบินฆะฆะ ตัวมีราคะมัวมืดเศร้า ปะริเทหะ ชนไอ้ดอกชน สัพพะศัตรู วินาสันตุฯ
#วิธีปฏิบัติต่อวัวธนู ของหลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโล วัดป่าดอนมูล
ให้หาหญ้าและน้ำใส่ภาชนะเป็นอาหาร ครบ 7วันให้เปลี่ยนทั้งหญ้าและน้ำเสียครั้งหนึ่ง ห้ามเอาวัวธนูไว้ปะปนกับพระพุทธรูปและเครื่องรางของขลังต่าง ๆ และทั้งห้ามเอาไว้สูงกว่าพระพุทธรูป วัวธนูมีไว้สำหรับป้องกันภัย ภูตผีปีศาจอันจะมารบกวนเราทั้งที่อยู่อาศัย และยังป้องกันพวกมิจฉาชีพเหล่าโจรกรรมทั้งหลายได้อีกด้วย หรือว่าถ้าจะเอาใช้ไปในทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภ ในเวลากลางคืนให้หันหน้าวัวธนูออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรมได้อีกด้วย ในเวลากลางวันให้หันหน้าวัวธนูเข้าบ้านให้อธิษฐานเอาในทางโชคลาภ ให้จุดธูป ๓ ดอก ทุกเช้าค่ำ
วัวธนูมีใว้สำหรับป้องกันภูตผีปิศาจอันจะมารบกวนเราทั้งที่ อยู่อาศัย และทั้งยังป้องกันเหล่าโจรกรรมต่างๆได้อีกด้วย หรือว่าจะเอาไปทางเมตตามหานิยมหรือทางโชคลาภก็ได้เหมือนกัน เช่น ในเวลากลางวันให้หันหน้าเข้าบ้านให้อธิฐานจิตเอาในทางโชคลาภ ส่วนในเวลากลางคืนให้เอาวัวธนูหันหน้าออกนอกบ้าน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและพวกเหล่าโจรกรรมได้อีกด้วย นับวันจะกลายเเป็นตำนาน ไปเสียแล้วกับ วัวธนู ครูบาคำแสน หายากมากๆ นานๆจะเจอสักตัว แบบนี้หากยากแล้วครับ เวลานี้ วัวธนูหลวงปู่คำแสนทุกรุ่น เริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ราคาขยับสูงขึ้นตามความต้องการที่มีเพิ่มมากขึ้นแรงด้วยประสบการณ์ดี ครับ เวลานี้ ของแท้ๆ หาอยากแล้วครับ ผู้ที่มีก็เก็บเงียบกันหมด
สวยนอนกล่อง เดิม ๆ ไม่ผ่านการใช้ น่าบูชามากครับ
ราคา 8500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12054
แหวนนาคเขาคำ รุ่นแรก ครูบาศรีนวล วัดเจริญเมืองจำนวน สร้าง 108 ตอกโค๊ตชัดเจน
ครูบาศรีนวล วัดเจริญเมือง พระเกจิคณาจาย์ศิษย์อีกองค์ในครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบูญแห่งล้านนา ครูบาศรีนวลท่านเก่งเเละเชียวชาญเรื่องการทำตะกรุดนาคคอคำอันโด่งดัง
ครบาศรีนวลท่านได้นำยันต์นาคคอคำที่ท่าใช้เป็นยันต์ประจำตัวนำมาลงไว้ด้านหลังเหรียญรุ่นแรก
ยันต์นาคคอคำนี้ เป็นตำรายันต์ที่มีคู่ชาวล้านนามานานมาก(จากการค้นหา ไม่มีในภาคอื่นที่มีการสร้างยันต์นี้) เดิมทีตำรานี้มาจากเมืองเชียงตุง อาจจะย้อนกลับไปในอดีต ครั้งแรกเริ่มทำการสังคายนาพระไตรปิฏก เหล่าบรรดาพระภิกษุทั้งหลายต้องกล่าวคาถาบูชาเทวดาที่มีฤทธิ์อันเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา โดยที่เทวดาที่มีฤทธิ์เหล่านั้นปรารถนาพระพุทธภูมิและคอยปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อความเรียบร้อยดำเนินไปด้วยดีแห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกนี้ กาลเวลาผ่านมาก็เกิดการบูชาพระคาถานี้มากขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลจนมีพระคณาจารย์ในอดีตได้คิดค้นเป็นพระยันต์นี้ขึ้นมาจนมีชื่อเรียกว่า “นาคคอคำ หรือว่า นาคเขาคำ”
#พระคาถาปลุกเสกตะกรุดนาคเขาคำ "
ฉบับของพระครูบาเจ้าศรีนวล ญาณสิริ อดีตเจ้าอาวาสวัดเจริญเมือง ตั้ง นะโม 3 จบ
ยัสสะสัง พุทโธ โลเก ยัสสะสัง ธัมโม โลเก ยัสสะสัง สังโฆโลกะ อินทะโลเก...
อุปเทห์วิธีใช้ตะกรุดนาคเขาคำ
สิทธิการิยะพระอาจารย์ท่านว่า ถ้าจะไปรบสงครามให้ผูกตระกรุดไว้ที่หน้าท้องแล้วหมุนตะกรุดเวียนไปทางขวา 3 รอบอาตะกรุดไว้ที่หน้าท้อง ป้องกันศาตราวุธ และภัยอันตรายทั้งปวงดียิ่งนัก......
1. ถ้าจะกลับให้หมุนตะกรุดไปทางซ้าย 3 รอบ แล้วเอาตะกรุดไว้ข้างหลัง ข้าศึกศัตรูวิ่งไล่ตามเรามิทันแล
2. ถ้าถูกข้าศึกศัตรูหรือสัตว์ร้ายไล่ตามให้เอาตะกรุดโยนขึ้น 3 ครั้ง แล้วผูกตะกรุดไว้ที่หน้าท้องศัตรูหรือสัตว์ร้ายทำอันตรายมิได้แล
3. ถ้าจะให้ศัตรูหลงทิศทาง ให้เอามือตบหรือต่อยที่ตะกรุด 3 ครั้ง แล้วชี้ไปทางทิศอื่นที่เราไม่ไป ศัตรูคนร้ายจะตามหลงทิศไปเองแล
4. ถ้าจะไปในที่ผีดุให้เอาใบส้มป่อยทำน้ำพระพุทธมนต์พรมตะกรุด แล้วผูกตะกรุดไว้ที่หน้าท้องจากนั้นหมุนไว้ข้างหลัง เสร็จแล้วทำเสียงกระแอม 3 ครั้งภูตผีปีศาจ ผีดุร้ายต่างๆเกรงกลัวเรายิ่งนักแล
5. ถ้าจะเข้าหาผู้ใหญ่ ให้ผูกตะกรุดไว้ที่เอวข้างขวาแล้วหมุนตะกรุดมาไว้ที่สะดือ จะเป็นที่นิยมรักใคร่ของเจ้านายและใช้คุ้มครองรักษาลูกน้องเราได้อีก 31 คนแล
6. ถ้าจะให้ผู้อื่นหลงรัก ให้เอาตะกรุดแช่น้ำใบส้มป่อยมาลูบหน้าและศรีษะแล้วผูกตะกรุดไว้ที่หน้าท้องสตรีนั้นเห็นหน้าเรา รักเรายิ่งนักแล
7. ถ้าเป็นถ้อยร้อยความเกิดขึ้นโรงขึ้นศาล ให้ผูกตะกรุดไว้ที่เอวข้างซ้าย เมื่อไปถึงโรงถึงศาลให้หมุนตะกรุดไว้ข้างหลัง จะชนะความทั้งสิ้นแล
8. ถ้าเป็นไข้ปวดหัวศรีษะให้เอาตะกรุดแช่น้ำส้มป่อยทำน้ำพระพุทธมนต์ ทั้งกินและล้างหน้าหายแล
9. ถ้าคนหรือสัตว์เป็นพยาธิ ให้เอาตะกรุดแช่น้ำส้มป่อยทำน้ำพระพุทธมนต์ภายในบ้าน ตลอดทั้งคนและสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย เอาตะกรุดเก็บบูชาไว้บนที่สูง แล้วให้ ไหว้หาท้าวทั้ง 5 ว่า “กุลุ ลากุละกุอะโหสุขัง นิพพานัง ปะระมังสุขัง พุทธรักษา สังฆังรักษา” สรรพโรคพยาธิไม่อาจกร้ำกรายได้แล
#ในส่วนพระพุทธคุณที่โบราณคณาจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า มีมากบรรยายทั้งวันก็ไม่หมด พอจะสรุปได้ดังนี้คือ
จะเป็นเมตตาเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งปวง อยู่คงต่อศาตราอาวุธ ทุกชนิด เป็นผู้มีลางสังหรณ์เยี่ยมจะมีเทวดาคอยคุ้มครองแก่ผู้ที่เคารพบูชาพระยันต์นี้และพระพุทธศาสนา จะทำกิจการงานใดเจริญงอกงาม ร่มเย็นเป็นสุขทั้งตนเองและครอบครัว เป็นสง่าราศีต่อผู้ที่พบเห็น จะไม่ถูกทำร้ายด้วย สัตว์ที่มีพิษทั้งปวง ปราถนาสิ่งใดอธิฐานมักสมด้วยความปราถนานั้นๆ
จัดเป็นวัตถุมงคลยอดนิยมอีกรุ่นของท่านครูบาศรีนวล วงนี้ตอกโค๊ตชัดเจน จำนวนการสร้าง 108 วงเท่านั้นครับ
บูชาแล้วครับ
-
รายการที่ 12055
เหรียญขวัญถุง ครูบาชุ่ม วัดวังมุย จ.ลำพูน ปี2517 เนื้อทองแดง (โค๊ตใหญ่ หายาก) สวยผิวรุ้งเดิม ๆ
ครูบาชุ่ม วัดวังมุย พระอริยสงฆ์ศิษย์สายครูบาศรีวิชัย
พระสุฏิปันโนที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคารพนับถือในตัวท่านมาก
เจ้าของตำรา ตะกรุดหนังพอกครั่งแห่งล้าน วัตถุมงคลท่านมีประสบการณ์ทุกรุ่นจนเป็นพระยอดนิยมของเมืองเหนือ
1ใน 1500 เหรียญหายากมาก ท่านที่ชอบเก็บของสวย ของหายาก ไม่ควรพลาดครับ
ราคา 3550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12056
ตะกรุดยันต์แสนค้อนอ่อนหลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธมฺมปญฺโญ วัดร้องขุ้ม ยุคต้น จารมือ สวยเดิมๆ
ตะกรุดแสนค้อนอ่อน เป็นตะกรุดล้านนา ที่มีแบบแผนมาแต่โบราณถักเข้าชุดกัน ๔ ดอกยันต์ หัวใจสำคัญมี ๒ ดอกอยู่ตรงกลาง อาจทำเป็นตะกรุดม้วนคู่กัน หรือพับหน้ายันต์เข้าหากันคล้ายยันต์หนีบ ส่วนอีก ๒ ดอก หัวท้ายนั้นเป็นยันต์หนุนกำกับใว้
ยันต์แสนค้อนอ่อนนี้ ตุ๊อุ้ยครูบาบุญปั๋นฯได้รับสืบทอดมาจากบูรพาจารย์ของท่านมา ยันต์แสนค้อนอ่อนเป็นยันต์เมตตาชั้นสูงของล้านนา มิใช่ยันต์ข่ามดังที่หลายท่านเข้าใจกันมา
ขอขยายความ คำว่าแสนค้อนอ่อน คือเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร มาดแม้นมีผู้ปองร้ายหมายชีวิต คิดอันตรายตัวเรา ด้วยศาตราอาวุธ มีดซุย มุยค้อน สักแสนเล่ม ครั้นเมื่อได้เห็นหน้า ก็อ่อนใจ รักเอ็นดู เกิดเมตตาสงสาร กลับกลายเป็นสมานมิตรมีไมตรีจิตแก่เรา
ชุดนี้สวยสมบูรณ์สวมเเชมป์ไม่ผ่านการใช้ ถือเป็นสุดยอดยันต์เมตตาของท่านครูบาเจ้าบุญปั๋น วัดร้องขุ้มครับ
บูชาแล้วครับ
-
รายการที่ 12057
พระผง รุ่นแรก ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง เห็นเส้นเกศาเยอะ สวย ๆ
สร้างปลายปี ๒๕๓๓ ผู้สร้างคือคณะศิษย์และพระเณรในวัด ที่จดจำได้ก็มี พระไพบูลย์ อินทปัญโญ (พระอาจารย์พิณ) ผู้ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลต่างๆ ของทางวัด พระอธิการปรีชา เปสโล ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสามเณร ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดฟ้าหลั่ง พระอาจารย์วุฒิ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดศิลามงคล (วัดครูบาบุญมี) อ.ดอยหล่อ ทางเดียวกับวัดใหม่หนองหอย และยังมีพระอาวุโสอีกรูปหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิกขาบทไปแล้ว ชื่อพ่อหนานเรือง รวมทั้งพระเณรรูปอื่นๆ ที่อยู่ในวัดฟ้าหลั่งตอนสมัยนั้น
สร้างจาก ผงเกศาเนื้อผงเถ้า จากการเผาดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาบูชาพระ แล้วตักเอาแต่ผงเถ้า ผสมดินจอมปลวกด้านหลังวัด น้ำมันละหุ่ง ผงว่าน และเกศาของหลวงปู่ ใช้เวลารวบรวมมวลสารกว่า ๓ ปี เพราะดอกไม้ต้องนำมาตากแห้งแล้วเผา เก็บผงเถ้าครั้งหนึ่งก็ได้ไม่มาก ว่านยาต่างๆ ก็ต้องโขลกต้องตำกันเองภายในวัด หลังจากนั้นก็นำมากดพิมพ์ได้ประมาณหมื่นกว่าองค์ ขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูงประมาณ ๓ เซนติเมตร
#ผงดวงเศรษฐีเมืองเหนือ
ของดีที่น่าใช้มากๆครับ
บูชาแล้วครับ
-
รายการที่ 12058
เหรียญรุ่นแรกครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม ปี เนื้อทองแดง บล็อกนิยม ผิวหิ้งเดิมๆ
พระอริยสงฆ์อีกองค์ของเมืองลี้ ศิษย์เอกของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย
เหรียญครูบาขาวปีเป็นเหรียญที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากเหรียญเกจิอื่นๆเนื่องจากการแกะบล็อกเป็นรูปครูบานั่งทำสมาธิในมือถือลูกประคำอยู่ใต้ต้นสะหรี (ต้นโพธิ์)มี 5 กิ่ง นักสะสมนิยมเรียกกันติดปากว่า #เหรียญสลีห้ากิ่ง
เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์ในการใช้บูชาของจริงที่มีสูงมากๆดีในเรื่องเมตตา มหานิยมและในด้าน คุ้มกันภยันตรายต่างๆได้ดี ครูบาขาวปี ท่านเป็นศิษย์สายตรงของครูบาเจ้าศรีวิชัยฯ ครูบาเจ้าฯท่านบวชให้ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นสามเณร จนกระทั่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยได้รับฉายาว่า พระอภิชัย แต่ถูกกลั่นแกล้งคล้ายครูบาเจ้าฯ ถูกทางเจ้าคณะพระครูจับสึกถึง 2 ครั้ง ครูบาขาวปีท่าน เป็นกำลังสำคัญในการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ โดยนำชาวกะเหรี่ยงและ ชาวเขา เผ่าต่างๆ หลายพันคนมาช่วยสร้างทางจนเสร็จสำเร็จ หลังจากการสร้างทางเสร็จ ครูบาเจ้าฯได้ทำพิธีอุปสมบท ให้อีกครั้งเป็นพระภิกษุอภิชัย ณ วัดศรีโสดา อ.เมือง จ.เชียงใหม่
#ถือเป็นเหรียญยุคเก่าก่อนปี2500ที่ประสบการณ์สูงมากเหรียญ
เหรียญของท่านมีประสบการณ์มากล้นเกินคำบรรยาย
พระดีปีลึก น่าบูชามากครับ
บูชาแล้วครับ
-
รายการที่ 12059
ขุนแผนรุ่นแรกหลวงพ่อเสน่ห์ วัดเชียงขาง พิมพ์เล็กเนื้อ เขียว สวยเดิมๆ
รุ่นแรก รุ่นรวยทรัพย์รับโชค สุดยอดมวลสารว่านมหาเสน่ห๋108ชนิด ผงมหาภูติมหาพราย ผงพรายกุมาร น้ำมันพรายปลุกเสกเมื่องานเข้าโสสากรรม พัฒนาป่าช้าวัดเชียงขาง ปลุกเสกในเตากองฟอนเผาศพที่ป่าช้า มีความขลังทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม มีเสน่ห์สูงสุด
เด่นทางด้านเมตตามหานิยมที่สุด โชคลาภ ค้าขาย
สวยขลังสุดๆ สนใจเชิญได้เลยครับ
ราคา 1650 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12060
ตะกรุดกาสะท้อน ครูบาสม วัดป่าแดด สวยเดิมๆ
ครูบาสม วัดป่าแดด หรือที่เรียกกันว่าครูบาเสือสม เหตุที่เรียกว่าเสือ ก็เพราะว่าท่านได้สำเร็จวิชาอภิญญาขั้นสูงแปลงกายเป็นเสือ จนได้รับสมญานามว่า เสือสม จากชาวบ้าน และอื่นๆอีกมากมาย อย่างเช่น การนอนบนยอดใบตองกล้วย กระโดดลงน้ำบ่อหายตัว เป็นต้น ซึ่งเป็นวิชาขั้นสูงสุด และท่านยังเคยแปลงเป็นเสือเพื่อทดสอบพระที่นั่งสมาธิธุดงในป่า 3 ท่าน โดยสองท่านพอเห็นเสือต่างพากันวิ่งหนีไป เหลือเพียงพระครูสิริธรรมโฆษิต (ครูบาวัดปากกอง หรือครูบาผีกั๋ว) ท่านเดียวที่ยังนั่งสมาธิอย่างสงบ ครูบาสมท่านเลยรับเป็นศิษย์และเป็นถ่ายทอดวิชาให้ครูบาปากกองจนหมดสิ้น ครูบาสม วัดป่าแดด ท่านเป็นสหธรรมกับครูบาเจ้าศรีวิชัย และครูบาแก้ววัดน้ำจำ เคยแลกเปลี่ยนความรู้กันบ่อยๆ ลูกศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยหลายรูปก็มาเรียนวิชากับครูบาสมด้วยเช่นกัน เช่นครูบาชุ่ม วัดวังมุย ตะกรุดหนังควายท่านเรียนมาจากครูบาสม ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล อาจารย์ครูบาน้อย ผู้ที่ละสังขารแล้วไฟเผาไม่ไหม้ เจ้าของวิชาตะกรุดก๋าสะท้อนที่โด่งดัง ก็ไปเรียนวิชาตะกรุดกับครูบาสม ครูบาปากกอง ครูบาขัตติยะ วัดเวฬุวัน ครูบาวัดดอนจืน และอีกหลายๆท่านที่โด่งดังในแดนล้านนา ส่วนมากก็มาเรียนวิชากับครูบาสมทั้งสิ้น จึงถือว่าท่านเป็นเหมือนบรมครูของครูบาอาจารย์ทั้งในอำเภอสารภี และลำพูน
#ตะกรุดก่าสะท้อน หรือ ที่ชาวล้านนาเรียกกันว่าก่าสะท้อนนั้น คำว่า”ก่า” เป็นภาษาล้านนา แปลว่า ป้องกัน, ไม่ให้เกิดขึ้น อารุภาพของตะกรุด จึงสมชื่อ คือสามารถ ป้องกันอันตรายต่างๆอำนาจคุณไสยมนต์ดำ คุณผีคุณคน นอกจากป้องกันแล้ว และยังจะทำให้สะท้อนกลับจากสิ่งร้าย อย่างเช่นใคร คิดร้าย หรือ ตั้งใจจะทำร้านเรา จะสะท้อนกลับ สิ่งนั้นกลับไปทั้งหมดวิธีการสร้าง: ท่านจะลงยันต์ก่าสะท้อนบนแผ่นดลหะนำมาพอกด้วยครั่ง แล้วปลุกเสกอย่างเข้มขลัง ก่อนมอบให้ลูกศิษย์
(คาถาที่ใช้กับตะกรุดก่าสะท้อน)
พุทธัง อะระหัง กัณหะ
ธัมมัง อะระหัง กัณหะ
สังฆัง อะระหัง กัณหะ
สัมมาทางใหน สัมไปทางนั้น
วิธีการใช้: ใช้ห้อยคอ หรือ คาดเอว พกติดตัว
อานุภาพ: ตะกรุดก่าสะท้อน หรือ ที่ชาวล้านนาเรียกกันว่าก่าสะท้อนนั้น คำว่า”ก่า” เป็นภาษาล้านนา แปลว่า ป้องกัน, ไม่ให้เกิดขึ้น อารุภาพของตะกรุด จึงสมชื่อ คือสามารถ ป้องกันอันตรายต่างๆอำนาจคุณไสยมนต์ดำ คุณผีคุณคน นอกจากป้องกันแล้ว และยังจะทำให้สะท้อนกลับจากสิ่งร้าย อย่างเช่นใคร คิดร้าย หรือ ตั้งใจจะทำร้านเรา จะสะท้อนกลับ สิ่งนั้นกลับไปทั้งหมด
สวยเดิมๆหายากมากครับ
ราคา 5500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12061
พระผง รุ่นแรก ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง เห็นเส้นเกศา สวย คมชัด
สร้างปลายปี ๒๕๓๓ ผู้สร้างคือคณะศิษย์และพระเณรในวัด ที่จดจำได้ก็มี พระไพบูลย์ อินทปัญโญ (พระอาจารย์พิณ) ผู้ที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องวัตถุมงคลต่างๆ ของทางวัด พระอธิการปรีชา เปสโล ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นสามเณร ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดฟ้าหลั่ง พระอาจารย์วุฒิ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดศิลามงคล (วัดครูบาบุญมี) อ.ดอยหล่อ ทางเดียวกับวัดใหม่หนองหอย และยังมีพระอาวุโสอีกรูปหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิกขาบทไปแล้ว ชื่อพ่อหนานเรือง รวมทั้งพระเณรรูปอื่นๆ ที่อยู่ในวัดฟ้าหลั่งตอนสมัยนั้น
สร้างจาก ผงเกศาเนื้อผงเถ้า จากการเผาดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาบูชาพระ แล้วตักเอาแต่ผงเถ้า ผสมดินจอมปลวกด้านหลังวัด น้ำมันละหุ่ง ผงว่าน และเกศาของหลวงปู่ ใช้เวลารวบรวมมวลสารกว่า ๓ ปี เพราะดอกไม้ต้องนำมาตากแห้งแล้วเผา เก็บผงเถ้าครั้งหนึ่งก็ได้ไม่มาก ว่านยาต่างๆ ก็ต้องโขลกต้องตำกันเองภายในวัด หลังจากนั้นก็นำมากดพิมพ์ได้ประมาณหมื่นกว่าองค์ ขนาดองค์พระกว้างประมาณ ๒ เซนติเมตร สูงประมาณ ๓ เซนติเมตร
#ผงดวงเศรษฐีเมืองเหนือ
ของดีที่น่าใช้มากๆครับ
ราคา 1999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12062
พระหลวงพ่อคูณ หลัง ยันต์ใบพัด ออกวัดพันอ้น จังหวัดเชียงใหม่ ออกปี 2523 เลี่ยมพร้อมใช้
พระชุดนี้จัดสร้างขณะที่หลวงพ่อคูณจำพรรษาที่วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ ข้อมูลจากหนังสือสปิริต ฉบับเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓ และหนังสืออริยเจ้าแห่งด่านขุนทด หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ของสำนักพิมพ์เพชรประกาย วัดพันอ้นสร้างประมาณ พ.ศ.๒๐๔๔ ในสมัยพระเจ้าศิริธรรมจักรพรรดิราช (พระเมืองแก้ว) กษัตริย์ล้านนาองค์ที่๑๓ ล้านนาไทยยังเป็นอิสระอยู่ในราชวงศ์มังรายมหาราช “พันอ้น” สันนิษฐานว่าเป็นชื่อของผู้สร้างวัด สร้างถวายไว้กับพระพุทธศาสนา ผู้สร้างอาจเป็นทหารหรือขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์เป็น”พัน” คนในสมัยโบราณเมื่อประสบผลสำเร็จในชีวิตมักจะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ แล้วใช้ชื่อตัวเองตั้งเป็นชื่อวัดที่สร้างขึ้น วัดพันอ้นตั้งอยู่ที่ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เรื่องพระหลวงพ่อคูณ วัดพันอ้น เขียนจากบันทึกและการสัมภาษณ์หนึ่งในสองผู้สร้าง คือคุณสัมฤทธิ สรรสวาสดิ์ ส่วนผู้แกะแม่พิมพ์คือคุณเกษม เลิศมโนกุลชัย เสียชีวิตไปแล้ว คุณสัมฤทธิได้บันทึกการสร้างพระไว้ละเอียด สร้างตามกรรมวิธีของคณาจารย์โบราณเพื่อแจก ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้เข้าพรรษาของปีนั้น หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดพันอ้น ตามคำกราบอาราธนานิมนต์ของพระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดพันอ้น คุณสัมฤทธิ์กับคุณเกษมจึงได้ขออนุญาตหลวงพ่อคูณหุงสีผึ้งและจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อเป็นที่ระลึกที่หลวงพ่อคูณได้มาจำพรรษาที่เชียงใหม่ เมื่อได้รับอนุญาต คุณสัมฤทธิ์และคณะได้เดินทางไปเก็บกู้ว่านต่างๆในป่าของอำเภอแม่แตง รวมทั้งว่านวิเศษที่เลี้ยงไว้ในบ้านอีกส่วนหนึ่ง โดยว่านวิเศษต่างๆที่หามาได้นี้ ส่วนหนึ่งนำมาหุงเป็นสีผึ้ง อีกส่วนหนึ่งนำมาเป็นส่วนผสมเนื้อหามวลสารในการสร้างพระเครื่อง ซึ่งว่านวิเศษต่างๆเหล่านี้ประกอบด้วย ว่านสาวหลง ว่านเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ว่านดอกไม้ทอง ว่านมหาอุด ว่านนางกวัก ว่านจูงนาง ว่านกระแจะจันทร์ ว่านดินสอฤๅษี ว่านมหาโชค ว่านเครือเถาวัลย์หลง ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว ว่านขมิ้นขาว ว่านมหานิยม ว่านมหาจักพรรษดิ ว่านช้างผสมโขลง ว่านห้าร้อยนาง ว่านเทพรำลึก ว่านไก่แดง ว่านไพลขาว ว่านกุมารทอง ว่านเสน่ห์ขุนแผน ว่านม้าสีหมอก ว่านกระชายดำ นอกจากนี้เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของมวลสารยังได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์อื่นๆมาเป็นส่วนผสม ได้แก่ เกศาหลวงพ่อคูณ ยาฉุนและก้นบุหรี่ที่หลวงพ่อคูณเสกให้ เกสรดอกไม้ มีดอกมะลิ ดอกสารภี ดอกบัว ดอกว่านต่างๆ ดิน๗พระธาตุ ชิ้นส่วนพระสกุลลำพูนที่แตกหักชำรุด เช่น พระคง พระสาม พระป๋วย พระสิบสอง พระลือ เป็นต้น พระเนื้อผงที่แตกชำรุด เช่น พระกรุวัดสามปลื้ม พระกรุวัดใหม่อมตรส พระกรุวัดเงินคลองเตย เป็นต้น พระเนื้อดินที่แตกหักชำรุด เช่น พระขุนแผนวัดบ้านกร่าง ผงหลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร เกสรดอกไม้มงคล ๑๐๘ เช่น ยอดเกสรดอกรักซ้อน ยอดเกสรดอกมะลิฉัตร ยอดเกสรดอกมะลิซ้อน เป็นต้น กาฝากยอดไม้มงคลต่าง เช่น กาฝากยอดไม้รัก กาฝากยอดไม้มะยม กาฝากยอดไม้ชัยพฤกษ์ เป็นต้น ขี้เถ้าของธนบัตรเก่าที่เผาด้วยเตโชธาตุโดยพระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ ตัวประสานที่ใช้ในการผสมรวมของเนื้อหามวลสารที่ใช้ในการกดพิมพ์ประกอบด้วย น้ำพระพุทธมนต์ของหลวงพ่อคูณ กล้วยน้ำว้าบดละเอียดทั้งลูก น้ำผึ้งหลวงเดือนห้า ดินสอพองจากลพบุรี ปูนขาวจากสระบุรี น้ำว่านบีบจากหัวสดๆ และกากว่านที่บดละเอียด ผงใบลานของวัดพันอ้นและวัดเชียงมั่น จากส่วนผสมของเนื้อหามวลสารต่างๆทำให้พระชุดนี้มีสีต่างกันดังนี้ ถ้าสีพระออกเหลืองจะมีส่วนผสมของเกสรดอกไม้กับว่านอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าสีพระออกแดงจะมีส่วนผสมของเนื้อดินของพระสกุลลำพูนและพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่างอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าสีพระออกดำจะมีส่วนผสมของใบลานเก่าอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าสีพระออกเทาจะมีส่วนผสมของขี้เถ้าของธนบัตรเก่าอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อกดพิมพ์พระเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อคูณได้เริ่มปลุกเสกตั้งแต่วันจันทร์ ซึ่งทางเหนือถือว่าเป็นวันมหาเสน่ห์ หลวงพ่อคูณทำการปลุกเสกทุกเช้าหลังเวลาบิณฑบาตรและเวลากลางคืนก่อนจะเข้าจำวัด จนกระทั่งวันออกพรรษา ใช้เวลาสร้างและเสก ๑ไตรมาส หลวงพ่อคูณได้นำออกแจกฟรีให้กับบรรดาลูกศิษย์สายเชียงใหม่ และนำมาแจกอีกครั้งเมื่อมีงานทอดผ้าป่าที่วัดพันอ้น พระที่สร้างมี ๑๒ พิมพ์ดังนี้ ๑. พิมพ์รูปไข่ครึ่งองค์ ยันต์ลอย ถอดพิมพ์จากเหรียญปีพ.ศ. ๒๕๑๗ ด้านหน้ามีอักขระว่า ”ยา นะ ยา” มียันต์อุข้างละตัวและตรงสังฆาฏิ ด้านหลังมีสองแบบ คือยันต์ใบพัดและพระปิดตา จำนวนสร้าง ๗๐๐องค์ ๒. พิมพ์รูปไข่ครึ่งองค์ ยันต์จม ด้านหน้ามีอักขระ ๓ตัว “ยา นะ ยา” ด้านหลังมีสองแบบ คือยันต์ใบพัดและพระปิดตา จำนวนสร้าง ๕๐๐องค์ ๓. พิมพ์สี่เหลี่ยมครึ่งองค์ เหมือนพิมพ์รูปไข่ครึ่งองค์แต่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม หลังยันต์และฝังตะกรุด ๔. พิมพ์พระประธานพร นั่งบนฐานบัวหงายในซุ้มโค้ง มีพิมพ์สี่เหลี่ยมและพิมพ์ตัดขอบโค้ง หลังแบบเดียวกับพิมพ์สี่เหลี่ยมครึ่งองค์ ฝังตะกรุด จำนวนสร้าง ๑๐๐กว่าองค์ ๕. พิมพ์สมเด็จหลังยันต์ ด้านหน้าเป็นพระสมเด็จสามชั้น ด้านหลังเหมือนพิมพ์พระประธานพร องค์ ฝังตะกรุด จำนวนสร้าง ๑๐๐กว่าองค์ ๖. พิมพ์สี่เหลี่ยมรูปเหมือนนั่งสมาธิ ฐานมีชื่อหลวงพ่อคูณ พื้นองค์พระเรียบ หลังพระปิดตา จำนวนสร้าง ๑,๐๐๐องค์ ๗. พิมพ์สี่เหลี่ยมรูปเหมือนนั่งสมาธิ ฐานมีชื่อหลวงพ่อคูณ ด้านหน้ามีอักขระยันต์รอบองค์หลวงพ่อ หลังพระปิดตา จำนวนสร้าง ๕๐๐องค์ ๘. พิมพ์สี่เหลี่ยมรูปเหมือนนั่งยองสูบบุหรี่ ฐานมีชื่อหลวงพ่อคูณ แต่ช่างแกะตัวหนังสือกลับข้าง หลังพระปิดตา จำนวนสร้าง ๑,๐๐๐องค์ ๙. พิมพ์สี่เหลี่ยมรูปเหมือนนั่งยองสูบบุหรี่ ฐานมีอักขระยันต์ “ยา นะ ยา” ด้านหน้ามีอักขระยันต์รอบองค์หลวงพ่อ หลังพระปิดตา จำนวนสร้าง ๕๐๐องค์ ๑๐. พิมพ์พระขุนแผน ถอดพิมพ์จากพระขุนแผนบ้านกร่าง หลังมีหลายแบบ หลังยันต์ใบพัด หลังพระปิดตา หลังเรียบ ส่วนใหญ่ฝังตะกรุดเงิน จำนวนสร้าง ๒๐๐องค์ ๑๑. พิมพ์พระปิดตาจัมโบ้ ด้านหลังมีสองแบบ คือหลังพระปิดตาและหลังยันต์ “มะ อะ อุ” ในรูปสามเหลี่ยม จำนวนสร้าง ๗๐๐องค์ ๑๒. พระปิดตาลอยองค์พิมพ์วัดหนัง นอกจากนี้ยังมีลูกประคำและลูกอมสอดตะกรุดเงิน ครั้นในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ คุณสัมฤทธิ์ ได้นำพระเครื่องวัดพันอ้นที่สร้างในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ จำนวนหนึ่ง มาให้หลวงพ่อคูณปลุกเสกในพิธีเสาร์ห้าอีกครั้งหนึ่งที่วัดบ้านไร่ และได้ถวายพระเครื่องบางส่วนให้กับหลวงพ่อคูณ เพื่อสำหรับแจกให้กับผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคปัจจัยสมทบทุนในการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ของวัดบ้านไร่ และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน คณะกรรมการจึงนำปากกาเคมีมาเขียนที่ขอบด้านข้างขององค์พระเครื่องที่มีการปลุกเสกซ้ำในพิธีเสาร์ห้าปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ว่า “เสาร์๕ ปี ๒๕๓๓” ดังนั้นพระเครื่องชุดวัดพันอ้นที่คุณสัมฤทธิ์และคณะจัดสร้างในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ นั้น จัดเป็นพระเครื่องที่สร้างจากมวลสารส่วนผสมต่างๆที่เป็นมงคลดังที่กล่าวนำเสนอข้างต้นแล้ว การปลุกเสกก็เป็นการปลุกเสกเดี่ยวในปีพรรษา ๒๕๒๓ และยังมีพระเครื่องชุดวัดพันอ้นบางส่วนที่พิเศษกว่า คือได้เข้าพิธีปลุกเสกในวันเสาร์ห้าอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๕๓๓
พระดีน่าใช้ครับ
ราคา 2450 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12063
พระกริ่งนเรศวรเมืองงาย เนื้อนวะโลหะ ปี 2512 สวย ๆ ตอกโค๊ต เดิม ๆ
สร้างโดยวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.2512 ในพิธีนี้จะมีวัตถุมงคลอื่นๆที่สร้างพร้อมกันคือพระร่วงรางปืน ชัยวัฒน์นเรศวรเมืองงาย และเหรียญสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นการสร้างพระเครื่องครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของล้านนา
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสร็จทรงเป็นประธานในพิธีเททองพระพุทธสิหิงค์ และสมเด็จพระวันรัต เป็นประธานเททอง พระกริ่งนเรศวรเมืองงาย
จุดประสงค์การจัดสร้างพระเครื่องครั้งนี้ เพื่อหาทุนก่อสร้างพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ บริเวณบ้านเมืองงาย ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
พิธีพุทธาษิเษก ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2512 ณ.วิหารวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่
พระเกจิคณาจารย์ระดับสุดยอดของประเทศ ร่วมพิธีนั่งปรกปลุกเสกอีกด้วย เช่น
หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน
หลวงพ่อนำ วัดดอนศาลา
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง
หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ
หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ
หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน
หลวงพ่อทิม วัดช้างไห้ เป็นต้น
พิธีการจัดสร้างดี เจตนาดี นับเป็นสุดยอดพระกริ่งอันดับหนึ่งของล้านนาได้อย่างเต็มภาคภูมิ พระกริ่งนเรศวรเมืองงาย ปัจจุบันได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในหมู่นักสะสมทั่วไปประเทศ เป็นพระกริ่งยอดนิยมของพระสายนเรศวรในอันดับต้นๆ
ประสบการณ์ด้านพุทธคุณ พระรุ่นนี้มีมากมาย ด้านคงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด ปลอดภัย โดยเฉพาะในหมู่ทหารระดับสูงนิยมหากันมาก
พระดีพิธีดีอีกรุ่นที่น่าบูชายิ่ง
ราคา 25500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12064
เหรียญรุ่นแรกครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน ปี 2540
หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก ท่านเป็นมหาเถร พระอริยสงฆ์อีกองค์ของแดนล้านนา ที่มีอายุพรรษามากถึง 103 ปี ถึงพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิสุทธิจิต
ครูบาดวงดีท่านเป็นพระนักพัฒนาและยังเป็นหมอยาแผนโบราณอีกด้วย โดยสมัยก่อนท่านทำยาแผนโบราณได้หลายอย่าง โดยท่านทำเองทั้งหมด ตั่งแต่ไปเก็บว่านสมุนไพรต่างๆ ในป่า แล้วนำมาคั่วและบดทำเองทุกขั้นตอน รักษาชาวบ้านหายมานักต่อนักแล้ว หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด และได้คอยอบรมสั่งสอนพระ เณรและศรัทธาญาติโยมของท่านอยู่มิขาด
ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่ง ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน เป็นผู้มีความชำนาญในเรื่องยาวิเศษนานาประการ ที่ในสมัยก่อนหลวงปู่ท่านดั้นด้นค้นหายาวิเศษตามป่าเขาในทุกที่เพื่อนำมาปรุงยา อีกทั้งได้นำเอาผงยาวิเศษอันเลื่องลือคือ ว่านไก่แดง มาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลให้ลูกหลานญาติธรรม ได้มีไว้บูชาติดตัว จึงนับว่าหลวงปู่ท่านได้นำเอาผงยาวิเศษนี้ มาให้ชนรุ่นหลังได้รู้จัก จนมาถึงทุกวันนี้ วัตถุมงคล ครูบาดวงดี ยติโก ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย มีศรัทธาญาติโยมมาเคารพสักการบูชา อยู่มิขาดได้ทุกวันโดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากในปัจจุบัน
#เหรียญรุ่นแรกของท่านครูบาดวงดี ยติโก จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2540
โดยได้นำเหรียญไปขอเมตตาให้สุดยอดเกจิเมืองเหนือได้ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสกอาธิเช่น
ครูบาบุญปั๋น วัดร้องคุ้ม
ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
ครูบาเผือก วัดไชยสถาน
ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
วัตถุมงคล ยอดนิยมของท่านหลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก ที่ได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัยจัดเป็นเหรียญเกจิยุคปัจจุบันที่มาเเรงมากๆ
ผิวรุ้งสวยๆ ท่านที่ชอบของสวยไม่ควรพลาดครับ
ราคา 3999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12065
เหรียญรุ่นแรกครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน ปี 2540
หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก ท่านเป็นมหาเถร พระอริยสงฆ์อีกองค์ของแดนล้านนา ที่มีอายุพรรษามากถึง 103 ปี ถึงพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิสุทธิจิต
ครูบาดวงดีท่านเป็นพระนักพัฒนาและยังเป็นหมอยาแผนโบราณอีกด้วย โดยสมัยก่อนท่านทำยาแผนโบราณได้หลายอย่าง โดยท่านทำเองทั้งหมด ตั่งแต่ไปเก็บว่านสมุนไพรต่างๆ ในป่า แล้วนำมาคั่วและบดทำเองทุกขั้นตอน รักษาชาวบ้านหายมานักต่อนักแล้ว หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมอย่างเคร่งครัด และได้คอยอบรมสั่งสอนพระ เณรและศรัทธาญาติโยมของท่านอยู่มิขาด
ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีจริยาวัตรอันงดงาม และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังรูปหนึ่ง ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากยิ่งแล้วในปัจจุบัน เป็นผู้มีความชำนาญในเรื่องยาวิเศษนานาประการ ที่ในสมัยก่อนหลวงปู่ท่านดั้นด้นค้นหายาวิเศษตามป่าเขาในทุกที่เพื่อนำมาปรุงยา อีกทั้งได้นำเอาผงยาวิเศษอันเลื่องลือคือ ว่านไก่แดง มาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคลให้ลูกหลานญาติธรรม ได้มีไว้บูชาติดตัว จึงนับว่าหลวงปู่ท่านได้นำเอาผงยาวิเศษนี้ มาให้ชนรุ่นหลังได้รู้จัก จนมาถึงทุกวันนี้ วัตถุมงคล ครูบาดวงดี ยติโก ทุกรุ่นล้วนได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย มีศรัทธาญาติโยมมาเคารพสักการบูชา อยู่มิขาดได้ทุกวันโดยมีศรัทธาญาติโยมจากต่างตำบล ต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเดินทางมาขอพรและประพรมน้ำพระพุทธมนต์มิได้ขาด หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก นับเป็นพระผู้มีอริยะคุณอันยอดเยี่ยมยิ่งที่หาได้ยากในปัจจุบัน
#เหรียญรุ่นแรกของท่านครูบาดวงดี ยติโก จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2540
โดยได้นำเหรียญไปขอเมตตาให้สุดยอดเกจิเมืองเหนือได้ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสกอาธิเช่น
ครูบาบุญปั๋น วัดร้องคุ้ม
ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง
ครูบาเผือก วัดไชยสถาน
ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน
#วัตถุมงคล ยอดนิยมของท่านหลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก ที่ได้รับความนิยม มีคำร่ำลือเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัยจัดเป็นเหรียญเกจิยุคปัจจุบันที่มาเเรงมากๆ
ผิวรุ้งสวยๆ ท่านที่ชอบของสวยไม่ควรพลาดครับ
ราคา 4599 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12066
พระบูชาครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ขนาด 5 นิ้ว
พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)
พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ครูบาพรหมา” หรือบ้างก็เรียก “ครูบาพรหมจักร” ท่านเปรียบดั่ง “เจ้าคุณนรแห่งล้านนา” ด้วยความมั่นคงในพระวินัย จริยาวัตรอันเรียบร้อยสงบเสงี่ยม เมตตาอันล้ำเลิศ ไม่ผิดพลาดไปจากพระธรรมแม้สักนิด อีกทั้งยังมีจิตที่ทรงฤทธิ์ ถึงขนาดเหยียบหินให้เป็นรอยเท้าได้ ถึงขนาดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไท ยังต้องนัดขอดูตัวด้วยความชื่นชม และท่านยังเป็นอาจารย์ของครูบาชัยวงศาพัฒนาผู้มีฤทธิ์ยอดยิ่งอีกต่างหากด้วย
ประวัติ
วัยเด็ก
ท่านมีนามเดิมว่า พรหมา พิมสาร กำเนิดวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2441 ที่บ้านป่าแพ่ง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของ นายเป็งกับนางบัวถา พิมสาร มีพี่น้องร่วมกัน 13 คนท่านครูบาพรหมมาได้เรียนหนังสืออักษรลานนาและไทยกลางที่บ้านจากพี่ชายที่ได้บวชเรียน
บรรพชาและอุปสมบท
ครูบาเจ้าบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2455 เวลา 15.00 น. ณ วัดป่าเหียง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง มีเจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้หมั่นศึกษาเล่าเรียน ปฎบัติธรรม และประพฤติในศีลาจารวัตรอย่างเคร่งครัด
ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ 20 ปี ที่วัดเดิมเมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ศ. 2461 เจ้าอธิการแก้ว ขัตติโย (ครูบาขัตติยะ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฮอน โพธิโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สม สุวินโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมจักโก” กระทั่งพรรษาที่ 4 ท่านได้เริ่มต้น เข้าสู่วิถีแห่งการปฏิบัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาต่างๆ ทั้งเขตประเทศไทย พม่า และลาว กระทั่งในปีพ.ศ.2491 ท่านจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า และได้พัฒนาวัดจนมีชื่อเสียงเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาแห่งหนึ่งของจังหวัดลำพูน และด้วยการสั่งสมบุญบารมี คุณงามความดีของท่านนี้เองทำให้ ท่านได้รับความเคารพศรัทธาจากพุทธบริษัทโดยทั่วไป
ละสังขาร
ครูบาเจ้าพรหมาได้ดับขันธ์ (มรณภาพ) ในท่านั่งสมาธิภาวนา เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เวลา 06.00 น.อายุ 87 ปี 67 พรรษา คณะศิษยานุศิษย์ได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 ปี ได้รับพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2531 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงครูบาเจ้าพรหมาด้วยพระองค์เอง หลังจากพระราชทานเพลิงเสร็จสิ้นแล้วได้เก็บอัฐิ ปรากฏว่าอัฐิของครูบาเจ้าพรหมาได้กลายเป็นพระธาตุ มีวรรณะสีต่างๆ หลายสี
คำสอน
ครูบาพรหมาท่านได้แสดงธรรมโอวาทไว้มากมาย
“การทำบาปหรือการทำบุญ จะทำในที่ลับหรือในที่แจ้ง หรือใครไม่รู้ไม่เห็น ก็ตัวของเรา ใจของเรารู้เห็นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็กล่าวได้ว่าที่ลับไม่มีในโลกนี้ แม้ว่าจะลับตาลับหูคนอื่น แต่เราก็รู้ เราก็เห็นคนเดียว”
“ทุกๆคน จึงควรรีบขวนขวาย ซึ่งความงามความดี ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นเด็กก็อย่าได้เกียจคร้านในการเรียนหนังสือ จงตั้งจิตตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ให้มีความรู้ความเฉลียวฉลาดความสามารถ เป็นผู้ใหญ่แล้วก็จงตั้งตัวตั้งตนให้ดี ให้มีความขยัน มีความประหยัด ให้คบแต่คนดี ให้รู้จักประมาณในการใช้จ่าย ถ้าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่แล้ว ก็เตรียมตัวเพื่อคุณงามวามดีให้ยิ่งๆกว่าเด็กและคนหนุ่มทั้งหลาย”
“คนเราทุกคนมีความปรารถนาดี ปรารถนาหาความสุข ความปรารถนาหาที่ผึ่งในวัฏฏะสงสาร ท่านเปรียบเหมือนเราที่ตกอยู่ในกลางทะเลอันเวิ้งว้างกว้างไกลทุกคนก็มีความใฝ่ฝันหาที่ผึ่ง เพื่อที่จะได้อาศัยพักพิงไปยังฝั่งเบื้องหน้า”
คำไหว้บูชาพระธาตุของครูบาพรหมา พรหมจักโก
อะหัง วันทามิ พรหมจักกะธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส ฯ
ออกแบบได้งดงามผิวหิ้งเดิมๆหายากมากครับ
ราคา 6999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12067
รูปหล่อโบราณรุ่นแรกครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า
ปี 2497
เสน่ห์ของหล่อแบบโบราณคราบขี้เบ้าเดิม ๆ เข้มขลัง
ราคา 4999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12068
กุมารทองยืนกวักเรียกทรัพย์หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่
ครูบาเจ้าดวงดี วัดท่าจำปี ศิษย์เอกครูบาเจ้าศรีวิไชย ตนบุญแห่งล้านนาไทย
ท่านเป็นผู้สำเร็จวิชาการสร้างกุมารทอง ซึ่งเป็นต้นแบบกุมารทองล้านนา ไทยจัดสร้าง มานานกว่า 40 ปี
กุมารทองเทพเป็นกุมารที่เกิดจากการตั้งธาตุ หนุนธาตุ และบรรจุมวลสารที่เป็นของมงคลล้วนๆ ไม่มีผงผีเจือปน อาจารย์ผู้ทำต้องมีจิตที่แข็งแกร่ง ต้องประสิทธิ์ประสาทอาคมให้ตัวกุมารทองมีพลังมากที่สุด ในนิมิตกุมารทองต้องดิ้นได้ นั่งบนกองเงินกองทอง เป็นต้น สำหรับกุมารประเภทนี้ ไม่มีอันตรายใดๆเพราะเป็นวิญาณสมมติขึ้นมา
กุมารสายเทพเป็นฝ่ายขาว
ท่านครูบาดวงดี ท่านได้อัญเชิญจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของเทพจากสวรรค์ ชั้น จาตุมหาราชิกา ซึ่งเป็นภพภูมิใกล้มนุษย์ที่สุด
เข้าประทับสถิต ในหุ่นกุมาร ฉะนั้นจึงมีแต่ให้ "คุณ" ไม่มีโทษแต่ประการใดทั้งสิ้น
อาจารย์ที่ทำกุมารทองประเภทนี้ได้เก่งที่สุดคือ อาจารย์ฝ่ายพระเกจิที่มีพรรษามากๆ หรืออาจารย์ที่เป็นหมออาคมสายพุทธคุณครับ
อาจเซ่นด้วยขนม น้ำหวานตามวาระโอกาส
คาถาบูชา ลูกกุมารเทพฤทธิ์
นะโม ๓ จบ
จิเจรุนิ จิตตัง เจตตะ สิกกัง รูปัง กุมาโรวา นิมิตตัง กุมารทอง
อาคัจฉาหิ จิตติ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
คาถาเรียกกุมาร
นะโม ๓ จบ
#อีก1ในตำนานของกุมารทองของแผ่นดินล้านนา รุ่น
จัดสร้างเพียง 200 องค์ ตอกโค๊ต สุ ชัดเจน สวยเดิมๆครับ
ราคา 7500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
-
รายการที่ 12069
เหรียญรุ่นแรกครูบาติ๊บ อุปาลี วัดหัวฝาย ปี 2511 บล็อกนิยมประคำยู หายาก
ครูบาติ๊บ อุบาลี อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวฝาย สุโขทัย
อาจารย์ติ๊บ อุบาลี เป็นคำที่ชาวบ้านตลอดทั้งศิษยานุศิษย์เรียกกัน ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่ง ที่ได้พบเห็นมา ท่านเป็นพระที่มักน้อย สันโดษ ที่แท้จริง ท่านไม่มีความทะเยอทะยานในเรื่องลาภ ยศ สรรเสริญใดๆ ทั้งสิ้น เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างมาก เปรี่ยมด้วยเมตตาบารมี ศิษย์ในสายครูบาเจ้าครูบาศรีวิชัย ครูบาขาวปี
พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี นามเดิมติ๊บ นามสกุล มณีอุด นามฉายา อุบาลี เกิด พ.ศ.๒๔๔๐ ณ บ้านผาปัง ตำบลผาปัง อำเภอเถิน (ขณะนี้เป็นอำเภอแม่พริก) จังหวัดลำปาง บิดาชื่อปั๋น มารดาชื่อหน่อแก้ว มณีอุด มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๕ คน เป็นหญิง ๒ ชาย ๓ คือ
๑.นางจันทร์
๒.นางดิบ อุประวรรณา
๓.นายยา มณีอุด
๔. พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี
๕.นายใจมา มณีอุด
บิดา มารดาของพระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี ได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่ท่านอายุยังไม่ถึง ๑๐ ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับนางดิบ ผู้เป็นพี่สาว นับว่าท่านเป็น กำพร้าตั้งแต่เยาว์วัย ท่านเป็นคนว่านอนสอนง่ายไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใครเป็นเกรงใจคนอื่นและเป็น คนเสงี่ยมเจียมตนเสมอ พอ อายุ ย่าง ๑๔ ปี พี่ก็นำไปฝากให้เป็นศิษย์วัด เพื่อเรียนหนังสือแบบล้านนา ณ วัดบ้านผาปังหลวง ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้าน พระอาจารย์ติ๊บ อุบาลี ท่านเป็นคนมีเมตตามาตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยเมื่อท่านเป็นศิษย์วัด ได้มีศิษย์วัดด้วยกันชวนท่านไปจับนกตะขาบโดยใช้กับดัก ท่านก็ไปด้วยความ ไม่อยากจะขัดใจเพื่อน ท่านก็ไปเมื่อจับนกตะขาบได้เพื่อนๆ ก็ให้ท่านเป็นผู้ถือเพราะท่านไม่ค่อยจะร่วมทำกิจกรรมอื่นๆ เมื่อท่านถือนก ก็เกิดความสงสารจึงแอบปล่อยนกไปหมด แล้วบอกเพื่อนๆ ว่านกหลุดมือไป เพื่อนๆ ชวนท่านไปจับปลาท่านก็แอบปล่อย จนเพื่อนๆไม่ชวนท่าน ไปอีกเลย ต่อมาเมื่อท่านเรียนสวดมนต์ได้คล่องแล้วก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัด บ้านผาปังหลวงนั่นเอง โดยมีพระคำมูลเป็นเจ้าอาวาส พอวันแรกที่ท่านเป็น สามเณรท่านก็เริ่มฉันอาหารมื้อเดียว ไม่นานท่านก็ได้ไปเรียนหนังสือไทยภาคกลางและเรียนนักธรรมที่วัดท่านางอำเภอ เถิน ตามประเพณีท้องถิ่นของอำเภอเถินพอมีสามเณรมาเรียนนักธรรมจะมีพ่อแม่อุปถัมภ์ (เรียกว่าพ่อออกแม่ออก)จะนำอาหารมาส่งให้ทั้งตอน เช้าและตอนกลางวันสามเณรรูปอื่นเขามีโยมอุปถากกันหมด พระอาจารย์ติ๊บมีพ่อแม่อุปถัมภ์ช้ากว่าเขาเนื่องจาก บุคลิกที่ไม่ค่อยพูดประกอบกับหน้าตาไม่ หล่อเหลาเหมือนคนอื่นเขาในที่สุดท่านก็ได้พ่อหนานป้อง แม่มา (ไม่ทราบนามสกุล)เป็นผู้อุปถัมภ์ มีเรื่องเล่าว่าพ่อหนานป้อง แม่มา เกิดความ-สงสัยว่า อาหารมื้อกลางวันที่ส่งให้พระอาจารย์ติ๊บ ไม่พร่องเลยคล้ายกับไม่ฉันหลายวันติดต่อกัน พ่อหนานป้องจึงถามดู ด้ความว่าพระอาจารย์ติ๊บ ฉันอาหารมื้อเดียว และเลือกแต่อาหารผักเท่านั้น เกิดความปลื้มปิติยินดีแก่พ่อแม่อุปถัมภ์เป็นอย่างมากถึงกับเที่ยวอวดใครต่อ ใครว่าสามเณร เหลือเดนที่พ่อหนานป้องรับอุปถาก นั้นเป็นเพชรในตม ที่คนอื่นมองไม่เห็น พ่อหนานป้องแม่มาจึงภูมิใจและเพิ่มความเอาใจใส่มากยิ่งขึ้น เป็น พิเศษ พออยู่มา ๒ ปี ท่านก็เริ่มฉันอาหารเจ และออกปฏิบัติธรรมในที่ต่างๆ นับว่าท่านสร้างสมบารมีมามากท่านจึงทำได้ถึงเพียงนี้เพราะสมัยนั้นท่านไม่มี แบบอย่างที่ไหนมาก่อนเลย
พออายุครบ๒๑ปี ท่านก็อุปสมบท ณ วัดผาปังหลวง พอจำพรรษาอยู่ที่วัดผาปังหลวงได้ไม่นาน ท่านก็เดินทางไปเรียนมูลกัจจาย์สามัญญภิธาน-สนธิ กับครูบาหมีที่วัดเมืองหม้อ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ อยู่หลายพรรษาจนจบแล้วสามารถแปลบาลีได้ ครูบาติ๊บท่านมีความศรัทธาครูบาศรีวิไชยเพราะได้ยินกิตติศัพท์ของครูบาศรีวิ ไชย ท่านจึงจาริกติดตามครูบาเจ้าศรีวิชัยและอยู่ปรนนิบัติรับใช้ครูบาศรีวิไชย ตลอดมา และครูบาศรีวิไชยคงจะทราบด้วยญาณว่าครูบาติ๊บเป็นพระระดับไหน จึงทำให้ครูบาถึงกับเอ่ยว่า ครูบาติ๊บจะเสมอท่านแต่ติดตรงที่ ครูบาศรีวิไชยชี้ไปที่ลำตัวครูบาติ๊บที่สักยันต์เต็มตัวไปหมด หลายปี ท่านก็แยกตัวออกมาจาริกไปจำพรรษาอยู่วัดพระนอนม่อนช้าง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ได้ ๕ พรรษา แล้วจึงกลับมาวัดผาปังบ้านเดิม
ปีพ.ศ.๒๔๗๔ ชาวบ้านผาปังประมาณ ๒๐ ครอบครัว ได้พากันอพยพมาอยู่บ้านหัวฝาย ตำบลนาทุ่ง อำเภอสวรรคโลก(สมัยนั้นยังไม่แยกเป็นอำเภอทุ่งเสลี่ยม) จังหวัดสุโขทัย ตามบรรดาชาวบ้านที่อพยบมาก่อนหน้านี้ ๕-๖ ปี ในจำนวนผู้อพยบมีนางดิบพี่สาวของท่านด้วย ท่านก็ได้อพยบมาพร้อม กับพี่สาว มาอยู่บ้านหัวฝายในปัจจุบัน สมัยนั้นบ้านหัวฝายยังเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด ชาวบ้านก็ช่วยกันถางป่าบนเนินเขาเล็กๆใกล้ๆหมู่บ้านเป็นที่ จำวัตรและเป็นที่ปฏิบัติของท่าน จนมาเป็นวัดหัวฝายในปัจจุบัน ท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดหัวฝายเป็นรูปแรก สมัยนั้นในระแวกนี้ไม่มีอุปัชฌาย์กุลบุตร ที่มีความประสงค์จะบรรพชาอุปสมบทต้องไปที่อำเภอสวรรคโลก ระยะทางไกลประกอบอันตรายต่างๆนาๆ เจ้าคุณสังวรสังฆปรินายก ซึ่งเป็นเจ้าคณะ จังหวัดสุโขทัยสมัยแต่งตั้งท่านเป็นอุปัชฌาย์ พอท่านทราบข่าว(ตอนนั้นท่านมีพรรษา ๑๒ พรรษา) ท่านกลัวจะเป็นการผูกมัดด้วยยศตำแหน่งท่านจึงลาสิกขา ๗ วัน โดยนุ่งขาวห่มขาวถือศีลแปดอยู่ในวัด และก็อุปสมบทใหม่ เพื่อให้ พรรษาต่ำลงจนไม่สามารถเป็นอุปัชฌาย์ได้ ท่านเป็นพระที่ไม่ชอบอยู่กับที่ท่านมักจะหาทีสงบอยู่เสมอเช่นในถ้ำเช่นถ้ำ แม่กะสา ถ้ำเชิงผา
และหลายๆที่ ท่านเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านเป็นจำนวนมากสมัยนั้นมีญาติโยมหลายที่ นิมนต์ท่านไปเป็นประธานสร้างวัดทั้งใกล้ทั้งไกลพอที่
จะเรียบเรียงได้มีดังนี้
๑. กุฏิ วิหารวัดสันหล่อ อำเภอแม่ละมาด
๒. เจดีย์ วัดผาปัง อำเภอแม่พริก
๓.เจดีย์ ถ้ำแม่กะสา อำเภอแม่สอด
๔.หอประชุม อุบาลีอุปถัมภ์ โรงเรียนบ้าหัวฝาย
แล้วก็มีวัดที่ญาติโยมนิมนต์ท่านเป็นประธานก่อตั้งวัดมีดังนี้
๑.วัดสังฆทน(แม่ทุเลา) อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๒.วัดคลองสำราญ อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๓.วัดท่วิเศษ อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๔.วัดเชิงผา อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๕.วัดต้นธงชัย (วัดที่ครูบาขาวปีมรณะภาพ) อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๖.วัดชัยอุดม อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๗.วัดเขาแก้วชัยมงคล อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๘.วัดม่อนศรีสมบุรณาราม อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๙.วัดฝั่งหมิ่น อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๑๐.วัดวังธาร อำเภอทุ่งเสลี่ยม
๑๑.วัดห้วยขี้นก อำเภอแม่พริก
๑๒.วัดป่าคา อำเภอศรีสัชชนาลัย
สร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังท่านครูบาติ๊บ ท่านได้สร้างเครื่องรางของขลังทุกอย่างไว้แจกจ่ายชาวบ้านเพื่อป้องกัน อันตราย ครั้ง เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2485 ครูบาอายุราวๆ 45 ปี นับได้ว่าเก่งคาถาอาคมมาตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น ตะกรุดชนิดต่างๆ ผ้ายันต์แบบต่างๆ เสื้อยันต์แบบต่างๆ รูปถ่ายขาวดำ เหรียญรุ่น 1 และ รุ่น2 ในปี 2511- 2513 พอมาปี 2514 ก็ไปออกที่วัดผาปังกลางอีก 1 รุ่น คราวบูรณะวัดผาปังกลาง วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมาย ดีเด่นทางแคล้วคลาดมหาอุด จนหนังสือข่าวสดนำไปลงว่าเหรียญครูบาติ๊บอุดลูกปืนครูบาติ๊บที่สุโขทัยย่องให้ท่านเป็น 1 ใน 15 บูรพาจารย์ของจังหวัดสุโขทัย ครับ
เหรียญรุ่นแรกของท่านจัดสร้างขึ้นในปี 2511 ด้านหน้าเป็นรูปขององค์ท่านครูบาด้านหลังเป็นยันต์นะฉัพพัณรังสีหน้าทอง
กะระณียะเมตตา นารี สุขุมารา ชาโน โจรัง ไมยถีจิตตัง อนุกัมปัง อุปปาธายะ (คาถาหลังเหรียญครูบาติ๊ป)
เป็นยันต์ที่ท่านย่อลงมา เพื่อให้พอกับพื้นที่หลังเหรียญ ซึ่งคาถาบทนี้ บทเต็มท่านเรียกว่า คาถา นะฉัพพัณรังสี เมตตาดี
คัดย่อมาจาก
นะสุวัณโณนะมัสสิต์วา โมกาโรมะณีโชตะกัง พุทกาโรสังขะเมวะจะ ทากาโรสุริยังเอวะ ยะกาโรมุกขะเมวะจะ สะทะมะมัง มังมะทะสะกะระณียะเมตตังสัตตา เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จิตตัง ๆ เชยยะนารี จักกะวัตติราชา มะโนโจรัง ไมตรี จิตตัง ฯ
นะฉัพพัณรังสีหน้าทองนี้ ใช้ลงผงหรือจะลงใส่ฝ่ามือก็ได้แล้วให้เอาผงทาหน้าไปเป็นเมตตามหานิยมประเสริฐยิ่งนัก แก้วหาค่ามิได้เลยนะอันเป็นฉบับวัดประดู่โรงธรรมอยุธยา สืบมาแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ต้นฉบับมาจากท่านยวัดมะขามเฒ่าฉบับหนึ่ง จากต้นฉบับของสมเด็จกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (พระบัณฑูร) อีกฉบับหนึ่ง สอบทานตรงกันแล ฯ
เหรียญรุ่นแรกจัดสร้างน้อนยมากเป็นเหรียญยอดนิยม หายากของสุโขทัย
ราคา 3550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900
หน้า 851 ของ 898