ถ้าพูดถึงอาจารย์ ไพศาล แสนไชย แล้วชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก อาจารย์ไพศาล ก็เคยพูดถึงหลวงปู่ไว้เหมือนกัน
จำได้ว่าวันนั้นได้นั่งอยู่กับหลวงปู่ ได้มีพระภิกษุเข้ากราบหลวงปู่และบอกว่า
ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดแถวฝั่งธน
ได้ไปสัมนาทางภาคเหนือโดยมี อาจารย์ ไพศาล เป็นวิทยากร
บอกว่าระหว่างที่ผ่านแดนนรก ได้เห็นไฟนรกดับลงมองลงไปเห็นหลวงปู่อยู่วัดกลางคลองสี่ เดินอยู่ในนรกไฟรอบตัวหลวงปู่ดับหมด พระองค์นั้นก็เลยมาเล่าให้หลวงปู่ฟัง หลวงปู่บอกว่าประตูมิติคงจะตรงกันเขาจึงมองเห็น คิดดูก็คงเหมือนเรื่องพระมาลัยไปโปรดสัตว์นรก
มีแม่ได้พาลูกชายมากราบหลวงปู่ แต่เมื่อมองดูแล้วลูกชายเหมือนคนสติยังไม่เต็ม แม่เด็กเลยเล่าให้ฟังว่า ลูกชายได้ประสบอุบัติเหตุ ไม่ฟื้นเลยมาให้หลวงปู่ช่วย หลวงปู่บอกวิญญาณกลับเข้าร่างไม่ถูกหลวงปู่เลยไปพาวิญญาณกลับเข้าร่าง ตอนนี้ลูกหายดีแล้วเลยพามากราบหลวงปู่
ข้อมูลคุณ Lek Augkaravut
ประวัติโดยย่อ
พระมงคลศีลาจาร
(หลวงปู่ทองอินทร์
เตชวุฑโฒ)
อดีตเจ้าอาวาส วัดกลางคลองสี่ เจ้าคณะตำบลลำลูกกา เขต2 ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลลำลูกาเขต2 และที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลลาดสวาย
สถานะเดิม: ชื่อทองอินทร์ ลิ้นทองแก้ว
เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๑ ตรงกับแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ ปีมะเมีย เป็นบุตรคุณพ่อลับแล-คุณแม่เพิ่ม ลิ้นทองแก้ว ณ ตำบลสายไหม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันคือแขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรคนเดียวของครอบครัว
บรรพชา:วันเสาร์ที่ ๑๘ มีนาคม ๒๔๗๕
ตรงกับ วันขึ้น ๑๒ ค่ำเดือน ๔ ปีมะเมีย ณ วัดสายไหม ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมี
เจ้าอธิการด๊วต ญาณวโร
(พระครูวิเศษธัญญโศภิต)
เจ้าอาวาสวัดกลางคลองสี่ ตำบลลาดสวาย
อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พระอุปัชฌาย์
ศึกษาธรรมวินัยอยู่ ๒ ปี จึงย้ายมาศึกษาต่อที่วัดกลางคลองสี่
อุปสมบท: วันอาทิตย์ที่
๑๘ มิถุนายน ๒๔๘๑
ตรงกับวันแรม ๖ ค่ำ
เดือน ๗ ปีขาล ณ พัทธสีมา วัดสายไหม ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ได้รับฉายาว่า
"เตชวุฑโฒ"
พระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการด๊วต ญาณวโร
(พระครูวิเศษธัญญโศภิต)เจ้าอาวาสวัดกลางคลองสี่ ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
พระกรรมวาจาจารย์
เจ้าอธิการญัติ อุตตโม
วัดสายไหม ตำบลคูคต
อำเภอลำลูกา จังหวัดปทุมธานี
พระอนุสาวนาจารย์
พระอธิการหมง วัดลาดสนุ่น ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
สมณศักดิ์
พ.ศ ๒๕๑๖
พระครูชั้นประทวนที่
พระครูทองอินทร์ เตชวุฑโฒ
พ.ศ.๒๕๒๑
พระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี
ในราชทินนาม
พระครูธัญศีลคุณ
พ.ศ.๒๕๒๖
พระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท
ในราชทินนามเดิม
พระครูธัญศีลคุณ
พ.ศ.๒๕๓๑ พระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พระครูธัญศีลคุณ
พ.ศ.๒๕๓๗
พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท
ในราชทินนามเดิม
พระครูธัญศีลคุณ
พ.ศ.๒๕๔๖
พระครูสัญญาบัตร
เจ้าคณะตำบลชั้นเอก
ในราชทินนามเดิม
พระครูธัญศีลคุณ
พ.ศ.๒๕๕๒
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญยกในราชทินนาม
"พระมงคลศีลาจาร"
พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระมงคลศีลลาจาร
(ทองอินทร์ เตชวุฑโฒ)
ถึงแก่การมรณภาพลงด้วยอาการสงบ
เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ น. ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
แพทย์วินิฉัยว่า มรณด้วยหลอดเลือดหัวใจตีบ สิริอายุ ๙๗ ปี ๕ เดือน ๘ วัน อุปสมบทได้ ๗๗ พรรษา
ข้อมูลจาก:หนังสือธรรมวิภาค เล่ม ๑
อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ
พระมงคลศีลาจาร
หลวงปู่ทองอินทร์
เตชวุฑโฒ
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
เหรียญพระจักรพรรดิหลังหลวงปู่ทองอินทร์วัดกลางคลองสี่
ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
ลป.สุภา๑๑๑ปี พระสมเด็จ๙อรหันต์ สายกรรมฐาน เหรียญรุ่น๒ลพ.ตั๋ง วัดโพธิ์เอน
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.
หน้า 103 ของ 103
-
-
เชื่อกันว่าหลวงพ่อแช่มสำเร็จเตโชกสิณตั้งแต่พรรษายังน้อย บางคนเชื่อว่าท่านสำเร็จฌานอภิญญามีพลังจิตเข้มขลัง ปรากฏการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก็คือ สามารถอธิษฐานจิตปลุกเสกจนน้ำมนต์เทไม่ออก วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก มีพุทธคุณครบเครื่องทุกๆด้าน แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือ เมตตามหานิยม ปัจจุบันวัตถุมงคลชุดสำคัญๆของท่านเริ่มเป็นที่นิยมและสะสมกันมากขึ้น นอกจากพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆแล้ว น้ำพระพุทธมนต์ แป้งเจิม มงคลสวมคอ การผูกหุ่นพยนต์ และสาริกาลิ้นทอง เป็นวิชาเฉพาะตัวที่หลวงพ่อทำได้ขลังยิ่งนัก
มาดูประสบการณ์น่ากลัวอีกอันหนึ่งของคุณสุณี จินสมาน อาชีพรับเหมาถมดิน บ้านอยู่ละแวกบางแคนี่เอง
คุณสุณีได้เล่าเรื่องนี้ให้กรรมการวัดฟังขณะรอหลวงพ่อออกจากจำวัดในบ่ายวันหนึ่ง
คุณสุณีเล่าว่าได้ไปรับเหมาถมดินที่ดำเนินสะดวก
ขากลับได้ขับรถผ่านโค้งดำเนิน ถูกดักยิงด้วยปืนอาก้า รถพรุนทั้งคัน
คนขับรถถูกกระสุนที่หัวเข่านัดหนึ่ง
รถปิคอัพที่ถูกยิงมีอาการสำลักจะดับมิดับแหล่ แต่ก็แล่นเลยมาได้อีก 200 เมตร จึงจอดสนิท
คุณสุณีทิ้งรถและประคองคนขับหลบหนีลงข้างทาง
คนร้าย 2 คนถือปืนอาก้าวิ่งตามมา แปลกที่คนร้ายทั้ง 2 หาตัวคุณสุณีและคนขับรถไม่พบ ทั้งๆที่เดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆตัวขนาดมือเอื้อมถึง
ได้ยินเสียงบ่นของคนร้ายว่า
“มันหายไปได้ไงวะ”
พวกนั้นค้นหาอยู่ราว 15 นาทีก็เลิกและหนีไป
คุณสุณีแขวนเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อแช่มเพียงเหรียญเดียว
อีกรายหนึ่งคือ คุณจิ๋งไล้ แซ่ตั้ง อยู่บ้านเลขที่ 31 หลังสถานีรถไฟนครปฐม
คุณจิ๋งไล้ได้พบคนจีนด้วยกันคนหนึ่ง อ้างว่าแซ่ตั้งเหมือนกัน และคนจีนคนนั้นได้ขอให้คุณจิ๋งไล้ช่วยหางานให้ทำ
คุณจิ๋งไล้ได้ตกลงจะให้ทำงานขายอะไหล่เรือน้ำเค็ม และได้พาชาวจีนคนนั้นมาที่โกดังเก็บของ
พอได้ทีเผลอ คนแซ่ตั้งคนใหม่ก็ออกลาย คว้าขวดตีหัวคุณจิ๋งไล้ข้างหลัง ขวดแตกละเอียด
พอคุณจิ๋งไล้หันกลับมา คนจีนคนนั้นก็คว้าจอบที่วางอยู่ใกล้ขึ้นมาสับใส่ร่างกายคุณจิ๋งไล้จนล้มลง และสับซ้ำซากจนแน่ใจว่าตายสนิท
ต่อจากนั้นได้ปลดทรัพย์คุณจิ๋งไล้ไปจนหมด รวมแล้วมีทรัพย์สินที่ถูกปล้นไปดังนี้ สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท นาฬิกาเรือนทองคำหนัก 3 บาท
คุณจิ๋งไล้ฟื้นขึ้นมาภายหลัง ยังสามารถประคองตัวเองกลับบ้านได้
ภรรยาคุณจิ๋งไล้นำความเข้าแจ้งตำรวจให้ติดตามจับตัวคนร้ายรายนั้น และนำตัวส่งโรงพยาบาลธนบุรี
แพทย์ตรวจอาการแล้วบอกว่าไม่เป็นไร นอกจากฟกช้ำดำเขียวเท่านั้น
และแพทย์แสดงความแปลกใจว่า ถูกจอบสับจนทั่วตัวอย่างนี้ทำมีแผลแค่เลือดซิบ ๆ
แพทย์ท่านนั้นคงสนใจเรื่องวัตถุมงคลเหมือนกัน เพราะว่าได้ถามคุณจิ๋งไล้ว่ามีอะไรดีหรือ
พอทราบว่าคุณจิ๋งไล้แขวนเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแช่มก็ร้องว่าหลวงพ่อแน่จริง ๆ
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
ชุดลพ.แช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
๑ ผ้ายันต์ จีวรปั๊มหมึก
๒ เหรียญหยดน้ำนิตยสารศักสิทธิ์ ปี๒๕๓๕
๓.ตะกรุด
ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
ผง ๑๒ นักกษัตรซึ่งอานุภาพไม่น้อยไปกว่า ผงสมเด็จวัดระฆัง ของสมเด็จพุฒจารย์โต หลวงพ่อเริ่มท่านก็ได้ไปหาและขอร่ำเรียนวิชาสร้าง ผง ๑๒ นักษัตรนี้มาด้วย
วิชาทำผง ๑๒ นักษัตริย์เป็นยอดของวิชาแก้ดวงเสริมดวง
หลวงพ่อเริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอ จ.ชลบุรี ท่านมีความสนใจในพุทธาคม ตั้งแต่ก่อนอุปสมบท มีพระอาจารย์เก่ง ๆ มีชื่อเสียงอยู่ที่ใด ท่านก็จะดั้นต้นเดินทางไปกราบขอศึกษาเล่าเรียนด้วย
ท่านเคยเล่าให้ศิษย์ฟังว่า ท่านอาจารย์รูปแรกของท่านก็คือ หลวงพ่ออ่ำ เรือเก่า อดีตเจ้าอาวาส วัดหนองกะบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่สร้าง "แพะ" อันมีพุทธคุณสูงทางด้านเมตตามหานิยมเป็นที่โด่งดังไปทั่ว
หลวงพ่อเริ่มท่านได้ศึกษาพุทธาคมจากหลวงพ่ออ่ำหลายอย่าง โดยเฉพาะ วิชาฝนแสนห่าและสีผึ้งเจ็ดจันทร์ ซึ่งเป็นวิชาทางด้านเมตตามหานิยมชั้นสูง
นอกจากหลวงพ่ออ่ำแล้ว หลวงพ่อเริ่มยังได้ศึกษาวิชากับพระอาจารย์อีกหลายรูป เช่น วิชาทำปลักขิกและหนังหน้าผากเสือ กับ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ,หลวงพ่อสาย วัดหนองเกตุน้อย และเรียนวิชาทำผง 12 นักษัตร จาก หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ปทุมธานี
หลวงพ่อเริ่ม ท่านจึงเป็นพระที่มีพุทธาคมสูง และมีวิชามาก เป็นที่เคารพศรัทธาจากบรรดาศิษยานุศิษย์ เป็นอันมาก
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
วันนี้ จัดส่ง
ขอบคุณครับ -
ประวัติย่อ หลวงปู่บุญเลิศ วัดหัวเขา
"หลวงปู่บุญ" หรือ "พระครูอธิการบุญเลิศ ฐานจาโร" เจ้าอาวาสวัดหัวเขา ต.โพนทอง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
ท่านเกิดปี พ.ศ.๒๔๕๙ ที่บ้านโพนทอง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
เป็นบุตรคนโต ในจำนวนบุตร ๕ คนของนายพรหม-นางบาง พวงดอกแก้ว ครอบครัวมีอาชีพทำนา
เมื่อยังเป็น "ฆราวาส" เคยเป็นแรงงานรับจ้างทหารญี่ปุ่นไปก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว จ.กาญจนบุรี
และเกิดล้มป่วยเป็น "ไข้ป่า" จึงได้บนต่อ "ส่งศักดิ์สิทธิ์" ว่า ถ้าหายไข้จะขอ "บวชแก้บน" เป็นเวลา ๗ วัน
จากนั้น ก็หายป่วยดั่งปาฏิหาริย์ จึงได้ "บวช" ตามที่ได้บนเอาไว้
ช่วงที่บวชนั้น มีอายุได้ ๓๕ ปี ตรงกับ พ.ศ.๒๔๙๓ โดยอุปสมบท ณ วัดบ้านหมี่ใหญ่ มีพระครูพหรมจริยานุวัตร (หลวงพ่อพวง) วัดกล้วย เจ้าคณะตำบลโพนทอง เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบวชแล้วจึงได้ศึกษา "พระธรรม" จนสำเร็จเป็น "นักธรรมโท" พร้อมกันนี้ยังได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์ และศึกษาจากครูบาอาจารย์ดังๆอีกหลายท่าน
และศึกษาด้วยตนเองจากตำราต่างๆ มากมาย
อีกทั้งเคยเดินทางไปกราบนมัสการ “หลวงปู่แหวน สุจิณโณ” ที่วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
แต่กว่าจะได้เจอต้องเดินทางไปถึง ๓ ครั้ง
เมื่อเจอแล้ว “หลวงปู่แหวน” ได้ให้แง่คิดหลักธรรมที่หลวงปู่บุญจดจำได้จนบัดนี้ว่า “ทุกอย่างอยู่ที่ใจ”
พ.ศ.๒๕๑๔ หลวงปู่บุญ ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดหัวเขา และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสในปีเดียวกันนั้น
จวบจนกระทั่งปัจจุบัน และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูสุนทรศีลวิมล” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๘
นับเป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งใน จ.ลพบุรี ที่มี “วัตรปฏิบัติ” อัน “เลื่อมใส” และ “ศรัทธา”
หลวงปู่บุญ เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งในจังหวัดลพบุรีที่มี วัตรปฏิบัติ อันน่าเลื่อมใสและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง
ท่านเป็นสุปฏิปันโนที่พูดน้อย แต่จิตทรงไว้ด้วยอำนาจของสมาธิตลอดเวลา
และท่านเกสาของหลวงปู่แปรเป็นพระธาตุตั้งแต่ท่านยังทรงสังขารอยู่
พระครูสุนทรศิลวิมลหลวงปู่บุญเลิศ ฐานจาโร มรณภาพลงด้วยโรคชรา สิิริอายุ 96 ปี 58 พรรษา ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระสมเด็จหลวงพ่อบุญวัดหัวเขารุ่น ๑ และ เหรียญ
ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
เหรียญรุ่นแรกเสกจนเหรียญแตก
หนึ่งในเกจิ ๑๖ รูปในพิธีจตุรพิธพรชัยที่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง
หลวงปู่ดู่_วัดสะแก ยกย่องท่านว่าเป็นพระอรหันต์ ในวันที่หลวงพ่อไวทย์ ท่านมรณะภาพไปแล้ว หลวงปู่ดู่ท่านยังกล่าวให้ศิษย์ไปเอาน้ำที่รดน้ำศพสังขารองค์ท่าน มาอาบกิน เพื่อความเป็นสิริมงคล
หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย บอกหลวงพ่อไวย์เสกของได้ขลังที่สุด
หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน บอกในอยุธยา หลวงพ่อไวย์ท่านเก่งสุดๆในแทบนั้น
หลวงพ่อไวย์ ท่านเป็นศิษย์สุดยอดเกจิอาจารย์3ทหารเสือแห่งเมืองอยุธยา
- หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
- หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
- หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน
หลวงพ่อไวทย์ อินทวังโส ท่านเป็นสหายกับ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย, หลวงพ่อวาสน์ วัดบ้านแพน หลวงพ่อปี วัดกระโดงทอง และหลวงพ่อกุหลาบ วัดรางจระเข้
หลวงพ่อไวย์ ท่านยังเป็นอาจารย์ของพระเกจิอาจารย์หลายยุคจนถึงยุคปัจจุบัน อาทิ หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก,หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว,หลวงพ่ออาด วัดบุญสัมพันธ์,หลวงปู่ธูป วัดลาดน้ำขาว และอีกหลายท่าน เป็นต้น
หลวงพ่อไวทย์ อินทวังโส "สมภาร 3 วัด "
-วัดบางซ้ายใน,
- วัดสุทธาโภชน์ ,
- วัดบรมวงศ์อิศรวราราม จ.อยุธยา
หลวงพ่อไวทย์ ท่านเป็นพระที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา ไม่เคยดุ ไม่เคยด่า ใจดี เป็นพระที่สมถะเป็นอย่างมาก ขนาดท่านเป็นถึงเจ้าคณะจังหวัด แต่กุฏิของท่านก็ยังคงเป็นเพียงกุฎิเล็ก ๆ เล็กขนาดที่ว่า คนที่สูง ๆ ยืนนี่หัวชนเพดาน หลวงพ่อไวทย์ เป็นพระเกจิมากครู มากอาจาย์
วิชาดูดวง วิชาผูกดวงชะตา เป็นหนึ่งในวิชาที่ท่านชำนาญ สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ ฯลฯ ท่านได้ สอนวิชาเหล่านี้ให้กับ หลวงพ่อไวทย์
นอกจากวัตถุมงคลของท่านแล้ว ของดีอีกอย่างก็คือ "ยาไวทย์ประสิทธิ์" แต่ชาวบ้านจะเรียกว่า "ยาลมหลวงพ่อไวทย์"คล้ายยา วาสนาจินดามณี ของสายวัดกลางบางแก้ว นครปฐม ยาไวทย์ประสิทธิ์ จึงเปรียบเสมือนดั่ง ยาจินดามณี ฉบับจังหวัดอยุธยา (วัตถุมงคลเนื้อผงของท่าน ก็มียานี้ผสมอยู่)
หลวงพ่อไวทย์ได้ตำรายาดีมาจาก หลวงพ่อชื่น วัดสระเกศ เป็นพระอาจารย์เรืองวิทยาคมสูงล้ำ และมีความเชี่ยวชาญทางด้านแพทย์แผนโบราณอย่างลึกซึ้ง พำนักอยู่คณะ 11 เช่นกัน ท่านไม่ค่อยชอบแสดงตัว จึงไม่มีใครค่อยรู้จักชื่อเสียงของท่านแต่อย่างใด หลวงพ่อชื่น มีความเมตตาต่อหลวงพ่อไวทย์มากถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ ให้โดยไม่ปิดบัง
ตำรายาจินดามณี ยาวาสนา น่าจะมาจากแหล่งวิชาเดียวกัน หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา กระทุ่มแบน สมุทรสาคร เรียนวิชาจากพระอาจารย์ของท่าน ที่เป็นน้องชายหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เลยได้วิชายาวาสนา
หลวงพ่อไวทย์ อินทวังโส ท่านเป็นสหายกับ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย, หลวงพ่อวาสน์ วัดบ้านแพน หลวงพ่อปี วัดกระโดงทอง และหลวงพ่อกุหลาบ วัดรางจระเข้
หลวงพ่อไวทย์ ท่านอยู่มาหลายวัด ท่านนอกจากเป็นพระเกจิ ก็ยังเป็นพระนักพัฒนา ไปอยู่วัดไหนก็จะไปสร้างพระพุทธรูป ไปพัฒนาวัดนั้น จนเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านแถบละแวกวัดนั้นๆ ที่ไปอยู่ อาทิ อยู่วัดสุธาโภชน์ (เสนา) ก็ไปสร้างวัด สร้างโรงเรียน ครั้งหนึ่งก็ไปอยู่ วัดบางซ้ายใน สร้างวัดจนเจริญ ชาวบ้านในแถบนั้นรักและนับถือท่านมาก
สุดท้ายบั้นปลายของท่านก็ได้มาอยู่ วัดบรมวงศ์ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะ จังหวัดอยุธยา แต่ท่านก็ยังใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆ ไม่ถือตัว ใจดียิ้มแย้มกับทุกคน
ครั้งหนึ่งเคยมีคนถาม หลวงพ่อไวยท์ ว่า พระหรือวัตถุมงคลใดดีทีสุด หลวงปู่ท่านนิ่ง แต่แม่ชีอุปฐาก(ใครทันกราบท่าน น่าจะรู้จักแม่ชี รูปนี้ดี) บอกว่าให้หา เหรียญรุ่นแรกที่แตกๆ ไว้ เพราะหลวงปู่ท่าน เสก แรงไปหน่อย โบสถ์ลั่น กล่องใส่แตก และเหรียญบางเหรียญ ร้าวเลย ให้หาเหรียญนั้นไว้นะ
หลวงปู่ ท่านก็ยิ้มๆ แล้วพูดเชิงเย้าแหย่ จริงไม่จริงไม่รู้ บอกว่า อืม เสกแรงไปหน่อย เป็นรุ่นแรก กลัวไม่ขลัง แล้วท่านก็ยิ้ม ๆ ตามประสาของท่าน (ใครไปกราบท่าน ไม่เคยมีใครเห็นท่านทำหน้าบึ้งใส่เลย ท่านจะยิ้ม ตลอดเวลา)
เคยมีผู้ถาม หลวงพ่อไวทย์ว่า พระอยุธยาสมัยก่อนใครเก่ง ท่านบอกเก่งหลายองค์หลวงพ่อปาน หลวงปู่กลั่น หลวงพ่อขัน ฯลฯ แต่ที่เรียนสมาธิ กรรมฐาน อยู่กับท่านนานสุด ก็หลวงพ่อจง หลวงพ่อจง ท่านเสกตะกรุดเล็กๆ ลอยน้ำ วิ่งวนรอบขัน ท่านยังให้ไว้ดอกหนึ่งเลย หลวงปุ่ไวทย์ท่านเหน็บตะกรุดหลวงพ่อจง ไว้จนมรณภาพ
ในตอนที่หลวงพ่อไวทย์ ไปขอเรียนวิชาจากหลวงพ่อจง ท่านเคยถูก หลวงพ่อจง ตำหนิ ตอนไปขอเรียนวิชาจากท่าน ท่านว่าคุณอยู่กับพระทองคำมาตั้งนาน แต่ไม่ขอเรียนอะไรมาจากท่านเลย หลวงพ่อห่วง น่ะ!!! ท่านเป็นพระอรหันต์ (หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท เป็นศิษย์พี่ ของหลวงพ่อจง เรียนวิชามาจากอาจารย์เดียวกัน คือ หลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสคันธ์ พระอภิญญาบารมี แห่งทุ่งบางบาล สหายของหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ)
หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ยังกล่าวชื่นชม ยกย่อง หลวงพ่อไวทย์ ว่าเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบ ท่านเป็นพระอรหันต์ ในวันที่หลวงพ่อไวทย์ ท่านมรณะภาพไปแล้ว หลวงปู่ดู่ท่านยังกล่าวให้ไปเอาน้ำที่ราดศพสังขารองค์ท่าน มาอาบกิน เพื่อความเป็นสิริมงคล
ขอขอบคุณท่านเจ้าของข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
ประสบการณ์พระเครื่องหลวงพ่อไวทย์
ขอขอบคุณเจ้าของเรื่องด้วยครับ
"โจรปล้นบ้าน"
คุณลุงโอด สุผล อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.6 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา เล่าว่า "เมื่อก่อนมีฐานะยากจนมาก อาศัยชอบที่มีใจชอบทำบุญที่วัดบรมวงศ์ฯเป็นประจำ ฐานะก็ดีขึ้นตามลำดับจนสามารถส่งเสียลูกๆเรียนถึง นายแพทย์ พยาบาล และเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรหลายคน" "พอหลวงพ่อไวทย์ มาเป็นเจ้าอาวาส ก็เลื่อมใสในปฏิปทาของท่าน จึงฝากตัวเป็นศิษย์มาจนบัดนี้" ผู้เขียนถามถึงของดี คุณลุงโอดตอบโดยไม่ต้องคิดว่า "ของหลวงพ่อไวทย์ใช้ได้ดีทุกด้าน โดยเฉพาะทางเมตตาดีจริงๆ นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ทางด้านคงกระพันแคล้วคลาดสูงอีกด้วย" และกรุณาเล่าประสบการณ์ที่พบกับตนเองต่อไปว่า " หลังจากที่ได้รับแจกเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อไวทย์ไปแล้ว ตกดึกของคืนวันนั้นมีโจรปล้นบ้าน โดยยิงปืนขู่ก่อน 2 นัด จึงตกใจกระโดดขึ้นคว้าปืนสู้ พวกโจรเลยกราดยิงเอ็ม 16 ยิงพรุนหมดทั้งฝาบ้าน เดชะบุญที่ลูกปืนไม่ถูกผู้ใดในบ้านเลยแม้แต่น้อย! นับเป็นบารมีของหลวงพ่อไวทย์ที่ช่วยให้ทุกๆคนแคล้วคลาดโดยแท้...!"
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก ส.สมบูรณ์ หนังสือพระเครื่องลานโพธิ์ และครอบครัว"สุผล")
...........
........ "#รถทับเด็กไม่ตาย" .........
..... คุณส่งเสริม สุภาเพียร อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.4 ตลาดสวนมะเดื่อ ต.ห้วยขุนราม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ซึ่งพาครอบครัวมากราบนมัสการหลวงพ่อไวทย์เล่าว่า เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2525 วันหนึ่งที่ตนขับรถปิคอัพออกไปส่งผลไม้ตามปกติ หลานชายชื่อ ด.ช.อภิเชษฐ์ (อายุ 4 ปี) วิ่งตามมาล้มลงเข้าไปใต้ท้องรถ ตนเองออกรถแล้วรู้สึกว่า รถวิ่งข้ามอะไรสักอย่างหนึ่ง พอดีได้ยินเสียงภรรยาร้องเสียงหลงอยู่ท้ายรถจึงรู้ว่า ทับหลานชายเข้าให้แล้วรีบดับเครื่องลงจากรถแล้วพาเด็กไปส่งโรงพยาบาลเพราะเห็นว่า "รอยยางล้อทับท้องเด็ก อย่างเห็นได้ชัด" นายแพทย์ที่โรงพยาบาลตรวจดูอาการแล้วยังไม่เชื่อว่าเด็กถูกรถทับ เพราะเด็กไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้นเลยแม้เเต่น้อย ภรรยาคุณส่งเสริมกล่าวยืนยันว่า "ตนเองวิ่งตามหลานออกมาเห็นล้มลงใต้ท้องรถแล้วล้อก็ทับข้ามไป" "ยังคงคิดว่าหลานชายคงตายแน่แล้ว" "แต่เด็กก็ไม่ได้ร้องสักแอะเดียว พอรถข้ามไปแล้วก็ลุกขึ้นเฉย" เมื่อคุณส่งเสริมเห็นรอยล้อบนหน้าท้อง จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล ดังนั้น จะเป็นอื่นไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เกิดจากอนินิหาร "เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อไวทย์" ที่คุณส่งเสริมให้หลานชายไว้ห้อยคออยู่เพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ที่ช่วยให้ ด.ช.อภิเชษฐ์รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ ขณะนั้นหลวงพ่อไวทย์ได้เล่าขึ้นว่า "มันก็ขำๆ อยู่เหมือนกัน เจ้าเสริมเขาพาหลานมาให้ฉันรับขวัญ ฉันยังกระเซ้าเด็กมันว่าทำไมรถทับไม่เป็นอะไร เด็กมันตอบว่า ...รถมันเบา..." ว่าแล้วท่านก็หัวเราะชอบใจอย่างผู้มีอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา ....
(ข้อขอบคุณข้อมูลจาก ส.สมบูรณ์ หนังสือพระเครื่องลานโพธิ์ และครอบครัว"สุภาเพียร")
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
เหรียญหลวงพ่อไวย์ รุ่นแรก
ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
พระของหลวงปู่จะมีครบทุกด้านเเต่ที่เด่นนำออกมาคือลา ภเเละเมตตาร่มเย็น ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินไปกราบหลวงปู่หลายวาระพระองค์ท่านทรงมีพระบรมราชานุญาติให้ใช้ พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. บนวัตถุมงคลของหลวงปู่คลี่อีกด้วย
*ครั้งหนึ่งพระอาจารย์บ๊ะเคยพูดว่า “ของพ่อคลี่ใครไม่เก็บกูเก็บหมด ท่านปิดบังความเก่งตัวเอง ทั้งล.าภทั้งเมตตาเย็นนำออกมาก่อนเลย” บนโต๊ะพระอาจารย์บ๊ะจะมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อคลี่วางอยู่ชิ้นหนึ่ง หลายคนคงเคยเห็นเเต่ไม่รู้จักกัน ท่านบอกว่า”ลา ภโคตรดีเลยนะของพ่อคลี่เนี่ย”
#ใครไม่เอาตูเอา
หลวงพ่อเอเคยถามพระอาจารย์บ๊ะว่า ความเมตตาของหลวงปู่คลี่ต่างจากเมตตาของอาจารย์ชุม ไชยคีรีอย่างไร ท่านตอบว่า “ ของหลวงพ่อคลี่ท่านจะเป็นในด้านของผู้ใหญ่ให้ความเมตตา เจ้านายเมตตา เพื่อนร่วมงานเมตตา ไม่มีเรื่องของชู้สาว”
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
เหรียญปี๒๕๒๔หลังภปร. และ พระผงรูปเหมือนกลีบบัวรวม ๒ องค์
ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
เปิดดูไฟล์ 6479138 เปิดดูไฟล์ 6479139
พระของหลวงปู่จะมีครบทุกด้านเเต่ที่เด่นนำออกมาคือลา ภเเละเมตตาร่มเย็น ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินไปกราบหลวงปู่หลายวาระพระองค์ท่านทรงมีพระบรมราชานุญาติให้ใช้ พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. บนวัตถุมงคลของหลวงปู่คลี่อีกด้วย
*ครั้งหนึ่งพระอาจารย์บ๊ะเคยพูดว่า “ของพ่อคลี่ใครไม่เก็บกูเก็บหมด ท่านปิดบังความเก่งตัวเอง ทั้งล.าภทั้งเมตตาเย็นนำออกมาก่อนเลย” บนโต๊ะพระอาจารย์บ๊ะจะมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อคลี่วางอยู่ชิ้นหนึ่ง หลายคนคงเคยเห็นเเต่ไม่รู้จักกัน ท่านบอกว่า”ลา ภโคตรดีเลยนะของพ่อคลี่เนี่ย”
#ใครไม่เอาตูเอา
หลวงพ่อเอเคยถามพระอาจารย์บ๊ะว่า ความเมตตาของหลวงปู่คลี่ต่างจากเมตตาของอาจารย์ชุม ไชยคีรีอย่างไร ท่านตอบว่า “ ของหลวงพ่อคลี่ท่านจะเป็นในด้านของผู้ใหญ่ให้ความเมตตา เจ้านายเมตตา เพื่อนร่วมงานเมตตา ไม่มีเรื่องของชู้สาว”
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
เหรียญปี๒๕๒๔หลังภปร. และ พระผงรูปเหมือนกลีบบัวรวม ๒ องค์
ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
เปิดดูไฟล์ 6479133 เปิดดูไฟล์ 6479134 เปิดดูไฟล์ 6479135 เปิดดูไฟล์ 6479136 เปิดดูไฟล์ 6479137 -
ประวัติ หลวงพ่อตั๋ง ปิยคุโณ
หลวงพ่อตั๋ง ปิยคุโณ
เดิม
ชื่อตั๋ง เต้่าสุวรรณ เกิดวันพุธที่11 ธันวาคม พ.ศ.2455 ปีชวด ที่บ้านโพธิ์เอน ต.โพธิ์เอน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรคุณพ่ออยู่ คุณแม่ใย เต้าสุวรรณ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา7คน
1 นายพรหม เต้าสุวรรณ
2น.ส.ลำยวง เต้าสุวรรณ
3นางชิด อารมย์สุข
4นายบุญช่วย เต้าสุวรรณ
5นายตั๋ง เต้าสุวรรณ
6น.ส.ติ้ง เต้าสุวรรณ
7นายเชื้อ เต้าสุวรรณ(ถึงแก่กรรมทั้งหมด)
อุปสมบท
เมื่ออายุครบ20ปีได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์เอน ต.โพธิ์เอน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 12พฤาภาคม 2475 มีพระอธิการโป๋ เจ้าอาวาสวัดวังแดงเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอธิการก๋งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และอาจารย์โกยเป็นอนุสาวนาจารย์(พระตั๋งได้รับฉายาปิยคุโณ)
หลวงพ่อตั๋ง มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ พูดน้อยแต่แฝงด้วยความปราณี เป็นศิษย์ร่วมครูอาจารย์กับหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน สระบุรีและหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา มีความขลังทางพุทธาคมคาถาเป็นอมตะ สร้างวัตถุมงคลเพื่อการสร้างพระศาสนาไม่หลายรุ่นนัก ปัจจุบันเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง หลวงพ่อตั๋ง นับเป็นพระเถราจารย์บริสุทธิ์ด้วยศิลและมีกฤษฏาอภินิหารอีกรูปหนึ่งแห่งลุ่มน้ำป่าสักตอนใต้ หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษาที่วัดโพธิ์เอนได้ศึกษาพระธรรมวินัยอันเป็นพระปริยัติกับหลวงพ่อก๋ง แต่ไม่ได้เข้าสอบธรรมสนามหลวง ท่านได้หันมาเอาดีทางสมถกรรมฐานและเวทมนต์คาถาโดยมีอาจารย์พ่อก๋งเป็นผู้ประสิทธิ์วิทยาคุณต่างๆ มาถึงตอนนี้ขออ้างอิงสิ่งที่น่าเชื่อถือได้สักนิด ผู้เขียนเคยกราบเรียนถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อก๋ง ว่ามีมากน้อยเพียงไร หลวงพ่อตั๋งเล่าว่า หลวงพ่อก๋งบรรลุฌานกสิณแก่กล้า สามารถลงไปในน้ำจับปลาเป็นๆขึันมาได้ และยังเดินบนผิวน้ำได้อีกด้วย โดยเฉพาะความขลังในการเสกเป่าน้ำ พระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์มาก หลวงพ่อตั๋งได้รับการถ่ายทอดวิทยาตุณต่างๆ จากหลวงพ่อก๋งอย่างไม่ปิดบังอำพรางโดยเฉพาะทางสมถกรรมฐานท่านกรุณาแนะนำหลักปฏิบัติจนมีความเชี่ยวชาญ ในการเจริญภาวนา มีสมาธิจิตกล้าแข็งและว่องไว สามารถปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ให้เกิดอานุภาพนานาประการทั้งปวง เมตตามหานิยม มหาอำนาจและคงกระพันชาตรี คุณวิเศษที่กล่าวมานี้ คือผลการเจริญกรรมฐาน จนจิตเป็นสมาธิชั้นสูง ซึ่งหลวงพ่อก๋งเป็นผู้บอกพระกรรมฐาน และชี้แนะหลักปฏิบัติแต่เริ่มแรก ต่อมาได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ กับหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อเพิ่มวิทยาคุณเวทมนต์คาถา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น หลวงพ่อโป๋ท่านกรุณาถ่ายทอดวิทยาคุณต่างๆ จนหมดสิ้นเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น....รออ่านตอนต่อไปพักสายตาก่อนครับ..ยังไม่ถึงตอนดุเดือด ...มาอ่านต่อ..ยิ่งกว่านั้นท่านยังแนะนำหลักปฎิบัติการเจริญภาวนา ในบทคาถาต่างๆให้เกิดความขลังยิ่งยวดขึ้นไปอีก โดยเฉพาะวิชาทำน้ำมนต์เดือด ท่านปฎิบัติได้เข้มขลังยิ่งนัก ตอนผมบวชอยู่ เมื่อปี2521 ผมเห็นกับตา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก จากนั้นหลวงพ่อลงมาจำพรรษาที่วัดลอดช่องเมืองกรุงเก่า ขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแข่ม เพื่อขอเรียนวิชาเรียกสูตรสนธิการทำผงพุทธคุณต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านกรุณารับไว้เป็นศิษย์ด้วยความเต็มใจ หลวงพ่อตั๋งมีความชำนาญอ่านเขียนหนังสือขอมอย่างดีเยี่ยม อักขระคาถาเลขยันต์ต่างๆ ท่านมีความรู้อยู่ในขั้นพระเถราจารย์ชั้นแนวหน้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะผงพุทธคุณที่ท่านลบและปลุกเสกมีความศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ว่าทรงคุณวิเศษนานัปการ หลวงพ่อตั๋งคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาไสยศาสตร์เป็นเวลานานหลายปี หลังจากนั้น ท่านจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทางภาคเหนือหลายแห่ง มีโอกาสเข้ากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครสวรรค์อีกด้วย มาถึงปีพ.ศ.2489 เมื่อครูอาจารย์ของหลวงพ่อถึงกาลมรณภาพลงหมด
ต่อมาได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ กับหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ เพื่อเพิ่มวิทยาคุณเวทมนต์คาถา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น หลวงพ่อโป๋ท่านกรุณาถ่ายทอดวิทยาคุณต่างๆ จนหมดสิ้นเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น....รออ่านตอนต่อไปพักสายตาก่อนครับ..ยังไม่ถึงตอนดุเดือด ...มาอ่านต่อ..ยิ่งกว่านั้นท่านยังแนะนำหลักปฎิบัติการเจริญภาวนา ในบทคาถาต่างๆให้เกิดความขลังยิ่งยวดขึ้นไปอีก โดยเฉพาะวิชาทำน้ำมนต์เดือด ท่านปฎิบัติได้เข้มขลังยิ่งนัก ตอนผมบวชอยู่ เมื่อปี2521 ผมเห็นกับตา ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก จากนั้นหลวงพ่อลงมาจำพรรษาที่วัดลอดช่องเมืองกรุงเก่า ขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแข่ม เพื่อขอเรียนวิชาเรียกสูตรสนธิการทำผงพุทธคุณต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแช่มท่านกรุณารับไว้เป็นศิษย์ด้วยความเต็มใจ หลวงพ่อตั๋งมีความชำนาญอ่านเขียนหนังสือขอมอย่างดีเยี่ยม อักขระคาถาเลขยันต์ต่างๆ ท่านมีความรู้อยู่ในขั้นพระเถราจารย์ชั้นแนวหน้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะผงพุทธคุณที่ท่านลบและปลุกเสกมีความศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่ว่าทรงคุณวิเศษนานัปการ หลวงพ่อตั๋งคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาไสยศาสตร์เป็นเวลานานหลายปี หลังจากนั้น ท่านจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทางภาคเหนือหลายแห่ง มีโอกาสเข้ากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ พระผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนครสวรรค์อีกด้วย มาถึงปีพ.ศ.2489 เมื่อครูอาจารย์ของหลวงพ่อถึงกาลมรณภาพลงหมด
ช่วงนั้นวัดโพธิ์เอนว่างเจ้าอาวาสคณะสงฆ์จึแต่งตั้งให้ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอนสืบต่อมาจนถึง พ.ศ.2538 หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์เอนแล้ว หลวงพ่อได้ปฎิสังขรณ์และก่อสร้างอาคารเสนาสนะต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างเต็มสติกำลัง ตามความสามารรถ ท่านทุ่มเทกำลังกายกำลังความคิดและมีอุตสาหะวิริยะอย่างยอดเยี่ยม
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้อุบัติขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ.2525 ผู้ประสบการณ์ไม่ประสงค์ออกนาม ปัจจุบันท่านอยู่ในเพศบรรชิต กรุณาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เมื่อประมาณปีพ.ศ.2525 มีอยู่วันหนึ่งท่านโดนยิงด้วยปืนลูกซองระยะประมาณ5วาเศษเรียกว่าระยะเผาขน ลูกปืนถูกบริเวณหน้าอกและลำคอ ความแรงของลูกปืนทำให้หงายหลังลงไปนอนแผ่หลา ด้วยอานุภาพของ........เหรียญรุ่นแรก.......ปีพ.ศ.2522........คุ้มครองแค่ผิวหนังไหม้เกรียมเป็นจุดลูกปืนเท่านั้น ท่านบอกว่าเหรียญรุ่นนี้มีคุณวิเศษในทางอยู่คงกระพัน อย่างยอดเยี่ยม ถ้าวันนั้นเหรียญหลวงพ่อตั๋งไม่คุ้มครอง ร่างคงพรุนเป็นแน่ ท่านใดที่ได้บูชาไปจากรายการช็อคโลก เก็บรักษาไว้ให้ดีนะครับ ประวัติและเกียรติคุณของหลวงพ่อตั๋ง ที่ลำดับความมาตั้งแต่ต้นจนถึงบทสุดท้ายนี้ หวังว่าคงสร้างศรัทธาต่อท่านผู้อ่านตามสมควรโดยเฉพาะวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เคยก่ออภินิหารทุกรุ่น แต่ไม่มีผู้ใดนำความศักดิ์สิทธิ์มาเผยแพร่ให้เลื่องลือชื่อเสียง ท่านจึงเป็นเสมือนเพชรน้ำหนึ่งที่ซ่อนแสงอยู่ในเงามืดมาโดยตลอด
#วัตถุมงคลของหลวงพ่อมีประสบการณ์ทุกรุ่น
ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
เหรียญรุ่น ๒ หลวงพ่อตั๋งและเหรียญรุ่นบูรณโบสถ์
ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
สมเด็จ9อรหันต์ เนื้อผสมอัฐิธาตุ อังคารธาตุ เกศา และชานหมากของพระอรหันต์ 9 รูป พิธีสร้างวัดอินทาราม จ.สมุทรสงคราม พ.ศ.2538 สภาพสวย
พระสมเด็จ ๙ อรหันต์หรือ พระผงอังคาร ๙ อรหันต์ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2538 เป็นที่สุดของมวลสารในการจัดสร้างพระรุ่นนี้คือ
1. พระผงรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งด้านหลังบรรจุเกศาแท้ ๆ ของหลวงปู่มั่น สร้างโดยหลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตะฯ จ.ปทุมธานี สมเด็จชานหมากของหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ด้านหลังฝังเหล็กเปียกสร้างโดยพระอาจารย์โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี
2. พระผงรุ่นอายุยืน เส้นเกศา จีวร ชานหมาก ผิวสรีระบางส่วนที่ขูดออก ครั้งเปลี่ยนจีวร สีผึ้งที่ทำจากอุจจาระ ซึ่งก่อนมรณภาพหลวงปู่สี ฉันทสิริ ได้ขับถ่ายออกมาเป็นสีผึ้ง
3. เส้นเกศา-อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
4. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
5. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่ขาว อนาลโย
6. พระผงอังคารธาตุ หลวงปู่ชา สุภัทโท
7. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ ชานหมากหลวงปู่สาม อกิญจโน
8. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
9. อัฐิธาตุ-อังคารธาตุ หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส
และผงธาตุกายสิทธิ์เช่น
1. ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช
2. ผงว่าน ๑o๘
3. ดินสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
4. ใบโพธิ์ ของต้นโพธิ์ตรัสรู้แท้ ๆ จากประเทศอินเดีย
5. ผงแร่เกาะล้าน แร่เกาะคาม แร่เกาะภูเก็ต แร่เมฆพัด
6. ผงแร่เหล็กไหลเพลิง
7. ผงเหล็กไหลตาแรด หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแฝด
8. ผงธูป ผงพระเก่า สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
9. ดินกากยายักษ์ที่ใช้ผสมทำพระผงหลวงปู่ทวด
10. ผงเกสรดอกไม้บูชาพระอาจารย์หลายรูป
11. ผงพระเก่าหลวงพ่อมงคลบพิตร
12. ผงพระธาตุพระสิวลี ชนิดสีขาวและสีดำ
13. ผงสะเก็ดแก้ว พิสดาร
โดยมีพิธีอธิษฐานจิต-พุทธาภิเษก ถึง 3 ครั้ง
ครั้งที่ ๑ ภายในโบสถ์มหาอุด วัดอินทราราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๓๘ ซึ่งตรงกับวันเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา โดยหลวงพ่อแดง นันทิโย และพระภิกษุผู้ทรงอิทธิจิตสูงส่งภายในวัดอินทรารามทั้งยังเป็นผู้สร้างพระสมเด็จ ๙ อรหันต์ ตามสูตรการสร้างพระสมเด็จที่สืบทอดมาจากหลวงปู่ใจวัดเสด็จ และ หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ
ครั้งที่ ๒ พิธีมหาพุทธาภิเษก ภายในพระวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๓๘ โดยมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๙ รูป นั่งปรกแผ่เมตตาดังนี้
1. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
2. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
3. หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า
4. หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม
5. หลวงพ่อยะ วัดท่าข้าม จ.นครปฐม
6. หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม
7. หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม
8. หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
9. หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง จ.ราชบุรี
ครั้งที่ ๓ อธิษฐานจิตแผ่พลังโดยพระป่ากรรมฐานในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อีกจำนวนทั้งหมด ๒๒ รูป ดังนี้
1. หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร
2. หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส กรุงเทพฯ
3. หลวงพ่อคำพอง ติสโส วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี
4. พระอาจารย์กิ ธัมมุตตโม วัดสนามชัย จ.อุบลราชธานี
5. พระอาจารย์ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย
6. พระอาจารย์บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรมวิทยาราม จ.ขอนแก่น
7. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง
8. หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร
9. พระอาจารย์โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี
10. พระโพธินันทมุนี วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
11. พระอาจารย์แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
12. พระครูอุดมสังวรคุณ วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
13. หลวงพ่อเพิ่ม กิตติวัฒฑโน วัดถ้ำไตรรัตน์ จ.นครราชสีมา
14. หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือวิปัสสนา จ.กระบี่
15. พระอาจารย์สมาน ชิตมาโร วัดป่าศรัทธาราม จ.นครราชสีมา
16. หลวงพ่อเที่ยง ผาสุโก วัดหลวงปรีชากูล จ.ปราจีนบุรี
17. พระครูพิทักษ์มัชฌิมเขต วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม จ.นครราชสีมา
18. พระอาจารย์เคล็ม ปิยธโร วัดกระสัง จ.บุรีรัมย์
19. หลวงพ่อแดง นันทิโย วัดอินทราราม จ.สมุทรสงคราม
20. พระอาจารย์เฉลียว วรกิจโจ วัดป่าโคกมน จ.เลย
21. หลวงพ่อสิทธา เชตะวัน
22. พระอาจารย์เกษมสุข เขมสุโข วัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ กรุงเทพฯ
พระสมเด็จ ๙ อรหันต์
ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
-
หลวงปู่สุภาเป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์แห่งแดนทักษิณ อยู่แดนใต้มาเกือบครึ่งชีวิตเป็นสงฆ์ที่มีพรรษามากที่สุดในประเทศไทยอีกท่านนึง เป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเพียงรูปเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้หลวงปู่ยังเป็นศิษย์หลวงปู่สีทัตต์ วัดท่าอุเทน, หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค, อาจารย์เฒ่า วัดเส้าหลิน, โยคีนารายณ์ อินเดีย นอกจากนี้หลวงปู่ยังเป็นพระสงฆ์รุ่นเก่ามีสหธรรมมิกแลกเปลี่ยนวิชามากมาย เช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด, หลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า, หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เป็นต้น เหนือสิ่งอื่นใด ความอัศจรรย์ทางจิตสื่อฌาณครูบาอาจารย์ และอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ของหลวงปู่มีมากมายเกินกว่าที่จะกล่าวได้หมด หลวงปู่สุภาหรือพระมงคลวิสุทธิ์เป็นพระเถระผู้ใหญ่เต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมีกระแสจิตเร็วและแรง ความจำดีเลิศ
หลวงปู่สุภา วัดศีลสุภาราม ภูเก็ต
พระมงคลวิสุทธิ์ (สุภา กนฺตสีโล) หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พระอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน พระชุดนี้สร้างเมื่อครั้งหลวงปู่อายุ111ปีเมื่อปี 2548 เนื้อมวลสารที่ผสมไปมีได้แก่พระผงเสด็จกลับปี 2506 รุ่นแรกจำนวน 6องค์บดผสมลงไป ผงแก้วสามดวงของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และ ผงทะลุกระดานหลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงินฯ พระชุดนี้ได้ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่ทั้งหมด 7 วาระ 7 พิธีกรรมด้วยกัน รับรองว่าเข้มขลังและศักศิทย์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระเสด็จกลับปี2506อย่างแน่นอนครับ
รูปเหมือนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล เนื้อผงว่าน รุ่น 111 ปี พิธีมหาพุทธาภิเษก
วันที่ 20 กันยายน 2552 ณ อุโบสถ วัดเขารังสามัคคีธรรม อ.เมือง จ.ภูเก็ต
รายนามพระเกจิอาจารย์ร่วมนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสก
1.พระมงคลวิสุทธิ์ (หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล) วัดสีลสุภาราม จ.ภูเก็ต
2.หลวงปู่แดง วัดหัวยฉลอง จ.อุตรดิตถ์
3.หลวงปู่ช่วง วัดจันทราวาส จ.สุพรรณบุรี
4.หลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ จ.สุราษฎร์ธานี
5.หลวงพ่อจ่าง วัดน้ำรอบ จ.สุราษฎร์ธานี
6.หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
7.หลวงพ่อเหิม วัดช้างแล่น จ.ตรัง
8.หลวงพ่อสะอิ้ง วัดประตูโขง จ.สระแก้ว
9.หลวงพ่อเจน วัดปรางหมู่ใน จ.พัทลุง
10.พม.สมาน สุมงฺคโล วัดสุวรรณาราชวรวิหาร กทม.
11.หลวงพ่อสุพจน์ วัดเดิมเจ้า จ.สุราษฎร์ธานี
12.พระครูสุนทรกิตยานุกุล วัดในหาร จ.ภูเก็ต
13.พระอาจารย์ประดิษฐ์ วัดดักคะนน จ.ชัยนาท
14.พระอาจารย์แดง วัดไร่ จ.ปัตตานี
ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
พระพิมพ์เสด็จกลับ ย้อนยุค ๑๑๑ ปี ลป.สุภา
ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
หน้า 103 ของ 103