เมื่อพูดถึงเรื่องการละความชั่วและการทำความดี ทุกคนคงนึกถึงโอวาทปาติโมกข์หรือหัวใจพระพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธพจน์ได้ทรงกล่าวไว้ดีแล้ว
และก็เป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างของฝ่ายกองเชียร์ทั้งหลายที่เป็นผู้ดูอยู่วงนอก บ้างก็ว่าละชั่วนั้น เป็นสิ่งทำได้ง่ายกว่า บ้างก็ว่าการทำดีนั้น เป็นสิ่งทำได้ง่ายกว่า
แต่ถ้าฝ่ายปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาที่ลงมือปฏิบัติจริงจังตามพุทธโอวาทแล้ว ย่อมรู้ดีว่าทั้งสองอย่างนั้น เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปพร้อมเพรียงกัน
เมื่อมาพูดถึงฝ่ายที่บอกว่าละชั่วนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่า เพราะเป็นกลุ่มที่เกรงกลัวต่อบาปอกุศลและกฏหมายบ้านเมืองเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว จึงรู้สึกว่าการละชั่วนั้นทำได้ง่ายกว่า ซึ่งจัดเป็นฝ่ายติดดี
ส่วนฝ่ายที่คิดว่าทำดีนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่า เพราะเป็นพวกที่มีพื้นฐาน ที่ชอบทำอะไรตามใจหรืออารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของตนเองที่อยากจะทำ เมื่อทำไปมากๆ แล้ว ตนเองรู้สึกผิดก็จะหันมาทำบุญกุศลกรรมให้เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว จึงมีความรู้สึกว่าการทำดีนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่า สืบเนื่องจากว่าการหักห้ามความรู้สึกนึกคิดที่อยากจะทำของตนเองนั้น กลับกลายเป็นเรื่องที่หักห้ามได้ลำบากยากเข็ญ ซึ่งจัดเป็นฝ่ายติดตามใจตนเอง
เมื่อเรามาพิจารณาให้ดีๆ แล้ว ก็จะเห็นว่าทั้งสองฝ่ายเป็นเรื่องของจิตใจของแต่ละคน ที่มีกิเลส กรรม วิบาก ที่ตนเองได้กระทำสั่งสมมาอย่างยาวนานนับไม่ถ้วน เป็นสิ่งที่มากำกับให้เวียนว่ายเข้าไปในภพน้อยใหญ่อันนับไม่ถ้วน หรือวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์นั่นเอง
แต่ละคนจึงมีการสั่งสมอุปนิสัยปัจจัยเฉพาะเป็นของๆ ตนมา ซึ่งเป็นเรื่องที่พระพุทธองค์ได้ทรงวางหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยากดีมีจน กระทั่งยาจกยันเศรษฐีมหาศาลหรือพระมหากษัตริย์ก็ตาม ย่อมต้องปฏิบัติไปตามทางเดินที่พระพุทธองค์ได้ทรงวางหลักไว้ให้ปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่การละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ นั่นคืออริยมรรค ๘ (ทางเดินไปสู่ความเป็นอริยะ) ซึ่งเป็นทางเดินอันเอก ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น
มีคำถามว่า แล้วหลักที่พระพุทธองค์ได้ทรงวางหลักเกณฑ์ไว้นั้น ควรเริ่มต้นจากตรงไหน?
พระพุทธองค์ พระองค์ท่านเองก็เริ่มจาก การปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา หรือ สัมมาสมาธิในองค์แห่งสมาธิในอริยมรรค ๘ นั่นเอง อันประกอบไปด้วย สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ จนจิตรวมลงเป็นสมาธิ
และจากองค์แห่งสมาธินั้น เฉพาะสัมมาวายามะ จะเห็นได้ว่าก็มีองค์ประกอบ คือ ความเพียรประคองจิต ให้รู้จักละชั่วและทำความดีไปพร้อมเพรียงกันแล้ว
ส่วนวิธีปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงธรรมที่ไม่ติดนั้น ให้ดูที่องค์แห่งสัมมาสติ หรือที่เรียกว่า สติปัฏฐาน ๔ เป็นหลักเกณฑ์
ในการที่จะดำเนินตามรอยพระบาทของพระพุทธองค์นั้น ใครก็ตามที่สามารถพัฒนาจิตใจของตนเองให้มีสติตั้งมั่นเป็นสมาธิ ไม่หวั่นไหวไปตามอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลาย ที่เข้ามาผัสสะแล้ว ย่อมได้ประโยชน์และได้เปรียบกว่าบุคคลที่ไม่มีพื้นฐานทางนี้ เนื่องจากไม่เคยลงมือปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาอย่างจริงจังเลย
ขอสวัสดีปีใหม่ไทย ๒๕๕๕
ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมสัมมาปฏิบัติยิ่งๆขึ้น
ธรรมภูต
ละชั่วหรือทำดี สิ่งไหนทำได้ง่ายกว่า
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 13 เมษายน 2012.
หน้า 1 ของ 9
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สาธุ เข้ามารดน้ำ ขออโหสิกรรม จากท่านธรรมภูติด้วยครับ ขอให้ท่าแข็งแรง มีความสุขตามอัตภาพนะครับ สาธุ รออ่านต่อครับ
-
อนุโมทนาสาธุครับ คุณพี่ ธรรมภูต มีสิ่งหนึ่งที่ผมขอกล่าวครับ
ผู้ที่ทำบุญ ทำทาน ส่วนใหญ่ หากการกระทำบุญ ทำทานนั้น นำไปซึ่งปัญหาแห่งครอบครัว
การกระทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควร เหตุที่มีปัญหาในครอบครัว คือ การทำบุญ ทำทาน เกินความสามารถของตน
เพราะการทำบุญ ทำทานนั้น ต้องทำโดยที่ตนเองไม่ลำบาก และ ครอบครัวไม่ลำบาก
อย่างทุกวันนี้ มีผู้คนมากมาย ที่ทำบุญ ทำทาน โดยไม่คำนึงถึงสภาวะที่เป็นอยู่ จึงนำความเป็นทุกข์มาสู่ตน และ ครอบครัว
การทำบุญ ทำทานนั้น ต้องทำด้วยความพอดี ไม่ทำให้ตนเอง และ ครอบครัวเป็นทุกข์
สาธุครับ -
สวัสดีปีใหม่ไทยครับ พี่ธรรมภูต สวัสดีปี 2555 ครับ
สาธุครับ -
..ที่มรึงพุดมานั่นมันพื้นฐานเด็กประถมใครเขาเข้าใจหมดละ ระดับท่านธรรมภูตินี่ เขามองไปโน่น..พระองค์ไหนเป็นสุปฏิปันโน สามารถจะทำบุญได้บ้างนี่ปัญาคนในห้องนี้เขาพุ่งไปไกลกว่ามรึงไอ้..ไก่อ่อน ไอ้ปัญญานิ่ม ไม่รู้กรูจะด่าจะสอนมรึงอย่างไรดี..อาจารย์- กรูขายหน้าคนอื่นเขาที่รับมรึงเป็นศิษย์แบบ(โมเม)..กรูอายเขามรึงเข้าใจไหม ไอ้โอฬาร หัวน็อต..!
:cool: (ขออภัยท่านธรรมภูติ ที่ใช้กระทู้ท่านด่าลูกศิษย์ตนเอง ขออภัยครับ):cool: -
อนุโมทนาสาธุกับคุณ ธรรมภูต ด้วยครับ..
คนเดียวกับ ใน Blog ธรรมภูต หรือเปล่าครับ... -
เจริญในธรรมทุกๆท่านครับไฟล์ที่แนบมา:
-
-
มีสองฝ่าย
แล้วคนที่คิดว่า ไม่ง่ายไม่อยากไปกว่ากัน แต่ทำไปคู่กันละ เช่นในขณะที่ทำดีก็คือการละชั่วไปพร้อมกัน และ ในขณะที่พยามละชั่วก็คือการทำดีอยู่ -
สาธุครับ -
ตกเลขหรือค้า น้าธรรมภูติ -
แต่เป็นทางไปสู่อรหันต์หรือนิพพานจ้า น้าภูติ -
ผู้ที่เป็นอริยะแล้ว การปฎิบัตินั้นมีมากกว่า มรรค 8 ครับ
แค่มรรค 8 ไปไม่ถึงซึ่งความว่างเปล่าครับ เป็นเพียงหนทางเริ่มต้นเท่านั้น
ใตร่ตรองดูเถอะครับ
สาธุครับ -
-
แต่ผมกล่าวด้วยความเป็นจริงครับ เพราะที่สุดแล้วก็ต้องวางลงหมดครับ
สาธุครับ -
-
พระศาสดาตรัสว่า
ศาสนาใดไม่มีมรรคมีองค์แปด สมณะผู้สงบถึงที่สุดก็ไม่มีในศาสนานั้น
ใครผิดลองคิดดู แต่ผมเห็นว่าผิดทั้งคู่ -
แต่มรรค 8 เป็นเพียงตัวอย่างในการใช้ชีวิตครับ ที่จะนำมาซึ่งความเป็นสุขครับ
การเจริญสตินั้น ต้องปฎิบัติทุกกิริยาบทครับ นี่ครับ ทางแห่งมรรค
สาธุครับ -
-
มัวแต่ห่วงผู้อื่น คือ คนที่ประมาทครับ
สาธุครับ -
ข้าว่า น่า เป็นห่วง ข้้าคงไม่ต้องบอกความหมายของคำว่า น่า กับท่านหรอกนะ
หน้า 1 ของ 9