ลิขิตสี่ประการแห่งจิตวิญญาณ ● Four Laws of Spirituality

● อินเดียได้สอนเราถึง "ลิขิตสี่ประการ"

ลิขิตข้อแรก ได้ตราไว้ว่า "ไม่มีใครก้าวเข้ามาในชีวิตเราโดยบังเอิญ" นี่เป็นการยืนยันว่่า บรรดาผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเราในจังหวะชีวิตต่างๆนั้น ทุกคนล้วนเข้ามา เพื่อให้เราได้เรียนรู้บทเรียนใด หรือช่วยให้เราแก้สถานการณ์ใด ในขณะหนึ่งขณะใดทั้งสิ้น


ลิขิตข้อที่สอง ตามมาว่า "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ล้วนต้องเกิดเป็นเช่นนั้น" ทุกสิ่งที่เกิดกับเรานั้นไม่อาจเป็นอื่นได้ เป็นความหลงผิดยิ่งที่ไปคิดว่า "ชีวิตเราไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ ถ้าในอดีตเราได้ทำอย่างนั้น" เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเกิดกับเราอย่างแน่นอนในทุกรายละเอียดเลยทีเดียว เรามีหน้าที่ต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นและก้าวไปข้างหน้า แม้ว่ามันจะฝืนกับความเข้าใจหรืออัตตาของเราสักปานใดก็ตาม


ลิขิตที่สาม มีว่า "ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเมื่อได้เวลาแล้วเท่านั้น" ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะมาตามเวลาเสมอ ไม่มีช้าหรือเร็วไป มันจะมาถึงเมื่อเราพร้อม พร้อมต่อสิ่งใหม่ ในชีวิตที่รอเราอยู่ก่อนแล้ว


ลิขิตที่สี่ จบไว้ว่า "ชีวิตไม่มียืดเยื้อ อะไรจบแล้วก็จบเลย" เป็นคำสอนง่ายๆ เมื่อสิ่งใดในชีวิตเราจบลงแล้ว ก็จะช่วยให้เราพัฒนาขึ้น ดังนั้น เมื่อมีประสบการณ์เพิ่มขึ้น เราก็ต้องปล่อยบทเรียนนี้ผ่านไป แล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอีก เป็นเช่นนี้ตลอดไป

ท่านที่นับถือ แม้กระทั่งการที่คุณได้มีโอกาสอ่านลิขิตทั้งสี่ในวันนี้ ผมก็เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ถ้าอ่านแล้วช่วยให้คุณได้คิดอะไรบ้าง ก็แสดงว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเข้าถึงสัจจะธรรมว่า "โลกนี้ไม่มีลูกบอลหิมะลูกใด ที่ไหลเลื่อนลงมาโดยผิดที่และผิดเวลาเลย"

ขอจงดีต่อตัวเอง โปรดเมตตากรุณาต่อสรรพสิ่ง ขอจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด


♥
บทแปลคุณแสนดีเหมือนทราย, ห้องไร้สังกัด, พันทิป




ต้นฉบับ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=9m6HSdYuvHY]FOUR LAWS OF SPIRITUALITY - YouTube[/ame]

● In India they teach the "Four Laws of Spirituality"

The first says:

"The person who comes is the right person," meaning that nobody comes into our lives by chance, all the people around us, interacting with us, are there for a reason to make us learn and advance in every situation.


The second law says:

"What happens is the only thing that could have happened."
Nothing, but nothing, absolutely nothing happens to us in our lives might have been otherwise. Even the smallest detail. There is no "if I had done such a thing ... it happened that another ...". No. What happened was all that could have happened, and it must have been like for us to learn that lesson and move on. Each and every one of the situations that happen in our lives are perfect, but our mind and ego will resist and do not want to accept it.


The third says:

"Any time you start is the right time."
It all starts at the right time, neither before nor after. When we are ready to start something new in our lives, is there when you start.


And the fourth and final:

"When something ends, it ends."
Just like that. If anything finished in our lives is for our evolution, so it is best to leave it, go ahead and move and enriched with the experience. I think it is no coincidence that they are reading this, if this text comes to our lives today, this is because we are prepared to understand that no snowflake ever falls in the wrong place!
__________________


(เหตุ)อดีต => (ผล)ปัจจุบัน
(เหตุ)ปัจจุบัน => (ผล)อนาคต

ที่มา : ธรรมศาลา - ลิขิตสี่ประการแห่งจิตวิญญาณ ● Four Laws of Spirituality

__________________

 

..เข้ามาอ่านช้าไป ทำผิดพลาดอีกแล้วจร๊าาา..แฮะๆ

"ทุกอย่างจะเกิดขึ้น เมื่่อได้เวลาแล้วเท่านั้น" (โดนนสุดๆๆ)

"ขอจงดีต่่อตัวเอง โปรดเมตตากรุณาต่อสรรพสิ่ง ขอจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด"(ยามมีอารมณ์มาร ชอบเผลอจร๊าาา ขอออภัยเพื่อนด้วยนะจ๊ะ งุงิๆ)