ลุงเปรม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อพบเจตภูตของเพื่อน

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 8 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    คนสมัยก่อนเชื่อกันว่า ในร่างกายมนุษย์เรามีวิญญาณประจำตัวมาตั้งแต่แรกเกิด เมื่อสิ้นอายุขัยวิญญาณก็ออกจากร่างไปแสวงหาที่อยู่ใหม่ หรือไม่ก็ดับสูญไปเช่นเดียวกับร่างกายที่เน่าเปื่อยไปตามธรรมชาติ

    วิญญาณที่ประจำตัวมนุษย์นี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "เจตภูต"

    เมื่อคนนอนหลับ เจตภูตมักล่องลอยออกจากร่าง ไปพบเห็นสิ่งต่างๆ ทั้งดีและร้าย เรียกว่าเกิดความฝัน ครั้นใกล้จะตื่นก็เป็นเวลาเดียวกับที่เจตภูตกลับเข้าสู่ร่างตามเดิม และจดจำสิ่งที่เห็นในฝันนั้นได้

    หากว่าใครโดนปลุกกะทันหัน หรือมีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ที่ทำให้ตกใจตื่น เจตภูตจะรีบกลับเข้าร่างทันที เป็นสาเหตุให้ใจเต้นแรง หวาดสะดุ้งและเหน็ดเหนื่อยผิดกว่าการตื่นโดยปกติ

    ถ้าเจตภูตเข้าร่างไม่ทันก็ย่อมถึงแก่ความตายแน่นอน!

    คนที่แก่ชรา หรือเจ็บป่วยร้ายแรง เจตภูตย่อมเตรียมตัวจะออกจากร่าง ดุจเดียวกับคนที่ย้ายจากบ้านเก่าแก่ทรุดโทรม กลายเป็นวิญญาณที่ล่องลอยไปหาที่อยู่ใหม่โดยสงบ หรือแตกดับไปเองเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นแต่จะมีจิตผูกพันอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างรุนแรง วิญญาณจึงจะสิงสู่อยู่กับสิ่งนั้นต่อไป

    เป็นที่น่าสังเกตว่า คนที่ตายเพราะแก่ชราหรือเจ็บไข้ได้ป่วย มักจะไม่ค่อยปรากฏว่ามีภูตผีมาหลอกหลอน ยกเว้นแต่คนที่ตายผิดธรรมชาติ เช่นโดนฆ่าตาย ถูกรถชนตาย ซึ่งเป็นความตายที่เกิดขึ้นฉับพลันโดยไม่รู้ตัว

    เจตภูตต้องออกจากร่างโดยด่วน ไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวมาก่อน จึงต้องล่องลอยหาที่อยู่ใหม่ เรียกว่าสัมภเวสีหรือผีไม่มีศาล เป็นวิญญาณร่อนเร่ มักปรากฏให้คนเห็นเนืองๆ หรือผีหลอกนั่นเอง

    สมัยหนุ่ม ข้าพเจ้าเคยประสบกับเจตภูตของเพื่อนสนิทจนขนหัวลุกมาแล้ว

    วินัยเป็นเพื่อนร่วมห้องเช่าอยู่หน้าวัดแค นางเลิ้ง เรามาจากต่างจังหวัดและเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ห้องพักอยู่ชั้นบนด้านหน้ามองลงมาเห็นสนามและรั้วบ้านได้

    เพื่อนคนนี้มีจิตใจอ่อนไหว เชื่อถือเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ ชอบเล่าเรื่องผีสาง วิญญาณ โลกหน้า และเจตภูตที่อยู่ในร่างกายคนเราบ่อยๆ ตอนแรกข้าพเจ้าก็ไม่เชื่อถือนัก แต่ไม่อยากขัดคอ กลับฟังแล้วเพลิดเพลินดีเหมือนกัน

    วินัยขอร้องว่าถ้าเขาหลับสนิทอย่าปลุก เดี๋ยวเจตภูตจะเข้าร่างไม่ทัน หรือถ้าเขาหลับนานเกินไปก็อย่าคิดว่าตายแล้ว เจตภูตอาจจะหลงทางหรือติดอยู่ที่ไหนก็เป็นได้... ต้องให้เวลาตามสมควร

    คืนหนึ่ง ข้าพเจ้าก็พบเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับวินัย!

    คืนนั้นข้าพเจ้าได้พบกับเพื่อนเก่าที่เรียนชั้นมัธยมมาด้วยกัน เขาไม่ได้เรียนต่อแต่ทำงานในอู่ซ่อมรถยนต์ของพ่อ เราชวนกันไปฉลองความหลังที่ร้านจำเนียร ข้างโรงหนังศาลาเฉลิมกรุง กว่าจะแยกย้ายกันกลับก็ราวสี่ทุ่มเศษ

    เมื่อมาถึงบ้านเช่าก็เห็นวินัยนั่งเล่นที่ม้ายาวริมรั้ว ถามว่ายังไม่นอนอีกหรือ ก็ได้รับคำตอบว่าออกมานั่งรับลมเย็นๆ เพราะยังไม่ง่วงนอนเลย

    ข้าพเจ้ากำลังมึนๆ จึงเดินเข้าบ้านขึ้นบันไดไปชั้นบน แต่ปรากฏว่าประตูติดกลอนจึงเขย่าเบาๆ ด้วยความสงสัย เสียงวินัยดังมาว่ารอเดี๋ยว...ก่อนจะเปิดไฟเปิดประตู

    ยอมรับว่าตกตะลึงเหมือนถูกผีหลอก วินัยไม่มีทางหลบมาเข้าห้องก่อนข้าพเจ้าได้เด็ดขาด เพราะมีบันไดขึ้นลงทางเดียว...พอดีเขาขยี้ตา บอกว่าเมื่อตะกี้ฝันว่าลงไปนั่งเล่นหน้าบ้านแล้วเห็นข้าพเจ้าเดินเข้ามาคุยด้วย ตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงเขย่าประตู

    ข้าพเจ้าหายเมาเป็นปลิดทิ้ง ขนลุกซ่าไปทั้งตัว

    เจตภูตมีจริงๆ ละหรือ?

    คืนเกิดเหตุ วินัยเป็นฝ่ายกลับดึกบ้าง พอได้ยินเสียงเคาะประตูก็ไปเปิดรับแล้วกลับไปนอนหลับจนรุ่งเช้า จำได้ว่าเขานอนพลิกไปมาสอง-สามครั้งก่อนจะหลับตามปกติ...แต่รุ่งขึ้นก็ไม่เห็นวินัยอยู่ในห้องนอนแล้ว

    ประตูยังใส่กลอน...แล้วใครกันที่เข้ามานอนกับข้าพเจ้าตลอดคืน?

    ตอนเย็นวันนั้นเองถึงได้ทราบข่าวว่า วินัยตายคาที่เพราะอุบัติเหตุรถชนที่สี่แยกนางเลิ้งเมื่อคืนนี้เอง เป็นเวลาไล่เรี่ยกับที่เจตภูตเขาออกจากร่าง เป็นวิญญาณมาเคาะประตูเรียกข้าพเจ้านั่นเอง

    หลังจากเผาศพวินัยแล้ว ข้าพเจ้าก็ย้ายไปเช่าห้องใหม่อยู่ย่านพรานนก...

    หวังว่าวินัยคงจะนึกได้ว่าเจตภูตของตนกลายเป็นวิญญาณแล้ว ขอให้ไปสู่สุคติ แสวงหาภพภูมิที่เหมาะสมอยู่อาศัยอย่างสงบสุข หรือไม่ก็ได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งและมีอายุยืนยาวกว่าชาตินี้เถิด

    นึกถึงเจตภูตคนเป็นและวิญญาณผู้ตายที่เป็นเพื่อนสนิททีไร ข้าพเจ้ามักจะขนลุกซ่าทั้งตัวทุกครั้งไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...