ลูกสาวพระยามาร (สตรีพึงสำเร็จเป็นมาร นั่นไม่ใช่ ฐานะ ที่มีได้)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย thepkere, 10 ธันวาคม 2012.

  1. thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    (๑๕) ย่อมรู้ชัดว่า ข้อที่มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส คือสตรีพึงสำเร็จเป็นมาร นั่นไม่ใช่
    ฐานะที่มีได้
    และรู้ชัดว่า ข้อที่เป็นฐานะมีได้แล คือ บุรุษพึงสำเร็จเป็นมาร นั่นเป็นฐานะที่มีได้ ฯ


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
    หน้าที่ ๑๓๘/๔๑๓ ข้อที่ ๒๔๕


    [๑๖๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่พระเจ้าจักรพรรดิสองพระองค์ จะพึงเสด็จอุบัติขึ้น
    พร้อมกันในโลกธาตุเดียวกันนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่ข้อที่
    พระเจ้าจักรพรรดิพระองค์เดียวจะพึงเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ธาตุอันหนึ่งนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ ฯ


    [๑๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่สตรีจะพึงเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มิใช่
    ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่ข้อที่บุรุษจะพึงเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ
    เจ้านั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ ฯ


    [๑๖๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่สตรีจะพึงเป็นพระเจ้าจักรพรรดินั้นมิใช่ฐานะ มิใช่
    โอกาสที่จะมีได้
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่ข้อที่บุรุษจะพึงเป็นพระเจ้าจักรพรรดินั้น เป็นฐานะที่จะ
    มีได้ ฯ


    [๑๖๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่สตรีจะพึงเป็นท้าวสักกะ ฯลฯ จะพึงเป็นมาร ฯลฯ
    จะพึงเป็นพรหมนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุรุษจะพึงเป็น
    ท้าวสักกะ ฯลฯ จะพึงเป็นมาร ฯลฯ จะพึงเป็นพรหมนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ ฯ


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๐
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
    หน้าที่ ๒๙/๒๙๐ ข้อที่ ๑๖๓ - ๑๖๖



    (ท่านคิดว่า ลูกสาวพระยามารมี ๓ คน คือ นางตัณหา นางราคา และนางอรดี จะมีได้หรือ?ไม่)
     
  2. thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    สมุดภาพพระพุทธประวัติ
    ฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระพุทธศาสนา โดย ครูเหม เวชกร
    ภาพที่ ๒๘
    เสด็จไปประทับโคนต้นไทร สามธิดามารมาประโลมล่อให้หลง ก็ไม่ทรงใยดี

    ตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเสวยวิมุติสุขอยู่ภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นเวลา ๗
    วัน คำว่า 'เสวยวิมุติสุข' เป็นภาษาที่ใช้สำหรับท่านผู้ทรงหลุดพ้นแล้ว เทียบกับภาษาสามัญชนคนมีกิเลสก็
    คือพักผ่อนภายหลังที่ตรากตรำงานมานั่นเอง

    หลังจากนั้นจึงเสด็จไปยังต้นอชปาลนิโครธ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของต้นศรีมหาโพธิ์ ต้น
    นิโครธคือต้นไทร ส่วนคำหน้าคือ 'อชปาล' แปลว่า เป็นที่เลี้ยงแพะ ตามตำนานบอกว่าที่ใต้ต้นไทรแห่งนี้
    เคยเป็นที่อาศัยของคนเลี้ยงแพะมานาน คนเลี้ยงแพะที่ตำบลแห่งนี้ได้เข้ามาอาศัยร่มเงาต้นไทรเป็นที่เลี้ยง
    แพะเสมอมา

    ระหว่างที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่นี่ นักแต่งเรื่องเรื่องในยุคอรรถกถาจารย์ ยุคนี้เกิดขึ้นภาย
    หลัง พระพุทธเจ้านิพพานแล้วหลายร้อยปี ได้แต่งเรื่องขึ้นเฉลิมพระเกียรติของพระพุทธเจ้าว่า ลูกสาว
    พระยามารซึ่งเคยยกทัพมาผจญพระพุทธเจ้าเมื่อตอน ก่อนตรัสรู้เล็กน้อยแต่ก็พ่ายแพ้ไป ได้ขันอาสาพระยา
    มารผู้บิดาเพื่อประโลมล่อพระพุทธเจ้าให้ตกอยู่ในอำนาจของพระยามารให้จงได้ ลูกสาวพระยามารมี ๓
    คน คือ นางตัณหา นางราคา และนางอรดี

    ทั้งสามนางเข้าไปประเล้าประโลมพระพุทธเจ้าด้วยกลวิธีทางกามารมณ์ต่างๆ เช่น เปลื้อง
    ภูษาอาภรณ์ทรงออก แปลงร่างเป็นสาวรุ่นบ้าง เป็นสาวใหญ่บ้าง เป็นสตรีในวัยต่างๆ บ้าง แต่พระพุทธ
    เจ้าผู้ทรงบริสุทธิ์สิ้นเชิงแล้วไม่ทรงแสดงพระอาการผิดปกติแม้แต่ลืมพระเนตรแลมอง

    เรื่องธิดาพระยามารประโลมพระพุทธเจ้าก็เป็นปุคคลาธิษฐาน ถอดความได้ว่า ทั้งสามธิดา
    พระยามารนั้น ล้วนหมายถึงกิเลสทั้งนั้น อย่างหนึ่งคือความยินดี อีกอย่างหนึ่งคือความยินร้ายหรือความ
    เกลียดชัง ความยินดีส่วนหนึ่งแยกออกเป็นตัรหา คือความอยากได้ไม่มีที่สิ้นสุด อีกส่วนหนึ่งเป็นราคา
    หรือราคะ คือความใคร่หรือกำหนัด ความเกลียดชังหรือยินร้ายออกมาในรูปของอรดี อรดีในที่นี้คือ
    ความริษยา

    ความที่ว่าพระพุทธเจ้าไม่ทรงแสดงพระอาการผิดปกติ แม้แต่ทรงลืมพระเนตรนั้น ก็หมาย
    ถึงว่า พระพุทธเจ้าอยู่ห่างไกลจากกิเลสดังกล่าวมาโดยสิ้นเชิงนั่นเอง
    _________________________________________
    บันทึก ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
    ติดต่อ : DhammaPerfect@hotmail.com

    http://www.84000.org/tipitaka/picture/f28.html
     
  3. Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    ศาสดาของแต่ละศาสนาก็ต้องต่อสู้กับ กิเลส



    Temptation of Christ

    เช่นเมื่อพระเยซูถูกพญามารพยายามมาเกลี่ยกล่อม
    1. ให้่เสกหินเป็นหนมปังในป่าเมื่อพระเยซูอยู่ในช่วงบำเพ็ญเพียร

    2. ท้าให้พระเยซูโดดจากหอคอยโบสถ์
    เพื่อใ้ห้แสดงอิทธิฤทธิ์ว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า
    โดยฑูตสวรรค์ต้องมารองรับไม่ให้พระเยซูตกถึงพื้น


    3.ทั้งแก้วแหวนเงินทอง และ อำนาจ หากบูชาพญามาร
    ซึ่งพระเยซูปฏิเสธ และบัไล่พญามารไปในที่สุด


    ***มารไม่มีบารมีไม่เกิด***
     
  4. Stabilo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +760
    คนจีนก็มีอยู่คนหนึ่งในสมัยชุนชิว

    ซึ่งทุกคนยังนับถือเป็นแบบอย่างของเยนเตลแมนถึงทุกวันนี้

    หลิ่วเซี้ยฮุ่ย ในคืนที่หนาวเหน็บเขาให้ช่วยให้ไออุ่นกับแม่นาง
    ท่านหนึ่ง โดยให้แม่นางนั้นอยู่ในอ้อมอกของตนจนถึงรุ่งสาง
    โดยมิได้ล่วงเกินนางแม้แต่น้อย



    อนุชนรุ่นหลังจึงมีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงท่าน
     

แชร์หน้านี้