มารออ่านคร้า..................
วัดแจ้ง..เมืองอุทัยเก่า กับพระเจ้าตาก..
ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย สาวอุทัย, 5 เมษายน 2013.
หน้า 34 ของ 41
-
คือหาย ไปไหน กัน หมด หนอ อิอิ
ข่อย มารอ ติดตาม อยู่ เด้อ ค่าา -
เวลาหดหายห่าง......
ไม่ว่างเยือนเขียนเล่าบอก
สมาชิกเวียนออก
รอเขียนกรอกมาเข้าอ่าน...........
-
คนคั่นเวลามาบางบ้างตามโอกาสครับ ตัองขออภัยครับ เดี๋ยวเจ้าของกระทู้ก็คงจะกลับมาครับ อีกไมานานหรอกครับ
-
เรื่องของสวรรค์เล่ายากครับ เพราะคนส่วนใหญ่สัมผัสดินแดนแห่งนี้ไม่ค่อยได้ครับ และสวรรค์นั้นมีปาฏิหารย์ตั้งมากมายครับ เลยไม่รู้จะให้เล่าในแนวทางใดครับ เทวดาบนสวรรค์สามารถเนรมิตให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้คนที่เกี่ยวข้องบนภพภูมิมนุษย์นั้นได้ครับ
-
เจอกันครึ่งทางเลือกมาดีกว่าครับ คือมีสวรรค์ชั้นหนึ่งซึ่งรวมถึงหิมพานต์ด้วยครับ มีทั้งรุกขเทวดา พญานาค ครุฑ คนธรรพ์ วิทยากร กินรี นางอัปสร และพวกกึ่งเทพกึ่งมาร ก็ตือพวกที่ถูกสวรรค์ลงโทษนั้นแหละครับ สองคือชั้นดาวดึงส์ครับ มีพระอินทร์เป็นผู้ปกครองครับ สามชั้นมายา ที่มีแต่บรรดาแม่ชี นักพรตอะไรทำนองนี้ครับ และสุดท้ายคือดุสิตอดีตบ้านของข้าพเจ้า มีอะไรที่ปกปิดที่หาอ่านที่ไหนไม่ได้เพราะว่ามีทั้ง กายทิพย์ที่เสวยผลเสบียงบุญ และดินแดนต้องห้ามคือบรรดาพระโพธิ์สัตว์ที่รอมาจุติครับเลือกมาหนึ่งชั้นแล้วกันครับ
-
Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium
ขอดุสิตค่ะท่านประธาน อยากรู้มากว่าวัน ๆ พระโพธิสัตว์ท่านทำอะไรกันอยู่ค่ะ
แต่อย่าไปเอาเรื่องของคนใกล้ตัวข้าพเจ้านะคะ เกรงว่าจะไม่งาม
ข้าพเจ้ามิอยากหาเรื่องเดือดร้อนให้บางคนอีกค่ะ
ที่สนใจสวรรค์ชั้นนี้ก็เพราะข้าพเจ้าก็อยากจะตายไปอยู่ชั้นนี้ค่ะ
ศึกษาเอาไว้ก่อน รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง อิอิ -
คุณบราวกล่าวแปลกๆนะครับ อย่าบอกนะครับว่าเชื่อว่าอดีตตนเองคือนางฟ้านามว่า สุธรรมาวดีครับ ถ้าเชื่อกรุณาเล่าด้วยนะครับ
-
เมื่อข้าพเจ้าใช้ธรรมวิจยโพชฌงค์ เป็นหลักพิจารณา สัญญาทั้งหมดที่เป็นสังขาร เมื่อข้าพเจ้าสามารถเพิ่มกำลังของสมาธิขึ้นอีก จนสังขารนั้นดับไป ความสงบนิ่งของดวงจิตที่ตั้งอยู่ในปัจจุบันธรรม เรียกว่า การใช้ บุพเพนิวาสญาณ เป็นเรืีองเกี่ยวกับชาติภพของตัวเองที่เป็นมาแล้วครับ
-
ขัาพเจ้าพบว่า ข้าพเจ้าคืออดีตเทวดาท่านหนึ่งที่จุติที่สวรรค์ชั้นดุสิตครับ บนสวรรค์ชั้นนี้ กว้างใหญ่มากครับ เทวดาและเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นนี้เลยจะต้องมียานพาหนะประจำตัวครับ คือมีลักษณะคล้ายปุยเมฆครับ เอาไว้ใช้ไปไหนมาไหนในสวรรค์ชั้นนี้ครับ
-
และเทวดา เทพธิดาบนสวรรค์ชั้นนี้จะไม่พูดจากันครับ แต่จะพูดจากันผ่านเสียงทิพย์ครับ คือไม่ต้องเอ่ยขยับปากเหมือนเทวดา เทพธิดาชั้นอื่นๆครับ เทวดา เทพธิดาทุกองค์มั่นใจได้ว่า เทวดากนือเทพธิดาที่สื่อสารด้วยจะรับรู้ได้ครับ เพราะเป็นพรวิเศษอย่างหนึ่งที่สวรรค์ชั้นอื่นๆนั้นไม่มีครับ
-
วิมานของสวรรค์ชั้นนี้ก็แตกต่างจากวิมานของสวรรค์ชั้นอื่นๆครับ ทุกวิมานจะเป็นแบบเรียบๆง่ายๆไร้การประดับประดาไปด้วยของมีค่าบนโลกมนุษย์ครับ เช่น แก้วแหวน เงินทอง ซึ่งที่มีค่าบนโลกมนุษย์หรือภพภูมิอื่นๆนั้น บนสวรรค์นี้จะไม่มีปรากฏให้เห็นครับ
-
ส่วนเครื่องประดับของเหล่าเทวดา นางฟ้าบนสวรรค์ชั้นนี้นั้นจะแตกจ่างจากชั้นอื่นๆอีกครับ เทวดาหรือนางฟ้าจะต้องเลือกได้เพียงสีเดียวครับ เช่น เลือกสีทองก็จะได้แต่สีทองไม่สามารถมีสีอื่นๆมาปะปนได้ครับ ข้าพเจ้าจำได้เสมอว่า เทพธิดาสุชาวดีเลือกสีทองเมืรอครั่นใดที่ข้าพเจ้สเจอเทพธิดานางจะใส่แต่สีนี้ตลอดครับ
-
เทวดาและเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นนี้นั้น ทุกองค์จะต้องรับหน้าทึ่ที่สำคัญครับ แทบจะไม่มีเทพธิดาหรือเทวดาทำหน้าที่รับใช้เหล่าเทวดาชั้นปกครองครับเพราะว่าวิมานของเทวดาและเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นนี้นั้นแตกต่างจากสวรรค์ชั้นอื่นๆอีกครับ วิมานบนสวรรค์ชั้นนี้นั้นมีความวิเศษ นายานับประการครับ เนื่องจากสวรรค์ชัันนี้อยู่สูงกว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์นั้นมาก วิมานของเทวดาและเทพธิดาบนสวรรค์ชั้นนี้วามารถทำให้วิมายนั้นสว่างไสวด้วยตัววิมายเองนั้นได้ครับ เมื่อเทวดาหรือเทพธิดาออกจากวิมายนั้นไปวิมานนั้นก็จะหายไปครับ ทำให้กายมิพย์ที่มีบุญบารมีมากพอที่เคยมาเยือนวิมานแห่งนี้ก็จะไม่มีเรื่องอะไรจะเล่าครับเพราะว่า จะเจอแต่สภาพสวรรค์อันว่างเปล่าครับ
-
เทวดาและเทพธิดาชี่นอื่นๆนั้นจะแบ่งเป็นแค่สองประเภทคือ เทวดาหรือเทพธิดาชั่นปกครองกับเทวดาหรือเทพธิดาทั่วไปครับแต่สวรรค์ชั้นนี้นั้นจะแตกต่างอีกคือจะมีเทวดาหรือเทพธิดาทึ่ปรารถนาไม่ขอใช้เสบียงบุญที่ตนเองสะสมมาในอดีตกาลครับ โดยนิยมเรียกกันในหมู่ภพภูมิมนุษย์ว่า ปราถนาพระโพธิ์สัตว์ครับ
-
เพราะเคยฝันว่าขึ้นไปบนสวรรค์ แต่ชั้นนั้นมีแต่ก้อนหินค่ะท่าน -
เทวดาหรือเทพธิดาที่ปราถนาแบบนั้นจะต้องถูกทำตามกฏของสวรรค์ชั้นนี้ครับคือจะถูกทดสอบที่หิมพานต์แดนสามครับ ว่าเทวดาหรือเทพธิดานั้นจะสามารถเอาชนะอุปสรรคที่ตั้งใจเอาไว้นั้นได้รึไม่ครับ หิมพานต์แดนสามนั้นเป็นที่อยู่ของพวกกึ่งเทพกึ่งมารหรือบรรดาอดีตเทวดา เทพธิดาที่ทำผิดกฏหรือ บรรดาเทวดา เทพธิดาที่ปราถนาไม่สะสมใช้เสบียงบุญของตนเในอดีตนั้นร่วมอบู่ด้วยครับ เทวดาหรือเทพธิดาที่สมัครใจมาทดสอบนั้นจะถูกริบบุญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ครับ เผื่อไม่ให้ใช้เปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ ณ ดินแดนแห่งการทดสอบนี้ครับ
-
เมื่อปรารถนาแล้วถูกให้ลงมาแล้วจะเปลี่ยนใจกลับขึ้นไปกลางคันไม่ได้ครับ ต้องสามารถเอาชนะความต้องการทางด้านต่างๆนั้นสำเร็จก่อนเท่านั้นครับ ดินแดนของกึ่งเทพกึ่งมารนั้นมีแต่ภาพมายาครับที่ชวนให้หลงใหลไปตามภาวะความปรารถนาอันเป็นสุข เทวดาหรือนางฟ้สหลายองค์ไม่สามารถกลับขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นสี่อีกได้เพราะว่า ไม่สามารถเอาชนะความปรารถนาสุขในใจของตนเองนั่นได้ครับ
-
มีเวลาเฉพาะเสาร์อาทิตย์หรือครับท่านประธาน?
ว่าแต่ไม่พาเพื่อนสมาชิกเที่ยวแดนลี้ลับอีกหรือครับ!
(แหม! ทิ้งกระทู้พญานาคมาเมาท์สวรรค์อยู่ห้องเสือดาวนั้นเอง) -
ไม่รู้ว่าชั้นไหน แต่เป็นกามาวจรภูมิแน่
ครั้งหนึ่งเมื่อข้าพเจ้าเจริญสมาธิจิตสงบแล้วรู้สึกกายเบาจิตเบามาก
ทันใดนั้นตนเองก็ไปปรากฎบนสวรรค์ชั้นนึง มีเขตแดนกำแพงล้อมรอบคล้ายอยู่ในราชวังอะไรทำนองนั้น ไปโผล่ในบริเวณที่เขากำลังจัดพิธีแต่งงานพอดีเลย!(ไม่รู้ชั้นไหนที่เข้ามีแต่งงานกันบ้างครับ)
แต่เรื่องมันไม่ง่ายแค่บังเอิญหลุดออกไปท่องเที่ยวเท่านั้น ยังไม่ทันได้ดูให้ทั่วเลย ก็พอดีเห็นราชบุรุษเขาจับคู่ให้คนนั้นกะคนนี้อยู่ พอพวกเขาเหลือบมาเห็นเรา!....อ่ะจ๊ากกกก!
"เออ นั้นไงคู่กะคนนั้น" (เขาเรียกเราอีกชื่อหนึ่ง ซึ่งเราก็จำไม่ได้แล้วเพราะกำลังตกใจ)
"อยู่ไม่ได้แล้ว" เร็วเท่าความคิด ในขณะนั้นข้าพเจ้าก็ออกวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต กระโดนไปบ้างทะลุกำแพงไปบ้าง มีความรู้สึกว่าเขาวิ่งไล่ตามเรามา...จังหวะนั้นความคิดหนึ่งก็ปรากฎขึ้น คือรู้ว่าถ้าเอาแต่วิ่งอยู่แบบนี้คงหนีไม่พ้นแน่ จึงตั้งสติว่าเรามาได้ไง? อ๋อ ลอยขึ้นมาเรื่อยๆ!...
หันไปมองดูพื้นเห็นปูด้วยแผ่นอิฐมอนสมัยโบราณ เอาล่ะว้า...
จึงแหวกทะลุลงมาในบัดดล ความรู้สึกเหมือนเรากำลังดำลงไปใต้น้ำลึกที่มีแรงกดอากาศเป็นชั้นๆ ขณะนั้นบังเอิญเหลือบมองไปเห็นแม่ชีกำลังนั่งสมาธิอยู่จึงร้องขอให้ช่วย แต่ท่านคงไม่ได้ยิน
รู้สึกเหมือนตัวเราจะลอยขึ้นไปที่เดิมอีกแหล่ จึงตัดสินใจ...
หน้า 34 ของ 41