รายการที่ 210 ล็อกเก็ตหน้าหนุ่มหลังเสือ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2549
รูปเหมือนที่สุดของหลวงพ่อตัดน่าบูชาก็หนีไม่พ้นวันถุมงคลประเภทล็อกเก็ตครับ
ล็อกเก็ตรุ่นนี้เรียกกันว่าล็อกเก็ตหน้าหนุ่ม สร้างเพียง 500 องค์ หายาก ด้านหน้าใส่ยันต์ประจำตัวของหลวงพ่อตัด คือ "อุสะหะสะปะสะอุ" ที่ท่านสำเร็จตั้งแต่สมัยยังเป็นพระหนุ่ม นอกจากหลวงพ่อตัดแล้วก็ยังไม่เคยพบเห็นว่ามีเกจิท่านไหนใช้ยันต์ตัวนี้ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่อเลยครับ
ด้านหลังล็อกเก็ตอุดด้วยผงพุทธคุณผสมว่าน และเกศาหลวงพ่อตัด ตะกรุด และที่สำคัญยังมี "เสือ" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิชาถนัดของหลวงพ่อตัด หากตามอ่านในกระทู้นี้จะรู้ว่าหลวงพ่อตัดท่านเชื่อมโยงกับเสือและเสกได้ขลังมากๆครับ สำหรับเสือที่นำมาฝังหลังล็อกเก็ตหน้าหนุ่มนี้เป็นเสือรุ่นสอง ด้วยประสบการณ์ของเสือที่หลวงพ่อตัดปลุกเสก บอกกันแบบปากต่อปากทำให้ปัจจุบันไม่มีออกมาหมุนเวียนแล้วครับ
องค์ที่นำมาแบ่งปันนี้สภาพสวยสมบูรณ์เต็มร้อย ผงไม่แตกร่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะพบสภาพที่ผงแตกและร่อนครับ มีเกศาหลวงพ่อตัดปรากฏให้เห็น เลี่ยมพลาสติกพร้อมอาราธนาขึ้นคอ แค่ได้เสือไปแขวนก็คุ้มแล้วครับ
มีผู้จองบูชาแล้วครับผม
วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย น้ำหนาว, 21 พฤษภาคม 2020.
หน้า 26 ของ 56
-
-
รายการที่ 211 สิงห์ฉายามหาอำนาจ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 1 ใน 100 ตัวครับ
เสือและสิงห์หลวงพ่อตัดท่านเสกได้ขลังจริง
ตัวที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นสิงห์งาแกะ สร้างจำนวน 100 ตัว ความหายากระดับ 10/10 ปลุกเสกพร้อมมีดหมอรุ่นแรกของหลวงพ่อเมื่อตอนปี 2550
วัตถุมงคลที่เด่นทางด้านมหาอำนาจแต่ก็แฝงไปด้วยเมตตาเหมือนกับจริตของหลวงพ่อตัดครับ สำหรับเสือและสิงห์
เลี่ยมพลาสติกพร้อมอาราธนาขึ้นคอครับผม
มีผู้จองบุชาแล้วครับผม
-
-
-
วันสองวันนี้มีสมาชิกมาสอบถามเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด วัดชายนาที่ดีทางด้านป้องกันสิ่งที่มองไม่เห็น วิญญาณ สัมภเวสี และคุณไสย์ต่างๆ เลยขอนำมารวบรวมไว้ให้อ่านกันครับ
วัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนา ที่เด่นทางด้านนี้ก็มีหลากหลายรูปแบบ และแต่ละรูปแบบนั้นก็มีประสบการณ์หนาหู เป็นที่หวงแหนแก่ศิษย์วัดชายนามากๆ
1. พระขรรค์
คำโบราณของเมืองเพชรจะพูดกันว่า "ปลัดอัน พระขรรค์เล่ม ผ้ายันต์ผืน เที่ยวเพชรได้สบาย" นั้นถูกสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน
พระขรรค์ของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองบางครกนั้นก็ถือว่าเป็นพระขรรค์อันดับ 1 ของประเทศไทย โดยเป็นที่รับรู้และยอมรับกันในทางสายเพชรบุรีว่า ตำราพระขรรค์หลวงพ่อโศก แท้ๆนั้นได้สืบทอดมาต่อที่วัดชายนา โดยตำรานั้นก็ได้บอกเอาไว้ว่าถ้าสร้างได้ถูกต้องแล้ว พระขรรค์นี้จะมีฤทธิ์เหลือประมาณ ใช้ทำลายล้างอาถรรพ์ หรือฆ่าได้แม้กระทั่งเทพเทวดา โดยหลวงพ่อตัดท่านก็ได้เรียนการหาวัสดุ การจารลงพระขรรค์ทั้งเล่มเล็กเล่มใหญ่ วิธีการเชิญ และปลุกเสกจนเจนจบในวิชาพระขรรค์
ซึ่งพระขรรค์ของหลวงพ่อตัดที่ออกมาอย่างเป็นทางการคือ พระขรรค์หล่อ 77 ที่สร้างเมื่อปี 2551 มีทั้งโลหะและไม้มงคล นอกจากนี้ก็ยังมีพระขรรค์ที่บรรดาศิษย์นำไม้มงคลไปแกะเป็นพระขรรค์นำมาให้หลวงพ่อตัดปลุกเสกก็มี
ด้วยประสบการณ์ที่หนาหู เรื่องราวแถบรอยต่อประเทศเขมรในการกัน-แก้ของ และป้องกันสิ่งที่มองไม่เห็นหลายๆครั้งของพระขรรค์หลวงพ่อตัด แม้ว่ารวมๆแล้วจะทำออกมาหลักไม่กี่ร้อยเล่ม แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่ควรค่าแก่การบูชา
2. เบี้ยแก้
เบี้ยแก้ของวัดชายนานั้นจะแตกต่างจากวัดอื่นๆตรงที่การบรรจุเบี้ยนั้นจะไม่ได้ใช้ปรอทในการบรรจุลงไป โดยหลวงพ่อตัดท่านกำหนดให้ใส่สิ่งของสำคัญที่ขาดไม่ได้ 3 อย่างคือ
1. ใบลานจากตาลปัตรเก่าที่ผ่านพิธีสวดพระอภิธรรม
2. ผงเหล็กน้ำพี้
3. ว่าพระตะบะ(ว่านนี้มีปลูกในวัดชายนา มีฤทธิ์ทางขับไล่ภูติผี)
ประสบการณ์ของเบี้ยแก้หนาหูครับ จริงๆก็เคยมีลงไว้ในกระทู้นี้ ลองไล่ย้อนอ่านดู แล้วจะรู้ว่าเบี้ยแก้สำนักชายนาก็ดีไม่แพ้สำนักไหนเช่นกัน
3. ตะกรุด-ผ้ายันต์ตรีนิสิงเห
พอดีส่วนตัวได้มีโอกาสเปิดอ่านบันทึกที่หลวงพ่อตัดท่านใช้จดวิชาต่างๆตอนช่วงที่ทำหนังสือของท่าน และมีวิชาหนึ่งที่หลวงพ่อตัดท่านได้จดไว้คือ "โองการตรีนิสิงเห" ซึ่งถือว่ายันต์ตรีนิสิงเหนี้เป็นยันต์ใหญ่ หลายๆคณาจารย์เลือกที่จะใช้เป็นยันต์ประจำตัว เคยไปสอบถามศิษย์รุ่นเก่าๆที่เคยบวชกับหลวงพ่อตัด ท่านก็บอกว่าองค์หลวงพ่อตัดท่านก็สำเร็จและเจนจบในวิชาตรีนิสิงเหด้วย ในยุคหลังๆที่มีการทำตะกรุดปั๊ม หลวงพ่อตัดท่านก็ได้สั่งให้ทำตัวปั๊มยันต์ตรีนิสิงเหออกมาคู่กับยันต์มหาอุด(ตะกรุดในบาตร) ที่มีประสบการณ์ลือลั่นไปทั่วประเทศ โดยเวลามีผู้ศรัทธาไปเล่าปัญหาที่พบเจอเกี่ยวกับวิญญาณ สิ่งที่มองไม่เห็น หลวงพ่อตัดท่านก็จะมอบตะกรุด หรือผ้ายันต์ที่เป็นยันต์ตรีนิสิงเหให้เสมอ ซึ่งหลังจากนำตะกรุด-ผ้ายันต์ไปอาราธนาบูชาแล้วก็ได้ผลกลับร้ายกลายเป็นดีทุกรายไป
4. มีดหมอ
มีดหมอของหลวงพ่อตัดนั้นท่านได้รับวิชาจากลูกศิษย์สายของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ทั้งวิชามนต์จินดามณีของหลวงพ่อเดิม วิชาการสร้างมีดหมอ การเสกมีดหมอ(มีในบันทึกที่หลวงพ่อท่านใช้จดวิชา) หลวงพ่อตัดท่านได้บอกว่าพระขรรค์กับมีดหมอมีวิธีการสร้าง การเสก การกำหนดจิตที่แตกต่างจากวัตถุมงคลชนิดอื่นๆ เพราะเป็นการเสกอาวุธให้เป็น"อาวุธเทพ" ให้มีอำนาจในการทำลายล้างสิ่งอัปมงคล เป็นพลังที่ร้อนแรง นอกจากนี้ท่านยังยกย่องว่ามีดหมอของหลวงพ่อเดิมนั้นดีที่สุด เป็นเทพศาสตราวุธ หรืออาวุธเทพที่แท้จริง หลวงพ่อตัดท่านจึงนับถือและยึดเอาหลวงพ่อเดิมเป็นแบบอย่างในการสร้างมีดหมอเพื่อความศักดิ์สิทธิ์อย่างสูงสุด
มีดหมอของหลวงพ่อตัดมีการสร้างหลายวาระ มีทั้งแบบที่ออกอย่างเป็นทางการและเอาไปขอเมตตาให้หลวงพ่อท่านเสกให้ก็มี
5. หนังวัวแดง
อีกหนึ่งของทนสิทธิ์ที่มีคุณในตัว
เมื่อสมัยหลวงพ่อท่านยังดำรงสังขารอยู่ก็ได้แจกให้ลูกศิษย์ลูกหาหลายคนไปพกพา แต่ท่านไม่เคยอวดอ้างสรรพคุณว่าของที่ท่านเสกให้จะดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ด้วยประสบการณ์ที่หลายๆคนเล่ากันมาคือด้านกันคุณผี-คุณคน ลมเพลมพัด ชะงัดนัก ขอยกประสบการณ์จากศิษย์ยุคเก่าท่านหนึ่งมาให้อ่านกัน
"**เรื่องที่หนึ่ง เกี่ยวกับภูติผีปีศาจ เมื่อประมาณเดีอนมีนาคมที่ผ่านมา(ปี 2555) มีพี่ที่นับถือคนหนึ่ง มาเล่าเหตุการณ์ของหลานชาย(อายุเลยเบญจเพศ) เล่าแบบกังวลมาก ๆ ว่าหลานชายเป็นมาหลายวันแล้ว..คือทุกครั้งเมื่อตื่นนอน จะเห็นผีเด็กผู้ชายมายืนอยู่หน้าประตูห้องนอนเป็นประจำ จนทำเกิดอาการกลัวจนทำให้ไม่กล้านอน จนขอบตาดำ ตาโหล ไม่เป็นอันทำงาน พี่เขาเองก็พยายามหาวัตถุมงคลของขลังเกจิยุคเก่า ๆ เพื่อจะนำไปให้หลานชายห้อย ก็ไม่ได้ผลซักเท่าไหร่ ผมเองพอดีนึกขึ้นมาได้ว่ามีหนังวัวแดงของหลวงพ่ออยู่ ซึ่งก็พกติดตัวอยูในกระเป๋าสะพายอยู่ เลยบอกกับพี่เขาถึงสรรพคุณหนังวัวแดงของหลวงพ่อ และได้มอบให้พี่เขานำไปให้หลานชายอาราธนาพกติดตัวไว้
หลังจากให้ไปแล้วก็ไม่ได้ไต่ถามอะไรจนมาถึงวันนี้..ได้พบกับพี่เขาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง..จึงได้ถามถึงว่าหลายชายเป็นยังไงบ้าง ก็ได้คำตอบว่า ดีขึ้นมากเลยทีเดียวแล้วก็หันไปเล่าให้คนรอบข้างฟังว่าวันนั้นได้หนังวัวแดงจากผมไป เป็นของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ขลังมาก ใช้ได้ผลเลยทีเดียว.......คนรอบข้างได้ฟังก็มีการถามหากันใหญ่ ผมเลยต้องรีบปลีกตัวหนีมาก่อน..............ไม่ใช่อะไรครับกลัวงานเข้าครับ
**ส่วนเรื่องที่สอง ต่อจากเรื่องแรก เกี่ยวกับเรื่องป้องกันคุณไสย์เรื่องนี้แปลกตรงที่ว่า หลังจากที่ให้หนังวัวแดงพี่คนแรกไป จากนั้น สองวันเห็นจะได้ มีลูกน้องของเพื่อนได้มาหาที่สำนักงานแบบตั้งใจมาเลย มาถามหาผม พี่..พี่ครับหัวหน้าผมให้มาขอหนังวัวแดงจากพี่ครับ(งงมากมันรู้ได้ยังไงวะว่าเรามี ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยบอกใครเลย) แต่ก็ช่างมัน เลยถามไปว่าจะเอาไปทำอะไร ลูกน้องเพื่อนผมจึงเล่าให้ฟังว่า น้องเมียเขาโดนทำของครับ คือมีเศษอะไรไม่รู้ออกมาจากตรงนั้น......ไม่ต้องบรรยายนะครับว่าตรงไหนเอาเป็นว่าตรงนั้นก็แล้วกัน อยากได้หนังวัวแดงจากพี่ไปแกคุณไสย์ให้น้องเมียหน่อยครับ ผมเองฟังแบบ..งง..งง.. เชื่อสองส่วน..ไม่เชื่อสิบส่วน.. แต่ก็ได้หยิบหนังวัวแดงของหลวงพ่อ ให้ไป 1 ชิ้นทำไงได้ก็เขามาขอถึงที่ ก็ตามคำของหลวงพ่อครับ "คนขอคนอยากได้ คนไม่ให้คนหน้าด้าน" หลังจากให้ไปก็ไม่ได้เจอกันอีกเพราะไม่รู้จะเจอได้อย่างไร เลยไม่ได้ถามจากปากตัวเอง เพียงแต่รู้จากลูกน้องผมเอง ตอนผมไม่อยู่ ว่ามีคนมาหา แล้วถามว่าหนังวัวแดงที่มาขอผมไปวันนั้น ของหลวงพ่ออะไร........เล่าสู่กันฟังนะครับประสบการณ์ตรงจากการเป็นผู้ให้ ส่วนเรื่องที่เล่านี้ ผู้นำไปใช้มาเล่าให้ฟังภายหลังจากนำไปบูชาอาราธนาแล้ว บังเกิดผลในทางที่ดี"
6. ไม้ทองระอา(ชองระอา)
เมื่อก่อนหากเคยไปวัดชายนาจะเห็นท่อนไม้วางไว้บนฝาโอ่งอยู่เป็นประจำ หากใครถามหลวงพ่อตัดท่านว่าคืออะไร หลวงพ่อท่านก็จะตอบมาอย่างไวว่า "ที่ทับฝาโอ่ง" แต่จริงๆแล้วไม้นั้นคือไม้ทองระอา ที่เป็นอีกหนึ่งไม้มงคลที่ใช้ป้องกันคุณไสย์ กันการกระทำ เรื่องที่สืบทอดต่อกันมาคือจะมีกลุ่มชอง(ชนเผ่าทางแถบกาญจนบุรี) จะชำนาญเรื่องการปล่อยของมาก และไม่มีใครที่พวกชองปล่อยของไม่เข้า ยกเว้นก็แต่ไม้นี้ ชาวบ้านแถบนั้นจึงนิยมพกพาไม้ชองระอา หรือเรียกอีกชื่อคือทองระอา ซึ่งดีทางด้านกันคุณไสย์ กันกระทำ และเป็นยาด้วย พระที่ออกธุดงค์ก็มักจะมีไม้ทองระอานี้ติดตัวไว้เสมอ ด้วยความที่หลวงพ่อตัดท่านก็ได้ศึกษาตำราว่านยาจนช่ำชองแล้ว ท่านก็เล็งเห็นถึงความวิเศษของไม้นี้ท่านจึงมีเก็บไว้ นอกจากนี้ลูกศิษย์ลูกหาก็ได้นำไม้ทองระอาไปทำเป็นวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆเช่น พระขรรค์ ปลัดขิก หรือแม้กระทั่งเอามาตัดเป็นข้อๆ ไปขอให้หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกให้แล้วพกติดตัวก็มี แต่ก็มีคำเตือนอย่างหนึ่งคือไม่ควรนำไปใส่ไว้ในเก๊ะเก็บเงิน ตั้งหน้าร้านค้า เนื่องจากชื่อไม่ค่อยจะดีนัก(ทองระอา)
นี่คือวัตถุมงคลหลักๆที่ใช้ทางด้านป้องกันภูติผี วิญญาณ คุณไสย์ กันกระทำย่ำยีต่างๆของหลวงพ่อตัด วัดชายนา
โดยในปัจจุบันนี้วัตถุมงคลของหลวงพ่อท่านก็เป็นที่ตามหาแก่ผู้ศรัทธา ซึ่งหลายๆอย่างก็เหลือแค่เพียงรูปภาพให้ได้ชมกันเท่านั้น เพราะวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดส่วนใหญ่จะไปอยู่ในมือผู้ศรัทธาที่ได้นำไปใช้บูชาจริงๆ มิได้เก็บเพื่อหวังเก็งกำไร
หากมีโอกาสก็ขอให้เก็บไว้เถิดครับ ติดตัว ขึ้นคอ แขวนเอวไว้ไม่หนักเปล่าแน่นอน
ไผ่ บ้านพุทธคุณ
*หมายเหตุ รูปประกอบนี้พี่ Pook เป็นคนถ่ายไว้โดยการแอบถ่าย หากหลวงพ่อตัดท่านเห็นเข้าแล้วอาจจะโดนเอ็ดตะโรเอาอย่างแน่นอน เพราะหลวงพ่อตัดท่านไม่ชอบให้คนถ่ายรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ท่านนุ่งห่มจีวรไม่เรียบร้อย นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลวงพ่อท่านให้ความสำคัญมากๆครับ
พระแท้ที่เหมือนเดินออกมาจากพระไตรปิฎก
-
รายการที่ 212 ตะกรุดยันต์ตรีนิสิงเห เนื้อทองแดงเก่า หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 ตอกโค๊ด "หลวงพ่อตัด"
สืบเนื่องจากที่มีผู้ศรัทธามาปรึกษาและขอแบ่งบูชาวัตถุมงคลที่ใช้ "ป้องกัน" ก็เลยค้นเจอตะกรุดยันต์ตรีนิสิงเห เนื้อทองแดงเก่าที่ต้องบอกว่าเป็นของ "คลาสสิค" มาพร้อมโค๊ด"หลวงพ่อตัด" ซึ่งปกติจะเจอแต่เนื้อตะกั่วและหลายคนไม่สะดวกที่จะแขวนคอเพราะค่อนข้างมีน้ำหนัก ชุดนี้มีความยาวที่ 2.5 นิ้ว ขึ้นคอสวยมากครับผม
อีกหนึ่งวัตถุมงคลที่เอาไว้ติดบ้าน ติดรถ ติดตัวไว้เวลาไปต่างถิ่นดีนัก อีกหนึ่งขวัญใจนักเดินทางครับ หลังจากแบ่งผู้ศรัทธาไป ตอนนี้ผมมีเหลืออยู่ 6 ดอกจึงนำมาแบ่งให้บูชาราคาพิเศษๆกันครับ
มีผู้จองบูชาทั้งหมดแล้ว
-
-
-
-
-
จองตระกรุด1ดอกครับ
-
-
ลงโชว์ไว้เป็นข้อมูลครับ
พระขรรค์หล่อ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551
เล่มนี้เป็นเนื้อเงินชุบทองเค จำนวนสร้างทั้งหมด 9 เล่ม
หลวงพ่อตัดลงเหล็กจารตามตำราของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองฯเต็มเล่ม
-
รากยารที่ 213 ปลัดขิกไม้มะยมตายพราย หลวงพ่อตัด วัดชายนา ยุคต้น
ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...
โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม
ปลัดขิกที่นำมาแบ่งปันตัวนี้เป็นไม้มะยมตายพราย ยุคต้น ศิลป์มาตรฐาน มีเอกลักษณ์ จารหมึกโดยหมอหอม ศิษย์ฆราวาสของหลวงพ่อแดงและหลวงพ่อตัด ซึ่งปัจจุบันหมอหอมเสียชีวิตไปแล้ว จึงถือว่าลายมือนี้เป็นลายมือที่เล่นแล้วจบครับ
สภาพสวยสมบูรณ์ ตัวนี้พิเศษ ติดเทียนที่หลวงพ่อตัดท่านหยดเทียนและบริกรรมคาถามนต์จินดามณีตอนปลุกเสกเพิ่มไปบริเวณหัวปลัดขิกด้วย เป็นที่นิยมและหายากครับ นำมาแบ่งปันราคาเบาๆ
มีผู้จองบูชาแล้วครับผม
-
รายการที่ 214 ผ้ายันต์จีวรจารมือขนาดบูชา หัวใจพระสิวลี+นะหน้าทอง หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2541
ผ้ายันต์จีวรจารมือที่นำมาแบ่งปันนี้จารมือยันต์คาถาหัวใจพระสิวลีถอด และยันต์นะหน้าทอง หลวงพ่อตัดปลุกเสกฤกษ์เสาร์ 5 ปี 2541 เป็นวัตถุมงคลที่ต้องบอกว่าไม่ได้พบเจอทั่วไปง่ายๆครับ
ผ้ายันต์จีวรผืนนี้มีขนาด 9*8 นิ้ว ปั๊มตราวัด 2 ตำแหน่ง
เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย เอาไปติดบ้าน ร้านค้า เป็นมงคลนัก หากเป็นวัตถุมงคลทางด้านเมตตาโชคลาภค้าขายแล้วก็ต้องบอกว่าไม่แปลกหากหลวงพ่อตัดท่านจะเสกด้วยวิชาโภคทรัพย์และวิชามนต์จินดามณีของท่าน
มีผู้จองบูชาแล้วครับผม
-
-
-
-
"ล่วงรู้วาระจิต"
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของพี่อดุลย์ ชวลิตพร ผู้สร้างเหรียญอายุวัฒนมงคลให้กับหลวงพ่อตัด วัดชายนา เรื่องราวเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2550
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการสร้างพระกริ่งเสาร์ 5 ของหลวงพ่อตัด โดยในส่วนของเนื้อทองคำจัดสร้างทั้งหมด 9 องค์ โดยผู้จองจะได้มาจับฉลากเลขขององค์พระที่กุฏิหลวงพ่อตัด ซึ่งพี่อดุลย์ก็เป็นหนึ่งในผู้จองพระกริ่งเสาร์ 5 เนื้อทองคำนี้ไว้ด้วย
ในวันที่จับฉลากที่กุฏิหลวงพ่อตัด ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ผู้ที่สั่งจองก็กำลังนั่งคุย และพร้อมที่จะจับฉลากกันแล้ว พี่อดุลย์ก็ได้คิดในใจว่า
"อยากได้พระกริ่งเนื้อทองคำเบอร์ 9 เหลือเกิน ทำยังไงถึงจะได้บ้าง รู้จักคนสร้างที่สร้างพระกริ่งนี้ให้หลวงพ่อตัดก็ไม่รู้จัก ทำยังไงดี คนก็ทยอยกันเข้าไปจับฉลากแล้ว"
สิ้นการคิดในใจ หลวงพ่อตัดท่านก็หันมามองหน้าแล้วก็พูดกับพี่อดุลย์ว่า
"มึงอยุ่เฉยๆเถอะ เดี๋ยวมึงก็ได้"
พี่อดุลย์ได้ฟังคำหลวงพ่อก็อึ้งไปชั่วขณะ
เลยปล่อยให้คนที่จองพระกริ่งทองคำไว้ทยอยเจ้าไปจับฉลากกันทีละคน ซึ่งพี่อดุลย์ก็ได้เข้าไปจับฉลากเป็นคนสุดท้าย และผลออกมาว่าพี่แกก็ได้พระกริ่งเสาร์ 5 เนื้อทองคำหมายเลข 9 ตามที่ใจคิดและตามที่หลวงพ่อตัดท่านได้บอกไว้
-
เรื่องราวที่บันทึกจากป๋าชัช ศิษย์เก่าแก่ท่านหนึ่งของหลวงพ่อตัดเกี่ยวกับ "รุ้งกินน้ำ"
ธรรมชาติ....เมื่อหลังฝนหยุดตกใหม่ๆ จะมีปรากฎการณ์ลำแสงสายรุ้งขึ้นโค้งเป็นแนวครึ่งวงกลมพาดผ่านท้องฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง ผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยก่อนมักจะเรียกปรากฎการณ์เช่นนี้ว่า รุ้งกินน้ำ จนเกิดมีคำพังเพยมาแต่โบราณว่า ยามเมื่อฟ้าหลังฝน ทุกอย่างก็จะสวยสดใส เปรียบเสมือนสายรุ้งที่พาดผ่านท้องฟ้า สีสันสดสวยดูสดใสเบิกบานตระการตาเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก ยากที่ใครจะปฎิเสธความงดงามเช่นนั้นได้
ในปีพ.ศ. 2549 ยามบ่ายแก่ๆ วันหนึ่ง ณ. ที่วัดชายนาแห่งนี้ก็เหมือนกัน หลังพายุฝนซึ่งตกกระหน่ำมาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงสายๆ ได้สงบลง หลวงพ่อตัดได้ลุกขึ้นเดินออกจากกุฏิที่รับแขกเพื่อสำรวจและปฎิบัติภาระกิจประจำวันของท่าน โดยมีคณะลูกศิษย์ลูกหาประมาณ 4-5 คนเดินติดตามหลวงพ่อไปด้วย ซึ่งหนึ่งในจำนวนคณะลูกศิษย์ที่ติดตามนั้นก็มีพี่ศักดิ์ (ผู้จัดสร้างวัตถุมงคลถวายหลวงพ่อหลายรุ่น รวมถึงพระกริ่งปวโร ปัจจุบันท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว) ปรากฏว่าบนท้องฟ้าบริเวณวัดชายนา ได้เกิดปรากฎการณ์ ฟ้าหลังฝน สายรุ้งกินน้ำพาดผ่านท้องฟ้าเหนือวัดชายนา ทางด้านทิศตะวันออก คณะลูกศิษย์ต่างพากันพูดถึงเรื่องพระกริ่งตัดรุ้งของพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าๆสำนักต่างๆที่มีอภิญญาทรงสมาบัติสูงกว่าพระเกจิที่ทรงฌาณทั่วไป ว่าสามารถตัดสายรุ้งขาดได้
ระหว่างนั้นมีลูกศิษย์คนหนึ่งได้เปรยๆ ทีเล่นทีจริงถามหลวงพ่อว่า
"พระกริ่งที่หลวงพ่อปลุกเสกตัดรุ้งขาดได้หรือเปล่า" (สงสัยจะลองวิชาหลวงพ่อ ดีนะที่ไม่โดน......สงสัยวันนี้หลวงพ่ออารมณ์ดีเป็นพิเศษ)
หลวงพ่อตัดก็ตอบว่า
"ไม่รู้เอามาลองดู ไหนพวกมึงอ่ะใครมีบ้าง"
"เดี๋ยวไปเอาที่ตู้บูชาวัตถุมงคลให้ครับ" ศิษย์คนที่ถามรีบตอบพร้อมวิ่งไปเอาพระกริ่งเนื้อนวะโลหะอุดผงจากในตู้สำหรับบูชาวัตถุมงคล
พอกลับมาก็เอาพระกริ่งนั้นส่งให้หลวงพ่อ หลวงพ่อก็รับพระกริ่งมากำไว้ในมือแล้วทำท่าฟันฉับไปที่รุ้งกินน้ำ (จินตนาการตามหน่อยนะครับจะได้เห็นภาพ เหมือนกับท่านเอามีดดาบฟาดฟันตัดอากาศ....ประมาณนั้น) แล้วท่านก็เดินกลับเข้าไปยังกุฏิเพื่อนั่งพักผ่อนยังที่ประจำของท่าน
ปล่อยให้คณะลูกศิษย์ที่ชอบลองของลองวิชาแหงนหน้าแหงนคอมองรุ้งกินน้ำกันจนเมื่อยหน้าเมื่อยคอซะงั้น
สักพักปรากฎว่ารุ้งกินน้ำขาดจริงๆ ขาดตามรอยแนวหลวงพ่อฟัน การขาดไม่ใช่ขาดในทันที.....คือรอยที่ถูกฟันหรือถูกตัดนั้นจะค่อย ๆ เบาบาง เจือจางลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเห็นขาดเป็นสองสายหรือสองท่อนชัดเจนเลยทีเดียว ทำเอาคณะของพี่ศักดิ์อึ้งกันทุกคน
*****ความจริงแล้วเหตุการณ์ เรื่องพระกริ่งหลวงพ่อตัด วัดชายนา สามารถตัดสายรุ้งขาดนั้น ไม่ใช่เพียงพระกริ่ง ปวโร เท่านั้น เคยมีเหตุการณ์ลักษณะทำนองเช่นนี้ เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้กับพระกริ่งรุ่นแรก ปี 2543 และตะกรุดที่หลวงพ่อตัดท่านจารมือเองด้วยเช่นกัน...ถ้าท่านได้ติดตามข่าวสารของหลวงพ่อตัด วัดชายนา อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ก็คงพอได้ฟังได้ยินกันมาบ้างไม่มากก็น้อย*****
ความตอนหนึ่งหลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า การตัดสายรุ้งขาดในแต่ละครั้งนั้น จะทำให้อายุผู้กระทำนั้นสั้นลง อย่าไปทำเล่น
หมายเหตุ *โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านและรับฟังข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ด้วยตัวท่านเอง*
----------
สำหรับความเป็นมาของพระกริ่งปวโร พี่ศักดิ์(ผู้สร้างถวาย)ได้ไปปรึกษาหลวงพ่อตัดว่าอยากทำพระกริ่งถวายหลวงพ่อ เพราะเหตุด้วยหลังจากที่พระกริ่งรุ่นแรก และพระกริ่งบวรกิจโกศลที่สร้างน้อยแสนน้อยได้หมดจากวัดไปแล้ว จะมีก็แต่พระกริ่งตลาดที่หลวงพ่อตัดท่านสั่งให้คนไปซื้อมาปลุกเสก ตอกโค๊ดแล้วก็แจก เห็นดังนี้จึงขออนุญาตหลวงพ่อจัดสร้างถวาย ซึ่งหลวงพ่อตัดท่านก็ได้บอกว่า
"ก็ทำสิ ทำ"
พี่ศักดิ์และคณะก็ได้ถามหลวงตัดท่านว่า
"จะทำเป็นกริ่งอะไรดี? ฉลองอายุมั้ยหลวงพ่อ?"
หลวงพ่อตัดท่านก็ตอบมาอย่างรวดเร็ว
"จะไปทำอะไรล่ะ กริ่งปวโรไง ปวโร"
ก็มีการตกลงสร้างเป็นพระกริ่งปวโร
มีการเอาแบบมาให้หลวงพ่อตัดดู และมีการแก้แบบทั้งหมด 1 ครั้ง จนเป็นที่พอใจของหลวงพ่อจึงทำการหล่อเป็นองค์พระขึ้น โดยชนวนตามที่มีการบันทึกไว้ได้แก่
1.ชนวนพระกริ่งรุ่นแรก วัดชายนา ปี 2543
2.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อตัด วัดชายนา เนื้อ เงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น
3.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น
4.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่ออิฏฐ์ วัดจุฬามณี เนื้อเงิน ทองแเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น
5.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น
6.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่อตี๋ วัดบางคณฑีใน เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น
7.แผ่นยันต์จารมือหลวงพ่ออุดม วัดประทุมคณาวาส เนื้อเงิน ทองเหลือง ทองแดง รวม 3 แผ่น
8.แผ่นยันต์หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
9.แผ่นยันต์หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
และยังมีชนวนพระอีกหลายรุ่น ที่ใส่รวมเข้าไปแต่ไม่ได้จดบันทึกไว้อีกพอสมควร
ด้านล่างขององค์พระ หลวงพ่อตัดท่านบอกให้ใช้วิธีการอุดผงแทนอุดกริ่ง โดยหลวงพ่อท่านก็เป็นผู้มอบเกศาของท่าน และผงที่ท่านลบไว้ให้มาบรรจุลงก้นองค์พระกริ่งปวโรนี้ด้วย
มวลสารที่ใช้อุดก็จะมี
- ผงล็อกเก็ตรุ่นแรกหลวงพ่อตัด (ที่พระอาจารย์ทินท่านบอกว่าเป็นผงที่ดีที่สุด)
- ผงล็อกเก็ตโต๊ะหมู่หลวงพ่อตัด
- ผงวิเศษที่หลวงพ่อตัดท่านลบไว้(หลวงพ่อตัดท่านเจนจบในวิชาการลบผงเช่นกัน ไว้ทำข้อมูลแล้วจะเอามาลงให้ได้อ่านกันอีกครั้งเรื่องการลบผงของหลวงพ่อ)
- เกศาของหลวงพ่อตัด
โดยอุดพระกริ่งกันที่วัดทั้งหมด
หลังจากอุดผงเสร็จแล้วก็นำเข้าภายในห้องหลวงพ่อ ปลุกเสกอยู่เดือนกว่าๆก่อนที่จะจำหน่ายจ่ายแจก
ถือว่าพระกริ่งรุ่นนี้เป็นของวิเศษอีกหนึ่งรุ่นของหลวงพ่อตัดที่ท่านทำไว้ให้ "แทนตัวท่าน" ที่สำคัญราคาเช่าหายังไม่สูงมากนัก อยากแนะนำหากใครไม่มีวัตถุมงคลที่มั่นใจที่จะ "ฝากชีวิต" ไว้ด้วยได้ก็แนะนำอยากให้บูชาพระกริ่งปวโร ของหลวงพ่อตัด วัดชายนาครับ
วันนี้ก็น่าจะยาวแล้ว เกรงว่าจะยาวเกินไป เดี๋ยวไว้รอบหน้าผมค่อยมาลงปาฏิหาริย์ที่เกิดกับของหลานพี่ศักดิ์และพระกริ่งปวโรให้อ่านกันครับผม
หน้า 26 ของ 56