วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รายการที่ 267 สมเด็จเยี่ยวชะนี พิมพ์ฐานสามชั้น หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548(2)

ย้อนเล่าอีกครั้งกับ "ผงเยี่ยวชะนี"

"ผงเยี่ยวชะนี" ฟังจากชื่อแล้วไม่น่าที่จะนำมาสร้างวัตถุมงคลได้ แต่ความจริงแล้วผงเยี่ยวชะนีเป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ยาเสน่ห์ชนิดนี้สร้างขึ้นจากส่วนผสมหลายชนิดเช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง และมวลสารลี้ลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำรา จนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัดจึงให้นำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่น เพื่อให้เกิดผลทางมหาเสน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย นอกจากนั้น ในการเสกพระเครื่องที่ให้ผลทางเมตตา หลวงพ่อตัด ท่านจะเสกหนุนด้วยมนต์จินดามณีด้วยเสมอ อันมนต์จินดามณีของวัดชายนานั้น เคยสอบทานแล้วไม่ซ้ำกับสำนักใด เป็นมนต์จินดามณีที่มีแรงครูแรงมาก สอบสายครูย้อนไปจนถึงแม่นางพันธุรัตน์ ขอบารมีให้ช่วยน้อมนำมาซึ่งลาภสักการะ โชคลาภแก้วแหวน เงินทองทั้งหลาย เปรียบเหมือนเป็นมนต์ที่แม่มีเมตตาต่อลูก เปรียบดังแก้วสารพัดนึกจึงเรียกว่า "มนต์จินดามณี" มนต์บทนี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจึงจะเมตตาช่วยเหลือได้เต็มที่ ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า พระผงของวัดชายนาชุดที่มีส่วนผสมของผงเยี่ยวชะนีไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเยี่ยวชะนีหรือขุนแผนเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์อย่างมากมาย ทั้งเรื่อง เสน่ห์ เมตตามหาละลวย และโชคลาภ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

ด้วยประสบการณ์ต่างๆที่ศิษย์เจอก็ได้กำเนิดวลีในหมู่ศิษย์ที่ว่า "ด้านตะวันออกมีผงพราย(หลวงปู่ทิม) ด้านตะวันตกต้องผงเยี่ยวชะนี"

สำหรับพระสมเด็จชุดนี้เป็นอีกหนึ่งชุดมาตรฐานในตำนานที่ราคายังเบามากครับ เนื่องจากเป็นชุดที่พระอาจารย์ทินท่านแกะพิมพ์เอง ผมมมวลสารเอง เรียกว่าท่านผสมผงเยี่ยวชะนี และว่านทางเมตตามหานิยมแบบไม่หวง นอกจากที่ท่านยังเป็นผู้กดพิมพ์เอง กดไปได้เพียง 30 องค์ บล็อกก็เกิดการชำรุด จึงนำไปทำเป็นสมเด็จพิมพ์เล็บมือแทน ก่อนจะนำไปจารหลังด้วยปากกาและนำไปให้หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสก จึงทำให้สมเด็จชุดนี้มีจำนวนน้อยมาก แทบไม่มีหมุนเวียนออกมาในตลาดเลย เนื้อหาแต่ละองค์ก็มีมนต์เสน่ห์ต่างกัน ด้านหลังเป็นลายผ้าจากการวางบนผ้าหลังจากที่กดพิมพ์เสร็จเป็นเอกลักษณ์
ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าราคายังจับต้องได้ เนื่องจากยังไม่มีคนรู้ประวัติมากนัก เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ที่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่นิยมชื่นชอบในวัตถุมงคลด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย เอาไปแขวนคอได้ไม่หนักเปล่าแน่นอนครับ

ผมได้มาจำนวนหนึ่งก็มีผู้ศรัทธาแบ่งไปบางส่วนทันที มีเหลือมาลงแบ่งในนี้ไม่กี่องค์เท่านั้น ด้วยจำนวนสร้างก็ต้องบอกว่าหมดนี่ก็ไม่รู้จะไปหาจากที่ไหนมาแบ่งได้แล้วครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 268 สมเด็จเยี่ยวชะนี พิมพ์ฐานสามชั้น หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548(3)

ย้อนเล่าอีกครั้งกับ "ผงเยี่ยวชะนี"

"ผงเยี่ยวชะนี" ฟังจากชื่อแล้วไม่น่าที่จะนำมาสร้างวัตถุมงคลได้ แต่ความจริงแล้วผงเยี่ยวชะนีเป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ยาเสน่ห์ชนิดนี้สร้างขึ้นจากส่วนผสมหลายชนิดเช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง และมวลสารลี้ลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำรา จนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัดจึงให้นำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่น เพื่อให้เกิดผลทางมหาเสน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย นอกจากนั้น ในการเสกพระเครื่องที่ให้ผลทางเมตตา หลวงพ่อตัด ท่านจะเสกหนุนด้วยมนต์จินดามณีด้วยเสมอ อันมนต์จินดามณีของวัดชายนานั้น เคยสอบทานแล้วไม่ซ้ำกับสำนักใด เป็นมนต์จินดามณีที่มีแรงครูแรงมาก สอบสายครูย้อนไปจนถึงแม่นางพันธุรัตน์ ขอบารมีให้ช่วยน้อมนำมาซึ่งลาภสักการะ โชคลาภแก้วแหวน เงินทองทั้งหลาย เปรียบเหมือนเป็นมนต์ที่แม่มีเมตตาต่อลูก เปรียบดังแก้วสารพัดนึกจึงเรียกว่า "มนต์จินดามณี" มนต์บทนี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจึงจะเมตตาช่วยเหลือได้เต็มที่ ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า พระผงของวัดชายนาชุดที่มีส่วนผสมของผงเยี่ยวชะนีไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเยี่ยวชะนีหรือขุนแผนเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์อย่างมากมาย ทั้งเรื่อง เสน่ห์ เมตตามหาละลวย และโชคลาภ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

ด้วยประสบการณ์ต่างๆที่ศิษย์เจอก็ได้กำเนิดวลีในหมู่ศิษย์ที่ว่า "ด้านตะวันออกมีผงพราย(หลวงปู่ทิม) ด้านตะวันตกต้องผงเยี่ยวชะนี"

สำหรับพระสมเด็จชุดนี้เป็นอีกหนึ่งชุดมาตรฐานในตำนานที่ราคายังเบามากครับ เนื่องจากเป็นชุดที่พระอาจารย์ทินท่านแกะพิมพ์เอง ผมมมวลสารเอง เรียกว่าท่านผสมผงเยี่ยวชะนี และว่านทางเมตตามหานิยมแบบไม่หวง นอกจากที่ท่านยังเป็นผู้กดพิมพ์เอง กดไปได้เพียง 30 องค์ บล็อกก็เกิดการชำรุด จึงนำไปทำเป็นสมเด็จพิมพ์เล็บมือแทน ก่อนจะนำไปจารหลังด้วยปากกาและนำไปให้หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสก จึงทำให้สมเด็จชุดนี้มีจำนวนน้อยมาก แทบไม่มีหมุนเวียนออกมาในตลาดเลย เนื้อหาแต่ละองค์ก็มีมนต์เสน่ห์ต่างกัน ด้านหลังเป็นลายผ้าจากการวางบนผ้าหลังจากที่กดพิมพ์เสร็จเป็นเอกลักษณ์
ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าราคายังจับต้องได้ เนื่องจากยังไม่มีคนรู้ประวัติมากนัก เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ที่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่นิยมชื่นชอบในวัตถุมงคลด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย เอาไปแขวนคอได้ไม่หนักเปล่าแน่นอนครับ

ผมได้มาจำนวนหนึ่งก็มีผู้ศรัทธาแบ่งไปบางส่วนทันที มีเหลือมาลงแบ่งในนี้ไม่กี่องค์เท่านั้น ด้วยจำนวนสร้างก็ต้องบอกว่าหมดนี่ก็ไม่รู้จะไปหาจากที่ไหนมาแบ่งได้แล้วครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 269 สมเด็จเยี่ยวชะนี พิมพ์ฐานสามชั้น หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548(4)

ย้อนเล่าอีกครั้งกับ "ผงเยี่ยวชะนี"

"ผงเยี่ยวชะนี" ฟังจากชื่อแล้วไม่น่าที่จะนำมาสร้างวัตถุมงคลได้ แต่ความจริงแล้วผงเยี่ยวชะนีเป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ยาเสน่ห์ชนิดนี้สร้างขึ้นจากส่วนผสมหลายชนิดเช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ดอกกาหลง และมวลสารลี้ลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำรา จนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัดจึงให้นำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่น เพื่อให้เกิดผลทางมหาเสน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย นอกจากนั้น ในการเสกพระเครื่องที่ให้ผลทางเมตตา หลวงพ่อตัด ท่านจะเสกหนุนด้วยมนต์จินดามณีด้วยเสมอ อันมนต์จินดามณีของวัดชายนานั้น เคยสอบทานแล้วไม่ซ้ำกับสำนักใด เป็นมนต์จินดามณีที่มีแรงครูแรงมาก สอบสายครูย้อนไปจนถึงแม่นางพันธุรัตน์ ขอบารมีให้ช่วยน้อมนำมาซึ่งลาภสักการะ โชคลาภแก้วแหวน เงินทองทั้งหลาย เปรียบเหมือนเป็นมนต์ที่แม่มีเมตตาต่อลูก เปรียบดังแก้วสารพัดนึกจึงเรียกว่า "มนต์จินดามณี" มนต์บทนี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจึงจะเมตตาช่วยเหลือได้เต็มที่ ด้วยเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่า พระผงของวัดชายนาชุดที่มีส่วนผสมของผงเยี่ยวชะนีไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเยี่ยวชะนีหรือขุนแผนเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์อย่างมากมาย ทั้งเรื่อง เสน่ห์ เมตตามหาละลวย และโชคลาภ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

ด้วยประสบการณ์ต่างๆที่ศิษย์เจอก็ได้กำเนิดวลีในหมู่ศิษย์ที่ว่า "ด้านตะวันออกมีผงพราย(หลวงปู่ทิม) ด้านตะวันตกต้องผงเยี่ยวชะนี"

สำหรับพระสมเด็จชุดนี้เป็นอีกหนึ่งชุดมาตรฐานในตำนานที่ราคายังเบามากครับ เนื่องจากเป็นชุดที่พระอาจารย์ทินท่านแกะพิมพ์เอง ผมมมวลสารเอง เรียกว่าท่านผสมผงเยี่ยวชะนี และว่านทางเมตตามหานิยมแบบไม่หวง นอกจากที่ท่านยังเป็นผู้กดพิมพ์เอง กดไปได้เพียง 30 องค์ บล็อกก็เกิดการชำรุด จึงนำไปทำเป็นสมเด็จพิมพ์เล็บมือแทน ก่อนจะนำไปจารหลังด้วยปากกาและนำไปให้หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสก จึงทำให้สมเด็จชุดนี้มีจำนวนน้อยมาก แทบไม่มีหมุนเวียนออกมาในตลาดเลย เนื้อหาแต่ละองค์ก็มีมนต์เสน่ห์ต่างกัน ด้านหลังเป็นลายผ้าจากการวางบนผ้าหลังจากที่กดพิมพ์เสร็จเป็นเอกลักษณ์
ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าราคายังจับต้องได้ เนื่องจากยังไม่มีคนรู้ประวัติมากนัก เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ที่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่นิยมชื่นชอบในวัตถุมงคลด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย เอาไปแขวนคอได้ไม่หนักเปล่าแน่นอนครับ

ผมได้มาจำนวนหนึ่งก็มีผู้ศรัทธาแบ่งไปบางส่วนทันที มีเหลือมาลงแบ่งในนี้ไม่กี่องค์เท่านั้น ด้วยจำนวนสร้างก็ต้องบอกว่าหมดนี่ก็ไม่รู้จะไปหาจากที่ไหนมาแบ่งได้แล้วครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 270 ปลัดขิกหล่อโลหะรุ่นแรก เนื้อปีกเครื่องบิน หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2549

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ปลัดขิกหล่อนี้เป็นปลัดขิกที่หลวงพ่อตัดท่านวางรูปแบบเองครับ ท่านบอกไว้ว่า "ปลัดของกูต้องมีไข่" ความเห็นส่วนตัวคือถ้าหลวงพ่อท่านดำริให้ทำอะไร จะมีความหมายลึกๆเสมอครับ ตัวนี้เป็นเนื้อปีกเครื่องบิน น้ำหนักเบามากๆ ในส่วนของเนื้อนวะ และเงินซึ่งจะมีน้ำหนักมาก มีศิษย์หลายๆคนน้ำไปเลี่ยมพลาสติกแขวนพวงกุญแจสวยมากครับ
ในส่วนของปลัดขิกหล่อนี้ ปัจจุบันปีๆนึงจะออกมาหมุนเวียนเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นครับ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งของหายากน่าใช้บูชาครับ ตัวนี้สวยมาก สภาพไม่เคยผ่านการใช้ อยู่ในซองเดิมตั้งแต่ปี 2549 ในส่วนของรอยจารเป็นรอยจารของพระอาจารย์ทินครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 271 เพชรพญาธรหล่อรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551 เนื้อทองแดง

เพชรพญาธรของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ขึ้นชื่อมานานแล้วครับ ทั้งเมตตามหานิยม โภคทรัพย์ และมหาเสน่ห์ เรื่องเล่าที่หลายๆคนทราบดีว่ามีลูกศิษย์หลวงพ่อตัดเอาแผ่นเพชรพญาธรไปยื่นให้หลวงปู่กาหลง หมายใจว่าจะให้ท่านเสกเพิ่ม แต่หลวงปู่กาหลงท่านได้พูดขึ้นว่า

“ในสมัยนี้ยังมีคนเสกเพชรพญาธรได้แรงขนาดนี้อีกหรือ”

ในส่วนของเพชรพญาธรหล่อรุ่นแรกนี้ หลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกไตรมาสปี 2551 ของออกมาหมุนเวียนน้อยมากๆ นอกจากนี้ยังโดนส่งออกไปต่างประเทศเยอะแล้วครับ เพราะคนต่างชาติเค้ารู้กันดีว่าเพชรพญาธรหลวงพ่อตัดท่านใช้บูชาดีจริงๆ เมตตา โชคลาภ โภคทรัพย์ จัดเต็มครับ
เพชรพญาธรตัวนี้เป็นเนื้อทองแดงจัดสร้างทั้งหมดเพียง 499 ตัวเท่านั้น หายากมากครับ มาพร้อมกล่องเดิม สภาพสวยสมบูรณ์มากๆ ตอกโค๊ดเพชรพญาธรเล็กที่คอ เลเซอร์หมายเลขรันนัมเบอร์ครบสูตร

มีผู้บูชาแล้วครับผม

 

พี่ต่อ "ต่อพงษ์ เศวตามร์" บ.ก. ข่าวบันเทิง ASTV

หนึ่งในศิษย์ผู้ศรัทธาหลวงพ่อตัด วัดชายนา ผู้มีประสบการณ์ตรงในหลายๆด้านเกี่ยวกับวัตถุมงคลหลวงพ่อตัด



เมื่อคราวที่มีการชุมนุมพันธมิตร-เสื้อแดงเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น พี่ต่อได้โดนทำร้าย โดนมีผู้ใช้เหล็กแป๊บฟาดที่หัวของพี่ต่อ แรงขนาดที่เหล็กแป๊บงอ แต่หลังจากไปตรวจก็ไม่มีผลอะไรรุนแรงมากกับร่างกายของพี่ต่อ ในขณะนั้นพี่ต่อแขวนพระกริ่งรุ่นแรก ภายหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ได้รับการบอกเล่าเรื่องราว ประสบการณ์ ทำให้ชื่อเสียงของวัตถุมงคลหลวงพ่อตัดได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้ทำสื่อครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 272 สมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2549 พิเศษจารเหล็กนะเมตตาเต็มสูตร จารหมึกยันต์นะกระโหลกทองคำ สวยแชมป์

สมเด็จเยี่ยวชะนีพิมพ์ปรกโพธิ์ เนื้อมาตรฐาน โค๊ด วชน.กระโดดนิยมชัดๆ
ประสบการณ์ด้านเมตตา ความร่มเย็นในชีวิต พิมพ์นี้ขึ้นชื่อครับ นอกจากนี้ยังมีพลังงานจากมวลสารลึกลับคือยาเสน่ห์ตำรับไทยทรงดำ(ผงเยี่ยวชะนี)ที่ใส่กันแบบไม่หวง จำนวนสร้างทั้งหมดของปี 2549 นี้ทั้งหมดเพียง 500 องค์เท่านั้น อีกหนึ่งพิมพ์ของชุดเยี่ยวชะนีมาตรฐานนิยมของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ฝังตะกรุด 1 ดอก โค๊ด วชน. กระโดดชัดเจนมากๆ สภาพคัดสวยแชมป์ครับ
พระอาจารย์ทินจารเปียก(จารขณะที่พระยังหมาดๆไม่แห้งสนิท)ด้วยยันต์นะเมตตาเต็มสูตร และพิเศษจารหมึกด้วยยันต์นะกระโหลกทองคำ พูดได้ว่าเน้นเมตตามหานิยมอย่างสูงครับ หายากมากๆครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 273 สีผึ้งรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2525

พกเป็นเมตตา-ทาเป็นมหาเสน่ห์ เป็นวลีที่ใช้พูดถึงสีผึ้งของหลวงพ่อตัดครับ สีผึ้งที่นำมาแบ่งปันนี้เป็นสีผึ้งรุ่นแรกที่หลวงพ่อท่านซื้อแล้วนำมาบรรจุของวิเศษ อาทิ นางกวักเนื้อชิน ปลัดขิกปี 2525 ขนาดพิเศษ

ตลับนี้สภาพสมบูรณ์เก็บตั้งแต่ ปี 2525 ปัจจุบันหาสภาพแบบนี้ไม่ง่ายแล้วครับ แถบพื้นที่ก็เริ่มขายกันราคาสูงแล้วครับ
แค่ปลัดขิกตัวเดียวก็คุ้มมากแล้ว

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 274 1 ใน 100 ดอก ตะกรุดมหาโสฬสมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตะกรุดยันต์ใหญ่ที่สร้างน้อยมากๆ และเป็นที่ตามหาของผู้ศรัทธามากๆเนื่องจากประสบการณ์ เช่น ตะกรุดสั่นเตือน คนลองเอาไปยิงแล้วลูกปืนเลี้ยวหลบตะกรุด หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์จริงที่โดนยิงแต่ไม่ถูก

เนื่องจากตะกรุดประเภทยันต์ใหญ่นี้จัดสร้างได้ยาก จึงมีการทำออกมาน้อย รวมๆแล้วตั้งแต่หลวงพ่อตัดยังอยู่จนถึงท่านมรณะภาพมีการสร้างตะกรุดมหาโสฬสมงคล หรือมงคลโสฬสนี้ไม่กี่ร้อยดอกเท่านั้น เรียกว่าไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ศรัทธา ตะกรุดดอกนี้เป็น 1 ใน 100 ดอก มีการตอกรันเลขไทยบนตะกรุด ตอกโค๊ดแน่นๆ หายากครับ

อีกหนึ่งวัตถุมงคลที่แนะนำให้ติดตัวติดรถเวลาเดินทางครับ


มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 275 พระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อชนวนผสมพิเศษ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

ถือว่าเป็นพระปิดตาที่หลวงพ่อตัดท่านชอบมากครับ หล่อที่วัดทั้งหมด วันฉัตรมงคลปี 2550 หลวงพ่อตัดเททองเอง ปลุกเสกในพรรษา หลังจากปลุกเสกเสร็จ นำเอามาแจกจ่ายผู้ร่วมบุญแล้ว หลวงพ่อท่านก็อุ้มบาตรที่ใส่พระปิดตายันต์ยุ่งนี้เงียบหายเข้าไปในห้อง ไม่ค่อยเอามาแจกใคร ศิษย์เก่าๆหลายๆท่านก็เคยบอกว่ารุ่นนี้หลวงพ่อตัดท่านชอบและค่อนข้างหวงครับ

ในส่วนของพระปิดตายันต์ยุ่งองค์นี้ เป็นเนื้อโลหะผสมพิเศษ สร้างจำนวนเพียง 400 องค์ หายากมากๆครับ ปกติจะเจอกันแต่เนื้อตะกั่วเท่านั้น เนื้อโลหะผสมพิเศษนั้นถ้ามีออกมาก็จะถูกกวาดเข้ารังใหญ่ๆของสายไปแทบหมดแล้ว ขนาดกระทัดรัด แขวนแล้วสวยมากๆ ประสบการณ์หนาหูมากครับ อีกหนึ่งพระดีที่น่าแขวนและน่าเก็บของหลวงพ่อตัดครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

รายการที่ 265 สมเด็จสามชั้นรุ่นแรก ปี 2505 หลวงพ่อตัด วัดชายนา (รายการนี้หายากมากครับ)

ประวัติพระสมเด็จสามชั้นรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา

เริ่มสร้างราวๆปี 2497 หลวงพ่อทดลองทำโดยออกแบบพิมพ์เองผสมเนื้อและผงเอง กดพิมพ์ไว้จำนวน 57 องค์ ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธนั่งสมาธิบนฐาน 3 ชั้น ด้านหลังจารมือตัวนะ รุ่นแรกนั้น เนื้อจะออกขาวอมแดง พิมพ์คมชัดละจารด้ายเหล็กลงในเนื้อพระ ส่วนผสมจะมีผง ว่าน ข้าวสุก แป้งมัน กล้วยสุก หลังจากนั้นท่านก็สร้างต่อมาเรื่อยๆ ไม่มีบันทึกจำนวนการสร้างไว้ แต่พอแยกเนื้อในยุคแรกๆได้ จะเป็นพระเนื้ออกสีขาว หรืออมเหลือง หรือเนื้อแก่ว่าน เนื้อแดงน้ำตาลไหม้ผสมผงใบลานเก่า

ต่อมา ปี 2505 ก็มีข้อมูลการจัดสร้างอีกครั้งจากคำบอกเล่าของชาวบ้านและลูกศิษย์หลวงพ่อตัดในยุคแรกหลายๆท่าน ที่รวบรวมมาได้ และข้อมูลจากผู้ที่ช่วยหลวงพ่อกดพระพิมพ์นี้คือคุณลุงทับ สุมกระจิว ซึ่งบวชในยุคนั้น และจำพรรษาที่วัดชายนาในปี 2507 ปัจจุบันท่านก็อายุแปดสิบเศษแล้ว พระชุดนี้จัดสร้างยุคแรกราวๆปี 2505 มีด้วยกัน 2 พิมพ์ พิมพ์พระรอด พิมพ์สมเด็จ 3 ชั้น พิมพ์พระรอดคาดการว่ามีประมาณ 500 องค์ พิมพ์สมเด็จฐาน 3 ชั้น มีราวๆ 10 บาตรพระหรือประมาณ 1,500 องค์ จะเป็นเนื้อแดงผสมกระเบื้องหลังคาโบสถ์และอิฐกำแพงวัด เนื้อเหลืองผสมว่านที่หลวงพ่อตัดท่านหามาเอง บางองค์จะมีรอยจารด้วยดินสอซึ่งหลวงพ่อเป็นผู้จารเองทั้งหมด พิมพ์สมเด็จมีกดพิมพ์ 2 หน้าก็มี ปั้นเป็นทรงเล็บมือก็มี

เริ่มสร้างตั้งแต่ ปี 2505 ถึง ปี 2507 ปลุกเสกอยู่หลายพรรษาด้วยกันกว่าจะนำมาออกแจกจ่ายให้ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในช่วงนั้น พระผงชุดนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ศิษย์รุ่นเก่าๆของหลวงพ่อทอง วัดเขากระจิว บางคนยังนึกว่าเป็นพระของหลวงพ่อทองด้วยซ้ำ พระชุดนี้ประสบการณ์ด้านเมตตาแคล้วคลาดโดดเด่นมาก เมตตาโชคลาภก็ดีเยี่ยม จัดว่าเป็นพระเพียงรุ่นเดียวที่หลวงพ่อตัดท่านหามวลสารเองและกดพิมพ์ที่วัดทั้งหมด เป็นปฐมบทของวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ที่มีข้อมูลหลักฐานแน่ชัดถึงที่มาที่ไปที่สุดรุ่นหนึ่ง จึงทำให้ในปัจจุบันนี้เป็นที่เสาะแสวงหาแก่ผู้ศรัทธาหลวงพ่อตัดอย่างมาก



บทสัมภาษณ์ ลุงทับ สุมกระจิว บันทึกไว้เมื่อวันนี้วันที่ 3 พ.ค.2557

ลุงทับ บวชที่วัดเขากระจิว ปี 2507 แต่ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดชายนา เป็นหนึ่งในพระที่ช่วยหลวงพ่อกดพระชุดปี 2507 ในพรรษา

ผู้ถาม : หลวงพ่อตัดท่านมีนิสัยอย่างไรในยุคสมัยนั้น ดุหรือไม่ครับ ?

ลุงทับ : ไม่ดุ แต่เป็นคนตรงไปตรงมา โผงผางเคร่งในพระธรรมวินัย เป็นคนไม่หวงของ เวลาจะแจกอะไรให้ใครก็ให้เป็นถุงๆ แล้วก็บอกว่า “เอาไป เอาไปแจกให้หมด“

ผู้ถาม : หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังไหมว่าไปเรียนวิชาจากที่ไหนมาบ้างครับ ?

ลุงทับ : ไม่เคยบอก แต่ก็พอรู้ แรกๆเริ่มเรียนไสยศาสตร์จากหมอชาวบ้าน ไปเรียนดูที่ทางปลูกบ้านจากหลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ เรียนทำปลัดจากหลวงพ่อไท วัดไทรย้อยด้วย

ผู้ถาม : สมัยก่อน หลวงพ่อทำตะกรุด ปลัดขิกหรือยังครับ ?

ลุงทับ : ตอนนั้นตะกรุดยังไม่ได้ทำ แต่ปลัดขิกทำแล้ว สมัยนั้นรูปทรงไม่สวย มาเริ่มยุคหมอหอมจะสวย หลังๆก็มีช่างไม้เก่ามารับจ้างแกะ ก็จะสวยขึ้นมาอีก

ผู้ถาม : สมเด็จสามชั้น หลวงพ่อเป็นคนดำริให้ทำเองหรือเปล่าครับ ?

ลุงทับ : ใช่ท่านทำเอง แต่ไม่รู้ใครเป็นคนแกะบล็อกมา เป็นบล็อกหินมีดโกน มีอยู่สองบล็อก

ผู้ถาม : หลวงพ่อเป็นคนหามวลสารมาเองหรือเปล่าครับ ?

ลุงทับ : ใช่ หลวงพ่อหามาเองทั้งหมด เป็นพวกผงว่าน108,เกสรดอกไม้,ผงพุทธคุณ มาตำผสมข้าวสุก กับกล้วย มีหลายสี สีน้ำตาล สีแดง สีเหลืองอ่อน สีขาวก็มี

ผู้ถาม : ทำไมสีถึงต่างกันครับ ?

ลุงทับ : สีต่างๆมันมาจากผง จำพวกไขโบสถ์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ผงใบลานที่เป็นคัมภีร์เก่าจากวัดเขากระจิว เอามาเผา เนื้อจะสีออกน้ำตาลดำๆเนื้อ นี่จะมีน้อยที่สุด หายากมีไม่กี่ร้อยองค์ ไม่ค่อยสวยนัก สีเหลืองๆขาวๆจะเยอะที่สุด รองมาก็สีแดง

ผู้ถาม : มีพิมพ์อะไรบ้างครับ ?

ลุงทับ : สมเด็จสามชั้น,พระรอด สองพิมพ์ หนักไปทางสมเด็จ พระรอดสร้างน้อย

ผู้ถาม : ทำเยอะไหมครับ ?

ลุงทับ : ก็หลักพัน ทำทุกวันในพรรษานั้น เช้าเรียนพระวินัย ช่วงบ่ายว่างก็ไปกดพระกัน ใครว่างก็มากด วันหนึ่งก็ได้เป็นร้อย แต่ท่านเอาไปไว้ไหนบ้างก็ไม่รู้ได้ จะฝังกรุไหนก็ไม่รู้ บ้างก็ว่าเอาใส่ในบาตรไปฝังไว้ในป่าช้า

ผู้ถาม : ท่านปลุกเสก หรือให้เกจิอื่นเสกด้วย?

ลุงทับ :ท่านเสกของท่านเองทุกคืน ในห้องท่านจะมีสายสิญจน์โยงเต็มไปหมด กดพระเสร็จก็เอาไปตาก พอแห้งก็เอาเข้าห้องไปปลุกเสก ยังไม่ได้แจกในตอนนั้น แต่เอาออกมาแจกช่วงงานทำบุญผูกพัทธสีมา เมื่อปี 2525 ซะเยอะ

บทสัมภาษณ์ลุงทับทั้งหมดถอดจากคลิปอัดเสียง แล้วข้อมูลประกอบเพิ่มเติมจากลูกศิษย์ยุคเก่าของหลวงพ่อตัดที่ได้รับมอบพระชุดนี้ไป บางองค์มีจารดินสอเดิมๆ บางองค์หลวงพ่อก็เมตตาให้หมึกจารให้ในภายหลัง จึงเป็นข้อสรุปที่แน่ชัดได้ว่าพระชุดนี้หลวงพ่อท่านสร้างเองเสกเองเพื่อมอบให้ลุกศิษย์ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดในยุคแรกๆอย่างแท้จริง

ศิษย์ยุคเก่าหลายๆคนก็บอกว่าหลวงพ่อท่านใช้สีในการจำแนกพุทธคุณ เช่นแดง ไปทางแคล้วคลาดคงกระพัน เหลืองแก่ใบว่านก็จะไปทางเมตตามหานิยม แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ เป็นเพียงแต่ข้อสันนิษฐานจากประสบการณ์ที่บอกเล่าต่อกันมาเท่านั้น

องค์นี้เป็นเนื้อเหลือง โซนนิยม ไม่มีออกมาหมุนเวียนในสายนานมากแล้วครับ เพราะศิษย์ที่รู้ถึงคุณค่าก็ต่างตั้งหน้าตั้งตาเก็บกันอย่างเดียว ไม่ออกมาแบ่งง่ายๆ มีมาไม่บ่อยแน่ๆครับ
องค์นี้สภาพพอใช้ ราคาเบาสบายกระเป๋ามากๆ เอาไว้แขวนพึ่งพุทธคุณครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ