เมื่อได้เป็นเจ้าอาวาสแล้วหลวงปู่นาก็เจริญรอยตามหลวงพ่อพวงทุกประการ ทำการพัฒนาวัดไผ่ท่าโพและเผยแผ่ธรรม อบรมสั่งสอนกุลบุตรกุลธิดาของญาติโยม อย่างไม่ย่อท้อ จนกระทั่งคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์และเป็นเจ้าคณะอำเภอโพธิ์ประทับช้างในลำดับต่อมา หลวงปู่นาท่านก็ต้องจำใจรับทั้งๆที่ท่านไม่ชอบเลย เนื่องจากหลวงปู่นาท่านเป็นพระสมถะ มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ถือยศถือศักดิ์แต่ประการใด ขนาดทุกวันนี้ท่านดำรงตำแหน่งทางการบริหารคณะสงฆ์เป็นถึงเจ้าคณะอำเภอแต่ท่านก็ยังลงไปถางป่าช้าหลังกุฏิเองทุกเย็นเหมือนสมัยที่หลวงพ่อพวงท่านเคยทำ
วัวธนูรุ่นแรก หลวงปู่เท อายุ 102 ปี วัดยี่งอ จ.นราธิวาส ประสบการณ์แรง น.94
ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย A_ty, 16 มกราคม 2014.
หน้า 56 ของ 95
-
-
เรื่องนี้ผู้เขียนเองได้เคยเห็นกับตามาแล้วในบ่ายวันหนึ่งที่ผู้เขียนไปกราบสนทนากับท่านจนถึงประมาณสี่โมงเย็น แล้วผู้เขียนก็ลากลับ แต่พอขับรถออกมาได้ไม่ไกลก็นึกขึ้นได้ว่าลืมขอเบอร์โทรศัพท์มือถือของพระที่อยู่กุฏิใกล้หลวงปู่เอาไว้ เผื่อวันหน้าจะเดินทางมากราบท่านอีก แล้วเกิดโทรศัพท์ติดต่อสอบถามนัดหมายหลวงปู่ไม่ได้ จะได้โทรศัพท์หาพระที่อยู่กุฏิข้างๆท่านให้ช่วยไปนัดหมายท่านให้สักหน่อยได้ ผู้เขียนจึงเลือกที่จะยอมเสียเวลาอีกนิดหน่อย ยอมขับรถย้อนกลับไปขอเบอร์โทรศัพท์พระกุฏิข้างๆหลวงปู่ฯเก็บเอาไว้ดีกว่า
-
พอไปถึงกุฏิของหลวงปู่นาก็เห็นหลวงปู่กำลังเดินนำเณรไปทางด้านหลังกุฏิอยู่ไวๆ ในมือของท่านถือมีดพร้าเสียด้วย ในใจตอนนั้นเกิดนึกอยากรู้ว่าท่านกำลังจะไปทำอะไร จึงรีบเดินตามไปดู ก็เลยได้เห็นภาพประทับใจ ที่คงหาดูไม่ได้อีกแล้ว เพราะจะมีที่ไหนอีก ที่พระระดับเจ้าคณะอำเภออายุเกือบจะ ๘๐ ปีกำลังถางต้นไม้ที่ขึ้นรกๆอยู่ในป่าช้าอย่างหลวงปู่นา ตอนนั้นผู้เขียนเองรู้สึกนึกปลื้มปิติขึ้นมาทันทีเลยว่า เอะ!! นี่เราได้กราบพระอริยะอีกรูปหนึ่งแล้วนี่ เงินทองท่านก็ไม่โลภไม่หลงเพราะเคยเห็นท่านฉีกซองปัจจัยแจกคนแปลกหน้าที่เดินเข้ามาขอแล้วที่วัดบวรเมื่อปีก่อน มาคราวนี้ก็มาเห็นท่านหมดสักกายะทิฐิ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในยศถาบรรดาศักดิ์ของตนอีก หลวงปู่นาท่านคือพระอริยะสงฆ์แห่งจังหวัดพิจิตรชัดๆ
<a href='http://upload.siamza.com/2007990' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/250515/2007990.jpg' /></a> -
ย้อนกลับไปที่เรื่องราวประวัติส่วนตัวของของหลวงปู่นาในตอนที่หลวงปู่นาบวชแล้ว ท่านก็ได้เรียนนักธรรมและจำพรรษาอยู่ที่วัดไผ่ท่าโพใต้ คอยเป็นผู้อุปัฏฐากรับใช้หลวงพ่อพวงมาตลอดตราบจนกระทั่งหลวงพ่อพวงถึงแก่มรณภาพ ระหว่างนี้หลวงพ่อพวงคงเห็นว่าหลวงปู่นาเป็นพระทีมีความมุ่งมั่นตั้งใจดี ไม่ว่าจะมอบหมายให้ทำสิ่งใด หลวงปู่นาก็จะตั้งใจทำจนสำเร็จทุกประการ หลวงพ่อพวงท่านจึงคิดที่จะถ่ายทอดกรรมฐานและวิชาอาคมของท่านไว้กับหลวงปู่นา เมื่อคิดได้ดังนี้แล้ว หลวงพ่อพวงจึงค่อยๆสอนให้หลวงปู่นาหัดเรียนเขียนอ่านภาษาขอมในเวลาที่ว่างเว้นจากการเรียนนักธรรม และค่อยๆถ่ายทอดคาถาอาคมรวมถึงวิธีการลงตะกรุดไปให้เป็นลำดับถัดมา การลงตะกรุดในตำรับสายวิชาของหลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่าที่ถ่ายทอดผ่านหลวงพ่อเงินสู่หลวงพ่อพวงมานั้น ต้องการกำหนดคาบคาถาในการลงอักขระเลขยันต์เพื่อเป็นกุศโลบายให้จิตได้เรียนรู้ในสมาธิและหากยิ่งลงตะกรุดมากเท่าไร สมาธิจิตก็จะมีพัฒนาการมากขึ้นเท่านั้น
-
เมื่อหลวงพ่อพวงเห็นว่าหลวงปู่นามีความตั้งใจและเอาใจใส่ในการหัดลงตะกรุดจนชำนาญแล้ว ท่านจึงมอบหมายให้หลวงปู่นาเป็นผู้ลงตะกรุดแทนท่าน ต่อมาเมื่อท่านเห็นว่าหลวงปู่นาลงตะกรุดจนสมาธิจิตพัฒนาไปในชั้นสูงแล้ว ท่านจึงสอนกรรมฐานชั้นสูงให้เพิ่มเติม จากนั้นจึงสอนวิธีการปลุกเสกให้เป็นลำดับถัดมา
-
วัดปากคลองมะขามเฒ่านิมนต์หลวงปู่ไปนั่งปรกพิธีเททองพระหลวงปู่ศูข ณ วัดปากคลองมะขามเฒ่า
<a href='http://upload.siamza.com/2008337' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/250515/2008337.jpg' /></a>
<a href='http://upload.siamza.com/2008341' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/250515/2008341.jpg' /></a> -
ส่วนทางฝ่ายหลวงปู่นาเห็นหลวงพ่อพวงผู้เป็นพระอาจารย์พยายามถ่ายทอดพุทธาคมต่างๆให้ ก็ยิ่งทำให้ท่านต้องพยายามเรียนและฝึกฝนให้สำเร็จ เพื่อไม่ให้หลวงพ่อพวงต้องผิดหวังในตัวท่าน จากความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายทำให้การร่ำเรียนและฝึกฝนสรรพพระพุทธาคมที่หลวงพ่อพวงถ่ายทอดให้ สำเร็จลงในเวลาไม่นานนัก วิชาสำคัญทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น การทำน้ำมนต์ในทุกๆทาง การเรียกและสะกดภูติพราย การสะเดาะและสูญ หัวใจคาถาแบบต่างๆอาทิ หัวใจปถมัง หัวใจอิทธเจตัวผู้ ตัวเมีย มนต์ในการรักษาและถอดถอน มหาเถรตำแย มนต์พระเจ้าทุกๆแบบ อาทิ พระเจ้ากำเนิด พระเจ้าย่างบาท พระเจ้าแผลงฤทธิ์ พระเจ้าผจญมาร พระเจ้าซ่อนหา มนต์มหาเสน่ห์ มนต์มหาละลวย มนต์มหาจินดา ยันต์ลงตะกรุดแบบต่างๆ อาทิ ตะกรุดพระฉิมพลี ตะกรุดปัดเคราะห์ ตะกรุดทางมหานิยม ตะกรุดทางคงกระพัน ตะกรุดหัวใจไมยราพ ตะกรุดนะโมตัน ตะกรุดตำรับขรัวพ่อโพธิ์ ตะกรดุพญาจักราธิราช ตะกรุดมหารูด การทำพิศสมร การทำพิรอดและลงเบี้ยเล่นบ่อน การทำผ้าเช็ดหน้า การลงสาลิกาลิ้นทอง การทำพญาเต่าเรือนตัวผู้ตัวเมีย การทำควายธนูเฝ้าทรัพย์ และวิชาจระเข้พยนต์ อาทิ จระเข้คาบนาง จระเข้ขบทรัพย์ ต่างก็ถูกหลวงปู่นาเรียนรู้จนหมดสิ้น เมื่อหลวงปู่นาเรียนสำเร็จแล้ว หลวงพ่อพวงท่านก็ยกตำราให้ทั้งหมดแล้วก็มรณภาพจากไป
-
เมื่อผู้เขียนได้รับทราบความเป็นมาในทางพุทธาคมของหลวงปู่นาแล้ว ก็เลยขอดูตำราที่หลวงพ่อพวงยกให้ หลวงปู่นาท่านก็ใจดีเมตตาหยิบตำราเล่มหนึ่งออกมาให้ดู ผู้เขียนจึงขออนุญาตเปิดตำราเพื่อศึกษารายละเอียดและขอถ่ายรูปทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็อนุญาต ทำให้ผู้เขียนรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของท่าน ขณะเดียวกันหลวงปู่ท่านก็ถามผู้เขียนว่าอยากเรียนหรือ? ผู้เขียนจึงตอบว่าครับ หลวงปู่นาท่านจึงรับผู้เขียนไว้เป็นลูกศิษย์ ทำให้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าถึงวิชาการลงตะกรุดและวิชาจระเข้ ของหลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่าและวิชาของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก
<a href='http://upload.siamza.com/2008520' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/250515/2008520.jpg' /></a> -
-
รูปหล่อหลวงปู่นาสร้างขึ้นในงานอายุครบรอบ 72 ปี เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2551บูชาองค์ละ 200 บาท
<a href='http://upload.siamza.com/2008611' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/250515/2008611.jpg' /></a>
<a href='http://upload.siamza.com/2008588' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/250515/2008588.jpg' /></a> -
ขอถามครับ.จระเข้ หลวงปู่นา มีพุทธคุณด้านไหนบ้างครับ
-
ส่วนความเป็นมานั้นเดี๋ยวจะเอามาลงให้ได้ติดตามกันนะคะ -
-
รับทราบประวัติของหลวงปู่นา ไปแล้วมาดูประวัติของหลวงพ่อพวงผู้เป็นอาจารย์กันบ้างหลวงพ่อพวง วัดไผ่ท่าโพใต้ ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร
ผู้สืบทอดวิชาการลงตะกรุดของหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน..... ยิงไม่ออก!!นามเดิมชื่อ นายพวง พุฒดี เกิดเมื่อวัน พุธ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๓ ปี มะแม ตรงกับวันที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๐ ที่หมู่ ๒ ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพทะเล (ปัจจุบัน เป็น อ.โพธิ์ประทับช้าง) จ.พิจิตร มีบิดาชื่อ พุ่ม มารดาชื่อ ตลุ่ม นามสกุล พุฒดี ท่านเป็นบุตรคนโต (มีพี่น้อง ๔ คน) ประกอบอาชีพเป็นชาวนา โดยก่อนที่จะอุปสมบทเป็นภิกษุ ท่านได้ทำหน้าที่อุปการระเลี้ยงดูน้องๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากบิดา มารดา ของท่านได้เสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเยาว์วัย จวบจนอายุครบบวช ท่านจึงได้คิดอุปสมบทเพื่อทดแทนคุณบิดา มารดา โดยมี หมอพัน สังขพงค์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชายนำไปอุปสมบท ณ วัดท่าหลวง เมื่อพ.ศ. ๒๔๗๐ ขณะอายุ ๒๑ ปี ณ พระอุโบสถ วัดท่าหลวง จ.พิจิตร มี พระศีลธรารักษ์ (ยิ้ม) เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาเม้า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์หม้อ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า กิตฺติสทฺโธ -
หลังจากที่อุปสมบทแล้ว ได้กลับมาจำพรรษา ณ วัดไผ่ท่าโพใต้ ซึ่งมีเจ้าอธิการสินเป็นเจ้าอาวาส ในสมัยนั้นวัดไผ่ท่าโพใต้ยังไม่มีการศึกษาด้านพระธรรมวินัยและไม่มีสำนักเรียนพระปริยัติธรรม หลวงพ่อพวง จึงต้องเดินทางไปศึกษาพระธรรมวินัย ณ วัดบางตาหงาย บ้านส้มเสี้ยว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เป็นเวลา ๓ พรรษา สอบได้นักธรรมชั้นตรีและชั้นโทแล้ว แต่ยังไม่ทันได้สอบนักธรรมเอก เจ้าอธิการสิน เจ้าอาวาสวัดไผ่ท่าโพใต้ ได้ลาสิกขา ชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันอาราธนา ให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ท่าโพใต้แทน ซึ่งทางคณะสงฆ์ก็เห็นดีด้วย จึงแต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.๒๔๗๓ และต่อมาได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลในปีพ.ศ. ๒๔๙๐ , พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้สมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรพัดยศชั้นตรีในราชทินนามที่ พระครูโพธิคุณาธาร และได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
-
ไม้สักกุฏิเก่าหลวงพ่อพวงที่ท่านนำมาแกะจระเข้ ขบทรัพย์รุ่นนี้ มิใช่ธรรมดา เพราะเป็นกุฏิที่พลวงพ่อพวงใช้อาบรดน้ำมนต์ให้กับลูกศิษย์ที่มาหาจนร่ำรวยกันมาแล้ว
-
งานนี้หลวงปู่ลงมือลุยหาไม้เองเลย
<a href='http://upload.siamza.com/2011754' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/260515/2011754.jpg' /></a>
เห็นความตั้งใจทำของหลวงปู่แล้วยิ่งอยากช่วยหลวงปู่แผ่บารมีคะ -
หลวงพ่อพวงท่านเป็นพระที่พูดน้อย เคร่งครัดในธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้นำในหมู่คณะสงฆ์ด้วยความประพฤติเป็นแบบอย่าง เป็นหลักสอนแก่คณะลูกศิษย์ ท่านมีเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง ให้ความรักและเมตตาต่อคนทั่วไปเสมอเหมือนกัน แม้กระทั่งกับสัตว์ทั้งหลาย ครั้งหนึ่งท่านเคยพูดว่า “ สัตว์เหล่านี้ เมื่อชาติแต่ปางก่อน อาจจะเป็นสังคญาติกันมาก็ได้ ใครจะไปรู้ ” ท่านจึงทำหน้าที่ของเจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลไผ่ท่าโพได้ดีเสมอมา พระภิกษุ สามเณร และประชาชนเคารพนับถือเป็นจำนวนมาก ยังผลให้ท่านสามารถทำนุบำรุงปฏิสังขรณ์วัดไผ่ท่าโพได้ดังนี้
๑. พ.ศ. ๒๔๘๐ เปิดโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรมขึ้นเป็นครั้งแรก
๒. ก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้นจนสำเร็จ เป็นเงิน ๔๐๐,๐๐๐ บาท
๓. สร้างเสนาสนะกุฏิ ต่าง ๆ ขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม
๔. สร้างหอสวดมนต์ ๒ ชั้น
๕. สร้างเมรุเผาศพ และ ศาลาธรรมสังเวช เป็นเงินประมาณ ๒๐๐, ๐๐๐ บาท
๖. จัดซื้อที่ดินและสร้างอาคารเรียนโรงเรียนประชาบาลวัดไผ่ท่าโพใต้ และจัดตั้งกองทุน “ โพธิคุณาธารสงเคราะห์ ”
สุดท้ายแห่งวาระสังขาร
เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยชราภาพ หลวงพ่อก็ไม่อาจพ้นไปจากพระไตรลักษณ์เหมือนดังพระบรมศาสดาได้ ท่านเริ่มป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับปอดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๐ คณะศิษย์ได้นำส่งโรงพยาบาลโรคปอด จ.นนทบุรี เมื่อได้รับการรักษา จนอาการดีขึ้นตามลำดับ จึงได้กลับมายังวัดไผ่ท่าโพใต้ ต่อมาโรคกลับได้กำเริบขึ้น และทำให้มีอาการหนักและมรณภาพลงด้วยอาการอันสงบเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ เวลา ๑๑.๐๕ น. สิริอายุได้ ๗๑ ปี ๕๐ พรรษา ท่ามกลางความเศร้าสลด อาลัย ของศิษย์ทั้งบรรพชิต และคฤหัสถ์ ต่อการจากไปโดยไม่มีวันกลับของหลวงพ่อ ผู้ซึ่งเคยเป็นดังร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวไผ่ท่าโพ
-
หลวงพ่อพวง วัดไผ่ท่าโพใต้ ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงปู่นา วัดไผ่ท่าโพใต้
<a href='http://upload.siamza.com/2012655' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/260515/2012655.png' /></a> -
เปิดจองคะ จระเข้ขบทรัพย์ในสัมยก่อนนั้น เขาจะเรียกว่าจระเข้วิชา
<a href='http://upload.siamza.com/2012660' target='_blank'><img border='0' src='http://upload.siamza.com/file_upload/modify/260515/2012660.jpg' /></a>
หน้า 56 ของ 95