วิทยาธรร้อนรัก พ่อหมอวีธีร

วิทยาธรร้อนรัก หล่อจากโลหะอาถรรพ์เป็นส่วนผสมหลัก ได้แก่ เหล็กจับปากโลง ใบเคียวเกี่ยวข้าว สมอเรือ ใบพัดหางเรือยาวที่ครูหมอโกเมศเสกไว้ ดีเรื่องรักๆใคร่ๆ หน่วงเหนี่ยวเกี่ยวทรัพย์ประกอบการค้า ใช้เป็นวัตถุอาถรรพ์เรียกเงินเรียกทอง
ครูหมอโกเมศเคยเล่าว่า วิชาการทำคุณปลัดมีหัวมีตัวมีเท้ามีเครื่องเพศครบเท่ากับทำให้คุณปลัดมีความสมบูรณ์พร้อม อิทธิฤทธิ์แรง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเรียกกันว่า “วิทยาธรร้อนรัก” ใครสร้างใครมีครอบครองพบความสมปรารถนาทุกด้าน

 

บูชากี่บาทครับ

 

วิทยาธรร้อนรัก หล่อจากโลหะอาถรรพ์เป็นส่วนผสมหลัก ได้แก่ เหล็กจับปากโลง ใบเคียวเกี่ยวข้าว สมอเรือ ใบพัดหางเรือยาวที่ครูหมอโกเมศเสกไว้ ดีเรื่องรักๆใคร่ๆ หน่วงเหนี่ยวเกี่ยวทรัพย์ประกอบการค้า ใช้เป็นวัตถุอาถรรพ์เรียกเงินเรียกทอง
ครูหมอโกเมศเคยเล่าว่า วิชาการทำคุณปลัดมีหัวมีตัวมีเท้ามีเครื่องเพศครบเท่ากับทำให้คุณปลัดมีความสมบูรณ์พร้อม อิทธิฤทธิ์แรง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเรียกกันว่า “วิทยาธรร้อนรัก” ใครสร้างใครมีครอบครองพบความสมปรารถนาทุกด้าน
และคลุกผงแป้งเสน่หาสารพัดนึกหัวเชื้อของครูหมอโกเมศ เพิ่มพลังแห่งเสน่หาเมตตาผู้คนรักคนหลงเป็นเสน่นำเงินมาหานำตัวมาให้ แถมด้วยถุงแดงเศรษฐีไว้สำหรับเก็บเงินเก็บทองเรียกเงินทองได้ชงัดนัก

 

หนึ่งในคติการนับถือเครื่องรางของขลังที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คงหนีไม่พ้นการนับถือสัญลักษณ์แห่งการก่อกำเนิด หรือศิวลึงค์ อันเป็นเครื่องหมายแห่งองค์พระอิศวร คติการนับถือพระศิวลึงค์นั้นมีมานานกว่า ๕ หมื่นปี ตั้งแต่ยุคต้นของลัทธิพระเวท แถบลุ่มแม่น้ำสินธุ
ศิวลึงค์ ถือเป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ มีความหมายในชั้นต้นตั้งแต่เครื่องหมายของเพศพ่อ เครื่องหมายแห่งการก่อกำเนิด เครื่องหมายแห่งการปกครอง และมีความหมายเร้นลับถึงเสาหลักเมืองจนถึงแกนกลางของจักรวาล
ในคติฮินดูและในท้องถิ่นของไทยเราเชื่อถือกันว่าอำนาจของศิวลึงค์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าปลัดขิกนั้นเป็นของที่มีอำนาจทำให้ฟ้าฝนตกต้องตามฤดูกาล ป้องกันภูติผีปีศาจ มีอำนาจทางคุ้มครองทั้งคงกระพันและแคล้วคลาด ทำให้ทำมาค้าขายดี มีอำนาจทางเมตตามหานิยมและเสน่ห์ต่อผู้คนทั้งหลาย
ความเชื่อถือที่มีมาแต่โบราณนี้ก่อให้เกิดวิชาการสร้างปลัดขิกมากมายหลายสำนัก ที่โด่งดังในอดีตเช่น หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม เป็นต้น
หนึ่งในวิชาสายเร้นลับแบบพราหมณ์ฮินดูที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันคือ สายของพ่อหมอโกเมศ แม้ว่าปัจจุบันท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่ก็มีพ่อหมอวีธีรที่สืบสานวิชาความรู้แขนงนี้เอาไว้
การทำปลัดขิกในสายของพ่อหมอโกเมศนั้นเรียกปลัดขิกที่สร้างว่า ตัววิทยาธรร้อนรัก มวลสารบังคับที่ต้องหาให้ได้เมื่อจะสร้างนั้นได้แก่ โลหะอาถรรพ์ชนิดต่างๆ อันมีเหล็กจับปากโลง ใบเคียวเกี่ยวข้าว สมอเรือ ใบพัดหางเรือยาวที่ครูหมอโกเมศเสกไว้ ดีเรื่องรักๆใคร่ๆ หน่วงเหนี่ยวเกี่ยวทรัพย์ประกอบการค้า ใช้เป็นวัตถุอาถรรพ์เรียกเงินเรียกทอง
ที่สำคัญการสร้างปลัดขิกหรือองค์เทวศิวลึงค์ตามตำรับของพ่อหมอที่สืบทอดกันมานั้นต้องสร้างให้มีหัว มีตัวมีเท้า ปลุกอาการสามสิบสองให้มีชีวิตเชิญเจตสิกวิทยาธรจากป่าหิมพานต์มาสถิตย์ทำให้เกิดพลังชีวิตอันมหัศจรรย์ขึ้นมา
ส่วนจะแก่กล้าขนาดไหนนั้น คนที่รับไปต้องหมั่นนำไปสาธยายมนต์และนั่งสมาธิร่วมกับตัววิทยาธรเอาวิทยาธรกำไว้ในมือแล้วท่องปลุกด้วยคาถากำกับไปเรื่อยๆ พักเดียวจะรู้สึกได้ว่าตัววิทยาธรนั้นมีชีวิตดิ้นได้ในมือหรือส่งกระแสเหมือนพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าแผ่เข้าปลายนิ้วหรือฝ่ามือเป็นต้น ของแบบนี้ผู้ภาวนาจะรู้ได้ด้วยตนเองเท่านั้น
ครูหมอโกเมศเคยเล่าว่า วิชาการทำคุณปลัดมีหัวมีตัวมีเท้ามีเครื่องเพศครบเท่ากับทำให้คุณปลัดมีความสมบูรณ์พร้อม อิทธิฤทธิ์แรง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเรียกกันว่า “วิทยาธรร้อนรัก” ใครสร้างใครมีครอบครองพบความสมปรารถนาทุกด้าน
เพราะอำนาจจากองค์พระศิวะ จากเทพวิทยาธร และจากโลหะอาถรรพ์ประกอบพลังจิตตานุภาพที่แทรกซึมอยู่ในอณูของตัววิทยาธร สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการงานการเงินความรักและยังป้องกันวิชาคุณไสยมนต์ดำจากฝ่ายตรงข้ามมิให้มาข่มมาทำร้ายเราได้ด้วย