วิธีการสอนเด็กให้เขายอมรับฟัง

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 13 ธันวาคม 2022.

  1. iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,366


    ในขณะที่โยมท่านหนึ่งกำลังสั่งสอนลูกหลานตัวเองอยู่ พระอาจารย์ท่านเมตตาบอกว่า "ถ้าโยมยังไม่เปลี่ยนวิธีการ ชาตินี้สอนเด็กไม่ได้หรอก

    การสอนเด็กมีอยู่สองอย่าง อย่างแรก คือ ชี้ให้เขาเห็นโทษแล้วเขาจะเลิกทำ อย่างที่สองก็คือ ชี้ให้เขาเห็นประโยชน์ จูงใจให้เขาอยากทำ

    โยมจะเอาให้เด็กเขาทำตามใจเราอย่างเดียว เป็นวิธีการแข็งขืน ซึ่งเด็กเขาไม่ชอบ เพราะฉะนั้นทำไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะยิ่งทำ..เด็กก็ยิ่งดื้อ เราใช้ผิดวิธีการ ที่เรากำลังพูดอยู่เป็นวิธีที่เด็กเขาไม่ชอบที่สุด"

    ถาม : อีกสองวัน เขาก็ไปโรงเรียนแล้วครับ ทางโรงเรียนเขาจะอบรม ?
    ตอบ : เขาไปดีที่โรงเรียน กลับมาก็จะเสียเพราะเรา..!

    จำไว้ว่า..ความหวังดีเกินไปของเรา อาตมาเคยใช้คำว่า หวังดีแต่ประสงค์ร้าย เด็กเขาไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตเท่ากับเรา เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาทำเป็นอย่างไร ? เราต้องค่อย ๆ ชี้แจงให้เขา ไม่ใช่ไปบังคับว่า ต้องเป็นอย่างนั้นต้องเป็นอย่างนี้

    ถาม : พ่อแม่เขาบังคับ ผมเป็นแค่อา ?
    ตอบ : ถ้าอาขนาดนี้ ยืนยันได้เลยว่าพ่อแม่แย่กว่านี้เยอะ..! ในเมื่อเป็นอย่างนั้นไม่ต้องไปหวังหรอก โรงเรียนก็เอาไม่อยู่ เพราะกลับบ้านมาก็เละใหม่..!

    สมัยนี้น่าสงสารมาก พ่อแม่ยังคิดว่าลูกเป็นดินน้ำมัน จะปั้นให้เป็นอะไรก็ได้ ซึ่งไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะว่าใจคนไม่เหมือนกัน

    อ่านประวัติศาสตร์จีนดูสิ กษัตริย์จีนท่านหนึ่ง พยายามจะช่วยเหลือประชาชนที่โดนอุทกภัยทุกปี เพราะตายกันปีหนึ่งไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร กษัตริย์ท่านนั้นก็พยายามจะสร้างเขื่อนกั้นน้ำ แต่ยิ่งสร้างเท่าไรอุทกภัยก็ยิ่งรุนแรง เพราะว่าพอไปกั้นน้ำเอาไว้ น้ำพอสะสมรวมตัวกันมากเข้า ถึงเวลาที่น้ำพังเขื่อนแล้วกลายเป็นหนักกว่าเดิม

    คราวนี้มีคำล่ำลือว่า ที่ภูเขาเซียนมีถ้ำอยู่ ในถ้ำนั้นมีคัมภีร์วิเศษ ถ้าใครสามารถดั้นด้นไปถึง เปิดคัมภีร์ออกมา ถามอะไรก็จะได้คำตอบ กษัตริย์ท่านนั้นก็เลยพยายามไปจนถึง พอเปิดคัมภีร์ขึ้นมา ได้คำตอบก็รีบจัดการแก้ไข และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอุทกภัยที่เคยท่วมหนัก คนตายปีละมาก ๆ ก็กลายเป็นบรรเทาเบาบางลง เพราะว่าคำตอบที่ได้มา เขาบอกเอาไว้แค่บรรทัดเดียวว่า ไม่ใช่กั้นแต่ให้ระบาย เท่านั้นท่านก็สามารถที่จะเอาไปใช้งานได้เลย

    เนื่องจากทุกวันนี้ที่ท่านพยายามไปขวางกั้นธรรมชาตินั้นผิดวิธี มีอยู่ทางเดียว คือทำอย่างไรที่จะให้น้ำไปให้เร็วสุดและคล่องที่สุด ดังนั้น..พระองค์จึงขุดคลองซอยให้ได้มากที่สุด และก็ประสบความสำเร็จขึ้นมา

    ฉะนั้น...เรื่องของการขวางธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แม้แต่พระพุทธเจ้าสอนธรรมเขาท่านก็คล้อยตาม ไม่เคยขัดใคร ท่านบอกว่าของเขาดีอยู่แล้ว แต่วิธีที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่ และก็ชี้แจงไปตามนั้น

    คนเราพอรู้สึกว่าตัวเองทำดีอยู่แล้ว ทำถูกอยู่แล้ว พอรู้สึกว่าของเรายังมีดีอยู่ ก็จะไม่คัดค้าน เปิดใจรับฟังได้ แต่ถ้าไปบอกว่าไม่ดี เราพูดอะไรเขาไม่ฟังหรอก ฉะนั้น..ก็ลักษณะเดียวกัน เรื่องของการสอนเด็กเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เด็กจะดีจะเสียอยู่ที่พ่อแม่เลย ขอร้องไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้าไม่มั่นใจว่าสอนเด็กให้ดีได้ อย่าแต่งงานเลย จะกลายเป็นว่าสร้างปัญหาให้กับสังคมทีหลัง

    ถาม : บอกเด็กเขา บางทีเขาก็ไม่ฟัง ?
    ตอบ : เด็ก ๆ เขามีตัวกูของกูของเขาอยู่ ผู้ใหญ่ก็มีตัวกูของกูเป็นของตัวเอง เขาจะรู้จักรักหน้า คือ กิเลสจะสอนให้เขารู้ตั้งแต่วินาทีแรกเลย เพราะฉะนั้น..ถ้าเขาทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ต้อง ถ้าเป็นไปได้ก็คือ สอนเขาแค่สองคน อย่าไปพูดในลักษณะประจานความผิดต่อหน้าคนอื่น เด็กเขาจะรับไม่ได้ เรื่องพวกนี้ฝังรากลึกข้ามชาติข้ามภพ

    เขาบอกว่า อย่าตำหนิต่อหน้า ให้ชมต่อหน้า แต่ถ้าด่าต้องลับหลังบุคคลที่สาม เขาจะได้ภูมิใจว่าที่เขาทำดีแล้ว..ถูกแล้ว ให้ชมต่อหน้าแต่ว่าด่าลับหลัง อย่างน้อย ๆ ก็ไม่มีคนมาร่วมเห็นการเสียฟอร์มของเขา ถ้าอย่างนั้นเด็กจะพอรับได้
    .....................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     

แชร์หน้านี้