เรื่องเด่น วิธีตัดกิเลสโดยอัตโนมัติที่สุด ( พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 11 พฤศจิกายน 2017.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    วิธีตัดกิเลสโดยอัตโนมัติที่สุด

    83.jpg


    อย่าลืมว่ามโนมยิทธิสำหรับพวกเราก็คือโลกียอภิญญา ถ้าเรารวบรวมความมั่นใจได้เมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น ก็ได้ตอนนั้น ก็ได้เดี๋ยวนั้น แต่ในขณะเดียวกันถ้าศีลบกพร่องเมื่อไรก็เสื่อม ก็คลายตัวไป เรามั่นใจใหม่เมื่อไรก็ได้อีกเมื่อนั้น

    เรื่องของอภิญญาโลกีย์ก็เป็นอย่างนี้ ถามว่าในเมื่อเป็นอภิญญาโลกีย์ ทำไมถึงไปพระนิพพานได้ เพราะว่าตอนช่วงนั้นครูฝึกจะสอนให้เราตัดกิเลส ให้วางกำลังใจเทียบเคียงพระโสดาบัน พระโสดาบันแปลว่า ผู้เข้าถึงกระแสพระนิพพาน เราก็เลยไปพระนิพพานได้ แต่ของเราไปได้แค่ชั่วคราว ถึงเวลาเขาก็ไล่กลับ เขาไม่ให้อยู่หรอก

    เพราะฉะนั้น..ทำเอาไว้เถอะ เพราะถ้าหากว่าเราทำมโนมยิทธิได้แล้ว ให้เกาะพระนิพพานโดยตรง ให้เกาะพระพุทธเจ้าบนพระนิพพานโดยตรง อันนั้นเป็นวิธีตัดกิเลสโดยอัตโนมัติที่สุด พระรู้สึกว่าราคะเกิดก็วิ่งไปกราบพระบนนิพพาน ถ้าหากว่าราคะ โลภะ โทสะ โมหะ จะเกิดขึ้น แต่เรานี้ไม่มีจิตไปปรุงแต่ง ก็เจริญงอกงามไม่ได้ จะเฉาตายไปในเวลาอันรวดเร็วไม่เกินนาที สองนาที ถ้าเราทำอย่างนี้บ่อย ๆ จะเป็นการตัดกิเลสอัตโนมัติ ถ้าเคยชินจะเป็นพระอรหันต์ไปเลย มโนมยิทธิที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอน จุดสำคัญที่สุดอยู่ตรงนี้ อย่าไปใช้ผิดจุด

    ส่วนใหญ่แล้วไปเที่ยวดูอดีต ระลึกชาติเสร็จแล้ว ก็ไปฟื้นความหลัง เขาให้ดูแล้วใช้ปัญญาว่าเข็ดหรือยัง ? แต่ละชาติที่เกิดมามีแต่ทุกข์ทั้งนั้น ถ้าเกิดอีกก็ทุกข์อีก ปัจจุบันก็ทุกข์อยู่ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เราก็เกาะพระนิพพานเอาไว้อย่างเดียว ถ้าทำได้ต่อเนื่องยาวนานพอ จะหมดกิเลสเอาเฉย ๆ ของที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนให้นั้นมีราคามหาศาล แต่เราเอาไปใช่แค่บาทหนึ่ง สลึงหนึ่งยังไม่พอ ยังเอาไปใช้ผิดอีกต่างหาก จำไว้ว่าอย่าทิ้ง ขอยืนยันว่าตั้งแต่อาตมาทำมา ยังไม่มีกรรมฐานที่ไหนหรือของใคร สอนได้ง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว

    อาตมาตั้งแต่เด็กมาก็ช่างค้นคว้า ครูบาอาจารย์สายไหนก็ตามที่เขาบอกว่าดี จะตามไปปฏิบัติเลย เคยลุยไปขลุกอยู่กับครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นตั้งหลายปี หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่เทสก์ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ประเภทเคยเรียกใช้สอยอาตมาแล้วทั้งนั้น เพราะว่าตอนนั้นเป็นเด็กวัยรุ่น ยังวิ่งคล่อง

    ตอนนั้นที่วัดธรรมมงคล ซอยปุณณวิถี สุขุมวิท ๑๐๑ หลวงพ่อวิริยังค์ ท่านจะสร้างพระเจดีย์ ที่บ้านเป็นกรรมการร่วมสร้างกับท่านทุกคน พอถึงเวลาเดือนมกราทุกปีก็จะมีการชุมนุมครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น อาตมาก็จะไปวิ่งรับใช้ท่าน เพราะว่าเป็นเด็ก ๆ วิ่งคล่องตัว ท่านก็บอกว่าอยากได้ความดีก็ทำเอานะ ภาวนาเอานะ แต่ท่านไม่ได้บอกว่าทำอย่างไร ภาวนาอย่างไร ไม่เหมือนหลวงพ่อวัดท่าซุงของเรา ที่บอกรายละเอียดเอาไว้ครบหมด แล้วทางโน้นนี่ทำกันประเภท ต้องทุ่มเททั้งชีวิตจริง ๆ แลกกันไปเลย ตายเป็นตายขอให้ได้ธรรมะก็แล้วกัน อาจจะอดข้าวทีหนึ่ง ๗ วัน ๑๕ วัน หรือไม่ก็ฉันวันละคำ สองคำ แล้วก็เดินจงกรม ภาวนาทั้งวันตั้งแต่วันยันค่ำคืนยันรุ่ง นั่งตั้งแต่หัวค่ำยันสว่างอย่างนี้ กำลังใจของเราสู้ท่านไม่ได้ แต่ก็มั่นใจว่า ถ้าทุกคนทำถึงแล้ว สภาพจิตจะเข้าถึงธรรมเหมือนกันหมด

    อย่างหลวงตาบัว ใคร ๆ ก็ว่าท่านดุ ใคร ๆ ก็ว่าท่านเด็ดขาด อาตมาเคยขอหวยท่านมาแล้ว ท่านให้แล้วก็ออกตามนั้นด้วย คือท่านรู้ว่าไอ้เด็กตัวกระเปี๊ยกนี่ข้องใจว่า พระที่ปฏิบัติตามสายบริสุทธิ์คือวิสุทธิมรรคแบบนั้น ถึงเวลาแล้วจะมีฤทธิ์ มีเดช มีตาทิพย์ หูทิพย์อะไรไหม ? ก็ปรากฏว่ามีจริงตามนั้น อีกอย่างหนึ่งก็คือ อาตมาเป็นคนไม่ชอบเล่นการพนัน ท่านก็เลยให้ สมัยนี้ลองไปขอท่านดูสิ...หัวจะแตกไหม? ท่านรู้ว่าอาตมาขอเพื่อต้องการพิสูจน์ ท่านก็ให้พิสูจน์ ของจริงเขาไม่กลัวการพิสูจน์ แต่ขณะเดียวกันว่าคนที่ขอแล้วเอาไปเล่น เผลอเมื่อไรก็ไปบอกคนอื่นด้วย พวกนั้นขอให้ตายก็ไม่ได้รับประทานหรอก

    พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมีนาคม ๒๕๔๕ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


    ที่มา วัดท่าขนุน
     

แชร์หน้านี้

Loading...