วิวัฒน์ กับ นิพพาน ???

จิตวิญญาณ มาจาก ที่ใด จะไปที่ใด
การวิวัฒน์ของจิตวิญญาณ กับ เส้นทางสู่นิพพาน
มันเส้นทางเดียวกันหรือเปล่าsleeping_rb

 

จิตวิญญาณมาจากที่ใด และจะไปที่ใด เราก็ไม่รู้เหมือนกัน
มันเหมือนวงกลม2วงเชื่อมกันเป็นเลข8 มองไม่เห็นจุดเริ่มต้นและมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
มันก็คงจะมีนะ จุดเริ่มต้นการกำเนิดชีวิต แต่มันคงผ่านมานานมากซะจนมองไม่เห็นจุด
เริ่มต้นแล้วหรือไม่ก็มันเวียนมาทับจุดเริ่มต้นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเป็นรอยเดียวกันไปแล้ว
ก็เลยแยกไม่ออก หาจุดเริ่มไม่เจอ เหมือนเราเขียนเลข8แล้ว พอจบไซเคิล ก็กลืนกันไป
หมดมองหาจุดเริ่มไม่เจอแล้ว และเพราะมันยังอยู่ที่เดิมไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงมัน มันก็
ยังคงเป็นเลขแปดอยู่อย่างนั้น ถ้ามีรถคันหนึ่งมาวิ่งบนลู่เลข8นี้ มันก็คงวิ่งวนอยู่อย่างนั้น
ถ้าเหตุปัจจัยคือ พลังงาน ตัวรถ และลู่วิ่งเลขแปด ยังดีอยู่มันก็คงวิ่งไปเรื่อยๆไม่รู้จบ

การวิวัฒน์ของจิตวิญญาณ กับ เส้นทางสู่นิพพาน
ก็คงจะไปทางเดียวกัน คือมุ่งขึ้นสู่ที่สูง ระดับสูง
แต่กฏเกนฑ์ทางธรรมชาติมันอาจจะต่างกัน
ธรรมชาติของการวิวัฒน์ มันมีเจริญและเสื่อม เหมือลูกตุ้มนาฬิกา เหมือนจักรวาล หรือ
กาแลคซี่ มีเกิด มีดับ ธรรมชาติของโลกนี้คือ เมื่อขึ้นสู่ที่สูงสุดแล้วจนไปต่อไม่ได้ พอมัน
เป็นทางตัน แต่พลังงานยังคงวิ่งอยู่ตลอดเวลา มันไปต่อไม่ได้ มันก็จะดันออกในทางตรง
ข้ามก็จะไหลลงต่ำ เรียกว่ามีเจริญและมีเสื่อม ส่วนนิพพาน คือ พ้นจากกฏเกณฑ์ทางโลก
โดยสิ้นเชิง คือวิวัฒน์ขึ้นไปจนถึงขีดสุด แล้วแต่เกิดมีปัญญาหาทางทะลุออกไปได้สำเร็จ
ก็เรียกได้ว่า ผู้มีปัญญารู้แจ้งอริยสัจ4 รู้ทันโลก สละสมบัติในโลกได้ กล้าหาญเดินเข้าสู่
นิพพาน ก่อนที่จะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น ก็มีผู้คนแสวงหานิพพานกันอยู่แล้ว แต่ผู้ที่ทำ
สำเร็จคนแรก คือคนแรกของยุคนั้น ยุคที่ยังไม่มีผู้บอกทางไปนิพพาน คือผู้ประกาศคำว่า
ตรัสรู้ด้วยตนเองโดนชอบ รู้แจ้งด้วยตนเองโดยชอบ ผู้คนก็จะเรียกเขาผู้นั้นว่า พระพุทธเจ้า
และทำการประกาศศาสนาสอนให้คนอื่นเข้าถึงสภาวะนิพพานนั้นตามไปด้วย ในยุคนี้ ยังมี
คำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ ผู้ที่รู้แจ้งนิพพานในช่วงนี้ก็มีแต่ไม่เรียกว่าพระพุทธเจ้า เรียกว่า
พระอรหันตสาวก ทีนี้คำสอนของศาสนาต่างๆก็มีหลายแบบหลายแนว เป้าหมายสูงสุดที่
ศาสดาท่านสอนไว้ ก็เป็นไปตามที่ท่านเข้าถึง ถ้าเราเชื่อว่านิพพานมีจริง เป็นสิ่งที่เข้าถึง
ได้จริงและเป็นสิ่งที่เราแสวงหา ถ้าเราหาทางเองไม่ได้ ก็ต้องหาเอาจากคุรุ ที่มีอยู่ใน
ปัจจุบัน แต่ถ้าต้องการวิวัฒน์ขึ้นไปเรื่อย เพื่อหาจุดสิ้นสุดแล้วหาทางทะลุออกไปให้ได้
บางทีท่านก็อาจจะได้ค้นพบนิพพานเป็นคนแรกได้เช่นกัน ถ้ามุ่งมั่นแล้วไม่เลิกหรือหลงทาง
ไปไหนเสียก่อน คงได้พบจุดสิ้นสุดเช่นกัน เมื่อล้มเหลวก็ทำใหม่ไปเรื่อยๆ ลองผิดลองถูก
ด้วยปณิธานว่า จะค้นหาอะไร เพื่ออะไร แต่ถ้าไม่มีเป้าหมายอะไรเลย ไม่ทำอะไรเลย
ก็คงไม่อาจพ้นไปจากสิ่งที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบัน ถึงแม้เราจะปฏิเสธไม่ยอมรับและไม่เอา
มัน แต่ถ้ามันยังคงดึงดูดเราไว้ได้เราก็คงต้องเสียท่ามันไปเรื่อยๆ