ว่ากันด้วยเรื่อง สมเด็จวัดระฆัง รุ่น 100 ปี 108 ปี 118 ปี 122 ปี

ถ้าชอบแบบแตกลายงา มาเก็บรุ่น 108 ปี ซิครับ ราคายังไม่แรงมาก เนื้อหาพิมพ์ทรงสวยงาม สำหรับผมเนื้อผงเก็บต่ำสุดแค่ 108 ปี รุ่น 118 รุ่น 122 ผมซื้อเฉพาะสายโลหะครับ

 

ปิดยังไงก็ไม่มิดหรอกครับ 555+

 

ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณมากครับ ถ้าแบบนี้ลองหา 108 ปี ดีกว่า

 

พี่ๆช่วยดูหน่อยครับ ว่าแท้ไหมและพิมพ์อะไรครับ ขอบคุณมากครับ

 

ส่วนตัวผมดูยังไม่ดีครับจริงๆ

 

ช่วยดูหลังกล่องหน่อยครับเขียนอะไรไว้บ้าง หรือถ่ายรูปมาด้วยก็ดีครับผม

 

ตั้งแต่รุ่น 108 ปี เป็นต้นไป สายโลหะจะมีมูลค่าทางพาณิชย์มากกว่าสายเนื้อผงนะครับ ถ้าเจอเนื้อโลหะสวย ๆ อย่าปล่อยให้หลุดมือโดยเฉพาะเนื้อเงินน่าเก็บครับ รุ่น 108 ปี พิธีใหญ่พอ ๆ กับรุ่น 100 ปี อายุพระก็ 30 กว่าปีแล้วราคายังอยู่ที่สองสามพันบาท ยังพอสู้ไหวน่าสะสมครับ

 

พี่มีที่แนะนำไหมครับ ลองเดินสนามดูแล้ว แต่ตัดใจไม่ลง ไม่ใช่ราคานะครับ แต่กลัวผิดคิว ได้ของเก๊มาละยุ่งเลย ขอบคุณครับ

 

ตามเว็บประมูลน่ะครับ น่าจะหาง่ายที่สุดไม่ต้องเสียเวลา เสียค่่าเหนื่อยไปเดินหา
ได้ราคาแพงนิดแต่ส่งถึงบ้าน

 

ซื้อตามเวบก็ได้ครับ เลือกร้านที่เขามีประกันเพื่อหาองค์ครูมาศึกษา หรือจะสมัครเป็นสมาชิกเวบประมูลจะคัดกรองได้ในระดับหนึ่ง ถ้าพระเก๊ก็จะมีคนโหวตเก๊ หรือจะนำภาพมาสอบถามในเวบพลังจิตนี่ก็ได้ครับมีคนเก่ง ๆ เยอะเดี๋ยวก็มีคนช่วย การที่จะไปเดินหาตามสนามเราต้องเก่งระดับหนึ่งแล้วไม่งั้นเสียเงินแท้ ๆ ซื้อพระเก๊เข้าบ้านมันน่าเจ็บใจครับ..

 

ตามสนามพระพวกตามแผง สมเด็จ 100 ปี ไม่มีให้เห็นแล้วครับ
ส่วนใหญ่รุ่นนี้ขึ้นตู้หมดแล้ว
ของหลงอย่าไปหานะครับ โอกาสเจ็บตัวมีสูงครับ

 

ขอบคุณพี่ theblacksheep, DESIGNE-ONE, gunnnose มากครับ จะลองหาจากเวบนี้ดูก่อน หากไม่แน่ใจอย่างไร จะรบกวนสอบถามในกระทู้นี้อีกทีครับ

 

ทราบกันหรือไม่ครับ ว่าพระสมเด็จวัดระฆัง รุ่น 108ปี และรุ่น 118ปี นั้น 90% เป็นพระปูนขาวชุบ ดีๆนี่เอง ...หากท่านใดที่มีประสบการณ์ หรือดูเนื้อพระมาจนชำนาญแล้ว ผมคิดว่า คงจะดูและแยกแยะออก...ยกตัวอย่าง พระสมเด็จรุ่น 100 ปี ซึ่งสร้างตาม แบบโบราณ ทั้งกดพิมพ์ด้วยมือ และตอกตัด พระแบบนี้ เนื้อหามวลสาร จะถูกผสมกลมกลืนให้เป็นเนื้อเดียวกันจนลงตัว จึงนำไปกดลงบนแม่พิมพ์...แต่ว่า รุ่น 108ปี และ รุ่น118ปี นั้น ส่วนมาก เป็นพระพิมพ์กดมาจากโรงงาน โดยใช้เครื่องมือกดพิมพ์ โดยส่วนตัวผมคิดว่า เป็นการสร้างให้บูชา เป็นหมื่นองค์ ฉะนั้นการผสมเนื้อหามวลสารนั้น คงจะยุ่งยากมากความพอควรเลยทีเดียว พระสมเด็จรุ่ย 108ปี และ118ปี นั้น จึงกลายเป็นพระปูนเนื้อสีขาว แล้วนำมาชุบ น้ำมันตังอิ๊ว/น้ำผึ้ง ซึ่งมี เม็ดผงมวลสารผสมจนเหนียวตัวพอนั่นเอง....รู้ได้อย่างไรว่าเป็นพระชุบ?? .....คุณเคยสงสัยหรือตั้งคำถามมั้ยครับ ว่าสมมติพระองค์นั้น กดมาจากมวลสารที่ผสมแท้ๆทั้งหมดให้กลมกลืน หากพระองค์นั้นแตกหัก หรือกระเทาะ จนบิ่น จนสึก เนื้อพระองค์นั้น ก็ต้อง มีสีเนื้อ(สีผิว) ด้านในที่ไม่แตกต่างกันกับด้านนอก... และพระกดมือ ที่ผสมมวลสารแบบโบราณจนกลมกลืน หากชำรุด แตกหัก ก็จะเห็นสีเนื้อด้านใน ไม่แตกต่างกับด้านนอกจริงๆครับ ( ใครที่ไม่เคยเอะใจ หรือไม่เคยสังเกตุ ตรงจุดนี้ ท่านอาจนึกไม่ถึง)... แต่ ให้สังเกตุ พระสมเด็จรุ่น 108 และรุ่น 118ปี เมื่อพระหัก หรือบิ่น จะมองเห็นเนื้อผิวด้านใน เป็นปูนขาวล้วนๆครับ!!! ...ผมขอยืนยัน เพราะผมได้สะสม พระสมเด็จ ทั้ง 2 รุ่นนี้ ไว้หลายกล่อง ซึ่งได้มาจากคุณลุง ที่ไปบูชามาจากวัด ในยุคที่พระสร้างมาใหม่ๆเลย....และพระบางองค์ ได้เกิดมีการแตกร้าว บางองค์ก็บิ่นไปบ้าง จึงเป็นเหตุ ที่ทำให้ผม มาศึกษาตรงจุดนี้อย่างจริงจัง.....โดยเฉพาะรุ่น118ปี เป็นพระปูนชุบเยอะมาก ในพิมพ์ ใหญ่ /พิมพ์ ฐานแซม และพิมพ์ รูปเหมือนสมเด็จโตครับ เมื่อพระแตกออก ข้างในมีแต่ปูนทั้งนั้น ...แต่เป็นที่แปลกใจก็คือว่า พิมพ์ปรกโพธิ์ มีบางองค์ ที่เนื้อพระ ดูหนึกนุ่ม และมีรอยตอกตัด แลดูแล้ว เป็นลักษณะของพระ กดมือ ซึ่งเป็นพระที่สร้างในองค์แรกๆ หรือที่เรียกว่า องค์ที่กด นำถกษ์ ซึ่งมีจำนวนน้อย (พระกดนำฤกษ์ โดยส่วนใหญ่ จะต้องมีทุกรุ่น ทุกวัดครับ) ซึ่งพระประเภทองค์นำฤกษ์ นี้ จะมีความคมชัด เส้นสายติดครบตามแม่พิมพ์ทุกประการ( พิมพ์ปรกโพธิ์ 118ปี จะเห็นเส้นก้านโพธิ์ วิ่งลงมาชนใบหูทั้ง2ข้างขององค์พระครับ แต่องค์ปูนชุบ เท่าที่ผมเห็น จะแทบไม่เห็นก้านโพธิ์เลย ถ้าเห็น ก็เห็นลางๆครับ) และเนื้อหามวลสาร จะดูแน่น กว่าพวกองค์ปูนชุบมากๆครับ ทั้งตำหนิ รอยหยุบตัวของผิวพระต่างๆมีครบตามกาลเวลาของพระที่กดพิมพ์แบบดั้งเดิม ....แต่องค์ที่เป็นปูนชุบนั้น คุณเชื่อหรือไม่ครับ ผมได้ทำการทดลอง นำพระไปแช่น้ำ เป็นเวลาหลายเดือน ปรากฏว่า เนื้อพระจากสีเหลืองๆ กลายเป็นสีขาว-ขาวซีด จนเกือบเห็นเป็นสีปูนเลยทีเดียว.....จึงยืนยันได้ว่าพระสมเด็จทั้ง2รุ่นนี้(โดยเฉพาะ รุ่น118ปี) เนื้อหามวลสารน้อยมากๆครับ เพราะเคลือบชุบไว้ บางๆ ที่ผิวด้านนอกเท่านั้น....* ผมเขียนบท ความนี้ขึ้นมา มิได้มีเจตนาโจมตี พระสมเด็จรุ่น 108ปี และ118ปี ประการใดครับ เพราะผมก็เคยเป็นผู้ไม่รู้มาก่อน เจตนาของผม เพียงเพื่อให้ผู้อ่าน ท่านที่ยังไม่รู้ ได้รู้ ได้ทราบ และนำไปศึกษาดูกันเท่านั้นครับ..*สุดท้ายมีข้อคิดมาฝาก พระเกจิยุคเก่าๆ หลายๆท่าน ได้เคยกล่าวไว้ว่า พุทธาคม ที่เข้มขลัง บวกด้วยพลังแห่งศรัทธาที่แรงกล้าในองค์พระรัตนตรัย ถึงแม้ เป็นเพียงเศษไม้ หรือก้อนดิน(เมื่อปลุกเสกแล้ว) ก็จักวิเศษทรงคุณได้....แต่หากใจของคนนั้นต่ำช้าเลวทรามประการใด ...ก็แค่เพียงเศษไม้ หรือ เศษดิน นั่นแหละ ที่ห้อยบูชา*

 

เมืองเสน่ห์กาหลง มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม - Powered by Discuz! Board

ลองอ่านดูนะครับ

 

ถูกต้องแล้วครับ รุ่น 100 ปี สร้างตามตำรับเดิม แท้ๆ ทุกประการ ...เนื้อพระ คือพระเนื้อผสม(ไม่ใช่เนื้อปูนล้วนๆ แล้วมาชุบ เหมือนพระ ยุคใหม่ๆ บางรุ่น) แล้วกดพิมพ์... เนื้อพระแท้ๆแบบนี้ เมื่อแห้งสนิทดีแล้ว กี่ปีต่อกี่ปี โดนน้ำก็ไม่กร่อน ผิมนอกก็จะไม่เลือน เหมือนพระชุบ พระเคลือบครับ...และสมเด็จรุ่น100ปี ลองดูได้ หากกระเทาะ/แตกบิ่น เนื้อใน ก็จะเห็นมวลสาร และสีแบบเดียวกับเนื้อนอกครับ

 

อย่างที่ท่านผู้สร้างจาก LINK บอกนั่นแหละครับ พระรุ่นหลังๆ หรือพระสมัยใหม่ มักใช้ ปูนเปลือกหอย และน้ำมันตังอิ๊วเป็นหลัก ( มวลสารจริงๆ มีน้อยมาก ติดอยู่แค่ผิวด้านนอกองค์พระเท่านั้นครับ)

 

ผมว่าคงจะไม่ใช่พระปูนขาว แล้วมาชุบสีผึ้งซึ้งผสมมวลสารไว้แน่ครับ แต่เรื่องมีส่วนผสมของปูนไหมคงจะยอมรับว่าต้องมีครับ ส่วนเรื่องมวลสารจะมากจะน้อยก็ว่าตามกันไปครับ เพราะพระของผมที่มีรอยบิ่นบ้าง เนื้อในก็ยังไม่ใช่สีขาวขนาดนั้นครับที่จะเป็นปูนขาวหรือปูนพลาสเตอร์สะทั้งหมด ส่วนเรื่องพระเอาไปแช่น้ำแล้วเป็นเนื้อขาวคิดว่าน่าจะเป็นกับแทบทุกๆองค์ครับที่ผ่านการล้าง ปล่อยนานวันไปสีน่าจะเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม
ส่วนเรื่องโซนเนื้อผมว่ามีหลายโซนครับ
(ความคิดเห็นส่วนตัวจริงๆ)

 

ขอความกรุณาได้โพสต์รูปประกอบเนื้อหาเพื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นได้ไหมครับ ถ้าท่านต้องการพระที่มีส่วนผสมของมวลสารสมเด็จอย่างเข้มข้นก็ต้องไปสะสมพระชุดหลวงปู่นาคในยุคต้น ๆ พระหลวงตาพัน หลวงปู่ลำภู พระครูสังฆ์ พระครูลมูล บางขุนพรหม 09 วัดระฆังรุ่นอนุสรห์ 108 ปี เป็นพระปูนขาวล้วน ๆ ครับพี่ครับผมว่าพี่ไม่ควรเก็บเอาไว้ เห็นบอกว่ามีหลายกล่อง ควรรีบเอาออกมาระบายก่อนที่ราคาจะตกไปมากกว่านี้



ถ้าพี่มีพิมพ์ A ลึกแบบภาพตัวอย่างที่ผมแนบมา พี่เอามาขายผมนะครับ ผมให้พี่ราคางาม ๆ องค์ละ 500 ถ้ามีกล่องมาด้วยให้ 700 ผมรับซื้อไว้ละกันพระปูนขาวพระชุบให้ราคาได้แค่นี้แหละครับพี่ ราคานี้ให้ได้เฉพาะพิมพ์ A ลึก ส่วนพิมพ์อกล่ำให้ได้แค่ 300 ถ้ามีกล่องเพิ่มให้อีกเป็น 500 อยากให้พี่ถ่ายรูปมาลงก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจพระปูนขาวล้วน ๆ เก็บไว้ก็ไม่มีอนาคตเชื่อผมเถอะ แต่องค์ที่พี่เอาไปแช่น้ำไว้หลายเดือนผมไม่รับซื้อนะครับ อิอิ...

 

ถ้าพี่ธานีเอาแล้วเหลือ ผมก็ยินดีจะรับช่วงต่อเช่นกันครับ