ว้าวุ่นใจเรื่องรักสามเส้าลองอ่านข้อคิดดีๆจากหลวงปู่ค่ะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ฟาฟา, 27 กรกฎาคม 2014.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    กรณีเช่นนี้ เกิดขึ้นกับหลายๆท่าน ในความเป็นจริง

    เรื่องคู่ครอง ในอดีตชาติต้องทำความเข้าใจก่อนว่า

    1 ไม่ได้เป็นคู่กันอีก เมื่อมาเกิดในปัจจุบันชาติ แล้วต้องกลับมาเป็นคู่กันอีกไม่ได้ เพราะเราและเขา ได้ใช้กรรมร่วมกันไปหมดแล้ว แต่เยื่อใยบุญสัมพันธ์ ทางจิตยังมีอยู่

    2 ไม่ได้เป็นคู่กันอีก ด้วยเหตุ เพราะในชาติปัจจุบัน เรามีกรรมเป็นของเรา ตามวาระแห่งวิบากกรรม ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยการมีคู่กับเขา แต่เรามีวิบากกรรมเป็นของเราที่เกี่ยวพันธ์ด้วยวาระแห่งกรรมที่ต้องใช้กรรมร่วมกับผู้อื่น ตามวิบากกรรมอื่นที่ให้ผลก่อน

    3 เป็นคู่กันเพราะกรรมในอดีตให้ผล ที่เกี่ยวพันธ์ เพราะทั้งเรา เขา และภริยาของเขามีกรรมร่วมกันทั้งสามคนา แบบต้องเป็นรักสามเส้า ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะมีวิบากกรรมเก่าให้ผล[คู่เวรคู่กรรม]

    4 จะเป็นคู่หรือไม่เป็นก็ได้ เพราะวิบากกรรมเก่าให้ผลเล็กน้อยถึงปานกลาง เพราะส่วนหนึ่งได้ใช้กรรมร่วมกันไปมากแล้ว ปัจจุบัน จึงขึ้นอยู่กับจิตใจของเราเอง [คู่สร้างคู่สม]

    จะอย่างไรก็ตามมนุษย์ปุถุชน แม้พระอรหันต์ ก็ต้องรับกรรม ตามผลแห่งวืบากกรรมที่ตนกระทำไว้ไม่สามารถหลีกหนีได้พ้น เพราะเราทั้งหลายต่างได้ก่อสร้างกรรมอันเป็นเหตุไว้แล้วในอดีตชาตินั่นเอง

    แล้วเราควรทำอย่างไร
    คำตอบคือ ในความเป็นจริง เมื่อเขามีภริยาอยู่แล้ว นั่นหมายถึง เราไม่สามารถเข้าไปยุ้งกับความเป็นสามีภริยาผู้อื่นได้ หรือทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก เพราะเป็นการสร้างบาปกรรมหนักเพิ่มขึ้น
    การแก้ไขคือ การสร้างปัญญา ให้เกิด แก่จิต ด้วยความเข้าถึงธรรม มีศีลเป็นเครื่องควบคุมกำกับ ปัญญาในทางธรรมเพื่อดึงจิตหลุดพ้นจากกรรมเก่าในอดีต เกิดปัญญาละปล่อยวางในความรัก ที่มีกรรมผูกพันธ์กันมาได้ ปัญญาในทางธรรม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนำมาฝึกอบรมจิตตนเพื่อละความรัก ความหลง ให้ดับลง เมื่อใดที่ท่าน ฝึกอบรมจิต จนมีกำลังความสามารถสูงกว่าแรงกรรม เมื่อนั้นท่านก็หลุดพ้น
    ปัญหาจึงอยู่ที่ว่า แรงกรรมหรือผลแห่งวิบากกรรม หนักเบามากน้อยแค่ไหน กับกำลังปัญญาทางจิตของท่านมั่นคงมากน้อยดีแค่ไหน เช่นน้ำกับไฟ หากน้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ ก็ยากที่จะหลีกหนีหลุดพ้น

    ดังนั้นก่อนที่ไฟตัณหาราคะ ภายในที่รุมเร้าด้วยผลแห่งวิบากกรรมเก่าจะลุกโชติช่วงลามไปสู่ กายกรรม วจีกรรม ขอท่านทั้งหลายพึงมีสติ หลีกหนี ไกล่ห่าง ยึดเอาพระรัตนตรัย พระธรรม นำจิต สร้างปัญญาดับไฟตัณหาราคะเสีย ก่อนที่บาปกรรมหนักข้อกาเม จะเกิดขึ้นเพราะท่านเป็นผู้สร้าง

    กระผมเคยพบเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยมากและขอกล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า
    หากแม้เราได้เคยเป็นคู่กันมาก่อน มาชาตินี้ ขอจงเปลี่ยนเป็นพลังบุญที่ดีในการสร้างความดีสร้างบารมี มิใช่มาเพื่อสร้างกรรมตกนรกลงไปด้วยกัน
    กรรมที่ทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก สามีภริยาเลิกลากันนั้น หนักมาก โดยเฉพาะกรณีที่เขามีลูกที่ต้องเลี้ยงดูอยู่ด้วย ซึ่งผมจำได้ว่าเคยเห็นกรณีแบบนี้สุดท้าย คนเหล่านั้นที่แย่งสามีคนอื่นไป ตอนนี้เขาต้องป่วยเป็นอัมพาต ท่านหนึ่ง อีกท่านหนึ่งป่วยเป็นมะเร็งที่เต้านม ตัดไปหนึ่งข้างอีกข้างกำลังให้หมอตัดออก เป็นต้น

    เวรกรรมนั้นมีจริงขอให้ท่านจงไม่ประมาท พึงมีสติปัญญา รอบคอบ พึงน้อมนำจิตสู่ธรรม มีศีลเป็นเครื่องควบคุมกำกับให้ดีนะครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2014
  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    สรรพสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นเงา ติดตามตัว มีกรรมเป็นทายาต
    การแก้ไขกรรม จึง อาศัยกรรมดีในปัจจุบันเท่านั้น กรรมดีที่ว่าต้องเริ่มจากการอาศัย บุญทาน การถือศีล การภาวนา ฝึกอบรมจิต เพื่อสร้างปัญญา เพราะกรรมเกี่ยวข้องกับจิต เพราะกรรมเหนี่ยวนำจิต เพราะกรรมเป็นนายหนุนนำจิต

    เช่นนี้แล้วการแก้ไขกรรมที่แท้จริงก็คือการ ฝึกอบรมจิตให้มีกำลัง มีปัญญาชนะกรรมที่หนุนนำจิต เมื่อใดที่ท่านมีกำลังสติปัญญา ชนะแรงกรรม แรงแห่งอวิชา ตัณหา อุปาทานได้สำเร็จ
    เมื่อนั้น ท่านย่อมเป็นอิสระ ไม่ตกเป็นทาสของสิ่งใด ท่านย่อมหลุดพ้นได้สำเร็จ
    หรือหากแม้วิบากกรรมมีผลหนักหน่วงที่ท่านต้องรับกรรม การรับกรรมของท่านก็เป็นไปแค่เพียงรูปนามที่กระทบ แต่รูปนาม กรรม อวิชา เหล่านั้น ก็ไม่สามารถทำร้าย เหนี่ยวนำ ผูกมัด จิตปัญญาที่หลุดพ้นเป็นอิสระแล้วของท่านได้ ครับ สาธุ
     
  3. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    จากคำสอนคุณก้อง รู้สึกว่าใกล้เคียงกับดิฉันตอนนี้มาก รู้สึกว่าได้พัฒนาจิตขึ้นมาอีกระดับแล้ว
    "การสร้างปัญญา ให้เกิด แก่จิต ด้วยความเข้าถึงธรรม มีศีลเป็นเครื่องควบคุมกำกับ ปัญญาในทางธรรมเพื่อดึงจิตหลุดพ้นจากกรรมเก่าในอดีต เกิดปัญญาละปล่อยวางในความรัก ที่มีกรรมผูกพันธ์กันมาได้ ปัญญาในทางธรรม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนำมาฝึกอบรมจิตตนเพื่อละความรัก ความหลง ให้ดับลง เมื่อใดที่ท่าน ฝึกอบรมจิต จนมีกำลังความสามารถสูงกว่าแรงกรรม เมื่อนั้นท่านก็หลุดพ้น"

    ช่วงนี้กำลังพยายามเอาชนะใจตัวเองด้านนี้อย่างมาก ในกรณีของเรา เราถามตัวเองแบบว่า แม่บ้านๆหน่อย ^^คือ
    1. ทำไมเราต้องหึงหวงคนรัก ในเมื่อยิ่งหึงยิ่งหวงก็ยิ่งทำให้มีปัญหาทะเลาะกัน
    2. เขาดีตรงไหนบ้างที่เราควรรั้งเขาไว้ และเราดีแค่ไหนที่เขาจะสมควรจงรักภักดีด้วย
    3. เราต้องการทุกข์หรือสุข คำตอบคือ สุข แล้วก็มาถามตัวเองว่าแล้วเราจะทะเลาะให้เกิดทุกข์ทำไม
    ดังนั้น หากเขามีความสุขก็ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตของเขาไป
    4. มีกฎเกณฑ์อะไรที่เราจะรั้งเขาไว้ หากเขาต้องการจะไปเจอคนใหม่ก็จะปล่อยไป
    เพราะนี่อาจเป็นสิ่งที่ฟ้ากำลังจะให้เราได้จบกับเขา เพื่อให้เราได้มีโอกาสเจอคนที่ดีกว่าก็ได้ (อาจ เป็นเพื่อนหรือคนรัก)
    _________________________

    พอคิดได้แบบนี้ก็สบายใจขึ้นมาก การมีคู่คงต้องเผื่อใจไว้ตลอด เปิดใจกว้างๆแบบว่าถ้าคุณไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าก็จะแสดงความดีใจด้วย ดังนั้นเราจึงไม่เช็คโน่นนั่นนี่ของเขา ถึงเวลาไม่อยากเจอก็ต้องเจอ ไม่อยากจากก็ต้องจาก ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด และมีความสุขในทุกๆวันดีกว่า
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    อีกนิด ไหนๆก็กล่าวเรื่องการแก้ไขกรรม

    ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ประสพกับเราท่านในปัจจุบันคือการ แก้ไขกรรม ต่างๆ เช่นการสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา หรือตัดไฝแก้กรรมเป็นต้น

    มีหลายคนเคยสอบถามกระผม

    กระผมก็ตอบในทำนองคล้ายๆกันว่า การกระทำการแก้ไขกรรมได้นั้น มีหลักอยู่ว่า
    เราทำความดีอะไรก็ได้ เพราะความดีกรรมดี ก่อให้เกิดผลบุญ ผลบุญมีอานิสงค์ช่วยเหลือแก้ไขได้ แต่จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ แรงกรรมและแรงบุญ ในช่วงเวลานั้นๆ

    วิธีการจะช่วยแก้ไขกรรมนั้น สำหรับผมจึงรู้วิธีการเฉพาะตนที่ว่า การแก้ไขคือการ
    เข้าไปรู้อดีตแห่งเหตุ ปฐมเหตุที่ทำไว้ จึงก่อให้เกิดผลกรรมอย่างนี้เกิดขึ้น เมื่อเราทราบเหตุ ทราบถึงเจ้ากรรมนายเวร ทราบถึงวิบากกรรม รู้ความหนักเบาของอดีตกรรมปฐมเหตุ ก็ย่อมรู้วิธีแก้ไข เหมือนหมอ รู้อาการสาเหตุที่ถูกต้องของผู้ป่วยก็ย่อมรักษาโรคได้

    แต่ปัญหาคือกรรม เป็นเรื่องที่ซับซ้อนเพราะเกี่ยวด้วยวิบากกรรม ความหนักเบา และเกี่ยวด้วยเจ้ากรรมนายเวรผู้พยาบาท การแก้ไขจึงเป็นเรื่องยาก ในบางครั้งต้องอาศัยบุญที่มีกำลังมากเข้าช่วย นั่นหมายถึงการปฏิบัติธรรม การเจริญภาวนา การถือศีลประกอบด้วย แค่บุญทาน ไม่เพียงพอ สุดท้าย การสวดมนต์ภาวนาจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มีอานิสงค์มากที่สุด เพราะนอกจา่กจะมีกำลังบุญมาก สามารถช่วยให้จิตเจ้ากรรมนายเวรหลุดพ้น ปลดปล่อยเขาได้แล้ว การภาวนา ก็ยังปัญญารู้แจ้งแก่ตนเอง เพื่อขัดเกลาจิตใจตนเองให้ดีงาม และพ้นทุกข์ได้ เช่นนี้กระผมจึงส่งเสริมให้มีการ ถือศีล สวดมนต์ภาวนาด้วยเสมอครับ เพราะเป็นการสร้างปัญญา มิใช่อาศัยแค่ศรัทธาเท่านั้นครับ สาธุครับ
     
  5. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ขอร่วมแชร์ด้วยคนนะครับ

    ที่จริงการแก้กรรมที่ได้ผลที่สุดก็คือ
    การยอมรับตามความเป็นจริงให้ได้นั่นเอง เมื่อวาระของวิบากกรรมนั้นมาถึง
    การหลบหลีกเป็นเพียงแค่การผลัดผ่อนออกไปชั่วคราวเท่านั้น
    ความกลัวนั่นแหละที่ทำให้ไม่กล้ายืดอกยอมรับความจริงได้
    กลัวอะไรสักอย่าง กลัวเจ็บ กลัวตาย สรุปรวมว่า กลัวทุกข์ก็แล้วกัน

    ดังนั้น การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่ดีที่สุด ก็คือ การมีสติ
    กลับมารู้ทันตัณหา ความกลัว รวมทั้งความอยากและความเพลินด้วย
    เห็นความหลง เห็นอุปาทานความกลัวทุกข์ นี่แหละคือกรรมฐานอันประเสริฐสุด
    ที่จะนำพาให้ข้ามพ้นวัฏฏสงสารไปได้อย่างแท้จริงในที่สุดครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...