ศุกร์ 13 แค่ความเชื่อ โหรดัง ห่วงดวงเมืองเขย่า สลับร้ายดี คนจนตรอกขายลูกกิน

ศุกร์ 13 หรือจะเป็นตัวเลขอาถรรพณ์ ความโชคร้ายอย่างที่หลายคนเชื่อ หรือแค่ความงมงายของโลกตะวันตกเท่านั้น ส่วนในแง่ของโหราศาสตร์ไทย พบว่าโหรดังส่วนใหญ่มองตัวเลขศุกร์ 13 ไม่มีผลใดๆ และปรากฏการณ์ใดๆ ซ่อนอยู่


เช่นเดียวกับ “อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา” โหรดังของเมืองไทย กล่าวกับ “ทีมเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า ศุกร์ 13 เป็นความเชื่อทั่วๆ ไป ไม่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายใดๆ เป็นแค่ตัวเลขไม่มีผลอะไร หรือคนที่เกิดตรงกับวันศุกร์ที่ 13 ก็ไม่มีผลกระทบเช่นกัน ซึ่งคนจะมีดวงชะตาอย่างไรหรือมีโชคลาภต้องขึ้นอยู่กับวันเดือนปีเกิด ยกตัวอย่างฝาแฝดเกิดวันเดียวกันยังมีดวงชะตาไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่ควรวิตกกังวล


อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา โหรดังของเมืองไทย

ในฐานะโหร ซึ่งเคยดูดวงเมืองมาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักวิชาความรู้ที่เรียนมาในด้านกฎหมายและรัฐศาสตร์ พร้อมบอกอย่าเชื่อหมอดู 100% เพราะมีหมอดูดังๆ หลายราย ไม่ได้ทำนายถูกต้องแม่นยำ อาจมีการคาดเดาจากข้อมูลหลายๆ อย่างนำมาประกอบ เพื่อสร้างจุดขายทำให้สังคมสนใจ หรือเพื่อเอาใจบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา ได้ระบุชัดว่า ขณะนี้ดาวมฤตยูยังคงทับดวงเมือง ซึ่งแน่นอนกิจการต่างๆ ในไทยประสบปัญหาเช่นเดียวกับทั่วโลก

หากย้อนไปดาวมฤตยูทับดวงเมืองมานาน 3-4 ปี และยังเหลืออีก 10 ปี จะผ่านพ้นไป หรือเท่ากับว่าดาวมฤตยูทับดวงเมือง เป็นระยะเวลามากถึง 14 ปี และแม้ว่าดาวมฤตยูจะกุมชะตาดวงเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ดี ซึ่งประเทศไทยจะเกิดการคิดค้นอะไรแบบแปลกๆ และพิเศษ อย่างกัญชา โดยกำลังจะมีการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับการคิดค้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในช่วงระยะเวลา 10 ปี อาจเกี่ยวกับการบริหารงานของประเทศ ซึ่งระบบบางอย่างในวงราชการกำลังถูกรื้อโครงสร้างใหม่ เพื่อแก้ปัญหาในวงราชการไทยและการทุจริตคอร์รัปชัน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง



ในทางกลับกันเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีก็ต้องเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นในสังคม ในอนาคตจะเกิดปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดมากขึ้นแบบเต็มบ้านเต็มเมือง จนมีข่าวมากมาย และที่น่าเศร้ามากจะมีการขายเด็ก ขายลูก มีการค้ามนุษย์ เนื่องจากคนไม่มีเงิน และเมื่อถึงเวลาต้องมีการล้างเมืองใหม่ทั้งระบบ มีการแก้กฎหมายทุกอย่าง โดยผู้เกี่ยวข้องจะมีความคิดแบบพิเศษและพิสดาร นอกจากนี้จะเกิดภัยพิบัติต่างๆ เกิดขึ้น อย่างที่เห็นขณะนี้ทั้งภัยแล้งน้ำท่วม

“ไทยต้องใช้ระบบเผด็จการก่อน เพื่อค่อยๆ เคลียร์ปัญหาต่างๆ และรัฐบาลควรเตรียมพร้อมแก้ไขไม่ใช่วางเฉย เพราะปัญหาเรื่องน้ำมีทุกๆ ปี ส่วนปัญหาในสังคมที่จะรุนแรงขึ้นต้องสอนให้เด็กไทยมีความอดทนต่อสู้ เพราะยังเหลืออีก 10 ปีที่ไทยต้องเจอเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งม็อบเกิดขึ้นแน่นอนและเหตุความรุนแรง เหมือนสงครามจะรุนแรงมากขึ้น จากเหตุระเบิดป่วนกรุงที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกเป็นห่วงว่าจะเกิดการวางระเบิดอีกกว่า 100 จุด”.


อ่านเพิ่มเติม…

ขอบคุณที่มา
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1660105