อ้าวววว เหรอคะ
คิดว่าแม่หญิงส่วนใหญ่จะคอยกำกับดูแลให้บ่าวไพร่ทำงานให้เรียบร้อยเสียอีก
สงสัยสมัยนั้นเราเป็นแม่หญิงในเรือนเล็กๆ ไม่มีบ่าวไพร่คอยรับใช้
เพราะเรื่องจัดหาน้ำท่า สำรับกับข้าวกับปลานี่ทำเองโดยตลอด
หรือไม่สมัยนั้นเราก็คงเกิดเป็นทาสในเรือนเบี้ย
อิอิอิอิ:cool::cool::cool:
ศูนย์รวมลูกหลานพญานาคศรีสัตตนาคราช
ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย พระยาเดโชชัยมือศึก, 22 มิถุนายน 2010.
หน้า 201 ของ 294
-
-
-
ไม่ใช่หรือครับที่ผมเข้าใจ ยังไงก็ตามผมก็ชอบวัดหน้าพระเมรุไม่เคยเปลี่ยนครับ ^^
-
ตอนที่ไปศูนย์วาสุกรีก็จะไปไหว้พระที่วัดธรรมิกราช ได้เดินไปที่บ่อน้ำเก่า ข้างๆบ่อน้ำเลยไปสัก20เมตรมีเจดีย์โบราณอยู่เยอะๆ ต้องสัพเพ แถวนั้นอยู่นาน อิอิ
-
ไปก่อนนะครับ พี่ๆน้องๆ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ
^^
ปวดหัว อิอิอิ -
บางทีเราก็ต้องอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงไม่มีใครอยากจะสร้างเวรสร้างกรรมต่อกัน มันเป็นไปตามกรรมที่เลี่ยงกันไม่ได้ ถ้าได้มาเจอกันก็คงจะขออโหสิกรรมต่อกัน
ถ้าใครเคยทำกับเราไว้ในอดีต เราก็อโหสิกรรมให้ ให้ทำความดีไถ่โทษด้วยการทะนุบำรุงพระศาสนาให้ดี รักษาพระศาสนายิ่งกว่าชีวิตของตน
เพราะรู้ตัวดีว่าสมัยนั้นเป็นมือศึก ของพระนารายณ์ ย่อมได้เคยมีส่วนร่วมในการเบียดเบียนชีวิตใครบางคนมาด้วยแน่ๆ แต่เราก็ผลัดกันไปแล้วเนอะ ในชาติที่ผ่านๆมา ดังนั้น สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งคือ อภัยทาน -
วัดโคกพระยา คือวัดที่อยู่หลังวัดหน้าพระเมรุ
เข้าทางซอยเขาเล็กระหว่าง วัดหน้าพระเมรุ กับ วัดหัสดาวาส
มีบ้านปลูกบังทางเข้าเหมือนซอยตัน
อีกทางหนึ่งเป็นที่วางถังขยะ อีกทางเข้าหนึ่งต้องผ่านหน้าบ้านชาวบ้านเข้าไป -
โชคดีจังที่เราไม่เก่งวิชาประวัติศาสตร์ อ่านอย่างไรก็ไม่เคยจำ เรียนเท่าไหร่ก็ได้แค่สอบผ่าน สอบเสร็จแล้วก็ลืม ไม่เช่นนั้น พอได้มาอ่านข้อความคงพอปะติดปะต่ออะไรได้
โชคดีอีกอย่างคือ ไม่เคยจำได้เลยว่าตัวเองเคยเป็นทหาร(อาจเคยเป็นแต่ลืม หรืออาจไม่เคย)
อะไรที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไปแล้วกันเนาะ^-^
ชาติภพ ที่มนุษย์ต้องเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะสงสารนี้
กี่ชาติภพ ที่เราต้องหลั่งน้ำตาให้กับความพลัดพรากจากคนหรือสิ่งของอันเป็นที่รัก
หากเอากระดูกมากอง ก็คงสูงเป็นภูเขาเหล่ากา
หากเอาน้ำตามาเทรวมกันก็คงเต็มมหาสมุทรอันแสนกว้างใหญ่
หากเอาไฟโลภะ โทสะ โมหะ มากองรวมก็คงเผาผลาญทุกอย่างให้วอดวายลงเป็นจุล
นั่นแหละคือความมากมายแห่งภพชาติ
แล้วเราจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นต่อไปอีกนานแค่ไหน -
หนีไปเล่น FB กันหมดป่าวนี่
-
อิอิ อยู่จ้ะพี่เอ ยังอยู่ตรงนี้กั๊บ
-
อย่าซ่อนตัวกันเลยนะจ๊ะ คนดี๊....คนดี
ออกมาเหอะ เหงาใจ -
ฝนมาฟ้ามืดตึ๊ด...ตื๋อ
กลับบ้านกันเถอะ -
ไปดูรูปหนุ่มหล่อมาแล้ว กว่าจะล๊อกอินได้ก็ยุ่งยากเพราะลืมโค๊ด
-
-
-
ลองไปสอบถามคุณสร้อยฟ้ามาลาแล้วค่ะ
เธอว่าองค์ซ้ายน่าจะเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์
องค์ขวาน่าจะเป็น สมเด็จเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารี กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร
...
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์ พระราชธิดาใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2421 มีพระนามเต็มว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย ประไพพรรณพิจิตร นริศราชกุมารี สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2430 ชาววังออกพระนามว่า "ทูลกระหม่อมหญิงใหญ่"<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>
ทรงสิ้นพระชนม์ในวัยเพียง 8 พระชันษา สมเด็จพระศรีพัชรินทราพระบรมราชินีนาถจึงทรงนำทรัพย์สินส่วนพระองค์ของพระธิดามาสร้างเป็นถนน โดยพระราชทานนามว่า "พาหุรัด" เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระธิดาอันเป็นที่รัก
ในปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชโองการสถาปนาพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายในที่ "กรมพระ" มีพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัดมณีมัย ประไพพรรณพิจิตร์ นริศรราชกุมารี กรมพระเทพนารีรัตน์<SUP id=cite_ref-1 class=reference>[2]</SUP>
<SUP></SUP>
<SUP>..</SUP>
สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร เป็นพระราชธิดาลำดับที่ ๔๓ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประสูติใน สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๒๗ ณ พระตำหนักสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา บรมราชเทวี ในพระบรมมหาราชวัง
เมื่อพระชนม์ครบหนึ่งเดือนได้มีพระราชพิธีสมโภชเดือน ณ พระตำหนักสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา บรมราชเทวี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารี ชาววังออกพระนามว่า "ทูลกระหม่อมฟ้าหญิง"<SUP id=cite_ref-0 class=reference>[1]</SUP>
เนื่องจาก สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ทรงสูญเสียพระราชธิดาทั้ง ๒ พระองค์ใน พ.ศ. ๒๔๓๐ พระองค์ทรงปรารภจะมีพระราชธิดา จึงทรงขอประทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารี จาก สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ให้เป็นพระราชธิดา
เมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารี ทรงมีพระชนม์ ๑๒ พระชันษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีโสกันต์ พระราชทานพระสุพรรณบัฏเฉลิมพระนาม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ นรินทรเทพยกุมารี<SUP id=cite_ref-.E0.B8.9E.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.99.E0.B8.B2.E0.B8.A1_1-0 class=reference>[2]</SUP>
<SUP></SUP>
<SUP></SUP> -
ขอบคุณพี่เต้าเจี้ยวมากมายค่ะ
ปราญฯกำลังก็อปรูปแล้วเขียนข้อความหลังไมค์ถึงคุณสร้อยฟ้ามาลาอยู่เชียว พอดีเปิดหน้าดูด้วยความสังหรณ์ใจก็เจอข้อความของพี่พอดี ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูลที่ช่วยหามาให้ ถึงแม้จะยังมีคำถามเพิ่มเติม แต่เท่าที่ทราบก็ช่วยอะไรได้มากทีเดียว -
สวัสดีคร๊าบบ
กว่าจะเข้าบอร์ดได้หายกันหมดเลย
สงสัยไปเล่น Facebook กันอยู่
ถ้าเห็นชื่อแปลกๆ ก็รับ Add ด้วยคนนะคร๊าบบ อิอิ -
น้องกร สวัสดีวันพระจ้ะ
-
ยู้ฮู อรุณสวสัดิ์ค่ะพี่เพชร
วันพระแล้ว สดใสอีกครั้งยู้ฮูๆๆๆๆๆๆๆ(deejai)
หน้า 201 ของ 294