โอ้โห คำถามตอบยากนะเนี่ย ขออัญเชิญคำถาม ไปถาม คุณหลวง คุณพระ ท้าวพระยาท่านก่อนจะดีไม๊พี่ อิอิ
ศูนย์รวมลูกหลานพญานาคศรีสัตตนาคราช
ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย พระยาเดโชชัยมือศึก, 22 มิถุนายน 2010.
หน้า 212 ของ 294
-
ส่วนมากเป็นลูก เป็นน้องชายบ้าง บางชาติที่ลงมารบ อิอิ ถ้าหมายถึงแม่ศรีของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ถ้าท่านย่าพระอินทร์ พี่เป็นลูกท่าน
ถ้าแม่ศรีปทุมา ก็เคยเป็นลูกท่าน สมัยขุนบรม(พีล่อโก๊ะหรือผีล่อเก๋อ) ยุคน่านเจ้า
โม้อีกแล้วเรา 555 -
ก๊ากกก นึกว่าจะไม่ยอมตอบ เล่นเอาคนทั้งกระทู้กลั้นใจไปหมดเลยนะเนี่ย อิอิ น้องเทียนทำน่าหวาดเสียวมากๆ
-
ต้องทำใจด้วยนะ ขอให้คิดว่า พี่ครูนึกไปเอง อิอิ บางทีทักมากๆ มันเข้าตัว มันจะเหนื่อย ช่วงนี้เพิ่งฟื้น อิอิ
-
กว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ..........
-
ผ่านมาเกือบทุกบทบาท เว้น พระพุทธเจ้า และ พระอรหันต์ ที่ยังไม่เคยเป็น นอกนั้น คงได้ผ่านมาหมด เปรต อสูรกาย กษัตริย์ นักรบ ฟาโรห์ ฮ่องเต้
ตอนนี้ถึงได้เป็นพระเจ้าตาของบางคนได้ เพราะ เหตุผลนี้ พระฤาษีชื่ออะไร จำไม่ได้ ต้องรออขิทโร มาเล่า ให้ฟัง ดันหายไปเลย อิอิ -
บางที เราก็ต้องมั่นใจในความดีของเราบ้าง แต่จะพูดอะไรก็ต้องดูกาลเทศะ ยิ่งในยุคนี้ เป็นยุคที่มีกฎหมายบ้านเมือง เราจะพูดอะไรที่กระทบ สถาบันไม่ได้ ก็เลยไม่เล่าดีกว่า ในบางเรื่องที่มันใกล้ๆ เดี๊ยวโดนข้อหา คล้ายๆพงษ์พัฒน์โดนเรียกสอบปากคำ อิอิ
-
มาบอกบุญให้พี่ๆน้องๆได้ร่วมอนุโมทนากันค่ะ
เนื่องจากตอนนี้หลวงปู่เจิมท่านได้อาพาธอยู่ที่ร.พ. ศิริราชค่ะ
เมื่อเช้าปราญฯจึงซื้อน้ำยาซักผ้าไปถวายเพื่อจะได้นำไปใช้ซักจีวรท่านค่ะ
แล้วก็ได้ซื้อยานัตถุ์ 5 ขวด ยาหอม 2 หลอด ไปถวายพระคุณเจ้าที่ดูแลหลวงปู่เจิมด้วยค่ะ
แล้วก็นำเงินหยอดตู้ลิ้นชักไป 20 บาทค่ะ
ร่วมอนุโมทนาบุญนี้ด้วยกันนะคะ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ประวัติหลวงปู่พระมหาเจิม ปญฺญาพโล
สำหรับชาติภูมิหลวงปู่มหาเจิม ชื่อเดิม เจิม วรรณโมฬี เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๕๙ ตรงกับแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ณ บ้านหนองแหน ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา บิดาชื่อ นายหรุ่น วรรณโมฬี มารดาชื่อ นางม้วน วรรณโมฬี มีพี่น้อง ๖ คน ทุกคนเสียชีวิตหมดแล้ว
บรรพชาที่วัดแสนภุมมาวาส กับหลวงพ่อทอง ต่อมาได้ญัตติเป็นธรรมยุต กับเจ้าคุณอุบาลี คุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส กทม. อุปสมบท ณ วัดบรมนิวาส โดยมี พระพรหมมุนี (ติสฺโส อ้วน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพินิจ วิหารการ (ขำ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรดำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลวงปู่มหาเจิม เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู่เจิมท่านเคร่งครัด ในธรรมวินัย เป็นที่สุด พูดน้อย พูดแต่ความจริง ไม่พูดเล่น เป็นผู้รักสันโดษ ไม่ยินดีในลาภยศ สรรเสริญ ท่านสละ ไม่ยอมรับแม้ตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด ลูกศิษย์ถามว่า ทำไมหลวงปู่ไม่ไปอยู่ภาคอีสาน จะได้โด่งดังเหมือนกับพระคณาจารย์อื่นๆ ท่านตอบว่า เราไม่อยากดัง มาอยู่ตรงนี้ก็ดีแล้ว จะได้ใช้กรรมให้หมดไป
ประวัติที่ 2 ของหลวงปู่
ชีวประวัติหลวงปู่มหาเจิม ปญฺญาพโล
หลวงปู่มหาเจิม นามเดิม เจิม วรรณโมฬี เกิดที่บ้านหนองแหน ต.เมืองใหม่ อ.พนมสารคาม(ปัจจุบันเป็น อ.ราชสาสน์) จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๙ ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง บิดามีนามว่า นายหรุ่น วรรณโมฬี มารดามีนามว่า นางม้วน วรรณโมฬี มีพี่น้องทั้งหมด ๖ คน เป็นผู้ชาย ๔ คน ผู้หญิง ๒ คน ได้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด ๕ คน ที่มีชีวิตอยู่ปัจจุบันเหลือหลวงปู่เพียงองค์เดียว
การศึกษาของหลวงปู่ในวัยเด็กต้องศึกษากับวัดที่อยู่ใกล้บ้าน โดยเรียนหนังสือมูลบทบรรพกิจของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น เพราะยังไม่มีโรงเรียนประชาบาลตั้งอยู่ในวัดสมัยนั้น และยังต้องย้ายออกจากบ้าน ห่างจากบิดามารดาและญาติพี่น้องมาอยู่ที่วัดตั้งแต่อายุประมาณ ๘ ขวบ
หลวงปู่ได้บรรพชาเป็นสามเฌร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ อายุได้ ๑๒ ขวบ กับหลวงพ่อทองซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแสนภุมมาวาส และได้อยู่กับท่าน ๑ พรรษา ในปี พ.ศ. ๒๔๗๑ หลวงปู่ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ และมาอยู่ที่วัดบรมนิวาส ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยคุณย่าอิ่ม รัดสกุล เป็นผู้นำมาฝากฝังกับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) และได้ญัตติเป็นธรรมยุต กับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อีกด้วย
การศึกษาบาลีและนักธรรม ได้เริ่มศึกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๑ หลวงปู่สอบบาลีไวยากรณ์ได้ที่ ๔ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ และ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ สอบได้นักธรรมเอก และหลวงปู่ยังสามารถสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค ได้ในปีเดียวกัน
เมื่อหลวงปู่อายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ณ พระอุโบสถวัดบรมนิวาส โดยมีพระพรหมมุนี (ติสฺโส อ้วน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพินิจ วิหารการ (ขำ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรดำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ หลวงปู่ได้ออกปฏิบัติ โดยเดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือ ได้จำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ๑ พรรษา
ปี พ.ศ. ๒๔๘๒-พ.ศ. ๒๔๘๗ จำพรรษาที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ จำพรรษาที่วัดทิพย์วนาราม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้กลับมาจำพรรษาที่ วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อีกครั้ง
ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ลงมาอยู่ภาคกลาง ได้ลงไปจำพรรษาที่อ่าวยาง จ.จันทบุรี เพียงรูปเดียว
ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้ไปจำพรรษาที่อ่าวหมู กับ พระอาจารย์น้อย เกตุโร อยู่ ๑ พรรษา และได้เดินทางลงไปจำพรรษาที่ปักษ์ใต้ โดยได้ไปอยู่กับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (พระราชนิโรธรังสีคัมคีร์ปัญญาวิศิษฏ์) ที่จังหวัดภูเก็ต
ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ จำพรรษาที่อ่าวลึก จ.กระบี่ กับอาจารย์พรหมมา
ปี พ.ศ. ๒๔๙๖-พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้อยูจำพรรษาที่คลองช่องลม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ กลับมาจำพรรษาที่วัดแสนภุมมาวาส อันเป็นบ้านเกิด เพื่อเยี่ยมโปรดโยมบิดา โยมมารดา
ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ กลับลงไปภาวนาที่ภาคใต้อีกครั้ง โดยจำพรราที่อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้ ๑ พรรษา
ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จำพรรษาที่วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย กับหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ (พระสุธรรมคณาจารย์)
ปี พ.ศ. ๒๕๐๔-พ.ศ. ๒๕๐๗ จำพรรษาที่วัดเขาแก้ว จ.จันทบุรี
ปี พ.ศ. ๒๕๐๘-พ.ศ. ๒๕๑๗ จำพรรษาที่วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี
ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ กลับไปวัดเขาช่องลม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่อีกครั้ง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๙-พ.ศ. ๒๕๓๑ และในระหว่างนั้นหลวงปู่ได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกระบี่ และ พังงา
ต่อมาท่านได้มาอยู่ที่มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซอยจรัลสนิทวงค์ ๓๗ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เพื่อรักษาอาการอาพาธ และมาพักอยู่กับหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท (พระครูสุทธิธรรมรังษี) ที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ปี พ.ศ. ๒๕๓๓-ปัจจุบัน หลวงปู่ได้รับอารธนานิมนต์มาเป็นประธานสงฆ์ วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งเดิมมีพื้นที่เป็นป่าช้าเก่า</TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอบคุณที่มา ลานธรรมจักร -
หันหลังไปแปป ยาวเชียวนะครับ จามไม่หยุด ขอบใจจ้าที่ชม แปลไทยเป็นไทยอีกที 555555
ขอบใจจ้าปราญหน้าที่เธฮคือแปลภาษาไทยให้เป็นไทย ใช่ซี้ .....
กราบพี่ครูที่หายดีครับ ช่วงนี้ผมปวดหัวใจแทน ทั้งๆที่ไม่มีคนมานั่ง
....อ้ววกกก 5555
ปวดจริงๆไม่ได้โม้ เครียดจัด 5555
สีแดง สี ฟ้า สีน้เงินชมพู
สรุปตาบอดสี 55555555
งอนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไหนใครอยากรูอีก
อิอิอิอิ
ช่วงเอาคืน 555แหย่
เค้ารูกันแล้ว ว่าเราไม่มีใครคบ
โสดสนิด......... เงียบกริป 5555
หน้าตาดีขนาดนี้ไม่มีคนมอง ...อ้วววกก
กราบพี่ครูครับ จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ผมเข้าใจในแบบของผมกำกึ่งๆอยู่สองแบบเวลานึกถึงพี่ พ่อกับเจ้านาย ... 5555 เลยทำตัวไม่ถูก55555
กราบขออภัยพี่ครูครับ
ไม่นานแล้วครับพี่ครู ผมกราบกรานล่วงหน้าครับ ฮือๆจะร้องไห้555(บ้า) -
-
ที่เห็นคือบารมีหลวงปู่คุมมาหน่ะ พี่ครูไม่มีบารมี พี่ครูต้องขอบารมีพระตลอดเวลา
-
แล้วผมหล่ะ ๆ ????? พี่ครูช่วยด้วย
-
ฮิ้ว จิ๊กซอมาอีกสองตัว ไม่ดูจิตตัวเองแต่ไปยุ่งกับพี่ครู 555 ขออภัยด้วยครับ
-
สิงหนวัติ said: ↑แล้วผมหล่ะ ๆ ????? พี่ครูช่วยด้วยClick to expand...
แฮ่ แกล้งเด็ก รอดยาก มาให้แกล้งซะดีๆ5555 -
น้องเทียนเด็กแต่อายุนะคุณหลวง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน กร๊ากก
-
เพราะพี่พอจะเข้าใจว่า ตัวสิงหวัติ ยังขาดความั่นใจว่าตนเอง เป็นใคร จะเป็นหรือไม่เป็นคงไม่ใช่ประเด็นหลักเพราะชาตินั้นได้ผ่านมาแล้ว แต่การที่เราชอบพระนามนี้ แสดงว่าอย่างน้อยเราคงมีความผูกพันธ์และเกี่ยวข้องมาบ้าง ประเด็นนี้ ก็ต้องรอคำตอบจากครูอาจารย์ในวาระต่อไป ซึ่งพี่เชื่อว่าสักวันจะมีคนมาเล่าให้เราหายข้องใจเอง อิอิ
-
แล้วคุณน้องเพชรไม่มีเฟสบุคเหรอ ยังไม่เห็นเลย ดันไปเจอรูปคนหนึ่ง คล้ายๆแต่ดันไม่ใช่ อิอิ
-
ยายเค้าสวยเกินครับ ไม่กล้าเอาลงเยอะเพราะแฟนหวง 555
ฝู.... เกรียม อิอิอิ
หน้า 212 ของ 294