สงเคราะห์เพื่อนบ้าน
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
พระราชสุธี (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร watdevaraj@hotmail.com
สงเคราะห์ หมายถึง การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มี 2 ชนิด คือ สงเคราะห์ด้วยอามิสและ สงเคราะห์ด้วยธรรม
การสงเคราะห์ด้วยอามิส ช่วยเหลือด้วยอาหาร เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค หรือทรัพย์สินเงินทองในเมื่อเพื่อนบ้านขัดสน อันเกิดแต่ข้าวยากหมากแพง บ้านถูกไฟไหม้ ประสบภัยน้ำท่วม หรือถูกโรคภัยเบียดเบียน ไม่สามารถทำการงานได้ ซึ่งบ่ายหน้ามาหา ไม่ทำนิ่งเฉยดูถูกเหยียดหยาม แต่ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลตามฐานะ เพื่อให้เขาคลายทุกข์มีความสุขได้บ้าง
ส่วน การสงเคราะห์ด้วยธรรม แนะนำพร่ำสอนให้เขารู้จักบาปบุญคุณโทษ ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ พยายามป้องกันมิให้เพื่อนบ้านประพฤติผิด เมื่อเพื่อนบ้านถลำตัวเข้าไปอยู่ในทางแห่งความผิดก็พยายามแก้ไข ถ้าสามารถจะทำได้ ก็นำเขาออกจากทางแห่งความผิดนั้นเสีย เมื่อเพื่อนบ้านเดินอยู่ในทางที่เรียบร้อยคือถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ก็ยินดีส่งเสริมให้กำลังใจ
การสงเคราะห์ผู้อื่น ก็เพื่อผูกใจของผู้ได้รับการช่วยเหลือให้คิดถึง นึกถึง พระพุทธเจ้าทรงแนะให้ยึดหลักธรรม 4 ข้อ คือ
ทาน อุดหนุนจุนเจือ สงเคราะห์ ช่วยเหลือด้วยทรัพย์หรือวัตถุสิ่งของ เช่น ปัจจัย 4 เป็นต้น ผู้มีอัธยาศัยกว้างขวาง ไม่คับแคบ สงเคราะห์อนุเคราะห์แก่ผู้ควรสงเคราะห์ มีใจประกอบด้วยเมตตาเช่นนี้ หรือผู้ที่เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ มีจิตใจเอื้อเฟื้อแก่มหาชน เช่น สร้างถนน ขุดคลอง ทำสะพาน เป็นสาธารณะแก่ส่วนรวมเช่นนี้ ย่อมได้รับความรักเคารพนับถือ สมานไมตรีไว้ทุกชั้น ดังคำว่า "ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้"
ปิยวาจา เจรจาวาจาที่ไพเราะอ่อนหวาน ย่อมเป็นที่พอใจของชนทุกชั้น เพราะเป็นคำพูดจับใจ ชวนให้ฟัง ให้เกิดอุตสาหพยายามทำการงานและสมานไมตรี แม้ผู้เป็นนายจ้าง ถ้าเป็นผู้รู้จักพูดเอาใจลูกน้องให้ทำการงานหนักๆ หรือยากลำบาก ก็ประสบความสำเร็จได้ด้วยความชื่นบานของเขา และสมความประสงค์ของตน ดังคำว่า "เปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ"
อัตถจริยา ประพฤติสิ่งเป็นประโยชน์แก่กัน งดเว้นสิ่งที่เป็นโทษ อันทำให้เกิดความเสียหาย ไม่ก่อเรื่องให้ผู้อื่นต้องเสียหาย เช่น ในเรื่องของชื่อเสียง หรือทรัพย์สมบัติ ผู้ที่ไม่ทำให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อนเสียหาย จะโดยทางตรงหรือทางอ้อมเช่นนี้ ย่อมได้รับความเคารพนับถือจากผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นเห็นอกเห็นใจ
สมานัตตตา เป็นผู้ประพฤติตนเสมอต้นเสมอปลาย เคยเคารพนับถือกันมาอย่างใด ก็ดำรงตนให้เป็นปกติอย่างนั้น เคยช่วยเหลือกันมาอย่างใด ก็ช่วยเหลือกันอย่างนั้น ไม่ดูถูก เหยียดหยามในเมื่อฝ่ายหนึ่งต่ำต้อยกว่าตน ไม่ว่าจะด้วยตำแหน่งหน้าที่ หรือทรัพย์สินเงินทอง
ผู้มีคุณธรรม 4 ประการดังกล่าวมานี้ ชื่อว่าสามารถผูกใจผู้อื่นไว้ได้และได้รับอานิสงส์ เช่น มีเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจผู้อื่นไว้, ได้บุญ, ทำให้สนิทสนมคุ้นเคยกัน, ทำให้สามัคคีปรองดองกัน, ให้ได้รับความจงรักภักดีจากผู้อื่น, ไม่มีเวร ไม่มีภัย, ทำให้เป็นอุปนิสัยแก่ทาน ศีล ภาวนา ฯลฯ
ใครอยากมีเพื่อนบ้านมากๆ เป็นที่รักของเพื่อนบ้าน ต้องโอบอ้อมอารี วจีไพเราะ สงเคราะห์ชุมชน วางตนให้พอดี
http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdOeTB5Tmc9PQ==
สงเคราะห์เพื่อนบ้าน
ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 26 กรกฎาคม 2008.
-
-
ใครอยากมีเพื่อนบ้านมากๆ เป็นที่รักของเพื่อนบ้าน ต้องโอบอ้อมอารี วจีไพเราะ สงเคราะห์ชุมชน วางตนให้พอดี
ขออนุโมทนาค่ะ เป็นสัจธรรมและทำได้ในชีวิตจริง -
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก ทำบุญไม่ใช่ทำกันแค่ในวัดนะครับ ลองแบ่งไปทำให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันบ้างก็ได้ เช่นโรงบาลสงฆ์ สถานสงเคราะ เด็ก คนชรา ผู้ป่วยต่างๆ นั่นก็ได้มหากุศลครับการช่วยเพื่อนมนุษย์ก็เป็นสุดยอดบุญเหมือนกันนะครับ
-
โมทนาสาธุบุญจ้า อยากได้อะไรจากใครเราต้องให้เค้าก่อน สาธุๆ
-
บ้านของติงตั้งอยู่โดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อนบ้านข้างเคียงเลยค่ะ
อนุโลมเป็นเพื่อนร่วมงานนะคะ